Reincarnation Of The Strongest Sword God 2924-2925
ตอนที่ 2924 งานเลี้ยงอันรื่นรมย์
**ขออธิบายไว้ล่วงหน้า มันเป็นตอนที่เสวี่ยเหวินโหรวหลอนๆจากประสบการณ์ที่เข้าไปติดอยู่ในโลกพิเศษแปดสิบปีน่ะ ฉะนั้นมันเลยจะออกแนวละครหลังข่าว หลอนๆ ไรแนวนี้นิดนึง // ตอนที่ 2924 งานเลี้ยงอันรื่นรมย์
เสียงล็อคดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องนอนที่ปิดลง หญิงสาวที่ดูสง่างามเยือกเย็นราวกับหิมะกำลังเดินผ่านห้องโถงไปยังอีกฟากหนึ่ง โดยในขณะกำลังเดินไป ผมยาวดำสนิทขยับพลิ้วไหวอยู่กลางแผ่นหลังอันบอบบาง ใบหน้าขาวใสนวลเนียนดั่งหยก ภายใต้ชุดกิโมโนสีขาวที่ไม่อาจปิดบังร่างกายที่เห็นส่วนโค้งเว้าชัดเจนดูเย้ายวน นั่นเพราะผ้าไหมซาตินที่เธอสวมใส่อยู่จะเข้ารูปตามรูปร่างของผู้สวมใส่
ชายใดที่ได้เห็นล้วนไม่อาจห้ามใจตนเองได้ ต้องเผลอมองตามจนน้ำลายไหล แต่เมื่อเห็นสายตาที่มืดมนของเธอ พวกเขาต่างก็สั่นสะท้านด้วยความกลัวและหยุดคิดเรื่องสกปรกเหล่านั้น พวกเขาทำท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวและเอ่ยทักทายเธอด้วยความเคารพทันที
“รองหัวหน้ากิลด์”
“รองหัวหน้ากิลด์”
สาวงามไม่ได้ตอบรับคำทักทายนั้น และไม่แม้แต่จะชายตามองเสียด้วยซ้ำ ราวกับเธอเป็นดั่งภูตผีสำหรับเขาหรือไม่ก็พวกเขานั่นแหละที่เป็นเหมือนภูตผีสำหรับเธอ เลือนราง ไม่มีความหมาย และไม่มีตัวตน ขณะที่เธอเดินผ่านทางโค้ง ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากห้องอาหารของสำนักงานใหญ่สภาสิบแปดปีกในเมืองเฟิงหลิน สมาชิกภายในนับร้อยกำลังเฉลิมฉลอง ร้องรำทำเพลง และดื่มกินอาหารที่ดีที่สุดที่หาได้นอก Upper Zone อาหารเหล่านั้นประกอบไปด้วย ข้าวผัดทรงเครื่อง, มันฝรั่งย่างปรุงรส, เป็ดย่าง, กวางย่าง, ปลาทอด และอื่นๆอีกมากมาย
เธอหิวจนท้องร้องเลยทีเดียวล่ะ ห้องอาหารถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ทั่วทั้งเพดานมีพวงมาลัยสีทองห้อยลงมาจากโคมระย้าคริสตัล เชิงเทียนอันโอ่อ่าวางเรียงรายเป็นทางตรงกลางโต๊ะ แสงไฟอันอบอุ่นและพลิ้วไหวก่อให้เกิดแสงระยิบระยับยามกระทบกับสิ่งของแวววาว ทำให้บรรยากาศในห้องดูเลิศหรูอลังการขึ้นมา
