Super God Gene 2023-2035

 ตอนที่ 2023

 

ซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ

หานเซิ่นกำลังอารมณ์ไม่ดี เขาเข้ามาในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณครึ่งวันแล้ว เขาเดินทางไปแล้วกว่า 30 ไมล์ และชุดของเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ


 


ภายใต้การดูแลของยวิ๋นฉางคง หานเซิ่นมาถึงซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อมาถึงเขาก็พบว่ามันมีพลังบางอย่างฉุดรั้งร่างกายของเขาเอาไว้ เขารู้สึกมันคล้ายคลึงกับกุญแจหัวใจนภา มันแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย แต่ผลของมันเหมือนๆกัน ซึ่งก็คือมันจำกัดการเคลื่อนไหวของเขา


 


ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าทำไมผู้นำของปราสาทนภาถึงได้ใช้กุญแจหัวใจนภาใส่เขา นั่นเป็นเพราะเขาต้องการให้หานเซิ่นมีประสบการณ์การถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ผู้นำของปราสาทนภามีแผนที่จะส่งหานเซิ่นมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว


 


มันเป็นอะไรที่น่าเสียดายที่กุญแจหัวในนภายังคงไม่ถูกปลดล็อค ซึ่งถ้าพวกมันถูกปลดล็อคแล้วล่ะก็ การจำกัดการเคลื่อนไหวของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร


 


แต่ทว่าซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณไม่ได้อันตรายอย่างที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ นอกจากหินที่กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด เขาก็ยังไม่เห็นซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว


 


ยวิ๋นฉางคงบอกกับหานเซิ่นว่างานของเขาก็คือการล่าซีโน่เจเนอิค ซีโน่เจเนอิคของที่นี่เป็นอะไรที่พิเศษ และยีนของพวกมันก็ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งเขาล่ากลับไปได้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดี


 


แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ยีนซีโน่เจเนอิคเลยสักชิ้น เมื่อมันไม่มีซีโน่เจเนอิคให้เห็น มันก็ไม่มีทางที่เขาจะเอายีนของพวกมันมาได้


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็สังเกตเห็นถึงความเคลื่อนไหวของอะไรบางอย่าง แต่หลังจากที่เข้าไปสังเกตใกล้ๆ สิ่งที่ได้เห็นก็ทำให้หานเซิ่นขมวดคิ้ว


 


“หานเซิ่น!” คนๆนั้นเห็นหานเซิ่นและส่งเสียงร้องอย่างตกใจ


 


“ทำไมไม่ว่าจะไปที่ไหนข้าก็เจอเจ้า?” หานเซิ่นพูดกับไห่เอ๋อร์จากเผ่าพันธุ์โจรสลัด เขาไม่ต้องการจะพบกับเธออีกครั้ง


 


ตอนนี้ไห่เอ๋อร์กลายเป็นเอิร์ลเรียบร้อยแล้ว และพลังชีวิตของเธอก็ดูแข็งแกร่งขึ้น


 


“ข้าต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายถาม ข้าคิดว่าเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นมดไปแล้วซะอีก เจ้ากลับคืนร่างเดิมได้ยังไง?” ไห่เอ๋อร์มองหานเซิ่นอย่างสงสัย


 


“มันก็แค่กลลวงเล็กน้อยเท่านั้น จริงๆแล้วเขาไม่ได้ทำอะไร” หานเซิ่นยิ้ม เขาไม่มีอารมณ์จะมาอธิบายให้เธอฟัง


 


ไห่เอ๋อร์ยิ้มและพูด “ไหนๆโชคชะตาก็พาพวกเรามาพบกันอีกครั้ง ทำไมพวกเราไม่มาร่วมมือกันล่ะ?”


 


“ไม่ล่ะ ข้าชอบอยู่ตามลำพัง” หานเซิ่นไม่ต้องการร่วมทางกับเธอ


 


ไห่เอ๋อร์ยิ้มและพูดต่อ “แต่นี่มันโชคชะตาของพวกเรา หมอดูคนหนึ่งเคยบอกข้าว่าข้าเข้ากับคนที่โดดเดียวได้เป็นอย่างดี และนั่นหมายความว่าพวกเราเกิดมาเพื่อเป็นสหายกัน”


 


“ถ้าเจ้าอยากจะติดตามข้า ข้าก็ไม่ว่าอะไร แต่ข้าจะไม่แบ่งซีโน่เจเนอิคให้กับเจ้าแม้แต่ตัวเดียว” หานเซิ่นเริ่มเดินออกไป


 


“อ้า นี่เจ้าไม่ได้ถูกบอกมาอย่างนั้นหรอ ทางบุดด้าก็ส่งคนมาที่นี่เหมือนกัน มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขามาเจอเจ้า?”


ไห่เอ๋อร์ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร เธอยังคงพูดขึ้นมาขณะที่เดินตามหานเซิ่นไป


 


“ข้าไม่ได้กลัวเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่า แล้วข้าจะกลัวบุดด้าคนหนึ่งทำไม? และถึงแม้ข้าจะกลัว การร่วมมือกับเจ้าจะทำให้ข้าหายกลัวหรือยังไง?” หานเซิ่นพูด


 


“คนที่ทางบุดด้าส่งมาเป็นระดับมาร์ควิส ถึงเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งอย่างบุดด้าเจ็ดวิญญาณ แต่เขาก็เป็นบุคคลอันตราย แต่ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจำเป็นต้องรู้ สิ่งสำคัญที่เจ้าจำเป็นต้องรู้ก็คือทางบุดด้าร่วมกับกับเผ่าเดม่อน เดม่อนเป็นศัตรูของปราสาทนภา และพวกเขาก็ส่งคนที่มีชื่อว่าชารอนมาที่นี่ นี่เจ้ารู้ตัวไหมว่าตอนนี้เจ้ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากแค่ไหน?” ไห่เอ๋อร์พูด


 


“ชารอนที่พูดถึงนั่นเป็นใคร?” หานเซิ่นถามขึ้นมาอย่างขาดความกระตือรือร้น ราวกับว่าเขาไม่สนใจเลยสักนิด


 


“เจ้าไม่รู้จักชารอนอย่างนั้นหรอ?” ไห่เอ๋อร์ถามหานเซิ่นด้วยความแปลกใจ


 


“นี่ข้าจำเป็นต้องรู้หรือว่าเขาเป็นใคร?” หานเซิ่นพูด


 


ในที่สุดไห่เอ๋อร์ก็เชื่อว่าหานเซิ่นไม่รู้จริงๆ เธอจึงพูดต่อ


“เจ้าเป็นถึงลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีด แต่เจ้ากลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย? นี่เจ้าเคยได้ยินชื่อของไผ่เดียวดายในปราสาทนภาหรือเปล่า?”


 


“เคย” หานเซิ่นพูด


 


“ชื่อเสียงของชารอนในเผ่าเดม่อนก็เหมือนกับไผ่เดียวดายในปราสาทนภา พวกเขามักจะถูกพูดเปรียบเทียบกันเสมอ แต่ตอนนี้ชารอนกลายเป็นมาร์ควิสเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเจ้าก็ควรจะรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าต้องไปเจอกับเขาน่ะ” ไห่เอ๋อร์พูด


 


“ผู้คนก็พูดว่าข้าทัดเทียมกับไผ่เดียวดายเช่นเดียวกัน นั่นหมายความข้าไม่จำเป็นต้องกลัวชารอนอะไรนั่น” หานเซิ่นหัวเราะ


 


“นี่เจ้าพูดบ้าอะไร? เจ้าเกือบที่จะถูกบุดด้าเจ็ดวิญญาณฆ่าอยู่หยกๆ ชารอนนั้นเหนือกว่าบุดด้าเจ็ดวิญญาณมากนัก” ไห่เอ๋อร์มองหานเซิ่นอย่างดูถูก


 


หานเซิ่นหัวเราะและไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากปราสาทนภาไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอก ข่าวภายในจึงไม่ได้ถูกแพร่สะพัดออกไป มีคนนอกเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องของหานเซิ่นกับไผ่เดียวดาย


 


“แต่ถึงข้าจะกลัวชารอน การมีเจ้าติดตามไปด้วยมันจะช่วยอะไรได้? อย่าบอกนะว่าเจ้าต่อสู้กับเขาได้น่ะ” หานเซิ่นพูด


 


“ข้าเอาชนะเขาไม่ได้ แต่ข้ารู้ว่ามันมีสถานที่ลับแห่งหนึ่งในซีโน่เจเนอิคสเปชนี้ ข้าพาเจ้าไปที่นั่นได้ และเจ้าก็จะได้ล่าซีโน่เจเนอิคโดยไม่เจอกับชารอน เจ้าอยากจะร่วมมือกับข้าขึ้นมาแล้วใช่ไหม? พวกเราจะแบ่งซีโน่เจเนอิคกันคนละครึ่ง และข้าก็จะช่วยเจ้าฆ่าพวกมันด้วย” ไห่เอ๋อร์พูด


 


“นั่นก็ฟังดูไม่เลว มันเป็นสถานที่แบบไหนกันล่ะ?”


หานเซิ่นเดินมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เจอซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว เขาคิดว่าถ้ายังเดินทางตามลำพัง มันก็คงจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่นัก


 


“สถานที่แห่งนั้นเป็นความลับสุดยอด คนที่ทางโจรสลัดส่งมาที่นี่ในครั้งก่อนๆเจอมันเข้าโดยบังเอิญ มันไม่ควรจะมีใครหาที่นั่นเจอถ้าไม่มีข้านำทาง” ไห่เอ๋อร์ดูโอ้อวด


 


“ถ้ามันดีอย่างที่เจ้าบอกจริงๆล่ะก็ ข้าก็จะร่วมมือกับเจ้า” หานเซิ่นพูด


 


“แน่นอนอยู่แล้ว พวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลย”


ไห่เอ๋อร์พูด หลังจากที่พวกเขาเจอกันบนดาวของบุดด้า เธอก็เริ่มเข้าใจในตัวของหานเซิ่น เธอรู้ว่าหานเซิ่นสามารถเชื่อใจได้ และตราบใดที่เขาได้รับผลประโยชน์บางอย่าง เขาก็จะไม่ทรยศเธอ


 


นองจากนั้นไห่เอ๋อร์ยังมีอาวุธลับไว้ใช้ป้องกันตัวอีก เธอจึงไม่กลัวว่าจะถูกหานเซิ่นหักหลัง


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ติดตามไห่เอ๋อร์ไป รอบๆนั้นมีหินอยู่เต็มไปหมด แต่มันก็มีเพียงแค่นั้น มันไม่มีสถานที่ให้หลบซ่อนตัวอะไร ดังนั้นโอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตหลบซ่อนอยู่จึงแทบจะเป็นศูนย์


 


ทั้ง 2 คนเดินทางไปหลายสิบไมล์ และด้วยพลังบางอย่างของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ พวกเขาก็เหงื่อท่วมตัวราวกับว่าเพิ่งจะขึ้นมาจากน้ำ


 


“ถึงแล้ว ที่นี่แหละ” ไห่เอ๋อร์มองแผนที่และมาหยุดอยู่ที่รอยแยกแห่งหนึ่ง


 


หานเซิ่นมองไปที่รอยแยกนั้นและสังเกตเห็นว่ามันเข้าไปได้เพียงแค่ทีละคนเท่านั้น มันมีช่องว่างแบบนี้มากมายในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ


 


ไห่เอ๋อร์นั้นเข้าไปก่อนและหานเซิ่นก็ตามเธอเข้าไป ทั้งคู่เคลื่อนที่ตามรอยแยกไปหลายไมล์จนกระทั่งพื้นที่เริ่มเปิดกว้างออก


 


ภายในรอยแยกนั้นเป็นถ้ำขนาดใหญ่ หานเซิ่นเห็นรูปปั้นที่ทำมาจากหินตั้งอยู่ข้างใน มันมีความสูงหนึ่งร้อยเมตร ซึ่งเมื่อต่อหน้ารูปปั้น หานเซิ่นและไห่เอ๋อร์ก็ตัวเล็กเหมือนกับมด

 

 

 


ตอนที่ 2024

 

แมงมุมหน้าผี

หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่ามันรูปปั้นของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อะไรกันแน่ หัวของมันเป็นแกะ ส่วนร่างกายเหมือนของมนุษย์ หลังของมันมีปีกงอกออกมา มันดูเหมือนกับเทพเจ้าแกะสมัยก่อน


 


“ทำไมที่นี่ถึงได้มีรูปปั้นตั้งอยู่? พวกซีโน่เจเนอิคเป็นคนสร้างมันขึ้นมาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสับสน


 


กระเรียนพันขนได้บอกหานเซิ่นเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณมาบ้างเล็กน้อย แต่คนรุ่นใหม่ของเผ่าพันธุ์นภาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าซีโน่เจเนอิคของที่นี่จริงๆแล้วเป็นยังไง


 


ไห่เอ๋อร์พูด “มันไม่ใช่รูปปั้น แต่มันเป็นบ้านของซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ”


 


“บ้าน?” หานเซิ่นประหลาดใจ เขามองไปที่รูปปั้นอีกครั้ง


 


“ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นทำไมพวกมันถึงถูกเรียกว่าซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ? นั่นเป็นเพราะซีโน่เจเนอิคพวกนี้อาศัยอยู่ในรูปปั้นสมัยโบราณ เจ้ามาที่นี่โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างนั้นหรอ? นี่ราชินีแห่งมีดไม่ได้บอกอะไรเจ้าเลยหรือยังไง?”


 


หานเซิ่นไหล่ตก เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้นำของปราสาทนถาถึงทำแบบนี้ การที่เขาส่งหานเซิ่นมาที่นี่โดยไม่บอกอะไรเลยเป็นอะไรที่แปลก หานเซิ่นไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่


 


ไห่เอ๋อร์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นมา เธอจึงรีบเข้าไปซ่อนตัวในรอยแยก


 


หานเซิ่นมองไปทางเสียงที่ดังมา เสียงนั้นดังก้องรอบทิศทาง แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่ามันดังออกมาจากรูจมูกของรูปปั้น


 


ไม่นานหลังจากนั้นก็มีแมงมุมที่มีความกว้าง 3 เมตรคืบคลานออกมาจากรูจมูกของรูปปั้น


 


แมงมุมตัวนั้นมีร่างกายดูเหมือนกับโลหะ และลวดลายบนหลังของมันก็ดูเหมือนกับใบหน้าของมนุษย์


 


“นี่คือซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ แมงมุมหน้าผี มันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ล อย่าเพิ่งลงมือทำอะไร พวกมันมักจะอยู่กันเป็นกลุ่ม ดังนั้นมันต้องมีอีกหลายตัวอยู่ข้างในรูปปั้นนั้น พวกเราควรจะวางแผนก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตกอยู่ในวงล้อมของพวกมัน” ไห่เอ๋อร์พูด


 


หานเซิ่นมองไปที่แมงมุมหน้าผีพร้อมกับครุ่นคิด เขาเคยต่อสู้กับแมงมุมแบบนี้มาก่อนในความฝันที่ถูกส่งเข้าไป ความจริงแล้วเขาเคยต่อสู้กับพวกมันเป็นจำนวนมาก เขาจึงรู้ดีว่าแมงมุมนี้มีพลังแบบไหน


 


‘ที่แท้ความฝันก็มีไว้สำหรับฝึกเราในเรื่องนี้ แต่ทำไมเจ้าม้านั้นถึงไม่บอกกับเราตรงๆ? ทำไมมันต้องพยายามทำให้เราหวาดกลัวแบบนั้นด้วย?’ หานเซิ่นสงสัย


 


แต่หานเซิ่นรู้ว่าถ้าผู้นำของปราสาทนภารวบรวมข้อมูลของซีโน่เจเนอิคทั้งหมดมาให้กับเขา เขาก็จะแค่มองมันผ่านๆเท่านั้น และเขาก็คงจะไม่ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพวกมันอย่างจริงจัง


 


แต่ทว่าเมื่อได้ต่อสู้กับพวกมันในความฝัน หานเซิ่นก็สามารถจดจำซีโน่เจเนอิคแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน


 


หานเซิ่นเรียกมนตราออกมาในร่างปืนไรเฟิล หลังจากนั้นเขาเล็งปืนไปยังแมงมุมหน้าผีที่ออกมาจากรูจมูกของรูปปั้น


 


“เจ้ากำลังจะทำอะไร? เจ้าคงไม่คิดจะยิงแมงมุมหน้าผีจากระยะนี้หรอกใช่ไหม? แมงมุมหน้าผีเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลที่แข็งแกร่งมากๆนะ!” ไห่เอ๋อร์ตกใจกับการกระทำของหานเซิ่น


 


ไห่เอ๋อร์รู้ว่าหานเซิ่นสามารถฆ่าแมงมุมหน้าผีได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่ระยะระหว่างพวกเขากับแมงมุมหน้าผีนั้นมากถึง 3 กิโลเมตร ซึ่งพลังของเอิร์ลจะอ่อนลงในการโจมตีระยะไกล ดังนั้นมันคงจะไม่มากพอที่จะฆ่าแมงมุมหน้าผีได้


 


ปัง!


