Reincarnation Of The Strongest Sword God 2760-2762

 ตอนที่ 2760 ดาบมายาฆ่าลอร์ดแห่งดินแดน


“แข็งแกร่งมากๆ !!!”


“มันบดขยี้คำสาปขั้นสี่ได้ด้วยมือแบบนั้น !!! นี่มันเป็นแค่ปีศาจขั้นสี่จริงๆงั้นหรอ ?!!”


ทุกคนต่างอ้าปากค้าง เมื่อได้เห็นพลังของเจ้าชายปีศาจที่ซือเฟิงควบคุมอยู่ โฟร์เบโร่ทำให้เรื่องที่พวกเขาคิดว่ารู้เกี่ยวกับปีศาจขั้นสี่ใน God domain นั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก


ในความเป็นจริง แม้แต่ซือเฟิงเองก็ยังรู้สึกตกใจกับผลลัพธ์นี้


น่าทึ่งมากๆ !! เจ้าชายปีศาจสามารถควบคุมมานาได้ในระดับที่น่ากลัวแบบนี้เลยสินะ !!! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าชายปีศาจทั้งหมดเป็นที่รู้จักกันในชื่อครึ่งก้าวราชันปีศาจ พลังการต่อสู้ที่แท้จริงของเหล่าเจ้าชายปีศาจนั้นอยู่ในขั้นห้าแน่นอน !!!


ก่อนหน้านี้ซือเฟิงได้คิดจะใช้มานาของโฟร์เบโร่เพื่อต่อต้านคำสาปขั้นสี่ของโทเดลย่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามมือมานาที่เจ้าชายปีศาจสร้างขึ้นมามันกับสามารถทำลายคำสาปขั้นสี่ลงได้อย่างแท้จริง พลังของเจ้าชายปีศาจนั้นอยู่เหนือจินตนาการของเขามาก


ถึงกระนั้นแง่มุมที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับโฟร์เบโร่ ก็คือมานาที่มันสามารถควบแน่นได้ ความแข็งแกร่งของมานาที่มันสามารถควบแน่นได้นั้น เหนือกว่าซือเฟิงในตอที่ใช้โฮลี่ดีวอร์ด้วยซ้ำ


ในขณะเดียวกันโฟร์เบโร่ก็ได้แสดงพลังมานาอันน่ากลัวออกมาได้แล้ว โดยการแค่กลั่นมันออกมาเป็นรูปมือแบบง่ายๆ หากเจ้าชายปีศาจใช้เทคนิคมานาในตอนนี้ ผลลัพธ์มันจะน่าเหลือเชื่ออย่างแน่นอน และบางทีพลังของการโจมตีอาจขึ้นไปอยู่ที่ขั้นกลางของขั้นห้าได้เลย


โดยปกติแล้วหากมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายใช้คำสาปขั้นสี่ พลังของเวทย์นั้นจะอยู่ที่ขั้นเริ่มต้นของขั้นห้าเท่านั้น มันยังไม่นับว่าถึงขั้นพื้นฐานด้วยซ้ำ


อย่างไรก็ตามมือมานาที่โฟร์เบโร่ได้แสดงออกมาเมื่อกี้นั้นไม่ต้องสัยเลยว่า มันมีพลังอยู่ในขั้นพื้นฐานของขั้นห้าแน่นอน และหากพลังของมือมานาเมื่อกี้ไปถึงขั้นกลาง มันก็จะเกิดปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้มาก


ซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความสุข เมื่อได้รู้สึกถึงพลังของโฟร์เบโร่ ….


เพราะท้ายที่สุดความรู้สึกในการได้ใช้พลังดังกล่าวนั้นมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการได้รับรู้และเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของโฟร์เบโร่ต่อมานา เมื่อได้ควบคุมเจ้าชายปีศาจ ซือเฟิงสามารถบอกได้เลยว่าเขาเข้าใจถึงหลักการ การทำงานของมานาได้ชัดเจนกว่าเดิมมากๆ นี่มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาสามารถสัมผัสได้ด้วยร่างกายทางกายภาพขั้นสี่ทั่วไปเลย


ถ้าฉันสามารถเข้าถึงสถานะนี้ได้ ฉันอาจจะสามารถทะลุขีดจำกัดหนึ่งของเปอเซ็นต์ของร่างมานาของฉันได้ในเวลาเพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมง และการควบคุมมานาของฉันก็อาจดีขึ้นมากด้วยซ้ำ พร้อมกันนั้นฉันก็ไม่น่าจะต้องดิ้นรนอะไรมากในการจะเลื่อนขั้นเป็นสุดยอดปรมาจารย์นักเวทย์


ช่องว่างด้านร่างกายทางกายภาพ และคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตนั้นไม่ใช่สิ่งที่ค่าสถานะพื้นฐานจะสามารถชดเชยได้


หากผลของค่าสถานะพื้นฐานที่มีต่อพลังการต่อสู้ถูกคำณวนด้วยการบวกและลบ ผลของร่างกายทางกายภาพ และคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตก็จะถูกคำณวนโดยการคูณและหาร


นี่เป็นสาเหตุที่เผ่ามังกรนั้นแทบจะได้เรียกได้ว่ายืนอยู่ในจุดสูงสุดของทุกเผ่าเลย แม้ว่าจะมีค่าสถานะพื้นฐานเท่ากัน แต่มังกรก็จะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์หลายเท่าด้วยเหตุผลนี้ และเหตุผลนี้ก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่พวกเทพ และเทพีตกสวรรค์แข็งแกร่งกว่าพวกในขั้นเดียวกันหลายเท่าด้วย ขณะที่บางส่วนมีพลังที่สามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ด้วยซ้ำ


จากการแสดงพลังของโฟร์เบโร่ คะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของเจ้าชายปีศาจน่าจะอยู่ใกล้เคียงกับมังกรเลย


อย่างไรก็ตามในขณะที่ซือเฟิงกำลังลิ้มรสช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมนี้ ความเจ็บปวดมันก็บังเกิดขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจของเขาจนทำให้เขาแทบจะเซและล้มลงกับพื้น

แน่นอนเลยว่าระบบไม่อนุญาคิให้ผู้เล่นจมอยู่ในความรู้สึกนี้เป็นเวลานาน ….


ซือเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อเขารู้สึกได้ถึงสถานะของค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจ และความแปดเปื้อนในวิญญาณของเขา


เขาได้จัดการใช้มานาของโฟร์เบโร่ไม่ถึงสามวินาที แต่มันไม่เพียงแต่จะผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาปสิบเปอเซ็นต์เท่านั้น มันยังทำให้พลังแห่งความมืดที่ที่แฝงตัวอยู่รอบวิญญาณเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วย ซึ่งนี่มันก็เป็นผลที่ซือเฟิงต้องรับจากการคิดที่จะใช้พลังของเจ้าชายปีศาจ


ในขณะเดียวกันโทเดลย่าก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นอย่างมาก หลังจากได้เห็นคำสาปขั้นสี่ของมันถูกทำลายลง อย่างไรก็ตามมันก็หรี่ตาหกตาของมันลงและมองไปยังสภาพล่าสุดของซือเฟิง ซึ่งทำให้มันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า ซือเฟิงไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดของเขาอีกต่อไป


ทันใดนั้นหัวทั้งสามของโทเดลย่าก็ได้เริ่มร่ายคำสาปขั้นสี่อีกครั้ง โดยมันตั้งใจที่จะฆ่าซือเฟิงในตอนที่เขาอ่อนแอลง


“นี่แกคิดว่า ฉันจะให้โอกาสแกได้ทำแบบนั้นอีกครั้งงั้นหรอ ?!” เมื่อสังเกตเห็นการกระทำของโทเดลย่า ซือเฟิงก็ได้ทำการเชื่อมพลังแห่งความมืดในวิญญาณของเขาเข้ากับแหล่งพลังแห่งความมืดของโฟร์เบโร่อีกครั้ง


