Monster Paradise 1551-1553
ตอนที่ 1551
สำหรับเทพสวรรค์ขั้นสี่ธรรมดาทุกตัวที่เขาฆ่า หลินฮวงสามารถได้รับพลังกฏเทพประมาณ 20000-25000
แต่ทว่า เขาได้รับ 80000-100000จากการฆ่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลแค่ตัวเดียว มันมากกว่าเทพสวรรค์ระดับเดียวกันเกือบสี่เท่า
ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลที่มีระดับพลังสูงกว่าจะยิ่งมีพลังกฏเทพภายในตัวมากขึ้น
เท่าที่หลินฮวงคิด การฆ่ามอนสเตอร์เหล่านี้ย่อมเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดี
ขณะนำกลุ่มไปข้างหน้า นอกจากปล่อยถูทงกับหลานหลิงให้ฝึกกับมอนสเตอร์ขั้นต่ำ เขาจะฆ่าตัวอื่นทันที เขาไม่มอบโอกาสให้เวอชุโอโซกับจิ้วเจี้ยนได้สู้เลย
เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนไม่พูดอะไรเช่นกัน พวกเขาได้เริ่มตระหนักว่าหลินฮวงดูเหมือนจะกระตือรือร้นกับการฆ่ามอนสเตอร์บางชนิดเป็นพิเศษ
นี่เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจสู้กับมอนสเตอร์บางตัว แต่กับบางตัวเขาจะพุ่งเข้าไปฆ่า
แต่ทว่า ทั้งสองไม่สามารถเข้าใจว่าหลินฮวงสนใจอะไรในตัวพวกมัน สำหรับพวกเขา มอนสเตอร์ที่เขากระตือรือร้นที่จะฆ่าดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษเลย
ทั้งกลุ่มยังเดินทางไปข้างหน้าในป่าต้นเฟอร์ปีศาจ
ไม่ช้า หลินฮวงก็ได้รับพลังกฏเทพกว่าล้านมาง่ายๆ มันเร็วกว่าการฆ่ามอนสเตอร์ปกติหลายเท่า
ทันใดนั้น หลานหลิงก็เตือน”มีเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายอยู่ข้างหน้า”
เถาวัลย์ความตายคือมอนสเตอร์เถาวัลย์ปรสิตที่อาศัยบนต้นเฟอร์ปีสาจ ขณะที่รับสารอาหารจากต้นเฟอร์ปีศาจเรื่อยๆ พวกเขาจะตอบแทนสิ่งนี้โดยใช้พลังพวกมันเพื่อช่วยต้นเฟอร์ปีศาจล่า การโจมตีพวกมันไม่ใช่กายภาพแบบต้นเฟอร์แต่เป็นการเล่นงานจิตวิญญาณ
เมื่อเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายสกัดสารอาหารจากต้นเฟอร์ปีศาจมากพอ พวกมันจะเลือกออกจากต้นเฟอร์ปีศาจและมองหาต้นเฟอร์ปีศาจที่ทรงพลังขึ้นเพื่อเกาะติด นี่เพื่อป้องกันต้นเฟอร์ปีศาจจากการโดนทำร้าย ในขณะเดียวกัน เถาวัลย์ทรงพลังที่ไม่พอใจกับสารอาหารที่ต้นเฟอร์ปีศาจต้นเดียวให้จะเกาะติดต้นเฟอร์ปีศาจหลายต้นพร้อมกันเพื่อแบ่งเบาภาระ แต่ทว่า เถาวัลย์ที่ทรงพลังเช่นนี้มักครอบครองความสามารถน่ากลัว ซึ่งสามารถสนับสนุนการล่าของต้นเฟอร์ปีศาจหลายต้นได้
ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันระหว่างเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายกับต้นเฟอร์ปีศาจเป็นวัฏจักรที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
สำหรับต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาล ผลประโยชน์ที่พวกมันได้รับจากเถาวัลย์ยิ่งมาก นี่เพราะเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายจะเป็นฝ่ายริเริ่มล่าและฆ่าทุกสิ่งมีชีวิตที่รุกรานดินแดนพวกมันตอนต้นเฟอร์ปีศาจหลับใหลระหว่างวัน
ทุกคนในกลุ่มรวบรวมความกล้าตอนได้ยินคำเตือนของหลานหลิง และยังระวังตัว
ความสามารถต่อสู้ของเถาวัลย์ทรงพลังกว่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลมาก ไม่ใช่แค่นั้น พวกมันยังมีเทคนิคมากมาย ความสามารถโดยรวมพวกมันจะเพิ่มขึ้นตอนพวกมันรวมพลังกับต้นเฟอร์ปีศาจเพื่อสู้
แต่ทว่า เมื่อหลินฮวงได้ยินคำเตือนของหลานหลิง ความคิดแรกที่แวบผ่านหัวของเขาคือ’เนื่องจากพวกมันเป็นปรสิตของต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาล ไม่ใช่ว่าพวกมันจะมีพลังกฏเทพกับพลังลำดับเดียวจำนวนเท่าๆกันงั้นเหรอ?!’
