Reincarnation Of The Strongest Sword God 2922-2923

ตอนที่ 2922 เสาโมโนลิธ


ท่ามกลางมวลหมู่เมฆและคริสตัลรูปทรงดอกกะหล่ำจำนวนมาก สุดยอดปรมาจารย์ทางจิตกำลังยืนกอดอกครุ่นคิด สายตาคู่นั้นจับจ้องมองดวงตะวัน ดุจจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่กำลังมองโลกกว้างไพศาลด้วยความเงียบสงบ เสาโมโนลิธขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางตึกระฟ้าทั้งหกสิบตึก และดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆตามความเร็วของเรือเหาะ จนกระทั่งแสงตะวันถูกบดบังในที่สุด

แสงสุริยันที่หายลับไปกลับมาพร้อมอากาศที่หนาวเย็น ชวนให้คิดถึงความทรงจำเก่าๆ ที่แสนจะมืดมน เปล่าเปลี่ยว ไร้ความสุข พื้นผิวอันราบเรียบของเสาโมโนลิธไม่อาจบ่งบอกกาลเวลาได้ แต่สัมผัสของมันกลับให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่ โบราณ จนไม่อาจระบุถึงอายุของมัน หากจะกล่าวเรียกว่าโบราณวัตถุก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะมันให้ความรู้สึกถึงความไร้กาลเวลา ความเป็นนิรันดร์ ราวกับมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้น หากแต่ปรากฏขึ้นมาเอง แล้วคงอยู่อย่างนั้นท่ามกลางแม่น้ำแห่งกาลเวลา


เมื่อไร้แสงสว่างส่องผ่าน …. คริสตัลที่อยู่บนเพดานก็ค่อยๆเปล่งแสงออกมาราวกับมีชีวิตเพื่อขับไล่เงามืดออกไป และมันก็เผยให้เห็นซือเฟิงที่กำลังยืนอยู่กลางห้องโถง ในขณะที่มันมีเรือเหาะคริสตัลกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางมวลเมฆ ซือเฟิงและพรรคพวกกำลังมุ่งหน้าไปยังเสาโมโนลิธ (ลองไปเสริ์ชเอา มันเป็นเสาหินขนาดยักษ์) ในขณะที่ระบบ Mind Space ทำให้เขาใช้สกิลไม่ได้ เขาจึงไม่อาจใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำของเขาเพื่อค้นหาความลับของเรือเหาะนี้ได้

เรือเหาะลำนี้มีขนาดเล็กกะทัดรัด ว่องไว และมีความคล่องตัวสูง สามารถตัดผ่านก้อนเมฆราวกับเขวี้ยงหินให้วิ่งไปบนผิวน้ำ ซึ่งจากการคาดเดาของเขา ระดับของมันก็น่าจะอยู่ในระดับเหล็กลึกลับไปจนถึงไฟน์โกลแน่นอน


เมื่อพิจารณาถึงเรือเหาะระดับเหล็กลึกลับ มันนับเป็นเรือเหาะระดับสูงสุดแล้วที่เขาเคยเห็นในช่วงสิบปีที่เขาเล่น God domain ในชีวิตแรก แต่ตอนนี้มันกับถูกใช้เป็นเพียงเรือเหาะขนส่งในระบบ Mind Space เท่านั้น และแม้มันจะดูไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็บ่งบอกถึงความร่ำรวยได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ใน God Domain หากพบเห็นมันจะต้องใฝ่ฝันถึงการได้มันมาไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน แต่ซือเฟิงกลับเหลือบมองผ่านๆเท่านั้น เขาจับจ้องมองเสาโมโนลิธก่อนจะครุ่นคิดเกี่ยวกับมันจนหลงลืมเวลา เขาไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากความแปลกประหลาดของมัน


มันมีโครงสร้างอย่างไรนะ?


แล้วมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกันล่ะ?


บริษัทกรีนก๊อดพบมันที่ไหน?


พวกเขาพบเจอของแบบนี้ในโลกหลักของGod Domain แล้วเคลื่อนย้ายเข้ามาในระบบ Mind Space งั้นหรอ ?


แล้วพวกเขาเคลื่อนย้ายมันเข้ามาได้ยังไง ?


ซือเฟิงได้ถามคำถามเหล่านี้กับผู้จัดการทั่วไปที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป แต่พวกเขาล้วนตอบมาว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ซึ่งก็ไม่อาจบอกได้ว่าไม่รู้จริงๆหรือแค่ไม่อยากบอกกันแน่


เซี่ยชิงหยางกับเซี่ยอู๋หยวนผู้เป็นปู่ ต่างก็ยืนอยู่ข้างหลังซือเฟิง และพวกเขาทั้งสองก็ล้วนโอนอ่อนยอมตามซือเฟิงทั้งหมด …. โดยในตอนนี้พวกเขาทั้งรู้สึกเคารพ และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อซือเฟิงมากๆ เพื่อที่จะพัฒนาพลังของตนเอง พวกเขาได้ทำการค้นหามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั่วทั้ง God Domain และจัดการไปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ราชันมังกร, เทพตกสวรรค์ , ราชันปีศาจชั้นสูง หรืออื่นๆอีกมากมาย


แต่กระนั้นในช่วงเวลาที่ซือเฟิงแสดงพลังที่แท้จริงในฐานะสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตออกมามันกับทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย และนี่มันก็นับเป็นครั้งแรกจริงๆที่พวกเขาได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ เพราะแม้แต่ตอนที่ไล่จัดการมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น พวกเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกขนาดนี้เลย


พวกเขาเคยแต่ได้ยินแต่ตำนานจิตสังหารของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตที่เป็นแรงกดดันทางจิต โดยเป็นเรื่องราวของผู้ก่อตั้งบริษัทกรีนก๊อด แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่ามันน่าประทับใจมากมายเพียงใด แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลเก่าแก่ก็ยังไม่กล้าชี้นิ้วสั่ง เพราะพวกเขาแทบจะตัวแข็งทื่อจากการรับแรงกดดันทางจิตนั่นเอง


สำหรับซือเฟิง เขาขี้เกียจที่จะใส่ใจกับความคิดของคนเหล่านี้ ลำพังตัวเขาเองก็มีปริศนาให้ต้องแก้อยู่ ทุกคนต่างก็มีระบบ Mind Space ซึ่งสามารถสร้างพื้นที่เสมือนเป็นของตนเองได้ โดยเริ่มต้นที่ระดับทองแดง ระดับของระบบ Mind Space สามารถเพิ่มได้ด้วยการแลกเปลี่ยนคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ หากใช้คริสตัลสามพันชิ้น ก็จะอัพเกรดจากระดับทองแดงไปเป็นระดับเหล็กลึกลับ และถัดไปก็เป็นระดับลึกลับขั้นเงิน และระดับที่เหนือขึ้นไป

