Reincarnation Of The Strongest Sword God 2556-2559

ตอนที่ 2556 โรงแรมอิสระที่บ้าคลั่ง


ป่าใบไม้ผลิ เมืองป่าหิน :


เมื่อข่าวเกี่ยวกับเมืองป่าหินแพร่กระจายไปยังผู้เล่นอิสระ จำนวนทีมนักผจญภัยขนาดเล็กที่มาเยือนเมืองก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากที่เมืองป่าหินเปิดขึ้นมาใหม่ เมืองนี้ก็ค่อนข้างแออัดและมีผู้เล่นมากมายเข้ามาในเมือง


กลุ่มผู้เล่นที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทหกคน ซึ่งแผ่ออร่าแห่งความมืดออกมาเป็นระยะทางไกลก็ปรากฎตัวขึ้น ซึ่งมันก็ทำให้ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆพวกเขานั้นอดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกจากพวกเขาไปครึ่งก้าว


“ออร่าแห่งความมืดและฆ่าฟันของผู้เล่นเหล่านี้นั้นแข็งแกร่งมากๆ !!! แม้แต่ผู้เล่นสายความมืดที่ฉันรู้จักที่เข่นฆ่าผู้เล่นอื่นอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ได้มีออร่าที่รุนแรงแบบนี้เลย พวกเขาเหล่านี้เป็นใครกัน ?”


“ออร่าของพวกเขาไม่ใช่สิ่งเดียวที่รุนแรง ดูที่อุปกรณ์ของพวกเขาสิ พวกเขาอาจซ่อนเอฟเฟคเรืองแสงของพวกมันไว้ แต่ไอเทมทั้งหมดของพวกเขานั้นก็ถูกสลักด้วยอักษรรูนเวทย์มนต์ อุปกรณ์ของพวกเขานั้นควรจะเป็นระดับไฟน์โกลหรือสูงกว่าทั้งหมด อุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้า !!! แม้แต่สมาชิกกองกำลังหลักของมหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่มีไอเทมชั้นยอดแบบนี้ครบเซ็ทเลย”


แม้ว่าผู้เล่นอิสระที่อยู่ใกล้ๆจะกลัวทีมหกคนนี้ แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาอุปกรณ์ของทั้งทีม


นับตั้งแต่ที่เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นชั้นแนวหน้ามาถึงหนึ่งร้อยกัน ความต้องการอาวุธและอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยหรือสูงกว่าก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อุปทานของมันก็ยังคงต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นราคาของสินค้าเหล่านี้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก


แม้แต่ผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญทั่วไปก็ยังไม่สามารถจะซื้ออาวุธกับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่าได้ง่ายๆ และแม้แต่กองกำลังหลักของมหาอำนาจต่างๆก็ยังเต็มใจจะปล้น หากพบกับทีมที่ได้รับอุปกรณ์แบบนี้มาแม้แต่ชิ้นเดียว


อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่อ่อนแอที่สุดที่ทีมหกคนนี้สวมใส่อยู่นั้นกับเป็นอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้า และอุปกรณ์ทั้งหมดของพวกเขาก็ล้วนมีรูนเวทย์มนต์ ซึ่งสำหรับผู้เล่นทั่วไปมันจัดเป็นอุปกรณ์ศักสิทธิ์เลย


แม้จะสังเกตเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของผู้เล่นจำนวนมาก แต่สมาชิกในทีมทั้งหกคนนั้นก็ไม่ได้ตอบสนองใดๆ


“ฉันเดาว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วไปของทวีปหลักนั้นไม่ได้มีจำนวนมากนัก และพวกเขาไม่เพียงแต่จะมีอาวุธกับอุปกรณ์ในระดับที่น่าสงสารมากๆเท่านั้น แต่พวกเขายังไม่รู้เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยรูนเวทย์มนต์ด้วยซ้ำ เมื่อรวบรวมกองทัพได้แล้ว โลกแห่งความมืดก็น่าจะอ้างสิทเหนือพื้นที่นี้ให้เป็นดินแดนแห่งใหม่ของเราได้ไม่ยาก” นักดาบขั้นสามที่สวมชุดสีเทา และมีผมทรงทหาร กล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม ในขณะที่เขามองไปยังผู้เชี่ยวชาญอิสระรอบตัวเขา


“คุณยังไม่ควรรีบสรุปนะแฟลช เพราะท้ายที่สุดแล้วสภาพแวดล้อมในพื้นที่นี้มันไม่ตรงกับสิ่งที่เราได้รับในโลกแห่งความมืดเลย ผู้เล่นเหล่านี้นั้นต้องคอยระวังแค่มอนสเตอร์เท่านั้น ในขณะที่เราต้องคอยระวังมอนสเตอร์และผู้เล่นเสมอ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นในโลกของเราจะพัฒนาได้เร็วกว่า …” ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราและดูเรียบง่ายกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “สภาสิบแปดปีกต้องมีอะไรดีบ้างแหละ ถึงทำให้กิลของเรายอมเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตร และไม่เข้าแทรกแซงเรื่องนี้ได้”


“ฉันก็แค่คาดเดากับบ่นๆน่ะ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมกิลของเราถึงอยากเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกตั้งแต่แรก คุณก็ได้เห็นแล้วนี่ว่ากองทัพของโลกเราทรงพลังมากแค่ไหน ? นี่สภาสิบแปดปีกจะสามารถหยุดยั้งกองทัพแบบนั้นได้จริงๆงั้นหรอ ? เราไม่ควรมีเหตุผลที่จะต้องจ่ายคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นให้กับพวกเขาด้วยซ้ำ” เคิร์สแมนเซอร์ที่ชื่อเมจิคแฟลชกล่าวบ่น


คริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นนั้นไม่ใช่ราคาเล็กน้อยเลยสำหรับกิลทั้งสองของพวกเขา ทำไมกิลของพวกเขาจึงจะต้องยอมจ่ายเพื่อแลกกับสิทเหนือพื้นที่เจ็ดสิบเปอเซ็นต์ของป่าใบไม้ผลิด้วย ? สภาพของสภาสิบแปดปีกตอนนี้นั้นไม่ต่างจากสิ่งที่รอการถูกทำลายล้างเลยด้วยซ้ำ ….


“ฉันไม่รู้ แต่พวกระดับสูงก็คงมีเหตุผลของตัวเอง เราก็แค่ทำตามหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายให้เสร็จเถอะ” ชายวัยกลางคนพูดพลางส่ายหัว ด้วยความสัตย์จริง สถานการณ์นี้ทำให้เขาสับสนมากเช่นกัน

จำนวนผู้เล่นที่โลกแห่งความมืดเตรียมใช้เพื่อบุกเข้ายึดป่าใบไม้ผลินั้นไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะเลย ผู้เล่นหลายล้านคนได้เข้าร่วมกองทัพรุกรานนี้แล้ว และยังมีอีกจำนวนมากที่กำลังเดินทางมาสมทบ เพราะท้ายที่สุดข่าวสารเกี่ยวกับประตูที่ถูกเปิดขึ้นพึ่งจะเริ่มแพร่กระจายออกไปยังพื้นที่ห่างไกลในโลกแห่งความมืด มันจึงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย ….