 


เสียงปืนดังขึ้นและกระสุนก็พุ่งไปที่หลังของแมงมุม บริเวณดวงตาข้างซ้ายบนลวดลายของใบหน้าคือจุดอ่อนของพวกมัน หานเซิ่นเคยฆ่าพวกมันไม่รู้กี่ตัวในความฝัน ดังนั้นเขารู้เกี่ยวกับพวกมันเป็นอย่างดี


 


เลือดเริ่มไหลออกมาจากบาดแผลบนหลังของแมงมุม หลังจากนั้นมันก็ร่วงลงมาที่พื้น


 


“ซีโนเจเนอิคแมงมุมหน้าผีถูกฆ่า ยีนซีโนเจเนอิคถูกพบ” เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น


 


ไห่เอ๋อร์ตกตะลึง พลังของหานเซิ่นแข็งแกร่งกว่าเอิร์ลทั่วๆไปมาก เขาสามารถฆ่าซีโนเจเนอิคที่อยู่ในระยะไกลได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว


 


หลังจากที่เสียงปืนดังขึ้น แมงมุมจำนวนมากก็เริ่มหลั่งไหลออกมาจากรูปปั้น แต่ทัศน์วิสัยและสัมผัสของพวกมันค่อนข้างจำกัด ทำให้พวกมันไม่สามารถหาตำแหน่งของหานเซิ่นได้


 


ปัง!


 


เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง และกระสุนก็พุ่งเข้าไปที่แผ่นหลังของแมงมุมอีกตัว


 


เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแมงมุมก็เริ่มร่วงหล่นลงมาจากรูปปั้นไปตามๆกัน พวกมันไม่ค่อยมีสติปัญหา และดูเหมือนพวกมันจะพึ่งพาสัญชาตญาณเท่านั้น พวกมันไม่สามารถหาตำแหน่งของหานเซิ่นได้


 


หานเซิ่นฆ่าแมงมุมหน้าผีไปทีละตัวๆ และในเวลาไม่ถึงนาที เขาก็ฆ่าพวกมันได้หลายสิบตัว ไห่เอ๋อร์มองหานเซิ่นด้วยความตกตะลึง เธออึ้งจนทำอะไรไม่ถูก


 


ไห่เอ๋อร์รู้สึกหนาวขึ้นมา อาวุธจีโนที่ดูเหมือนกับปืนของหานเซิ่นมีระยะการจู่โจมที่น่าเหลือเชื่อ เธอไม่มีทางจะรู้ตัวได้เลยถ้าหานเซิ่นตัดสินใจที่จะใช้มันลอบสังหารเธอ เธอมั่นใจว่าสามารถหลีกเลี่ยงมันได้ถ้ามีโอกาสได้เตรียมตัว แต่เธอไม่สามารถระวังตัวอยู่ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน พลังของหานเซิ่นเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไป


 


และเขายังเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง ถ้าเขากลายเป็นราชันหรือเทพเจ้าเมื่อไหร่ เขาก็คงจะฆ่าศัตรูโดยการยิงจากอีกฝากของดวงดาว


 


แมงมุมหน้าผียังคงหลั่งไหลออกมาเต็มไปหมด และพวกมันก็ปล่อยใยออกไปทั่ว พวกมันไม่รู้ว่าหานเซิ่นอยู่ที่ไหน ดังนั้นพวกมันจึงทำได้แต่ปล่อยใยออกไปแบบมั่วๆ แมงมุมยังคงถูกยิงร่วงลงมาทีละตัวๆราวกับว่าพวกมันเป็นเป้าสำหรับฝึกซ้อม


 


หลังจากที่ฆ่าแมงมุมหน้าผีไปร้อยตัว ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประกาศว่าเขาได้รับวิญญาณอสูร


 


หานเซิ่นยังคงฆ่าพวกมันต่อไป แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องประหลาดดังขึ้นมา มันดังออกมาจากปากของรูปปั้น หลังจากนั้นก็มีแมงมุมที่ตัวใหญ่กว่าตัวอื่นๆถึง 2 เท่าออกมา


 


“นั่นคือแมงมุมหน้าผีระดับมาร์ควิส!” ไห่เอ๋อร์ตะโกนขึ้นมา


 


หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาหยุดยิงและรอจนกระทั่งแมงมุมหน้าผียักษ์เผยแผ่นหลังของมันออกมา จากนั้นเขาก็เหนี่ยวไก


 


ปัง!


กระสุนพุ่งออกไปถูกเข้าที่แผ่นหลังของแมงมุมหน้าผีและเจาะเข้าไปในดวงตาข้างซ้ายของลวดลายรูปใบหน้า หลังจากนั้นแมงมุมหน้าผีระดับมาร์ควิสก็ร่วงลงมา


 


ไห่เอ๋อร์มองหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ เขาสามารถสังหารซีโนเจเนอิคระดับมาร์ควิสได้จากระยะไกลด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถจะหยั่งถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่นได้อีกแล้ว


 


‘มันเพิ่งจะผ่านมาไม่นาน ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้?’


ตอนนี้ในสายตาของไห่เอ๋อร์ หานเซิ่นเปลี่ยนไปเหมือนกับเป็นคนละคน


 


ไห่เอ๋อร์คิดว่าตัวเธอพัฒนาได้อย่างรวดเร็วแล้ว แต่มันเห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นพัฒนาเร็วกว่าเธอมาก

 

 

 


ตอนที่ 2025

 

จุดเริ่มต้นของเทพโบราณ

โดยรวมแล้ว หานเซิ่นฆ่าแมงมุมหน้าผีระดับเอิร์ลไปทั้งหมด 187 ตัวและระดับมาร์ควิสอีก 2 ตัว ซึ่งทุกตัวถูกฆ่าด้วยการยิงเพียงนัดเดียว


 


พลังของหานเซิ่นเป็นอะไรที่น่ากลัว การที่ได้ฝึกฝนภายในความฝันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ ถ้าเขาไม่ได้ประสบกับฝันร้ายนั่น เขาก็คงจะไม่รู้ถึงจุดอ่อนของแมงมุมหน้าผี


 


แต่ถึงเขาจะฆ่าแมงมุมหน้าผีไปเป็นจำนวนมาก เขาก็ได้รับวิญญาณอสูรมาเพียงแค่ดวงเดียวเท่านั้น


 


หานเซิ่นรอให้แน่ใจว่าจะไม่มีแมงมุมตัวไหนออกมาจากรูปปั้นอีก หลังจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ออกมาจากรอยแยก


 


ซีโน่เจเนอิคของที่นี่แตกต่างจากที่อื่นๆ ยีนซีโน่เจเนอิคของแมงมุมหน้าผีก็คือลูกบอลเล็กๆ พวกมันดูเหมือนกับไข่มุก


 


หานเซิ่นเริ่มตัดร่างของแมงมุมและเก็บลูกบอลน้อยๆขึ้นมา แต่ไห่เอ๋อร์ยังคงดูลังเล เธอไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้นเธอไม่คิดว่าตัวเองควรจะได้รับส่วนแบ่ง


 


แต่หานเซิ่นเก็บพวกมันขึ้นมาเพียงแค่ครึ่งเดียว เขาเก็บยีนซีโน่เจเนอิคเข้าไปในกระเป๋าและเริ่มปีนขึ้นไปบนรูปปั้น


 


ไห่เอ๋อร์จึงไม่ลังเลที่จะเก็บยีนซีโน่เจเนอิคที่หานเซิ่นเหลือไว้ขึ้นมา


 


ถ้าไม่มีการนำทางของไห่เอ๋อร์ หานเซิ่นก็ไม่มีทางจะหาถ้ำแห่งนี้เจอ ดังนั้นหานเซิ่นจึงคิดว่าการแบ่งให้กับเธอครึ่งหนึ่งเป็นอะไรที่ยุติธรรม เพราะยังไงข้อมูลของเธอก็เป็นอะไรที่มีค่ามากกว่า แถมผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับก็ไม่ใช่เพียงแค่นี้ เพราะยังไงการเดินทางก็ยังไม่สิ้นสุด ภายในถ้ำแห่งนี้ยังมีของดีรอพวกเขาอยู่


 


ไห่เอ๋อร์เก็บยีนซีโน่เจเนอิคเข้ากระเป๋าและเดินตามหลังหานเซิ่นไป เธอปีนขึ้นไปบนไหล่ของรูปปั้น


 


“พวกเราควรจะเข้าไปทางไหนดี?” หานเซิ่นถามขณะที่สังเกตหัวของรูปปั้น


 


ด้วยความรู้ของเขาเกี่ยวกับแมงมุมหน้าผี เขารู้ว่าต้นกำเนิดของพวกมันเป็นกระบวนการที่แปลกประหลาด และถ้าต้นกำเนิดของพวกมันไม่ถูกทำลาย แมงมุมหน้าผีก็จะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ


 


“โดยปกติแล้วปากของรูปปั้นจะใกล้กับจุดเริ่มต้นของเทพโบราณมากที่สุด” ไห่เอ๋อร์พูด


 


“จุดเริ่มต้นของเทพโบราณคืออะไร?” หานเซิ่นถาม


 


“นี่เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรอ?” ไห่เอ๋อร์ประหลาดใจ แต่เธอรู้ว่าหานเซิ่นไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกอะไร ดังนั้นเธอจึงเริ่มอธิบาย


“จุดเริ่มต้นของเทพโบราณคือสิ่งที่ให้กำเนิดซีโน่เจเนอิคพวกนี้ มันก็คือของที่ล้ำค่าที่สุดในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ ถ้าเจ้านำมันไปได้ เจ้าก็จะให้กำเนิดซีโน่เจเนอิคเทพโบราณออกมาได้เรื่อยๆ นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับเผ่าพันธุ์ชั้นสูง”


 


หานเซิ่นพยักหน้าและเริ่มปีนเข้าไปในปากของรูปปั้น


 


ไห่เอ๋อร์ตามหานเซิ่นเข้าไป ซึ่งภายในมีเส้นทางที่กว้างเพียงแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้นและเพดานก็ต่ำมากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องก้มตัวลง


 


“ถ้าเจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ทำไมเจ้าถึงตัดสินใจเข้ามาในรูปปั้นนี้?” ไห่เอ๋อร์ถามขึ้นด้วยความสงสัย


 


หานเซิ่นไม่ตอบ เขาไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นของเทพโบราณคืออะไรจริงๆ เขาเพียงแค่เคยเห็นมันในความฝันเท่านั้น


 


การเดินทางภายในรูปปั้นนั้นง่ายกว่าที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ บางทีนั่นอาจจะเป็นเพราะเขาฆ่าแมงมุมหน้าผีไปหมดแล้ว พวกเขาไม่ได้เจอกับแมงมุมเลยสักตัวในระหว่างการเดินทางภายในรูปปั้น


 


พวกเขาเดินทางอยู่ภายในรูปปั้น 2-3 ชั่วโมง และในที่สุดพวกเขาก็พบจุดเริ่มต้นของเทพโบราณ


 


มันเป็นแผ่นศิลาที่มีขนาดพอๆกับฝ่ามือ มันเป็นแผ่นหินสีเทาที่มีลวดลายเหมือนกับบนหลังของแมงมุมหน้าผี มันกำลังเรืองแสงสีแดงออกมา


 


ไห่เอ๋อร์หยิบมันออกมาจากช่องหิน และเมื่อเธอทำอย่างนั้นลวดลายบนแผ่นหินก็เริ่มมืดมัวลง แสงสีแดงที่เรืองออกมาค่อยๆจางหายไป


 


“มันมีอยู่เพียงแค่อันเดียวเอง ถ้าเจ้าต้องการล่ะก็ เจ้าก็เอามันไปก่อน”


ไห่เอ๋อร์ส่งจุดเริ่มต้นของเทพโบราณแมงมุมหน้าผีให้กับหาเนซิ่น


 


“เจ้าเอามันไปเถอะ ข้าจะเอาอันต่อไป”


หานเซิ่นไม่ได้รับจุดเริ่มต้นของเทพโบราณมาจากเธอ เขาจำได้ว่าแมงมุมหน้าผีเป็นสายพันธุ์ที่อ่อนแอ


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็หันหลังและเดินทางออกจากที่นั่น


 


ร่างกายของพวกเขายังคงถูกจำกัดการเคลื่อนไหวโดยซีโน่เจเนอิคสเปช พวกเขาจึงไม่สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วนัก เมื่อพวกเขาออกมาได้แล้ว พวกเขาก็ปีนลงจากรูปปั้นและเดินทางไปยังถ้ำที่อยู่ใกล้ๆ


 


“เจ้ามอบจุดเริ่มต้นของเทพโบราณนี้ให้กับข้า เจ้าไม่กลัวว่าพวกเราจะไม่มีจุดเริ่มต้นอื่นอีกอย่างนั้นหรอ?”


ไห่เอ๋อร์พูดขณะที่กำลังโยนจุดเริ่มต้นของเทพโบราณเล่นและยิ้มให้กับหานเซิ่นจากด้านหลัง


 


“ไม่เป็นไร รับมันไปในฐานะรางวัลสำหรับข้อมูลที่เจ้ามอบให้กับข้า” หานเซิ่นพูดอย่างไม่คิดอะไรมาก


 


“ข้าเริ่มที่จะชอบเจ้าขึ้นมาแล้วจริงๆ ถ้ารีเบทไม่ต้องการเจ้าแล้วล่ะก็ เจ้าจะมาอยู่กับพวกเราโจรสลัดก็ได้” ไห่เอ๋อร์พูด


 


“พวกเราค่อยพูดกันถึงเรื่องนั้นเมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆ” หานเซิ่นพูดอย่างขาดความกระตือรือร้น เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก


 


หานเซิ่นเคยได้ยินกับเผ่าพันธุ์โจรสลัดมาก่อน พวกเขาเป็นกลุ่มหัวขโมย สิ่งที่ถูกพวกเขาขโมยไปมีมายมายนับไม่ถ้วน และพวกเขาก็ไม่ได้ขโมยของล้ำค้าจากสิ่งมีชีวิตธรรมดาๆเท่านั้น พวกเขาขโมยแม้แต่ของล้ำค่าของเผ่าพันธุ์ชั้นสูง และกลายเป็นศัตรูของหลากหลายเผ่าพันธุ์


 


แต่เนื่องจากเผ่าพันธุ์โจรสลัดยิ่งใหญ่และด้วยเหตุผลอื่นๆอีก มันจึงไม่มีใครทำอะไรเพื่อหยุดพวกเขาได้


 


หานเซิ่นไม่ต้องการจะเป็นหัวขโมย ถึงแม้ไห่เอ๋อร์จะเชิญชวนเขาอย่างจริงใจ แต่เขาก็จะปฏิเสธข้อเสนอของเธอ นอกจากนั้นไห่เอ๋อร์ยังเป็นคนที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ ใครจะรู้ว่าเธอมีแผนการอะไรแอบแฝงหรือเปล่า?


