Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ภาคที่ 35 ตอนที่ 6-7
ภาคที่ 35 มหาเคารพหิมะเหิ...
ตอนที่ 6 ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ
ตงป๋อเสวี่ยอิงแย้มยิ้มน้อยๆ “รัฐโบราณคิมหันตวายุต้องการถือสิทธิ์ครอบครองตำราเล่มนี้แต่เพียงผู้เดียว ห้ามมิให้ข้าเผยแพร่สู่ภายนอกออกไปอย่างนั้นหรือ การถือสิทธิ์ครอบครองนั้น ข้าเอ่ยปากก็ย่อมแตกต่างกันแล้ว”
“เจ้าว่ามาสิ” จักรพรรดิเซี่ยก็มองลงไปยังเบื้องล่างแล้วเอ่ยอย่างสงบ
จักรพรรดิเซี่ย จักรพรรดิชาง และบรรพชนฝาน พวกเขาสามคนต่างก็เตรียมตัวถูกสังหารเอาไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ถึงแม้จะจ่ายในราคาสูงก็ยังคุ้มค่าอยู่ดี! อย่างน้อยตำราเล่มนี้ จากนี้เป็นต้นไปก็จะเป็นของรัฐโบราณคิมหันตวายุแล้ว!
“ก่อนอื่นเลย เม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่ง!” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองบุคคลผู้ไร้เทียมทานทั้งสามแล้วเอ่ยขึ้น
“หนึ่งแสนชั่งหรือ”
ถึงแม้ว่าพวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนจะเตรียมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ยังสีหน้าเหยเก ในใจขมวดแน่น
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเม็ดทรายอลวนนั้นหายากเพียงใด จำเป็นจะต้องสะสมแก่นแท้อลวน จึงจะได้มาสักเล็กน้อยโดยบังเอิญจากในห้วงมิติระดับที่สูงกว่า” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เม็ดทรายอลวนทุกเม็ดล้วนได้มายากยิ่ง เจ้าต้องการถึงหนึ่งแสนชั่งเต็มๆ เชียวหรือ เม็ดทรายอลวนทั่วทั้งดินแดนจิตโลการวมกันขึ้นมาจะมีมากมายสักเท่าไหร่กันเชียว น้อยลงสักหน่อยเถิด”
ด้วยสถานะผู้แกร่งกล้าอันดับหนึ่งแห่งดินแดนจิตโลกา จักรพรรดิเซี่ยก็ยังต้องต่อรอง เพราะสิ่งที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยปากนั้นชวนให้คนตกใจเกินไปแล้วจริงๆ
เพราะ ‘ปริมาณเม็ดทรายอลวน’ ทั่วทั้งรัฐโบราณคิมหันตวายุก็ยังห่างไกลจากหนึ่งแสนชั่งมากมายนัก!
“ถ้าหากอยากถือเอกสิทธิ์ครอบครองตำรา เม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่งก็เป็นสิ่งจำเป็น” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยปาก “ลดลงไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว! มิฉะนั้นข้าก็จำเป็นต้องขายตำราให้กับรัฐโบราณอื่นๆ เพื่อเก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน”
จักรพรรดิเซี่ยได้ฟังแล้วก็เอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “เหตุใดเจ้าจึงอยากได้เม็ดทรายอลวน มีประโยชน์ต่อพลังคละวิถีหรือไร”
“ต้องขอบคุณปุจฉวิถีคละถิ่นของจักรพรรดิเซี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงเจตนาพูดขึ้น เขาไม่อยากจะเปิดเผยเจ็ดกระบวนคละถิ่นของตนออกสู่สาธารณะ
“จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชาง เชื่อว่าทั้งสามท่านก็ทราบดี ถ้าหากข้าแบ่งตำราโลกเทียมเล่มนี้แยกขายให้กับรัฐโบราณแห่งต่างๆ การรวบรวมเม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่งก็คงจะมิใช่เรื่องยากแต่อย่างใดเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพลางยิ้มน้อยๆ “นี่คือสิ่งที่ข้าจะต้องได้มาให้จงได้ มิฉะนั้นก็สู้มิขายตำราเสียดีกว่า”
พวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนลังเลเสียแล้ว
“ทำอย่างไรดีเล่า เม็ดทรายอลวนของรัฐโบราณคิมหันตวายุเราทั้งหมดก็มีอยู่เพียงแค่ห้าหมื่นกว่าชั่งเท่านั้นเอง นี่ยังเป็นเพราะเดิมทีข้าเป็นยอดฝีมือวิถีอากาศ สะสมแก่นแท้อลวนอยู่เป็นประจำ สั่งสมมาเป็นเวลายาวนานไร้ที่สิ้นสุดจนกระทั่งบัดนี้ เม็ดทรายอลวนของรัฐโบราณคิมหันตวาเรานี้จึงได้มีอยู่มากพอดู” จักรพรรดิเซี่ยถ่ายเสียงพูด “จะรวบรวมให้ได้หนึ่งแสนชั่ง เกรงว่าสะสมอย่างช้าๆ คงจะมิทันการ จะต้องซื้อหาจากรัฐโบราณอื่นๆ เสียแล้วล่ะ”
“ซื้อเถิด”
