Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ 1285-1287

 ตอนที่ 1285

 

มดเขาสวรรค์

โดย

Ink Stone_Fantasy

เห็นกะโหลกกับเลือดที่นองเต็มพื้น สือฮ่าวจะไม่กลัวได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ผิวหนังของเขาเริ่มปริแตกแล้ว แม้แต่กระดูกก็หัก ที่นี่มีพลังน่ากลัวอย่างหนึ่ง มันบาดผิวกาย ทำลายจิต!


ผู้กล้าสูงส่งคืออะไร ก็คือเมื่อตายไปแล้ว เขายังคงมีอิทธิพลกว้างไกล เลือดและกระดูกของเขา แม้กระทั่งว่าขนก็ของเขาก็สามารถปลิดชีพได้ ทำให้ผู้กล้ารุ่นหลังแทบหยุดหายใจ!


สือฮ่าวมองกะโหลกขนาดใหญ่ด้วยความตะลึง ตัวแข็งทื่อไปแล้ว ไม่ขยับเขยื้อน ผิวหนังแตกระแหง มีเลือดซึมออกมา


“นี่มัน…ใต้เท้ามดเขาสวรรค์จริงหรือ?” เขาพึมพำราวกับละเมอ


หัวมดเป็นสีทองเจิดจ้า ประหนึ่งหลอมจากทองคำเซียน ผ่านไปหลายล้านปีแล้ว ยังคงเปล่งประกาย ลำแสงเป็นเส้นๆ แทบจะทิ่มแทงร่างกายมนุษย์จนพรุนแล้ว


มดเขาสวรรค์ ถูกขนานนามว่าสูงส่ง ไยถึงตายได้อนาถปานนี้? มันมีพละกำลังเหนือกว่ามังกรเสียอีก แต่กลับถูกบั่นคอ!


สือฮ่าวขนพองวสยองเกล้า เขามองเลือดสีทองบนพื้น จากนั้นก็มองเกล็ด ขนนกและเขาที่อยู่ไกลออกไป ยิ่งรู้สึกจิตใจสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม


สงครามในวันนั้นโหดเหี้ยมเหลือเกิน!


รบกันถึงขั้นนี้ นี่เป็นจุดจบของการพินาศร่วมกันหรือ?


คราบเลือดพวกนี้ล้วนไม่ธรรมดา แฝงด้วยพลังอันน่าตะลึง เคล้าด้วยพลังเซียน ต่างก็มาจากบุคคลที่มีขั้นบำเพ็ญแก่กล้าทั้งนั้น


“นี่ เจ้าทำหน้าอะไรของเจ้า พ่อข้าน่าเวทนาปานนั้นเชียวหรือ?” มดสีทองตัวเท่านิ้วโป้งโวยวายด้วยความไม่พอใจ


“เจ้ามันลูกหลานทรพี เห็นผู้ใหญ่ตายอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่เสียใจเลยสักนิด?” สือฮ่าวยื่นมือออกไปแล้วคีบมันขึ้นมาทันที


มดน้อยสีทองดิ้นขลุกขลักด้วยความโมโห


หากเป็นคนอื่น จะคีบมันขึ้นมาได้ง่ายดายแบบนี้หรือ อย่าเห็นว่ามันตัวจิ๋ว มีพละกำลังมหาศาล ทำให้นิ้วมือของคนหักได้ทันที


แต่ตอนนี้มันกลับถูกสือฮ่าวพันธนาการ ดิ้นไม่หลุด น่าอายเหลือเกิน


“ปล่อยข้า ถ้าหากเป็นศพของพ่อข้า ข้าจะไม่เสียใจได้อย่างไร!” มดน้อยตะโกนลั่น


สือฮ่าวชะงัก จากนั้นก็ปล่อยมัน


มดน้อยสีทองเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ ซัดหมัดใส่เขาอย่างแรง ปรากฏว่าลมพัดกรรโชก มิติแยก ตัวกระจ้อยร่อยแต่มีอานุภาพถึงเพียงนี้ น่าตะลึงเหลือเกิน


“นี่เป็นแค่เปลือกของพ่อข้า ไม่ใช่ร่างจริง!” มดน้อยพูดอย่างโมโห


สือฮ่าวแปลกใจ มดก็ลอกคราบได้เช่นเดียวกับงูหรือ? เขาไม่รู้จริงๆ


แต่นี่เป็นมดเขาสวรรค์ ไม่ใช่มดทั่วไป แม้จะพิเศษแต่ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ บางทีอาจเป็นแมลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้!


เขาฝืนความเจ็บปวดของร่างกาย เดินไปข้างหน้า วนรอบกะโหลกนั่นหนึ่งรอบ พบว่าข้างในกลวง เป็นแค่เปลือกจริงๆ


“ไม่ใช่ร่างของมดเขาสวรรค์ แล้วใต้เท้าล่ะ?” สือฮ่าวถาม


“ตายแล้ว ดับสูญทั้งกายจิต ไม่ดำรงอยู่อีกต่อไป” มดน้อยพึมพำ ไม่ร้องไห้ ไม่เศร้าเสียใจ มีเพียงความหดหู่และสลดใจเท่านั้น


ตามที่มดน้อยกล่าว มดเขาสวรรค์ต้านทานศัตรูไว้ได้จำนวนมาก สู้กับข้าศึกเพียงลำพัง ประมือกับบุคคลขั้นสุดยอดของอีกฝ่ายอย่างไร้เทียมทาน


สุดท้ายก็สู้ศัตรูไม่ได้ หลังฆ่าบุคคลขั้นสุดยอดของต่างแดนไปจำนวนมากแล้ว ด้วยความที่บาดเจ็บสาหัส จึงตกลงไปในหุบเหวแห่งความตาย


ก่อนเขาจะสูญเสียพลังชีวิต ได้พาศัตรูจำนวนมากร่วมตายไปพร้อมกัน!


“ใต้เท้าท่านนี้น่านับถือนัก สุดท้ายก็ต้องมาตายในสมรภูมิรบ” สือฮ่าวถอนหายใจ


ไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องบรรยายสงครามในตอนนั้น เพราะสามารถสัมผัสได้ถึงภาพโลกาวินาศได้จากที่นี่ เลือดคงนองพสุธา กระดูกกองเป็นภูเขาเป็นแน่ มดเขาสวรรค์สู้รบกับศัตรู สะเทือนประวัติศาสตร์!


“ท่านลากร่างมา ไม่ได้ตายทันที กระเสือกกระสนจนถึงช่วงแรกของยุคนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นเถ้าธุลี” มดน้อยพึมพำ


มันทำให้สือฮ่าวตกใจอย่างมาก ใต้เท้ามดเขาสวรรค์ยืนหยัดมาถึงยุคนี้หรือ?


แต่ทว่าช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ตอนสิ้นชีพนั้นอนาถสิ้นดี วิญญาณไม่ได้ลอยล่อง แต่กลายเป็นเลือดข้นก่อน จากนั้นลุกไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน มันต้องทรมานขนาดไหนกัน?


นี่เป็นถึงผู้กล้าสูงส่งที่เคยศึกษาคัมภีร์อมตะ แต่สุดท้ายกลับตกอยู่ในสภาพแบบนี้!


สาเหตุสำคัญเป็นเพราะ มันบาดเจ็บสาหัสเหลือเกิน ตอนนั้นทำให้เกิดความร้ายแรงอย่างหาที่สุดมิได้ ถูกบุคคลยิ่งใหญ่ของต่างแดนทะลวงจุดสำคัญและดวงจิตอย่างต่อเนื่อง


น่าสงสารและน่าเวทนา!


