Monster Paradise 1570-1572
ตอนที่ 1570 การต่อสู้ระหว่างราชา
ทันทีที่สี่หน้าพูด ทั้งป่าทึบภายในรัศมีพันกิโลเมตรก็ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมา เถาวัลย์นับไม่ถ้วนผุดจากกิ่งไม้ ตวัดใส่ผู้คนรอบป่า
การโจมตีของเก้าเถาวัลย์ความเศร้ามาโดยไม่มีการเตือน ฟากฟ้าพลันปกคลุมด้วยเถาวัลย์ที่บดบังแสงอาทิตย์ กระจายไปทั่ว
เทพสวรรค์ขั้นสูงนับร้อยที่เดิมยังยืนไม่มีเวลาตอบสนองเลย บางคนโดนเถาวัลย์แทงทั้งตัว กลายปเนมนุษย์รู คนอื่นโดนเถาวัลย์บีบรัดจนระเบิด
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที กองทัพนับพันก็โดนกวาดล้างจนสิ้น
ในโลกที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์ มีเพียงคนสี่คนที่ยังไม่สะทกสะท้าน พวกเขาไม่ขยับเลยแม้แต่ครึ่งก้าว
การโจมตีของเก้าเถาวัลย์ไม่ร้ายกาจพอจะรบกวนทั้งสี่ ผู้ที่มีพลังระดับกึ่งจ้าวเทวะเหมือนเขา
“เก้าเถาวัลย์ การโจมตีนี้ของเจ้าอาจจัดการพวกผู้เยาว์ได้ แต่การใช้กับเรา เจ้าไม่คิดว่าเจ้าประเมินเราต่ำไปหรือ?”เสียงคล้ายเนื้อเบียดกันของเนื่อเยื่อยักษ์ดังขึ้น เขาดูเหมือนจะไม่ใส่ใจการโจมตีของศัตรูเขาเลย
ตอนนั้นเอง เนตรเพลิงผู้ยืนอยู่ด้านข้างพลันร้องเตือน
“ระวัง!”
ก่อนเขาจะพูดจบ พวกเขาก็เห็นเถาวัลย์หนาที่เกิดจากเถาวัลย์นับร้อยบิดรัดกันพลันพุ่งขึ้นจากใต้ดิน มันเปลี่ยนเป็นตาข่ายยักษ์ที่ห่อหุ้มนางพญางูสามหางไว้
ก่อนคนอื่นจะได้ช่วยเหลือ ตาข่ายยักษ์ก็ลากนางพญางูสามหางลงใต้ดินไปแล้ว
แสงสีแดงไหววูบในดวงตาของเกราะเงิน ขณะที่เขากำลังจะพุ่งเข้าส่วนลึกของป่า เขาก็เห็นเทพสวรร์นับพันที่ล้มลงพื้นลุกขึ้นทีละคน
นี่คือเทคนิคของเก้าเถาวัลย์ความเศร้า การหว่านเมล็ดพันธุ์ปีศาจ
เขาสามารถฝังเมล็ดพันธุ์ปีศาจลงในศพ เปลี่ยนพวกมันเป็นหุ่นเชิดของเขา
ศพที่โดนฝังเมล็ดพันธุ์ปีศาจจะไม่เพียงสืบทอดความสามารถส่วนใหญ่ตอนยังมีชีวิตแต่ยังมีความสามารถมากมายของเก้าเถาวัลย์ด้วย พวกมันจะทรงพลังกว่าตอนมีชีวิตและถือเป็นร่างแยกของเก้าเถาวัลย์
ยิ่งไปกว่านั้น ตราบเท่าที่เมล็ดพันธุ์ปีศาจไม่โดนทำลาย หุ่นเชิดก็จะไม่ตาย
พวกมันจะลุกขึ้นสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เกราะเงินบดขยี้หุ่นเชิดทีละตัวด้วยหมัด แต่ทว่า ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าศพ ซึ่งเปลี่ยนเป็นกองเลือดกำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และกลับสนามรบอย่างรวดเร็ว
ด้านข้าง เนื้อเยื่อยักษ์กับเนตรเพลิงกลายเป็นตระหนักถึงปัญหานี้เช่นกัน
ไม่ว่าพวกเขาจะฆ่าหุ่นเชิดเหล่านี้ไปกี่ครั้ง พวกมันก็จะฟื้นกลับมาและเข้าร่วมสนามรบใหม่
ในบรรดาทั้งสาม ที่ทำตัวไม่ถูกสุดคือเนตรเพลิง ด้วยการใช้พลังจิต มันบดขยี้วิญญาณของหุ่นเชิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ดวงวิญญาณพวกมันมักกลับมาใหม่
หลังต่อสู้อยู่ประมาณสิบกว่านาที เกราะเงินก็ทนไม่ไหวอีกและใช้อาวุธ
โดยปกติ เขาจะไม่เอาจริงตอนรับมือกับพวกลิ่วล้อ แต่ทว่า การต่อสู้ไม่รู้จบทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ เขาคว้าอาวุธของเขาออกมา หอกมังกรดำ!
