Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ 1252-1253

 ตอนที่ 1252 ศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิล

โดย

Ink Stone_Fantasy

โรงงานที่การ์โดว่านั้นตั้งอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างตรงชานเมืองทิศใต้


ในเมื่อออกไปข้างนอกกับประธานของบริษัท โรแลนด์ย่อมไม่ต้องขับรถตู้ผุๆ คันนั้นออกไป หากแต่ฉวยโอกาสนี้ในการสัมผัสกับความรู้สึกในการนั่งรถหรูดูซักครั้ง


ต้องยอมรับเลยความรู้สึกของการนั่งอยู่บนที่นั่งกว้างๆ ที่นุ่มกว่าโซฟาแล้วดื่มแชมเปญเย็นๆ ที่หยิบออกมาจากตู้เย็นด้านหลังนั้นมันช่างน่าหลงใหลจริงๆ


นี่ถ้าเปลี่ยนจากแชมเปญเป็นโคล่าคงจะเพอร์เฟคมากกว่านี้


หลังจากที่รถขับออกมาจากถนนเรียบๆ แล้วแล่นไปบนถนนขรุขระที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เสียงเครื่องจักรก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดทางจะเป็นรถบรรทุกกับเครื่องเจาะอยู่ตลอดเวลา


บนโรงงานที่ตั้งเรียงรายมีป้ายผ้าเขียนว่า ‘บริษัท โคลฟเวอร์ คอนสตรัทชั่น เอนจิเนียริ่ง จำกัด’ ติดเอาไว้อยู่ เมื่อมองออกไปไกลกว่านั้นจะเห็นเสาเข็มสูงชะลูดตั้งเรียงรายอยู่เต็มไปหมด


น่าจะเป็นเพราะมองเห็นถึงความรู้สึกสงสัยของโรแลนด์ การ์โดจึงพูดอธิบายขึ้นมาว่า “ทางกลุ่มทุนเราวางแผนจะสร้างที่นี่ให้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานชนิดใหม่ ตอนนี้ฝ่ายที่รับผิดชอบคือแผนกก่อสร้าง เอาไว้สร้างเสร็จเมื่อไร ทุกอย่างก็จะตกไปอยู่ในมือฝ่ายผลิต โปรเจคนี้ใช้เวลาขออนุมัติอยู่นาน จนเมื่อสองสามเดือนก่อนถึงจะได้รับการอนุมัติ”


มิน่าช่วงนี้การ์เซียถึงไม่ได้พูดถึงเรื่องคัดค้านการเวนคืนที่เท่าไร คงจะเป็นเพราะช่วงนี้กลุ่มทุนโคลฟเวอร์เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ชั่วคราว


“แล้วโรงงานล่ะครับ?”


“จะถูกรื้อถอนทิ้ง” การ์โดตอบ “ก่อนหน้านี้มันเป็นโรงงานผลิตเครื่องจักรทางการเกษตร แล้วก็ถูกปรับปรุงมาหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายก็ตามยุคสมัยไม่ทัน เมื่อคิดถึงว่าความต้องการของคุณนั้นค่อนข้างพิเศษ ผมก็เลยจะเหลือโรงงานหลังหนึ่งเอาไว้ให้คุณใช้ ถึงแม้มันจะไม่ได้อยู่ในการดูแลของผม แต่ผมคุยกับทางนั้นให้แล้ว”


“แล้วคนงานยังอยู่กันครบหรือเปล่าครับ?” เทียบกับโรงงานแล้ว สิ่งที่โรแลนด์สนใจมากกว่าก็คือคนงานที่เป็นมืออาชีพ


“ออกไปกันเยอะแล้วครับ” การ์โดยักไหล่ “เหลือเพียงแค่อาจารย์แก่ๆ ที่ใกล้เกษียณคนหนึ่งกับคนงานอีกสิบกว่าคน พวกเขาถือเป็นคนครอบครัวเดียวกัน เอาไว้พอเมืองยานยนต์สร้างเสร็จแล้ว พวกคนงานก็คงจะย้ายเข้าไปทำงานในนั้น”


เอ่อ ทำไมฟังดูน่ารันทดจัง…โรแลนด์บ่นอยู่ในใจ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ถึงแม้จะต่างจากศูนย์ออกแบบสุดเทพที่ตัวเองคิดเอาไว้ แต่มันก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี


หลังจากที่มาถึงที่หลาย โรแลนด์ก็ต้องลดความคาดหวังในใจลงอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคือโรงงานเก่าๆ แห่งหนึ่ง พื้นที่ของมันประมาณ 500 ตารางเมตร กำแพงที่ประกอบขึ้นมาจากแผ่นเหล็กมีรอยสนิมปรากฏขึ้นมาให้เห็นเป็นดวงๆ เมื่อเดินเข้าไปในโรงงาน ฝุ่นที่อยู่ตรงมุมโรงงานหนาพอที่จะใช้ประทับรอยเท้าได้ เครื่องจักรที่วางกระจัดกระจายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครไปดูแลรักษาพวกมันมานานแล้ว


โรแลนด์เดินตามการ์โดขึ้นบันไดไปข้างบน ในตอนที่เข้าไปใกล้ห้องควบคุม โรแลนด์พลันได้ยินเสียงพูดคุยดังออกมาจากในห้อง


“เฮ้อ ไม่รู้ว่าเมื่อไรบริษัทถึงจะมารื้อที่นี่ไปซักที…ทุกวันนั่งอยู่ที่เดิมๆ จนตูดฉันจะขึ้นราอยู่แล้วเนี่ย”


“อยู่ว่างๆ มันไม่ดีเหรอไง ยังไงซะย้ายไปอยู่โรงงานใหม่เงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มซักหน่อย ไม่แน่อาจจะต้องทำโอทีทุกวันก็ได้ ฉันยอมนั่งอยู่นิ่งๆ แบบนี้ดีกว่า”


“อะไรกัน” เสียงของคนสูงอายุคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา “คนหนุ่มมันต้องมีชีวิตชีวาหน่อยสิ”


“ชีวิตชีวามันกินไม่ได้…ถ้าตอนนี้ให้ผมเกษียณแล้วรับเงินบำนาญได้ ผมจะรีบตอบตกลงเลย”


“เออใช่ อาจารย์เซี่ย ครั้งนี้คุณคงต้องเกษียณแล้วใช่หรือเปล่า ได้ยินว่าเถ้าแก่มาพูดกล่อมคุณหลายครั้งแล้ว ความจริงแล้วครั้งนี้ต่อให้คุณไม่มาตอกบัตร ก็ไม่มีใครมาว่าคุณหรอก”


“ก็ฉันไม่อยากจากโรงงานนี้ไปนี่นา…อยู่มาเกือบ 30 ปีแล้ว ก็เลยฉวยโอกาสตอนที่มันยังไม่โดนรื้อมาดูมันบ่อยๆ”


“ถ้าไง ผมถ่ายรูปให้คุณเอาไหม?”


“เจ้าบ้า รูปภาพมันจะไปเหมือนกับของจริงได้ยังไง!”


“เดี๋ยวๆ เหมือนจะมีคนมา…”


ภายในห้องมีเสียงดังกุกๆ กักๆ ดังขึ้นมาทันที


กระทั่งเลขาของการ์โดผลักประตูเข้ามา ทุกคนที่อยู่ภายในห้องต่ากลับไปประจำที่ บางคนก็กำลังจัดเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ บางคนก็นั่งกดๆ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เหมือนว่าก่อนหน้านี้ทุกคนกำลังทำงานอยู่อย่างไรอย่างนั้น


“ประธาน…การ์ คุณมาได้ยังไงครับเนี่ย?” เมื่อเห็นการ์โด ทุกคนต่างตกตะลึงไปทันที เห็นได้ชัดว่า ‘เถ้าแก่’ ที่พวกเขาพูดถึงนั้นไม่ได้หนึ่งในคณะกรรมการของบริษัทคนนี้ ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับจู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไปเยี่ยมหมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จัก


“พาเพื่อนมาดูที่นี่หน่อยน่ะ” การ์โดมองดูคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม “คุณคืออาจารย์เซี่ยใช่ไหม? ได้ยินว่าคุณอยู่ที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว?”