ดวงตาของเขาสว่างวาบตอนพิจารณาถึงสิ่งนี้
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง นี่ก็จะหมายถึงค่าประสบการณ์สองเท่า!
โดยธรรมชาติ พวกเวอชุโอโซไม่รู้ถึงความคิดแปลกๆเหล่านี้ในหัวเขา
หลินฮวงนำกลุ่มไปข้างหน้า ดูเหมือนจะระวังตัว ไม่นานนัก พวกเขาก็พบกับการลอบโจมตี
การโจมตีรอบนี้แตกต่างจากก่อนหน้า ครั้งนี้ ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลกับเถาวัลย์จิตวิญญาณโจมตีพร้อมกัน
เถาวัลย์กับกิ่งไม้ยื่นปกคลุมเต็มอากาศ ความหนาแน่นของการโจมตีมากกว่าก่อนหน้าหลายเท่า นอกจากนี้ การโจมตียังเจาะจงไปที่สมาชิกทุกคน
สมาชิกของพวกเขาพร้อมรบแล้ว แม้กระทั่งจิ่วเจี้ยนก็ยังดูจริงจังขึ้น
สำหรับเวอชุโอโซ แม้จะไม่เห็นสีหน้าภายในหน้ากาก คนอื่นก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ผ่อนคลายดั่งเดิม
เนื่องจากการโจมตีของเถาวัลย์และกิ่งไม้พัวพันกัน มันจึงยากมากที่จะแยกว่าอันไหนคือการโจมตีทางจิตวิญญาณจากเถาวัลย์ และอันไหนคือการโจมตีกายภาพจากต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาล
หลินฮวงเป็นคนเดียวที่รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
เมื่อเห็นการโจมตีสาดเทใส่พวกเขาประดุจฝน เขาก็แทงนิ้วไปในอากาศ เรียกกระจกออกมาปกป้องทุกคน
ครั้งนี้ เขาเรียกกระจกโดยไม่ลำบากเลย ราวกับเขากังวลว่าเพื่อนของเขาจะไม่สามารถรับมือกับมันได้ แต่ทว่า หลินฮวงเป็นคนเดียวที่รู้ว่าแรงจูงใจจริงเบื้องหลังการกระทำนี้เพื่อให้เขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดได้เองและรับผลประโยชน์ทั้งหมด
กระจกลอยในอากาศอย่างมั่นคง เหนือหัวทุกคน เวอชุโอโซกับคนอื่นเดิมกังวลว่ามันอาจไม่สามารถป้องกันการโจมตีจิตวิญญาณได้ แต่ทว่า ในไม่ช้าพวกเขาก็ตระหนักว่ากระจกของหลินฮวงทรงพลังมากกว่าที่พวกเขาคิด อย่างรวดเร็ว พวกเขารู้สึกสบายใจ
ในความว่างเปล่า กิ่งไม้กับเถาวัลย์พุ่งใส่กลุ่มเหมือนพายุเกรี้ยวกราด แต่ วินาทีที่สัมผัสกับกระจก พวกมันจะเด้งกลับออกไปด้วยความเร็วมากยิ่งกว่า
มันสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องที่ทำให้ขนลุกในหมอก
วินาทีต่อมา การดจมตีที่ทำให้ท้องฟ้ามืดมัวก็หายไปอย่างสมบูรณ์และหมอกก็เงียบเช่นกัน
หลินฮวงได้ครอบงำสถานที่ทั้งหมดด้วยนิ้วเดียว
ถูทงกับหลานหลิงตกตะลึงมาก พวกเขาไม่สามารถตั้งสติได้เลย
เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนมองหน้ากันและเห็นความประหลาดใจในดวงตาของอีกฝ่ายที่ยากจะปกปิด เทคนิคป้องกันนี้เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน!