มดเขาสวรรค์มีกายเนื้อไร้เทียมทาน พละกำลังมหาศาล สุดท้ายแม้แต่ร่างก็ไม่เหลือ


หากกล่าวตามตำนานของคัมภีร์อมตะ มันน่าจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์ มิเช่นนั้น คงไม่ปิดฉากแบบนี้


“ที่จริงแล้ว ท่านพ่ออยู่ได้นานกว่านี้ และไม่มีทางตายอย่างทรมานแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะช่วยข้า” มดน้อยน้ำตาไหลเงียบๆ


แม้จะไม่ได้สะอึกสะอื้น แต่ความเศร้าแบบนี้กลับดูน่าอาดูรยิ่งนัก มันเสียใจเหลือเกิน


ตอนนั้นแม่ของมันตายในสนามรบ พี่น้องหลายตัวก็ถูกสังหาร ส่วนมันในตอนนั้นยังอยู่ในท้องแม่ ได้รับบาดเจ็บปางตาย


เผ่าพันธุ์มดเขาสวรรค์ เห็นได้ชัดว่ามีข้อแตกต่างทางกายภาพจากมดชนิดอื่น วิธีกำเนิด การเจริญเจิบโตย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


หากไม่ใช่เพราะมดเขาสวรรค์เหนือธรรมชาติ มันไม่มีทางรอด คงตายไปนานแล้ว


แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็อาศัยพลังปราณสุดท้ายของพ่อมัน เปลี่ยนแปลงชะตาให้มัน สุดท้ายจึงถือกำเนิด


“เจ้าเคยเห็นท่านไหม?” สือฮ่าวถาม


“ไม่เคย ก่อนที่ข้าจะเกิด ท่านก็ตายไปนานแล้ว กลายเป็นเลือดข้น มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ทหารเก่าเหล่านั้นเป็นคนบอกทุกเรื่องกับข้า” มดน้อยเช็ดน้ำตา


สือฮ่าวไม่รู้จะปลอบอย่างไร ความรักของบิดายิ่งใหญ่ แม้จะไม่เคยเห็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง แต่มดเขาสวรรค์ก็ทุ่มเทมากพอแล้ว ใช้เลือดของตัวเองชุบชีวิตลูก แม้จะไม่ได้พบกันครั้งสุดท้ายก็ตาม


ขณะเดียวกัน สือฮ่าวก็สงสัย ในเมื่อมดเขาสวรรค์อยู่มาถึงยุคนี้ ทำไมไม่ทิ้งคัมภีร์อมตะไว้เล่า?


เขาพูดข้อสงสัยประการนี้ออกมา มดน้อยเอียงหัวครุ่นคิดแล้วพูดว่า “คงจะมีแค่สาเหตุเดียวคือ ข้ายังแข็งแกร่งไม่มากพอ จึงไม่มีทางได้มรดกมาครอง!”


ต่อมา สือฮ่าวกับมดน้อยก็พลิกแผ่นดินค้นหาที่นี่ อยากพบเจอเบาะแส คัมภีร์อมตะดึงดูดคนเหลือเกิน แม้แต่สือฮ่าวก็ไม่อาจสงบจิตสงบใจได้


เมื่ออยู่ที่นี่ สือฮ่าวต้องอดทนต่อความเจ็บปวด เลือดชุ่มโชก มันเป็นเพราะถูกพลังที่นี่ยับยั้ง!


เขาอดชื่นชมไม่ได้ มดเขาสวรรค์แค่ลอกคราบยังทำได้ขนาดนี้ หากตัวจริงโผล่มา จะน่ากลัวปานใด?


แน่นอนว่า ไม่ได้เป็นเพราะแบบนี้ทั้งหมด ยังมีเลือด เศษกระดูก ขนและเขาของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอีก ของเหล่านี้กระจายกระจายเกลื่อนพื้น ทำให้ที่นี่เป็นดุจขุมนรก


เมื่อเทียบกันแล้ว มดเขาสวรรค์ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะตัวมันมีกลิ่นอายของมดเขาสวรรค์ ได้รับการคุ้มครองจากเปลือกชิ้นนั้น


“นี่หรือพลังวิถีเซียน? ต่อให้เป็นแค่ควันหลง พลังส่วนใหญ่จางหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ขน แต่กลับส่งผลกระทบต่อข้าได้ถึงเพียงนี้!” สือฮ่าวถอนหายใจ


สาเหตุหลักก็เป็นเพราะที่นี่มีความอาฆาต มีรังสีอำมหิตรวมตัวกัน ไม่เป็นมงคล จึงทำได้เขาได้รับผลกระทบ


พวกเขาค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็ไม่เจอเบาะแสของคัมภีร์อมตะ ไม่มีอะไรเลย สือฮ่าวเจ็บใจนัก แต่ก็จนปัญญา


สุดท้าย เขาก็หันเหความสนใจไปที่เขาและขนนกพวกนั้น อยากรวบรวมเพื่อหลอมอาวุธ


“ข้าว่าเจ้าอย่าฝันละเมอไปเลย พลังปราณของพวกมันถูกทหารเก่าใช้ค่ายกลขับออกมา ใช้ขัดเกลาร่างกายข้าไปแล้ว เพราะพรสวรรค์ของข้าไม่เพียงพอ จำต้องหล่อเลี้ยง” มดน้อยพูด


สือฮ่าวหมดคำพูด วัตถุล้ำค่ามากมายปานนี้ ล้วนเป็นของวิเศษสูงส่ง แต่กลับไม่มีประโยชน์เลยหรือ?


“ที่เหลือมีแค่รังสีอำมหิต ของที่นำออกมาได้มีไม่มากแล้ว” เมื่อพูดถึงตรงนี้ มดน้อยก็ชี้ขนนกสีเทาเส้นหนึ่งด้วยท่าทีหวาดระแวง “โน่น คงจะเหลือแค่เส้นนี้ที่ใช้ได้ เจ้าเก็บไปได้”


ขนนกงั้นหรือ?!


สีหน้าของสือฮ่าวบูดบึ้ง แต่สุดท้ายก็ลงไปสัมผัส พบว่ามีแค่มันที่ไร้รังสีอำมหิต แตะต้องได้ เมื่อหยิบมันขึ้นมาก็เบาหวิว ไม่หนักเลยสักนิด


เขาสะบัดเบาๆ ปรากฏว่ามิติไม่แตก ยามกระตุ้นพลังพบว่าไม่เปล่งประกาย ไม่ปล่อยอักขระ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย


“ช่างเถอะ เก็บไว้ก่อน ตอนนั้นข้าอยากทำพัดห้าปักษา แต่กลับเสียเวลามาถึงป่านนี้ เมื่อถึงตอนนั้นลองใช้เส้นนี้ดูด้วยดีกว่า” สือฮ่าวพึมพำ


ไม่เจอคัมภีร์อมตะ สือฮ่าวคิดว่าไม่มีเหตุผล ใต้เท้ามดเขาสวรรค์จะไม่ดูแลลูกตัวเอง ไม่เก็บคัมภีร์ไว้ให้มันเล่า


“บางทีเมื่อข้าเจริญวัย ยิ่งใหญ่มากพอ จึงจะเปิดผนึกบางอย่างได้ และหาคัมภีร์เจอ” มดสีทองพูด


“ไม่มีเวลาแล้ว เจ้าเกิดช้าไป หากไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ กองทัพต่างแดนจะมาแล้ว พวกเราต้องรีบยิ่งใหญ่ให้เร็วที่สุด” สือฮ่าวพูด


เมื่อพูดถึงต่างแดน นัยน์ตาของมดน้อยก็เปี่ยมด้วยความแค้น แดงก่ำจนน่าตกใจ พ่อของมัน แม่ของมัน ทั้งพี่ชายและน้องสาวของมัน ต่างก็ตายในสมรภูมิรบ คับแค้นใจอย่างมหันต์


