Monster Paradise 1598-1599

 ตอนที่ 1598 เพลิงหายนะ 


.


ในวังจอมเทพ หลินฮวงคัดรางวัลที่เขาได้รับจากการเดินทางไปหุบเหวอย่างอดทน


 


ผลประโยชน์สูงสุดคือระดับพลังเขาที่ทะลวงผ่านสองชั้น เขาได้เลื่อนจากเทพแท้จริงขั้นแปดเป็นขั้นสิบ


 


แม้เขาจะยังไม่ถึงจุดสูงสุดของขั้นสิบ เขาก็เชี่ยวชาญกฏกว่าพันห้าร้อยล้านประเภทแล้ว


 


ตามสถิติก่อนหน้า หลินฮวงเดาว่าเขาอาจต้องสะสมให้ถึงพันแปดร้อยล้านเพื่อถึงขีดจํากัด


 


นี่ไม่ยากสําหรับหลินฮวงเลย มันเป็นแค่เรื่องของเวลา


 


ในความเป็นจริง ตอนนี้เขาสามารถเริ่มคิดถึงวิธีเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ได้


 


แต่ทว่า เขาเก็บปัญหานั้นไว้ก่อนและเริ่มตรวจสอบผลประโยชน์ที่ได้


 


ตลอดหนึ่งเดือนของการฆ่ามอนสเตอร์ระดับเทพสวรรค์ต่างๆในหุบเหว นอกจากปล้นพลังกฏเทพ เขายังปล้นห่วงโซ่ลําดับเทพได้กว่าสองพัน ห่วงโซ่ลําดับเทพในเขตแดนเทพภายในตัวเขามีเกินสามพันแล้ว


 


เขาได้รับเศษเสี้ยวเขตแดนเทพกว่าห้าพัน


 


โดยทั่วไป คนส่วนใหญ่ไม่กล้าหลอมเศษเสี้ยวเขตแดนเทพของสิ่งมีชีวิตหุบเหว เพราะมันยังมีพลังงานหุบเหวจํานวนมากอยู่ภายใน พลังงานเช่นนั้นปนเปื้อนมาก


 


แต่ทว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาสําหรับหลินฮวง


 


เพลิงนิรันดร์ที่ทิ้งไว้โดยนิ้วทองคําของฉีหมิงเซี่ยงสามารถดูดและแปลงพลังงานทุกชนิดได้รวมถึงพลังงานหุบเหว


 


คนอื่นคงกลัวพลังงานหุบเหว กังวลว่าอาจปนเปื้อน แต่ทว่า สําหรับเพลิงนิรันดร์ พลังงานหุบเหวช่างหอมหวาน


 


ทั้งหมดที่หลินฮวงต้องทําคือรอให้เพลิงนิรันดร์กลืนพลังงานหุบเหวจนหมด จากนั้นก็เริ่มหลอมและผสานเศษเสี้ยวเขตแดนเทพกว่าห้าพัน


 


นอกจากทรัพยากรเหล่านี้ที่เขาสามารถใช้ได้โดยตรง หลินฮวงยังได้รับวัตถุดิบจํานวนมากจากสิ่งมีชีวิตหุบเหว ไม่ใช่แค่นั้น ส่วนใหญ่คือวัตถุดิบระดับเทพสวรรค์


 


พวกมันถือเป็นของวิจัยระดับสูง หลายคนยังสามารถใช้เพื่อหลอมอาวุธและยา


 


ตามปริมาณและคุณภาพของวัตถุดิบที่เขาครอบครองตอนนี้ หลินฮวงรู้สึกว่าเขาจะได้รับราคาดี


 


โดยธรรมชาติ รายได้เขารอบนี้ยรวมถึงต้นนิพพานกว่าร้อย แต่หลินฮวงไม่วางแผนขายพวกัน


 


เวอชุโอโซได้ให้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับต้นนิพพานมา เพียงแค่เขามองเขาก็ตระหนักทันทีว่าต้นไม้เหล่านี้มีค่ามากแค่ไหน ถ้าเขาไม่บังคับเก้าเถาวัลย์ให้จนตรอก อีกฝ่ายคงไม่คิดใช้พวกมันและพวกเขาก็คงไม่ได้พวกมันสักต้น!