ในทางกลับกัน หลินฮวงผู้ยืนนิ่งกับที่สัมผัสได้ถึงพลังกฏเทพจำนวนมากที่พลุ่งพล่านในตัว
เพียงแค่ชี้นิ้วเขาก็ได้รับพลังกฏเทพกว่าล้านแล้ว
เขารู้สึกได้ว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาได้รับการยืนยันแล้ว
เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายแต่ละตัวมีพลังกฏเทพคล้ายกับต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาล
รางวัลที่เขาเก็บเกี่ยวในรอบนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากขึ้นเป็นสองเท่า!
หลังเก็บกระจกไป หลินฮวงก็ปล่อยดด้ายพลังจิตออกไปทีละเส้น ลากศพกลับมา
ในที่สุดเขาก็สามารถเห็นรูปร่างของเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายได้
มันเป็นหวายสีดำชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความหนาต่างกันไปตั้งแต่ต้นขนผู้ใหญ่จนถึงขนาดของถัง พวกมันเหมือนงูเหลือมตัวใหญ่
สิ่งที่ผิดปกติยิ่งกว่าคือหวายทั้งหมดเหล่านี้ดูไม่เหมือนกัน นอกจากสีพื้นสีดำแล้ว พวกมันต่างกัน
บางตัวมีหนามงอกบนพื้นผิว บางตัวเต็มไปด้วยเนื้องอก บางตัวมีเกล็ด บางตัวเต็มไปด้วยสารพิษ…
แม้เถาวัลย์จะแบ่งออกเป็นหลายแขนงตอนโจมตี คนก็สามารถจินตนาการถึงผลกระทบที่ตามมาได้ถ้าวิญญาณพวกเขาโดนเถาวัลย์เหล่านี้เกาะติด
หลานหลิงกับถูทงคิดว่ามันน่ากลัวมากตอนเห็นจากด้านข้าง
“เก็บพวกมันไป เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายเป็นวัตถุดิชั้นยอดสำหรับการกลั่นอาวุธวิญญาณแม้กระทั่งในจักรวาล”เวอชุโอโซแสดงความคิดเห็น”เจ้าควรสามารถขายพวกมันได้ในราคาดีตอนเราออกไป”
คิ้วของหลินฮซงยกขึ้นตอนได้ยิน เขาไม่คิดว่าจะได้รับโชคลาภเยี่ยงนี้
สมบัติเทพประเภทจิตวิญญาณมักมีราคาแพงมากเพราะวัตถุดิบการสร้างหายาก
ตามธรรมชาติแล้ว ราคาสำหรับเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายจะสูงเนื่องจากพวกมันเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการสร้างสมบัติกฏเทพ และความต้องการก็ยังสูงตาม
หลินฮวงยิ่งอยากล่าพวกมันมากขึ้นพอเวอชุโอโซให้ข้อมูลนี้
นี่ไม่ใช่แค่ความสุขสองเท่า แต่เป็นสามเท่า!