นอกจากระดับของระบบ Mind Spaceแล้ว การขยายพื้นที่ก็สามารถทำได้โดยแลกเปลี่ยนด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ซึ่งทุกๆหนึ่งลูกบาศก์เมตรจะต้องแลกกับคริสตัลหนึ่งชิ้น ในระบบ Mind Space ระดับลึกลับขั้นเงิน ยังใช้คริสตัลเจ็ดลูมินารี่แลกเปลี่ยนกับวัสดุที่ใช้สำหรับก่อสร้างได้อีกด้วย และยิ่งระบบ Mind Space มีระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งแลกเปลี่ยนได้มากขึ้นเท่านั้น โดยสามารถแลกเป็นสิ่งของสำเร็จรูปได้ ไม่ว่าจะเป็น อาคารบ้านเรือน ผืนแผ่นดิน ป่าแมกไม้ ท้องทะเล ท้องนภา กระทั่งดวงอาทิตย์ขนาดเล็กดวงหนึ่งก็ยังแลกได้


ด้วยความรู้จากชีวิตก่อนหน้าของซือเฟิง ทำให้เขารู้ดีกว่าใครๆว่าระบบ Mind Space ของบริษัทกรีนก๊อดนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากความเรียบง่าย พื้นที่ที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นมีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล และเพียงแค่จะเดินทางไปยังเสาโมโนลิธจากตึกระฟ้าที่อยู่รอบๆ มันก็ยังต้องเดินทางด้วยเรือเหาะเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว ซึ่งเท่าที่ซือเฟิงคำณวนนั้น …. เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งโครงสร้างที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ จะต้องใช้คริสตัลเจ็ดลูมินารีเป็นล้านล้านชิ้นเลยทีเดียว และนี่ก็ยังไม่นับรวมตึกระฟ้าอื่นๆ ดวงอาทิตย์ ท้องนภา มวลหมู่เมฆและอะไรก็ตามที่อยู่เบื้องล่าง

นอกเหนือจากเรื่องของขนาด สภาพแวดล้อม และโครงสร้างของระบบ Mind Space แล้ว ระดับของระบบเองก็ยังเหนือกว่าที่ซือเฟิงเคยประสบพบเจอมาก่อน และจากมานาที่อยู่ในระบบ Mind Space ของบริษัทกรีนก๊อดที่เขาสัมผัสได้ บ่งบอกให้รู้ว่ามันต้องอยู่เหนือกว่าระดับไฟน์โกลอย่างแน่นอน

แต่สิ่งที่ยากจะเข้าใจก็คือ ระบบMind Spaceของบริษัทกรีนก๊อดสามารถลดระดับของทุกคนให้เหลือแค่ขั้น 3 อีกทั้งไม่สามารถใช้สกิลได้อีกด้วย แม้แต่ซือเฟิงที่อยู่ขั้น 6 และมีร่างเทพขั้นสูง ก็ยังถูกลดขั้นลงมาเป็นขั้น 3 และมีแค่ร่างมานาระดับดาร์คโกลเท่านั้น ซึ่งสำหรับตัวซือเฟิงที่ใช้ชีวิตใน God Domain มานานนับสิบปี ก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน


โดยปกติเมื่อผู้เล่นเข้าไปในระบบ Mind Space แบบทั่วไป ตัวละครของพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เว้นแต่สมบัติของผู้เล่นที่จะยังคงอยู่ในGod Domain ระบบ Mind Space ของบริษัทกรีนก๊อดเองก็ไม่สามารถนำสมบัติจาก God domain เข้ามาได้ด้วยเช่นเดียวกัน และสิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงก็คือร่างมานาที่ด้อยลงของซือเฟิง ทำให้เขารับรู้และควบคุมมานาได้ยากขึ้นมาก ถึงเขาจะรับรู้ได้จำกัด แต่ด้วยความเข้าใจที่มีต่อหลักการทำงานของมานาอย่างถ่องแท้ ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าทุกอย่างที่อยู่ในระบบ Mind Space ล้วนมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่

การซื้อวัสดุ สิ่งก่อสร้างหรือผืนแผ่นดินด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ดูเหมือนจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่ง่ายแสนง่าย แต่สำหรับคนอย่างซือเฟิงที่สร้างร่างเทพขั้นสูงจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่แล้ว เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสร้างวัสดุที่ผ่านการแลกเปลี่ยนมาขึ้นมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ โดยระบบ Mind Space ได้แยกมานาที่อยู่ภายในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ออกมา และเข้าสู่กระบวนการตามกฎแห่งการสร้าง ซึ่งตรงข้ามกับกฎแห่งการทำลายล้างที่ซือเฟิงเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง ตึกระฟ้าทั้งหลายและพื้นดินที่อยู่เบื้องล่าง ห้องประชุมที่ตกแต่งแล้ว หมู่เมฆในท้องนภา ดวงอาทิตย์ กระทั่งเรือเหาะล้วนสร้างมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ แต่กับเสาโมโนลิธนั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มันดูเป็นเอกลักษณ์ ดั้งเดิม การจะเรียกมันว่าสิ่งก่อสร้างก็ดูจะไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาก็ตามที และแม้ว่ามันจะดูเรียบง่ายแต่ก็ซับซ้อน จนเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างขึ้นมา นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มันอาจจะถูกสร้างขึ้นมาจากคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่อีก

“เหอะ ! …” ซือเฟิงที่กำลังจดจ่ออยู่กับความคิดของตนเอง ถึงกับแค่นเสียงเย้ยหยันให้กับความคิดอันไร้สาระของเขา เสาโมโนลิธทำให้เขาครุ่นคิดไม่รู้จบ ช่างขัดกับท่าทางอันเงียบสงบที่เขากำลังแสดงออกอยู่ เท่าที่เขาคิด และคำณวนมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างเสาโมโนลิธจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ เขาจึงคิดเรื่องความเป็นไปได้ในการเคลื่อนย้ายมันเข้าสู่ระบบMind Space ใครๆก็กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของทางกายภาพเข้าสู่โลกดิจิตอล แต่หลังจากที่เขาทำความเข้าใจข้อมูลที่อยู่ภายในคริสตัลมรดกของเทพโบราณ และการสร้างร่างเทพขั้นสูงจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ซือเฟิงก็เข้าใจความลับอีกหนึ่งอย่างของระบบ Mind Space ทันที