 


นอกจากผลประโยชน์ผิวเผินเหล่านี้ หลินฮวงยังได้รับการ์ดทักษะกับการ์ดมอนสเตอร์หลายใบจากเสี่ยวเฮย


 


ท่ามกลางการ์ดมอนสเตอร์กว่าสิบ นอกจากเก้าเถาวัลย์เกราะเงินระดับเทพสูงสุด ผู้เป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้า ยังมีการ์ดมอนสเตอร์ระดับกึ่งเทพสูงสุดสองใบ พวกมันคือความโลภจากเผ่ามารพุทธ และริษยา ทั้งสองครอบครองพลังต่อสู้ระดับสูง และก็ถือเป็นเทพสวรรค์ชั้นเจ็ด


 


หลังใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อคัดของ สุดท้ายหลินฮวงก็เอาของที่มีมูลค่าสูงสุดจากมิติเก็บของออกมา


 


วัตถุนี้คือสีแดง เป็นผลึกขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือทรงสามเหลี่ยม สีมันคล้ายกับทับทิมต้องแสง แต่รูปร่างมันเหมือนเศษกระจกแตกชิ้นใหญ่


 


ของชิ้นนี้ที่ไม่แผ่ร่องรอยพลังเทวะสักนิดคือค่าจ้างของเวอชุโอโซที่จ่ายให้เขาเศษเสี้ยวผนึกวิญญาณ


 


ผนึกวิญญาณคือสิ่งที่หลงเหลือของผนึกเต๋าหลังจ้าวเทวะตาย


 


เนื่องจากผนึกเต๋าอาจโดนบดขยี้เป็นชิ้นส่วนที่ต่างกัน แต่ละชิ้นจึงมีข้อมูลต่างกัน


 


ตัวอย่างเช่นชิ้นส่วนผนึกดาบที่หลินฮวงได้รับจากเวอชุโอโซก่อนหน้า ในความเป็นจริง ไม่ใช่ชิ้นส่วนผนึกดาบทั้งหมดที่จะมีมรดกเต๋าดาบ บางอันอาจมีมรดกเต๋าดาบสมบูรณ์ ขณะที่บางอันอาจมีมรดกเต๋าดาบไม่สมบูรณ์ และบางอันอาจมีแค่ทักษะดาบหรือภาพความทรงจําเกี่ยวกับการบ่มเพาะ


 


พูดง่ายๆ การหลอมชิ้นส่วนผนึกเต๋าก็เหมือนการเปิดกล่องลับ


 


คนโชคดีอาจได้รับมรดกสมบูรณ์จากเส้นทางบ่มเพาะหลักของจ้าวเทวะ คนที่โชคไม่ดีอาจได้แค่ภาพความทรงจํา


 


ทันทีที่หลินฮวงกลับสู่มหาพิภพ เขาก็อดใจรอไม่ไหวที่จะเข้าวังจอมเทพ นอกจากคัดของ วัตถุประสงค์หลักของเขาคือเปิดกล่องลับ…ไม่สิ เพื่อหลอมชิ้นส่วนผนึกวิญญาณนี้


 


เขาเพ่งมองชิ้นส่วนผนึกวิญญาณในมือ แสงสีแดงภายในผลึกดูเหมือนลาวา มันยังคล้ายกับถ่านไฟที่ติดไฟ


 


หลินฮวงมีความคิดคร่าวๆถึงเส้นทางบ่มเพาะหลักของเต๋าดาบนี้ของจ้าวเทวะ


 


โดยไม่ลังเล เขาแผ่จิตเทวะออกไปและห่อหุ้มมันรอบชิ้นส่วนผนึกวิญญาณ วาดมันระหว่างคิ้ว