ตอนที่ 1552
การต่อสู้รอบแรกที่ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลกับเถาวัลย์จิตวิญญารความตายร่วมกันโจมตีรุนแรง แต่มันก็จบอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลุ่มเดินทางต่อ สิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นเป็นรอบสองและสาม
ด้วยกระจกของหลินฮวง ไม่มีต้นเฟอร์ปีศาจกับเถาวัลย์ความตายตัวใดที่โจมตีแล้วรอด
เวอชุโอโซกับคนอื่นยิ่งรู้สึกตกตะลึงกับความไร้เทียมทานของความสามารถนี้มากขึ้น
“วิชานี้..ผลาญพลังเทวะของเจ้าไหม?”ในที่สุดหลานหลิงก็อดอถามไม่ได้หลังสังเกตมาสักพัก
“นั่นจะเป็นไปได้ยังไง?!”หลินฮวงคิดว่าคำถามของนางไร้สาระ แต่เขาก็อธิบายอย่างอดทน”ทุกครั้งที่กระจกป้องกันกาณโจมตี พลังเทวะหนึ่งส่วนสิบของข้าจะลด ถ้าการโจมตีของศัตรูมีพลังจิตวิญยาณ พลังกฏเทพหรือพลังลำดับเทพ ข้าจะดูดพลังจิตวิญญาณ พลังกฏเทพหรือพลังลำดับเทพพวกมันหนึ่งส่วนสิบ”
หลังได้ยินคำอธิบายนี้ เวอชุโอโซกับคนอื่นก็คิดว่าวิชาที่เรียกว่ากระจกนี้ยิ่งไร้เทียมทานกว่าเดิม
หลินฮวงสามารถส่งการโจมตีของศัตรูกลับไปได้โดยผลาญพลังเทวะตัวเองแค่หนึ่งส่วนสิบ
นี่เทียบเท่ากับการไม่ได้ทำอะไรยกเว้นแค่ถือกระจกและศัตรูก็จะหมดพลังตาย
เหตุผลเพราะไม่ว่าศัตรูจะส่งการโจมตีใส่เขายังไง การผลาญพลังฝั่งหลินฮวงก็จะเป็นหนึ่งส่วนสิบของพลังศัตรูไปตลอด
จิ่วเจี้ยนตกอยู่ในการครุ่นคิดหลังได้ยินคำอธิบายของหลินฮวง เขากำลังคิดหาทางโต้กลับการโจมตีของหลินฮวง แต่ทว่า ไม่ว่าเขาจะคิดหนักแค่ไหน เขาก็คิดหาทางออกได้แค่สองทาง
หนึ่งคือพลังของการโจมตีต้องเกินขีดจำกัดของกระจก ซึ่งหมายความว่ามันต้องเกินสิบเท่าของพลังโจมตีที่รุนแรงสุดของหลินฮวง เขารู้สึกว่าบางทีแม้กระทั่งเทพสวรรค์ขั้นเก้าส่วนใหญ่ก็ยังทำไม่ได้
อีกทางคือล้อมหลินฮวงด้วยจำนวน
แม้คนเดียวจะผลาญพลังเทวะของหลินฮวงได้ยาก แต่ตราบเท่าที่มีคนพอ พวกเขาจะสามารถผลาญพลังเทวะของเขาได้
โดยธรรมชาติ จิ่วเจี้ยนไม่ผิด แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือความหนาแน่นพลังเทวะของหลินฮวงเกินกว่าคนธรรมดามาก การผลาญพลังเทวะภายในตัวหลินฮวงต้องใช้คนมากกว่าที่จิ่วเจี้ยนคิดไว้
เมื่อกลุ่มเดินเข้าหมอก จำนวนกฏที่หลินฮวงได้รับก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จำนวนกฏภายในตัวเขาก็พุ่งทะยานเกินสิบล้าน
แต่ทว่า พวกเขาดูเหมือนจะเข้าลึกไปในป่าต้นเฟอร์ปีศาจ ยิ่งเข้าลึก ระดับพลังของต้นเฟอร์ปีสาจรัตติกาลกับเถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย ความถี่ของหลินฮวงและคนอื่นในการพบมอนสเตอร์ที่อยู่เป็นกลุ่มก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แม้เวอชุโอโซกับคนอื่นจะเริ่มเข้าร่วมในการต่อสู้ ประสิทธิภาพการได้รับกฏเทพของหลินฮวงก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ดี
