Monster Paradise 1544-1545

ตอนที่ 1544

 

ในความว่างเปล่า การต่อสู้ระหว่างจิ่วเจี้ยนกับความโลภดำเนินต่อไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดว่าใครคือผู้ชนะหรือผู้แพ้


 


แม้ประสบการณ์ต่อสู้ของจิ่วเจี้ยนจะเหนือกว่ามอนสเตอร์ และใช้พลังลำดับเทพได้ชำนาญ เขาก็ไม่มีห่วงโซ่ลำดับเทพมากเทพความโลภ


 


นอกจากกฏสวรรค์เต๋าดาบ ความโลภโครงกระดูกใช้ห่วงโซ่ลำดับเทพได้อย่างน้อยสิบประเภท มันแค่ว่ามันสามารถใช้ได้สูงสุดแค่เจ็ดพร้อมกัน ซึ่งเทียบเท่ากับพลังโจมตีของจิ่วเจี้ยน


 


บางทีอาจเพราะความโลภควบคุมจิตสำนึกมันได้ไม่เต็ม หรือบางทีอาจเพราะห่วงโซ่ลำดับเทพที่มันปล้นไม่สามารถผสานกันได้ดี แต่การผสานห่วงโซ่ลำดับเทพที่มันใช้นั้นไม่สมเหตุสมผลกันเลย


 


ในไม่ช้าจิ่วเจี้ยนก็สังเกตเห็นและครอบงำอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว


 


แต่ทว่า ขณะที่ทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือด หลินฮวงก็หน้าเปลี่ยนสี


 


หลินฮวงรู้สึกว่าระยะตรวจจับของหลานหลิงเล็กเกินไป และไม่พอจะเตือนพวกเขาล่วงหน้า ดังนั้น เขาจึงลอบปล่อยเมล็ดกาฝากจำนวนมากระหว่างทางและจับตาดูสภาพแวดล้อมพวกเขาตลอดเวลา


 


ผ่านเมล็ดกาฝากก่อนหน้านี้ เขาเห็นความโลภบางตัวใกล้ๆที่อาจสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานจากการต่อสู้ระหว่างจิ่วเจี้ยนกับความโลภโครงกระดูก แม้ส่วนใหญ่จะสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม แต่ก็ยังมีพวกระดับสูงหลายตัวที่สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังและกำลังมุ่งหน้ามาทางสนามรบ ท่ามกลางพวกมัน ยังมีสิ่งมีชีวิตขั้นเก้าอยู่ด้วย


หลังลังเลชั่วขณะ หลินฮวงก็เร่งจิ่วเจี้ยน”จิ่วเจี้ยน เจ้าสามารถรีบจัดการมันได้ไหม?”


 


จิ่วเจี้ยนตกตะลึงตอนเขาได้ยิน ขณะที่พวกเวอชุโอโซมองหลินฮวงอย่างสับสน


 


การเร่งพรรคพวกให้รีบแบบนี้เป็นพฤติกรรมที่หยาบคาย เพราะทุกคนมีจังหวะต่อสู้ของตัวเอง ถ้าเกิดกดดัน มันจะเท่ากับการแทรกแซงจังหวะต่อสู้พวกเขา


 


“เกิดอะไรขึ้น?”เวอชุโอโซรู้ว่าต้องมีเหตุผลที่ทำให้หลินฮวงพูดเพื่อเร่งจิ่วเจี้ยน


 


หลินฮวงลังเลแต่ตัดสินใจเผยเหตุผล”มีความโลภระดับสูงกำลังมุ่งหน้ามาหลังสัมผัสได้ถึงคลื่นการต่อสู้ที่นี่”


 


เขาไม่อธิบายว่าเขารู้ได้ไง และเวอชุโอโซก็ไม่กดดัน พวกเขาแค่เหลือบมองเขา


 


หลินฮวงไม่ใช้คลื่นเสียงเขาตอนเขาตอบกลับเวอชุโอโซ นั่นทำให้จิ่วเจี้ยนที่กำลังสู้อยู่ได้ยินชัด