สมาชิกภายในต่างส่งเสียงเชียร์ดังลั่นขณะที่กำลังถือขวดสารอาหารระดับ S อยู่ ก่อนที่พวกเขาจะดื่มมันเข้าไปราวกับมันเป็นเบียร์ที่ไว้ดื่มกับเพื่อนสนิท พวกเขาหัวเราะเยาะใส่คนที่ดื่มหมดเป็นคนสุดท้าย สมาชิกบางคนก็จับจ้องมองคนรับใช้ นินทาและหัวเราะไปกับเพื่อนๆ คนรับใช้แต่ละคนล้วนแต่หน้าตาสะสวยและน่ารักมากจนสามารถเป็นนางแบบชั้นนำได้เลย แต่หากอยู่ใน God Domain การเป็นคนรับใช้ในกิลด์ระดับสูงก็ไม่ต่างจากการเป็นคนรับใช้ให้กับจักรพรรดิ ไม่รู้สึกละอายที่ต้องมารับใช้ผู้มีสถานะที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้แล้ว หากพวกเขาสามารถได้ใจของผู้เชี่ยวชาญคนใดไปครอบครอง พวกเขาก็จะรวยได้ง่ายๆเลยทีเดียว แม้จะดูสิ้นคิดไปหน่อย แต่การเป็นคนรับใช้ให้กับกิลด์ที่มีชื่อเสียงนั้นง่ายและทำเงินได้มากกว่าการเป็นนางแบบเสียอีก
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปด้วยบรรยากาศที่ครึกครื้น และเต็มไปด้วยเสียงเฮฮา
“ฉิงเฉว ดีใจมากที่เธอมาสักที!” จ้าวเยว่รู่เพื่อนสนิทเอ่ยทักทายพลางควงแขนไป๋ฉิงเฉวทันที พวกเขารู้จักกันมานานก่อนที่จะเข้าร่วมกับอูโรโบรอสเสียอีก จ้าวเยว่รู่สวมชุดกิโมโนเข้ารูป ซึ่งมีลายสีดำแดงตัดกันดูเหมาะมาก แต่เมื่อเทียบกับไป๋ฉิงเฉวแล้ว ร่างกายอันมีเสน่ห์เย้ายวนใจกลับน่าดึงดูดมากกว่า
จ้าวเยว่รู่ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน ดูสดใสขึ้นทันตา “ฉันเองก็กลัวว่าปาร์ตี้นี้จะมากไปสำหรับเธอ แต่ฉันก็ดีใจนะที่เธอมาจนได้”
“อะ…อะไรกันน่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉิงเฉว หรือที่รู้จักกันในนาม เสวี่ยเหวินโหรว รองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน คำพูดติดขัดที่หาได้ยากกลับออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเธอ
เธอและอควาโรสได้หลุดเข้าไปในโลกพิเศษและผ่านช่วงเวลา 80 ปี ภายในหนึ่งสัปดาห์ เหตุการณ์นั้นทำให้สมองเกิดความเครียดเป็นอย่างมาก และมีโอกาสสูงที่จิตใจกับความทรงจำจะได้รับความเสียหาย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการใดๆที่น่าเป็นห่วง ทั้งสองล้วนผ่านความเคร่งเครียด กดดัน นอนไม่หลับ และประสบภาวะทางจิตใจมายาวนานเหลือเกิน
แต่วันนี้กลับมีงานเลี้ยงใหญ่โตรออยู่ ซึ่งเธอกลับจำอะไรเกี่ยวกับปาร์ตี้นี้ไม่ได้เลย
ความทรงจำของฉันหายไปใช่ไหม?
ความคิดนั้นทำให้เธอถึงกับหลั่งเหงื่อไปทั่วร่างกาย เสวี่ยเหวินโหรวรู้ดีว่ามีโอกาสสูงที่จะสูญเสียความทรงจำ แต่เธอก็ยังเยาว์วัยเกินไปที่จะต้องมาทรมานกับโรคสมองเสื่อม อาการที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่สมองได้รับความเสียหายคืออะไรนะ?
สูญเสียสมาธิ? อัมพฤกษ์อัมพาต?
จ้าวเยว่รู่มองเธออย่างแปลกใจ “นี่เธอลืมได้ยังไงกัน ? วันนี้คือวันฉลองการที่หัวหน้ากิลสามารถก้าวไปถึงขั้นหกได้นะ !!!”
