Reincarnation Of The Strongest Sword God 2526-2534

 ตอนที่ 2526

 

ความสิ้นหวังของทีมนักผจญภัยทั้งสาม

“พอยซั่น ?” รีเกรทฟูชลวินด์นั้นตกใจมากๆ เมื่อเห็นร่างอันน่าสังเวชของพอยซั่นฮาร์ทนอนอยู่บริเวณโคนต้นไม้ที่พังทลาย


ตอนนี้แอสซาซินนั้นเป็นขั้นสี่อย่างแท้จริง เขาแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นขั้นสี่ด้วยซ้ำ และชายคนนี้ก็มีคลังสกิลและเวทย์ขั้นสีทั้งหมดที่ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่มี ซึ่งนี่มันก็นับเป็นข้อได้เปรียบที่ผู้เล่นขั้นสี่ไม่มี


แต่ตอนนี้กับมีใครบางคนทำให้พอยซั่นฮาร์ทปลิวกระเด็นไปได้ในการโจมตี ….


เมื่อเฟรมเฟเธอร์และเฮ้ลเลสสไมล์เห็นฉากนี้นั้น พวกเขาก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก เพราะมันดูเหมือนสิ่งเดียวกับที่ Seven Constellations โดนมา


สัตว์ประหลาดที่ Seven Constellations อ้างถึงอยู่ในพื้นที่ป่านั่นหรอ ? เฮ้ลเลสสไมล์อดไม่ได้ที่จะตัวเกร็ง เมื่อนึกถึงคำเตือนของแอสซาซินอีกคน


พวกเขานั้นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะต้อนไฟเออร์แดนซ์ให้จนมุม แต่เมื่อพวกเขาคิดว่า พวกเขาได้ควบคุมสัตว์ประหลาดที่ Seven Constellations ได้เตือนพวกเขาได้แล้ว ความเป็นจริงก็เข้ามากระทบพวกเขาอย่างรวดเร็ว


เฟรมเฟเธอร์นั้นก็มึนงงและตกตะลึงไปชั่วขณะกับการเปิดเผยที่ไม่คาดคิดนี้ และชั่วขณะหนึ่ง เธอลืมการต่อสู้กับไฟเออร์แดนซ์ไปเลย และเกือบจะปล่อยให้แอสซาซินหญิงฆ่าเธอได้


หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ชายคนหนึ่งก็โผล่ออกมาระหว่างช่องของต้นไม้ใกล้ๆ เขาสวมชุดเกราะแสงสีสำสนิท และปกปิดตัวตนของเขาไว้ใต้เสื้อคลุมสีดำ ขณะที่เขาก็ห้อยดาบสองเล่มอยู่บริเวณเอวของเขา พร้อมกันนั้นปริมาณมานาที่น่ากลัวที่เขาแผ่ออกมานั้น มันก็ทำให้เกิดชั้นหมอกบางๆรอบตัวเขาเลย ภายในป่าเบิร์นนิ่งแห่งนี้ เขาดูเหมือนกับยมทูต และทุกคนที่เห็นเขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง


สมาชิกกองกำลังหลักของทีมนักผจญภัยทั้งสามที่เตรียมพร้อมจะติดตามพอยซั่นฮาร์ทเข้าสู่สนามรบได้มองกลับไปยังผู้บัญชาการของพวกเขา ไม่มีใครแน่ใจว่าควรพยายามเผชิญหน้ากับผู้บุกรุกไหม


ถ้าชายคนนี้สามารถทำให้พอยซั่นฮาร์ท ซึ่งอยู่ในร่างของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ ปลิวกระเด็นไปได้ พวกเขาจะต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าแน่นอน และมันก็มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะตายได้ทันทีเช่นเดียวกับ Seven Constellations


“มานาที่เขาแผ่ออกมานั้นมันหนาแน่นกว่าพอยซั่นฮาร์ทด้วยซ้ำ นี่เขาเป็นผู้เล่นขั้นสามจริงๆงั้นหรอ ?” เฟรมเฟเธอร์อุทาน เมื่อเธอเห็นซือเฟิง


แม้ว่าการกำหนดความแข็งแกร่งของผู้เล่นแต่ละคนด้วยมานาที่พวกเขาแผ่ออกมานั้น มันจะไม่สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตามยิ่งมีมานาแผ่ออกมาจากร่างมากเท่าไหร่ สกิลและเวทย์ของผู้เล่นก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น และพวกเขายังจะมีขีดจำกัดทางกายภาพที่สูงขึ้นจนสามารถแสดงพลังการต่อสู้เกินขีดจำกัดออกมาได้อย่างง่ายดาย


ปริมาณมานาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เป็นเหตุผลที่ทำให้พอยซั่นฮาร์ทนั้นรู้สึกมีอำนาจ และแข็งแกร่งทุกด้าน หลังจากมาถึงขั้นสี่


อย่างไรก็ตามนักดาบขั้นสามผู้นี้กับดูเหมือนจะควบคุมมานาได้มากกว่าพอยซั่นฮาร์ทที่อยู่ในร่างปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่ นี่มันไม่น่าเชื่อเลย !!!


“เขาปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้หนึ่ร้อยเปอเซ็นต์แล้วงั้นหรอ ?” รีเกรทฟูลวินด์นึกถึงความเป็นไปได้ในขณะที่เขาสัมผัสกับมานาปริมาณมหาศาลรอบตัวซือเฟิง


เขานึกไม่ออกถึงเหตุผลอื่นใดที่จะทำให้ผู้เล่นขั้นสามสามารถควบคุมมานาได้มากขนาดนี้เลย


“นี่ร่างมานาที่ได้รับการปลดล๊อคศักยภาพได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว มันแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?” เฮ้ลเลสสไมล์สงสัย ละไม่ค่อยเชื่อเกี่ยวกับการคาดเดาของรีเกรทฟูลวินด์


ในฐานะผู้เล่นปีศาจ การปลดล๊อคศักยภาพร่างมานานั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำได้ยากกว่าผู้เล่นมนุษย์ เพราะโครงสร้างร่างกายของทั้งสองฝ่ายนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นผู้เล่นในเมืองปีศาจจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับการปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองเท่าไหร่นัก พวกเขารู้สึกว่าการพยายามจะยกระดับสถานะปีศาจของพวกเขาจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะแม้แต่ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ที่พวกเขาเคยเจอมาบางตัวก็ยังไม่สามารถจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์


ผู้เล่นปีศาจนั้นยังมีร่างกายทางกายภาพที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ และสามารถควบคุมได้มากกว่า ซึ่งมันทำให้พวกเขานั้นไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องการปลดล๊อคศักยภาพร่างมานามากนักเลย เพราะตราบใดที่พวกเขายกระดับสถานะปีศาจของตัวเองได้ พวกเขาก็จะมีพลังมากพอที่จะปราบปรามผู้เล่นมนุษย์ได้


แต่เฮ้ลเลสสไมล์นั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้เล่นมนุษย์ที่ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้วจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ปริมาณของมานาที่ซือเฟิงควบคุมได้นั้นมันมากเพียงพอที่จะทำให้เขาขนลุกได้เลย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการเลยว่าสกิลและเวทย์ของนักดาบจะทรงพลังมากขนาดไหน


‘นี่มันชักไม่คุ้มกับปัญหาแล้ว หัวใจปีศาจไม่ได้เสนอคริสตัลปีศาจให้จำนวนมากพอจนคุ้มค่าที่เราจะจัดการกับสัตว์ประหลาดนั่นด้วย …” เมือรีเกรทฟูลวินด์ได้เห็นคยวามแข็งแกร่งของซือเฟิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งกิลสายความมืดออกมา ถ้าเขารู้ว่าเขาจะต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแบบนี้ เขาจะไม่นำทีมของเขามาที่นี่แน่นอน


แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะซือเฟิงได้ แต่จำนวนคริสตัลปีศาจที่พวกเขาจะได้รับราวสามพันกว่าชิ้นนั้นมันก็จะแต่เท่าทุน หริออาจไปถึงไม่คุ้มค่าเลย


“คุณกลัวอะไร ?! เขามีแคคนเดียว !!! ค่าสตามิน่าของเขามีจำกัด !!! พอยซั่นเองก็ไม่ได้รับความเสียหายมากมายขนาดนั้น !!! เราสามารถจะจัดการเขาได้แน่นอน หากให้สมาชิกกองกำลังหลักของเราทั้งหมดทำงานร่วมกัน !!! และตราบใดที่เราสามารถเอาชนะแอสซาซินคนนี้ได้อย่างรวดเร็ว เราก็จะสามารถไปเข้าร่วมวงจัดการกับนักดาบได้ด้วย !!!” เฟรมเฟเธอร์ตะโกนออกมา เมื่อเธอรู้ว่าสมาชิกกองกำลังหลักของมทีมนักผจญภัยทั้งสามกำลังตกอยู่ในความหวาดกลัว


การยืนกรานของเธอนั้นทำให้สมาชิกกองกำลังหลักของทีมนักผจญภัยทั้งสามหายหวาดกลัว และพวกเขาก็เริ่มเชื่อว่าผู้บัญชาการของพวกเขานั้นพูดถูกต้อง


ไม่ว่าผู้เล่นจะทรงพลังมากแค่ไหน แต่ค่าสตามิน่าของพวกเขานั้นก็มีจำกัด และซือเฟิงนั้นก็มีเพียงแค่คนเดียว ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถจะฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมดแน่นอน นอกเหนือจากปีศาจระดับบารอนเกือบร้อยแล้ว พวกเขายังมีผู้เชี่ยวชาญปีศาจอีกมากกว่าห้าพันคนอยู่ด้วย ทีมของพวกเขาควรจะมีความสามารถมากเกินพอแล้วในการกำจัดซือเฟิง


“ถูกต้อง !!! เขาแข็งแกร่งแล้วยังไงล่ะ ?!! เรายังมีปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อยู่ฝั่งเรา !!! และเราสามารถจะช่วยฮีลพอยซั่นฮาร์ทได้ ยังไงผู้ชายคนนั้นก็จะไม่สามารถหยุดเราได้ !!!”


“ฆ่าเขา !! อาวุธและอุปกรณ์ของเขาจะทำให้ทีมนักผจญภัยของเราแข็งแกร่งขึ้นมากแน่นอน !!!”


จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกไหม้ขึ้นในจิตใจของสมาชิกทีมนักผจญภัยทุกคน โดยที่พวกเขาก็ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าหาซือเฟิงอย่าวช้าๆ


“ไม่ !!! วิ่ง !!! ทุกคนรีบออกไปจากที่นี่ !!!” พอยซั่นที่พึ่งฟื้นจากสภาพอันน่าสังเวชได้รีบตะโกนอย่างตื่นตระหนก ขณะที่เขาเฝ้าดูพรรคพวกของเขาเคลื่อนตัวเข้าหานักดาบที่เป็นมนุษย์


พวกเขาทั้งหมดนั้นหันไปทางแอสซาซินอย่างสับสนกับคำเตือน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าแอสซาซินผู้นี้พยายามจะสื่ออะไร หรือชายคนนี้ตีหัวเขาหนักจนทำให้เขาเพี้ยนไปแล้ว ?


“เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว !!! มันมีทีมสัตว์ประหลาดอยู่บริเวณต้นไม่นั้นด้วย !!!” พอยซั่นฮาร์ทรีบเสริม


ก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองใดๆ ร่างใหม่ก็เริ่มปรากฎขึ้นที่ด้านหลังของซือเฟิง โดยผู้มาใหม่นี้ปกปิดทั้งเลเวล และรูปลักษณ์ของพวกเขาไว้ภายใต้เสื้อคลุมสีดำสนิท แต่ออร่าของพวกเขานั้นก็ยังจัดว่ารุนแรงจนน่ากลัว ผู้เล่นหลายคนที่นำทีมนี้มานั้นมีออร่ารวมที่ทรงพลังมากจนทำให้สมาชิกทีมนักผจญภัยทั้งหมดรู้สึกชะงัก พวกเขานั้นดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันซะอีก


“แม่งเอ้ย !!! เป็นไปได้ยังไง ?!!” ตอนนี้ใบหน้าของรีเกรทฟูลวินด์นั้นไร้สีเลือด และซีดเผือดอย่างแท้จริง เมื่อเขาเห็นกองกำลังนรก “ทุกคนถอย !!! ถอยเดี๋ยวนี้ !!!”


ทั้งไฟเออร์แดนซ์และซือเฟิงนั้นได้ปกปิดออร่าของพวกเขาไว้ ดังนั้นรีเกรทฟูลวินด์จึงไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน เขาสามารถคาดเดาได้ตามสัญชาตญาณกับมานาที่คนเหล่านี้แผ่ออกมาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามสมาชิกของกองกำลังนรกนั้นไม่ได้กังวลที่จะต้องปกปิดออร่าของพวกเขาเลย


ซึ่งจากพลังที่รีเกรทฟูลวินด์รับรู้ได้นั้น มันมีผู้เล่นอย่างน้อยห้าคนจากกองกำลังนรกที่แข็งแกร่งกว่าแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกัน และแม้แต่สมาชิกที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังมีพลังทัดเทียมกับแกรนลอร์ด หากทีมนักผจญภัยทั้งสามของบพวกเขาพยายามจะต่อสู้กับผู้เล่นกลุ่มนี้ มันจะเป็นการฆ่าด้านเดียวแน่นอน


เมื่อได้ยินคำสั่งของรีเกรทฟูลวินด์ สมาชิกทีมนักผจญภัยของเขาก็หายจากอาการตกตะลึง และเริ่มวิ่งกระจายตัวหนีไปยังทุกทิศทางราวกับฝูงนกแตกรัง


“แม่งเอ้ย !!! วิ่งหนีเร็ว!!!” เฟรมเฟเธอร์ และเฮ้ลเลสสไมล์เองก็ออกคำสั่งเดียวกัน และในขณะที่พวกเขาออกคำสั่งนี้ความเกลียดชังต่อหัวใจปีศาจของพวกเขาก็เบ่งบานขึ้นในอกอย่างมาก


นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน ทีมศัตรูนั้นมีผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดอย่างน้อยหกคน และมากกว่าสามร้อยคนสามารถเทียบกับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันได้ นี่มันไม่ใช่พลังที่เมืองปีศาจจะสามารถจัดการได้ง่ายๆอีกต่อไป พวกเขาจะมีโอกาสในการเอาชนะผู้บุกรุกเหล่านี้ หากรวบรวมกำลังทั้งหมดในเมืองมาแล้วเท่านั้น และใครก็ตามที่พยายามจะต่อสู้กับผู้เล่นทีมนี้ด้วยตัวเอง มันจะเป็นการแสวงหาที่ตายอย่างแท้จริง !!!


“หนี ? คุณไม่คิดว่ามันสายเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?” เมื่อทีมนักผจญภัยทั้งสามเริ่มหนี ซือเฟิงก็หันกลับไปตะโกนออกคำสั่งกับกองกำลังนรก “ฆ่าพวกเขาให้หมด อย่าปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว !!!”

 

 

 


ตอนที่ 2527

 

กวาดชัยชนะ

ทันทีที่ซือเฟิงออกคำสั่ง กองกำลังนรกก็พุ่งเข้าใส่ผู้เล่นปีศาจที่กำลังหลบหนีราวกับเสือโคร่ง


แม้ว่าร่างกายของผู้เล่นปีศาจ และค่าสถานะพื้นฐานจะเหนือกว่าผู้เล่นมนุษย์ทั่วไป แถมมันยังสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วกว่ามนุษย์มาก แต่กองกำลังนรกนั้นก็เป็นหนึ่งในกองกำลังที่ดีที่สุดใน God domain ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีอาวุธและอุปกรณ์ชั้นยอดที่จัดได้ว่าดีที่สุดเลยในระยะนี้ของเกม นี่ยังรวมไปถึงสายเลือดพิเศษที่ทำให้ค่าสถานะพื้นฐานของพวกเขานั้นสูงกว่าเหล่าสมาชิกผู้เล่นปีศาจของทีมนักผจญภัยทั้งสาม


ผู้เชี่ยวชาญของกองกำลงนรกติดตามทันทีมนักผจญภัยที่หลบหนีได้ในเวลาไม่นาน


“แม่งเอ้ย !! พวกเขาเร็วเกินไป !!”


“คุณคิดว่าคุณจะสามารถกลั่นแกล้งกดดันฉันได้งั้นหรอ ?!! ฉันจะสู้กับคุณจนกว่าจะตาย !!! ฉันปฎิเสธที่จะเชื่อว่าฉันไม่สามารถฆ่าพวกคุณสักคนหนึ่งได้ก่อนที่ฉันจะตาย !!!”