โรแลนด์เองก็มองดูอีกฝ่าย เมื่อดูจากท่าทางแล้ว เขาน่าจะอายุประมาณ 60 ปี ผมบนหัวเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย บนจมูกมีแว่นสายตาของคนแก่ขนาดใหญ่ ร่างกายดูซูบผอม ในมือถือแก้วเก็บความร้อนที่เก่าจนเปลี่ยนสีแล้วใบหนึ่ง นอกจากสายตาที่ค่อนข้างเปล่งประกายแล้ว ส่วนอื่นๆ ของเขานั้นไม่ได้ต่างอะไรกับพวกคนแก่ในเขตชุมชนถงจึเลย


เกรงว่าความภาคภูมิใจเพียงหนึ่งเดียวของอาจารย์คนนี้ในตอนนี้ก็คงจะมีแต่ประสบการณ์การทำงานอันยาวนานเท่านั้น


“ใช่ครับ” อีกฝ่ายถูแก้วที่อยู่ในมือ น้ำเสียงเหมือนพยายามจะเอาอกเอาใจ “ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในโรงงานจนถึงตอนนี้ก็ 29 ปีแล้วครับ”


โอเค ท่าทางดูแล้วไม่เหมือนพวกปรมาจารย์ที่แฝงตัวอยู่ในหมู่คนธรรมดาที่มักจะไม่มองใครอยู่ในสายตาเลย….ภายในใจโรแลนด์รู้สึกผิดหวังอีกครั้ง ดูเหมือนตัวเองคงต้องหาคนจากบนอินเทอร์เน็ตแล้ว


“อย่างนั้นก็พอดีเลย” การ์โดยิ้มๆ เพื่อนผมคนนี้เขารู้สึกสนใจโรงงานแห่งนี้ คุณช่วยพาเขาไปเดินดูรอบๆ หน่อยได้ไหม”


“ได้ ได้ครับ” อาจารย์เซี่ยมองโรแลนด์อย่างแปลกใจ “แต่ว่าอีกเดี๋ยวโรงงานก็จะ….”


“ถ้าเขาชอบที่นี่ โรงงานก็จะยังอยู่ต่อไป”


พอคำพูดนี้หลุดออกมา โรแลนด์พลันเป็นในดวงตาของอีกฝ่ายมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาทันที


“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ?”


“เรียกผมโรแลนด์ก็ได้ครับ”


“โอเคคุณโรแลนด์ เชิญตามผมมาเลยครับ!”


อาจารย์เซี่ยพาเขาไปชมโรงงานอย่างตื่นเต้น ในขณะที่กำลังเตรียมตัวแนะนำประวัติอันยาวนานของโรงงาน โรแลนด์พลันพูดตัดบทเขา “เทียบกับเรื่องพวกนี้แล้ว ผมอยากจะรู้มากกว่าว่าเมื่อก่อนคุณเคยทำอะไรมาบ้าง?”


“น่าจะทำมาเกือบหมดแล้วล่ะครับ…” อาจารย์เซี่ยหัวเราะแหะๆ “ตั้งแต่ช่างฟิตไปจนถึงหัวหน้าช่าง ต่อมาก็เป็นรองผู้จัดการโรงงานอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนที่ยุ่งๆ ผมคนเดียวต้องทำงานแทนคนสามสี่คน ตอนกลางวันต้องจัดการสายการผลิต พอตกกลางคืนก็ต้องสอนพวกเด็กๆ ซ่อมเครื่องจักร จนกระทั่งสายตาไม่ดีถึงได้ว่างขึ้น”


โรแลนด์หยุดฝีเท้าทันที “แล้วคุณเคยออกแบบไหม?”


“ฮ่าๆ เคยสิครับ ถึงแม้ผมจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่ผมก็เคยทำงานกะกลางคืนก่อนที่จะมาทำในโรงงาน ผมเองก็เรียนรู้ด้วยตัวเองมาไม่น้อย เพียงแต่ปากกากับไม้บรรทัดมันสู้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ บวกกับบริษัทตั้งแผนกออกแบบมาโดยเฉพาะ แปลนกระดาษพวกนี้ก็เลยไม่มีใครสนใจเท่าไร”


“ถ้าผมอยากจะได้รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบที่ไม่เหมือนกับที่ขายๆ อยู่ในตลาดซักคัน คุณพอจะสร้างมันออกมาได้ไหม?”


