Reincarnation Of The Strongest Sword God 2511-2514

 ตอนที่ 2511

 

การปรากฎตัวที่น่าตกใจในเขตที่อยู่อาศัย


“หัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกน่าทึ่งขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?”


เกรซฟูลโมนาร์ชและเพอเพิ้ลรากษสอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยสีหน้ากังขา เมื่อได้ยินคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ด พวกเขารู้สึกราวกับว่าเครอลลิคกำลังล้อเล่นกับพวกเขา


ทั้งคู่นั้นคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของเขตหนึ่งของสภาสิบแปดปีกดี พวกเขารู้ด้วยว่าสภาสิบแปดปีกนั้นเป็นกิลขนาดใหญ่ในโลกภายนอก โดยธรรมชาติแล้วหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกก็ควรมีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่งั้นผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอย่างบลูฟอร์สคงจะไม่ยอมเข้าร่วมกับกิล


อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะนึกยังไง พวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนๆหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนกระแสของการต่อสู้ป้องกันที่กำลังจะมาถึงได้


เพราะท้ายที่สุดการต่อสู้ป้องกันในครั้งนี้นั้นนับเป็นสงครามขนาดใหญ่ และมันไม่ใช่แค่การต่อสู้กันง่ายๆในแผนที่ล่า คู่ต่อสู้ที่พวกเขาจะต้องเผชิญนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ผู้เล่นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่นั่นยังรวมถึงอาวุธสงครามและเครื่องมือที่ทรงพลังด้วย


เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธสงคราม และเครื่องมืออันทรงพลัง ผู้เล่นขั้นสามก็จะมีสภาพไม่ต่างจากผู้เล่นขั้นสองเลย เว้นแต่ว่าผู้เล่นขั้นสามจะมีสกิลอมตะเท่านั้น ไม่งั้นพวกเขาแทบจะตายทันทีแน่นอนเมื่อถูกโจมตี


“อืมมม เขาน่าทึ่งมากๆ มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะเรียกเขาว่าสัตว์ประหลาดที่แท้จริง” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางพยักหน้า เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่ไม่เชื่อของเกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษส เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดต่อว่า “ด้วยความสามารถในปัจจุบันของฉัน ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะทนต่อการโจมตีของเขาได้เกินสามการเคลื่อนไหว”


“แม้แต่คุณก็ทนต่อการโจมตีของเขาได้ไม่เกินสามการเคลื่อนไหวงั้นหรอ ?”


ทั้งเกรซฟูลโมนาร์ชและเพอเพิ้ลรากษสนั้นต่างก็ประหลาดใจกับการเปิดเผยครั้งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้ถึงพลังที่แท้จริงของอิลูซะรี่เวิร์ด แต่สัญชาตญาณของพวกเขาก็บอกว่าพวกเขานั้นมีทางเลือกเดียวหากต้องต่อสู้กับเครอลิคผู้นี้

หนี !!


นอกเหนือจากการหนีแล้ว มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะทำให้พวกเขารอดชีวิตได้ ในความเป็นจริงผลลัพธ์ก็จะเหมือนกัน แม้ว่าทั้งคู่จะเข้ารุมเธอ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะยังคงเหมือนเดิมแน่นอน


อย่างไรก็ตามสัตว์ประหลาดอย่างอิลูซะรี่เวิร์ดกับบอกว่าเธอจะไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อต้านการโจมตีของหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกได้เกินสามครั้ง นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง ?


“ถ้าวันหนึ่งพวกคุณได้พบกับเขา พวกคุณก็จะรู้เองว่าฉันพูดความจริง …” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เธอนั้นไม่ได้คิดจะอธิบายอะไรอย่างละเอียดอีกต่อไปแล้ว


ในการตอบสนองเพอเพิ้ลรากษส และเกรซฟูลโมนาร์ชนั้นยังคงรู้สึกสงสัยในคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ด


อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่คิดจะติดตามเรื่องนี้ต่อ และพวกเขาก็ได้เปลี่ยนรายละเอียดการสนทนาไปเป็นเรื่องการต่อสู้ป้องกันที่กำลังจะมาถึง


ในช่วงเวลาที่เกรซฟูลโมนาร์ชและคนอื่นๆกำลังพูดคุยกัน ซือเฟิงก็ได้ออกไปจากเขตแสงสุดขีดพร้อมกับไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆ โดยไม่ได้สนใจคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ดที่กล่าวถึงเขา


“หัวหน้ากิล พวกเราจะออกไปอย่างรวดเร็วเลยงั้นหรอ ? ฉันเห็นเจ็มสโตนค่าสถานะมากมายถูกขายในราคาถูกที่นี่ นอกจากนี้มันยังมีหนังสือสกิล และเวทย์ขั้นสามอีกจำนวนมาก มันจะเป็นการเสียโอกาสมากนะ หากเราเลือกจะออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว” อควาโรสกล่าวเมื่อเธอเห็นว่าซือเฟิงไม่ได้ตั้งใจจะหยุดพักในเขตแสงสุดขีด


ตอนแรกเธอก็ไม่คิดอะไรในตอนที่เข้ามาในเขตแสงสุดขีด อย่างไรก็ตามหลังจากเข้ามา เธอก็พบว่าที่นี่มันเป็นขุมสมบัติชัดๆ


ไม่เพียงแต่เจ็มสโตนค่าสถานะที่นี่จะมีราคาถูกกว่าที่ทวีปด้านตะวันออกห้าสิบเปอเซ็นต์ แต่มันยังมีหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสาม ซึ่งหายากอย่างไม่น่าเชื่อในทวีปด้านตะวันออกวางขาย แม้ว่าหนังสือสกิลและเวทย์ที่วางที่นี่จะไม่ใช่แบบ AOE แต่หากนำมันกลับไปประมูลขายในทวีปด้านตะวันออกของ God domain มันก็จะยังคงมีผู้เล่นจำนวนมากแย่งกันซื้ออยู่ดี


เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะพูดยังไงพลังของสกิลและเวทย์ขั้นสามนั้นก็แข็งแกร่งกว่าสกิลและเวทย์ขั้นสองอย่างมาก พวกมันจะช่วยผู้เล่นได้อย่างมาก เมื่อต้องรับมือกับผู้เล่นด้วยกันและมอนสเตอร์


“ใช่แล้ว ของเหล่านั้นอาจมีค่า แต่เรามีสิ่งสำคัญกว่าที่ต้องไปทำ” ซือเฟิงกล่าว


ดาร์คเดนนั้นเป็นโลกอื่นที่ค่อนข้างจะพิเศษ ในตอนแรกเขาคิดว่ามันน่าจะยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่ามหาอำนาจต่างๆในทวีปหลักจะยื่นมือเข้าสู่โลกนี้ได้


เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าไม่เพียงแต่มหาอำนาจในทวีปหลักของ God domain จะค้นพบดาร์คเดนแล้ว แต่พวกเขายังมีวิธีการเดินทางไปมาระหว่างทวีปหลักและดาร์คเดนด้วย


คนอื่นอาจไม่ตระหนักถึงผลกระทบของเรื่องนี้ แต่ซือเฟิงซึ่งมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ God domain นั้นรู้ดีว่ามันน่ากลัวขนาดไหน


อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะกล่าวว่ามหาอำนาจต่างๆจะเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งแน่นอน เมื่อได้รู้ข้อมูลของดาร์คเดน


หนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสามหรือสูงกว่าขึ้นไปนั้นหายากอย่างมากในโลกภายนอก ผู้เล่นนั้นแทบจะไม่ได้รับมันมาด้วยซ้ำต่อให้เคลียร์ดันเจี้ยนขนาดใหญ่พิเศษ เลเวล

มากกว่าหนึ่งร้อยได้ โลกอื่นๆส่วนใหญ่นี้เองก็มีปัญหาเดียวกัน อย่างไรก็ตามดาร์คเดนนั้นเป็นข้อยกเว้น นับประสาอะไรกับสกิลและเวทย์ขั้นสาม สกิลต้องห้ามและคำสาปขั้นสามก็หาได้ง่ายมากที่นี่


ในขณะเดียวกันนอกเหนือจากการปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาแล้ว วิธีต่อไปที่เร็วที่สุดในการปรับปรุงพลังของตัวเองก็คือเรียนรู้สกิลและเวทย์ขั้นสามให้มากขึ้น


