Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา 1455-1456
1455
ฉีกเส้นทางฟ้า
โดย
Ink Stone_Fantasy
ปราการมิติที่เชื่อมระหว่างแคว้นกู่จั้งกับโลกที่เคยรุ่งเรืองนั้น ในอดีตมหาจักรพรรดิกู่จั้งเคยวางผนึกหนาแน่นอย่างยิ่งเอาไว้ ใช้พลังแห่งผนึกนำต้นพิสูจน์เต๋าที่มหัศจรรย์และน่าจับตามองที่สุดในโลกที่เคยรุ่งเรืองนั้นมาพันธนาการไว้ในมิตินั้น
ดังนั้นต้นไม้นี้จึงกลายเป็นของแคว้นกู่จั้ง และยังเป็น…ของวิเศษแห่งดวงชะตาที่พวกเขาแคว้นกู่จั้งควบคุมอยู่!
สายเลือดจักรพรรดิแคว้นกู่จั้งฝึกฝนดวงชะตา มหาจักรพรรดิกู่จั้งยังใช้เต๋าแห่งดวงชะตาให้ตนบรรลุเต๋าไร้ที่สิ้นสุด ดังนั้นแล้วการปรากฏต้นพิสูจน์เต๋าจึงพูดได้ว่าทำให้สายเลือดจักรพรรดิเกิดสีสันที่เรืองรองกว่าเดิม
เพียงแต่ว่า…ศึกครั้งนั้น มหาจักรพรรดิกู่จั้งไม่ได้ชนะอย่างสมบูรณ์แบบ เกิดอะไรขึ้นกันแน่นั้น นอกจากเขาแล้วไม่มีใครรู้ โดยเฉพาะการหายตัวไปของมหาจักรพรรดิกู่จั้งในหลายปีให้หลัง ตราชีวิตแตกหัก ทุกอย่างบ่งบอกว่า…เขาจ่ายไปมากเกินไป
หากเขาไม่หายตัวไป หากตราชีวิตยังไม่แตก ต่อให้ในมิติเกิดการเปลี่ยนแปลงรุนแรงเพียงใดก็ไม่อาจทำลายผนึกของมหาจักรพรรดิกู่จั้งได้
แต่เขา…สิ้นชีพลงแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ค้ำยันผนึกมิตินั้นจึงเหลือเพียงดวงชะตาของราชวงศ์ ทว่าดวงชะตานี้ไม่ได้มีแค่ราชวงศ์เท่านั้น สำนักเอกะเต๋าที่มหาจักรพรรดิกู่จั้งสร้างขึ้นเองในตอนนั้นได้รับสืบทอดดวงชะตาเช่นกัน ฉะนั้นหลินตงตงที่เป็นมหาเต๋าสูงศักดิ์ ด้วยการกระทำของเขาประกอบกับการเปลี่ยนกฏของทั้งสำนักเอกะเต๋า สุดท้ายทุกอย่างนี้ก่อให้เกิดเสียงดังครึกโครม
ในนั้น ซูหมิงเป็นจุดสำคัญยิ่งกว่า เพราะเขาให้วิญญาณแห่งต้นพิสูจน์เต๋าหรือเสียงเด็กนั้นสัมผัสถึงความใกล้ชิดจากตัวซูหมิง ความรู้สึกใกล้ชิดทำให้เขาตื่นขึ้น ทำให้เขายอมช่วย เพียงเพื่อ…กลับบ้าน
ยามนี้เมื่อมิติชั้นหนึ่งชั้นสองพังลงเป็นเสี่ยงๆ เมื่อผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนถูกฉีกทึ้งร่างที่นี่ โลหิตพวกเขาถูกต้นพิสูจน์เต๋าสูบไปโดยพลัน ส่งผลให้ลำต้นยักษ์บิดเบี้ยว แผ่พลังทำลายล้างฟ้าดินออกมา พลังนี้หมุนตลบไปรอบๆ ส่งไปยังมิติชั้นสามที่ตอนนี้ยังไม่ถูกทำลายแต่กลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ส่งไปยังแมกไม้ เหมือนมีเสียงคำรามเสียงหนึ่งดังมาจากต้นพิสูจน์เต๋า
“ข้าจะกลับบ้าน!”