 


เดิม เขาสงสัยว่าหลินฮวงแค่เร่งเพื่อยั่วยุเขาหรือเปล่า แต่ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าศึกของเขาได้กระตุ้นความโลภตัวอื่น


 


วินาทีที่หลานหลิงได้ยินหลินฮวงพูด นางก็รีบประสานมืออีกครั้ง ทำการสำรวจรอบใหม่


 


แต่ทว่า ในไม่ช้านางก็พูดกับหลินฮวงอย่างสงสัย”ข้าไม่สัมผัสได้ถึงความโลภตนใดเลย ข้ากลับเห็นหลายตัวกำลังออกจากพื้นที่ที่เราอยู่ซะมากกว่า”


“พวกอ่อนแอสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม พวกมันจึงหนี แต่ทว่า ตัวที่ทรงพลังกำลังมาที่นี่ เจ้าสัมผัสไม่ได้เพราะพวกมันยังไม่เข้าระยะสัมผัสของเจ้า”หลินฮวงอธิบาย”ข้าไม่อยากอธิบายว่าข้าใช้เทคนิคตรวจจับประเภทไหน แต่เชื่อข้า ข้าไม่ได้พูดเล่น”


“เข้าใจแล้ว”หลานหลิงตอบรับคำอธิบายของหลินฮวงอย่างไม่เต็มใจ


 


คนอื่นไม่คิดถามเพิ่มว่าหลินฮวงใช้เทคนิคตรวจจับแบบไหน


 


ในฐานะร่างโคลนของสมาชิกสโมสร จิ่วเจี้ยนรู้ดีว่าสมาชิกทุกคนมีความลับ


 


เขาเลือกเชื่อหลินฮวงและเพิ่มพลังโจมตีรวมถึงความถี่


 


เมื่อจังหวะต่อสู้เปลี่ยน ความโลภก็ตอบสนองไม่ทัน จิตสำนึกมันไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของมันอย่างสมบูรณ์และยิ่งเวลาผ่าน ไม่เพียงมันจะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับจังหวะต่อสู้ใหม่ได้ แต่ข้อบกพร่องมันยังเริ่มแสดง จิ่วเจี้ยนได้ครอบงำมัน และในไม่ช้ามันก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ


 


ภายในสามนาทีหลังคำเตือนของหลินฮวง จิ่วเจี้ยนก็ฆ่ามันด้วยกระบี่ของเขา


 


เมื่อเขาฆ่าเสร็จ หลานหลิงก็อุทาน


 


“ความโลภระดับสูงได้เข้าระยะสัมผัสข้าแล้ว!มันกำลังมุ่งหน้ามาทางเรา!”


เดิมถูทงกังขาคำพูดของหลินฮวงแต่แค่ไม่แสดงความคิดเห็น แต่ตอนนี้ข้อสงสัยของเขาล้วนหายไปหมดแล้ว


 


“ด้วยระยะแค่นี้ มันสายเกินที่จะคิดหนี มาสู้กับมันกัน!”หลินฮวงพูด”เราแค่ต้องจัดการตัวนี้ให้เร็วที่สุดก่อนตัวต่อไปจะมาถึง”


เขาสะบัดแขนเสื้อทันทีที่พูดจบ และมีดบินพลังจิตก็บินออกมาเหมือนฝูงปลา


 


จิ่วเจี้ยนผู้เพิ่งสู้จบไม่เก็บกระบี่เขาไป เขากลับสะบัดอาวุธเขา หมุนตัว จ้องไปทางที่มีดบินพลังจิตของหลินฮวงเล็งไป


 


แม้เวอชุโอโซจะไม่ขยับ แต่พลังเทวะที่วนรอบตัวเขาก็เร่งความเร็วขึ้น เตรียมรับศึก


 


ในขณะเดียวกัน ถูทงกับหลานหลิงก็ได้ถอยไปด้านหนึ่ง


 