ชั่วโมงต่อมา จำนวนกฏภายในตัวหลินฮวงได้ทะลุร้อยล้าน
แต่ทว่า เขายังอยู่แค่ครึ่งทางของการสู่ขั้นเก้า
เขาตื่นเต้นเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่เพราะเวอชุโอโซกับคนอื่นอยู่ เขาคงอยู่ล่าจนกว่าระดับพลังของเขาจะบรรลุ
ทันใดนั้น ท่ามกลางความตื่นเต้นของหลินฮวง เสียงของหลานหลิงกลับดังขึ้น
“อาจมีเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายที่ทรงพลังอยุ่ข้างหน้าประมาณสิบกิโลเมตร”
“ยืนยันได้ไหม?”เวอชุโอโซถาม
“มันไม่ใช่อย่างนั้น ข้าไม่พบเถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย แต่ข้าตรวจพบร่องรอยที่คล้ายกับที่พวกมันทิ้งไว้ขณะเลื้อยผ่าน”หลานหลิงหยุด จากนั้นก็พูดต่อ”ตัดสินตามร่องรอย เถาวัลย์ตัวนี้หนาอย่างน้อยสามเมตร”
เวอชุโอโซเงียบไปหลังได้ยิน
“หนาสามเมตร?!แน่ใจนะ?”หลินฮวงอดถามไม่ได้ แม้กระทั่งเขาก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อ
มันต้องสังเกตว่าถาวัลย์ส่วนใหญ่ที่กลุ่มหลินฮวงพบจะหนาแค่เท่าต้นขาคน ขณะที่ตัวที่หนาสุดพอๆกับถัง โดยปกติ พวกเขาไม่เห็นหลายตัวที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเกินครึ่งเมตร แน่นอน ทุกคนจึงสงสัยตอนหลานหลิงบอกว่ามันหนาสามเมตร
“ข้ามั่นใจว่ามันหนามาก!”หลานหลิงพูดเสริม”แต่ทว่า มันอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยมอนสเตอร์เช่นงูเหลือมรัด”
“ถ้ามันเป็นเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายขนาดนั้นจริง ระดับพลังมันอาจเหนือกว่าขั้นเก้า มีโอกาสสูงที่มันอาจเป็นกึ่งจ้าวเทวะ”เวอชุโอโซพูด เหลือบมองจิ่วเจี้ยนกับหลินฮวง
จิ่วเจี้ยนไม่พูดอะไร เขากลับมองหลินฮวง
หลินฮวงสังเกตว่าทุกคนกำลังมองเขาและรู้ว่าพวกเขากำลังรอให้เขาแสดงความคิด”ข้าไม่สามารถฆ่ากึ่งจ้าวเทวะได้ แต่..ข้าคิดว่าเราสามารถไปตรวจสอบกันได้ก่อน ถ้ามันไม่ใช่จ้าวเทวะแล้วจะเป็นไง?”
“แล้วถ้ามันใช่ละ?”เวอชุโอโซถามกลับ
“ถ้าใช่ ข้าก็มีทางหนี”หลินฮวงไม่กังวลเลย อยย่างมาก เขาสามารถใช้ตัวตายตัวแทนได้”แต่ทว่า โอกาสที่พวกเจ้าจะตายนั้นสูงมาก”
“นั่นยอมรับไม่ได้ ทำไมไม่ให้ข้าไปตรวจสอบก่อนละ?”หลินฮวงเสนออีกครั้ง
“แค่อ้อมไม่ง่ายกว่าเหรอ?”ถูทงอดแสดงความคิดเห็นไม่ได้
“หลานหลิงแค่ตรวจพบร่องรอยน่าสงสัย ต่อให้มันเป็นเถาวัลย์จริง เราก็รับประกันไม่ได้ว่ามันจะอยู่แถวนั้น พื้นที่อื่นอาจไม่ปลอดภัยเหมือนกัน เหนือสิ่งอื่นใด เถาวัลย์ขนาดใหญ่แบบนั้นต้องมีต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลหลายต้นปกป้อง เราไม่มีทางรู้ว่าขอบเขตอำนาจมันอยู่ไหน”