และจากการจากการคาดเดาของกิล กองทัพน่าจะรวบรวมผู้เล่นได้หลายสิบล้านคนอย่างง่ายดาย และเผลอๆกองทัพอาจมีมากกว่าหนึ่งร้อยล้านคนด้วยซ้ำ และมันไม่มีแม้แต่อาณาจักรหรือจักรวรรดิใกล้เคียงจะสามารถตอบโต้กองทัพใหญ่ขนาดนี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังของสภาสิบแปดปีกเลย กองทัพของโลกแห่งความมืดจะก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก เมื่อพวกเขามาถึงที่ทวีปหลัก


ในขณะที่สมาชิกของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้กำลังพูดคุยกัน พวกเขาก็ก้าวผ่านประตูของเมืองป่าหินเข้าไป


“มานาที่นี่นั้นมีความหนาแน่นอย่างมาก ถ้าเมืองกิลของดาร์ครัปโซดี้มีมานามากขนาดนี้ เราจะกลายเป็นกิลอันดับหนึ่งของโลกแห่งความมืดได้อย่างง่ายดายเลย” เมจิคแฟลชมองไปรอบๆด้วยความอิจฉา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงมานาที่ชวนหลงใหลในอากาศ


“มานาของเมืองนี้มันน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมหาอำนาจมากมายถึงต้องการเมืองนี้” ชายวันกลางที่มีหนวดเครากล่าวตอบ


“ช่างน่าเสียดาย หากหัวใจปีศาจไม่ได้ทำการเปิดประตูสู่โลกแห่งความมืดขึ้นที่ป่าใบไม้ผลิ สภาสิบแปดปีกจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อมหาอำนาจต่างๆอย่างมากเลยทีเดียว” เมจิคแฟลชกล่าวพลางมองไปรอบๆฝูงชนที่เป็นทั้งผู้เล่นและพ่อค้า NPC และเมื่อเห็นฉากทั้งหมดนี้ เขาก็เริ่มเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยว่าทำไมพวกระดับสูงของเขาจึงตัดสินใจจะเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีก


เมืองป่าหินนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองไม่น้อยไปกว่าเมืองใหญ่ของ NPC เลย และด้วยมีเมืองกิลเช่นนี้อยู่ภายใต้การควบคุม สภาสิบแปดปีกก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาเลย และเนื่องจากป่าใบไม้ผลินั้นเป็นแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อย ผู้เล่นทุกคนที่นี่จึงล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เมืองนำเสนอ ไม่เพียงแต่มันจะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถรับสมัครและเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้นมาได้ แต่เลเวลเฉลี่ยของสมาชิกของพวกเขายังจะค่อยๆขึ้นไปเหนือกว่าสมาชิกของมหาอำนาจต่างๆเช่นกัน สภาสิบแปดปีกนั้นมีศักยภาพที่จะกลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริงในอนาคตของ God domain แน่นอน


“ก็อาจจะ แต่ทุกอย่างก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเราไม่ได้มีอำนาจจะเข้าไปยุ่งในส่วนนี้ เราควรรีบติดต่อกับสภาสิบแปดปีก เพราะยิ่งเราทำได้เสร็จเร็วเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้กลับเร็วเท่านั้น หากเรารอและพลาดโอกาสนี้ไป เมื่อการรุกรานเริ่มขึ้น ทุกอย่างในภายหลังมันจะยากขึ้น” ชายวัยกลางคนกล่าวเตือน


“ฉันได้ติดต่อกับกิลเรียบร้อยแล้ว พวกเขาบอกให้เรามุ่งหน้าไปที่อาคารที่สูงที่สุดบนถนนสายหลัก ซึ่งเมื่อเราไปถึงแล้ว จะมีคนพาเราไปพบกับหัวหน้ากิลของพวกเขา” เมจิคแฟลชกล่าว


“คุณหมายถึงอาคารนั้นงั้นหรอ ?” ชายวัยกลางคนถาม พลางชี้ไปยังโรงแรมอิสระที่ใจกลางเมือง และเขาก็กล่าวต่อด้วยความประหลาดใจว่า “ฉันประหลาดใจมากจริงๆที่สภาสิบแปดปีกสามารถสร้างอาคารแบบนี้ได้ อาคารที่สูงที่สุดที่กิลเราสามารถสร้างได้ยังสูงน้อยกว่าห้าสิบเมตรเลย แต่อาคารนี้ของพวกเขามันกับสูงกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร”


“มันสูงแล้วยังไงล่ะ ? อีกไม่นานมันก็จะมีใครบางคนเอามันไปจากพวกเขาแล้ว …” เมจิคแฟลชกล่าวอย่างเย้ยหยัน


ชายวัยกลางคนไม่ได้พยายามหักล้างการคาดเดาของเมจิคแฟลช อาคารสูงเช่นนี้จะมีประโยชน์ต่อการมองเห็นเท่านั้น สภาสิบแปดปีกนั้นควรจะจ่ายเงินจำนวนที่ใช้สร้างอาคารนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกของพวกเขามากกว่า ในความคิดของเขา เพราะความแข็งแกร่งมันหมายถึงทุกสิ่งใน God domain


จากนั้นผู้เล่นเหล่านี้ก็เดินไปที่โรงแรม ….


พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการเดินทางมาให้ถึงโรงแรม และเมื่อมาถึงพวกเขาก็สังเกตเห็นผู้เล่นมากมายทั้งในและนอกโรงแรมอิสระ และมันก็มีผู้เล่นหลายคนที่เข้าแถวอยู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่แผ่ออร่าอันน่ากลัวออกมา จนทำให้เมจิคแฟลชและเพื่อนของเขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น และมันก็มีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้อยู่ในหมู่คนเหล่านี้มากกว่าหนึ่งโหลเช่นกัน


ที่น่าแปลกใจคือผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้นั้นยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบและเชื่อฟังต่อหน้าแผนกต้อนรับของโรงแรมอิสระ


ฉากนี้ทำให้เมจิคแฟลชและเพื่อนของเขาตกตะลึง


โดยปกติผู้เชี่ยวชาญแบบนี้จะสามารถทำหน้าที่เป็นรองผู้บัญชาการ หรือผู้บัญชาการกองกำลังหลักของบางกิลได้ง่ายๆเลย และผู้ที่มีความสามารถนั้นมันก็ได้รับการรับรองและได้รับความเคารพเป็นอย่างดีไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขากับยินดีจะต่อแถวยาวพวกนี้เพื่อรอคิว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?


ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้เมจิคแฟลชและเพื่อนของเขาตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากๆ เมื่อได้รับหนึ่งในห้องพักของโรงแรมอิสระ ….


ทันใดนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็เดินเข้ามาหาพวกเขาและถามว่า “คุณเป็นตัวแทนจากเดียตี้โซไซตี้ และดาร์ครัปโซดี้ใช่ไหม ?”


“ใช่แล้ว …” ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเขาได้เห็นตราสัญลักษณ์ของสภาสิบแปดปีกบนเกราะบริเวณอกของเสวี่ยเหวินโหรว เพราะเขาสัมผัสได้ว่าเธอนั้นแผ่ออร่าที่ทรงพลังมากๆออกมา


“โอเค งั้นตามฉันมา หัวหน้ากิลของเรากำลังรออยู่ที่ห้องรับรองชั้นบน …” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าวหลังจากยืนยันตัวตนของคนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเธอก็พาทั้งทีมไปที่ลิฟเพื่อนำไปยังชั้นที่เหมาะสม


ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เฝ้ารอจองห้องพักของโรงแรมอิสระอยู่ล้วนมองไปยังทีมของเมจิคแฟลชที่ติดตามเสวี่ยเหวินโหรวไปอย่างอิจฉา ….


“อึก !!! คนเหล่านั้นเป็นใครกัน ?!! พวกเขากระทั่งใช้ลิฟเพื่อนำคนเหล่านั้นไปยังชั้นแปดสิบ !!!”


“พวกเขาจะต้องเป็นพันธมิตรของสภาสิบแปดปีกแน่นอน ถ้าจำไม่ผิดมีเพียงสมาชิกระดับเงินหรือมากกว่าขึ้นไปของโรงแรมเท่านั้นจึงจะได้ไปพักในชั้นบนแบบนั้น และผู้เล่นก็ต้องการมากกว่าเหรียญทองกับคริสตัลเวทย์มนต์เพื่อที่จะได้เป็นสมาชิกระดับเงินด้วย ผู้เล่นนั้นต้องการคะแนนสมาชิกเป็นจำนวนมาก ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้แม้แต่ผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยชั้นยอดก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิกระดับเงินด้วยซ้ำ”


“สภาสิบแปดปีกนั้นขี้เหนียวเกินไป พวกเขาต้องการให้เราได้รับคะแนนเพียงพอเพื่อเข้าพักในโรงแรมนี้ ฉันสงสัยจังว่า เมื่อไหร่ฉันจะมีคะแนนมากพอจะได้เป็นสมาชิกระดับเงิน ?”


“มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกตินี่นา เพราะท้ายที่สุดแล้วห้องพวกนี้มันก็มีจำนวนจำกัด และฉันก็ได้ยินมาว่าห้องขั้นสูงตั้งแต่ชั้นแปดสิบหรือมากกว่าขึ้นไปนั้นยอดเยี่ยมมากๆ เพราะไม่เพียงแต่ความเร็วในการฟื้นฟูจะสูงกว่าห้องปกติถึงสามสิบเปอเซ็นต์ แต่ในห้องแต่ละห้องนั้นยังมีห้องฝึกเป็นของตัวเอง ผู้เล่นจะสามารถฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้ได้ง่ายๆด้วยห้องฝึกเหล่านั้น”


“ที่พูดนั่นจริงงั้นหรอ ?! ไม่ได้การแล้ว !!! ฉันจะต้องกลายเป็นสมาชิกระดับเงินให้ไวที่สุด !!!”


ผู้เล่นที่รออยู่ในล๊อบบี้ของโรงแรมอิสระนั้นต่างรู้สึกอิจฉาอย่างสุดจะพรรณนา เมื่อพวกเขามองดูทีมของเมจิคแฟลชเข้าลิฟไป ปฎิกิริยาของพวกเขานั้นทำให้ผู้เล่นสายความมืดหลายคนที่เฝ้าดูอยู่สับสน


ครู่ต่อมาทั้งทีมก็มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมอิสระ ….


ซึ่งทันทีที่เมจิคแฟลชและคนอื่นๆเดินเข้ามาที่ชั้นบนสุดของโรงแรมอิสระ จิตใจของพวกเขาก็รู้สึกสงบมากๆ พูดให้ถูกต้องคือรู้สึกชดชื่นทางจิตใจราวกับว่าความคิดของพวกเขานั้นได้ค้นพบเส้นทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และตอนนี้พวกเขาก็สามารถจะกำหนดแนวความคิดของตัวเองได้โดยไม่สับสน


“นี่คือสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?”


เมจิคแฟลชและคนอื่นๆนั้นอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง เมื่อรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้


พวกเขารู้สึกประหลาดใจกับมานาของโรงแรมอิสระมากอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมในตอนนี้ที่ชั้นบนสุดนั้น ก่อนหน้านี้มันไม่มีอะไรเลย ถ้าพวกเขาสามารถมาฝึกในชั้นนี้ได้ พวกเขาจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้เร็วขึ้นอีกมากแน่นอน

“หัวหน้ากิลของเราอยู่ข้างใน เข้าไปได้เลย …” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าวอย่างไม่แปลกใจแม้แต่น้อยที่ได้เห็นสีหน้าประหลาดใจของผู้เล่นทั้งหกคน เธอเพียงแค่ยิ้มและเปิดประตูห้องรับรองเข้าไป …..



ตอนที่ 2557 รากฐานที่น่าอัศจรรย์


คำพูดของเสวี่ยเหวินโหรวนั้นได้ดึงเมจิคแฟลชและคนอื่นๆออกจากภวังค์ และพวกเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับรองกันด้วยสีหน้าเจื่อนๆ


อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้อง พวกเขากลับพูดไม่ออกอีกครั้ง


ความรู้สึกสดชื่นที่พวกเขารู้สึกได้บริเวณห้องโถงนั้นมันน่าทึ่งมากๆ แต่ตอนนี้มันกับถูกขยายเพิ่มขึ้นไปอีก ในขณะที่พวกเขาก้าวเข้าสู่ห้องรับรอง พลังงานแปลกๆในห้องนั้นหนาแน่นกว่าในห้องโถงอย่างชัดเจน


หากพวกเขาสามารถฝึกในห้องรับรองนี้ได้ สองถึงสามวัน มาตราฐานการต่อสู้ของพวกเขาจะไปถึงระดับถัดไปแน่นอน


แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังจะต้องปฎิบัติกับห้องแบบนี้เหมือนพื้นที่ฝึกซ้อมอันศักสิทธิ์และห้ามมิให้บุคคลอื่นนอกจากเหล่าแกนหลักเข้าใช้งานแน่นอน แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับใช้มันเป็นห้องรับรอง ….


ฟุ่มเฟือย !!!


นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว !!!


นักดาบชายคนหนึ่งเอนกายอยู่บนโซฟาตัวหนึ่งในห้องรับรองโดยสวมใส่ชุดอุปกรณ์ที่ดูเรียบง่าย และสวมใส่เสื้อคลุมสีดำซ้อนทับอีกชั้น และตรงข้ามกับนักดาบคือผู้หญิงที่ยังมีเลเวลไม่ถึงหนึ่งร้อย และดูอ่อนแอกว่าผู้เล่นทั่วไป อย่างไรก็ตามตราสัญลักษณ์ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงที่หญิงสาวติดอยู่ที่หน้าอกนั้นดูสะดุดตาเป็นพิเศษ


ผู้หญิงคนนี้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมลานโครอิคสไมล์ ซึ่งโดยปกติจะยุ่งอยู่กับการจัดการบริษัทการค้าแสงเทียน และหลังจากใช้เวลานานในการค้นคว้าและวิจัยอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูง


“หัวหน้ากิล นี่คือขีดจำกัดในปัจจุบันของเรา เทคนิคการตีเหล็กที่เกี่ยวข้องนั้นมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนมากเกินไป การผลิตให้มันประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้นนั้น ฉันกลัวว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ….” เมลานโครอิคสไมล์ยืนยันอย่างผิดหวัง ขณะที่เธอวางอุปกรณ์หลายชิ้นไว้บนโต๊ะระหว่างเธอกับซือเฟิง

ซึ่งทันทีที่เธอทำแบบนี้ ดวงตาของเมจิคแฟลชและดวงตาของคนอื่นๆก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ชิ้นส่วนอุปกรณ์หลายชิ้นนี้จะอยู่ในเซ็ทเดียวกันเท่านั้น แต่มันยังมีเอฟเฟคเรืองแสงของไอเทมระดับไฟน์โกลออกมาด้วย


กล่าวอีกนัยหนึ่งคืออุปกรณ์ที่วางอยู่บนโต๊ะคือเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล !! ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยด้วย !!


แม้แต่ดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ก็มีแบบนี้เพียงแค่ไม่กี่เซ็ทเท่านั้น แต่สภาสิบแปดปีกกับสามารถผลิตมันขึ้นมาได้ และฟังจากคำพูดของเมลานโครอิคสไมล์แล้ว ดูเหมือนว่าเธอตีความว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวด้วยซ้ำ !!