ออร่าของโฟร์เบโร่ฟื้นคืนกลับสู่จุดสูงสุดทันที โดยออร่าของเจ้าชายปีศาจนั้นน่ากลัวมากๆจนแม้แต่อิลูซะรี่เวิร์ด และคนอื่นๆที่ยืนอยู่ห่างออกไปหลายร้อยหลาก็ยังรู้สึกตัวสั่นสะท้าน


“ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปสินะ …”


ซือเฟิงได้ให้โฟร์เบโร่สร้างหอกไฟขึ้นอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะให้มันรวบรวมทั้งมานาและพลังแห่งความมืดเพื่อทำการโจมตี


นอกจากนี้ซือเฟิงยังต้องการจะใช้ไลท์ชาโด้วแฝงไปกับการโจมตีนี้ด้วย


อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาใช้เทคนิคมานาทางอ้อมผ่านโฟร์เบโร่นั้น เขาก็ล้มเหลวในการจะใช้ไลท์ชาโด้วให้สมบูรณ์ แต่กระนั้นมันก็ยังคงแข็งแกร่งกว่ามือมานาก่อนหน้านี้มากๆ


วินาทีต่อมา หอกมายาก็ตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝนและโดนเข้าที่บริเวณหัวของโฟร์เบโร่เต็มๆ โดยการโจมตีนี้มันรวดเร็วและทรงพลังมากจนโทเดลย่านั้นไม่สามารถจะหลบได้เลย ขณะที่ร่างกายของมันก็ถูกกดให้จมลงสู่พื้นเรื่อยๆ


รอยแตกที่ขยายออกไปหลายพันหลาก่อตัวขึ้นบนพื้นเนื่องจากผลกระทบของการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงของพื้นดินทั่วบริเวณ ซึ่งนี่มันก็ทำให้ทีมของซือเฟิงทุกคนนั้นทรงตัวไม่อยู่และล้มลง เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างจบลง มันก็มีปล่องภูเขาไฟที่กินพื้นที่เป็นรัศมีสามร้อยหลาได้ก่อตัวขึ้นนตำแหน่งของโทเดลย่าแล้ว สำหรับร่างของลอร์ดแห่งดินแดนตัวนี้ ร่างของมันนั้นจมลงไปกับพื้นดินหลายสิบเมตร และมีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่ยังอยู่เหนือพื้นดินจริงๆ


-1,165,446,428


ค่าความเสียหายเกินหนึ่งพันล้านปรากฎขึ้นเหนือหัวของโทเดลย่า ในขณะที่แถบ HP ของมันก็ลดลงอย่างมาก และออร่าชีวิตของมันก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด


อึก !! ผู้บัญชาการช่างบ้าคลั่งจริงๆ !!! เขาสามารถอัญเชิญปีศาจระดับนี้ออกมา และควบคุมมันให้ทำแบบนี้ได้จริงๆ !!! โซริทารี่ไนน์เต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นความเสียหายล่าสุดที่โฟร์เบโร่สามารถทำได้ ในอัตรานี้ การต่อสู้จะจบลงด้วยการโจมตีอีกราวสิบสองครั้งหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยเท่านั้น


มอนสเตอร์ระดับบอสที่ก่อนหน้านี้ทำให้จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอยากหนีเพียงอย่างเดียวได้ถูกโจมตี และทำร้ายอย่างหนัก ณ ตอนนี้ …. และตอนนี้จากผลของอาการบาดเจ็บมันก็ทำให้โทเดลย่าสูญเสียค่าสถานะพื้นฐานไปถึงสามสิบเปอเซ็นต์ ดังนั้นตัวมันจึงไม่มีอะไรที่จะสามารถเทียบกับโฟร์เบโร่ได้เลย


“เอาล่ะ เลิกฝันกลางวันกันได้แล้ว !!! พวกคุณทุกคนเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ของพวกคุณ และรีบไปต่อสู้กับบอสร่วมกับเจ้าชายปีศาจ !!! เราต้องจำกัดบอสตัวนี้ให้ไวที่สุด ไม่งั้นเราไม่รอดแน่ !!!” ซือเฟิงสั่งอย่างอ่อนแรงผ่านแชททีม ขณะที่เขาทรุดตัวนั่งลงบนพื้น


เขาได้ใช้พลังของโฟร์เบโร่แทบจะเต็มที่ แถมยังแฝงใช้เทคนิคมานาอย่างไลท์ชาโด้วไปด้วย ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาลดลงไปสามสิบเปอเซ็นต์ทันที แถมนี่มันยังเป็นการไปเพิ่มพลังแห่งความมืดที่แฝงตัวอยู่รอบวิญญาณของเขาให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก ดังนั้นตอนนี้เขาจึงอยู่ในสภาพอ่อนแอมากๆ โดยตอนนี้เขาจะทำได้แค่ควบคุมโฟร์เบโร่แบบทั่วไปเท่านั้น …. ซึ่งหากเขาและทีมของเขาปล่อยให้โทเดลย่าได้มีโอกาสกลับมาใช้คำสาปขั้นสี่อีกครั้ง พวกเขาจะตายลงทั้งหมดแน่นอน


ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องฆ่าโทเดลย่าให้ไวที่สุด ในขณะที่มันยังอ่อนแออยู่ ….


เมื่อได้ยินเสียงที่ดูอ่อนแอของซือเฟิง อันยีลดิ้งฮาร์ทก็เข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาทันที เขารีบตะโกนผ่านแชททีม “ทุกคนจากอันยีลดิ้งโซล ตามฉันมา !!!”


“สมาชิกจักรพรรดิคริมสันทุกคนไปร่วมช่วยพวกเขาโจมตี !!! นอกจากนี้ก็ให้เปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ทุกสกิลที่พวกคุณมีด้วย !!!” อิลูซะรี่เวิร์ดรีบออกคำสั่งกับลูกน้องของเธอเช่นกัน เธอเข้าใจดีว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่มารั้งรอ และไม่ใช้พลังของตัวเองอย่างเต็มที่


ในทันที ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นมากกว่ายี่สิบคนจากจักรพรรดิคริมสัน อันยีลดิ้งโซล และทีมนักผจญภัยอาชูร่าก็ได้เปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ที่พวกเขามี และพุ่งเข้าใส่โทเดลย่าทันที


อย่างไรก็ตามโทเดลย่าก็ตระหนักถึงสถานการณ์นี้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นมันจึงพยายามที่จะลากร่างที่บาดเจ็บของตัวเองออกจากปล่องภูเขาไฟ และเลือกจะหนีอย่างไม่ลังเล


“อย่าคิดว่าจะหนีไปได้ !!!” ซือเฟิงไม่ได้คิดจะเปิดโอกาสให้โทเดลย่าหลบหนี เขาได้ให้โฟร์เบโร่เปิดการโจมตีอีกครั้งเข้าใส่ลอร์ดแห่งดินแดนทันที


อย่างไรก็ตามในตอนนี้นั้นซือเฟิงก็สามารถควบคุมให้โฟร์เบโร่ทำการโจมตีได้แค่แบบปกติเท่านั้นเข้าใส่โทเดลย่า


-94,376,414


ค่าความเสียเกือบหนึ่งร้อยล้านปรากฎขึ้นเหนือหัวของโทเดลย่า เมื่อมันถูกโจมตีครั้งล่าสุด อย่างไรก็ตามโทเดลย่านั้นมันก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ และยังคงพยายามจะหลบหนีต่อไป ….


อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไไป แต่เขาเป็นผู้ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตที่แท้จริง ระดับสวรรค์แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอทางจิตมาก และไม่สามารถทำให้โฟร์เบโร่ใช้พลังที่แท้จริงออกมาได้ แต่เขาก็ยังสามารถจะควบคุมให้โฟร์เบโร่ทำการโจมตี และบังคับให้โทเดลย่าปกป้องตัวเอง พร้อมทั้งตรึงมันเอาไว้ได้


ในขณะเดียวกันอันยีลดิ้งฮาร์ทและคนอื่นๆที่เข้ามาถึงระยะโจมตีแล้วก็ได้เข้าร่วมการต่อสู้ทันที


พวกเขาทั้งหมดล้วนมีพลังเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ทั่วไปหรือสูงกว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับโทเดลย่าแบบตรงๆได้ แต่ความเสียหายที่พวกเขาทำได้ มันก็ยังจัดว่ามากอยู่ดี ….