ระดับของหอกมังกรดำนั้นเหนือกว่าสมบัติเทพสวรรค์ทั่วไปจนถึงจุดที่มันสามารถถือได้ว่าเป็นอาวุธกึ่งเซียน
อาจกล่าวได้ว่าเกราะเงินจะเอาจริงอย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเขากวัดแกว่งหอกมังกรดำ
ด้วยการสะบัดอาวุธเขา เขาสามารถกำจัดหุ่นเชิดได้อย่างสมบูรณ์
หลังการโจมตีนี้ ในที่สุดหุ่นเชิดก็ไม่คืนชีพ
สุดท้ายเกราะเงินก็พบวิธีฆ่าหุ่นเชิดกลุ่มนี้ ทันใดนัน้ มันก็สื่อสารกับราชาอีกสองผ่านคลื่นเสียง
“ข้ารู้ปัญหาแล้ว เราต้องทำลายร่างกายพวกมันให้สมบูรณ์ ไม่ให้เหลือเนื้อหรือเลือดแม้แต่เสี้ยวเดียว”
อันที่จริง เกราะเงินยังพบกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหา เพื่อสู้กับเทคนิคหุ่นเชิดนี้ พวกเขาต้องทำลายเมล็ดพันธุ์ปีศาจที่ฝังในตัวหุ่นเชิด
นอกจากนี้ เมล็ดพันธุ์ปีศาจที่เก้าเถาวัลย์ฝังไว้ยังมีสัญชาตญาณเอาตัวรอดสูง พวกมันจะซ่อนในจุดที่ปลอดภัยเองตอนโดนโจมตี
ต่อให้มีแค่เลือดสักหยดหลงเหลือ เมล็ดพันธุ์ปีศาจก็จะซ่อนตัวในนั้นได้และรอด จากนั้นพวกมันก็จะฟื้นคืนชีพ
นี่เป็นสาเหตุให้พวกหุ่นเชิดสามารถคืนชีพได้แม้พวกเขาจะบดขยี้พวกมันไปแล้วก็ตาม
ทางเดียวที่จะทำลายเมล็ดพันธุ์ปีศาจในตัวหุ่นเชิดได้คือกำจัดทั้งร่างกายและวิญญาณของหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์ ทำให้มันเสียร่างสิงสถิต โดยปราศจากร่างกาย เมล็ดพันธุ์ปีศาจที่เก้าเถาวัลย์ฝังไว้ก็จะอ่อนแออย่างมาก เทพสวรรค์ขั้นสูงคนใดก็สามารถทำลายพวกมันได้
หลังได้รับทางแก้จากเกราะเงิน เนื้อเยื่อยักษ์กับเนตรเพลิงก็เข้าสู่โหมดสังหาร
“ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็ง่าย!”
หนวดของเนื้อเยื่อยักษ์ขยายออกไปอย่างบ้าคลั่ง หนวดเหล่านี้ที่ประทับด้วยพลังลำดับเทพสามารถทำลายหุ่นเชิดได้ง่ายๆ
ร่างกายของหุ่นเชิดเทพสวรรค์สลายไปอย่างรวดเร็ว
อีกด้าน ดวงตาเล็กๆนับไม่ถ้วนของเนตรเพลิงสว่างวาบ และรังสีสีดำก็พุ่งออกมาทีละหนึ่ง ห่อหุ้มหุ่นเชิดไว้
รังสีสังหารมีความสามารถทำลายล้างสูง เปลี่ยนหุ่นเชิดเป็นเถ้าถ่านภายในชั่วพริบตา
…
ขณะที่โลกภายนอกกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ในส่วนลึกของป่าทึบ นางพญางูสามหางได้หลบหนีจากเงื้อมมือของตาข่ายยักษ์แล้ว
ในขณะเดียวกัน ศัตรูที่ทรงพลังทั้งสองกำลังยืนต่อหน้านาง มันคือสี่หน้ากับเก้าเถาวัลย์
“สามหาง ข้าไม่อยากสู้กับเจ้า ข้าจะมอบทางเลือกให้เจ้าสองทาง เข้าร่วมกับเราเพื่อสู้กับทั้งสาม หรือเจ้าจะหนีไป สาบานว่าจะไม่มีวันเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อชิ้นส่วนผนึกเจ้าปราสาท!”สีหน้าไม่โจมตีทันที
“แล้วถ้าข้าไม่เลือกละ?”นางพญางูสามหางยิ้มเย็น
“งั้นก็ตาย!”เก้าเถาวัลย์ไม่มีความอดทนที่จะเสียเวลากับนาง เขาสัมผัสได้ว่าหุ่นเชิดเหล่านั้นกำลังตาย และคงถ่วงเกราะเงินกับอีกสองไว้ได้ไม่นาน
