Super God Gene 2040-2053
ตอนที่ 2040
ซิวซือ
หานเซิ่นสังเกตเห็นดราก้อนฟิฟทีนและสาวใช้ ดังนั้นเขาจึงพยายามเก็บพลังที่แท้จริงเอาไว้
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำราวดังมาจากท้องทะละ เต่าหนามแหลมตัวหนึ่งที่ใหญ่โตราวกับรถถังเดินขึ้นมาบนฝั่ง
หลงซานสามารถรับมือกับเต่าหนามแหลมระดับมาร์ควิสตัวหนึ่งได้ แต่คนอื่นๆไม่มีใครแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับเต่าระดับมาร์ควิสอีกตัวได้
เมื่อเต่าหนามแหลมระดับมาร์ควิสอีกตัวมาถึงเกาะ มันก็รีบตรงเข้าไปทางภูเขา สีหน้าของหลงหลานดูซีดไป มันไม่มีใครจะหยุดเต่าหนามแหลมระดับมาร์ควิสตัวนั้นได้
หานเซิ่นขมวดคิ้ว ดราก้อนทั้ง 2 ที่อยู่กลางทะเลยังไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจตระกูลของหลงซานเลยแม้แต่นิดเดียว
หานเซิ่นรู้ว่าความสามารถของเขาถูกเปิดโปงเรียบร้อยแล้ว เพราะดราก้อนหนุ่มจ้องมองมาที่เขาตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังอีกต่อไป
หานเซิ่นอยู่กับตระกูลของหลงซานมากว่า 2 อาทิตย์ ซึ่งตลอด 2 อาทิตย์พวกเขาก็ดูแลหานเซิ่นเป็นอย่างดี ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป เขาตรงเข้าไปปะทะกับเต่าหนามแหลมระดับมาร์ควิสที่ขึ้นมาบนฝั่ง
หลงหลานใช้ตัวเองเป็นโล่ปกป้องให้เด็กๆ เธอดูสิ้นหวัง แต่ทันใดนั้นก็มีแสงหยกส่องสว่างลงมาบนตัวของเต่าหนามแหลม ทำให้เจ้าเต่าเชื่องช้าลงไป จากนั้นก็มีเงาของใครบางคนปรากฏขึ้นและกระหน่ำชกหมัดใส่เต่าหนามแหลมราวกับลูกอุกกาบาต
“ซานมู่!” หลงเหยียนตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
หลังจากที่หานเซิ่นจัดการกับเต่าหนามแหลมระดับมาร์ควิสได้แล้ว เขาก็ไปชกใส่เต่าหนามแหลมตัวอื่นๆ และทำให้พวกมันช้าลงเช่นกัน
เต่าหนามแหลมทุกตัว รวมถึงเต่าระดับมาร์ควิสที่หลงซานกำลังต่อสู้อยู่เคลื่อนไหวช้าลงไปด้วยหมัดของหานเซิ่น และมันเป็นครั้งแรกในการสู้ที่หลงซานกลายเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
ตระกูลของหลงซานทุกคนรู้สึกดีใจ แต่พวกเขายังจำเป็นต้องใช้สมาธิไปกับการฆ่าพวกเต่าหนามแหลม
ดราก้อนหญิงสาวบนใบไม้สังเกตเห็นถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่น เธอขมวดคิ้ว “คริสตัลไลเซอร์คนนั้นมีวิชาจีโนที่แปลกประหลาดจริงๆ นั่นเป็นวิชาลดความเร็วที่ทรงพลังมากๆ”
“มันไม่ใช่แค่วิชาลดความเร็วเท่านั้นที่สุดยอด” ดราก้อนฟิฟทีนพูด
ดราก้อนหญิงสาวกำลังจะตอบกลับ แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นใบไม้สีเขียวอีกใบลอยเข้ามา บนใบไม้สีเขียวมีคนที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์และท่อนล่างเป็นงูยืนอยู่ เธอเป็นหนึ่งในชาวกาน่า
ใบไม้เคลื่อนที่เข้ามาด้วยตัวของมันเอง และมันก็มาหยุดอยู่ข้างๆใบไม้ของดราก้อนฟิฟทีน
“ซิวซือ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในทะเลโบราณหวนคืนได้?” ดราก้อนฟิฟทีนหันไปพูดกับกาน่าหญิงคนนั้น
ซิวซือยิ้มและพูด “เจ้าไม่อยากจะพบกับข้าหรือยังไง?”
ดราก้อนฟิฟทีนหัวเราะและพูด “ข้าแค่ล้อเล่น การได้พบกับเจ้าถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ไม่ใช่ว่าเจ้ามีธุระที่ต้องทำไปที่ปราสาทมังกรหรอกหรอ?”
ซิวซือมองไปที่การต่อสู้บนเกาะสระมังกร สายตาของเธอนั้นจ้องไปที่หานเซิ่น เธอยิ้มออกมาและพูด
“ปราสาทมังกรนั้นน่าเบื่อ ข้าเลยต้องการมาพบกับเจ้าที่นี่ แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาเห็นอะไรที่น่าสนใจ”
“เจ้าหมายความว่ายังไง?” ดราก้อนฟิฟทีนแกล้งทำเป็นประหลาดใจ
“เกาะแห่งนี้มีพลังชีวิตประหลาดอยู่ แต่ข้าบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร เต่าหนามแหลมถูกดึงดูดมาที่นี่ ดังนั้นบางสิ่งที่น่าสนใจต้องอยู่บนเกาะนั้นแน่”
ซิวซือหยุดไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “และการที่ยอดฝีมืออย่างเขามาปรากฏตัวที่นี่ นั่นต้องไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน”
ดราก้อนฟิฟทีนดูแปลกใจ “จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องแกล้งว่าไม่รู้” ซิวซือพูดอย่างอ่อนโยน
หลังจากนั้นสีหน้าของดราก้อนฟิฟทีนก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่จริงจัง
“ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าก็คาดเดาเรื่องนั้นไม่ได้จริงๆ ข้ามาที่นี่เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประหลาดภายในทะเลโบราณหวนคืน ข้าไม่ได้มาเพื่อเกาะแห่งนี้”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้ามีแผนจะทำยังไง?” ซิวซือถามพร้อมกับยิ้มออกมา
ดราก้อนฟิฟทีนพูดเสียงแข็ง “ที่นี่เป็นเขตแดนของเผ่าดราก้อน และข้าจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่อยู่นอกเหนือกฎหมายของพวกเราดำเนินต่อไป”
ซิวซือยิ้ม มันฟังดูเหมือนว่าเขากำลังพูดถึงหานเซิ่น แต่มันก็เป็นคำเตือนสำหรับเธอเช่นเดียวกัน
บนเกาะสระมังกร หานเซิ่นฆ่าเต่าหนามแหลมระดับมาร์ควิสทั้ง 2 ตัว ส่วนหลงซานและคนอื่นๆฆ่าเต่าหนามแหลมตัวอื่น โชคดีที่มีหานเซิ่นอยู่ที่นี่ด้วย ไม่อย่างนั้นทุกคนบนเกาะนี้ก็คงจะถูกกินโดยพวกเต่าหนามแหลมไปแล้ว
หลังจากที่หานเซิ่นฆ่าเต่าหนามแหลมไปอีกตัว เขาก็เริ่มจะขมวดคิ้ว
มันมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพวกเต่า ดูเหมือนพวกเต่าจะไม่ได้มีพวกเขาเป็นเป้าหมาย เพราะเมื่อพวกมันมาถึงเกาะ พวกมันก็พยายามมุ่งตรงไปที่สระมังกร
หานเซิ่นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสระมังกรมากนัก และตั้งแต่ที่ออกมาจากท้องของเทพเจ้ามังกรได้ เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับสระมังกรอีก แต่ดูเหมือนว่าพวกเต่าหนามแหลมจะสนใจในสระมังกร พวกมันหลายๆตัวเมินเฉยต่อพวกเขาและมุ่งตรงไปที่สระน้ำในทันที
เมื่อเห็นว่าพวกเต่าหนามแหลมต้องการจะมุ่งหน้าไปที่สระมังกร หานเซิ่นก็คิด ‘ถึงแม้เทพเจ้ามังกรจะไปแล้ว แต่ร่องรอยของมันก็ยังคงเหลืออยู่ ทำไมพวกเต่าระดับต่ำถึงต้องการไปที่นั่นกัน?’
ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดนั้นก็มีคลื่นยักษ์ซัดเข้ามาจากทะเล มีเต่าหนามแหลมตัวใหญ่ออกมาจากคลื่นนั้น ร่างกายของมันเป็นเหมือนกับปราสาท และหนามบนหลังของมันก็เป็นเหมือนกับปืนใหญ่สมัยโบราณ เพียงแค่ได้เห็นมันก็เป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว
“นั่นมัน… เต่าหนามแหลมระดับดยุกอย่างนั้นหรอ?” พวกหลงซานอึ้งไป นี่มันเลวร้ายกว่าที่พวกเขาคาดคิด
“พวกเรารีบหนีไปที่ชายหาดทางทิศตะวันตก!” หานเซิ่นตะโกนบอกหลงซานและคนอื่นๆ หลังจากนั้นเขาก็ใช้วิชาเต่าเพื่อชะลอความเร็วของเต่าหนามแหลมระดับเอิร์ลตัวอื่นๆ
หลงซานและคนอื่นๆตามหานเซิ่นไปที่ชายหาดทิศตะวันตก
ตอนที่ 2041
เข้าไปในสระมังกรอีกครั้ง
ด้วยการนำทางของหานเซิ่น ตระกูลของหลงซานก็มาถึงชายหาดทิศตะวันตกได้อย่างปลอดภัย
การสันนิษฐานของหานเซิ่นนั้นถูก เมื่อพวกเขาเดินทางออกห่างจากพวกมัน พวกเต่าก็ไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป ตอนนี้พวกมันมุ่งหน้าตรงไปที่สระมังกรแทน
หานเซิ่นพยายามนำทางคนอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงเต่าหนามแหลมระดับดยุก แต่พวกมันก็ปรากฏออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายพวกเขาก็เผชิญหน้ากับหนึ่งในพวกมัน
หนามแหลมบนหลังของเจ้าเต่านั้นเรืองแสงและพ่นควันสีดำออกมา หลังจากนั้นมันก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาพร้อมกับยิงลำแสงออกมาจากหนามแหลม ราวกับว่ามันเป็นปืนใหญ่จริงๆ
หานเซิ่นกระโดดหลบและชกใส่เจ้าเต่ายักษ์เพื่อดึงความสนใจของมัน ตัวของมันใหญ่เกินกว่าที่จะหลบหมัดของเขาได้ แต่พลังของหานเซิ่นไม่สามารถทำลายกระดองของมันได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ล่อให้มันออกห่างจากคนอื่นๆ
แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ถ้ามันยังมีเต่ายักษ์ระดับดยุกปรากฏตัวออกมาอีกล่ะก็ หานเซิ่นก็จะไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยพวกเขาได้
พวกเต่าหนามแหลมยังคงหลั่งไหลขึ้นมาจากทะเลเรื่อยๆ แต่เต่ายักษ์ตัวต่อไปที่มาถึงนั้นแตกต่างออกไป บนหัวของมันมีเต่าอีกตัวหนึ่งที่มีขนาดพอๆกับจานข้าวอยู่ ซึ่งมันดูต่างออกไป โดยปกติแล้วหนามบนหลังของพวกเต่าจะแหลมๆเหมือนกับตัวเม่น แต่เจ้าเต่าตัวที่พอๆกับจานข้าวนี้กับเป็นรูปทรงเหมือนกับเพชร แถมกระดอกของมันยังดูแวววาวราบกับว่าทำขึ้นมาจากเพชรสีดำ และไม่ว่ามันจะไปทางไหน เต่าตัวอื่นก็ต้องหลีกทางให้กับมัน แม้แต่เต่าหนามแหลมระดับดยุกก็ไม่เว้น
“มันมีเต่าหนามแหลมระดับราชันอยู่ในทะเลโบราณหวนคืนได้ยังไงกัน?” ดราก้อนหญิงสาวตกตะลึง
ดราก้อนฟิฟทีนและซิวซือเองก็ดูตกใจเช่นกัน พวกเขาเคยเห็นซีโน่เจเนอิคระดับราชันมาก่อน แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาเห็นมันที่นี่ มันหาได้ยากมากที่พวกซีโน่เจเนอิคชั้นต่ำจะมีระดับราชันอยู่ในฝูงด้วย เพราะโดยปกติแล้วมันยากที่ซีโน่เจเนอิคชั้นต่ำจะวิวัฒนาการได้
มันเป็นเหมือนการที่แมววิวัฒนาการกลายเป็นเสือ การวิวัฒนาการแบบนั้นถือเป็นอะไรที่หาได้ยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้
เต่าหลานแหลมทั้งหลายพากันมุ่งหน้าไปที่สระมังกร ซึ่งสระมังกรนั้นไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไป และแค่เจ้าเต่ายักษ์ระดับดยุกเพียงตัวเดียวก็เต็มสระน้ำแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อพวกเต่ายักษ์ลงไปในน้ำ ระดับน้ำของสระก็ไม่เพิ่มขึ้น มันเหมือนกับว่าสระมังกรเป็นสระน้ำที่ไร้ก้น
เต่ากระดอกเพชรส่งเสียงร้องออกมาเพื่อบอกให้เต่าตัวอื่นรีบลงไปในสระให้เร็วกว่านี้ นั่นทำให้เต่าหนามแหลมยักษ์ที่ต่อสู้กับหานเซิ่นอยู่รีบมุ่งหน้าไปที่สระน้ำ
หลงซานเองก็สูญเสียคู่ต่อสู้ของเขาไปเช่นกัน เสียงกรีดร้องของเต่ากระดอกเพชรทำให้เต่าทุกตัวรีบร้อนไปที่สระน้ำ และถึงหลงซานจะพยายามโจมตีใส่พวกมันอีกครั้ง พวกมันก็เมินเฉยต่อเขา
“พวกเต่าต้องการสังเวยตัวเองให้กับเทพเจ้ามังกรอย่างนั้นหรอ?” หลงเหยียนถามด้วยความสงสัย
หลงซานไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาไม่สามารถตอบได้
พวกเขารู้แค่ว่าในบางครั้งเทพเจ้ามังกรจะปรากฏตัวในสระมังกร แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นมาจากไหนกันแน่ และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าที่ก้นบึ้งของสระมีอะไรอยู่เช่นกัน
“เด็กน้อย เจ้าจะช่วยบอกพี่สาวเกี่ยวกับเทพเจ้ามังกรที่พูดถึงหน่อยได้ไหม?” เสียงอันอ่อนหวานของผู้หญิงถามขึ้นมา
หลงซานหันไปและเห็นผู้หญิงที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์และท่อนล่างเป็นงู หญิงชาวกาน่าคนนั้นยืนอยู่ข้างๆหลงเหยียน เธอยิ้มออกมาขณะที่ลูบหัวของเขา
หลงซานเป็นถึงมาร์ควิส แต่ขาก็ไม่รู้ตัวว่าเธอมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หลงซานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นผู้ชายและผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามา พวกเขามีเขาและปีกของมังกร ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นดราก้อนเลือดบริสุทธิ์
หลงซานและคนอื่นไม่เคยพบกับดราก้อนฟิฟทีนมาก่อน แต่พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นสมาชิกเลือดบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์ดราด้อน ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงรีบโค้งคำนับ
ดราก้อนฟิฟทีนทำท่าทางบอกให้พวกเขาเงยขึ้นและถาม
“เทพเจ้ามังกรที่เขาเพิ่งจะพูดถึงคืออะไรกัน?”
หลงซานบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องราวของเทพเจ้ามังกร เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ดราก้อนฟิฟทีนก็ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเขาถามขึ้นมา
“เทพเจ้ามังกรนั่นได้ทิ้งเกล็ดมังกรเอาไว้ไหม?”
“เรียนนายท่าน ในครั้งนี้พวกเราไม่มีเครื่องสังเวยเพียงพอ ด้วยเหตุนั้นเทพเจ้ามังกรจึงไม่ได้มอบเกล็ดมังกรให้กับพวกเรา และยิ่งกว่านั้นพวกเราได้ใช้เกล็ดมังกรที่มันมอบให้ในครั้งก่อนไปแล้ว”
หลงซานพูดด้วยเสียงที่หวาดกลัว เขากังวลว่าดราก้อนฟิฟทีนอาจจะเอาผิดกับเขา
ดราก้อนฟิฟทีนขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้นเขาก็หันมามองที่หานเซิ่นและถาม
“เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่?”
