Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ 1019-1021
ตอนที่ 1019
ความลับของแม่มด
โดย
Ink Stone_Fantasy
ตอนที่ฮันนี่ถูกเรียกเข้ามาในปราสาท เธอดูมีความสุขอย่างมาก ทันทีที่เข้ามาในห้องเธอก็ไปเดินวนเวียนดูโต๊ะไม้แดงของโรแลนด์ เหมือนกับว่าจะดูมันทุกซอกทุกมุมอย่างไรอย่างนั้น
“ทำไมเหรอ?” โรแลนด์ถามอย่างแปลกใจขึ้นมา “โต๊ะนี้มันมีอะไรพิเศษเหรอ?”
“พระองค์เก็บของมีค่าเอาไว้ในนี้หรือเปล่าเพคะ?” ฮันนี่ถึงกับเดินเข้ามาดมๆ โต๊ะ “หรือว่ามันมีความสามารถอย่างอื่นอีก อย่างเช่นปล่อยความร้อนออกมาตอนกลางคืนได้?”
“จะเป็นไปได้ยังไง…” เขาหลุดขำออกมา “นี่มันก็แค่โต๊ะไม้ธรรมดาเท่านั้น ในนั้นมีแต่เอกสารกับจดหมายเท่านั้นแหละ”
“เอ๋ ยังงั้นหรอกเหรอเพคะ?” ฮันนี่ทำหน้าสงสัยขึ้นมา “อย่างนั้นทำไมทุกคืนพี่ไนติงเกลถึงต้องมานั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะตั้งนานด้วยล่ะเพคะ?”
“อะ อะไรนะ?” โรแลนด์กับเวนดี้ตะลึงขึ้นมาทันที ส่วนไนติงเกลก็กระเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ยาว
“ตอนที่หม่อมฉันฝึกเจ้าเกรย์แฮร์ มันบอกหม่อมฉันแบบนี้นี่เพคะ ถึงแม้มันจะทำได้เพียงใช้ท่าทางแสดงออกมาเท่านั้นก็ตาม” ฮันนี่พูดอย่างจริงจังว่า “พี่ไนติงเกลมักจะมานั่งที่ของฝ่าบาทตอนที่ไม่มีใครอยู่ แล้วก็ใช้หน้าแนบลงไปกับโต๊ะ…อื้อๆๆ…”
ฮันนี่ยังไม่ทันพูดจบ ไนติงเกลก็หายตัวเข้ามาแล้วใช้มือปิดปากของเธอเอาไว้ “ข้า ข้าก็แค่ง่วงนอน ก็เลยนอนฟุบไปที่โต๊ะเท่านั้น! อีกอย่าง นก นกมันจะไปรู้ได้ยังไงว่าข้าทำอะไรอยู่? เจ้าเข้าใจมันผิดแล้ว!”
เวนดี้เอามือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ
“อะแฮ่มๆ..” โรแลนด์กระแอมขึ้นมา “เจ้าเกรย์แฮร์น่าจะดูผิดหรือเปล่า? เพราะตอนกลางคืนไฟมันดับหมดแล้ว…”
ฮันนี่ส่งเสียงอู้อี้ออกมาไม่ชัด “แต่เจ้าเกรย์แฮร์มันเป็นนกฮูก”
ภายในห้องทำงานเงียบไปทันที
“เอาเป็นว่า เจ้าก็คิดซะว่ามันดูผิดแล้วกัน” โรแลนด์กระแอม ก่อนจะโบกมือไปทางไนติงเกลที่กำลังหน้าแดงอยู่ อีกฝ่ายกระทืบเท้า ก่อนจะหายไปในหมอกมายาทันที
ดูเหมือนนางคงจะไม่โผล่หน้าออกมาสักพักล่ะมั้ง
“เหรอเพคะ? หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ” ฮันนี่ไม่ได้ถามอะไรต่อ “ถ้าโต๊ะมันสามารถส่งความร้อนออกมาได้ หม่อมฉันก็อยากจะได้โต๊ะแบบนั้นซักตัวเพคะ”
“ทำไมล่ะ?” โรแลนด์เลิกคิ้วขึ้นมา “ในปราสาทกับตึกแม่มดต่างก็มีเครื่องทำความร้อนไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ที่สวนมันไม่มี ถ้าไม่มีพี่ลีฟอยู่ ที่ตรงนี่ก็จะค่อนข้างหนาวเพคะ ช่วงนี้พวกเกรย์แฮร์มันไม่ยอมขยับเลยเพคะ หม่อมฉันกลัวพวกมันจะเป็นหวัด หม่อมฉันก็เลยเอาแคร่มาวางใต้ต้นมะกอกแล้วก็นอนกอดพวกมันเอาไว้ ถ้ามีโต๊ะที่สามารถให้ความร้อนได้ พวกมันก็คงจะสบายขึ้นเพคะ”
เธอถึงได้ดูสนใจโต๊ะทำงานแบบนั้นน่ะเหรอ? โรแลนด์สังเกตเห็นบนผมม้วนๆ ของฮันนี่ยังมีขนนกติดอยู่สองสามอัน ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับรังรกที่ไม่ได้ทำความสะอาดเลย เขาพบว่าตัวเองนั้นมองข้ามเรื่องที่อยู่ของพวกนกส่งจดหมายไปจริงๆ เขาคิดว่าพวกมันมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้ แต่กลับไม่ได้คิดถึงว่าการใช้พวกมันให้ฝ่าพายุหิมะในเดือนแห่งปีศาจออกไปส่งจดหมายนั้นเป็นการทำผิดธรรมชาติของพวกมัน
“ถึงแม้โต๊ะจะให้ความร้อนไม่ได้ แต่ว่าข้าให้คนไปก่อเตาไฟในสวนให้ได้” เขายิ้มๆ พร้อมทำมือให้ดู “น่าจะใหญ่ประมาณโต๊ะนี้แหละ เจ้าจะได้ให้สัตว์ของเจ้ามานั่งล้อมวงด้วยกันได้”
“จริงหรือเพคะ?” ฮันนี่ตาเป็นประกาย “ขอบพระทัยเพคะ!”