โดยไม่รอให้สี่หน้าพูดอะไรเพิ่ม เก้าเถาวัลย์โจมตีโดยไม่ลังเล
เถาวัลย์พุ่งเข้าหานางเหมือนคลื่นสึนามิ หนาแน่นจนแทบบดบังท้องฟ้า
เก้าเถาวัลย์จับนางพญางูสามหางไว้ก่อนเพราะนางอ่อนแอสุดในบรรดาหกราชา หลังจับนางเป็นตัวประกัน เขากลับคาดไม่ถึงว่าสี่หน้าจะยังสนใจเรื่องความสัมพันธ์แทนที่จะร่วมมือกันฆ่านาง
โชคดี สี่หน้าไม่หยุดตอนเก้าเถาวัลย์โจมตี
ร่องรอยความลังเลแวบผ่านตาเขาชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นความมุ่งมั่น
พริบตาต่อมา ตอนเก้าเถาวัลย์โจมตี สี่หน้าก็ลงมือเช่นกัน
อสูรยักษ์สิบสองแขนก่อตัวกลางอากาศเหนือหัวเขา ชกหมัดหนักมาพร้อมกับเถาวัลย์
ดวงตาของนางพญางูสามหางเปลี่ยนเป็นสีดำ และแยกร่างออกเป็นสามร่าง
ร่างหนึ่งอัยเชิญน้ำดำที่ปกลุมอากาศ อีกร่างเปิดปาก พ่นหมอกม่วงไร้สิ้นสุดออกมา ขณะที่อีกร่างเปลี่ยนเป็นงูดำขนาดยักษ์ หางใหญ่ของมันฟาดใส่หมัดยักษ์เหล่านั้น
เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเน่าสลายและโดนทำลายเมื่อใดก็ตามที่สัมผัสกับน้ำดำ
หางของงูยักษ์ปะทะกับหมัดยักษ์เสียงดังสนั่น สร้างเป็นพายุลมแรง
แต่ทว่า ปริมาณของน้ำดำก็ไม่พอที่จะเอาชนะความสามารถฟื้นฟูของเถาวัลย์ สุดท้าย เถาวัลย์ก็คลุมน้ำดำจนหมด
อีกด้าน หางงูยักษ์ยังโดนต่อยอย่างต่อเนื่อง
นางพญางูสามหางอ่อนแอสุดในบรรดาหกราชาในแง่ความสามารถ นางมีแนวโน้มที่จะแพ้มากกว่าชนะเมื่อต่อสู้กับราชาคนใดคนหนึ่ง นับประสาอะไรกับสองคนพร้อมกัน
ตามคาด นางใกล้แพ้หลังสู้ได้ไม่ถึงห้านาที
ความจริงแล้ว นางตระหนักดีถึงความอ่อนแอของนาง ดังนั้น นาทีสุดท้ายที่นางเห็นว่านางเสียเปรียบ นางจึงเลือกละทิ้งการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง นางสลายร่างแยกทั้งสองของนาง และหนีเข้าหมอกม่วงเพื่อซ่อนตัว…
ตอนที่ 1571 น้ำนิ่งไหลลึก
ด้านนอกป่าทึบ การต่อสู้ระหว่างสามราชา เนื้อเยื่อยักษ์ เนตรเพลิงกับเกราะเงิน และหุ่นเชิดเทพสวรรค์นับพันถึงจุดจบ
ตอนพวกเขาเข้าใจวิธีฆ่าหุ่นเชิด ทั้งสามก็โจมตีโดยไม่ออมมือและกำจัดหุ่นเชิดเทพสวรรค์จนสิ้น
ด้วยความสามารถของพวกเขา ซึ่งใกล้เคียงกับกึ่งจ้าวเทวะ การฆ่าหุ่นเชิดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก
ไม่ช้า หุ่นเชิดเทพสวรรค์ก็โดนกำจัดจนสิ้น
ด้านนอกป่าทึบ ไม่เหลือเนื้อหรือเลือดสักหยด ทั้งหมดที่หลงเหลือคือร่องรอยการต่อสู้บนพื้น
แต่ทว่า หลังฆ่าหุ่นเชิดทั้งหมด สามราชากลับไม่เข้าป่าทันที
ป่าคือรังของเก้าเถาวัลย์ ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายจะวางกับดักไว้มากแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้น เก้าเถาวัลย์คือมอนสเตอร์ที่เก่าแก่สุดในโลกภายใน ไม่มีใครรู้ว่าเขามีประวัติยืนยาวแค่ไหน นั่นเป็นเหตุผลหลักให้เกราะเงินกับอีกสองราชากลัวเขาและผลที่ตามมาของการสู้กับเขา