“ข้าถูกเทพเจ้ามังกรพามาที่นี่” หานเซิ่นบอกเรื่องราวที่เขาแต่งขึ้นมากับหลงซานและคนอื่นๆ
แต่ดราก้อนฟิฟทีนไม่เชื่อเขา เขาหันไปมองที่หลงซาน
หลงซานรีบพูดขึ้นมา “ซานมู่นั้นโผล่ขึ้นมาจากสระมังกรพร้อมกับเทพเจ้ามังกรจริงๆ”
“ถ้าเจ้าขึ้นมาจากสระมังกรพร้อมกับเทพเจ้ามังกรจริงๆ เจ้าก็คงจะพาพวกเราลงไปได้สินะ”
ดราก้อนฟิฟทีนพูดขณะที่มองไปทางสระมังกร ตอนนี้พวกเต่าหนามแหลมหายเข้าไปข้างในเกือบหมดแล้ว
สระน้ำดูไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่มันสามารถรับเต่าหนามแหลมจำมากเข้าไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่เต่าตัวสุดท้ายลงไปในสระ ผิวน้ำก็สงบนิ่งไป
“เทพเจ้ามังกรพาข้ามาที่นี่ แต่ในตอนที่ข้ารู้สึกตัว ข้าก็พ้นผิวน้ำแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสระมังกร” หานเซิ่นพูด
“ตอนนี้เจ้าอยู่ในทะเลโบราณหวนคืน ดังนั้นเจ้าต้องทำตามที่ข้าสั่งถ้าเจ้าอยากจะออกไปจากที่นี่” ดราก้อนฟิฟทีนพูดอย่างใจเย็น แต่คำพูดของเขาเหมือนกับเป็นคำขู่
“ถ้าข้าพาพวกเจ้าลงไปข้างล่างนั่น เจ้าจะพาข้าไปจากที่นี่ใช่ไหม?” หานเซิ่นถามดราก้อนฟิฟทีน
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของเจ้า” ดราก้อนฟิฟทีนพูด
หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะตอบตกลง
“ซิวซือ เจ้าจะลงไปในสระด้วยไหม?” ดราก้อนฟิฟทีนหันไปถามซิวซือ
“นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยาก ถ้าเจ้าไม่ปฏิเสธ ข้าก็อยากจะเห็นข้างในสระน้ำนี่” ซิวซือดูดีใจ
ดราก้อนฟิฟทีนไม่พูดอะไรอีก เขาอนุญาตให้หานเซิ่นนำทางพวกเขาลงไปในสระน้ำ
ตอนที่ 2042
โบราณสถานที่ก้นสระ
ในตอนที่หานเซิ่นอาศัยอยู่ในสหพันธ์ เขาเคยฝึกต่อสู้ในน้ำมาก่อน และหลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้เวลาอยู่ในทะเลสาบความฝันหลายเดือน นั่นทำให้ความสามารถในการต่อสู้ใต้น้ำของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และในตอนนี้เขาก็เชี่ยวชาญถึงขนาดที่สามารถว่ายในน้ำได้อย่างง่ายดายถึงแขนขาของเขาจะถูกหมัดอยู่ก็ตาม
หลังจากที่เต่าหนามแหลมตัวสุดท้ายหายลงไปในสระมังกร หานเซิ่นก็กระโดดตามพวกมันลงไป และพวกดราก้อนฟิฟทีนก็กระโดดตามหานเซิ่นลงไป
หานเซิ่นแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่ถนัดการเคลื่อนไหวในน้ำ เขาหันไปมองดราก้อนฟิฟทีนกับหลงอิ๋งและสังเกตว่าทั้ง 2 เคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างสบายๆ ราวกับว่าพวกเขายังคงอยู่บนบก ส่วนซิวซือว่ายตามพวกเขามาจากด้านหลัง
‘ดราก้อนเลือดบริสุทธิ์นี่แข็งแกร่งจริงๆ’ หานเซิ่นคิด
‘ดราก้อนฟิฟทีนและซิวซือเป็นระดับมาร์ควิสทั้งคู่ ดังนั้นดราก้อนฟิฟทีนก็น่าแข็งแกร่งกว่าดราก้อนเธอร์ทีน ส่วนหลงอิ๋งนั่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขาทั้งคู่ซะอีก เธอจะต้องเป็นระดับดยุกอย่างแน่นอน’
เมื่อมองจากภายนอก สระน้ำดูเหมือนจะไม่ได้กว้างใหญ่อะไรมาก แต่มันเป็นเหมือนกับถ้วยที่คว่ำอยู่ ยิ่งพวกเขาดำลงไปลึกเท่าไรบริเวณรอบๆก็เปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นสามารถมองเห็นเต่าหนามแหลมหลายตัวว่ายน้ำอยู่ข้างใต้พวกเขา ข้างล่างแม้แต่เต่ายักษ์ระดับดยุกก็ดูไม่ใหญ่อะไรมาก
สระแห่งนี้ลึกเกินไปทำให้หานเซิ่นไม่สามารถมองเห็นก้นของมันได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ตามหลังพวกเต่าหนามแหลมไป
ดราก้อนฟิฟทีนและซิวซือดูไม่รีบร้อน พวกเขาแค่ตามหานเซิ่นไปเรื่อยๆ พวกเขาสามารถพูดใต้น้ำได้ ดังนั้นมันไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาต้องสื่อสารกันด้วยสัญญาณมือ
ยิ่งพวกเขาดำลงไปลึกมากเท่าไหร่ มันก็มืดมนขึ้นเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อพวกเขาดำลงไปได้หมื่นเมตร มันก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นมา มันเป็นเหมือนกับแสงที่ปลายอุโมงค์
หานเซิ่นไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าแสงสว่างนั้นคืออะไรกันแน่
‘มันจะพาเรากลับไปที่ซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นสงสัย
หานเซิ่นรู้ตัวอย่างรวดเร็วว่านั่นไม่ถูกต้อง แสงนั้นไม่ได้นำไปสู่ทางออก ขณะที่พวกเขาดำลึกลงไปเรื่อย พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าแสงสว่างนั้นออกมาจากสิ่งก่อสร้างที่อยู่ที่ก้นบึ้งของสระน้ำ มันดูเหมือนกับปราสาทขนาดใหญ่
หานเซิ่นไม่รู้ว่าปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัสดุแบบไหนกันแน่ แต่มันเรืองแสงสีฟ้าออกมา มันทำให้โลกใต้น้ำส่องสว่างราวกับในเทพนิยาย
แต่ปราสาทนั้นพังทลายจนเกือบทั้งหมด มันไม่ต่างอะไรจากซากปรักหักพัง แต่ทว่าเมื่อพวกเต่าหนามแหลมเห็นมัน พวกมันก็เร่งความเร็วขึ้นอีก
หานเซิ่นมองไปรอบๆ แต่ไม่วี่แววของเทพเจ้ามังกร นั่นทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเขาจึงตามพวกเต่าหนามแหลมไปที่ปราสาทนั้น
หลังจากที่เข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นก็รู้ตัวว่าปราสาทนั้นใหญ่โตกว่าที่เขาคิดเอาไว้ในตอนแรก เขามองไปที่ปราสาทและสังเกตเห็นโต๊ะหินที่มีขนาดใหญ่มากๆ มนุษย์ผู้ใหญ่เป็นสิบๆคนสามารถนอนเรียงกันบนโต๊ะได้โดยไม่ครอบคลุมพื้นผิวทั้งหมดของโต๊ะ มันเห็นได้ชัดว่าปราสาทแห่งนี้ไม่ได้เป็นของเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือดราก้อน
ร่างกายของดราก้อนนั้นคล้ายคลึงกับมนุษย์ พวกเขาไม่มีเหตุผลที่ต้องผลิตของใช้ที่มีขนาดใหญ่โตแบบนี้ขึ้นมา
“ปราสาทนี่คืออะไร?” ดราก้อนฟิฟทีนถามหานเซิ่น
หานเซิ่นส่ายหัวและแกล้งทำเป็นว่าเขาสำลักน้ำ ขณะที่พยายามพูดออกมา หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังเพื่อกำจัดน้ำออกจากปากก่อนจะพูดขึ้นมา
“ข้าไม่รู้ ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วว่าเทพเจ้ามังกรพาข้ามาที่นี่ ดังนั้นข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี่”
ดราก้อนฟีฟทีนหยุดถาม แต่เขาบังคับให้หานเซิ่นว่ายไปพร้อมกับพวกเขา เพราะเขาคิดว่าหานเซิ่นนั้นน่าสงสัย เขาคิดว่าแบบนี้น่าจะปลอดภัยที่สุด
ซิวซือมองไปที่ปราสาทและพูดขึ้นมา “ฟีฟทีน ตำนานบอกเอาไว้ว่าแต่เดิมแล้วทะเลโบราณหวนคืนนั้นเป็นดินแดนของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล นั่นถูกต้องใช่ไหม?”
ดราก้อนฟิฟทีนขมวดคิ้ว “ในตอนที่ดราก้อนเข้ายึดครองทะเลโบราณหวนคืน พวกเราไม่ได้พบหลักฐานที่ยืนยันถึงการมีชีวิตอยู่ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ข้าจึงบอกไม่ได้ว่าตำนานเป็นความจริงหรือไม่ แต่เจ้าดูจะรู้อะไรเกี่ยวกับมัน เจ้าพอจะบอกข้าได้ไหมว่าปราสาทนี้เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลนั่นจริงๆหรือไม่?”
ซิวซือยิ้มและพูดต่อ “ตำนานบอกเอาไว้ว่าเทพเจ้าแห่งท้องทะเลนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่ทว่าพวกเขาล่มสลายไปนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้จักเกี่ยวกับพวกเขามากนัก โบราณสถานที่ถูกค้นพบก่อนหน้านี้มีขนาดเล็กและดูไม่ยิ่งใหญ่แบบนี้ แต่เมื่อดูจากสถาปัตยกรรมแล้ว ปราสาทแห่งนี้ก็ดูคล้ายคลึงกับของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่แน่นอนว่าข้าไม่ได้แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์”
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น พวกเต่าหนามแหลมก็ไปถึงปราสาท จุดประสงค์ของพวกมันชัดเชน พวกมันไม่ได้กระจายกันออกไปเพื่อหาบางสิ่งบางอย่าง แต่พวกมันมุ่งหน้าไปที่จุดๆเดียวกันราวกับลูกศร
เต่าหนามแหลมจำนวนมากหยุดอยู่หน้าซากปรักหักพังที่ดูเหมือนกับภูเขาลูกหนึ่ง เมื่อเต่าหนามแหลมยักษ์พาเต่าระดับราชันไปถึงที่หมาย เต่าราชันก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา หลังจากนั้นเต่าตัวอื่นๆก็เข้าล้อมซากปรักหักพังและเริ่มขุดค้นกองภูเขานั้น
เศษซากปรักหักพังนั้นเป็นวัสดุสีฟ้าปริศนาเหมือนกับตัวปราสาท ซึ่งไม่ว่าพวกมันจะคืออะไร พวกมันก็แข็งมากๆ เพราะแม้แต่เต่าหนามแหลมระดับดยุกก็ไม่สามารถทำลายพวกมันได้ พวกมันทำได้แต่ค่อยๆยกเศษซากวัสดุสีฟ้าพวกนั้นออกไปทีละชิ้นๆ
เต่าทุกตัวยุ่งอยู่กับการเคลื่อนย้ายก้อนหินสีฟ้าออกไป ขณะที่หานเซิ่นและคนอื่นๆหยุดดูจากระยะไกล พวกเขายังคงไม่คิดจะลงมือทำอะไร
กองทัพเต่าขุดซากปรักหักพังที่ทับถมกันอยู่ออกมาอย่างรวดเร็ว และในไม่นานก็มีบางสิ่งบางอย่างเผยออกมาให้เห็น ยิ่งหินถูกเคลื่อนย้ายออกไปมากเท่าไร วัตถุก็เผยให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
ภายใต้ซากปรักหักพังที่ทับถมกันสูงเป็นภูเขามีรูปปั้นเต่าทะเลอยู่ แต่มันเป็นเต่าทะเลที่ดูแปลกประหลาดมากๆ มันดูเหมือนเต่าที่ยืนด้วย 2 ขาและสวมชุดเกราะที่ดูแปลกประหลาด แถมในอุ้งมือแต่ละข้างของมันก็ถือค้อนอยู่
รูปปั้นนั้นสูงหลายสิบเมตร ซึ่งมันก็ถูกทำขึ้นมาจากหินสีฟ้าปริศนาเช่นเดียวกัน
ขณะหานเซิ่นสังเกตรูปปั้นอยู่นั้น เต่าทุกตัวก็หยุดเคลื่อนไหวๆ หลังจากนั้นเต่าราชันก็กรีดร้องออกมา และเต่าที่เหลือก็หมอบลงไปราวกับว่าพวกมันกำลังคำนับ
เต่าหนามแหลมระดับราชันลอยลงมาจากหัวของเต่ายักษ์และว่ายเข้าไปหารูปปั้นเต่าทะเล
“เต่าพวกนี้มีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับรูปปั้นนั้นอย่างนั้นหรอ?” หลงอิ๋งถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“นั่นอาจจะเป็นไปได้” ซิวซือพูดขณะที่จ้องไปที่รูปปั้นและเต่าราชัน
หลงอิ๋งอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เต่าราชันไปถึงรูปปั้นแล้ว และขาทั้ง 4 ของมันก็ลงไปแตะบนหมวกของรูปปั้นเต่าทะเล
ตอนที่ 2043
การต่อสู้ในสระมังกร
ในตอนนั้นเองที่หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าช่องว่างทรงกลมบนหมวกของรูปปั้นเต่าทะเล
เมื่อเต่าหนามแหลมระดับราชันลงไปเหยียบหมวกนั่น มันก็หดตัวเข้าไปในกระดองและร่วงลงไปในช่องว่างนั้นแบบพอดิบพอดี ราวกับว่ามันถูกสร้างมาเพื่อคู่กัน
กระดองเพชรสีดำของเต่าราชันเริ่มส่องแสงสว่างออกมา หลังจากนั้นทั้งรูปปั้นก็ส่องแสงสีดำออกมา รูปปั้นสีฟ้าค่อยเปลี่ยนไปเป็นสีดำ
หานเซิ่นและคนอื่นๆตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
ตูม!
รูปปั้นเต่าเดินออกมาข้างหน้า และด้วยการก้าวเท้าเพียงก้าวเดียว พื้นดินของทั้งสระน้ำก็สั่นสะเทือน มันทำให้ฝูงเต่ารอบๆถูกซัดกระเด็นออกไปด้านหลัง
“ทรงพลังอะไรอย่างนี่ นั่นมันเหนือกว่าระดับราชันซะอีก!” หลงอิ๋งตกตะลึง
ดราก้อนฟิฟทีนพูด “ไม่ใช่แค่เหนือกว่าระดับราชันเท่านั้น พลังของมันเทียบได้กับระดับครึ่งเทพเลย”
ซิวซือพยักหน้าและพูด “มันไม่ใช่ระดับเทพเจ้า แต่มันเหนือกว่าระดับราชันอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นระดับครึ่งเทพ”
ขณะที่พวกเขาทั้ง 3 พูดคุยกัน รูปปั้นเต่าก็เดินผ่านซากปรักหักพังของปราสาท ปราสาทขนาดใหญ่ยักษ์ดูเหมาะสมกับขนาดของรูปปั้นเต่าทะเลนี้ ขณะที่มันเดินหน้าต่อไป มันก็ทุบสิ่งก่อสร้างที่ขวางทางด้วยค้อนของมัน
ทุกๆการทุบของมันจะปลดปล่อยแรงสั่นสะเทือนที่น่าสะพรึงกลัวออกมา มันทุบทุกสิ่งทุกอย่างออกไปเพื่อสร้างเส้นทางสำหรับตัวเอง
ไม่นานมันก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าปราสาท หลังจากนั้นมันก็เหวี่ยงค้อนในมือเข้าใส่ปราสาท แต่ทันใดนั้นก็มีพลังบางอย่างพุ่งออกมาจากปราสาท พลังทั้ง 2 ปะทะซึ่งกันและกัน แต่มันไม่เกิดการระเบิดขึ้นมา พลังทั้ง 2 รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันและเกิดเป็นพายุทอร์นาโดขนาดใหญ่ ทุกอย่างที่อยู่รอบๆถูกดูดเข้าไปหามัน
เต่าที่อยู่รอบๆพยายามจะว่ายหนีไป เต่าที่เชื่องช้าหลายๆตัวถูกดูดเข้าไปในพายุทอร์นาโด พวกมันถูกบดขยี้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที ทำให้พายุทอร์นาโดค่อยๆถูกย้อมเป็นสีแดง
หานเซิ่นรีบว่ายหนีไปทันที พลังของพวกมันน่าสะพรึงกลัวเกินไป มันเกินกว่าระดับที่เขาจะต่อสู้ด้วยได้
ดราก้อนฟีฟทีนก็คิดแบบเดียวกัน พวกเขาพยายามจะหนีไป ถ้าพวกเขาไม่ไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ พวกเขาก็อาจจะต้องตายอยู่ที่นี่
ประตูของปราสาทเปิดออกมา และท่ามกลางการว่ายหนีไปนั้น หานเซิ่นก็หันกลับไปมองเป็นครั้งสุดท้าย
ภายในประตูนั้นมีหัวขนาดใหญ่ยักษ์ปรากฏออกมา มันคือเทพเจ้ามังกรที่กลืนหานเซิ่นเข้าไป
โฮก!
เจ้ามังกรคำรามและปลดปล่อยพลังออกมาจากปากของมัน ซึ่งหานเซิ่นและดราก้อนฟิฟทีนเชื่องช้าเกินกว่าที่จะหลบได้พ้น แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ทำให้เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของพวกเขา
ตอนนี้เมื่อสัตว์ประหลาดทั้ง 2 เริ่มต่อสู้กัน แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นก็มากพอที่จะฆ่าหานเซิ่นกับดราก้อนฟิฟทีนได้
หานเซิ่นได้ยินเสียงคำรามและเสียงค้อนดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นทั้งโลกก็เริ่มสั่นสะเทือน
หานเซิ่นไม่มีเวลาจะหันกลับไปมองว่ากำลังเกิดขึ้น เขารีบว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำอย่างสุดชีวิต
หลงอิ๋งคว้าตัวดราก้อนฟิฟทีนและปลดปล่อยพลังของเธอออกมา ปีกมังกรของเธอกางออก หลังจากนั้นเธอก็พุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยความเร็วสูงราวกับกระสุนปืนใหญ่ เธอไม่ได้สนใจอะไรหานเซิ่นและซิวซือ
ซิวซือปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ซึ่งมันช่วยเสริมความเร็วในการว่ายน้ำของเธออย่างมาก เธอสามารถว่ายแซงเต่าหนามแหลมระดับดยุกไปได้อย่างง่ายดาย
หานเซิ่นเองก็ไม่ได้ล้าหลังเช่นกัน เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อว่ายน้ำหนีไป และเขาก็สามารถตามความเร็วของซิวซือได้ทัน
ซิวซือรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่าหานเซิ่นสามารถตามความเร็วของเธอได้ทัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมัวมาสนใจหานเซิ่น เธอต้องรีบขึ้นไปบนผิวน้ำให้เร็วที่สุด
ตูม!