เสวี่ยเหวินโหรวรู้สึกสั่นไปทั้งตัว เธอจำได้ว่าซือเฟิงได้ก้าวไปถึงขอบเขตเทพขั้น 6 แล้ว แต่เธอกลับลืมว่าวันนี้คือวันฉลองอย่างนั้นหรือ? เป็นเรื่องปกติที่กิลด์จะจัดปาร์ตี้เมื่อมีสมาชิกสักคนประสบความสำเร็จในการเลื่อนขั้น ในตอนที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ก้าวมาถึงขั้น 4 ในซุเปอร์กิลต่างๆ พวกเขาเองก็จัดปาร์ตี้ไปสองสามวันเลย อีกทั้งเมื่อเร็วๆนี้ ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้จัดงานปาร์ตี้ยาวเป็นสัปดาห์เลยทีเดียวเพื่อฉลองการที่พวกเขาสามารถการันตีตำแหน่งสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain ได้แล้ว
และแน่นอนว่าสำหรับสภาสิบแปดปีกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อสมาชิกทุกคนมาถึงขั้น 4 พวกเขาก็จัดงานเลี้ยงใหญ่โตภายในสำนักงานใหญ่ของกิล และตอนที่เสวี่ยเหวินโหรวกับอควาโรสเลื่อนไปเป็นขั้น 5 พวกเขาก็จัดงานเทศกาลในเมืองเฟิงหลิน เพื่อเพิ่มความนิยม และชื่อเสียงให้กับสภาสิบแปดปีกอีกด้วย ไม่นานหลังจากนั้นกิลก็จัดเทศกาลใหญ่ทั่วทั้งเมืองเพื่อฉลองการเลื่อนเป็นขั้น 5ได้ สำเร็จของ ไฟเออร์แดนซ์, ไวโอเล็ตคลาวด์ และหยานเทียนซิง
แต่กระนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็มักจะพาตัวเองออกไปจากความสนุกสนานและความรื่นเริงเหล่านั้น เนื่องจากมันค่อนข้างทำร้ายจิตใจของเธอ เพราะเธอรู้สึกเสมอว่ามันเปลืองเงิน แต่ซือเฟิงกลับบอกว่ามันคุ้มค่า และท้ายที่สุดแล้ว เขาก็พูดถูกเหมือนเช่นเคย งานเลี้ยงเฉลิมฉลองและเทศกาลเหล่านั้นกลับกลายเป็นวิธีการอันยอดเยี่ยมสำหรับการเพิ่มความนิยมและแรงจูงใจให้กับเหล่าสมาชิกสภาสิบแปดปีก เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงาน
ดังนั้นเมื่อซือเฟิงก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของ God Domain เทพขั้น 6! มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการฉลองให้กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่เธอกลับลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ไปได้อย่างไรกันนะ? จ้าวเยว่รู่ลากเธอผ่านโต๊ะต่างๆท่ามกลางเสียงดังจ้อกแจ้กจอแจจนกระทั่งมาถึงด้านหลังของห้องอาหารที่มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างสวยงาม และบรรดาอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะนี้ก็ยังดูน่ากินมากกว่าที่เสิร์ฟให้เหล่าสมาชิกภายในด้วย และมันยังมีโพชั่นแห่งชีวิต วางเรียงรายเป็นร้อยขวดอยู่ตรงกลางโต๊ะอีกด้วย แน่นอนว่าผู้ที่นั่งอยู่รอบๆโต๊ะนี้ล้วนเป็นสมาชิกคนสำคัญที่เป็นเหล่าผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกทั้งสิ้น
ควายน้ำกับไฟเออร์แดนซ์นั่งติดกัน จิบโพชั่นแห่งชีวิต รำลึกถึงการต่อสู้และชีวิตของพวกเขาก่อนจะเข้ามาเล่น God Domain โคล่ากับฟลายอิ้งอิ้งชาโดว์กำลังกระซิบกระซาบกันด้วยท่าทางเขินอาย ขณะที่แบล็คกี้กำลังคุยอยู่กับคนรับใช้ที่งดงามคนหนึ่ง เทอเทิลโดฟกับชาโด้วซอร์ด คู่หูศิลปะการต่อสู้ต่างหัวเราะขณะมองดูทุกคน ยู่หลาน เหลียงจิง และเมลานโครอิคสไมล์เพิ่งจะทานอาหารเสร็จ โดยพวกเธอนั่งอยู่ในมุมเงียบๆพร้อมกับลิ้มรสเครื่องดื่มขณะสนทนาอย่างคนมีอารยะ โคลด์ชาโด้วอดีตรองหัวหน้ากิลด์ไมโทโลจี้ และบลูฟรอสต์ ซึ่งทำงานในเขตหนึ่งของ Dark Den กำลังเล่นไพ่อยู่ สังเกตจากสีหน้าบูดบึ้งของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะแพ้แน่ๆ บลูแบมบูกับต๊อดฟูลเรนก็อยู่ด้วย สมาชิกกิลด์ทั้งสองคนนี้มักจะออกไปผจญภัยอยู่เสมอ