โดยการโจมตีปกติแต่ละครั้งของพวกเขานั้นสร้างความเสียหายได้มากกว่าสองล้าน ขณะที่เมื่อใช้สกิลและเวทย์ขั้นสาม พวกเขาจะสามารถทำความเสียหายได้มากกว่าสิบล้าน ….


ในขณะที่โทเดลย่ากำลังดิ้นรนอย่างหนักในการจะรับมือกับโฟร์เบโร่ มันก็จัดว่าไม่สามารถจะทำอะไรได้เลยต่อการโจมตีของผู้เล่นทั้งหมดที่ระดมโจมตีเข้าใส่มัน และมันก็ทำได้แค่ปล่อยให้เหล่าผู้เล่นโจมตีเข้าใส่มันได้ตามใจชอบเท่านั้น


83%… 72%… 54%…


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าถูกประเคนเข้าใส่โทเดลย่า


โดยในตอนนี้ด้านหนึ่งกำลังพยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวัง ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็กำลังไล่ล่าและตามโจมตีอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งมันก็จัดว่าโชคดีที่ซือเฟิงและคนอื่นๆสร้างความเสียหายได้มากพอที่จะลด HP ของโทเดลย่าลงไปเรื่อยๆ


หลังจากผ่านไปสามนาทีของการไล่ล่านี้ HP ของโทเดลย่าก็ลดลงเหลือสามสิบเปอเซ็นต์ อย่างไรก็ตามในเวลนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในทีมของซือเฟิงก็ค่อยๆสูญเสียผลของสกิลเบอเซิกร์ไปทีละคน ทีละคน จนกระทั่งความเสียหายที่พวกเขาทำได้ต่อลอร์ดแห่งดินแดนนั้นมันน้อยลงมากๆ และมันก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถจะจบงานนี้ได้เร็วอย่างที่คิด


สิบนาที … สิบห้านาที … ยี่สิบนาที …


เมื่อ HP ของโทเดลย่าลดลงเหลือแปดเปอเซ็นต์ ออร่าของมันก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน ในที่สุดลอร์ดแห่งดินก็กลับมาอยู่ในสภาวะสูงสุดของตัวเองแล้ว


“ตายซะ !! มนุษย์ !!’ โทเดลย่าตะโกนออกมาเป็นภาษามนุษย์ด้วยความเกรี้ยวกราด พร้อมทั้งเริ่มใช้คำสาปขั้นสี่อีกครั้งทันที


“แม่งเอ้ย !!! เราทำมาขนาดนี้แล้วมันก็ยังไม่สำเร็จงั้นหรอ ?!!” ใบหน้าของอันยีลดิ้งฮาร์ทมืดมนลง เมื่อเขาเห็นโทลเดลย่าเริ่มใช้คำสาปขั้นสี่อีกครั้ง ….


“ผู้ที่จะตายคือแกต่างหาก !!!” ซือเฟิงซึ่งอยู่ห่างจากสนามรบระยะหนึ่งได้ลุกขึ้นยืนมาอย่างกระทันหัน และประกายแสงสว่างก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็จัดการเชื่อมต่อพลังแห่งความมืดอีกครั้ง เมื่อเทียบกับสองครั้งก่อน ตอนนี้เขามีความคุ้นเคยมากกว่าเดิมมาก และช่วงเวลาต่อมาเขาก็ได้ให้โฟร์เบโร่สร้างหอกไฟขึ้นมาพร้อมทั้งใช้ไลท์ชาโด้วที่สมบูรณ์แบบผ่านหอกไฟนี้ทำให้เกิดเป็นเงาของดาบมายาซึ่งมีความยาวมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร และใช้มันเข้าโจมตีโทเดลย่าทันที


“ตายไปซะ !!!”


ตอนนี้ซือเฟิงได้เลือกจะทุ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจทั้งหมดที่เขาเหลือเพื่อใช้ในการโจมตีครั้งนี้


ตู้ม !!!


ครู่หนึ่งฉากตรงหน้าที่พวกเขาได้เห็น มันทำให้ทุกคนเข้าใจผิดด้วยซ้ำว่าท้องฟ้าแยกออกจากกัน


หนึ่งวินาทีต่อมา ร่างที่สูงห้าสิบเมตรของโทเดลย่าก็ถูกผ่าเป็นสองซีก และล้มลงไปกับพื้น ขณะที่ HP ของมันก็ลดลงไปถึงศูนย์ ตอนนี้บอสที่น่ากลัวตัวนี้ได้ตายลงแล้ว !!!


ตอนที่ 2761 เลเวลที่พุ่งขึ้นราวกับจรวด


“มันตายแล้วใช่ไหม ?”


“เกือบไปแล้ว !! ตอนแรกฉันคิดว่ามันจะเป็นเราทุกคนซะอีกที่จะตาย !!!”


“ฉันจะไม่เข้าใกล้มอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายอีกเลย ก่อนที่ฉันจะไปถึงขั้นสี่ !!! สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นขั้นสามอย่างเราจะทำอะไรกับมันได้เลย !!!”


หลังจากที่ทุกคนเห็นร่างของโทเดลย่าถูกผ่าออกเป็นสองซีก และตายลง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะทรุดตัวลง และถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาที่พวกเขาสามารถทำได้สำเร็จ และเอาตัวรอดจากการตายในครั้งนี้มาได้


และเมื่อหลายคนปรับอารมณ์กันแล้ว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขที่ตัวเองนั้นโชคดีและรอดมาได้จริงๆ


สำหรับอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ท ทั้งคู่เหนื่อยเกินกว่าที่จะใส่ใจกับโทเดลย่าแล้ว ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องมันการมันก็เพียงแค่นั่งลงพักต์ผ่อน และผ่อนคลายจิตใจ


อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้พักหายใจดี เสียงสวดมนศักสิทธิ์ก็ดังลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งเสียงสวดมนต์นี้มันก็ดังก้องไปทั่วบริเวณจนทำให้ทุกคนรู้สึกเคลิบเคลิ้ม


ตามที่คาดหวังไว้จากการได้รับเฟิร์สคิลมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายตัวแรกในเทือกเขาที่ถูกทำลาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้สกิล Divine Providence และโจมตีบอสปิดงาน แต่คุณภาพของไอเทมที่มันดรอปก็ยังสามารถจะทำให้เกิดเสียงสวดมนต์ศักสิทธิ์ได้ ซือเฟิงซึ่งนอนอยู่บนพื้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับสถานการณ์นี้ ….


ซึ่งที่ซือเฟิงไม่สามารถจะจะใช้สกิล Divine Providence และโจมตีบอสเพื่อปิดงานได้ มันก็เป็นเพราะลอร์ดแห่งดินแดนไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาเลย ดังนั้นเขาจึงต้องใช้โฟร์เบโร่โจมตีปิดงานแทน


ในขณะที่เสียงสวดมนต์ศักสิทธิ์กำลังดังก้องไปทั่ว มันก็มีแสงสว่างเข้ามาปกคลุมผู้รอดชีวิตทั้งหมด ซือเฟิงซึ่งตอนแรกอยู่ในเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้า และมี EXP อยู่ที่เจ็ดสิบแปดเปอเซ็นต์นั้นก็ได้เลื่อนเลเวลไปเป็นเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ด และมี EXP อยู่ที่สี่เปอเซ็นต์ทันที

สำหรับคนอื่นๆ ทุกคนนั้นมีเลเวลเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเลเวล โดยบางคนนั้นก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นถึงสี่เลเวล ซึ่ง EXP ที่พวกเขาได้รับอย่างมากมายมหาศาลนี้ มันทำให้พวกเขาตกตะลึงมากๆ


“นี่มอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายให้ EXP มากมายขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!”