“ผู้พเนจรกับข้ามีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีระหว่างกัน” บรรพชนฝานถ่ายเสียงพูด “เขาก็เป็นยอดฝีมือวิถีอากาศขั้นสุดยอดเช่นกัน เม็ดทรายอลวนที่สะสมเอาไว้ก็คงจะมีอยู่ไม่น้อย ไปหาเขาแล้วซื้อมาให้มากหน่อย รัฐโบราณสหโลกา และรัฐโบราณหิมะน้ำแข็งก็ต้องพยายามซื้อหามาให้มากหน่อย! ตาเฒ่าสามคนที่รัฐโบราณหิมะน้ำแข็งนั้นร่างกายแข็งแกร่ง ต่างก็ไปรวบรวมแก่นแท้อลวนมาครั้งแล้วครั้งเล่า เม็ดทรายอลวนที่สะสมเอาไว้ก็ต้องมีอยู่ไม่น้อย”
“อืม ก็ตกลงเช่นนี้แล้วกัน” พวกจักรพรรดิเซี่ยก็ตกลงแล้ว
เม็ดทรายอลวน
ประโยชน์ของมันต่อทั้งดินแดนจิตโลกานั้นอ่อนแออย่างยิ่ง เพียงเพราะว่าหาได้ยากเหลือเกินจึงมีราคาค่อนข้างสูง! ถ้าหากตงป๋อเสวี่ยอิงเรียกหาสักพันสองพันชั่ง พวกจักรพรรดิเซี่ยก็คงจะเอาให้ไปแล้ว แต่มากถึงหนึ่งแสนชั่งเต็มๆ น่ะหรือ เกรงว่าคงจะต้องสูบเอาส่วนใหญ่ของเม็ดทรายอลวนที่สำรองเอาไว้ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาเสียแล้ว!
……
“การรวบรวมเม็ดทรายอลวนต้องใช้เวลา” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยปาก “แต่ข้าจะต้องช่วยเจ้ารวบรวมให้ได้ภายในหนึ่งร้อยล้านปีอย่างแน่นอน”
“ดีเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงเผยสีหน้ายินดี
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ
เพราะว่าวัสดุเกือบทั้งหมดของอาวุธที่จำเพาะเหมาะสมกับเจ็ดกระบวนคละถิ่นล้วนต้องการเม็ดทรายอลวนทั้งสิ้น สำหรับวัสดุส่วนเสริมต่างๆ นั้นกลับได้มาอย่างง่ายดายยิ่ง เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอ้างอิงจากเคล็ดวิชาหลอมอาวุธที่เสริมอยู่ในเจ็ดกระบวนคละถิ่น อาวุธที่อาศัยเม็ดทรายอลวนหลอมออกมา… การควบคุมพลังคละวิถีก็จะผ่อนคลายกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า ตนเองจึงสามารถสำแดงเคล็ดวิชาระดับที่สูงส่งลึกล้ำยิ่งขึ้นได้
อาวุธก็คือสื่อกลาง สื่อกลางที่ทำให้ควบคุมพลังคละวิถีผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
“ยังต้องการอะไรอีกหรือ” จักรพรรดิเซี่ยพูด พวกเขาไม่คิดว่าตงป๋อเสวี่ยอิงจะเรียกหาเพียงแค่นี้
“อาวุธชิ้นหนึ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพลางยิ้มน้อยๆ
อาวุธเทพอลวน ต่อให้รวบรวมวัสดุ ก็ยังจำเป็นต้องค่อยๆ ฝึกฝนด้วยตนเองอย่างช้าๆ อยู่ดี จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน
นอกจากนี้ ในภายหน้าเมื่อมีอาวุธเทพอลวนอยู่ในมือ พลังยุทธ์แข็งแกร่งเหลือเกิน ก็อาจจะเหนี่ยวนำให้บรรดาบุคคลผู้ไร้เทียมทานเกิดความสงสัย เกรงว่าจะทำให้เกิดระลอกคลื่นขึ้นได้ ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถประเมินบรรทัดฐานของเหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานสูงเกินไปได้ เรื่องที่เหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานร่วมมือกันล้อมสังหารก็เป็นสิ่งที่ทำกันได้ ดังนั้นตนเองจึงต้องการอาวุธที่กล้าแกร่งอีกชิ้นหนึ่ง หนึ่งก็เพื่อให้พลังยุทธ์ของตนแกร่งยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย สองก็เพื่อทำให้เหล่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานยิ่งสามารถ ‘เข้าใจได้’ ว่าเหตุใดตนจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
“จักรพรรดิเซี่ย ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ ชิ้นนั้นที่ท่านหลอมขึ้นอย่างไรเล่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพลางยิ้มน้อยๆ
“ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศหรือ” จักรพรรดิเซี่ยขมวดคิ้ว “ความต้องการช่างสูงเสียจริง”
“ช่วยไม่ได้ ข้าไม่มีอาวุธอีกแล้วนี่ ต้องการสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าที่ร้ายกาจสักชิ้นหนึ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงอมยิ้ม
ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ!