ในขณะที่ทีมของเมจิคแฟลชเข้ามาในห้องรับรอง ซือเฟิงก็เปลี่ยนสายตาหันไปจ้องมองพวกเขา


“คุณคือตัวแทนของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้สินะ เชิญนั่งเลย ….” ซือเฟิงกล่าว เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าทีมของเมจิคแฟลชไม่สามารถละสายตาจากไอเทมที่ล้มเหลวบนโต๊ะได้ เขาก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนี้มากนะ …”


หลังจากกลับมาที่เมืองป่าหิน เขาก็ได้สั่งให้เสวี่ยเหวินโหรวส่งต่อแบบแปลนเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนี้มาให้เมลานโครอิคสไมล์เพื่อทำการวิจัยและผลิต เขามีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากพอแล้วในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาจะมาผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนี้


ในทางตรงกันข้ามเมลานโครอิคสไมล์นั้นสามารถจะทำได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเธออุทิศเวลาว่างทั้งหมดของเธอให้กับการตีเหล็ก ดังนั้นเธอจึงพัฒนาสกิลและทักษะของเธอในด้านนี้ไปได้เร็วกว่าซือเฟิงมาก และเธอกระทั่งกลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงได้ก่อนเขาด้วยซ้ำ


แถมบริษัทการค้าแสงเทียนก็ยังมีครีมโกโก้ที่อุทิศเวลาทั้งหมดที่เธอมีให้กับการตีเหล็ก เนื่องจากเธอไม่ได้มีหน้าที่จัดการใดๆเกี่ยวกับบริษัทการค้าแสงเทียน ดังนั้นเธอจึงพัฒนาได้เร็วกว่าเมลานโครอิคสไมล์มากในระยะนี้ และเธอกระทั่งกลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงคนแรกของบริษัทการค้าแสงเทียนได้ ซึ่งตอนนี้มันทำให้บริษัทการค้าแสงเทียนมีปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงถึงสองคน


แต่น่าเสียดายที่เซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นทำการผลิตได้ยากกว่าที่ซือเฟิงคาดคิดมาก และแม้หลังจากการทำงานร่วมกันของเมลานโครอิคสไมล์กับครีมโกโก้ พวกเธอก็แทบจะไม่สามารถผลิตเซ็ทนี้ได้แม้แต่เซ็ทเดียว ยิ่งไปกว่านั้นอัตราการผลิตของพวกเธอก็ยังไม่ได้สูงมากนัก และแม้ว่าจะใช้เครื่องกับวัสดุหายากทุกประเภทเข้า่ช่วย แต่พวกเธอก็สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จให้ขึ้นมาอยู่ได้เพียงห้าสิบเปอเซ็นต์เท่านั้น


“ฉันขอโทษสำหรับพฤติกรรมหยาบคายก่อนหน้านี้ของพวกเรา …” ชายวัยกลางที่มีหนวดเคราจาดเดียตี้โซไซตี้รีบขอโทษ “มันเป็นเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยที่หายากอย่างแท้จริง ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถผลิตเซ็ทอุปกรณ์ระดับนี้ได้ มันทำให้ฉันประหลาดใจมากๆ แต่มั่นใจได้ เราจะไม่เปิดเผยความลับนี้ให้ใครรู้แน่นอน”


“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นความลับ เนื่องจากดาร์ครัปโซดี้ เดียตี้โซไซตี้ และสภาสิบแปดปีกเป็นพันธมิตรกัน พวกคุณจึงไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนกับเป็นคนนอกหรอก หากสนใจกันจริงๆ ฉันสามารถขายให้พวกคุณได้จำนวนหนึ่ง” ซือเฟิงเสนออย่างสบายๆ


การครอบครองแบบแปลนเซ็ทปีศาจแห่งความมืดของสภาสิบแปดปีกนั้นได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว เพียงแต่ว่าข่าวดังกล่าวนั้นยังมาไม่ถึงทวีปด้านตะวันออกเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บเป็นความลับ ยิ่งไปกว่านั้นซือเฟิงยังตั้งใจจะจัดเก็บเซ็ทอุปกรณ์ปีศาจแห่งความมืดเหล่านี้ไว้ในคลังกิล เพื่อให้ผู้เล่นของกิลสามารถซื้อได้ในภายหลังด้วย นอกจากนี้ยิ่งสาธารณชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเซ็ทปีศาจแห่งความมืดเร็วเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีเท่านั้น ด้วยวิธีนี้สภาสิบแปดปีกจะสามารถใช้เซ็ทนี้เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญให้มาเข้าร่วมกิลได้มากขึ้นได้


“นี่คุณพูดจริงงั้นหรอ ? หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม” เมจิคแฟลชอดไม่ได้ที่จะถาม


นั่นคือเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยเลยนะที่พวกเขากำลังพูดถึง !!


หากเขาสามารถรับเอาเซ็ทอุปกรณ์ดังกล่าวนี้มาได้ พลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามสิบเปอเซ็นต์ และเขาอาจจะสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดในเลเวลเดียวกันได้เลย


“แน่นอน” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาสังเกตเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลของเมจิคแฟลช “อย่างไรก็ตาม มันจะไม่ได้มีราคาถูก และฉันจะไม่ขายมันเป็นเหรียญทองแน่นอน”


เขาไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วในเรื่องการขายเซ็ทอุปกรณ์ปีศาจแห่งความมืดระดับไฟน์โกลนี้ให้กับพันธมิตรของเขา อีกทั้งมันยังเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวเท่านั้น และ ณ จุดนี้ มหาอำนาจต่างๆก็ล้วนมีเซ็ทระดับนี้กันจำนวนหนึ่งแล้ว ดังนั้นการขายบางส่วนให้กับกิลพันธมิตรของสภาสิบแปดปีก มันจึงจะไม่เป็นอันตรายใดๆต่อสภาสิบแปดปีกเลย


“แล้วคุณต้องการขายเซ็ทนี้เป็นหน่วยเงินแบบไหน ?” เมจิคแฟลชถามอย่างกระตือรือร้น


“คริสตัลแห่งความมืด …” ซือเฟิงกล่าว “ราคาของฉันไม่สูงมาก คุณคิดยังไงกับราคาเป็นคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นต่อเซ็ท ?”


จนถึงตอนนี้มหาอำนาจต่างๆรวมไปถึงผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงคิดว่ามีเพียงแต่ผู้เล่นสายความมืดเท่านั้นที่ต้องการคริสตัลแห่งความมืด แต่พวกเขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าเมื่อผู้เล่นสายอาชีพของ God domain ยังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง คริสตัลเวทย์มนต์ค่าสถานะที่เป็นส่วนประกอบของเรื่องนี้ก็จะยิ่งมีค่ามากขึ้นมาก


อาวุธและอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยคริสตัลเวทย์มนต์ค่าสถานะจะได้รับคุณสมบัติเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับคริสตัลด้วย แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ปรากฎให้เห็นในแผงข้อมูลของไอเทมที่ถูกสร้างขึ้น แต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของผู้เล่นขั้นสามหรือสูงกว่า พวกมันจะทำงานได้ดีกว่าไอเทมปกติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว ….


โชคดีที่คริสตัลแห่งความมืดนั้นหาได้ง่ายในโลกแห่งความมืด ดังนั้นซือเฟิงจึงตัดสินใจที่จะรวบรวมบางส่วนก่อนที่หลายคนจะตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของมัน


“ราคาหนึ่งหมื่นห้าพันคริสตัลต่อชุด ?!!…” เมจิคแฟลชตกใจ “มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรอหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?”


เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยนั้นหายากและจัดเป็นเซ็ทอุปกรณ์ชั้นยอดใน God domain ตอนนี้ แต่คริสตัลแห่งความมืดก็จัดว่าหายากในระดับหนึ่งและมีค่ามากเช่นเดียวกัน ในความเป็นจริงพวกมันมีค่ามากกว่าคริสตัลเวทย์มนต์ด้วยซ้ำสำหรับผู้เล่นสายความมืด


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม สิ่งที่พูดมาเป็นความจริงงั้นหรอ ?” ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราหยุดชะงักทันที


“ฮ่าาา …. ทำไมฉันต้องโกหก ? ฉันต้องการคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นต่อชุด และหากคุณต้องการและจ่ายไหว คุณจะสามารถซื้อได้มากเท่าที่ต้องการเลย” ซือเฟิงกล่าว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเล็กน้อยกับคำถามของชายวัยกลางคน


ก่อนที่เมจิคแฟลชจะปฎิเสธข้อเสนอนี้ ชายวัยกลางคนจากเดียตี้โซไซตี้ก็พูดต่อ


“เดียตี้โซไซตี้จะซื้อพวกมัน !!! เราจะซื้อเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่คุณต้องการจะขายให้เราเลย !!!” ชายวัยกลางคนประกาศอย่างมุ่งมั่น


“นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วงั้นหรอ ฟอเร้สต์ ?” เมจิคแฟลชประหลาดใจ


นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน !!!