เมื่อตระหนักว่าการหลบหนีเป็นไปไม่ได้ เหล่าทีมนักผจญภัยจึงหันหลังกลับ และตัดสินใจที่จะยืนหยัดต่อสู้กับกองกำลังนรก


ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองมากกว่าหนึ่งพันคนนั้นพยายายามจะตั้งแนวปะทะกับกองกำลังนรกที่เข้ามา และแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขามีข้อได้เปรียบในด้านจำนวน แต่พวกเขาก็ไม่ประมาท พวกเขาได้จัดรูปแบบการป้องกันโดยวางแท๊งเกอร์ไว้ในแนวหน้า และผู้เล่นระยะไกลอยู่ด้านหลัง การประสานงานของพวกเขานั้นราบรื่นและทำให้สมาชิกของกองกำลังนรกไม่มีโอกาสจะปะทะกับพวกเขาแบบตัวต่อตัวได้เลย


สกิลและเวทย์จำนวนมากถูกปล่อยเข้าใส่กองกำลังนรก และมันก็ทำให้มีแสงหลากสีเกิดขึ้นในป่านี้


ตู้ม … ตู้ม … ตู้ม …


ในขณะที่การโจมตีพุ่งเข้าใส่เป้าหมายนั้น มันก็ทำให้เกิดแรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั่วป่า และควันที่หนาทึบปกคลุมป่า


“พวกคุณอาจจะทรงพลัง !!! แต่ฉันปฎิเสธที่จะเชื่อว่าพวกคุณนั้นจะมารถรับการโจมตีมากมายนี้ได้โดยไม่ได้รับความเสียหาย”


สมาชิกหน่วยโจมตีของทีมนักผจญภัยทั้งสามนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก เมื่อเห็นว่าพวกเขาได้เปลี่ยนส่วนหนึ่งของป่าให้กลายเป็นพื้นที่ราบว่างเปล่า และพวกเขาก็มีความมั่นใจมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับกองกำลังนรก


เมื่อพวกเขาทำงานกันเป็นทีมหนึ่งร้อยคนหรือน้อยกว่านั้น พวกเขามักจะไม่สามารถทำอะไรได้กับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาด แต่ตอนนี้ด้วยมีสมาชิกมากกว่าพันคนที่พุ่งเป้าการโจมตีไปยังจุดๆเดียว ดังนั้นแม้แต่กองกำลังนรกก็จะไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้ง่ายๆแน่นอน


อย่างไรก็ตามก่อนที่สมาชิกของทีมนักผจญภัยจะทันได้เฉลิมฉลองใดๆ สมาชิกของกองกำลังนรกก็โผล่ออกมาจากกลุ่มควันแล้ว


ซึ่งมันไม่มีผู้เชี่ยวชาญมนุษย์คนใดที่สูญเสีย HP ไปแม้แต่นิดเดียว หลังจากเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างมหาศาล ไม่ต้องพูดถึงการบาดเจ็บเลย และดูจากการก้าวอย่างมั่นคงของพวกเขา มันก็ดูเหมือนว่าการโจมตีเหล่านี้นั้นไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับพวกเขา


“เป็นไปได้ยังไง ?!”


สมาชิกหน่วยโจมตีของทีมนักผจญภัยทั้งสามนั้นต่างก็ตกตะลึง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ไม่ควรจะป้องกันการโจมตีของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบขนาดนี้ แถมตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กับกำลังเดินหน้าต่อมาเรื่อยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาไม่ได้ถูกผลักดันกลับไปแม้แต่น้อย ในความเป็นจริงกองกำลังนรกกลังขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้วด้วยซ้ำ


ขณะเดียวกันสมาชิกของทีมนักผจญภัยทั้งสามบางส่วนที่หนีออกมาอยู่ในระยะปลอดภัยได้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังที่เกิดเหตุ


“นี่มีคนคิดจะว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นจะเอาชนะได้ง่ายๆด้วยงั้นหรอ ?”

ผู้เล่นที่ยังไปไม่ถึงขั้นสามนั้นจะไม่มีวันเข้าใจเลยว่าผู้เล่นขั้นสามนั้นน่ากลัวขนาดไหน


การโจมตีเป็นระลอกใหญ่เมื่อครู่จะไม่ทำให้ผู้เล่นขั้นสามของทีมนักผจญภัยบาดเจ็บได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังนรกเลย และด้วยร่างกายทางกายภาพที่พิเศษกับค่าสถานะพื้นฐานที่ไม่ธรรมดาของผู้เล่นขั้นสามเหล่านี้ มันก็ทำให้การเลือกหลบหลีกและป้องกันสกิลกับเวทย์ของผู้เล่นขั้นสองนั้นง่ายมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีที่ยืดหยุ่นและแม่นยำกว่านี้ได้ แต่พวกเขาก็ยังจะสามารถป้องกันมันได้ หากไม่มีพลังที่มหาศาลมากจริงๆ ผู้เล่นขั้นสองจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างความเสียหายให้กับผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม ที่แย่ที่สุดคือ เต็มที่นั้นพวกเขาจะสูญเสียค่าสตามิน่า และค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปบางส่วนเท่านั้น


ในไม่ช้าผู้เชี่ยวชาญของกองกำลังนรกก็ได้มาถึงตรงหน้าแนวหน้าของแท๊งเกอร์ทีมนักผจญภัยแล้ว และลำแสงจำนวนมากก็ถูกส่งเข้าโจมตีแท๊งเกอร์ และสร้างความเสียหายนับแสนให้กับแท๊งเกอร์ รวมทั้งกลืนกิน HP ทั้งหมดของเหล่าแท๊งเกอร์ไปอย่างรวดเร็ว


มองจากระยะไกล มันดูเหมือนว่าแท๊งเกอร์พวกนี้ถูกสาป และพวกเขาก็ทยอยล้มลงทีละคนๆ ….


ผู้เชี่ยวชาญมากกว่าพันคนจากทีมนักผจญภัยทั้งสามนั้นล้มลงในเวลาไม่กี่สิบวินาที และผู้เล่นที่ยังคงรคิดจะต่อสู้ และหลงเหลือความมั่นใจอยู่นั้นก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างให้กับฉากนี้


พวกเขารู้แล้วว่าความแตกต่างระหว่างพลังการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายนั้นมันยิ่งใหญ่มากๆ แต่พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่ามันจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ผู้เล่นทุกคนที่เลือกจะต่อสู้ได้ล้มลงตั้งแต่การปะทะกันครั้งแรก ….


มีเพียงแค่เฉพาะสมาชิกกองกำลังหลักของทีมนักผจญภัยเท่านั้นที่ไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ ความจริงแล้วกองกำลังนรกนั้นไม่ได้มีแค่ค่าสถานะพื้นฐานที่น่าทึ่ง มาตราฐานการต่อสู้ของพวกเขาก็สูงอย่างน่ากลัวเช่นกัน


ซึ่งแตกต่างจากไฟเออร์แดนซ์ และซือเฟิง ผู้เชี่ยวชาญของกองกำลังนรกนั้นไม่ได้พยายามจะซ่อนมาตราฐานการต่อสู้ของพวกเขาเลย ซึ่งนี่มันทำให้สมาชิกกองกำลังหลักของทีมนักผจญภัยนั้นสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายมาก ในขณะเดียวกันจากสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นนั้นก็คือ แม้แต่สมาชิกที่อ่อนแอที่สุดในหมู่คนเหล่านี้ก็ยังมาถึงขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำแล้ว ในขณะที่กองกำลังนรกส่วนใหญ่มาถึงขอบเขตอนันต์กันแล้ว


ขณะเดียวกันผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยนั้นก็พึ่งจะมาถึงขอบเขตอนันต์เช่นกัน ในขณะที่ไม่มีคนอื่นๆคนไหนในทีมนักผจญภัยตามพวกเขาทันเลย ….


กองกำลังนรกนั้นยังคงทำการไล่ล่าและฆ่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยทั้งสามไปเรื่อยๆ พวกเขานั้นกวาดผ่านชีวิตไปทั่วทุกที่ราวกับยมทูต และเหล่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยนั้นก็ไม่มีสิทจะเข้าถึงได้แม้แต่ระดับหัวหน้าสั่งการของพวกเขาสักคน ขณะเดียวกันตอนนี้มันก็ต้องบอกเลยว่ามีเพียงพอยซั่นฮาร์ทที่อยู่ในร่างของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่เท่านั้นที่มีโอกาสจะหลบหนี แถมตอนนี้ซือเฟิง เฮลรัช และคนอื่นๆก็ได้ปปราบปรามปีศาจคนอื่นๆได้อย่างอยู่หมัด จน HP ของพวกเขาค่อยๆลดลงเรื่อยๆ


ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ผืนป่าก็ถูกปกคลุมไปด้วยซากศพของผู้เล่นปีศาจหลายพันศพ ไม่มีสมาชิกของทีมนักผจญภัยทั้งสามคนไหนสามารถจะรอดออกไปจากที่นี่ได้ …


เมืองปีศาจ สถานที่พักกิลหัวใจปีศาจ :


“ผู้บัญชาการโทรเบิ้ล คุณคิดอย่างไรกับห้องฝึกที่เราสร้างขึ้นมา ?” ฟิวเรียสฮาร์ทถามพลางยิ้ม ขณะที่เขาเดินไปตามอาคารหินอ่อนตรงหน้าเขา


“มันน่าทึ่งมากจริงๆ พลังแห่งความมืดที่ซึมออกมานั้น มันก็มีความหนาแน่นสูงมากจริงๆ หากผู้เล่นปีศาจได้เข้าไปฝึกในห้องฝึกแบบนี้ พวกเขาจะสามารถกลายเป็นบารอนได้อย่างรวดเร็ว และหากพวกเขามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะสามารถไปถึงระดับวิสเค้าท์ได้” โทรเบิ้ลไทม์กล่าวอย่างตกตะลึง ในขณะที่เขาตรวจสอบห้องฝึกที่อาบไปด้วยพลังแห่งความมืด


การเพิ่มระดับขุนนางนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผู้เล่นปีศาจ เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่จะต้องการคริสตัลปีศาจที่มากเพียงพอ แต่พวกเขายังต้องผ่านการทดสอบไปให้ได้ก่อนด้วย แถมนอกเหนือจากทดสอบพลังในการต่อสู้ของพวกเขาแล้ว ผู้เล่นก็ได้รับการทดสอบในเรื่องการจัดการพลังแห่งความมืดด้วย อย่างไรก็ตามน่าเสียดายแม้ว่าดินแดนปีศาจจะมีพลังแห่งความมืดหนาแน่น แต่ผ้เล่นปีศาจนั้นก็ยังคงเรียนรู้จะควบควบพลังแห่งความมืดอีกไกลมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วที่นี่มันไม่ได้เอื้อต่อผู้เล่นป๊สาจอย่างดาร์คเดน


อย่างไรก็ตามหัวใจปีศาจกับสร้างหอฝึกสำหรับตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันมีพลังแห่งความมืดมากมายไหลเวียนอยู่ รากฐานของกิลนั้นช่างน่ากลัวอย่างแท้จริง


“ส่วนห้องฝึกนี้ก็จะมีประโยชน์มากๆสำหรับผู้เล่นที่ต้องการจะรักษาระดับเค้าท์ของตนไว้ ไม่ต้องพูดถึงวิสเค้าท์เลย” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “อย่างไรก็ตามเราได้ใช้คริสตัลแห่งความมืด กับหินไพรมอไดออลแห่งความมืดในคลังที่มีไปเกือบหมดแล้วเพื่อสร้างห้องนี้”


“ฉันเห็นด้วย นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้พลังแห่งความมืดหนาแน่นสินะ …” โทรเบิ้ลไทม์เริ่มรับรู้และเข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที


คริสตัลแห่งความมืดและหินไพรมอไดออลแห่งความมืดนั้นอาจนับว่ามีค่ามากกว่าคริสตัลเวทย์มนต์และแร่มานาด้วยซ้ำ เพราะไอเทมทั้งสองชิ้นนั้นมันมีพลังงานแห่งความมืดอยู่จำนวนมาก และมันมีประโยชน์อย่างมากต่อผู่เล่นปีศาจ อย่างไรก็ตามคริสตัลกับแร่นี้นั้นหายากากๆ และโดยปกติผู้เล่นจะไม่ยอมใช้มันเพื่อสร้างห้องฝึกขนาดใหญ่แน่นอน


“เราประสบความสำเร็จแบบนี้ได้นั้นก็ต้องขอบคุณพันธมิตรที่รองหัวหน้ากิลสร้างขึ้ยเลย ขณะนี้เราอยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือต่อเนื่องของเรา และหากเราประสบความสำเร็จ รองหัวหน้ากิลกะจะแบ่งปันทรัพยากรที่ได้รับมาบางส่วนให้กับเขตเซนทิเนลด้วย และคุณอาจจะสามารถสร้างห้องฝึกของตัวเองได้” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าว


“จริงๆงั้นหรอ ?” ดวงตาของโทเบิ้ลไทม์เปล่งประกาย เมื่อได้ยินคำพูดของฟิวเรียสฮาร์ท


หากเขตเซนทิเนลสามารถสร้างห้องฝึกเล็กๆเป็นของตัวเองได้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงห้องฝึกขนาดเล็ก แต่เขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาของเขต

เซนทิเนลแล้ว


“อืมมม” ฟิวเรียสพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคุณแข็งแกร่งขึ้นอีกสักเล็กน้อย หัวหน้ากิลก็จะจัดเตรียมทรัพยากรให้คุณจำนวนหนึ่งให้เพียงพอที่จะกลายเป็นเค้าท์ ซึ่่งมันจะทำให้คุณขึ้นมาอยู่ในจุดสูงสุดของผู้เล่นปีศาจได้เลย ผู้บัญชาการโทรเบิ้ล !!!”

“ผู้อาวุโสฮาร์ท โปรดบอกรองหัวหน้ากิลเฟรมมิ่งไลท์ได้เลยว่าเขาไม่มีอะไรต้องกังวล เขตเซนทิเนลจะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง ฉันรับประกันว่าเราจะกลายเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากเมืองของหัวใจปีศาจเลย” โทรเบิ้ลไทม์กล่าว เขาอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความตื่น เมื่อเขาได้ยินว่าหัวใจปีศาจยินดีจะช่วยเขาเรื่องการทำให้เขากลายเป็นเค้าท์


การกลายเป็นปีศาจระดับเค้าท์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อผู้เล่นปีศาจได้กลายเป็นเค้าท์ ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ มันก็เช่นเดียวกับสถานะของขุนนางมนุษย์ในเมือง NPC ต่างๆที่จะทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับสิทที่คาดไม่ถึงมากมาย และในฐานะเค้าท์ โทรเบิ้ลไทม์ก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะซือเฟิงได้แน่นอน


อย่างไรก็ตามระหว่างที่ฟิวเรียสฮาร์ทกำลังจะพูดต่อ แอสซาซินขั้นสามก็พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว


“ผู้อาวุโสฮาร์ท เราพึ่งจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสภาสิบแปดปีกมา …” แอสซาซินราย

งานอย่างลังเล


“ดูเหมือนว่าในที่สุดทีมนักผจญภัยทั้งสามก็จะพบกับพวกเขาแล้ว สภาสิบแปดปีกนี่ช่างรู้วิธีซ่อนตัวอย่างแนบเนียนจริงๆ” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ? สภาสิบแปดปีกถูกจัดการไปรึยัง ?”


“ไม่ ทีมนักผจญภัยวินด์ทูช เอเทอนอลไนท์ และคริมสันแซนด์ ถูกกวาดล้างไปทั้งหมด ….” แอสซาซินกล่าวพลางส่ายหัว เขากล่าวต่ออย่างหวาดกลัวว่า “แถมทีมนักผจญภัยขนาดกลางประมาณหนึ่งโหลหรือมากกว่านั้นรวมไปถึงทีมนักผจญภัยขนาดเล็กอีกนับสิบทีมได้ถูกกำจัดไปแล้ว มันมีผู้เล่นหลายหมื่นคนตายลงในป่าเบิร์นนิ่ง”


“สำหรับหน่วยสอดแนมหลายร้อยคนที่เราส่งไปนั้น มันไม่มีใครรอดชีวิตมาได้เลย แต่จากรายงานตอนออฟไลน์ที่เราได้รับมา สมาชิกของสภาสิบแปดปีกได้เข้าใกล้ประตูเมืองปีศาจแล้ว และพวกเขาน่าจะมาถึงทางเข้าเมืองในอีกประมาณสิบนาที”

 

 

 


ตอนที่ 2528

 

ความวุ่นวายในเมืองปีศาจ

เมื่อแอสซาซินขั้นสามรายงานจบ ทุกคนในปัจจุบันก็เงียบลงทันที และจ้องมองไปยังแอสซาซินด้วยความประหลาดใจ


“นายพูดว่าอะไรนะ ? กวาดล้าง ?”


“แม้ว่าการรวมกันของทีมนักผจญภัยทั้งสามจะไม่ได้ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งเท่ากับหัวใจปีศาจ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะมีปีศาจระดับวิสเค้าท์ประมาณสิบคน และปีศาจระดับบารอนเกือบหนึ่งร้อยคน และจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่พวกเขามีก็น่าจะเกินสองร้อยคนด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับกองกำลังแบบนี้ แม้แต่กองกำลังหลักของมหาอำนาจก็ไม่ควรจะมีความได้เปรียบใดๆ แล้วทีมมากกว่าสามร้อยคนแค่นิดหน่อยจะกวาดล้างพวกเขาในป่าเบิร์นนิ่งได้ยังไง ?”


“ผู้เล่นหลายหมื่นถูกฆ่า ?! นี่คนเหล่านั้นเป็นพวกงี่เง่ารึไง ?!”


