Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ 1434-1435

 ตอนที่ 1434 วัดดวง

โดย

Ink Stone_Fantasy

“7 วัน…” โรแลนด์แอบคำนวณความเร็วในการลอยขึ้นไปของพระผู้สร้างจากที่ไลต์นิ่งสังเกตได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาพบว่ามันได้อยู่เหนือขอบเขตของ ‘อาวุธ’ ไปแล้ว เดี๋ยวๆ อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าคิดจะทำลายที่ราบลุ่มบริบูรณ์ทั้งหมด?”


ช่วงเวลาเท่านี้เพียงพอที่จะเปลี่ยนให้พระผู้สร้างกลายเป็นภัยธรรมชาติในระดับหายนะ เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ที่ราบลุ่มทั้งหมดจะถูกทำลายเลย เกรงว่าแม้แต่ที่ราบลุ่มบริบูรณ์กับแบล็คสโตนก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วย แผ่นดินลอยฟ้าที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวหลายสิบกิโลเมตรตกลงมาจากความสูงมากกว่าหมื่นเมตร คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นเพียงพอที่จะวนรอบโลกได้หลายรอบ การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของผิวดินจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ เมื่ออยู่ต่อหน้าภัยพิบัติระดับนี้ ต่อให้เป็นปีศาจก็ยากที่จะหนีได้


ที่ราบลุ่มบริบูรณ์ถูกกระแทกจนเป็นแอ่งกระทะ น้ำทะเลไหลทะลักเข้าไป สิ่งมีชีวิตในดินแดนรุ่งอรุณถูกทำลาย พวกมันจะหนีไปไหนได้? ตอนนี้อาณาจักรซีสกายรุกคืบเข้ามาใกล้ แผนการเดิมของปีศาจคือแย่งชิงดินแดนของมนุษย์เพื่อยื้อเวลา การที่พวกมันทำแบบนี้จะเท่ากับเป็นการขัดแย้งกับเป้าหมายกลยุทธ์เดิมของพวกมัน


เฮคซอดมองเขาอย่างแปลกใจ “เจ้าเหมือนจะรู้ถึงผลลัพธ์ของแผนการที่สองเป็นอย่างดีเลยนี่นา…แบบนี้ข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงอธิบาย แน่นอนว่าพระผู้สร้างไม่มีทางที่จะลอยขึ้นไปได้ตลอด หลังจากนี้อีกประมาณสองวันมันก็จะหยุดลอยขึ้นไป แล้วเปลี่ยนเป็นเคลื่อนที่มาจากตะวันออกของเกรย์คาสเซิลแทน ถ้าเดอะแมสก์ไม่ได้พูดโกหกตอนที่วางแผนเอาไว้ สุดท้ายพระผู้สร้างจะไปตกอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ทะเล — เช่นนี้ก็จะสามารถทำลายอาณาจักรของเจ้าได้ แล้วก็สามารถรักษาสายแร่หินอาญาสิทธิ์เอาไว้ได้มากที่สุด”


ช่างเป็นแผนการที่ละเอียดอ่อนจริงๆ


สีหน้าโรแลนด์ยังคงดูสงบนิ่ง แต่ภายในใจกลับรู้สึกคร่ำเครียดอย่างมาก


ในตอนที่รู้ว่าราชาทั้งสองปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกัน เขาก็รู้แล้วว่าจะต้องมีเรื่องใหญ่แน่ จนทำให้ไม่สามารถรอคอยการส่งจดหมายได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขายอมเสี่ยงกลับมาที่เนินเขาอีกครั้ง


แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข่าวมันจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้!