ขณะที่พวกเขากำลังลังเล เนตรเพลิงก็พูดขึ้น
“ถ้าเราไม่ลงมือตอนนี้ มันจะสายเกินไป นางพญางูได้ใช้กระบวนท่าช่วยชีวิตตัวเองไปแล้ว”จากระยะไกล เขาเห็นหมอกม่วงที่ปล่อยมาโดยนางพญางูและตระหนักว่านางคงทนไม่ได้อีก
ทันทีที่เนตรเพลิงพูด เกราะเงินก็พุ่งเข้าป่าทึบ
เหตุผลที่เขารีบเช่นนี้ก็เหมือนกับสี่หน้า เขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางพญางูสามหาง
ในความเป็นจริง สามราชาที่เหลือล้วนตระหนักถึงความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างทั้งสาม
นี่ยังเป็นสาเหตุให้สี่หน้าไม่พอใจมากสุด เพราะภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางพญางูสามหางกลับเลือกเกราะเงินแทนที่จะเป็นเขา
ด้วยความสัมพันธ์ระดับนี้ของพวกเขา ปัญหาของสี่หน้าจึงไม่อยู่ที่ว่านางพญางูรักใคร แต่เขาไม่สามารถทนความอัปยศเช่นนั้นได้
เกราะเงินพุ่งเข้าไปเพื่อพยายามช่วยนางพญางูสามหาง แต่ไม่ใช่เพราะเขารักนางสุดหัวใจ แต่เพราะเขารู้ว่าเขาต้องแสดงท่าทีแบบนี้
ในด้านหนึ่ง มันเพื่อให้นางพญางูได้เห็นการกระทำของเขาและยืนยันว่านางตัดสินใจถูก ในอีกด้านหนึ่ง เขาอยากให้เนื่อเยื่อยักษ์กับเนตรเพลิงเห็นว่าเขาเป็นพันธมิตรที่พึ่งพาได้
เขารู้เต็มอกว่านางพญางูเลือกเขาไม่ใช่เพราะเขาโดดเด่นกว่าสี่หน้า แต่เพราะเทียบกับสถานการณ์ .3 ต่อ 3 พวกเขาสามารถกำจัดศัตรูสองคนได้เร็วกว่าถ้าเป็น 4 ต่อ 2 ผู้หญิงนางนี้แค่ต้องการได้รับทรัพยากรมากขึ้น
สำหรับพวกเขา เพื่อให้สามารถรั้งตำแหน่งราชา ผลประโยชน์คือทุกอย่าง ตอนจำเป็น พวกเขาสามารถสวมรอยยิ้มเข้าหากันและร่วมมือกับศัตรูที่ฆ่าครอบครัวตัวเองโดยตาไม่กะพริบ
สำหรับมิตรที่มีประโยชน์ เขามีความผูกพันด้วยเล็กน้อย ไม่ต้องสงสัยว่านั่นจะไม่ส่งผลต่อการเลอืกหรือการตัดสินใจของเกราะเงินเลย
เกราะเงินดูเหมือนจะรีบวิ่งเข้ารังของเก้าเถาวัลย์ แต่เอาจริงๆแล้วเขาระวังตัวเต็มที่ พร้อมป้องกันกับดักของเก้าเถาวัลย์ทุกเมื่อ
ทันทีที่เกราะเงินก้าวเท้าเข้าป่าทึบ เก้าเถาวัลย์ก็เปิดฉากโจมตี
ศัตรูที่ก้าวเท้าเข้าดินแดนของเก้าเถาวัลย์คือโอกาสที่ยากจะได้มา โดยธรรมชาติ เขาย่อมไม่ปล่อยผ่านโอกาสโจมตีไปง่ายๆ
ในชั่วพริบตา ป่าทึบทั้งหมดก็กลายเป็นโลกแห่งเถาวัลย์ เถาวัลย์ไม่เพียงแต่บดบังท้องฟ้า แต่ยังครอบคลุมพื้นที่ทุกตารางนิ้ว
จากมุมมองบุคคลที่สาม เกราะเงินเปรียบเสมือนกรรเชียงเล็กๆที่ลอยในมหาสมุทรกว้างใหญ่ โดนคลื่นซัดอย่างไร้ปราณีตอนนี้ เรือกรรเชียงลำน้อยอาจพลิกคว่ำและโดนทำลายได้ทุกเมื่อ
แต่ทว่า ในความเป็นจริง เกราะเงินไม่แสดงความกลัวเลย ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว มันเต็มไปด้วยความมั่นใจและไม่กังวลถึงการโจมตีที่มาจากเถาวัลย์เลย
