Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ภาคที่ 32 ตอนที่ 15-16

 ตอนที่ 15 การตายของตงป๋อเสวี่ยอิง

โดย

Ink Stone_Fantasy

ณ ทางเดินโลกาพิศวง


ภายในมิติอันเรืองรองแห่งหนึ่ง มิติหลากสีไหลเวียนราวกับสายรุ้ง ร่างแปรร่างหนึ่งของตงป๋อเสวี่ยอิงยินอยู่ตรงนี้พลางชื่นชมทิวทัศน์อันงดงาม “ช่างงดงามจริงๆ อยู่ในทางเดินโลกาพิศวงมาเป็นล้านล้านปีก็ยังคงรู้สึกว่าอากาศช่างน่าหลงใหลถึงเพียงนี้” จากนั้นร่างแปรร่างนี้ก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย พลังงานกลับคืนสู่ฟ้าดิน ส่วนร่างแปรอีกร่างหนึ่งซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ในมิติที่ปิดผนึกเอาไว้ก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเดียวกัน


……


เมืองโลกเทียมเป็นหนึ่งในสิบสามเมืองอลวนแห่งวังทวีสูญ เนื่องจากเป็นเมืองที่ตงป๋อเสวี่ยอิงสร้างขึ้นหลังจากสำเร็จเป็นขั้นอลวนแล้ว


ที่นี่มีการคุ้มกันอันเข้มงวด ร่างแปรของตงป๋อเสวี่ยอิงยังหลับใหลอยู่ที่นี่ระยะยาวเพื่อคอยคุ้มครอง หากมีปัญหาเมื่อใด ร่างแปรของเขาก็จะตื่นขึ้นมาแล้วทำการต่อสู้


แต่ขณะนี้ ร่างแปรที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราก็สลายไปเสียงดังฟิ้วเช่นกัน กลายเป็นประกายเล็กจิ๋วกลับคืนสู่ฟ้าดิน


“ร่างแปรของประมุขตำหนักตงป๋อสลายไปแล้ว!”


“ร่างแปรของประมุขตำหนักตงป๋อสลายไปแล้ว!”


วิญญาณค่ายกลซึ่งรักษาค่ายกลของเมืองโลกเทียมอยู่ตระหนกตกใจ รีบรายงานเรื่องนี้ขึ้นไปทันที


ร่างแปรของท่านประมุขตำหนักผู้เกรียงไกรสลายไปอย่างไร้สาเหตุเป็นเรื่องใหญ่โตเพียงใด ข่าวนี้ถูกรายงานขึ้นไปยังท่านประมุขวังทั้งสองของวังทวีสูญ…บรรพชนเทียนอวี๋และจอมกระบี่ทันที


“อะไรนะ” บรรพชนเทียนอวี๋และจอมกระบี่เคลื่อนที่ในพริบตามายังคูหาของตงป๋อเสวี่ยอิงแทบจะพร้อมกัน และมาอยู่ข้างกายอวี๋จิ้งชิว


อวี๋จิ้งชิวกำลังยืนตะลึงค้างอยู่ตรงนั้นพลางมองไปยังเบื้องหน้า เมื่อครู่นี้ตงป๋อเสวี่ยอิงยังยืนยิ้มมองนางอยู่ตรงหน้า แล้วก็กลายเป็นประกายเล็กๆ มลายหายไป แม้อวี๋จิ้งชิวจะบำเพ็ญมานานแสนนาน ก็ยังคงรู้สึกรวดร้าวใจราวกับถูกฉีกทึ้งอย่างไรอย่างนั้น


วิญญาณกระจัดพลัดพราย…


ต่อให้เป็นเทพจักรวาล ก็ยังต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย สามีกล่าวว่ามีป้ายคำสั่งจิตโลกาสามารถกลับชาติไปจุติยังโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลอีกแห่งหนึ่งได้ นี่คือเรื่องจริงหรือไม่ เขาจะกลับมาหรือเปล่า ความคิดในใจของอวี๋จิ้งชิวสับสนวุ่นวายไปหมด น้ำตาไหลรินจากดวงตาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว


“อวี๋จิ้งชิว เสวี่ยอิงเล่า” บรรพชนเทียนอวี๋ถามขึ้น จอมกระบี่ซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ร้อนรนมากเช่นเดียวกัน