ถ้าเฮคซอดกับเซโรเชสยอมร่วมมือกันล่ะก็ การทำลายแกนของพระผู้สร้างนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ปัญหานั้นอยู่ที่ว่าอุปกรณ์จุดระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์นั้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาจากโรงงาน ถึงแม้จะมีวัตถุดิบเพียงพอ แต่การประกอบก็จำเป็นต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ ระเบิดตัวอย่างที่เอาใช้ทดสอบนอกทะเลอาณาจักรดอว์นเมื่อครั้งที่แล้วก็ผลงานที่กองอุตสาหกรรมผลิตออกมาอย่างเต็มที่ ส่วนหัวระเบิดอันใหม่ที่จะใช้จริงนั้น ทางห้องทดลองพลังงานสูงกำลังสร้างขึ้นมาอยู่ ต่อให้เร่งยังไงก็ไม่มีทางเอามายังอาณาจักรดอว์นในตอนนี้ได้


เมื่อมองย้อนกลับไป ต่อให้เขาไม่ได้สร้างห้องทดลองขึ้นในอาณาจักรดอว์น แต่การจะเอาตัวจุดระเบิดขึ้นไปติดตั้งบนพระผู้สร้าง อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาวันหนึ่ง — ซึ่งเวลาเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้แผ่นดินลอยฟ้าเคลื่อนที่เข้ามาใกล้อาณาจักรดอว์นจนสามารถทำลายอาณาจักรดอว์นได้มากกว่าครึ่งแล้ว


“ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก? ถ้าใช้แค่สายแร่อาญาสิทธิ์แห่งหนึ่งก็สามารถเอาชนะมนุษย์ได้ พวกเจ้าก็ไม่น่ารอจนถึงวันนี้ค่อยมาทำนี่นา”


“เจ้าคิดว่าพระผู้สร้างคืออะไร ผักกาดขาวที่อยู่ในสวนงั้นเหรอ?” เฮคซอดพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องความยากของการเชื่อมต่อแกนพลังเวทมนตร์เข้ากับหอคอยแห่งการให้กำเนิด เอาแค่หาสายแร่หินอาญาสิทธิ์ที่มีขนาดใหญ่พอก็นับเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว ที่มันลอยขึ้นไปได้สองวันก็เพราะว่าหลังจากสองวันไปแล้ว หินอาญาสิทธิ์ก็จะเหี่ยวแห้ง — เมื่อดูจากขนาดของสายแร่หินอาญาสิทธิ์ที่เฮอร์มีสแล้ว มันไม่พอที่จะให้ใช้ในแผนสองด้วยซ้ำ”


เป็นเพราะขีดจำกัดในการใช้พลังเวทมนตร์จริงๆ ด้วย…


“ในเมื่อเดอะแมสก์สามารถควบคุมมันได้ อย่างนั้นราชาตัวอื่นๆ ก็น่าจะทำได้เหมือนกันนี่นา” ความคิดแล่นอยู่ในหัวโรแลนด์ “หรือว่าพวกเจ้าไม่เคยลองทำมาก่อน?”


“มนุษย์ เจ้าทำแบบนี้มันเสียเวลาเปล่าๆ!” น้ำเสียงของเฮคซอดฟังดูหงุดหงิดอย่างชัดเจน “แม้แต่อารยธรรมใต้ดินที่เป็นผู้สร้างแกนพลังเวทมนตร์ขึ้นมาก็ยังไม่สามารถทำให้ของที่ซับซ้อนแบบนี้แพร่หลายได้ ถึงแม้เผ่าพันธุ์ข้าจะได้รับการสืบทอดมา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีพรสวรรค์อันนี้อยู่ แล้วนับประสาอะไรกับพวกเจ้าที่ไม่เคยได้รับการสืบทอดมาแม้แต่นิดเดียวล่ะ? ฉวยโอกาสตอนที่ยังมีเวลา รีบหนีไปเถอะ”


“ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น”


“เจ้า—!”