เสียงนี้ดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดิน แรงปะทะรุนแรงพลันแผ่กระจายไปรอบๆ บนแมกไม้ หลินตงตงรับผลเป็นคนแรก เมื่อถูกแรงปะทะแล้วมีโลหิตไหลจากมุมปาก ร่างกระเด็นถอยไป มีสีหน้าตกใจตื่น เขาสัมผัสได้ถึงการพังพินาศในมิติชั้นหนึ่งกับชั้นสอง สัมผัสได้ว่าที่นี่ขาดการเชื่อมต่อทุกอย่างกับแคว้นกู่จั้ง
เขายังสัมผัสได้อีกว่าตนกับสำนักเอกะเต๋า…เหมือนถูกตัดการเชื่อมต่อ กระทั่งเขาไม่อาจออกจากร่างองค์ชายใหญ่ จึงถูกขังไว้ที่นี่อย่างสมบูรณ์
นี่ทำให้เขาหน้าซีดขาว ช่วงที่กระเด็นถอยไปอย่างรวดเร็วนั้น สายตาที่มองต้นพิสูจน์เต๋า นอกจากความตกใจตื่นแล้วยังมีความตื่นกลัวเสี้ยวหนึ่งที่ไม่เกิดขึ้นกับเขามานานไม่รู้กี่ปีแล้ว!
ไม่เพียงแต่เขาที่เป็นเช่นนี้ แรงปะทะถาโถมไปรอบๆ ฉีกนภา พลิกปฐพี องค์ชายรองกระอักเลือด เปล่งเสียงร้องโหยหวน หากมิใช่เพราะร่างเงาไร้หัวเข้ามากอดแล้วหมุนตัวกลับเอาหลังต้านแรงปะทะล่ะก็ ด้วยพลังองค์ชายรองคงต้องตายในพริบตา
แต่ต่อให้เป็นอย่างนี้ องค์ชายรองก็ยังกระอักเลือดไม่หยุด ร่างเงาไร้หัวตัวสั่น ถอยไปหลายพันจั้งถึงฝืนหยุดภายใต้แรงปะทะได้
ขนาดพวกเขายังเป็นอย่างนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์คนอื่นของสำนักเอกะเต๋ากับฝ่ายอสุราในชั้นสาม แทบชั่วพริบตาเดียวเมื่อต้นพิสูจน์เต๋าสั่นสะเทือน ผู้ฝึกฌานเหล่านี้ไม่มีใครมีแรงต่อต้าน ทั่วร่างถูกระลอกคลื่นมวลอากาศฉีก วิญญาณสูญสิ้นไป
มีคนเดียวที่ไม่รับผลแรงปะทะ…นั่นคือซูหมิง!
ซูหมิงยืนอยู่บนแมกไม้ ร่างกายโยกไปตามแมกไม้ แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงปะทะแม้แต่น้อย ยามนี้นั่งขัดสมาธิลงอย่างไม่ลังเล พลังในร่างกายโคจรอย่างรวดเร็ว นั่นคือผลจากผลเต๋าที่ปะทุในร่างกายแล้ว
ความมหัศจรรย์ของผลเต๋าทำให้คนทะลวงพลังเป็นขอบเขตเต๋าสูงศักดิ์ได้ สรรพคุณทรงพลังแบบนี้ ตามที่กู่ไท่อธิบายแล้วจะเสร็จสิ้นในหลายวัน แต่ตอนนี้ซูหมิงกลับเห็นว่าผลเต๋ากับร่างกายตนเหมือนมีการเชื่อมต่อเล็กน้อย นี่ไม่ต้องใช้หลายวันในการสูบกินเสร็จสิ้น แต่แค่…พริบตาเดียวก็ถูกร่างกายสูบกินไปมากกว่าครึ่งส่วน
ตอนนี้ซูหมิงสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่ของผลเต๋า ของเหลวจากผลเต๋าก่อคลื่นลูกใหญ่ในร่างกาย อีกทั้งทุกคลื่นยังเหมือนถูกเปลวเพลิงลุกโชตช่วง เกิดเสียงดังสนั่นในร่างกายไม่หยุด ชั่ววูบเดียวก็ลามไปยังเส้นเลือดลมทั้งหมดทั่วร่าง ส่งผลให้ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดขึ้นในฉับพลัน
เผยเป็นทะเลเพลิงล้นทะลักภายใน!