“เจ้าทำอะไรสักอย่างได้ไหม ให้ตัวเองแข็งแกร่ง กระตุ้นสักหน่อย ลองดู” สือฮ่าวแนะนำ


“เคยลองดูแล้ว แต่การกระทำแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่พลังในตอนนี้ของข้าจะควบคุมได้ ข้าจะขาดสติ และที่นี่จะน่ากลัวอย่างยิ่ง แม้แต่ทหารเก่าเหล่านั้นก็เข้าใกล้ไม่ได้ ไม่มีใครเข้าประชิดได้ ภายใต้สภาพที่ข้าไม่มีสติ ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น” มดน้อยหน้าม่อยคอตก


“ไม่เป็นไร เจ้าลองดูอีกสักครั้ง ข้าจะเฝ้าระวังให้” สือฮ่าวพูด


“ไม่ได้ ร่างของเจ้าจะถูกฉีก แข็งแกร่งอย่างผู้สูงส่งก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ อันตรายมาก ทหารเก่าเหล่านั้นกลายร่างเป็นหุ่น สู้ก่อนตายไม่ได้แล้ว พวกเขาก็ยังต้านทานไม่ไหว”


“ร่างจริงของข้าจะถอยออกไป ทิ้งไว้เพียงดวงจิต อยู่ในของชิ้นดี คงจะไม่มีปัญหา” สือฮ่าวดึงดัน


เขานำภาพหมื่นเทพเจ้าของการหยั่งรู้ดั้งเดิมออกมา กระดูกขาวแวววาว ตอนนั้นมันสามารถต่อกรกับเขาที่สงสัยว่าจะเป็นของมดเขาสวรรค์ในมือชายลึกลับคนนั้น!


สุดท้ายเมื่อหารือกันแล้ว สือฮ่าวก็ถอยไป ดวงจิตเข้าไปในภาพหมื่นเทพเจ้า เฝ้าอยู่ที่นี่


ดวงตาของมดน้อยสีทองแววโรจน์ เนื้อตัวเปล่งแสง แสงทองโชติช่วง จากนั้นร่างกายก็ขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว


อ๊าก!


เสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน สือฮ่าวที่อยู่บนภาพหมื่นเทพเจ้าตะลึงงัน มดน้อยไม่ได้มีขนาดเท่าเม็ดถั่วแล้ว ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่ากลัว


มันมีขนาดสูงปานภูเขาในพริบตา ยังคงเป็นสีทอง เป็นดุจขุนเขาบรรพกาล ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น!


พลังตอนนี้ ต้องรับมือกับพวกมหาโสดา นักพรตชีกู้ได้แน่นอน ความสามารถยิ่งใหญ่จนน่ากลัว


ต้องรู้ว่า มดน้อยในตอนนี้ยังไม่เจริญวัย!


มันใช้พละกำลังเกินตัวหรือ?


ตอนนี้ นัยน์ตาของมันแดงก่ำ บ้าระห่ำอย่างสิ้นเชิง คำรามอยู่ตรงนั้น แผ่กลิ่นอายที่มีเฉพาะในมดเขาสวรรค์ แถมยังมีพลังอหังการอีกด้วย!


ตูม!


ตอนนี้ กะโหลกบนพื้น หรือจะเรียกว่าเปลือกก็ได้ มันสั่นระริกขึ้นมาทันที จากนั้นก็แผ่พลังอมตะ ม้วนตัวไปทั่วจักรวาล!


ตอนนี้ เศษกระดูก เลือดและขนบนพื้นเหล่านั้นต่างก็ระเบิด มีบางส่วนถึงขั้นแหลกละเอียด ไม่มีอะไรต้านทานได้


สือฮ่าวตะลึงงัน มันเป็นพลังแบบไหนกัน ต้องรู้ว่าพวกมันเป็นถึงวัตถุวิถีเซียน ต่างก็ได้รับความเสียหายเสียแล้ว!


เปลือกของมดเขาสวรรค์ปล่อยริ้วคลื่นสีทอง ไม่ทำร้ายมดน้อยแต่อย่างใด แต่อย่างอื่นกลับไม่โชคดีปานนั้น


ภาพหมื่นเทพเจ้าเปล่งแสง ปกป้องดวงจิตของสือฮ่าว คุ้มกันไม่ให้เขาเป็นอันตราย


สือฮ่าวนับว่าเคราะห์ดี หากกระดูกแผ่นนี้ไม่พิเศษ เปลี่ยนเป็นเกราะป้องกันอื่นๆ คงรับมือไม่ไหว ต้องแหลกเป็นจุณแน่นอน!


ในตอนนี้เอง เขาก็เห็นฉากน่าตะลึง ภายในเปลือกของเขามดสวรรค์ มีร่างของชายวัยกลางคนปรากฏขึ้น มายืนอยู่กลางอากาศ เขาสูงใหญ่น่ายำเกรง เส้นผมสีทองแผ่สยาย สายตาคมกริบประหนึ่งกระแสไฟ!


สือฮ่าวขนลุกขนชัน รู้สึกขยับตัวไม่ได้ แทบจะหยุดหายใจแล้ว ต่อให้มีภาพหมื่นเทพเจ้าปกป้องก็ไม่ไหว ดวงจิตเกือบจะแข็งอยู่ตรงนั้นแล้ว


นี่เป็นบุคคลน่ากลัวขั้นใดกัน?


เขา…คงจะเป็นร่างจำแลงของมดเขาสวรรค์!


จำต้องพูดว่า ชายวัยกลางคนคนนี้องอาจเหลือเกิน มีพลังน่าเกรงขาม มีลักษณะของผู้เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในเก้าสวรรค์สิบพิภพ แข็งแรงกำยำ เส้นผมสีทอง เจิดจ้าจนน่าตกใจ


แววตาเป็นประกาย เสมือนมองกาลเวลาจนทะลุปรุโปร่งได้!


ตอนนี้ มดน้อยคลุ้มคลั่ง แผดร้องอยู่ตรงนั้น มันขาดสติไปแล้ว ไม่เห็นคนที่ใกล้ชิดกับมันที่สุด


ชายวัยกลางคนยืนอยู่กลางอากาศ มีดาราจักรกว้างใหญ่ปรากฏขึ้นรอบตัว ราวกับมีจักรวาลเก่าแก่โคจรรอบเขา เขายืนอยู่ตรงศูนย์กลาง


ยามเส้นผมสีทองโบกสะบัด ด้านหลังมีดาราจักรดับสูญ อับแสง ดับสูญ ปรากฏการณ์นี้ทำให้สือฮ่าวตกใจเป็นที่สุด


นี่หรือมดเขาสวรรค์? ตอนนั้น เมื่อครั้งที่เขายังมีชีวิต ยิ่งใหญ่ถึงปานนี้!


ยามผมโบกสะบัด สามารถทำลายดวงดาวในจักรวาลได้ ยามเขากะพริบตา ดวงดาราก็หล่นร่วง สะเทือนปฐพี!


“นี่มัน…” สือฮ่าวไม่อยากเชื่อทุกสิ่งที่เห็นเลย


ชายวัยกลางคนองอาจห้าวหาญ ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!


“ข้าเคยเห็นเจ้า เมื่อนานมาแล้ว…” ในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนก็เอ่ยปาก


“อะไรนะ?” สือฮ่าวร้องเสียงหลงทันที มัน…เป็นไปได้อย่างไร!


“หากไม่เคยเจอกัน เข้ามาที่นี่ เจ้าจะอยู่กับข้าอย่างสันติได้อย่างไร” มดเขาสวรรค์พูดเสียงเรียบ น่ายำเกรงยิ่งนัก


 

 

 


ตอนที่ 1286

 

อนาคตอันมืดมน

โดย

Ink Stone_Fantasy

เคยเจองั้นหรือ? มันเป็นดั่งห้วงความฝัน จะเป็นไปได้อย่างไร มันไม่สมจริงเอาเสียเลย!