เซ็ทปีศาจแห่งความมืดนี้เป็นเพียงเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย และคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นนั้นก็จัดเป็นจำนวนสูงสุดแล้วที่คนๆหนึ่งจะสามารถจ่ายได้แล้วสำหรับเซ็ทนี้ แต่เพื่อนของเขากับกล่าวออกมาจะซื้อให้มากที่สุดเท่าที่หัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกต้องการขาย เมจิคแฟลชนั้นนึกไม่ออกเลยว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้


เดี๋ยวก่อน !!! มีบางอย่างไม่ถูกต้อง !!!


เมจิคแฟลชตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง เมื่อเขาเห็นปฎิกิริยาที่ไม่สนใจใดๆของชายวัยกลางคนที่มีหนวดเครา เขาเปิดใช้งานสกิลตรวจสอบขั้นสูงของตัวเอง และหันไปมองเซ็ทปีศาจแห่งความมืดบนโต๊ะทันที


ทั้งดาร์ครัปโซดี้ และเดี้ยตี้โซไซตี้ ได้ส่งผู้เล่นที่มีสกิลตรวจสอบขั้นสูงและพิเศษนำของมามอบให้กับสภาสิบแปดปีกเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ตรวจสอบหลายสิ่งในระหว่างทางด้วย ในขณะที่เมจิคแฟลชนำคนของดาร์ครัปโซดี้มา ชายวัยกลางคนที่ถูกเมจิคแฟลชเรียกว่าฟอเร้สต์ผู้นี้ก็นำคนของเดียตี้โซไซตี้มา

ดังนั้นมันจะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอนที่ทำให้ชายวัยกลางคนผู้นี้ตัดสินใจทำแบบนี้


“ฉันเชื่อว่าเมื่อนายตรวจสอบ นายจะเห็นได้ด้วยตัวเองแฟลช แต่อย่างไรก็ตามฉันขอพูดยืนยันเลยแล้วกัน พวกนี้มันไม่ใช่เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้าทั่วไป มันจัดเป็นเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยห้าชั้นยอดที่ผู้เล่นสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ มันไม่มีใครเคยพบอะไรแบบนี้ในโลกแห่งความมืด” ชายวัยกลางคนกระซิบกับเมจิคแฟลชที่ใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงอยู่



ตอนที่ 2558 สภาสิบแปดปีกที่หยิ่งผยอง


เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนที่ชื่อฟอเร้สต์และได้เห็นด้วยตาตัวเอง เมจิคแฟลชก็อ้าปากค้าง


“เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ?!”


ปัจจุบันเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในโลกแห่งความมืดนั้นสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าเท่านั้น และแม้แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของดาร์ครัปโซดี้ก็ยังมีอุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยห้าอยู่แค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็มีความสามารถเทียบเท่ากับอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบเท่านั้น และมันแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ


นี่ไม่ต้องพูดถึงเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเลย ….


“ถูกต้อง นอกเหนือจากอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยแล้ว ไม่มีอุปกรณ์ใดในโลกแห่งความมืดที่จะดีไปกว่าเซ็ทปีศาจแห่งความมืดแล้ว” ฟอเร้สต์กล่าวพลางพยักหน้า และพยายามจะระงับความตื่นเต้นในใจ


ถ้าราคาสำหรับเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ คือคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้อย่างแน่นอน


นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดกำลังบุกโจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อยกันอย่างเมามัน เนื่องจากอัตราการดรอปของอาวุธและอุปกรณ์ที่มีเลเวลหนึ่งร้อยหรือสูงกว่าขึ้นไปทั้งหมดล้วนต่ำมากๆ ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆจึงไม่มีก้าวหน้าเท่าใดเลยในการบุกโจมตีดันเจี้ยน และสิ่งนี้ก็นำไปสู่การชะงักงันในการพัฒนาของพวกเขา


หากเขาสามารถรับเอาเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนี้มาให้กับเดียตี้โซไซตี้ได้ กิลของเขาก็จะมีข้อได้เปรียบอย่างมากเหนือกิลอื่นๆ และด้วยข้อได้เปรียบนี้ พวกเขาก็จะสามารถรับเอาค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดซื้อเซ็ทปีศาจแห่งความมืดคืนมาได้อย่างง่ายดาย


ทันทีที่ฟอเร้สต์พูดจบ ความตื่นเต้นก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเมจิคแฟลช และเมจิคแฟลชก็พูดทันทีว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ดาร์ครัปโซดี้จะซื้อเซ็ทนี้ทุกเซ็ทตราบเท่าที่คุณต้องการขายเช่นกัน !!! คริสตัลแห่งความมืดนั้นไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน !!!”


หากเขาสามารถรับเอาเซ็ทปีศาจแห่งความมืดมาได้จำนวนหนึ่ง และมอบมันให้กับกองกำลังหลักของกิล กองกำลังหลักของกิลก็จะมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมแน่นอน พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการค้นหาอุปกรณ์ใดๆจนกว่าจะไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบห้า ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังหลักยังจะมีช่วงเวลาที่ง่ายมากในการบุกโจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อย ในความเป็นจริงดาร์ครัปโซดี้อาจกลายเป็นกิลแรกในโลกแห่งความมืดที่สามารถพิชิตดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อย ขนาดหนึ่งร้อยคนได้ด้วยซ้ำ


“การผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นยากกว่าที่คุณคิดมากๆ และตอนนี้ฉันก็มีพวกมันอยู่จำนวนไม่มากนัก จนถึงตอนนี้เราสามารถผลิตได้แค่สี่เซ็ทเท่านั้น” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆให้กับการแสดงออกที่ค่อนข้างโหยหาของคนทั้งสองตรงหน้าเขา


ซือเฟิงนั้นก็หวังว่าเขาจะสามารถผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดได้มากเท่าที่เขาต้องการเช่นกัน อย่างไรก็ตามเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นจริงๆแล้วเป็นเซ็ทระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบถึงหนึ่งร้อยยี่สิบ และวัสดุที่จำเป็นในการผลิตมันนั้นก็หายากมากๆ ซึ่งนี่มันจำกัดปริมาณการผลิตลงอย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าจะผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดในเวอชั่นที่จัดว่าล้มเหลว แต่อัตราความสำเร็จก็จะยังคงมีแค่ห้าสิบเปอเซ็นต์เท่านั้น


“แค่สี่เซ็ท ?”


เมจิคแฟลช และฟอเร้สต์นั้นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง อย่างไรก็ตามหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วพวกเขาก็พบว่ามันสมเหตุสมผล เพราะท้ายที่สุดนี่คือเซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบที่พวกเขากำลังพูดถึง ถ้ามันผลิตง่ายๆ สภาสิบแปดปีกคงกลายเป็นกิลที่เป็นอมตะไปแล้ว


“แน่นอนว่ามันก็มีความเป็นไปได้ที่กิลทั้งสองของพวกคุณจะสามารถซื้อในปริมาณมาก” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของทั้งสองคน


เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ฟอเร้สต์ก็เข้าใจทันทีว่าซือเฟิงกำลังพูดถึงอะไร เขาตอบโดยไม่ลังเลว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม โปรดระบุเงื่อนไขของคุณมาได้เลย ตราบเท่าที่มันอยู่ในอำนาจของฉัน ฉันก็สามารถจะยอมรับมันในนามของเดียตี้โซไซตี้ได้แน่นอน”


เพียงแค่สามารถซื้อเซ็ทปีศาจแห่งความมืดได้จำนวนหนึ่งในราคาเป็นคริสตัลแห่งความมืดหนึ่งหมื่นห้าพันชิ้นต่อเซ็ทก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการซื้อในจำนวนที่มากมายมหาศาลเลย เพราะท้ายที่สุดเมื่อมีเซ็ทแบบนี้มากพอ กิลก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของกองกำลังหลักของกิลได้อย่างมาก และมันก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้สภาสิบแปดปีกจะไม่มีข้อผูกมัดใดๆที่จะมอบโอกาสอันยอดเยี่ยมนี้ให้กับทั้งสองกิลของพวกเขา