ผู้อาวุโสของหัวใจปีศาจหลายคนแสดงท่าทีปฎิเสธที่จะเชื่อคำพูดของแอสซาซินโดยสัญชาตญาณ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าทีมของซือเฟิงนั้มีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ แต่ทีมของซือเฟิงก็ยังบุกเข้ามาในป่าเบิร์นนิ่งได้ไม่ถึงหนึ่งวันเลย อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขากับได้รับแจ้งว่าทีมของซือเฟิงนั้นได้ทำลายทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองปีศาจไปแล้ว พร้อมกับผู้เล่นคนอื่นๆอีกหลายหมื่นคน ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่มีหน่วยสอดแนมของพวกเขาคนใดที่ถูกส่งไปสอดแนมทีมของซือเฟิงรอดชีวิตกลับมาได้ และตอนนี้ทีมของซือเฟิงก็ถูกคาดเดาว่าจะใช้เวลาอีกประมาณสิบนาทีเท่านั้นก็จะมาถึงประตูทางเข้าเมืองปีศาจ ….?


นี่มันน่าหัวเราะมากๆ !!!


ก่อนหน้านี้กองทัพของ Battle Wolves นั้นไม่สามารถจะมาถึงประตูทางเข้าเมืองได้ด้วยซ้ำก่อนที่จะถูกทำลายลง อย่างไรก็ตามตอนนี้ทีมที่มีผู้เล่นมากกว่าสามร้อยคนแค่นิดหน่อยกับกำลังจะมาถึงประตูทางเข้าเมืองโดยทิ้งศพไว้ตามรายทางจำนวนมาก ใครจะเชื่อเรื่องนี้กัน ?


“เขามาจริงๆ …” โทรเบิ้ลไทม์ตกตะลึง เมื่อเขาได้ยินรายงานของแอสซาซิน


ตอนนี้พวกเขาอยู่ในดินแดนปีศาจ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์จะสามารถเข้ามาได้โดยบังเอิญ ย้อนกลับไปในตอนที่โทรเบิ้ลไทม์ได้ยินว่าซือเฟิงนั้นประกาศว่าเขาจะมาที่เมืองปีศาจเพื่อตามล่าเขา โทรเบิ้ลไทม์นั้นคิดว่าเรื่องนี้มันน่าตลก เพราะท้ายที่สุดเขาคิดว่าซือเฟิงไม่ได้เข้าใจเลยว่าดินแดนปีศาจนั้นน่ากลัวสำหรับมนุษย์มากขนาดไหน


ในความเห็นของโทรเบิ้ลไทม์ นับประสาอะไรกับการมาให้ถึงเมืองปีศาจ ซือเฟิงนั้นจะนับว่าโชคดีมากแล้ว หากนำทีมของตัวเองอยู่รอดในป่าเบิร์นนิ่งได้สักสองถึงสามชั่วโมง เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าซือเฟิงจะทรงพลังมากแค่ไหน เขาก็ยังเป็นแค่ผู้เล่น ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขามีจำกัด และในป่าเบิร์นนิ่งที่กว้างใหญ่ ผู้เล่นที่ไม่ใช่ปีศาจจะต้องถูกกัดกร่อนจากพลังงานแห่งความมืดซึ่งมันจะผลาญค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นไปอย่างรวดเร็ว และแม้ว่าทีมของซือเฟิงจะประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญชั้นสามมากกว่าสามร้อยคน แต่มันก็ไม่ควรจะเป็นไปได้เลยเลยที่ซือเฟิงจะมาถึงเมืองปีศาจได้


อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เพียงแต่ทีมของซือเฟิงอยู่ใกล้กับเมืองปีศาจแล้ว แต่เขายังทำการฆ่าและกวาดล้างทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองปีศาจไปพร้อมกับผู้เล่นปีศาจคนอื่นๆอีกนับหมื่นแล้ว นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย !!!


อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากที่โทรเบิ้ลไทม์และคนอื่นๆได้รับข่าวนี้ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นที่ทางเข้าหลักของเมืองปีศาจ


นี่เป็นเพราะว่ามันมีกลุ่มผู้เล่นมนุษย์นั้นปรากฎตัวขึ้นในช่วงระยะสั้นๆไม่ห่างจากเมืองปีศาจ โดยผู้เล่นมนุษย์เหล่านี้นั้นมีผู้เล่นมากกว่าสามร้อยคนอยู่เล็กน้อย และพวกเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทีมที่หัวใจปีศาจตั้งค่าหัวไว้


ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้เล่นปีศาจที่อาศัยอยู่ในเมืองปีศาจนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก


“มันเกิดอะไรขึ้น ? พวกเขามาที่นี่ได้ยังไง ? ทำไมไม่มีข่าวเกี่ยวกับพวกเขาเลย ? ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกนั้นไม่ได้ออกล่าพวกเขาอยู่หรอ ?”


“พวกเขาจะต้องโชคดีและหลีกเลี่ยงการตรวจจับมาได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะมาถึงที่นี่อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์ได้ยังไงกัน ?”


“เป็นไปไม่ได้ !!! แม้ว่าทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกจะไม่ค้นพบพวกเขา แต่มันก็ยังมีอีกหลายสิบทีมที่เข้าร่วมในการไล่ล่า และอย่างน้อยมันควรจะมีทีมนักผจญภัยอย่างน้อยหนึ่งทีมเจอพวกเขา และตราบใดที่เป็นแบบนั้นทีมนักผจญภัยอื่นๆก็จะได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้บุกรุกเหล่านี้จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างสมบูรณ์ !!!”


เมื่อทีมของซือเฟิงปรากฎตัวขึ้นที่นอกเมืองปีศาจ ผู้เล่นที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองต่างก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและอยากรู้อยากเห็น พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้เล่นที่เป็นมนุษย์นั้นจะสามารถข้ามผ่านป่าเบิร์นนิ่งและมาถึงที่เมืองปีศาจได้โดยไม่มีคำเชิญ นี่เป็นครั้งแรกที่มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนับตั้งแต่เมืองปีศาจถูกก่อตั้งขึ้นมา


“แน่นอนว่าไม่มีข่าวเกี่ยวกับผู้บุกรุกเหล่านี้ เพราะผู้ที่เจอกับพวกเขานั้นล้วนตายทั้งหมด เพื่อนของฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการล่านี้ และแม้ทีมนักผจญภัยของเขาจะมีสมาชิกมากกว่าหนึ่งพันคน แต่ก็ไม่มีใครสามารถรอดชีวิตมาได้จากผู้บุกรุก และจากสิ่งที่ฉันได้ยินมา ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกก็ถูกกวาดล้างเช่นกัน เพียงแต่ว่าพวกเขาคงปิดปากเงียบอยู่เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล”


ในขณะที่ผู้เล่นทั่วไปที่อยู่ด้านบนของกำแพงกำลังคุยกันถึงสถานการณ์ ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามบางคนที่เฝ้าดูอยู่เช่นกันก็กลอกตา พลางเริ่มเล่าความจริง


เมื่อได้ยินความจริงจากผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม ผู้เล่นทั่วไปก็ตกตะลึงอย่างมาก ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มองไปยังผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่เล่าเรื่องออกมา โดยสงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามนั้นกำลังเล่นตลกกับพวกเขา


“ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ฉันได้ยินมาจากสมาชิกของหัวใจปีศาจจะเป็นเรื่องจริง ผู้บุกรุกเหล่านี้ได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญไปหลายหมื่นคนจริงๆ” ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอีกคนหนึ่งที่มาจากทีมนักผจญภัยขั้นกลางกล่าวเสริม เมื่อมองไปยังทีมของซือเฟิงในระยะไกล


คำพูดของผู้เชี่ยวชาญขั้นสามคนนี้ทำให้ทุกคนในปัจจุบันตกอยู่ในความโกลาหลทันที


“อะไรกัน ?! ผู้เชี่ยวชาญหลายหหมื่นคนที่เข้าร่วมการล่าถูกกวาดล้างงั้นหรอ ?! ผู้บุกรุกเหล่าวนี้เป็นใครกัน ?!”


“พวกเขามาที่นี่เพื่อฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ใช่ไหม ?”

“ดูเหมือนว่าหัวใจปีศาจจะได้เจอคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมแล้ว ฉันสงสัยจังว่าฝ่ายไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน ?”


“ต้องถามด้วยงั้นหรอ ? มันต้องเป็นหัวใจปีศาจอยู่แล้ว อย่าลืมว่าสถานที่แห่งนี้คือเมืองปีศาจ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่หลักของหัวใจปีศาจ ผู้บุกรุกมากกว่าสามร้อยคนเหล่านี้อาจดูแข็งแกร่งในแผนที่ล่า แต่พวกเขาจะตายแน่นอน หากพวกเขาคิดว่าพวกเขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ในเมืองปีศาจ”


เมื่อทุกคนทราบข่าวเรื่องทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองปีศาจถูกทำลายแล้ว นอกจากจะรู้สึกประหลาดใจนั้น พวกเขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดเมืองปีศาจไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน


ในขณะเดียวกันข่าวที่ทีมของซือเฟิงปรากฎตัวที่นอกประตูเมืองปีศาจก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ทำให้ผู้เล่นหลายล้านคนนั้นตกตะลึง


‘อึก !!! พวกเขามาที่นี่เพื่อตามล่าโทรเบิ้ลไทม์ นี่มันน่าอัศจรรย์จริงๆ !!!”


“ฉันสงสัยจังว่าหัวใจปีศาจมีแผนจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร ?”


“ฉันคิดว่าตอนนี้ หากต้องการจะจัดการผู้บุกรุกเหล่านี้หัวใจปีศาจน่าจะต้องทุ่มทุนน่าดู เพราะหากแม้แต่ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกรวมกันก็ยังไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ หัวใจปีศาจก็จะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายแน่นอนในการรับมือกับคนเหล่านี้”


ทุกคนในเมืองปีศาจนั้นต่างเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และชื่อเสียงของสภาสิบแปดปีกนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนสงสัยที่สุดคือหัวใจปีศาจจะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างไร


เพราะท้ายที่สุดแม้ว่าทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองจะร่วมมือกัน พวกเขาก็ยังโดนกวาดล้าง ทีมของซือเฟิงอาจไม่สามารถบุกเข้าเมืองปีศาจได้ แต่พวกเขาก็มีความสามารถมากพอในการจะตั้งแค้มป์ในแผนที่ล่า และกำหนดเป้าหมายไปที่สมาชิกของหัวใจปีศาจที่ออกมาล่าในแผนที่ล่าได้ และนั่นจะทำให้การพัฒนาของหัวใจปีศาจต้องหยุดชะงักลง


ในขณะเดียวกันข่าวการมาถึงของทีมของซือเฟิงก็ไปถึงสถานที่พักกิลของหัวใจปีศาจอย่างรวดเร็ว และเมื่อโทรเบิ้ลไทม์ได้ยินเรื่องนี้ หน้าของเขาก็ซีดเผือด เขาไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะมาถึงเมืองปีศาจได้เร็วขนาดนี้ เขาเคยนักดาบป้องกันมือของราชันปีศาจมาก่อน หากซือเฟิงแอบเข้ามาในเมืองปีศาจและเคลื่อนไหวจัดการเขาอย่างลับๆ เขาก็แทบจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลย


“ผู้บัญชาการโทรเบิ้ล วางใจได้ !!! แบล๊คเฟรมมาถึงที่นี่แล้วยังไงล่ะ ?! ที่นี่คือเมืองปีศาจนะ !!!” ฟิวเรียสฮาร์ทพูด เมื่อเขาเห็นหน้าที่ไร้สีเลือดของโทรเบิ้ลไทม์ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดต่อว่า “อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกนั้นทำตัวหยิ่งผยองอย่างแท้จริง พวกเขาไม่แม้แต่จะดำเนินการลับๆ …!!!”


“พวกเขาหยิ่งผยองมากจริงๆ พวกเขากล้าจะตั้งแค้มป์หน้าประตูบ้านของเรา และบอกให้ทุกคนรู้ถึงการมาถึงของพวกเขา” ผู้อาวุโสขั้นสามที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทกล่าวด้วยความโกรธ “ในความคิดของฉัน เราควรจะใช้องครักษ์ปีศาจ ขั้นสี่ของเมืองกำจัดพวกเขาซะ !!! ไม่งั้นพวกเขาจะคิดว่าพวกเขาสามารถทำทุกๆอย่างตามที่ต้องการในเมืองปีศาจได้เพียงเพราะพวกเขากำจัดทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองได้ !!!”


“ลืมไปได้เลย องครักษ์ปีศาจนั้นเป็นหนึ่งในไพ่ที่ดีที่สุดของเมืองปีศาจ และมันก็มีค่าใช้จ่ายเป็นคริสตัลปีศาจจำนวนมาก มันไม่คุ้มค่าที่จะเอามาใช้จัดการกับสภาสิบแปดปีก” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวพลางส่ายหัว “ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหัวหน้ากิลและรองหัวหน้ากิลก็ไม่ได้อยู่ในทวีปด้านตะวันออกตอนนี้ นี่มันไม่ใช่การตัดสินใจที่เราสามารถทำได้ ให้ใครสักคนไปแจ้งสภาสิบแปดปีกว่าหหัวใจปีศาจเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ และพวกเขาก่อความวุ่นวายมามากพอแล้ว ได้เวลายุติมันแล้ว หากพวกเขายอมถอยไปตอนนี้ มันก็ยังจะมีเหตุผลสำหรับการคืนดีกัน และก็จะยังมีโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองกิลเรา ไม่งั้นเรื่องนี้จะไม่จบลงง่ายๆแน่นนอน !!! God domain ในอนาคตนั้นมันจะไม่ใช่สถานที่ของกิลปกติอีกต่อไป ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะเข้าใจเรื่องนี้ !!!”


“เอาล่ะ ฉันจะส่งคนไปแจ้งให้พวกเขาทราบ และก็หวังนะว่าพวกเขาจะรู้ว่าควรจะหยุดตรงไหน …” ผู้อาวุโสขั้นสามในชุดเสื้อคลุมสีดำกล่าว แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าฟิวเรียสฮาร์ทอ่อนแอเกินไป เพราะถ้ามันขึ้นอยู่กับเขา เขาจะกวาดล้างพวกสภาสิบแปดปีกที่กล้าเข้ามาใกล้เมืองปีศาจซะ

 

 

 


ตอนที่ 2529

 

ยั่วยุหัวใจปีศาจ

ภายในสถานที่พักกิลของหัวใจปีศาจ หลังจากที่ฟิวเรียสฮาร์ทออกคำสั่ง ผู้อาวุโสขั้นสามในชุดเสื้อคลุมสีดำที่เป็นปีศาจระดับวิสเค้าท์ก็เริ่มจัดเตรียมทีมที่จำเป็นเพื่อจะออกไปพูดคุยกับสภาสิบแปดปีก


ในขณะเดียวกันข่าวการมาถึงของซือเฟิงที่นอกกำแพงเมืองปีศาจนั้นก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และมันก็สร้างความตกตะลึงให้กับมหาอำนาจต่างๆที่สนใจในเมืองปีศาจอย่างมาก


“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? ทีมของสภาสิบแปดปีกพึ่งจะมาถึงป่าเบิร์นนิ่งได้ไม่นานเองไม่ใช่หรอ ? แต่ตอนนี้พวกเขากับไปถึงเมืองปีศาจแล้ว ?”


“แบล๊คเฟรมนั้นกล้าที่จะยั่วยุหัวใจปีศาจ นี่เขาไม่รู้รึไงว่า God domain ในปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว ….”