“สิ้นใจแล้วเจ้าค่ะ” อวี๋จิ้งชิวกล่าว


“เกิดอะไรขึ้น ที่แท้แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่” บรรพชนเทียนอวี๋และจอมกระบี่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าใดนัก อันที่จริงเมื่อร่างแปรซึ่งทำหน้าที่รักษาเมืองโลกเทียมสลายไป พวกเขาก็พอจะเดาได้อยู่แล้ว แต่พลังของตงป๋อเสวี่ยอิงเองนั้นก็แข็งแกร่งทั้งยังมีสมบัติลับคุ้มกาย จะสิ้นใจไปได้อย่างไรกัน นอกจากนี้ในสายตาของพวกเขาทั้งสอง ตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นประมุขตำหนักที่มีความสามารถซ่อนอยู่มากที่สุดในวังทวีสูญ บำเพ็ญมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็เข้าถึงกระบวนท่าระดับชั้นที่เก้าถึงสองวิชาแล้ว พวกเขาต่างก็เชื่อว่า ในภายหน้าตงป๋อเสวี่ยอิงจะต้องกลายเป็นเทพจักรวาลคนที่สามแห่งวังทวีสูญอย่างแน่นอน! พวกเขาถึงขั้นรอคอยด้วยความเบิกบานใจ


แต่ทว่าทุกสิ่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน! พวกเขาทั้งสองต่างก็รู้สึกทำอะไรไม่ได้อยู่บ้าง


“เสวี่ยอิงถูกจอมเทพศักดิ์สิทธิ์จับตัวไปทั้งเป็น หมายจะบีบบังคับเขา เสวี่ยอิงมีเคล็ดลับวิญญาณ จึงเลือกที่จะปลิดชีพตนเอง วิญญาณกระจัดพลัดพรายไป” อวี๋จิ้งชิวพลิกมือคราหนึ่ง ในมือก็มีกำไลเก็บวัตถุวงนั้นปรากฏขึ้น นางยื่นกำไลให้บรรพชนเทียนอวี๋ “ท่านบรรพชน นี่คือสิ่งที่เสวี่ยอิงทิ้งไว้ให้ท่านเจ้าค่ะ”


บรรพชนเทียนอวี๋รับเอาไว้แล้วตรวจสอบดูอย่างรวดเร็ว


ตงป๋อเสวี่ยอิงได้แนบข้อมูลชิ้นหนึ่งเอาไว้กับกำไล ขณะที่บรรพชนเทียนอวี๋ตรวจสอบดูนั้นก็ได้รับสารทันที ไม่นานนักเขาก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดทันที


“…ขอเพียงอาศัยสมบัติล้ำค่า ก็สามารถสัมผัสรับรู้เครื่องหมายมิติในระยะใกล้ได้แล้ว เมื่อสอดส่องรอบบริเวณเครื่องหมายมิติ จะสามารถพบรังระดับเกราะทองสามแห่งได้อย่างง่ายดาย ขอท่านบรรพชนโปรดอภัยที่เสวี่ยอิงเห็นแก่ตัวด้วย ก่อนหน้านี้ข้าเก็บความลับมาโดยตลอด ไม่ยอมถ่ายทอดศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกานี้สู่ภายนอก เพียงแต่เสวี่ยอิงมีการรับรู้ไม่เพียงพอ ศาสตร์ลับสี่ภาพวาดที่ผู้อาวุโสจักรพรรดิเก้าเมฆาถ่ายทอดให้ ข้าเข้าถึงได้เพียงภาพที่หนึ่งเท่านั้น อีกสามภาพศึกษายังไม่สำเร็จจึงมิอาจบันทึกเอาไว้เพื่อถ่ายทอดได้ ‘ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา’ นี้ก็ไม่สามารถถ่ายทอดออกไปได้โดยง่ายเช่นเดียวกัน จอมเทพศักดิ์สิทธิ์อยากได้เคล็ดลับนี้มาโดยตลอด…”