หนึ่งคนที่อาศัยอยู่เมื่อหลายล้านปีก่อน อีกคนอยู่ในยุคปัจจุบัน ห่างกันหนึ่งภพ จะพบเจอได้อย่างไร?


แต่นี่เป็นหนึ่งในสิบอสูร เป็นหนึ่งในผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฐานะสูงส่ง น่าจะไม่พูดปด


มันขัดแย้งกันยิ่งนัก สือฮ่าวใจลอย ไม่รู้ว่าเชื่อได้หรือไม่ เขาไม่เข้าใจเลยว่า ระหว่างนี้เกิดอะไรขึ้น


“อ๊าก…”


มดน้อยสีทองข้างๆ แผดเสียง ตอนนี้ ขนาดของมันไม่เล็กจริงๆ เป็นดั่งยักษ์ขนาดเท่าขุนเขา เนื้อตัวเป็นสีทอง ทุกครั้งที่ขยับจะทำให้มิติสั่นสะเทือน


น่าเสียดาย มันไม่รู้ว่าร่างของพ่อแท้ๆ ปรากฏให้เห็นแล้ว ไม่อาจพบเจอได้ ตอนนี้มันคลุ้มคลั่ง เสียสติไปแล้ว


ชายวัยกลางคนมีผมทองยาวถึงกลางหลัง องอาจผึ่งผาย ผืนฟ้าเป็นภาพ ส่องสะท้านร่างของเขา สูงใหญ่กำยำเหนือคำบรรยาย นัยน์ตาแววโรจน์ เย้ยหยันเหล่าวีรชน!


สายตาของเขาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ยามมองมดเขาสวรรค์ ไม่สอดคล้องกับลักษณะที่ผู้กล้าสะท้านโลกาพึงมี ไม่น่ายำเกรงอีกต่อไป


นี่เป็นครอบครัว เป็นความรักของพ่อ เมื่อเห็นลูกของตัวเองอยู่ตรงหน้า มดเขาสวรรค์ผู้ไร้พ่ายก็มีมุมอ่อนโยนเช่นกัน เดิมควรเป็นเจ้าแห่งวงการ ราชันแห่งยุค!


“ข้ารู้แล้ว” สือฮ่าวพึมพำ เขานึกออกแล้ว เขาจำเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อนได้แล้ว ตอนที่แสวงโชคในสนามเซียนโบราณ มีสายน้ำกาลเวลาขวางกั้น ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ข้ามเวลามาและได้เจอเขา!


หากไม่มีหญิงชุดขาวปรากฏตัว โจมตีบรรพชนต่างแดนจนล่าถอย สือฮ่าวคงเป็นอันตรายแล้วแน่


หญิงคนนั้นยืนอยู่ไกลมาก งามสง่า สร้างความประทับใจให้สือฮ่าวอย่างลึกซึ้ง เสียดายที่ไม่เห็นรูปโฉมที่แท้จริง สิ่งเดียวที่บ่งบอกตัวตนของนางได้คือหน้ากากผี แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นใคร


ในเมื่อเคยมีสองคนยืนอยู่บนสายน้ำแห่งกาลเวลา เช่นนั้นมดเขาสวรรค์ก็คงจะเป็นคนที่เห็นเขา


เพราะหากกล่าวถึงความสามารถ มดเขาสวรรค์นับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด นับว่าเป็นที่หนึ่งทาด้านกายเนื้อ อยู่เหนือวีรชน ไร้เทียมทาน!


“ผู้อาวุโสเห็นอนาคต มองเห็นข้าหรือ?” สือฮ่าวถาม


“เจ้ายังพูดไม่ถูก” มดเขาสวรรค์พูดแล้วหันกลับมามองเขา ในดวงตาสีทองมีดวงดาวหล่นร่วง ภาพที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายเข่นฆ่ากันฉายให้เห็น มันเป็นภาพที่โลกแตกทลาย กลายเป็นเก้าสวรรค์สิบพิภพ!


ตูม!


สือฮ่าวรู้สึกถึงพลังน่ากลัวโชยมาปะทะหน้า เสมือนเขายืนอยู่ในช่วงปลายยุคเซียนโบราณ เมื่อระบบสุริยะทลาย แผ่นดินทรุด สรรพสิ่งโรยรา


ชิ้ง!


เขาเห็นกระบี่สะท้านปฐพี มันเป็นสีเขียว หม่นแสง แต่กลับทะลวงจักรวาล จากนั้นก็จมหายไปในหน้าผากของตัวเอง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่ว


“อ๊าก…” สือฮ่าวร้องลั่น รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ ขนลุกขนชัน


ต่อมา เขาก็รู้แล้วว่า มันเป็นประสบการณ์ของใต้เท้ามดเขาสวรรค์ ตอนที่เขาสู้รบที่นี่ ถูกคนลอบสังหาร หนึ่งกระบี่ปักกลางหน้าผาก เลือดสาดย้อมผืนฟ้า


นี่เป็นการส่งต่อข้อมูลให้กับสือฮ่าว ให้เขาระวังศัตรูสูงส่งคนนั้น!


เคยมีสิ่งมีชีวิต ถือกระบี่สีเขียวเล่มหนึ่ง ทะลวงหน้าผากของมดเขาสวรรค์ ทำให้กายเนื้อที่ได้ชื่อว่าเป็นที่หนึ่งในจักรวาลบาดเจ็บ


“คนคนนั้นยังมีชีวิตอยู่” มดเขาสวรรค์พูด


คำพูดนี้ทำให้สือฮ่าวเชื่อว่า อีกฝ่ายกำลังชี้แนะเขา กำลังบอกว่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุดในวันหน้ามีใครบ้าง!


“ตูม!”


ต่อมา มีร่างสีดำปรากฏในดวงตาของมดเขาสวรรค์ มือใหญ่เท่าฟ้าฟาดลงมา บดบังผืนฟ้า


สือฮ่าวรู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจ ถูกพันธนาการชั่วคราว ขยับไม่ได้!


“หือ?” เขารู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก ชัดเจนเป็นที่สุด


คนนั้นนั่นเอง ผู้ยิ่งใหญ่ที่ทอดมองกาลเวลา เคยยืนมองจากเหนือแม่น้ำ จะปลิดชีพเขา สุดท้ายก็ถูกหญิงชุดขาวโจมตีจนล่าถอย


นี่คงเป็นสิ่งที่มดเขาสวรรค์เผชิญ เคยถูกคนคนนี้รังควาน!


“ชิ้ง!”


ลำแสงสะเทือนฟ้าทะลวงมิติ ทำลายจักรวาล มันเป็นทวนด้ามหนึ่ง หากปลายแหลมทิ่มแทง แม้แต่ดวงจิตก็คงแหลกสลาย เจิดจ้าจนตาแทบบอด


นี่เป็นฝีมือของมือต่างแดนคนที่สาม!


ทวนด้ามนี้รวดเร็วเหลือเกิน ทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้าเช่นกัน สิ้นเสียงดังผลุบ เลือดสาดกระจาย สือฮ่าวรู้สึกเหมือนหน้าอกถูกแทง จากนั้นกระดูกทั่วร่างก็หัก เส้นเลือดทั้งหมดขาดสะบั้น จากนั้นรังสีอำมหิตก็พุ่งเข้าไปในวิญญาณ!


นี่เป็นทวนทำลายล้างโลกา!


เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นประสบการณ์และชะตากรรมของมดเขาสวรรค์


มดเขาสวรรค์เคยคำรามลั่น ดวงดาวทั้งหลายในท้องนภาหล่นร่วง ซ้ำยังตอบโต้อย่างดุเดือด เข่นฆ่าศัตรู


“โลกใบเดิมถูกทำลาย กลายเป็นเก้าสวรรค์สิบพิภพ มีความเกี่ยวข้องกับศึกนี้ไม่น้อยเลย” สือฮ่าวอุทาน


จากนั้น เขาก็รู้สึกหน้ามืด ราวกับจะหมดสติแล้ว


สือฮ่าวรู้ว่า วันนั้นมดเขาสวรรค์ออกจากสนามรบพร้อมกับอาการบาดเจ็บสาหัส เขาจึงหลุดออกจากความรู้สึกแบบนี้ตามกัน


“ข้าฆ่าศัตรูไปนับไม่ถ้วน ปลิดชีพผู้อมตะที่ว่าคนแล้วคนเล่า แต่สิ่งมีชีวิตตนที่สามน่ากลัวยิ่งนัก ยังอยู่รอดมาได้” มดเขาสวรรค์พูด


ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตหลายตนที่น่ากลัวที่สุดของอีกฝั่งแน่นอน แต่ยังมีที่เลิศล้ำกว่า มดเขาสวรรค์ไม่รู้ เพราะหลังศึกนั้นเขาก็พิการเสียแล้ว


เดิมเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ ไร้พ่าย แต่กลับตกต่ำในสงครามโลกาวินาศ


ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ศึกนี้ต้องรุ่งโรจน์โชติช่วงแน่นอน จารึกลงหน้าประวัติศาสตร์ได้ ภาพที่สะเทือนฟ้าดิน สงครามโหดร้าย เป็นการประมือของผู้ดำรงอยู่ที่สูงส่งขนานแท้


น่าเสียดาย ทุกอย่างกลับคืนสู่ธุลีดิน ไม่มีอะไรให้บันทึก คนรุ่นหลังไม่รู้ ถูกลืมเลือนไปแล้ว


บางที คงมีแค่การเดินทางไปอีกฝั่งของดินแดน จึงจะได้รู้ ได้รู้อดีตบางอย่างของบรรพชนจากปากศัตรู


“ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นเจอศัตรูแบบไหน แต่ให้ความสนใจข้ามากจริงๆ มือดีทั้งสามลงมือพร้อมกับผู้อมตะจำนวนมาก หึ!” มดเขาสวรรค์ทำเสียงฮึดฮัด มีทั้งความเสียดายและเจ็บใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องตาย


“ข้าเห็นตัวเองเมื่อตอนหนุ่มจากตัวเจ้า แสวงธรรม อยู่เหนือความแข็งแกร่ง หากเจ้าเป็นเผ่าพันธุ์มดเขาสวรรค์ ข้าจะดีใจกว่านี้!” มดเขาสวรรค์พูด


ตอนนี้ กลิ่นอายของเขาน่ายำเกรง ผมสีทองหนานุ่มแผ่สยาย ดวงดาวรอบตัวแหลกสลาย ระเบิด เป็นภาพที่น่ากลัวอย่างยิ่ง!


ยืนตระหง่านกลางจักรวาล ทอดมองความผันผวนของกาลเวลา ดูความตกต่ำของเก้าสวรรค์สิบพิภพ เขาไม่ยินดียินร้าย ราวกับหลุดพ้น ไม่สนใจเรื่องใดอีกแล้ว


“ผู้อาวุโส ท่านเห็นอะไรบ้าง?” สือฮ่าวถามเขาด้วยความอยากรู้ยิ่งนักว่า อนาคตเป็นอย่างไรกันแน่


“ข้าตั้งใจว่าจะมองลูกข้าสักครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงเห็นเจ้าด้วย เขาอยู่กับเจ้า ร่วมสู้ศึกใหญ่ ไฟสงครามแผดเผาสวรรค์เก้าชั้นฟ้า!” นัยน์ตาของมดเขาสวรรค์แววโรจน์ ทรงพลัง เสมือนแผ่รัศมีอันน่ายำเกรงเมื่อครั้งยังหนุ่มอีกครั้ง อยากโถมตัวเข้าสู้ศึก


น่าเสียดายที่เขาเหลือเพียงกระแสจิตเท่านั้น


“ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?”


“เห็นไม่ชัดนัก” มดเขาสวรรค์ส่ายหน้า


“ไยจึงมองไม่เห็น?” สือฮ่าวไม่เชื่อมากนัก


“สงครามใหญ่ไม่คงอยู่นานมากนัก ศึกนี้น่ากลัวยิ่งกว่าที่พวกข้าเคยเผชิญเสียอีก ส่งผลกระทบกว้างไกล ข้าคิดไม่ถึงเลยว่า จะมีของบางอย่างโผล่มาด้วย!” มดเขาสวรรค์พูด


สือฮ่าวตะลึงงัน สงครามในอนาคตมีสิ่งอื่นด้วยหรือ? มัน…ชวนให้เสียวสันหลัง เก้าสวรรค์สิบพิภพจะมีหนทางรอดหรือไม่?


“ตั้งแต่จำความได้ ยุคสมัยที่มืดมนที่สุดจะมาเยือนแล้ว เหนือกว่าเซียนโบราณ น่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งที่พวกข้าเคยประสบ เจ้าเตรียมพร้อมหรือยัง เจ้ากลัวไหม?!” มดเขาสวรรค์ตะโกนเสียงดัง


“กลัวอะไร มันเป็นใครก็ยังไม่รู้ เข้ามาเลย!” สือฮ่าวพูด


“หากมีสักวัน ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ ทั่วฟ้าดินต่อสู้กันจนไม่มีสิ่งอื่นใด มีเพียงการศิโรราบ เจ้ายังกล้าต่อต้านอีกไหม?”


“กล้า!” สือฮ่าวพูดอย่างไม่ลังเล


“โลกกว้างใหญ่ไพศาล แต่เจ้ากลับโดดเดี่ยว สนามรบของคนคนเดียว หลั่งเลือดจากคนคนเดียว รบตั้งแต่วัยหนุ่มจนผมขาวโพลน ไปจนถึงอ้างว้างในช่วงบั้นปลายของชีวิต เลือดลมแห้งเหือด กระทั่งไฟแห่งชีวิตวูบไหว เจ้าจะสู้อีกไหม?” มดเขาสวรรค์ถาม


“สิ่งที่ท่านเห็น เป็นทั้งชีวิตของข้าหรือ?” สือฮ่าวถามเสียงเรียบ


“ข้าแค่ถามเท่านั้น” มดเขาสวรรค์พูด


“คนอื่นล่ะ ไยจึงเหลือข้าแค่คนเดียว?” สือฮ่าวถามเสียงดัง


“ข้าเห็นตอนจบสองประการ นี่เป็นหนึ่งในนั้น” มดเขาสวรรค์พูด


ยิ่งใหญ่อย่างเขา ยามมองชายหนุ่มตรงหน้า ในใจก็ว้าวุ่นเช่นกัน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า สิ่งที่คนคนหนึ่งต้องเผชิญ จะน่ากลัวยิ่งกว่ายุคสมัยของพวกเขาเสียอีก


“ตอบจบมีเพียงอย่างเดียว ไม่มีทางเป็นสอง!” สือฮ่าวพูด


“เพราะข้าเห็นไม่ชัดเจน บางอย่างทับซ้อนกัน พร่าเลือนไป มันเป็นสองภาพ มีของคนอื่น และมีของเจ้าด้วย ข้าจึงคิดได้แค่ว่าเป็นตอนจบสองประการ” มดเขาสวรรค์พูดตามความจริง


“ข้าไม่เชื่ออนาคตที่เห็นตอนนี้ ข้ายืนหยัดเชื่อว่า สองกำปั้นของข้าจะสร้างอนาคต บุกเบิกจักรวาลอันสวยงามได้แน่นอน!” สือฮ่าวกำมือแน่น น้ำเสียงหนักแน่นอย่างยิ่ง


เพราะไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่มีคนทำนายความเลวร้ายของอนาคตเขา เขาไม่มีทางยอมรับ เขาเชื่อในพลังของตัวเอง จะพลิกจักรวาล เขียนผลลัพธ์ใหม่!