คลื่นกระแทกลูกใหญ่พุ่งเข้ามาจากด้านหลังพวกเขา หานเซิ่นรีบว่ายเข้าไปหลบอยู่หลังของเต่าหนามแหลมระดับดยุก หลังจากนั้นคลื่นกระแทกก็พุ่งผ่านเขาไป เต่าหนามแหลมระดับต่ำถูกฉีกเป็นชิ้นๆ กระดองของพวกมันฉีกขาดราวกับเป็นแผ่นกระดาษ และทำให้น้ำโดยรอบถูกย้อมเป็นสีแดง
เต่าหนามแหลมระดับดยุกนั้นกระเด็นไปข้างหน้ากว่าสิบเมตร
หานเซิ่นจับหนามแหลมบนกระดองของเจ้าเต่าเอาไว้และปล่อยให้มันพาเขากลับไปขึ้นไปบนผิวน้ำ
เมื่อพวกเขาพ้นจากผิวน้ำแล้ว ดราก้อนฟิฟทีนก็รีบเรียกหลงซานและคนอื่นๆมารวมตัวกัน จากนั้นเขาก็พาพวกหลงซานออกไปจากเกาะแห่งนี้
พวกเต่าเองก็ต้องการจะรีบหนีไปเช่นกัน ดังนั้นหานเซิ่นจึงเกาะหลังของพวกมันต่อไป
ตูม!
ก่อนที่พวกเต่าจะหนีไปถึงชายฝั่งก็มีเสียงดังขึ้นมาจากสระน้ำ น้ำในสระพุ่งขึ้นมาราวกับเสาที่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
หลังจากนั้นก็มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมา มันมีเกล็ดสีฟ้าและหัวของมังกร แต่ทว่าร่างกายของมันดูเหมือนกับกิเลน ร่างกายของมันเรืองแสงสีฟ้าออกมา โดยรวมแล้วมันดูไม่เหมือนกับสัตว์ประหลาด มันดูเหมือนกับอสูรศักดิ์สิทธิ์มากกว่า
ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าเทพเจ้ามังกร จริงๆแล้วมีรูปลักษณ์เป็นยังไงกันแน่ แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคแบบไหนกันแน่
รูปปั้นเต่าทะเลตามมันออกมาพร้อมกับค้อนในมือ มันเทเลพอร์ตเข้าไปตรงหน้าเทพเจ้ามังกร
เทพเจ้ามังกรคำรามและปลดปล่อยลำแสงสีฟ้าออกมาปะทะกับค้อนของรูปปั้นเต่าทะเล
การปะทะกันของพวกมันทั้งคู่ ทำให้ภูเขาบนเกาะสระมังกรถล่มลงมา และหานเซิ่นกับเต่าหนามแหลมก็ถูกส่งกระเด็นออกไปในทะเล แต่หานเซิ่นก็ยังคงจับหนามบนกระดองของมันเอาไว้แน่น
ทั่วทั้งทะเลโบราณหวนคืนสั่นสะเทือน แม้แต่ใต้น้ำทะเล หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากการปะทะกันของพวกมัน ภายในทะเลนั้นแปรปรวนจนเกิดเป็นคลื่นสูงหลายร้อยเมตร
ตอนที่ 2044
การหลบหนีใต้ทะเล
เต่าหนามแหลมยักษ์กำลังว่ายลึกลงไปในท้องทะเล ซึ่งหานเซิ่นก็ยังคงเกาะหลังของมันเอาไว้แน่นและใช้ร่างกายที่ใหญ่โตของมันเพื่อหลีกเลี่ยงแรงระเบิด และเมื่อออกนอกระยะของแรงสั่นสะเทือนแล้ว เขาก็ปล่อยมือออกจากหลังของเต่า เขามองไปรอบๆและสังเกตเห็นเต่าหนามแหลมหลายตัวกำลังว่ายลึกลงไปในทะเล
หานเซิ่นไม่กล้าจะว่ายลงไปลึกเกินไป ถึงเขาจะต้องการหลีกเลี่ยงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น แต่เขาก็กลัวว่าถ้าลงไปลึกมากๆ เขาอาจจะไปเจอกับซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลลึก ดังนั้นเขาจึงไม่ดำลึกลงไปอีก
ในขณะที่หานเซิ่นลอยตัวอยู่ในทะเลนั้น เขาก็สังเกตเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยว่ายเข้ามา เธอก็คือซิวซือที่เป็นชาวกาน่า แต่เธอดูแตกต่างจากกาน่าที่หานเซิ่นรู้จัก
หานเซิ่นขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้ว่ายหนีไป การไปข้างบนจะนำเขากลับไปสู่การต่อสู้ของรูปปั้นเต่าทะเลและเทพเจ้ามังกร ดังนั้นการรอคอยอยู่ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“เจ้าชื่อว่าซานมู่สินะ?” ซิวซือว่ายเข้ามาข้างๆหานเซิ่นและถาม
“เจ้าต้องการอะไร?” หานเซิ่นพูดขณะที่สังเกตซิวซืออย่างระมัดระวัง
ซิวซือยิ้ม “มันเป็นอะไรที่หาได้ยากที่จะได้พบกับคริสตัลไลเซอร์ในที่แบบนี้ ข้าได้ยินมาว่าราชินีแห่งมีดของรีเบทมีลูกศิษย์ชาวคริสตัลไลเซอร์อยู่คนหนึ่ง ชื่อของเขาคือหานเซิ่น เจ้ารู้จักเขาไหม?”
หานเซิ่นตกใจเล็กน้อย แต่เขาไม่แสดงออกมาทางสีหน้า
“ข้าไม่ได้รู้จักคริสตัลไลเซอร์ทุกคน แต่ข้าคุ้นเคยกับหานเซิ่นดี เขาเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคน แต่ข้ากลัวว่าเขาจะไม่รู้จักข้า”
ซิวซือถอนหายใจออกมา “หานเซิ่นเป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจจริงๆนั่นแหละ เขาฆ่าดราก้อนเธอร์ทีนและชารอน นั่นเป็นอะไรที่น่าเหลือชื่อมากๆสำหรับเอิร์ลคนหนึ่ง ข้าอยากจะพบกับเขาสักครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาหายตัวไปภายในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ เจ้าพอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน?”
“ข้ากลัวว่าต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว เพราะข้าเป็นเพียงแค่คริสตัลไลเซอร์ธรรมดาๆ ข้าไม่รู้จักหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว” หานเซิ่นพูด
สีหน้าของหานเซิ่นยังคงดูใจเย็น แต่ในใจของเขารู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะดูเหมือนว่าความตายของดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนจะเป็นที่รู้กันไปทั่ว ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าทางเผ่าดราก้อนรู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร เขาก็คงจะถูกฆ่าอย่างแน่นอน
ในตอนที่ซิวซือกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็มีเงาของคน 2 คนว่ายเข้ามา ซึ่งพวกเขาคือดราก้อนฟิฟทีนและหลงอิ๋ง
พวกเขาเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นและซิวซือ
ดราก้อนฟิฟทีนมองไปที่หานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับซิวซือ
“ซิวซือ ที่นี่อันตราย ทำไมไม่ให้หลงอิ๋งพาเจ้าไปในที่ที่ปลอดภัยล่ะ?”
“การต่อสู่ระดับนี้ถือเป็นภาพที่หาได้ยาก อันตรายนั้นถือเป็นราคาที่คุ้มค่าที่จะจ่าย” ซิวซือยิ้ม ดูเหมือนว่าเธอยังไม่คิดจะไปจากที่นี่
แทนที่จะตอบกลับ ดราก้อนฟิฟทีนกลับชกหมัดเข้าใส่หานเซิ่น
เขารวบรวมพลังมหาศาลไปไว้ในหมัดๆนั้น และหมัดของเขาก็เล็ดลอดผ่านน้ำราวกับเข็ม ความต้านทานของน้ำดูเหมือนจะไม่ได้ชะลอความเร็วของมันเลยแม้แต่น้อย และมันก็พุ่งตรงเข้าไปที่หานเซิ่น
ดราก้อนฟิฟทีนต้องการจะฆ่าหานเซิ่น ก่อนที่สัตว์ประหลาดทั้ง 2 จะต่อสู้กันเสร็จ แต่ทว่าหานเซิ่นคุ้นเคยกับพลังนี้ดี เขาไม่มีทางจะลืมพลังพิชิตมารของดราก้อนไปได้ เมื่อดราก้อนฟิฟทีนใช้พลังพิชิตมาร หานเซิ่นก็ดำลึกลงไปในทะเล
ดราก้อนฟิฟทีนประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของหานเซิ่น
“นี่คริสตัลตัลไลเซอร์คนนั้นแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่เชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวในน้ำหรอเนี่ย จริงๆแล้วเขาไม่ได้แย่ไปกว่าพวกเราดราก้อนเลย ไม่สิเขาเหนือกว่าซะอีก”
“เป็นคนที่เจ้าเล่ห์อะไรอย่างนี้! หลงอิ๋งกำจัดเขาซะ” ดราก้อนฟิฟทีนพูด เมื่อรู้ตัวว่าหานเซิ่นแกล้งทำเป็นว่าไม่ถนัดการเคลื่อนไหวในน้ำ
“รับทราบ” หลงอิ๋งตอบ เธอกระพือปีกและส่งลมกระโชกไปใส่น้ำที่อยู่ด้านหลัง ขณะที่เธอพุ่งตามหานเซิ่นไป
หานเซิ่นเห็นความเร็วของเธอที่ไล่ตามมาและรู้ตัวว่าเธอคงจะไล่เขาได้ทัน ถ้าเขาไม่รีบทำอะไรสักอย่าง แต่หานเซิ่นก็ยังคงดำลึกลงไปเรื่อยๆ เมื่อหลงอิ๋งเข้าใกล้เขาแล้ว เธอก็ใช้หอกในมือแทงเข้าใส่หานเซิ่น
หานเซิ่นเคลื่อนไหวเพื่อหลบหอกพิชิตมารของหลงอิ๋ง แต่หลังจากนั้นจู่ๆหอกของเธอก็เกิดการเปลี่ยนร่างขึ้น มังกรปรากฏขึ้นบนหอกและทำให้หอกหายวับไป เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันก็เจาะทะลุเข้าไปในหัวของหานเซิ่นเรียบร้อยแล้ว
ปัง!
ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดเหมือนกับลูกโป่งน้ำ แต่มันไม่มีเลือดออกมา
“ร่างโคลน?” หลงอิ๋งขมวดคิ้ว ร่างโคลนของหานเซิ่นนั้นดูเหมือนกับของจริงมาก ซึ่งแม้แต่เธอก็ยังถูกหลอก นั่นทำให้เธอรู้สึกโมโห
เธอมองไปรอบและรู้สึกตัวว่าหานเซิ่นหายไปแล้ว
เธอปลดปล่อยสัญชาตญาณของมังกรออกมาเพื่อตามหาตัวหานเซิ่น แต่หลงอิ๋งต้องขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเธอไม่สามารถหาตำแหน่งของเขาได้ในรัศมีหนึ่งพันเมตร
หานเซิ่นกำลังเกาะฉลามสีฟ้าและใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อซ่อนพลังชีวิตของตัวเอง
เมื่อไปถึงก้นทะเล หานเซิ่นก็มองไปรอบๆ มันมีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เขาไม่ได้เข้าไปในนั้น เขาเริ่มขุดลงไปในพื้นทรายแทน
ไม่นานหลังจากนั้นหลงอิ๋งก็มาถึงก้นทะเล เธอมองไปรอบๆพร้อมกับกวัดแกว่งหอกของเธอ หอกที่แหลมคมของเธอกวาดปะการังทั้งหมดจนขาดครึ่งในครั้งเดียว ซีโน่เจเนอิคมากมายที่อาศัยอยู่ในปะการังถูกฆ่าตายและทะเลก็ถูกย้อมเป็นสีแดง
“เจ้านี่หนีเก่งจริงๆ” หลงอิ๋งขมวดคิ้ว เธอมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเธอก็มุ่งหน้าออกไปในทิศทางหนึ่ง
หานเซิ่นยังคงซ่อนอยู่ใต้ทรายต่อไป เขาไม่มีเจตนาจะไปจากที่นี่ในตอนนี้ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหลงอิ๋งก็กลับมาอีกครั้ง
“แปลกจริงๆ เขาหายไปไหนกัน?” หลงอิ๋งกลับมาค้นหาอีกครั้ง แต่ไม่นานเธอก็กลับไปหาดราก้อนฟิฟทีน หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นอย่างนั้น เขาออกมาจากพื้นทรายและเข้าไปซ่อนตัวในเปลือกหอย
พวกหอยอยู่ภายในปะการัง แต่พวกมันถูกฆ่าตายด้วยหอกของหลงอิ๋ง หลังจากที่ซ่อนตัวแล้วหานเซิ่นก็เรียกมนตราออกมาในร่างของปืนไรเฟิล เขาต้องการจะลองดูว่าสโคปสามารถใช้งานขณะที่อยู่ใต้ท้องทะเลได้หรือเปล่า
ซึ่งมันยังสามารถใช้งานได้ หานเซิ่นจึงใช้มันส่องจากภายในเปลือกหอย เขาสามารถมองเห็นดราก้อนฟิฟทีน หลงอิ๋งและซิวซือได้จากระยะไกลหลายพันเมตร ถึงเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด แต่เขาก็ถนัดในการอ่านริมฝีปาก
ตอนที่ 2045
ซากศพมังกร
การต่อสู้ของสัตว์ประหลาดทั้ง 2 ยังคงดำเนินต่อไป โชคดีที่มันไม่ได้มีผลอะไรต่อใต้ทะเลลึก
แต่ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งที่ใหญ่มหึมาร่วงลงมาสู่ท้องทะเล
หานเซิ่นรีบใช้สโคปปืนส่องดูและสังเกตเห็นว่าซีโน่เจเนอิคที่ถูกผู้คนเรียกว่าเทพเจ้ามังกรกำลังร่วงลงมา ทำให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่ แม้แต่ก้นบึ้งของทะเลก็ได้รับผลกระทบ
ดูเหมือนว่าเทพเจ้ามังกรจะหมดสติไป ขณะที่ร่างกายของมันค่อยๆจมลง และเมื่อหานเซิ่นสังเกตที่หัวของมัน เขาก็พบว่าหัวกะโหลกของมันแตกร้าว รูปปั้นเต่าทะเลคงจะใช้ค้อนทุบใส่หัวของมันอย่างหนัก
“ว้าว! รูปปั้นเต่าทะเลนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลย?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ
ไม่นานหลังจากนั้นรูปปั้นเต่าก็ตามลงมา มันใช้ค้อนทุบเข้าใส่หัวของเทพเจ้ามังกรอีกครั้งจนกะโหลกแตกกระจาย หลังจากนั้นรูปปั้นเต่าก็ค้นเอาลูกแก้วสีฟ้าออกมาร่างของเทพเจ้ามังกรและว่ายน้ำจากไป
ร่างของเทพเจ้ามังกรค่อยๆจมลงมาในน้ำ จนกระทั่งมันลงมาอยู่ใกล้ๆกับจุดที่หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่
เมื่อเวลาผ่านไปรูปปั้นเต่าก็ไม่ได้ว่ายกลับมา แต่ซิวซือและดราก้อนฟิฟทีนลงมายืนอยู่ข้างๆศพแทน
“ซิวซือ เจ้ารู้ไหมว่ามอนสเตอร์ตัวนี้คืออะไรกันแน่?” ดราก้อนฟิฟทีนถามซิวซือ
ซิวซือมองไปที่ร่างของเทพเจ้ามังกรและพูด “ข้าไม่แน่ใจ แต่พลังของมันเทียบได้กับสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพ รูปปั้นเต่านั้นเอาสิ่งที่สำคัญที่สุดไปแล้ว แต่ร่างกายของมันยังเป็นอะไรที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกล็ดสีฟ้าของมัน ถ้าสิ่งที่หลงซานพูดเป็นความจริง และเกล็ดของมันเร่งการวิวัฒนาการได้ล่ะก็ อย่างนั้นพวกมันก็จะถือเป็นสมบัติอันล้ำค้า”
“ข้าก็กำลังคิดแบบเดียวกัน! มันถือเป็นโชคดีสำหรับเผ่าพันธุ์ดราก้อน หลงอิ๋งรีบเตรียมขนย้ายร่างของมันไป” ดราก้อนฟีฟทีนพูดกับหลงอิ๋ง
หลงอิ๋งพยักหน้าและว่ายเข้าไปใกล้ร่างของเทพเจ้ามังกร
หานเซิ่นมองดูการทำงานของเธอและรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ร่างของครึ่งเทพถือเป็นสมบัติที่ล้ำค่าก็จริง แต่ชีวิตของตัวเองมีค่ามากกว่า
แต่เมื่อหลงอิ๋งว่ายไปข้างๆร่างของเทพเจ้ามังกรและจับหางของมัน ความแข็งแกร่งระดับดยุกของเธอก็ไม่เพียงพอที่จะยกร่างของมันขึ้นได้
หลังจากนั้นสีหน้าของหลงอิ๋งก็เปลี่ยนไป เธอกางปีกมังกรออกและปลดปล่อยเงาของมังกรออกมา แขนของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นแขนที่มีเกล็ดของมังกร เธอขยับเขยื้อนร่างของมันได้เล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่สามารถยกมันขึ้นมาได้อยู่ดี
“นายท่าน ร่างของซีโน่เจเนอิคตัวนี้หนักเกินไป พวกเราจำเป็นต้องใช้ความช่วยเหลือ ถ้าพวกเราต้องการจะเคลื่อนย้ายมัน” หลงอิ๋งบอกกับดราก้อนฟิฟทีน
ดราก้อนฟิฟทีนขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นซิวซือกับข้าจะคอยเฝ้าร่างของมันเอาไว้ ส่วนเจ้าไปตามคนมาช่วย”
“คริสตัลไลเซอร์ที่ชั่วร้ายนั่นยังอยู่แถวนี้ ทำไมนายท่านไม่ให้ข้าเป็นคนเฝ้าอยู่ที่นี่แทนล่ะ?” หลงอิ๋งไม่ต้องการจะทิ้งดราก้อนฟิฟทีนเอาไว้ที่นี่
“ไม่เป็นอะไร เจ้าไปได้แล้ว” ดราก้อนฟิฟทีนพูดพร้อมกับสะบัดมือ เขาต้องการทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
เมื่อเห็นว่าหลงอิ๋งจากไปแล้ว หานเซิ่นก็รู้สึกดีใจขึ้นมา ถ้ามันมีแค่ดราก้อนฟิฟทีนและซิวซือที่เป็นแค่มาร์ควิสล่ะก็ มันก็มีโอกาสที่เขาจะแย่งร่างของเทพเจ้ามังกรมาได้
แต่เขาก็ยังคงต้องคำนึงถึงน้ำหนักของร่างเทพเจ้ามังกร เพราะแม้แต่หลงอิ๋งที่เป็นดยุกยังไม่สามารถยกมันขึ้นได้ และถึงแม้หานเซิ่นจะเรียกหอคอยแห่งโชคชะตาออกมา เขาก็ไม่คิดว่าจะสามารถดูดมันเข้าไปได้
‘เราจะขโมยมันมาได้ยังไง?’ หานเซิ่นใช้สโคปของปืนไรเฟิลเพื่อสังเกตร่างของเทพเจ้ามังกร แต่เขาไม่สามารถบอกอะไรได้มาก เขาไม่สามารถบอกได้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นจริงๆแล้วเป็นของดี
“หลงซานและคนอื่นๆบอกว่าเกล็ดของมันเร่งการวิวัฒนาการได้ ดังนั้นอย่างน้อยๆเกล็ดของมันก็ต้องเป็นของดี แต่มันมีเกล็ดอยู่มากเกินไป และถ้าหลงอิ๋งเกิดกลับมา เราก็คงจะหนีไปไม่รอดแน่นอน แถมซิวซือและดราก้อนฟิฟทีนก็ยังคงอยู่ที่นี่ แค่พวกเขาก็เป็นอะไรที่น่ารำคาญมากพอแล้ว” หานเซิ่นรู้สึกลังเล
ครั้งนี้ซิวซือเดินเข้าไปตรงหน้าร่างของเทพเจ้ามังกรและสังเกตที่บริเวณคอของมัน
“ข้าไม่รู้ว่าซีโน่เจเนอิคตัวนี้มาจากที่ไหนกันแน่ แต่เมื่อดูจากลักษณะของมันแล้ว ข้าคิดว่ามันต้องเป็นมังกรชนิดหนึ่ง และนอกจากลูกแก้วมังกรที่รูปปั้นเต่านั้นเอาไปแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เหลืออยู่ก็คือเกล็ดของมัน เจ้าเห็นด้วยไหม?”