ทิ้งสารเอาไว้ ทำให้บรรพชนเทียนอวี๋เจ็บปวดใจ


เห็นแก่ตัวหรือ


วิถีมิอาจถ่ายทอดได้โดยง่าย ประมุขหอหมื่นโลกาและจ้าวภูเขาฉื้อเหมยมิได้เห็นความสำคัญของวิชาสืบทอดของพวกเขาและเก็บเป็นความลับ ไม่ถ่ายทอดออกไปเช่นเดียวกันหรอกหรือ ศาสตร์ลับที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเข้าถึงมีไม่มากนัก ต่อให้เขามีพลังที่ไร้ศัตรู ก็มิอาจถ่ายทอดออกไปง่ายๆ อยู่ดี


ยิ่งไปกว่านั้น ‘ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา’ นั้นสำคัญเพียงใด หากถ่ายทออดสู่ภายนอก แม้จะเป็นเพียงสามคนห้าคน เกรงว่าคงจะเพิ่มโอกาสที่ข่าวจะรั่วไหลออกไปเป็นอันมาก เมื่อถูกจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ล่วงรู้เข้า ตงป๋อเสวี่ยอิงก็จะต้องสิ้นชีพอย่างแน่นอน


ตงป๋อเสวี่ยอิงระมัดระวังถึงเพียงนั้น ท้ายที่สุดก็ยังคงต้องพลีชีพเพราะศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกาอยู่ดี!


“ที่แท้แล้วครั้งก่อนที่เจ้าพบรังระดับเกราะทองแห่งที่สองมิใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เพราะเจ้าตามหาอยู่ตลอดเวลา บัดนี้จึงตรวจสอบทางเดินโลกาพิศวงไปแล้วกว่าครึ่ง ทั้งยังพบรังระดับเกราะทองถึงสามแห่งแล้วหรือนี่” บรรพชนเทียนอวี๋เจ็บปวดใจนัก


เขาชอบตงป๋อเสวี่ยอิงชนรุ่นหลังผู้นี้เป็นอันมาก


เนื่องจากผู้บำเพ็ญแบ่งออกเป็นหลายประเภท


อย่างจอมมารที่มาจากบ้านเกิดเดียวกับตงป๋อเสวี่ยอิงนั้นก็ได้สร้างหุบเหวลึกดำมืดขึ้นมา และเชื่อว่าผู้ที่อ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง หากมิใช่เพราะวังทวีสูญพันธนาการเอาไว้ ก็คงจะกลายเป็นมารร้ายที่เหี้ยมโหดกว่านี้อย่างแน่นอน! ส่วน ‘จอมกระบี่’ อีกคนนั้นแม้จะดีกว่าอยู่บ้าง แต่ก็เย่อหยิ่งรักสันโดษ เขาอยู่ร่วมสมัยกับจอมมาร ท้ายที่สุดก็แค่พันธนาการจอมมารไว้โดยมิได้สังหาร


จอมกระบี่มาถึงวังทวีสูญแล้วก็เก็บตัวอย่างยาวนาน เขาสนใจบำเพ็ญให้ตนเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้นมากกว่า!


ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงนั้นไม่เหมือนกัน ส่วนเขาและบรรพชนห้วงอากาศออกจะเหมือนกันอยู่บ้าง


นับตั้งแต่บรรลุ ระดับขั้น ‘จิตข้าคือจิตฟ้า’ เป็นต้นมา ตงป๋อเสวี่ยอิงเผชิญภารกิจก็ไม่เคยย่อท้อเลย


เขาสามารถบำเพ็ญได้อย่างเต็มที่ แต่เขากลับส่งร่างแปรไปตามหารังระดับเกราะทอง ส่งร่างแปรไปไล่ล่าฝูงมารผลาญทำลาย…เช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการบำเพ็ญอย่างแน่นอน นอกจากนี้ผู้ที่ยินดีทำเรื่องจิปาถะเหล่านี้ก็มีไม่มากนัก ตงป๋อเสวี่ยอิงเพิ่งจะบำเพ็ญไปทั้งหมดนานสักเท่าใดกัน เวลาแทบทั้งหมดล้วนใช้ไปกับการทำเรื่องเหล่านี้


ถ้าหาก…


ถ้าหากตงป๋อเสวี่ยอิงมิได้ทำสิ่งเหล่านี้ เขาก็คงไม่ไปสำแดงเขตลวงตามที่ต่างๆ ไม่ส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้นไปตามที่ต่างๆ แล้วถูก ‘จ้าวภูเขาฉื้อเหมย’ พบเข้าหรอก! ด้วยความกว้างใหญ่ไพศาลของอากาศอันสับสนอลหม่าน ขณะที่จ้าวภูเขาฉื้อเหมยพบเข้า ไม่แน่ว่าตงป๋อเสวี่ยอิงอาจจะสำเร็จเป็นเทพจักรวาลไปนานแล้วก็เป็นได้!