โรแลนด์ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมา ทำเอาอารมณ์โกรธของสกายลอร์ดถูกสกัดเอาไว้ เขาจิบเครื่องดื่มไปคำก่อนจะพูดอย่าจริงจังว่า “เกรย์คาสเซิลกับดอว์นมีคนอยู่หลายล้านคน ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ไม่มีทางอพยพพวกเขาไปยังฟยอร์ดได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่มีเนเวอร์วินเทอร์ มนุษย์ก็จะไม่สามารถหยุดพวกอาณาจักรซีสกายที่มาจากทะเลได้ ต่อให้ข้ามีชีวิตรอดต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์ มันต่างกันแค่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น” เขาชะงักไปเล็กน้อย “ยิ่งไปกว่านั้นอย่าลืมซะล่ะ — ขอเพียงสงครามแห่งโชคชะตายังไม่หยุด สุดท้ายพวกเจ้าก็จะถูกทำลายเช่นเดียวกัน นี่คือผลลัพธ์ที่เจ้าอยากจะเห็นอย่างนั้นเหรอ?”


“ต่อให้คำพูดสวยหรูแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์” เฮคซอดพูดอย่างดูถูก “ถ้าไม่เป็นเพราะวัลคีรีย์ ข้าก็ไม่มีทางที่จะมานั่งคุยเรื่องพวกนี้กับเจ้าหรอก”


“ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าข้อมูลพวกนี้มีความสำคัญอย่างมาก — ในจุดนี้ข้าต้องขอขอบคุณเจ้า” โรแลนด์พูดอย่างสบายๆ “แต่ที่เจ้าพูดมาก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องไปเสียทั้งหมด การสืบทอดนั้นไม่ได้มีแต่การรับเอาชิ้นส่วนสืบทอดมาเท่านั้น”


“หมายความว่ายังไง?”


“อย่างเช่นในตอนนี้วัลคีรีย์ก็กำลังรับการสืบทอดของมนุษย์อยู่” เขามองไปทางไนท์แมร์ “ข้าพูดถูกใช่ไหม?”


ในที่สุดวัลคีรีย์ที่ก่อนหน้านี้เอาแต่นิ่งเงียบก็พูดออกมา “ข้าไม่ปฏิเสธในจุดนี้”


“พวกเจ้ากำลังเล่นอะไรกัน?” สกายลอร์ดพูดอย่างไม่พอใจ


“พูดง่ายๆ ก็คือความหมายเดิมของการสืบทอดนั้นคือการรับเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่อีกฝ่ายรู้มา ทั้งการสอน การเรียน การหลอมรวม การบูรณาการ…สิ่งเหล่านี้ก็คือการสืบทอดอย่างหนึ่ง” วัลคีรีย์ค่อยๆ พูด “ความจริงหากลองคิดกลับก็จะเข้าใจได้ การสืบทอดนั้นไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยการที่ถูกผู้สืบทอดทำลายเลย นั่นเป็นแค่กฎที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเท่านั้น ข้าไม่ใช่มนุษย์ แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับข้าในการเรียนรู้ความรู้ของพวกเขา — ความจริงแล้วในช่วงเวลาที่ข้าอยู่ในโลกแห่งความฝันนี้ ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมาย”


เมื่อพูดถึงตรงนี้มันก็หันกลับไปมองโรแลนด์ “เจ้ารู้เรื่องนี้มานานแล้วเหรอ?”


“ก็ไม่ถือว่านานมากเท่าไร” โรแลนด์พยักหน้า “แต่ว่าหลังจากที่เห็นเจ้าใช้โทรศัพท์มือถือซื้อของจากเกาะคาร์การ์ดอย่างคล่องแคล่ว ข้าก็ยิ่งแน่ใจในจุดนี้ ถึงแม้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับข้า แต่แม่มดที่เคยเข้ามาในโลกแห่งความฝันเหล่านั้นก็จะสามารถเอาความรู้เหล่านี้ออกไปเผยแพร่ได้แน่”