ร่างของเขาเล็ดลอดผ่านทะเลเถาวัลย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลบเลี่ยงพวกมัน ทุกครั้งที่เจอกับการโจมตีที่หลบไม่พ้น เขาจะส่งหอกในมือออกไปกำจัดพวกมัน
เป็นเวลาสักพัก แม้การหลบหนีจากพื้นที่นี้จะยาก เขาก็สามารถป้องกันตัวเองได้และไม่มีอะไรให้ห่วง เขาติดอยู่ในทางตัน
แต่ทว่า เขาไม่กระวนกระวายเลย สำหรับว่านางพญางูสามหางจะตายไหม เขาไม่ได้กังวลเรื่องนี้เกินไปนัก
เขาได้แสดงเจตนามาช่วยเหลือแล้ว ไม่ว่าเขาจะช่วยนางได้หรือไม่ก็ล้วนขึ้นอยู่กับโชคของนางพญางูเอง
แม้จะตกอยู่ภายใต้การโจมตีของเถาวัลย์นับไม่ถ้วน เขาก็ยังค่อยๆรุกคืบอย่างมั่นคง
อย่างน้อยในสายตาของคนนอก เขาก็ดูทุ่มเทมาก
ในความเป็นจริง เขาไม่มีเจตนาเสี่ยงชีวิตเพื่อนางพญางู เขาดูเหมือนจะรุกช้ามาก แต่จริงๆแล้วเขากำลังรอให้พวกพ้องมาช่วยเขา
เก้าเถาวัลย์เป็นยอดฝีมือที่เก่าแก่สุด และพวกเขาก็กำลังสู้ในดินแดนของอีกฝ่ายที่อีกฝ่ายเหนือกว่า แต่ทว่า เท่าที่เกราะเงินคิดคือไม่ว่าความสามารถของเก้าเถาวัลย์จะร้ายกาจเพียงใด เขาก็ไม่สามารถสู้กับคนสามคนได้เพียงลำพัง
ถึงแม้เก้าเถาวัลย์จะอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรับมือกับยอดฝีมือระดับเดียวกันสามคนได้เพียงลำพัง
เกราะเงินรู้เรื่องนี้ดี นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงไม่รีบร้อนเลย
ในขณะเดียวกัน ตามที่เขาคาดไว้ กองหนุนมาถึงในไม่ช้า
หลังเกราะเงินพุ่งเข้าป่าทึบด้วยตัวเอง เนื้อเยื่อยักษ์กับเนตรเพลิงก็ลังเลครู่หนึ่งก่อนตามเข้าป่าไปเช่นกัน
ทันทีที่ทั้งสองเข้าร่วม เกราะเงินก็สามารถสัมผัสได้ชัดว่าแรงกดดันลดลงไปมาก
เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสามคือคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน ไม่ว่าเก้าเถาวัลย์จะเก่งกาจแค่ไหน เขาก็ต้องแบ่งความสนใจมาสู้กับอีกสองด้วย
แต่ทว่าก่อนเกราะเงินจะได้ยินดี เขาก็ได้ยินเสียงของเก้าเถาวัลย์
“ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเจ้าสามคนจะมาหน้าบ้านข้าเอง นั่นช่วยข้าประหยัดแรงได้มาก!”เสียงของเก้าเถาวัลย์ดูพอใจ”เจ้ารู้ไหม ทุกคนในโลกต่างคิดว่าป่าทึบนี้คือรังที่ข้าสร้างด้วยตัวเองเพราะความเบื่อหน่าย แต่ทว่า มีไม่มากที่รู้ว่านี่คือเขตแดนเทพของข้า!”
สิ่งที่เก้าเถาวัลย์พูดทำให้ทุกคนตกตะลึง
ในเวลาเดียวกัน สภาพแวดล้อมของป่าก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ต้นไม้แต่ละต้นค่อยๆกลายเป็นเถาวัลย์แก่ แม้กระทั่งพืชกับดอกไม้ก็ยังเปลี่ยนเป็นเถาวัลย์เส้นบาง
ในชั่วพริบตา ทั้งป่าก็เปลี่ยนเป็นโลกแห่งเถาวัลย์
เถาวัลย์ทั้งหมดเหล่านี้มีความหนากับขนาดต่างกัน บางอันยังมีสีต่างกัน
“ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักรของข้า!”