 


หลังจากผ่านรูปปั้นนั้นไปมันก็มีแค่เส้นทางเดียวให้ไป แต่หลังจากที่เดินตามทางนั้นไป 8 ไมล์ พวกเขาก็ยังไม่เห็นทางแยกอื่นเลยแม้แต่ทางเดียว


 


แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียงของน้ำ มันคล้ายคลึงกับเสียงของน้ำตกขนาดใหญ่


 


พวกเขาเดินต่อไปอีก 3 ไมล์ และในที่สุดเส้นทางก็เปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง ซึ่งข้างหน้าพวกเขาก็มีน้ำตกอยู่จริงๆ


 


ด้านหลังของน้ำตกมีรูปปั้นสีเงินตั้งอยู่ น้ำตกนั้นไหลออกมาจากสะดือของรูปปั้น


 


รูปปั้นมีร่างกายท่อนล่างเหมือนกับม้า ส่วนร่างกายท่อนบนเป็นของมนุษย์ และส่วนหัวเป็นของนก ด้านหลังของรูปปั้นยังมีปีกอีกด้วย มันดูเป็นอะไรที่แปลกประหลาด


 


“คนของเจ้าได้บอกไหมว่าซีโน่เจเนอิคแบบไหนที่อาศัยอยู่ภายในรูปปั้นนี้” หานเซิ่นถามไห่เอ๋อร์


 


ไห่เอ๋อร์ส่ายหัว “ข้าไม่รู้ ในตอนที่เขามาพบที่นี่โดยบังเอิญ เขากำลังบาดเจ็บหนัก เขาไม่ได้แตะต้องรูปปั้นก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ”


 


ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน มันมีมอนสเตอร์สีเงินออกมาจากน้ำใต้รูปปั้น มันว่ายทวนกระแสน้ำตกและเข้าไปในสะดือของรูปปั้นสีเงิน

 

 

 


ตอนที่ 2026

 

ซีโน่เจเนอิคปีกเงิน

ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับว่าทั้งตัวถูกทำขึ้นมาจากเงิน มันมีลักษณะเหมือนกับด้วงไทรโลไบต์ แต่ทว่ามันมีความยาวถึง 1 เมตร


 


เมื่อหานเซิ่นเห็นซีโน่เจเนอิคสีเงินที่ดูเหมือนกับด้วงไทรโลไบต์ เขาก็ขมวดคิ้ว เนื่องจากในความฝันเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคแบบนี้


 


‘มันมีซีโนเจเนอิคเทพโบราณที่ดรีมบีสต์ไม่รู้จักด้วยอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นครุ่นคิด เขายังไม่พร้อมที่จะลงมือทำอะไร


 


ที่หานเซิ่นลงมือฆ่าแมงมุมหน้าผีอย่างมั่นใจ นั่นเป็นเพราะเขารู้เกี่ยวกับพวกมัน แต่การเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ไม่รู้จักเป็นอะไรที่อันตราย


 


“เจ้ารู้จักซีโนเจเนอิคนี่ไหม?” หานเซิ่นหันไปหาไห่เอ๋อร์


 


ไห่เอ๋อร์ส่ายหัว “เจ้าควรจะยิงลงไปน้ำสักนัด บางทีมันอาจจะมีซีโนเจเนอิคสีเงินตัวอื่นซ่อนอยู่ในน้ำ”


 


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เนื่องจากยังไม่รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร เขาจึงไม่อยากจะยิงกระสุนออกไปมั่วๆ แมงมุมหน้าผีนั้นขาดสติปัญญา ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถหาตำแหน่งของเขาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าซีโนเจเนอิคตัวอื่นจะเป็นเหมือนกัน การโจมตีออกไปแบบมั่วๆอาจจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย


 


พวกเขาตกอยู่ภายใต้พลังของซีโนเจเนอิคสเปชเทพโบราณ และถึงแม้มันจะไม่ได้มีผลต่อความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ความเร็วของพวกเขาก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจึงไม่สามารถทำอะไรเสี่ยงๆได้


 


หลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ปลายนิ้วของหานเซิ่นก็มีแก๊สสีแดงไหลออกมา ก่อนที่จะก่อตัวเป็นยมทูตที่ถือเคียวคริสตัลสีแดง หลังจากนั้นมันก็บินไปรอบๆถ้ำแห่งนั้น


 


ไห่เอ๋อร์มองดูยมทูตสีแดงด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอเคยชินกับเรื่องที่หานเซิ่นมีกลยุทธ์ลับต่างๆมากมาย แต่เธอก็ยังรู้สึกสนใจที่จะดูว่ายมทูตสีแดงมีความสามารถแบบไหน


 


เมื่อยมทูตสีแดงไปถึงผิวน้ำ น้ำก็ระเบิดขึ้นมา ซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับด้วงไทรโลไบต์โผล่ขึ้นมาจากน้ำเพื่อจะกลืนกินยมทูตสีแดง


 


แต่ทว่ายมทูตสีแดงตอบสนองอย่างรวดเร็ว และมันก็ใช้เคียวฟันเข้าใส่เปลือกสีเงินของด้วง แต่มันทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยบางๆเอาไว้เท่านั้น มันไม่สามารถเจาะทะลุเปลือกของซีโน่เจเนอิคสีเงินเข้าไปได้


 


ปัง! ปัง! ปัง!


ซีโน่เจเนอิคสีเงินกระโดดออกมาจากน้ำอีกหลายตัว พวกมันเป็นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงเข้าใส่ยมทูตสีแดง


 


ยมทูตสีแดงไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีรอบด้านได้ โชคดีที่ยมทูตสีแดงก่อตัวขึ้นมาจากควัน ซึ่งหลังจากที่ซีโน่เจเนอิคสีเงินทำลายร่างควันของมัน มันก็สามารถก่อตัวขึ้นมาได้ใหม่


 


แต่เหล่าซีโน่เจเนอิคสีเงินไม่คิดที่จะยอมแพ้ พวกมันพยายามโจมตีใส่ยมทูตสีแดงซ้ำๆ


 


เมื่อขากรรไกรของซีโน่เจเนอิคปิดลงใส่เคียงของยมทูตสีแดง อาวุธนั้นก็ถูกกัดออกไป หลังจากนั้นซีโน่เจเนอิคสีเงินก็กระโดดขึ้นมาจากน้ำเพื่อกัดเคียวของยมทูตมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้นไม่นานเคียวก็ถูกกัดจนแหลกเป็นชิ้นๆ


 


เคียวคริสตัลเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของยมทูตสีแดง แต่มันก็เป็นจุดอ่อนที่สุดอีกด้วย เมื่อมันแหลกเป็นชิ้นๆ ยมทูตสีแดงก็จางหายไป


 


หลังจากที่ยมทูตสีแดงหายไปแล้ว ซีโน่เจเนอิคสีเงินก็เริ่มว่ายไปมาในน้ำ เหมือนกับฝูงจระเข้ที่กำลังหิวกระหายเนื้อของมนุษย์


 


“พวกมันมีเกล็ดที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นพละกำลังของพวกมันก็จัดอยู่ในระดับสูงของระดับเอิร์ลด้วย แถมพวกมันยังมีอยู่เป็นสิบๆตัว นี่คงจะเป็นอะไรที่หินน่าดู” หานเซิ่นพูด


 


ถ้าเขาแค่ต้องรับมือกับซีโน่เจเนอิคสีเงินระดับเอิร์ล เขาก็คงจะไม่หวาดกลัวอะไร แต่ถ้าพวกระดับเอิร์ลยังแข็งแกร่งขนาดนั้นแล้ว ศักยภาพของพวกระดับมาร์ควิสก็ยากที่จะจินตนาการได้


 


หลังจากที่หานเซิ่นก่อตัวยมทูตสีแดงขึ้นมาใหม่ เขาก็ส่งมันออกไปอีกครั้ง


 


เหล่าซีโน่เจเนอิคยังคงไม่ได้ว่ายลึกลงไปในน้ำ ดังนั้นเมื่อยมทูตสีแดงบินเข้ามาอีกครั้ง พวกมันก็กระโดดขึ้นมาเพื่อจู่โจมยมทูตสีแดงในทันที


 


หานเซิ่นเรียกมนตราออกมาในร่างปืนอาร์พีจีและวางมันลงบนไหล่ ก่อนที่จะยิงออกไปโดยเล็งไปที่ยมทูตสีแดง


 


พวกซีโน่เจเนอิคสีเงินสิบกว่าตัวที่กระโดดเข้าหายมทูตสีแดงถูกจรวดพุ่งเข้าใส่เต็มๆ


 


ตูม!


แสงสีขาวระเบิดขึ้นท่ามกลางฝูงซีโน่เจเนอิคสีเงิน ทำให้พวกมันแต่ละตัวกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง


 


แต่ร่างของเหล่าซีโน่เจเนอิคสีเงินเรืองออกมาด้วยออร่าแปลกๆ ซึ่งแรงระเบิดของจรวดไม่สามารถทำลายม่านพลังป้องกันของพวกมันได้


 


“นั่นเป็นพลังป้องกันที่สุดยอดอะไรแบบนี้ แม้แต่มนตราในร่างปืนอาร์พีจีก็ยังทำอะไรพวกมันไม่ได้” หานเซิ่นชื่นชมพวกมัน


 


“ทำไมเจ้ายังมัวยืนนิ่งอยู่อีก? วิ่ง!” ไห่เอ๋อร์พูด ก่อนที่จะเริ่มวิ่งออกไป


 


ซีโน่เจเนอิคสีเงินกำลังตะเกียกตะกายเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง พวกมันรวดเร็วจนน่าตกใจ


 


แต่หานเซิ่นยังคงไม่ขยับเขยื้อน เขายังคงยืนปักหลักและยิงจรวดออกไปใส่พวกซีโน่เจเนอิคสีเงินอีกครั้ง


 


แต่ทว่าครั้งนี้เขาได้ใส่พลังของวิชาเต่าเอาไว้ที่หัวของจรวด


 


ตูม!


จรวดพุ่งไประเบิดท่ามกลางพวกซีโน่เจเนอิคสีเงินที่คืบคลานเข้ามา แต่พวกมันยังคงมีม่านพลังคอยป้องกันจากแรงระเบิดและวิชาเต่าด้วย


 


ก่อนที่หานเซิ่นจะสามารถโจมตีได้อีกครั้ง ซีโน่เจเนอิคสีเงินตัวหนึ่งก็บินออกมาจากสะดือของรูปปั้น มันเป็นตัวเดียวกับที่พวกเขาเห็นในตอนแรก ซึ่งมันมีปีกสีเงินที่โปร่งใสและบินได้อย่างรวดเร็วมากๆ


 


หานเซิ่นไม่คิดจะถอย เขาชักมีดขนนกโลหิตออกมา เขารวบพลังมีดและดาบลงบนใบมีด หลังจากนั้นเขาก็ฟันใส่ซีโน่เจเนอิคปีกเงินที่บินเข้ามา


 


โล่ป้องกันปรากฏขึ้นรอบตัวซีโน่เจเนอิคปีกเงิน แต่พลังมีดและดาบที่รวมกันก็มากพอที่จะทะลายม่านพลังป้องกันและฟันซีโน่เจเนอิคปีกเงินจนขาดครึ่ง


 


“ซีโน่เจเนอิคด้วงปีกเงินกลายพันธุ์ระดับเอิร์ลถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูร ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


หานเซิ่นรู้สึกดีใจ แต่เขาไม่มีเวลาจะมาหยุดดูวิญญาณอสูรดวงใหม่ เขารีบวิ่งเข้าไปหาด้วงสีเงินที่อยู่ใกล้


 


เมื่อเขาฆ่าด้วงสีเงินอีกตัว เขาก็พบว่าพวกมันไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ พวกมันเป็นเพียงแค่ด้วงสีเงินระดับเอิร์ลธรรมดาๆ


 


ในขณะที่หานเซิ่นกำลังฆ่าฟันพวกด้วงไทรโลไบต์อย่างสนุกสนาน ก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากรูปปั้น หลังจากนั้นก็มีแมลงที่ดูเหมือนกับแก้วสีเงินออกมา ร่างกายของมันยาวกว่า 10 เมตร และมันก็มีปีกสีเงิน 4 ปีกบนหลัง มันบินเข้ามาอยู่ตรงหน้าของหานเซิ่นอย่างรวดเร็ว


 


จากนั้นลำแสงสีเงินก็พุ่งออกมาจากปากของมันอย่างรวดเร็ว

 

 

 


ตอนที่ 2028

 

ต้องสู้

เมื่อกลุ่มคนเห็นหานเซิ่น พวกเขาก็เดินเข้ามา หนึ่งในพวกเขาเป็นบุดด้า และในหมู่ของพวกเขายังมีคนหนึ่งที่มีเขาสีม่วง ซึ่งบอกว่าเขาเป็นคนของเผ่าพันธุ์เดม่อน


 


มันยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆที่หานเซิ่นไม่รู้จักอยู่อีกด้วย รวมทั้งหมดแล้วพวกเขามีกันอยู่ 6 คน


 


“อมิตาพุต! หานเซิ่น ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้งที่นี่” เมื่อบุดด้าคนนั้นเห็นหานเซิ่น เขาก็ดูอาฆาต


 


“ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะได้พบกับพวกเจ้าที่นี่เช่นกัน”


หานเซิ่นยังคงนั่งอยู่กับที่ เขาอยากจะพักอีกสักหน่อย


 


“เจ้าคือหานเซิ่น?” ชายชาวเดม่อนมองหานเซิ่นด้วยความสนใจ


 


หานเซิ่นมองกลับไปที่ชายคนนั้นและคาดเดาว่าเขาคือชารอนที่ไห่เอ๋อร์พูดถึง ชารอนนั้นเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ต่างจากไผ่เดียวดาย เขาดูเหมือนกับคนที่ไม่เคยประสบกับความล้มเหลวในเรื่องใดๆ


 


เขาสามารถเรียนรู้วิชาจีโนต่างๆได้อย่างรวดเร็ว และเขาก็ยังรู้วิธีที่จะพัฒนาเทคนิคและวิชาต่างๆของตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเก่งกาจ


 


ชารอนฝึกวิชาจีโน 2 อย่างพร้อมๆกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่หาได้ยาก เขาได้เรียนรู้ศาสตร์มารนภา ซึ่งเป็นวิชาประจำของเผ่าเดม่อน และเขาก็ยังมีวิชาจีโนลับอีกอย่างหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นร่างกายของเขาจึงได้รับการเสริมพลังถึง 2 ครั้ง ซึ่งทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ


 


จากคำพูดของไห่เอ๋อร์ ชารอนยังไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับคู่ต่อสู้คนไหนที่อยู่ในระดับเดียวกันเลยสักครั้ง และเขาก็ถูกคาดหวังว่าจะได้กลายเป็นเทพเจ้าในสักวันหนึ่ง


 


“ใช่แล้ว ข้าก็คือหานเซิ่น เจ้าล่ะเป็นใครกัน?”


หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ชารอน เขาไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะใช่ชารอนจริงๆหรือไม่ เขาแค่ต้องการจะพูดคุยไปเรื่อยๆเพื่อได้หยุดพัก


 


“ข้าคือชารอนจากเผ่าเดม่อน” ชารอนตอบ


 


หลังจากนั้นบุดด้าก็พูดต่อ “หานเซิ่น ดูเหมือนว่าเจ้าเพิ่งจะผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มา มันมีรูปปั้นเทพโบราณอยู่ใกล้ๆนี่อย่างนั้นหรอ?”


 


“ถ้ามีแล้วจะทำไม?” หานเซิ่นตอบ


 


“นี่เจ้าได้จุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณมาหรือเปล่า?”