ยอดฝีมือระดับเทพสวรรค์ขั้นสูงถือว่าเกินความสามารถพวกเขาไปแล้ว


 


ไม่ช้า ความโลภที่แผ่กลิ่นอายทรงพลังก็แสดงตัวต่อหน้าพวกเขา


 


รูปลักษณ์ของมันคล้ายกับมนุษย์


 


มันหัวล้าน ผอมบาง


 


ความแตกต่างที่ใหญ่สุดระหว่างมันกับมนุษย์คือมันมีหกแขน สามตา


 


“เผ่าอายัน?!”จิ่วเจี้ยนอดตกใจไม่ได้


 


หลินฮวงตกตะลึงเช่นกน


 


เขาเองก็เคยได้ยินถึงเผ่าอายัน ซึ่งเป็นเผ่าพิเศษในมหาพิภพ


 


สมาชิกเผ่าจะเกิดมาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ


 


พวกเขายังปฏิเสธที่จะใช้อุปกรณ์และทรัพยากรบ่มเพาะส่วนใหญ่


 


ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังไล่ตามความเป็นไปได้ทางชีวิตที่เรียบง่ายสุด ถ้าพวกเขาไม่ต้องกิน พวกเขาก็จะไม่กิน ถ้าพวกเขาไม่ต้องดื่มน้ำ พวกเขาก็จะไม่ดื่ม พวกเขาได้ตัดความปรารถนาทิ้ง เหลือไว้แค่พื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต


ดังนั้น สมาชิกเผ่าอายันจึงมีพลังภายในและเจตจำนงที่ทรงพลังมาก


 


นี่ทำให้จิ่วเจี้ยนตกใจตอนเห็นความโลภตนนี้


 


เผ่าอายันสามารถถือได้ว่าเป็นเผ่าที่มีความปรารถนาน้อยสุดในจักรวาล


 


พวกเขายังตัดความปรารถนาทางร่างกายของพวกเขาออกไปได้ นับประสาอะไรกับความโลภ


 


แต่ทว่า สมาชิกเผ่าอายันตรงหน้าพวกเขากลับตกต่ำและเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเผ่ามันอย่างความโลภ


 


‘เจ้าหมอนี่เกิดโลภในอะไร?’แทบทุกคนรวมถึงหลินฮวงมีความคิดเช่นเดียวกันผุดขึ้น


 


แต่ทว่า ในไม่ช้าพวกเขาก็ค้นพบคำตอบ


 


ตาที่สามบนหน้าผากของความโลภตนนั้นพลันเปิดขึ้น ทันใดนั้น รังสีลี้ลับของแสงพุทธก็ไหลออกมาปกคลุม รัศมีสีทองนับไม่ถ้วนหมุนวน ปกคลุมสภาพแวดล้อม เปลี่ยนพวกมันเป็นอาณาจักรแห่งพุทธ


 


ความโลภเผ่าอายันค่อยๆลอยขึ้นฟ้า และร่างของพุทธองค์ทองคำก็ปรากฏด้านหลังมัน


 


เสียงพึมพำต่ำดังในหูของทุกคน


 


“เราจะกลายเป็นพุทธองค์หลังกวาดล้างหุบเหว”


 


คำพูดเหล่านี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าทำไมอีกฝายถึงโดนเปลี่ยนเป็นความโลภ


 


สมาชิกเผ่าอายันตนนี้ต้องทุ่มเทกับการกวาดล้างมอนสเตอร์หุบเหวมาก สุดท้าย มันจึงโดนเอาชนะด้วยความโลภ ซึ่งจากนั้นก็เปลี่ยนตัวมันเป็นมอนสเตอร์ซะเอง


 


หลังพึมพำสักพัก ความโลภเผ่าอายันก็ลดหัวมองพวกหลินฮวง ตาที่สามมันค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง


 


ฝ่ามือทั้งหกของมันสะบัดออกมาแทบจะพร้อมกันโดยไม่เก็บรั้ง ราวกับภูเขาหกลูกกำลังถล่ม


 


“ตายซะ เจ้าสัตว์ประหลาด!”