“เรื่องเล็กน้อยน่ะ แต่ว่าเจ้าคุยกับพวกมันได้จริงๆ เหรอ?”
ฮันนี่ส่ายหน้าอย่างเขินๆ “ความจริงแล้วมันก็เป็นเหมือนที่พี่ไนติงเกลบอกนั่นแหละเพคะ สัตว์ส่วนใหญ่ไม่สามารถพูดได้ ดังนั้นพวกมันจึงทำได้เพียงใช้ท่าทางง่ายๆ ในการบอกว่าพวกมันเห็นอะไรมา การเดาผิดนั้นเป็นเรื่องปกติ นั่นจึงไม่อาจถือเป็นการพูดคุยจริงๆ ได้เพคะ”
อย่างนี้นี่เอง โรแลนด์คิดในใจ ถึงแม้พลังเวทมนตร์จะทำให้นกที่ได้รับการฝึกมาเหล่านี้เชื่อฟังคำสั่งของฮันนี่ แต่พลังเวทมนตร์กลับไม่สามารถทำให้พวกมันมีสติปัญญาใกล้เคียงมนุษย์ได้ “แล้วถ้าแค่ให้พวกมันไปเจอเรื่องที่น่าสนใจ แล้วกลับมาบอกทิศทางกับเจ้าล่ะ?”
“เรื่องที่น่าสนใจเหรอเพค?”
ฮันนี่ทำหน้าเหมือนครุ่นคิด ในขณะที่โรแลนด์กำลังคิดอยู่ว่าจะอธิบายความหมายของคำว่า ‘ข่าว’ ให้ฮันนี่เข้าใจอย่างไรดี จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “พี่เวนดี้กับครูบุ๊คมักจะมากินเหล้าด้วยกัน พอพวกนางดื่มจนเมาแล้ว พวกนางก็จะไปนั่งร้องเพลงอยู่ตรงระเบียง นี่ืถือเป็นเรื่องน่าสนใจไหมเพคะ?”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?” โรแลนด์รู้สึกแปลกใจอย่างมาก เวนนี้เป็นผู้รับผิดชอบของสโมสรแม่มด เธอทั้งอ่อนโยนและมีเมตตา ไม่ว่าเวลาไหนก็ทำให้คนรู้สึกได้ถึงสายลมอันเย็นสบาย ส่วนบุ๊คนั้นก็เป็นหัวหน้ากองการศึกษา แล้วก็เป็นครูในชั้นเรียนระดับต้นของพวกแม่มด ยิ่งไปกว่านั้นนางยังมีความอดทนอย่างมาก ในตัวเต็มไปด้วยความงดงามของความรู้ ปกติเธอจะไม่ค่อยยิ้ม แต่เธอกลับเป็นห่วงเป็นใยแม่มดในสโมสรแม่มดอย่างมาก เขานึกภาพทั้งสองคนตอนเมาไม่ออกจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฟังจากคำพูดของฮันนี่แล้ว เหมือนนี่จะไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียวด้วย? “ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเสียงเพลงเลยล่ะ?”
“พวกนางมักจะนัดกันตอนที่พระองค์ทรงออกไปนอกเมืองเพคะ เพราะว่าถ้าพี่ไนติงเกลไม่อยู่ พวกนางก็จะสามารถดื่มเครื่องดื่มของพี่ไนติงเกลได้สะดวก” ฮันนี่พูด “นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ร้องเพลงเท่านั้นนะเพคะ กรีนเทลบอกหม่อมฉันว่า บางครั้งพวกนางยังพูดถึงพระองค์….อื้อๆๆ….”
ครั้งนี้กลายเป็นเวนดี้ที่มาปิดปากเธอ “หม่อมฉันเพียงแต่รู้สึกดีใจที่…ที่ฝ่าบาททรงประสบความสำเร็จเท่านั้นเพคะ ยิ่งไปกว่านั้นนางก็เป็นคนบอกเองว่านกไม่สามารถพูดได้ แล้วพวกมันจะเข้าใจได้ยังไงล่ะเพคะว่าพวกหม่อมฉันพูดอะไรอยู่?”