 


ภายใต้การนําของจิตเทวะ ชิ้นส่วนผนึกวิญญาณตกมาเหมือนอุกกาบาต มุ่งตรงเข้ามิติภายในตัวหลินฮวง


 


วินาทีที่มันตกเข้ามิติภายในตัว ผลึกก็เริ่มเผาไหม้อย่างแรง แผ่ประกายไฟนับไม่ถ้วน


 


ในเวลาเดียวกัน ลวดลายเทวะสีทองนับไม่ถ้วนก็สว่างบนผิวผลึก แสงจากมันยิ่งสว่างขึ้น


 


หลังลวดลายสว่าง ผลึกทั้งชิ้นก็เริ่มแสดงรายร้าว ไม่ใช่แคนั้น พอลวดลายเทวะยิ่งสว่าง รอยร้าวก็ยิ่งใหญ่


 


สุดท้าย ผลึกก็สลายอย่างสมบูรณ์ เปลี่ยนเป็นดาวสีแดงเลือด


 


ในขณะเดียวกัน ลวดลายเทวะก็หมุนอย่างรวดเร็วเหมือนงูสีทองตัวน้อยที่วิ่งใส่วิญญาณดาบของหลินฮวง


 


พวกมันเปลี่ยนเป็นกระแสแสงสีทองที่เจาะกึ่งกลางระหว่างคิ้วของวิญญาณดาบ


 


แทบจะในเวลาเดียวกัน หลินฮวงรู้สึกปวดหัวและข้อความแปลกๆไร้สิ้นสุดก็พุ่งเข้ามาทันที


 


เขารีบใช้จิตเทวะตรวจดูว่ามีมรดกเคล็ดบ่มเพาะอะไรไหม แต่ทว่า เขาไม่คิดหาเคล็ดบ่มเพาะวิญญาณของเทพ เขากลับพบแค่เคล็ดบ่มเพาะธาตุไฟที่เรียกว่าเพลิงหายนะ


 


ขณะที่หลินฮวงกําลังรู้สึกผิดหวัง เขาก็เห็นประกายไฟส่องสว่างบนคิ้วของวิญญาณดาบ


 


“นี่ นี่คือประกายไฟของเพลิงหายนะ?!” ข้อความมรดกถูกส่งเข้าหัวของหลินฮวงทันที


 


หลังประกายไฟสว่าง มันก็เริ่มลุกลามจากคิ้วของวิญญาณดาบด้วยความเร็วสูง ภายในหนึ่งลมหายใจ มันก็ครอบคลุมทั้งวิญญาณดาบ


 


“เกิดอะไรขึ้น?!”


 


หลินฮวงตกใจตอนเห็น เขายังมึนงงเล็กน้อย


 


ความเจ็บปวดมหาศาลและความรู้สึกร้อนแผดเผาที่แผ่จากวิญญาณดาบยังทําให้เขาเจ็บปวดเหมือนจะตาย การแผดเผานี้ยังเจาะจงที่วิญญาณเทพของเขา


 


แต่ทว่า ไม่ช้าเขาก็เห็นฉากที่น่ากลัวยิ่งกว่า


 


ไฟจากเพลิงหายนะไม่เพียงลุกลามไปทั่วทั้งตัววิญญาณดาบแต่ยังเริ่มลุกลามไปพื้นที่นอกวิญญาณดาบ


 


วันเวลาผ่านไป ท่ามกลางความเจ็บปวดสุดระทม หลินฮวงมองไฟแผดเผาทุกสัดส่วนภายในตัวเขา


 


ไฟยังลุกลามมานอกร่างกายเขาจนกระทั่งกายเนื้อของเขาเริ่มไหม้


 


แม้กระทั่งกายพลังจิตของเขาก็ยังติดไฟทุกเส้น


 


ความรู้สึกแผดเผารุนแรงกระจายไปทุกเส้นประสาทในตัวหลินฮวง เขาคิดไม่ออกเลยถึงวิธีดับไฟ แต่ทว่า วลีหนึ่งก็แวบผ่านหัวเขา


 


“จิตวิญญาณแท้จริงจักไม่ตาย มันจะคืนชีพท่ามกลางหายนะนับไม่ถ้วน!”