“ด้วย EXP จากโทเดลย่า เราจะประหยัดเวลาในการล่าไปได้อย่างน้อยครึ่งเดือนเลย …”


“มันเป็นเรื่องน่าเสียดายนะที่สมาชิกในทีมของเราส่วนใหญ่ตายไป ไม่งั้นพวกเขาก็จะประหยัดเวลาในการล่าไปได้มากเช่นกัน ….”


“นี่มัน ยอดเยี่ยมจริงๆ !!!”


ทุกคนนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และพึมพำออกมาอย่างโล่งอก เมื่อได้เห็น EXP มากมายที่โทเดลย่ามอบให้ ในแง่หนึ่งพวกเขาก็รู้สึกขอบคุณที่นี่มันทำให้พวกเขาสามารถประหยัดเวลาได้มาก ในทางกลับกันพวกเขาก็แอบรู้สึกผิดต่อเหล่าผู้เล่นที่ตายไป เพราะไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ได้รับ EXP จากการโจมตีนี้ แต่พวกเขายังจะเสียเลเวลไปหนึ่งเลเวลด้วย หลังจากฟื้นคืนชีพขึ้นมา และแม้ว่าอิลูซะรี่เวิร์ดกับฮีลเลอร์คนอื่นๆในทีมจะใช้สกิลฟื้นคืนชีพให้พวกเขา แต่พวกเขาก็ยังจะต้องเสีย EXP ไปราวห้าสิบเปอเซ็นต์อยู่ดี


มีเพียงซือเฟิงเท่านั้นที่ยังคงไม่สะทกสะท้านกับสถานการณ์นี้


นอกเหนือจากเรื่องที่ว่าการโจมตีครั้งนี้มันเกิดขึ้นหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก เพียงแค่ข้อเท็จจริงที่ว่าโทเดลย่านั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย และลอร์ดแห่งดินแดน มันก็หมายความว่า EXP ที่ผู้เล่นจะได้รับจากการฆ่ามันได้นั้นก็มหาศาลมากแล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลของเสียงสวดมนต์ที่ช่วยเพิ่ม EXP ให้กับพวกเขาขึ้นไปอีกเช่นกัน


นอกจากนี้โทเดลย่ายังเป็นมอนสเตอร์ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแปด ขณะที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีมนั้นยังมาไม่ถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบด้วยซ้ำ ดังนั้นโบนัส EXP ที่ระบบจะให้แก่ผู้เล่นในเรื่องนี้ก็จะมีอีกมหาศาลด้วย


อย่างไรก็ตาม มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเลื่อนเลเวลได้อย่างรวดเร็วแบบนี้อีกในอนาคต เพราะท้ายที่สุดแต่ละภูมิภาคของเทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นมีลอร์ดแห่งดินแดนเพียงตัวเดียว ซึ่งมันจะใช้เวลาห้าวันหรือมากกว่านั้นในการเกิดใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นลอร์ดแห่งดินที่จะเกิดใหม่ มันยังไม่ได้ฟิคว่าจะต้องเป็นตัวเดิมด้วย


ดังนั้นแม้ว่าทีมของพวกเขาจะสามารถเอาชนะโทเดลย่า และมีข้อมูลของมันทั้งหมดแล้ว แต่ข้อมูลมันก็จะไร้ประโยชน์ เพราะลอร์ดแห่งดินแดนที่จะเกิดตัวต่อไปในภูมิภาคนี้มีสิทสูงมากที่จะเป็นตัวอื่น


มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เล่นจะได้พบกับลอร์ดแห่งดินแดนตัวเดิมหลายๆครั้งในดินแดนต้องห้ามแบบ เทือกเขาที่ถูกทำลาย และต่อให้เจอซ้ำบอสก็มักจะมีอะไรแปลกใหม่มาเซอไพรส์ผู้เล่นเสมอ และทำการฆ่ามันยากขึ้นมาก


ซือเฟิงค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ พลางมองไปที่เพื่อนร่วมทีมของเขา และกล่าวว่า “เริ่มฟื้นคืนชีพคนอื่นๆได้แล้ว ธอร์น นำคนอื่นๆจำนวนหนึ่งไปลาดตระเวนรอบๆ อย่าให้มีมอนสเตอร์มาซุ่มโจมตีเรา”


แม้ว่าตัวตนของโฟร์เบโร่จะทำให้มอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆหวาดกลัว และหนีไป แต่มันกก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่นิดหน่อยที่พวกเขาจะถูกซุ่มโจมตี และท้ายที่สุดมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรที่จะระวังไว้ก่อน เพราะหากพวกเขาถูกซุ่มโจมตีตอนนี้ สภาพของพวกเขาคงดูไม่จืดแน่นอน


“ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเอง”


ไลฟ์เลสธอร์นพยักหน้า ก่อนจะออกไปลาดตระเวนรอบๆพร้อมกับคลีนซิ่งวิสเซิล และคนอื่นๆ


สำหรับหยานย่า อิลูซะรี่เวิร์ด และเหล่าฮีลเลอร์คนอื่นๆที่ยังรอดชีวิต พวกเขาก็เริ่มฟื้นคืนชีพสมาชิกในทีมที่ถูกฆ่าไปโดยวิญญาณกลืนกินทันที


แม้ว่าคนเหล่านี้จะตายลง เพราะว่าพวกเขาถูกดูดค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปจนเหือดแห้ง แต่วิญญาณของพวกเขาก็ไม่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นการฟื้นคืนชีพพวกเขาจึงยังเป็นไปได้ เพียงแต่ว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานะอ่อนแอเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังคืนชีพ และจะไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ทันทีก็เท่านั้น


ในขณะที่คนอื่นๆกำลังยุ่งอยู่กับงานของตน ซือเฟิงก็เดินไปที่ศพของโทเดลย่าอย่างช้าๆและรอให้ไอเทมที่ดรอปปรากฎขึ้น


สำหรับเรื่องไอเทมที่ดรอปจากโทเดลย่า มันไม่มีสมาชิกคนใดของอันยีลดิ้งโซล และจักรพรรดิคริมสันคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้


เพราะท้ายที่สุดซือเฟิงก็เป็นผู้จัดทีมนี้ และก่อนพวกเขาจะออกเดินทาง พวกเขาก็ได้ตกลงกันแล้วว่าทุกการค้นพบ และไอเทมที่พวกเขาจะได้รับระหว่างการเดินทางครั้งนี้จะเป็นของซือเฟิงทั้งหมด ซึ่งมันนับเป็นข้อตกลงพื้นฐานของทั้งสามกิล


ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะไม่มีข้อตกลง แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญของจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลที่ร่วมเดินทางมากับซือเฟิงทั้งหมดก็รู้สึกละอายเกินกว่าจะขอไอเทมใดๆ


ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขามีบทบาทในการสนับสนุนเท่านั้น และแทบไม่ได้ทำอะไรเลยในระหว่างการโจมตี แถมที่จริงแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะซือเฟิงควบคุมโฟร์เบโร่ให้โจมตีปิดฉากอย่างรุนแรงในครั้งสุดท้าย ตอนนี้พวกเขาก็คงจะตายลงไปทั้งหมด และไม่มีใครได้รับอะไรแม้กระทั่ง EXP แล้ว


และพูดกันตามตรงการ การได้รับ EXP มหาศาลจนมีเลเวลเพิ่มขึ้นมาสามถึงสี่เลเวล ซึ่งช่วยประหยัดเวลาการเก็บเลเวลในโลกภายนอกของพวกเขาไปราวสิบห้าวันนี้ มันก็จัดว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่คุ้มค่ามากแล้วในการเดินทางมาที่เทือกเขาที่ถูกทำลาย นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาได้เรียนรู้ และได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเทือกเขาที่ถูกทำลายมาอีก ซึ่งด้วยข้อมูลนี้มันจะทำให้กิลทั้งสองมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นมากในการสำรวจที่นี่ในอนาคต