“พอได้แล้ว! นี่มันเกี่ยวกับพระผู้สร้างยังไง?” เฮคซอดคำราม


“จริงอยู่ที่มนุษย์ไม่ได้รับชิ้นส่วนสืบทอดของอารยธรรมใต้ดินมา แต่ด้วยการเรียนรู้จากซากโบราณสถานที่พวกมันทิ้งเอาไว้ มันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่เราจะปรับแกนเวทมนตร์ของพระผู้สร้าง” โรแลนด์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ความจริงทางสโมสรแม่มดนั้นเคยทำการศึกษาในเรื่องนี้มาก่อนแล้ว จนถึงตอนนี้ยังมีแม่มดบางส่วนที่มีความรู้ในด้านนี้อยู่ ข้าไม่รู้ว่าพวกนางจะสามารถหยุดแกนพลังเวทมนตร์ได้หรือไม่ แต่เมื่อเทียบกับการหนีตายหรือการทำลายเสาโอเบลิสจากบนฟ้า มันก็คุ้มค่าที่จะลองดู”


ในที่สุดสกายลอร์ดก็เข้าใจความหมายของเขา “….มีมนุษย์ทำแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ?”


“ถึงแม้สภาพร่างกายของพวกนางจะ…แปลกๆ ไปบ้าง แต่พวกนางคือมนุษย์อย่างแน่นอน”


“เจ้ากำลังวัดดวงอย่างนั้นเหรอ”


“เปล่า เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วต่างหาก” โรแลนด์ไม่ได้มีความคิดที่จะหนีไปคนเดียวแต่แรกแล้ว


“ข้าเองก็เห็นด้วยกับวิธีนี้” วัลคีรีย์พูดอย่างหนักแน่น “ตอนนี้บอทธ่อมเลสแลนด์ถูกอาณาจักรซีสกายยึดครองไปแล้ว เมืองจักรพรรดิเองก็กำลังเข้ามาทางนี้เรื่อยๆ เมื่อไม่มีกองกำลังที่มากพอ การเดินทางไปยังแหล่งกำเนิดเวทมนตร์ก็เป็นไม่มีทางเป็นจริงได้ ในเมื่อมันไม่มีผลลัพธ์ไหนจะแย่ไปกว่านี้แล้ว อย่างนั้นลองวัดดวงดูมันก็ไม่เสียหายอะไร”


เมื่อเห็นไนท์แมร์เอ่ยปาก เฮคซอดก็ได้แต่ต้องหุบปากไปอย่างกลุ้มใจ


“ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นพวกเราก็มาคุยเรื่องแผนการที่จะยึดพระผู้สร้างกันเถอะ” โรแลนด์พูด


ตอนที่ 1435 ยึดพระผู้สร้าง

โดย

Ink Stone_Fantasy

หลังจากนั้นสองวัน ในที่สุดพระผู้สร้างก็ลอยขึ้นไปอยู่ที่ระดับความสูงเกือบ 5,000 เมตร


เมื่อมองดูจากระยะไกล มันเหมือนกับเป็นพิระมิดที่ลอยค้างอยู่บนชั้นเมฆ เงาที่ทอดลงมาบดบังพื้นที่หนึ่งในสามของอาณาจักรดอว์น นี่ทำให้ท้องฟ้ามืดเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายชั่วโมง


ถ้าไม่เป็นเพราะเบื้องบนมีการเตรียมพร้อมเอาไว้และออกคำสั่งไม่ให้ประชาชนออกไปนอกอาณาจักรอย่างเคร่งครัด เกรงว่าเพียงแค่ปรากฏการณ์แปลกๆ นี้ก็สามารถทำให้ระเบียบของเมืองพังทลายลงได้แล้ว