เสียงของเก้าเถาวัลย์ดังจากทุกทิศทางราวกับเถาวัลย์กำลังพูด
“มีแค่เขตแดนเทพของจ้าวเทวะถึงสามารถเรียกได้ว่าอาณาจักร นี่คืออาณาจักรแบบใดกัน?เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นจ้าวเทวะหรือไร?!”เสียงเยาะเย้ยของเนื้อเยื่อยักษ์ดังขึ้น
ข้างมัน เกราะเงินกับเนตรเพลิงยังหัวเราะลั่น
มันไม่สำคัญหรอกว่ามันจะตลกหรือไม่ แต่ตอนนี้ สิ่งที่พวกมันต้องทำคือสนับสนุนกัน
“อีกสักพัก พวกเจ้าจะหัวเราะไม่ออก”เสียงของเก้าเถาวัลย์ฟังดูโกรธเล็กน้อย
ทันทีที่พูดจบ เถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็พุ่งใส่ทั้งสาม
เถาวัลย์เหล่านี้บางส่วนมีพลังลำดับเทพ ขณะที่บางส่วนมีการตรัสรู้ธาตุ แทบทุกการโจมตีเทียบเท่าได้กับการโจมตีเต็มกำลังของเทพสวรรค์ขั้นเก้า
เกราะเงินกับอีกสองไม่ได้รับมือการโจมตีซึ่งๆหน้า พวกเขากลับเลือกใช้การหลบเป็นกลยุทธ์หลัก ไม่เคยหยุดนิ่งในจุดเดิม
ทั้งสามนั้นคล้ายกับเรือกรรเชียงเล็กๆสามลำที่ลอยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรปั่นป่วน เสี่ยงที่จะจมได้ทุกเมื่อ
ตอนที่ 1572 หน้าที่สี่
ลึกในป่าทึบ หมอกม่วงที่ปกคลุมหลายกิโลเมตรได้ขวางการพยายามตรวจสอบมัน
นี่คือวิชาเอาตัวรอดของนางพญางูสามหาง มันคือไพ่ตายของนาง ซึ่งนางได้ผสานอาวุธกึ่งเซียนของนางกับความสามารถเทวะนาง
วินาทีที่นางตระหนักว่านางสู้ไม่ไกว นางก็ใช้กระบวนท่านี้อย่างเด็ดขาด
หมอกม่วงไม่เพียงมีพิษที่ทุกคนที่ต่ำกว่าระดับกึ่งจ้าวเทวะไม่กล้าแตะต้องด้วยแล้ว มันยังขวางจิตเทวะ ป้องกันการตรวจจับใดๆ
สิ่งที่ทำให้เก้าเถาวัลย์กับสี่หน้ายิ่งหมดหวังคือไม่ว่าพวกมันจะซาดการโจมตีอะไรภายในรัศมีหมอกม่วง การโจมตีจะโดนดูดหายไป
หลังพยายามอยู่หลายครั้ง สี่หน้าก็บอกเก้าเถาวัลย์ให้หยุดการโจมตี
“ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับนางอีก เทคนิคของนางเรียกว่าเมฆม่วง แม้กระทั่งกึ่งจ้าวเทวะก็ไม่สามารถทำลายมันได้ เพื่อให้เมฆม่วงสลาย นอกจากนางจะยกเลิกเอง ทางเดียวคือรอให้พลังเทวะในตัวนางหมด”
เก้าเถาวัลย์เหลือบมองสี่หน้าหลังได้ยิน ถ้าเขาได้รับข้อมูลนี้แต่แรก เป้าหมายที่เขารีบจับมาคงไม่ใช่นางพญางูสามหางแน่
แต่ทว่า เขาไม่ได้พูดอะไร เหนือสิ่งอื่นใด สี่หน้าคือพันธมิตรที่เขาเลือกเอง
หลังเลิกโจมตีนางพญางูสามหาง เขาก็ตัดสินใจทุ่มความพยายามทั้งหมดกับเกราะเงินและอีกสอง
“ข้าจะแยกทั้งสามและโจมตีพวกมันพร้อมกับเจ้า!”ทันทีที่เก้าเถาวัลย์พูดจบ เขาก็แยกเถาวัลย์ พันมันรอบแขนของสี่หน้า
สี่หน้าตกใจ ขณะที่กำลังจะดิ้นให้เป็นอิสระ เขาก็ได้ยินเสียงของเก้าเถาวัลย์”ด้วยเถาวัลย์นี้ ข้าสามารถแบ่งปันมุมมองของข้ากับเจ้าได้ เจ้าจะสามารถได้รับผลประโยชน์จากข้อได้เปรียบทั้งหมดในเขตแดนเทพของข้า”
ทันทีที่เก้าเถาวัลย์พูดแบบนั้น สี่หน้าก็สามารถรู้สึกได้ชัดว่าตัวของเขาเปลี่ยนไป เขารู้สึกตัวเบาขึ้นและทรงพลังกว่าเดิม กระทั่งกระแสพลังเทวะในตัวก็ยังเร่งขึ้น
หลังทำความเข้าใจสั้นๆ เขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าความสามารถของเขาเพิ่มขึ้น20%หรือมากกว่านั้น
“ไม่ต้องห่วงเรื่องการผลาญพลังเทวะ มันไม่สำคัญต่อให้เจ้าใช้จนหมด ข้าสามารถเติมพลังเทวะเจ้าได้สองครั้งตามปริมาณพลังเทวะปัจจุบันในตัวเจ้า แค่ฆ่าพวกมันให้เร็วที่สุดก็พอ!”