ระบบ Mind Space ไม่ใช่ระบบที่แยกออกจากกัน แต่มันเป็นโลกที่แยกออกจากกัน มันคือพื้นที่สี่มิติที่อยู่ในระนาบหนึ่งของพื้นที่สามมิติ ใครก็ตามที่นึกถึงชื่อระบบ Mind Space ต่างก็รู้ว่ามันคือ พื้นที่ที่อยู่ในจิตใจ แต่เมื่อซือเฟิงหลอมรวมคริสตัลวิญญาณเทพโบราณของชายหนุ่มนักวิชาการ ประกอบกับการที่เขามีความรู้ความเข้าใจในคริสตัลมรดกของเทพโบราณ ทำให้เขาเข้าใจเรื่องมานาอย่างทะลุปรุโปร่ง เขาจึงเจาะเข้าถึงความจริงที่ลึกที่สุดของระบบ Mind Space โดยทั้งสองอย่างนี้ล้วนสร้างจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ดังนั้นในทางทฤษฎีแล้ว พวกเขาสามารถเชื่อมต่อและหลอมรวมเข้าด้วยกันได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงเรียกระบบ Mind Space ว่า ขอบเขตแห่งพระเจ้า(Realm of God)

เมื่อหลอมรวมและเชื่อมต่อกันแล้ว เขาน่าจะสามารถดูดซับไอเท็มจาก God Domain เข้าสู่ระบบ Mind Space ของเขาได้ และก็สามารถนำไอเท็มออกจากระบบ Mind Space กลับไปยัง God Domain ได้ด้วย รวมถึงการนำคริสตัลเจ็ดลูมินารี่จาก God Domain เข้าสู่ระบบ Mind Space แล้วเปลี่ยนพวกมันเป็นวัสดุหรือสิ่งก่อสร้าง จากนั้นก็นำกลับไปยัง God Domain

นี่นับเป็นความรู้ที่ไม่มีการบันทึกอยู่ที่ใด และมันก็ล้วนมาจากความรู้ความเข้าใจโดยใช้พลังของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตของเขาเอง ซือเฟิงเริ่มมั่นใจในความคิดนี้ แต่มันก็ยังคงเป็นแค่สมมติฐานจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามันคือเรื่องจริง แต่กระนั้นตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถทำการทดสอบใดๆได้ เพราะ Mind Space ของเขายังเป็นระดับทองแดงเท่านั้น


ซือเฟิงแหงนมองขึ้นไป จนกระทั่งเริ่มมองไม่เห็นยอดเสาโมโนลิธที่กำลังใกล้เข้ามาทุกที


“สรุปว่าเรื่องนี้มันคืออะไรกันแน่เนี่ย ?” ซือเฟิงบ่นพึมพำ แม้ว่าเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก แต่มันก็ยังมีหลายสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของเขา หรือบางสิ่งที่จะดูดซับสิ่งก่อสร้างอันใหญ่โตมโหฬารเข้ามาในระบบ Mind Space เสาโมโนลิธนี้ให้ความรู้สึกว่ามันตั้งอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว ไม่สามารเคลื่อนย้ายได้


แล้วพวกเขาทำได้อย่างไรกันนะ?


ไม่กี่นาทีต่อมา ซือเฟิงก็มาถึงตรงหน้าโค้งขนาดใหญ่ และภายในมีประตูวงกลมล็อคอยู่ ประตูนั้นมีขนาดใหญ่โตแต่กลับถูกบดบังด้วยเสาโมโนลิธ ผิวของมันไม่มีสัญลักษณ์ ไม่มีของประดับตกแต่ง ไม่มีรอยสลัก ไม่มีอักษรรูน มีเพียงความเรียบลื่นเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เก่าแก่และอลังการใน God Domain จะต้องแผ่ออร่า Divine Might ออกมา แต่เสาโมโนลิธกลับให้ความรู้สึกเป็นกลาง ว่างเปล่า และสงบนิ่ง

ประตูไม่ได้เปิดออก แต่เรือเหาะก็ยังคงมุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วตามปกติ หากยังคงมุ่งหน้าต่อไปพวกเขาจะต้องชนแน่ๆ ราวกับโยนก้อนหิมะใส่ภูเขา ซือเฟิงมองไปยังเซี่ยชิงหยางกับเซี่ยอู๋หยวนที่กำลังยืนอยู่ข้างหลัง พวกเขากำลังพยายามหลอมรวมอะไรบางอย่างเข้าไปในแก่นพลังงานของเรือเหาะ ชั่วขณะนั้นเอง แก่นพลังงานก็สว่างวาบ เผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหี่ยวย่นของเซี่ยอู๋หยวน ดูเหมือนว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้ว แสงของแก่นพลังงานแผ่กระจายไปทั่วทั้งตัวเรือเหาะ ทำให้รอบข้างนั้นสว่างไสว ทุกตารางนิ้วล้วนเปล่งประกายเจิดจ้า จนยากที่จะลืมตามอง และถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่ก็ได้ยินเสียงคริสตัลที่อยู่รอบๆตัวเรือกำลังปริแตก มานาเริ่มรั่วไหลราวกับเรือเหาะกำลังถูกไฟไหม้


พวกเขากำลังทำอะไรน่ะ? พยายามจะระเบิดมันหรือไง ?

จากนั้นเรือเหาะก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่มานาและแสงสว่างอันเจิดจ้าจะสลายหายไป


เมื่อซือเฟิงลืมตาขึ้นมา สีหน้าอันเงียบสงบของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดในทันที ตอนนี้ทุกอย่างที่ซือเฟิงเห็นเมื่อครู่มันได้หายไปทั้งหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่เรือเหาะ และตอนนี้เขาก็ได้มายืนอยู่ที่ห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งภายในนี้มีมานาที่หนาแน่นมากๆจนมันทำให้เกิดออร่ามานาเจ็ดสี และทุกตารางนิ้วนั้นก็ล้วนมีคริสตัลเจ็ดลูมินารี่งอกขึ้นมา โดยพวกมันทั้งหมดก็ล้วนส่องสว่างด้วยแสงสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน


การกระโดดข้ามมิติ ….


ซือเฟิงเพิ่งเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที พวกเขาข้ามประตูนั้นมาด้วยการใช้การกระโดดข้ามมิติ สร้างรอยแยกมิติแล้วข้ามไปอีกฟากหนึ่ง โดยกระบวนการนี้มันก็ทำให้ต้องเสียเรือเหาะไป แต่กระนั้นมันก็นับเป็นราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการข้ามประตู


เมื่อได้เห็นความยิ่งใหญ่ของห้องโถงและภาพเหตุการณ์ก่อนหน้า ซือเฟิงก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาเข้าใกล้แกนกลางของเสาโมโนลิธแล้ว แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ซือเฟิงเคร่งเครียด บันไดหลายขั้นทอดลงสู่ห้องโถงที่ปกคลุมไปด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ฉากเดจาวูฉายวาบเข้ามาในใจเขา ซือเฟิงกำลังจ้องมองคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ที่มีจำนวนมากมายเท่าภูเขาขนาดใหญ่ และแต่ละยอดของภูเขาจะมีโมโนลิธขนาดเท่าคนสร้างจากคริสตัลสีฟ้าอ่อน ที่ฐานโปร่งแสงของโมโนลิธถูกจารึกด้วยอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์สีทองจำนวนนับไม่ถ้วน เขาเคยเห็นภูเขาแบบนี้มาก่อนแล้วใน God Domain