หวังว่าไอเทมที่ดรอปออกมาจะไม่แย่เกินไปนะ …. ฉันขอหนังสือสกิลขั้นสี่สักหนึ่งถึงสองเล่มหรือไม่ก็เศษชิ้นส่วนคำแนะนำมรดกก็ได้ …. ซือเฟิงอดไม่ได้จะภาวในใจ เมื่อเห็นเมฆดำบนท้องฟ้าค่อยๆกระจัดกระจาย


เมื่อเทียบกับโลกภายนอก เทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นอันตรายกว่ามากๆ และมันก็ไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้ามาแบบมั่วๆเพื่อแสวงหาโชคลาภ ไปจนถึงหวังจะร่ำรวยได้ง่ายๆ


ในทางตรงกันข้ามไม่ว่าจะเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับมนุษย์ หรือดินแดนต้องห้ามสำหรับทุกชีวิต มันก็จัดเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากรและมรดกจำนวนมาก


ใน God domain ปัจจุบัน อาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆนั้นล้วนเข้าควบคุม และเก็บมรดกขั้นสามไว้อย่างหนาแน่น ในกรณีของมรดกขั้นสี่ แม้ว่าอาณาจักร และจักรวรรดิต่างๆจะแทบไม่มีเลย แต่ดินแดนต้องห้ามนั้นยังคงมีพวกมันที่รอการค้นพบอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นมรดกขั้นสี่หรือสูงกว่านั้น เพราะดินแดนต้องห้ามนั้นมันมีความอุดมสมบูรณ์กว่าในด้านนี้มากกว่าโลกภายนอกมาก


ในขณะเดียวกัน หลังจากผู้เล่นมาถึงขั้นสี่แล้ว มันก็มีสามวิธีที่พวกเขาสามารถจะใช้ปรับปรุงตัวเองได้


วิธีแรกที่ง่ายที่สุดก็คือการอัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์ของพวกเขา โดยไอเทมที่เหมาะสม มันก็จะจัดว่าหาได้ง่ายในระดับหนึ่งในอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆ


วิธีที่สองนั้นยากกว่าวิธีแรกอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นก็คือการได้รับหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสี่มาเพื่อเรียนรู้ หลังจากมาถึงขั้นสี่แล้ว นอกเหนือจากการใช้คะแนนสกิลมรดกเพื่อรับเอาสกิลมรดกขั้นสี่ มันก็ยังมีการที่ผู้เล่นสามารถจะไปควานหาหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสี่มาเพื่อเรียนรู้สกิลและเวทย์เพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตามแผนที่ในอาณาจักร และจักรวรรดิ รวมไปถึงแผนที่เป็นกลางทั่วไปนั้นมันไม่ดรอปหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสี่เลย มันจะมีแต่เพียงในดินแดนต้องห้ามเท่านั้นที่ดรอป โดยมันจะดรอปจากมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายหรือสูงกว่าขึ้นไป และอัตราการดรอปของมันก็ต่ำมากๆ


นี่เป็นเพราะว่าบ่อยครั้งการดวลกันของผู้เล่นขั้นสี่นั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนสกิลและเวทย์ขั้นสี่ที่พวกเขามี เนื่องยจากสกิลและเวทย์ขั้นสี่นั้นมีความแข็งแกร่งกว่าสกิลและเวทย์ขั้นสามมาก ซึ่งมันก็สามารถจะใช้ฆ่าเป้าหมายของผู้ใช้ได้ในทันที


ดังนั้นหลังจากมาถึงขั้นสี่แล้ว การได้รับหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นสี่มาจึงนับเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้เล่นเลย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่เหมือนกับพวกไอเทม สกิลและเวทย์แบบนี้จะไม่ได้ดรอปเมื่อผู้เล่นตาย


วิธีที่สามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยากพอกัน ซึ่งนั่นก็คือการได้รับคำแนะนำจากมรดกขั้นสี่หรือสูงกว่า


หลังจากผู้เล่นมาถึงขั้นสี่แล้ว เรื่องเลเวลนั้นจะไม่ได้มีความสำคัญกับพวกเขามากเท่าเมื่อก่อนอีกต่อไป และแม้ว่าผู้เล่นไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ และปฎิบัติตามเงื่อนไขขั้นต่ำในการเลื่อนเป็นขั้นห้าได้แล้ว แต่มันก็ใช่ว่าผู้เล่นจะสามารถเลื่อนไปเป็นขั้นห้าได้ทันที

การเลื่อนขั้นมาเป็นขั้นห้านั้นยากกว่าการเลื่อนขั้นมาเป็นขั้นสี่มาก


สำหรับวิธีการเลื่อนขั้นมาเป็นขั้นสี่นั้น ผู้เล่นก็จะต้องไปค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่ของตน และเรียนรู้กับรับเอามรดกขั้นสี่มาในเวลาที่กำหนด


อย่างไรก็ตามมันไม่ได้มีอะไรแบบนี้สำหรับการเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้า ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องทำเควสเลื่อนขั้นที่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องค้นหาสถานที่แบบสุ่ม


แต่การจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นห้านั้น มันตรงไปตรงมากว่านั้นมาก ผู้เล่นเพียงแค่ต้องเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกเขาให้ขึ้นไปถึงขั้นห้า จากนั้นพวกเขาก็ต้องสร้างร่างมานาของตนขึ้นใหม่ ซึ่งจะช่วยให้แก่นแท้ของพวกเขาบรรลุการปรับปรุงในเชิงคุณภาพ


นี่คือวิธีๆที่จะทำให้คนๆหนึ่งกลายเป็นนักบุญได้ !!!


เมื่อไปถึงขั้นห้า ผู้เล่นจะไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไป ชนชั้นสิ่งมีชีวิตของพวกเขาจะไปถึงระดับที่เรียกได้ว่าพิเศษมาก นี่เหตุผลว่าทำไมถึงมีผู้เล่น และ NPC เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงขั้นห้าได้ใน God domain และผู้ที่ทำได้นั้นก็ถือเป็นมังกรและฟีนิกซ์ในหมู่พวกเดียวกันเลย ….


ขั้นตอนแรกในการจะเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้าให้ได้ก็คือ การต้องทะลุขีดจำกัดร่างมานาที่ถูกสร้างขึ้นในตอนตัวเองเป็นขั้นสามไปให้ได้ แม้ว่านี่มันอาจจะดูเหมือนเป็นขั้นตอนที่ไม่สำคัญ แต่มันก็จะช่วยเหลือผู้เล่นได้อย่างมาก เมื่อพวกเขาพยายามสร้างร่างมานาของตัวเองขึ้นใหม่ในขั้นสี่


ซึ่งในขณะเดียวกันไวโอเล็ตคลาวด์ก็ได้ก้าวผ่านขั้นแรกในเส้นทางไปสู่ขั้นห้าแล้ว


ในขณะเดียวกันคำแนะนำมรดกนั้นก็จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถทำความเรื่องมานาได้มากขึ้น เนื่องจากพวกมันมักจะบันทึกสิ่งที่ตัวตนที่ทรงพลังในอดีตเข้าใจเกี่ยวกับมานาไว้ ขณะที่บางคนยังบันทึกไว้กระทั่งวิธีการและประสบการณ์ในการสร้างร่างมานาขึ้นใหม่ด้วย


นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซือเฟิงเลือกที่จะรับคำแนะนำมรดกจากนักบุญแห่งดาบคริมสันดาบอย่างไม่ลังเล


ที่ขั้นสาม แม้ว่าผู้เล่นจะเคยสร้างร่างมานามาแล้ว แต่ผู้เล่นก็ยังจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากๆในการสร้างร่างมานาของพวกเขาขึ้นใหม่ตอนที่เป็นขั้นสี่ หากผู้เล่นต้องการจะเลื่อนไปเป็นขั้นห้า เพราะพวกเขาจะต้องสร้างร่างมานาที่แข็งแกร่งกว่าเดิมราวสิบเท่า พวกเขาจึงจะสามารถเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้าได้ ซึ่งเรื่องความยากของการทำแบบนี้ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย ….