ปัจจุบันการแข่งขันใน God domain นั้นทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก และมหาอำนาจต่างๆนั้นก็ล้วนค้นหาวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองอย่างเมามัน ซึ่งเมื่อมีโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยยกระดับพลังการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของตัวเองได้ มหาอำนาจต่างๆก็จะยอมลงทุนทุกอย่างแบบบ้าคลั่งเลยทีเดียว

ในขณะที่ยังมีเส้นทางไม่มากนักที่เชื่อมต่อมายังดาร์คเดน ดังนั้นซือเฟิงจึงจำเป็นจะต้องครอบครองข้อได้เปรียบในดาร์คเดนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเร่งการพัฒนาของเขตหนึ่งไปให้ถึงขีดสุด เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เขาจัดหาหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสามสำหรับผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีกได้อย่างต่อเนื่อง


ในตอนนี้แม้ว่าการพัฒนาของเขตหนึ่งจะดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่มันก็แทบจะไม่ได้ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของเขตที่แข็งแกร่งที่สุดในดาร์คเดนเลย นี่ไม่ต้องพูดถึงว่ามันอ่อนแอกว่าเขตแสงสุดขีดค่อนข้างมากเลยทีเดียว


โดยปกติแล้วการเร่งการพัฒนาของเขตนั้นมันเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับความพยายามและการมีส่วนร่วมของเขตที่อยู่อาศัย และเพื่อเร่งการพัฒนาเขตที่อยู่อาศัยนั้น มันก็จำเป็นที่จะต้องยกระดับคุณภาพของผู้เล่นที่อาศัยในเขตที่อยู่อาศัย


สำหรับมหาอำนาจและผู้เล่นคนอื่นๆนี่อาจเป็นความท้าทาย อย่างไรก็ตามสำหรับซือเฟิงในปัจจุบันนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะเขาเป็นปรมาจารย์นักเวทย์ขั้นกลางอยู่แล้ว ซึ่งเขามีความสามารถในการจะสร้างและเสริมความแข็งแกร่งให้กับวงเวทย์ป้องกันของเมืองหรือไม่ก็เขตที่อยู่อาศัย


ตราบใดที่เขาเสริมความแข็งแกร่งให้กับวงเวทย์ของเขตหนึ่ง และปรับปรุงความสามารถในการป้องกันของมันของเขตได้ มันก็จะกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้เล่นมากขึ้น จากนั้นเขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะขาดผู้เล่นที่มีความสามารถในการพัฒนาเขตหนึ่ง


ในขณะที่ซือเฟิงกำลังพยายามหาสถานที่ที่เงียบสงบเพื่อใช้แหวนเจ็ดลูมินาลี่เทเลพอร์ตไปยังเขตหนึ่ง มันก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งมาจากด้านนอกของเขตแสงสุดขีด ซึ่งมันดังมากจนทุกคนในเขตแสงสุดขีดนั้นได้ยินอย่างชัดเจนเลย


“เกิดอะไรขึ้น ? ไม่ใช่ว่ามันเหืออีกหลายชั่วโมงงั้นหรอก่อนที่การต่อสู้ป้องกันจะเริ่มขึ้น ?”


“ดูนั่นสิ !! ดูเหมือนว่ามีกลุ่มคนกำลังต่อสู้อยู่ตรงนั้น !!!”


“นั่นคือ Elementalist ของเขตหนึ่งบลูฟอร์สไม่ใช่หรอ ? แล้วคนรอบข้างของเขาเป็นใครกัน ? พวกนั้นน่าทึ่งมากๆ !!!”

“พวกเขากระทั่งสามารถทำให้หนึ่งในสาม Elementalists ที่แข็งแกร่งที่สุดของดาร์คเดนตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชแบบนี้ได้ !!!”


ผู้เล่นที่ยืนเฝ้ามองอยู่บนกำแพงของเขตแสงสุดขีดอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ขณะที่พวกเขามองไปยังที่ราบใกล้ๆ


ซึ่งนี่เป็นเพราะบลูฟอร์สและผู้เชี่ยวชาญขั้นสามคนอื่นๆอีกประมาณสองโหลนั้นกำลังถูกล้อมรอบไปด้วยกองกำลังของผู้เล่นหลายร้อยคน ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่ฝ่ายบลูฟอร์สจะเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง แต่จากรูปการณ์แล้วมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ฝ่ายของบลูฟอร์สจะถูกทำลาย


นั่นคือผู้เล่นขั้นสามที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!


ในระยะนี้ของเกมนั้นผู้เล่นขั้นสามจะสามารถฆ่าผู้เล่นขั้นสองได้อย่างง่ายดายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เล่นขั้นสามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแบบบลูฟอร์ส เขาสามารถจะฆ่ากลุ่มผู้เล่นขั้นสองทั้งกลุ่มได้ทันที หากเขาต้องการ อย่างไรก็ตามตอนนี้บลูฟอร์สและทีมของเขากับตกเป็นฝ่ายตั้งรับ และไม่มีช่องว่างให้ตอบโต้เลย


“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนของเขตเซนทิเนลแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ?” เกรซฟูลโมนาร์ชที่รีบขึ้นมาสังเกตการณ์บนกำแพงของเขตที่อยู่อาศัยนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เมื่อเห็นผู้เล่นที่ทำการโจมตีทีมของบลูฟอร์ส


คนอื่นอาจไม่คุ้นเคยกับผู้เล่นหลายร้อยคนที่โจมตีทีมของบลูฟอร์ส แต่เธอคุ้นเคยดี


ผู้เล่นเหล่านี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญจากทีมนักผจญภัยอันดับหนึ่งของเขตเซนทิเนล ซึ่งเธอเคยปะทะด้วย เมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตามในตอนนั้น ความแข็งแกร่งโดยรวมของทีมนักผจญภัยนั้นยังอ่อนแอกว่าทีมของบลูฟอร์สอย่างเห็นได้ชัด เพราะทีมนักผจญภัยนั้นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้น ซึ่งมันไม่มีทางที่จะเทียบกับทีมของบลูฟอร์สได้เลย


อย่างไรก็ตามตอนนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสองทุกคนจากเขตเซนทิเนลนั้นกับดูเหมือนจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์อยู่ ซึ่งมันทำให้พวกเขาไม่เพียงแต่จะมีค่าสถานะที่น่ากลัว แต่ยังจะสามารถบินได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆด้วย ทีมของบลูฟอร์สนั้นไม่สามารถจะสลัดผู้เชี่ยวชาญขั้นสองเหล่านี้ออกไปได้เลย แม้ว่าจะต้องการก็ตาม


“เดี๋ยวก่อน นี่มันไม่ใช่แล้ว !!! ทุกคนจากเขตเซนทิเนลนั้นดูเหมือนจะเป็นเผ่าปีศาจทั้งหมด แถมระดับของพวกเขาก็ยังสูงมาก ….” เพอเพิ้ลรากษศกล่าวอย่างเต็มไปด้วยสีหน้ามืดมน


ผู้เล่นปีศาจนั้นหายากมากๆในดาร์คเดน และหลังจากเลื่อนขั้นมาเป็นขั้นสาม เธอก็พบกับผู้เล่นปีศาจแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งผู้เล่นปีศาจคนหนึ่งที่เธอเคยสู้ด้วยและอยู่ในขั้นสามนั้น แม้ว่าเขาจะมีมาตราฐานแค่ขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามผลการต่อสู้มันก็จบลงที่เธอนั้นเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากพวกเขา


อย่างไรก็ตามตอนนี้เขตเซนทิเนลกับมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสองที่เป็นเผ่าปีศาจนี้หลายร้อยคน และผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจอีกหลายโหล


เขตเซนทิเนลนั้นเดิมทีมันก็มีความแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว โดยมันติด TOP 15 ของเขตที่แข็งแกร่งที่สุดในดาร์คเดน และโทรเบิ้ลไทม์ ผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยอันดับหนึ่งของเขตเซนทิเนลก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งและหาตัวจับได้ยากมากในดาร์คเดน สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่เหลืออยู่ในทีมนักผจญภัยของโทรเบิ้ลไทม์นั้น แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาก็อยู่ในขอบเขตการปรับแต่ง และด้วยมีผู้เล่นทั้งหมดเป็นเผ่าปีศาจด้วย เพอเพิ้ลรากษสนั้นก็นึกไม่ออกเลยว่าทีมของบลู

ฟอร์สจะเอาตัวรอดได้อย่างไร


ในขณะที่ทุกคนในเขตแสงสุดขีดกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ บลูฟอร์สและเพื่อนร่วมทีมของเขาก็กำลังสูญเสีย HP ไปเรื่อยๆ


“ฟอร์ส นี่คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรอ ?” เบอเซิกเกอร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปด ถามขึ้นในขณะที่เขาเฝ้าดูบลูฟอร์สถูกโจมตีครั้งแล้ว ครั้งเล่า “พวกระดับสูงของฉันนั้นมีความคิดเห็นที่ค่อนข้างจะดีมากเกี่ยวกับศักยภาพของคุณและเพื่อนร่วมทีมของคุณ ดังนั้นพวกเขาจึงได้สั่งให้ฉันหลีกเลี่ยงการทำร้ายคุณโดยเฉพาะ ไม่งั้นผู้เล่นขั้นสามของเราคงเคลื่อนไหวนานแล้ว คุณไม่รู้รึไง ?”