นอกจากนี้เพื่อนที่ซื่อสัตย์จากอูโรโบรอส ปัจจุบันกลายเป็นผู้บริหารของสภาสิบแปดปีกสาขาย่อยในจักรวรรดิแบล็คดราก้อน กำลังนั่งผิวปากอยู่ที่โต๊ะใหญ่ เฟียซสเน็คกำลังงัดข้ออยู่กับเนกาทีฟไลฟ์ เสี่ยวเยว่เอ๋อผู้ขี้อายกำลังมองพวกเขาด้วยแก้มที่แดงเปล่งปลั่ง ขณะโพชั่นแห่งชีวิตผสมเหล้าจนเมาแล้ว วินมิล ไวน์โบน และคนอื่นๆกำลังเล่นเกมดื่มต่างๆ หยานเทียนซิง อี้ลั่วเฟย โยวจื่อผิง ไมเนอร์วินด์ เย่หวูเหมียน แรมแพนท์เบลด ซูเฉียนลิ่ว เรมแนนท์คลาวด์ สตับบอร์นโบน เซเว่นไลท์ แฮปปี้วินด์ สมาชิกคนสำคัญของสภาสิบแปดปีกต่างก็นั่งๆยืนๆอยู่รอบๆโต๊ะ สนุกไปกับงานเลี้ยงนี้
แม้แต่อควาโรสผู้ที่ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับเธอก็กำลังสนทนาอย่างลึกซึ้งกับเพื่อนเก่าอย่าง Alluring summer ในที่สุดเธอก็ยิ้มแล้ว ซึ่งก็เป็นสิ่งที่โหยหามาตลอดหลายสิบปี ทุกคนต่างก็มีรอยยิ้ม ทุกคนต่างก็อยู่ที่นี่ ไม่มีใครรู้สึกว่าตนเองโดนทอดทิ้ง ยกเว้นเสวี่ยเหวินโหรว เธอรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายยิ่งนัก พวกเขาลืมเธอไปหรือเปล่า? เธอได้รับเชิญให้มาที่นี่หรือเปล่านะ? หรือเธอลืมปาร์ตี้ที่มหัศจรรย์เช่นนี้จริงๆ ?
เสวี่ยเหวินโหรวพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังไหลออกมา แต่ดวงตาสวยที่แสนเย็นชานั้นกลับเปียกชื้นไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ตาม เมื่อหันไปมองที่นั่งของซือเฟิง เธอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น เสวี่ยเหวินโหรวปาดน้ำตาออกไป
ไวโอเล็ตคลาวด์ที่สวมใส่ชุดเดรสสีชมพูดำตัดกัน กำลังนั่งบนตักพิงไปกับหน้าอกของซือเฟิง เธอหัวเราะคิกคักขณะป้อนองุ่นม่วงให้เขาอย่างมีจริตจะก้าน
“ยัยนี่ …” เสวี่ยเหวินโหรวพึมพำภายใต้ลมหายใจอันโกรธกรุ่น พลางมองไปด้วยสายตาอันเย็นชาและพยายามดึงแขนตัวเองออกไปจากจ้าวเยว่รู่
“ฉิงเฉว ใจเย็นหน่อย มันไม่มีอะไรหรอก …. ” จ้าวเยว่รู่พยายามจับแขนเธอไว้แน่น
“ไม่มีอะไรเนี่ยนะ?! เธอตาบอดหรือไง?” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกนเกรี้ยวกราดใส่ ก่อนจะสลัดหลุดออกมาจากจ้าวเยว่รู่ได้เสียที
“ฉิงเฉว รอเดี๋ยวก่อ….” จ้าวเยว่รู่ยังคงพยายามทำให้เธอใจเย็นก่อนจะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงตะโกนที่ดังจนแสบแก้วหู
“ไวโอเล็ต เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่?! เธอละเมิดข้อตกลงระหว่างเรานะ!” เสวี่ยเหวินโหรวตะเบ็งเสียงใส่ด้วยลมหายใจทั้งหมดที่มี แต่ไวโอเล็ตคลาวด์ก็ไม่แม้แต่จะกะพริบตาทั้งยังดึงองุ่นออกจากพวง ถูมันกับหน้าอกอันราบเรียบของเธอ
“ไวโอเล็ต!” เสวี่ยเหวินโหรวยังคงตะโกนใส่ ไวโอเล็ตคลาวด์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ขณะที่จับคางของซือเฟิงด้วยมือเรียวบาง โดยไม่หันไปมองเสวี่ยเหวินโหรวเลย
“พี่สาวฉิงเฉว พี่อย่าอิจฉาไปเลย เธอไม่เคยได้ยินสำนวนที่ว่า ‘มาก่อนได้ก่อน’ หรอกหรือ?” ไวโอเล็ตคลาวด์พูดด้วยรอยยิ้มขณะที่ริมฝีปากของเธองับองุ่นไว้แล้วจูบซือเฟิงก่อนจะส่งมันเข้าไปในปากของเขา
“ยัยนี่ ! อ๊า…!” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกนใส่ แต่แล้วก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอเอื้อมมือไปข้างหลัง พลันพบว่ามือเธอเต็มไปด้วยเลือด เลือดของเธอ ม่านตาเธอหดลง ขณะมองไปยังจ้าวเยว่รู่ที่กำลังถือมีดสั้นพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาอาฆาตแค้น มีดสั้นนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเธอเอง
“จ้าวเยว่รู่ ทำไมกัน?”