เมื่อบุดด้าพูดขึ้นมาอย่างนั้น ดวงตาของคนอื่นๆก็เป็นประกายขึ้นมา


 


“ถ้าข้าได้มันมา แล้วข้าจะยังมาอยู่ที่นี่ทำไม?” หานเซิ่นพูดและมองบุดด้าคนนั้นด้วยสายตาดูถูก


 


“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปเดินเล่นกันสักหน่อย” บุดด้าพูดกับหานเซิ่น


 


“ทำไมข้าต้องพาพวกเจ้าไปด้วย?” หานเซิ่นถามอย่างเย็นชา


 


“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะตัดสินใจ!” หนึ่งในสมาชิกของพวกเขาตะโกนออกมา มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มี 6 ขา และมือที่เหมือนกับโลหะของมันก็ยื่นออกมาเพื่อจับตัวหานเซิ่น


 


ควันสีเขียวไหลออกมาจากมือของมัน และก่อตัวเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ มันคิดที่จะแทงกรงเล็บเข้าไปในร่างของหานเซิ่น


 


แต่หานเซิ่นไม่เคลื่อนไหว เขารอจนกระทั่งกรงเล็บสีเขียวเกือบจะถึงตัวของเขา หลังจากนั้นเขาก็ดึงมีดขนนกโลหิตออกมาและฟันใส่กรงเล็บสีเขียว


 


สายตาของสิ่งมีชีวิต 6 ขาจ้องไปที่มีดของหานเซิ่นอย่างดูถูก มันเป็นมาร์ควิส ดังนั้นมันไม่คิดจะรับมือกับหานเซิ่นที่เป็นแค่ระดับเอิร์ลอย่างจริงจัง มันแทงกรงเล็บสีเขียวของมันต่อไปตรงๆ


 


พลังที่ใส่เข้าไปในมีดขนนกโลหิตมากพอที่จะตัดกรงเล็บสีเขียวจนขาด และมันก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มันพุ่งต่อไปข้างหน้าเพื่อจะตัดร่างของสิ่งมีชีวิต 6 ขา


 


สิ่งมีชีวิต 6 ขาไม่ได้คาดคิดว่าเอิร์ลคนหนึ่งจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ และตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้วที่จะหลบได้ทัน พลังของหานเซิ่นตัดผ่านบริเวณเอวของอีกฝ่ายจนขาดเป็น 2 ท่อน แต่มันยังไม่ได้สิ้นใจในทันที มันส่งเสียงกรีดร้องออกมาขณะพลังเขี้ยวค่อยๆปิดชีวิตของมัน


 


ทุกคนตกตะลึง ตอนนี้ไม่มีใครกล้าประมาทหานเซิ่นอีก พวกเขาทุกคนเริ่มดูระมัดระวังตัวขึ้นมา


 


แต่พวกเขาไม่ได้ถอยออกไป พวกเขากระจายตัวออกเพื่อล้อมหานเซิ่นเอาไว้แทน


 


“วิชามีดเขี้ยวดาบทรงพลังยิ่งนัก” ชารอนเอ่ยชม


 


“การฆ่าคนถ่อยๆแบบนั้นไม่ใช่เรื่องวิเศษวิโสอะไร” หานเซิ่นพูดอย่างไร้ความรู้สึก


 


“ท่านชารอน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกับเขา พวกเราช่วยกันลงมือจัดการเขาเถอะ” บุดด้าคนนั้นพูดขึ้นมา


 


แต่ทว่าชารอนยังคงไม่เคลื่อนไหว เขายิ้มและพูดต่อ


“ข้าได้ยินมาว่าหานเซิ่นฆ่าบุดด้าเจ็ดวิญญาณขณะที่อยู่ในสรวงสวรรค์ของพวกเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่ควรที่จะดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง”


 


“เขาเป็นคนที่ชั่วร้าย พวกเราควรจะรีบฆ่าเขาซะ” บุดด้าอนันต์พูด


 


“การที่โยนหน้าที่ของตัวเองไปให้คนอื่นเป็นเรื่องที่ผิด บางทีเจ้าควรที่จะทำมันด้วยตัวเอง พวกเจ้าคิดว่ายังไง?” หานเซิ่นหันไปมองคนอื่นๆ


 


“ใช่แล้ว!” หลายคนพยักหน้า


 


สีหน้าของบุดด้าอนันต์เปลี่ยนไป แต่มันก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “อมิตาพุต! ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะทำมันด้วยตัวเอง”


 


หลังจากนั้นบุดด้าอนันต์ก็ส่งลูกตบเข้าใส่หานเซิ่น ดวงดาวมากมายบินออกมาจากมือของเขาและเข้าไปหาหานเซิ่น


 


หานเซิ่นยังคงใช้มีดขนนกโลหิตเพื่อต่อสู้กับดวงดาวที่พุ่งเข้ามา เมื่อมีดลมปราณปะทะกับดวงดาว มีดลมปราณก็หายไปในความว่างเปล่า


 


หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ บุดด้าอนันต์ไม่ได้โด่งดังอย่างบุดด้าเจ็ดวิญญาณ แต่วิชาของเขาก็ยอดเยี่ยม พลังของเขาไม่ใช่สิ่งที่หานเซิ่นจะประมาทได้


 


ดวงดาวพุ่งมาถึงตัวหานเซิ่น แต่เขายังคงไม่เคลื่อนไหวไปไหน เขาใช้มีดขนนกโลหิตวาดเป็นรูปวงกลม และพลังดวงดาวของบุดด้าอนันต์ก็ถูกดูดเข้าไปในวงกลมนั้น


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็สะบัดมือและวาดวงกลม เพื่อสะท้อนดวงดาวกลับไปสู่บุดด้าอนันต์


 


สีหน้าของบุดด้าอนันต์เปลี่ยนไป เขาตะโกนและอัญเชิญดอกบัวออกมาใต้ฝ่าเท้า เขาหลบดวงดาวที่สะท้อนกลับมาและโยนดวงดาวไปใส่หานเซิ่นอีกครั้ง


 


หานเซิ่นยังคงนั่งอยู่บนก้อนหินและวาดวงกลมด้วยมีด เขาใช้การโจมตีของบุดด้าอนันต์เพื่อจู่โจมกลับไป


 


บุดด้าอนันต์ลองใช้ท่าต่างๆของเขา แต่ไม่มีอะไรที่สามารถทำลายวงกลมของหานเซิ่นได้เลย เขาไม่สามารถทำให้หานเซิ่นเคลื่อนไหวจากจุดที่นั่งอยู่ด้วยซ้ำไป


 


“วิชามีดเขี้ยวดาบช่างทรงพลังอะไรอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นวิชาหลักของรีเบท นี่มันทำให้เอิร์ลคนหนึ่งต่อสู้กับบุดด้าอนันต์ที่เป็นมาร์ควิสได้เลยอย่างนั้นหรอ? นั่นมันน่ากลัวจริงๆ” ใครบางคนพูดขึ้นมา เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม


 


ชารอนส่ายหัวและพูด “มันไม่ใช่วิชามีดเขี้ยวดาบที่น่ากลัว แต่เป็นหานเซิ่นต่างหาก”


 


“ใช่แล้ว วิชามีดเขี้ยวดาบนั้นทรงพลังก็จริง ซึ่งในหมู่ของรีเบทมีเพียงแค่ราชินีแห่งมีดเท่านั้นที่ฝึกวิชามีดเขี้ยวดาบจนเชี่ยวชาญ หานเซิ่นเป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง แต่เขากลับเรียนรู้วิชาเฉพาะของรีเบทได้จนเชี่ยวชาญ นั่นทำให้เขาเป็นชายที่น่ากลัว” ผู้หญิงที่มีเขามังกรและปีกสีดำพูดขึ้นมา


 


บุดด้าอนันต์รู้ตัวว่าไม่สามารถที่จะฆ่าหานเซิ่นได้ ถึงแม้หานเซิ่นจะกำลังเหนื่อยล้าอยู่ก็ตาม มันทำให้เขาโกรธมาก ร่างกายของเขาเริ่มที่จะเรืองแสงออกมาและเปลี่ยนเป็นสีทอง


 


มันไม่เหมือนกับร่าง 4 หน้า 8 แขนสีทองของบุดด้าเจ็ดวิญญาณ ตอนนี้บุดด้าอนันต์ดูเหมือนกับคิงคองที่มีดวงดาวล้อมรอบตัวของเขา

 

 

 


ตอนที่ 2029

 

ดาราจักรอนันต์

‘บุดด้าอนันต์คนนี้ก็เป็นซีโน่เจเนอิคด้วยอย่างนั้นหรอ ดูเหมือนว่าในหมู่บุดด้าจะมีคนที่เป็นซีโน่เจเนอิคอยู่หลายคน’ หานเซิ่นจ้องไปที่บุดด้าอนันต์ แต่เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน


 


บุดด้าอนันต์ที่ดูเหมือนกับคิงคองประกบมือเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นดวงดาวมากมายรอบๆตัวเขาก็เริ่มบินมารวมกันเป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่


 


ขณะที่เขากำลังรวบรวมพลังนั้น ดวงดาวก็สว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ แต่ขนาดของพวกมันยังคงเท่าเดิม และท้ายที่สุดแล้วดวงดาวที่มารวมกันก็ดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋ว พวกมันดูน่ากลัวอย่างมาก


 


“วิชาจีโนดาราจักรอนันต์ของบุดด้าเป็นวิชาที่ทรงพลัง แต่มันใช้เวลาในการรวบรวมพลังนาน การใช้มันโจมตีหานเซิ่นที่ไม่คิดจะขยับเขยื้อนถือเป็นความคิดที่ดี” ชารอนพูดพร้อมกับหัวเราะ


 


หญิงสาวมังกรก็หัวเราะเช่นกัน เธอพูดขึ้นมา “ครั้งนี้หานเซิ่นจะต้องขยับเขยื้อนอย่างแน่นอน ไม่ว่าท่าปากเปล่า เขี้ยวขาวจะทรงพลังสักแค่ไหน มันก็ยังคงมีขีดจำกัดอยู่ ด้วยพลังของหานเซิ่น เขาไม่มีทางจะสะท้อนพลังของวิชาดาราจักรอนันต์กลับมาได้แน่”


 


“แถมบุดด้าอนันต์ยังไม่คิดจะโจมตี เขายังคงรวบรวมพลังต่อ ดังนั้นดาราจักรอนันต์จะทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นไม่มีทางจะสะท้อนมันกลับมาได้แน่ และถ้าเขาพยายามจะทำแบบนั้น มันก็จะนำไปสู่การแหลกสลายของร่างกาย” บุดคนอีกคนพูดขึ้นมา


 


สีหน้าของบุดด้าอนันต์เต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาตอนนี้เป็นอะไรที่น่ากลัว พลังในมือของเขากำลังเพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าพลังของเขาไร้ที่สิ้นสุด


 


หานเซิ่นนั่งพักอยู่เฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไร ส่วนบุดด้าอนันต์ยังคงไม่พร้อมจะปลดปล่อยพลังออกมา เขาตั้งใจจะรวบรวมพลังของดาราจักรอนันต์ จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าสามารถฆ่าหานเซิ่นได้ในการโจมตีครั้งเดียว


 


ดาราจักรยังคงเพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆ  หานเซิ่นดูเคร่งขรึม เขาถือมีดขนนกโลหิตในมือและมองแสงสว่างในมือของคู่ต่อสู้ แต่เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน


 


“เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน นี่เขาต้องการจะรับดาราจักรอนันต์จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หญิงสาวมังกรพูดอย่างประหลาดใจ


 


มือของบุดด้าอนันต์นั้นสว่างไสวจนยากที่มองเห็นได้แล้วในตอนนี้ เขาเกือบที่จะสูญเสียการควบคุมเต็มที


 


บุดด้าอนันต์ตะโกนและดันมือเข้าใส่หานเซิ่น แสงสว่างที่กลายเป็นคลื่นแห่งการทำลายล้างพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น


 


หานเซิ่นจ้องมองแสงสว่างที่ดูเหมือนกับกาแล็คซี่ถูกบีบอัดเอาไว้ มันอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล ซึ่งแม้แต่มาร์ควิสระดับสุดยอดก็ไม่สามารถจะรับมันได้


 


หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตในมือเพื่อวาดวงกลมขึ้นมาอีกครั้ง มันคือท่าปากเปล่า เขี้ยวขาว


 


“เจ้าไม่มีทางจะสะท้อนพลังดาราจักรอนันต์ของข้าได้!” บุดด้าอนันต์คำราม เขารู้สึกว่าตัวเองถูกเหยียดหยามด้วยการกระทำของหานเซิ่น


 


ขณะบุดด้าอนันต์คำราม แสงสว่างก็พุ่งเข้าหาวงกลมที่หานเซิ่นวาด มันดูเหมือนกับระบบสุริยะพุ่งเข้าหามดตัวหนึ่ง มันดูพร้อมที่จะระเบิดออกมา และวงกลมที่หานเซิ่นวาดก็กำลังสั่นไหวเหมือนกับว่าจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ


 


“ให้ข้าแนะนำเจ้าสักอย่าง อย่าได้ใช้บางสิ่งที่เจ้าเองก็ควบคุมไม่ได้”


หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นพลังในร่างกายของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมา และดาราจักรอนันต์ก็ถูกสะท้อนกลับออกไป


 


“…เป็นไปไม่ได้…” บุดด้าอนันต์ตกตะลึง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังมหาศาล เขาไม่ได้พยายามที่จะป้องกันมัน เขากลับพยายามวิ่งหนีแทน


 


ตูม!


พลังนั้นชนเข้ากับก้อนหินที่ตั้งอยู่บนพื้น แรงสั้นสะเทือนที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกับว่าดาวดวงนี้กำลังจะระเบิด มันทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร


 


บุดด้าอนันต์ไม่สามารถหลบหลีกแรงระเบิดได้พ้น และร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขานอนแน่นิ่งไปกับพื้น ขณะที่มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก


 


“ชารอน! นี่เจ้ายังไม่คิดที่จะจู่โจมอีกอย่างนั้นหรอ?”


บุดด้าอนันต์ต้องการจะหยุดเลือดที่ไหลออกมา แต่ควันสีม่วงเข้าปกคลุมและกำลังฉีกกระชากบาดแผลของเขา


 


ชารอนมองไปที่บุดด้าอนันต์และพูด “ข้าจะจู่โจม แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความน่าสมเพชของเจ้า”


 


“ตราบใดที่เจ้าลงมือ เหตุผลนั้นไม่สำคัญ!” บุดด้าอนันต์กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด


 


“น่าเสียดายที่เจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และด้วยพลังเขี้ยวที่เสริมเข้าไป ข้ากลัวว่าคงจะช่วยชีวิตเจ้าไม่ได้” ชารอนพูด ขณะที่มองไปที่เขาอย่างใจเย็น


 


“นั่นไม่เป็นไร แค่ฆ่าหานเซิ่นก็พอ!” บุดด้าอนันต์พูดขณะที่กระอักเลือดออกมา


 


ร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อพลังเขี้ยวได้ และในไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เลือดมากมายไหลนองออกมาขณะที่เขาสิ้นใจไป


 


“ซีโน่เจเนอิคคิงคองดาราระดับมาร์ควิสถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น แต่เขารู้ว่าไม่สามารถไปหยิบยีนซีโน่เจเนอิคของบุดด้าอนันต์ขึ้นมาได้


 


สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับเสือขาวเคลื่อนที่เข้าไปกลืนกินศพของบุดด้าอนันต์อย่างรวดเร็ว ยีนซีโน่เจเนอิคก็ถูกกินเข้าไปได้ หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตนั้นก็มองมาที่หานเซิ่น


 


ชารอนมองหานเซิ่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ในตอนแรกข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเสมอกับไผ่เดียวดายได้ แต่ตอนนี้ข้าเชื่ออย่างนั้น”


 


“เขาเสมอกับไผ่เดียวดาย?” หนึ่งในซีโน่เจเนอิคถามขึ้นมาด้วยความตกตะลึง


 


ข่าวภายในปราสาทนภาไม่ใช่สิ่งที่จะถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่เผ่าพันธุ์เดม่อนเป็นอริกับปราสาทนภา ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามสืบข้อมูลของปราสาทนภาให้ได้มากที่สุด ชารอนนั้นเป็นคนเดียวในที่นี่ที่รู้เกี่ยวกับเรื่องของหานเซิ่นและไผ่เดียวดาย


 


ชารอนหัวเราะและพูด “ระหว่างการสอบ ไผ่เดียวดายวิวัฒนาการเป็นมาร์ควิส ดังนั้นเขาถูกจึงถูกตัดสิทธิ์จากการสอบระดับเอิร์ล มันจึงไม่มีผู้ชนะ”


 


“ถ้าชายคนนี้ต่อสู้กับไผ่เดียวดายได้แบบนั้น ก็แสดงว่าเขาไม่ใช่บุคคลธรรมดาๆ” หญิงสาวมังกรมองไปที่หานเซิ่น ตอนนี้เธอดูสนใจในตัวของเขายิ่งกว่าเดิม


 


ชารอนมองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “น่าเสียดายที่เจ้าไม่ใช่มาร์ควิส ไม่อย่างนั้นข้าเองก็อยากลองต่อสู้กับเจ้าสักครั้ง ถึงแม้ข้าจะมอบเวลาให้เจ้าได้พักฟื้น ข้าก็ยังจะชนะเจ้าอยู่ดี ข้าไม่อยากจะฆ่าเจ้าซะตอนนี้ ดังนั้นเจ้าควรจะนำทางแต่โดยดี”


 


หานเซิ่นยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนจิตใจดีอะไรขนาดนั้น มันอาจง่ายที่จะฆ่าข้า แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่มีทางทำให้ข้ายอมนำทางได้”


 


ชารอนขมวดคิ้ว หญิงสาวมังกรหัวเราะและพูด “ถ้าอย่างนั้นเจ้ามาเดิมพันกับข้าเป็นยังไง ถ้าเจ้าชนะ พวกเราจะปล่อยเจ้าไป แต่ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าต้องนำทางให้กับพวกเรา”


 


“เจ้าเป็นใคร?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่หญิงสาวมังกร

 

 

 


ตอนที่ 2030

 

ดราก้อนเธอร์ทีน

“ดราก้อนเธอร์ทีนจากเผ่าดราก้อน” หญิงสาวมังกรพูดด้วยท่าทางเป็นมิตร


 


“ดราก้อนเธอร์ทีน? นั่นเป็นชื่อที่ดี แต่การเดิมพันมันไม่ยุติธรรม” หานเซิ่นพูดเพื่อจะซื้อเวลา


 


ดราก้อนเธอร์ทีนรู้ว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรอยู่ แต่เธอไม่คิดจะเปิดโปงการกระทำของเขา เธอแค่ยิ้มและถาม “มันไม่หยุดติธรรมยังไง?”


