Monster Paradise 1544-1545
ตอนที่ 1544
ในความว่างเปล่า การต่อสู้ระหว่างจิ่วเจี้ยนกับความโลภดำเนินต่อไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดว่าใครคือผู้ชนะหรือผู้แพ้
แม้ประสบการณ์ต่อสู้ของจิ่วเจี้ยนจะเหนือกว่ามอนสเตอร์ และใช้พลังลำดับเทพได้ชำนาญ เขาก็ไม่มีห่วงโซ่ลำดับเทพมากเทพความโลภ
นอกจากกฏสวรรค์เต๋าดาบ ความโลภโครงกระดูกใช้ห่วงโซ่ลำดับเทพได้อย่างน้อยสิบประเภท มันแค่ว่ามันสามารถใช้ได้สูงสุดแค่เจ็ดพร้อมกัน ซึ่งเทียบเท่ากับพลังโจมตีของจิ่วเจี้ยน
บางทีอาจเพราะความโลภควบคุมจิตสำนึกมันได้ไม่เต็ม หรือบางทีอาจเพราะห่วงโซ่ลำดับเทพที่มันปล้นไม่สามารถผสานกันได้ดี แต่การผสานห่วงโซ่ลำดับเทพที่มันใช้นั้นไม่สมเหตุสมผลกันเลย
ในไม่ช้าจิ่วเจี้ยนก็สังเกตเห็นและครอบงำอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า ขณะที่ทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือด หลินฮวงก็หน้าเปลี่ยนสี
หลินฮวงรู้สึกว่าระยะตรวจจับของหลานหลิงเล็กเกินไป และไม่พอจะเตือนพวกเขาล่วงหน้า ดังนั้น เขาจึงลอบปล่อยเมล็ดกาฝากจำนวนมากระหว่างทางและจับตาดูสภาพแวดล้อมพวกเขาตลอดเวลา
ผ่านเมล็ดกาฝากก่อนหน้านี้ เขาเห็นความโลภบางตัวใกล้ๆที่อาจสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานจากการต่อสู้ระหว่างจิ่วเจี้ยนกับความโลภโครงกระดูก แม้ส่วนใหญ่จะสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม แต่ก็ยังมีพวกระดับสูงหลายตัวที่สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังและกำลังมุ่งหน้ามาทางสนามรบ ท่ามกลางพวกมัน ยังมีสิ่งมีชีวิตขั้นเก้าอยู่ด้วย
หลังลังเลชั่วขณะ หลินฮวงก็เร่งจิ่วเจี้ยน”จิ่วเจี้ยน เจ้าสามารถรีบจัดการมันได้ไหม?”
จิ่วเจี้ยนตกตะลึงตอนเขาได้ยิน ขณะที่พวกเวอชุโอโซมองหลินฮวงอย่างสับสน
การเร่งพรรคพวกให้รีบแบบนี้เป็นพฤติกรรมที่หยาบคาย เพราะทุกคนมีจังหวะต่อสู้ของตัวเอง ถ้าเกิดกดดัน มันจะเท่ากับการแทรกแซงจังหวะต่อสู้พวกเขา
“เกิดอะไรขึ้น?”เวอชุโอโซรู้ว่าต้องมีเหตุผลที่ทำให้หลินฮวงพูดเพื่อเร่งจิ่วเจี้ยน
หลินฮวงลังเลแต่ตัดสินใจเผยเหตุผล”มีความโลภระดับสูงกำลังมุ่งหน้ามาหลังสัมผัสได้ถึงคลื่นการต่อสู้ที่นี่”
เขาไม่อธิบายว่าเขารู้ได้ไง และเวอชุโอโซก็ไม่กดดัน พวกเขาแค่เหลือบมองเขา
หลินฮวงไม่ใช้คลื่นเสียงเขาตอนเขาตอบกลับเวอชุโอโซ นั่นทำให้จิ่วเจี้ยนที่กำลังสู้อยู่ได้ยินชัด
เดิม เขาสงสัยว่าหลินฮวงแค่เร่งเพื่อยั่วยุเขาหรือเปล่า แต่ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าศึกของเขาได้กระตุ้นความโลภตัวอื่น
วินาทีที่หลานหลิงได้ยินหลินฮวงพูด นางก็รีบประสานมืออีกครั้ง ทำการสำรวจรอบใหม่
แต่ทว่า ในไม่ช้านางก็พูดกับหลินฮวงอย่างสงสัย”ข้าไม่สัมผัสได้ถึงความโลภตนใดเลย ข้ากลับเห็นหลายตัวกำลังออกจากพื้นที่ที่เราอยู่ซะมากกว่า”