มหาอำนาจต่างๆพบว่าการที่สภาสิบแปดปีกมาถึงบริเวณทางเข้าหลักของเมืองปีศาจแล้วมันน่าประหลาดใจมากๆ


God domain ในปัจจุบันนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กิจกรรมของผู้เล่นสายความมืดในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่านั้นกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของผู้เล่นสายความมืดก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอัตราที่น่ากลัว แม้แต่กับมหาอำนาจต่างๆ


ในขณะเดียวกันหนึ่งในมหาอำนาจสายความมืดที่พัฒนาเร็วที่สุดก็คือ หัวใจปีศาจ ซึ่งหัวใจปีศาจนั้นไม่เพียงแต่จะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเท่านั้น แต่สมาชิกกิลของพวกเขาก็ยังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มันจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าสมาชิกของหัวใจปีศาจไปถึงขั้นสามและอยู่ในตำแหน่งปีศาจระดับบารอนแล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นตัวตนที่เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามเลย ในความเป็นจริงความสามารถในการอยู่รอดของพวกเขาในแผนที่ล่าจะดีกว่าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของมนุษย์มากด้วยซ้ำ


ยิ่งไปกว่านั้น มันยังไม่เหมือนกับผู้เล่นทั่วไป ผู้เล่นสายความมืดนั้นได้รับรางวัลและการปรับปรุงตัวเองจากการฆ่าผู้เล่นคนอื่นๆด้วย พวกเขานั้นจะมีข้อได้เปรียบอย่างมาก เมื่อพูดถึงการเก็บเลเวล รวมไปถึงอัพเกกรดอาวุธและอุปกรณ์ของพวกเขา แม้ว่าผู้เล่นสายความมืดจะยังเป็นชนกลุ่มน้อยใน God domain แต่ตอนนี้พวกเขาก็แข็งแกร่งมากพอจะสู้กับกิลทั่วไปในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยได้แล้ว


นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เล่นอิสระหลายคนเลือกที่จะเป็นผู้เล่นสายความมืด ซึ่งในทางกลับกันประชากรผู้เล่นสายความมืดใน God domain ก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงนี้ผลักดันการเติบโตอย่างรวดเร็วของมหาอำนาจสายความมืดต่างๆ


แน่นอนว่าการพัฒนาอย่างรวดเร็วของผู้เล่นสายความมืดนั้นก็มาพร้อมกับราคา เมื่อเทียบกับผู้เล่นทั่วไป บทลงโทษที่ผู้เล่นสายความมืดจะต้องเจอเมื่อตายลงคือบทลงโทษจากการตายที่มากกว่าผู้เล่นปกติหลายเท่า ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความตายในปัจจุบันจึงจำกัดขอบเขตกิจกรรมแทนที่จะปะทะกับผู้เล่นทั่วไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามแม้แต่มหาอำนาจต่างๆนั้นก็ไม่กล้าจะยั่วยุผู้เล่นสายความมืดอย่างเป็นทางการ ไม่ต้องพูดถึงมหาอำนาจสายความมืดอย่างหัวใจปีศาจเลย


ไม่มีมหาอำนาจใดๆคาดคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะกล้ายั่วยุหัวใจปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นสภาสิบแปดปีกยังไปไกลถึงขั้นประกาศการมาถึงของตัวเองที่ทางเข้าหลักของเมืองปีศาจ


ในขณะเดียวกันในร้านอาหารชั้นสูงแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบ ขณะนี้อิลูซะรี่เวิร์ดกำลังเพลิดเพลินไปกับอาหารอยู่ อย่างไรก็ตามในระหว่างมือนี้ของเธอนั้น อยู่ๆแอสซาซินขั้นสามก็เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอด้วยสีหน้าตึงเครียด


“รองหัวหน้ากิล เราพึ่งได้รับข่าวมาว่าสภาสิบแปดปีกนั้นไม่เพียงแต่จะกวาดล้างทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองปีศาจได้ แต่มันยังรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญของเมืองปีศาจอีกหลายหมื่นคนด้วย แถมตอนนี้ทีมของสภาสิบแปดปีกก็มาถึงหน้าทางเข้าหลักของเมืองปีศาจแล้ว และดูจากรูปการณ์แล้ว สภาสิบแปดปีกมีเจตนาจะจัดการกับโทรเบิ้ลไทม์จริงๆ” แอสซาซินขั้นสามกล่าวด้วยความประหลาดใจที่แสดงออกมาบนใบหน้าของเขา


“พวกเขาไปถึงแล้ว ?” อิลูซะรี่เวิร์ดเองก็รู้สึกประหลาดใจในทำนองเดียวกันกับประเด็นนี้


เธอนั้นเคยไปเยี่ยมเมืองปีศาจในฐานะแขกมาก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าการข้ามผ่านป่าเบิร์นนิ่งนั้นมันยากขนาดไหน มันมีหน่วยลาดตระเวนปีศาจ และผู้เล่นปีศาจจำ

นวนมากปฎิบัติการอยู่ในป่า

ในความคิดของเธอ แม้จะมีพลังที่น่ากลัวมากๆ แต่ซือเฟิงและทีมของเขาก็ควรจะต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงเมืองปีศาจ ในความเป็นจริง เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาไปถึงเมืองปีศาจ เครื่องหมายติดตามที่พวกเขาวางไว้ที่โทรเบิ้ลไทม์ก็อาจหายไปแล้ว และในกรณีนี้การไปถึงเมืองปีศาจของพวกเขาก็จะเท่ากับไร้ความหมายเช่นกัน


อย่างไรก็ตามทีมของซือเฟิงกับเดินทางตัดผ่านป่าเบิร์นนิ่งจนไปถึงเมืองปีศาจได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ไม่ได้ไปถึงตรงนั้นด้วยวิธีลอบเร้นใดๆเลย พวกเขาไปแบบตรงๆ


“เรายังพบข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโทรเบิ้ลไทม์และหัวใจปีศาจ” แอสซาซินขั้นสามกล่าว “เขตเซนทิเนลของโทรเบิ้ลไทม์นั้นจัดเป็นเขตที่สำคัญของหัวใจปีศาจในดาร์คเดน และหัวใจปีศาจยังวางแผนที่จะเปลี่ยนเขตเซนทิเนลให้เป็นสำนักงานใหญ่ของพวกเขาในดาร์คเดนด้วย นอกจากนี้โทรเบิ้ลไทม์ยังต่อสู้เคียงข้างกับเฟรมมิ่งไลท์ หนึ่งในรองหัวหน้ากิลของหัวใจปีศาจ ในช่วงแรกของ God domain แม้ว่าทั้งสองจะเลือกเส้นทางการพัฒนาที่แตกต่างกัน แต่โทรเบิ้ลไทม์นั้นก็ยังคงจัดว่าเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของเฟรมมิ่งไลท์ อันเนื่องมาจากความแข็งแกร่งและพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมของเขา


“เขาเป็นคนสนิทของเฟรมมิ่งไลท์งั้นหรอ ?” อิลูซะรี่เวิร์ดขมวดคิ้ว เมื่อได้รู้เรื่องนี้ “ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง สภาสิบแปดปีกกจะต้องเจอกับปัญหาแน่นอนในการฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ เฟรมมิ่งไลท์มักจะปกป้องคนของเขาอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะคนสนิทของเขา ยิ่งไปกว่านั้นช่วงเวลาที่โทรเบิ้ลไทม์ยังหลบในเมืองนั้น หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมก็จะไม่สามารถทำอะไรผลีผลามมากเกินไปได้ …”


เฟรมมิ่งไลท์นั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในทวีปด้านตะวันออก และส่วนหนึ่งของเหตุผลที่มหาอำนาจต่างๆในปัจจุบันของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบกลัวหัวใจปีศาจ ก็คือตัวตนของเฟรมมิ่งไลท์ ในความเป็นจริงเฟรมมิ่งไลท์บีบขอสัมปทานจำนวนมากได้จากซุเปอร์กิลหลายแห่ง โดยเฉพาะกับ Sacred Temple


แม้ว่าจักรวรรดินักบุญทั้งสิบจะเป็นฐานที่ตั้งของ Sacred Temple แต่ Sacred Temple ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับความต้องการของหัวใจปีศาจ ซึ่งสถานการณ์นี้สร้างความสับสนให้กับมหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบมาก และพวกเขาก็เริ่มมีความหวาดกลัวกิลสายความมืดกิลนี้มากขึ้นเรื่อยๆ


นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสภาสิบแปดปีกจะฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ในเมืองปีศาจเลย ต่อให้พวกเขาฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ในโลกภายนอก แต่มันก็ยังมีแนวโน้มสูงที่จะไปทำให้เฟรมมิ่งไลท์โกรธ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นความพยายามที่สภาสิบแปดปีกได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาไปได้อย่างราบรื่นในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยก็จะสูญเปล่า แถมกิลยังจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ไม่มีที่สิ้นสุด


ท้ายที่สุด God domain ในปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนไปมากแล้ว ข้อดีของผู้เล่นสายความมืดนั้นมีมากกว่าผู้เล่นทั่วไปอย่างท่วมท้น


ในขณะที่มหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบกำลังพูดคุยกันอย่างลับๆเกี่ยวกับสภาสิบแปดปีก มันก็บังเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้งที่ทางเข้าหลักของเมืองปีศาจ


สาเหตุของเรื่องนี้นั้นก็คือสมาชิกของหัวใจปีศาจปรากฎตัว !!!


ในเวลาต่อมาประตูของเมืองปีศาจก็เปิดออกอย่างช้าๆ และทีมหนึ่งพันคนที่นำโดยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็เดินออกจากเมืองปีศาจ


สมาชิกทุกคนในทีมๆนี้ของหัวใจปีศาจนั้นล้วนมีอาวุธและอุปกรณ์ชั้นยอดครบมือ และแม้แต่ชิ้นส่วนที่อ่อนแอที่สุดที่พวกเขาสวมใส่ก็ยังเป็นระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อย นอกจากนี้สมาชิกทุกคนในทีมนี้ยังเป็นขุนนางทั้งหมด


ขณะที่จำนวนผู้เล่นที่แผ่ออร่อาออกมาตามมาตราฐานของปีศาจระดับวิสเค้าท์นั้นก็มีมากถึงยี่สิบคน


ขณะที่ผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทีมและยืนอยู่หน้าแถวนั้นก็คือ ชายร่างกำยำที่สวมชุดเกราะที่สวยงาม และผู้เล่นที่เฝ้าดูฉากนี้อยู่ต่างเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นฉากนี้


“อึก !! กบฎสายฟ้า !!! รองผู้บัญชาการกองกำลังหลักของหัวใจปีศาจปรากฎตัวด้วยงั้นหรอ ?!”


“ช่างเป็นออร่าและแรงกดดันที่ทรงพลังมากๆ !!! นี่คือความแข็งแกร่งของปีศาจระดับเค้าท์งั้นหรอ ?!!”


เมื่อผู้เล่นที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองเห็นชายร่างกำยำคนนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว


การได้เป็นปีศาจระดับเค้าท์นั้นเป็นสิ่งที่ผู้เล่นปีศาจทุกคนปราถนา อย่างไรก็ตามมันก็อยู่ไกลเกินเอื้อมของผู้เล่นปีศาจส่วนใหญ่ เหตุผลนั้นไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนคริสตัลปีศาจที่ต้องใช้อย่างมหาศาล แต่เป็นความยากในการทดสอบเพื่อเป็นปีศาจระดับ

เค้าท์ด้วย


แม้จนถึงตอนนี้ มันก็มีเพียงแค่สองกิลหลักของเมืองปีศาจเท่านั้นที่มีผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์ ขณะที่กลุ่มอื่นๆ คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขานั้นก็คือวิสเค้าท์ระดับสามดาว


ผู้เล่นที่กลายเป็นปีศาจระดับเค้าท์ได้นั้นจะเริ่มได้รับการปฎิบัติด้วยความเคารพ ไม่เว้นแม้แต่กับ NPC ที่เป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ เนื่องจากผู้เล่นขั้นสามที่เป็นปีศาจระดับเค้าท์แข็งแกร่งพอจะสู้กับปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ได้แล้ว และการที่พวกเขาจะกลายเป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่เมื่อไหร่ มันก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น


“พวกเขาส่งผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์ออกมาจริงๆ” เมื่อรีเกรทฟูลวินด์ ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่ใกล้กับทางเข้าหลักของเมืองปีศาจเห็นกบฎสายฟ้าผ่านกระจกเวทย์มนต์ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความอิจฉาอย่างมาก “ดูเหมือนว่าหัวใจปีศาจจะให้ความสำคัญกับโทรเบิ้ลไทม์มากจริงๆ


“อย่างไรก็ตาม เราจบลงด้วยการสูญเสียครั้งใหญ่ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่เราจะไม่ได้รับรางวัลตอบแทนมากมาย แต่เรายังเอาชีวิตทีมของเราไปทิ้งด้วย โชคดีที่เราจัดการกับทุกอย่างแบบเป็นความลับ ดังนั้นทีมนักผจญภัยในเมืองปีศาจทั้งหมดที่ไปเผชิญหน้ากับพวกนั้นก็ล้วนได้รับความสูญเสียอย่างหนักเช่นกัน” เฮ้ลเลสสไมล์กล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาจ้องมองไปยังกบฎสายฟ้า


ในช่วงเวลาที่รีเกรทฟูลวินด์และคนอื่นๆกำลังพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง กบฎสายฟ้าก็ได้มาถึงตรงหน้าทีมของซือเฟิง


“คุณคือหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก แบล๊คเฟรมใช่ไหม ?” กบฎสายฟ้าเอ่ยถามซือเฟิง


“ใช่แล้ว ..” ซือเฟิงตอบพลางพยักหน้า “คุณมีธุระอะไรกับฉัน ?”


“เรารู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่อฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ แต่ที่นี่คือดินแดนปีศาจที่เป็นของหัวใจปีศาจ เราจะไม่สนใดๆเลย หากคุณจะดำเนินการที่อื่น แต่เนื่องจากโทรเบิ้ลไทม์ได้หนีมาที่เมืองปีศาจแล้ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของเขา ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่แห่งนี้ไม่ต้อนรับผู้เล่นที่ไม่ใช่ปีศาจ หากคุณจากไปตอนนี้ หัวใจปีศาจจะยินยอมเพิกเฉยต่อพฤติกรรมการยั่วยุของคุณในครั้งนี้ และมันก็อาจมีโอกาสที่กิลเราสองกิลจะเป็นหุ้นส่วนกันได้ในอนาคต” กบฎสายฟ้ากล่าวเสียงเข้ม


“ถ้าฉันปฎิเสธล่ะ ?” ซือเฟิงถามพลางหัวเราะเบาๆ


“ถ้าอย่างนั้นคุณก็จะต้องเป็นศัตรูกับหัวใจปีศาจ !!!” กบฎสายฟ้ากล่าวเตือนอย่างเย็นชา และคำพูดของเขาก็ดังก้องไปทั่วพื้นที่


เมื่อได้ยินคำพูดของกบฎสายฟ้า ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่บนกำแพงต่างก็เงียบ เพราะมันไม่เคยมีใครกล้ายั่วยุหัวใจปีศาจในดินแดนปีศาจเลย และคนที่ทำแบบนั้นก็ไม่เคยมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้


“ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นก็มาเป็นศัตรูกันเถอะ !!!”

 

 

 


ตอนที่ 2530

 

สถานะปกติ

านะปกติ

ทันทีที่ซือเฟิงพูดจบ ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ


ยั่วยุ !!


นี่มันเป็นการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง !!


“ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นบ้าแน่ๆ !! เขาตั้งใจจะเป็นศัตรูกับหัวใจปีศาจจริงๆ !!”


“นี่เขากล้าตบหน้าหัวใจปีศาจแบบนี้เลยงั้นหรอ ?!!”


“ตอนนี้เขาได้ตายแน่ !! แม้ว่าหัวใจปีศาจจะต้องการปล่อยเขาออกจากเบ็ด แต่กบฎสายฟ้าจะไม่ปล่อยให้เขาหนีไปจากสิ่งนี้ได้แน่นอน !!!”


ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าชมอยู่ต่างรู้สึกตกตะลึง และแทบพูดไม่ออกกับพฤติกรรมไม่ยอมใครของซือเฟิง พวกเขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะตอบสนองแบบนี้


ในความเห็นของพวกเขาการที่ซือเฟิงและทีมของเขาสามารถมาถึงประตูทางเข้าหลักของเมืองปีศาจได้ มันก็นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมากๆ ในความเป็นจริงความสำเร็จของพวกเขาก็ได้ทำลายศักศรีดิ์ของหัวใจปีศาจลงไปอย่างมาก และหลังจากทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ ซือเฟิงควรถอยกลับอย่างชาญฉลาดแทนที่จะผลักดันสถานการณ์ต่อไป เพราะท้ายที่สุดหัวใจปีศาจนั้นแข็งแกร่งกว่าทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกอย่างมาก และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบก็ยังไม่กล้าจะยั่วยุพวกเขา


ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นไปไม่ได้เลยที่ซือเฟิงจะบรรลุเป้าหมายในการฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ในเมืองปีศาจ แม้ว่าเมืองปีศาจอาจดูเหมือนเมืองที่ผู้เล่นสร้างขึ้นก็จริง แต่ในความเป็นจริงบางส่วนของเมืองนี้ก็ยังเป็นของ NPC เมืองนี้นั้นไม่เพียงแต่จะได้รับการปกป้องจากผู้เล่นเท่านั้น แต่มันยังรวมถึง NPC อย่างพวกปีศาจผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมาก ซึ่งนี่รวมไปถึงปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่ชื่อว่าโมนาร์ชด้วย โดยปีศาจตัวนี้นั้นอยู่ในระดับมาร์

ควิสอย่างแท้จริง และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิบสองปีศาจระดับมาร์ควิสของ God domain ซึ่งอยู่ระดับต่ำกว่าดยุคเพียงระดับเดียว ซึ่งมันไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นหวังจะต่อสู้ได้เลย และด้วยมีโมนาร์ชคอยปกป้องเมืองปีศาจนั้นการบุกเข้าไปในเมือง และฆ่าโทรเบิ้ลไทม์จะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันหลังจากกบฎสายฟ้าได้ยินคำพูดของซือเฟิง ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดทันที


“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ดูเหมือนว่าคุณตั้งใจที่จะท้าทายขีดจำกัดของหัวใจปีศาจสินะ !!!” กบฎสายฟ้าคำรามขณะจ้องมองไปยังซือเฟิง “เนื่องจากคุณต้องการจะต่อสู้ ฉันก็จะทำตามความปรารถนาของคุณ !!!”


ทันใดนั้นพลังแห่งความมืดที่หนาแน่นก็ไหลออกมาจากร่างของกบฎสายฟ้า และร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเขาไม่เพียงแต่จะมีขนาดตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่รูปแบบปีศาจสีดำสนิทยังปรากฎขึ้นทั่วร่างกายของเขา ในเวลาเดียวกันออร่าที่เขาแผ่ออกมานั้มันก็รุนแรงและแข็งแกร่งขึ้นมากจนแม้กระทั่งผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าดูอยู่บางส่วนก็ยังต้องตกตะลึง


“น่าทึ่งมากๆ !!! นี่คือความแข็งแกร่งของปีศาจระดับเค้าท์งั้นหรอ ?!!”


“พลังแห่งความมืดที่เขาแผ่อออกมานั้นมันหนาแน่นมากๆ !!! มันหนาแน่นกว่า NPC ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่บางคนในเมืองซะอีก !!! นี่สกิลปีศาจของเขาจะทรงพลังมากขนาดไหนกันด้วยพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ ?”