เมื่อได้ยินซิวซือพูดอย่างนั้น หานเซิ่นก็ใช้สโคปส่องไปในทิศทางที่เธอมองออกไป เขาสังเกตเห็นเกล็ดๆที่คอของเทพเจ้ามังกรที่ดูกลับตาลปัตรกับเกล็ดอันอื่นๆ เกล็ดอันอื่นมีสีฟ้าอ่อน แต่เกล็ดอันนี้เข้มมากจนเกือบจะเป็นสีดำ แถมมันยังมีรูปร่างที่แตกต่างออกไปจากเกล็ดอื่นๆอีกด้วย
เกล็ดอื่นๆดูเหมือนกับพัดและมีขนาดพอๆกับใบหินเจียร แต่ทว่าเกล็ดที่กลับตาลปัตรมีขนาดพอๆกับจานและมีรูปทรงเหมือนกับหัวใจ
“ซีโน่เจเนอิคครึ่งเทพตัวนี้ต้องเป็นมังกรชนิดหนึ่งไม่ผิดแน่ และนั่นก็คือเกล็ดกลับตาลปัตร” ดราก้อนฟิฟทีนเดินเข้าไปและพยายามจะแกะเกล็ดนั้นออกมา
แต่เขาพบว่าไม่สามารถแกะมันออกมาได้ เทพเจ้ามังกรถูกฆ่าตายและพลังชีวิตของมันก็ดับไปแล้ว ดังนั้นเนื้อหนังของมันควรจะอ่อนลง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่มาร์ควิสคนหนึ่งจะแกะเกล็ดกลับตาลปัตรออกมา
ดราก้อนฟิฟทีนขมวดคิ้ว พลังเริ่มก่อตัวขึ้นภายในร่างกายของเขาขณะที่เขากางปีกออก ร่างกายของเติบโตขึ้น 3 ฟุต และกล้ามเนื้อของเขาก็แข็งราวกับเหล็ก มีเกล็ดสีดำปรากฏขึ้นบนร่างของเขา
‘ดราก้อนฟิฟทีนนี่ก็เป็นซีโน่เจเนอิคด้วยอย่างนั้นหรอ? นี่ดราก้อนทุกคนเป็นซีโน่เจเนอิคกันหมดเลยหรือยังไง?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ขณะที่สังเกตการณ์อยู่นั้น หานเซิ่นก็ประเมินว่าดราก้อนฟิฟทีนอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าดราก้อนเธอร์ทีนซะอีก ดราก้อนนั้นแข็งแกร่งตั้งแต่เกิด และไม่ว่าดราก้อนเลือดบริสุทธิ์คนไหนก็แข็งแกร่งกว่าคนในระดับเดียวกันของเผ่าพันธุ์อื่นๆ
กรงเล็บของเขากลายเป็นมีดที่แหลมคม และดราก้อนฟิฟทีนก็ใช้พวกมันตัดเนื้อรอบๆเกล็ดจนกระทั่งมันหลุดออกมา
“ทนดูไม่ไหวแล้ว” หานเซิ่นเล็งปืนไรเฟิลไปที่ดราก้อนฟิฟทีนและเหนี่ยวไกออกไป เขาออกมาจากเปลือกหอยและวิ่งเข้าไปหาร่างของเทพเจ้ามังกร
แต่ดูเหมือนกับว่าดราก้อนฟิฟทีนจะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาหันมาสะบัดมือใส่กระสุน กระสุนนั้นถูกกรงเล็บของเขาตัดจนขาดครึ่งอย่างง่ายดาย
ขณะเดียวกันนั้นดราก้อนฟิฟทีนก็สะบัดมืออีกข้างใส่หานเซิ่น กรงเล็บของเขาทำให้น้ำสั่นไหวจนกลายเป็นใบมีดมากมายพุ่งเข้าใส่หานเซิ่น
ตอนที่ 2046
การต่อสู้เพื่อเกล็ดกลับตาลปัตร
ปัง!
ร่างกายของหานเซิ่นระเบิด เมื่อถูกตัดด้วยใบมีดที่พุ่งเข้ามา ขณะที่หานเซิ่นอีกคนวิ่งเข้าไปหาดราก้อนฟิฟทีนจากด้านข้าง
ดราก้อนฟิฟทีนวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่นและใช้กรงเล็บมังกรแทงเข้าไปที่หัวใจของเขา ดราก้อนฟิฟทีนไม่มีแผนจะเก็บเกล็ดกลับตาลปัตรมาในทันที เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้ก็คือการฆ่าหานเซิ่น
ปัง!
ร่างกายของหานเซิ่นถูกตัดขาด แต่มันเป็นเพียงแค่ร่างโคลนจากวิชาจันทราอีกร่างเท่านั้น
ดราก้อนฟิฟทีนรีบหันกลับไปหาร่างของเทพเจ้ามังกรและสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นลอยอยู่ใกล้ๆกับศพของมัน และเขาก็กำลังเก็บเกล็ดกลับตาลปัตรเข้าไปในกระเป๋า
ดราก้อนฟิฟทีนพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นด้วยความโกรธ แต่หานเซิ่นว่ายหลบได้อย่างงดงามราวกับปลา ความเร็วในการเคลื่อนในน้ำของเขาเหนือกว่าที่ดราก้อนฟิฟทีนสามารถทำได้มากนัก
หานเซิ่นทิ้งระยะห่างกับดราก้อนฟิฟทีนได้สำเร็จ แต่ก่อนที่เขาจะได้ผ่อนคลาย หอกแสงจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง ซึ่งมันเป็นหอกของหลงอิ๋ง
ตอนนี้หานเซิ่นรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก หลงอิ๋งไม่ได้ไปไหน และการจากไปของเธอก็เพียงเพื่อล่อเขาออกมาเท่านั้น
“เป็นแผนที่ดี” ก่อนที่หานเซิ่นจะได้มีเวลาทำอะไร หอกแสงมากมายที่ครอบคลุมรัศมีกว่าหนึ่งร้อยเมตรก็พุ่งเข้ามาเขา มันไม่มีอะไรที่หานเซิ่นจะทำได้ ดังนั้นเขาจึงชักมีดขนนกโลหิตออกมาและใช้พลังของมีดและดาบเพื่อป้องกันหอกที่พุ่งเข้ามา
หลงอิ๋งต้องการจะป้องกันไม่ให้หานเซิ่นหนีไปได้ ดังนั้นเธอจึงใช้หอกแสงมากมาย แต่ทว่าพลังของหอกแสงแต่ละอันก็ลดลงไปด้วยเหตุนั้น
แต่ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่หานเซิ่นใช้มีดเพื่อป้องกันหอกแสงที่พุ่งเข้ามา แรงกระแทกก็ทำให้เขากระเด็นออกไป เขารู้สึกเจ็บปวดราวกับมันถูกฟ้าผ่า
แต่หานเซิ่นยังไม่มีเลือดไหลออกมา เขาพยายามจะใช้แรงกระแทกเพื่อส่งตัวเองออกไปให้ไกลจากหลงอิ๋ง แต่ทันใดนั้นดราก้อนฟิฟทีนก็มาปรากฏด้านหลังและแทงเข้าใส่เขาด้วยกรงเล็บแสง
การมองเห็นของหานเซิ่นเปลี่ยนเป็นภาพของโครงสร้างลำดับที่ประกอบไปด้วยโมเลกุลอย่างกะทันหัน เขากวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตและฟันเข้าไปปะทะกับกรงเล็บแสงที่พุ่งเข้ามา เขาสามารถทำลายมันได้สำเร็จ หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ว่ายกลับลงไปใต้ทะเลอีกครั้ง
ดราก้อนฟิฟทีนและหลงอิ๋งหยุดชะงักไปชั่วครู่ด้วยความตกตะลึงที่เอิร์ลคนหนึ่งสามารถทำลายกรงเล็บแสงของดราก้อนฟิฟทีนได้ นอกจากนั้นดราก้อนฟิฟทีนยังจดจำมีดขนนกโลหิตได้ และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
“นั่นมันหานเซิ่น! อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้”
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้อีก” หลงอิ๋งพูดพร้อมกับกลายร่างเป็นซีโน่เจเนอิคมังกร เธอกระพือปีกมังกรเพื่อไล่ตามหานเซิ่นไป
ขณะที่หานเซิ่นหนีไป เขาก็ยังคงกวัดแกว่งมีดเพื่อทิ้งมีดลมปราณเอาไว้รอบๆ
แต่หลงอิ๋งยังคงตามเขามาและตัดผ่านมีดลมปราณที่เขาทิ้งเอาไว้อย่างง่ายดาย มีดลมปราณของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรร่างซีโน่เจเนอิคระดับดยุกได้
เคร๊ง!
หลงอิ๋งแทงเข้าใส่หานเซิ่นอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้พลังของเธอรุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีครั้งก่อนๆ มีดขนนกโลหิตของหานเซิ่นเกือบจะไม่สามารถทนรับมันได้ไหว และร่างของเขาก็กระเด็นลงไปสู่ก้นทะเลราวกับจรวด เขาจมลึกลงไปในพื้นจากแรงกระแทกที่รุนแรง ทำให้เกิดเป็นรูที่เป็นรูปร่างของเขา
“ครั้งนี้เจ้าไม่มีทางจะหนีไปได้ง่ายๆ” หลังจากนั้นหลงอิ๋งก็หมุนหอกจนเกิดเป็นวังวนขึ้นภายในน้ำ ทั้งทรายและก้อนหินต่างก็ถูกดูดเข้าไป
หานเซิ่นมีแผนที่จะซ่อนตัวใต้พื้นทรายอีกครั้ง แต่ตอนนี้พวกมันถูกวังวนดูดเข้าไป แถมการเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าลงจากแรงดูดของวังวนอีกด้วย
ดราก้อนฟิฟทีนตามหานเซิ่นมาจนทัน กรงเล็บแสงของเขาพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นอีกครั้งราวกับฝนดาวตก
หานเซิ่นตัดสินใจจะหยุดต่อต้านกระแสน้ำและปล่อยให้วังวนดูดเขาเข้าไปหาดราก้อนฟิฟทีน จากนั้นเขาก็ใช้มีดขนนกโลหิตร่วมกับท่าตบขั้นสุดยอด
แต่ดราก้อนฟิฟทีนไม่ต้องการจะต่อสู้กับหานเซิ่นตรงๆ เขาเริ่มถอยออกไปขณะที่กวัดแกว่งกรงเล็บเพื่อปล่อยกรงเล็บแสงออกไป มีดขนนกโลหิตสามารถทำลายกรงเล็บแสงที่พุ่งเข้ามาได้ แต่มันก็ต้องใช้เวลา นั่นทำให้หลงอิ๋งมาปรากฏตัวตรงหน้าหานเซิ่นอีกครั้งและแทงหอกใส่เขา
หานเซิ่นใช้มีดพร้อมกับพลังของท่าตบขั้นสุดยอด และเขาเกือบจะทำลายลำดับโครงสร้างของหอกได้สำเร็จ แต่หอกก็แทงเขากระเด็นออกไปเช่นเดิม ทำให้เขากระอักเลือดออกมา
หลงอิ๋งและดราก้อนฟิฟทีนไม่เปิดโอกาสให้หานเซิ่นได้ตั้งตัว พวกเขายังคงกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่องๆ
ถ้าดราก้อนฟิฟทีนเพียงคนเดียว หานเซิ่นก็คงจะต่อสู้กับเขาได้ และถึงหลงอิ๋งจะไม่ใช่ดยุกที่แข็งแกร่งอะไร แต่ระดับของเธอก็เทียบได้กับชารอนในร่างซีโน่เจเนอิค หานเซิ่นจึงไม่มีโอกาสมากนัก
หานเซิ่นใช้ร่างโคลนจันทราเพื่อรับการโจมตีหลายครั้ง แต่สถานการณ์ก็เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดหอกแสงอันหนึ่งก็สามารถเจาะทะลุชุดเกราะและแทงเข้าไปในไหล่ของเขา
การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นช้าลงไป เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บมากขึ้น และในที่สุดกรงเล็บของดราก้อนฟิฟทีนก็สามารถโจมตีถูกเขาจนได้ มันแทงใส่เขาจากด้านหลังจนเกินเป็นร่องลึก
ขณะที่หานเซิ่นถูกดึงความสนใจโดยการโจมตีของดราก้อนฟิฟทีน หลงอิ๋งก็พุ่งเข้ามาและแทงใส่เขาด้วยหอก
หานเซิ่นกัดฟันและเก็บความเจ็บปวดจากบาดแผลเอาไว้ เขายกมีดขนนกโลหิตขึ้นเพื่อป้องกันหอกของหลงอิ๋ง
แต่พลังของดยุกเป็นอะไรที่น่ากลัว หลังจากการโจมตีครั้งนั้น หานเซิ่นก็กระเด็นลงไปที่ก้นของทะเลอีกครั้ง
ทรายและก้อนหินลอยขึ้นเมื่อหลงอิ๋งใช้หอกของเธอสร้างวังวนขึ้นอีกครั้ง ร่างของหานเซิ่นจมลึกลงไปจนเกิดเป็นหลุม แต่เมื่อดราก้อนฟิฟทีนและหลงอิ๋งเก็บกวาดทรายและหินรอบๆจนถึงก้นของรูนั้นแล้ว พวกเขาก็ยังไม่เจอหานเซิ่น
พวกเขาพยายามตามหาหานเซิ่น แต่หานเซิ่นไม่อยู่แล้ว มันเหมือนกับว่าเขาหายไปเป็นอากาศธาตุ
ดราก้อนฟิฟทีนดูเหมือนกับภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดออกมา หานเซิ่นเพิ่งจะหายตัวไปพร้อมกับเกล็ดกลับตาลปัตรของซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพ
“ส่งข่าวบอกคนอื่นๆ แม้เจ้าจะต้องดูดน้ำทั้งหมดของทะเลแห่งนี้ขึ้นมาก็ต้องหาตัวหานเซิ่นมาให้ได้” ดราก้อนฟิฟทีนดูโกรธจัด
หลงอิ๋งดูหดหู่ เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหานเซิ่นหนีไปได้ยังไง
หลงอิ๋งแพร่กระจายข่าวสารออกมา และเธอก็ออกคำสั่งกับดราก้อนคนอื่นๆให้ออกค้นหาหานเซิ่นทั่วทั้งทะเลโบราณหวนคืนแห่งนี้
ร่างของหานเซิ่นไปปรากฏขึ้นที่บ้านภายในสหพันธ์ดวงดาว เขาเริ่มกระอักเลือดออกมาในทันทีที่มาถึง
พลังของเอิร์ลนั้นอ่อนแอเกินไป นอกซะจากเขาจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เขาก็ไม่มีทางจะต่อกรกับดยุกได้ ดังนั้นเขาจึงหนีกลับมาในสหพันธ์
“โชคดีที่เรานำเกล็ดนี่กลับมาด้วยได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็มันก็จะเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง” หานเซิ่นเลียริมผีปากของตัวเองขณะที่ลูบเกล็ดกลับตาลปัตรในมือ
ตอนที่ 2047
เวลาพัก
หานเซิ่นเก็บเกล็ดกลับไปและนอนพักผ่อน บาดแผลของเขาค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ เขายังไม่มีแผนจะกลับเข้าไปในจักรวาลจีโนในเร็วๆนี้ เขาต้องการจะอยู่ในสหพันธ์ไปสักพัก
ทางเผ่าดราก้อนคงจะกำลังตามหาตัวเขาอยู่ และถึงดราก้อนฟิฟทีนจะไม่รู้ว่าหานเซิ่นจะเทเลพอร์ตกลับไปยังจุดเดิม หานเซิ่นก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่เสี่ยงเกินไปที่จะกลับไปในเร็วๆนี้
ซึ่งถ้าหานเซิ่นไม่ปรากฏตัวเป็นเวลานาน ทางเผ่าดราก้อนก็คงจะเชื่อว่าหานเซิ่นหนีออกไปจากที่นั่นแล้ว และเมื่อพวกเขาตายใจ มันก็จะง่ายขึ้นสำหรับหานเซิ่นในการหนีออกจากที่นั่น
ยังไงซะทางเผ่าดราก้อนก็ไม่สามารถส่งยอดฝีมือมาเฝ้าที่ทะเลโบราณหวนคืนได้ตลอด ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ขณะที่หานเซิ่นอยู่ในสหพันธ์ เขาก็ยังคงดูดซับรอยเลือดที่แปดเปื้อนบนมีดขนนกโลหิตต่อไป และมันจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าเขาสามารถกลายเป็นมาร์ควิสได้ก่อนที่จะกลับเข้าไปในจักรวาลจีโน
“เข้ามานี่สิ ลูกสาวของพ่อ ให้พ่อกอดหนูหน่อย” หานเซิ่นอุ้มหานหลิงเอ๋อขึ้นมาจากเตียงและหอมแก้มเธอ
หานหลิงเอ๋อใช้มือของเธอผลักใบหน้าของหานเซิ่น ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบให้เขาทำแบบนั้น
“นายหายหน้าหายตาไปนาน แบบนั้นหลิงเอ๋อจะจดจำนายได้ยังไง” จีเหยียนหรันบ่น
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ควรอยู่ที่นี่ต่อนานๆ”
หานเซิ่นไม่ได้บอกเธอว่าเขากำลังถูกไล่ล่า เขาไม่ต้องการให้ครอบครัวเป็นกังวล
แต่การใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านไม่ได้ดีอย่างที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ ทั้งเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนนมและการคาดเดาความคิดของหานหลิงเอ๋อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ทารกเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครสื่อสารด้วยได้ ถึงแม้หานหลิงเอ๋อจะเป็นเด็กเงียบๆและไม่ร้องออกมา แต่เธอก็ยังทำให้เขาลำบากอยู่ดี
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าเธอต้องการอะไร แถมเวลาพักผ่อนของเธอก็แตกต่างไปจากเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นต้องการจะพัก เธอก็จะลืมตาขึ้นมาเล่น