ย้อนกลับไปตอนที่ซือเฟิงกับไฟเออร์แดนซ์และอควาโรสกำลังสำรวจ แมนชั่นสุริยันม่วง (Purple Sun Mansion อยู่ในตอน 271) ในเมืองไวท์ริเวอร์ พวกเขาก็บังเอิญได้รับเควสปาฎิหาริย์เปิดผนึก ซึ่งเควสนั้นพาพวกเขาไปยังภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ในขณะที่การค้นพบนี้ทำให้เขางุนงงเล็กน้อย แต่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ซือเฟิงเคร่งเครียดนั้นก็เพราะว่ามีสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตคนหนึ่งยืนอยู่บนบันไดขั้นที่หนึ่งของชั้นล่าง ซึ่งกำลังส่งยิ้มอันจอมปลอมมาให้


เมื่อซือเฟิงเห็นคนผู้นี้ในสถานที่แห่งนี้ ทำให้เขานึกถึงตอนที่ถูกกลั่นแกล้ง คนคนนี้เคยส่งเขาไปทำเควสที่เป็นไปไม่ได้ โยนเขาเข้าสู่สถานการณ์ที่อันตรายซึ่งหวิดจะทำให้ตาย และยังปล้นเงินไปจากเขาเป็นประจำทุกครั้งที่พบกัน โดยในการพบกันครั้งแรกนั้น คนๆนี้เป็นเพียงพวกระดับสูงเลเวลแปดเท่านั้น แต่กระนั้นหลังจากนั้นไม่นานคนๆนี้ก็เปลี่ยนจากพวกระดับสูง เลเวล 8 ไปเป็น Divine Official เลเวล 20 ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาก็กลายเป็นพวกขั้น 3 เลเวล 180 จากนั้นก็กลายเป็น Red Official ขั้น 5 เลเวล 200 ภายในเวลาอันรวดเร็ว คนคนนี้เข้ามาก้าวก่ายเควสของเขามาแล้วหลายครั้ง

เสียงหวานใสลอยไปตามอากาศ “นายนี่ช่างสมเป็นบุคคลที่ได้รับพรจากสวรรค์อย่างแท้จริง!” พร้อมกับหัวเราะคิกคัก

ซือเฟิงพบว่าคนที่อยู่บนยอดภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ซึ่งล้อมรอบด้วยเสาโมโนลิธสีฟ้าอ่อนกลับกลายเป็นคนที่เขาคุ้นเคยมากๆ


“….ชาร์ลีน”

 

 

 


ตอนที่ 2923 ชาร์ลีนกับเคบินโลกหลัก

 

ตอนที่ 2923 ชาร์ลีนกับเคบินโลกหลัก


“ชาร์ลีน ….”


คำพูดเปล่งออกมาจากปากของซือเฟิงขณะที่เขาจ้องมองไปยังรอยยิ้มอันชั่วร้ายของชาร์ลีน มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขาโดนหลอกมาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอหลอกลวงเขาได้มากกว่าที่เขาคิดไว้มาก ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขา เธอหลอกเขาด้วยการปิดบังรูปร่างหน้าตาตนเองมาตลอด และแม้เขาจะใช้ชีวิตใน God Domain มานานนับสิบปีแต่เขากลับมองข้ามความจริงหลายสิ่งไป ความจริงซึ่งเขาควรจะค้นพบได้ตั้งนานแล้ว


เขารู้มาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรสักอย่าง เพราะตั้งแต่พบกันครั้งแรกเขาก็รู้สึกได้เลยว่าชาร์ลีนนั้นดูเหมือนกับเป็นมนุษย์มากกว่า NPC โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่จะมี แพ็คเสริม “การกลับมาของฮีโร่” ที่ทำให้ NPC มีสติปัญญา มีอารมณ์ และมีบุคลิกส่วนตัว นอกจากนั้นแล้ว NPC ประเภทใดกันที่จะเปลี่ยนจาก พวกระดับสูง เลเวล 8 ไปเป็น Divine Official เลเวล 20 ได้อย่างง่ายดายราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า


ซือเฟิงคิดแค่เพียงว่าเธอคงจะเป็น NPC คนสำคัญ เพราะท้ายที่สุดใครมันจะไปคิดกันว่าผู้เล่นจะปลอมตัวเป็น NPC ตั้งแต่ช่วงแรกๆของเกม และแม้ตอนหลังเขาจะได้รับสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำมา แต่เธอก็ยังคงหลอกเขาได้อีก ซึ่งมันมีเพียงการปกปิดในขอบเขตเทพทั่วไป หรือ สูงยิ่งกว่านั้นเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้


ในตอนนี้ซือเฟิงจ้องมองไปยังชาร์ลีนอย่างไม่วางตา และแม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เขาได้เห็นตรงหน้า แต่สมองของเขามันก็ประมวลผลทุกความเป็นไปได้จนเหลืออย่างเดียวแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำใจเชื่อมัน … นอกเหนือจากนี้เมื่อซือเฟิงลองแผ่ออร่าทางจิตของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตเข้าใส่ชาร์ลีน แต่ชาร์ลีนไม่ได้รับผลกระทบนั้น มันก็ทำให้เขาแน่ใจได้อีกอย่างหนึ่งว่าเธอต้องเป็นสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตแน่นอน และจากที่เขาได้ยินมาตอนนี้นั้นนอกเหนือจากตัวเขา โลกนี้มีสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือผู้ก่อตั้งบริษัทกรีนก๊อด


“ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ เอาแต่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อ ทั้งที่ฉันทำทุกอย่างเพื่อนายนะ” ชาร์ลีนกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ


ซือเฟิงทำสีหน้าปั้นยากทันที เมื่อได้ยินคำพูดของชาร์ลีน หากจะพูดว่าเธอคอยช่วยเหลือเขามันก็ถูกแต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากหลายครั้งการช่วยเหลือของเธอมันคือการมอบเควส และภารกิจที่ยากจนอยู่ในระดับที่เป็นไปไม่ได้ให้เขา แต่กระนั้นแม้ว่าซือเฟิงจะไม่ค่อยพอใจ เขาก็ยังคงสงบนิ่ง ผู้ก่อตั้งบริษัทกรีนก๊อดไม่ใช่คนที่เขาจะเล่นด้วยได้ และเขาก็บอกได้เลยว่า ไม่มีอะไรหลุดรอดออกไปจากสายตาของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างแน่นอน


“ฉันแค่ไม่คิดว่ามันจะเป็นคุณน่ะ ท่านหญิงชาร์ลีน หรือจะให้ฉันเรียกคุณอีกชื่อซึ่งเป็นชื่อที่แท้จริงของคุณ …. คุณผู้ก่อตั้งบริษัทกรีนก๊อด” ซือเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย


เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ชาร์ลีนก็ชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาอย่างสดใส และกล่าวว่า “ดูเหมือนนายจะเชื่อมโยงทุกอย่างได้หมดแล้วสินะ …. นายนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!”