“ด้านของฉันเองก็เหมือนกัน …” เมจิคแฟลชกล่าว หากเขาพลาดโอกาสแบบนี้ไป หัวหน้ากิลแลเหล่าผู้อาวุโสได้เอาเขาตายแน่ เมื่อเขากลับไป ในทางกลับกัน ถ้าเขาประสบความสำเร็จในการเจรจาครั้งนี้ เขาก็จะได้รับความชอบอย่างมากในกิล


“แม้ว่าการผลิตเซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นจะทำได้ยาก แต่การผลิตหลายๆเซ็ทต่อวันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ สภาสิบแปดปีกยินดีที่จะจัดหาเซ็ทเหล่านี้ให้กับทั้งสองกิลของคุณในระยะยาว” ซือเฟิงกล่าว “อย่างไรก็ตามฉันหวังว่าทั้งสองกิลของพวกคุณจะช่วยให้บริษัทการค้าแสงเทียนของสภาสิบแปดปีกสามารถก่อตั้งตัวเองขึ้นในเมืองใหญ่ของ NPC ในโลกแห่งความมืด และรับประกันความปลอดภัยในการดำเนินงานได้”


ความเงียบนั้นเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง เมื่อซือเฟิงพูดจบ ขณะที่ทั้งเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์ก็ล้วนมองมายังเขาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกจะมีความทะเยอทะยานมากขนาดนี้


โลกแห่งความมืดนั้นเทียบเท่ากับจักรวรรดิทั่วไปในทวีปหลักสามแห่ง และประชากรผู้เล่นของโลกแห่งความมืดนั้นก็มีจำนวนมากกว่าประชากรผู้เล่นในจักรวรรดิมังกรไฟซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ God domain ในทวีปหลักด้วยซ้ำ


ในตอนที่โลกแห่งความมืดถูกปิดผนึกอยู่ตลอดเวลาและแทบจะไม่มีการติดต่อกับทวีปหลักเลย มหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดนั้นได้ทำการผูกขาดเมือง NPC ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ในโลกแห่งความมืดไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเมือง NPC ในโลกแห่งความมืดนั้นยังแตกต่างจากเมืองในทวีปหลักด้วยตรงที่ผู้เล่นนั้นจะมีอำนาจเหนือเมืองบางส่วนซึ่งทำให้การเข้ายึดครองเมือง NPC ของโลกแห่งความมืดนั้นยากอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับผู้มีอำนาจจากโลกภายนอก


ในขณะเดียวกันตอนนี้การที่ประตูสู่โลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นนั้น มันก็ได้นำเสนอโอกาสทางธุรกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับมหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืดและในทวีปหลัก นี่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่ามหาอำนาจต่างๆในทวีปหลักจะแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงโอกาสนี้แน่นอน และพวกเขาอาจเสนอราคาที่มหาศาลมากๆก็ได้ ….


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ขอโทษด้วย แต่ฉันไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้ …” ฟอเร้สต์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมาย แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะเสนอเซ็ทปีศาจแห่งความมืด แต่ฉันก็คิดว่าพวกระดับสูงของฉันจะไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้แน่นอน”


สำหรับเมจิคแฟลช เขาอดไม่ได้ที่จะกลอกตาให้กับความต้องการของซือเฟิง


เซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นอาจจะสามารถช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของกองกำลังหลักของกิลได้มากขึ้น แต่มูลค่าของมันก็ไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับประชากรผู้เล่นของสามจักรวรรดิทั่วไป นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่มหาอำนาจต่างๆหลีกเลี่ยงการจะต่อสู้กับโลกแห่งความมืด เนื่องจากการทำแบบนี้นั้นจะหมายถึงการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่


ในขณะนี้ไม่ต้องพูดถึงคำปฎิเสธจากเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์เลย แม้แต่คนของพวกเขาก็ยังมองมายังซือเฟิงอย่างดูถูก เรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาลมากขนาดนี้แต่ซือเฟิงกับนำเสนอให้พวกเขาแค่เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ นี่ชายคนนี้เห็นพวกเขาโง่รึไง ?


ยิ่งไปกว่านั้นสภาสิบแปดปีกก็กำลังประสบปัญหาในการรักษาตำแหน่งของตัวเองในป่าใบไม้ผลิ แต่ซือเฟิงกับยื่นข้อเสนอแบบนี้มา นี่มันบ้าบอมากๆ


“อย่าพึ่งด่วนปฎิเสธข้อเสนอของฉัน ฉันเข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมาย และฉันก็รู้ดีว่าแค่เซ็ทปีศาจแห่งความมืดนั้นมันไม่เพียงพอจะชักชวนพวกคุณทั้งสองกิลได้” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นปฎิกิริยาของทั้งคู่ “อย่างไรก็ตามถ้าฉันสามารถทำให้ทั้งสองกิลของคุณสามารถเดินทางไปมาระหว่างป่าใบไม้ผลิและโลกแห่งความมืดได้ ขณะที่คนอื่นทำไม่ได้เลยล่ะ ?”


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณหมายถึงอะไร ?” ครั้งนี้ฟอเร้สต์ค่อนข้างจะเต็มไปด้วยความสับสนกับคำพูดของซือเฟิง


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณควรจะรู้ว่าประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดและทวีปหลักนั้นได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว ผู้เล่นของโลกแห่งความมืดนั้นจะสามารถเดินทางไปมาที่นี่ตามที่ต้องการได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่แม้แต่เฟรมมิ่งไลท์ ผู้ที่ถือกุญแจเทเลพอร์ตก็ยังไม่สามารถหยุดได้ แล้วสภาสิบแปดปีกจะไปทำอะไรได้กัน ?” เมจิคแฟลชกล่าวพลางหัวเราะ


“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเฟรมมิ่งไลท์จะสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ แต่นับจากนี้ไปสภาสิบแปดปีกคือผู้เป็นเจ้าของประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดในป่าใบไม้ผลิ !!!” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับท่าทางของเมจิคแฟลชและคนอื่นๆที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยมากนัก



ตอนที่ 2559 มุ่งหน้าสู่โลกแห่งความมืด


เมจิคแฟลชและคนของเขาจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความเงียบงัน


ช่างหยิ่งผยองอย่างแท้จริง !!!


นักดาบผู้นี้หยิ่งผยองอย่างมาก !!!


ไม่มีแม้แต่ซุเปอร์กิลของทวีปหลักจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ !!!


พวกเขากำลังพูดถึงผู้เล่นทุกคนในโลกแห่งความมืดทั้งหมด ซึ่งโลกแห่งความมืดนี้ก็ไม่ใช่โลกธรรมดา มันเป็นโลกที่มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวรรดิทั่วไปในทวีปหลักสามแห่ง แถมมันยังมีการแข่งขันที่รุนแรงและโหดร้ายมากๆ ซึ่งผู้อยู่อาศัยในโลกแห่งความมืดนั้นจะต้องมีความระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ความผิดพลาดของพวกเขาอาจจะทำให้พวกเขาตายได้ทันที แต่มันยังอาจจะทำให้การทำงานหนักของตัวเองกลายเป็นคนอื่นที่ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย


ดังนั้นโลกแห่งความมืดนั้นจึงแทบจะไม่มีผู้เล่นทั่วไปเลย เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นทั่วไปส่วนใหญ่มักจะลบไอดีของตนและเริ่มต้นใหม่ในโลกอื่น หลังจากลองอยู่ในโลกแห่งความมืดแค่ไม่กี่วัน ผู้เล่นที่ยังเลือกจะอยู่ในโลกแห่งความมืดต่อ และอยู่ได้ในระยะยาวนั้นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ก็มีทักษะการเอาชีวิตรอดที่สูงพอสมควร


เมื่อผู้เล่นหลายสิบล้านคนเข้ามารวมตัวกันที่ป่าใบไม้ผลิ แม้แต่ซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดห้าอันดับแรกร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถจะหยุดยั้งพวกเขาได้แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงมหาอำนาจแค่กลุ่มเดียว และแม้ว่ามหาอำนาจต่างๆในทวีปจะรวมตัวกัน แต่พวกเขาก็ยังจะต้องจ่ายในราคาที่สูงมากเพื่อเอาชนะผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดทั้งหมด และราคาที่พวกเขาต้องจ่ายอาจทำให้บางกิลถึงขั้นล่มสลายเลยก็ได้


อย่างไรก็ตามซือเฟิงพึ่งประกาศว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถเข้าควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดได้ ….