“พวกอ่อนแอสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม พวกมันจึงหนี แต่ทว่า ตัวที่ทรงพลังกำลังมาที่นี่ เจ้าสัมผัสไม่ได้เพราะพวกมันยังไม่เข้าระยะสัมผัสของเจ้า”หลินฮวงอธิบาย”ข้าไม่อยากอธิบายว่าข้าใช้เทคนิคตรวจจับประเภทไหน แต่เชื่อข้า ข้าไม่ได้พูดเล่น”
“เข้าใจแล้ว”หลานหลิงตอบรับคำอธิบายของหลินฮวงอย่างไม่เต็มใจ
คนอื่นไม่คิดถามเพิ่มว่าหลินฮวงใช้เทคนิคตรวจจับแบบไหน
ในฐานะร่างโคลนของสมาชิกสโมสร จิ่วเจี้ยนรู้ดีว่าสมาชิกทุกคนมีความลับ
เขาเลือกเชื่อหลินฮวงและเพิ่มพลังโจมตีรวมถึงความถี่
เมื่อจังหวะต่อสู้เปลี่ยน ความโลภก็ตอบสนองไม่ทัน จิตสำนึกมันไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของมันอย่างสมบูรณ์และยิ่งเวลาผ่าน ไม่เพียงมันจะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับจังหวะต่อสู้ใหม่ได้ แต่ข้อบกพร่องมันยังเริ่มแสดง จิ่วเจี้ยนได้ครอบงำมัน และในไม่ช้ามันก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ภายในสามนาทีหลังคำเตือนของหลินฮวง จิ่วเจี้ยนก็ฆ่ามันด้วยกระบี่ของเขา
เมื่อเขาฆ่าเสร็จ หลานหลิงก็อุทาน
“ความโลภระดับสูงได้เข้าระยะสัมผัสข้าแล้ว!มันกำลังมุ่งหน้ามาทางเรา!”
เดิมถูทงกังขาคำพูดของหลินฮวงแต่แค่ไม่แสดงความคิดเห็น แต่ตอนนี้ข้อสงสัยของเขาล้วนหายไปหมดแล้ว
“ด้วยระยะแค่นี้ มันสายเกินที่จะคิดหนี มาสู้กับมันกัน!”หลินฮวงพูด”เราแค่ต้องจัดการตัวนี้ให้เร็วที่สุดก่อนตัวต่อไปจะมาถึง”
เขาสะบัดแขนเสื้อทันทีที่พูดจบ และมีดบินพลังจิตก็บินออกมาเหมือนฝูงปลา
จิ่วเจี้ยนผู้เพิ่งสู้จบไม่เก็บกระบี่เขาไป เขากลับสะบัดอาวุธเขา หมุนตัว จ้องไปทางที่มีดบินพลังจิตของหลินฮวงเล็งไป
แม้เวอชุโอโซจะไม่ขยับ แต่พลังเทวะที่วนรอบตัวเขาก็เร่งความเร็วขึ้น เตรียมรับศึก
ในขณะเดียวกัน ถูทงกับหลานหลิงก็ได้ถอยไปด้านหนึ่ง
ยอดฝีมือระดับเทพสวรรค์ขั้นสูงถือว่าเกินความสามารถพวกเขาไปแล้ว
ไม่ช้า ความโลภที่แผ่กลิ่นอายทรงพลังก็แสดงตัวต่อหน้าพวกเขา
รูปลักษณ์ของมันคล้ายกับมนุษย์
มันหัวล้าน ผอมบาง
ความแตกต่างที่ใหญ่สุดระหว่างมันกับมนุษย์คือมันมีหกแขน สามตา
“เผ่าอายัน?!”จิ่วเจี้ยนอดตกใจไม่ได้
หลินฮวงตกตะลึงเช่นกน
เขาเองก็เคยได้ยินถึงเผ่าอายัน ซึ่งเป็นเผ่าพิเศษในมหาพิภพ
สมาชิกเผ่าจะเกิดมาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ
พวกเขายังปฏิเสธที่จะใช้อุปกรณ์และทรัพยากรบ่มเพาะส่วนใหญ่
ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังไล่ตามความเป็นไปได้ทางชีวิตที่เรียบง่ายสุด ถ้าพวกเขาไม่ต้องกิน พวกเขาก็จะไม่กิน ถ้าพวกเขาไม่ต้องดื่มน้ำ พวกเขาก็จะไม่ดื่ม พวกเขาได้ตัดความปรารถนาทิ้ง เหลือไว้แค่พื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
ดังนั้น สมาชิกเผ่าอายันจึงมีพลังภายในและเจตจำนงที่ทรงพลังมาก
นี่ทำให้จิ่วเจี้ยนตกใจตอนเห็นความโลภตนนี้
เผ่าอายันสามารถถือได้ว่าเป็นเผ่าที่มีความปรารถนาน้อยสุดในจักรวาล