“แต่กรีนเทลมันเป็นนกแก้วนะ…” ฮันนี่พยายามเปล่งคำพูดจนแก้มป่อง
เมื่อเห็นภายในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง โรแลนด์จึงรีบพูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะ ถือเป็นเรื่องน่าสนใจที่แปลกจริงๆ เจ้าผ่านแล้ว”
“ผ่านเหรอเพคะ?” เธองุนงง
“เดี๋ยวๆ เพคะ ฝ่าบาท จู่ๆ หม่อมฉันก็คิดว่าฮันนี่ไม่ค่อยเหมาะกับตำแหน่งศูนย์กลางในกองประชาสัมพันธ์เพคะ…” เวนดี้พูดพร้อมกระแอมขึ้นมา
“วางใจได้ สุดท้ายร่างข่าวเหล่านั้นก็ต้องทำการตรวจสอบก่อนที่จะตีพิมพ์ออกไปอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นเนื้อหาบนหนังสือพิมพ์หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องที่ให้ราษฎรอ่าน ไม่ค่อยเกี่ยวกับแม่มดเท่าไรหรอก” โรแลนด์ตัดสินใจ “อีกฝ่ายคนปกติเข้ามาในปราสาทไม่ได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องนี้หรอก เพราะว่ามีแต่สัตว์ของนางเท่านั้นแหละที่จะทำให้เราได้ข่าวจากที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันขอถามหน่อยได้ไหมเพคะว่าพวกพระองค์กำลังคุยอะไรกันอยู่?” ฮันนี่ยกมือถาม
“ได้สิ” โรแลนด์หัวเราะออกมาเบาๆ “นี่เป็นงานที่น่าสนใจอย่างมาก มาหาข้ามา เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังอย่างละเอียด”
ตอนนี้มีศูนย์กลางข่าวสารแล้ว เทคโนโลยีการพิมพ์ก็มีแล้ว อย่างนั้นเรื่องต่อไปที่ต้องทำก็คือจ้างคน สร้างระบบสัมภาษณ์และระบบเขียนข่าวขึ้นมา งานส่วนนี้ให้บารอฟเป็นคนรับผิดชอบดูจะเหมาะสมที่สุด ส่วนตำแหน่งหัวหน้ากอง เขาตัดสินใจว่าตัวเขาจะรับผิดชอบเองไปก่อน
เมื่อคิดถึงระดับการยอมรับของผู้คน ตัวหนังสือพิมพ์จะจำหน่ายแค่เฉพาะในเมืองเนเวอร์วินเทอร์ไปก่อน โดยจะจำหน่ายอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง ในเนื้อหานอกจากจะมีเรื่องใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ แล้ว มันยังจะมีบางส่วนที่เป็นข่าวเกี่ยวกับประชาชนและชีวิตความเป็นอยู่ด้วย พวกกับการที่มีสำนักงานเมืองคอยทำงานอยู่เบื้องหลัง โรแลนด์เชื่อว่าไม่นานมันจะต้องกลายเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดอย่างแน่นอน มันสามารถแก้ไขจุดอ่อนในด้านการประชาสัมพันธ์ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ได้ ขณะเดียวกันยังทำให้ประชาชนมีประเด็นมากมายให้พูดคุยกันในร้านเหล้า จนมันทะลักออกมาที่ตลาด
แต่ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่เรื่องที่ทำการบันทึกลงไปอย่างเป็นทางการเท่านั้น ทว่าสิ่งที่โรแลนด์รู้สึกสนใจมากกว่านั้นก็คือคำพูดครึ่งหลังที่ฮันนี่ถูกห้ามไม่ให้พูดออกมา
แน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะเค้นเอาให้ได้ตอนนี้ ถ้าตัวเองเป็นหัวหน้ากองล่ะก็ หลังจากนี้ตัวเองค่อยเรียกฮันนี่มาคุยเป็นการส่วนตัว แล้วถามเรื่องน่าสนใจที่เป็นความลับเหล่านั้นก็ได้ อย่างเช่นเรื่องที่เวนดี้กับบุ๊คคุยอะไรกันหลังจากเมา?
นี่มันทำให้เขารู้สึกอยากจะรู้จริงๆ
ตอนที่ 1020
วันตีพิมพ์
โดย
Ink Stone_Fantasy
วิคเตอร์นั่งพลิกดูบัญชีการค้าอยู่ในห้องส่วนตัวของร้านเหล่าแห่งหนึ่งในเมืองเนเวอร์วินเทอร์
ภายในห้องส่วนตัวนี้แตกต่างจากโถงชั้นล่างที่มีเสียงดังเอะอะวุ่นวาย มันเป็นห้องสุดหรูที่บนพื้นปูด้วยพรมขนแกะ ใต้ตั่งมีอิฐร้อนปูอยู่ด้านใต้ ตั้งแต่เดินเข้าห้องจนมานอนอยู่บนตั่ง ใต้เท้าเขาไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นแม้แต่นิดเดียว
ทางร้านเหล้าได้ติดตั้งโต๊ะที่สามารถปรับระดับได้เอาไว้ข้างตั่ง โดยมันสามารถใช้เป็นโต๊ะเตี้ยในเวลาที่ต้องการได้ โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หนาวเย็น การนั่งทำงานอยู่บนตั่งถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ในเวลานี้ ด้านซ้ายมือของเขามีเนื้ออกไก่ย่างจนเหลืองหั่นเป็นชิ้นๆ วางเอาไว้ ด้านขวามือเป็นเครื่องดื่มยุ่งเหยิงสีม่วงเข้ม ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องรสชาติของมัน เพียงแค่อาหารมื้อนี้ก็มีค่าสิบกว่าเหรียญทองแล้ว
