Reincarnation Of The Strongest Sword God 2790-2791

 ตอนที่ 2790 การต่อสู้ที่น่าตกตะลึง


ในขณะที่ประตูหินนี้มันเปิดออกมาได้เพียงครึ่งเดียว มันก็มีเสียงที่เย็นชาและน่ากลัวดังออกมาจากประตูหิน ซึ่งมันทำให้ซือเฟิง และคนอื่นๆ รวมไปถึงมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ตัวสั่น


“เจ้ากิ้งก่าทองน้อยที่น่ารัก ไม่สิ นี่มันไม่ใช่ในโลกปกตินี่นา …. นี่มันน่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ !!! ไบเบิ้ลแห่งความมืดที่เสียหายงั้นหรอ ? โอเคเลย นี่มันยอดเยี่ยมมากๆ !!!”


คำพูดของปีศาจที่ดังออกมาจากประตูหินนั้นมันพุ่งเข้าสู่ความคิดและจิตใจของทุกคนโดยตรง


แม้ว่าเสียงนั้นมันจะฟังดูเหมือนไม่แยแสอะไร แต่แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากประตูหินในปัจจุบันมันก็ทำให้ทุกคนขยับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะ และแม้แต่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ที่พวกเขาทั้งหมดล้วนหวาดกลัวก็ยังจ้องมองไปยังประตูหินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน


“ราชันปีศาจขั้นห้า ?” ซือเฟิงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันและพลังงานที่น่ากลัวที่หลั่งไหลออกมาจากประตูหินได้อย่างชัดเจน


ตามความคาดหวังของซือเฟิงนั้น เขาจะรู้สึกโอเคมากแล้วถ้าเขาสามารอัญเชิญเจ้าชายปีศาจที่มีความแข็งแกร่งเป็นลำดับต้นๆออกมาได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วไบเบิ้ลแห่งความมืดนี้มันยังคงไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้วัดจากแรงกดดันและพลังงานที่น่ากลัวที่หลั่งไหลออกมาจากประตูหิน สิ่งที่เขาอัญเชิญออกมามันจะต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้าชายปีศาจแน่นอน


และพูดกันตามตรง ปีศาจด้านหลังประตูหินนั้นน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ขั้นห้าที่เขาเคยพบมา


“ไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นมันไม่ใช่ของที่คุณจะสามารถถือครองได้ ชายหนุ่มตัวน้อย ส่งมันมาให้ฉัน !!! เพียงแค่คุณส่งมันมาให้ฉัน ฉันก็จะสามารถลงมาบนโลกนี้ได้อย่างแท้จริง และทำให้โลกนี้กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับตระกูลของฉันที่จะอาศัยอยู่ !!!”


สิ่งที่ปีศาจด้านหลังประตูหินทำนั้นก็เพียงแค่พูดเท่านั้น แต่มันกับทำให้ซือเฟิงรู้สึกว่าเขาเริ่มจะเสียการควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดในมือแล้ว และตอนนี้เขาก็รู้สึกราวกับว่าไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นกำลังต้องการจะบินเข้าไปหาปีศาจที่ด้านหลังประตู


สิ่งนี้มันทำให้ซือเฟิงตกตะลึงมากๆ เขาไม่เคยเห็นปีศาจที่สามารถจะต้านทานพลังของไบเบิ้ลแห่งความมืดได้มาก่อนเลย นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่มันพยายามจะเข้าควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดอีก ….


“ชายหนุ่มตัวน้อย ไม่ต้องกังวลไป เมื่อฉันได้รับไบเบิ้ลแห่งความมืด และได้ลงมาบนโลกอย่างสมบูรณ์พร้อมกับตระกูลของฉัน ฉันจะปล่อยให้คุณมีชีวิตรอดไป …”


เมื่อเสียงนี้พูดจบ ซือเฟิงก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าไบเบิ้ลแห่งความมืดในมือของเขานั้นได้ตัดขาดการเชื่อมต่อระหว่างมันกับเขา และตอนนี้มันก็ทำให้เขาต้องพยายามควบคุมมันด้วยพลังดิบที่เขามีเพียงอย่างเดียว


“ไอ้มนุษย์เวร !! แกกล้าจะอัญเชิญมันออกมาจริงๆ !!!” เห็นได้ชัดว่ามังกรทองหนุ่มนั้นตระหนักได้ถึงตัวตนของสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูหิน ซึ่งนี่ก็ทำให้มันก็อดไม่ได้ที่จะคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวออกมาและพูดว่า “ตายไปซะ !! ฉันจะไม่ปล่อยให้แกอัญเชิญมันออกมาได้สำเร็จ !!!”