 


“ถ้าข้าเป็นฝ่ายแพ้ ข้าก็ต้องพาพวกเจ้าไปในสถานที่ที่ข้าอาจจะถูกฆ่าตาย และถ้าข้าชนะ ข้าก็ได้แค่รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ นั่นคือสิ่งที่ไม่ยุติธรรม” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าที่ดูใสซื่อ


 


ดราก้อนเธอร์ทีนไม่รู้สึกโกรธ เธอถามเขาอย่างอ่อนโยน


“นั่นมันไม่ยุติธรรมอย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าแบบไหนถึงจะยุติธรรมล่ะ?”


 


“ถ้าข้าชนะ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ เจ้าต้องมาเป็นบอดี้การ์ดของข้า” หานเซิ่นพูด


 


ดราก้อนเธอร์ทีนหัวเราะและพูด “นั่นเป็นความคิดที่ดี ถึงข้าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไร ข้ายอมรับข้อเสนอของเจ้า”


 


“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลงสินะ” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง


 


“ใช่” ดราก้อนเธอร์ทีนนำหอกหัวเกลียวสีดำออกมา


 


ในจังหวะที่เธอหยิบหอกนั่นออกมา หานเซิ่นก็รู้สึกหนาวขึ้นมา เธอทำให้เขารู้สึกแปลกๆ และหานเซิ่นก็ไม่สามารถใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสัมผัสพลังชีวิตของเธอได้ ทำให้เขาไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอ


 


ดราก้อนเธอร์ทีนถือหอกหัวเกลียวอยู่ในมือ แต่เธอยังคงไม่โจมตี เธอพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ


“ข้าไม่เหมือนกับบุดด้าอนันต์ ถ้าเจ้าคิดที่จะใช้ปากเปล่า เขี้ยวขาวเพื่อสะท้อนการโจมตีของข้าล่ะก็ คิดใหม่ได้เลย”


 


“ถ้าอย่างนั้นข้าควรทำยังไงดี?” หานเซิ่นหัวเราะ


 


หานเซิ่นแค่ต้องการจะซื้อเวลาเพื่อให้ได้พักต่ออีกสักหน่อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าดราก้อนเธอร์ทีนจะตอบคำถามของเขา


 


“หอกพิชิตมารของดราก้อนทะลวกได้ทุกวิชา วิชาสะท้อนพลังของเจ้าอาจจะได้ผลกับเผ่าพันธุ์อื่น แต่มันจะไม่ได้ผลกับข้า ถ้าเจ้าต้องการจะชนะ ก็ใช้พละกำลังของตัวเองซะ” ดราก้อนเธอร์ทีนพูดอย่างใจเย็น


 


“ทะลวงทุกวิชาอย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นคำกล่าวอ้างที่กล้ามากๆ” หานเซิ่นพูด


 


ดราก้อนเธอร์ทีนยักไหล่ “ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าล่ะก็ ก็ลองใช้ปากเปล่า เขี้ยวขาวดูว่าจะสะท้อนการโจมตีของข้าได้หรือไม่”


 


หลังจากนั้นดราก้อนเธอร์ทีนก็โจมตีหานเซิ่น หอกนั้นกลายเป็นเส้นตรงที่แหลมคมยิ่งกว่าเข็ม


 


หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะรับมัน พลังที่เน้นไปที่จุดๆเดียวแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสะท้อนกลับไปได้ ถึงแม้เธอจะไม่ได้ใช้พลังมากก็ตาม


 


รองเท้าเขี้ยวกระต่ายปลดปล่อยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อออกมา ขณะที่หานเซิ่นหลบหลีกหอกของดราก้อนเธอร์ทีน มีดขนนกโลหิตในมือของเขาก็เล็งไปที่คอของเธอ


 


ดราก้อนเธอร์ทีนประหลาดใจ หานเซิ่นเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง และเขาก็ยังตกอยู่ภายใต้พลังของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ แต่เขากลับสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขนาดนั้น


 


แต่ดราก้อนเธอร์ทีนประหลาดใจเพียงแค่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็หมุนหอกและหอกของเธอก็หายวับไปกับตา เมื่อหอกปรากฏขึ้นอีกครั้ง ปลายของมันก็กำลังจี้เข้ามาที่คอของหานเซิ่น


 


หานเซิ่นขมวดคิ้วและกระโดดขึ้นไปบนฟ้าเพื่อหลบหอกของดราก้อนเธอร์ทีน


 


พวกเขาต่อสู้กันอยู่หนึ่งนาทีเต็มๆ แต่ทั้งมีดและหอกกลับไม่สามารถสัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายได้


 


“นี่มันวิชามีดอะไรกัน? วิชามีดเขี้ยวดาบไม่ควรจะเป็นแบบนี้?” มาร์ควิสเสือขาวพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ


 


“นั่นไม่ใช่วิชามีดเขี้ยวดาบ แต่เป็นวิชาใต้นภาของปราสาทนภา” สายตาของชารอนนั้นเฉียบแหลม


 


“วิชาใต้นภา? ข้าไม่เห็นเคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย” มาร์ควิสเสือขาวพูดอย่างเคลือบแคลงใจ


 


ชารอนมองไปที่หานเซิ่นและพูด “วิชาใต้นภาถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อนานมาแล้วโดยผู้อาวุโสของปราสาทนภา แต่เนื่องจากมันมีข้อบกพร่องหลายอย่าง พวกเขาจึงห้ามลูกศิษย์ในการเรียนรู้มัน แต่ในสายตาของข้า ดูเหมือนว่าข้อบกพร่องของมันจะถูกแก้ไขแล้ว ส่วนใครที่เป็นคนทำอย่างนั้น ข้าเองก็ไม่รู้”


 


“วิชามีดนี่มีความพิเศษยังไง?” มาร์ควิสเสือขาวถาม


 


“ข้าไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่าวิชานี้ถูกปรับแต่งมาจากตำราไร้อักษร แต่เนื่องจากมันไม่เคยมีใครใช้วิชานี้มาก่อน มันจึงไม่มีใครรู้ว่ามันทรงพลังขนาดไหน แต่ผู้คนที่ไม่ได้ฝึกตำราไร้อักษรไม่ควรจะเรียนรู้มันได้ มันน่าแปลกที่หานเซิ่นเรียนรู้วิชาใต้นภาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเป็นแค่คนนอก” ชารอนพูด


 


หานเซิ่นใช้ความเร็วของรองเท้าเขี้ยวกระต่ายเพื่อต่อสู้กับดราก้อนเธอร์ทีน หานเซิ่นไม่รู้ว่าหอกพิชิตมารมีพลังที่สามารถทำลายทุกวิชาได้จริงๆหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขารู้ว่าตัวเองไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมัน ซึ่งถ้าเขากลายเป็นมาร์ควิสแล้วล่ะก็ เขาก็คิดว่าสามารถลองดูได้


 


ดราก้อนเธอร์ทีนไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับไผ่เดียวดาย เธอจู่โจมด้วยเทคนิคการใช้หอกธรรมดาๆและเน้นไปที่พลังเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นความเรียบง่ายของของเธอก็ยังเป็นอะไรที่ร้ายกาจอยู่ดี ถ้าหานเซิ่นไม่มีความเร็วจากรองเท้าเขี้ยวกระต่ายคอยช่วยเหลือ และถ้าดราก้อนเธอร์ทีนไม่ได้ถูกจำกัดความเร็วจากพลังของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณล่ะก็ หานเซิ่นก็คงจะถูกแทงไปเรียบร้อยแล้ว


 


‘ดราก้อนเธอร์ทีนนั้นแข็งแกร่ง! เธอเป็นตัวอย่างที่เจิดจรัสของความกล้าหาญอันบริสุทธิ์ หอกของเธอพิชิตได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่คนที่อยู่ในระดับเดียวกันก็ต้องหลบหลีกเธออย่างระมัดระวัง แต่เราไม่ใช่มาร์ควิส เราอ่อนแอกว่านั้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


ขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป ดราก้อนเธอร์ทีนก็กล้าหาญยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งความเร็วและพลังของเธอก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้รองเท้าเขี้ยวกระต่ายเริ่มจะตามความเร็วของเธอไม่ทัน


 


“หานเซิ่นนั้นไร้เดียงสาที่คิดว่าตัวเองจะต่อสู้กับดราก้อนเธอร์ทีนได้ นางคือคนที่กล้าหาญที่สุดในเผ่าดราก้อน ไม่มีใครในระดับเดียวกันที่จะต่อสู้กับนางได้ นอกจากนั้นยิ่งต่อสู้นานเท่าไหร่ ดราก้อนก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้าการต่อสู้ยังดำเนินต่อไปแบบนี้ หานเซิ่นก็จะเข้าตาจนในที่สุด” มาร์ควิสเสือขาวพูด


 


ชารอนขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไร เขาคิดว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ถอยห่างออกไปในระยะหนึ่ง และดราก้อนเธอร์ทีนก็พยายามจะไล่ตามเขาไป


 


แต่ชุดเกราะของเธอเริ่มจะแตกร้าวราวกับว่าถูกโจมตีด้วยอะไรบางอย่าง ซึ่งรอยร้าวนั้นเริ่มจะแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ


 


ดราก้อนเธอร์ทีนหยุดนิ่ง เธอมองไปรอบๆและพูด “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้าทิ้งมีดลมปราณพวกนี้เอาไว้?”


 


“ตั้งแต่การโจมตีครั้งแรก ตลอดเวลาที่ต่อสู้กัน ข้าได้สร้างมีดลมปราณไปนับไม่ถ้วน เจ้าไม่เห็นพวกมัน แต่ถ้าเจ้าถูกพวกมันไปเรื่อยๆ เจ้าก็รู้สินะว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นยิ้ม


 


ด้วยการรวมวิชาใต้นภาเข้ากับความอ่อนโยนของวิชาจันทรา หานเซิ่นได้ปล่อยมีดลมปราณเอาไว้ในอากาศเป็นจำนวนมาก พวกมันเป็นเหมือนกับสายหุ่นเชิดรอบๆตัวดราก้อนเธอร์ทีน พวกมันห้อยอยู่ในอากาศและเป็นเหมือนกับเส้นไหมที่ไม่สามารถมองเห็นได้

 

 

 


ตอนที่ 2031

 

เหล่าผู้กล้า

“มันเป็นวิชาที่ทรงพลัง เป็นวิชาที่ทรงพลังจริงๆ”


ดราก้อนเธอร์ทีนพูดชม เธอมองไปรอบๆ แต่เธอไม่แน่ใจว่ามีดลมปราณนั้นซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง


 


“ชมเกินไปแล้ว” หานเซิ่นยิ้ม


 


ดราก้อนเธอร์ทีนพูดต่อ “อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป เจ้ารู้ไหมว่าทำไมดราก้อนถึงถูกเรียกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่กล้าหาญที่สุดน่ะ?”


 


“ข้าไม่รู้?” หานเซิ่นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน


 


“เจ้าจะได้รู้ในอีกไม่นาน” ดราก้อนเธอร์ทีนพูด หลังจากนั้นเธอก็หมุนหอกสีดำของเธอ หอกนั้นแหลมคมขึ้นอีก จนกระทั่งมันกลายเป็นแสงที่พุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น


 


เส้นไหมของมีดลมปราณนับไม่ถ้วนตัดเข้าไปในชุดเกราะของเธอ แต่มันกลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลย


 


หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าหลังจากที่มีดลมปราณตัดผ่านชุดเกราะเข้าไปแล้ว ผิวของเธอก็ยังคงใสสะอาด มันไม่มีร่องรอยของบาดแผลเลยแม้แต่นิดเดียว หานเซิ่นรู้สึกตกใจกับเรื่องนั้น


 


มีดลมปราณสามารถทำลายชุดเกราะระดับมาร์ควิสได้ แต่พวกมันไม่สามารถทะลวงผิวหนังของดราก้อนเธอร์ทีนได้ เธอมีร่างกายที่แข็งแกร่งมากๆ


 


ดราก้อนเธอร์ทีนเป็นเหมือนกับนักรบที่เดินไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยระเบิดอย่างกล้าหาญ ระเบิดพวกนั้นระเบิดขึ้นมาเรื่อยๆ แต่พวกมันไม่สามารถทำอะไรร่างกายของเธอได้


 


หอกอันแหลมคมของเธอแทงตรงเข้ามาที่หานเซิ่นด้วยพลังที่มากยิ่งกว่าเดิม จนถึงตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เขาไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีของเธอได้


 


ปัง!


หอกแทงทะลุเข้าไปในหน้าผากของหานเซิ่น และร่างกายของเขาก็ระเบิดออก แต่ไม่นานดราก้อนเธอร์ทีนก็รู้ตัวว่านั่นเป็นเพียงแค่ร่างโคลน ซึ่งตัวจริงของหานเซิ่นได้ทิ้งระยะห่างออกไปไกลแล้ว


 


แต่สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนแปลง หอกของเธอกลายเป็นเส้นตรงที่พุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นอีกครั้ง


 


ซึ่งแม้แต่หานเซิ่นเองก็ไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับการโจมตีแบบนั้นยังไง ดังนั้นหานเซิ่นจึงใช้การเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีก


 


แต่หอกของดราก้อนเธอร์ทีนนั้นรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากหานเซิ่นถูกจำกัดการเคลื่อนไหวโดยพลังของซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ มันจึงยากขึ้นเรื่อยๆที่เขาจะหลบได้พ้น


 


ถ้าพวกเขาทั้งคู่เป็นมาร์ควิสเหมือนกัน หานเซิ่นก็คงจะไม่หวาดกลัวอะไร แต่มันมีความแตกต่างถึงหนึ่งขั้นระหว่างพวกเขา แถมเธอก็เป็นหนึ่งในมาร์ควิสระดับสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย


 


ปัง!