“แบล๊คเฟรมจบสิ้นแล้ว !!!”


ผู้เล่นปีศาจที่ชมอยู่ต่างอุทานด้วยความประหลาดใจและตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของกบฎสายฟ้า แม้ว่าพวกเขาจะรู้มานานแล้วว่ากิลหลักทั้งสองกิลของเมืองปีศาจนั้นมีผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์ แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์แสดงพลังจริงๆออกมา พวกเขานั้นรู้เพียงว่าระดับเค้าท์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของผู้เล่นปีศาจ และผู้เล่นนั้นไม่สามารถจะเข้าถึงได้เลยหากปราศจากความแข็งแกร่งและทรัพยากรที่น่ากลัว


อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่กบฎสายฟ้าในตอนนี้ แทนที่จะเรียกระดับเค้าท์ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ มันควรเรียกว่าการก้าวกระโดดมากกว่า


ในขณะนี้ แม้จะใช้เพียงแค่สกิลตรวจสอบทั่วไป แต่คนๆหนึ่งก็จะสามารถรู้ได้แน่นอนว่ากบฎสายฟ้านั้นก้าวข้ามขอบเขตธรรมดาไปแล้ว และไม่เพียงแต่ HP ในปัจจุบันของเขาจะสูงถึงหกล้าน ขณะที่ก่อนหน้านี้ HP ของเขามีมากกว่าหนึ่งล้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนอกเหนือจาก HP แล้ว มันก็ชัดเจนว่ากบฎสายฟ้านั้นได้รับการเพิ่มพลังป้องกัน ค่าสถานะพื้นฐาน รวมไปถึงร่างกายทางกายภาพหลังจากการกลายร่างเป็นปีศาจ


หลังจากกบฎสายฟ้ากลายร่างเป็นปีศาจแล้ว รีเกรทฟูชลวินด์และผู้ชมคนอื่นๆในบาร์ใกล้ทางเข้าหลักของเมืองปีศาจก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง


“แน่นอนว่าปีศาจระดับเค้าท์นั้นน่ากลัวจริงๆ !!! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทั้งสองกิลถึงเก็บข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับปีศาจระดับนี้ไว้เป็นความลับตลอดเวลา !!” เฮ้ลเลสสไมล์มองไปที่กบฎสายฟ้าด้วยความอิจฉา ซึ่งตอนนี้ชายคนนี้นั้นมีพลังเทียบเท่ากับปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่แล้วในแง่ของความแข็งแกร่ง “ตอนนี้ไม่เพียงแต่กบฎสายฟ้าจะกลายร่างเป็นปีศาจระดับเค้าท์ แต่เขายังใช้ Cruel Darkness ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบหกอาวุธเวทย์มนต์ที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าปีศาจด้วย แถมเขายังมีบัฟจากเมืองปีศาจที่ผู้เล่นปีศาจทุกคนจะต้องได้รับ ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดนี้ ฉันคิดว่านอกสามคนนั้นแล้วก็จะไม่มีใครในเมืองปีศาจที่สามารถเทียบกับเขาได้แน่นอน”


กบฎสายฟ้านั้นเดิมเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่ทำงานให้กับซุเปอร์กิล อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าสู่ God domain แล้ว หัวใจปีศาจก็ได้ทำการส่งข้อเสนอที่น่ายั่วยวนมากมาให้เขา และด้วยความช่วยเหลือของ Cruel Darkness อาวุธเวทย์มนต์ที่หัวใจปีศาจได้รับมา มันจึงทำให้กบฎสายฟ้านั้นแข็งแกร่งขึ้นมากจนแทบจะเป็นอมตะในหมู่ผู้เล่นขั้นเดียวกัน ในความเป็นจริง ในระหว่างสงครามกับ Battle Wolves ครั้งที่แล้ว กบฎสายฟ้าคนเดียวก็ได้ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดถึงสามคน และในตอนนั้นเขายังเป็นเพียงปีศาจระดับวิสเค้าท์ด้วยซ้ำ


ตอนนี้กบฎสายฟ้าได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นปีศาจระดับเค้าท์ ดังนั้นเฮ้ลเลสสไมล์จึงแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าเขาจะทรงพลังมากขนาดไหน


“กบฎสายฟ้าจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายแน่นอนในการจัดการแบล๊คเฟรม เพราะท้ายที่สุดแบล๊คเฟรมได้ปราบปรามพอยซั่นฮาร์ทในร่างของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่มาแล้ว …” รีเกรทฟูลวินด์กล่าว ขณะที่มองไปยังร่างปีศาจของกบฎสายฟ้า “ฉันเชื่อว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากด้วย”


รีเกรทฟูลวินด์นั้นได้สัมผัสกับความน่ากลัวของซือเฟิงมาเป็นการส่วนตัวแล้ว แม้ว่ากบฎสายฟ้าจะทรงพลัง แต่ Elementalist ก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะซือเฟิงได้อย่างง่ายดาย


เฟรมเฟเธอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของรีเกรทฟูลวินด์


ก่อนหน้านี้ซือเิฟงก็ทำราวกับว่าตัวตนของหัวใจปีศาจนั้นไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรกับเขาเลย แถมเอาจริงๆต้องยอมรับว่านักดาบนั้นมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำแบบนี้ได้


ในขณะที่รีเกรทฟูลวินด์และคนอื่นๆกำลังพูดคุยกันเรื่องกบฎสายฟ้า คนที่ถูกพูดถึงก็ชักดาบใหญ่สีดำสนิทออกมาจากฝักด้านหลังที่เขาสะพายอยู่ และเหวี่ยงไปที่ซือเฟิง


ซึ่งทันทีที่กบฎสายฟ้าทำแบบนี้นั้น พลังแห่งความมืดของเขาก็ถูกแผ่ออกมาจากร่างกายเพิ่มขึ้นและมันเข้าไปช่วยเพิ่มพลังและระยะการโจมตีให้กับดาบของเขาเป็นสองเท่า และตอนนี้นั้นการโจมตีนี้ของเขามันก็ทรงพลังมาซะจนสามารถตัดผ่านทำให้เกิดรอยแยกมิติสีดำสนิทในทุกๆที่ที่มันผ่าน


ในการตอบสนอง ซือเฟิงได้ทำการใช้ไลท์ชาโด้วทันที


ตู้ม !!


ทันทีที่การโจมตีของทั้งสองปะทะกัน ผลกระทบที่น่ากลัวก็ทำให้พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของผู้เล่นทั้งสองนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเสียงของการปะทะกันครั้งนี้ก็ดังก้องไปทั่วเมืองปีศาจ


ในช่วงเวลาต่อมา ซือเฟิงก็ถูกบังคับให้ต้องถอยมาครึ่งก้าว และ HP ของเขาก็ลดลงไปเพียงไม่กี่พัน สำหรับซือเฟิงผู้ที่มี HP มากกว่าหนึ่งล้านนั้น ความเสียหายนี้จัดว่าไม่สำคัญเลย


“เป็นไปไม่ได้ !!! หมอนั่นพ่ายแพ้เพียงแค่เล็กน้อยหลังจากได้รับพลังโจมตีเต็มที่ของรองผู้บัญชาการเนี่ยนะ ?!!!”


เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ทั้งผู้เล่นปีศาจ และสมาชิกของหัวใจปีศาจก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง นี่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับสมาชิกของหัวใจปีศาจ ซึ่งดวงตาของพวกเขานั้นแทบจะถลนออกจากเบ้าเมื่อได้เห็นฉากนี้


ขณะที่พวกเขาเฝ้าดูกบฎสายฟ้าเข้าปะทะกับซือเฟิง พวกเขาได้พิจารณาถึงวิธีการบางอย่างที่อาจทำให้นักดาบต่อต้านการโจมตีของกบฎสายฟ้าได้ ตัวอย่างเช่น บางทีซือเฟิงอาจจะใช้เครื่องมือพิเศษ หรือสกิลช่วยชีวิต อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่นึกเลยว่าซือเฟิงจะเลือกรับการโจมตีที่เข้ามาตรงๆ และแม้กระทั่งสามารถป้องกันมันได้อย่างง่ายดาย


ในขณะนี้เองนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ แม้แต่กบฎสายฟ้าเองก็ยังตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้


เกิดอะไรขึ้นกัน ?


ก่อนที่เขาจะมาถึงระดับเค้าท์นั้น ด้วยพลังของ Cruel Darkness มันก็ทำให้เขาอยู่ยงคงกระพันในหมู่ผู้เล่นขั้นเดียวกันแล้ว แต่ตอนนี้ถึงแม้เขาจะกลายร่างเป็นปีศาจระดับเค้าท์แล้ว แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าซือเฟิงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น


อย่างไรก็ตามกบฎสายฟ้าก็รีบสลัดความคิดหลายอย่างที่ปั่นป่วนใจเขาออกไป


“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้แค่ปากดีสินะ !!!” กบฎสายฟ้ากล่าวยกย่อง “แต่คุณสามารถป้องกันการโจมตีของฉันได้แล้วยังไงล่ะ ? คุณก็จะยังคงแพ้อยู่ดี หากคุณเป็นแค่เพียงฝ่ายตั้งรับเท่านั้น !!!”


อย่างไรก็ตามทันทีที่กบฎสายฟ้าพูดจบ ซือเฟิงก็ได้ทำการเก็บคิลลิงเรย์ของเขาเข้าฝัก


“ตามความคาดหวังจากผู้เชี่ยวชาญปีศาจที่ไปถึงระดับเค้าท์ได้ ความแข็งแกร่งของคุณนั้นมันเหนือกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไป ไปในระดับหนึ่งแล้วสินะ …” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปยังกบฎสายฟ้า “ดูเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถเทียบกับผู้เล่นปีศาจอย่างคุณได้จริงๆ เมื่อคุณอยู่บ้านของตัวเอง และฉันก็อยู่ในสถานะปกติของฉัน”


“สถานะปกติ ?” กบฎสายฟ้าหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง “คุณคิดว่าคุณจะสามารถกลายร่างเป็นปีศาจได้ด้วยงั้นหรอ ?”


ขณะที่อยู่ในดินแดนปีศาจ ผู้เล่นมนุษย์จะไม่สามารถใช้สกิลเบอเซิกร์ได้ แน่นอนว่าผู้เล่นปีศาจก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับกฎนี้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นปีศาจนั้นสามารถจะกลายร่างเป็นปีศาจเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเองได้ นี่คือสาเหตุที่มหาอำนาจต่างๆของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบนั้นไม่สามารถจะทำอะไรกับเมืองปีศาจได้ และมีเพียง Battle Wolves เท่านั้นที่ดื้อรั้นมากพอจะทำสงครามกับเมืองปีศาจ


“ฉันทำไม่ได้” ซือเฟิงพูดพลางหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขามองไปยังกบฎสายฟ้า “อย่างไรก็ตาม doppelganger ของฉันสามารถจะทำได้”


หลัวจากพูดจบ ซือเฟิงก็ดึงดาบสีดำสนิทออกมาจากฝักที่เขาสะพายอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของเอว

 

 

 


ตอนที่ 2531

 

มังกรดำ


Abyssal Blade ที่ซือเฟิงถืออยู่ในตอนนี้นั้นดูเหมือนกับเจ็มสโตนแห่งความมืดเลย แถมดาบนั้นก็ยังถูกประดับไปด้วยรูปแบบสีแดงเข้มที่ให้ความรู้สึกชวนหลงใหล


ทันทีที่ซือเฟิงชัก Abyssal Blade ออกจากฝักมานั้น เขาก็ได้ใช้สกิลให้ doppelganger มาปรากฎตัวขึ้นข้างๆเขาทันที และในแง่ของออร่ากับรูปลักษณ์นั้น doppelganger ของเขาดูเหมือนกับเขาอย่างมาก


“Doppelganger คือไพ่ลับของเขา ?”


“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาน่าจะมีอะไรที่น่าอัศจรรย์มาช่วยตัวเอง … นี่เขาคงไม่คิดแค่จะอาศัย doppelganger ในการเอาชนะรองผู้บัญชาการกบฎสายฟ้าหรอกนะ แถมดูเหมือน doppelganger นั่นจะมีค่าสถานะอ่อนแอกว่าตัวเขาด้วยนี่นาแม้ว่าจะแค่นิดหน่อยก็ตาม”


เมื่อได้เห็น doppelganger ของซือเฟิง เหล่าสมาชิกของหัวใจปีศาจก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา


ใน God domain สกิล doppelganger นั้นนับเป็นมาตราการช่วยชีวิตที่ยอดเยี่ยม และมันก็ยังคงจัดว่าเป็นสกิลที่หายากมากซึ่งช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้กับผู้เล่นได้อย่างมาก อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วสกิล doppelganger นั้นมีประโยชน์แค่เฉพาะกับมอนสเตอร์และผู้เชี่ยวชาญทั่วไปเท่านั้น ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอย่างกบฎสายฟ้านั้น doppelganger นั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง


ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่ากบฎสายฟ้านั้นมี Cruel Darkness อยู่ในครอบครอง ซึ่งอาวุธเวทย์มนต์ชิ้นนี้มันก็ช่วยดูดซับพลังแห่งความมืดเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาอย่างมาก แถมอาวุธชิ้นนี้มันยังช่วยขยายระยะการโจมตีของผู้ใช้อย่างมากอีกด้วย และเมื่อกบฎสายฟ้าใช้มัน เขาก็สามารถจะบรรลุการโจมตีประมาณยี่สิบหลา ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วแทบจะเปลี่ยนให้เขาเป็นผู้เล่นระยะไกลได้เลย


ด้วยระยะการโจมตีดังกล่าวรวมกับความแข็งแกร่งของกบฎสายฟ้า และเทคนิคของเขา มันจึงไม่สำคัญเลยว่าเขาจะต่อสู้กับผู้เล่นระยะประชิดหนึ่งหรือห้าคน มันก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก เพราะเขาจะไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เข้าใกล้เขา


ในขณะเดียวกันหากผู้เล่นระยะประชิดไม่สามารถเข้าใกล้กบฎสายฟ้าได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถโจมตีเขาได้เช่นกัน นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมกบฎสายฟ้าจึงสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนของ Battle Wolves สามคนพร้อมกันได้โดยไม่เสียเปรียบ


เนื่องจากซือเฟิงได้เรียก doppelganger ของเขาออกมาเพียงแค่คนเดียว ดังนั้นจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้จึงจะไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการต่อสู้ของกบฎสายฟ้าเลย


“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณพยายามจะทำอะไรตอนนี้ แต่ฉันแนะนำให้คุณใช้ไพ่ทั้งหมดที่ตัวเองมีดีกว่าตอนนี้ หากต้องการจะรอดชีวิตไปจากที่นี่” กบฎสายฟ้ากล่าวแนะนำ หลังจากที่ได้เห็นซือเฟิงเรียก doppelganger ออกมา เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะโจมตี ตรงกันข้ามเขากับมองไปยังนักดาบแบบแปลกๆ “แล้วเดี๋ยวฉันจะสอนให้คุณรู้เองว่ามันโง่แค่ไหนที่มาสร้างศัตรูกับหัวใจปีศาจ !!!”


หลังจากที่กบฎสายฟ้าพูดจบ พลังแห่งความมืดที่ร่างกายของเขาแผ่ออกมา มันก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แถมคราวนี้มันยังสร้างหมอกมืดจางๆรอบตัวเขาขึ้นมาด้วย


ในขณะเดียวกันอาวุธเวทย์มนต์ที่เขาใช้นี้ก็ดูเหมือนจะได้รับการอัพเกรด ตอนนี้มัมีเปลวไฟสีฟ้าอ่อนกระพริบรอบใบดาบของ Cruel Darkness อย่างไรก็ตามเปลวไฟเหล่านี้นั้นไม่ได้เพิ่มอุณภูมิโดยรอบ แต่มันลดอุณภูมิโดยรอบแทน โดยมันลดลงต่ำมากซะจนพืชรอบๆกลายเป็นน้ำแข็ง


“นี่เขายังสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้มากกว่านี้อีกงั้นหรอ ?”