เป็นสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าทางด้านวิถีอากาศที่ตงป๋อเสวี่ยอิงคิดว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุดในทั้งดินแดนจิตโลกาแล้ว! บอกไว้ก่อนว่าสุดยอดสมบัติลับล้ำค่านั้นก็มีความแตกต่างกัน เช่นทางด้านการรักษาชีวิตนั้นก็ย่อมล้ำค่าเป็นที่สุด เช่นดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ… ชิ้นหนึ่งก็มีค่าพอๆ กันกับ ‘ดาบทวิภพ’ สองสามชิ้น พอมีสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าสักชิ้นหนึ่งอยู่กับตัวแล้วผสานรวมทั้งเก้าร่างแยกอีกครั้ง พลังยุทธ์ของตนก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“รับปากเจ้าก็ได้” จักรพรรดิเซี่ยพูด “แต่นี่ก็ใช้ได้แล้ว”
“นี่ยังไม่พอหรอกนะ” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายศีรษะ “ถ้าหากข้าขายให้กับรัฐโบราณหลายแห่ง ผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คงมิใช่เท่านี้หรอก”
จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชางต่างก็พากันเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่งเสียแล้ว
เม็ดทรายอลวนหนึ่งแสนชั่ง พวกเขาจำเป็นจะต้องแลกเปลี่ยนสมบัติล้ำค่ากับรัฐโบราณอื่นๆ มูลค่าก็สูงเป็นที่สุดแล้ว อีกทั้งยังมี ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ สมบัติลับล้ำค่าวิถีอากาศทางด้านโลกาอีกชิ้นหนึ่งด้วย
“ยังต้องการบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตเป็นระยะเวลาล้านล้านปีด้วย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด
บรรพชนฝานถอนหายใจ
ไม่ต้องดูว่าราคาสูงลิบลิ่ว การบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตร้อยล้านปี ต้องใช้หนึ่งหมื่นมหาคุณูปการอะไรเลย ในความเป็นจริงแล้วการบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตไม่ได้ทำให้ต้นไม้เทพสูญเสียอะไรเลย ล้านล้านปีก็แค่เสียเวลาไประยะหนึ่งเท่านั้นเอง มิได้เป็นความสูญเสียใหญ่หลวงอันใดกับรัฐโบราณคิมหันตวายุเลย
“ยังมีความต้องการสุดท้ายอยู่อีกข้อหนึ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงอมยิ้ม “ห้าแสนมหาคุณูปการ! ข้าสูญเสียที่วังเทพจิตโลกาไปมากมายเหลือเกิน ดังนั้นจึงต้องการมหาคุณูปการสักเล็กน้อย ไม่มีแล้วล่ะ แค่นี้แหละ จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน จักรพรรดิชาง หากรับปากตามความต้องการเหล่านี้ของข้าแล้ว จากนี้ไปตำราโลกเทียมเล่มนี้ก็เป็นของรัฐโบราณคิมหันตวายุแล้วล่ะ! รัฐโบราณคิมหันตวายุอยากจะถ่ายทอดให้กับผู้ใดก็สามารถถ่ายทอดให้กับผู้นั้นได้ อย่างเช่นขายให้กับประมุขรัฐเสียดฟ้า ก็ทำได้ทั้งสิ้น!”
ถึงแม้ว่าจักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชางจะปวดใจอย่างที่สุด
แต่ก็รู้กระจ่างดีว่า…
ถ้าหากอิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้ขายให้กับรัฐโบราณอื่นๆ ก็สามารถได้รับผลประโยชน์กองใหญ่จากทุกๆ รัฐโบราณได้ เมื่อรวมกันขึ้นมาแล้วเกรงว่าคงยังจะมากกว่านี้ได้อีกพอสมควรเลยทีเดียว!
“เอาล่ะ” พวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนประสานสายตากันคราหนึ่งแล้วจักรพรรดิเซี่ยก็เอ่ยปากว่า “ก็ตกลงเช่นนี้แล้วกัน”
ตงป๋อเสวี่ยอิงแย้มยิ้มน้อยๆ “ขอบคุณจักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝานและจักรพรรดิชาง บนเส้นทางการบำเพ็ญนั้นหากสู้ได้ก็ต้องสู้อยู่แล้ว”
บรรพชนฝานก็อมยิ้มเช่นกัน “สิ่งที่เจ้าต้องการช่างโหดร้ายนัก แต่ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องปกติ”
ถ้าหากพวกเขารัฐโบราณคิมหันตวายุต้องการ…
ลำพังแค่ขายให้กับประมุขรัฐเสียดฟ้าก็คงจะได้รับกลับมาเกือบครึ่งแล้ว!