“เจ้าดูสิ” บรรพชนเทียนอวี๋ส่งกำไลให้จอมกระบี่ที่อยู่ด้านข้าง หลังจากจอมกระบี่รับมาแล้วก็สำรวจดูทันที


******


ณ ที่อีกแห่งหนึ่ง


นี่คือภายในรอยแยกมิติอันลึกลับอย่างยิ่งแห่งหนึ่งกลางอากาศอันสับสนอลหม่าน ที่นี่มียอดเขาอันแปลกพิสดารอยู่แห่งหนึ่ง กลางหุบเขามีลำแสงสีทองลอยไปลอยมา


ชายชราร่างผอมเล็กผู้หนึ่งยืนอยู่บนศิลาก้อนใหญ่ รอบศิลาก้อนใหญ่มีของเหลวสีเขียวอ่อนจำนวนนับไม่ถ้วนไหลเวียนอยู่ ศิลาก้อนใหญ่ผุดขึ้นมาเล็กน้อย


“ตามหามานานถึงเพียงนี้ ในที่สุดก็ก็พบยอดเขาบัลลังก์เทพเสียที ข้ายังคิดว่าการทำลายล้างครั้งใหญ่ของโลกกำเนิดครั้งก่อน ยอดเขาบัลลังก์เทพถูกทำลายไปแล้วเสียอีก” ชายชราร่างผอมเล็กกุมไม้เท้าเอาไว้ แม้เขาจะผอมจนมีแต่หนังหุ้มกระดูก แต่ยามนี้เมื่อยิ้มออกมา นัยน์ตาก็หรี่ลง “ยอดเขาบัลลังก์เทพเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดซึ่งข้าเตรียมเอาไว้ให้เจ้าหนุ่มตงป๋อ เขาเชี่ยวชาญด้านเขตลวงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมายังยอดเขาบัลลังก์เทพจะต้องได้อะไรไปมากมายอย่างแน่นอน!”


“ยอดเขาบัลลังก์เทพเตรียมพร้อมแล้ว ต่อไปก็คือ ‘แดนนิมิตดั้งเดิม’ ตอนนั้นข้าคิดค้นวิธีการบำเพ็ญในแดนนิมิตขึ้นที่นั่น ทว่าโลกทิพย์โบราณดั้งเดิมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จะเข้าไปในแดนนิมิตดั้งเดิมก็ยากแล้ว ยังต้องคิดหาวิธี” ชายชราร่างผอมเล็กครุ่นคิด จากนั้นก็ยิ้มออกมา “เฮอะๆ เพื่อศิษย์คนนี้ ข้าเสียอะไรไปมากนัก เจ้าหนุ่มตงป๋อ ดูสิว่าภายหน้าเจ้าจะใช้คืนข้าอย่างไร”


ชายชราร่างผอมเล็กชื่นชมตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นอันมาก


ตบอดคืนวันอันยาวนานก่อนหน้านี้ เขาลอบทดสอบตงป๋อเสวี่ยอิงมาหลายครั้ง แม้เขาจะรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้เมตตาผู้ที่อ่อนแอเหล่านั้นมากเกินไป ทำให้ตนเองลำบากเกินไปบ้าง แต่พูดโดยรวมแล้วเขาก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก! เขาเคารพอาจารย์ บูชาวิถี มิใช่หมาป่าตาขาว ต้องรู้ไว้ว่าเขามิได้มีเงื่อนไขของการรับศิษย์สูงนัก อย่างบรรพชนโลกาถ่ายทอดเคล็ดวิชาออกไป ทำให้มีมารร้ายเผ่ากลืนกินจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาเขาก็มิได้ใส่ใจนัก


แน่นอนว่าตงป๋อเสวี่ยอิงเมตตาผู้ที่อ่อนแอ เขาก็ไม่มีความเห็นอันใด เพียงแค่รู้สึกว่าผู้ที่กำลังจะรับเป็นศิษย์คนนี้ทำเช่นนี้ช่างลำบากเกินไปแล้ว