“อนาคตมีศัตรูพวกไหนบ้าง?” สือฮ่าวถาม


“มีมากนัก มีบางส่วนเกรงว่าคนในยุคเซียนโบราณก็คิดไม่ถึง บางคนดำรงอยู่มาตลอด พร้อมโผล่ออกมา” แววตาของมดเขาสวรรค์ลุกเป็นไฟ


“เช่นสายเลือดผู้พิทักษ์ของเก้าสวรรค์สิบพิภพ พวกเขามีเลือดสีทองจริงหรือไม่ มาจากไหน? เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างจะชัดเจน! มีคนที่มาจากที่เดียวกับพวกเขาด้วย”


มดเขาสวรรค์ให้คำชี้แนะสำคัญ เขาถอนหายใจด้วยความเสียดาย อยากขอยืมเวลาจากสวรรค์สักห้าร้อยปี จะได้ไปต่อสู้กับคนพวกนั้น!


เขาเป็นผู้กล้าไม่ยอมจำนน บุคคลเย้ยโลกา ปรารถนาอยากรบกับผู้กล้าทั้งหมดในหล้า


“เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะพบว่า เก้าสวรรค์สิบพิภพไม่ใหญ่ สมรภูมิรบที่แท้จริงกว้างใหญ่ไพศาล ส่งผลกระทบกว้างไกลอย่างที่จินตนาการไม่ได้!” มดเขาสวรรค์พูด


คำพูดที่เหลือ เขาไม่อยากพูดให้มากความแล้ว เพราะสือฮ่าวยังไม่ถึงขั้นนั้น หากพูดตอนนี้ บางทีอาจทำให้เขารู้สึกท้อแท้สิ้นหวังเสียเปล่า


“ข้าต้องการคัมภีร์อมตะ!” สุดท้ายสือฮ่าวก็พูดเพียงเท่านี้


อาจหาญพูดกับมดเขาสวรรค์แบบนี้ เอ่ยขอคัมภีร์โดยตรงเช่นนี้ มีแค่ไม่กี่คน แต่เขากลับตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมเลย


“ดี ข้าจะชี้นำให้เจ้าไปเอา!” มดเขาสวรรค์ตอบอย่างเจ็บปวด เพราะเห็นเสี้ยวหนึ่งของอนาคต โลกแบบนั้นน่ากลัวเหลือเกิน การต่อสู้ดุเดือดยิ่งนัก


เขาหวังว่า จะมีหนึ่งคนในปฐพีนี้พุ่งผงาด ไปประลองสักตั้ง นำชัยชนะมาครอบครอง!


เป็นเพราะความโหดเหี้ยมของอนาคต และมดเขาสวรรค์หมายปองสือฮ่าว อยากบ่มเพาะเขา จึงไม่เสียเวลา และไม่เกรงใจ


“ชิ้ง!”


มดเขาสวรรค์ยื่นนิ้วออกไป ภาพที่มีดวงดาวหล่นร่วง พุ่งเข้าไปในหน้าผากของสือฮ่าวทันที!


“ตอนนั้น ข้าฝึกวิชานี้ สุดท้ายก็ไม่บรรลุขั้นสุดยอด มีความเป็นไปได้ว่า เป็นเพราะไม่ได้คัมภีร์ฉบับสมบูรณ์! ข้าหวังว่าเมื่อเจ้าไปถึงที่นั่นแล้ว จะนำคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ออกมาได้ อย่าต้องอาลัยแบบข้าเลย!” มดเขาสวรรค์เตือนสติ

 

 

 


ตอนที่ 1287

 

แสวงโชค

โดย

Ink Stone_Fantasy

ความเสียดายของมดเขาสวรรค์ ไม่บรรลุเป็นกายอมตะ มิเช่นนั้น จุดจบของเขาอาจไม่ใช่แบบนี้ก็ได้


แต่แม้จะฝึกคัมภีร์อมตะ บรรลุขั้นสุดยอด มีประสิทธิภาพเช่นนั้นจริงหรือไม่ก็ยังไม่รู้ มันชวนให้สงสัย เพราะผลลัพธ์น่าเหลือเชื่อเกินไป


ไม่ว่าร่างกายจะถูกฟันอย่างไรก็ไม่เป็นไร อยู่ยงคงกระพัน อยู่เหนือขอบเขตที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ เช่นนั้นมันจะแข็งแรงยิ่งกว่าทองคำเซียนไม่ใช่หรือ?


ตีรันฟันแทงไม่เข้า สรรพวิชารุกรานไม่ได้ ดำรงอยู่คู่ปฐพี แม้กระทั่งว่าดวงดาวดับสูญ เจ้าก็จะคงอยู่ตลอดไป!


กายเนื้อกลายเป็นแหล่งกำเนิด สามารถหล่อเลี้ยงดวงจิตในอดีตได้ มันเป็นการคืนชีพอันน่าเหลือเชื่อ หรืออาจเรียกว่าเป็นการฟื้นคืนดวงจิตก็ได้!


ร่องรอยบางอย่างประทับลงในใจสือฮ่าวอย่างลึกซึ้งเป็นล้นพ้น ประเมินไม่ได้


ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าทำไมมดเขาสวรรค์ถึงไม่สวดมนต์อมตะออกมาโดยตรง เพราะมดเขาสวรรค์สงสัยว่า อาจมีข้อผิดพลาดอยู่ อยากให้คนรุ่นหลังไปแสวงด้วยตัวเอง


หากมีวาสนา จะได้คัมภีร์ฉบับสมบูรณ์มาครอง เมื่อถึงตอนนั้น บางทีอาจสร้างตำนาน บุกเบิกเรื่องเล่าอันเป็นอมตะได้!


สือฮ่าวตกตะลึง คัมภีร์เล่มนี้มีอายุยาวนานเหลือเกิน เก่าแก่ถึงขั้นที่มดเขาสวรรค์ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เขียน แม้กระทั่งไม่รู้ว่ามาจากคนในยุคเซียนโบราณหรือไม่


เพราะอักษรมีความพิเศษอย่างมาก ขอเพียงหยั่งรู้ธรรมลึกซึ้งมากพอก็จะเข้าใจ สามารถใช้ได้ทุกยุคสมัย!


หมื่นวิชารวมเป็นหนึ่ง ร้อยเส้นทางบรรจบเป็นหนึ่ง ทุกเส้นทางเมื่อถึงปลายทาง มันล้วนเชื่อมต่อกัน เป็นเช่นเดียวกันในท้ายที่สุด!