กลางทะเลเพลิงนั้น วิญญาณเต๋าสมบูรณ์สี่ร่างของซูหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่เหมือนกำลังตัวสั่น วิญญาณเต๋าที่ห้าที่ยังเป็นมายาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
เสียงอึกทึกไร้รูปดังก้องในร่างกายไม่หยุด ซ้ำยังดังขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดราวกับว่าร่างกายเขากลายเป็นกองใบใหญ่ ทุกการสั่นสะเทือนในร่างกายจะก่อให้เกิดเสียงดังไปทั่วร่าง
ความน่าสะพรึงของพลังแห่งผลเต๋าส่งผลให้มีโลหิตไหลจากทวารทั้งเจ็ด แต่เขากลับกัดฟันยืนหยัด เพียงแต่ว่า…ยิ่งยืนหยัด ก็ยิ่งเกิดความคลุ้มคลั่งที่เจ็บปวดไปทั่วร่าง
เขาอยากสังหาร อยากลงมือ อยากระบาย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เขาเกิดความเข้าใจรางๆ ว่าพลังแห่งผลเต๋าทำให้คนบรรลุเต๋าสูงศักดิ์ได้ ซึ่งจุดสำคัญคือการอดทนรับในตอนนี้ ยิ่งอดทนได้นานเท่าไรก็ยิ่งปะทุพลังน่าตกใจมากเท่านั้น
หลินตงตงกับองค์ชายรองเห็นภาพนี้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันนัยน์ตาหลินตงตงเผยจิตสังหารและยังมีความตื่นกลัวอย่างบอกไม่ถูก แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลัวซูหมิง แต่เป็นต้นพิสูจน์เต๋า เป็นมิติที่นี่ถูกทำลายทำให้เขาหมดหนทางกลับแคว้นกู่จั้ง
แต่จะเห็นได้ว่าเขาไม่ยอม ยามนี้หมุนตัวกลับไม่สนใจซูหมิงอีก แต่เป็นสายรุ้งยาวออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว หมายจะหาร่องรอยกลับแคว้นกู่จั้ง
ส่วนองค์ชายรองก็ไม่ยอมเช่นกัน ในใจเขาเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย จ้องซูหมิงตาเขม็งด้วยสีหน้าคลุ้มคลั่ง
เขาไม่ยอมให้ซูหมิงเอาผลเต๋าไป และยิ่งไม่ยอมให้ซูหมิงสูบพลังแห่งผลเต๋า เขามีฝ่ายอสุราคอยช่วยอย่างสุดกำลัง ได้เป็นศิษย์ของบรรพบุรุษซิวหลัว ทั้งยังเป็นองค์ชายรองสายเลือดจักรพรรดิทั้งแคว้นกู่จั้ง!
เขาจะไปยอมได้อย่างไร ดังนั้นแล้วแม้หลินตงตงจะจากไป แต่เขาก็ยังไม่ไป เขาจะสังหารซูหมิง จะหลอมซูหมิงแล้วชิงพลังผลเต๋ากลับมากินเอง!
กระทั่งตอนนี้เขาไม่คิดเรื่องหล่อหลอมอะไรอีก ในสีหน้าเผยประกายเหมือนจะกินคน เขาจะกินซูหมิงทั้งเป็นเพื่อชิงพลังแห่งผลเต๋าที่เขาคิดว่าเดิมทีเป็นของเขาคืนมา
ทว่า…มีต้นพิสูจน์เต๋าอยู่ มีแรงปะทะกระจายออก ทำให้ความหวังทุกอย่างของเขาเปลี่ยนเป็นความยาก แต่ถึงอย่างนั้น ความบ้าคลั่งของเขาก็เหมือนกับเปลวเพลิงลุกโชตช่วงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ขณะเดียวกับที่หลินตงตงจากไป ต้นพิสูจน์เต๋าโคลงเคลงรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ลำต้นม้วน กิ่งไม่นับไม่ถ้วนบนแมกไม้สั่นไหว ฟ้าดินเกิดเค้ารางจะพังลง ผืนฟ้าแตกออก แผ่นดินเกิดรอยร้าวประหนึ่งถึงวันสิ้นโลก
“ข้า…จะกลับบ้าน!” เสียงเด็กดังขึ้นอีกครั้ง ต้นพิสูจน์เต๋าส่งเสียงดังสนั่นฟ้าดิน บนต้นไม้โบราณพลันแตกออกเป็นกิ่งเหลือคณานับ ก่อนรวมเป็นมือใหญ่สองข้างราวกับต้นพิสูจน์เต๋าคว้าไปบนฟ้าแล้วฉีกออกไปสองทาง!