“น่าทึ่งมากๆ !!! นี่มันน่าทึ่งมากจริงๆ !!! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแม้แต่ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกก็ไม่กล้าจะต่อต้านหัวใจปีศาจ !! เพียงแค่กบฎสายฟ้าเพียงคนเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกของเมืองต้องทุกข์ทรมาณ”


เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งของกบฎสายฟ้าพัฒนาขึ้นไปอีก ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าชมจากบริเวณกำแพงเมืองก็ได้ยอมรับพลังของหัวใจปีศาจในระดับใหม่ และตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ได้มีความคิดที่จะเข้าร่วมกับหัวใจปีศาจมากขึ้น


เดิมทีที่พวกเขากลายเป็นผู้เล่นสายความมืดนั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของกิล อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่กบฎสายฟ้าได้แสดงออกมานั้นมันน่าทึ่งเกินไป ตอนนี้พวกเขานั้นรู้สึกว่าพวกเขาไม่ติดอะไรแล้ว หากจะต้องสูญเสียอิสระภาพไปบางส่วนเพื่อที่จะได้แข็งแกร่งเท่ากับกบฎสายฟ้า


ในขณะนี้ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าดูจากบนกำแพงเมือง และรวมไปถึงรีเกรทฟูลวินด์กับคนอื่นๆที่เฝ้าดูจากบาร์ใกล้ๆก็ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของกบฎสายฟ้า


“ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้เข้าสู่สถานะสูงสุดของตัวเองงั้นหรอ ?” ขณะที่รีเกรทฟูลวินด์มองไปยังกระจกเวทย์มนต์ที่มีร่างของกบฎสายฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกฉายอยู่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง


เมื่อเทียบกับผู้เล่นปีศาจทั่วไปแล้ว รีเกรทฟูลวินด์ที่เป็นผู้เล่นปีศาจและมาถึงระดับวิสเค้าท์นั้นมีความเข้าใจที่ชัดเจนกว่าเกี่ยวกับพลังแห่งความมืดในตอนนี้ของกบฎสายฟ้า และมันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าต่อให้เขาเพิ่มพลังแห่งความมืดของตัวเองขึ้นอีกสามถึงสี่เท่า เขาก็ยังขาดมาตราฐานที่จะต่อสู้กับกบฎสายฟ้าอยู่ดี


เนื่องจากจุดเริ่มต้นความแข็งแกร่งของผู้เล่นปีศาจนั้นมาจากพลังแห่งความมืด ซึ่งพลังแห่งความมืดที่หนาแน่นนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มการฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจเท่านั้น แต่มันยังช่วยเพิ่มพลังของสกิลและเวทย์ที่พวกเขาใช้ด้วย พลังแห่งความมืดนั้นส่งผลกระทบต่อผู้เล่นในลักษณะเดียวกับที่มานาทำกับผู้เล่นทั่วไป เพียงแต่ว่ามันมีเอฟเฟคที่โดดเด่นกว่ามาก


“เมื่อคิดว่าปีศาจระดับเค้าท์สาสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากขนาดนี้ แบล๊คเฟรมนั้นคงจะจบสิ้นแล้วจริงๆ !!! ฉันคิดว่าเขาคงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อต้านกบฎสายฟ้าได้เกินสองถึงสามการเคลื่อนไหวแน่นอน” เฟรมเฟเธอร์พึมพำด้วยความตกตะลึง


เธอนั้นเป็นวิสเค้าท์ระดับสามดาวที่แท้จริง และเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นระดับเค้าท์แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอก็ได้รู้อย่างชัดเจนแล้วว่ามันมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างวิสเค้าท์ระดับสามดาว กับเค้าท์ …. ในขณะนี้นับประสาอะไรกับการทำงานภายใต้ขอบเขตของเมืองปีศาจ แม้จะอยู่นอกอาณาเขตของเมืองปีศาจ แต่กบฎสายฟ้าก็ยังจะสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องกลัวด้วยซ้ำ


ในขณะเดียวกันที่นอกเมืองปีศาจ บลูฟอร์สและสมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกจากดาร์คเดนที่ติดตามซือเฟิงมาก็ล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นพลังล่าสุดของกบฎสายฟ้า


“บลู เราจะแนะนำให้หัวหน้ากิลหยุดได้ยังไง ? เรามาได้ไกลขนาดนี้แล้ว ฉันเชื่อว่าพลังต่างๆของดาร์คเดน จะเข้าใจแล้วว่าเขตหนึ่งแข็งแกร่งมากขนาดไหน อย่างไรก็ตามหากเรายงคงยืนหยัดจะสู้ต่อไปตอนนี้ ความสูญเสียที่เราจะได้รับจะมหาศาลแน่นอน” อีฟเวนนิ่งโลตัสกล่าวขณะที่มองไปยังบลูฟอร์ส


หลังจากได้เห็นว่าทีมของพวกเขานั้นมาถึงเมืองปีศาจอย่างง่ายดายมากขนาดไหน เธอก็ได้รับความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับพลังของกิลตัวเองแล้ว เธอไม่เคยคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้


อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ในปัจจุบันของพวกเกขา ไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาจะสามารถจัดการได้อีกต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสามร้อยคนอยู่เคียงข้าง แต่เธอก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีนักเกี่ยวกับโอกาสที่พวกเขาจะเอาชนะกบฎสายฟ้าได้ เพราะท้ายที่สุด พวกเขายืนอยู่ในบ้านของผู้เล่นปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นกบฎสายฟ้ายังได้รับบัฟจากเมืองปีศาจด้วย


“ฉันจะลองดูแล้วกัน ไม่งั้นในอัตรานี้เราจะกลายเป็นที่หัวเราะในดาร์คเดนแทน” บลูฟอร์สกล่าวพลางพยักหน้า เขาเองก็รู้สึกว่าพวกเขาทำมามากพอแล้ว


เมื่อคิดได้ดังนี้ บลูฟอร์สก็พยายามจะเดินเข้าไปหาเพื่อกล่อมให้ซือเฟิงหยุดการกระทำของเขา


อย่างไรก็ตามเขาก็ก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าวเท่านั้นก่อนที่ซือเฟิงจะยก Abyssal Blade ของเขาขึ้น และร่ายเวทย์พร้อมกับฟันไปในแนวนอน


หลังจากนั้นเสียงคำรามของมังกรที่อึกทึกก็ดังมาเข้าหูของทุกคนและมันก็สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองปีศาจ เสียงคำรามของมังกรนี้ทำให้ทุกคนตกใจโดยไม่ได้ตั้งใจ และพวกเขาก็หันไปมองยังที่มาของเสียงคำรามนี้ทันที


ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก เพราะเสียงคำรามนี้มาจาก doppelganger ของซือเฟิง อย่างไรก็ตามในตอนนี้ doppelganger ก็เริ่มสลายตัวกลายเป็นเมฆหมอกสีดำซึ่งค่อยๆขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องหลายร้อยเท่าในเวลาไม่นาน ครู่ต่อมาดวงตาสีทองขนาดมหึมาคู่หนึ่งก็ปรากฎขึ้นในหมอกสีดำ และเมื่อดวงตาสีทองนี้จ้องมองมานั้น มันก็ทำให้ทุกคนสั่นไหวได้เลย


“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”


“Doppelganger กลายร่างได้จริงหรอ ?”


“ออร่าของ doppelganger นั้นแข็งแกร่งขึ้นมากๆ !!!”


ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่นั้นเริ่มพูดคุยกันในทันที เมื่อพวกเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงของ doppelganger ของซือเฟิง และความอยากรู้อยากเห็นก็เพิ่มขึ้นมาในจิตใจของพวกเขา


“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้ดีแต่พูดเลยจริงๆสินะ …” กบฎสายฟ้ากล่าว ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังดวงตาสีทองนี้ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาก็พุ่งสูงขึ้นมาก


อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากที่กบฎสายฟ้าพูดจบ กรงเล็บขนามหึมาก็โผล่ออกมาจากหมอกสีดำสนิท และกรงเล็บนี้นั้นมีขนาดเท่ากับบ้านสองชั้น ขณะที่ลำตัวของผู้ที่เป็นเจ้าของกรงเล็บนี้นั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาสีดำสนิท และเมื่อกรงเล็บโจมตีลงมาบนพื้น มันก็ทำให้พื้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆทันที ในขณะเดียวกันทุกคนในบริเวณใกล้เคียงนั้นก็รู้สึกได้ว่าพื้นดินใต้เท้าของพวกเขานั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง


ก่อนที่ทุกคนจะทันได้หายงุนงง มังกรดำที่สูงสามสิบเมตรก็ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา


“มังกร ?!”


ลมหายใจของทุกคนต้องเรียกได้ว่าแข็งค้างไปชั่วขณะ ในขณะที่พวกเขาเห็นร่างอันน่าตกตะลึงนี้


“เป็นไปได้ยังไง ?!”


“ทำไมถึงมีมังกรปรากฎตัวขึ้นที่นี่ ?!”


“นี่มันของปลอม มันต้องเป็นของปลอมแน่นอน !!!”

 

 

 


ตอนที่ 2532

 

ความเป็นไปได้ของมังกรดำ


ทุกคนนั้นปฎิเสธที่จะเชื่อโดยสัญชาตญาณว่ามีมังกรปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา


ใน God domain มังกรนั้นมีความหมายเหมือนกับการทำลายล้าง พวกมันสามารถจะทำลายอาณาจักรหรือจักรวรรดิทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย และสถานที่ใดๆที่มีมังกรปรากฎขึ้นนั้นก็จะถูกมองว่าเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับผู้เล่นโดยอัตโนมัติ และแม้แตู่้เล่นปีศาจก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับกฎนี้ มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ หากพวกเขาเลือกจะเผชิญหน้ากับมังกร


แล้วผู้เล่นจะอัญเชิญมังกรออกมาได้อย่างไร ?


อย่างไรก็ตามออร่าและแรงกดดันที่ทรงพลังซึ่งเกิดจากความแตกต่างอย่างมากของชนชั้นสิ่งมีชีวิตที่มังกรดำแผ่ออกมานั้นมันก็เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย


ในขณะนี้นอกเหนือจากผู้เล่นปีศาจแล้ว บลูฟอร์สและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ข้างหลังของซือเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์นี้เช่นกัน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหัวหน้ากิลของพวกเขาจะมีไพ่เด็ดแบบนี้


“ไม่ !!! มันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง !!! ดูเหมือนว่ามังกรนั่นจะอยู่แค่ในขั้นสามเท่านั้น !!! มันไม่ใช่มังกรโตเต็มวัยขั้นห้า !!!” ผู้เล่นปีศาจที่เป็นแรนเจอร์ขั้นสามที่ใช้สกิลตรวจสอบมังกรตะโกนขึ้น


เมื่อได้ยินคำพูดของแรนเจอร์ ทุกคนก็เริ่มหายจากอาการตกตะลึงทันที


“นั่นคือมังกรขั้นสามจริงๆ !!!”


“ฉันว่าแล้ว !!! มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ผู้เล่นจะอัญเชิญมังกรโตเต็มวัยมาได้ !!!”


“ถึงกระนั้นแบล๊คเฟรมก็ยังคงจัดว่าน่าทึ่งมากอยู่ดี !!! ฉันกลัวว่ารองผู้บัญชาการจะไม่สามารถทำอะไรกับมังกรขั้นสามนั่นได้ ….”


เมื่อสมาชิกของหัวใจปีศาจนั้นเห็นว่ามังกรดำเป็นเพียงมังกรเด็ก เลเวลหนึ่งร้อยสิบเอ็ด ขั้นสาม พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เท่าที่พวกเขารู้มังกรส่วนใหญ่ที่ปรากฎตัวต่อหน้าผู้เล่นคือมังกรโตเต็มวัยขั้นห้า และแม้แต่มังกรเด็กที่อ่อนแอที่สุดที่พวกเขาเคยเจอก็ยังอยู่ในขั้นสี่ ซึ่งพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะสามารถต่อกรด้วยได้ง่ายๆเลย


อย่างไรก็ตามสำหรับมังกรเด็กขั้นสามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป


เหตุผลที่มังกรถูกพิจารณาว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นยอดใน God domain และมีความแข็งแกร่งอย่างท่วมท้น นั่นก็คือ อัตราการเติบโตและชนชนชั้นของสิ่งมีชีวิตที่มันสูงอย่างไม่น่าเชื่อ พวกนี้นั้นจะมีค่าสถานะพื้นฐานมากกว่าเผ่าอื่นๆส่วนใหญ่ในเลเวลเดียวกัน และทุกเลเวลที่พวกนี้มีเลเวลเพิ่มขึ้น พลังก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพด้วยเช่นกัน ดังนั้นหลังจากมาถึงขั้นห้า และกลายเป็นมังกรโตเต็มวัยแล้ว มังกรก็จะได้รับพลังในการที่จะทำลายล้างประเทศต่างๆได้ง่ายๆเลย


ในทางตรงกันข้าม มังกรขั้นสามอาจจะอยู่เป็นอมตะในหมู่ขั้นเดียวกัน แต่มันก็ยังจัดว่าเป็นภัยคุกคามน้อยกว่ามังกรขั้นสี่หรือสูงกว่านั้นมาก


“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงกล้าจะยั่วยุหัวใจปีศาจ” กบฎสายฟ้ากล่าว ขณะที่เขามองไปยังมังกรดำที่โผล่ขึ้นมาเหนือเขา ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันรุนแรงจากมังกรเช่นกัน อย่างไรก็ตามแทนที่จะสิ้นหวังจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขากลับลุกมากขึ้น และเขาก็กระโจนเข้าหามังกรดำพลางตะโกนว่า “อย่างไรก็ตามอย่าคิดว่าแค่มังกรขั้นสามนั้นจะทำให้หัวใจปีศาจต้องยอมถอยกลับไป !!!”


มังกรนั้นมีความแข็งแกร่งที่ทำให้ไม่มีใครสามารถจะเทียบกับพวกมันได้ในขั้นเดียวกัน อย่างไรก็ตามผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์เช่นตัวเขาเองนั้นก็มีพลังแบบนี้อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้ Cruel Darkness ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบหกอาวุธเวทย์มนต์ที่ทรงพลังที่สุดของผู้เล่นปีศาจอยู่ และถ้าเขารวมทุกอย่างนี้เข้ากับเทคนิคการต่อสู้ของเขา เขาก็มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถรับมือกับมังกรขั้นสามได้


ในช่วงเวลาต่อมากบฎสายฟ้าก็ได้ทำการใช้ Cruel Darkness โจมตีไปยังมังกรดำ โดยพลังแห่งความมืดของดาบนั้นก็ทำให้เกิดรอยแยกมิติรอบๆด้วย


สกิลขั้นสาม Blazing Slash!


“ช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังมากๆ !!! คุณสามารถจะส่งมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายปลิวกระเด็นไปได้ด้วยการโจมตีนี้แน่นอน !!!” ซือเฟิงกล่าวด้วยความชื่นชม ในขณะที่เขาเห็นการโจมตีนี้ของกบฎสายฟ้ากำลังพุ่งเข้าใส่มังกรดำ “แต่น่าเสียดายที่คุณลืมสิ่งพื้นฐานไป มังกรที่คุณเผชิญหน้าอยู่ไม่ใช่มังกรขั้นสามธรรมดา แต่เป็นมังกรขั้นสามที่ฉันควบคุมอยู่ !!!”


หลังจากซือเฟิงพูดจบนั้น เขาก็ควบคุมให้มังกรดำของเขาตวัดกรงเล็บไปที่การโจมตีที่กำลังเข้ามาทันที


เทคนิคลับ ไลท์นิ่งแฟลช !!!


กรงเล็บขนาดใหญ่นั้นกลายเป็นลำแสงปะทะเข้ากับการโจมตีของกบฎสายฟ้า


ตู้ม ….


มาพร้อมกับเสียงระเบิดนั้นการโจมตีของกบฎสายฟ้าได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ตัวของกบฎสายฟ้านั้นจะปลิวกระเด็นกลับไปเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ และในพริบตาร่างของกบฎสายฟ้าก็ชนเข้ากับกำแพงเมืองปีศาจ และ HP ของเขาก็ลดลงไปในทันทีมากกว่าสามแสน


“เป็นไปได้ยังไงกัน ?”


“มอนสเตอร์อัญเชิญใช้เทคนิคการต่อสู้ได้ยังไงกัน ?”


ชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนจ้องมองไปยังร่างอันหยิ่งผยองของมังกรดำด้วยความตกตะลึงและสับสน ในความเป็นจริงความตกตะลึงที่พวกเขารู้สึกตอนนี้นั้น มันยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาคิดว่าซือเฟิงอัญเชิญมังกรขั้นสี่หรือขั้นห้ามาซะอีก


ใน God domain แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถอัญเชิญและควบคุมสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังให้มาต่อสู้เพื่อพวกเขาได้ แต่ท้ายที่สุดไม่ว่าจะพูดยังไง พวกเขาก็ไม่ได้ควบคุมร่างกายตัวเองอยู่ ดังนั้นการจะใช้เทคนิคการต่อสู้ผ่านมอนสเตอร์อัญเชิญจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะมันต้องอาศัยทั้งความว่องไว แม่นยำ และเคยชินของร่างกายทั้งหมดของ

มอนสเตอร์อัญเชิญ


อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงไม่เพียงแต่จะใช้เทคนิคการต่อสู้ผ่านมังกรดำได้ แต่ความซับซ้อนของเทคนิคที่เขาใช้มันยังสูงมากเช่นกัน ครู่หนึ่งทุกคนรู้สึกราวกับว่าระบบกำลังเล่นตลกกับพวกเขา

สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือซือเฟิงนั้นได้ไปถึงขอบเขตสวรรค์ ระดับขอบเขตที่แท้จริงขั้นสูงแล้ว ดังนั้นการควบคุมร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นๆของเขามันจึงไปไกลเกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์ทั่วไปแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะใช้ไลท์นิ่งแฟลชให้สมบูรณ์ผ่านมังกรดำ แต่เขาก็ยังคงทำได้ดีในระดับหนึ่ง และนั่นมันก็มากเพียงพอที่จะทำให้กบฎสายฟ้าไม่มีโอกาสหลบและต้องเจอกับสภาพอันน่าสังเวชแบบนี้


ในขณะเดียวกันหลังจากการปะทะกันนี้ ซือเฟิงก็ไม่ได้ให้โอกาสใดๆแก่กบฎสายฟ้าในการป้องกันตัวเอง มังกรดำเปิดปากขึ้นและเริ่มทำการรวบรวมมานาพลางเล็งไปยังกบฎสายฟ้าทันที


ลมหายใจมังกร !!!