ดังนั้นคำแนะนำมรดกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง มันมีเพียงแต่การได้เรียนรู้เกี่ยวกับมานา และร่างมานาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างร่างมานาที่ผ่านเกณฑ์และทำให้พวกเขาทะลุไปขั้นห้าได้ ไม่งั้นพวกเขาก็จะต้องติดอยู่ที่ขั้นสี่ไปตลอดชีวิต


อย่างไรก็ตาม การได้รับคำแนะนำมรดกนั้นพูดง่ายกว่าทำ และเศษชิ้นส่วนคำแนะนำมรดกก็หายากไม่ได้ด้อยไปกว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเลย โดยทั่วไปมันก็จะมีแค่เฉพาะบอสของดินแดนต้องห้ามที่มีสถานะเป็นลอร์ดแห่งดินแดนหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะมีโอกาสดรอปมันเล็กน้อย ….


นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีผู้เล่นอิสระเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงขั้นห้าได้


เพราะท้ายที่สุดแล้วนับประสาอะไรกับการโซโล่กับบอสระดับผู้อาวุโสเทพนิยายในเลเวลเดียวกัน แม้แต่การโซโล่กับบอสระดับผู้อาวุโสเทพนิยายที่มีเลเวลต่ำกว่าก็ยังเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ โดยปกติแล้วการบุกโจมตีมอนสเตอร์ระดับนี้จำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่เข้าร่วมด้วยหลายคน และต่อให้จะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่โซโล่ฆ่าบอสระดับนี้ได้จริงๆ แต่มันก็ใช่ว่าบอสทุกตัวจะดรอปเศษชิ้นส่วนคำแนะนำมรดกออกมา นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่กิลต่างๆล้วนแข่งขันกันอย่างบ้าคลั่งในเรื่องนี้เพื่อแย่งชิงทั้งบอส และเศษชิ้นส่วนคำแนะนำมรดกกัน นี่มันจึงทำให้ความยากในการจะเข้าถึงขั้นห้าของผู้เล่นอิสระนั้นมันเพิ่มสูงขึ้นมาก


เว้นแต่ว่าจะมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งเพียงพอ หรือพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์ ไม่งั้นขั้นห้ามันแทบจะอยู่ไกลเกินเอื้อมของผู้เล่นอิสระไปตลอดกาล


ในขณะที่ซือเฟิงกำลังภาวนาในใจ และมองไปที่ท้องฟ้าด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า ไอเทมจำนวนมากก็หล่นลงมารอบๆตัวเขา ซึ่งไอเทมเหล่านี้ก็ได้ดึงดูดมานาในรัศมีหลายร้อยหลาเข้ามาแทบทั้งหมด


เมื่อซือเฟิงเห็นรูปสลักหินแปลกๆของมอนสเตอร์ท่ามกลางไอเทมเหล่านี้ ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันที


รูปสลักสัตว์อสูรโบราณ ?! นี่มอนสเตอรตัวนี้กลืนกินสมบัติของเทพโบราณไปงั้นหรอ ?!


ตอนที่ 2762 สมบัติโบราณ


ในขณะที่รูปสลักสัตว์อสูรโบราณดึงดูดความสนใจของซือเฟิงไป ผู้เล่นคนอื่นๆที่กำลังลาดตระเวน และพักผ่อนอยู่ในระยะไกลที่สังเกตเห็นไอเทมจำนวนมากที่โทเดลย่าดรอปออกมานั้นก็มีดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง


“อึก !! นี่มันมีไอเทมอะไรดรอปออกมาบ้างกัน ?!”


“ฉันไม่เคยเห็นไอเทมระดับอีปิค และวัสดุระดับตำนานดรอปออกมาพร้อมกันจำนวนมากขนาดนี้เลย !!!”


“บอสตัวนี้นั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแปด ดังนั้นไอเทมที่มันน่าจะสามารถใช้ได้ถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบแน่นอน แม้ว่าฉันจะมีส่วนร่วมอย่างมากมายในปฎิบัติการสำคัญๆของกิล แต่ฉันก็ได้รับมาแค่เบรเซอร์ระดับอีปิคคู่เดียวซึ่งสามารถใช้งานได้ถึงเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเท่านั้น (Bracers ไปเสริ์ชดูเอาอธิบายไม่ถูก ถ้าสงสัยว่ามันคืออะไร เพราะมันคล้ายๆเกราะแขนอะ) ….. ด้วยไอเทมระดับอีปิคที่ดรอปทั้มหมดที่นี่ มันอาจจะทำให้ฉันสามารถสวมใส่ไอเทมระดับอีปิคได้แบบครบทั้งตัวเลยนะ ….”


แม้ว่าทุกคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นทั้งหมด แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะอิจฉา เมื่อได้เห็นไอเทมที่โทลย่าดรอปออกมา


แต่พูดกันตามตรง มันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆที่พวกเขาจะต้องอิจฉา แม้ว่าอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นใน God domain ในปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่พวกมันก็จะสามารถใช้ได้ถึงแค่เลเวลหนึ่งร้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันพวกที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบนั้นก็มีน้อยกว่ามาก ไม่ต้องพูดถึงเลเวลที่เหนือกว่านี้เลย …..


สำหรับไอเทมระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบนั้น แม้แต่มหาอำนาจต่างๆในระยะนี้ก็ยังจะมีมันไม่ถึงสามสิบชิ้นกันแน่นอน


นี่ไม่ใช่เพราะมหาอำนาจต่างๆไม่ได้พยายามจะออกล่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย แต่เป็นเพราะมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่เลเวลนี้นั้นมีโอกาสจะดรอปไอเทมระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้โทเดลย่ากับดรอปไอเทมระดับอีปิคแบบนี้ออกมามากกว่าสิบชิ้น


นี่ยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าไอเทมที่ดรอปออกมาเหล่านี้นั้นทุกชิ้นจะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบแน่นอน เพราะท้ายที่สุดโทเดลย่านั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแปด ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขาไอเทมระดับอีปิคที่ดรอปออกจากมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบนั้นจะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบทั้งหมดแน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันเป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้นของภูเขาน้ำแข็ง ส่วนที่ทำให้ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายอย่างแท้จริงคือพวกวัสดุระดับตำนานที่ดรอปอยู่


วัสดุระดับตำนานพวกนี้สามารถจะนำไปใช้สร้างอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่เหมาะกับผู้เล่นคนนั้นๆโดยตรงได้ ซึ่งแน่นอนว่าไอเทมที่ถูกสร้างขึ้นนี้มันก็จะถูกจัดให้อยู่ในระดับอีปิคชั้นยอดเลย


อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเช่นเดียวกับไอเทมระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ อัตราการดรอปวัสดุระดับตำนานพวกนี้มันต่ำมากๆ แม้แต่มอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยส่วนใหญ่ก็จะดรอปแค่วัสดุระดับตำนานที่อ่อนแอบางส่วนพร้อมกับวัสดุระดับอีปิคเท่านั้น


อย่างไรก็ตามโทเดลย่ากับดรอปวัสดุระดับตำนานไว้ถึงเจ็ดชิ้น ซึ่งพูดอีกนัยหนึ่งคือ ด้วยวัสดุเหล่านี้ ผู้ที่ได้รับมันไปจะสามารถนำไปผลิตอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่เหมาะสมกับคนๆนั้นโดยตรงได้อีกเจ็ดชิ้นเลย และมันก็ยังจะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบด้วย


นี่ยังไม่ต้องพูดถึงวัสดุระดับตำนานที่อ่อนแออีกมากกว่ายี่สิบที่โทเดลย่าดรอปออกมา เพราะมันก็สามารถจะนำไปใช้ผลิตอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคชั้นยอดได้เช่นกัน


กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ โทเดลย่าตัวเดียวนั้นได้ดรอปอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบมามากกว่าสามสิบชิ้นแล้ว ซึ่งนี่มันทำให้มีมากพอที่จะให้ผู้เล่นสองคนได้สวมใส่อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิค เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบครบเซ็ทเลย โดยสิ่งนี้นั้นมันยังเป็นไปไม่ได้สำหรับมหาอำนาจส่วนใหญ่ในระยะนี้ของเกมด้วยซ้ำ ….