การฉีกครั้งนี้เกิดเสียงอึกทึกกังวานฟ้าดิน ทั้งโลกพังลงหนักกว่าเดิม แต่ว่า…ฟ้าถูกฉีกได้ มวลอากาศถูกฉีกได้ แต่กลับไม่อาจฉีกมิติของที่นี่!
อีกทั้งการฉีกมิติที่นี่ไม่ได้ก็เท่ากับว่าไม่อาจเปิดประตูใหญ่ที่จะไปสู่โลกที่เคยรุ่งเรืองนั้นได้
องค์ชายรองคำรามเสียงแหลมพลางยกมือขวาขึ้น ในมือปรากฏหมวกเหล็กใบหนึ่ง บนหมวกเหล็กมีเขาสองอัน ดูค่อนข้างเหี้ยมโหด ก่อนยกหมวกเหล็กขึ้นสวมที่ศีรษะตนเอง
ทันใดนั้นเขาคำรามเสียงสะเทือนฟ้าดิน ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด ชั่ววูบเดียวมีขนาดสิบกว่าจั้ง ซ้ำแล้วดูจากลักษณะเหมือนจะยังไม่ใช่ขีดจำกัด
“เต๋าภูตผีอสุรา ขอบำรุงวิญญาณภูตผีฟ้าดินด้วยร่างแห่งสายเลือดราชวงศ์ข้า…จงมารวมกันที่ข้า!” พูดจบ องค์ชายรองเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าโดยพลัน ช่วงที่ยกมือขวาขึ้นทั้งมือขวากลายเป็นดั่งกงเล็บภูตผี ผิวหนังดำ เล็บคมกริบ กระทั่งบนแขนขวายังมีหนามกระดูกน่ากลัว
แขนซ้ายเขาเปลี่ยนตามไป ทั่วร่างขยายขึ้นราวยี่สิบจั้งแล้ว กลิ่นอายพลังเหลือล้นพุ่งขึ้นฟ้า ใกล้จะถึงเต๋าสูงศักดิ์อย่างไร้ที่สิ้นสุด ตอนนี้เองเขาตะโกนเสียงดังด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเหยเกย
“อู๋กุย! พาข้าเข้าไป!” สิ้นเสียง ชายร่างกำยำไร้หัวพลันเคลื่อนตัว คว้าองค์ชายรอง นอกตัวเขาปรากฏม่านแสงสามสีปกคลุมไปรอบๆ เขาพุ่งไปข้างหน้า ฝ่าพลังน่าตกใจจากต้นพิสูจน์เต๋าโคลงเคลงพุ่งไปหาซูหมิง
ทันทีที่พุ่งเข้าไป ร่างชายไร้หัวเกิดรอยปริร้าวขึ้น ม่านแสงสามสีนอกตัวเขาบิดเบี้ยวเหมือนจะพังลง พริบตาที่ห่างจากซูหมิงราวร้อยจั้ง ม่านแสงสามสีพังพินาศลง มีเสียงดังมาจากในร่างชายไร้หัว ก่อนจะเหวี่ยงองค์ชายรองไปทางซูหมิง
พร้อมกับที่องค์ชายรองคำรามเสียงต่ำพุ่งไปหาซูหมิง ร่างเงาไร้หัวนั่งขัดสมาธิลง แผ่ขยายพลังภายในร่างกายปกคลุมรอบๆ ใช้พลังตัวคนเดียวต่อต้านต้นพิสูจน์เต๋า เพื่อให้องค์ชายรองมีเวลาลงมือแม้ไม่มากก็ตาม
แทบเป็นทันทีที่องค์ชายรองจะกินซูหมิงด้วยความบ้าคลั่งและจิตสังหาร ร่างเงาซูหมิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ลืมตาขึ้น ตอนนี้เองนัยน์ตาเขาเป็นประกายแสงโลหิตเข้มข้น
“ควรจะจบเรื่องระหว่างเจ้ากับข้าแล้ว!” ซูหมิงตัวสั่นไปทั่วร่าง เสียงครึกโครมแต่ละครั้งในร่างกายทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ตอนนี้เขาทนรับความเจ็บปวดถึงขีดสุดแล้ว องค์ชายรองที่ตรงเข้ามาจึงต้องเจอกับ…การระเบิดของซูหมิง!