หลังจากมังกรทองหนุ่มพูดจบ มันก็อ้าปากของมันออก และวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันสามชั้นก็ปรากฎขึ้นที่บริเวณปากของมัน


“ไม่ดีแล้ว ! มันจะใช้ลมหายใจมังกร !! ทุกรีบหลบเร็ว !!!” ซือเฟิงตกตะลึง และรีบออกคำสั่งทันที เมื่อเขาได้เห็นฉากตรงหน้า


ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะสามารถอัญเชิญปีศาจตัวนี้ออกมาได้สำเร็จไหม หรือว่าเขาจะสามารถควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดได้ไหม ตอนนี้เขาและทุกคนจะต้องเอาตัวรอดจากลมหายใจมังกรนี้ให้ได้ซะก่อน


พลังของลมหายใจมังกรขั้นสี่นั้นจะเทียบเท่ากับพลังการโจมตีที่ขั้นกลาง ของขั้นห้าแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นขั้นสามเลย แม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็จะตายลงทันที หากเผชิญกับมันโดยตรง !!! ทางเดียวที่พวกเขาทำได้ตอนนี้คือต้องหลบมันให้ได้


อย่างไรก็ตามมังกรทองหนุ่มนั้นรวบรวมมานาเพื่อใช้ลมหายใจมังกรได้เร็วเกินไป ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะทันได้ตอบสนองได้ลมหายใจมังกรก็ได้ก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์และถูกปล่อยให้พุ่งเข้ามาแล้ว ซึ่งมันรวดเร็วและมีระยะกลืนกินพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะหลบได้


เมื่อลมหายใจมังกรเคลื่อนผ่านพื้นที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ พวกเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันได้เปลี่ยนทุกอย่างในบริเวณที่มันเคลื่อนผ่านให้เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นขั้นสี่จะสามารถรับมือได้เลย


“มันจบแล้ว …” ไลอ้อนฮาร์ทมองไปที่ลมหายใจมังกรที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความสิ้นหวัง ก่อนที่เขาจะหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม


ขณะที่คนอื่นๆนั้นถ้าไม่ได้มีท่าทีเป็นแบบไลอ้อนฮาร์ท พวกเขาก็จะมีใบหน้าที่บิดเบี้ยว หรือไม่ก็ยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เดิมทีพวกเขานั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะต่อสู้กับมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ หลังจากที่ได้สัมผัสถึงพลังของสิ่งมีชีวิตที่ซือเฟิงกำลังทำการอัญเชิญมา แต่อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นลมหายใจมังกรที่โจมตีเข้ามานี้ พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าความคิดของพวกเขามันเป็นเรื่องตลก และทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ตอนนี้ก็คือรอความตายเท่านั้น


อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ลมหายใจมังกรกำลังจะกลืนกินซือเฟิงและคนอื่นๆ มันก็มีกระแสมานาที่เย็นยะเยือกไหลออกมาจากประตูหินที่ตอนนี้เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง


“กิ้งก่าตัวน้อยคิดจะหยุดการมาของฉันงั้นหรอ ?!”


ทันใดนั้นมือขนาดยักษ์ก็ปรากฎขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้าซือเฟิง และคนอื่นๆ พลางคว้าลมหายใจมังกรเอาไว้ ก่อนจะบดขยี้ทำให้มันหายไปในทันที


“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”


ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง


ลมหายใจมังกรที่ทำลายได้ทุกสิ่งที่ขวางหน้ามันกับถูกหยุดเอาไว้ได้ง่ายๆ นี่ปีศาจด้านหลังประตูนี้แข็งแกร่งแค่ไหนกัน ?!


อย่างไรก็ตามสำหรับซือเฟิง เมื่อได้เห็นฉากนี้นั้น ใบหน้าของเขาไม่ได้ดูตกตะลึง หรือดีขึ้นเลย ตรงกันข้ามมันกับมืดมนยิ่งกว่าเดิม


แม้ว่าประตูหินจะพึ่งเปิดได้เพียงครึ่งเดียว แต่ปีศาจด้านหลังประตูนั่นก็สามารถจะหยุดการโจมตีที่มีพลังเทียบเท่ากับขั้นกลาง ของขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย นี่มันเห็นได้ชัดเลยว่าปีศาจที่อยู่ด้านหลังประตูนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้า และมันไม่ใช่ราชันปีศาจทั่วไปแน่นอน


มันจะต้องเป็นหนึ่งในราชันปีศาจที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าของมันใน God domain


หากราชันปีศาจขั้นห้าแบบนี้ได้รับอนุญาติให้ลงมาในโลก God domain แบบสมบูรณ์จริงๆ แม้ว่ามันจะเป็นในสมัยโบราณก็ตาม แต่มันก็ยังจะนับว่าเป็นหายนะสำหรับทั้ง God domain แน่นอน


แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ซือเฟิงและคนอื่นๆจะทันได้หายจากอาการที่พวกเขาเป็นอยู่ทั้งหมด มังกรทองหนุ่มก็ปรากฎตัวขึ้นเหนือหัวของพวกเขาอีกครั้ง โดยมีอักษรรูนสีทองปกคลุมไปทั่วร่างกายของมัน


“นี่มันยังแข็งแกร่งได้มากกว่านี้อีกงั้นหรอ ?!” ซือเฟิงมองไปที่มังกรทองหนุ่มที่ลอยอยู่เหนือหัวของเขาด้วยท่าทีตกตะลึงอย่างถึงที่สุด


มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ตัวนี้มันแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดว่าเอาไว้มาก ตอนแรกพลังของมังกรทองหนุ่มก็สามารถจะเทียบเคียงได้กับสิ่งมีชีวิตขั้นห้าแล้ว แต่ตอนนี้มันกับเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสองเท่า ซึ่งในตอนนี้แม้ว่าเขาจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ทั้งหมดที่เขามี แต่เขาก็จะไม่สามารถรับมือกับการโจมตีต่อไปของมังกรทองหนุ่มได้แน่นอน


“ปีศาจที่น่ารังเกียจ !!! ฉันรู้ดีว่าคุณไม่สามารถจะใช้ความแข็งแกร่งของคุณได้อย่างเต็มที่หรอกเมื่อถูกอัญเชิญผ่านประตูนี้ นี่ไม่ต้องพูดถึงในตอนที่ประตูยังเปิดไม่ถึงครึ่งเลย !!! ฉันเชื่อว่าคุณจะรับการโจมตีของฉันได้อีกแค่ไม่กี่ครั้งหรอก และนี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่าตราบใดที่ผู้อัญเชิญของคุณตายลง การอัญเชิญก็จะถูกยกเลิก และคุณก็จะต้องอยู่ในที่ของคุณต่อไปอีกตลอดกาล !!!”