 


ท่ามมกลางความสับสน หลินฮวงไม่อาจจําได้ว่าเขาไปเห็นวลีนี้ตอนไหน แต่ทว่า สุดท้ายเขาก็เริ่มสงบอารมณ์ตัวเอง เขาไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดและเข้าสู่สภาวะว่างเปล่า


 


ร่างกายที่แผดเผาในวังจอมเทพเสียพลังชีวิตมันทีละนิด


 


หนึ่งวัน สองวัน สามวัน..


 


ร้อยวัน สองร้อยวัน สามร้อยวัน…


 


พันวัน สองพันวัน สามพันวัน


 


ไฟแผดเผาอยู่3333วันเต็มก่อนจะมอดดับไป


 


ณ จุดที่หลินฮวงนั่งสมาธิอยู่นั้น มันเหลือเพียงร่างกายที่ไหม้เกรียม แม้กระทั่งเค้าโครงหน้าก็ยังไม่เหลือสภาพเดิม


 


หลังผ่านไปสักพัก พลังชีวิตกลุ่มหนึ่งพลันระเบิดจากร่างที่ไหม้เกรียม


 


ศพไหม้เกรียมที่นั่งสมาธิอยู่พลันลืมตาขึ้น


ตอนที่ 1599 หลินฮวงปะทะดาบหนึ่ง


 


หลินฮวงไม่คิดเลยว่าผลประโยชน์ที่เขาได้รับจากชิ้นส่วนผนึกวิญญาณจะเกินความคาดหมายขนาดนี้


 


แม้จะไม่มีมรดกเต๋าวิญญาณในชิ้นส่วนผนึกวิญญาณ แต่ก็ยังมีประกายไฟเพลิงหายนะภายใน


 


ทันทีที่มั่นผสาน ประกายไฟก็พวยพุ่ง ไม่เพียงไฟจะขยาย แต่มันยังชะล้างภายในตัวหลินฮวง


 


หลินฮวงตรวจสอบและพบว่าผลประโยชน์ที่เขาเก็บเกี่ยวนั้นสูง


 


พลังกายเขาที่แต่เดิมเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นเก้า ตอนนี้กลับไปถึงจุดสูงสุดของเทพสวรรค์ชั้นเก้าแล้ว


 


พลังกายของเขาไม่อ่อนแอกว่ายอดฝีมือชั้นนําคนใดเลย


 


วิญญาณเทพของเขาแข็งแกร่งพอจะไปถึงเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด ซึ่งอาจเป็นรองแค่ผู้บ่มเพาะเต๋าวิญญาณระดับเทพสวรรค์ชั้นเก้า


 


แม้กระทั่งความเร็วการหมุนเวียนทั่วไปของไร้รอยต่อก็ยังเพิ่มขึ้นประมาณสามเท่า จํานวนด้ายพลังจิตที่แบ่งแยกต่อชั่วโมงเพิ่มเป็นเก้าพัน


 


จิตเทวะของเขายังไปถึงจุดสูงสุดของระดับเทพสวรรค์


 


ถ้าเขาใช้แค่อาวุธพลังจิต เขาจะยังเทียบได้กับยอดฝีมือเทพสวรรค์ชั้นเก้าชั้นนํา


 


การเสริมพลังให้วิญญาณดาบโดยไฟยังทําให้หัวใจดาบของหลินฮวงกลายเป็นเจิดจรัสยิ่งกว่าเดิม เขาเพิ่งเลื่อนระดับเต๋าดาบหัวใจสวรรค์ไปไม่นาน และตอนนี้เขาก็ไปถึงจุดสูงสุดแล้ว


 


นอกจากนั้น ขนาดของทั้งเขตแดนเทพเขายังเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว


 


พูดได้ว่าผลประโยชน์ที่หลินฮวงเก็บเกี่ยวได้จากเพลิงหายนะมากกว่าที่เขาได้รับจากมรดกเต๋าวิญญาณซะอีก


 


ยังไงซะ ในความเป็นจริง หลินฮวงไม่ขาดมรดกเตวิญญาณ เขายังไม่ย่อมมรดกพลังจิตระดับถึงจ้าวเทวะที่ได้จากนครหลวงเทพ


 


มรดกนั้นได้จากผู้ใช้พลังจิตระดับกึ่งจ้าวเทวะ และหลินฮวงก็รู้สึกว่ามันเหมาะกับเขามาก


 


ไม่ใช่แค่นั้น ภาพจําแลงจิตเทวะไร้ชื่อจากมรดกนั้นมาจากอารยธรรมลึกลับในยุคโบราณ ตามความทรงจําของหลินฮวง กิ่งจ้าวเทวะผู้นี้ยังสร้างมันไม่สมบูรณ์


 


ในบรรดาภาพจําแลงร้อยแปดภาพ หลินฮวงมองเห็นเพียงแปดสิบภาพเท่านั้น


 


ด้วยความที่มันต้องใช้เวลาในการสร้างภาพเหล่านั้น เขาจึงต้องเป็นพวกมันไปก่อน


 


ความคิดของหลินฮวงล่องลอยไปสักพักก่อนจะมองเปลวไฟสีแดงที่แผดเผาในฝ่ามือเขา


 


“เพลิงหายนะ”


 


นี่คือเปลวไฟที่สามารถเกื้อหนุนการบ่มเพาะ จุดประสงค์หลของมันคือช่วยเหลือในการบ่มเพาะเตวิญญาณ แต่มันยังใช้ช่วยเหลือในการบ่มเพาะร่างกายได้อีกด้วย


 


เนื่องจากเพลิงหายนะมีคุณสมบัติพิเศษ มันจึงสามารถกินไฟชนิดใดก็ได้ มันยังสามารถคัดลอกคุณลักษณะของไฟทั้งหมดที่มันกินได้อีกด้วย


 


มันยังสามารถเลียนแบบกฏเทพไฟและห่วงโซ่ลําดับเทพไฟชนิดต่างๆได้อีกด้วย


 


แต่ทว่า หลินฮวงกําลังคิดถึงบางสิ่งขณะจ้องเพลงหายนะที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดบนฝ่ามือ


 


เวอชุโอโซรู้ไหมว่ามีเพลิงหายนะนี้ซ่อนอยู่ในมรดก?!


 


ต้องรู้ว่าหลินฮวงเกือบโดนเพลิงหายนะฆ่าตาย


 


มรดกนี้ดันช่วยเหลือเขาให้ก้าวหน้าก็จริง แต่ทว่า มันก็ยังซ่อนเจตนาฆ่าเอาไว้


 


ถ้าเวอชุโอโซรู้จริงว่ามีเพลงหายนะซ่อนในมรดก มันก็พิสูจน์ชัดว่าเขาตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ฆ่าหลินฮวง 


 


แต่ทว่า พอคิดให้ดี หลินฮวงก็รู้สึกว่าเวอชุโอโซไม่น่าจะรู้เกี่ยวกับเพลิงหายนะ


 


หลังบรรลุข้อตกลงกับเวอชุโอโซเรื่องเดินทางไปหุบเหว หลินฮวงได้ใช้ช่องทางของเคียวแห่งความตายเพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับชิ้นส่วนผนึกเต๋าที่เขาได้รับเป็นค่าจ้างล่วงหน้า


 


ผ่านพลังเทวะขั้นสูง ถึงจ้าวเทวะกับจ้าวเทวะสามารถพบลักษณะของชิ้นส่วนผนึกเต๋าต่าง ๆ และได้ข้อมูลทั่วไป แต่พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่ามีข้อมูลอะไรบรรจุอยู่นั้น