หานเซิ่นหลบไม่พ้นและถูกส่งกระเด็นออกไปราวกับดาวตก เขากระเด็นไปชนกำแพงหินจนถล่มลงมา


 


“หานเซิ่น ยอมแพ้ซะตอนนี้ ถ้าข้าแทงสูงขึ้นอีก 3 นิ้วล่ะก็ เจ้าคงจะตายไปแล้ว” ดราก้อนเธอร์ทีนพูดขณะที่เดินเข้ามา


 


แต่เธอไม่ได้รับคำตอบใดๆ ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป


“โอ้ไม่นะ ภูเขานี่มีรอยแยกอยู่ เขาจงใจถูกแทงเพื่อจะหนีไป”


 


“เป็นชายที่น่ารำคาญจริงๆ แม้แต่ในสถานการณ์แบบนั้น เขาก็ยังมีแผนการซ่อนอยู่อีก” ชารอนส่ายหัว


 


“ทำไมยังมัวพูดคุยกันอยู่อีก? รีบตามเขาไปเร็วเข้า อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้!”


มาร์ควิสเสือขาวคำรามเพื่อทำลายหินที่ถล่มลงมา หลังจากนั้นรอยแยกก็เผยออกมาให้เห็น และเสือขาวก็รีบวิ่งเข้าไปข้างใน


 


ดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนก็ตามเข้าไปด้วยเช่นกัน


 


หานเซิ่นเดินทางผ่านอุโมงค์อย่างเร่งรีบ อกของเขาเป็นรูโบ๋ แต่มันไม่ได้มีเลือดไหลออกมา แต่ทว่ามีพลังชั่วร้ายบางอย่างเข้าไปในบาดแผลและกำลังแพร่กระจายไปทั่วร่างของเขา


 


“เป็นพลังที่ร้ายกาจอะไรแบบนี้ ถึงมันจะไม่เหมือนกับพลังเขี้ยวที่อยู่ได้ตลอดการ แต่พลังของมันอัดแน่นกว่ามาก มันยากที่จะขับออกมาได้ และเราก็ไม่มีเวลาที่จะขับมันออกมาเช่นกัน” หานเซิ่นกุมบาดแผลขณะที่พยายามหนีไป


 


โชคดีที่เลือดและกระดูกของเขาแตกต่างจากคนปกติ ไม่อย่างนั้นพลังของหอกก็คงจะทำลายร่างกายของเขาไปแล้ว


 


หานเซิ่นวิ่งลึกเข้าไปถ้ำเป็นเวลานาน แต่เขายังคงรู้สึกว่าดราก้อนเธอร์ทีนกำลังตรงมาทางเขา ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกสับสน


 


ด้วยการใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อซ่อนตัว เธอไม่ควรจะหาตำแหน่งของเขาได้


 


‘หรือว่ามันเป็นเพราะพลังที่อยู่ในร่างกายของเรา?’ หานเซิ่นคาดเดาถึงสาเหตุ


 


ถ้าพลังนั้นยังคงอยู่ในร่างของเขา ดราก้อนเธอร์ทีนก็จะตามรอยเขาได้เรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่มีเวลาจะขับมันออกมา


 


หานเซิ่นกัดฟันและวิ่งไปหารูปปั้นเทพโบราณสีเงิน ถ้าไม่สามารถสลัดการไล่ตามของกลุ่มคนพวกนั้นได้ เขาก็คิดว่าจะลองใช้แมลงแก้วเงินช่วยอีกแรง


 


หานเซิ่นรู้เส้นทางที่จะไปที่นั่น ไม่นานเขาก็พบกับรูปปั้นของแมงมุมหน้าผี หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปในถ้ำด้านหลังของมัน


 


ไม่นานหลังจากนั้นดราก้อนเธอร์ทีน ชารอนและคนอื่นๆก็มาถึงถ้ำของแมงมุมหน้าผี พวกเขาสังเกตเห็นรูปปั้นเทพโบราณหัวแกะ


 


“มันมีรูปปั้นเทพโบราณอยู่จริงๆ แต่ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนเอามันไปแล้ว” ชารอนพูดขณะที่มองไปที่รูปปั้นเทพโบราณ


 


“หานเซิ่นวิ่งเข้าไปในรูปปั้นเทพโบราณอย่างนั้นหรอ? ถ้าแบบนั้นจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณก็ควรจะอยู่กับเขา ถ้าพวกเรารู้เร็วกว่านี้ พวกเราก็คงจะลงมือฆ่าเขาไปแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องลำบากบังคับให้เขานำทาง” มาร์ควิสเสือขาวพูด


 


ดราก้อนเธอร์ทีนมองไปยังถ้ำที่อยู่ด้านหลังรูปปั้นและพูดขึ้นมา


“หานเซิ่นไม่ได้อยู่ในรูปปั้น เขาวิ่งไปด้านหลัง”


 


“ถ้าอย่างนั้นก็ไล่ตามไป จุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณต้องอยู่ที่เขาแน่” ชารอนพูด


 


“โชคดีที่เธอทิ้งพลังเอาไว้ในตัวของเขา ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงจะถูกหลอก” มาร์ควิสเสือขาวพูด


 


ดราก้อนเธอร์ทีนพาพวกเขาไปยังถ้ำที่อยู่ด้านหลังรูปปั้นและทำการไล่ตามหานเซิ่นต่อไป


 


หานเซิ่นวิ่งต่อไปเรื่อยๆ เขาวิ่งไปจนถึงน้ำตกก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ยังแมลงแก้วเงินประหลาดตัวนั้นไม่เจอ


 


ก่อนที่จะคิดออกว่าต้องทำอะไรต่อไป หานเซิ่นก็รู้สึกได้ว่าดราก้อนเธอร์ทีนกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขากัดฟันและบินเข้าไปในรูปปั้น


 


หลังจากที่หานเซิ่นเข้าไปข้างในได้หนึ่งนาที ดราก้อนเธอร์ทีนและคนอื่นๆก็มาถึงรูปปั้น


 


“เฮ้ มันมีรูปปั้นเทพโบราณอีกรูปอยู่ที่นี่ด้วย แต่รูปปั้นนี้ดูต่างออกไป หานเซิ่นอยู่ข้างในนี้อย่างนั้นหรอ?” มาร์ควิสเสือขาวมองตรงไปที่รูปปั้นเทพโบราณสีเงิน


 


“เขาอยู่ข้างในรูปปั้น” ดราก้อนเธอร์ทีนพูดอย่างมั่นใจ


 


“เอาแบบนี้เป็นไง? เธอร์ทีนกับข้าจะไล่ตามเขาเข้าไปข้างใน ส่วนพวกเจ้ารออยู่ตรงนี้เผื่อเขาวิ่งกลับออกมา” ชารอนพูดกับมาร์ควิสเสือขาวและคนอื่นๆ


 


มาร์ควิสเสือขาวพยักหน้า หลังจากนั้นชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนก็เข้าไปในรูปปั้นเพื่อไล่ล่าหานเซิ่น


 


หานเซิ่นเริ่มจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แพร่ไปทั่วร่าง พลังหอกของดราก้อนเธอร์ทีนเป็นเหมือนกับงูที่เลื้อยอยู่ในร่างกายของเขา ถ้าเขาไม่ขับมันออกมาในเร็วๆนี้ อวัยวะภายในของเขาก็จะถูกทำลาย

 

 

 


ตอนที่ 2032

 

กุญแจหัวใจนภาเปิดออก

ไม่นานหลังจากที่เข้าไปในรูปปั้นสีเงิน หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงหึ่งๆ


 


หานเซิ่นคุ้นเคยกับเสียงนี้ดี เพราะมันเป็นเสียงกระพือปีกของแมลงแก้วเงิน เขารีบเรียกมนตราออกมาในร่างของปืนอาร์พีจีและยิงจรวดออกไปใส่กำแพงของรูปปั้น


 


หลังจากที่ยิงออกไปแล้ว หานเซิ่นก็รีบซุกตัวเข้าไปในเส้นทางแคบๆและซ่อนตัวตนของเขา


 


จรวดระเบิดใส่กำแพงของรูปปั้น ทำให้เกิดเป็นเสียงดังไปทั่วภายในรูปปั้น หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงหึ่งๆกำลังเข้ามาใกล้


 


‘พวกดราก้อนเธอร์ทีนเองก็คงจะได้ยินมันเช่นกัน’ หานเซิ่นคิดขณะที่ซ่อนตัว


 


ดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่คิดจะเลิกไล่ตามหานเซิ่น


 


ขณะที่ดราก้อนเธอร์ทีนกำลังเข้ามานั้น แมลงแก้วเงินเองก็พยายามค้นหาตัวหานเซิ่นอยู่เช่นกัน เมื่อดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนมาถึงบริเวณที่หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ สิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็คือแมลงแก้วเงิน


 


แมลงแก้วเงินก็เห็นพวกเขาเช่นกัน มันส่งเสียงร้องออกมาและพุ่งเข้าใส่พวกเขา พร้อมกับพ่นลำแสงสีเงินออกมา


 


ดราก้อนเธอร์ทีนที่อยู่ข้างหน้าตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอยกหอกขึ้นและแทงมันเข้าไปปะทะกับลำแสงของแมลงแก้วเงิน


 


ปัง!


 


หอกและลำแสงสีเงินปะทะกัน แต่ลำแสงถูกแทงทะลุไป และหอกก็ยังพุ่งต่อไปปะทะกับโล่ป้องกันของแมลงแก้วเงิน โล่ป้องกันแว็บขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตี ส่วนดราก้อนเธอร์ทีนก็ถูกส่งกระเด็นกลับออกไป 10 เมตรโดยลำแสงที่หลงเหลืออยู่


 


“ซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์” ดราก้อนเธอร์ทีนดูตกใจ


 


“ฆ่ามัน” ชารอนพูด หลังจากนั้นเขาก็ชักดาบอาหรับของเขาออกมา และใช้มันฟันใส่แมลงแก้วเงินด้วยพลังของศาสตร์มารนภา


 


เมื่อพลังของศาสตร์มารนภาและโล่ของแมลงแก้วเงินปะทะกัน เจ้าแมลงก็กระเด็นออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แถมร่างกายของมันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร


 


ชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนร่วมมือกันโจมตีใส่แมลงแก้วเงิน ทำให้โล่ของแมลงแก้วเงินแว็บขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง


 


หอกของดราก้อนเธอร์ทีนมีประสิทธิภาพสูงในเรื่องการแทงทะลุสิ่งต่างๆ เธอสามารถที่จะรวบรวมพลังเอาไว้ที่ปลายหอก ทำให้มันสร้างความเสียหายได้มากที่สุด ซึ่งดูเหมือนว่าโล่ของแมลงแก้วเงินอาจจะทนต่อไปได้อีกไม่นาน


 


‘เราจะปล่อยให้พวกเขาฆ่าแมลงนั่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเราก็จะซวยไปด้วย’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ออกมาจากที่ซ่อนและโจมตีใส่ดราก้อนเธอร์ทีนจากด้านหลัง


 


แต่ดราก้อนเธอร์ทีนตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอใช้หอกในมือป้องกันมีดลมปราณของหานเซิ่นเอาไว้


 


แต่หานเซิ่นคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ เขาเอี้ยวตัวหลบหอกและจู่โจมอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใช้วิชาใต้นภา


 


“เจ้าจัดการหานเซิ่น ส่วนข้าจะจัดการกับซีโน่เจเนอิคเอง” ชารอนบอกดราก้อนเธอร์ทีน


 


“โอเค” ดราก้อนเธอร์ทีนไม่ลังเล เธอเริ่มใช้หอกในมือโจมตีใส่หานเซิ่นอย่างต่อเนื่อง


 


หานเซิ่นใช้ความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมภายเพื่อหลบหลีกหอกของดราก้อนเธอร์ทีน ขณะเดียวกันเขาก็หลอกล่อเธอให้ลึกเข้าไปในอุโมงค์


 


ดราก้อนเธอร์ทีนมั่นใจอย่างมาก เผ่าพันธุ์ดราก้อนนั้นขึ้นชื่อในเรื่องไม่กลัวใคร และดราก้อนเธอร์ทีนก็ถูกยกย่องว่าคู่ควรกับสมญานามว่าเป็นผู้ที่กล้าหาญที่สุด เธอรู้ดีว่าหานเซิ่นพยายามจะแยกเธอออกจากชารอน แต่เธอก็ยินดีที่จะไล่ตามเขาไป


 


พลังของหอกพิชิตมารเป็นธาตุหยาง ซึ่งมันตรงกับวิชาจันทราที่นุ่มนวล ถ้าหานเซิ่นเป็นระดับมาร์ควิสล่ะก็ พลังของวิชาจันทราก็จะสามารถเจาะทะลวงร่างกายของดราก้อนเธอร์ทีนได้


 


แต่มีดลมปราณของเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อดราก้อนเธอร์ทีนได้เลย เขาจึงเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ และดราก้อนเธอร์ทีนก็ไล่ต้อนให้เขาถอยไปเรื่อยๆ


 


ในที่สุดหานเซิ่นก็พลาดและถูกหอกแทงเข้าที่ไหล่ หอกนั้นทิ้งรูเอาไว้บนร่างของหานเซิ่น ซึ่งที่หานเซิ่นหลบไม่สำเร็จนั่นเป็นเพราะผลกระทบจากพลังของหอกยังคงอยู่ในร่างของเขา มันทำให้อวัยวะภายในของหานเซิ่นเจ็บปวดจนชะงักไปชั่วขณะ


 


“หานเซิ่น เจ้าไม่มีโอกาสจะชนะ มันยังพอมีเวลาที่เจ้าจะยอมแพ้” ดราก้อนเธอร์ทีนพูดเคร่งขรึม


 


“นั่นมันคำพูดของข้าต่างหาก” หานเซิ่นตอบกลับ


 


“ทำไมเจ้าถึงยังหัวแข็งแบบนี้? มอบจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณทั้ง 2 มาและข้าจะปล่อยเจ้าไป ไม่อย่างนั้นบาดแผลทั้ง 2 จากหอกพิชิตมารก็จะทำลายร่างกายของเจ้าจนไม่เหลืออะไร”


 


“จริงอย่างนั้นหรอ? แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น” หานเซิ่นพูด แต่ความจริงแล้วเขากำลังคิดหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้ายนี้


 


ด้วยพลังของเขา เขาสามารถฆ่ามาร์ควิสได้ไม่ยากอะไร แต่ดราก้อนเธอร์ทีนเป็นหนึ่งในมาร์ควิสที่เก่งที่สุด เขาจำเป็นต้องใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเพื่อจัดการกับเธอ


 


แต่ปัญหาของโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็คือเวลาที่จำกัด ถึงเขาจะสามารถฆ่าดราก้อนเธอร์ทีนได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นเขาก็จะอยู่ในสภาพที่อ่อนล้า ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ขับขันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากด้านนอกยังมีมาร์ควิสคนอื่นรออยู่อีกรวมถึงชารอนด้วย


 


แต่ถ้าหานเซิ่นไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาก็คงจะเอาตัวรอดต่อไปได้อีกไม่นาน


 


‘ไม่สนล่ะ ฉันขอฆ่าเธอก่อน’ หานเซิ่นตัดสินใจใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด


 


แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำแบบนั้น ร่างกายของเขาก็สั่นไหว จู่ๆเขาก็รู้สึกเบาหวิวดังขนนก มันเหมือนกับว่าเขากำลังแบกภูเขาเอาไว้บนไหล่ แต่ตอนนี้เขาสามารถปลดพวกมันออกจากตัวได้แล้ว


 


ความเร็วของหานเซิ่นเพิ่มขึ้น ทำให้เขาสามารถหลบหลีกหอกของดราก้อนเธอร์ทีนได้อย่างง่ายดาย


 


“กุญแจหัวใจนภาถูกปลดล็อคแล้ว!” หานเซิ่นดีใจอย่างมาก เขาแบกน้ำหนักของกุญแจหัวใจนภามาตลอดการต่อสู้ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว


 


เคร๊ง!