“เธอทรยศฉัน” จ้าวเยว่รู่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทันใดนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในอากาศ เธอหลบโดยสัญชาตญาณ และพบว่าไวโอเล็ตคลาวด์กำลังแทงเธอจากข้างหลัง แต่กลับพลาดไป
“ไม่ ไม่ ไม่นะ ทำไมทุกคนถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันไปทำอะไรให้?!” เสวี่ยเหวินโหรวร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กลับมีมีดเปื้อนเลือดอยู่ตรงหน้าอกของเธอ ความรู้สึกของเธอค่อยๆหายไปพร้อมกับที่ร่างกายค่อยๆหงายหลัง ร่วงลงไปกองกับพื้น ร่างที่ไร้การเคลื่อนไหวกำลังจับจ้องมองเพดาน และมองไปยังคนที่โจมตีครั้งสุดท้าย
เลือดค่อยๆไหลซึมเข้าไปในชุดกิโมโนสีขาว ไหลออกจากร่างของเธอ ดวงตาเริ่มพร่ามัว จนไม่อาจมองเห็นรายละเอียดใดๆอีกแล้ว คนที่ใช้มีดแทงทะลุหัวใจ มีผิวขาวซีด ผมสีดำ และใส่ชุดสีดำ เหมือนกันกับซือเฟิง ….
ซือเฟิงเหรอ? ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับฉัน? ทำไมเขาถึงต้องการฆ่าฉัน? ฉันไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยนะ ฉันมีแต่มอบความภักดีให้เขา ….
จากนั้นผู้โจมตีก็หมอบลงข้างๆร่างที่ไร้การขยับเขยื้อน มองดูเธอค่อยๆจากโลกใบนี้ไป แต่เมื่อใบหน้านั้นเข้ามาใกล้ ในที่สุดเธอก็มองเห็นแล้ว
เกาเชิงฮั่ว
ตอนที่ 2925 ฝันร้ายอันยาวนานตลอด 80 ปี
เกาเชิงฮั่ว อดีตหัวหน้ากิลด์อูโรโบรอส ตัวตนของชายผู้นี้นั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของเธอมาหลายปีแล้ว พวกเขาได้ประลองเดิมพันเป็นตาย และทำสัญญาผ่านระบบหลักของ God domain เพื่อกำจัดผู้แพ้ออกไปจาก God Domain อย่างถาวร โชคดีที่เธอเอาชนะมาได้ด้วยความช่วยเหลือของซือเฟิง กับไวโอเล็ตคลาวด์ ซึ่งมันก็ทำให้เกาเชิงฮั่วนั้นถูกกำจัดออกไปจาก God Domain อย่างถาวร แต่กระนั้น อิทธิพลของเขาก็ยังมีผลต่ออูโรโบรอส แถมเขายังปล้นทรัพยากร และแย่งชิงเหล่าสมาชิกกิลด์ที่มีความสามารถมากที่สุดไปอีกด้วย และท้ายที่สุดหลังจากที่เสวี่ยเหวินโหรวผ่านความยากลำบากมามากมาย เธอจึงกลับมาควบคุมกิลด์ได้ได่อย่างเบ็ดเสร็จอีกครั้ง แต่กระนั้นเธอก็ต้องพบว่า กิลด์นี้เป็นดั่งเรือที่ใกล้จะล่มแล้ว
เขาอยู่ในคราบร่างของจ้าวเยว่รู่ได้อย่างไรกัน?
แล้วไวโอเล็ตคลาวด์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องนี้?