ตอนที่ 1456
จิตไม่มอดดับ
โดย
Ink Stone_Fantasy
แทบเป็นช่วงที่องค์ชายรองพุ่งเข้ามา ซูหมิงลืมตาพร้อมยืนขึ้นโดยพลัน ยกมือขวาชี้องค์ชายรองอย่างไม่ลังเล
ภายใต้ดรรชนีนี้ แรงปะทะพลันปะทุขึ้นระหว่างซูหมิงกับองค์ชายรอง ภายใต้แรงปะทะ องค์ชายรองมีสีหน้าคลุ้มคลั่ง ระหว่างที่กระเด็นถอยไปนั้น ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าว ครั้งนี้ไม่ใช้นิ้วมืออีก แต่เป็นฝ่ามือ
ขณะเดียวกับที่กดฝ่ามือไป ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดจากเสียงอึกทึกในร่างกายเขาก็ระบายออกอย่างรุนแรงเช่นกัน เมื่อปะทะกับองค์ชายรองในฉับพลันแล้วก็เกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวยิ่งกว่าเดิม
ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ร่างยี่สิบจั้งขององค์ชายรองถอยไปอีกครั้ง กระอักเลือดมาหนึ่งคำ มองซูหมิงด้วยความตกใจ ส่วนซูหมิงตัวสั่น มุมปากมีโลหิตไหล ทว่าดวงตาสองข้างเปล่งประกาย เขารู้สึกชัดว่าความเจ็บปวดรุนแรงในร่างกายตอนนี้หายไปเล็กน้อยแล้ว
ซูหมิงไม่กล่าวใดๆ ชั่วขณะที่องค์ชายรองถอยไป เขาพุ่งเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้ใช้หมัด ทันทีที่ชกไป องค์ชายรองเปล่งเสียงคำราม ยกสองมือขึ้นกดไปข้างหน้า ข้างหลังปรากฏเงามายาขนาดร้อยจั้ง ทั่วร่างมายานั้นเป็นสีดำประหนึ่งภูตผี ร้องคำรามพร้อมทะลวงผ่านร่างองค์ชายรองพุ่งตรงไปหาซูหมิง
“เต๋าภูตผีอสุรา!” ระหว่างที่เสียงองค์ชายรองดังก้องฟ้า ผีร้ายร้อยจั้งปะทะกับซูหมิงแล้ว เกิดเสียงครึกโครมดังกึกก้อง ซูหมิงกระอักเลือดคำใหญ่ ร่างถอยไป ตอนนี้เองวิญญาณเต๋าที่ห้าที่เดิมทีเป็นมายาในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้ว…พลันสมจริงขึ้นมา พริบตาเดียวกลายเป็นวิญญาณเต๋า ส่งผลให้ซูหมิงทะลวงพลัง บรรลุขอบเขตวิญญาณเต๋าขั้นห้าอย่างแท้จริง!
ขาดอีกก้าวเดียวก็จะข้ามผ่านขอบเขตวิญญาณเต๋าไปสู่…เต๋าสูงศักดิ์!