พวกเขายังตัดความปรารถนาทางร่างกายของพวกเขาออกไปได้ นับประสาอะไรกับความโลภ
แต่ทว่า สมาชิกเผ่าอายันตรงหน้าพวกเขากลับตกต่ำและเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเผ่ามันอย่างความโลภ
‘เจ้าหมอนี่เกิดโลภในอะไร?’แทบทุกคนรวมถึงหลินฮวงมีความคิดเช่นเดียวกันผุดขึ้น
แต่ทว่า ในไม่ช้าพวกเขาก็ค้นพบคำตอบ
ตาที่สามบนหน้าผากของความโลภตนนั้นพลันเปิดขึ้น ทันใดนั้น รังสีลี้ลับของแสงพุทธก็ไหลออกมาปกคลุม รัศมีสีทองนับไม่ถ้วนหมุนวน ปกคลุมสภาพแวดล้อม เปลี่ยนพวกมันเป็นอาณาจักรแห่งพุทธ
ความโลภเผ่าอายันค่อยๆลอยขึ้นฟ้า และร่างของพุทธองค์ทองคำก็ปรากฏด้านหลังมัน
เสียงพึมพำต่ำดังในหูของทุกคน
“เราจะกลายเป็นพุทธองค์หลังกวาดล้างหุบเหว”
คำพูดเหล่านี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าทำไมอีกฝายถึงโดนเปลี่ยนเป็นความโลภ
สมาชิกเผ่าอายันตนนี้ต้องทุ่มเทกับการกวาดล้างมอนสเตอร์หุบเหวมาก สุดท้าย มันจึงโดนเอาชนะด้วยความโลภ ซึ่งจากนั้นก็เปลี่ยนตัวมันเป็นมอนสเตอร์ซะเอง
หลังพึมพำสักพัก ความโลภเผ่าอายันก็ลดหัวมองพวกหลินฮวง ตาที่สามมันค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง
ฝ่ามือทั้งหกของมันสะบัดออกมาแทบจะพร้อมกันโดยไม่เก็บรั้ง ราวกับภูเขาหกลูกกำลังถล่ม
“ตายซะ เจ้าสัตว์ประหลาด!”
ตอนที่ 1545
บุคคลในเผ่าอายัน เผ่าที่บริสุทธิ์สุด มีความปรารถนาน้อยสุดกลับกลายเป็นวิบัติที่ยากจะเข้าถึงสุดอย่างความโลภ
ถ้าพวกเขาไม่เห็นมันด้วยตาตัวเอง ทุกคนอาจไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
แม้กระทั่งเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยน ผู้มีประสบการณ์และความรู้ก็ยังตกตะลึงตอนเห็นความโลภ แต่ทว่า หลังจากนั้น สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เผ่าอายันคือผู้บ่มเพาะสันโดษที่บริสุทธิ์สุด
พวกเขามีเจตจำนงแกร่งกล้า ซึ่งหมายความว่าความสามารถพวกเขาทรงพลังมาก
แม้ความโลภเผ่าอายันตรงหน้าพวกเขาจะเป็นแค่เทพสวรรคขั้นเจ็ด กลิ่นอายที่แผ่จากมันก็น่ากลัวมาก
นอกจากนี้ มันโจมตีเต็มกำลังทันทีที่มันมาถึง แขนทั้งหกของมันโจมตีพร้อมกัน เปลี่ยนเป็นภูเขาสูงเหลือเชื่อหกลูก
ภูเขาแต่ละลูกเหล่านี้ประกอบด้วยพลังลำดับเทพอย่างน้อยเก้าชนิด
แค่การโจมตีนี้อย่างเดียวก็สามารถโค่นเทพสวรรค์ขั้นเก้าได้แล้ว
จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซหน้าเปลี่ยนสี
ทั้งคู่โจมตีทันที พยายามขวางการโจมตีนี้
ค่ายกลกระบี่กว่าร้อยส่องสว่างเหมือนคลื่นแสงสีทองตรงหน้าจิ่วเจี้ยน ซ้อนทับกัน คลื่นกระบี่ทองนับล้านเปล่งแสงจากค่ายกลกระบี่ หนาแน่นจนเหมือนดวงอาทิตย์
เขาปล่อยการโจมตีเต็มกำลัง แทบไม่รั้งอะไรไว้
แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังตกใจ
แต่ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้เขาตกใจยิ่งกว่า
เวอชุโอโซทำแบบเดียวกับจิ่วเจี้ยน ค่ายกลกระบี่นับร้อยควบแน่นอย่างรวดเร็วต่อหน้าเขาและคลื่นกระบี่ทองกว่าล้านก็ส่องสว่างเหมือนดาวบนท้องฟ้า