มันน่าเหลือเชื่อมาก แต่กลับเป็นความจริง หากกล่าวตามข้อมูลที่มดเขาสวรรค์ให้ ไม่ว่าใครเดินไปถึงปลายทางก็จะค้นหาความเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน


“ผู้อาวุโส ต้องทำให้มันได้สติหรือไม่ ทักทายมันหน่อยไหม?” สือฮ่าวสงบสติอารมณ์ พูดกับมดเขาสวรรค์ พลางมองลูกชายของเขา


“ไม่ล่ะ ข้าตายไปแล้ว เป็นเพียงกระแสจิต รังแต่จะทำให้มันเศร้าเสียใจ ลูกข้าจะร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ได้ ข้าจะให้มันผงาดง้ำค้ำฟ้า ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง แบกฟ้าไว้ทั้งผืนได้ด้วยตัวมันเองในวันหน้า!” มดเขาสวรรค์ปฏิเสธ ผิดแผกไปจากคนอื่น


สือฮ่าวเงียบงัน บางทีนี่แหละจอมราชัน บางครั้งลักษณะนิสัยของบุคคลสูงส่งก็เข้มงวด เลือดเย็นจนเกินรับได้


สิ่งพวกเขาให้ความสำคัญคือความผิดชอบชั่วดี ไม่มีความสมบูรณ์แบบทางด้านความรู้สึกส่วนตัวมากนัก และเป็นเพราะเหตุนี้เอง จึงมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว


“ลาก่อน หลังหายไปครั้งนี้ บางทีอาจไม่ได้พบกันตลอดกาล!” มดเขาสวรรค์พูดจบ ก็กลายเป็นดวงไฟสีทอง พุ่งหายไปในคราบหัวมด


หัวมดสีทองหม่นหมอง ซ้ำยังมีรอยร้าวเส้นเล้นปรากฎขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน


มดเขาสวรรค์ทิ้งกระแสจิตไว้ จำต้องทุ่มเทมหาศาล ต้องใช้พลังปราณภายในร่างกาย


มันทำให้สือฮ่าวฉุกคิด ผู้ดำรงอยู่ที่เคยเย้ยหยันจักรวาลท่านนี้ ทิ้งกระแสจิตไว้เพื่ออะไร หรือยังมีความปรารถนา ไม่อยากดับสูญไปตลอดกาลหรือ?


ใจของเขากระตุก แววตาเป็นประกาย ครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาทันใด


“ควรตื่นได้แล้ว!” เขาตะโกนเสียงดัง อยากปลุกมดน้อยสีทองให้ตื่น


มดสีทองตัวใหญ่ปานขุนเขา นัยน์ตาแดงก่ำ ขาดสติ ดิ้นขลุกขลักอยู่ตรงนั้น นี่มันจะทำลายสรรพสิ่ง ทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิตชัดๆ


ตอนนี้หากร่างมหึมาขยับเพียงแผ่วเบา จะทำให้มิติแหลกละเอียด รอยแยกสีดำลุกลามไปทั่วทุกหนแห่ง


นี่แหละมดเขาสวรรค์ เมื่อคลุ้มคลั่ง ต่อให้ยังไม่เจริญวัย ก็มีอานุภาพสะเทือนปฐพีเช่นกัน!


เห็นได้ชัดว่า มันมีศักยภาพอันไม่สิ้นสุด มันไม่ใช่ทายาทเลือดไม่บริสุทธิ์อะไรเลย แต่เป็นทายาทของสิบอสูรขนานแท้ พรสวรรค์สะเทือนประวัติศาสตร์


“อ๊าก!”


เล็บสีทองตะปบลงมา มันไม่ได้สติ แต่กลับคลุ้มคลั่ง โจมตีสือฮ่าว


“ปัง!”


สือฮ่าวไม่กล้าบุ่มบ่าม กระตุ้นการหยั่งรู้ดั้งเดิม รอบกายถูกแสงสีเขียวห้อมล้อม กายเนื้อเจิดจ้า ยกมือแล้วยื่นออกไปปะทะกับมัน


ที่นี่ราวกับสายฟ้าฟาด ไม่ใช่แค่มิติที่แหลกละเอียด ยังทำให้วิญญาณสั่นสะท้านอีกด้วย!


“ยุ่งยากไม่น้อยเลย” สือฮ่าวขมวดคิ้ว เพราะนี่ไม่ใช่ร่างจริงของเขา เป็นเพียงดวงจิต ยากจะสำแดงเดชได้


ชิ้ง!


เขาควบภาพหมื่นเทพเจ้าออกจากที่นี่ จากนั้นกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว ยืนอยู่ข้างนอก รอมดน้อยตามมา


เป็นอย่างที่คิด ร่างสีทองมโหฬารไล่ตามออกมา แผ่นดินสั่นสะเทือน มันแผ่กลิ่นอายเฉพาะตัวของมดเขาสวรรค์ ทำเอาทหารเก่าทั้งหลายในถ้ำตกใจ


แกรก!


เขาบนหัวของมันเปล่งแสง ทำลายสรรพสิ่ง หมอกพุ่งออกมาพร้อมกับอักขระจำนวนมาก ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า มันเป็นเขาเซียนที่บดขยี้จักรวาลได้


สือฮ่าวพุ่งเข้ามาดังตึง ครั้งนี้เขาประสานอิน สำแดงวิชาคุนเผิง กำราบมดน้อย ต่างก็เป็นพลังของสิบอสูร


ท่ามกลางการประมืออันดุเดือด ร่างมหึมาก็ถูกสือฮ่าวกำราบให้อยู่ใต้อาณัติ จากนั้นเขาก็สยบสุดกำลัง มดน้อยคำรามในคอ หดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง กลับสู่สภาพเดิม


“ข้าเป็นอะไรไป เจ้าพบคัมภีร์อมตะแล้วหรือ?” มันได้สติกลับคืนมาแล้ว


“มีเบาะแสแล้ว แต่ไม่อยู่ที่นี่ ต้องไปค้นหา เจ้ายอมไปกับข้าไหม?” สือฮ่าวถาม ไม่เอ่ยถึงพ่อของมัน ไม่อยากให้มันเสียใจ


“เจ้าอยากหลอกให้ข้าตามเจ้าไปใช่ไหม?” มดน้อยสีทองนัยน์ตาลุกวาว ท่าทางลับๆ ล่อๆ เจ้าเล่ห์ ความหมายของมันคือ ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก


“ไปไม่ไปก็แล้วแต่เจ้า!” สือฮ่าวหันหลังจากไปทันที


“เดี๋ยวก่อน เจ้าได้เบาะแสของคัมภีร์อมตะจริงหรือ ข้าจะบอกให้นะ มันเป็นตำราประจำตระกูลข้า เจ้าจะเก็บไว้เองไม่ได้!” มดน้อยโวยวาย


“งั้นเจ้าไปกับข้าเถอะ เจ้ากลัวข้าทำร้ายเจ้าหรือ?” สือฮ่าวยิ้ม


“ขอข้าคิดดูก่อน!” มดน้อยขบคิด รู้สึกว่าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ผู้กล้าไม่มีทางเติบโตได้ในเรือนกระจกได้ ทหารเก่าทั้งหลายบอกเขาเสมอว่าอนาคตโหดเหี้ยมปานใด สงครามจะโหดร้ายอย่างไร หากตอนนี้ไม่ออกไปเปิดหูเปิดตา เมื่อวันนั้นมาถึง มันต้องเสียเปรียบเป็นแน่


“ได้ ข้าจะไป ออกไปท่องโลกคาวโลกีย์ที่ว่า ดูความวิเศษของยุคสักหน่อย มิเช่นนั้นคงจะพินาศสิ้นแน่” มดน้อยพูด


ยามทั้งสองเดินออกมา หลายคนก็พากันชะเง้อมอง นัยน์ตาเป็นประกาย อยากกลืนพวกเขาลงท้องเสีย


“ได้…คัมภีร์อมตะหรือไม่?” เฉาอวี่เซิงกลืนน้ำลาย พลางกระซิบถาม


ไม่นานเขาก็แก้ว่า “ไม่ได้แน่นอน ทุกคนเลิกคิดไปได้เลย รีบไปเสียเถอะ อย่าเพ่งเล็งเช่นนี้เลย”


เพราะเขากลัวว่าทุกคนจะลุกฮือขึ้นมาโจมตี เพราะมีผู้สูงส่งหลายคน หากร่วมมือกันขึ้นมาล่ะก็ ใครจะรับมือได้?