ในช่วงเวลาต่อมาลำแสงก็ได้เข้ากลืนกินกบฎสายฟ้าซึ่งตัวฝังอยู่ในกำแพงเมืองปีศาจ และการโจมตีนี้ก็ทำให้เหล่าผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ภายในเมืองปีศาจนั้นรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยเลย และในความเป็นจริง มันทำให้มีรอยแตกปรากฎขึ้นบริเวณกำแพงเมืองด้วยซ้ำ


เงียบสงัด !!


การทำลายล้าง !!


ความตาย !!


ในช่วงเวลาหนึ่งความตกตะลึงและความกลัวแผ่เข้าปกคลุมผู้เล่นทั้งหมด โดยเฉพาะกับผู้เล่นที่เป็นสมาชิกของหัวใจปีศาจ ตอนนี้พวกเขานั้นแทบไม่อยากจะเชื่อฉากที่พวกเขาได้เห็นตรงหน้าเลย


“นี่คือมังกรงั้นหรอ ?”


รีเกรทฟูลวินด์และคนอื่นๆที่กำลังชมการต่อสู้จากภายในเมืองก็สั่นสะท้านกับผลลัพธ์นี้เช่นกัน


ท้ายที่สุดแล้วมังกรดำนั้นแข็งแกร่งเกินไป !!!


ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว มังกรดำทำให้กบฎสายฟ้านั้นกลายเป็นไอทันที และตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลือไว้บริเวณที่กบฎสายฟ้าเคยอยู่นั้นก็คือดาบสีดำสนิท


ก่อนหน้านี้แม้จะต้องแพ้ให้กับเทคนิคการต่อสู้ของมังกรดำ แต่กบฎสายฟ้าก็ยังมี HP เหลือมากกว่าห้าล้าน และด้วย HP มากขนาดนี้ แม้ว่ากบฎสายฟ้าจะยืนอยู่เฉยๆโดยไม่ป้องกันตัวเอง แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ก็ยังคงจะต้องใช้เวลานานมากในการฆ่าเขา อย่างไรก็ตามมังกรดำของซือเฟิงกับทำได้ในการโจมตีเดียว ….


“หนี !!”


เมื่อสมาชิกของหัวใจปีศาจหายจากอาการตกตะลึง สับสน และหวาดกลัว ความเย่อหยิ่งทั้งหมดของพวกเขาก็พังทลายลงทันที และพวกเขาก็รีบพากันหนีจะกลับเข้าไปที่เมืองปีศาจอย่างบ้าคลั่ง


นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน !!!


นอกเหนือจากกบฎสายฟ้าแล้ว คนอื่นๆในทีมนั้นยังเป็นเพียงแค่ปีศาจระดับวิสเค้าท์กับบารอนเท่านั้น และเนื่องจากมังกรดำสามารถจัดการกับกบฎสายฟ้าได้ในการโจมตีเดียว ดังนั้นพวกเขาเองก็คงไม่ต่างกัน และเผลอๆพวกเขาจะมีสภาพย่ำแย่กว่าด้วย


เมื่อได้เห็นฉากนี้ ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าชมอยู่ต่างก็ตกตะลึง


ผู้เล่นที่หลบหนีเหล่านี้ใช่ผู้เชี่ยวชาญของหัวใจปีศาจพวกเดียวกับที่เขารู้จักไหม ?


โดยปกติสมาชิกของหัวใจปีศาจทุกคนนั้นจะเป็นคนหยิ่งผยองมากๆ พวกเขานั้นทำตัวราวกับว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นอย่างสิ้นเชิง และแม้แต่สมาชิกของทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกก็ยังกลัวสมาชิกของหัวใจปีศาจ


อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญที่แสนจะเย่อหยิ่งที่ว่านี้กับกำลังหลบหนีจากซือเฟิงราวกับหนูที่พึ่งเจอแมว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริงๆนับตั้งแต่ที่เมืองปีศาจถูกก่อตั้งขึ้น และแม้จะต้องต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของ Battle Wolves แต่ผู้เชี่ยวชาญของหัวใจปีศาจก็ไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว


ในขณะเดียวกันข่าวที่น่าตกตะลึงเกี่ยวกับการตายของกบฑสายฟ้า และการล่าถอยอย่างบ้าคลั่งของสมาชิกหัวใจปีศาจก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองปีศาจอย่างรวดเร็ว

 

 

 


ตอนที่ 2533

 

ล้อม


เมืองปีศาจ สถานที่พักกิลหัวใจปีศาจ :


“กบฎสายฟ้าตายแล้ว ? เป็นไปได้อย่างไรกัน ?”


ฟิวเรียสฮาร์ทซึ่งยืนอยู่ในห้องห้องฝึกพลังแห่งความมืดนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อได้ยินรายงานจากลูกน้องของเขา


มันเกิดอะไรขึ้น ?


ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะทำให้ทีมของซือเฟิงตกตะลึง เขาได้อนุมัติให้ส่งกบฎสายฟ้าไปกับซือเฟิงเพื่อเตือนนักดาบให้ออกห่างจากเมืองปีศาจ และเสนอความเป็นไปได้ในการเป็นหหุ้นส่วนในอนาคตระหว่างสองกิลของพวกเขา


อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่เพียงแต่จะได้รับข่าวว่าซือเฟิงปฎิเสธข้อเสนอของเขา แต่กบฎสายฟ้ายังตายลงอีก ….


“มันต้องมีการสื่อสารผิดพลาดสิ กบฎสายฟ้านั้นเป็นปีศาจระดับเค้าท์ และด้วยความแข็งแกร่งของเขานับประสาอะไรกับผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีก เขาจะไม่มีปัญหาใดๆในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเก่าแก่ของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าของเมืองปีศาจ เขาก็ควรจะได้รับบัฟจากเมืองปีศาจด้วย แล้วเขาจะถูกฆ่าได้ยังไง ?” ผู้อาวุโสในชุดเสื้อคลุมสีดำี่เป็นปีศาจระดับวิสเค้าท์อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ


กบฎสายฟ้านั้นเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของหัวใจปีศาจ และขณะอยู่ในเมืองปีศาจ เขาสามารถต่อสู้ได้แม้แต่กับ NPC ขั้นสี่ นอกจากนี้มันก็ยังเป็นเพราะตัวตนของกบฎสายฟ้าด้วยที่ทำให้หัวหน้ากิลและรองหัวหน้ากิลเลือกจะเดินทางไกลไปทำธุระโดยไม่กังวลเกี่ยวกับกิจการของเมืองปีศาจ


อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้รับแจ้งว่ากบฎสายฟ้าตายลงแล้ว เขาจะเชื่อเรื่องนี้ได้ยังไง ?


“ข่าวเรื่องนี้นั้นแพร่กระจายออกไปทั่วเมืองแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการต่อสู้ยังถูกบันทึกวีดีโอไว้โดยผู้เล่นหลายคน” แอสซาซินขั้นสามที่เข้ามารายงานเรื่องนี้กล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ขณะที่เขามองไปยังฟิวเรียสฮาร์ท และผู้อาวุโสคนอื่นๆของกิล


ก่อนหน้านี้เขายังปฎิเสธความถูกต้องของข้อมูลนี้ เมื่อได้รับรายงานมาจากลูกน้อง อย่างไรก็ตามหลังจากได้ดูวีดีโอการต่อสู้ที่แพร่ออกไปในฟอรั่มทางการ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อ จากนั้นเขาก็แชร์วีดีโอที่ได้รับมาให้ผู้อาวุโสคนอื่นๆ

ของกิลดู


ในวีดีโอนี้สามารถมองเห็นมังกรดำที่มีความสูงสามสิบเมตรได้ และก็สามารถบอกเห็นฉากที่กบฎสายฟ้าถูกมังกรดำใช้เทคนิคการต่อสู้ตบปลิวได้อย่างชัดเจน นี่ยังไม่นับรวมตอนที่เขากลายเป็นไอเพราะลมหายใจมังกรอีก


เมื่อวีดีโอจบลง ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วห้องฝึก


“สิ่งนี้เป็นสาเหตุของการสั่นสะเทือนก่อนหน้านี้สินะ ?” ใบหน้าของฟิวเรียสฮาร์ทแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว เมื่อเขาจ้องมองไปยังมังกรดำในวีดีโอ


มังกร !!


แม้ว่ามังกรตัวนี้จะเป็นเพียงแค่มังกรเด็กขั้นสาม แต่มันก็มีความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์มาก ถ้ามังกรดำสามารถฆ่าได้แม้แต่สัตว์ประหลาดอย่างกบฎสายฟ้าในการโจมตีครั้งเดียว นอกเหนือจากหัวหน้ากิล และเหล่ารองหัวหน้ากิลแล้ว มันก็จะไม่มีใครในหัวใจปีศาจที่สามารถจะเป็นภัยคุกคามต่อมันได้แน่นอน


“ผู้อาวุโสฮาร์ท เราจะทำยังไงดี ? ถ้าแบล๊คเฟรมสามารถฆ่าได้แม้แต่รองผู้บัญชาการสายฟ้า ฉันกลัวว่าเมื่อเขาเข้ามาในเมืองได้ เขาก็จะสามารถฆ่าฉันได้ง่ายๆทันที !!” โทรเบิ้ลไทม์กล่าวอย่างกังวล หลังจากที่เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของมังกรดำ


โทรเบิ้ลไทม์นั้นไม่เคยคิดฝันเลยว่าซือเฟิงจะมีไพ่ที่น่ากลัวแบบนี้เก็บไว้ด้วย มันเห็นได้ชัดว่าเขาได้หนีมายังดินแดนปีศาจแล้ว และผู้เล่นที่ไม่ใช่ปีศาจก็ไม่สามารถจะใช้สกิลเบอเซิกร์ที่นี่ได้ อย่างไรก็ตามซือเฟิงกับสามารถทำให้ doppelganger ของเขากลายร่างเป็นมังกรได้แทน ชั่วครู่หนึ่งโทรเบิ้ลไทม์รู้สึกราวกับว่าระบบหลักของ God domain กำลังเล่นตลกกับเขา


“ผู้บัญชาการโทรเบิ้ล คุณไม่จำเป็นจะต้องกังวลมากเกินไป แม้ว่าไพ่ของแบล๊คเฟรมจะทรงพลัง แต่ระยะเวลาของ doppelganger ที่กลายร่างเป็นมังกรได้นั้นน่าจะมีจำกัดอย่างมาก และอย่างนานที่สุดมันก็คงจะมีระยะเวลาอยู่แค่ไม่กี่นาที” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวอย่างใจเย็น “ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ทำได้แค่เดินไปรอบนอกเมืองปีศาจเท่านั้นแหละ หากไม่มีคำเชิญของเรา เขาก็จะไม่สามารถเข้ามาได้แน่นอน ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือพักผ่อนอยู่ในสถานที่พักกิลของเรา จนกว่าเครื่องหมายติดตามจะหายไป …”


“ถูกต้อง เขาเป็นเพียงผู้เล่นมนุษย์ แม้ว่าเขาจะสามารถอัญเชิญมังกรออกมาได้ แต่มันก็เป็นเพียงมังกรเด็กขั้นสาม มันอาจจะแข็งแกร่งเกินไปสำหรับผู้เล่นอย่างเรา แต่มันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการจะใช้จัดการกับ NPC ปีศาจในเมือง นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเมืองปีศาจนั้นมีวงเวทย์ป้องกัน ผู้เล่นที่ไม่ใช่ปีศาจนั้นจะไม่สามารถเข้ามาในเมืองโดยไม่ได้รับคำเชิญได้ คุณสามารถพักผ่อนและผ่อนคลายที่นี่ได้จนกว่าทุกอย่างจะจบนั่นแหละ …” ผู้อาวุโสในชุดเสื้อคลุมสีดำที่เป็นปีศาจระดับวิสเค้าท์กล่าวยืนยันคำพูดของฟิวเรียสฮาร์ท “อีกทั้งเมื่อหัวหน้ากิล กับรองหัวหน้ากิลของเรากลับมา แบล๊คเฟรมก็จะจบสิ้นแน่นอน !!!”


การตายของกบฎสายฟ้านั้นน่าประหลาดใจมากๆ และความจริงที่ว่าซือเฟิงสามารถอัญเชิญมังกรออกมาได้ มันก็น่าตกใจยิ่งกว่า


อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงมาตราฐานของผู้เล่นเท่านั้น ต่อหน้า NPC ของ God domain สิ่งเหล่านี้นั้นจัดว่าไม่มีอะไรเลย นี่ไม่ต้องพูดถึงในตอนที่พวกเขากำลังยืนอยู่ในเมืองปีศาจ


เมืองปีศาจนั้นมีพลังมากกว่าเมือง NPC ที่พบในโลกภายนอก ซึ่งมันไม่ได้มีแค่กองทัพ NPC ปีศาจที่คอยปกป้องมัน แต่มันยังมีหนึ่งในเจ็ดสิบสองปีศาจระดับมาร์ควิสอย่างโมนาร์ชคอยปกป้องมันด้วย


นับประสาอะไรกับสภาสิบแปดปีก แม้แต่มหาอำนาจของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบน่วมมือกัน แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถจะทำลายเมืองปีศาจลงได้แน่นอน


ดังนั้นสิ่งที่ซือเฟิงจะสามารถทำได้ทั้งหมดคือ ทำตัวหยิ่งผยองได้ที่นอกเมืองปีศาจเท่านั้น และเมื่อกองกำลังหลักของหัวใจปีศาจที่ติดตามหัวหน้ากิลกับรองหัวหน้ากิลไปทำธุระกลับมา ทีมของซือเฟิงก็จะจบสิ้นทั้งหมด !!!


“นั่นคือมังกรเลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!! วงเวทย์ป้องกันของเมืองปีศาจจะหยุดมันได้จริงๆงั้นหรอ ?” โทรเบิ้ลไทม์อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นห่วง เขานั้นไม่ได้สงสัยในคำพูดของฟิวเรียสฮาร์ท เพียงแต่ว่าซือเฟิงนั้นน่ากลัวเกินไป เพราะท้ายที่สุดนักดาบนั้นรอดชีวิตมาจากการโจมตีของมือราชันปีศาจมาได้ และตอนนี้โทรเบิ้ลไทม์ก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองผ่อนคลายกับสถานการณ์นี้ได้อย่างแท้จริง


“ที่นี่คือเมืองปีศาจ ถ้าเป็นมังกรขั้นสี่ มันอาจเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไป แต่มังกรขั้นสามนั้นจะสามารถทำได้มากที่สุดก็ส่งเสียงคำรามใส่เมืองเท่านั้น ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของแบล๊คเฟรมแต่อย่างใด …” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวยืนยันอย่างมั่นใจ


สมาชิกของหัวใจปีศาจคนอื่นๆกลอกตากพลางมองไปยังพฤติกรรมที่ดูเป็นกังวลของโทรเบิ้ลไทม์ เหตุผลที่ผู้เล่นปีศาจเช่นตัวพวกเขาเองสามารถจะก้าวเท้าลงในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบได้ทั้งๆที่มีคนต่อต้านมากมาย ก็เป็นเพราะความแข็งแกร่งตัวของพวกเขาเองที่มีสูงมาก และนี่ก็รวมไปถึงเรื่องของเมืองปีศาจที่เป็นฐานหลักของพวกเขา ที่มหาอำนาจต่างๆไม่สามารถจะทำอะไรกับมันได้ ดังนั้นใครก็ตามที่บอกว่าซือเฟิงจะสามารถทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมืองปีศาจได้นั้น ใครที่ว่าก็จะจัดว่าบ้าไปแล้ว


ในขณะที่โทรเบิ้ลไทม์ และเหล่าผู้อาวุโสของหัวใจปีศาจกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เล่นที่อาศัยในเมืองปีศาจนั้นก็เต็มไปด้วยความโกลาหล


“มหัศจรรย์มากๆ !!! มังกรดำนั้นสามารถที่จะฆ่ากบฎสายฟ้าได้อย่างง่ายดายและทันที ขนาดเขาได้รับบัฟจากเมืองปีศาจ !!! นี่เป็นครั้งแรกเลยที่หัวใจปีศาจต้องประสบกับความสูญเสียมากขนาดนี้ นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งเมืองปีศาจขึ้นมา”


“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหัวใจปีศาจถึงตั้งค่าหัวพวกสภาสิบแปดปีกสูงมากๆ งานนี้ให้คิดจริงๆ มันแทบไม่คุ้มค่ากับการลงทุนด้วยซ้ำ”


“แม้แต่มหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบก็ยังทำอะไรไม่ถูกกับหัวใจปีศาจ นี่สภาสิบแปดปีกเป็นกิลแบบไหนกันแน่ ?”


เนื่องจากการตายของกบฎสายฟ้า มันทำให้ผู้เล่นในเมืองปีศาจนั้นเริ่มจะมีความสนใจสภาสิบแปดปีกมากขึ้น และทีมนักผจญภัยหลายทีมก็เริ่มสืบค้นข้อมูลของสภาสิบแปดปีกแล้วว่าเป็นกิลแบบไหน

ในขณะที่ผู้เล่นที่ประจำการอยู่ในเมืองปีศาจกำลังเอะอะกันในเรื่องนี้ ซือเฟิงก็ได้ควบคุมมังกรดำของเขาให้บินขึ้นไปเหนือเมืองปีศาจ และลอยอยู่เหนือสถานที่พักกิลของหัวใจปีศาจ


ซึ่งสถานการณ์นี้นั้นสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้เล่นในเมืองปีศาจอย่างมาก


“เขากำลังพยายามจะทำอะไรกัน ?”