ในฐานะที่เป็นพ่อค้าอัญมณี แล้วก็เป็นบุตรคนที่สี่ของตระกูลโลธา ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในสายตาคนอื่นนี้ สำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ใช้เงินเพื่อซื้อความสุขของตัวเองกลายเป็นความเคยชินของเขาไปเสียแล้ว เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องคุ้มหรือไม่คุ้มเลย
นับตั้งแต่ที่ได้มาเยี่ยมชมรถไฟเมื่อสองเดือนก่อน เขาก็เช่าห้องที่ชั้นสามของโรงแรมนี้เพื่อเป็นฐานทำการค้าของตัวเอง
แน่นอนว่าด้วยความร่ำรวยของเขาแล้ว ต่อให้เขาซื้อตึกซักสองสามก็ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แต่วิคเตอร์กลับชื่นชอบความรู้สึกที่ได้อยู่ข้างบนเงียบๆ แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายที่ชั้นล่างแบบนี้ ถ้าเทียบกับคฤหาสน์ใหญ่ๆ ที่พวกขุนนางชื่นชอบแล้ว เขาอยากจะมาพักอยู่ที่โรงแรมแบบนี้มากกว่า
นี่ก็เพื่อความสะดวกในการคุยการค้ากับพ่อค้าคนอื่นๆ
ถ้าหากมีอะไรที่จะสะท้อนความรุ่งเรืองทางการค้าของเมืองๆ หนึ่งได้ สิ่งนั้นย่อมต้องเป็นร้านเหล้าที่อยู่ใจกลางเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังพลิกอ่านหน้าสุดท้ายเสร็จ วิคเตอร์ก็ปิดสมุดหนังแกะในมือลง ก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มที่เปล่งประกายขึ้นมา ท่ามกลางแสงเทียนที่สาดส่อง ของเหลวภายในแก้วสะท้อนสีม่วงแดงออกมาราวกับอัญมณี
บนบัญชีในช่วงนี้มีปัญหานิดหน่อย
นั่นก็คือเขาไม่ได้รับอัญมณีดิบจากดินแดนตะวันตกมาเป็นเวลานานแล้ว
สงครามแย่งชิงบัลลังก์ทำให้สถานการณ์ภายในเกรย์คาสเซิลเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อถูกทำลายลงเพราะไฟสงคราม ขุนนางไม่มีศักดินาเหมือนอย่างเมื่อก่อน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ของใช้ฟุ่มเฟือยราคาตกลงแล้วตกลงอีก ถ้าอยากจะรักษากำไรเอาไว้ให้ได้เหมือนเดิม ก็มีแต่ต้องเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น แต่ถ้าไม่มีอัญมณีดิบ แล้วช่างอัญมณีที่เป็นลูกน้องของเขาจะทำอัญมณีออกมาได้อย่างไร
ป้อมปราการลองซองเคยเป็นแหล่งอัญมณีดิบขนาดใหญ่สำหรับเขา แต่หลังจากที่โรแลนด์ วิมเบิลดันประกาศสร้างเมืองเนเวอร์วินเทอร์ แหล่งอัญมณีดิบก็ยิ่งขาดแคลนลงไปอีก เขาเคยไปที่เขตลองซองมาหลายครั้ง แต่ก็พบว่าเขตเหมืองของที่นั่นได้ถูกราชายึดเอาไปหมดแล้ว ความจริงนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะปกติพวกผู้ปกครองก็ชอบสะสมความมั่งคั่งอยู่แล้ว แต่สิ่งที่แปลกก็คือหลังจากที่พวกอัญมณีดิบที่ถูกขุดออกมาถูกส่งไปยังเขตชายแดน พวกมันก็เหมือนกับพากันหายไปจนหมด
ถูกต้อง เพราะจนถึงตอนนี้เขายังไม่เห็นร้านอัญมณีในเมืองเนเวอร์วินเทอร์เลยแม้แต่ร้านเดียว
ถ้าไม่ขายอัญมณีดิบเพื่อเอากำไร ก็ต้องลงทุนเอาอัญมณีดิบมาทำเป็นอัญมณีแล้วขายเอากำไร วิธีจัดการกับอัญมณีของพวกผู้ปกครองมีอยู่แค่สองวิธีนี้เท่านั้น วิธีแรกเขาสามารถกินส่วนต่างได้ ส่วนวิธีที่สองเขาสามารถร่วมลงทุนทำการค้าด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางค้าขายหรือกระบวนการแปรรูปเป็นอัญมณี เขาก็ล้วนแต่มีความสามารถที่อีกฝ่ายไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้
แต่ราชากลับไม่เปิดโอกาสให้เขาเข้าไปเลยแม้แต่นิดเดียว
เหมือนกับว่าโรแลนด์ วิมเบิลดันนั้นไม่ได้คิดที่จะใช้อัญมณีเพื่อหาเงินอย่างไรอย่างนั้น
นี่ทำให้วิคเตอร์รู้สึกค่อนข้างทุกข์ใจ
เขาเคยเอาเครื่องประดับที่ทำเสร็จแล้วไปขายที่เมืองเนเวอร์วินเทอร์ แต่ผลที่ออกมาก็ทำให้เขาทุกข์ใจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านที่ไหนก็ไม่มีทางใช้เครื่องประดับที่ราคาแห่งหลายสิบเหรียญทองแบบนี้ได้ แต่ไหนแต่ไรมาพวกมันเป็นของใช้สำหรับพวกตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยเท่านั้น เพื่อที่พวกเขาจะได้ดูโดดเด่นภายในงานเลี้ยง แต่ที่ี่นี่กลับไม่มีขุนนางเหมือนอย่างที่ผ่านมา!