ตอนนี้หานเซิ่นรู้ถึงความยากลำบากของจีเหยียนหรัน การคาดเดาสิ่งที่เด็กทารกต้องการนั้นยากยิ่งกว่าการคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ซะอีก
นอกจากนั้นมันก็ไม่มีใครกล้าทำให้หานหลิงเอ๋อโมโหเช่นกัน ถ้าเธอเกิดใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดขั้นมา เธอก็อาจจะทำลายดาวทั้งดวงได้
หานหลิงเอ๋อชื่นชอบการอาบแดด และเธอก็มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นหานเซิ่นจึงมักจะพาเธอออกไปขับยานอวกาศเล่นเพื่อดูทัศนียภาพ
‘เธอยังเด็กอยู่แท้ๆ แต่เธอไม่ชื่นชอบที่จะอยู่บ้าน เมื่อโตขึ้นเธอก็คงจะอยู่ไม่ติดบ้านแน่ๆ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่เขาไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรกับเรื่องนั้น
มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะอยู่ในสหพันธ์เป็นเวลานาน ดังนั้นหานเซิ่นจึงพาครอบครัวและเป่าเอ๋อไปเที่ยวด้วยกัน
หานเซิ่นต้องการจะไปสปาบนดาวน้ำแข็ง แต่หลิงเอ๋อนั้นชื่นชอบแสงแดด ดังนั้นเขาจึงยกเลิกแผนการและเดินทางไปยังดวงดาวที่เต็มไปด้วยชายหาดแทน
เป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อสร้างปราสาททรายร่วมกัน ขณะที่หานเซิ่นกับจีเหยียนหรันนอนอยู่บนเก้าอี้และเพลิดเพลินกับลมของทะเล ส่วนหลัวหลานและหานอวี้เฟยไปดำน้ำด้วยกัน
ขณะที่ครอบครัวของหานเซิ่นกำลังเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอยู่นั้นก็มีเด็กชาย 2 คนเดินเข้ามา พร้อมกับบอดี้การ์ด
เด็กชายทั้ง 2 คนดูมีความสูงพอๆกับเป่าเอ๋อ พวกเขาทั้งคู่ดูมีอายุราวๆ 5 ขวบ คนหนึ่งเดินอย่างภาคภูมิราวกับว่าเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ ส่วนอีกคนดูเงียบๆ
เด็กชายทั้ง 2 เดินเข้าไปหาเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ เด็กชายที่ดูภาคภูมิมองไปที่เป่าเอ๋อและดีดนิ้วของเขา หลังจากนั้นบอดี้การ์ดด้านหลังก็นำหินอัญมณี ของเล่นที่ทันสมัยและดอกไม้ออกมามอบให้กับเป่าเอ๋อ
“สาวสวย มาเป็นแฟนสาวของฉัน และทั้งหมดนี่จะเป็นของเธอ” เด็กชายชี้ไปที่ยานอวกาศอันเลิศหรูของเขาที่ลอยอยู่เหนือทะเล
เป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อหันไปมองเด็กชาย หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็พูดขึ้นมา
“นั่นคือทั้งหมดที่นายเสนออย่างนั้นหรอ?”
“บอกฉันมาว่าเธออยากได้อะไร อีกอย่างหนึ่งชื่อของฉันคือหนิงปู้อาว ถ้าเธอมาเป็นแฟนของฉันละก็ เธอจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ” เด็กชายพูด
“ฉันอยากจะเห็นปลาบินบนท้องฟ้า” เป่าเอ๋อพูด
“อะไรนะ?” เด็กชายดูสับสน
ด้วยเหตุบางอย่างเด็กชายอีกคนที่เงียบๆก้าวถอยออกไป
“แบบนี้ไง!” หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็จับตัวเด็กชายคนนั้นและโยนเขาลงไปในทะเล
เด็กชายเริ่มจะร้องไห้ หลังจากนั้นบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็รีบไปพาเขากลับขึ้นมาจากน้ำ ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นเข้ามาล้อมเป่าเอ๋อ
“พวกนายทุกคนไปได้แล้ว” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา หลังจากนั้นบอดี้การ์ดทุกคนก็ถอยออกไป
การที่เด็กผู้หญิงอายุประมาท 5 ขวบมีพละกำลังถึงขนาดนั้นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจอย่างมาก มนุษย์สามารถแข็งแกร่งขึ้นภายในก็อตแซงชัวรี่ก็จริง แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ก่อนอายุ 16 อย่างนั้นแล้วพละกำลังที่เธอมีคืออะไรกัน
สำหรับพวกเขาแล้ว เป่าเอ๋อจึงดูเหมือนกับสัตว์ประหลาด
ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามา ผู้ชายบอกให้ผู้หญิงพาเด็กชายทั้ง 2 คนไป หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาหานเซิ่น
“ไม่ได้เจอกันซะนาน เด็กชาย 2 คนนั้นเป็นลูกของนายอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นทักทายชายคนนั้น ขณะที่จีเหยียนหรันเข้าไปหาเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ
“เด็กคนที่เงียบๆนั้นเป็นลูกชายของฉัน ส่วนอีกคนเป็นลูกชายของจ้าวเจ็ด” หนิงเยวี่ยพูด
“พวกเขาดูเหมือนพี่น้องกัน” หานเซิ่นหัวเราะ แต่เขาพูดอย่างจริงใจ
“พวกเขาทั้งคู่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมือนๆกัน”
หนิงเยวี่ยพูดอย่างง่ายๆ หลังจากนั้นเขาก็มองตรงไปที่หานเซิ่นและถาม
“มันยังมีโลกที่อยู่เหนือจากก็อตแซงชัวรี่อยู่ใช่ไหม?”
“ใช่” หานเซิ่นไม่คิดจะปิดบังความจริงเรื่องนี้
“ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะพาฉันไปที่นั่น?” หนิงเยวี่ยถาม
“ชีวิตในตอนนี้ของนายมันเลวร้ายนักหรือไง? ทำไมนายถึงต้องการอะไรที่มากกว่า?” หานเซิ่นถามหนิงเยวี่ย
“นี่ไม่ใช่ชีวิตที่พวกเราควรจะมี” หนิงเยวี่ยพูด
“แต่นายจะกลับมาอีกไม่ได้ นายจะไม่ได้พบกับครอบครัวของนายอีก และนายก็ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายทุกหนทุกแห่ง ถึงอย่างนั้นนายก็ยังต้องการจะไปอีกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“ฉันอยากจะไป” หนิงเยวี่ยตอบอย่างไร้ซึ่งความลังเล
หานเซิ่นมองตาของหนิงเยวี่ย หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “ขอเวลาฉันสักหน่อย ฉันจำเป็นต้องเตรียมการ”
พวกเขาหยุดพูดและหันไปมองท้องทะเลด้วยกัน
“นายจะไม่คิดถึงลูกและภรรยาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามหลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง
“ฉันไม่ได้แต่งงาน ฉันรับเขามาเลี้ยง เขาจะดูแลตัวเองได้ เขาจะช่วงชิงทุกสิ่งที่จำเป็น และเขาจะไม่ช่วงชิงสิ่งที่ไม่ควร”
หนิงเยวี่ยพูดด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง แต่ในดวงตาของเขายิ้มออกมา
หานเซิ่นประหลาดใจ เขาหันไปมองเด็กชายที่ดูเงียบๆด้วยความแปลกใจ
ตอนที่ 2048
เยี่ยมเยือนชูร่า
หลังจากที่หานเซิ่นเดินทางกลับฒษจากการท่องเที่ยว เขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูดซับรอยเลือดบนมีดขนนกโลหิต เขาทำแบบนั้นอยู่ทุกๆวันและรู้สึกว่าวิชาโลหิตชีพจรนั้นใกล้จะเลื่อนขั้นเต็มทีแล้ว
เขายังไม่ได้คิดจะทำอะไรกับเกล็ดกลับตาลปัตรที่ได้มา เขาคิดจะใช้มันก็ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ
ระบบอัตโนมัติส่งข่าวมาถึงพวกเขา และหานเซิ่นก็ได้รู้ว่ามนุษย์นั้นทำการเจรจาต่อรองกับชูร่า
ในตอนแรกหานเซิ่นคิดจะกำจัดพวกชูร่าให้หมดเพื่อกอบกู้สหพันธ์เป็นของมนุษยชาติ แต่หลังจากที่พูดคุยกับหานอวี้เฟย เขาก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป
หานอวี้เฟยถามหานเซิ่น “ลูกเคยได้เรื่องราวของพระภิกษุ 3 เกลอไหม?”
หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่และถาม “นั่นเป็นเรื่องราวที่พระสงฆ์องค์หนึ่งเก็บน้ำเพื่อดื่ม พระสงฆ์องค์ที่ 2 เพียงแค่เงยหัวของเขาเพื่อดื่ม และพระสงฆ์องค์ที่ 3 ไม่มีอะไรจะดื่มใช่ไหม?”
หานอวี้เฟยพยักหน้า “มันเหมือนกับการที่คนแข็งแกร่งจะกลืนกินคนที่อ่อนแอ ซึ่งมนุษย์นั้นต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่โลภมากที่สุดอย่างแน่นอน”
หานเซิ่นเห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อของเขาพูด เขาเชื่อว่าทุกคนเกิดมาชั่วร้าย และเป้าหมายหลักของมนุษย์ทุกคนก็คือความอยู่รอดของตัวเอง
เสือกินแกะ แกะกินหญ้า หญ้าจำเป็นต้องมีสารอาหารที่อยู่ในผืนดิน ทุกชีวิตจำเป็นต้องช่วงชิงเพื่ออยู่รอด ซึ่งมนุษย์เองก็เช่นเดียวกัน แต่ความโลภของมนุษย์อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่จะมีชีวิตรอด พวกเขาต้องการมากกว่านั้น ดังนั้นมันสามารถเรียกได้ว่ามนุษย์ทุกคนชั่วร้ายตั้งแต่เกิด
“ด้วยการที่มีชูร่าอยู่ มนุษย์จำเป็นต้องต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อความอยู่รอด แต่เมื่อชูร่าหายไปแล้ว มนุษย์ก็มีแต่ต่อสู้กันเอง ถ้ามนุษย์โชคดี พวกเราอาจจะรอดจากภัยตัวเองได้ แต่ถ้าพวกเราโชคร้าย…”
หานอวี้เฟยหยุดพูดและจับไหล่ของหานเซิ่น “มันไม่มีอะไรที่ถูกต้องที่สุดในโลกใบนี้ ลูกแค่ต้องทำตามหัวใจของตัวเอง”
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ล้มเลิกความคิดที่จะทำลายล้างชูร่า
ถ้าหานเซิ่นอาศัยอยู่ในสหพันธ์ตลอดเวลา การทำลายล้างชูร่าก็อาจจะเป็นเรื่องดี แต่หานเซิ่นไม่ได้มีเวลามาจัดการเรื่องภายในสหพันธ์ ดังนั้นการทำลายอารยธรรมของชูร่าอาจจะส่งผลกระทบที่เขาไม่ได้เจตนา
ในสมัยอดีต พี่น้องต่อสู้ร่วมกันเพื่อก่อตั้งอาณาจักรขึ้นมา แต่เมื่อพวกเขามีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พวกเขาก็เริ่มจะต่อสู้กันเองเพื่อแย่งส่วนแบ่ง สุดท้ายแล้วพวกเขาก็กลายเป็นศัตรูคู้แค้นกัน
ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่คิดจะทำลายชูร่า แต่เขาขอให้ซีโร่เดินทางไปที่ดาวของชูร่าเพื่อทำบางสิ่งบางอย่าง
ชูร่าอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่สงครามยังคงสมดุล สหพันธ์ยังไม่ได้ชนะพวกเขา
หานเซิ่นรู้สึกสนใจในสุสานของราชาชูร่า แต่เขาไม่เคยมีเวลาไปตรวจสอบที่นั่น ซึ่งเขาคิดว่าบางทีมันอาจจะมีพบเบาะแสอะไรบางอย่างที่นำไปสู่อาชูร่าก็ได้
เพราะยังไงซะวิชาจำลองนภาก็มาจากในสุสาน
สุสานของชูร่าราชาจะเข้าไปได้เฉพาะราชาที่ใกล้ที่จะสิ้นอายุขัยเท่านั้น แต่ทว่าข้อจำกัดนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับหานเซิ่นในตอนนี้
หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อไปกับเขาด้วย หานเซิ่นได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุสานของชูร่า แต่เขายังไม่รู้ว่าสุสานนั้นตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่
สุสานเคยถูกปล้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ชูร่าจึงเก็บตำแหน่งสุสานของราชวงศ์เป็นความลับสุดยอด และมันก็ดูเหมือนกับว่าสุสานจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ เพราะมันไม่ได้ตั้งอยู่ที่เดิมที่เคยถูกค้นพบ
คนเดียวที่รู้เกี่ยวกับข้อมูลลับสุดยอดก็มีแค่ชูร่าหยกที่เป็นราชินี
บนดวงดาวของชูร่า ราชินีชูร่ากำลังทำงานอยู่ ซึ่งอวี้หมิงเอ๋อเองก็กำลังทำงานอยู่ข้างๆแม่ของเธอ เธอได้เรียนรู้จากแม่ของเธอตั้งแต่ยังเล็ก ดังนั้นราชินีชูร่าจึงคาดหวังในตัวเธอสูงมากๆ
ตอนนี้ชูร่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แต่โชคดีที่มันยังมีพลังปริศนาคอยสนับสนุนเผ่าพันธุ์ของพวกเขา ไม่อย่างนั้นล่ะก็ชูร่าก็คงจะไม่สามารถป้องกันตัวเองจากมนุษย์ได้
“เจ้าเป็นใครกัน?” ราชินีชูร่าตกใจเมื่อเธอมองไปทางด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน
มีชายสวมชุดเกราะกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเธอ ถึงแม้ราชินีชูร่าจะแข็งแกร่ง แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
อวี้หมิงเอ๋อกำลังจะเอื้อมมือไปกดสัญญาณเตือนภัยและชักมีดออกมา แต่ราชินีชูร่าหยุดเธอเอาไว้
ราชินีชูร่ารู้ตัวว่าที่เธอเห็นชายคนนี้ได้ นั่นก็เพราะเขาต้องการ มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะขอความช่วยเหลือ และถ้าเขาต้องการจะฆ่าพวกเธอ พวกเธอทั้งคู่ก็คงจะตายไปแล้ว
ชายคนนั้นมองพวกเธอด้วยความสนใจ มันทำให้ราชินีชูร่ารู้สึกหวาดกลัว ความหวาดกลัวนั้นฝังลึกเข้าไปในกระดูกของเธอ มันเหมือนกับว่าเพียงแค่กระดิกนิ้วเขาก็สามารถฆ่าเธอได้
“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงได้มาที่นี่?” ราชินีชูร่าถามหลังจากที่สงบสติตัวเองได้แล้ว
หานเซิ่นมองไปที่ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อ เขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่ประหลาดที่ได้เห็นอวี้หมิงเอ๋ออีกครั้ง
อวี้หมิงเอ๋อดูเหมือนกับซีโร่ไม่มีผิด ทั้ง 2 คนดูเหมือนกับฝาแฝดกัน ซีโร่มีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ ส่วนอวี้หมิงเอ๋อเป็นร่างชูร่า
ราชินีชูร่าดูคล้ายคลึงกับอวี้หมิงเอ๋อ แต่เธอดูไม่เหมือนกับซีโร่
“อวี้หมิงเอ๋อเป็นลูกสาวของเธออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามพร้อมกับชี้ไปที่อวี้หมิงเอ๋อ
ราชินีชูร่ารู้สึกกังวล เธอต้องการจะดึงอวี้หมิงเอ๋อมาหลบด้านหลัง แต่เธอรู้ว่านั่นเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ การทำอย่างนั้นมีแต่จะเปิดโปงจุดอ่อนของเธอ
ราชินีชูร่าตอบกลับไป “นางเป็นลูกสาวของข้า เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อจะถามเรื่องนั้นหรอกใช่ไหม?”