“เธอทรยศฉัน” เกาเชิงฮั่วกระซิบข้างๆหูเสวี่ยเหวินโหรว
จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น พยายามฝืนลุกขึ้นมาจากเตียงพลางหายใจหอบเหนื่อย ในขณะที่ร่างกายของเธอ เปียกโชกและเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอกลับมายังห้องหรูหราที่คุ้นเคยแล้ว ซึ่งนี่มันก็เป็นหนึ่งในห้องชั้นบนสุดของคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ระหว่างชั้นพื้นฐานกับชั้นกลางของ Upper Zone เมืองหยวนเทียน
“ฝันร้ายอีกแล้ว…” เสวี่ยเหวินโหรวบ่นกับตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ
ถัดจากเตียงของเธอก็เป็นอควาโรสที่มีใบหน้าไร้อารมณ์ตามปกติ เธอเองก็เคยกรีดร้องออกมาเหมือนกัน ซึ่งทั้งสองก็มักจะเกิดอาการเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง
เสวี่ยเหวินโหรวหันไปมองเธอด้วยท่าทางเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด “ก็แค่ฝันร้ายอีกคืน…”
อควาโรสยิ้มให้เธอ นับเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่ออกมาจากห้วงมิติที่ปั่นป่วนวุ่นวาย “ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาเธอกลับไปนอน”
อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมาเสวี่ยเหวินโหรวก็รู้สึกเจ็บแปลบ อควาโรสใช้มีดสั้นแทงไปที่หน้าอกของเธอ พร้อมกันนั้นใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มกลับกลายเป็นไร้อารมณ์อย่างที่ควรจะเป็น ….
เสวี่ยเหวินโหรวกรีดร้องและลุกขึ้นมา มือกุมหน้าอกไว้มั่น แต่ไม่มีบาดแผล เช่นเดียวกันกับอควาโรสที่ไม่อยู่เสียแล้ว เธอหอบหายใจอย่างหนัก เหงื่อมากมายหลั่งไหลออกมาจนเตียงเปียกชุ่ม
เธอกลับมาอยู่ในห้องอันหรูหราในคฤหาสน์อีกครั้งแล้ว และเธอก็ไม่ได้นอนอีก ฝันร้ายที่วนเวียนอยู่ในฝันร้ายอีกที เป็นฝันร้ายที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ
หลังจากนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็ถอนหายใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอไม่ได้สูญเสียความทรงจำใดๆ ในขณะที่สภาสิบแปดปีกฉลองให้กับการเลื่อนขั้นของเหล่าสมาชิก ซือเฟิงกลับไม่เคยฉลองให้กับความสำเร็จใดๆของเขาเลย ทำไมคนที่กลายเป็นเทพถึงได้ต่างออกไปนะ? เมื่อซือเฟิงเลื่อนขั้น สภาสิบแปดปีกจะฉลองโดยไม่มีเขาอยู่ด้วย ถึงเธอจะเชิญเขามางานเลี้ยงของตนเอง เขาก็จะปฏิเสธและบอกว่าไม่มีเวลาเป็นแน่ นอกเหนือจากนั้นเผลอๆเขายังจะใช้ให้เธอทำงานที่น่าเบื่ออีกด้วย
‘เสวี่ยเหวินโหรว ช่วยไปที่นี่แล้วเก็บรวบรวมของพวกนี้มาให้ฉันหน่อย เสวี่ยเหวินโหรว เสวี่ยเหวินโหรว เธอไปจับตัวนั้นได้ไหม เสวี่ยเหวินโหรว เธอจัดการเรื่องนี้ให้ได้ไหม’ บอกเลยว่าช่างเป็นอะไรที่น่าโมโหมาก
ทั้งเสวี่ยเหวินโหรวและอควาโรสต่างก็ได้รับบาดเจ็บทางจิตใจ และสมองอย่างรุนแรงหลังจากผ่านโลกพิเศษมา 80 ปี และเมื่อออกมาได้พวกเขาก็ยังต้องเผชิญกับฝันร้ายที่วนเวียนไม่รู้จบ โลกพิเศษนั้นเหมือนกับฉากหนังที่ยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด บางฉากพวกเธอก็ต้องสู้กับมอนสเตอร์มากมาย ในขณะที่คนอื่นๆ เพื่อน หรือคนรู้จักต่างก็พยายามจะเข่นฆ่าเธอให้ได้ ซึ่งมันก็เหมือนกับฝันร้ายที่เธอฝันถึงนั่นแหละ บางฉากเธอก็พบว่าการมีชีวิตรอดมันช่างยากเย็นในขณะที่ความตายก็คืบคลานเข้ามา บางครั้งความตายก็รวดเร็วฉับไว บางครั้งก็นานแสนนานจนยากจะจินตนาการ
ขณะที่อยู่ในโลกพิเศษ ความเจ็บปวดจะไม่ลดลง ทุกๆฉากที่พบเจอล้วนเป็นภาพอันน่าสยดสยอง หากเธอต้องเจอกับฉากที่ยากเกินจนเป็นไปไม่ได้ เธอมักจะเชือดคอตัวเองดีกว่าจะต้องตายอย่างช้าๆ แล้วจึงไปเกิดใหม่ในฉากต่อไป แต่ความทรมานครั้งใหญ่สุดก็คือการยังคงมีความหวังว่าจะพบทางออกซึ่งกินเวลายาวนานถึง 80 ปีเลยทีเดียว
เสวี่ยเหวินโหรวเกลียดความรู้สึกที่เป็นดั่งฝันร้ายเหล่านี้ และนี่มันก็ทำให้เธอต้องออกไปนอนหลับพักผ่อนในโลกแห่งความจริงเสมอ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสมาชิกหลายคนที่สามารถออนไลน์อยู่ในเกมพลางนอนหลับพักผ่อนไปได้ เธอจำเป็นที่จะต้องออกไปนอนหลับนอก God Domain เพื่อประมวลผลความทรงจำและประสบการณ์ที่พบเจอในโลกพิเศษ ไม่เช่นนั้นแล้วสมองของเธอจะไม่ได้พักผ่อนจนก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาว
และแน่นอนว่าอควาโรสก็ทำแบบเดียวกัน ….