ถูกต้อง เมืองใหญ่ที่มีขนาดใหญ่โตนี้กลับไม่มีความสนใจเครื่องประดับอันล้ำค่า นี่คือเรื่องที่เขาไม่เคยคิดถึงมาก่อน
เขามาที่เนเวอร์วินเทอร์หลายครั้ง ทว่าเขามีแต่ซื้อของจากที่นี่ แต่กลับขายของได้น้อยมาก บัญชีบนสมุดหนังแกะเริ่มเผยให้เห็นถึงการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือสัญญาณที่ไม่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
การปรากฏตัวขึ้นของรถไฟทำให้วิคเตอร์รู้ว่าอนาคตได้มาถึงแล้ว เพียงแต่ว่ามันยังไม่ได้กระจายออกไปทั่วๆ และเพื่อที่จะขยายการค้าออกไปได้ดียิ่งขึ้น เขาก็ย่อมต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ใกล้กับอนาคต การย้ายศูนย์กลางธุรกิจจากเมืองหลวงเก่ามายังเมืองหลวงใหม่จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
แต่ปัญหาคือถ้าเกิดในอนาคตไม่มีอาชีพของเขาอยู่จะทำยังไง?
เขามีเงินอยู่เยอะแยะมากมาย ต่อให้ไม่ทำอะไรเลยเขาก็ยังอยู่อย่างสุขสบายไปได้ตลอดชีวิต แต่เขาจำเป็นต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเองในด้านธุรกิจ ทำให้ตระกูลที่โลภมากและพวกพ่อค้าของแบล็คมันนี่เหล่านั้นพูดไม่ออก
เขาไม่อยากทำให้พ่อของเขาผิดหวัง
ในตอนที่วิคเตอร์กำลังครุ่นคิดว่าจะทำยังไงถึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้ จู่ๆ เสียงโหวกเหวกโวยวายจากชั้นล่างก็ดังขึ้นจากเดิมหลายเท่า แม้แต่ผนังห้องก็ยังสั่นสะเทือนขึ้นมา
ตอนนี้ยังไม่มืดเลย ตามหลักแล้วยังไม่ถึงเวลาที่ชาวบ้านจะพากันมากินเหล้า หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เขาดึงกระดิ่งเรียกสาวใช้ขึ้นมา
“ขอประทานโทษเจ้าค่ะ” หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งผลักประตูเข้ามา “นายท่านมีอะไรให้รับใช้เจ้าคะ?”
พริบตาที่ประตูเปิดออก เสียงเอะอะพลันดังขึ้นมาทันที เขาเหมือนจะได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนขายอะไรบางอย่าง
วิคเตอร์ชี้ออกไปนอกประตู “ข้างล่างเกิดอะไรขึ้น?”
“ขออภัยเจ้าค่ะ นายท่าน พวกเขารบกวนท่านหรือเจ้าคะ?” สาวใช้ยิ้มอย่างขอโทษ “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดีเจ้าค่ะ เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ขายหนังสือพิมพ์ ทุกคนกำลังแย่งกันซื้อมันอยู่เจ้าค่ะ”
“หนังสือ…พิมพ์?” เขาพูดทวนพร้อมทำหน้าแปลกๆ
“ใช่เจ้าค่ะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฝ่าบาททรงประกาศออกมาว่าจะใช้มันแทนป้ายประกาศที่อยู่ตรงลานเมือง ทุกคนต่างก็รอมาตั้งนานเพราะอยากจะดูว่าเจ้าหนังสือพิมพ์มันคือะไรกันแน่”
เอ่อ มีของเล่นใหม่ออกมาอีกแล้วเหรอ? สมแล้วที่เป็นเมืองหลวง วิคเตอร์รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที “มันราคาเท่าไร?”
“ได้ยินว่าฉบับละ 10 เหรียญทองแดงเจ้าค่ะ”
“อย่างนั้นช่วยข้าซื้อมา 1 …ไม่สิ ซื้อมา 10 ฉบับเลย!” เขาพูดทันที
“เจ้าค่ะ” สาวใช้วิ่งลงมาจากชั้นบน จากนั้นไม่นานเธอก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา “นาย นายท่าน…หนังสือพิมพ์ที่ส่งมาขายไปหมดแล้วเจ้าค่ะ”
“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” วิคเตอร์กะพริบตาอย่างแปลกใจ ถ้าบอกว่ามันเป็นสินค้าชนิดหนึ่งล่ะก็ อย่างนั้นมันจะขายดีเกินไปหรือเปล่า แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไรสำหรับเขา ก็แค่ใช้เงินแก้ปัญหาเท่านั้นเอง “อย่างนั้นก็ไปซื้อจากคนที่มี เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา!”
เขาโยนเงิน 1 เหรียญทองไปให้สาวใช้ “ขอเพียงซื้อมาได้ เงินส่วนที่เหลือคือของเจ้าทั้งหมด!”
“เจ้าค่ะ! นายท่าน!” สาวใช้ยิ้มดีใจ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที หนังสือพิมพ์สีเทาขาว 6 ฉบับก็ถูกส่งมาถึงมือเขา
“ราคาข้างล่างเพิ่มขึ้นไปถึง 20 เหรียญเงิน ข้าพยายามเต็มที่แล้วเจ้าค่ะ…” สาวใช้พูดอึกๆ อักๆ
มีคนซื้อหนังสือพิมพ์ตุนเอาไว้จำนวนมากแล้วรอดูราคามันขึ้นอย่างนั้นเหรอ? ส่วนสีหน้าของอีกฝ่ายก็ได้บอกความความคิดที่อยู่ภายในใจออกมาจนหมด ถึงแม้จะทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่เธอกลับไม่ยอมคืนเงินที่เหลือออกมา ทว่าวิคเตอร์กลับไม่ได้สนใจอะไร “เจ้าชื่ออะไร?”