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!” องค์ชายรองมีสีหน้าเหลือเชื่อ ใบหน้าเหยเกยแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าไม่มีทางรับผลเต๋าได้เร็วขนาดนี้ ตั้งแต่โบราณจนมาถึงตอนนี้ การกินผลเต๋าต้องใช้เวลาอย่างเร็วสุดสามวัน เจ้าไม่มีทางกินสำเร็จด้วยเวลาแค่นี้ได้!” องค์ชายรองตะโกนเสียงดังพร้อมพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้ช่วงที่เข้ามาใกล้ซูหมิงเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก จากยี่สิบจั้งปะทุขึ้นเป็นราวสามสิบจั้ง หนามกระดูกบนตัวมากกว่าเดิม กระทั่งพลังยังทะยานขึ้น เข้าใกล้เต๋าสูงศักดิ์อย่างไร้ที่สิ้นสุด
ซูหมิงพลันเงยหน้าขึ้นเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปาก นัยน์ตาฉายแววมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างแรงกล้า ยามนี้ความรู้สึกเจ็บปวดในร่างกายหายไปไม่น้อย แต่ก็ยังอยู่ ทว่าภายใต้ความเจ็บปวด ความมุ่งมั่นในการต่อสู้กลับยิ่งเปี่ยมล้นกว่าเดิม
“โลกกว้างใหญ่แห่งนี้ ไม่เคยมีคำว่า…เป็นไปไม่ได้” ซูหมิงตอบกลับอย่างเย็นชาพร้อมกระโดดพุ่งไปหาองค์ชายรอง ไม่ได้ใช้วิชาอภินิหารอะไร เพียงแค่ใช้วิธีที่ง่ายที่สุด วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการระบายความเจ็บปวดในร่างกาย
สองคนเข้าใกล้กันในพริบตาบนแมกไม้ ช่วงที่เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น เสียงเด็กของต้นพิสูจน์เต๋าดังก้องด้วยความยึดมั่นอีกครั้งข้างล่างพวกเขา
“เฮ่าเฮ่า…จะกลับบ้าน!” ขณะเดียวกับที่เสียงดังสนั่นแก้วหู มือใหญ่ที่รวมขึ้นจากกิ่งไม้นับไม่ถ้วนของต้นพิสูจน์เต๋าฉีกไปบนฟ้าอีกครั้ง
ครั้งนี้ทั้งผืนฟ้าเกิดเสียงครึกโครม รอยแยกยักษ์สายหนึ่ง…ถูกฉีกออกบนฟ้าที่กำลังพังทลาย ตาข่ายใหญ่มายานับไม่ถ้วนแหลกสลายตามไป ทำให้ในรอยแยกบนฟ้ากลางมวลอากาศถูกทำลายนั้น ปรากฏ…รอยถลอกยักษ์สายหนึ่ง!
นั่นคือรอยถลอก เป็นรอยถลอกเหมือนทางเข้าอีกโลกหลังถูกผนึกเอาไว้!
ความใหญ่ของรอยถลอกเหมือนไร้ที่สิ้นสุด จินตนาการได้ว่าคนที่ผนึกช่องโหว่นี้ในตอนนั้นจะต้องมีพลังน่าสะพรึงอย่างแน่นอน มองจากรอยถลอกจะเห็นได้ชัดว่ามียันต์ยักษ์อยู่แผ่นหนึ่ง!
ยันต์เป็นสีแดงฉาน ด้านบนมีตราประทับตัวใหญ่ยักษ์ ตอนนี้ขยับแสงวูบวาบ หากมองดีๆ จะเห็นว่าระหว่างทางเข้าอีกโลกที่ถูกผนึกกับรอยถลอกที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนจะเย็บรวมกันเป็นสายหนึ่ง ซึ่งสายนี้ก็ยืดยาวมาจากยันต์แผ่นนั้น
หากเอายันต์ออกก็จะเปิดทางเข้าที่ถูกผนึกได้…จะได้เห็นโลกที่เคยรุ่งเรืองนั้น!
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางเสียงอึกทึก ท้องนภาถูกฉีก ตรงขอบรอยแยกพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง แผ่นดินใหญ่พังพินาศลงจนสิ้น ซูหมิงกับองค์ชายรองต่างฝ่ายต่างถอยไปท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ซูหมิงกระอักเลือด แต่กลับเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง นอกจากวิญญาณเต๋าที่ห้าในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วแล้ว ตอนนี้ปรากฏร่างเงามายากลุ่มหนึ่ง นั่นคือ…ตัวอ่อนวิญญาณเต๋าที่หก!