ตลอดคืนวันอันยาวนาน นี่คือศิษย์เพียงผู้เดียวที่มีผลสำเร็จอันใหญ่หลวงทางด้าน ‘เคล็ดวิชาสืบทอดปีศาจชาด’ และเชี่ยวชาญด้านวิญญาณ และเขาก็จริงจังเป็นอันมาก อย่างตอนนั้นที่ชี้แนะพวกจักรพรรดิดำและบรรพชนโลกาก็สบายกว่ามากทีเดียว เพราะถึงอย่างไรระดับขั้นของเขาทางด้านกายหยาบก็สูงส่งยิ่งอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเขาก็ตั้งความหวังเอาไว้กับศิษย์คนนี้มากนัก


“เอ๊ะ” สีหน้าของชายชราร่างผอมเล็กพลันเปลี่ยนแปรไป


ตอนที่ 16 เจ้าศิลาประชันจอมเทพศักดิ์สิทธิ์!

โดย

Ink Stone_Fantasy

เนื่องจากตงป๋อเสวี่ยอิงคิดค้นเคล็ดวิชาสืบทอดปีศาจชาดสิบแปรขึ้นมา ชายชราร่างผอมเล็กจึงย่อมสัมผัสรับรู้ได้บ้างเป็นธรรมดา


ชายชราร่างผอมเล็กก็คุ้นเคยกับการสัมผัสรับรู้เช่นนี้ไปเสียแล้ว


แต่ในยามนี้…


การสัมผัสรับรู้นั้นกลับหายไป!


หายไปแล้วหรือ ชายชราร่างผอมเล็กรู้และเข้าใจดีเป็นอันมากว่านี่หมายความว่าอะไร ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเย็นวาบในใจขึ้นมาทันใด


“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” ชายชราร่างผอมเล็กทอดสายตามองออกไปไกล นัยน์ตาทั้งสองมีภาพเหตุการณ์จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น…จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ โบกมือทำลายกายหยาบของตงป๋อเสวี่ยอิง…กลิ่นอายของตงป๋อเสวี่ยอิงมลายหายไป กายหยาบนั่งอยู่ในโถงตำหนักของโลกทิพย์โบราณแห่งนั้น…ตงป๋อเสวี่ยอิงดื่มสุราพลางสนทนากับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์…จอมเทพศักดิ์สิทธิ์จับตงป๋อเสวี่ยอิงมาทั้งเป็น…


ภาพเหตุการณ์ฉากแล้วฉากเล่าปรากฏขึ้น แม้จอมเทพศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ในนั้น แต่ชายชราร่างผอมเล็กก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน


“ถึงกับ…”


“ถึงกับ ถึงกับกล้า! กล้าสังหารศิษย์ของข้าเชียวหรือนี่!!!” นัยน์ตาของชายชราร่างผอมเล็กสาดประกายร้ายกาจอันน่าหวาดหวั่นออกมา ตู้ม… กระแสอากาศสีดำอันน่าหวาดหวั่นหาใดเปรียบแผ่ออกมาจากผิวกายของชายชราร่างผอมเล็ก แล้วโอบล้อมทั้งหุบเขาของยอดเขาบัลลังก์เทพในทันใด ทำเอายอดเขาบัลลังก์เทพโบราณอันเร้นลับแห่งนี้สะเทือนเลื่อนลั่นไปหมด


แม้จะยังมิได้รับเป็นศิษย์ แต่เขาก็ถือว่าตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นศิษย์ตั้งนานแล้ว


“ฟิ้ว”


ไม้เท้าในมือของชายชราร่างผอมเล็กหายวับไป เขาสาวเท้าคราหนึ่ง ก็อันตรธานไปในอากาศทันที…


 


เมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครั้งก็อยู่ที่หน้าโถงตำหนักอันสูงตระหง่านใจกลางโลกทิพย์โบราณแล้ว


ณ โลกทิพย์โบราณ ที่นี่มีร่างแปรทิพย์โบราณประจำการอยู่ ร่างแปรทิพย์โบราณแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับ ‘โลกทิพย์โบราณ’ แล้ว ในที่แห่งนี้จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไร้ศัตรูโดยแท้! แม้จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ต่อสู้กับบรรดาเทพจักรวาลมาหลายครั้ง ทว่าแต่ไหนแต่ไรบรรดาเทพจักรวาลไม่เคยมีผู้ที่กล้าบุกเข้าไปในโลกทิพย์โบราณมาก่อน