มังกรทองหนุ่มมองไปที่ประตูหินด้วยแววตาดูถูก และเย้ยหยัน ก่อนที่มันจะเปิดปากของมันขึ้น และเตรียมจะใช้ลมหายใจมังกรอีกครั้ง


และในครั้งนี้ลมหายใจมังกรที่มังกรทองหนุ่มจะใช้นั้มันก็ดูน่ากลัวกว่าครั้งก่อนมากๆ เพราะตอนนี้ซือเฟิงสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามานาโดยรอบบริเวณถูกดูดไปรวมรอบปากของมัน


ซึ่งในปัจจุบัน สถานการณ์นี้มันทำให้พวกผู้เล่นขั้นสามรู้สึกอัดอัดมากๆ และพวกเขาก็แทบไม่สามารถจะควบคุมมานาของตัวเองได้ สำหรับผู้เล่นขั้นสี่ พวกเขาดูดีกว่านิดหน่อย แต่ท้ายที่สุดแล้วพูดกันตามตรงในสถานการณ์แบบนี้ แม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็ยังไม่สามารถจะแสดงพลังการต่อสู้ของตัวเองออกมาได้ถึงครึ่งหนึ่งเลย ….


“นี่คือพลังที่แท้จริงของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่งั้นหรอ ?!” ไลอ้อนฮาร์ทรู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดในตอนนี้


มันเป็นเรื่องตลกชัดๆที่พวกเขาคิดจะมาท้าทายมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ ช่องว่างระหว่างชนชั้นสิ่งมีชีวิตของพวกเขามันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถทดแทนได้ด้วยผู้เล่นขั้นสี่ที่เลเวลนี้เพียงแค่เก้าคนเลย


ในเวลานี้ ซือเฟิงก็ได้เข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าทำไมเควสนี้ถึงอยู่ในระดับเทพนิยายที่อ่อนแอ และทำไม God domain ถึงยกย่องผู้ที่สามารถสังหารมังกรได้อย่างมาก


มันจะจัดเป็นปาฎิหาริย์มากจริงๆ ถ้าใครก็ตามที่อยู่ในขั้นเดียวกันกับมังกรสามารถรับมือกับมันได้ ไม่ต้องพูดถึงการฆ่ามันเลย ซึ่งหากพวกเขาที่อยู่ในขั้นสี่ตอนนี้ทำได้สำเร็จ ความสำเร็จของพวกเขามันก็เหมาะที่จะเรียกว่าตำนาน และเทพนิยายได้สบายๆเลย


Roar!


เมื่อสิ้นเสียงคำราม มังกรทองหนุ่มก็ได้ปล่อยลมหายใจมังกรพุ่งลงมาจากท้องฟ้า


“กิ้งก่าตัวน้อย ตอนนี้คุณทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้ว !!!”


ตอนนี้ราชันปีศาจด้านหลังของประตูหินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวมากๆที่มังกรทองหนุ่มพยายามจะขัดขวางไม่ให้มันออกมาจากประตู


ทันใดนั้นพลังแห่งความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุดก็โผล่ออกมาจากประตูหิน ก่อนที่มันจะทำให้เกิดมือขนาดยักษ์โผล่ออกมาจากพื้นดิน โดยมือขนาดยักษ์นี้มันใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ราวสี่ถึงห้าเท่า และมือนี้มันก็ดูเหมือนว่าจะสามารถจับตัวมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ราวกับเป็นของเล่นเลย


ตู้ม !


มือนี้ได้ทำการหยุดลมหายใจมังกรไว้อีกครั้ง ก่อนที่จะทำการคว้าตัวมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ไว้ทั้งตัว ซึ่งมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ก็ได้แต่พยายามคำรามและดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเท่านั้นเมื่อถูกจับด้วยมือนี้


หลังจากนั้นมือนี้ก็ได้ทำการจับมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนแรง


ตู้ม !