“แล้วก็เรียกฉันว่าชาร์ลีนเฉยๆก็ได้ ส่วนชื่อของนายจะให้ฉันเรียกว่าอะไร ? ซือเฟิง? เย่เฟิง? แบล็คเฟลม?” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ชาร์ลีนก็นำนิ้วชี้ไปแตะที่ริมฝีปากตัวเอง ก่อนที่จะยิ้มอย่างขี้เล่น และกล่าวลงท้ายว่า “หรือ…ฟรอสต์อายดี?”


ซือเฟิงหรี่ตามองหญิงสาว เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคอยเฝ้าจับตาดูเขามาตลอด


ฟรอสต์อายคือนามแฝงที่เขาใช้สองสามครั้งในช่วงแรกของเกมเพื่อปกปิดตัวตนของเขา และเขาไม่กล้าใช้นามแฝงนี้อีกเพราะเมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะมีเครื่องมือ สกิล และเวทย์ที่สามารถตรวจจับได้ แม้แต่เสื้อคลุมไนท์วอล์คเกอร์ระดับตำนาน และ หน้ากากปีศาจ ก็ไม่อาจใช้ปกปิดตัวตนได้อีกต่อไป หากมีคนรู้ตัวตนของฟรอสต์อายละก็ คิงส์รีเทิร์นและดอกไม้แห่งเจ็ดบาป จะต้องพยายามกวาดล้างสภาสิบแปดปีกให้หายไปจาก God Domain อย่างแน่นอน


“เรียกฉันว่า ซือเฟิงก็แล้วกัน ว่าแต่บอกหน่อยสิ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับฉันบ้าง”ซือเฟิงกล่าวถาม


เธอจะรู้ไหมว่าฉันเป็นผู้กลับชาติมาเกิดน่ะ ? ซือเฟิงครุ่นคิดในใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วการตัดสินใจที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน God Domain ของเขามันจัดว่าสมบูรณ์แบบมากๆ และเขาก็ได้ทำให้กิลด์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆจากใครเลยขึ้นมาผงาดในเกมนี้เหนือกว่าซุเปอร์กิลต่างๆจำนวนมาก ดังนั้นหากจะบอกว่าไม่มีใครจับตาดูเลย หรือประหลาดใจกับเรื่องนี้เลยมันก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกมาก


แถมในตอนที่เขาสามารถใช้ Void Steps ที่นับเป็นเทคนิคการต่อสู้ได้ครั้งแรก เขาก็ไม่ได้รับข้อความจากระบบเรื่องการสร้างเทคนิคต่อสู้ขั้นสูงด้วย ดังนั้นเขาจึงคาดเดาว่าเทคนิคนี้อาจจะมีต้นกำเนิดมาจาก God Domain เพียงแต่มันซ่อนอยู่ในศิลาจารึกเทคนิคลับที่ยังไม่ถูกค้นพบก็เท่านั้น นอกเหนือจากนี้มันยังมีเรื่องที่เขาชนะการต่อสู้และสงครามกิลด์มาหลายต่อหลายครั้ง โดยใช้ประโยชน์จากสไตล์การต่อสู้ที่หลายคนไม่รู้จัก รวมไปถึงยุทธวิธีรบแบบกองโจรที่เขาได้เรียนรู้มาจาก God Domain ในชีวิตแรกของเขาด้วย


นอกจากนี้เขาก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันต่างๆที่หลายคน ณ ตอนนั้นไม่รู้จักได้อีก เช่น การเชื่อมรวมบ้านประมูล และการส่งกองกำลังเข้าไปประจำการในเมืองสกายสปริงทันที หลังจากที่ได้ช่วยให้ฟรอสต์ฮีฟเว่น ได้รับที่นั่งสำรองลำดับที่หกในสิบสองกิลด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ God Domain นี่ยังไม่กล่าวถึงเรื่องที่เขามีวิธีการที่สมบูรณ์แบบในการคืนชีพและฟื้นฟูต้นไม้โลก และสร้างเวิร์คช็อปจากหินไพรมอลวอยเพื่อเพิ่มพลังทางจิตจิตและอัตราความสำเร็จ ซึ่งเรื่องพวกนี้หากเธอเฝ้าจับตาดูเขาอยู่ตลอด เธอจะต้องได้เห็นมันทั้งหมดแน่นอน


“ฉันเห็นมามากพอ มากจนรู้ว่านายโชคดีอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว หรือไม่นายก็กำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่” ชาร์ลีนตอบพร้อมกับใช้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบตากับซือเฟิง


ซึ่งเมื่อซือเฟิงได้ยินเช่นนั้น เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ฟังจากคำตอบแล้ว มันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเธอแค่สงสัยความรู้อันมากมายที่เขาไม่ควรมีเท่านั้น แต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด


“นายช่างแตกต่างจากผู้เล่นที่น่าสนใจคนอื่นๆอยู่มากมายเชียวล่ะ” ชาร์ลีนกล่าว ก่อนที่เธอจะพูดต่ออีกว่า “ในตอนแรกเริ่ม นายเพิ่งจะเป็นแค่ครึ่งก้าวขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น แต่นายกับประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงเมื่อเทียบกับขอบเขตโดเมนคนอื่นๆ”


“ผู้เล่นคนอื่นที่น่าสนใจคนอื่นๆอย่างนั้นหรือ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้


“อย่าเพิ่งมั่นใจในตัวเองมากไปล่ะ ต่อให้นายจะกลายเป็นคนที่น่าสนใจที่สุด ทั้งยังได้เป็นสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตคนแรก แต่นายก็ไม่ใช่ผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ฉันกำลังเฝ้าจับตามอง” ชาร์ลีนกล่าวดักคอซือเฟิง


เควสแรกที่เขาได้รับจากชาร์ลีนคือ Darkness Descends ซึ่งทำให้เขาได้รับเศษชิ้นส่วนไบเบิ้ลแห่งความมืดมา แต่ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา คนที่ได้รับมันไปนั้นก็คือ Fantasy Extinguisher ซึ่งอาศัยอยู่ในจักรวรรดิมังกรดำ ชาร์ลีนเคยติดต่อกับกิลๆนี้ในชีวิตก่อนนี้หรือเปล่านะ? แล้วถ้าเป็นแบบนี้มันก็หมายความว่าเขาไปขโมยความรุ่งเรืองของ Fantasy Extinguisher มาใช่ไหม ?