แต่วันนี้…


ชายชราร่างผอมเล็กผู้นี้กลับยืนอยู่กลางอากาศเหนือตำหนักทิพย์ใจกลางสุดของโลกทิพย์โบราณ


“เจ้ามารทึ่มไสหัวออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!!!” ชายชราร่างผอมเล็กพลันคำรามเสียงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาคราหนึ่ง ตู้ม…ระลอกคลื่นอันน่าหวาดหวั่นพุ่งออกจากปากของชายชราร่างผอมเล็ก สามารถเห็นได้ว่ามันพุ่งออกไปโจมตีตำหนักทิพย์ที่อยู่ไกลออกไปในทันใด ตำหนักทิพย์ตั้งตระหง่านมานานแสนนาน แข็งแกร่งทนทานหาใดเปรียบ แต่ยามนี้กลับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียงดังกึกก้องในทันที บริเวณหลายแสนล้านลี้โดยรอบก็สั่นสะเทือนและบิดเบี้ยวไปหมด รอยแยกจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น


พลังงานอันไร้รูปร่างแผ่กำจายออกไป แล้วฝืนบังคับทำให้โลกทิพย์โบราณมั่นคงดังเดิม


มิเช่นนั้นเพียงแค่เสียงคำรามนี้ เกรงว่าโลกทิพย์โบราณก็คงจะแตกสลายไปแล้ว


“ฟิ้ว” จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ในเสื้อคลุมกันลมสีดำเดินออกมาจากตำหนักทิพย์ที่ระเบิดออก เขาปกป้องบ่าวรับใช้คนอื่นๆ ไม่ทัน ได้แต่ปกป้องประมุขนรกภูมิเท่านั้น เขาโบกมือคราหนึ่งก็เคลื่อนย้ายประมุขนรกภูมิออกไป ก่อนจะขมวดคิ้วมองดูชายชราร่างผอมเล็กด้านนอก


“เจ้าศิลา เจ้าไม่ยอมนอนอยู่ที่ดวงอาทิตย์ดั้งเดิมของเจ้า มาหาข้าที่นี่ทำไมกัน” จอมเทพศักดิ์สิทธิ์พูดพลางขมวดคิ้ว


ด้วยนิสัยของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว แม้จะถูกบุกมาทำลายตำหนักทิพย์ถึงที่ กลับยังไม่อยากลงมือสักเท่าใดนัก เขาคิดจะยอมคนให้เรื่องสงบไปเอง ด้วยรู้ดีว่าชายชราร่างผอมเล็กตรงหน้าผู้นี้น่าหวาดหวั่นเพียงใด


“ข้ามาหาเจ้าที่นี่ทำไมน่ะรึ”


กลิ่นอายสีดำเหนือผิวกายของชายชราร่างผอมเล็กพุ่งทะยานขึ้นมา นัยน์ตาทั้งคู่เปล่งประกายสีอำพัน ท่ามกลางกระแสอากาศสีดำที่ม้วนตัวอยู่ ประกายสีอำพันในดวงตาก็ยังปรากฏขึ้นมา เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้ามารทึ่ม ข้าคร้านที่จะลงมือกับเจ้าแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับสังหารศิษย์ของข้า”


“สังหารศิษย์ของเจ้าหรือ ศิษย์ของเจ้ามิได้มีแค่พวกบรรพชนโลกาสามคนนั่นหรือไร” จอมเทพศักดิ์สิทธิ์งุนงง


“ตงป๋อเสวี่ยอิง!” ชายชราร่างผอมเล็กพูดอย่างโมโห


“เขา เขาเป็นศิษย์ของเจ้าหรือ” สีหน้าของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนแปรไปบ้าง


“เคล็ดวิชาสืบทอดปีศาจชาดของเขาบรรลุถึงระดับสิบแปร เจ้ามองไม่ออกหรือ” ชายชราร่างผอมเล็กขบกรามแน่น แม้เขาจะถือว่าตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นศิษย์อยู่ในใจ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับมิได้รับเป็นศิษย์! ดังนั้นตอนที่จอมเทพศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้ากับตงป๋อเสวี่ยอิง มิได้พบว่ามีความพิเศษอันใด ส่วนเคล็ดวิชาสืบทอดปีศาจชาดหรือ จักรพรรดิดำได้เผยแพร่สี่เคล็ดวิชาสืบทอดออกไป ผู้ที่ศึกษาสำเร็จมีตั้งมากมายก่ายกอง


คนเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติพอจะเรียกได้ว่าเป็นศิษย์ของเจ้าศิลา


“แม้ข้าจะรู้สึกว่าศิษย์ของข้าคนนี้ทึ่มทื่อไปบ้าง เมตตาปรานีเกินไปบ้าง ทำให้ลำบากและเหน็ดเหนื่อยเกินไปบ้างหากเป็นข้าก็คงไม่มีทางเหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้แน่ แต่ข้ากลับพึงพอใจในตัวศิษย์คนนี้มากทีเดียว” ชายชราร่างผอมเล็กคำรามเสียงต่ำ “เจ้ามารทึ่ม เจ้าสังหารเขา ประเสริฐมาก ให้ข้าได้เห็นหน่อยสิว่าพลังของเจ้ามารทึ่มอย่างเจ้าบำเพ็ญไปถึงระดับใดแล้ว”


“เจ้าอย่าเพิ่งเสียสติไปเลย” จอมเทพศักดิ์สิทธิ์สีหน้าเปลี่ยนแปรไป


ด้านหลังชายชราร่างผอมเล็กกลับมีเงารางสีดำอันใหญ่โตหาใดเปรียบปรากฏขึ้น เงารางสีดำมีกระดองขนาดใหญ่ ส่วนอื่นๆ ของร่างมีเกล็ดซึ่งเหมือนกับศิลาก้อนแล้วก้อนเล่ารวมทั้งศีรษะอันโหดเหี้ยมด้วย


ยามนี้เจ้าศิลามีเพลิงโทสะแน่นเต็มอก


เจ้าหนุ่มคนนั้น เจ้าหนุ่มที่บำเพ็ญมาเป็นระยะเวลาสั้นมากคนนั้น เขายังมิทันได้เดินไปสำแดงพลังต่อหน้าศิษย์คนนี้แล้วรับเขาเป็นศิษย์เลย! กลับสิ้นใจไปเช่นนี้เสียแล้ว เขามีเพลิงโทสะแน่นเต็มอกจนต้องระบายออก เขาจะแก้แค้นแทนศิษย์!


“ตู้มมม…”


ร่างแปรทิพย์โบราณสีดำทั้งร่างปรากฏขึ้นแล้ว มันรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์แทบจะในพริบตา


เห็นได้ชัดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าศิลาที่บ้าคลั่งนี้ จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องทุ่มเทสุดกำลังทันที เพราะเขารู้ดีว่าหากไม่ทุ่มเทสุดกำลัง เขาก็อาจถูกสังหารจนตายได้จริงๆ! ในใจของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์รู้สึกขมขื่นอยู่บ้าง เขาจับตงป๋อเสวี่ยอิงผู้นั้นมาทั้งเป็นแล้วตระเตรียมสุราชั้นดีให้เขา ท้ายที่สุดทุกสิ่งกลับเหลือเพียงความว่างเปล่า ตงป๋อเสวี่ยอิงผู้นั้นยอมตายดีกว่ารับปากเขา


ตายก็ตายไปเถิด แม้จอมเทพศักดิ์สิทธิ์จะโมโห ทว่าที่แล้วก็แล้วไปเถิด


เพียงแต่ ‘เจ้าศิลา’ ที่น่าหวาดหวั่นผู้นั้นกลับโผล่ออกมาเสียนี่! จอมเทพศักดิ์สิทธิ์เข้าใจดีว่า ทั่วทั้งอากาศอันสับสนอลหม่านมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาเกรงกลัวและปวดหัวด้วยมากที่สุด เพียงแต่เจ้าศิลาที่ักจะหลับใหลอยู่เป็นประจำผู้นี้ นับตั้งแต่โลกทิพย์โบราณดั้งเดิมถือกำเนิดขึ้นมา จนถึงอากาศอันสับสนอลหม่านแตกสลายในท้ายที่สุด ตั้งแต่ต้นจนจบเจ้าศิลาก็น่าจะเพิ่งเคยตื่นขึ้นมาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น