เพียงแค่ทุ่มครั้งเดียวนี้ มันก็ทำให้เกิดปล่องภูเขาไฟที่มีรัศมีหนึ่งพันหลา และลึกหนึ่งร้อยเมตร ผลกระทบจากเรื่องนี้มันได้ฆ่าทุกคนไปในทันที ยกเว้นก็แต่ซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่คนอื่นๆ และทีมฮีลเลอร์ที่ได้ดื่มโพชั่นเหล็กกล้าเข้าไป


แต่แม้ว่าซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่คนอื่นๆ และทีมฮีลเลอร์จะรอดมาได้ แต่ HP ของพวกเขาส่วนใหญ่ก็ลดลงไปเกือบสองในสาม ขณะที่มีบางคนที่ HP ถึงจุดวิกฤตใกล้ตายด้วยซ้ำ


และหลังจากฝุ่นที่คลุ้งไปทั่วจากการโจมตีนี้หายไป ร่างของมังกรทองหนุ่มที่ดูสะบักสะบอมก็ได้ถูกเปิดเผยให้เห็นออกมา ตัวมังกรทองหนุ่มนั้นพยายามที่จะลุกขึ้นยืน และในขณะที่มีเลือดท่วมไปทั่วร่างของมัน ตอนนี้ออร่าแห่งชีวิตของมันนั้นอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด และ HP ของมันก็ลดลงมาเหลือหกสิบสามเปอเซ็นต์แล้ว


มังกรทองหนุ่มขั้นสี่นั้นบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของราชันปีศาจขั้นห้าด้านหลังประตูหิน ….


“แข็งแกร่งมากๆ !!! นี่คือความแข็งแกร่งของราชันปีศาจที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้างั้นหรอ ?!!” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาอย่างตกตะลึง


เขาไม่นึกเลยว่าช่องว่างระหว่างพลังของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ กับราชันปีศาจที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นห้ามันจะแตกต่างกันมากขนาดนี้


ถ้าหากประตูหินนี้ไม่ได้ทำให้ราชันปีศาจตัวนี้อ่อนแอลง มังกรทองหนุ่มน่าจะตายภายในการโจมตีเดียวเลยด้วยซ้ำ !!!


อย่างไรก็ตาม หลังจากราชันปีศาจขั้นห้าตัวนี้ใช้พลังเมื่อครู่ไป การควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดของมันที่มันใช้พลังเข้ามาทดแทนและตัดการเชื่อมต่อของซือเฟิงกับไบเบิ้ลแห่งความมืดก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด จนซือเฟิงเริ่มสามารถกลับเข้ามาควบคุมไบเบิ้ลแห่งความมืดได้ ดังนั้นซือเฟิงจึงได้เลือกที่จะใช้โอกาสนี้ยุติการอัญเชิญกลางคันทันที แม้ว่ามันจะมีราคาที่เขาต้องจ่ายในการทำแบบนี้ แต่เขาก็ยอม


เพราะท้ายที่สุดถ้าราชันปีศาจขั้นห้าที่แข็งแกร่งแบบนี้หลุดออกมา ทุกอย่างที่เขาทำมาตั้งแต่ต้นมันจะได้จบสิ้นลงแน่นอน การตายด้วยน้ำมือของปีศาจแบบนี้มันจะไม่จบลงด้วยการสูญเสียเลเวลแค่หนึ่งหรือสองเลเวล …. และอย่างดีที่สุดเขาก็อาจจะต้องกลายเป็นหุ่นชิดของราชันปีศาจขั้นห้าตัวนี้ตลอดไป ซึ่งมันจะทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลบไอดีทิ้งและเริ่มต้นใหม่ …. ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะปล่อยให้ราชันปีศาจขั้นห้าแบบนี้หลุดออกมาได้แน่นอน


“ไอ้พวกผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์ !!! ครั้งหน้าฉันจะทำให้พวกแกต้องจ่ายอย่างหนักเลยสำหรับเรื่องในวันนี้ !!!”


ราชันปีศาจส่งเสียงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ในขณะที่มันทำได้แค่เฝ้ามองประตูที่ค่อยๆปิดลง และไม่ว่ามันจะพยายามโจมตีหรือกระแทกประตูอย่างบ้าคลั่งแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถจะฝ่าประตูออกมาได้ โชคดีที่อักษรรูนและพลังต้องห้ามที่อยู่บนประตูนั้นแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหยุดมันเอาไว้ไม่ให้ออกมาได้


ในท้ายที่สุดหลังจากผ่านไปราวยี่สิบวินาที ประตูหินนี้ก็ปิดสนิทและหายไปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้มันก็เหลือเพียงแต่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ที่บาดเจ็บสาหัส ซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่แปดคน และทีมฮีลเลอร์เท่านั้นที่ยังอยู่


“คุณซือเฟิง เราจะเอายังไงกันดี ?” ไลอ้อนฮาร์ทมองไปที่ประตูหินที่หายไปด้วยความรู้สึกลังเลเล็กน้อย


ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าเขาควรจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อโจมตีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ หรือหนี … เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่ามังกรทองหนุ่มขั้นสี่จะบาดเจ็บสาหัส และอยู่ในสถานะอ่อนแอ แต่มันก็ยังไม่แน่ว่าพวกเขาจะสามารถรับมือกับมันได้


“ยังจำเป็นต้องถามอีกงั้นหรอ ?” ซือเฟิงพูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ตอนนี้มันเป็นโอกาสเดียวที่ฉันคิดว่าเรามีสิทจะจัดการมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ หากเราพลาดโอกาสนี้ไป เราคงจะไม่มีโอกาสอื่นแล้ว ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ทอยากจะพลาดโอกาสนี้งั้นหรอ ?”


เมื่อซือเฟิงพูดจบ ไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขา


ตอนนี้มันเป็นโอกาสดีที่สุดแล้วสำหรับพวกเขา ไม่งั้นพวกเขาคงต้องรอจนกว่าตัวเองจะไปถึงขั้นห้าก่อนจึงจะสามารถมาล่ามังกรแบบนี้ได้อีกครั้ง


“ไม่แน่นอน …” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวพลางมองไปยังมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ตรงหน้าของเขาด้วยความมุ่งมั่น “งั้นเราก็รีบระดมโจมตีมันกันเลย อย่าปล่อยให้มันได้ฟื้นฟูตัวเองได้ !!!”