“ทิงเกิล เจ้าค่ะ”
“เงินนั่นเจ้าเก็บเอาไว้เถอะ” เขาโบกหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ “นอกจากนี้ เจ้ามาดูนี่ด้วยกันกับข้าได้ไหม?”
ในเมื่อมีอาหารและเหล้าเลิศรสแล้ว อย่างนั้นสิ่งที่ขาดอยู่ก็คงรู้ๆ กันอยู่ว่าคืออะไร หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเบาๆ และเหงื่อที่ผุดออกมาจากปลายจมูกของอีกฝ่ายนั้นทำให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของหญิงสาววัยแรกแย้ม เขาเคยเจอหญิงสาวชั้นสูงมาเยอะแล้ว แต่หญิงสาวที่ดูเซ่อซ่าแบบนี้กลับเหมือนมีอะไรที่แตกต่างออกไป ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นชาวเมืองเนเวอร์วินเทอร์ด้วย ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจ เขาจะได้ถามเธอได้
“ท่านวิคเตอร์….” หญิงสาวก้มหน้าลง พวงแก้มแดงเรื่อขึ้นมาด้วยความเขินอาย ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงกัดริมฝีปากแล้วพยักหน้าออกมา “ข้ายินดีเจ้าค่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ” เขาหัวเราะพร้อมเอามือตบไปที่ตั่ง “อย่างนั้นก็ขอบใจเจ้ามากที่มาอยู่เป็นเพื่อนข้า”
ตอนที่ 1021
เกรย์คาสเซิลรายสัปดาห์
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อบนตั่งมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง พื้นรองตั่งก็งอลงทันที แถมยังส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมาเบาๆ ด้วย
เห็นทีคงต้องบอกให้ทางร้านต่อเจ้านี้ให้แน่นขึ้นหน่อยแล้ว วิคเตอร์ครุ่นคิด ถึงแม้เตียงจะตั้งอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่บางครั้งมันก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำทุกเรื่องบนเตียง การเปลี่ยนสถานที่บ้างมันก็ให้ความรู้สึกที่สุดยอดอย่างที่คาดไม่ถึงเหมือนกัน เมื่อเทียบเมืองหลวงทั้งสองเมืองแล้ว โรงแรมที่นี่เหมือนจะยังด้อยกว่าไม่น้อย
จากนั้นทิงเกิลก็เก็บกวาดโต๊ะแล้วเอาหนังสือพิมพ์กางตรงหน้าเขา
“นี่มัน…” วิคเตอร์ขมวดคิ้วขึ้นมา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือตัวหนังสือที่เต็มหน้ากระดาษ ดูแล้วคล้ายๆ กับบันทึกโบราณที่เก็บอยู่ในบ้านเขาเลย!
เขาเคยเห็นอะไรมามากมายตั้งแต่เด็ก ของแปลกๆ บนโลกนี้เขาไม่เพียงแต่จะเคยเห็นมาเท่านั้น แต่เขายังเคยสัมผัสมันมาด้วย ปกติถ้าเอาสินค้าชิ้นหนึ่งมาวางลงตรงหน้าเขา เขาสามารถประเมินราคาคร่าวๆ ของมันออกมาได้ทันที แต่เจ้าหนังสือพิมพ์นี่กลับทำให้วิคเตอร์รู้สึกสงสัยขึ้นมา
ตัวหนังสือที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเช่นนี้น่าจะไม่ได้ใช้มือเขียนขึ้นมา พูดอีกอย่างคือเป็นไปได้สูงที่มันจะใช้เทคนิคบล็อคพิมพ์ทำขึ้นมา และเมื่อคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว คนที่ทำมันส่วนใหญ่จะเอามันไปใช้กับบันทึกสำคัญๆ และแก้ไขน้อยๆ อย่างเช่นประมวลกฎหมายของอาณาจักร
ซึ่งปัญหามันก็อยู่ตรงนี้ เพื่อที่จะทำให้การพิมพ์ออกมาได้ผลดีที่สุดแล้ว ปกติหนังสือพวกนี้จึงต้องพยายามใช้วัสดุที่ดีที่สุดในการพิมพ์มันขึ้นมา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังลูกแกะที่ยังไม่โกนขน การฝังอัญมณีเอาไว้บนหน้าปกก็มีไม่น้อย นอกจากจะทำให้มันดูมีค่าไม่ธรรมดาแล้ว มันยังทำให้มีความทนทานต่อการใช้งานด้วย
แต่กระดาษแบบนี้มันคืออะไรกัน? ตัวกระดาษเห็นได้ชัดว่าเป็นกระดาษปาปิรุสธรรมดาๆ ที่มีความหนาไม่เท่ากัน แค่โดนน้ำก็ละลาย อีกทั้งตัวมันก็ไม่ได้มีหน้าปก ตรงขอบมุมก็ไม่ได้มีการป้องกันกระดาษเสียหายเลย ต่อให้พลิกอ่านธรรมดาๆ ก็อ่านได้แค่ไม่กี่ครั้ง สำหรับเขาแล้วการทำแบบนี้มันเหมือนกับการเอาไข่มุกราตรีไปฝังไว้ในเหล็กดิบอย่างไรอย่างนั้น
วิคเตอร์อดนึกถึงคำพูดของสาวใช้ขึ้นมาไม่ได้ ราชาทรงวางแผนที่จะใช้เจ้าสิ่งนี้แทนป้ายประกาศ นั่นก็หมายความว่าหลังจากนี้มันยังจะมีเนื้อหาใหม่ๆ ตีพิมพ์ออกมาอีก?