“โทรเบิ้ล ฉันยอมรับเลยว่าตอนนี้คุณแข็งแกร่งกว่าเรามาก แต่อย่างไรก็ตามอย่าคิดว่าจะทำให้พวกเรายอมนอบน้อมได้ ยิ่งกว่านั้นเราก็อยู่กับสภาสิบแปดปีกมานานแล้ว จะให้เราทรยศกิลของเราได้อย่างไร …” บลูฟอร์สกล่าวโต้ตอบโทรเบิ้ลไทม์


“ถูกต้อง สภาสิบแปดปีกปฎิบัติต่อเราอย่างดีจะให้เราทรยศสภาสิบแปดปีกเพื่อไปเข้าร่วมกับพวกคุณได้ยังไง ?” อีฟเวนนิ่งโลตัส เครอลิคหญิงข้างๆบลูฟอร์สกล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น


“ดูเหมือนว่าพวกคุณจะเลือกที่จะตายงั้นสินะ !!!” โทรเบิ้ลไทม์ขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินคำพูดของบลูฟอร์ส และอีฟเว่นนิ่งโลตัส จากนั้นเขาก็เริ่มเดินเข้าหาบลูฟอร์สและพูดว่า “ในกรณีนี้ฉันจะบอกให้ทุกคนรู้เองว่าความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกนั้นมันน่าหัวเราะแค่ไหนต่อเรา !!!”


หลังจากพูดจบ ร่างของโทรเบิ้ลไทม์ก็ขยายขนาดขึ้น และผิวของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ทันใดนั้นเขาสองข้างก็งอกออกมาจากหน้าผากของเขา และออร่าในร่างกายของเขาก็เริ่มแผ่ออกมาอย่างรุนแรงมากขึ้น


เมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของออร่าของโทรเบิ้ลไทม์ เกรซฟูลโมนาร์ชและคนอื่นๆที่เฝ้าดูอยู่จากระยะไกลก็อ้าปากค้าง พวกเขาไม่คิดเลยว่าโทรเบิ้ลไทม์จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งมากขนาดนี้ และเพียงแค่ออร่าที่เขาแผ่ออกมานั้นมันก็เหนือกว่าแกรนลอร์ดทั่วไปแล้ว ตอนนี้ด้วยตัวเขาเองคนเดียว เขาน่าจะสามารถล้มทีมผู้เล่นขั้นสามทั่วไปหนึ่งร้อยคนได้ด้วยตัวเองเลย


อย่างไรก็ตามเมื่อ โทรเบิ้ลไทม์เดินเข้าไปหาทีมของบลูฟอร์ส ทันใดนั้นเสียงที่ทุ้มลึกก็ปรากฎขึ้นจากความว่างเปล่า


“ดูเหมือนว่าคุณจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองค่อนข้างมากทีเดียว !!! เมื่อเป็นแบบนี้ก็ขอฉันดูหน่อยว่าคุณจะเก่งอย่างที่ปากพูดไหม !!!” ซึ่งทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้น ทุกคนก็หันไปหาต้นตอของเสียงทันที


สายตาของทุกคนนั้นจับจ้องไปที่สปาร์เชี่ยลเกตที่ถูกเปิดขึ้นกลางอากาศ และทุกคนก็ล้วนมองไปยังชายที่สวมเสื้อคลุมและถือดาบยาวสองเล่มเดินออกมาจากสปาร์เชี่ยลเกต

 

 

 


ตอนที่ 2512

 

คุณไม่มีคุณสมบัติ


“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน ? เขาเดินทางมาที่นี่ด้วยสปาร์เชี่ยลเกตจริงๆ !!! ช่างฟุ่มเฟือยอย่างมากจริงๆ !!!”


“นี่ผู้ชายคนนั้นเบื่อจะมีชีวิตอยู่แล้วงั้นหรอ ?! เขาไม่เห็นหรอว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างบลูฟอร์สก็ยังถูกต้อนให้จนมุม”


“นี่เขาคิดว่าโทรเบิ้ลไทม์เป็นคนมีเหตุผลงั้นหรอ ?”


ผู้เล่นที่เฝ้าชมอยู่ภายในเขตแสงสุดขีดต่างก็ตกตะลึง เมื่อเห็นซือเฟิงปรากฎตัวขึ้นกลางสนามรบ


พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น


แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายร้อยหลาแต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่น่ากลัวที่โทรเบิ้ลไทม์แผ่ออกมาอย่างชัดเจน ความแข็งแกร่งที่เขาครอบครองอยู่ตอนนี้มันอยู่ในระดับเหนือมนุษย์อย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโทรเบิ้ลไทม์ในปัจจุบันนั้นจะสามารถเอาชนะบลูฟอร์สได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้งแน่นอน ในความเป็นจริงโทรเบิ้ลไทม์มีแนวโน้มสูงมากว่าจะสามารถจัดการทีมของบลูฟอร์สได้ด้วยตัวคนเดียวด้วยซ้ำ


กระนั้นตอนนี้ใครบางคนที่ได้ประสบกับความแข็งแกร่งของโทรเบิ้ลไทม์แล้วก็ยังกล้าจะยั่วยุเขา


“ผู้เล่นขั้นสามที่ขี้กลัวกล้าจะต่อต้านผู้บัญชาการของเรางั้นหรอ ? ไอ้เวร มันยังเร็วเกินไปหนึ่งร้อยปี !!! เดี๋ยวฉันจะสอนให้คุณรู้เองว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร !!” ชิลวอริเออร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปด ที่ยืนอยู่ด้านหลังของโทรเบิ้ลไทม์กล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็ยกโล่และขวานของตัวเองขึ้นพลางพุ่งเข้าหาซือเฟิง โดยมุ่งมั่นที่จะให้นักดาบได้รู้ว่าเขตเซนทิเนลนั้นทรงพลังมากขนาดไหน


“คนๆนี้นั้นกล้าจะยั่วยุโทรเบิ้ลไทม์เพียงเพื่อชื่อเสียง ด้วยเรื่องนี้จะไม่มีใครในดาร์คเดนสามารถจะช่วยเขาได้แล้วแน่นอน เขตเซนทิเนลจะไม่หยุดตามล่าเขาจนกว่าเขาจะกลับไปอยู่ที่เลเวลศูนย์อย่างแน่นอน !!!”


“เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะมีตราสัญลักษณ์กิลของสภาสิบแปดปีกติดอยู่ที่หน้าอก เขาน่าจะมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือทีมของบลูฟอร์ส”


“เป็นแบบนั้นแล้วยังไงล่ะ ? เขาไม่เห็นหรอว่าสถานการณ์ตอนนี้น่ากลัวแค่ไหน ? นับประสาอะไรกับทีมของบลูฟอร์ส แม้แต่ทีมนักผจญภัยอันดับหนึ่งแห่งเขตแสงสุดขีดก็ยังไม่มีใครจะสามารถเทียบกับโทรเบิ้ลไทม์ได้ แล้วเขาแค่คนเดียวจะทำอะไรได้สำเร็จกัน ?”