 

 

 


ตอนที่ 1545

 

บุคคลในเผ่าอายัน เผ่าที่บริสุทธิ์สุด มีความปรารถนาน้อยสุดกลับกลายเป็นวิบัติที่ยากจะเข้าถึงสุดอย่างความโลภ


 


ถ้าพวกเขาไม่เห็นมันด้วยตาตัวเอง ทุกคนอาจไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น


 


แม้กระทั่งเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยน ผู้มีประสบการณ์และความรู้ก็ยังตกตะลึงตอนเห็นความโลภ แต่ทว่า หลังจากนั้น สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย


 


เผ่าอายันคือผู้บ่มเพาะสันโดษที่บริสุทธิ์สุด


 


พวกเขามีเจตจำนงแกร่งกล้า ซึ่งหมายความว่าความสามารถพวกเขาทรงพลังมาก


 


แม้ความโลภเผ่าอายันตรงหน้าพวกเขาจะเป็นแค่เทพสวรรคขั้นเจ็ด กลิ่นอายที่แผ่จากมันก็น่ากลัวมาก


 


นอกจากนี้  มันโจมตีเต็มกำลังทันทีที่มันมาถึง แขนทั้งหกของมันโจมตีพร้อมกัน เปลี่ยนเป็นภูเขาสูงเหลือเชื่อหกลูก


 


ภูเขาแต่ละลูกเหล่านี้ประกอบด้วยพลังลำดับเทพอย่างน้อยเก้าชนิด


 


แค่การโจมตีนี้อย่างเดียวก็สามารถโค่นเทพสวรรค์ขั้นเก้าได้แล้ว


 


จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซหน้าเปลี่ยนสี


 


ทั้งคู่โจมตีทันที พยายามขวางการโจมตีนี้


 


ค่ายกลกระบี่กว่าร้อยส่องสว่างเหมือนคลื่นแสงสีทองตรงหน้าจิ่วเจี้ยน ซ้อนทับกัน คลื่นกระบี่ทองนับล้านเปล่งแสงจากค่ายกลกระบี่ หนาแน่นจนเหมือนดวงอาทิตย์


เขาปล่อยการโจมตีเต็มกำลัง แทบไม่รั้งอะไรไว้


 


แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังตกใจ


 


แต่ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้เขาตกใจยิ่งกว่า


 


เวอชุโอโซทำแบบเดียวกับจิ่วเจี้ยน ค่ายกลกระบี่นับร้อยควบแน่นอย่างรวดเร็วต่อหน้าเขาและคลื่นกระบี่ทองกว่าล้านก็ส่องสว่างเหมือนดาวบนท้องฟ้า


 


“เกิดอะไรขึ้น?!”


 


ดวงตาของหลินฮวงเบิกกว้าง ในฐานะผู้บ่มเพาะดาบ เขาไม่พบกลิ่นอายของผู้บ่มเพาะกระบี่บนตัวเวอชุโอโซเลยตั้งแต่ต้น


 


แต่ทว่า ปัจจุบัน เวอชุโอโซกำลังแสดงวิชาเดียวกับจิ่วเจี้ยน ไม่ใช่แค่นั้น หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าค่ายกลกระบี่และคลื่นกระบี่ที่เวอชุโอโซสร้างเป็นของจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา


 


ถูทงที่ยืนอยู่ด้านข้างดูเหมือนจะสังเกตความสับสนของหลินฮวงได้ จากนั้นเขาก็อธิบายผ่านคลื่นเสียง”นี่คือผลของห่วงโซ่ลำดับเทพเลียนแบบที่อาจารย์เราเชี่ยวชาญ เขาสามารถเลียนแบบและคัดลอกวิชาของคนอื่นได้”


 