ราคาที่รัฐโบราณสหโลกาเสนอให้กับบรรพชนฝานในตอนนั้นยังเกินจริงกว่าตงป๋อเสวี่ยอิงผู้นี้เสียอีก! ถึงแม้ว่าความต้องการของตงป๋อเสวี่ยอิงในคราวนี้จะสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่า ‘เม็ดทรายอลวน’จะหายาก แต่ก็นำไปใช้ประโยชน์ได้ยาก รัฐโบราณคิมหันตวายุก็ยังมีวิธีที่จะได้มาไว้ในมือด้วยราคาที่ค่อนข้างต่ำ
……
การเจรจาต่อรอง
พวกจักรพรรดิเซี่ยต่างก็เผยรอยยิ้มออกมา ตงป๋อเสวี่ยอิงก็อารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง ใครก็มองไม่ออกว่าในมุมมืด พวกจักรพรรดิเซี่ยทั้งสามคนต่างก็เคยคิดที่จะจับเป็นร่างแยกที่มีอยู่ทั้งหมดของตงป๋อเสวี่ยอิงมาก่อนแล้ว! ถึงอย่างไรขอเพียงแค่สามารถจับเป็นทั้งหมดมาได้ นอกเสียจากว่าตงป๋อเสวี่ยอิงจะยอมตายดีกว่ามอบออกมา มิฉะนั้นก็ได้แต่ก้มหัวยอมจำนนแล้ว
“เรื่องนี้ ห้ามมิให้รั่วไหลออกไปเด็ดขาด” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยปาก “ข้าจำเป็นต้องใช้เวลาในการเก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน ก่อนที่จะรวบรวมได้สำเร็จ เรื่องของตำราโลกเทียมก็ห้ามมิให้ผู้อื่นที่มิได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ล่วงรู้โดยเด็ดขาด เมื่อใดที่แพร่สู่ภายนอก… รวบรวมตำราโลกเทียม แล้วข้าเก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน เกรงว่าความยากในการรวบรวมคงจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นอันมากเลยทีเดียว”
อันที่จริงตอนนี้การรวบรวมก็ยากเย็นเป็นอย่างมากอยู่แล้ว มิฉะนั้นพวกจักรพรรดิเซี่ยก็คงไม่ต้องปวดใจเช่นนี้
แต่เมื่อใดที่เรื่องของข้อตกลงตำราโลกเทียมแพร่ออกไป!
รัฐโบราณสหโลกาและรัฐโบราณเสียดฟ้าอาจถึงขั้นไม่ยอมขายเม็ดทรายอลวนให้! ทุกคนล้วนมิใช่คนโง่งม ตงป๋อเสวี่ยอิงทำข้อตกลงเรื่องตำราโลกเทียมกับรัฐโบราณคิมหันตวายุ แล้วรัฐโบราณคิมหันตวายุก็เก็บรวบรวมเม็ดทรายอลวน แล้วผู้ใดจะไม่สามารถคาดเดาได้เล่า
“ขอรับ” มหาเคารพซือเทียนที่อยู่ด้านล่างพูด
“ขอรับ ข้าจะไม่เผยแพร่สู่ภายนอกเป็นอันขาด ก่อนที่จักรพรรดิเซี่ยจะรวบรวมได้สำเร็จ ข้าจะไม่สำแดงเคล็ดเขตลวงโลกเทียมข้างนอกเด็ดขาด” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เอ่ยให้คำมั่น เขาก็ไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอยู่แล้ว อาวุธเทพอลวนชิ้นนี้ก็มีความสำคัญต่อเขาเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน แม้ว่าต่อให้ไปถึงขั้นสุดยอด อาวุธชิ้นนี้ก็ยังมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งอยู่ดี
ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ กับมหาเคารพซือเทียนที่อยู่ข้างๆ “มหาเคารพซือเทียน ข่าวที่ข้าได้รับดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ ตอนนี้ก็ยังไม่อยากให้แพร่สู่ภายนอกเช่นกัน”
“โอ้” มหาเคารพซือเทียนดวงตาเป็นประกายแล้วคาดเดาว่า “น้องเฟยเสวี่ยวางแผนจะแก้แค้นแล้วอย่างนั้นหรือ”
“แน่นอน!”
ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าเบาๆ
จวินอ๋องดำ…
ตัวบรรพชนราตรีนิรันดร์เองไม่สามารถจัดการได้! ตั้งแต่ไหนแต่ไรตนก็ไม่เคยคิดจะปล่อยจวินอ๋องดำเอาไว้เลย ตอนนั้นอยู่ที่วังเทพจิตโลกา บุคคลภายนอกที่ล่วงรู้ว่าตนได้รับแหล่งกำเนิดห้วงสมุทรมาก็มีอยู่เพียงสองคนเท่านั้น คนหนึ่งก็คือจอมเคารพกระบี่ปีศาจ ส่วนอีกคนก็คือจวินอ๋องดำ! จอมเคารพกระบี่ปีศาจก็คือผู้แกร่งกล้าแห่งรัฐโบราณคิมหันตวายุ เป็นปฏิปักษ์กับรัฐโบราณบรรพชนโดยกำเนิดอยู่แล้ว
บวกกับที่ตอนนั้นจวินอ๋องดำเจตนาพูดมากความเช่นนั้นก็เพราะจงใจจะถ่วงเวลา
หลังจากที่บรรพชนราตรีนิรันดร์มาแล้ว จวินอ๋องดำก็ไม่มีสีหน้าตื่นตกใจเลยสักนิด! ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่า… ต้องเป็นจวินอ๋องดำ ที่ส่งข่าวให้บรรพชนราตรีนิรันดร์ล่วงรู้ ทำให้บรรพชนราตรีนิรันดร์มาสังหารตน เคราะห์ดีที่ตนมีเคล็ดร่างแยก มิฉะนั้นชีวิตตนก็คงจบเห่เสียแล้ว!