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ดวงตาของหลินฮวงเบิกกว้าง ในฐานะผู้บ่มเพาะดาบ เขาไม่พบกลิ่นอายของผู้บ่มเพาะกระบี่บนตัวเวอชุโอโซเลยตั้งแต่ต้น
แต่ทว่า ปัจจุบัน เวอชุโอโซกำลังแสดงวิชาเดียวกับจิ่วเจี้ยน ไม่ใช่แค่นั้น หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าค่ายกลกระบี่และคลื่นกระบี่ที่เวอชุโอโซสร้างเป็นของจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา
ถูทงที่ยืนอยู่ด้านข้างดูเหมือนจะสังเกตความสับสนของหลินฮวงได้ จากนั้นเขาก็อธิบายผ่านคลื่นเสียง”นี่คือผลของห่วงโซ่ลำดับเทพเลียนแบบที่อาจารย์เราเชี่ยวชาญ เขาสามารถเลียนแบบและคัดลอกวิชาของคนอื่นได้”
หลินฮวงเพิ่งสังเกตเห็นว่าภายใต้หน้ากากของเวอชุโอโซ อักขระสีแดงเลือดกำลังหมุนวนในรูม่านตาเขา
ภายใต้พลังประสานของจิ่วเจี้ยนและเวอชุโอโซ คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนโจมตีใส่ฝ่ามือใหญ่ของความโลภ
มันเหมือนฝนดาวตกที่ปะทะกับกำแพงจิต
กระแสแสงสีทองไร้สิ้นสุดระเบิด ปะทะกับฝ่ามือคล้ายภูเขายักษ์
ทันใดนั้น แสงก็เลือนหายไป ภูเขาพังถล่ม
ภายใต้พลังประสานของเวอชุโอโซและจิ่วเจี้ยน การโจมตีของเผ่าอายันโดนขวางไว้ได้
ตัดสินจากสิ่งนี้ ความสามารถของความโลภเผ่าอายันถือว่าเป็นแค่เฉลี่ย
เมื่อการโจมตีมันโดนปิดกั้น ความโลกเผ่าอายันก็ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนมันจะโจมตีด้วยฝ่ามือทั้งหกอีกครั้ง
การโจมตียิ่งเกรี้ยวกราดขึ้น และมันก็กรีดร้องไม่หยุดขณะโจมตี
“ข้าจะกวาดล้างพวกเจ้าให้หมดต่อให้ข้าต้องตาย เจ้าสัตว์ร้าย!”
ความโกรธในดวงตาทั้งสามยิ่งเพิ่มพูน
หลินฮวงไม่โจมตีขณะมองดูจิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซต้านรับฝ่ามืออันทรงพลังของเผ่าอายัน
เขากลับดูเหมือนจะไตร่ตรองขณะจ้องมอนสเตอร์ตรงหน้า
“เจ้าหมอนี่ไม่ดูเหมือนจะรู้ตัวเลยว่ามันเปลี่ยนเป็นความโลภ..”
“เจ้าไม่คิดจะช่วยเหรอ?”หลานหลิงที่อยู่ด้านข้างอดถามไม่ได้เมื่อเห็นพวกจิ่วเจี้ยนกำลังลำบาก
“ข้ากำลังรอโอกาสโจมตี”หลินฮวงตอบกลับ
เหตุผลที่เขาไม่เข้าร่วมในการต่อสู้เพราะเขาตระหนักดีว่าต่อให้เขาเข้าร่วม มันก็ยากมากที่จะจบการต่อสู้ในเวลาอันสั้น มันยากมากสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีก่อนมอนสเตอร์ตัวต่อไปมาถึง
เขาไม่พูดอะไรต่อ
ในขณะเดียวกัน บนสนามรบ เวอชุโอโซพูดกับความโลภเผ่าอายันระหว่างการต่อสู้
“เจ้าเรียกเราว่าสัตว์ร้าย แต่เจ้าไม่ดูเหมือนจะรู้เลยว่าเจ้าเป็นแค่สัตว์ร้ายตัวเดียวที่นี่ เราเป็นคนธรรมดาที่ยังไม่ปนเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหว”
“ไร้สาระ!”ความโลภทุบฝ่ามือลงอีกครั้ง
“เจ้าเป็นพระจากเผ่าอายัน อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่รู้ถึงความผิดปกติในตัวเจ้าเลย?หรือบางทีเจ้าอาจรู้ แต่เลือกไม่สนใจมัน?!”