“เธอมีลูกสาวอีกคนหรือเปล่า?” หานเซิ่นถามนาง
“ไม่มี ข้ามีลูกชายอยู่หลายคน แต่ข้ามีลูกสาวแค่คนเดียว” ราชินีชูร่าดูใจเย็น แต่หัวใจของเธอนั้นเต้นรัว
“ไม่มีลูกสาวลับๆ หรือลูกสาวที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยยีนของเธอ?” หานเซิ่นถาม
“มีเพียงแค่มนุษย์ที่ใช้วิธีสกปรก พวกเรารังเกลียดทุกคนที่ใช้อะไรแบบนั้น” อวี้หมิงเอ๋อดูโกรธ
ตอนที่ 2049
ดาวสกายคลาวด์
หานเซิ่นยกมือขึ้นในทิศทางของอวี้หมิงเอ๋อ และร่างกายของอวี้หมิงเอ๋อก็ถูกยกลอยเข้ามาหาเขาในทันที
ราชินีชูร่ารู้สึกกังวล แต่เธอเป็นกษัตริย์ของชูร่า ดังนั้นเธอต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้
“นี่เจ้ามาที่นี่เพียงเพื่อจะหาเรื่องหญิงสาวคนหนึ่งอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นเมินเฉยต่อราชินีชูร่าและสังเกตอวี้หมิงเอ๋อ เธอกับซีโร่ดูเหมือนกันจริงๆ แต่ทว่าตัวตนของเธอให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน เขาสามารถบอกได้ว่าเธอนั้นแตกต่างจากซีโร่
เมื่อเห็นหานเซิ่นเมินเฉยต่อและสังเกตอวี้หมิงเอ๋ออย่างละเอียด มันก็ทำให้ราชินีชูร่ากังวลยิ่งกว่าเดิม แต่เธอรู้ว่าถ้าพูดอะไรไปมากกว่านั้น มันก็จะดูเหมือนว่าเธอห่วงใยอวี้หมิงเอ๋อ และเขาจะรู้ถึงจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงที่สุดของเธอ
ราชินีชูร่าจึงยืนอยู่นิ่งๆและไม่เร่งรีบอะไร เธอไม่แสดงความกังวลหรือพูดอะไรออกมา
หลังจากผ่านไปสักพัก ราชินีชูร่าก็พูดขึ้นมา
“เจ้าจะบอกพวกเราได้ไหมว่าเจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”
หานเซิ่นยังคงไม่ปล่อยอวี้หมิงเอ๋อไป เขาหันมามองราชินีชูร่าด้วยความนับถือและพูด “ท่านราชินี ฉันจะให้เวลาเธอ 5 วัน เธอควรจะรีบจัดการธุระให้เสร็จ หลังจากนั้นไปพบฉันที่ดาวสกายคลาวด์ใน 5 วัน”
“เจ้าบอกข้ามาได้เลยว่าเจ้าต้องการอะไร แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่ข้าทำไม่ได้ มันก็ไม่สำคัญว่าพวกเราจะพบกันอีกเมื่อไหร่” ราชินีชูร่าพูด
“นี่เป็นคำสั่ง นี่ไม่ใช่คำขอ” หานเซิ่นพูด
“ชูร่าจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อมนุษย์คนไหนๆ และนั่นรวมถึงเจ้าด้วย” ราชินีชูร่าหัวแข็งอย่างมาก
“จำมีดกระดูกหน้าสระชูร่าได้ไหม?” หานเซิ่นถาม
“เจ้าคือ” สีหน้าของราชินีชูร่าเต็มไปด้วยความแปลกใจ
“ใน 5 วัน เธอต้องมาที่ดาวสกายคลาวด์ ถ้าเธอไม่มา ชูร่าทุกคนจะถูกฆ่า” หานเซิ่นพูดก่อนที่จะหายตัวไป ซึ่งอวี้หมิงเอ๋อก็หายไปพร้อมกับเขาด้วย
ดาวสกายคลาวด์เป็นดวงดาวที่มีทั้งมนุษย์และชูร่าอาศัยอยู่ มันเป็นสถานที่ที่ไร้ซึ่งกฎหมาย ผู้คนฆ่าฟันกันบนถนนกลางวันแสกๆ แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจ มันจึงเป็นดวงดาวที่รู้จักกันว่าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย
หานเซิ่นอุ้มเป่าเอ๋อขณะที่เดินไปบนถนน อวี้หมิงเอ๋อไม่ได้พูดอะไรออกมา สีหน้าของเธอดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“พ่อ หนูหิว” เป่าเอ๋อพูดขณะที่มองไปทางร้านอาหารที่หรูหราที่สุด
“โอเค พวกเราจะกินอาหารกันที่นี่” หานเซิ่นพยักหน้าและหันไปทางร้านอาหาร
อวี้หมิงเอ๋อเพียงแค่ตามพวกเขาเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไร เมื่อทั้ง 3 คนเดินเข้าไป พวกเขาก็เห็นชูร่ามายมายนั่งอยู่ภายใน
ภาพของมนุษย์ 2 คนเดินเข้ามานั้นทำให้ทุกคนหันมามองทางพวกเขา ชูร่าทุกคนมองพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ยิ้มออกมา
อวี้หมิงเอ๋อนั้นสวมหมวกและหน้ากาก แต่ถึงใบหน้าของเธอจะปิดอยู่ แต่มันก็ช่องสำหรับเขาบนหมวกของเธอ มันแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นชาวชูร่า
เป่าเอ๋อเมินเฉยต่อสายตาของเหล่าชูร่าและกระโดดขึ้นไปเคาน์เตอร์ จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่เมนูและพูด “นี่ นี่และก็นี่อย่างละหนึ่ง”
ชูร่าวัยกลางคนด้านหลังเคาน์เตอร์หัวเราะและพูด
“เด็กน้อย อาหารที่นี่ขายให้แต่คนที่มีเขาเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่มีเขานั้นเป็นอาหาร”
“ฮ่าๆ!” ชูร่าทั่วร้านอาหารหัวเราะ
เป่าเอ๋อหันไปมองชายวัยกลางคนและถาม “ถ้าอย่างนั้นหนูจะเป็นอาหารแบบไหนกัน?”
ชูร่าวัยกลางคนแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าเป่าเอ๋อจะไม่หวาดกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย ชูร่าคนอื่นๆก็ประหลาดใจเช่นกัน พวกเขามองเป่าเอ๋ออย่างแปลกๆ
ชูร่าวัยกลางคนหัวเราะและมองไปที่เป่าเอ๋อราวกับว่าเธอเป็นเนื้อชนิดหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา
“เจ้าน่ะตัวเล็ก และเนื้อของเจ้าก็ยังเด็ก มันจะดีที่สุดถ้านำไปทำเนื้อแผ่น ข้าจะหั่นเนื้อของเจ้าเป็นชิ้นๆและเสิร์ฟพร้อมกับซอสถั่วเหลือง นั่นคงจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม เจ้าต้องการจะทำแบบนั้นเพื่อพวกเราไหม?”
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็แสดงรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
“แน่นอน! หนูอยากจะเห็นว่ามันจะมีรสชาติแบบไหน?”
เป่าเอ๋อยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นและพูดต่อ “ลุง ส่วนไหนของหนูจะอร่อยที่สุด?”
ชูร่าวัยกลางคนและคนอื่นๆมองเป่าเอ๋อด้วยความแปลกใจ นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นมนุษย์เด็กที่กล้าหาญแบบนี้
อวี้หมิงเอ๋อเองก็มองเป่าเอ๋อด้วยความแปลกใจเช่นกัน มันยากที่จินตนาการได้ว่าเด็กตัวน้อยจะมีความกล้าแบบนั้น
ชูร่าวัยกลางคนหัวเราะ เขาลูบหัวของเธอและพูด
“นั่งรอสักเดี๋ยว อาหารที่หนูสั่งจะมาเสิร์ฟแบบฟรีๆ หลิงเอ๋อ เจ้ารีบมาพาแขกของพวกเราและเพื่อนๆไปที่โต๊ะเร็วเข้า”
ชูร่าหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอยิ้มให้กับเป่าเอ๋อ “คุณลูกค้าตัวน้อย เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่พวกเราจะเสิร์ฟอาหารให้ในรอบสิบปี”
“เชิญลูกค้าทุกท่านทางนี้” ชูร่าหญิงพาเป่าเอ๋อและหานเซิ่นไปที่โต๊ะ
ร้านค้านี้ถือว่าดีกว่าร้านค้าอื่นๆบนดวงดาวแห่งนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้หรูหราอะไรมาก
อีกไม่กี่นาทีต่อมา อาหารที่เป่าเอ๋อสั่งก็มาเสริฟ ชูร่าวัยกลางคนๆนำขวดที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาให้กับเป่าเอ๋อ เขาหัวเราะและพูด
“คุณลูกค้าตัวน้อย พวกเรามีแค่เครื่องดื่มแบบนี้ พวกเราไม่มีน้ำผลไม้ขาย นี่เป็นของหนู”
“พ่อ หนูดื่มมันได้ไหม?” เป่าเอ๋อถามหานเซิ่น
“แน่นอน” หานเซิ่นยักไหล่ของเขา
“งั้นหนูขอแก้วใหญ่ๆ” เป่าเอ๋อดูตื่นเต้น
“ได้แน่นอน” ชูร่าวัยกลางคนเปิดขวดและเทเครื่องดื่มให้กับเป่าเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็วางขวดให้กับหานเซิ่นกับอวี้หมิงเอ๋อ
อวี้หมิงเอ๋อขมวดคิ้วและไม่แตะต้องมัน แต่หานเซิ่นหยิบขึ้นมาและเทให้กับตัวเองหนึ่งแก้ว
ตอนที่ 2050
จ่าย
“พวกเจ้าไม่ใช่คนของดาวสกายคลาวด์ใช่ไหม?” ชูร่าวัยกลางคนถามหานเซิ่น
“พวกเราไม่ใช่ พวกเรามาที่นี่ด้วยธุระบางอย่าง” หานเซิ่นตอบ
“พวกนายจะเสิร์ฟเฉพาะกับชูร่าอย่างนั้นหรอ?”
“พวกเราเสิร์ฟให้กับมนุษย์เช่นเดียวกัน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยปกติแล้วไม่มีมนุษย์คนไหนกล้าเข้ามาในนี้”
ชูร่าวัยกลางคนหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ “ผู้คนที่ทำงานอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นทหารที่เกษียณ พวกเขาแข็งแกร่งบนสนามรบ และเพียงแค่ตัวตนของพวกเขา มันก็ทำให้มนุษย์คนอื่นหวาดกลัวแล้ว คนส่วนใหญ่ฉี่ราดออกมาตั้งแต่เดินผ่านประตู นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นแขกอย่างนาง”
“นายเกลียดชังมนุษย์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“จริงๆแล้วชูร่าไม่ได้เกลียดชังมนุษย์ และที่นี่ก็ไม่ใช่สนามรบ นอกจากนั้นด้วยความกล้าหาญของลูกค้าตัวน้อยคนนี้ พวกเจ้าจะกินอาหารของที่นี่มากเท่าไหร่ก็ได้แบบฟรีๆ” ชูร่าวัยกลางคนพูดอย่างเป็นกันเอง
“หัวหน้า โกล็อตกลับมาที่นี่อีกครั้ง” พนักงานสาวตะโกนบอกชูร่าวัยกลางคน
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป และเขาก็รีบไปที่ประตู แต่ก่อนที่เขาจะไปถึง ประตูก็ถูกถีบเข้ามา ชูร่ากลุ่มหนึ่งที่สวมใส่เครื่องแบบเดินเข้ามาข้างใน
“โกล็อต! เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ชูร่าวัยกลางคนพูดกับชูร่าที่สวมเครื่องแบบชนิดหนึ่ง
“เก็บภาษี ตอนนี้เจ้าควรจะจ่ายมาได้แล้ว” คนในเครื่องแบบคนนั้นดูอวดเบ่ง
“ข้าไม่จ่ายอะไรให้พวกเจ้าทั้งนั้น ที่นี่คือดาวสกายคลาวด์ ที่นี่ไม่ใช่ดวงดาวของชูร่า!” ชูร่าวัยกลางคนขึ้นเสียง
ชูร่าคนอื่นๆที่กำลังนั่งกินอยู่ต่างก็หัวเราะออกมา ผู้คนบาดาวสกายคลาวด์นั้นไม่สนใจเรื่องทางการทหาร
“จริงอย่างนั้นหรอ?” ชูร่าในเครื่องแบบหัวเราะและเตะไปที่ท้องของชูร่าวัยกลางคน ทำให้เขากระเด็นไปตกใส่บาร์ที่อยู่ด้านหลัง ขวดเครื่องดื่มหล่นลงมาจากกำแพงและราดลงบนหัวของเขา
ผู้คนในร้านอาหารลุกขึ้นมา แต่พวกทหารที่อยู่ข้างชายสวมเครื่องแบบก็ชักปืนของพวกเขาออกมาเช่นกัน
“หยุด! นี่ไม่ใช่ธุระอะไรของพวกเจ้า กลับไปทำงานซะ”
ชูร่าวัยกลางคนตะโกนใส่คนงานของเขา เขาลุกขึ้นมาจากด้านหลังบาร์และเดินเข้ามาหาชูร่าในเครื่องแบบอีกครั้ง “โกล็อต เจ้าจะฆ่าข้าก็ได้ ถ้าเจ้ากล้าพอ”
“ข้าจะไม่ฆ่านาย เจ้าฆ่าสมาชิกในครอบครัวของข้า ดังนั้นข้าจะค่อยๆทรมานเจ้าอย่างช้าๆเช่นเดียวกับคนงานของเจ้า” โกล็อตหัวเราะออกมา
“เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขา” ชูร่าวัยกลางคนพูด
“พวกเขาสมควรตายเพราะพวกเขาทำงานให้กับเจ้า วูด ข้าจะทำให้เจ้าต้องเสียใจที่ฆ่าน้องชายของข้า เจ้าไม่ควรคิดจะแตะต้องคนของราชวงศ์” โกล็อคพูด
“เสียใจ? ข้าไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรที่ฆ่าคนทรยศพวกพ้องของตัวเอง” วูดพูดเสียงแข็ง
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควรจะตายไปพร้อมกับเขา” โกล็อตดูอาฆาต
“ฮ่า! เด็กน้อยนี่เจ้าคิดจะขู่ใครกัน? พวกเราเกือบตายในสนามรบมาไม่รู้กี่ครั้ง พวกเราไม่เกรงกลัวความตาย แน่จริงก็เข้ามาฆ่าพวกเรา”
พนักงานเสิร์ฟหญิงหัวเราะออกมาก่อนที่จะขว้างขวดใส่พวกเขา
ปัง!