“รถแทรกเตอร์เหรอ? ฮ่าๆ ผมรู้จักมันดีซะยิ่งกว่าเมียที่บ้านอีก นี่ผมไม่ได้โม้นะคุณโรแลนด์ ถ้ามีลูกมือให้ผมซักสองสามคน ต่อให้หลับตาผมก็ยังสร้างมันออกมาได้เลย”


เขาถามอย่างแปลกใจ “ในเมื่อคุณเก่งแบบนี้ ทำไมกลุ่มทุนโคลฟเวอร์ถึงไม่เรียกคุณให้ไปอยู่ในแผนกออกแบบ?”


“เฮ้อ เดี๋ยวนี้สิ่งที่พวกเขาทำมันต้องใช้คอมพิวเตอร์ ได้ยินว่าสายการผลิตทั้งหมดของโรงงานใหม่จะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด แล้วก็พวกแขนเครื่องจักรและหุ่นยนต์ทำงานเสียเป็นส่วนใหญ่ คนทั้งหมดในโรงงานจะไปทำเรื่องการขายและการบริหารจัดการ ต่อให้เชิญผมไป ผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ”


น้ำเสียงของอาจารย์เซี่ยฟังดูเศร้า


ส่วนโรแลนด์ก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาไปอย่างสิ้นเชิง


รูปลักษณ์ธรรมดา? คนงานแบบนี้สิถึงจะไม่อวดเก่ง


ดูเป็นคนซื่อๆ? ทีมที่ซื่อๆ ก็ยิ่งจัดการได้ง่ายไม่ใช่เหรอ?


ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์นั้นยิ่งเป็นปัญหาที่เล็กน้อยอย่างมาก คนเขียนแบบราคาถูกๆ นั้นมีอยู่เยอะแยะไป จ้างมาวาดซักคนก็ได้แล้ว


“เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก” โรแลนด์ยิ้มมุมปากขึ้นมา ก่อนจะผงกหัวติดๆ กัน


“เอ่อ?” อาจารย์เซี่ยงุนงง เหมือนไม่เข้าใจว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่


“โรงงานไม่ถูกรื้อแล้วครับ” เขาพูดตรงๆ “ผมจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นศูนย์ออกแบบแห่งใหม่ ส่วนคุณก็จะเป็นหัวหน้าวิศวกรคนแรกของผม”


“ศูนย์…ออกแบบ?”


“ถูกต้อง” โรแลนด์ยื่นมือไปหาอีกฝ่าย “ยินดีต้อนรับสู่ศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลครับ”


…………………………………………………………………..


ตอนที่ 1253 ของที่ไม่ได้อยู่ในยุคนี้

โดย

Ink Stone_Fantasy

“เอ่อ…คุณโรแลนด์” อาจารย์เซี่ยถูมืออยู่ครู่ก่อนจะถามขึ้นมา “ไม่ทราบว่าศูนย์ออกแบบที่ว่ามันเอาไว้ทำอะไรเหรอครับ?”


“ทำทุกอย่างที่ผมต้องการ” โรแลนด์พูดยิ้มๆ “อย่างเช่นตอนนี้ผมอยากจะสร้างรถแทรกเตอร์ขึ้นมาคันหนึ่ง มันต้องใช้งานได้ง่ายและมีความเสถียร แล้วก็ง่ายต่อการสร้าง ขณะเดียวกันก็มีศักยภาพที่ปรับปรุงต่อไปในอนาคตได้”


“รถแทรกเตอร์แบบนี้ ในตลาดน่าจะมีอยู่ไม่น้อยนะครับ…”


“สิ่งที่ผมต้องการมันไม่ใช่แค่นี้ ที่ผมพูดมามันเป็นแค่กรอบแบบคร่าวๆ เท่านั้น” เขาส่ายหัว “อันดับแรกนอกจากเครื่องยนต์แล้ว ชิ้นส่วนทุกอย่างของมันเราต้องผลิตขึ้นมาเอง”


“แบบนั้นต้นทุนมันจะสูงมากนะครับ” อาจารย์เซี่ยพูดอย่างตกใจ


“มันไม่จำเป็นต้องผลิตในปริมาณเยอะ ราคามันพอๆ กับของแฮนด์เมดบางอย่าง ผมมีเพื่อนที่เป็นนักสะสมอยู่สองสามคนที่จะยอมซื้อพวกมันในราคาสูง”