จากนั้นพระผู้สร้างก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกรย์คาสเซิล โครงของเงาขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวได้ทำให้เกิด ‘เส้นแบ่งกลางวันกลางคืน’ บนดินแดนของมนุษย์อย่างชัดเจน ถึงแม้ไซเลนท์กับสกายลอร์ดจะไม่สามารถควบคุมแกนพลังเวทมนตร์ได้ แต่การปิดประตูปล่อยหมอกแดงกลับไม่ใช่ปัญหาอะไร ซึ่งนี่ถือเป็นข่าวดีเพียงข่าวเดียวในตอนนี้ —- อย่างนั้นมันก็จะได้ไม่สาดหมอกแดงไปทั่วทุกที่เหมือนอย่างตอนแรกแล้ว


นอกจากการสังเกตดูทิศทางการเคลื่อนที่ของพระผู้สร้างแล้ว สโมสรแม่มดกับสำนักบริหารก็ไม่ได้อยู่เฉยเลย ด้วยความร่วมมือกันของทั้งสองฝ่าย ในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองวันก็สามารถส่งแกนพลังเวทมนตร์เครื่องหนึ่งและผู้ควบคุมที่เกี่ยวข้องเดินทางข้ามครึ่งอาณาจักรเกรย์คาสเซิลไปถึงเส้นทางที่แผ่นดินลอยฟ้าจะเคลื่อนที่ผ่าน


หลังเปิดลังที่ปิดอยู่ออก โรแลนด์ก็ได้เจอกับเซลีนภายในโกดังที่อยู่ภายในค่ายชั่วคราว


‘ฟู่ว…ถึงแม้ร่างเปลือกนี้จะไม่จำเป็นต้องหายใจ แต่ความรู้สึกที่ต้องอยู่ในที่แคบๆ แบบนี้ก็ค่อนข้างทรมานเลยทีเดียวเพคะ’ เธอคลายหนวดทั่วทั้งร่างออก เหมือนกำลังบิดขี้เกียจอยู่อย่างไรอย่างนั้น


“ลำบากหน่อยนะ” โรแลนด์พูดอย่างจริงใจ เขาย่อมต้องรู้ว่าความรู้สึกตอนที่ถูกขังอยู่ในลังแคบๆ โดยไม่สามารถขยับได้นั้นไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีสักเท่าไร โดยเฉพาะคนที่กลัวที่แคบด้วยแล้ว ความรู้สึกแบบนี้สามารถทำให้เป็นบ้าได้เลยทีเดียว ถ้าไม่เป็นเพราะเหลือเวลาอยู่ไม่มาก ส่วนเครื่องบินบรรทุกระเบิดที่สามารถบรรทุกของขนาดใหญ่ได้ก็กำลังอยู่ระหว่างการประกอบ เขาคงไม่มีทางใช้วิธีนี้มาขนย้ายแม่มดโบราณแน่


‘ถ้าเทียบกับความยากลำบากที่ได้รับมาในอดีตแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่ถือว่าลำบากอะไรเพคะ’ เซลีนหมุนซ้ายหมุนขวา ‘จะว่าไปแล้ว การที่ต้องร่วมมือกับปีศาจต่างหากถึงจะเป็นเรื่องที่ทำให้หม่อมฉันตกใจมากกว่าเพคะ — ฝ่าบาท’ เธองอหนวดหลักลง แล้วกดเสียงที่พูดอยู่ในจิตสำนึกในเบาที่สุด ‘พระองค์ทรงแน่ใจนะเพคะว่าจะทำแบบนี้? พวกมันคือศัตรูที่ไร้ความปราณีและความเป็นมนุษย์ การหลอกลวงนั้นถือเป็นเรื่องที่ธรรมดาอย่างมากสำหรับพวกมัน ทูลตามตรง ถ้าไม่เป็นเพราะพระองค์เป็นคนตรัสออกมา อาลิเธียจะต้องปฏิเสธอย่างแน่นอนเพคะ’


‘วางใจได้ ข้ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร’ โรแลนด์ใช้จิตสำนึกตอบกลับไปอย่างจริงจัง ‘พระผู้สร้างจะตกลงมาบนดินแดนของสี่อาณาจักรใหญ่ไม่ได้เด็ดขาด พวกเรารับความเสียหายนั้นไม่ไหว’