ในขณะนี้ผู้เล่นบางคนที่มีสายตาดีก็สังเกตเห็นตราสัญลักษณ์ของกิลสภาสิบแปดปีกอยู่ที่หน้าอกของซือเฟิง อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะได้เห็นสัญลักษณ์ของกิลสภาสิบแปดปีกแล้ว มันก็ยังไม่มีใครรู้สึกดีกับสถานการณ์นี้ ทุกคนได้แต่ถอนหายใจและเยาะเย้ยกับการกระทำของซือเฟิง


ก่อนวันนี้ด้วยความช่วยเหลือของสภาสิบแปดปีก เขตหนึ่งนั้นมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นเป็นเขตที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งที่สุดสามอันดับแรกของดาร์คเดนแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อเขตหนึ่งเลือกจะเผชิญหน้ากับเขตเซนทิเนลตอนนี้ เขตหนึ่งก็จะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน


“เขาไม่ควรออกไปเลย …” เกรซฟูลโมนาร์ชซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์จากบนกำแพงของเขตแสงสุดขีดพึมพำกับตัวเอง ในตอนแรกเธอนั้นรู้สึกประหลาดใจที่เห็นซือเฟิงปรา

กฎตัวขึ้นในสนามรบ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและถอนหายใจออกมา


ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญขั้นสอง ซือเฟิงซึ่งเป็นผู้เล่นขั้นสามนั้นจะจัดว่าแข็งแกร่งมากๆ อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ในปัจจุบันของเขานั้นคือผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจของเขตเซนทิเนล


“ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างมีความกล้าน่าดู !!!” เพอเพิ้ลรากษสเองก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน เมื่อเห็นซือเฟิงปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าโทรเบิ้ลไทม์ “อย่างไรก็ตามแม้แต่บลูฟอร์สก็ยังต้องดิ้นรนสู้กับเขตเซนทิเนล แล้วคนอย่างเขาจะไปทำอะไรได้กัน ?”


ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าเธอว่าผู้เล่นเผ่าปีศาจนั้นทรงพลังมากขนาดไหน


ค่าสถานะพื้นฐานและร่างกายของผู้เล่นเผ่าปีศาจนั้นเหนือกว่าผู้เล่นทั่วไปนขั้นเดียวกันอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่า ณ จุดนี้ นอกเหนือจากอิลูซะรี่เวิร์ดแล้วไม่มีใครในเขตแสงสุดขีดที่สามารถจะท้าทายเขตเซนทิเนลได้ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันไม่มีเหตุผลที่คนอย่างอิลูซะรี่เวิร์ดจะเข้าไปยุ่งเรื่องดังกล่าว


อย่างไรก็ตามเมื่อเพอเพิ้ลรากษสหันไปหาอิลูซะรี่เวิร์ดซึ่งยืนอยู่ข้างๆเธอ เธอก็เห็นการแสดงออกที่หนักหน่วงและตกตะลึงปรากฎขึ้นบนใบหน้าของอิลูซะรี่เวิร์ด ตอนนี้ใบหน้าของเครอลิคนั้นราวกับพึ่งจะเห็นผีมา


“ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ?” อิลูซะรี่เวิร์ดพึมพำ ขณะที่ดวงตาของเธอนั้นก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้ความประหลาดใจของเธอนั้นชัดเจนซะจนแม้แต่ผู้เล่นทั่วไปก็ยังรู้สึกได้


“รองหัวหน้ากิลอิลูซะรี่ ?” เพอเพิ้ลรากษสอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อเธอมองเห็นท่าทีของอิลูซะรี่เวิร์ด


ก่อนหน้านี้อิลูซะรี่เวิร์ดนั้นยังคงรักษาความสงบของเธอเอาไว้ได้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับออร่าอันรุนแรงของโทรเบิ้ลไทม์ก็ตาม อย่างไรก็ตามตอนนี้อิลูซะรี่เวิร์ดดูสั่นสะเทือนและประหลาดใจอย่างชัดเจนเมื่อเธอได้เห็นนักดาบขั้นสาม ซึ่งดูธรรมดามากๆ นี่มันไม่น่าเชื่อเลย


“รองหัวหน้ากิลอิลูซะรี่ คุณรู้จักคนๆนั้นงั้นหรอ ?” เกรซฟูลโมนาร์ชกล่าวถาม เธอเองก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอิลูซะรี่เวิร์ดสูญเสียความสงบไป


ก่อนหน้านี้เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นได้สังเกตและวิเคราะห์ซือเฟิงอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งเธอก็พบว่าเขามีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอย่างเธอจะสนใจมากนัก สิ่งเดียวที่เธอพบว่าซือเฟิงน่าสนใจคือ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาจากสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามหากแม้แต่รองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกอย่างบลูฟอร์สก็ยังไม่สามารถจะดึงดูดความสนใจจากกอิลูซะรี่เวิร์ดได้ แล้วผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของสภาสิบแปดปีกคนนั้นจะทำได้ยังไงกัน ?


“ใช่แล้ว ฉันรู้จักเขา ฉันรู้จักเขาแน่นอน !!!” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เบ่งบานบนใบหน้าของเธอ เมื่อเธอเห็นเพอเพิ้ลรากษสและเกรซฟูลโมนาร์ชกำลังจ้องมองมาที่เธอ “เขาเป็นคนที่ฉันเคยบอกคุณก่อนหน้านี้ หัวหน้ากิลแห่งสภาสิบแปดปีก แบล๊คเฟรมยังไงล่ะ !!!”


ทันทีที่อิลูซะรี่เวิร์ดเอ่ยถึงชื่อของ “แบล๊คเฟรม” เกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษสนั้นก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ


“รองหัวหน้ากิลอิลูซะรี่ คุณกำลังบอกว่าเขาคือหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?” เพอเพิ้ลรากษสปฎิเสธคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ดโดยสัญชาตญาณ “เป็นไปได้ยังไงกัน ? ฉันเคยเจอกับเขามาก่อน นับประสาอะไรกับออร่าของผู้เล่น แม้แต่ความผันผวนของมานารอบตัวเขาก็ยังอ่อนแอมากๆ แล้วเขาจะเป็นสัตว์ประหลาดที่คุณพูดถึงได้ยังไง ?”


ใน God domain ผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญทุกคนจะแผ่ออร่าแห่งความแข็งแกร่งออกมา หลังจากที่พวกเขามาถึงขั้นสามแล้ว และความผันผวนของมานาที่เกิดจากร่างมานาของพวกเขานั้นก็จะยากต่อการปกปิดมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าผู้เล่นจะสามารถปกปิดความผันผวนของมานาเหล่านั้นได้ แต่สัญชาตญาณของผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆก็ยังจะจับสังเกตพวกเขาได้อยู่ดี หากพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอย่างมหาศาล เช่นอิลูซะรี่เวิร์ดเป็นต้น แม้ว่าอิลูซะรี่เวิร์ดจะปกปิดความแข็งแกร่งของเธอไว้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่สัญชาตญาณของเพอเพิ้ลรากษสก็ยังเตือนไม่ให้เธอสู้กับเครอลิค


อย่างไรก็ตามเพอเพิ้ลรากษสนั้นไม่ได้รับรู้อะไรได้จากซือเฟิงเลย ในความคิดของเธอ ซือเฟิงนั้นเป็นตัวอย่างของผู้เล่นขั้นสามทั่วไปเท่านั้น


“เขาคือหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกตามข่าวลืองั้นหรอ ?” เกรซฟูลโมนาร์ชพึมพำอย่างสงสัย ในขณะที่เธอจ้องมองไปยังซือเฟิงที่อยู่ห่างไกล เธอนั้นก็รู้สึกคล้ายกับ

เพอเพิ้ลรากษส เธอนั้นคิดว่าคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ดนั้นน่าสงสัยและฟังดูตลก


แบล๊คเฟรมที่อิลูซะรี่เวิร์ดพูดถึงนั้นคือหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก แม้ว่าเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าที่อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวถึง แต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะดูแข็งแกร่งกวาบลูฟอร์มและทีมของบลูฟอร์สมาก ไม่เช่นนั้นด้วยบุคลิกของบลูฟอร์สและคนอื่นๆ พวกเขาจะไม่มีวันยอมทำตามคำสั่งเขาแน่นอน


ในทางกลับกัน อิลูซะรี่เวิร์ดนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกพวกเขา ….


ในขณะที่เพอเพิ้ลรากษสและเกรซฟูลโมนาร์ชกำลังสงสัยในคำพูดของอิลูซะรี่เวิร์ด จู่บลูฟอร์สก็ตะโกนออกมาด้วยความสับสน


“หัวหน้ากิล ?!”

แม้ว่าบลูฟอร์สจะไม่ได้พูดเสียงดังมากนัก แต่คำพูดของเขาก็ดังไปทั่วสนามรบ และมันก็ราวกับไต้ฝุ่นพัดผ่านเขตแสงสุดขีดทันที


“อะไรกัน ?! เขาเป็นหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกจริงๆงั้นหรอ ?!”