 


มีเพียงการหลอมถึงพบรายละเอียดของเนื้อหาในนั้น


 


นอกจากนี้ ชิ้นส่วนผนึกเต๋าแต่ละชิ้นจะประทับในตัวผู้หลอมหลังหลอม มันไม่สามารถดึงออกมาได้เว้นแต่ผู้หลอมจะตาย


 


ยังมีอีกเหตุผลว่าทําไมหลินฮวงถึงรู้สึกมั่นใจว่าเวอชุโอโซน่าจะไม่รู้เรื่องเพลิงหายนะ


 


ตอนเวอชุโอโซชวนหลินฮวงให้เขาหุบเหวกับพวกเขา เงื่อนไขที่เสนอคือจ่ายให้หลินฮวงก่อนด้วยชิ้นส่วนผนึกดาบ ด้วยชิ้นส่วนผนึกดาบที่ต้องจ่ายพอเสร็จสิ้นภารกิจ มันคือหลินฮวงที่ขอชิ้นส่วนผนึกดาบกับชิ้นส่วนผนึกวิญญาณก่อน


 


ถ้าทั้งสองให้โดยข้อตกลงแรกเริ่มของเวอชุโอโซ หลินฮวงย่อมเลือกชิ้นส่วนผนึกวิญญาณก่อน


 


ถ้าเขาตายตอนนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรสําหรับเวอชุโอโซตอนเข้าหุบเวห


 


ความระมัดระวังเกินจริงของหลินฮวงไม่ใช่เพราะเขาขาดความไว้วางใจในมิตรสหาย


 


มันแค่ว่าหลังได้ยินเรื่องของหยางหลิง เขาอดระวังมากขึ้นไม่ได้


 


ไรเดอร์สามารถสามารถปลอมตัวเป็นน้องชายของหยางหลิง นอนอยู่รอบตัวเขาเป็นเวลากว่าหมื่นปีเพียงเพื่อหาโอกาสปล้นนิ้วทองคํา


 


เป็นไปได้มากที่พวกเขาจะปลอมตัวเป็นตัวตนใดเพียงเพื่อได้ใกล้ชิดกับหลินฮวง


 


ในความเป็นจริง หลินฮวงไม่ไว้วางใจศูนย์ใหญ่สโมสรนัก นับประสาอะไรกับสาขา


 


ท้ายที่สุด ทุกอย่างเกี่ยวกับสโมสรที่เขารู้ รวมถึงจุดยืนพวกเขาในการต่อต้านพวกไรเดอร์ถูกกเปิดเผยโดยสมาชิกสโมสรเอง


 


เขายังไม่สามารถหาอะไรเกี่ยวกับสโมสรได้บนช่องทางอื่น


 


โชคดี ครั้งนี้มันเป็นควันทั้งหมด ไร้ซึ่งไฟ ไม่ใช่แค่เขาจะไม่ตาย แต่เขายังก้าวหน้า


 


เขามั่นใจในตัวเองมากพอแล้ว นอกจากจ้าวเทวะหรือถึงจ้าวเทวะ เขาไม่กลัวใคร


 


หลินฮวงเก็บไฟในฝ่ามือไป ดวงตาของเขาทอประกาย เขาลุกขึ้น ผลักเปิดประตูวังจอมเทพ


 


ตอนเขาเห็นหลินฮวงออกจากการปิดประตูบ่มเพาะ ดาบหนึ่งก็รีบลุกขึ้นยืนจากท่านั่งสมาธิ


 


มันไม่สําคัญว่าหลินฮวงจะอยู่ที่วังจอมเทพหรือไม่ ดาบหนึ่งไม่เคยละทิ้งตําแหน่งเขาในฐานะผู้พิทักษ์ ทั้งวันทั้งคืน เขาจะยืนเฝ้าประตูวังจอมเทพ


 


ตอนเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหลินฮวง ความยินดีก็ฉายผ่านดวงตาของดาบหนึ่งอีกครั้ง