ส่วนหลังของความเห็นหลินฮวงยังเป็นสาเหตุให้เวอชุโอโซลังเล
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เวอชุโอโซคงบอกให้ทุกคนอ้อมแล้ว เขาเองก็ไม่เต็มใจเจอกับกึ่งจ้าวเทวะ
จิ่วเจี้ยนไม่พูดอะไร เขาตระหนักดีเช่นกัน
เมื่อเห็นเวอชุโอโซใช้เวลาคิดนาน ในที่สุดจิ่วเจี้ยนก็พูด
“เอาแบบนี้เป็นไง เราจะทิ้งเด็กสองคนไว้นี่ และเราสามจะไปตรวจสอบกัน”
เขาหมายถึงหลานหลิงกับถูทงตอนพูดถึงเด็กสองคน ตอนนี้ เขากำลังปฏิบัติต่อหลินฮวงเหมือนผู้อาวุโสระดับเดียวกัน
เวอชุโอโซพยักหน้า”งั้นเอาตามนั้น”
“แน่ใจนะว่าจะไม่ตายถ้าเราเจอกึ่งจ้าวเทวะ?”หลินฮวงจ้องเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยน”ถ้าเจ้าไม่มั่นใจ มันดีกว่าที่ข้าจะไปเอง”
“เจ้าประเมินเราต่ำไป”เวอชุโอโซแค่นเสียงอย่างรำคาญ
“ร่างหลักของข้าทิ้งของบางอย่างไว้ให้ข้าเพื่อความอยู่รอด”น่าแปลกใจที่จิ่วเจี้ยนตรงไปตรงมากว่า
แม้เวอชุโอโซจะไม่พูด แต่พวกเขาก็มีวิธีคล้ายกัน
“งั้นก็ไม่มีปัญหา”หลินฮวงไม่ค้าน
เวอชุโอโซหันไปมองหลานหลิงกับถูทง”พวกเจ้าสองอยู่นี่ เราจะติดต่อหลังเราลาดตระเวนเสร็จ”
ทั้งคู่พยักหน้าทันที แม้เวอชุโอโซจะไม่ใช่ร่างหลัก เวอชุโอโซก็ยังเป็นร่างแยกของอาจารย์พวกเขา พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่ง
หลินฮวงนำจิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซตรงไปหลังเวอชุโอโซให้คำสั่งกับถูทงกับหลานหลิง
หลานหลิงจ้องทั้งสามหายไปในหมอก หลังจากนั้นสักพัก นางก็พูด”อาจารย์ยังทิ้งวิธีเอาตัวรอดให้เราด้วย”
ข้างนาง ถูทงตบไหล่นาง”เราจะทำให้มันวุ่นวายถ้าเราไปด้วย เราควรรอที่นี่และดูว่าพวกเขาจะเจออะไร”
ตอนที่ 1553
หลินฮวงนำกลุ่มเขาสามคนเดินหน้าหลังทิ้งหลานหลิงกับถูทงวไว้ด้านหลัง
หลังโดนมอนสเตอร์โจมตีสองรอบ ในที่สุดพวกเขาก็เห็นร่องรอยที่ทิ้งไว้โดยเถาวัลย์จิตวิญญาณปีศาจที่หลานหลิงพูดถึง
“ข้าคิดว่ามันควรถูกทิ้งไว้หลายวันแล้ว ไม่มีกลิ่นอายหลงเหลือเลย และไม่มีร่องรอยของพลังเทวะกับพลังกฏเทพแถวนี้ด้วย”จิ่วเจี้ยนพูด
“ไม่ว่าร่องรอยจะถูกทิ้งไว้โดยเถาวัลย์จิตวิญญาณความตายหรือไม่ มันก็ควรผ่านไปสักพักแล้ว”หลินฮวงพยักหน้า”มันอาจไม่อยู่แถวนี้อีกแล้ว”
“ยังไงเราก็มากันแล้ว มาดูรอบ ๆ กันเถอะ”เวอชุโอโซดูเหมือนจะไม่พอใจที่พวกเขาต้องเสียเวลาฟรี
หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนไม่ค้าน ทั้งหมดเดินหน้าต่อ ตามทางที่ร่องลึกยืดออกไป
หลังเดินทางสักพัก ในไม่ช้าพวกเขาก็พบบางอย่างผิดปกติ
“ไม่มีมอนสเตอร์สักตัวแถวนี้ ไม่แม้แต่ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาล”หลินฮซงขมวดคิ้วเล็กน้อยและอดกังวลไม่ได้”นี่ปกติไหม?”