ตามที่คาดไว้จากดินแดนต้องห้าม เพียงแค่ไอเทมที่ดรอปจากมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายตัวเดียว มันก็มีมากเท่ากับไอเทมที่ดรอปจากมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายสามถึงสี่ตัวในโลกภายนอกเลย แถมพูดกันตามตรงคุณภาพของไอเทมที่ดรอปที่นี่ยังดีกว่าโลกภายนอกอยู่นิดหน่อยด้วยซ้ำ อันยีลดิ้งฮาร์ทนั้นอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็นเช่นกัน และในขณะเดียวกันเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าเมื่อเขาไปถึงขั้นสี่ เขาจะนำทีมมาที่เทือกเขาที่ถูกทำลายเพื่อสำรวจมันอีกครั้งแน่นอน


อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้ให้ความสนใจกับอาวุธ อุปกรณ์ และวัสดุที่โทเดลย่าดรอปออกมามากนัก ตอนนี้เขาให้ความสนใจกับรูปสลักสัตว์อสูรโบราณที่สูงหนึ่งเมตรนี้มากกว่า และเขาก็รีบเดินตรงเข้าไปหยิบ และเก็บมันเข้ากระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็ว


ในความเห็นของซือเฟิง แม้จะนำมูลค่ารวมของไอเทมชิ้นอื่นๆทั้งหมดที่โทเดลย่าดรอปมารวมตัวกัน แต่มันก็ยังไม่สามารถจะเปรียบเทียบกับมูลค่าที่แท้จริงของรูปสลักสัตว์อสูรโบราณนี้ได้อยู่ดี


( รูปสลักสัตว์อสูรศักสิทธิ์ (สัตว์อสูรกลืนวิญญาณ)] (ระดับอีปิค และเป็นยูนีค ไอเทม(Unique Item))


หนึ่งในสิบสองรูปสลักสัตว์อสูรศักสิทธิ์ที่ถูกสร้างโดย เซเรโคโร่ บาเรสตั้น ซึ่งมันมีพลังที่น่าทึ่งอยู่


แต่อย่าประมาทรูปสลักนี้เพียงเพราะว่ามันเป็นไอเทมระดับอีปิคเชียวล่ะ !!


สำหรับผู้เล่นขั้นสี่หรือสูงกว่าขึ้นไป รูปสลักสัตว์อสูรนี้มันมีค่ามากกว่าไอเทมระดับตำนานเป็นพันเท่า


เซเรโคโร่ บาเรสตั้น เป็นเทพโบราณในดินแดนของ God domain ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะเทพแห่งสายธาตุ ตามตำนานเล่าว่า เขาสามารถจะควบคุมองค์ประกอบธาตุของเวทย์มนต์ทั้งหมดได้ และเขาก็แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่ในหมู่เทพโบราณด้วยกัน


ใน God domain ไอเทมใดๆที่เคยเป็นของเทพมาก่อนนั้นมันก็จัดว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงไอเทมที่เทพโบราณองค์หนึ่งสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองเลย สำหรับเหล่าทวยเทพด้วยกันรูปสลักพวกนี้อาจเป็นขยะ แต่สำหรับผู้เล่นขั้นสี่หรือสูงกว่านั้น รูปสลักนี้มันมีค่าอย่างมาก ….


หากมองแค่พื้นผิว คนส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจว่ารูปสลักสัตว์อสูรนี้มันมีไว้แค่ประดับห้องเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากวางรูปสลักสัตว์อสูรนี้ไว้ในบริเวณที่มีมานาหนาแน่นมากๆ รูปสลักก็จะเริ่มแสดงประโยชน์ลึกลับของมันออกมา ซึ่งนั่นก็คือมันจะทำให้ผู้เล่นทุกคนในบริเวณหรือห้องนั้นๆสามารถรับรู้หลักการทำงาน และองค์ประกอบของธาตุเวทย์มนต์แบบเฉพาะเจาะจงได้


แม้ว่าการรับรู้ที่จะได้รับมันจะคลุมเครือ แต่มันก็ยังดีกว่าการพยายามที่จะใช้ความรู้สึกของตัวเองสรุปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า


อย่างไรก็ตามหากสามารถสะสมรูปสลักสัตว์อสูรพวกนี้ได้เพิ่มขึ้น เอฟเฟคการรับรู้ที่จะได้รับมันก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ….


ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง มันมีซุเปอร์กิล และมหาอำนาจหลายกลุ่มที่ทำงานร่วมกันเพื่อเข้าปล้นคลังสมบัติของเทพโบราณ ซึ่งหลังจากปฎิบัติการทั้งหมดสำเร็จ โดยแลกมากับการเสียชีวิตของผู้เล่นของพวกเขานับไม่ถ้วน


พวกเขาก็ได้ค้นพบรูปสลักสัตว์อสูรศักสิทธิ์สามในสิบสองในคลังสมบัตินั้น โดยหนึ่งในนั้นเป็นรูปสลักขนาดกลางที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานด้วย


เนื่องจากรูปสลักทั้งสามนี้เอง มันทำให้ซุเปอร์กิลที่ได้รับมันไปกลายเป็นหนึ่งในสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain อย่างรวดเร็ว


แต่ตอนนี้พอซือเฟิงฆ่ามอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายไปหนึ่งตัว เขากับได้รับหนึ่งในรูปสลักนี้มาแล้ว นี่มันไม่น่าเชื่อเลย ….


ครั้งนี้ฉันโชคดีมากจริงๆ แม้ว่ามันจะไม่มีเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานดรอปแม้แต่ชิ้นเดียวก็ตาม แถมบอสยังดรอปคริสตัลคำแนะนำมรดกบางอย่างที่สมบูรณ์ออกมาด้วย ถ้ามหาอำนาจต่างๆรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะได้ตายจากความอิจฉาซือเฟิงแน่นอน ตอนนี้แม้ว่าท่าทีภายนอกของเขาจะดูสงบ แต่ภายในของซือเฟิงนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขมากจริงๆ เมื่อเขาหยิบคริสตัลความทรงจำสีแดงเข้มขึ้นมาจากบนพื้น


โดยปกติแล้ว คำแนะนำมรดกที่ผู้เล่นจะสามารถหาได้จากดินแดนต้องห้ามนั้นเป็นเพียงเศษชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายเท่านั้น และเนื่องจากความไม่เสถียรนักของมานาในพื้นที่ เศษชิ้นส่วนเหล่านี้จึงจะหายไป หลังจากการใช้เพียงครั้งเดียว


อย่างไรก็ตามสำหรับคริสตัลคำแนะนำมรดกที่เป็นคริสตัลความทรงจำที่ซือเฟิงได้รับมานั้นมันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป !!!


เนื่องจากมานาภายในคริสตัลนั้นยังคงมีความเสถียรและสมบูรณ์ ดังนั้นผู้เล่นจึงจะสามารถใช้มันได้หลายครั้ง โดยจ่ายเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งร้อยชิ้นต่อครั้งเท่านั้น


อย่างไรก็ตามเนื่องจากอายุที่ค่อนข้างเก่าแก่ของมัน ซือเฟิงก็ประเมินไว้ว่ามันน่าจะใช้ได้ราวแปดถึงเก้าครั้งเท่านั้น หรืออาจจะมากนั้นนิดหน่อย ….


ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันมีมหาอำนาจบางส่วนที่เต็มใจจะแลกไอเทมระดับตำนานกับคริสตัลแบบนี้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครยอมแลกเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกกิลขนาดใหญ่และทีมนักผจญภัย


เพราะท้ายที่สุดแล้วคริสตัลคำแนะนำมรดกแบบนี้ มันอาจจะนำไปสู่การกำเนิดขึ้นของผู้เล่นขั้นห้า ซึ่งมันมีค่ามากกว่าไอเทมระดับตำนานหลายเท่า


ใน God domain นั้น เว้นแต่มันจะมีผู้เล่นขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าปรากฎตัวขึ้น ไม่งั้นผู้เล่นขั้นห้าก็จะถูกนับว่ายืนอยู่ในจุดสูงสุดของเกมแล้ว และทรัพยากรที่ผู้เล่นขั้นห้าจะสามารถหามาได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมันก็มากกว่ามูลค่าของไอ

เทมระดับตำนานหนึ่งชิ้นมากๆ


หลายนาทีต่อมา ซือเฟิงก็เก็บไอเทมที่ดรอปออกมาทั้งหมดเข้ากระเป๋าจนเรียบร้อย จากนั้นเขาก็ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนไปอีกสิบนาที ก่อนจะให้ทุกคนเริ่มเดินทางเข้าไปยังดินแดนลับเอิร์ธฟอลต่อทันที


ซือเฟิงนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดให้สมาชิกที่ยังอยู่ในสถานะอ่อนแออยู่ที่ตรงกลางของทีม นอกจากนี้เขาก็ยังควบคุมให้ฟอร์เบโร่เปิดเส้นทางให้กับพวกเขา โดยการกำจัดลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ และแกรนลอร์ด เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบห้าที่คิดจะเข้ามาโจมตีทีม โดยเขาไม่ได้คิดจะให้ทุกคนได้พักผ่อนนาน แต่อย่างใด


“ผู้บัญชาการ เราจะไม่รีบร้อนกันเกินไปหน่อยหรอ ?” โซริทารี่ไนน์กระซิบถามซือเฟิง ในขณะที่ใบหน้าของเขายังคงดูซีดเผือดอยู่


การต่อสู้กับโทเดลย่านั้นมันทำให้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของทุกคนลดลงไปเหลือต่ำกว่าาสิบเปอเซ็นต์ ซึ่งมันทำให้ตอนนี้พวกเขาอาจจะหมดสติได้ทุกเมื่อ และแม้แต่ซือเฟิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น


กระนั้นหลังจากให้พวกเขาพักผ่อนเพียงสิบนาที ซือเฟิงก็พาพวกเขาตรงลึกเข้ามาต่อ ซึ่งนี่มันจัดว่าเสี่ยงมากๆเลย ….


แถมในตอนนี้พวกเขาก็เดินทางกันต่อมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว และทุกคนก็ต่อสู้กันตลอดช่วงเวลานี้ แม้ว่าโฟร์เบโร่จะจัดการช่วยเคลียร์มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ออกไปได้ แต่ด้วยจำนวนของพวกมันที่มีมากมาย มันก็ยังมีหลุดมาให้ผู้เล่นต้องจัดการอยู่ดี และพวกเขาก็ไม่สามารถจะเหม่อหรือความระวังของตัวเองลงได้เลย เพราะหากพวกเขาพลาดแม้แต่นิดเดียว มันก็จะหมายถึงความตายแน่นอน


“ฉันรู้ แต่เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว ….” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ขณะที่เขาควบคุมโฟร์เบโร่ ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “ในตอนนี้ หากระยะเวลาของโฟร์เบโร่หมดลง …. ฉันก็จะไม่สามารถเรียกเจ้าชายปีศาจตนที่สองออกมาได้อีกต่อไป และหากมันเป็นแบบนั้นเราก็คงจะตายก่อนไปถึงจุดหมายแน่นอน ดังนั้นเราจึงต้องเร่งทำเวลาหน่อย”


เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง โซริทารี่ไนน์ก็มองไปยังมอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดรอบตัวเขา และรู้สึกขนลุก ในเวลาเดียวกันเขาก็ยกโล่ของตัวเองขึ้น และขยับเข้าใกล้ซือเฟิงโดยไม่รู้ตัว


ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าชายปีศาจ พวกเขาทั้งหมดก็คงจะตายไปแล้วแน่นอน อันที่จริงพวกเขาก็จะไม่สามารถรับมือกับมอนสเตอร์เหล่านี้ทั้งหมดได้ด้วยซ้ำ ต่อให้พวกเขามีผู้เล่นขั้นสี่ในทีมหลายคน เพราะท้ายที่สุดการต่อสู้ในเทือกเขาที่ถูกทำลายนั้น มันก็ต้องใช้ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจเช่นกันจำนวนมหาศาลเช่นกัน และนี่มันก็จะทำให้พวกเขาไม่สามารถรับมือกับมอนสเตอร์พวกนี้ได้นานนักแน่นอน


“เร็วขึ้นอีกหน่อย !!! เราใกล้จะถึงแล้ว !!!” ซือเฟิงกระตุ้นทุกคนผ่านแชททีม หลังจากเขาได้ตรวจสอบแผนที่ของเขา


เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ทุกคนก็เพิ่มความเร็ว และย่นระยะห่างระหว่างพวกเขากับโฟร์เบโร่เข้ามาอย่างรวดเร็วทันที


หลังจากผ่านไปอีกหลายสิบนาที ในที่สุดทั้งทีมก็ค้นพบถ้ำขนาดใหญ่ในหุบเขา โดยทางเข้าของถ้ำนี้นั้นมันสูงหลายสิบเมตร มันก็มีแรงกดดันทางจิตมากกว่าโทเดลย่าซะอีก และมันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม นี่คือสถานที่ที่คุณพูดถึงใช่ไหม ?” อิลูซะรี่เวิร์ดถามอย่างกังวลมากๆ ขณะที่จ้องมองไปยังถ้ำขนาดใหญ่ ความรู้สึกนี้ที่เธอกำลังประสบมันเหนือกว่าที่เธอประสบมากับโทเดลย่าซะอีก ดังนั้นมันจึงคิดออกไม่ยากเลยว่า หนทางข้างหน้าจะอันตรายแค่ไหน


เมื่อมองไปที่แผนที่ผู้สังหารเทพ ซือเฟิงก็พูดด้วยความมั่นใจว่า “มันน่าจะอยู่ที่นี่แหละ ….”


“แต่ … แรงกดดันทางจิตนี่มัน ….” อันยีลดิ้งฮาร์ทรู้สึกขนลุก และรู้สึกแบบเดียวกันกับอิลูซะรี่เวิร์ด ….


ถ้าตอนนี้มอนสเตอร์อีกตัวที่คล้ายกับโทเดลย่าโผล่ออกมาจากถ้ำ ครั้งนี้พวกเขาจะได้ตายจริงๆแน่นอน


“แรงกดดันทางจิตมันอาจจะรุนแรง แต่เราก็ได้พยายามอย่างมากเพื่อจะมาให้ถึงที่นี่ ดังนั้นเราไม่สามารถจะยอมแพ้ตอนนี้ได้ถูกไหม ?” ซือเฟิงนั้นเข้าใจความกังวลของทุกๆคนตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันยีลดิ้งฮาร์ท อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถจะถอยได้แล้ว เขาต้องได้รับสมบัติของผู้สังหารเทพมาให้ได้ และตอนนี้หากมีสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น เขาก็เต็มใจจะใช้ไพ่ลับที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเลยด้วย


“โอเค งั้นเข้าไปกัน ….”


อันยีลดิ้งฮาร์ทและคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของซือเฟิง ก่อนที่พวกเขาจะเดินตรงเข้าไปข้างในพร้อมกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ซือเฟิงพูดมามันถูกทั้งหมด พวกเขาไม่สามารถจะยอมแพ้ตอนนี้ได้ หลังจากพยายามมาอย่างหนัก


อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งทีมกำลังเดินผ่านทางเข้าถ้ำไป มันก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจขึ้น


ทันทีที่โฟร์เบโร่พยายามจะก้าวเข้ามาในถ้ำนั้น มันก็มีลำแสงสีแดงที่ความเร็ง

สูงมากๆพุ่งตรงมายังมัน จนซือเฟิงไม่มีเวลาจะควบคุมให้โฟร์เบโร่หลบ และท้ายที่สุดแล้วเมื่อโดนลำแสงสีแดงนี้เข้าไปเจ้าชายปีศาจผู้แข็งแกร่ง และแทบจะเป็นอมตะในหมู่ขั้นเดียวกันก็ร่างระเบิดออก และกลายเป็นเปลวไฟหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)