เพอเพิ้ลรากษสและเกรซฟูลโมนาร์ชนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของบลูฟอร์ส พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงซึ่งดูเหมือนคนทั่วไปแบบนี้จะเป็นผู้รับผิดชอบในการรับสมัครผู้เชี่ยวชาญอย่างบลูฟอร์สและเพื่อนของเขา แถมสัตว์ประหลาดอย่างอิลูซะรี่เวิร์ดยังชื่นชมเขาอีก


ในตอนแรกนั้น พวกเขาคิดว่าด้วยระยะทางที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยหลา อิลูซะรี่เวิร์ดอาจจำซือเฟิงสลับเป็นอีกคนก็ได้ อย่างไรก็ตามความผิดพลาดดังกล่าวนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอนสำหรับบลูฟอร์ส นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าบลูฟอร์สนั้นมีร่างพิเศษในขั้นสามแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในรองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกด้วย เขาควรจะลาออกจากตำแหน่งของตัวเองไป หากเขาไม่สามารถจำหัวหน้ากิลของตัวเองได้


ทุกคนจากเขตเซนทิเนลต่างก็ตกตะลึงกับฉากนี้เช่นเดียวกัน พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้บุกรุกผู้นี้จะเป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก


“นี่คุณล้อฉันเล่นหรอ ? ไอ้คนอ่อนแอนี่จะเป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกได้ยังไงกัน ?!”


พวกเขานั้นรู้อย่างชัดเจนว่าบลูฟอร์สและเพื่อนร่วมทีมของเขานั้นมีพลังและศักยภาพมากขนาดไหน ตามความเห็นของพวกเขาผู้ที่สามารถรับสมัครบลูฟอร์สและพรรคพวกของเขาได้นั้นจะต้องเป็นมังกรในหมู่ผู้เล่นแน่นอน ไม่งั้นเขาจะสามารถชักชวนเหล่าคนที่มีความสามารถแบบนี้ให้เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกได้ยังไง ?


เมื่อเห็นความกังขาในคำพูดและสายตาของทุกคน ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา


ก่อนหน้านี้เขาโด่งดังจนใครๆก็รู้จักเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้คนเหล่านี้กับตั้งคำถามถึงตัวตนของเขา


“คุณเป็นหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ? แต่แล้วยังไงล่ะ ? ไม่ว่าจะเป็นคุณ บลูฟอร์ส หรือทีมของเขาก็จะไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่ !!!”


ชิลวอริเออร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปดนั้นยังคงไม่สะทกสะท้าน แม้จะรู้ตัวตนของซือเฟิงแล้ว และเขาก็ได้เปิดใช้งาน Brutal Collision พลางเริ่มกระแทกโล่เข้าใส่ซือเฟิงทันที


อย่างไรก็ตามก่อนที่ชิลวอริเออร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปดจะมาถึงตัวของซือเฟิง มันก็มีร่างๆหนึ่งปรากฎตัวขึ้นที่ด้านหลังของชิลวอริเออร์ และดาบสั้นของร่างนี้ก็กลายเป็นริ้วแสงสีดำทะลุผ่านเกราะของชิลวอริเออร์แทงเข้าไปที่หัวใจของเขาโดยตรง


ในตอนที่ชิลวอริเออร์รู้สึกได้ถึงการโจมตีนี้ กุหลายสีเลือดก็เบ่งบานออกมาที่บริเวณหน้าอกของเขาแล้ว ความเสียหายมากกว่าสี่แสนปรากฎขึ้นเหนือหัวของเขา และการโจมตีนี้ก็ได้ทำลาย HP ของเขาลงไปทั้งหมด


“คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับหัวหน้ากิลของเรา !!!”

 

 

 


ตอนที่ 2513

 

พลังของหนึ่งการโจมตี


เมื่อชิลวอริเออร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปด ทรุดลงกับพื้นและสลายตัวกลายเป็นอนุภาคแสง โลกทั้งใบนั้นก็ดูเหมือนจะแข็งค้างไปชั่วขณะ ขณะที่ความเงียบก็เข้าปกคลุมสนามรบ หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ทุกคนจึงเริ่มจะตอบสนองกับสถานการณ์ดังกล่าวได้


“เขาตายแล้ว ?”


“เป็นไปไม่ได้ !!!”


ทุกคนนั้นตกตะลึง เมื่อมองไปยังร่างๆหนึ่งที่อยู่ด้านหลังศพของชิลวอริเออร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นจากเขตเซนทิเนล ปากของพวกเขานั้นอ้าค้างด้วยความตกตะลึงอย่างมาก เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพวกเขาว่าชิลวอริเออร์ที่ตายไปนั้นมี HP และพลังป้องกันมากขนาดไหน


มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะกล่าวว่า แม้แต่เบอเซิกเกอร์ขั้นสามคนหนึ่งจะได้รับอนุญาติให้โจมตีชิลวอริเออร์ โดยใช้ทุกอย่างที่มีได้อย่างอิสระ แต่เบอเซิกเกอร์ก็ยังคงจะต้องโจมตีอย่างน้อยสิบครั้งจึงจะฆ่าชิลวอริเออร์ได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ชิลวอริเออร์กับถูกฆ่าในการโจมตีเดียว โดยที่ฮีลเลอร์ของเขตเซนทิเนลไม่แม้แต่จะสามารถช่วยเหลือเขาได้ทันด้วยซ้ำ


“นั่นคือชิลวอริเออร์ขั้นสาม เผ่าปีศาจเลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!! นี่เธอเป็นมนุษย์รึปล่าวเนี่ย ?!” เพอเพิ้ลรากษสอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่เธอจ้องมองไปยังไฟเออร์แดนซ์ที่กำลังเดินเข้าไปหาซือเฟิงอย่างช้าๆ


เพอเพิ้ลรากษสนั้นเคยปะทะกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจมาก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจนั้นทรงพลังมากขนาดไหน นอกเหนือจากพลังป้องกัน และ HP ที่สูงลิ่วของพวกเขาแล้ว ร่างกายทางกายภาพของพวกเขาก็ยังทำให้พวกเขามีความเร็วในการตอบสนองเหนือกว่าผู้เล่นขั้นสามด้วย


อย่างไรก็ตามไฟเออร์แดนซ์กับโจมตีและฆ่าชิลวอริเออร์เผ่าปีศาจผู้นี้ลงได้ในการโจมตีเดียว โดยที่ชิลวอริเออร์นั้นไม่สามารถจะตอบสนองได้ทันด้วยซ้ำ


ความเร็วในการตอบสนองและพลังโจมตีของไฟเออร์แดนซ์นั้นมันอยู่ในระดับที่น่าเหลือเชื่อมากจริงๆ


“นี่เธอแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?” เมื่อเกรซฟูลโมนาร์ชมองไปยังร่างที่อยู่ห่างไกลของไฟเออร์แดนซ์ ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากๆ


พลัง !!!


ความรุนแรง ความแข็งแกร่ง !!!


การแสดงของไฟเออร์แดนซ์นั้นมันทั้งทรงพลังและน่ากลัวมากจริงๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นแสวงหาการที่จะบรรลุอยู่ตลอดเวลา เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นไม่คิดเลยว่าครั้งนี้เธอจะได้เห็นการแสดงพลังอันน่าทึ่งนี้ด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ประหลาดที่แสดงพลังนี้ออกมายังยืนอยู่ข้างซือเฟิงมาตลอดเวลา


ในขณะนี้นับประสาอะไรกับเกรซฟูลโมนาร์ช เพอเพิ้ลรากษส และคนอื่นๆ แม้แต่บลูฟอร์สและเพื่อนร่วมทีมของเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังซือเฟิงก็ยังตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนจากสาขาหลักของสภาสิบแปดปีกจะทรงพลังมากขนาดนี้


ในขณะเดียวกันโทรเบิ้ลไทม์ที่เฝ้าสังเกตไฟเออร์แดนซ์อย่างเงียบๆมาตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาเช่นกัน


“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะมีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ซ่อนอยู่ด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกคุณถึงกล้าขัดขวางเรา” โทรเบิ้ลไทม์กล่าวขณะที่จ้องมองไปยังซือเฟิง “อย่างไรก็ตามถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถจะหยุดเขตเซนทิเนลได้ด้วยความแข็งแกร่งเพียงแค่นี้ ฉันเกรงว่าคุณจะเข้าใจผิดไปอย่างมาก !!!”