หลินฮวงเพิ่งสังเกตเห็นว่าภายใต้หน้ากากของเวอชุโอโซ อักขระสีแดงเลือดกำลังหมุนวนในรูม่านตาเขา


 


ภายใต้พลังประสานของจิ่วเจี้ยนและเวอชุโอโซ คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนโจมตีใส่ฝ่ามือใหญ่ของความโลภ


 


มันเหมือนฝนดาวตกที่ปะทะกับกำแพงจิต


 


กระแสแสงสีทองไร้สิ้นสุดระเบิด ปะทะกับฝ่ามือคล้ายภูเขายักษ์


 


ทันใดนั้น แสงก็เลือนหายไป ภูเขาพังถล่ม


 


ภายใต้พลังประสานของเวอชุโอโซและจิ่วเจี้ยน การโจมตีของเผ่าอายันโดนขวางไว้ได้


 


ตัดสินจากสิ่งนี้ ความสามารถของความโลภเผ่าอายันถือว่าเป็นแค่เฉลี่ย


 


เมื่อการโจมตีมันโดนปิดกั้น ความโลกเผ่าอายันก็ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนมันจะโจมตีด้วยฝ่ามือทั้งหกอีกครั้ง


 


การโจมตียิ่งเกรี้ยวกราดขึ้น  และมันก็กรีดร้องไม่หยุดขณะโจมตี


 


“ข้าจะกวาดล้างพวกเจ้าให้หมดต่อให้ข้าต้องตาย เจ้าสัตว์ร้าย!”


 


ความโกรธในดวงตาทั้งสามยิ่งเพิ่มพูน


 


หลินฮวงไม่โจมตีขณะมองดูจิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซต้านรับฝ่ามืออันทรงพลังของเผ่าอายัน


 


เขากลับดูเหมือนจะไตร่ตรองขณะจ้องมอนสเตอร์ตรงหน้า


 


“เจ้าหมอนี่ไม่ดูเหมือนจะรู้ตัวเลยว่ามันเปลี่ยนเป็นความโลภ..”


 


“เจ้าไม่คิดจะช่วยเหรอ?”หลานหลิงที่อยู่ด้านข้างอดถามไม่ได้เมื่อเห็นพวกจิ่วเจี้ยนกำลังลำบาก


 


“ข้ากำลังรอโอกาสโจมตี”หลินฮวงตอบกลับ


 


เหตุผลที่เขาไม่เข้าร่วมในการต่อสู้เพราะเขาตระหนักดีว่าต่อให้เขาเข้าร่วม มันก็ยากมากที่จะจบการต่อสู้ในเวลาอันสั้น มันยากมากสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีก่อนมอนสเตอร์ตัวต่อไปมาถึง


 


เขาไม่พูดอะไรต่อ


 


ในขณะเดียวกัน บนสนามรบ เวอชุโอโซพูดกับความโลภเผ่าอายันระหว่างการต่อสู้


 


“เจ้าเรียกเราว่าสัตว์ร้าย แต่เจ้าไม่ดูเหมือนจะรู้เลยว่าเจ้าเป็นแค่สัตว์ร้ายตัวเดียวที่นี่ เราเป็นคนธรรมดาที่ยังไม่ปนเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหว”


“ไร้สาระ!”ความโลภทุบฝ่ามือลงอีกครั้ง


 


“เจ้าเป็นพระจากเผ่าอายัน อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่รู้ถึงความผิดปกติในตัวเจ้าเลย?หรือบางทีเจ้าอาจรู้ แต่เลือกไม่สนใจมัน?!”