หานเซิ่นใช้มีดลมปราณที่เบาบางเหมือนกับเส้นไหมใส่ดราก้อนเธอร์ทีนอีกครั้ง ซึ่งในสุดร่างกายของดราก้อนก็เกิดบาดแผลขึ้นมา


 


หานเซิ่นรู้สึกดีใจ เมื่อกุญแจหัวใจนภาถูกเปิดออก ความเร็วและพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม


 


ดราก้อนเธอร์ทีนขมวดคิ้ว เธอพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ


“กุญแจหัวใจนภา? ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้ากำลังแบกรับพวกมันเอาไว้ขณะที่ต่อสู้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็เอาชนะข้าไม่ได้อยู่ดี”


 


หลังจากนั้นดราก้อนเธอร์ทีนก็กระหน่ำแทงหอกใส่หานเซิ่นอย่างบ้าคลั่ง หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตเพื่อป้องกัน แต่เมื่อพวกเขาทั้งคู่ปะทะกัน ร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกส่งกระเด็นออกไปชนเข้ากับกำแพงด้านหลัง


 


“ข้าบอกแล้วยังไง เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้” ดราก้อนเธอร์ทีนเคลื่อนที่เข้ามาและใช้หอกของเธอแทงใส่หานเซิ่นอีกครั้ง


 


เสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นภายในร่างกายของหานเซิ่น และกุญแจหัวใจนภาอันที่ 2 ก็ถูกปลดล็อค

 

 

 


ตอนที่ 2033

 

มีดลมปราณดั่งเส้นไหม

หานเซิ่นหลบหลีกอย่างรวดเร็ว เขาเป็นเหมือนกับเงาขณะที่เคลื่อนผ่านหอกของดราก้อนเธอร์ทีนไป เขาเร็วยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ซะอีก


 


“กุญแจหัวใจนภาอันที่ 2?” ดราก้อนเธอร์ทีนดูตกใจ


 


มันเป็นอะไรที่น่าตกใจมากแล้วที่ได้รู้ว่าเขาแบกรับน้ำหนักของกุญแจหัวใจนภาอันหนึ่งอยู่ มันไม่มีใครคาดคิดว่าเขาแบกรักพวกมันไว้ถึง 2 อัน


 


ถ้าเธอไม่ได้มาเห็นมันด้วยตัวเองล่ะก็ เธอก็ไม่มีทางจะเชื่อว่าเอิร์ลคนหนึ่งจะสามารถต่อสู้กับเธอได้ ขณะที่ต้องแบกรับน้ำหนักของกุญแจหัวใจนภา 2 อันเอาไว้


 


ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกเบาหวิว ทุกก้าวที่เขาก้าวออกไปนั้นดูเหมือนกับว่าเขาสามารถล่องลอยในอากาศได้ราวกับแฟรี่


 


หอกที่ครั้งหนึ่งดูเป็นอะไรที่ยากจะหลบหลีก ตอนนี้กลับเป็นอะไรที่ง่ายดาย เขาไม่ได้รู้สึกกดดันเหมือนกับก่อนหน้านี้อีกต่อไป


 


และเขาก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนกับก่อนหน้านี้เช่นกัน ตอนนี้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกครั้ง


 


ดราก้อนเธอร์ทีนขมวดคิ้ว หานเซิ่นเพิ่งจะปลดล็อคกุญแจหัวใจนภาถึง 2 อัน เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบอีกแล้ว


 


พวกเขาทั้งคู่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และในขณะที่มีดลมปราณปะทะกับหอกอย่างต่อเนื่อง พลังของหานเซิ่นยังดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าดราก้อนเธอร์ทีนเล็กน้อย แต่มันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาสามารถรับมือกับเธอได้


 


ในขณะที่หานเซิ่นกำลังต่อสู้กับดราก้อนเธอร์ทีน ชารอนเองก็กำลังต่อสู้กับแมลงแก้วเงินอยู่เช่นกัน โล่ป้องกันของแมลงแก้วเงินนั้นทรงพลัง ชารอนโจมตีใส่มันเป็นร้อยๆครั้ง แต่มันก็ยังคงไม่แตกสลาย


 


ชารอนขมวดคิ้ว เขาต้องการจะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด ดราก้อนเธอร์ทีนหายไปสักพักหนึ่งแล้ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ


 


ทันใดนั้นพลังของเขาก็เปลี่ยนไป แสงสีดำเริ่มจะเจิดจรัสขึ้นมา จากนั้นเขาก็รวบรวมพลังไปที่ดาบและฟันไปใส่แมลงแก้วเงินอีกครั้ง ก่อนหน้านี้มีดอาหรับของเขาไม่สามารถทำอะไรโล่ป้องกันของเจ้าแมลงได้ แต่ภายใต้การโจมตีในครั้งนี้ มันมีรอยร้าวเกิดขึ้นมาบนม่านพลังสีเงิน


 


“เป็นโล่ป้องกันที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้ แม้แต่ลมปราณปีศาจมังกรก็ทำลายมันไม่ได้ เจ้านี่ต้องมีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่ของมาร์ควิสทั้งหมด” ชารอนขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังคงโจมตีต่อไป


 


ชารอนเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์เดม่อน แต่เขามีสายเลือดของเผ่าดราก้อนอยู่ด้วย นอกจากศาสตร์มารนภาแล้ว เขายังได้ฝึกวิชาพิชิตมารที่เป็นวิชาลับสุดยอดของดราก้อนด้วย ซึ่งวิชาพิชิตมารของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าของดราก้อนเธอร์ทีนซะอีก


 


เรื่องที่ชารอนมีเลือดของเผ่าดราก้อนอยู่เป็นความลับ ซึ่งชารอนก็ไม่คิดจะใช้พลังพิชิตมารอย่างตามใจชอบ แต่ตอนนี้เขารู้สึกกังวลอย่างมาก เขาต้องการจะฆ่าซีโน่เจเนอิคตรงหน้าให้เร็วที่สุด


 


ชารอนฟันใส่โล่ของแมลงแก้วเงินซ้ำๆ ทำให้ม่านพลังของเจ้าแมลงนั้นเริ่มเต็มไปด้วยรอยร้าว และดูเหมือนว่ามันจะแตกสลายในเร็วๆนี้


 


ไม่นานแมลงแก้วเงินก็คิดที่จะหนีไป แต่มันไม่สามารถทำได้ เพราะชารอนกำลังตามหลอกหลอนมันเหมือนกับผี เขาดาบฟันใส่มันซ้ำๆ


 


ขณะเดียวกันดราก้อนเธอร์ทีนที่กำลังต่อสู้กับหานเซิ่นก็เริ่มจะรู้สึกกังวลขึ้นมา


 


ถึงเธอจะเป็นคนที่กล้าหาญที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอแข็งแกร่งที่สุด เธอเริ่มจะรู้สึกไม่สามารถไล่ต้อนชายที่เพิ่งจะปลดล็อคกุญแจหัวใจนภาทั้ง 2 อันได้อีกต่อไป เมื่อหอกของเธอแทงเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น เธอก็รู้ว่าทำพลาด


 


ปัง!


ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดเหมือนกับลูกโป่ง มันเป็นเพียงแค่ร่างโคลนเท่านั้น ร่างจริงของหานเซิ่นอยู่ห่างออกไป 20 เมตรและกำลังยิ้มให้กับเธอ


 


ดราก้อนเธอร์ทีนยกหอกของเธอขึ้นและแทงใส่หานเซิ่นอีกครั้ง


 


“ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่เคลื่อนไหว” หานเซิ่นพูด


 


ดราก้อนเธอร์ทีนไม่สนในคำเตือนของหานเซิ่นและเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้า


 


เสียงแตกร้าวของชุดเกราะดังขึ้นมา ชุดเกราะของดราก้อนเธอร์ทีนถูกทำลายด้วยมีดลมปราณจำนวนมาก แต่ในครั้งนี้มีดลมปราณเหล่านั้นสามารถตัดเข้าไปในผิวหนังของเธอได้ พวกมันเป็นเหมือนกับเส้นไหมที่ไม่มีวันขาด


 


หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตของเขา ทำให้เส้นไหมที่มองไม่เห็นจำนวนมากบิดเข้าด้วยกันเพื่อมัดร่างของดราก้อนเธอร์ทีน


 


เส้นไหมนับไม่ถ้วนรัดแขน ขา เอวและหัวของเธอเอาไว้แน่น ร่างของดราก้อนเธอร์ทีนถูกรัดและห้อยค้างอยู่บนอากาศ ไม่นานชุดเกราะของเธอก็แตกเป็นเสี่ยงๆ


 


มีดลมปราณเริ่มเจาะลึกเข้าไปในผิวหนังของเธอ ไม่นานผิวที่ขาวซีดของเธอก็เริ่มจะถูกปกคลุมด้วยรอยเลือด


 


ดราก้อนเธอร์ทีนพยายามดิ้นรน พลังพิชิตมารพลุ่งพล่านออกมาจากร่างของเธอเพื่อทำลายมีดลมปราณที่รัดร่างของเธอเอาไว้


 


แต่ในจังหวะที่เธอกำจัดพวกมัน มันก็จะมีดลมปราณที่เหมือนกับเส้นไหมเข้ามาแทนที่มากกว่าเดิม พวกมันรัดร่างของเธออีกครั้ง เธอไม่สามารถเข้าไปใกล้หานเซิ่นได้อีกต่อไป


 


“ดูเหมือนว่าเจ้าจะหมดโอกาสแล้ว มันยังไม่สายเกินไปที่เจ้าจะร้องขอชีวิต เพราะข้ายินดีจะไว้ชีวิตเจ้า”


หานเซิ่นกำมีดขนนกโลหิตอยู่ในมือ ขณะที่จ้องไปที่ดราก้อนเธอร์ทีน


 


พลังพิชิตมารระเบิดออกมาจากร่างของดราก้อนเธอร์ทีน มันทำลายมีดลมปราณที่รัดตัวเธออยู่ทั้งหมด แต่การทำอย่างนั้นก็ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่าเดิม เธอมีเลือดไหลออกมาจากทุกหนทุกแห่งทั่วตัว


 


“ร่างกายของเผ่าพันธุ์ดราก้อนนั้นแข็งแกร่ง” หานเซิ่นพูดชมเธอ


 


หลังจากที่ดราก้อนเธอร์ทีนหนีออกจากมีดลมปราณของหานเซิ่นได้ ดวงตาของเธอก็ยังคงลุกเป็นไฟ เธอพยายามจะแทงหอกใส่หานเซิ่นอีกครั้ง แต่เมื่อเธอทำอย่างนั้น มีดลมปราณก็รัดตัวของเธอเหมือนกับหุ่นเชิดอีกครั้ง


 


หานเซิ่นเดินมาอยู่ตรงหน้าของเธอ แต่เธอไม่สามารถโจมตีอะไรเขาได้ ทุกครั้งที่เธอตัดมีดลมปราณที่รัดตัวออก มันก็จะมีเส้นที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นมารัดตัวเธอเพิ่ม เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่นิดเดียว


 


“มันถึงเวลาที่ต้องจบเรื่องนี้สักที” มีดขนนกโลหิตของหานเซิ่นถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีม่วง ซึ่งมีดลมปราณที่รัดร่างของดราก้อนเธอร์ทีนอยู่ก็ถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีม่วงเช่นเดียวกัน


 


เส้นไหมนับไม่ถ้วนเริ่มตัดเข้าไปในเนื้อหนังของดราก้อนเธอร์ทีน และหมอกสีม่วงก็แทรกซึมเข้าไปในบาดแผลของเธอ


 


“พลังเขี้ยว” ดราก้อนเธอร์ทีนดูสิ้นหวัง


 


พลังเขี้ยวร้ายแรงยิ่งกว่าพลังพิชิตมารของเธอ มันไม่มีโอกาสที่จะรอดไปได้เมื่อถูกมันเข้า และตอนนี้ด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วนทั่วร่างของเธอ มันก็ไม่มีหวังที่เธอจะรอดอีกแล้ว

 

 

 


ตอนที่ 2034

 

ซีโน่เจเนอิค มังกรปีศาจ

เลือดกระจายลงมาราวกับกลีบดอกไม้ แม้แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ดราก้อนก็ไม่สามารถทนต่อการถูกฉีกกระชากโดยพลังเขี้ยว สุดท้ายร่างกายของเธอก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ


 


หานเซิ่นเคลื่อนที่เข้าไปในเส้นทางลับใกล้ๆเพื่อซ่อนตัว หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใช้พลังในการขับพลังของหอกพิชิตมารออกจากร่างกาย


 


แต่พลังนั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาด ถ้าเขาไม่แข็งแกร่งพอ เขาก็จะไม่สามารถขับมันออกมาได้ แต่ถ้าเขาใช้พลังมากเกินไป มันก็จะเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเอง นั่นทำให้หานเซิ่นไม่สามารถขับมันออกมาจากร่างกายได้


 


หานเซิ่นไม่ได้มีเวลาคิดมากนัก ดังนั้นเขาจึงใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อวิเคราะห์พลังพิชิตมาร หลังจากนั้นพลังพิชิตมารก็ปรากฏขึ้นในสมองของหานเซิ่นในรูปของโครงสร้างลำดับ


 


ในจังหวะที่ดราก้อนเธอร์ทีนตาย ชารอนก็รู้สึกถึงมันได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป และดาบในมือของเขาก็บ้าคลั่งด้วยพละกำลังที่มากยิ่งกว่าเดิม เขาฟันใส่แมลงแก้วเงินและทำลายโล่ป้องกันของมัน


 


แมลงแก้วเงินกรีดร้องออกมาและเริ่มจะบินหนีไป ชารอนไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว เขาหันกลับและมุ่งหน้าไปหาดราก้อนเธอร์ทีน


 


เมื่อเห็นร่างที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆของดราก้อนเธอร์ทีน ชารอนก็ดูเคียดแค้น เขากำดาบในมือแน่นและวิ่งไปทางหานเซิ่น


 


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาคิดว่าเมื่อดราก้อนเธอร์ทีนไม่อยู่แล้ว ชารอนก็จะไม่สามารถหาตัวเขาได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด ชารอนกำลังมุ่งตรงมาหาเขา


 


หานเซิ่นไม่รู้ว่าชารอนก็มีพลังพิชิตมารเช่นเดียวกัน และชารอนก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังพิชิตมารที่อยู่ในตัวของหานเซิ่น


 


แต่หานเซิ่นไม่มีเวลามามั่วกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาใช้ท่าตบขั้นสุดยอดเพื่อโจมตีพลังของหอกพิชิตมารที่อยู่ในตัวของเขา เขาพยายามที่จะทำลายโครงสร้างลำดับของมัน ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างกายของเขาได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่พลังพิชิตในตัวของเขาก็ถูกทำลายจนสลายกลายเป็นผุยผง


 


ชารอนมาถึงตรงหน้าของเส้นทางลับ และเขาก็มองตรงมาที่หานเซิ่นด้วยสายตาอาฆาต


“ความเจ็บปวดที่เธอร์ทีนได้รับจะถูกคืนให้กับเจ้าเป็นพันๆเท่า”


 


ชารอนใช้ดาบอาหรับที่อาบแสงสีดำฟันเข้าใส่หานเซิ่นที่กำลังนั่งอยู่


 


หานเซิ่นกระโดดออกมาจากที่ซ่อนตัวและใช้มีดขนนกโลหิตป้องกันดาบของชารอนเอาไว้


 


เคร๊ง!


 


ขณะที่ร่างกายของหานเซิ่นถูกส่งกระเด็นออกไป เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่น่ากลัวจากดาบของชารอน เขากระเด็นไปชนเข้ากับกำแพงและทำให้มันพังทลายลงมา


 


“เจ้ารวมพลังมารนภากับพลังพิชิตมารเข้าด้วยกันอย่างนั้นหรอเนี่ย?”