‘เลือกทางที่เสียหายน้อยที่สุด นี่คือเรื่องที่สามผู้นำต้องทำอยู่บ่อยๆ เพคะ’ จู่ๆ เสียงของเซลีนก็นุ่มนวลขึ้น ‘หม่อมฉันเชื่อในการตัดสินใจของพระองค์เพคะ’


‘ยังดีที่คนควบคุมแกนพลังเวทมนตร์ไม่ใช่อาลิเธีย” โรแลนด์ยิ้มแห้งๆ “ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องปวดหัวแย่”


‘พระองค์ทรงคิดผิดแล้วเพคะ’ เซลีนยิ้มเล็กน้อย ‘จริงอยู่ที่หลังจากฟังเรื่องนี้แล้วนางจะบ่นออกมาเยอะแยะมากมาย แต่คนจับหม่อมฉันยัดเข้าไปในกล่องก็คืออาลิเธียเพคะ’


โณแลนด์ตกตะลึง ภายในใจเกิดความรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา


‘แล้ว…ปีศาจระดับสูงที่พระองค์ตรัสถึงอยู่ไหนเพคะ? หม่อมฉันอยากจะขึ้นไปบนแผ่นดินลอยฟ้านั้นเต็มทีแล้วเพคะ’


“เอ่อ….” การตอบสนองนี้เหนือความคาดหมายของเขาไปหน่อย” ความจริงเจ้าอยากจะขึ้นไป?”


‘แน่นอนสิเพคะ! นี่เป็นโอกาสที่จะได้วิจัยแกนเวทมนตร์อันใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนนะเพคะ! การที่สามารถใช้หินอาญาสิทธิ์มารวบรวมพลังเวทมนตร์แล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแรงลอยตัวอันมหาศาล แค่คิดๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วเพคะ!’ น้ำเสียงของเซลีนเปลี่ยนไปทันที ‘ยิ่งไปกว่านั้นนั่นยังเป็นเมืองของปีศาจด้วย นั่นเมืองเลยนะเพคะ! ตลอดช่วงเวลาที่มีสงครามแห่งโชคชะตา ไม่เคยมีมนุษย์ที่สามารถบุกโจมตีเมืองของปีศาจได้แม้แต่เมืองเดียวมาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการยึดเมืองเลยเพคะ!’


“เอาล่ะ ที่เจ้าพูดมามันก็มีเหตุผลจริงๆ…” โรแลนด์หมุนตัวเดินไปยังมุมหนึ่งของห้อง “ตามข้ามา”


หลังเดินผ่านประตูที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษบานหนึ่งเข้าไป เฮคซอดกับเซโรเชสก็กำลังรอปฏิบัติภารกิจอยู่ตรงกลางห้องนั้น รอบกายพวกมันมีแม่มดอาญาสิทธิ์ยืนล้อมอยู่หลายสิบคน ทั้งสองฝ่ายต่างจับจ้องกับไม่วางตา — ถึงแม้จะบอกว่าร่วมมือกัน แต่ก็ไม่มีฝั่งไหนที่จะวางใจอย่างแท้จริงได้


“นี่มัน…” แวบแรกที่มองเห็นเซลีน เฮคซอดก็เลิกคิ้วขึ้นมาอย่างแปลกใจ “ร่างเปลือกของอารยธรรมใต้ดิน? แม่มดรวมร่างกับมันเหรอ?”