หากตัวอ่อนวิญญาณเต๋านี้รวมขึ้นอีกทั้งสมจริงแล้ว ซูหมิงจะมีวิญญาณเต๋าที่หก หากหล่อหลอม…เขาจะก้าวสู่ขอบเขตเต๋าสูงศักดิ์!
องค์ชายรองหน้าเปลี่ยนสี แต่แววตากลับไม่ยอม ตอนนี้เขาสนใจอะไรได้ไม่มากนัก จึงคำรามพร้อมกับยกมือขวาขึ้นโบกไป ตามตัวปรากฏชุดเกราะขึ้นทันที พริบตาเดียวชุดเกราะสมบูรณ์ก็มาอยู่บนตัวเขา
ขณะเดียวกันร่างกายขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ขยายไปถึงห้าสิบจั้ง ภายใต้การปะทุพลังในฉับพลันจึงมีพลังของเต๋าสูงศักดิ์
“วันนี้ ไม่ว่าต้องจ่ายไปเท่าไรข้าจะชิงผลเต๋าของข้ากลับมาให้ได้!” องค์ชายรองตะโกนเสียงต่ำ ในดวงตาขวาปรากฏน้ำวนขึ้น น้ำวนถูกลดกำลังลงไปไม่น้อย ราวกับว่ามีจิตสำนึกบางอย่างหลุดพ้นออกมาจากภายใน
“ภัยพิบัติอสุรา เต๋าวัฏจักร ตาย!” องค์ชายรองตะโกนเสียงต่ำ ปรากฏหมอกดำมหาศาลรอบตัว ชั่ววูบเดียวก็ทะลักไปหาซูหมิง หมอกดำรอบตัวเขารวมขึ้นเป็นน้ำวนยักษ์หนึ่ง หมุนโคจรส่งเสียงดังอึกทึกประหนึ่งวัฏจักร
ส่วนร่างกายเขาอยู่ในหมอกดำ ร่างขนาดห้าสิบจั้งดูเหมือนผีร้าย เห็นได้ชัดว่านี่คือวิชาแขนงหนึ่งของฝ่ายอสุรา ใช้ภูตผีเป็นอุสรา!
องค์ชายรองรู้ว่าเวลาของตนมีจำกัด ร่างเงาไร้หัวรับแรงกดดันจากต้นพิสูจน์เต๋าให้เขาแล้ว ทว่าจะอยู่ได้อีกไม่นานนัก หากรับไม่ไหวขึ้นมา ตนจะสู้กับซูหมิงบนแมกไม้ได้ยากมาก
ดังนั้นตอนนี้จึงลงมืออย่างสุดกำลัง
ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาววับ ความเจ็บปวดในร่างกายมีไม่มากแล้ว การระบายแบบปกติจะระบายออกมาทั้งหมดไม่ได้ แต่เขากลับยกมือขวาขึ้น ขวานยักษ์โผล่ขึ้นมาในมือ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนฟันขวานลงในทันทีที่องค์ชายรองพุ่งเข้ามา ความเจ็บปวดสุดท้ายในร่างกายหลอมรวมเข้าไปในแขนข้างที่ถือขวาน หลั่งทะลักเข้าไปเป็นการระบายในระดับสูงสุด!
ฟ้าดินเกิดเสียงโครมครามกึกก้อง ระหว่างนั้นองค์ชายรองร้องโหยหวน แขนซ้ายหลุจากร่าง ขณะโซเซถอยไปอย่างรวดเร็ว น้ำวนในดวงตาขวาพังลงตาม ตี้เทียนที่ถูกกำราบไว้ภายในเข้ามาแทนที่ดวงตาขวาองค์ชายรอง!