แต่ดีร้ายอย่างไรจวินอ๋องดำก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมเคารพ ย่อมมิอาจจัดการได้โดยง่ายอยู่แล้ว แม้กระทั่งระดับขั้นในตอนนี้ของตน อยากจะจัดการเขาก็ยังยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อมี ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ ก็ไม่เหมือนกันแล้ว
“จวินอ๋องดำก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมเคารพ ทั้งยังมีเคล็ดร่างแปรเงามืด ยากนักที่จะจัดการได้” มหาเคารพซือเทียนพูดยิ้มๆ
“ต้องลองดู” ตงป๋อเสวี่ยอิงแย้มยิ้ม
มหาเคารพซือเทียนพยักหน้าน้อยๆ เขารู้ว่าอิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้เคยเห็นการต่อสู้ของจวินอ๋องดำด้วยตาตนเองมาแล้ว รู้ถึงพื้นฐานของจวินอ๋องดำ! ในเมื่อกล้าทำเช่นนี้ อย่างน้อยก็คงมีความมั่นใจมาพอสมควรแล้ว คิดถึงตรงนี้ มหาเคารพซือเทียนก็อดที่จะตกใจอยู่บ้างมิได้ พลังยุทธ์ของอิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้เหนือกว่าจินตนาการเสียแล้ว!
ภาคที่ 35 มหาเคารพหิมะเหิ...
ตอนที่ 7 พลังยุทธ์เพิ่มพูน
ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ยังพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าหากขายให้กับรัฐโบราณอื่นๆ ก็จะได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการเช่นกัน แต่ข้อหนึ่ง ตนมีความแค้นกับ ‘บรรพชนราตรีนิรันดร์’ แห่งรัฐโบราณบรรพชน ตนย่อมไม่มีทางก้มหัวต่อรองกับเขาอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ การขายให้กับหลายฝ่าย เกรงว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คงมิได้สูงไปกว่าขายให้รัฐโบราณคิมหันตวายุเพียงแห่งเดียวมากมายสักเท่าใดนัก! ข้อสอง มองดูทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา สุดยอดสมบัติลับล้ำค่าที่เหมาะสมสำหรับซ่อนเร้น ‘เจ็ดกระบวนคละถิ่น’ มากที่สุด และพลังคุกคามก็เพียงพอที่จะทำให้ตนเองพึงพอใจก็คือ ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’
ช่วยไม่ได้ ‘เจ็ดกระบวนคละถิ่น’ นั้นร่างแยกทุกร่างต่างก็แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง! ต้องรู้ไว้ว่าภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้แกร่งกล้าระดับจอมเคารพ มีเพียงแค่ร่างกายที่มีสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าอยู่เท่านั้นที่จะมีพลังยุทธ์แข็งแกร่งเป็นที่สุด ส่วนร่างแยกอื่นๆ ก็จะอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง (เงื่อนไขคือสามารถสำแดงร่างแยกออกมาได้)!
ส่วนดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ เป็นสมบัติลับล้ำค่าวิถีอากาศทางด้านโลกา ล้วนมีพลังช่วยเหลือร่างแยกทั้งหมดที่มีอยู่!