“หรือว่าพวกเจ้าไม่เคยลองทำดู?” โรแลนด์ถามอย่างแปลกใจ


“มีแต่นาซเพลเท่านั้นที่ยินดีเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ประหลาด” สกายลอร์ดเหมือนจะไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อไป “ในเมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มกันเถอะ”


“รายละเอียดของภารกิจได้คุยกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ทุกคนมาอยู่กันพร้อมหน้า ข้าก็จะย้ำถึงขั้นตอนสำคัญให้ฟังอีกครั้ง” โรแลนด์กวาดตามองไปร้อบ “แกนเวทมนตร์ที่ควบคุมพระผู้สร้างอยู่ที่ด้านล่างของเสาโอเบลิส ที่นั่นเต็มไปด้วยหมอกแดง ดังนั้นคนที่จะรับผิดชอบภารกิจนี้คือแม่มดอาญาสิทธิ์และกองทัพที่หนึ่ง ศัตรูที่อาจจะอยู่ในนั้นคือร่างซิมไบออนท์ หรือก็คือปีศาจแมงมุม ดังนั้นห้ามทำอะไรวู่วามเด็ดขาด — กองทัพที่หนึ่งจะตั้งจุดป้องกันในตำแหน่งที่สำคัญๆ เอาไว้ กระทั่งบริเวณรอบๆ ปลอดภัยแล้วถึงจะสามารถสัมผัสกับแกนเวทมนตร์ได้ หน้าที่หลักๆ ของแม่มดอาญาสิทธิ์คือปกป้องเซลีน ในจุดนี้ข้าต้องฝากเจ้าด้วย” สายตาเขาไปหยุดอยู่ที่ฟิลลิสกับโซอี้


ทั้งสองคนทำวันทยาหัตถ์พร้อมตอบออกมาพร้อมกัน “เพคะ”


จากที่เฮคซอดบอกมา เนื่องจากแผนการที่สองได้เริ่มดำเนินการล่วงหน้า ตอนนี้จึงยังมีร่างชั้นต่ำอยู่หลายแสนกับปีศาจคุ้มคลั่งอีกนับพันที่หนีออกมาไม่ทัน เดิมพวกมันฟังคำสั่งของราชาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาอะไร ส่วนปีศาจระดับสูงที่ฟังคำสั่งของเดอะแมสก์ก็ถูกไซเลนท์พูดกล่อม มีเพียงแค่ปีศาจแมงมุมที่ถูกเดอะแมสก์สร้างขึ้นมาเท่านั้นที่ไม่สามารถควบคุมได้ — ถึงแม้เฮคซอดจะปิดประตูลานเพาะเลี้ยงไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ายังมีปีศาจแมงมุมที่คอยเดินคุ้มกันอยู่ในเมืองอีกกี่ตัว


“อย่างนั้น…ออกเดินทางได้!”


โรแลนด์ออกคำสั่ง


เฮคซอดดีดนิ้ว ฉากเวทมนตร์ที่มืดสลัวผืนหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของมัน ขณะเดียวกันสิ่งที่ไหลทะลักออกมายังมีหมอกแดงบางๆ ด้วย


ราชาทั้งสองหายไปในประตูมิติก่อน


จากนั้นก็เป็นแม่มดอาญาสิทธิ์และเซลีน


จากนั้นประตูด้านข้างโกดังพลันเปิดออก ทหารพันนายพร้อมอาวุธครบมือก็ทยอยเดินเข้าไปในประตูมิติ


ปฏิบัติการยึดเมืองเริ่มต้นขึ้นแล้ว!


…..


‘นี่คือ…ภายในเมืองปีศาจงั้นเหรอ…’ เซลีนอุทานออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเหยียบในพื้นที่ศูนย์กลางของศัตรูและสำรวจเสาโอเบลิสในระยะใกล้ขนาดนี้ ถึงแม้จะรู้ว่ามันมีขนาดใหญ่อย่างมาก แต่ในตอนที่ได้มาเห็นมันในระยะใกล้ๆ เธอก็ยังอดรู้สึกตกตะลึงไม่ได้


โดยเฉพาะในตอนที่พวกเธออยู่ที่ด้านล่างหลุมยักษ์ หอหมอกแดงที่กว้างหลายร้อยเมตรที่พุ่งทะลุขึ้นมาจากทะเลสาบหมอกนี้แดงเหมือนเป็นเสาที่ยืดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้า