 


“ท่านดูเหมือนจะก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว ท่านจอมดาบ”


 


“ก็นิดหนึ่ง”


 


“หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยและก้าวไปข้างหน้า เขาพลันหันไปมองดาบหนึ่ง”


 


“ดาบหนึ่ง ไปลานประลองกับข้า ข้าอยากทดสอบพลังแท้จริงของข้า”


 


“ขอรับ ท่านจอมดาบ” ดาบหนึ่งตอบตกลงโดยไม่ลังเล เขาเองก็อยากรู้ว่าตอนนี้หลินฮวงแข็งแกร่งแค่ไหนแล้ว


 


เหตุผลหนึ่งว่าทําไมหลินฮวงถึงเลือกดาบหนึ่งเป็นคู่ซ่อมคือเขาอยู่ใกล้สุด อีกเหตุผลคือความสามารถของดาบหนึ่งถือว่ามากสุดในบรรดาเทพสวรรค์ทั้งหมด ถึงขั้นใกล้เคียงกับกิ่งจ้าวเทวะ


 


หลินฮวงอยากรู้ว่าความสามารถของเขาไปถึงระดับเดียวกันกับดาบหนึ่งหรือยัง ถ้าไม่ เขาก็อยากรู้ว่าเขาไปได้ไกลแค่ไหน


 


ทั้งสองเข้าลานประลองและสู้กันอย่างดุเดือดถึงหนึ่งวันเต็มก่อนยุติ


 


ในความเป็นจริง ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังเริ่มการต่อสู้ หลินฮวงก็รู้แล้วว่าความสามารถของเขายังขาดถ้าเทียบกับดาบหนึ่ง


 


แค่จํานวนพลังลําดับเทพที่ทั้งคู่สามารถใช้ได้ หลินฮวงก็ยังด้อยกว่าแล้ว


 


แม้เพลิงหายนะจะทําให้หลินฮวงแกร่งขึ้น แต่ร่างกายกับจิตวิญญาณของเขาสามารถรองรับห่วงโซ่ลําดับเทพมากสุดได้แค่ 18


 


ในฐานะสุดยอดอัจฉริยะ ดาบหนึ่งเชี่ยวชาญห่วงโซ่ลําดับเทพถึง 31 สาย ถึงแม้เวจะสะกดพลังตัวเองไว้ระดับของหลินฮวง ใช้แค่ 18 สาย ความคุ้นเคยของเขาต่อพลังลําดับเทพกับประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่หลินฮวงเทียบไม่ติด


 


สําหรับดาบหนึ่ง ผลประลองคือเสมอ แต่หลินฮวงรู้ตัวดีว่าเขาแพ้


 


ในมหาพิภพ ความสามารถของดาบหนึ่งถือเป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือที่อยู่ใต้ถึงจ้าวเทวะ


 


การสามารถเผชิญหน้ากับยอดฝีมืออย่างนี้ได้อย่างสูสีถือเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงความสามารถของหลินฮวงแล้ว


 


ตอนดาบหนึ่งทําการประลอง ไม่มีทาสดาบคนอื่นเป็นพยาน


 


แต่ทว่า วันถัดมาหลังหลินฮวงไป ทาสดาบบางคนก็ยังรู้เรื่องการประลองว่าหลินฮวงกับดาบหนึ่งสูสีกัน


 


ข่าวกระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนไฟป่า ทั้งหมดต่างเหลือเชื่อตอนได้ยิน แต่หลังจากนั้นความชื่นชมของพวกเขาที่มีต่อหลินฮวงก็ยิ่งเท่าทวี


 


มีแค่ดาบหนึ่งถึงยังนั่งหน้าประตูวังจอมเทพ ทําตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


 


แต่ทว่า ถ้าทุกคนเพ่งมองให้ดี พวกเขาจะเห็นว่ามุมปากของดาบหนึ่งขดขึ้นเป็นรอยยิ้ม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)