เวลาอื่นๆ ล้วนแต่หลับใหล


แต่ในใจของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์หวั่นเกรงเจ้าศิลาผู้นี้ที่สุดมาโดยตลอด! อย่างอาจารย์ของพวกประมุขหอหมื่นโลกาและจ้าวภูเขาฉื้อเหมย รวมทั้งเจ้าเมืองหลัวผู้ลึกลับยากเกินคาดเดาผู้นั้น…ในใจของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ ระดับการคุกคามก็สู้เจ้าศิลาผู้นั้นมิได้เลย


แต่บัดนี้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าศิลาโมโหเสียแล้ว!


ทั้งสำนึกเสียใจ ขมขื่นและจนใจ ต่อให้จอมเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่ยินยอมพร้อมใจยิ่งกว่านี้ก็ทำได้เพียงรับศึกเต็มกำลังเท่านั้น! เขาไม่อยากถูกโจมตีจนตายด้วยความประมาท!


……


และยามนี้ในวังทวีสูญ


บรรพชนเทียนอวี๋ จอมกระบี่และบรรพชนห้วงอากาศทั้งสามคนพบหน้ากันแล้ว บรรพชนห้วงอากาศก็หยิบกำไลเก็บวัตถุนั้นมา


“เสวี่ยอิงก็พูดแล้วว่า เคล็ดลับวิชานี้มิอาจเผยแพร่ไปภายนอกง่ายๆ ผู้ที่พวกเขาเชื่อใจอย่างแท้จริงก็มีเพียงพวกเราสามคนเท่านั้น” บรรพชนเทียนอวี๋กล่าว “ข้าและจอมกระบี่ได้ดูแล้ว ทว่าพวกเรามิได้ค้นคว้าทางด้านอากาศมากสักเท่าใดนัก ภายในระยะเวลาสั้นๆ จึงมิอาจฝึกให้สำเร็จได้”


บรรพชนห้วงอากาศหยิบกำไลมา ในใจรู้สึกเศร้าสร้อย


เขาประสบความสำเร็จทางด้านอากาศลึกล้ำเพียงใดกัน เพียงแค่มองคราหนึ่งก็ศึกษาสำเร็จได้ทันทีแล้ว ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกานี้ก็ได้เปิดประตูอีกบานหนึ่งของการค้นคว้าอากาศออกมา


แต่ยามนี้เขาไม่มีความยินดีเลยแม้แต่น้อย มีแต่เพียงความเศร้าโศกเสียใจเท่านั้น


“ศิษย์กู่ฉี อาจารย์ไร้ความสามารถ มิอาจปกป้องเจ้าได้ บัดนี้ตงป๋อเสวี่ยอิงศิษย์เจ้าก็มาสิ้นใจด้วยน้ำมือของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์อีก!” บรรพชนห้วงอากาศรู้สึกชิงชัง “อาจารย์ปู่อย่างข้าไร้ความสามารถ ไร้ความสามารถ! ข้าขอสาบาน…ว่าชั่วชีวิตนี้ แม้ต้องพลีชีพก็จะต้องฆ่าจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ให้ได้โดยไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น ไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น”


เดิมทีบรรพชนห้วงอากาศนั้นรักใครสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เดิมทีเขาจึงโมโหที่จอมเทพศักดิ์สิทธิ์คิดจะควบคุมสิ่งมีชีวิตทั้งมวลอยู่แล้ว บัดนี้ทั้งศิษย์และศิษย์หลานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของศิษย์ตนก็ล้วนตายตกไปด้วยน้ำมือของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ต่อเนื่องกัน


“เรื่องมิอาจเนิ่นช้าได้ มิอาจให้เสวี่ยอิงสูญเสียเลือดเนื้อไปเปล่าๆ ได้” บรรพชนห้วงอากาศพูดเสียงต่ำ “เคล็ดลับวิชานี้มิอาจถ่ายทอดไปภายนอกได้ ทว่าพวกเราก็ยังต้องให้พวกบรรพชนทิพย์และราชันย์มีดมาที่นี่ทันที เพื่อไปทำลายรังระดับเกราะทองสามแห่งที่เสวี่ยอิงพบทิ้งเสีย”


“อื้ม” บรรพชนเทียนอวี๋และจอมกระบี่พยักหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)