หานเซิ่นจับอกของตัวเองอย่างเจ็บปวด ขณะที่พยายามลุกขึ้นมา


 


เมื่อเห็นหานเซิ่นป้องกันพลังมารนภาได้ ชารอนก็ดูเคียดแค้นยิ่งกว่าเดิม แสงสีดำที่อาบดาบของเขาอยู่นั้นสว่างไสวขึ้นต่อหน้าของหานเซิ่น


 


หานเซิ่นพยายามใช้หลายๆวิชาเพื่อป้องกันการโจมตีของชารอน แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบหลีกดาบของชารอนได้ เขาทำได้แค่ต่อสู้กับมันแบบตรงๆ แต่พลังของเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมอย่างชารอน เขาจึงถูกส่งกระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือดออกมา


 


พลังของชารอนเหนือกว่าดราก้อนเธอร์ทีนมาก ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนพูดว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับไผ่เดียวดาย


 


ชารอนมีทั้งพลังมารนภาและพลังพิชิตมารอยู่ในตัว และถึงแม้หานเซิ่นจะรู้เกี่ยวกับพลังมารนภาเป็นอย่างดี แต่มันก็ยากที่จะหลบได้


 


เมื่อเห็นชารอนโจมตีเข้ามาอีกครั้ง หานเซิ่นก็ไม่ลังเลที่จะใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียน พลังของมีดและดาบรวบกันอยู่บนมีดขนนกโลหิตของเขา ตอนนี้ทุกอย่างในสายตาของเขาเป็นโครงสร้างลำดับ


 


ดาบอาหรับของชารอนปะทะเข้ากับมีดขนนกโลหิตของหานเซิ่นอีกครั้ง พลังของท่าตบขั้นสุดยอดสามารถทำลายโครงสร้างลำดับของสิ่งต่างๆได้ ซึ่งหานเซิ่นก็สามารถสลายแสงสีดำที่ฟันเข้ามา และดาบของชารอนก็สลายกลายเป็นผุยผง


 


ชารอนดูตกตะลึง แต่มันก็ทำให้เขาโกรธยิ่งไปกว่าก่อนหน้านี้


 


หานเซิ่นทำลายโครงสร้างลำดับดาบของชารอนได้สำเร็จ แต่เขาก็ยังคงถูกส่งกระเด็นออกไปชนกับกำแพงที่อยู่ด้านหลังอยู่ดี


 


“ดี…ดี… มันไม่แปลกใจเลยที่เจ้าต่อสู้กับไผ่เดียวดายได้ จากมาร์ควิสทั้งหมด ข้าไม่คิดว่าจะมีใครที่ต่อกรกับเจ้าได้ เจ้าเป็นเอิร์ลที่เก่งกาจที่สุดที่เคยมีมา แต่วันนี้เจ้าต้องเจอกับข้า ชารอน” ชารอนมองตรงมาที่หานเซิ่นขณะที่พูดออกมา


 


วินาทีต่อมาแสงสีดำก็ระเบิดออกมาจากร่างของชารอน เขาสีม่วงของชารอนเปลี่ยนเป็นสีดำ และร่างกายของเขาก็สูงขึ้นกว่าเดิม 3 ฟุต กล้ามเนื้อของเขาใหญ่โตขึ้นจนชุดเกราะที่ใส่อยู่แตกกระจาย และผิวหนังของเขาก็เกิดเป็นเกล็ดขึ้นมา


 


กระดูกด้านหลังของเขาแตกหักและแยกออกจากกันจนกลายเป็นปีกมังกรสีดำ เล็บของเขายาวขึ้นมาจนกลายเป็นอะไรที่แหลมคมราวกับใบมีด


 


ตอนนี้มีแสงสีดำประหลาดปกคลุมทั้งทั้งร่างกายของชารอน มันเหมือนกับว่าเขาถูกย้อมในแสงสีดำ


 


บึ้สส!


 


ร่างกายของชารอนหายไปต่อหน้าต่อตาหานเซิ่น และเขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าหานเซิ่นอย่างฉับพลัน หานเซิ่นไม่มีเวลาจะตอบสนองได้ทัน ทำให้กรงเล็บที่เหมือนกับใบมีดแทงทะลุผ่านชุดเกราะเข้าไปในร่างของเขา


 


เลือดที่ตกผลึกเริ่มจะออกมาจากร่างกายของหานเซิ่น ขณะที่เขาถูกส่งกระเด็นออกไป และก่อนที่หานเซิ่นจะลงไปถึงพื้น ชารอนก็มาปรากฏตัวข้างๆเขาอีกครั้งและแทงกรงเล็บเข้ามาที่แขนของเขา


 


หานเซิ่นใช้ความสามารถในการคาดเดารวมเข้ากับพลังของท่าตบขั้นสุดยอด เพื่อโจมตีกลับไปยังกรงเล็บที่แทงเข้ามา


 


แต่วิสัยทัศน์ของหานเซิ่นเบลออีกครั้ง และชารอนก็หายตัวไป เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้งเขาก็แทงใส่หานเซิ่นจากด้านหลัง มันส่งหานเซิ่นกระเด็นขึ้นไปชนกับเพดานหินที่อยู่ด้านบน


 


ปัง!


 


ชารอนกำลังอยู่ในโหมดซีโน่เจเนอิค เขามีทั้งเลือดของเดม่อนและดราก้อนอยู่ในตัว พลังของเขาในตอนนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก ซึ่งแม้แต่ดยุกก็ไม่อาจจะต่อกรกับเขาในตอนนี้ได้


 


หานเซิ่นร่วงกลับลงมาที่พื้นหิน ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด หานเซิ่นรับรู้ว่าช่องว่างระหว่างพลังของพวกเขาทั้งคู่ต่างชั้นกันอย่างมาก


 


ความแตกต่างระหว่างหานเซิ่นกับชารอนในตอนนี้ก็เหมือนกับการที่เอิร์ลคนหนึ่งพยายามเผชิญหน้ากับมาร์ควิส พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เหนือกว่าคนในระดับเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นช่องว่างของพลังระหว่างพวกเขาก็กว้างอย่างไม่น่าเชื่อ


 


ถึงแม้หานเซิ่นจะมีพลังของท่าตบขั้นสุดยอด แต่เขาก็ไม่สามารถสัมผัสตัวชารอนได้อยู่ดี


 


“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ตายง่ายๆ ข้าจะถลกหนังของเจ้าออกมา และข้าขอรับประกันเลยว่าเจ้าจะต้องตายอย่างโหดร้ายและเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เธอร์ทีนต้องเจอ”


ทุกคำพูดของชารอนเต็มไปด้วยความอาฆาต เมื่อเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นอย่างฉับพลัน


 


หานเซิ่นไม่สามารถมองตามความเร็วของชารอนได้ทัน อย่าว่าแต่จะหลบหลีกการโจมตีเลย


 


แต่ในขณะที่กรงเล็บอันแหลมคมของชารอนกำลังแทงเข้าใส่ร่างกายของเขา ทันใดนั้นแสงสีขาวอันศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของหานเซิ่น

 

 

 


ตอนที่ 2035

 

พลังของเทพเจ้าสปิริต

ในจังหวะนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีขาว เขาเปลี่ยนเป็นตัวตนแห่งแสงและกลายเป็นร่างพลังงานที่โปร่งใส


 


เมื่อกรงเล็บของชารอนแทงทะลุเข้าไปในร่างของหานเซิ่น เขาก็ไม่รู้สึกถึงอะไร เขาไม่สามารถสัมผัสเนื้อหนังของหานเซิ่นได้แม้แต่นิดเดียว


 


หานเซิ่นดูเหมือนกับเทพเจ้า เขาใช้มีดขนนกโลหิตฟันลงมาที่หัวของชารอนราวกับลำแสงศักดิ์สิทธิ์ ชารอนกระพือปีกและร่างของเขาก็หายวับไปราวกับว่าเขาเทเลพอร์ต


 


เมื่อชารอนปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้กรงเล็บแทงเข้าใส่หานเซิ่นจากด้านหลัง


 


ชารอนใช้พลังมารนภาและพลังพิชิตมารจนถึงขีดสุด เขาโจมตีใส่หานเซิ่นด้วยวิชาที่จะไม่พลาดเป้าหมาย


 


แต่หานเซิ่นไม่มีแผนที่จะหลบมัน กรงเล็บของชารอนทะลุร่างของหานเซิ่นไปอีกครั้ง ราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ภาพโฮโลแกรม การโจมตีของชารอนไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อหานเซิ่นได้แม้แต่นิดเดียว


 


“เป็นไปไม่ได้? นี่มันพลังอะไรกัน?” ชารอนตกตะลึง มันดูเหมือนกับว่าเขาโจมตีถูกหานเซิ่นเต็มๆ แต่มันไม่ได้ผล การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย


 


“นี่คือพลังที่จะฆ่าเจ้าไง” หานเซิ่นเคลื่อนที่ไปอยู่ตรงหน้าชารอนอย่างรวดเร็วราวกับลำแสง และฟันใส่เขาด้วยมีดขนนกโลหิต


 


หานเซิ่นไม่มีเวลามากนัก โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะทำงานอยู่แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น และถ้าเขาไม่สามารถฆ่าชารอนได้ภายในเวลานั้น เขาก็จะถูกฆ่าตายซะเอง


 


ตูม!


 


ชารอนกระพือปีกอีกครั้งและหายตัวไป


 


มีดของหานเซิ่นไม่สามารถฟันถูกตัวของชารอนได้ ดูเหมือนกับว่าชารอนใช้ความสามารถในการเทเลพอร์ตจริงๆ ดังนั้นมันจึงไม่มีร่องรอยอะไรให้ติดตาม แต่หานเซิ่นสามารถตามการเคลื่อนไหวของชารอนได้ด้วยศาสตร์ตงเสวียน


 


“เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้” ชารอนพูด “ข้ามีเลือดของเผ่าพันธุ์เดม่อนและดราก้อน และข้าก็มีพลังในการผ่ามิติ ส่วนพลังของเจ้าไม่ใช่ของเอิร์ลคนหนึ่ง เจ้าไม่ควรจะอยู่ในร่างนั้นได้เป็นเวลานาน ซึ่งเมื่อพลังของเจ้าหมดเมื่อไหร่ ข้าก็จะฆ่าเจ้าซะ”


 


“ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น” หานเซิ่นที่ดูเหมือนกับเทพเจ้าเริ่มกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตในมือ หลังจากนั้นมีดแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชารอน


 


ชารอนเทเลพอร์ตหลบมีดแสงของหานเซิ่น และไปปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอุโมงค์หนึ่ง เขามองไปทางหานเซิ่นด้วยความดูถูก


“ข้าบอกเจ้าแล้วยังไง เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้”


 


แต่ในวินาทีต่อมาสีหน้าของชารอนก็เปลี่ยนไป ในทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา ร่างกายของเขาก็ถูกตัดโดยมีดแสงที่มองไม่เห็น


 


แขนของชารอนหลุดออกจากร่าง ทำให้เลือดของเดม่อนและดราก้อนพุ่งออกมา ทุกหนทุกแห่งภายในรูปปั้นนั้นเต็มไปด้วยมีดแสงที่ส่องสว่างราวกับใยแมงมุม ไม่ว่าชารอนจะเทเลพอร์ตไปที่ไหน เขาก็จะถูกเฉือนด้วยมีดแสงของหานเซิ่น


 


“เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าเลือกคู่ต่อสู้ผิดคน” หานเซิ่นพูดกับชารอนก่อนที่จะโฉบเข้ามาตัดร่างของเขา


 


ชารอนที่สูญเสียแขนไปพยายามจะเทเลพอร์ตหนี แต่เมื่อเขาเสร็จสิ้นการเทเลพอร์ต มีดแสงนับไม่ถ้วนก็แทงทะลุร่างกายของเขา พวกมันเฉือนร่างของเขาเป็นชิ้นๆ และทำให้เลือดของเขากระเด็นกระจัดกระจายไปทั่ว


 


“ซีโน่เจเนอิคปีศาจมังกรระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


พรวด!


 


หานเซิ่นล้มลงกับพื้นพร้อมกับกระอักเลือดออกมา เขากลับมาดูเหมือนกับมนุษย์อีกครั้ง ชารอนเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่มาร์ควิสคนหนึ่งจะทำได้ ถ้าไม่พึ่งโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด หานเซิ่นก็จำเป็นต้องเป็นระดับมาร์ควิสเช่นกัน ถึงจะสามารถต่อสู้กับเขาได้


 


โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดทำให้หานเซิ่นสามารถต่อสู้กับชารอนได้ แต่ร่างกายของเขาก็ถูกใช้จนถึงขีดสุด ในตอนนี้แม้แต่เอิร์ลธรรมดาก็สามารถปิดชีวิตของหานเซิ่นได้อย่างง่ายดาย


 


หานเซิ่นพยายามลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาร่างของชารอน เขาเก็บเกล็ดปีศาจมังกรสีดำขึ้นมาก่อนที่จะหาที่ซ่อนตัว


 


มันยังมีมาร์ควิสที่ติดตามชารอนเหลืออยู่อีก ซึ่งหานเซิ่นไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นหานเซิ่นจึงเลือกหาที่ซ่อนอยู่ภายในรูปปั้นและใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่ออำพรางตัว


 


หานเซิ่นลองใช้พลังเพื่อกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ แต่ดูเหมือนว่าซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณจะหยุดเขาจากการเปิดประตูมิติเพื่อกลับไป


 


แน่นอนว่าตอนนี้ร่างกายของหานเซิ่นอ่อนแอเกินกว่าที่จะเทเลพอร์ตกลับได้ เขาจึงรักษาตัวอยู่ภายในรูปปั้น เขาใช้พลังหลายๆอย่างเพื่อจะเร่งความเร็วในการฟื้นตัว


 


โชคดีที่ร่างกายของหานเซิ่นแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วๆไป วิชากายหยกและโลหิตชีพจรทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์ดราก้อน


 


ถ้าหานเซิ่นกลายเป็นมาร์ควิสได้เมื่อไหร่ ร่างกายของเขาก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าดราก้อนเธอร์ทีน


 


“หวังว่าพวกมาร์ควิสที่เหลือจะหาเราไม่เจอ” แต่หานเซิ่นรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่สงบสติได้แล้ว เขาก็ใช้สมาธิไปกับการรักษาตัวเอง


 


มาร์ควิสเสือขาวและคนอื่นๆยังคงรออยู่ด้านนอกของรูปปั้น แต่หลังจากผ่านไปสักพักมันก็ยังไม่มีวี่แววว่าชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนจะกลับออกมา จนในที่สุดพวกเขาก็พบว่าการหายไปของทั้ง 2 เป็นอะไรที่แปลก


 


พวกเขารู้ถึงพลังของดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนดี ถ้าพวกเขาทั้ง 2 คนร่วมมือกัน การฆ่าดยุกคนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ตอนนี้พวกเขาหายเข้าไปในรูปปั้นสีเงินเป็นเวลานาน และมันก็ไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะกลับออกมา มันทำให้เหล่ามาร์ควาที่รออยู่ด้านนอกเริ่มจะรู้สึกกังวล


 


มาร์ควิสเสือขาวใช้พลังเสียงตะโกนเข้าไปภายในรูปปั้น แต่มันไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา


 


“มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างนั้นหรอ?” มาร์ควิสนกโลหิตดูกังวล


 


“ข้าไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น หานเซิ่นเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง เขาไม่มีทางเอาชนะชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนได้” มาร์ควิสเสือขาวก็ดูกังวลเช่นกัน แต่เขาไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น


 


“พวกเราควรจะเข้าไปดูไหม?” มาร์ควิสนกโลหิตถามอย่างลังเล


 


“พวกเราควรจะรออยู่ที่นี่” มาร์ควิสเสือขาวพูดอย่างมั่นใจ


 


ถ้าชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนยังปลอดภัย พวกเขาก็จะลากตัวหานเซิ่นออกมา แต่ถ้ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา การเข้าไปข้างในก็ไม่ต่างอะไรไปจากการฆ่าตัวตาย


 


หานเซิ่นยังคงพยายามรักษาตัวเอง เขาทั้งบาดเจ็บหนักและทั้งเหนื่อยล้า มันต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่เขาจะฟื้นตัว


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างคลืบคลานเข้ามา หัวใจของเขาเต้นรัว และเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นแมลงแก้วเงินกำลังคลานเข้ามาทางเขา มันจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีเงินของมัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)