“แล้วอะไรที่ทำให้คุณหันมาสนใจฉันแบบจริงๆจังๆล่ะ ชาร์ลีน”


“อืมมม… อะไรน่ะเหรอ ? ก็ตอนที่ทีมของคุณยังไม่มีใครเข้าสู่ขอบเขตการปรับแต่ง แต่กลับเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่ได้รับเฟิร์สเคลียร์ดันเจี้ยนโหมดนรกน่ะสิ … ” ชาร์ลีนกล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมา


สรุปแล้วมันก็เป็นเพราะการได้รับเฟิร์สเคลียร์โหมดนรกนั่นเอง เป็นอย่างที่คิดไว้เลย… ซือเฟิงคิดในใจ


“เอาจริงๆ … ตอนแรกฉันก็หงุดหงิดมากนะ ฉันเฝ้าเพียรพยายามที่จะคัดกรองอัญมณีออกจากก้อนกรวดของโลกย่อย เพื่อที่จะให้เข้าไปในโลกหลัก แต่กลับมีใครไม่รู้มาได้รับเฟิร์สเคลียร์ไปแบบดื้อๆ” ชาร์ลีนกล่าวพลางหัวเราะคิกคัก แล้วพูดต่อว่า

“ดังนั้นเพื่อระบายความหงุดหงิด ฉันเลยให้นายไปทำเควสที่ยากจนเป็นไปไม่ได้ แต่นายกลับเอาชีวิตรอดมาได้ทั้งยังได้รับไบเบิ้ลแห่งความมืดฉบับจริงกลับมาอีกด้วย” ชาร์ลีนกล่าวพลางยักไหล่ และถอนหายใจออกมา


“ตอนแรกฉันก็ตกใจนะ แล้วฉันก็เริ่มสนใจนายมากขึ้นเรื่อยๆมานับตั้งแต่นั้น แต่เมื่อเฝ้าจับตามองนายเรื่อยๆ ฉันกลับยิ่งรู้สึกตกตะลึงมากขึ้นจนเกินจะบรรยายได้ มันราวกับว่านายรู้วิธีการที่ดีที่สุด อย่างกับมองเห็นอนาคต แต่ฉันรู้ว่านายมองไม่เห็นหรอก กฎแห่งโชคชะตาถูกทำลายไปพร้อมกับการทำลายล้างครั้งใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงสงสัยอยู่ดีนั่นแหละ ว่านายทำได้อย่างไรกัน” ชาร์ลีนพูดด้วยรอยยิ้ม


เมื่อได้ยินดังนี้ซือเฟิงก็ยักไหล่ และตอบว่า “ฉันก็แค่อ่านหนังสือในห้องสมุดของ God Domain มามากน่ะ” ซึ่งข้อแก้ตัวนี้มันก็นับเป็นข้อแก้ตัวที่เขาใช้อยู่ทุกครั้ง ในเมืองหลวงของประเทศต่างๆของ God Domain มันจะมีห้องสมุดอยู่มากมาย และห้องสมุดเหล่านี้ต่างก็เต็มไปด้วยหนังสือหลายหมื่นเล่ม อีกทั้งยังมีห้องสมุดที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง ห้องสมุดในเมืองไททัน ที่มีหนังสืออยู่เป็นล้านเล่ม เมื่อรวมหนังสือทั้ง God Domain มาจัดหมวดหมู่ มันก็น่าจะครอบคลุมเกือบทุกอย่าง


ชาร์ลีนจ้องมองซือเฟิงด้วยแววตาที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเธอไม่เชื่อ “ไม่หรอก นายไม่ได้อ่านหนังสืออะไรทั้งนั้นแหละ…”


ซึ่งเมื่อเป็นดังนี้ ซือเฟิงก็ถึงกับเหงื่อตก …. “มันก็ไม่ใช่แค่ใน God Domain หรอก เพราะท้ายที่สุดฉันให้ผู้ช่วยของฉันทำสรุปหลายอย่างมาให้อ่านในโลกจริงด้วย”


ซือเฟิงเอ่ยโกหกแถไปดื้อๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแค่จับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด หากแต่จับตาดูทุกย่างก้าวเลยต่างหากล่ะ!


“นอกจากนี้ ฉันเองก็ฉลาดพอตัวอยู่ด้วย” ซือเฟิงรีบกล่าวเสริม


“ฉลาดอย่างนั้นหรือ? ฮืมมม….” ชาร์ลีนพึมพำกับตนเอง เหตุผลของซือเฟิงนั้นมันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อพิจารณาจากชายหนุ่มที่เริ่มต้นจากครึ่งก้าวขอบเขตปรับแต่ง แล้วพัฒนาไปเป็นขอบเขตโดเมนได้ภายในหนึ่งปี ….


นอกเหนือจากนี้เขาก็ยังพัฒนาจากปรมาจารย์กำลังภายในไปเป็นสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตได้ภายในปีกว่าๆ ดังนั้นการคาดเดาที่สุดยอดกับความฉลาดของเขาอาจจะยอดเยี่ยมพอๆกับความสำเร็จด้านอื่นๆก็เป็นได้ ….


“ฉันคิดว่ามันก็น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้านายยังมีความลับอื่นๆ ที่เราสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ก็อย่าเก็บไว้กับตัวเอง บอกฉันได้ เราทั้งคู่ต่างก็เป็นสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตจากโลกเดียวกัน เราควรจะร่วมมือร่วมใจกันนะ” แม้ว่าชาร์ลีนจะยังคงสงสัยอยู่ แต่เธอก็เลือกจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป เพราะท้ายที่สุดสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆตอนนี้ก็คือการที่ซือเฟิงได้กลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตแล้ว และสามารถจะเข้าร่วมกับพวกเขาในโลกหลักได้แล้ว


ทำไมเขาจะต้องบอกว่าเขากลับชาติมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ? ทำไมสิ่งเหล่านี้จะช่วยพวกเขาได้? ซือเฟิงเยาะเย้ยในใจ


“คุณหมายถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ? นั่นใช่ไหมที่คุณหมายถึง?”


“ไม่เอาน่า ช่วยทำท่าทีซาบซึ้งเล็กๆน้อยๆก็ยังดี หากฉันไม่โยนนายลงนรก นายก็คงไม่พัฒนาได้เร็วขนาดนี้หรอก จริงไหม? …. นักรบที่แข็งแกร่งจะต้องไม่ถูกประคบประหงมจนเกินไป”


ซือเฟิงรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดล่าสุดของชาร์ลีน …..