“มันแปลกมาก”จิ่วเจี้ยนตอบก่อนเวอชุโอโซจะพูด
“เราสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่าสถานการณ์เป็นไง?”หลินฮวงจับจ้องเวอชุโอโซ
“เราไม่สามารถยืนยันอะไรได้ในขณะนี้”เวอชุโอโซส่ายหัวและตอบในแง่ลบ
คิ้วของหลินฮวงยกขึ้นตอนได้ยินคำตอบนี้ เขาไม่พูดอะไรอีกหลังจากนั้น
เห็นได้ชัดว่าเวอชุโอโซมีการคาดเดาบางอย่างแต่ยังยืนยันไม่ได้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันไรปะโยชน์ที่จะกดดันพวกเขาต่อไป
ถ้ามีสิ่งจำเป็นที่พวกเขาต้องรู้ เวอชุโอโซย่อมบอก
ทั้งสามเดินหน้าต่อ แต่ก็มีแค่ความเงียบ ไร้สิ่งมีชีวิตใดปรากฏภายในระยะของจิตเทวะพวกเขา
ไม่เพียงจะไม่มีมอนสเตอร์ แต่ยังไม่มีต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลหรือเถาวัลย์สักตัว
หลินฮวงยังสงสัยว่าพวกเขาได้ออกจากพื้นที่ป่าต้นเฟอร์ปีศาจแล้วหรือเปล่า
ทั้งสามบินอยู่ในลักษณะนี้เป็นเวลากว่าสิบนาทีก่อนจิตเทวะพวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของป่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลด้านหน้า
พวกเขาระวังตัวทันทีที่เห็นป่าต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลอีกครั้ง
ความผิดปกติใดที่เกิดขึ้นหมายความว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติ!
ตามคาด ก่อนพวกเขาจะไปได้ไกลกว่านี้ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงมอนสเตอร์ตัวโตที่ซ่อนในป่าภายในระยะสัมผัสของพวกเขา
มันเป็นมอนสเตอร์คล้ายกับงูเหลือมยักษ์ เส้นผ่านศูนย์กลางลำตัวมันกว้างอย่างน้อยสามเมตร
แม้พวกเขาจะสัมผัสได้แค่ส่วนหนึ่งของร่างกายมัน พวกเขาก็เดาได้ว่ามอนสเตอร์ตัวนี้คือตัวที่ทิ้งร่องรอยไว้
ตัดสินจากกลิ่นอายมัน หลินฮวงกับคนอื่นมั่นใจว่ามอนสเตอร์ตัวนี้คือเถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย
มันเป็นเถาวัลย์จิตวิญญาณที่ใหญ่ผิดปกติ!
แทบจะทันทีที่จิตเทวะพวกเขาจับเข้ากับมัน มันก็ตระหนักถึงจิตเทวะพวกเขาเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน หลินฮวงกับคนอื่นก็รู้สึกถึงจิตเทวะรุนแรงที่กวาดมา จับเข้ากับพวกเขา
สีหน้าพวกเขาพลันเปลี่ยนไป พวกเขาสัมผัสได้ชัดว่าพลังจิตเทวะของสิ่งมีชีวิตตัวนี้เกินกว่ามาตรฐานของเทพสวรรค์
ขณะที่จิตเทวะจับเข้ากับพวกมัน พลังกดดันที่น่ากลัวก็กดลงมา
ทั้งสามรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดทับไหล่ ราวกับมีบางสิ่งที่หนักมากกดทับพวกเขา
การสะกดข่มนั้นรุนแรงจนมันรู้สึกยากจะทานทน ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวพวกเขาโดยตรง
ต่อหน้าคลื่นการยับยั้งเช่นนี้ กระบี่ยาวควบแน่นในมือจิ่วเจียน ตั้งแต่หัวจรดเท้า กฏสวรรค์เต๋ากระบี่ของเขาระเบิดออกมา ขณะที่พลังกระบี่ของเขาพุ่งทะยาน ต่อต้านการสะกดข่มนี้
ในทางกลับกัน ร่างกายของเวอชุโอโซก็เริ่มเลือนราง ทั้งตัวของเขาปรากฏเป็นภาพลวงตาที่ซ้อนทับกันหลายชั้น มันดูน่าขนลุกมาก
แทนที่จะต่อต้านแบบจิ่วเจี้ยน เวอชุโอโซเลือกถ่ายแรง เขาใช้ภาพลวงตานับไม่ถ้วนเพื่อแบ่งเบาแรวงกดดัน พลังที่หลงเหลือถึงตัวเขาจึงแทบไม่มีอยู่