หลังถามคำถามที่อยู่ในใจออกมา เขาก็ได้รับคำตอบมาจากอีกฝ่าย
“ใช่เจ้าค่ะ ตอนนั้นบนป้ายประกาศบอกว่าหนังสือพิมพ์จะตีพิมพ์ออกมาสัปดาห์ละครั้ง แถมจำนวนก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อที่ทุกคนจะได้อ่านมันเจ้าค่ะ”
อีกทั้งหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับยังราคาแค่ 10 เหรียญทองแดงเท่านั้น
เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าฝ่าบาทโรแลนด์ได้สมบัติมาจากเฮอร์มีสเท่าไรกันแน่ ของที่ทำไปก็มีแต่ขาดทุนแบบนี้ อีกฝ่ายยังคิดจะทำไปเรื่อยๆ อีกเหรอ?
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าบางทีในนี้อาจจะมีพ่อค้าอัญมณีที่มีโอกาสทางการค้า แต่ในเวลานี้ความคิดนี้ได้ถูกพัดหายไปจนหมดแล้ว
ช่างปะไรล่ะ วิคเตอร์บ่นกับตัวเอง ยังไงซะก็ไม่ใช่เงินของเขาซักหน่อย อีกฝ่ายจะได้กำไรหรือขาดทุนมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา เขาตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไปดีกว่า
เขาเลื่อนสายตาไปยังหน้าแรกของหนังสือพิมพ์
ด้านบนสุดมีตัวหนังสือตัวใหญ่ๆ เขียนเอาไว้ว่า ‘เกรย์คาสเซิลรายสัปดาห์’
จากนั้นทั้งหน้าก็จะเป็นข่าวราชากำลังจะเสด็จขึ้นครองราชย์ และเรื่องที่อาณาจักรดอว์นกับอาณาจักรเกรย์คาสเซิลจับมือเป็นพันธมิตรเพื่อต่อสู้กับปีศาจ
เรื่องเหล่านี้เขาเคยได้ยินมานานแล้ว แต่เขาก็แค่รู้ว่ามันมีเรื่องแบบนี้อยู่เท่านั้น เรื่องรายละเอียดอะไรเขาไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
หลังอ่านไปได้แค่เพียงสองบรรทัด ความคิดของวิคเตอร์ก็จมหายเข้าไปในหนังสือพิมพ์ทันที
เนื้อหาที่อยู่บนหนังสือพิมพ์ทำเอาเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกลั้นหายใจอยู่
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้อ่านการบรรยายอย่างละเอียดของทั้งสองเรื่องนี้จากมุมมองของทางการ มันไม่เหมือนกับข่าวที่พูดต่อๆ กันตามท้องถนน สิ่งที่บันทึกอยู่บนหนังสือพิมพ์ไม่เพียงแต่จะระบุเวลาสถานที่ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดและผลสุดท้ายของเรื่องเอาไว้อย่างชัดเจน แต่มันยังบรรยายสาเหตุที่ทำให้มันเกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของสัญญาพันธมิตรของอาณาจักรดอว์น ในหนังสือพิมพ์บอกเอาไว้ว่าเนื่องจากราชชวงศ์โมย่าผิดคำสัญญา การก่อความวุ่นวายของขุนนาง แล้วก็จดหมายขอความช่วยเหลือที่ถูกส่งมาจากในอาณาจักรดอว์น จึงเป็นเหตุให้เกร์คาสเซิลต้องส่งกองทัพออกมา หลังจากนั้นสามตระกูลใหญ่พากันย้ายข้าง ราชาคนใหญ่ของอาณาจักรดอว์นฟื้นฟูระเบียบภายในอาณาจักรขึ้นมาอีกครั้งโดยมีความช่วยเหลือจากโรแลนด์ วิมเบิลดัน
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสิ่งที่บรรยายอยู่นี้อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่เขากลับพบว่าตัวเองยังคงรู้สึกเชื่อสิ่งที่เขียนอยู่นี้โดยไม่รู้ตัว เพราะว่าเนื้อหาของมันเรียกได้ว่ามีความสมบูรณ์อย่างมาก แทบจะไม่มีช่องโหว่ใดๆ เลย ทำให้คนรู้สึกเป็นไปได้ยากที่จะไม่เชื่อมัน
ความจริงแล้วการที่อีกฝ่ายกล้าเอาข้อมูลเหล่านี้เปิดเผยออกมา มันก็เรียกได้ว่ามีความน่าเชื่อถือที่มากพอแล้ว
วิคเตอร์ไม่สนใจทิงเกิลที่อยู่ข้างๆ เขารีบพลิกอ่านหน้าต่อไป
เนื้อหาในหน้าที่สองนั้นเกี่ยวข้องกับปีศาจ ผู้เขียนได้เขียนบรรยายเรื่องที่กองทัพที่หนึ่งบุกไปโจมตีปีศาจที่อยู่ในดินแดนรกร้างทางตะวันตกเฉียงเหนือออกมาเป็นบันทึกการรบที่สมบูรณ์ โดยมีวันเวลาระบุเอาไว้อย่างชัดเจน
เขาเพิ่งจะเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
ตอนที่มาเมืองเนเวอร์วินเทอร์เมื่อครั้งที่แล้ว เขารู้เพียงแต่ว่ามีอสูรสยองบุกเข้ามาโจมตี คิดไม่ถึงเลยว่าพระราชาจะทำการแก้แค้นพวกมัน พระองค์ไม่เพียงแต่จะสั่งการให้กองทัพที่หนึ่งบุกเข้าไปในดินแดนต้องห้ามที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่พระองค์ยังโจมตีใส่ศัตรูอย่างหนักด้วย ทำให้พวกมันไม่กล้าที่จะโผล่หน้ามาที่ดินแดนตะวันตกอีก ถ้าสิ่งที่บันทึกเอาไว้เป็นเรื่องจริง เรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าเป็น ‘ตำนาน’ เลยทีเดียว!