……
สองฝ่ายให้สัตย์สาบาน
มาถึงระดับอย่างพวกเขานี้ คำสาบานก็เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อจิตแห่งวิถีเท่านั้น! ไม่ได้มีผลคุกคามชีวิตเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกจักรพรรดิเซี่ย บุคคลผู้ไร้เทียมทานทั้งสามคน หรือว่าตงป๋อเสวี่ยอิง ต่างก็มีความมุ่งมาดปรารถนาอันแรงกล้าต่อเส้นทางการบำเพ็ญกันทั้งสิ้น! ย่อมไม่สามารถละทิ้งเส้นทางการบำเพ็ญของตนเพื่อผลประโยชน์จากการผิดคำสาบานเล็กๆ น้อยๆ นั้นได้
“บรรพชนฝาน เชิญดู” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็มอบตำราโลกเทียมเล่มหนึ่งออกมา ตำราสีทองเล่มหนึ่งลอยตรงออกมาในทันใด บนตำรามีโลกจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น นั่นก็คือโลกมายา
ในเมื่อเป็นตำราที่คิดค้นขึ้นเอง นึกอยากจะบันทึกมากน้อยเท่าใดก็บันทึกเท่านั้น
แต่เพราะผูกพันธะด้วยคำสาบาน… ที่บริเวณโดยรอบดินแดนจิตโลกา ก็มีเพียงแค่รัฐโบราณคิมหันตวายุเท่านั้นที่มีสิทธิ์ถ่ายทอดได้
“ให้ข้าดูหน่อยสิ” บรรพชนฝานรับมาแล้วพลิกเปิดดูในทันที การดูครั้งหนึ่งนี้ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว จักรพรรดิเซี่ยและคนอื่นๆ ในที่นั้นก็มีความอดทนเป็นอย่างยิ่ง ตงป๋อเสวี่ยอิงก็นั่งลงพร้อมกับพวกมหาเคารพซือเทียนพลางดื่มสุราด้วยกัน
บรรพชนฝานเก็บตำราขึ้น สองตาเปล่งประกาย สายตาที่มองไปทางตงป๋อเสวี่ยอิงล้วนเต็มไปด้วยความยินดีพลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “แตกต่างกันจริงๆ เสียด้วย ข้าบำเพ็ญโลกเทียม ให้ความสนใจกับจิตใจคนมากกว่า ดึงดูดความปรารถนาของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นรับใช้ข้าเป็นเจ้านายราวกับเป็นหุ่นเชิด ทำให้ผู้อื่นจ่อมจมอยู่ในโลกลวง แต่เจ้ากลับดูเหมือนจะคิดว่าโลกลวงก็เป็นความจริงอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน ภาพลวง ปรารถนา ล้างสังหารและวิญญาณ ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งความจริทั้งสิ้นอย่างนั้นหรือ”
“ใช่แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า
“ร้ายกาจ ร้ายกาจ” บรรพชนฝานพยักหน้า สิ่งที่เขาอยากเห็นก็คือเส้นทางความสำเร็จและประสบการณ์แห่งความสำเร็จของผู้อื่น!
การพินิจดูในครั้งนี้ทำให้บรรพชนฝานมีแรงบันดาลใจเป็นอย่างยิ่ง!
แน่นอนว่ามาถึงระดับขั้นเช่นเขานี้ เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงวิถีของตนเองง่ายๆ อย่างแน่นอน แต่กลับสามารถสังเคราะห์เชาวน์ปัญญาของผู้อื่นแล้วซึมซับผสานรวมเข้ากับตนเองได้
“มีหวังที่สี่สายจะผสานรวมกันได้” บรรพชนฝานปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง คุ้มค่า ซื้อมาได้คุ้มค่าจริงๆ
เม็ดทรายอลวนอันใดกัน…
สุดยอดสมบัติลับล้ำค่าอันใดกัน…
สำหรับเขา บรรพชนฝาน จะสำคัญสู้เส้นทางการบำเพ็ญของเขาเองได้อย่างไรกัน!
“ฮ่าฮ่า น้องฝานพอใจก็ใช้ได้แล้ว” จักรพรรดิชางและจักรพรรดิเซี่ยต่างก็พากันหัวเราะ บรรพชนฝานพึงพอใจก็หมายความว่าข้อตกลงนี้คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง
“อิงซานเสวี่ยอิง นี่คือดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ ซึ่งเป็นสมบัติลับล้ำค่าวิถีอากาศทางด้านโลกาที่ข้าอาศัย ‘แหล่งพลังเขตเพลิง’ เป็นพื้นฐานในการหลอมขึ้นมา แหล่งพลังเขตเพลิงมีราคาต่างกับแหล่งกำเนิดห้วงสมุทรที่เจ้าได้มาในตอนนั้นแค่ไม่เท่าไหร่เอง” จักรพรรดิเซี่ยพูดแล้วในมือก็มีดอกบัวสีแดงเพลิงดอกหนึ่งปรากฏขึ้น เขาโยนอย่างส่งๆ คราหนึ่ง ดอกบัวสีแดงเพลิงดอกนี้ก็ลอยมาทางตงป๋อเสวี่ยอิง
เพราะว่าวัสดุที่ใช้หลอมนั้นมีราคาสูงลิบ ราคาของสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าชิ้นนี้จึงสูงเป็นอย่างยิ่ง
“ขอบคุณจักรพรรดิเซี่ยขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงโบกมือ ดอกบัวสีแดงเพลิงก็ร่อนมาอยู่ในอุ้งมือเขา เขาตื่นเต้นเป็นที่สุด