ไม่มีใครปริปาก พวกหลานเซียน อวี่หง มหาโสดาและเทพจื่อรื่อต่างก็มองสือฮ่าวกับมดสีทองตัวนั้น หมายอยากจับพิรุธอะไรจากใบหน้าของพวกเขา


นอกภูเขามีหมอกกระเพื่อม แต่ตอนนี้มันไม่เป็นมงคลแต่อย่างใด มีรังสีอำมหิตกำลังตลบอบอวล


“ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ข้าไม่เจอคัมภีร์ในถ้ำ” สือฮ่าวพูดอย่างซื่อตรง


คนที่อยู่ข้างหน้าพวกนั้นไม่พูดไม่จา ไม่แสดงท่าทีอะไร ยังคงจ้องเขากับมดน้อยไม่วางตา


เฉาอวี่เซิง ปีศาจสาว ฉางกงเหยี่ยนกับชาวสำนักเทพสวรรค์พากันรุมล้อมเขา เพื่อร่วมสู้กับเขา


“ไม่ต้องทำเช่นนี้” สือฮ่าวส่ายหน้า จากนั้นก็ก้าวออกไป มองผู้สูงส่งเหล่านั้น แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าคนนี้พูดคำไหนคำนั้น ไม่ปิดบัง หากพวกเจ้าไม่เชื่อ พวกเจ้าก็คิดเสียว่าข้าได้คัมภีร์อมตะแล้ว ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ ใครกล้าเข้ามาชิงบ้าง?”


เพียงชั่วพริบตา พวกคนสำนักเทพสวรรค์ที่อยู่ข้างหลังก็เบิกตากว้าง เลือดพลุ่งพล่าน รู้สึกว่าเลือดลมเดินสะดวก ตื่นเต้นยิ่งนัก


ฮวงอหังการอย่างแท้จริง แข็งกร้าวปานนี้ ไม่เสียเวลาอธิบายแต่อย่างใด แต่วางท่าบ่งบอกว่าใครไม่พอใจก็เข้ามา


ช่วงนี้ สำนักเทพสวรรค์กล้ำกลืนฝืนทนมาตลอด ถูกคนรังแกถึงถิ่น แต่กลับทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับ ต่างก็อัดอั้นตันใจ


“เจ้าหมายความว่าอย่างไร อยากท้าทายอำนาจของพวกเราทุกคนหรือ?” มีคนถามเสียงแข็ง


“เจ้าไม่พอใจหรือ? เข้ามา!” สือฮ่าวชี้หน้า ให้เขารับคำท้า ซ้ำยังเคลื่อนตัวแล้ว พุ่งเข้าใกล้ประชิด จะเป็นฝ่ายลงมือ


“ช่างเถอะ พวกข้าเชื่อ” มหาโสดาเอ่ย คลี่คลายการต่อสู้ที่จวนจะปะทุ


“สหายสืออย่าทำเช่นนี้เลย สักวันเราย่อมต้องได้ร่วมมือกัน ไม่ใช่ศัตรู อย่าได้เข่นฆ่ากันเลย” หลานเซียนยิ้มบางๆ


สือฮ่าวนิ่งเฉย ไม่พูดอะไร ก่อนหน้านี้คนพวกนี้ยังลงมือกับเขา กลับคำได้เร็วเสียจริง แต่เขาก็ไม่อยากแตกหักเช่นกัน


“ไป!”


สือฮ่าวเดินออกไป ผู้คนของสำนักเทพสวรรค์ก็ตามกันไป เหล่าผู้สูงส่งไม่มีใครขวาง ปล่อยให้พวกเขาจากไป


“ต๋อม!”


ต่อมาไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็กระโดดลงทะเลสาบ ที่นี่มีไอน้ำขมุกขมัว กระจายไปทั่ว


“นี่ก็เป็นอ่างอาบน้ำของข้าเช่นกัน ข้างในมียาขั้นเทพหลายต้น” มดสีทองพูด มีหนอนบ่อนไส้เช่นมันนำทาง ช่างเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวง


น่าเสียดาย มีแค่ยอดเขาสองลูกที่เปิด หนึ่งเป็นที่อยู่ของมดเขาสวรรค์ ซึ่งก็คือที่ซึ่งพวกเขาไปมาเมื่อครู่


ในเมืองมีภูเขาทั้งหมดเก้าลูก ลูกที่สองก็คือที่นี่ อยู่ติดกับทะเลสาบ


น่าเสียดายอย่างยิ่ง จุดลึกของบริเวณนี้อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตเข้าไปแค่ตนเดียว นั่นก็คือกิเลนขาว มันเป็นทายาทสิบอสูร


เหล่าทหารเก่าบอกตั้งนานแล้วว่า ใต้เท้ากิเลนทิ้งของบางอย่างไว้ที่นี่ ควรให้ทายาทของมัน คนอื่นแย่งชิงไม่ได้


ส่วนภูเขาอีกเจ็ดลูก บางแห่งว่างเปล่า บางแห่งพิลึก มีค่ายกลวิถีเซียน ไม่ว่าใครก็บุกเข้าไปไม่ได้


เรื่องราวของยอดเขาทั้งเจ็ดนั้น เหล่าทหารเก่าพูดไว้คลุมเครือ ไม่บอกชัดว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ไม่แนะนำให้คนไปแสวงโชคที่นั่น


มรดกราชันเซียนที่ว่า จะมอบให้ทายาทที่สืบสายเลือดเซียนโบราณเท่านั้น!


“เอ๊ะ บ่อโคลนนี่ประหลาดนัก ทำให้หนังหลุดลอกได้ แทบจะถอดรูปแปลงร่างแล้ว” มีคนพบสถานที่วิเศษ อยู่ไม่ห่างจากทะเลสาบ


“ตอนนั้น มียาอายุวัฒนะเติบโตที่นั่น แถมยังมียาขั้นเทพนานาชนิด เป็นสวนสมุนไพร เคยมีสมุนไพรมากมายเน่าเปื่อย แปรสภาพของดิน แม้จะกลายเป็นโคลน แต่ก็มีประสิทธิภาพอันน่าตกใจ” ทหารเก่าคนหนึ่งพูด


ทันใดนั้น พวกเฉาอวี่เซิง เจินกู่กับเถิงยีก็พุ่งตัวออกไป ไม่แยแสภาพลักษณ์ เริ่มใช้โคลนป้ายตามตัว


ไม่พูดไม่ได้ว่า ที่นี่มีสรรพคุณวิเศษ หลายคนหนังกำพร้าหลุดลอก เผยให้เห็นผิวหนังใหม่เอี่ยมทันที


สุดท้าย แม้แต่นักพรตหญิงก็อดรนทนไม่ไหว พุ่งตัวออกไปแล้ว


นอกจากนี้ พวกหลานเซียน เทพจื่อรื่อกับหวางซี ลวี่ถัว องค์หญิงเยาเยว่ที่ตามมาทีหลังก็พากันเคลื่อนไหว จำนวนคนมากขึ้นเรื่อยๆ


สือฮ่าวก็ลองดูเช่นกัน พบว่าไม่เกิดผลมากนัก เพราะในสามปีที่เขาแปรสภาพ กายเนื้อถูกขัดเกลาจนวิปริตผิดคนไปแล้ว


ท้ายที่สุด ขณะที่ทุกคนสรวลเสเฮฮา สือฮ่าวก็ทักทายเหล่าทหารเก่า ขอให้พวกเขาช่วยดูแลคนของสำนักเทพสวรรค์ จากนั้นก็พามดน้อยไปจากที่นี่


เขาหันหลังให้ดินแดนโบราณที่มีมรดกของราชันเซียนอย่างเด็ดเดี่ยว ขึ้นมาบนผืนดินพร้อมกับมดเขาสวรรค์!


“จะไปไหน จะได้คัมภีร์อมตะจริงหรือ?” มดสีทองร้อนรุ่มในใจ ตื่นเต้นยิ่งนัก


“แน่นอน ซ้ำยังเป็นคัมภีร์อมตะฉบับสมบูรณ์ แต่ต้องอันตรายเป็นแน่!” สือฮ่าวตอบ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)