ทันทีที่โทรเบิ้ลไทม์กล่าวจบ ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม สิบเจ็ดคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็กลายร่างเป็นปีศาจทันที และออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของพวกเขานั้นก็แผ่ออกมาปกคลุมไปทั่วสนามรบ ซึ่งมันทำให้เกิดความกลัวแม้กระทั่งในหมู่ผู้เชี่ยวชาญของบลู

ฟอร์ส


แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจนี้จะมีเพียงแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้น แต่แรงกดดันรวมที่พวกเขาแผ่ออกมานั้นมันก็สูงกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสองเผ่าปีศาจหลายร้อยคนของเขตเซนทิเนลอย่างง่ายดาย


“ดูเหมือนว่าโทรเบิ้ลไทม์จะเริ่มเอาจริงแล้วสินะ …” การแสดงออกที่หวาดกลัวปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเพอเพิ้ลรากษส เมื่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ ของเขต

เซนทิเนลเริ่มเคลื่อนไหว


ชิลวอริเออร์ที่เคยเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้นั้นอยู่ในขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น และมาตราฐานการต่อสู้ของเขายังจัดว่าอ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของเขตเซนทิเนลด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของเขตเซนทิเนลทุกคนร่วมมือกันโจมตี แม้แต่ไฟเออร์แดนซ์เองก็ยังจะไม่สามารถรับมือกับพวกเขาได้ เพราะท้ายที่สุดนี่เป็นการต่อสู้แบบทีม ไม่ใช่การดวลตัวต่อตัว ไม่เพียงแต่ผู้เล่นจะสามารถลดจุดบอดในการป้องกันของตัวเองลงได้ เมื่อทำงานร่วมกันเป็นทีม แต่พวกเขายังจะสามารถโจมตีจุดอ่อนของศัตรูได้ง่ายขึ้นด้วย


ไม่ต้องพูดถึงอาชีพแอสซาซินที่จะแข็งแกร่งที่สุดเมื่ออยู่ใน Stealth เลย เมื่อแอสซาซินถูกค้นพบตัวตนนั้น พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง ในขณะเดียวกันตอนนี้เนื่องจากโทรเบิ้ลไทม์และคนอื่นๆนั้นได้สังเกตเห็นตัวตนของไฟเออร์แดนซ์แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลยที่เธอจะลอบโจมตีพวกเขาได้อีกครั้ง


ในช่วงเวลาต่อมาผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคนก็ได้ย่นระยะเข้าหากลุ่มของซือเฟิงอย่างรวดเร็ว และการวางตำแหน่งตัวเองของพวกเขานั้นก็ทำให้ไฟเออร์แดนซ์ไม่มีโอกาสจะได้ต่อสู้แบบตัวต่อตัวเลยด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันทุกคนก็ล้วนใช้การเคลื่อนไหวที่เป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขาทันที


เวทย์ขั้นสาม Shadow Puncture!


สกิลขั้นสาม Chaotic Slash!


สกิลขั้นสาม Shadow Raid!


เวทย์ขั้นสาม Flame Dragon Bind!


สกิลและเวทย์มากกว่าหนึ่งโหลนั้นบินเข้าใส่ซือเฟิง และเมื่อเห็นการโจมตีที่ทรงพลังเหล่านี้เข้าใกล้พวกเขามานั้น บลูฟอร์สและสมาชิกสภาสิบแปดปีกที่เป็นคนของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสิ้นหวัง


ไม่เพียงแต่สกิลและเวทย์เหล่านี้จะมีพลังใกล้เคียงกับมาตราฐานของขั้นสี่ แต่สกิลและเวทย์เหล่านี้ทั้งหมดยังซ้อนทับ และประสานงานกันเป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบที่ไม่มีช่องโหว่ใดให้ใช้ประโยชน์ได้เลย และมันไม่ใช่การโจมตีที่ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นจะสามารถป้องกันหรือหลบได้


อย่างไรก็ตามในทางตรงกันข้ามกับความคาดหวังของทุกคน ไฟเออร์แดนซ์นั้นไม่ได้ใช้ Vanish หรือ Wind Steps เพื่อป้องกันตัวเอง แม้ว่าเธอจะเห็นการโจมตีที่กำลังเข้ามาแล้ว และเธอก็ยังคงยืนอยู่ข้างๆซือเฟิงโดยไม่ได้แสดงเจตนาที่จะเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งมันราวกับว่าการโจมตีทั้งหมดนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเธอเลย


เมื่อการโจมตีทั้งหมดนี้กำลังจะเข้าถึงตัวของซือเฟิงและไฟเออร์แดนซ์ ซือเฟิงก็เริ่มลงมือทันที


วงโคจรดาบ !!


ประกายแสงดาวนั้นปรากฎรอบๆทันทีโดยมีซือเฟิงเป็นศูนย์กลาง และเมื่อมองดูจากระยะไกล เมื่อการโจมตีทั้งหมดกระทบเข้ากับประกายแสงดาวนี้มันก็จะหายไปทันที และไม่สามารถเข้าใกล้ซือเฟิงได้เลยในระยะสิบหลา ไม่ต้องพูดถึงการสร้างความเสียหายให้กับซือเฟิง มันไม่สามารถทำให้เขาถอยไปได้แม้แต่ก้าวเดียวด้วยซ้ำ


“เป็นไปไม่ได้ !!! เขาป้องกันมันได้ทั้งหมดเลยงั้นหรอ ?!!”


เมื่อเห็นซือเฟิงทำลายการโจมตีของพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เพราะท้ายที่สุดการโจมตีของพวกเขาไม่เพียงแต่จะมีพลังสูงมากเท่านั้น แต่มันยังถูกปล่อยเข้าโจมตีใส่ซือเฟิงและไฟเออร์แดนซ์พร้อมกันมากกว่ายี่สิบครั้ง และทุกการโจมตีเหล่านี้ก็ล้วนมุ่งเน้นไปที่จุดบอดของทั้งคู่ เว้นแต่ว่าซือเฟิงกับไฟเออร์แดนซ์จะใช้สกิลอมตะ ไม่งั้นพวกเขาก็ควรจะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล


“ถึงตาฉันแล้วนะ !!!”


เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั้งสิบเจ็ดคนของเขตเซนทิเนลได้หยุดโจมตีแล้ว ซือเฟิงจึงชัก Abyssal Blade ออกมาจากฝัก และเล็งไปทางผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจสิบเจ็ดคน


ไลท์นิ่งแฟลช !!!


ในช่วงเวลาต่อมาแสงสายฟ้าของดาบสีดำสนิทที่ถูกห่อหุ้มด้วยมานาที่หนาแน่นก็พุ่งเข้าใส่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจทั้งหมดทันที


Peng… Peng… Peng…


เสียงระเบิดนั้นกังก้องไปทั่วสนามรบ ในเวลาเดียวกันผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคนก็ปลิวกระเด็นออกไป โดยแต่ละคนนั้นก็ได้รับความเสียหายมากกว่าหนึ่งแสน และเมื่อพวกเขาตั้งหลักได้นั้นแต่ละคนก็ล้วนมือสั่นเทาอย่างมาก


“นี่เขาเป็นสัตว์ประหลาดรึไงกัน ?”


ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ต่างอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นฉากนี้


คนเหล่านั้นคือผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคน หากพวกเขาร่วมมือกันทำงาน มันไม่ควรจะมีใครในดาร์คเดนจะสามารถหยุดพวกเขาได้ด้วยซ้ำ ไม่เว้นแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่


อย่างไรก็ตามตอนนี้ ซือเฟิงกับทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดนี้ปลิวกระเด็นไปในการเคลื่อนไหวเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้พวกเขาทุกคนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักด้วย


ก่อนที่ทุกคนจะทันได้หายงุนงง ซือเฟิงก็ได้ทำการเฉือนคิลลิงเรย์อีกครั้ง แต่คราวนี้เขามุ่งโจมตีไปยังโทรเบิ้ลไทม์ที่อยู่ห่างออกไปราวสามสิบหลา


ดาบแรก ไลท์ชาโด้ว !!!


ทันใดนั้นเงาของดาบขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ และเมื่อมันพุ่งเข้าใส่โทรเบิ้ลไทม์นั้น มันดูราวกับว่าภูเขาทั้งลูกกำลังจะถล่มลงมาหาเบอเซิกเกอร์ การโจมตี AOE นี้กินพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆจนการหลบหลีกแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังบังเกิดรอยแยกมิติที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆในทุกที่ที่การโจมตีนี้ผ่าน

ใบหน้าของโทรเบิ้ลไทม์แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที เมื่อได้เห็นการโจมตีที่กำลังเข้ามานี้ และเขาก็ได้ยกขวานสงครามของเขาขึ้นรับการโจมตีที่กำลังเข้ามา


“หายไปซะ !!!”