เมื่อไลอ้อนฮาร์ทกล่าวจบ เขาก็ยกโล่ของเขาขึ้น และวิ่งนำหน้าคนอื่นๆพุ่งเข้าใส่มังกร ขณะที่คนอื่นๆก็ตามเขามาอย่างกระชั้นชิด


ตอนที่ 2791 การตายของมังกรทอง


“พวกมนุษย์ !!! แค่เพราะฉันบาดเจ็บสาหัส พวกแกเลยคิดว่าจะสามารถจัดการกับฉันได้ง่ายๆงั้นหรอ ?!!!” มังกรทองหนุ่มตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ขณะที่มันได้เริ่มกระพือปีกใส่ไลอ้อนฮาร์ท ตอนนี้ทุกคนสามารถจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันเต็มไปด้วยความโกรธมากๆ


หลังจากนั้นโดยมีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่เป็นศูนย์กลาง มันก็มีสายลมที่รุนแรงจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ไลอ้อนฮาร์ทและคนอื่นๆ


ปัง ! ตู้ม ! ตู้ม !


เสียงของการปะทะกันดังก้องไปทั่วถ้ำ ยกเว้นไลอ้อนฮาร์ท คนอื่นๆนั้นถูกสายลมที่รุนแรงพัดจนปลิวกระเด็นไปนับสิบหลา และในขณะที่พวกเขาพยายามจะยืนขึ้นนั้น พวกเขาก็รู้สึกว่าร่างของพวกเขาสั่นไปทั้งตัว โดยพวกเขาทุกคนสูญเสีย HP กันไปโดยเฉลี่ยราวสองล้าน


สำหรับไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆที่มี HP ราวหกถึงเจ็ดล้าน HP นี่มันเท่ากับว่า HP หนึ่งในสามของพวกเขาได้หายไปทันทีเลย


หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส มันก็ยังคงแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!


ทุกคนนั้นอดไม่ได้ที่จะมองไปยังแถบ HP ของตัวเองด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว


มันเห็นได้ชัดว่ามังกรทองหนุ่มขั้นสี่ในเวลานี้นั้นอ่อนแอลงไปจากเดิมอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะแค่กระพือปีกปล่อยสายลมที่รุนแรงเข้าใส่พวกเขา มันก็ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาได้อย่างมาก


แม้แต่ซือเฟิงเองก็ยังตกตะลึงและหวาดกลัวกับเรื่องนี้


หากการโจมตีเมื่อครู่มาจากมังกรศักสิทธิ์ มันน่าจะลด HP ของพวกเขาลงไปราวครึ่งหนึ่งเลย


“ฮีลเลอร์ทุกคน รีบทำการฮีลเดี๋ยวนี้ !!! แล้วทำให้ไวที่สุดด้วย !!!” ซือเฟิงซึ่งยังคงร่างกายสั่นและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วคราวตะโกนออกคำสั่ง ซึ่งเมื่อได้ยินคำสั่งนั้นยู่หลัว หยวนเว่ย และฮีลเลอร์คนอื่นๆก็รีบจัดการฮีลฟื้นฟู HP ให้ ผู้เล่นสายต่อสู้ทั้งหมดกลับมาจนเกือบเต็มทันที


แน่นอนเลยว่าแม้มังกรขั้นสี่แบบนี้จะบาดเจ็บสาหัส แต่มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่มีชีวิตที่มนุษย์ที่อยู่ในขั้นสี่จะสามารถจัดการได้ง่ายๆ ไม่งั้นการสังหารมังกรคงจะไม่กลายเป็นตำนานที่สามารถจะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ได้


หลังจากปฎิบัติตามคำสั่งของซือเฟิงเรียบร้อย หยวนเว่นในฐานะออราเคิลขั้นสี่ ก็ได้โบกคทาของเธอพลางใช้คำสาปต้องห้ามขั้นสาม สองสกิลทันที


คำสาปต้องห้ามขั้นสาม บาเรียป้องกันสัมบูรณ์ !!!


คำสาปต้องห้ามขั้นสาม พรเพิ่มความแข็งแกร่งแห่งเหล่าทวยเทพ !!!


หลังจากนั้นไม่นานบาเรียกึ่งโปร่งใสก็ก่อตัวขึ้นบนร่างของไลอ้อนฮาร์ท และโซริทารี่ไนน์ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงรูปแบบเทพที่ก่อตัวขึ้นบนร่างของทุกคน ซึ่งมันช่วยเพิ่มค่าความต้านทานของทุกคนเป็นสองเท่า และมันยังช่วยเพิ่มพลังป้องกันขึ้นหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ กับทำให้ร่างกายทางกายภาพดีขึ้นยี่สิบเปอเซ็นต์เป็นเวลายี่สิบวินาที


คำสาปต้องห้ามขั้นสามแบบกลุ่มงั้นหรอ ? ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังหยวนเหว่ยด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ


คำสาปต้องห้ามที่เป็นการบัฟแบบกลุ่มนี้มันหายากมากๆใน God domain และมันมีมูลค่าเทียบเท่ากับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเลย


ซึ่งทุกคนที่มีคำสาปต้องห้ามแบบนี้ล้วนได้รับความเคารพอย่างมากจากมหาอำนาจต่างๆ และต่อให้ไม่อยู่ในกิล เมื่อพวกเขาไปเป็นแขกของมหาอำนาจต่างๆ พวกเขาก็จะถูกปฎิบัติอย่างดีเช่นกัน


เนื่องจากคำสาปต้องห้ามแบบกลุ่มพวกนี้นั้นมันมีประโยชน์มากๆ เพราะมันสามารถจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้เล่นแบบกลุ่มได้ และยกระดับพลังการต่อสู้ของผู้เล่นแบบกลุ่มขึ้นไปสู่ระดับใหม่ทั้งหมดได้ นี่เป็นสาเหตุที่มหาอำนาจต่างๆล้วนแย่งชิงตัวผู้ที่มีคำสาปต้องห้ามแบบนี้ และแม้ว่าจะไม่สามารถรับสมัครพวกเขาเข้ากิลตัวเองได้ แต่มันก็ยังจะคงมีการว่าจ้างพวกเขาให้เข้าร่วมปฎิบัติการสำคัญอยู่เรื่อยๆ


เหตุผลที่ไวโอเล็ตคลาวด์ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสิบเครอลิคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ God domain ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันก็เป็นเพราะเธอมีคำสาปต้องห้ามแบบกลุ่มอย่างนี้เป็นจำนวนมากนี่แหละ ….


แต่กระนั้นตอนนี้หยวนเว่ยกับมีคำสาปต้องห้ามแบบนี้สองสกิลแล้ว นี่มันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะน่าประหลาดใจจริงๆ


หลังจากที่ได้รับบัฟมาจากหยวนเว่ยแล้ว ทุกคนในปัจจุบันก็มีสภาพที่ดูดีขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด


ดี ! มาเริ่มกันเลย !!


ไลอ้อนฮาร์ทมองบัฟที่เขาได้รับมาด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะเริ่มพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง


คราวนี้มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ไม่ได้กระพือปีกโจมตีอีกต่อไป แต่มันได้ตวัดหางโจมตีเข้าใส่ไลอ้อนฮาร์ทที่ยกโล่ขึ้นมาป้องกัน ….


สกิลมรดกขั้นสี่ เกราะเลือด !!


ทันใดนั้นบาเรียสีแดงเลือดจางๆก็ปรากฎขึ้นรอบตัวของไลอ้อนฮาร์ทอย่างรวดเร็ว โดยมันสามารถจะดูดซับความเสียหายได้มากถึงห้าล้าน ยิ่งไปกว่านั้นบาเรียยังจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ทุกๆสี่สิบวินาที แม้ว่ามันจะใช้ไม่ได้ผลเต็มที่กับการโจมตีขั้นที่มีพลังสูงกว่าขั้นสี่ แต่มันก็ยังคงจัดว่าใช้ได้ดี


ตู้ม !


บาเรียสีแดงเลือดจางๆนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆทันทีที่โดนการโจมตีจากหางของมังกรทองหนุ่ม แต่อย่างไรก็ตามตัวไลอ้อนฮาร์ทนั้นก็ถูกบังคับให้ต้องถอยไปเพียงสองก้าวเท่านั้น โดยที่เขาก็สูญเสีย HP ไปมากกว่าหกล้านเพียงเล็กน้อย ซึ่งสำหรับเขาที่มีเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ด และมี HP สูงถึง 17.2 ล้านนั้น ความเสียหายราวนี้จัดว่าสามารถยอมรับได้

เมื่อได้เห็นไลอ้อนฮาร์ทสามารถต้านทานการโจมตีของมังกรทองหนุ่มเอาไว้ได้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และเริ่มพุ่งเข้าโจมตีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ต่อ


บัดดี้บลัดใช้สกิลขั้นสี่ Storm Flurry!


ไลฟ์เลสธอร์นใช้สกิลขั้นสี่ Thunder Snake!


สกิลและเวทย์ขั้นสี่สกิลแล้วสกิลเล่าถูกใช้โจมตีเข้าใส่มังกรทองหนุ่ม และความเสียหายมากกว่าห้าสิบล้าน หรือไม่ก็ความเสียหายที่ติดคริติคอลมากกว่าหนึ่งร้อยล้านก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของมังกรทองหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า


ซึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมังกรทองหนุ่มที่ยังเหลือ HP มากกว่าหกพันล้าน ความเสียหายแค่นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลอะไรต่อมันมากนัก


นี่ความเสียหายไม่เพียงพองั้นหรอ ?


ซือเฟิงขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นค่าความเสียหายทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้


แม้ว่าพวกเขาจะระดมโจมตีกันอย่างบ้าคลั่งแล้ว แต่ความเสียหายที่พวกเขาทำได้มันก็มากกว่าสกิลฟื้นฟูอัตโนมัติของมังกรทองหนุ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนี่มันก็พูดถึงแค่ในตอนที่มังกรทองหนุ่มยังคงบาดเจ็บสาหัส ไม่นับรวมตอนที่มันฟื้นฟูตัวเองและเริ่มหายแล้ว


เมื่อได้เห็นฉากนี้ เหล่าฮีลเลอร์ขั้นสามนั้นก็เต็มไปด้วยความกังวลมากเช่นกัน


หากการต่อสู้ถูกลากยาวออกไป มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ก็จะฟื้นฟูตัวเองจากอาการบาดเจ็บสาหัสได้มากขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดแล้วมันก็จะเป็นพวกเขาเองที่จะถูกสังหารหมู่


แถมเมื่อพวกเขาเหลือกันอยู่แค่นี้ พวกเขาก็ไม่สามารถจะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ขึ้นไปอีกด้วย


มีฮีลเลอร์ขั้นสามคนไหนที่มีสกิลฟื้นคืนชีพโดยตรงบ้าง ? ซือเฟิงหันไปถามทีมฮีลเลอร์ที่อยู่ด้านหลังของเขา

ใน God domain ยุคโบราณ ผู้เล่นจะไม่สามารถใช้สกิลฟื้นคืนชีพทั่วไปเพื่อฟื้นคืนชีพขึ้นมาโดยตรงในที่ๆตายได้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีสกิลฟื้นคืนชีพพิเศษที่สามารถทำแบบนั้นได้ เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายในการตายจะสูงกว่า


“ฉันมี !!” ฮีลเลอร์แปดคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน


“ดี !! พวกคุณแปดคนให้เลือกพวกที่แข็งแกร่งที่สุดแปดคนและฟื้นคืนชีพพวกเขาขึ้นมา !!!” เมื่อซือเฟิงได้ยินดังนี้ เขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงมีความหวังอยู่ แม้ว่ามันจะริบหรี่ก็ตาม


หลังจากนั้นฮีลเลอร์ทั้งแปดคนก็ได้รีบไปปฎิบัติตามคำสั่งของซือเฟิง และจัดการฟื้นคืนชีพสมาชิกแปดคนที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ที่ตายไปทันที


เมื่อทั้งแปดฟื้นคืนชีพขึ้นมา ซือเฟิงก็ได้นำหอกสายฟ้าที่เขาเก็บสะสมไว้ในกระเป๋ามากกว่าหกร้อยเล่มออกมา และยื่นให้พวกเขา ก่อนที่จะให้พวกเขาดื่มโพชั่นเบอเซิกร์ระดับปรมาจารย์เข้าไป และส่งสายตาเป็นเชิงให้พวกเขาใช้หอกนี้โจมตีเข้าใส่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่


เข้าใจแล้ว !! ทั้งแปดคนพยักหน้าเข้าใจเจตนาของซือเฟิงอย่างรวดเร็ว


พวกผู้เล่นขั้นสามนั้นแม้ว่าจะเข้าไปใกล้มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ได้ แต่พวกเขาก็จะไม่สามารถโจมตีสร้างความเสียหายได้มากนัก แถมหากโดนมังกรทองหนุ่มขั้นขั้นสี่โจมตีโต้ตอบ พวกเขาก็จะตายลงทันที ดังนั้นซือเฟิงจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้พวกเขาทั้งหมดสามารถโจมตีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่จากระยะไกลที่ปลอดภัยในระดับหนึ่งได้ ซึ่งนั่นก็คือหอกสายฟ้านั่นเอง


แถมหลังจากผู้เล่นขั้นสามทั้งแปดคนนี้ดื่มโพชั่นเบอเซิกร์ระดับปรมาจารย์เข้าไป ค่าสถานะทั้งหมดของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นเจ็ดสิบเปอเซ็นต์เป็นเวลาสามนาที ซึ่งนี่มันจะช่วยเพิ่มพลังของพวกเขาในการใช้หอกสายฟ้าโจมตีขึ้นอย่างมาก


เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจสิ่งที่ควรทำทั้งหมดแล้ว ซือเฟิงก็ตะโกนออกคำสั่งผ่านแชททีมว่า “มาเริ่มรอบสองกันเลย !!! ให้เน้นโจมตีไปที่บริเวณที่เป็นแผลบาดเจ็บสาหัสของมังกรตั้งแต่เดิม !!!”


และเมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิงทั้งแปดคนก็ได้เริ่มจัดการเขวี้ยงหอกสายฟ้าเข้าโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มีทันที พร้อมกันนั้นพวกผู้เล่นขั้นสี่ที่เหลือก็เริ่มโจมตีไปตามเป้าหมายที่ซือเฟิงบอก


แน่นอนว่ามันได้ผลการโจมตีของผู้เล่นทั้งแปดคนนั้นสร้างความเสียหายได้ราวห้าสิบถึงหกสิบล้านต่อครั้ง และสามารถสร้างความเสียหายได้มากถึงหนึ่งร้อยสามสิบล้านต่อครั้งหากติดคริติคอล ซึ่งการความเสียหายที่พวกเขาทำได้นั้นจัดว่าเทียบเท่ากับผู้เล่นขั้นสี่เลย เพียงแต่ว่าอัตราการโจมตีของพวกเขาจะช้ากว่าเล็กน้อย


“ดี !! ระลอกต่อไปโจมตีได้ !!!”