ครู่หนึ่ง เมจิคแฟลชและคนของเขานั้นสงสัยว่านักดาบคนนี้บ้าไปแล้วรึปล่าว ? นี่นักดาบคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของ God domain รึไง ?


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันไม่ได้คิดจะตั้งข้อสงสัยในตัวคุณ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากเกินไป ฉันไม่มีอำนาจในการตัดสินใจจริงๆ” ฟอเร้สต์กล่าวยืนยัน และหลังจากหายใจเข้าลึกๆเขาก็พูดต่อว่า “มีเพียงหัวหน้ากิลของฉันเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ สิ่งที่ฉันสามารถทำได้ดีที่สุดคือการแจ้งข้อเสนอของคุณให้หัวหน้ากิลของฉันทราบ และฉันไม่สามารถพูดได้ว่าเขาจะยอมรับมันไหม ….”


“ฉันเองก็คงต้องพูดแบบเดียวกับฟอเร้สต์นั่นแหละ หัวห้ากิลแบล๊คเฟรม …” เมจิคแฟลชกล่าวพลางพยักหน้าเห็นด้วย อย่างไรก็ตามภายในใจนั้นเขาได้ตัดสินว่าซือเฟิงเป็นบ้าไปเรียบร้อยแล้ว


แม้ว่าเซ็ทปีศาจแห่งความมืดจะมีค่ามาก แต่การได้รับเซ็ทระดับนี้นั้นก็จะไม่เป็นปัญหาเลย เมื่อกิลของพวกเขาเริ่มการเจรจาเป็นพันธมิตรกับมหาอำนาจต่างๆ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือมหาอำนาจต่างๆอาจจะไม่สามารถจัดหาเซ็ทที่แข็งแกร่งเท่ากับเซ็ทปีศาจแห่งความมืดให้พวกเขาได้ แต่อย่างน้อยเซ็ทที่มหาอำนาจต่างๆจัดหาให้ได้มันก็จะมากเกินพอที่จะใช้โจมตีดันเจี้ยนเลเวลหนึ่งร้อย ขนาดหนึ่งร้อยคนแน่นอน


เอาจริงๆไม่ต้องพูดถึงเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์เลย แม้แต่เมลานโครอิคสไมล์ที่ทำ

งานกับซือเฟิงมานานก็ยังสงสัยว่าทำไมหัวหน้ากิลของเธอถึงกล้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ และพูดแบบนี้


“ฉันเข้าใจ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมายจริงๆ และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับกิลทั้งสองของคุณที่จะตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว สภาสิบแปดปีกไม่ได้เร่งรีบ ดังนั้นฉันไม่มีปัญหาในการจะรอให้คุณถ่ายทอดเรื่องนี้ไปยังหัวหน้ากิลของคุณ” ซือเฟิงกล่าวยอมรับอย่างใจเย็น


“โปรดมั่นใจได้หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เราจะรายงานเรื่องนี้ไปยังหัวหน้ากิลของเราแน่นอน เมื่อเรากลับไป …” ฟอเร้สต์กล่าวพลางพยักหน้า


หลังจากนั้นเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์ก็ได้มอบคริสตัลแห่งความมืดคนละสองแสนห้าหมื่นชิ้นให้กับซือเฟิง ก่อนที่จะออกจากโรงแรมอิสระ และเดินทางกลับสู่โลกแห่งความมืด


เมื่อพวกเขาจากไป เสวี่ยเหวินโหรวก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ….


“หัวหน้ากิลประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดได้ถูกเปิดขึ้นแล้วแบบนี้ เราควรจำกัดกิจกรรมของสมาชิกกิลเราไหม ?” เสวี่ยเหวินโหรวถาม


เธอไม่คิดเลยเลยว่าประตูเทเลพอร์ตจะถูกเปิดขึ้นเร็วขนาดนี้ โชคดีที่สภาสิบแปดปีกบรรลุข้อตกลงกับดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่งั้นสภาสิบแปดปีกจะไม่รู้เลยว่าประตูเทเลพอร์ตถูกเปิดขึ้นแล้ว และสูญเสียโอกาสในการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้


“นั่นไม่จำเป็น เนื่องจากประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นแล้ว ดังนั้นเราจึงควรจะรีบไปที่โลกอื่นนี้กัน ติดต่อทีมของไฟเออร์แดนซ์ทั้งหมด รวมทั้งกองกำลังนรก สั่งให้พวกเขามารวมตัวกัน” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ


“เราจะไปที่นั่นกันจริงๆงั้นหรอ ?” การตัดสินใจของซือเฟิงทำให้เธอประหลาดใจ


เมื่อซือเฟิงประกาศความตั้งใจของเขาต่อหน้าตัวแทนของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ เธอไม่ได้คิดว่ามันไร้สาระเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่สภาสิบแปดปีกมีเวลาเพียงพอ ทุกอย่างที่ซือเฟิงพูดไปนั้นมันก็มีสิทเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะตอนนี้ไม่เพียงแต่กิลจะมีโรงแรมอิสระเท่านั้น แต่กิลยังทำกำไรได้มากกว่าหนึ่งแสนเหรียญทองต่อวันด้วย


ยิ่งไปกว่านั้นรายได้ที่เป็นเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์ ทั้งหมดที่สภาสิบแปดปีกได้รับนั้นมันก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจำนวนผู้เล่นของเมืองป่าหินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และโรงแรมอิสระในเมืองนั้นก็ทำหน้าที่ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากให้หลั่งไหลเข้ามาที่เมืองเช่นกัน และด้วยข้อดีมากมายขนาดนี้ การจะปกครองป่าใบไม้ผลิในส่วนพื้นที่ของตัวเองด้วยหมัดเหล็กนั้นจึงยังเป็นไปได้ ….


อย่างไรก็ตามตอนนี้ ….


ต่อให้รวมกองกำลังนรกเข้ามา สภาสิบแปดปีกก็มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นอยู่ภายใต้การควบคุม แม้ว่าพวกเขาจะรวมอัศวินขั้นสามจำนวนหกร้อยคนหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยเข้าไป แต่พวกเขาก็ยังไม่ควรจะมีพลังมากพอที่จะท้าทายโลกแห่งความมืดทั้งหมดได้


“อืมม ตอนนี้เราต้องรีบมุ่งหน้าไปที่นั่น ถ้าเราไม่รีบมันจะสายเกินไป” ซือเฟิงกล่าวด้วยความมุ่งมั่นในน้ำเสียงของเขา

“เอาล่ะ ฉันจะไปจัดการแจ้งไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆทันที ….” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าว แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจในความตั้งใจของซือเฟิง แต่พวกเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆในการเอาชีวิตรอด


“เมลานโครอิค การสร้างเรือเหาะมังกรสีเลือดไปถึงไหนแล้ว ?” ซือเฟิงถามโดยหันไปมองผู้จัดการของบริษัทการค้าแสงเทียน


“หากไม่รวมเรือเหาะที่เรามีในครอบครองแต่เดิม ตอนนี้เรามีเรือเหาะมังกรสีเลือดห้าลำที่พร้อมสำหรับการใช้งาน” เมลานโครอิคสไมล์กล่าวอย่างภาคภูมิใจ


แม้ว่าตอนนี้ผู้เล่นจะเริ่มมีอะเม้าท์บินได้เป็นของตัวเองมากขึ้น แต่เรือเหาะห้าลำสำหรับสภาสิบแปดปีกตอนนี้มันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาครองน่านฟ้าได้ และมันจะไม่มีมหาอำนาจอื่นใดใน God domain ที่สามารถจะคุกคามกิลกลางอากาศได้