สกิลต้องห้ามขั้นสาม Heaven Breaker!


ในช่วงเวลาต่อมาขวานของโทรเบิ้ลไทม์ก็พุ่งเข้าปะทะกับการโจมตีของซือเฟิงโดยตรง


ตู้ม !!


มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง และมันก็ทำให้บังเกิดพายุที่ทรงพลังส่งฝุ่นปลิวว่อนไปทั่วในอากาศจนทำให้ผู้เล่นโดยรอบนั้นแทบไม่สามารถลืมตาได้เลย


เมื่อฝุ่นเริ่มจางลง และทุกคนกลับมามองเห็นอย่างชัดเจนอีกครั้ง พวกเขาก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก


ในขณะร่างของโทรเบิ้ลไทม์นั้นจมลึกลงไปในดินจนแทบมองไม่เห็นหัวเข่าของเขา และในเวลาเดียวกันพื้นดินภายในรัศมีสิบหลาของเบอเซิกเกอร์นั้นก็จมลึกลงไปกว่าหนึ่งเมตร สำหรับตัวของโทรเบิ้ลไทม์นั้นเขาก็สูญเสีย HP ไปมากกว่าหนึ่งในห้า

 

 

 


ตอนที่ 2514

 

ไม่ควรจะเล่นด้วย


ในขณะที่ฝุ่นจางไปจากสนามรบ ผู้เล่นที่เฝ้าดูอยู่จากภายในเขตแสงสุดขีด ซึ่งคาดเดาว่ากลุ่มของซือเฟิงจะต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้อันขมขื่นต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปยังฉากตรงหน้าของพวกเขา


“นี่เขาเป็นผู้เล่นขั้นสามจริงๆหรอ ?”


พวกเขาทุกคนนั้นรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังอย่างมากของโทรเบิ้ลไทม์ หลังจากที่เขาได้กลายร่างเป็นปีศาจ และมันก็แข็งแกร่งมากพอที่จะเทียบกับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันได้เลย และเมื่อรวมกับเทคนิคการต่อสู้หลอมรวมของเบอเซิกเกอร์ที่ใช้พร้อมกับสกิลนั้น เบอเซิกเกอร์ผู้นี้จะสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามได้อย่างง่ายดายเลย ผู้เล่นขั้นสามนั้นไม่มีความหวังจะต่อต้านเขาด้วยซ้ำ


มีเพียงแค่เฉพาะผู้เชี่ยวชาญที่มาถึงขั้นสี่แล้วเท่านั้นจึงจะมีอำนาจมากพอในการปราบปรามสัตว์ประหลาดแบบโทรเบิ้ลไทม์ได้


แต่ซือเฟิงซึ่งดูธรรมดา และไม่มีแม้แต่ออร่าของผู้เล่นขั้นสามกับสามารถครอบงำเบอเซิกเกอร์ด้วยพลังดิบเพียวๆได้เลย ทุกคนที่ได้เฝ้าดูฉากตรงหน้าของพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าระบบหลักของ God domain นั้นกำลังเล่นตลกกับพวกเขา


“นี่เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!”


เมื่อเพอเพิ้ลรากษสและเกรซฟูลโมนาร์ชเห็นสภาพของโทรเบิ้ลไทม์ จิตใจของพวกเขาก็ว่างเปล่ามากๆ แม้ว่าอิลูซะรี่เวิร์ดจะบอกพวกเขาแล้วว่าซือเฟิงนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งอย่างน่ากลัว และแม้แต่ตัวเธอก็ยังไม่สามารถจะต่อกรกับนักดาบได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ


ประการแรกในตอนนี้ ซือเฟิงได้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคนปลิวกระเด็นไปได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว จากนั้นเขาก็ใช้การเคลื่อนไหวหนึ่งซึ่งสามารถทำให้เกิดรอยแยกมิติขึ้นได้ โจมตีจนทำให้โทรเบิ้ลไทม์บาดเจ็บสาหัสได้ ซึ่งความแข็งแกร่งของเขามันจัดว่าไปไกลเกินสามัญสำนึกทั่วไปอย่างมาก


ด้วยความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ แค่ซือเฟิงเพียงแค่คนเดียวมันก็เพียงพอจะฆ่าผู้เล่นขั้นสามที่โง่เขลาสักหนึ่งร้อยคนได้ง่ายๆแล้ว

ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจทั้งหมดของเขตเซนทิเนล รวมทั้งโทรเบิ้ลไทม์นั้นนั้นรู้ตัวดีแล้วว่า หากพวกเขาเลือกจะยืนหยัดต่อสู้กับซือเฟิงนั้นมันจะมีเพียงแต่ความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่


กล่าวอีกนัยหนึ่งคือซือเฟิงนั้นมีพลังมากพอจะฆ่าผู้เล่นขั้นสามทั่วไปได้ในทันที และมันแทบจะไม่มีความแตกต่างระหว่างผู้เล่นขั้นสองกับขั้นสามตรงหน้าเขา อย่างมากผู้เล่นขั้นสามก็จะเป็นแค่มดที่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย


ตอนนี้เพอเพิ้ลรากษสและเกรซฟูลโมนาร์ชนั้นเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าทำไมอิลูซะรี่เวิร์ดถึงชื่นชมซือเฟิงอย่างมาก และกล่าวว่าแค่เขาคนเดียวก็สามารถจะเปลี่ยนกระแสของสงครามได้


แน่นอนเลยว่าเขาเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งมากๆ ในขณะที่อิลูซะรี่เวิร์ดเฝ้ามองไปยังซือเฟิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้เล่นที่ภาคภูมิใจในตัวเขา และยืนเผชิญหน้ากับผู้เล่นของเขตเซนทิเนลอยู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา


หลังจาการต่อสู้บนเกาะดราก้อนฮาร์ท มหาอำนาจต่างๆนั้นก็ได้ยอมรับว่าซือเฟิงเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริงและไม่ควรถูกยั่วยุ แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่ตอนนั้นมา พวกเขาเองก็พัฒนาตัวเองไปอย่างต่อเนื่อง นี่มันทำให้อิลูซะรี่เวิร์ดคิดว่าเธอนั้นน่าจะตามซือเฟิงได้ทัน หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับเขาด้วยรากฐานของจักรพรรดิคริมสันที่เหนือกว่าสภาสิบแปดปีก เธอไม่ได้คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นระยะห่างระหว่างเธอกับนักดาบนั้นเพิ่มขึ้นแทน ….


เธอนั้นค่อนข้างจะอ่อนน้อมถ่อมตน เมื่อได้บอกกับเกรซฟูลโมนาร์ช และเพอเพิ้ลรากษสไปว่า เธอจะไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อต้านหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกได้เกินสามการโจมตี ในความเป็นจริงนั้นเธอมีความมั่นใจมากว่าจะสามารถรับการโจมตีห้าถึงหกครั้งของซือเฟิงได้โดยไม่มีปัญหา เพราะเมื่อไม่นานมานี้เธอก็พึ่งจะได้รับสายเลือดมา ซึ่งมันทำให้เธอมีคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตสูงกว่าผู้เล่นขั้นสามทั่วไป และค่าสถานะพื้นฐานของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน


แต่ตอนนี้เธอก็ได้ตระหนักแล้วว่าเธอเข้าใจผิดไปอย่างมาก


เมื่อได้เห็นการโจมตีเมื่อครู่ของซือเฟิง เธอก็รู้ได้ทันทีว่าการโจมตีเมื่อครู่ของเขานั้นอยู่ที่มาตราฐานของขั้นสี่ แถมมันยังเป็นการโจมตีแบบ AOE ขนาดใหญ่ที่ไม่มีทางหลบหนีหรือป้องกันได้เลย และหากต้องการจะเอาตัวรอดจากการโจมตีแบบนี้มันก็จะต้องมีเวทย์และสกิลอมตะติดตัวไว้


โดยธรรมชาติแล้วบลูฟอร์สและเพื่อนของเขาก็รู้สึกงุนงงอย่างมากเช่นกัน เมื่อเห็นผลลัพธ์ในการแลกเปลี่ยนระหว่างซือเฟิงกับโทรเบิ้ลไทม์ พวกเขานั้นไม่ได้ตอบสนองเหมือนกับสมาชิกสภาสิบแปดปีกที่รู้จักหัวหน้ากิลของตัวเองเลย