โกล็อตตบขวดกระเด็นออกไปและยิงปืนใส่เธอ
แต่วูดนั้นรวดเร็ว เขาปัดมือของโกล็อต ทำให้โกล็อตยิงพลาดเป้า หลังจากนั้นเขาก็ชกใส่จมูกของโกล็อต
เมื่อเห็นอย่างนั้นพนังงานเสิร์ฟหญิงและเพื่อนร่วมงานทุกคนของเธอก็วิ่งออกมาข้างหน้า
พวกเขาประสานงานกันเป็นอย่างดีเพื่อหลบกระสุน ขณะเดียวกันพวกเขาก็ค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปประชิตตัวอีกฝ่าย
ผู้คนบนดาวสกายคลาว์ต่างก็เป็นคนที่กล้าหาญ แม้แต่ลูกค้าที่มาทานอาหารก็มองดูแทนที่จะหนีไป
เหล่าทหารไม่สามารถชนะพวกพนักงานที่เคยผ่านศึกมาก่อนได้ และพวกเขาก็ถูกอัดจนเละอย่างรวดเร็ว วูดขึ้นค่อมโกล็อตที่นอนอยู่บนพื้นและชกใส่หน้าของเขาซ้ำๆจนมีเลือดไหลออกมา
ทหารหลายบางคนนั้นถูกอัดกระเด็นออกไปยังบริเวณที่มีลูกค้านั่งอยู่เป็นครั้งคราว และทุกครั้งที่เป็นแบบนั้นเหล่าลูกค้าก็จะเตะพวกเขากลับมาหาเหล่าพนังงาน มันทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมา
“พวกชูร่าของเธอนั่นน่าสนใจจริงๆ” หานเซิ่นพูดขณะที่หันไปมองอวี้หมิงเอ๋อ
อวี้หมิงเอ๋อรู้ว่าการต่อสู้กันเองเกินขึ้นบ่อยครั้งในหมู่ชูร่าด้วยกัน แต่เมื่อได้เห็นกับตาตัวเอง มันก็ทำให้เธอรู้สึกโกรธ นอกจากนั้นมันยังถูกเห็นโดยมนุษย์คนหนึ่ง นั่นทำให้เธอรู้สึกโมโหอย่างมาก
ปัง!
ทันใดนั้นก็มีใครบางคนเดินเข้ามาข้างๆวูดที่กำลังอัดโกล็อตอยู่ ก่อนที่วูดจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็กระเด็นออกไป
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชูร่าเขาทองปรากฏขึ้นข้างๆโกล็อต
“ลุงเจ็ด คนพวกนี้มีความผิดโทษฐานก่อกบฏ ฆ่าพวกเขาทุกคน!” โกล็อตลุกขึ้นมาและชี้ไปที่วูด
“หุบปาก!” ชูร่าเขาทองตะคอกใส่โกล็อต เขามองไปที่วูดและพูด
“เจ้าไม่รู้โทษของการละเมิดคนของราชวงศ์หรือยังไง?”
“พวกเราไม่สนใจเรื่องพวกนั้น พวกเราเช่าสถานที่บนดวงดาวสกายคลาวด์เป็นของพวกเรา ใครจะสนว่าพวกเจ้าเป็นคนของราชวงศ์?”
พนักงานเสิร์ฟหญิงพยุงวูดขึ้นมา ขณะที่ตะโกนใส่ชูร่าเขาทอง
“พวกเจ้าเป็นชูร่า นั่นหมายความว่าพวกเจ้าต้องทำตามกฎหมายของชูร่า ไม่ว่าพวกเจ้าจะไปที่ไหน ตอนนี้พวกเจ้าทำผิดกฎหมาย และด้วยเหตุนั้นพวกเจ้าจะต้องตาย” ชูร่าเขาทองพูดอย่างสงบ
“ใครจะสนใจกฎหมายของพวกเจ้า!” พนักงานเสิร์ฟหญิงตะโกน
“ต้องขออภัยด้วย แต่พวกเจ้าจะต้องตาย” ชูร่าเขาทองไปปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขาทั้งคู่และชกหมัดออกไป
ชูร่าเขาทองนั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทัน และถึงพวกเขาจะโกรธ แต่พวกเขาก็สิ้นหวังเช่นกัน
หมัดของชูร่าสีทองกำลังจะพุ่งเข้าไปถูกตัววูด แต่ทันใดนั้นหมัดก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยมืออันตุ้ยนุ้ย
ทั้งชูร่าเขาทองและวูดเบิกตากว้างเมื่อเห็นเด็กสาวตัวน้อยหยุดหมัดที่ทรงพลังเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
“เฮ้บอส นี่ถือเป็นค่าอาหารกลางวันของพวกเรา” เป่าเอ๋อยิ้มอย่างไร้เดียงสาออกมา เธอจับหมัดของชูร่าเขาทองเอาไว้และเหวี่ยงไปมาราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นแค่ของเล่น
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ร่างกายของชูร่าถูกยกขึ้นในอากาศและฟาดลงกับพื้นซ้ำไปซ้ำมาอย่างรวดเร็ว
วูดและคนอื่นๆอ้าปากค้าง ลูกตาของพวกเขาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งเห็นอยู่
ตอนที่ 2051
พ่อกับลูกสาว
ชูร่าทุกคนอึ้งไป มนุษย์เด็กคนหนึ่งที่ดูอายุประมาน 6 ขวบสามารถเหวี่ยงชูร่าเขาทองที่เป็นถึงนักสู้ระดับ 3 ได้ราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ของเล่น
ในสายตาของพวกเขา เป่าเอ๋อไม่ใช่แค่เด็กคนหนึ่งอีกต่อไป แต่เธอเป็นสัตว์ประหลาด
“มนุษย์แข็งแกร่งถึงขนาดนั้นได้ยังไง?” ชูร่าทุกคนดูตกตะลึง
ถ้าแม้แต่เด็กตัวเล็กยังแข็งแกร่งขนาดนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าผู้ใหญ่จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน
โกล็อตต้องการจะหันหลังและวิ่งหนีไป แต่เป่าเอ๋อโยนชูร่าเขาทองเข้าไปใส่เขาราวกับลูกโบว์ลิ่ง พวกเขาทั้งคู่กระแทกกันและล้มลงไปนอนกองกับพื้น พวกเขานอนแน่นิ่งในสภาพปางตาย
ทหารคนอื่นๆวิ่งหนีแตกตื่นออกจากร้านอาหารไป มันน่ากลัวเกินไปสำหรับพวกเขา
“ถ้าพวกคุณต้องการจะล้างแค้น ทำซะตอนนี้” เป่าเอ๋อหันมาพูดกับวูด
แต่วูดและคนอื่นๆเพียงแค่มองเป่าเอ๋ออย่างแปลกๆ พวกเขายังคงทำอะไรไม่ถูก
หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็หันกลับไปหาหานเซิ่น เธอดึงมือของเขาก่อนที่จะพูดกับวูดอีกครั้ง “อย่าได้กังวล ถ้าพวกคุณต้องการ พวกคุณไปที่สหพันธ์ได้ เพียงแค่พวกคุณบอกชื่อพ่อของหนูออกไป มันก็จะไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกคุณ”
วูดและคนอื่นเข้าใจในทันทีว่าเป่าเอ๋อและหานเซิ่นไม่ใช่คนธรรมดาๆ วูดกัดฟันและหยิบปืนขึ้นมา เขายิงใส่หัวของโกล็อตและชูร่าเขาทอง
หลังจากนั้นวูดก็ส่งปืนให้กับพวกพ้องของเขาและหันมาพูดกับเป่าเอ๋อ
“ข้าจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้ และข้าต้องชดใช้ให้กับเจ้าอย่างแน่นอนถ้าโอกาสมาถึง แต่พวกเราจะไม่ไปในสถานที่ของมนุษย์ และพวกเจ้าก็ควรจะไปกันได้แล้ว คนพวกนี้เป็นคนของราชาซาโม่ เขาเป็นคนที่ปกครองดาวดวงนี้ พวกเจ้าควรจะรีบไหนไป”
“พวกคุณจะไม่ไปอย่างนั้นหรอ? มันไม่มีความจำเป็นอะไรต้องกังวล พ่อของหนูอยู่ที่นี่ทั้งคน” เป่าเอ๋อพูดกับวูดและคนอื่นๆ
วูดส่ายหัว “ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจริงใจ แต่พวกเราเป็นชูร่า พวกเราจะไม่มีวันทรยศเผ่าพันธุ์ของตัวเอง ดังนั้นพวกเจ้าควรจะรีบหนีไป”
“เป็นทหารที่ดีอะไรอย่างนี่” หานเซิ่นถอนหายใจ สถานการณ์ที่เหมือนกันนี้สามารถเกิดขึ้นกับมนุษย์ได้เช่นกัน ดังนั้นมันไม่มีอะไรที่ทำให้มนุษย์ดีไปกว่าพวกชูร่า
“พวกนายมีห้องว่างใช่ไหม? พวกเราจำเป็นต้องอาศัยอยู่บนดาวดวงนี้ต่ออีกสักหน่อยเพื่อทำธุระบางอย่าง” หานเซิ่นยิ้มให้กับวูด
“นี่พวกเจ้าไม่ได้ยินที่บอสเพิ่งจะพูดหรือยังไง? ดาวสกายคลาวด์นั้นไม่เหมือนกับดาวดวงอื่น และราชาซาโม่ก็ควบคุมที่นี่ พวกเจ้าจะถูกฆ่า ถ้าพวกเจ้าไม่รีบหนีไป” พนักนางเสิร์ฟหญิงพูด
วูดยกมือของเขาขึ้นเพื่อบอกให้เธอหยุดพูด หลังจากนั้นเขาก็ถามหานเซิ่น “พวกเจ้าต้องการจะอาศัยอยู่ที่นี่จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว พวกเราจะอยู่ประมาน 4 วัน มันมีสถานที่ว่างพอสำหรับพวกเราไหม?” หานเซิ่นยิ้ม
“เบลล์ พาพวกเขาไปในสถานที่ที่สำหรับพักผ่อน” วูดพูดขณะที่มองไปที่หานเซิ่น
เห็นได้ชัดว่าเบลล์ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่ได้พูดออกมา เธอทำตามคำสั่งของวูดและพาพวกเขาไปที่ห้อง
“บอส ทำไมถึงให้พวกเขาอยู่ต่อ? เราเพิ่งจะฆ่าลูกชายของราชาซาโม่ไป การเก็บพวกเขาไว้ที่นี่มีแต่จะทำให้ถูกฆ่า” เบลล์พูดกับวูดหลังจากที่กลับมา
วูดส่ายหัว “เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาๆ?”
“มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน พวกเขาไม่มีทางเอาชนะราชาซาโม่และทหารของเขาได้ และถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนที่มีชื่อเสียง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร?” เบลล์พูด
“ข้าไม่รู้ พวกเราต้องรอดูกันต่อไป” วูดพูด
“รอดู? พวกเราก็ไม่หนีไปเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?” เบลล์และคนอื่นจ้องเขาด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
“เป็นอย่างที่เจ้าพูด ดาวสกายคลาวด์นั้นถูกควบคุมโดยราชาซาโม่ พวกเราไม่มีเงินหรือเส้นสายอะไร ดังนั้นพวกเราจะหนีไปไหนได้?”
วูดพูดต่อ “แต่บางทีการอยู่ที่นี่อาจจะเป็นวิธีที่พวกเราจะรอด”
“คุณหมายถึงมนุษย์ทั้ง 2 คนนั้นอย่างนั้นหรอ? พวกเขา…”
เบลล์ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆมันมีเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอก หลังจากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามา
พวกเขาหน้าซีดไป และก่อนที่พวกเขาจะตอบสนองได้ทัน ปืนจำนวนนับไม่ถ้วนก็เล็งมาที่พวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกนำตัวออกไป
เมื่อถูกพาตัวออกไป วูดก็ได้เห็นราชาซาโม่ที่สวมชุดเกราะชูร่าอยู่ ถ้าเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้น พวกเขาก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นราชาซาโม่ใกล้ๆแบบนี้
ปัง!
ทหารคนหนึ่งถูกส่งกระเด็นออกมาต่อหน้าราชาซาโม่ สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมและพูด
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่เจ้าจะต้องตาย”
“ราชาซาโม่ เจ้ามีลูกชายที่ดีหนิ” เสียงดังออกมาจากภายในสิ่งก่อสร้าง
เมื่อราชาซ่าโม่ได้ยินเสียงนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“เจ้าเป็นใครกัน…?”
“ข้ารู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่เจ้าหลงลืมว่าตัวเองเป็นใคร เข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ตัวเอง หยามเกียรติทหารที่ผ่านศึกมานักต่อนัก เมินเฉยต่อกฎหมายของชูร่า เจ้าคิดว่าชูร่าเป็นเพียงแค่สิ่งของที่เจ้าควบคุมได้หรือยังไง?” เสียงแข็งดังออกมาจากภายในสิ่งก่อสร้าง
ขาและเสียงของราชาซาโม่เริ่มสั่น แต่เขาก็ยังรวบรวมความกล้าเพื่อถามออกไป “เจ้าเป็นใครกัน?”
“เข้ามาข้างในและเจ้าจะได้เห็นว่าข้าเป็นใคร” เสียงที่เย็นชาตอบกลับมา
“อย่าเล่นลูกไม้! เผยตัวออกมาเดี๋ยวนี้” ราชาซาโม่พูด
“ตามที่เจ้าปรารถนา” ผู้หญิงในชุดขาว หมวกขาวและหน้ากากขาวเดินออกมา เมื่อราชาซาโม่เห็นอวี้หมิงเอ๋อ เขาก็ตกใจจนทรุดตัวลงไปกับพื้น
เขาเป็นราชาของดาวดวงนี้ แต่เขาไม่ใช่คนในราชวงศ์ของชูร่าจริงๆ เขาเป็นแค่ญาติห่างๆของตระกูลอวี้ เมื่อได้เห็นอวี้หมิงเอ๋อคนที่สักวันหนึ่งจะขึ้นเป็นราชินี เขาก็รู้สึกหวาดกลัวจนถึงกระดูก
วูดคิดว่าเขาต้องฝันไปแน่ๆ ตอนนี้ราชาซาโม่กำลังก้มหัวขอร้องต่อหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง
หญิงสาวคนนั้นต่อว่าราชาซาโม่ แต่ราชาซาโม่กลับไม่กล้าโต้เถียงสักคำ เมื่อเธอปล่อยเขาไป เขาก็เต็มไปด้วยความขอบคุณ เขาซาบซึ้งในความเมตตาและไม่ได้สนใจความตายของลูกชายอีกต่อไป
ที่น่าตกใจที่สุดสำหรับวูดก็คือการที่หญิงสาวคนนี้คอยรินน้ำให้กับพ่อลูกคู่นั้น เธอถูกปฏิบัติเหมือนกับเป็นสาวใช้ มันทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน
“เป่าเอ๋อและชายคนนั้นเป็นใครกันแน่?” เบลล์ถามวูดเมื่อพวกเขากลับไปพักผ่อน เหตุการณ์ในวันนี้มันแปลกประหลาดเกินไป
“อย่าพูดหรือถามอะไรทั้งนั้น! เก็บพวกมันเป็นความลับเอาไว้ตลอดการ พวกเราไม่ควรรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้” วูดพูดกับคนอื่นถึงความสำคัญของเรื่องที่เกิดขึ้น
วูดเองก็อยากรู้ว่าพ่อลูกคู่นี้เป็นใครกันแน่ แต่เขารู้ว่ายิ่งรู้มากเท่าไหร่ เขาก็จะตกอยู่ในอันตรายมากเท่านั้น
หานเซิ่นพักอยู่ในร้านอาหารเป็นเวลา 4 วัน เมื่อถึงวันที่ 4 ชูร่าผู้หญิงในหน้ากากสีดำก็มาถึง
ตอนที่ 2052
บดขยี้ดาวด้วยมือเดียว
“เจ้าคือหานเซิ่น?” ราชินีชูร่าถามเมื่อเห็นหานเซิ่นที่ไม่ได้สวมชุดเกราะ เธอจดจำเขาได้
เธอจำหานเซิ่นได้ก็เพราะเขาเป็นคนสำคัญในสหพันธ์ นอกจากนั้นเขายังมีสายเลือดของตระกูลหลัว ดังนั้นเขาก็เป็นเหมือนญาติห่างๆของชูร่าหยก
หานเซิ่นหัวเราะ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร อวี้หมิงเอ๋อเดินกลับไปอยู่ด้านข้างราชินี เธอรู้สึกเกลียดชังพวกเขาทั้งคู่ หานเซิ่นและเป่าเอ๋อนั้นปฏิบัติกับเธอราวกับว่าเธอเป็นสาวใช้ และเธอต้องทำทุกอย่างที่พวกเขาบอกให้ทำ ถึงแม้เธอจะไม่ต้องการก็ตาม
ราชินีชูร่าพยักหน้าให้กับอวี้หมิงเอ๋อและหันกลับไปมองหานเซิ่นอีกครั้ง
“เจ้าไม่ใช่เจ้าของมีดกระดูก มันควรจะเป็นของชูร่า”
ราชินีชูร่าจดจำได้ว่ามีชูร่าผู้หญิงคนหนึ่งใช้มีดกระดูกบุกเข้ามาในปราสาทของชูร่า มันไม่มีใครสามารถหยุดเธอเอาไว้ได้ และเธอก็ใช้พลังของวิชาจำลองนภาได้ถึงขั้นสูงสุด
ที่น่าแปลกที่สุดก็คือเมื่อผู้หญิงคนนั้นมอบศาสตร์จำลองนภาให้กับราชินีชูร่า มันช่วยให้เธอสามารถฝึกวิชาจนสำเร็จได้ในที่สุด
ในตอนแรกราชินีชูร่าคิดว่ามันเป็นเทพเจ้าที่มอบวิชาส่วนที่เหลือให้กับพวกเขา แต่ตอนนี้เธอไม่คิดอย่างนั้น
“มันไม่สำคัญว่าฉันจะเป็นเจ้าของมีดเล่มนั้นหรือไม่? เธอแค่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันทำลายล้างเผ่าชูร่าได้” หานเซิ่นพูด
“ทำไมข้าถึงต้องเชื่อเจ้า?” ราชินีชูร่าถาม
“เธอยอมมาที่นี่ไม่ใช่หรอ? นั่นหมายความว่าเธอเชื่อฉันแล้ว”
หานเซิ่นยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ “สงครามฟรังโก การบุกตีเฮลแมน การจู่โจม 4690 พวกมันต่างเป็นที่สถานการณ์ที่พลิกผันความอยู่รอดของชูร่าทั้งเผ่าพันธุ์ เธอจะแก้ปัญหาแบบนั้นได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“มันคือเจ้า!” ราชินีชูร่าจ้องมองหานเซิ่นด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ สิ่งที่หานเซิ่นพูดถึงคือเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความล่มสลายของอารยธรรมของชูร่า แต่พวกมันไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าสหพันธ์เคลื่อนไหวอย่างถูกต้องล่ะก็ ชูร่าก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ที่พวกเขารอดมาได้จนถึงตอนนี้เป็นเพราะความช่วยเหลือที่ได้รับ
“ทำไมเจ้าถึงทำอะไรแบบนี้? เจ้าเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง” ราชินีชูร่าไม่สามารถเชื่อได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะหานเซิ่น นั่นมันไม่สมเหตุสมผล
หานเซิ่นหัวเราะและพูด “ในสายตาของเธอ จักรวาลแห่งนี้คือทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ในสายตาของฉัน ชูร่าและมนุษย์ไม่ต่างอะไรไปจากของเล่น ฉันชื่นชอบสหพันธ์มากกว่า แต่ฉันก็ไม่ต้องการเห็นชูร่าถูกทำลายเช่นกัน”
ราชินีชูร่ายังคงจ้องมองหานเซิ่น เธอไม่สามารถยอมรับคำอธิบายนี้ได้
“เอาแบบนี้เป็นไง? ชูร่ายังมีประโยชน์สำหรับฉัน และฉันต้องการให้มันคงอยู่ต่อไป” หานเซิ่นพูด
“เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร? แต่ข้าจะไม่ขายเผ่าพันธุ์ของตัวเอง” ราชินีชูร่าพูดอย่างมั่นใจ
“ฉันต้องการให้เธอส่งชูร่าบางส่วนมาทำงานให้กับฉัน แต่นั่นเอาไว้ที่หลัง ในตอนนี้ฉันต้องการให้เธอพาฉันไปที่สุสานกษัตริย์ของชูร่า”
หานเซิ่นมีแผนที่จะใช้ชูร่าเป็นสายลับในอนาคตเพื่อแฝงตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเดม่อน ซึ่งงานนี่เหมาะสมกับเผ่าพันธุ์ชูร่าที่สุด
“เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้เจ้าจะฆ่าข้าก็ตาม” ราชินีชูร่ารีบพูดขึ้นมา
หานเซิ่นไม่พูดอะไร เขาเปิดวิดีโอและแสดงภาพสดจากฐานทัพของชูร่าบนดาวคาร์โดล่า
“นี่เป็นดวงดาวที่งดงามจริงๆ” หานเซิ่นมองดูดวงดาวคาร์โดล่าบนหน้าจอ
ราชินีชูร่าไม่พูดอะไร ดาวคาร์โดล่านั้นเป็นดาวทางการทหารที่สำคัญของชูร่า ดังนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ที่มันจะเป็นอะไร เธอคิดว่าหานเซิ่นกำลังพยายามจะข่มขู่เธอ และแสดงให้เธอเห็นว่าเขาทำอะไรได้ ราชินีชูร่าเชื่อว่าหานเซิ่นไร้เดียงสาเกินไปและการขู่ของเขาก็ใช้ไม่ได้ผลกับเธอ
“ฉันขอแนะนำให้เธอมองดูมันเป็นครั้งสุดท้าย เธออาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีก” หานเซิ่นพูดกับราชินีชูร่า
“ถ้าเจ้าต้องการจะข่มขู่ข้า เจ้าก็คิดผิดแล้ว” ราชินีชูร่าพูด เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร ถึงหานเซิ่นจะส่งใครบางคนไปที่ดาวดวงนั้น เพราะมันมีการป้องกันที่แน่นหนา
หานเซิ่นยิ้มและไม่พูดอะไรอีก เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นและกำหมัด ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อไม่รู้ว่าหานเซิ่นพยายามจะทำอะไร
ทันใดนั้นดาวคาร์โดล่าที่อยู่ในวิดีโอก็ถูกบดขยี้ด้วยอะไรบางอย่าง มันระเบิดจนกลายเป็นเพียงแค่กลุ่มควัน ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
อวี้หมิงเอ๋อมองไปที่หานเซิ่นและพูด “เจ้าคิดว่ากลลวงแบบนี้จะหลอกพวกเราได้อย่างนั้นหรอ?”