สมบัติลับล้ำค่าชิ้นนี้ หนึ่งคือสามารถซ่อนเร้นเจ็ดกระบวนคละถิ่น สองคือยังสามารถทำให้พลังยุทธ์ของเขาทวีความแข็งแกร่งขึ้นได้เป็นอย่างมากอีกด้วย
มิฉะนั้นร่างแยกใดๆ สักร่างหนึ่งต่างก็สามารถระเบิดพลังรบระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอดออกมาได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้ใดต่างก็สามารถสงสัยได้ทั้งสิ้น! มี ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ คนอื่นก็ได้แต่ ‘นึกฝันไปเอง’ ทั้งสิ้น
“ใช้ให้ดีๆ ล่ะ สมบัติลับล้ำค่าทางด้านโลการะดับนี้ ยากนักที่จะได้มา” จักรพรรดิเซี่ยค่อนข้างเสียดายอยู่บ้าง
“ขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด
สมบัติลับล้ำค่าก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยเช่นกัน
สมบัติลับล้ำค่าที่เหมือนกันอยู่ในมือของยอดฝีมือระดับเทพจักรวาลชั้นที่สองที่ต่างกัน พลังคุกคามที่แสดงออกมาก็มีความแข็งแกร่งและอ่อนแอที่แตกต่างกัน
“เจ้าบำเพ็ญเคล็ดลับวิญญาณบางอย่างอยู่ใช่หรือไม่” จักรพรรดิเซี่ยเอ่ยปากในทันใด “ถึงแม้ว่าปุจฉวิถีคละถิ่นของข้าจะมีส่วนช่วยในการที่วิญญาณซ่อนเร้นเหตุปัจจัยและซ่อนเร้นร่องรอยอยู่บ้าง แต่ก็ยังไปไม่ถึงระดับเดียวกับเจ้านี้เลย”
บรรพชนฝานและจักรพรรดิชางก็มองตงป๋อเสวี่ยอิงเช่นกัน
“วิญญาณซ่อนเร้นเหตุปัจจัยและร่องรอยอย่างนั้นหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงตะลึงเล็กน้อย
“จักรพรรดิเซี่ยหาไม่พบอย่างนั้นหรือ”
จักรพรรดิเซี่ยพยักหน้า เขาทำเหมือนกับอิงซานเสวี่ยอิงเป็นคนของสำนักตนแล้ว อีกทั้งเรื่องนี้เวลาเนิ่นนานไปแล้วก็จะสามารถค้นพบได้ “ใช่ หาไม่พบ ข้า บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชาง ต่างก็หาไม่พบกันทั้งสิ้น! เคล็ดซ่อนเร้นพรรค์นี้ เกรงว่าคงจะไปถึงระดับสุดยอดพอๆ กันกับทางสายฝึกกายแล้ว”
ตงป๋อเสวี่ยอิงสะดุ้งน้อยๆ คราหนึ่ง
นึกถึงหลังจากที่บุกไปถึงขั้นสุดท้ายที่เจดีย์คละถิ่นแห่งวังเทพจิตโลกาแล้ว ของเหลวสีเขียวอ่อนที่แผ่กลิ่นอายโลหิตหยดนั้นแทรกซึมเข้าสู่ดวงวิญญาณของตน ตอนนั้นความแข็งแกร่งของพลังคุกคามของของเหลวสีเขียวอ่อนหยดนั้นเหนือชั้นกว่าพวกจักรพรรดิเซี่ยมากมายนัก! ถึงขนาดที่ทำให้ร่างแยกของตนสูญสิ้นสติรับรู้ และหลังจากที่ผสานรวมได้สำเร็จแล้ว เพราะการรับสัมผัสวิญญาณระหว่างร่างแยก เหนี่ยวนำให้ร่างแยกอื่นๆ เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นทั้งสิ้น ร่างแยกทุกร่างต่างก็ทวีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาล ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ไม่สงสัยเลยว่าไปถึงขั้นสุดยอด วิญญาณของตนก็คงจะมิอาจวิวัฒน์ได้อย่างชัดเจนเช่นนี้
“มิใช่เคล็ดลับหรอก คงจะเป็นการผจญภัยครั้งหนึ่งของข้ากระมัง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด
“การผจญภัยหรือ” จักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชางตาสว่างทันใด
บนดินแดนจิตโลกานั้นมีการผจญภัยอยู่จริงๆ อย่างเช่นวังเทพจิตโลกาและหุบเขาเขี้ยวหัก ต่างก็มีโอกาสที่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาอยู่พอสมควร
……
ตงป๋อเสวี่ยอิงจากไปในทันที มหาเคารพซือเทียนมาส่งด้วยตนเอง มหาเคารพซือเทียนให้ความสำคัญกับตงป๋อเสวี่ยอิงเพราะพลังยุทธ์ เขารู้ว่าอีกไม่นานสักเท่าใด ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาก็จะล่วงรู้ว่า ‘จ้าวหิมะเหิน’ แห่งรัฐเมฆทักษิณาแข็งแกร่งเพียงใด! เกรงว่าชื่อเสียงคงจะไม่ด้อยไปกว่าประมุขรัฐเมฆทักษิณาเลย
“น้องเฟยเสวี่ย”
“จ้าวหิมะเหิน”