 


“เจ้ากำลังพยายามหลอกข้าด้วยคำโกหกของเจ้า!”ความโลภกระแทกฝ่ามืออีกครั้ง


 


“เจ้ารู้อยู่เต็มอกว่าเราหลอกหรือเปล่า ข้าไม่เชื่อว่าในฐานะพระชื่อดัง เจ้าจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานหุบเหวและอารมณ์ด้านลบในตัว”


 


“ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็แสดงมันต่อหน้ากระจกความจริงสิ มาดูว่าตอนนี้มันเป็นยังไงและนั่นควรยุติได้”หลินฮวงอดพูดไม่ได้


 


“นั่นเป็นความคิดที่ดี!’เวอชุโอโซอุทาน ทันใดนั้น เขาก็หยิบเอากระจกจากช่องเก็บของเขา เปลี่ยนมันเป็นหน้าของความโลภเผ่าอายัน


 


แม้มันจะไม่เชื่อสิ่งที่หลินฮวงกับเวอชุโอโซพูด มันก็อดมองเข้าไปในกระจกไม่ได้


 


แค่เหลือบมัน มันก็เห็นหน้าตามันในปัจจุบัน


 


มันผอมแห้งเหมือนมัมมี่ ไม่เพียงแค่นั้น มันยังมีหกแขนสามตา และก็ดูน่ากลัวมาก


 


“นี่เป็นกลลวง มันไร้สาระสิ้นดี!’ความโลภโหยหวน


 


“นี่ไม่ใช่กลลวงแน่ นี่คือหน้าตาของเจ้า”เวอชุโอโซอธิบาย”เจ้าตามืดบอดด้วยพลังงานหุบเหวและอารมณ์ด้าสนลย เจ้าจึงไม่สามารถมองเห็นความจริงของเรื่องนี้ได้”


 


“ในสายตาเจ้า เจ้าปกติ ขณะที่เราคือสัตว์ร้าย แต่ทว่า ในความเป็นจริง มันตรงกันข้าม ภาพที่แสดงในกระจกแห่งความจริงได้พิสูจน์แล้ว”


 


“กระจกแห่งความจริงสามารถปลอมได้!”


 


“เจ้าควรรู้ดีว่ามันปลอมหรือไม่ปลอม!”เวอชุโอโซโยนกระจกใส่ความโลภเผ่าอายัน


 


ความโลภรับกระจก สิ่งแรกที่มันเห็นคือใบหน้าผอมแห้ง


 


จากนั้นมันก็ใช้กระจกส่องส่วนอื่นของร่างมัน และคิ้วมันก็เริ่มขมวด


 


ในฐานะสมาชิกเผ่าพุทธอายัน พลังเจตจำนงของมันเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตระดับเทพสวรรค์ขั้นเจ็ด จนถึงจุดที่ถึงมาตรฐานของขั้นเก้า มันเป็นไปไม่ได้สำหรับใครก็ตามที่ต่ำกว่ากึ่งจ้าวเทวะที่จะดึงมันเข้าสู่ภาพลวงตา


 


ดังนั้น กระจกแห่งความจริงที่มันมองต้องเป็นของจริง


 


ความโลภเผ่าอายันพบว่ามันยากที่จะยอมรับความคิดเหล่านี้และยืนนิ่ง


 


มันใช้เวลาหลายปีเข่นฆ่าสัตว์ร้าย แต่มันไม่เคยคิดเลยว่าสัตว์ร้ายจะเป็นตัวมันเอง


 


ตอนนั้นเอง คลื่นดาบสีแดงเลือดพลันส่องสว่าง


 


มันคือหลินฮวงที่เตรียมการโจมตีมาระยะหนึ่งแล้ว


 


นี่คือโอกาสที่เขากำลังรอคอย


 


เขาไม่ออมพลังเลย เขารวมกฏสวรรค์เต๋าดาบกับห่วงโซ่ลำดับเทพเก้าชนิด


 


คลื่นดาบเหมือนเคียวแห่งความตาย มันยังคล้ายกับจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือด


 


มันเฉือนผ่านร่างของความโลภในชั่วพริบตา…


 


ความโลภไม่มีเวลาหลบ หรือไม่สามารถป้องกันตัวมันได้ ทั้งหมดที่มันเห็นคือคลื่นสีแดงที่พุ่งใส่มัน และตัวมันก็กลายเป็นศพไร้หัว..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)