ราชินีชูร่าคิดเหมือนๆกัน มันไม่มีทางที่หานเซิ่นจะทำลายดวงดาวได้โดยเพียงแค่ขยับมือ มันไม่มีใครที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นในจักรวาลแห่งนี้ เขาต้องเป็นเทพเจ้าเท่านั้นถึงจะทำแบบนั้นได้
หานเซิ่นไม่อธิบายอะไร เขาพูดกับราชินีชูร่า “เธอจะใช้โทรศัพท์ก็ได้”
ราชินีชูร่าเริ่มจะกังวล เธอนำโทรศัพท์ออกมาและกดหมายเลข
ไม่นานหลังจากนั้นโทรศัพท์ก็ร่วงลงบนพื้น และเธอก็เริ่มสั่นไปทั้งตัว เธอมองหานเซิ่นอย่างไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
อวี้หมิงเอ๋อนั้นเฉลียวฉลาด มันมีเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่แม่ของเธอจะมีท่าทางแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้อยู่ดี
ราชินีชูร่าพยายามคิดหาคำอธิบายของการที่ดาวคาร์โดล่าถูกทำลายไปแบบนั้น การป้องกันของดาวคาร์โดล่านั้นแน่นหนา และมันสามารถป้องกันการโจมตีของกองทัพศัตรูด้อย่างสบายๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่ใครบางคนจะระเบิดมันแบบนั้น
นอกซะจากคนนั้นจะเป็นเทพเจ้าแล้ว ราชินีชูร่าก็ไม่สามารถคิดถึงความเป็นไปได้อย่างอื่น
“ถ้าเธอต้องการ ฉันจะทำลายดาวของชูร่าอีก บางทีอีกสัก 2-3 ดวง เธอคงจะยอมเชื่อ” หานเซิ่นพูด
เมื่อราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อได้ยินอย่างนั้น มันก็เหมือนกับว่าการได้ยินของพวกเธอหยุดทำงานไป
“ทำไมเจ้าถึงต้องการไปที่สุสานกษัตริย์ของชูร่า?” ราชินีชูร่าถาม เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อหานเซิ่น
“ฉันต้องการยืนยันเรื่องบางอย่าง อย่าได้กังวล ฉันไม่ได้สนใจในกษัตริย์ของพวกเธอ ฉันจะไม่ไปลบหลู่ร่างของพวกเขา” หานเซิ่นพูด
“ปล่อยอวี้หมิงเอ๋อไป และข้าจะพาเจ้าไปที่นั่น” ราชินีชูร่ากัดฟันพูด เธอพยายามอย่างที่สุดในการซ่อนจุดอ่อนของเธอ แต่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
“มันไม่สำคัญว่าเธอจะอยู่ที่ไหนในจักรวาลแห่งนี้ และอีกอย่างฉันก็มีงานบางอย่างให้เธอทำ” หานเซิ่นไม่มีแผนจะปล่อยเธอไป
ตอนที่ 2053
โลงศพของชูร่า
สุสานกษัตริย์ของชูร่านั้นเหนือความคาดคิดของหานเซิ่น ตัวสุสานคือดวงดาวทั้งดวง และดวงดาวก็สามารถเปลี่ยนวงโคจรได้อีกด้วย
ทางชูร่าได้เคลื่อนย้ายดวงดาวไปยังระบบในอวกาศที่รกร้าง มันมีดวงดาวอื่นๆมากมายที่เหมือนกับดวงดาวดวงนี้ ซึ่งถ้าราชินีชูร่าไม่พาเขามาที่นั่นด้วยตัวเอง มันก็ไม่มีทางที่เขาจะรู้ได้เลยว่ามันเป็นสุสานกษัตริย์ของชูร่า
ภูเขาขนาดใหญ่บนดวงดาว เปิดออก ซึ่งมันเป็นทางเข้าของสุสาน คนที่จะเข้าไปได้จำเป็นต้องมีสิ่งของอย่างหนึ่ง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สืบทอดกันเฉพาะกษัตริย์ของชูร่าเท่านั้น
หานเซิ่นเดินเข้าไปในสุสานอย่างไม่ลังเล ทั้ง 2 ข้างของเขาเต็มไปด้วยรูปปั้นของอสูร เมื่อเขาเดินเข้าไป อสูรเฝ้าสุสานก็มีชีวิตขึ้นมา พวกมันอ้าปากและปลดปล่อยพลังวิชาจำลองนภาออกมา ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกมันเทียบได้กับระดับเทพเจ้าของสหพันธ์ดวงดาว
แต่ก่อนที่พลังอันน่ากลัวจะมาถึงตัวหานเซิ่น พวกมันก็ถูกปัดออกไปเมื่อเข้ามาใกล้เกิน 3 เมตร มันเหมือนกับว่ามีม่านพลังที่มองไม่เห็นคอยปกป้องหานเซิ่นเอาไว้
ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อตกตะลึง พลังของสุสานไม่สามารถแตะต้องตัวของหานเซิ่นได้เลย มันเป็นอะไรที่ยากจะหยั่งถึงได้
ไม่มีกลลวงหรือกับดักอะไรในสุสานที่จะได้ผลกับหานเซิ่น เขาไม่แม้แต่จะหยุดถามพวกเธอเกี่ยวกับสุสาน เขาเพียงแค่เดินต่อไปเรื่อยๆ
ราชินีชูร่าหวังเอาไว้ว่าระบบการป้องกันของสุสานกษัตริย์จะลงโทษหานเซิ่น แต่ตอนนี้เธอสูญเสียความหวังทั้งหมดไป หานเซิ่นไม่ต่างอะไรไปจากเทพเจ้าอย่างแท้จริง มันไม่มีพลังอะไรสามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้
“พลังแบบนี้มีอยู่ในจักรวาลแห่งนี้ได้ยังไงกัน?” อวี้หมิงเอ๋อตกตะลึง เธอไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เห็นได้
เธอรู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป เธอไม่คิดว่าการฝึกฝนอย่างหนักจะมีประโยชน์อะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าหานเซิ่นความแข็งแกร่งของเธอก็ไร้ค่า เธอด้อยยิ่งกว่ามดตัวหนึ่ง
“ข้ามาที่นี่เพื่อนำทาง เลิกแตะต้องกับดักได้แล้ว”
ราชินีชูร่าพูดขึ้นมาและเดินผ่านหานเซิ่นไป ถ้าเธอยังคงให้หานเซิ่นเดินนำหน้าต่อ เขาก็คงจะทำให้ระบบป้องกันถูกทำลายในที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่าคนอื่นจะสามารถเข้าไปข้างในได้
ด้วยการนำทางของราชินีชูร่า ไม่นานพวกเขาก็มาถึงส่วนลึกของสุสาน มันมีโลงศพอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละโลงเป็นของกษัตริย์ของชูร่าแต่ละรุ่น
ที่ด้านหลังสุดของห้องโถงมีโลงศพรูปร่างมนุษย์อยู่ โลงศพชูร่านั้นตั้งอยู่บนแท่นบูชายัญ ตรงหน้าของมันมีสระน้ำที่แห้งเหือดไปเป็นเวลานานแล้ว มันมีขวดหลายขวดวางอยู่ข้างๆ หานเซิ่นจดจำได้ว่าพวกมันเป็นขวดจีโนฟลูอิดปริศนา
“เมื่อชีวิตของข้าสิ้นสุด ข้าจะมาที่นี่เพื่อหลับใหลไปตลอดการ” ราชินีชูร่าพูด
หานเซิ่นสังเกตรอบๆห้องโถงและพบว่ามันไม่มีแผ่นศิลาหรืออะไรที่สลักอักษรเอาไว้เลย ที่นี่เป็นเพียงแค่ห้องเปล่าที่มีโลงศพอยู่เป็นจำนวนมาก
“นี่มันหาได้ยากขนาดนั้นเลยหรอที่กษัตริย์ของชูร่าจะมาหลับใหลที่นี่น่ะ?” หานเซิ่นเปิดออร่าศาสตร์ตงเสวียนและสแกนรอบๆ
“บนดาวดวงนี้มีสุสานอยู่แห่งเดียว?”
“ใช่แล้ว มันมีแค่ที่นี่” ราชินีชูร่าตอบ
หานเซิ่นมองไปที่โลงศพและนับพวกมันทั้งหมดได้ 24 โลง
“แต่มันควรจะมีกษัตริย์มากกว่า 24 องค์ถูกไหม?”
ราชินีชูร่าส่ายหัวและพูด “ข้าไม่รู้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้รู้ถึงจำนวนของโลงศพ”
หานเซิ่นใช้จิตใจของเขาเพื่อเปิดโลงศพทั้ง 14 แต่ละโลงศพนั้นบรรจุร่างของชูร่าอยู่
“หานเซิ่น! ไหนเจ้าบอกไงว่าจะไม่แตะต้องบรรพบุรุษของพวกเรา!” อวี้หมิงเอ๋อตะโกนด้วยความโกรธ
หานเซิ่นยิ้มออกมา “นี่ไม่ใช่ร่างของกษัตริย์ชูร่า”
“อะไรนะ?” อวี้หมิงเอ๋ออึ้งไป
“ชูร่ามีกษัตริย์อยู่มากกว่า 24 องค์ ถ้านี่เป็นโลงศพของกษัตริย์ชูร่าจริงๆ มันก็ควรจะมีอยู่มากกว่า 24 โลง แถมโลงศพพวกนี้ก็ถูกใช้จนเต็มหมดแล้ว หรืออย่างน้อยๆมันก็ไม่มีโลงศพเปล่าเหลือไว้ให้กับแม่ของเธอ” หานเซิ่นหันไปมองโลงศพที่อยู่บนแท่นบูชายัญ
หานเซิ่นเดินเข้าไปและพยายามจะเปิดมัน เขาไม่สามารถใช้จิตใจสแกนสิ่งที่อยู่ในโลงศพนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยว่าภายในมีอะไรอยู่กันแน่
ตัวโลงศพมีสีเขียวเข้ม และมันก็ดูเก่ามากๆ มันไม่มีการตกแต่งหรือแกะสลักอะไรเอาไว้ โลงศพนี้ดูเรียบง่ายอย่างมาก
เป่าเอ๋อเองก็อยากเห็นภายในโลงศพชูร่านี่เช่นกัน เธอยื่นมือออกไปสัมผัสกับมัน
หานเซิ่นจับโลงศพชูร่าและพยายามจะเปิดมันออก แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
ภายในสหพันธ์ดวงดาว มันไม่ควรจะมีพลังอะไรที่หยุดยั้งเขาได้
หานเซิ่นรวบรวมพลังเพื่อลองเปิดมันอีกครั้ง แต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พลังของหานเซิ่นยังไม่สามารถทำให้มันขยับเขยื้อนได้
“ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดของชูร่าจะมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น” หานเซิ่นตื่นเต้นขึ้นมา
“ฉันจะเปิดโลงศพนี่ได้ยังไง?” หานเซิ่นหันไปถามราชินีชูร่า
“นี่เป็นโลงศพผู้ก่อตั้งของพวกเรา ไม่มีใครกล้าแตะต้องมัน ซึ่งถ้าเจ้ายังเปิดมันไม่ได้ แล้วพวกเราจะเปิดมันได้ยังไง?” ราชินีชูร่าพูด
“ไม่ ฉันรู้ว่าเธอรู้วิธีที่จะเปิดมัน” หานเซิ่นมองราชินีชูร่าด้วยสายตาเย็นชา
“นี่ไม่ใช่สุสาน ถ้าฉันเดาไม่ผิด กษัตริย์ของชูร่าไม่ได้มาตายที่นี่ เรื่องราวที่ชูร่ามาที่นี่เพื่อรอความตายเป็นแค่เรื่องโกหก พวกเขาคงจะเข้าไปในโลงศพนี้ แต่วิธีที่จะเปิดมันออกเป็นสิ่งที่มีแต่กษัตริย์ของชูร่าเท่านั้นที่รู้ ซึ่งในสถานการณ์นี้มันก็หมายถึงเธอ” หานเซิ่นพูด
สีหน้าของราชินีชูร่าดูซีดไป เธอรู้ว่าไม่สามารถปกปิดอะไรจากหานเซิ่นได้
ชูร่าพูดอย่างจำใจ “เจ้าพูดถูก กษัตริย์ของชูร่าเมื่อใกล้ถึงเวลาสิ้นอายุขัย พวกเขาจะเข้าไปในโลงศพนี่ นี่คือสิ่งที่ผู้ก่อตั้งสอนพวกเราเอาไว้ มันคือความหวังและความต้องการของกษัตริย์ทุกองค์”
“ความหวังอะไร?” หานเซิ่นถาม
“ความหวังในการดำเนินชีวิตต่อไป” ราชินีชูร่าพูดด้วยท่าทางลังเล
“มันมีคำพูดถูกเขียนไว้บนประกาศิตที่สืบทอดต่อกันในหมู่กษัตริย์ มันเขียนเอาไว้ว่าเมื่อชีวิตกำลังจะถึงจุดจบ พวกเราต้องมาที่โลกศพชูร่านี้ และโลงศพนี้จะต่ออายุขัยของพวกเราได้ มันอนุญาตให้พวกเราได้เกิดใหม่อีกครั้ง แต่ทว่าถ้าพวกเราเปิดมันก่อนถึงเวลา มันก็จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น”
หานเซิ่นรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร เขาพูดอย่างเย็นชา “เธอต้องเลือกระหว่างการเปิดโลงศพนี้ กับการเห็นทั้งเผ่าพันธุ์ชูร่าถูกทำลาย”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น