“อย่างนี้นี่เอง…”


“นอกจากนี้ ห้ามใช้เครื่องจักรอัตโนมัติในการผลิต อืม…” โรแลนด์มองไปรอบๆ “พวกเครื่องมือที่วางในอยู่โรงงานตอนนี้เหมาะอย่างมาก พวกอยากจะทราบข้อมูลจำเพาะและกระบวนการผลิตชิ้นส่วนทุกๆ ชิ้น พูดอีกอย่างก็คือศูนย์ออกแบบไม่เพียงแต่จะสร้างมันออกมา แต่ยังต้องวาดแผนผังสายการผลิตทั้งหมดของมันออกมาด้วย”


เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูลำบากใจของอีกฝ่าย เขาจึงพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคว่า “แน่นอน ผมจะรับสมัครพนักงานใหม่มาช่วยคุณทำงาน คุณแค่สั่งงานให้พวกเขาทำก็พอ”


“อย่างนั้นก็ได้ครับ…ถ้าใช้แค่กระดาษกับปากกาล่ะก็ เกรงว่าคงต้องใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้”


“เรื่องสุดท้าย แล้วก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด” โรแลนด์พูดต่อ “การจะสร้างมันจำเป็นต้องมีความคิดสร้างสรรค์”


อาจารย์เซี่ยงุนงง “คุณหมายความว่ายังไงครับ?”


“ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังแล้วกัน อย่างเช่นรถแทรกเตอร์คันนี้ พลังงานที่มันใช้คือพลังงานไอน้ำ — ด้วยเหตุนี้ตามหลักแล้วมันจำเป็นต้องมีเตาเผาขนาดใหญ่ กับช่องสำหรับใส่เชื้อเพลิงและน้ำ แต่ในความเป็นจริงมันกลับไม่มีชิ้นส่วนนี้ คุณจะมองว่าแหล่งกำเนิดพลังงานของมันเป็นเครื่องยนต์นิวเคลียร์ก็ได้ เหมือนกับในหนังอย่างนั้น”


“…..” สีหน้าอีกฝ่ายดูเหม่อลอยเล็กน้อย


“ด้วยเหตุนี้ในตอนที่สร้างรถตัวอย่างขึ้นมา คุณจะต้องทำให้ผลกระทบของชิ้นส่วนที่ ‘ตามทฤษฎีแล้วมีอยู่ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีอยู่’ ลดลงต่ำที่สุด เช่นนี้เวลาที่ทดลองรถถึงจะทำให้ได้ตัวเลขที่ใกล้เคียงมากที่สุด ผมพูดแบบนี้คุณพอจะเข้าใจไหมครับ?”


“เอ่อ…” อาจารย์ทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักอยู่ครู่ก่อนจะตอบกลับอย่างระมัดระวังว่า “ความหมายของคุณคือ ผมควรจะออกแบบมันโดยคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในยุคสมัยนี้ใช่ไหมครับ?”


“คำนิยามนี้ได้คะแนนเต็มเลยครับ” โรแลนด์ยิ้ม “ไม่ทราบว่ามีความยากในเรื่องเทคโนโลยีหรือเปล่าครับ?”


“ตามหลักแล้วไม่มีครับ แต่ว่า…” เขาลังเล็กน้อย “บอกตามตรง ถึงแม้จะสร้างมันขึ้นมาได้ แต่เกรงว่ามันคงไม่มีคุณค่าในทางปฏิบัติอะไร”


“ไม่มีนั่นแหละถูกแล้วครับ เพื่อนนักสะสมของผมเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้”


อาจารย์โล่งใจ จากนั้นจึงคำถามขึ้นมาอีกคำถาม “อย่างนั้น…คุณโรแลนด์ ไม่ทราบว่าเงินเดือนของหัวหน้าวิศวกรคือ….”


“ก็สองเท่าของเงินเดือนเกษียณของคุณแล้วกันครับ” โรแลนด์ตอบยิ้มๆ


…..


เมื่อกลับมาที่รถ การ์โดวางแก้วเหล้าลง ก่อนจะยักไหล่ให้เขาแล้วพูดว่า “เป็นยังไงบ้าง พอใจไหมครับ?”