“เจ้ากำลังพยายามหลอกข้าด้วยคำโกหกของเจ้า!”ความโลภกระแทกฝ่ามืออีกครั้ง
“เจ้ารู้อยู่เต็มอกว่าเราหลอกหรือเปล่า ข้าไม่เชื่อว่าในฐานะพระชื่อดัง เจ้าจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานหุบเหวและอารมณ์ด้านลบในตัว”
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็แสดงมันต่อหน้ากระจกความจริงสิ มาดูว่าตอนนี้มันเป็นยังไงและนั่นควรยุติได้”หลินฮวงอดพูดไม่ได้
“นั่นเป็นความคิดที่ดี!’เวอชุโอโซอุทาน ทันใดนั้น เขาก็หยิบเอากระจกจากช่องเก็บของเขา เปลี่ยนมันเป็นหน้าของความโลภเผ่าอายัน
แม้มันจะไม่เชื่อสิ่งที่หลินฮวงกับเวอชุโอโซพูด มันก็อดมองเข้าไปในกระจกไม่ได้
แค่เหลือบมัน มันก็เห็นหน้าตามันในปัจจุบัน
มันผอมแห้งเหมือนมัมมี่ ไม่เพียงแค่นั้น มันยังมีหกแขนสามตา และก็ดูน่ากลัวมาก
“นี่เป็นกลลวง มันไร้สาระสิ้นดี!’ความโลภโหยหวน
“นี่ไม่ใช่กลลวงแน่ นี่คือหน้าตาของเจ้า”เวอชุโอโซอธิบาย”เจ้าตามืดบอดด้วยพลังงานหุบเหวและอารมณ์ด้าสนลย เจ้าจึงไม่สามารถมองเห็นความจริงของเรื่องนี้ได้”
“ในสายตาเจ้า เจ้าปกติ ขณะที่เราคือสัตว์ร้าย แต่ทว่า ในความเป็นจริง มันตรงกันข้าม ภาพที่แสดงในกระจกแห่งความจริงได้พิสูจน์แล้ว”
“กระจกแห่งความจริงสามารถปลอมได้!”
“เจ้าควรรู้ดีว่ามันปลอมหรือไม่ปลอม!”เวอชุโอโซโยนกระจกใส่ความโลภเผ่าอายัน
ความโลภรับกระจก สิ่งแรกที่มันเห็นคือใบหน้าผอมแห้ง
จากนั้นมันก็ใช้กระจกส่องส่วนอื่นของร่างมัน และคิ้วมันก็เริ่มขมวด
ในฐานะสมาชิกเผ่าพุทธอายัน พลังเจตจำนงของมันเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตระดับเทพสวรรค์ขั้นเจ็ด จนถึงจุดที่ถึงมาตรฐานของขั้นเก้า มันเป็นไปไม่ได้สำหรับใครก็ตามที่ต่ำกว่ากึ่งจ้าวเทวะที่จะดึงมันเข้าสู่ภาพลวงตา
ดังนั้น กระจกแห่งความจริงที่มันมองต้องเป็นของจริง
ความโลภเผ่าอายันพบว่ามันยากที่จะยอมรับความคิดเหล่านี้และยืนนิ่ง
มันใช้เวลาหลายปีเข่นฆ่าสัตว์ร้าย แต่มันไม่เคยคิดเลยว่าสัตว์ร้ายจะเป็นตัวมันเอง
ตอนนั้นเอง คลื่นดาบสีแดงเลือดพลันส่องสว่าง
มันคือหลินฮวงที่เตรียมการโจมตีมาระยะหนึ่งแล้ว
นี่คือโอกาสที่เขากำลังรอคอย
เขาไม่ออมพลังเลย เขารวมกฏสวรรค์เต๋าดาบกับห่วงโซ่ลำดับเทพเก้าชนิด
คลื่นดาบเหมือนเคียวแห่งความตาย มันยังคล้ายกับจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือด
มันเฉือนผ่านร่างของความโลภในชั่วพริบตา…
ความโลภไม่มีเวลาหลบ หรือไม่สามารถป้องกันตัวมันได้ ทั้งหมดที่มันเห็นคือคลื่นสีแดงที่พุ่งใส่มัน และตัวมันก็กลายเป็นศพไร้หัว..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น