ซือเฟิงที่เห็นมังกรทองหนุ่มกรีดร้องอย่างเจ็บปวดออกมาออกคำสั่งอีกครั้ง


หลังจากนั้นทั้งแปดคนก็ได้ทำการใช้หอกสายฟ้าโจมตีเข้าใส่มังกรทองหนุ่มตามคำสั่งของซือเฟิงครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งในเวลาอันสั้นพวกเขาก็สร้างความเสียหายให้กับมังกรทองหนุ่มได้มากกว่าหกร้อยล้าน


สมเป็นผู้บัญชาการจริงๆ !!! ตอนนี้มันก็มีความหวังเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว !!! โซริทารี่ไนน์มองไปที่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่ที่ HP ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วยความตื่นเต้น


ขณะเดียวกันคริมสันบีโลว์ที่โจมตีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่อยู่อย่างบ้าคลั่งก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองซือเฟิงที่ยืนอยู่ในระยะไกลออกไปด้วยความประหลาดใจอย่างถึงที่สุด


นี่เขามีไพ่กี่ใบกัน ?


อยู่ๆซือเฟิงก็ทำให้ผู้เล่นขั้นสาม แปดคนสามารถโจมตีและสร้างความเสียหายได้เทียบเท่ากับผู้เล่นขั้นสี่ !!! ซึ่งครั้งนี้นั้นมันทำให้พวกเขามีความหวังขึ้นมามากขึ้นอย่างมากในการจะฆ่ามังกรตรงหน้าให้ได้อย่างรวดเร็ว


หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป HP ของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ก็ยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ


60% ….40% …. 30% ….


ทุกคนระวัง !! มันจะเข้าสู่สถานะเบอเซิกแล้ว !!! ซือเฟิงตะโกนบอก เมื่อเห็นร่างของมังกรทองหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีแดง

เข้ามาเลย !!! ในเมื่อคุณแบล๊คเฟรมได้แสดงให้เราเห็นถึงความแข็งแกร่งที่มีอย่างมากมายในทุกๆด้านของเขา เราก็ไม่สามารถจะยอมแพ้เขาได้เช่นกัน !!! ไลอ้อน

ฮาร์ทมองไปที่หยวนเหว่ยที่อยู่ไกลออกไปและให้สัญญาณบางอย่างทันที ….


ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง !! หยวนเว่ยพึมพำและพยักหน้าตอบอย่างเข้าใจด้วยรอยยิ้ม


หลังจากนั้นหยวนเหว่ยก็ได้นำคริสตัลปิดผนึกเวทย์ปีศาจขั้นห้าออกมา และเริ่มร่ายเวทย์เพื่อเปิดใช้งานมันทันที


ตอนนี้มันทำให้ทั่วทั้งถ้ำเงียบสงัด และมันก็ราวกับว่าเวลาได้หยุดลง โดยมันมีเพียงแต่คริสตัลปิดผนึกเวทย์ปีศาจขั้นห้าในมือของหยวนเหว่ยเท่านั้นที่ค่อยๆแตกออกอย่างช้าๆ


และก่อนที่มังกรทองหนุ่มขั้นสี่จะทันได้ตวัดกรงเล็บของมันโจมตีเข้าใส่ไลอ้อน

ฮาร์ทอีกอีกครั้ง หอกเวทย์มนต์ที่มีความยาวนับร้อยเมตรก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของมันแล้ว


สกิลเวทย์ขั้นห้า หอกเวทย์มนต์ทำลายล้าง !!!


ตู้ม !!!


เมื่อหอกเวทย์มนต์พุ่งลงมานั้น มันก็ทำให้พื้นที่ที่มังกรทองหนุ่มยืนอยู่นั้นจมลึกลงไปหลายสิบเมตทันที และผลจากการโจมตีนี้มันก็ทำให้เกิดปล่องภูเขาไฟขนาดยักษ์อีกแห่ง


หลังจากนั้นความเสียหายหลักพันล้านก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของมังกรทองหนุ่ม และผลของการโจมตีนี้มันก็ทำให้มังกรทองหนุ่มติดสตั๊น และไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนตัวได้ชั่วคราว


ฉากนี้มันทำให้ซือเฟิงตกตะลึงมากๆ


เขาไม่ได้คิดเลยว่าคริสตัลปิดผนึกเวทย์ปีศาจขั้นห้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ และพลังในการโจมตีของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีของราชันปีศาจก่อนหน้านี้มากนักเลย


ดี !!! ทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที่จริงๆ !!!


เมื่อเห็นดังนี้ซือเฟิงนั้นได้เลือกจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์สองสกิลของเขาโดยไม่สนสถานะอ่อนแอใดๆ และพุ่งเข้าโจมตีมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ร่วมกับคนอื่นๆทันที


ซึ่งนี่มันก็ทำให้ HP ของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ที่ติดสตั๊นอยู่นั้นค่อยๆลดลงเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง


10%… 6%… 3%…


เมื่อเห็นว่า HP ของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ลดลงจนถึงระดับที่เขาจะสามารถใช้สกิลเดียวจัดการได้แล้ว ซือเฟิงก็ได้เปิดใช้งานสกิล Divine providence ทันที และใช้ไพ่ใบสุดของเขา


สกิลขั้นสี่ ไลท์นิ่งเอจ !!!


ทันใดนั้นสายฟ้าก็ผ่าลงมาที่ร่างของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่อย่างบ้าคลั่ง


-135,474,514!


-129,435,471!


-264,854,214!


ความเสียหายมากกว่าหนึ่งร้อยล้านปรากฎขึ้นเหนือหัวของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ครั้งแล้วครั้งเล่า และในท้ายที่สุด มันก็ได้กลืนกิน HP ส่วนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของมังกรทองหนุ่มขั้นสี่ไปทั้งหมด ….

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)