“ดี ไปเตรียมพวกมันให้พร้อม …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า


ในขณะที่เสวี่ยเหวินโหรวและเมลานโครอิคสไมล์ไปเตรียมการทุกอย่างตามคำสั่งของซือเฟิง เมจิคแฟลชและทีมของเขาก็ได้บินกลับไปที่ประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดด้วยค้างคาวแห่งความมืดของพวกเขา


เมื่อพวกเขากลับไปถึงที่บ้านของพวกเขาที่โลกแห่งความมืด พวกเขาก็สังเกตเห็นกองทัพผู้เล่นสายความมืดจำนวนมากมายมหาศาล และเต๊นท์ที่ถูกตั้งอยู่เต็มเรียงรายในที่ราบด้านหน้า ซึ่งประมาณด้วยสายตาคร่าวๆ พวกเขาก็สามารถบอกได้เลยว่ามันมีผู้เล่นสายความมืดหลายล้านคนอยู่ตรงนี้


ขณะที่ผู้เล่นสายความมืดเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ล้วนเต็มไปด้วยออร่าแห่งความมืดและการฆ่าฟันที่เข้มข้นมากๆ และแม้แต่ผู้ที่มีเลเวลต่ำสุดในหมู่พวกเขาก็ยังมีเลเวลหนึ่งร้อยห้า แถมมันยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอยู่ในหมู่กองทัพนี้อีกจำนวนหนึ่งด้วย


“เราก็ไม่ได้หายไปนานนัก นี่พวกเขารวบรวมกองทัพได้มากมายขนาดนี้แล้วงั้นหรอ ?” เมจิคแฟลชอุทานออกมา ขณะมองดูฝูงชนเบื้องล่างของเขา จากสิ่งที่เขาเห็น เขาสามารถบอกได้เลยว่ามันมีอย่างน้อยสี่ถึงห้าล้านคนตั้งเต๊นท์อยู่ที่นี่ และในการเปรียบเทียบผู้เล่นหลายหมื่นคนที่ดาร์ครัปโซดี้เตรียมจะส่งไปที่ป่าใบไม้ผลินั้นไม่มีอะไรเลย


เมื่อเมจิคแฟลชนึกถึงคำกล่าวอันหยิ่งผยองของซือเฟิง เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าชายคนนี้เป็นคนบ้าและโง่ชัดๆ


อย่างไรก็ตามเมจิคแฟลช และฟอเร้สต์ ก็ยังคงปฎิบัติทุกอย่างตามหน้าที่ของลูกน้องที่ดีคือแจ้งข้อเสนอของซือเฟิงให้พวกระดับสูงของกิลพวกเขาได้รู้ ….


ภายในเต๊นท์ประชุมที่มีผู้เล่นหลายร้อยคน ….


“แบล๊คเฟรมบ้าไปแล้วรึไง ? ตอนนี้ประตูเทเลพอร์ตได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว และเขาก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากแล้วในการปกป้องตัวเอง แต่เขากับบอกว่าประตูเทเลพอร์ตนี้เป็นของเขางั้นหรอ ?” เมื่อบลูเรนโบว์ อัศวินแห่งความมืดหญิงจากดาร์ครัปโซดี้ ได้ยินรายงานของเมจิคแฟลชและฟอเร้สต์เธอก็อดไม่ได้ที่จะขำ


“มันอาจเป็นเพราะเขายังไม่เห็นกองทัพผู้เล่นของโลกแห่งความมืดน่ะ … เมื่อเขาเห็นเช่นเดียวกับมหาอำนาจต่างๆเมื่อไหร่ เขาก็คงจะละทิ้งความคิดบ้าๆนี้ไปเอง …” ผู้อาวุโสโกลด์แห่งเดียตี้โซไซตี้ตอบด้วยรอยยิ้ม


มหาอำนาจจำนวนหนึ่งนั้นได้รู้ถึงการที่ประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดถูกเปิดขึ้นแล้ว และพวกเขาก็ได้เริ่มส่งตัวแทนบางส่วนเข้ามาตรวจสอบและติดต่อที่นี่แล้ว พวกเขาต้องการเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจกับมหาอำนาจต่างๆของโลกแห่งความมืด แต่เมื่อพวกเขาเห็นจำนวนกองทัพผู้เล่นของโลกแห่งความมืดที่เฝ้ารอจะเริ่มการรุกราน พวกเขาก็ได้เลือกจะทิ้งข้อเสนอที่หยิ่งผยองของพวกเขาไป


ตัวแทนของมหาอำนาจต่างๆเหล่านี้ตระหนักดีว่าเมื่อการรุกรานเริ่มขึ้น ทั้งอาณาจักรและจักรวรรดิใกล้เคียงต่างๆจะตกอยู่ในความโกลาหลแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงป่าใบไม้ผลิซึ่งเป็นสถานที่เริ่มต้นเลย


ในความเป็นจริงแม้แต่กิลที่แข็งแกร่งที่สุดสามอันดับแรกของโลกแห่งความมืดก็ยังอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับจำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมกองทัพรุกรานนี้เลย พวกเขาคาดเดาว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแค่ประมาณสองหมื่นคนเท่านั้นที่เข้าร่วม แต่ตอนนี้มันกับมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสามหมื่นคนแล้วที่เข้าร่วม ในอัตรานี้พวกเขาจะไม่มีปัญหาในการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามให้ได้สี่ถึงห้าหมื่นคนเลย เมื่อการรุกรานเริ่มขึ้น


ในขณะที่บลูเรนโบว์และผู้อาวุโสโกลด์กำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกัน ตัวแทนหลายคนในเต๊นท์ก็เงียบลง


“ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีความเห็นเหมือนกัน งั้นในกรณีนี้เราก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดเรื่องนี้อีกต่อไป ตอนแรกเรายังจะสามารถเพิกเฉยต่อเมืองป่าหินได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าไม่ได้แล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้มหาอำนาจของทวีปหลักมาแย่งส่วนแบ่งของเมืองที่เราควรจะได้รับไปได้ !!!” ชายผู้เย็นชาที่ดูแข็งแกร่ง ซึ่งนั่งอยู่หนึ่งในสามที่นั่งหัวโต๊ะลุกขึ้นยืนและกล่าว ก่อนที่เขาจะประกาศต่อว่า “เราจะบุกเข้าป่าใบไม้ผลิกันตอนนี้เลย !!! ถึงเวลาที่เราจะแสดงพลังของโลกแห่งความมืดให้พวกทวีปหลักได้เห็นแล้ว !!!”


เมื่อชายผู้นี้กล่าวจบ ตัวแทนแต่ละคนก็เริ่มออกคำสั่งจัดกระบวนทัพในส่วนที่พวกเขารับผิดชอบ และเดินทางเข้าสู่ป่าใบไม้ผลิทันที


ผู้เล่นหลายล้านคนนั้นเริ่มเดินทางผ่านประตูเทเลพอร์ตขนาดใหญ่นี้ไป ซึ่งการเคลื่อนทัพของกองทัพนับล้านนี้มันก็ทำให้พื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือนเลย และมันทำให้หน่วยสอดแนมที่มหาอำนาจต่างๆจากทวีปหลักส่งมานั้นล้วนตกตะลึงและหวาดกลัวมากๆ และหน่วยสอดแนมเหล่านี้ก็ได้เริ่มแจ้งไปยังหัวหน้าของพวกเขาทันที ….


ในขณะเดียวกันในห้องขั้นสูงบนชั้นยี่สิบเก้าของโรงแรมอิสระ ….


“ในที่สุด พวกเขาก็ยังคงเลือกจะบุกอยู่ดีสินะ ?” หยวนเทียนซินส่ายหัวและถอนหายใจออกมา เมื่อเขาได้รับข้อความจากลูกน้องของเขา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)