อย่างไรก็ตามชาร์ลีนไม่ได้สนใจท่าทีของซือเฟิงมากนัก และเมื่อเธอกล่าวจบนั้น เธอก็ได้จัดการยกแขนของตัวเองขึ้น เผยให้เห็นพื้นแกนกลางของเสาโมโนลิธ ทุกอย่างปกคลุมไปด้วยคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ทั้งพื้น กำแพง ไปจนถึงเพดาน ขณะที่ตรงกลางมันก็มีภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ขนาดมหึมาอยู่หลายสิบลูก โดยบนยอดเขาแต่ละลูกจะมีเสาโมโนลิธสีฟ้าอ่อนขนาดเท่าคนอยู่ด้วย ภูเขาเหล่านี้ช่างเหมือนกันกับตอนที่เขาเผลอเปิดผนึก Endless Abyss เหมือนกันทุกประการเลยทีเดียว เหตุการณ์ในตอนนั้นทำให้เกิดแพ็คเสริม ‘The Great Catastrophe’ มาพร้อมกับเควสเนื้อเรื่องหลักระดับตำนาน ‘สมบัติทั้งเจ็ด’ เพื่อที่จะปิดผนึก Endless Abyss อีกครั้ง เขาจำเป็นต้องรวบรวมสมบัติทั้งเจ็ดมาให้ได้


“ได้เห็นท่าทางของนายแล้ว ฉันก็รู้สักทีว่าใครเป็นคนทำลายเคบินโลกย่อยของฉัน”


“เคบินโลกย่อยของคุณงั้นหรอ ?” สายตาของซือเฟิงหันกลับไปมองภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ “พวกนั้นคือเคบินโลกย่อยของคุณงั้นหรอ ?”


“ก็ไม่เชิงหรอก” ชาร์ลีนส่ายหน้าแล้วตอบว่า “เคบินโลกย่อยใช้ในการเดินทางในโลกย่อย แต่พวกนั้นน่ะคือเคบินโลกหลัก” ซือเฟิงเบิกตากว้างมองดูภูเขาเหล่านั้น ชาร์ลีนพลันแย้มยิ้มอย่างน่ารักแล้วพูดอีกว่า “ใช่แล้ว ภูเขาแต่ละลูกคือเคบินโลกหลัก มีเพียงสิ่งเหล่านี้เท่านั้นที่ทำให้เราเชื่อมต่อกับโลกหลักของ God Domain ได้ พลังงานของเคบินพวกนี้จะถูกเติมจากเคบินที่อยู่ศูนย์กลาง”


โดยเคบินที่อยู่ศูนย์กลางนั้นมีเสาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่อยู่ ขณะที่ด้านบนของมันก็มีเสาโมโนลิธสีม่วงอ่อน ภูเขาลูกอื่นๆเองก็มีลักษณะเดียวกัน แต่เสาที่อยู่ตรงศูนย์กลางนั้นดูสง่างามที่สุด


“ส่วนเคบินนั้นที่อยู่ในศูนย์กลางนั้นจะมีก็แต่สุดยอดปรมาจารย์ทางจิตเท่านั้นที่เข้าไปได้ หากครึ่งก้าวสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตเข้าไปใช้มัน จิตใจของพวกเขาจะทำงานหนักเกินไปและได้รับความเสียหาย แต่ที่สำคัญที่สุด คือ เคบิน God Domain โลกหลักเหล่านี้ ล้วนต้องสร้างขึ้นภายในศูนย์กลางของอุปกรณ์เท่านั้น ไม่เช่นนั้น มันก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ God Domain โลกหลักได้” ชาร์ลีนสรุปคร่าวๆพร้อมกับชี้ไปรอบๆตัวเธอ และชี้ไปยังเสาโมโนลิธขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มพวกมันไว้อีกทีหนึ่ง


“เสาโมโนลิธคืออุปกรณ์มิติที่สี่ใช่ไหมงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ


ชาร์ลีนขำเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบ “มันเป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละ นายควรรีบไปลองได้แล้ว”

ซือเฟิงค่อยๆเก็บข้อมูลไปเรื่อย เขาถามต่อว่า “แล้วคุณย้ายอุปกรณ์เข้ามาในระบบ Mind Space ได้ยังไง?”


นี่เป็นหนึ่งในปริศนาที่รบกวนจิตใจเขามาตลอด ….


ชาร์ลีนถอนหายใจอย่างหงุดหงิดแล้วส่ายหน้าพลางตอบว่า “ระบบ Mind Space นี่ไม่ใช่ของฉันและก็ไม่ใช่ของบริษัทกรีนก๊อดด้วย มันไม่ใช่ของใครทั้งนั้น มันคือสถานที่ในมิติที่สี่ สถานที่ที่เข้าถึงได้จากทุกที่บนโลก แทนที่จะเรียกว่าระบบ Mind Space สู้เรียกว่าระบบ Planet Space จะดีกว่า ส่วนอุปกรณ์นั่น มันอยู่ตรงนั้นในมิติที่สี่นี้มาตลอด ซึ่งมันก็คงจะมาพร้อมกับการก่อตัวของโลกน่ะแหละ”


เมื่อภาพที่เลือนรางค่อยๆชัดเจนขึ้น ซือเฟิงที่ดูสับสนก็ค่อยๆสงบลง ทุกอย่างเริ่มสมเหตุสมผล บริษัทกรีนก๊อดจะสร้างระบบที่ล้ำหน้าและกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ได้อย่างไร? ยังมีเสาหินโมโนลิธขนาดใหญ่ที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ อุปกรณ์เหล่านั้น มันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? สรุปแล้ว บริษัทกรีนก๊อดก็ไม่อาจทำได้นั่นเอง


“แล้วพวกตึกระฟ้ากับเรือเหาะล่ะ?” ซือเฟิงเอ่ยถามอีก


“ฉลาดมากที่ถาม” ชาร์ลีนตอบพลางหัวเราะเล็กน้อย


“แน่นอนว่า มันไม่เคยมีมาก่อนหรอก แต่เมื่อฉันเป็นคนแรกที่ค้นพบอุปกรณ์ ฉันก็ได้รับสิทธิ์ในการจัดการระบบ Planet Space เช่นเดียวกับระบบ Mind Space ระดับสูง ระบบก็อนุญาตให้ฉันสร้างอะไรก็ได้ที่ต้องการโดยแลกเปลี่ยนกับคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ ไม่เพียงแต่ตึกระฟ้าและเรือเหาะเท่านั้น แต่ยังรวมถึง เคบินโลกย่อย เคบินโลกหลัก และ เคบินโลกหลักสีม่วงอ่อนอีกด้วย”


ชาร์ลีนถอนหายใจขณะหันไปมองเสาโมโนลิธสีม่วงอ่อนที่อยู่ตรงศูนย์กลาง “แต่ครั้งแรกที่ฉันเข้ามาที่นี่ มันไม่มีคริสตัลเจ็ดลูมินารี่เลยนะ มันมีเพียงแค่เคบินโลกหลักสีม่วงอ่อนตรงนั้น ฉันเข้าถึงโลกหลักของ God Domain แล้วก็ต้องใช้เวลาหนึ่งปีในการสะสมคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่เพื่อสร้างเคบินโลกหลักสีฟ้าอ่อน ซึ่งทำให้ครึ่งก้าวสุดยอดปรมาจารย์ขั้นจิตสามารถมาเข้าร่วมกับฉันในโลกหลักได้”


“แต่เคบินโลกหลักสีม่วงอ่อนหนึ่งเคบินจะเชื่อมต่อกับเคบินโลกหลักสีฟ้าอ่อนได้เพียงหกสิบเคบินเท่านั้น และจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่มีสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตคนอื่นที่สามารถใช้เคบินโลกหลักสีม่วงอ่อนได้อีก แต่ตอนนี้เรามีสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตคนใหม่แล้ว นั่นก็คือ นาย!”