“ไม่เลวเลยครับ ไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายของโรงงานนี่คิดยังไงเหรอครับ…” โรแลนด์แสร้งทำเป็นพูดอย่างเกรงใจ


“เรื่องรายละเอียดพวกนี้ยังไม่ต้องไปพูดถึงมันหรอกครับ สำหรับกลุ่มทุนโคลฟเวอร์แล้ว การที่ได้ช่วยสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่งครับ” การ์โดโบกมือ “อีกเดี๋ยวผมจะติดต่อทางนั้นเพื่อคุยเรื่องโรงงานนี้ให้ นับจากวันนี้ไป คุณคือเจ้าของคนใหม่ของพวกเขาแล้วครับ”


การเก็บโรงงานที่แห่งหนึ่งที่กำลังจะโดนรื้อถอนเอาไว้นั้นไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร ส่วนทรัพย์สินคงที่อื่นๆ อย่างเช่นที่ดิน โรงงานนั้นยังคงเป็นของกลุ่มทุนโคลฟเวอร์อยู่ ส่วนสิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายนั้นก็มีแค่เงินเดือนของคนงานบางส่วนกับเครื่องจักรที่รอเอาไปทิ้งอีกสองสามเครื่อง การที่ใช้ของพวกเท่านี้มาซื้อใจเมืองปริซึมนั้นเรียกได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าอย่างมาก


ถ้าโรแลนด์ทำเรื่องเหล่านี้เพียงคนเดียว เกรงว่าอย่างน้อยก็ต้องจ่ายเงินเป็นสิบล้าน เผลอๆ จ่ายแล้วก็อาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ


แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ โรแลนด์ก็ไม่อยากจะปล่อยโอกาสให้ผ่านไปแม้แต่นิดเดียว


“แบบนี้จะดีจริงๆ เหรอครับ? ผมว่าคิดๆ ดูแล้ว ถ้าอยากจะให้โรงงานกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติ อย่างน้อยๆ ก็ต้องจ้างคนมาอีกกลุ่มหนึ่ง แถมถ้าจะทำให้พวกเขามีความกระตือรือร้นในการทำงาน ก็ต้องมีการวางระบบให้รางวัลและการลงโทษขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ต้องการค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ”


“เอ่อ…” การ์โดครุ่นคิดอยู่ครู่ “เดี๋ยวผมส่งเจ้าหน้าที่ทางการเงินมาให้คุณคนหนึ่งแล้วกัน ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมก็แจ้งกับเธอได้เลย แต่ว่าคุณโรแลนด์ ถ้ามันมากเกินไปก็ไม่ได้นะครับ คุณก็รู้ว่ากลุ่มทุนโคลฟเวอร์…”


“ไม่ใช่คุณคนเดียวที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ วางใจได้ครับ ผมไม่ทำให้คุณลำบากใจหรอกครับ” เห็นได้ชัดว่าการที่ส่งเจ้าหน้าที่ทางการเงินมานั้นก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เขาผลาญเงินตัวเองเยอะเกินไป โรแลนด์ยิ้มๆ แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมา “เรื่องนี้ต้องขอบคุณคุณจริงๆ ครับ”


“เรื่องเล็กน้อยครับ”


ทั้งสองคนดื่มเหล้าจนหมดแก้ว


หลังจากนั้นสามวัน โรงงานเครื่องจักรทางการเกษตรก็เปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิล ถึงแม้ภายนอกมันจะยังดูเก่าอยู่ แต่ภายใต้ความเย้ายวนของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ภายในโรงงานจึงเริ่มคึกคักขึ้นมา


…..


หลังจัดการเรื่องราวเสร็จเรียบร้อย โรแลนด์พลันรู้สึกความหนักอึ้งบนบ่าผ่อนคลายลงทันที แม้แต่ฝีเท้าเวลาที่เดินไปทำงานในวันถัดมาก็เบาขึ้นไม่น้อย เมื่อคิดถึงว่าหลังจากนี้เขายังสามารถขยายขนาดของศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลให้ใหญ่ขึ้นไปอีก เขาก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้


ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นแบบนี้ต่อไป อันนาก็ไม่จำเป็นต้องทำงานถึงดึกๆ ดื่นๆ ทุกคืน เธอสามารถเอาเวลาไปสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เธอชื่นชอบได้ เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว


บางทีคนงานเหล่านั้นอาจจะไม่รู้เลยว่าแบบแปลนที่พวกเขาสร้างขึ้นมาจะสามารถทำให้มันเป็นจริงได้ในอีกโลกหนึ่ง แล้วก็ใช้มันต่อสู้กับปีศาจในมุมหนึ่งของพื้นทวีปอันกว้างใหญ่เพื่อทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่รอดสืบต่อไป


“พระองค์กำลังยิ้มอะไรเพคะ ฝ่าบาท…” ไนติงเกลมาปรากฏตรงหน้าเขาพร้อมกับสายตาดูถูก “เมื่อคืนฝันดีขนาดนั้นเลยเหรอเพคะ? คงไม่ใช่ว่าพระองค์ทรงไปทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรทำในโลกแห่งความฝันมานะเพคะ?”


“ที่ไหนกันล่ะ…ข้าเป็นคนแบบนั้นเหรอไง?”


ไนติงเกลเบะปาก “ความจริงถ้ามีมันก็เป็นเรื่องปกติเพคะ หม่อมฉันได้ยินฟิลลิสบอกว่าแม่มดโบราณไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากนัก พวกนางมองว่ามันไม่ได้ต่างอะไรกับการกินข้าวนอนหลับเลย”


“….นางพูดแบบนี้จริงๆ เหรอ?”


“เปล่าเพคะ หม่อมฉันหลอก” ไนติงเกลหรี่ตามองดูเขา “อย่าบอกนะเพคะว่าเมื่อครู่พระองค์กำลังคิดเรื่องนี้อยู่?”


รู้สึกเหมือนว่านี่เป็นกับดักเลย


“ข้าพูดได้แค่ว่าเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” โรแลนด์ถลึงตาใส่เธอ “ที่ข้ามีความสุขขนาดนี้ก็เป็นเพราะข้าแก้ปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งได้ ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าซี้ซั้วเดานั่นซักหน่อย”


“อื้อ ระดับความจริงใจ 95% ถือว่าเป็นเรื่องจริงแล้วกันเพคะ” ไนติงเกลพูดพร้อมผายมือ


“ตอนนี้ระบุออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ได้เลยเหรอ?”


“อื้อ น่าจะเป็นเพราะใช้บ่อยๆ ก็เลยรู้สึกรับรู้ได้ไวขึ้นกว่าแต่ก่อนเพคะ”


“แล้วอีก 5% มันหายไปไหนอะ? บอกไว้ก่อนนะ ข้าไม่ได้โกหกเลย”


“บางทีอาจเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของพระองค์อาจจะรู้สึกประหม่าอยู่ก็เป็นได้เพคะ” ไนติงเกลยิ้มมุมปากขึ้นมา


เอ่อ…โรแลนด์พูดไม่ออกไปทันที เขารู้สึกว่าถ้าขืนพูดต่อไปคงต้องตกหลุมพรางอีกฝ่ายแน่ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่ไม่พูด


“ใช่แล้วเพคะ” ไนติงเกลคาบปลาแห้งเอาไว้ในปากก่อนจะพูดออกมา “ช่วงนี้พระองค์ไม่ดูพระจันทร์สีแดงแล้วเหรอเพคะ”


“นั่นสิ…” ตอนนี้โรแลนด์ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้เงยหน้ามองดูท้องฟ้ามาเป็นเวลานานแล้ว วงกลมสีแดงดวงนั้นยังคงลอยอยู่นอกหน้าต่าง ไม่ว่าจะเงยหน้าขึ้นไปเมื่อไร มันก็จะอยู่ตำแหน่งเดิมทุกครั้ง “น่าจะเป็นเพราะรู้ว่ามันเป็นแค่รูเปล่าๆ รูหนึ่งเท่านั้นล่ะมั้ง”


ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้นมา


เป็นสายจากสำนักงานเมือง


“บารอฟเหรอ? มีเรื่องอะไร?” โรแลนด์ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา


“ฝ่าบาท ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าสำนักงานเมืองร้องเรียน “หากเป็นแบบนี้ต่อไป เงินในคลังจะหมดลงในไม่ช้าพ่ะย่ะค่ะ!”


……………………………………………………..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)