“เจ้าคิดจะทำอะไร?” ฟิลลิสถามออกมาพร้อมกับมองไปรอบๆ อย่างตื่นตัว


‘อันดับแรกก็เชื่อมการรับรู้เข้ากับแกนเวทมนตร์ที่เป็นตัวควบคุมเสียก่อน’ เธอมองดูแกนเวทมนตร์ที่หมุนวนรอบเสาหินอยู่ด้านบนพร้อมพูดออกมา ‘เราสามารถทำให้แกนพลังเวทมนตร์แสดงพลังที่แตกต่างกันออกมาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของมัน ส่วนจะใช้ ‘สังเกต’ หรือ ‘สมดุล’ ในการเชื่อมต่อมัน อันนี้ก็ต้องรอดูก่อนถึงจะรู้ได้’


“สมดุล? นั่นมันชื่อหินเวทมนตร์ไม่ใช่เหรอ?”


‘ในอีกแง่หนึ่งแล้ว แกนพลังเวทมนตร์กับหินเวทมนตร์นั้นไม่ได้ต่างกันเท่าไร สิ่งที่ต่างกันมากที่สุดนั้นอยู่ที่ขนาดและระดับความซับซ้อนเท่านั้น ความจริงแล้ว หลังจากที่ข้าได้อ่านรายงานการวิจัยของอิสซาเบลลา ข้ากลับรู้สึกว่าแม่มดกับพวกมันนั้นไม่ได้ต่างกันเท่านั้น — ที่จริงแล้วพวกเราต่างกำลังใช้วิธีเดียวกันในการขับเคลื่อนพลังเวทมนตร์อยู่’


ฟิลลิสเงียบไปครู่ ก่อนจะข้ามประเด็นนี้ไป “หลังจากเชื่อมต่อแล้วล่ะ?”


‘ทันทีที่เชื่อมต่อแล้ว ข้าก็ะสามารถวิเคราะห์โครงสร้างแกนพลังเวทมนตร์ของปีศาจได้ ก็เหมือนกับการใช้หินเวทมนตร์ในการวิเคราะห์พลังของแม่มดอย่างนั้นแหละ ฝ่าบาททรงต้องการให้มันตกลงไปบนพื้นอย่างนุ่มนวล อย่างนั้นเราก็น่าจะใช้วิธีชะลอความเร็วในการทำงานของแกนเวทมนตร์เพื่อทำให้มันตกลงบนพื้นอย่างช้าๆ ได้ ซึ่งวิธีนี้มันง่ายกว่าการสร้างความสามารถขึ้นมาใหม่มาก’


“เลดี้ฟิลลิส ท่านเซลีน’ ไบรอันเดินเข้ามา “กองทัพที่หนึ่งตั้งแนวป้องกันเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ ต่อไปก็ฝากพวกท่านด้วยนะขอรับ”


เซลีนพยักหนวดหลัก จากนั้นก็เอาหนวดหลักแทงเข้าไปในแกนพลังเวทมนตร์ที่พกมาด้วย


ไม่นาน ด้านในแกนพลังเวทมนตร์ก็เปล่งแสงสีน้ำเงินที่สว่างเจิดจ้าออกมา จากนั้นมันก็ค่อยๆ ตั้งขึ้นมาแล้วลอยขึ้นไปในอากาศ


เส้นลำแสงเล็กๆ ค่อยๆ ปรากฏออกมา ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนที่เข้าไปหาเสาหินโอเบลิส — ภาพที่แปลกประหลาดนี้ได้ดึงดูดสายตาทุกคนเอาไว้ มันเป็นเหมือนกับใยแมงมุมที่ลอยอยู่เหนือทะเลสาบหมอกแดง ดูแล้วคล้ายกับว่ามันอยู่ตรงนั้นมาแต่แรกแล้ว เพียงแต่เพิ่งจะปรากฏขึ้นมาให้เห็นในตอนนี้เท่านั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)