ซือเฟิงพยักหน้ารับ เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว “แต่ทำไมคุณถึงมีเคบินโลกย่อยด้วยล่ะ คุณเข้าร่วม God domain โลกย่อยผ่านเคบินในโลกจริงไม่ได้งั้นหรอ ?”


ชาร์ลีนเกร็งเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำถามของซือเฟิง ก่อนที่เธอจะตอบว่า “เพื่อให้สามารถเข้าร่วมโลกหลักของ God Domain ได้อย่างสมบูรณ์ นายจะต้องเชื่อมต่อกับระบบ Mind Space ไปยังเคบินโลกหลัก เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว นายจะเสียการเชื่อมต่อกับโลกย่อยไปอย่างถาวร และไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก นอกจากว่านายจะเชื่อมต่อกับระบบ Mind Space อีกครั้งด้วยเคบินโลกย่อย” เธอถอนหายใจแล้วพูดอีกว่า “ขอร้องเถอะ ลืมเรื่องโลกย่อยไปนะ อย่าเสียเวลาและทรัพยากรอันล้ำค่าไปกับการสร้างเคบินโลกย่อย สู้มาเข้าร่วมกับเราในโลกหลักของ God Domain ดีกว่า!”


ซือเฟิงขมวดคิ้ว หากจะเชื่อมระบบ Mind Space ของเขาไปยังหนึ่งในเคบินโลกหลักที่อยู่ในอุปกรณ์ เขาจะไม่สามารถกลับไปยังโลกย่อยของ God Domain ได้อีก ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะไม่สามารถไปไหนได้ และจะถูกขังอยู่ในอุปกรณ์ตลอดกาล แม้ว่าเขาจะสร้างเคบินโลกย่อยขึ้นมา แต่ตราบใดที่ชาร์ลีนยังคงมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการอุปกรณ์นี้อยู่ ทั้งเขา เคบินโลกหลักและเคบินโลกย่อยจะขึ้นอยู่กับเธอโดยสมบูรณ์


ขณะที่ซือเฟิงเริ่มแสดงสีหน้าบูดบึ้ง ความทรงจำที่ฟินิกซ์เรนเตือนไว้ก็ผุดขึ้นมาในหัว ‘คำแนะนำที่ฉันจะให้คุณคือ ให้ระวังคนสามคน ฉันไม่รู้จักชื่อที่แท้จริง พวกเขาใช้นามแฝงต่างๆ แต่ไม่มีสักชื่อในนั้นที่เป็นชื่อจริงเลย มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันบอกได้คือบุคลิกลักษณะของพวกเขา สามคนนี้นั้น คนหนึ่งเป็นคนบ้า, คนหนึ่งเป็นเด็กผู้หญิง, และคนสุดท้ายเป็นชายหนุ่มนักวิชาการ ถ้าคุณเจอพวกเขาให้รีบหนีให้ไกลที่สุด อย่าไปเข้าใกล้ ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาจะรุนแรงมาก คุณต้องจำไว้ให้ดี’ ซือเฟิงมองไปยังชาร์ลีน ไม่ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในสามคนนั้นหรือไม่ ก็ไม่สำคัญหรอก หลังจากได้กลับมาเกิดใหม่ เขาได้สาบาน และตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่าจะไม่พึ่งพาใครอีกต่อไป ไม่พึ่งกิลด์ ไม่พึ่งหัวหน้า ไม่พึ่งผู้ถือหุ้น ไม่พึ่งแม้แต่บริษัทกรีนก๊อด


หลังจากนั้นชาร์ลีนก็พูดขึ้นว่า “เราได้รวบรวมคริสตัลเจ็ดลูมินารี่เป็นจำนวนนับสิบล้านชิ้น เพื่อเตรียมสร้างเคบินโลกหลักสีม่วงอ่อนให้นาย ฉันจะไปสร้างเดี๋ยวนี้เลย แล้วนายก็รีบไปเชื่อมต่อระบบ Mind Space ของนายซะ นายจะได้เข้าร่วมกับเราในโลกหลัก” เธอยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน


“เดี๋ยวก่อน ….”


“หืม?” ชาร์ลีนเกือบจะเดินไปหาสถานที่เพื่อสร้างเคบินแล้ว


“ฉันขอบคุณมากสำหรับคำอธิบายของคุณ แต่ฉันต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจ …. ” ซือเฟิงพูดด้วยความนอบน้อม


ซึ่งนี่มันก็ทำให้ชาร์ลีนเหล่ตามองเขาเล็กน้อย ด้วยท่าทางผิดหวัง


“ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ฉันก็ไม่ควรจะเร่งรัดนายจริงๆ” ชาร์ลีนยักไหล่ ก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า “แต่ก่อนนายจะไป ขอฉันพูดอะไรหน่อย นี่เป็นสถานที่เดียวเท่านั้นที่จะเข้าสู่โลกหลักได้ ถ้านายตัดสินใจได้แล้วโปรดแจ้งหัวหน้าผู้จัดการเซี่ยให้ทราบ และอย่าใช้เวลานานเกินไปล่ะ เราต้องการกำลังเสริมจากนายและครึ่งก้าวสุดยอดปรมาจารย์อีกหกสิบคนในโลกหลักเร็วๆนี้”


“ฉันเข้าใจในความกระตือรือร้นของคุณ เพียงแค่ให้เวลาฉันในการตัดสินใจสักหน่อยก็พอ …. ” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เขาครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ก่อนที่เขาจะล็อกเอาท์ออกไป


ฉันเพิ่งจะได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็น 6 และเพิ่งจะสำรวจ God Domain โลกย่อยไปได้ราว 15% เท่านั้น ดังนั้นฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะมีแค่สถานที่เดียว และวิธีเดียวในการจะเข้าสู่โลกหลัก ฉันจะหาวิธีเข้าสู่โลกหลักของ God Domain วิธีอื่นโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์จากเธอให้ได้เลย !!!!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)