เขาเห็นซูหมิงในแวบแรก
ตอนนี้ซูหมิงกระเด็นถอยไปเช่นกัน กระอักเลือดต่อเนื่องหลายครั้ง ถึงขั้นหน้าอกเว้าลงไป ระหว่างที่โลหิตไหลอาบ เสียงหัวเราะเขาดังกึกก้อง ร่างกายกลับฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว วิญญาณเต๋าที่หกในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วรวมขึ้นมาแล้ว พลังแก่กล้าปะทุขึ้นในตัวเขา
“วิญญาณเต๋าที่หก…หล่อหลอมเต๋าสูงศักดิ์!” ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาวแล้วเอ่ยขึ้นในทันใด
ตอนนี้เองเมื่อปรากฏรอยแยกบนฟ้า ปรากฏรอยถลอกขึ้น ยันต์แผ่นนั้นขยับแสงวิบวับตาม ทั้งต้นพิสูจน์เต๋าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“บ้าน…บ้านของเฮ่าเฮ่า…อยู่ที่นั่น…” ต้นพิสูจน์เต๋าสั่นสะท้านไปทั้งต้น พลังมหาศาลที่รวมจากต้นพิสูจน์เต๋าปะทุขึ้น รวมกันที่มือใหญ่สองข้างของมัน ก่อนพุ่งไปยังยันต์บนรอยถลอกนั้นแล้วทำการฉีก
เวลานี้ทั้งฟ้าดินราวกับหยุดนิ่ง กระทั่งการคว้าครั้งนี้ ร่างใหญ่ยักษ์ของต้นพิสูจน์เต๋ายังลอยขึ้นตามเล็กน้อย ทว่าพริบตาที่สองมือต้นพิสูจน์เต๋าสัมผัสกับยันต์แผ่นนั้นหมายจะฉีก ทันใดนั้นเอง ตราประทับบนยันต์ขยับแสงต่อเนื่องกันเก้าครั้ง ทุกครั้งจะมีสายฟ้าทมิฬฝ่าลงมา ภายในสายฟ้าแฝงไว้ด้วยพลังยากจะบรรยาย พลังนี้…
มากพอจะทำลายล้างมหาเต๋าสูงศักดิ์!
สายฟ้าทมิฬเก้าสายผ่าลงที่ต้นพิสูจน์เต๋าทั้งหมด ทำให้ต้นไม้โบราณเกิดรอยปริแตก แต่ยังไม่เท่าไร หลังสายฟ้าเก้าสายผ่านไป ช่วงที่มวลอากาศรอบยันต์บนรอยถลอกนั้นบิดเบี้ยวก็ปรากฏร่างเงาเลือนรางร่างหนึ่ง
ร่างเงานั้นสวมชุดคลุมดำตัวใหญ่ ใบหน้าไร้คลื่นอารมณ์ กำลังมองต้นพิสูจน์เต๋าข้างล่างอย่างเย็นชา
“ลงทัณฑ์!” เขากล่าวเรียบๆ ก่อนยกมือขวาขึ้นกดไปยังต้นพิสูจน์เต๋าข้างล่าง ต้นพิสูจน์เต๋าส่งเสียงดังอึกทึกไม่หยุด มือใหญ่ที่ชูขึ้นสองข้างแหลกเป็นเสี่ยงๆ
“เป็นเจ้า เจ้าทำลายบ้านเกิดข้า เป็นเจ้า!” ตอนนี้เสียงเด็กมีทั้งการสะอื้นไห้ มีทั้งความโกรธ ตอนที่เสียงดังกังวาน บนต้นพิสูจน์เต๋าปรากฏร่างเงาหนึ่ง นั่นคือเด็กอายุราวห้าหกขวบ
ขณะเดียวกันหลินตงตงกำลังหาทางออกในมิติชั้นสาม ทันทีที่เห็นร่างเงาชุดคลุมดำบนฟ้านั้น เขาตัวสั่นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“มหาจักรพรรดิ…นะ…นี่ไม่ใช่ร่างจริงของมหาจักรพรรดิ นี่คือจิตไม่มอดดับที่เขาฝากเอาไว้ เป็นกลอุบายสุดท้ายที่ใช้กำราบต้นพิสูจน์เต๋า!
แม้จะเป็นจิตไม่มอดดับ แต่ก็มีพลังส่วนหนึ่งของมหาจักรพรรดิ…” หลินตงตงมีสีหน้าตื่นเต้น เขาเหมือนหาทางกลับแคว้นกู่จั้งพบแล้ว ขอเพียงต้นพิสูจน์เต๋าถูกกำราบอีกครั้ง เช่นนั้นด้วยพลังของเขา ต่อให้ใช้เวลาหมื่นปีก็ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะฉีกรอยแยกมิติกลับแคว้นกู่จั้งได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น