‘มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?’ ภายในหัววิคเตอร์มีความคิดแบบนี้ปรากฏขึ้นมาหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการบุกออกไปนับพันกิโลหรือศึกที่ห่างออกไปแค่ไม่กี่สิบกิโลก็ล้วนแต่น่าตกตะลึง
เมื่ออ่านถึงตรงที่บรรยายว่ากองทัพที่หนึ่งได้ตั้งแนวรบเพื่อรับมือกับศัตรูที่โถมบุกเข้ามาทางอากาศ วิตเตอร์พลันรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาจากด้านหลัง
เขาซึ่งใกล้ชิดกับแบล็คมันนี่มาตั้งแต่เด็กนั้นรู้ดีกว่าหลายคนว่าโลกใบนี้ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่หลายๆ คนคิด ภายใต้เงามืดที่มองไม่เห็นมันยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่แอบซ่อนตัวอยู่ ด้วยเหตุนี้ข่าวการปรากฏตัวของปีศาจที่กระจายมาถึงอาณาจักรดอว์นจึงไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับเขานัก พวกหอการค้าใหญ่ๆ เองก็รู้สึกแบบเดียวกับเขา
เพราะถึงรู้ข่าวไปมันก็เท่านั้น
เหล่าพ่อค้าขุนนางของดอว์นยังคงสนใจแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องสงครามแห่งโชคชะตาที่อยู่บนกระดาษแม้แต่น้อย
แต่วิคเตอร์กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเกรย์คาสเซิลจะเปิดฉากโจมตีใส่พวกปีศาจแบบซึ่งๆ หน้า แถมยังคว้าชัยชนะมาได้ด้วย นี่ทำให้ภายในใจเขาเกิดความรู้สึกแปลกๆ
เขาพูดไม่ออกว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและมีความสุข
ซึ่งความจริงแล้วเขาควรจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ถึงจะถูก
เมื่อคิดไปคิดมา น่าจะเป็นเพราะบนหนังสือพิมพ์มีคำว่า ‘มนุษย์’ ปรากฏขึ้นมาหลายครั้งจนทำให้เขามีความรู้สึกร่วมด้วยหรือเปล่า?
มีอยู่ชั่วแวบหนึ่งที่วิคเตอร์รู้สึกเหมือนตัวเองและกองทัพที่หนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าศัตรูที่แข็งแกร่งและน่ากลัวด้วยกัน ชาติตระกูลและสายเลือดไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอีกต่อไป
เขาสูดหายใจพร้อมกับเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาก ก่อนจะเปิดหนังสือพิมพ์ไปยังหน้าที่สาม
เนื้อหาภายในหน้านี้ดูผ่อนคลายลงกว่าเดิมเยอะ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องยิบย่อยที่เกิดขึ้นในเมืองเนเวอร์วินเทอร์ โดยหัวข้อของมันก็ค่อนข้างแปลกประหลาดทีเดียว ‘ช็อค! เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นกลางดึกภายในเมืองมาจากไหน? ทีมนักสืบจะพาท่านไปไขปริศนานี้!’ ‘ท่อน้ำแตก พื้นถนนมีน้ำท่วม!’ ‘เห็ดเบิร์ดคิส เครื่องปรุงที่ชาวเนเวอร์วินเทอร์ทุกคนรู้จัก’….
วิคเตอร์ไล่อ่านลงมาเรื่อยๆ ในตอนที่เขาพลิกอ่านไปหน้าสุดท้าย เขาถึงตกตะลึงขึ้นมาทันที
มันเป็นภาพวาดขาวดำที่กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของหน้ากระดาษ ภาพที่อยู่ข้างในนั้นดูเหมือนมีชีวิตจริงๆ ทำเอาคนที่เห็นมันยากจะละสายตาไปได้
ในภาพวาดเป็นภาพแม่มดสองคนกำลังจับมือกับยืนอยู่บนพื้นหิมะท่ามกลางเกล็ดหิมะที่ตกโปรยปรายลงมา ดูแล้วช่างงดงามเป็นอย่างมาก ส่วนด้านล่างนั้นก็เป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่ที่เรียงเป็นแถวอย่างสวยงาม
‘ ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ ผลงานศิลปะที่ก้าวข้ามยุคสมัย ของขวัญในพิธีราชาภิเษก ผลงานการประพันธ์ของฝ่าบาทโรแลนด์ นำแสดงโดยคณะละครเวทีสตาร์ฟลาวเวอร์และเหล่าแม่มด! เริ่มฉายสิ้นเดือนนี้! เปิดให้ซื้อบัตรล่วงหน้าแล้วตอนนี้!’
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น