บนคีรีมารสกุลฝานมีเทพจักรวาลสองคนเหินทะยานเคียงไหล่กันมา มองเห็นตงป๋อเสวี่ยอิงและมหาเคารพซือเทียน พวกเขาคุ้นเคยกับมหาเคารพซือเทียน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นตระกูลเดียวกัน จึงได้ผ่อนคลายกว่ามาก พวกเขาสองคนต่างก็ทักทายตงป๋อเสวี่ยอิงด้วยรอยยิ้ม
“ท่านมหาเคารพ พี่หลันเสวี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็พูดพลางยิ้มน้อยๆ ผู้ที่อยู่ตรงหน้าก็คือ ‘มหาเคารพเฟ่ยโห่ว’ และจ้าวหลันเสวี่ย
มหาเคารพเฟ่ยโห่ว…
คงจะนับได้ว่ารุ่งเรืองขึ้นมาในยุคเดียวกันกับจักรพรรดิเซี่ย บรรพชนฝาน และจักรพรรดิชาง ตอนนี้ในสกุลฝานมีมหาเคารพที่บุคคลผู้ไร้เทียมทานก็ยังฆ่าไม่ตายอยู่สองคน คนหนึ่งคือมหาเคารพเฟ่ยโห่วที่โบร่ำโบราณอย่างที่สุด ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือมหาเคารพซือเทียนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ มหาเคารพเฟ่ยโห่วโบร่ำโบราณเกินไป ทำให้เขาในตอนนี้มีความถ่อมตัวเป็นอย่างยิ่ง มุ่งมั่นบำเพ็ญอยู่ตลอด ไม่ยุ่งเรื่องทางโลก
สนทนากันอย่างง่ายๆ ไม่กี่ประโยค สองฝ่ายก็เบิกบานใจแล้ว
“มหาเคารพซือเทียน นับว่าปฏิบัติต่ออิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้อย่างเกรงใจทีเดียว” จ้าวหลันเสวี่ยมองดูคนทั้งสองที่จากไปอยู่ห่างๆ พลางเอ่ยอย่างทอดถอนใจประโยคหนึ่ง “ข้ายังคิดว่าด้วยอุปนิสัยเย็นชาของมหาเคารพซือเทียน ก็คงจะมิได้ใส่ใจอิงซานเสวี่ยอิงสักเท่าใดนักหรอก
“ก็น่าประหลาดอยู่บ้าง” มหาเคารพเฟ่ยโห่วอมยิ้มดูอยู่ห่างๆ “แต่อิงซานเสวี่ยอิงผู้นี้ก็น่าสงสารอยู่บ้าง เพิ่งจะเคราะห์ดีได้ก้าวหน้าก็เผชิญกับการล้างสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดเสียแล้ว”
“ช่างน่าสงสาร น่าเวทนายิ่งนัก ช่วยไม่ได้ บรรพชนราตรีนิรันดร์ลงมือแล้วเขาจะทำอย่างไรได้เล่า” จ้าวหลันเสวี่ยก็ยังเห็นใจตงป๋อเสวี่ยอิง
******
ตงป๋อเสวี่ยอิงมิได้รีบร้อนเดินทางมุ่งหน้าไปยังรัฐโบราณบรรพชน หากแต่กลับไปยังเมืองหิมะเหินเพื่อศึกษาสุดยอดสมบัติลับล้ำค่า ‘ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศ’ ก่อน และในขณะเดียวกันก็ส่งร่างแยกร่างแยกร่างหนึ่งมุ่งหน้าไปยังคีรีมารสกุลฝานเพื่อบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตอีกครั้ง! ถึงอย่างไรก็ผ่านการบำเพ็ญภายใต้ต้นไม้เทพผลาญจิตเมื่อคราวก่อนมาสามแสนล้านปีแล้ว
“ดอกบัวเพลิงห้วงอากาศหรือ”
ภายในห้องเงียบอันหม่นสลัว ตงป๋อเสวี่ยอิงในอาภรณ์สีขาวตลอดร่างนั่งขัดสมาธิอยู่ เบื้องหน้ามีดอกบัวสีแดงเพลิงดอกหนึ่งลอยอยู่ เขาหลอมแปรและรับสัมผัสความเร้นลับต่างๆ นานาอย่างต่อเนื่องด้วยความง่ายดาย
“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิเซี่ยยังจัดเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาบุคคลผู้ไร้เทียมทานแห่งดินแดนจิตโลกาด้วย ผู้แกร่งกล้าล้ำเลิศที่สามารถคิดค้นปุจฉวิถีคละถิ่นออกมาได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงตื่นตะลึงเพราะสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าชิ้นนี้ เพียงไม่นานเขาก็กระตุ้นสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าดอกนี้ พรึ่บ… ดอกบัวสีแดงเพลิงขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาก็บินตรงไปถึงบนดอกบัวอย่างรวดเร็วแล้วนั่งขัดสมาธิลงบนดอกบัว
ชิ้งๆๆๆๆๆ…
ร่างแยกร่างแล้วร่างเล่าปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดอกบัวสีแดงเพลิงขนาดมหึมากินพื้นที่บริเวณห้องเงียบไปเกือบครึ่ง ที่บนดอกบัว ตงป๋อเสวี่ยอิงเก้าคนนั่งขัดสมาธิลงทั้งหมด บนกลีบดอกไม้แต่ละดอกล้วนมีโลกอลหม่านอยู่ พลังของโลกทั้งหมดนี้ต่างก็ถูกตงป๋อเสวี่ยอิงยักย้าย เสริมกับบนร่างแยกทุกร่าง ความแข็งแกร่งของกลิ่นอายที่ร่างแยกทุกร่างแผ่ออกมพุ่งทะยานไปถึงระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอดในทันที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น