ก่อนเก้าเถาวัลย์จะพูดจบ สี่หน้าก็พุ่งไปแล้ว
เป้าหมายแรกที่เขาเลือกคือเนตรเพลิง
..
ในเขตแดนเทพที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ เกราะเงินกับอีกสองสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“มันพยายามแยกเรา!มันต้องอยากแยกและเล่นงานเราทีละคน”เนตรเพลิงเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติและรีบแจ้งทั้งสองผ่านคลื่นเสียง
“งั้นก็เอาตามที่มันต้องการ!”เกราะเงินมีความมั่นใจในความสามารถตัวเองพอ”พวกเจ้าสองคนมีแต่จะลากยื้อเรื่องนี้ถ้าเราสามคนอยู่ด้วยกัน นางพญางูอาจไม่สามารถทนได้นานนัก”
แม้เขาจะทำเสียงเหมือนกังวลว่านางพญางูสามหางจะตายหรือไม่ แต่จริงๆแล้ว เขาแค่ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องยืดเยื้อแบบนี้
“นี่คือโอกาสสำหรับเราเช่นกัน ยังไงซะเราทุกคนก็มีวิธีเอาตัวรอดกันอยู่แล้ว และเราก็ไม่มีวันตายง่ายๆ ให้คนหนึ่งไปสู้กับสี่หน้า จากนั้นอีกสองจะสามารถผลาญพลังเทวะของเก้าเถาวัลย์ได้เร็วขึ้น ตาแก่นั่นอยุ่มานานมาก พลังเทวะของเขาน่าจะเหนือกว่าเรา มันไม่ง่ายที่จะฆ่าเขา”เนื้อเยื่อยักษ์เห็นด้วยกับแผนการของเกราะเงิน
มันคือสองต่อหนึ่ง เนตรเพลิงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเห็นด้วย
ทั้งสามหยุดต่อต้านการพยายามแบ่งแยกของเก้าเถาวัลย์ แต่ละคนต่างแยกกันไปตามทาง
ไม่ช้า เนตรเพลิงก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานที่จับเข้ามาที่เขา
ในความเป็นจริง เขาคาดไว้แล้วว่าเขาน่าจะเป็นเป้าหมายแรกทันทีที่พวกเขาแยกกัน
ในบรรดาสี่คนที่มา เกราะเงินมีความสามารถสูงสุด ส่วนเนื้อเยื่อยักษ์มีเทคนิคต่างๆมากสุด
คนที่อ่อนแอสุดคือนางพญางูสามหางผู้โดนโจมตีตั้งแต่เริ่มสู้ ดังนั้น เนื่องจากเขาอ่อนสุดเป็นอันดับสอง เขาจึงกลายเป็นเป้าต่อไป
“เจ้าคิดจริงๆเหรอว่าข้าจะอ่อนขนาดนั้น?”เนตรเพลิงแค่นเสียง
วินาทีต่อมา ร่างหนึ่งก็โผล่จากโลกเถาวัลย์ ปรากฏตัวไม่ไกลจากเนตรเพลิง มันคือสี่หน้า เขาไม่ได้รับผลกระทบจากเถาวัลย์โดยรอบเลย ราวกับพวกมันสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของเขาไม่ได
เนตรเพลิงไม่เสียเวลาคุยไร้สาระ ทันทีที่เขาเห็นสี่หน้า เขาก็เปิดฉากโจมตีทันที
คลื่นพลังงานหลากสีแผ่ออกจากดวงตาเล็กๆนับพันของเขา วินาทีต่อมา เขากับสี่หน้าก็หายไปจากจุดเดิม
เถาวัลย์นับไม่ถ้วนยังเสียเหยื่อของพวกมันไปพร้อมกันและหยุดนิ่ง
ไกลออกไป เก้าเถาวัลย์อดอุทานไม่ได้