ในขณะเดียวกัน หลินฮวงได้ควบแน่นกฏสวรรค์เต๋าดาบภายในตัวเขา สร้างดาบในมือ พลังดาบน่ากลัวแผ่จากตัวเขา ควบแน่นเป็นเงาดาบกว้างสีแดงเลือดเหนือหัว
เงาสวมเกราะสีแดงเลือด และดาบก็คล้ายกับเนบิวล่า ดาบที่หลินฮวงกวัดแกว่งถึง 90 %
แต่ทว่า เงากลับโดนห่อหุ้มด้วยหมอกแดงจนมองไม่เห็นหน้าชัด
จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซตกตะลึงตอนเห็นเงาควบแน่นเหนือหัวหลินฮวง
โดยธรรมชาติ พวกเขารู้ว่าเงานี้หมายถึงอะไร
นี่คือการจำแลงของเจตจำนงเต๋า มีเพียงยอดฝีมือที่สัมผัสถึงเต๋าแล้วถึงแสดงเจตจำนงเต๋าออกมาได้
การปรากฏตัวของเงาพิสูจน์ว่าเต๋าดาบของหลินฮวงได้แตะธรณีของเต๋าแล้ว
แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังคิดว่ามันแปลกตอนเขาเห็นปรากฏของเงา แน่นอน เขารู้ว่ามันคืออะไร แต่ทว่า เขารู้ว่าการสำแดงเจตจำนงมหาเต๋ามีส่วนเกี่ยวกับระดับเต๋าดาบเขาน้อยมาก
เหนือสิ่งอื่นใด กฏสวรรค์เต๋าดาบของเขาเพิ่งก้าวข้ามขีดจำกัดของหัวใจสวรรค์ เขายังห่างไกลจากการไปถึงเต๋าสวรรค์มาก
การปรากฏของเจตจำนงมหาเต๋าอาจเกิดจากการปรากฏของผนึกดาบภายในตัวเขา
แต่ทว่า เขาไม่มีเวลายึดติดกับเรื่องนี้เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรู
หลังการปรากฏของเจตจำนงเต๋า การสะกดข่มจากเถาวัลย์ก็หายไปโดยสิ้นเชิง นี่ยังเพิ่มความมั่นใจให้หลินฮวง
เขาไม่พอใจกับแค่การลบแรงกดดัน จากสิ่งที่เขาเห็น ทั้งสามจะถูกโจมตีไม่ช้าก็เร็วเนื่องจากจิตเทวะของมันได้จับเข้ากับพวกเขาแล้ว
เขาฉวยโอกาสลงมือตอนที่แรงกดดันหายไปก่อนศัตรูจะได้เคลื่อนไหว
เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ดาบในมือของเขาเปลี่ยนเป็นดาบยาวแคบ
ด้วยอาวุธในมือทั้งสองข้างเขา เขาเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือดขณะพุ่งใส่เถาวัลย์จิตวิญญาณความตาย
แทบจะทันที ร่างจำแลงขนาดยักษ์เหนือหัวเขาขยับเช่นกัน ทำเหมือนกับที่เขาทำไม่มีผิด
ในเวลาเดียวกับที่หลินฮวงขยับ เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายก็ขยับตัวเช่นกัน
หวายนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปเหมือนงู กวาดใส่ทั้งสามเหมือนคลื่น
ในเวลาเดียวกับที่เถาวัลย์จิตวิญญาณความตายโจมตี ต้นเฟอร์ปีศาจรัตติกาลในป่าก็ยังยื่นกิ่งก้านพวกมันด้วย
เทียบกันแล้ว หลินฮวงดูเหมือนมดโดดเดี่ยวท่ามกลางคลื่นทะเล เขาดูเล็กจ้อย
ด้านหลังเขา เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนไม่คาดคิดว่าเขาจะบุ่มบ่ามขนาดนี้
เขาชักดาบออกเพื่อฆ่าโดยไม่พูดสักคำ
แต่ทว่า หลังล่าช้าชั่วขณะ พวกเขาก็ตอบสนองทันที
ทั้งสองมองหน้ากันและเข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่
เมื่อเจอกับศัตรูที่ทรงพลัง มันไม่มีทางหนี มันมีแค่การต่อสู้!
คลื่นกระบี่สีทองปกคลุมท้องฟ้าร่วมกับฝ่ามือสีขาวนับไม่ถ้วน โจมตีใส่คลื่นหวาย เปิดเส้นทางให้หลินฮวง…
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น