“นี่เขาคงไม่คิดจะบุกเข้าเมืองหรอกใช่ไหม ?”


“ที่นี่คือเมืองปีศาจนั้น ผู้เล่นมนุษย์ในระยะนี้ของเกมจะเข้ามาโดยอาศัยพลังได้อย่างไร ? เขาอาจจะแค่พยายามทำให้เราตกใจ”


ผู้เล่นภายในสถานที่พักกิลของหัวใจปีศาจนั้นสังเกตเห็นมังกรดำอย่าสงรวดเร็ว และในช่วงเวลาหนึ่งทุกคนต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสงสัยว่าซือเฟิงพยายามจะทำอะไรกัน


“ผู้อาวุโสฮาร์ท วงเวทย์ป้องกันจะไม่มีปัญหาในการหยุดมังกรใช่ไหม ?” โทรเบิ้ลไทม์อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น เมื่อได้เห็นร่างของมังกรดำลอยอยู่เหนือท้องฟ้า


“ผ่อนคลายน่า ถ้ามังกรดำสามารถโจมตีได้แค่เหมือนกับครั้งก่อน แบล๊คเฟรมก็ไม่ควรคิดว่าเขาจะสามารถเข้ามาในเมืองได้ แม้ว่าจะโจมตีเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงติดกันก็ตาม” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวตอบ ก่อนที่เขาจะหันขึ้นไปมองมังกรดำบนท้องฟ้า และกล่าวอย่างเหยียดหยามต่อว่า “รองหัวหน้ากิลไลท์ได้รับข่าวเกี่ยวกับแบล๊คเฟรมแล้ว และเขาก็จะกลับมาพร้อมกับทีมในเร็วๆนี้ แบล๊คเฟรมจะทำตัวหยิ่งผยองได้อีกไม่นานหรอก !!”


อย่างไรก็ตามทันทีที่ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวจบ เสียงของซือเฟิงก็ดังขึ้นเหนือเมือง


“โทรเบิ้ลไทม์ อย่าคิดว่าเมืองปีศาจจะช่วยปกป้องคุณได้ !!!”


ในช่วงเวลาต่อมามานาจำนวนหนึ่งที่น่ากลัวก็เริ่มเข้ามารวมกันรอบมังกรดำและมันก็เข้าปกคลุมรัศมีสามร้อยหลาเบื้องล่างมังกรดำ


ดาบแรก ไลท์ชาโด้ว !!!

 

 

 


ตอนที่ 2534

 

ปีศาจที่น่ากลัว


“อะไรกัน ?! นี่เขาจะโจมตีจริงๆงั้นหรอ ?!”


“นี่คือเมืองปีศาจนะที่เรากำลังพูดถึง !!! เขาเป็นบ้าไปแล้วรึไง ?!!”


เมื่อผู้เล่นที่ประจำการในเมืองปีศาจได้ยินคำพูดของซือเฟิง พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าซือเฟิงตั้งใจจะโจมตีเมืองปีศาจโดยตรง การเปิดเผยนี้มันเหมือนกับว่ามีคนบอกพวกเขาว่ามีผู้เล่นที่ต้องการจะโจมตีเมืองหลวงในอาณาจักรของ NPC นี่มันเป็นเรื่องตลกชัดๆ


อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมา มังกรดำก็ได้ตวัดกรงเล็บของมันเข้าใส่วงเวทย์ป้องกันของเมืองปีศาจอย่างไม่ลังเล และทันทีที่กรงเล็บเริ่มเคลื่อนลงมานั้น มันก็กลายเป็นเงาของกรงเล็บขนาดใหญ่ก่อนจะเข้าปะทะกับวงเวทย์ป้องกันเมือง


ตู้ม !!!


ท้องฟ้าและพื้นดินนั้นสั่นสะเทือน เมื่อการโจมตีนี้ปะทะเข้ากับวงเวทย์ที่เป็นบาเรียป้องกันโปร่งแสงของเมือง และคลื่นกระแทกที่รุนแรงนี้ก็ทำให้พื้นที่โดยรอบนั้นแตกออกเหมือนกับกับแก้ว พลังการโจมตีด้วยกรงเล็บของมังกรดำในครั้งนี้นั้น มันรุนแรงกว่าตอนที่ใช้ลมหายใจมังกรก่อนหน้านี้หลายเท่า


“นี่มันพลังอะไรกัน ?!” รีเกรทฟูลวินด์ที่พึ่งออกจากบาร์ตกตะลึงอย่างมาก เมื่อเขามองไปยังบาเรียเวทย์มนต์ที่สั่นสะเทือนอยู่เหนือหัวเขา “วงเวทย์ป้องกันของเมืองปีศาจนี้ไม่เคยตอบสนองอย่างรุนแรงขนาดนี้เลย แม้ว่าจะเจอกับการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของ NPC ขั้นสี่ นี่การโจมตีจากมังกรดำของแบล๊คเฟรมแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ?”


มันไม่มีใครในเมืองปีศาจที่ไม่รู้ว่าวงเวทย์ป้องกันของเมืองปีศาจแข็งแกร่งแค่ไหน


ในตอนที่เมืองปีศาจถูกสร้างขึ้นครั้งแรก จักรวรรดินักบุญทั้งสิบเคยส่งกองทัพ NPC เข้ามาโจมตีแล้ว อย่างไรก็ตามย้อนกลับปในตอนนั้น แม้ว่า NPC ขั้นสี่ทั้งหมดจะถล่มวงเวทย์ป้องกันด้วยทุกอย่างที่พวกเขามี แต่วงเวทย์ก็ไม่สั่นสะเทือนเลย กองทัพ NPC บุกทะลวงวงเวทย์ป้องกันเข้ามาได้ก็ในตอนที่ได้รับความช่วยเหลือจาก NPC ขั้นห้าที่เป็น Divine Official


ในทางตรงกันข้ามมังกรดำที่ซือเฟิงอัญเชิญมานั้นเป็นเพียงมังกรขั้นสามเท่านั้น และอย่างดีที่สุดความแข็งแกร่งของมันก็ควรจะสามารถเทียบได้กับ NPC ขั้นสี่เท่านั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้มังกรดำของซือเฟิงกับโจมตีและทำให้บาเรียเวทย์มนต์สั่นไหวได้อย่างรุนแรง สถานการณ์นี้มันไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ !!!


“บ้า !!! เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ !!!” เฟรมเฟเธอร์รู้สึกสับสน เมื่อเธอเห็นมังกรดำโจมตีถล่มวงเวทย์ป้องกันของเมือง “ด้วยการเปิดการโจมตีวงเวทย์ป้องกันแบบนี้ มันก็เท่ากับว่าเขาประกาศเจตนาที่จะปิดล้อมเมือง !!! แม้แต่ Battle Wolves ก็ยังไม่กล้าจะทำแบบนี้เลย !!! ด้วยเรื่องนี้สมาชิกของหัวใจปีศาจจะไม่ใช่พวกเดียวที่เคลื่อนไหว มันจะมี NPC ของเมืองปีศาจร่วมด้วย นี่แบล๊คเฟรมไม่รู้เรื่องนี้รึไง ?!”


มันอาจจะดีถ้าเมืองปีศาจนั้นเป็นแค่เมืองกิลทั่วไป เพราะท้ายที่สุด เมืองกิลนั้นเป็นของผู้เล่น อย่างไรก็ตามเมืองปีศาจนี้นั้นมี NPC เป็นเจ้าของบางส่วน


นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้เล่นปีศาจเช่นตัวเธอเองจึงมั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถคุกคามเมืองปีศาจได้ในระยะนี้ของเกม


ย้อนกลับไปในตอนที่ Battle Wolves ส่งกองทัพมาทำสงครามกับเมืองปีศาจ กิลได้มุ่งมั่นที่จะไล่ฆ่าผู้เล่นปีศาจที่ปฎิบัติการอยู่รอบๆเมืองปีศาจเท่านั้น ซึ่งมันจะทำให้ความแข็งแกร่งของเมืองปีศาจอ่อนแอลง กิลไม่เคยตั้งใจจะโจมตีเมืองปีศาจโดยตรงเลย


อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับเลือกจะโจมตีเมืองปีศาจโดยตรง นี่เขาเบื่อชีวิตแล้วรึยังไง ?


ในขณะเดียวกันภายในสถานที่พักกิลของหัวใจปีศาจ เมื่อโทรเบิ้ลไทม์เห็นบาเรียเวทย์มนต์ยังคงทนอยู่ได้แม้จะต้องรับการโจมตีจากมังกรดำหลายครั้ง เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนหน้านี้เขาแทบจะคิดว่าซือเฟิงนั้นสามารถจะทำลายกำแพงเมืองได้แล้วด้วยซ้ำ


โชคดีที่การโจมตีของมังกรดำนั้นทำให้บาเรียสั่นสะเทือนเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการโจมตีของมังกรดำยังคงอยู่ในขอบเขตความอดทนของบาเรียเวทย์มนต์


“นี่เขาลงมือจริงๆงั้นหรอ ?” ฟิวเรียสฮาร์ทตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะกล้าโจมตีเมืองปีศาจโดยตรง

“ฮ่าๆๆ !!! เขาจบสิ้นแล้วแน่นอน !!! เมื่อถึงเวลาที่รองหัวหน้ากิลกลับมาถึง เหล่า NPC ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองก็น่าจะจัดการกับเขาไปเรียบร้อยแล้ว !!!” ผู้อาวุโสในชุดเสื้อคลุมสีดำที่ยืนอยู่ข้างฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวพลางหัวเราะ


ในตอนแรกฝ่ายของพวกเขานั้นทำอะไรไม่ถูกกับซือเฟิงเลย สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือซ่อนตัวอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเมืองปีศาจเท่านั้น และรอการกลับมาของรองหัวหน้ากิล ….


อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงได้บ้าคลั่งและสูญเสียเหตุผลทั้งหมดไปแล้ว เขาได้เริ่มทำการโจมตีเมืองปีศาจโดยตรง ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่พวกเขาจะได้เห็นคือการที่ NPC ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดกำจัดทีมของซือเฟิง


NPC ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้นั้นแข็งแกร่งกว่า NPC มนุษย์มาก และปีศาจระดับมาร์ควิสที่ปกป้องเมืองนี้อยู่ก็มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับฮีโร่ในหมู่มนุษย์เลย ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นจะหมดหนทางเมื่ออยู่ต่อหน้า NPC แบบนี้


“หัวหน้ากิล ?”


ในขณะนี้นับประสาอะไรกับผู้เล่นของเมืองปีศาจ แม้แต่บลูฟอร์สและคนอื่นๆที่ติดตามซือเฟิงมาก็ยังตกตะลึงกับสถานการณ์นี้


ในความเห็นของพวกเขา มันจะสมบูรณ์แบบมาก หากพวกเขารีบลอบเข้าไปในเมืองปีศาจเพื่อฆ่าโทรเบิ้ลไทม์และกลับออกมาอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าซือเฟิงจะบ้าพอที่จะโจมตีเมืองปีศาจโดยตรง !!!


อย่างไรก็ตามก่อนที่บลูฟอร์สและคนอื่นๆจะทันได้ตอบสนองอะไรนั้น ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่มากกว่าหนึ่งโหลก็บินออกมาจากเมืองปีศาจ ซึ่งไม่เพียงแต่ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้จะมีเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบขึ้นไปทั้งหมด แต่พวกมันยังแผ่ออร่าที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมากๆออกมาอีกด้วย นี่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับชายผู้สง่างามที่บินนำกลุ่มปีศาจผู้ยิ่งใหญ่มา


ชายผู้นี้นั้นสวมเกราะสีแดงเข้มสวยงาม และถือขวานสงครามน้ำแข็งอยู่ในมือ แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเลย เขาดูเหมือนมนุษย์มาก อย่างไรก็ตามหากใครก็ตามใช้สกิลตรวจสอบกับชายคนนี้ พวกเขาก็จะได้พบว่าชายคนนี้นั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปีศาจที่แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่มีสายเลือดอันทรงเกียรติด้วย


[ปีศาจโมนาร์ช] (ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ มาร์ควิสระดับสองดาว)

เลเวล 135

HP 700,000,000/700,000,000


ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้นั้นเข้าล้อมรอบมังกรดำอย่างรวดเร็ว โดยไม่เปิดพื้นที่ให้หลบหนี


“มังกร !! นี่คือเมืองของเผ่าปีศาจ คุณไม่ได้รับสิทให้มาก่อความวุ่นวายที่นี่ !!!” โมนาร์ชกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะจ้องมองไปยังมังกรดำ


ในขณะเดียวกัน เมื่อได้ยินคำพูดของโมนาร์ช ผู้เล่นที่จำการอยู่ในเมืองปีศาจก็เต็มไปด้วยความโกลาหลทันที “เร็ว ดูนั่นสิ !!! ผู้ปกครองเมืองของเรากำลังเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว !!!”


“แบล๊คเฟรมนั้นประเมินตัวเองสูงเกินไป เขาไม่เพียงแต่จะยั่วยุหัวใจปีศาจ แต่เขายังกล้าที่จะแตะต้องเมืองปีศาจ ครั้งนี้เขาจบสิ้นแน่นอน !!!”


“แบล๊คเฟรมนี่ช่างกล้าหาญจริงๆ อย่างไรก็ตามฉันสงสัยจังว่าเขาจะยืนหยัดต่อสูํ้กับโมนาร์ชได้นานแค่ไหน ?”


NPC นั้นมักจะไม่ค่อยโจมตีผู้เล่น ดังนั้นผู้เล่นหลายคนจึงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของ NPC มาก โดยเฉพาะ NPC ปีศาจ


พอมาตอนนี้พวกเขามีโอกาสจะได้ดู NPC ปีศาจที่ทรงพลัง ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวอย่างซือเฟิง ดังนั้นมันจะไม่ให้พวกเขาตื่นได้อย่างไร ?


ขณะเดียวกันสมาชิกของหัวใจปีศาจก็ตอบสนองกับสถานการณ์นี้ด้วยรอยยิ้ม


ด้วยทีมของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ภายใต้การนำของโมนาร์ชนั้น ต่อให้เป็นมังกรขั้นสี่ก็ยังยากจะหนีไปได้เลย ไม่ต้องพูดมังกรขั้นสาม และซือเฟิง ….


อย่างไรก็ตามในขณะที่สมาชิกของหัวใจปีศาจกำลังรู้สึกอิ่มเอมใจกับพฤติกรรมอันโง่เขลาของซือเฟิง ซือเฟิงที่อยู่บนหลังของมังกรดำก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา


“แน่นอนเลยว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายวงเวทย์ป้องกันนี้ให้ด้ด้วยความแข็งแกร่งของมังกรขั้นสาม ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเอาจริงแล้วสินะ …”


แม้ว่าซือเฟิงจะพูดด้วยน้ำเสียงสงบ แต่เสียงของเขาก็ถูกถ่ายทอดผ่านมังกรดำด้วย เป็นผลให้ทุกคนโดยรอบบริเวณได้ยินเขาอย่างชัดเจนมากๆ


“เขาหมายความว่ายังไงกัน ?”


“เขายังไม่ได้เอาจริงเลยงั้นหรอจนถึงตอนนี้ ?”


“แสดง !!! เขาจะต้องแสดงและแกล้งทำแน่นอน !!!”


เมื่อสมาชิกของหัวใจปีศาจได้ยินคำพูดของซือเฟิง พวกเขาต่างก็พากันคิดว่าซือเฟิงนั้นพยายามจะบลัฟเพราะตัวเองหมดหนทางแล้ว


“อะไรกัน ?! เขายังมีไพ่ที่เขาไม่ได้ใช้อีกงั้นหรอ ?!”


อย่างไรก็ตาม รีเกรทฟูลวินด์นั้นไม่คิดว่าซือเฟิงกำลังโอ้อวดหรือบลัฟใดๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่านักดาบไม่น่าจะมีไพ่ที่แข็งแกร่งกว่ามังกรดำแล้ว


อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้รู้อะไรจากคำพูดของซือเฟิง มังกรดำก็หายตัวไปโดยทิ้งซือเฟิงไว้ในตำแหน่งเดิม ซึ่งในขณะนี้นั้นซือเฟิงก็ถือหนังสือโบราณเล่มหนาอยู่ในมือของเขา และหนังสือเล่มนี้ก็ปลุกความกลัวของผู้เล่นปีศาจทุกคนในเมืองตามสัญชาตญาณ


“แม่งเอ้ย !!! ทำไมมันถึงไปอยู่ในมือคุณ !!!” ใบหน้าของโมนาร์ชเปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อเขาได้เห็นหนังสือที่ซือเฟิงถืออยู่


ก่อนที่ผู้เล่นปีศาจคนใดๆจะทันได้ตอบสนองกับสถานการณ์นี้ โมนาร์ชก็หันหลังกลับและพาทีมของเขาหนีกลับเข้าเมืองปีศาจ โดยทุกตัวรวมไปถึงโมนาร์ชนั้นล้วนมีการแสดงออกที่หวาดกลัวมากๆ ในขณะที่พวกเขารีบกลับเข้าเมือง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)