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าทั้งคู่ไม่ได้หายไปจริง แต่พวกเขากลับเข้ามิติอื่น
แม้เขาจะไม่เคยสู้กับเนตรเพลิงมาก่อน เขาก็ศึกษาวิชาของศัตรูทั้งสี่มาตลอดหลายวันที่ผ่านมาและได้ความคิดคร่าวๆ
…
ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ ร่างของสี่หน้าปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ ลอยในอากาศ
เขามองซ้ายมองขวา จากนั้นก็ก้มมองตัวเขา หลังจากนั้นก็เลิกคิ้ว”มิติจิตวิญญาณ”
ตอนนั้นเอง เสียงของเนตรเพลิงดังจากทุกทิศทาง
ภายในความว่างเปล่ามิดสนิท ตาหลากสีนับไม่ถ้วนขนาดต่างๆพลันลืมขึ้น
“ยินดีต้อนรับสู่เขตแดนเทพของข้า การชำระล้างสิบทิศ!”
นี่คือลักษณะพิเศษของเขตแดนเทพของเนตรเพลิง เขาสามารถลากคู่ต่อสู้เขาเขตแดนเทพเขาได้ถ้าจิตวิญญาณอีกฝ่ายอ่อนแอกว่าเขา
ศัตรูที่โดนดึงเข้าเขตแดนเทพนี้จะเป็นแค่สิ่งมีชีวิตวิญญาณ และจะเสียการสนับสนุนความแข็งแกร่งทางร่างกายไป
นั่นทำให้แม้ความสามารถรวมของเนตรเพลิงจะอ่อนแอสุดในบรรดาหกราชา เขาก็ไม่เคยมองว่าอีกห้าราชาสามารถสู้เขาได้เลยถ้ามันลงเอยด้วยการต่อสู้จริงๆ
เหมือนกับลักษณะที่ทรงพลังสุดของเกราะเงิน ซึ่งคือร่างกายของเขาแทบทำลายไม่ได้ ในเขตแดนเทพของเนตรเพลิง เนตรเพลิงสามารถผนึกร่างกายของอีกฝ่ายเพื่อให้พวกเขาสามารถสู้กันในฐานะวิญญาณได้เท่านั้น
สำหรับเขา สี่หน้าก็เหมือนกับเกราะเงิน เป็นยอดฝีมือที่เด่นด้านร่างกาย
ยอดฝีมือประเภทนี้จะสามารถแสดงความสามารถได้ไม่ถึง 30%ในเขตแดนเทพของเขา
เนตรเพลิงมั่นใจว่าเขาต้องชนะแน่
แต่ทว่า สี่หน้ากลับไม่ตื่นตระหนกเลย หลังตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่อยู่ เขาก็ยิ้มและถาม”เจ้ารู้ไหมว่าหน้าทั้งสี่ของข้าสอดคล้องกับอะไร?”
เนตรเพลิงผงะเล็กน้อยตอนได้ยินคำถาม
“ใบหน้าทั้งสี่ของข้ามีชื่อของตัวเอง”
“ข้าตั้งชื่อหน้าแรกว่าธรรมดา มันเป็นภาวะปกติของข้า เป็นอะไรที่ข้าใช้เป็นประจำ”
“หน้าสองของข้า ข้าตั้งชื่อว่าจิตวิญญาณ ในภาวะนี้ ข้าสามารถรวมพลังเทวะจากภาวะทั้งสี่ของข้า ปริมาณพลังเทวะกับความเร็วของการไหลมันจะเพิ่มเป็นสี่เท่า”
“ข้าตั้งชื่อหน้าสามข้าว่าปีศาจ ซึ่งเป็นภาวะต่อสู้ ในภาวะนี้ พลังของร่างกายข้าจะถูกขยายให้สูงสุด”
“ข้าตั้งชื่อหน้าสี่ข้าว่าเฟย์ มันเองก็เป็นภาวะต่อสู้ จนถึงตอนนี้ หน้านี้คือหน้าที่ข้าใช้น้อยสุด”
“ลองเดาสิ เจ้าคิดว่าใบหน้าที่สี่ของข้าจะทำให้พลังด้านไหนของข้าแข็งแกร่งขึ้น?”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น