ปัจจุบันจากการตรวจสอบโดยแพทย์ของบริษัทกรีนก๊อดยังไม่พบความเสียหายอื่นใดนอกเหนือจากนี้ และมันก็โชคดีที่พวกเธอไม่สูญเสียความทรงจำ ไม่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต หรือสติปัญญาลดลง รวมถึง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ความเร็วในการตอบสนอง หรือการแยกประสาทต่างๆ ที่ไม่ลดลงด้วยเช่นกัน
ซือเฟิงได้ให้ น้ำแห่งชีวิตเอาไว้กับพวกเธอสองคน มันมาจาก Upper Zone ชั้นกลาง ซึ่งมันจะช่วยในการประมวลผลความทรงจำและประสบการณ์ต่างๆ โดยหากพวกเธอไม่มี น้ำแห่งชีวิต จิตใจของพวกเธอก็คงต้องได้บาดเจ็บหนักก่อนจะสามารถประมวลผลความทรงจำ และประสบการณ์ 80 ปีนี้ได้หมดแน่
ฝันร้ายในครั้งนี้ก็คล้ายๆกับทุกครั้งที่ฝันถึง แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย
เสวี่ยเหวินโหรวรู้สึกอิจฉาหลังจากที่เห็นไวโอเล็ตคลาวด์กับซือเฟิงในลักษณะนั้น เธอก็รู้สึกอิจฉาอย่างมากจริงๆ …. แต่กระนั้นเพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด เธอจึงได้เลือกที่จะกำจัดอารมณ์ต่างๆออกไป และเมื่อผ่านวันเวลาในโลกพิเศษไป 80 ปี เธอก็ลืมอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้ว ไม่สิ เธอยังรู้สึกได้อยู่
ความอิจฉาไงล่ะ
เสวี่ยเหวินโหรวพอใจกับกระบวนการคิดของเธอ ในที่สุดเธอก็รู้สึกได้แล้ว แต่ก็ยังสับสนกับอารมณ์เหล่านั้นอยู่ เธอดื่มน้ำแห่งชีวิตไปอีกหนึ่งหยด ก่อนที่จะไปอาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อบนร่างกายของเธอ และเมื่อตัวเธอแห้งแล้ว เธอก็ปีนขึ้นไปยังห้องเกมเคบินเฟียร์เลส
จักรวรรดิมังกรไฟ เมืองมิลเลี่ยนฟอเรสต์:
เมือง NPC -ขนาดยักษ์นั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นและ NPC จำนวนมหาศาล โดยที่เหล่าผู้เล่นต่างพูดคุยเรื่องการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เมื่อไม่นานมานี้กันอย่างตื่นเต้น
สนามรบนอกเมืองกลับกลายเป็นภูมิทัศน์แห่งใหม่ไปโดยปริยาย เนื่องด้วยการโจมตีทำลายล้างของขั้น 6 ที่ปะทะกัน ก่อให้เกิดหุบเขา, ภูเขา และแม่น้ำขึ้นมาใหม่ แผนที่ของจักรวรรดิมังกรไฟต้องถูกวาดขึ้นใหม่
ขณะเดียวกันมันก็มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งล้านคนกำลังกวาดล้างดินแดนทั้งหมดนี้ เพราะมันอาจจะยังมีอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆที่ผู้เล่นจากโลกอื่นดรอปเอาไว้หลังตาย แม้ว่าเวลามันจะผ่านมาประมาณหนึ่งแล้วก็ตาม
ภายในเมืองฝูงชนที่อยู่บนถนนสายหนึ่งเต็มไปด้วยความสับสน และวุ่นวาย ซึ่งนั่นเป็นเพราะมีสาวงามคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาพร้อมกับออร่าขั้น 6 ปัจจุบันนี้ทั่วทั้งโลก God Domain มีผู้เล่นขั้น 6 นับได้ด้วยสองมือด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงนับว่าเป็นของแปลกสำหรับคนทั่วไป
“โอ้วววว ออร่าแบบนี้!”