“บลู นี่คือหัวหน้ากิลของเราจริงๆหรอ ?” การ์เดี้ยนไนท์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปดกล่าวถามบลูฟอร์ส


เมื่อหลายคนได้ยินคำถามนี้ พวกเขาทุกคนก็ล้วนหันไปมองรองหัวหน้ากิลของพวกเขาอย่างแปลกๆและรอฟังคำตอบ


นอกเหนือจากแนวโน้มในการพัฒนาที่ดีของเขตหนึ่งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกก็เนื่องมาจากความแข็งแกร่งของบลูฟอร์ส พวกเขานั้นไม่ได้มองถึงความสำคัญของสาขาหลักของสภาสิบแปดปีกในโลกภายนอกเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วนอกเหนือจากการสนับสนุนทางการเงินแล้ว เขตหนึ่งก็ยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆจากสาขาหลักของสภาสิบแปดปีกเลย การเชื่อมต่อของพวกเขานั้นอ่อนแอกว่าสิ่งที่เขตอื่นๆได้รับจากพันธมิตรในโลกภายนอกมาก


นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เคยมองเห็นความสำคัญของสาขาหลัก และสงสัยในความแข็งแกร่งของสาขาหลัก


อย่างไรก็ตามตอนนี้หลังจากได้เห็นการแสดงของซือเฟิงแล้ว แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้เลยว่าสภาสิบแปดปีกไม่ใช่กิลที่เรียบง่าย และด้วยมีหัวหน้ากิลที่ทรงพลังแบบนี้ พวกเขาก็มีความมั่นใจมากขึ้นมากกว่าเขตหนึ่งจะเติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในสามเขตที่แข็งแกร่งที่สุดของดาร์คเดนได้แน่นอน


“อืมมม … เขาคือหัวหน้ากิลของเรา แบล๊คเฟรม …” บลูฟอร์สพึมพำตอบคำถามเพื่อนร่วมทีมของเขา แต่ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังซือเฟิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับความทรงจำของตัวเอง พลังที่นักดาบคนนี้พึ่งจะแสดงออกมามันน่ากลัวมากๆ ชายคนนี้ไม่มีอะไรเหมือนซือเฟิงที่เขาจำได้เลย


เมื่อสมาชิกสภาสิบแปดปีกของเขตหนึ่งได้รับคำยืนยัน ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะทันได้เฉลิมฉลองกัน โทรเบิ้ลไทม์ก็ดึงตัวเองออกมาจากปล่องภูเขาไฟ พลางจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หากเขาไม่ได้ป้องกันการโจมตีเมื่อครู่ไว้ด้วยสกิลต้องห้ามขั้นสาม เขาจะสูญเสีย HP ไปมากกว่าครึ่งแน่นอน


“ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินคุณต่ำไปเกินจริงๆฟอร์ส ด้วยมีหัวหน้ากิลแบบนี้คอยสนับสนุน ฉันไม่สามารถจะทำอะไรคุณได้จริงๆ แต่อย่าคิดว่าความล้มเหลวครั้งนี้นั้นมันเพียงพอที่จะหยุดการรุกคืบของเขตเซนทิเนลได้ ผู้เล่นเผ่าปีศาจนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป !!! และในการพบกันครั้งหน้าของพวกเรา มันจะเป็นจุดสิ้นสุดของเขตหนึ่งแน่นอน !!!” โทรเบิ้ลไทม์กล่าวอย่างเย้ยหยัน ขณะที่มองไปปยังบลูฟอร์ส ก่อนที่เขาจะตะโกนบอกเพื่อนร่วมทีมของเขาว่า “ทุกคนถอย !!!”


เมื่อได้ยินคำสั่งผู้เล่นทุกคนจากเขตเซนทิเนลก็หันหลังกลับและรีบหนีทันที พวกเขานั้นไม่ได้ให้โอกาสซือเฟิงกับไฟเออร์แดนซ์ในการโจมตีพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อบลูฟอร์สได้ยินคำพูดของโทรเบิ้ลไทม์เขาก็หน้าซีด ….


ในขณะเดียวกันสมาชิกของเขตแสงสุดขีดก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและถอนหายใจออกมา เมื่อได้รู้ถึงสถานการณ์นี้


ดังที่โทรเบิ้ลไทม์ได้กล่าวไว้ ผู้เล่นปีศาจกับผู้เล่นธรรมดานั้นอยู่คนละระดับกัน และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ผู้เล่นปีศาจนั้นก็จะยิ่งสามารถอัพเกรดสถานะปีศาจของตัวเองเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นได้


ซือเฟิงอาจจะสามารถหยุดผู้เล่น เผ่าปีศาจ ของเขตเซนทิเนลได้ในตอนนี้ แต่เขาจะทำได้นานแค่ไหนกัน ?


ยิ่งไปกว่านั้นซือเฟิงยังเป็นหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก เขาไม่สามารถจะอยู่ในดาร์คเดนไปได้ตลอด เมื่อเขาจากไปเขตหนึ่งซึ่งต่อสู้กับเขตเซนทิเนลเพื่อแย่งชิงทรัพยากรอยู่ตลอดเวลาจะต้องพบกับความทุกข์ทรมาณ


“คุณพูดไม่ผิดนะ แต่นั่นมันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อคุณหนีไปจากที่นี่ได้ทั้งๆที่ยังมีชีวิต !!!” ซือเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา เมื่อเห็นศัตรูของเขาเตรียมจะหนี


ผู้เล่น เผ่าปีศาจนั้นจะสามารถเพิ่มพลังของตัวเองได้ด้วยการอัพเกรดสถานะปีศาจ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังมีข้อบกพร่องร้ายแรงอยู่ คือพวกเขาไม่สามารถที่จะตายได้ เมื่อผู้เล่นปีศาจตาย พวกเขาจะสูญเสียทั้งค่าความแข็งแกร่ง และค่าชื่อเสียงที่พวกเขาสร้างมาไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นปัญหาที่คอยรบกวนผู้เล่นปีศาจตลอดเวลา


“ฉันยอมรับว่าคุณนั้นแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษเลยหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม แต่ถ้าเรามุ่งเน้นไปที่การหลบหนี คุณจะฆ่าพวกเราได้กี่คนกัน ? คุณควรประหยัดพลังงานไว้ดีกว่านะ !!!”


ในขณะที่โทรเบิ้ลไทม์พูดจบ เขาก็แยกร่างออกเป็นห้าร่าง และร่างทั้งห้าของเขาก็แยกกันหนีไปคนละทิศทาง ในขณะเดียวกันเมื่อโทรเบิ้ลไทม์ทำแบบนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของเขตเซนทิเนลก็เริ่มใช้ไพ่ต่างๆของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเร่งความเร็ว แยกร่าง และอื่นๆอีกมากมายเพื่อหลบหนี


เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญของเขตเซนทิเนลนั้นค่อนข้างจะเชี่ยวชาญในการหลบหนีและเอาชีวิตรอด พวกเขาไม่มีใครกลัวการไล่ล่าของซือเฟิงกับไฟเออร์แดนซ์เลย


“อย่างงั้นหรอ ?” แม้จะเห็นอย่างนี้ ซือเฟิงก็ยังคงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “แล้วถ้าเราเชิญนักเวทย์ขั้นสามอีกสองคนมาเข้าร่วมการต่อสู้ล่ะ ?”


ทันใดนั้นโทรเบิ้ลไทม์ก็ตระหนักได้ถึงบางอย่างที่ไม่ดี


อาชีพนักเวทย์นั้นเหมาะสำหรับการต่อสู้แบบทีมมากกว่าอาชีพทางกายภาพ พวกเขานั้นสามารถจะแสดงพลังได้มากกว่าในสนามรบขนาดใหญ่ ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นเลือกจะเชิญบลูฟอร์สมาช่วยเขตแสงสุดขีด


ทันใดนั้นพื้นที่ห่างจากสนามรบประมาณหนึ่งร้อยหลาก็เริ่มกลายเป็นภาพเบลอ จากนั้นบาเรียน้ำโปร่งแสงก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าผู้หญิงสองคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมนักเวทย์ที่สง่างาม และมานาทั้งหมดที่อยู่ภายในรัศมีสามร้อยหลาก็ได้เข้าไปรวมกับหญิงสาวทั้งสองคน ซึ่งมันก็ทำให้มานาหนาแน่นซะจนเกิดเป็นหมอกบางๆบริเวณรอบๆ


“นี่มัน …. นี่มันคือร่างมานาที่ปลดล๊อคศักยภาพได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วใช่ไหม ?”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)