“โว้ววว ผู้เล่นขั้น 6!”
“ว้าววว เธอสวยจังเลย ใครน่ะ?”
“อะไรนะ? แกไปอยู่ไหนมา? นั่นคือรองหัวหน้ากิลด์สภาสิบแปดปีก เสวี่ยเหวินโหรวไงล่ะ พวกเราควรอยู่ห่างๆสักหน่อย เดี๋ยวเธอจะโกรธเอา” ผู้เล่นขั้น3 เลเวล 163 กระซิบบอกผู้เล่นขั้น 2 เลเวล138 ด้วยเสียงอันแผ่วเบา
เสวี่ยเหวินโหรว สาวงามดั่งเทพธิดาจุติลงมาจากสวรรค์ไม่ได้สนใจเสียงนกเสียงกาจากฝูงชนเพราะเธอกำลังวุ่นอยู่กับอินเตอร์เฟสของเธอเอง
“หืม? ซือเฟิงออนไลน์แล้วเหรอ? เขาตื่นแล้วหรือไงนะ?” เสวี่ยเหวินโหรวรีบวีดีโอคอลไปหาทันที
“หัวหน้ากิล คุณเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
“ฉันสบายดี ขอบคุณนะ ว่าแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เธอช่วยเอาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ของเราไปที่เมืองหินโบราณให้หน่อยสิ ฉันต้องรีบใช้โดยด่วน”
“…..” นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่เคยอยากติดต่อหาซือเฟิง เขามักจะใช้งานเธอเสมอ! และเธอก็ยุ่งมากพออยู่แล้วในฐานะรองหัวหน้ากิลด์!
การเคลื่อนย้ายคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ก็เป็นงานที่หนักหนาสาหัสด้วยเช่นกัน เพราะมันไม่สามารถบรรจุลงในกระเป๋าได้ มันจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายด้วยตนเอง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถเทเลพอร์ตได้ด้วย นี่มันจึงหมายความว่าต้องใช้วิธีอื่นในการเคลื่อนย้ายมัน และซือเฟิงบอกว่าต้องการมันโดยด่วน เธอจึงต้องใช้เรือเหาะแทน
“พวกเราเพิ่งจะเอามันไปที่เมืองหินโบราณให้คุณเป็นจำนวนสี่แสนชิ้นเลยนะ นั่นยังไม่พออีกหรอ?” เสวี่ยเหวินโหรวเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความงุนงง
“เอ่อ เรื่องนั้น…” ซือเฟิงพึมพำ
“อะไรนะ? คุณใช้หมดแล้ว?!” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกนใส่หน้าจอนั่น ดีที่มันเป็นการคุยในช่องส่วนตัว ผู้เล่นคนอื่นที่อยู่รอบๆจะไม่ได้ยินเสียงเธอ
นั่นคือคริสตัลเจ็ดลูมินารี่จำนวนสี่แสนชิ้นเลยนะ !!! หากซื้อขายในราคาตลาด มูลค่าของมันมากพอที่จะซื้อได้หลายประเทศในโลกจริงเลยทีเดียว
“เอาเถอะน่า มันได้ถูกใช้ไปกับเรื่องดีๆนั่นแหละ …. โอ้แล้วก็เธอเองก็ควรมาที่เมืองหินโบราณด้วยนะ” หลังจากนั้นซือเฟิงก็ตัดสายไป ทิ้งให้เสวี่ยเหวินโหรวถอนหายใจอย่างหงุดหงิด และแน่นอนว่าเสวี่ยเหวินโหรวก็ใช้เวลาไม่นานที่จะค้นพบว่าเธอรู้สึกหงุดหงิดแล้ว
“หมอนี่… ชอบทำให้อารมณ์ขึ้นอยู่เรื่อยเลย…” เธอบ่นพลางถอนหายใจแล้วติดต่อหาผู้ช่วยนับสิบคนเพื่อทำการขนส่งคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ไปยังเมืองหินโบราณตามคำสั่งของซือเฟิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น