Monster Paradise 1539-1543

ตอนที่ 1539

 

หลังผ่านไปครึ่งวัน กลุ่มหนอนเท้าดาบก็นำหนอนงูเหลือมมาถึงทางออกที่สอง


 


ผ่านหนอนเท้าดาบ หลินฮวงได้เห็นผู้พิทักษ์ทางออกนี้แต่ไกล


 


อสูรแมลงที่พิทักษ์ทางออกนี้คือแมงมุมกินศพ ระดับพลังมันยังเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้า


 


แมงมุมกินศพคือแมลงที่เชี่ยวชาญการลอบสังหาร


 


ไม่เพียงมันจะล่องหนได้ มันยังมีพลังประเภทควบคุม แต่ตัวมันยังมีพิษ และมันก็ว่องไวมาก


 


แมงมุมกูลที่ไม่แปดเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหวนับว่ารับมือด้วยได้ยากแล้ว


 


ตัวที่พิทักษ์ทางออกมีกลิ่นอายน่ากลัวมาก และตัวมันยังบิดเบี้ยว


 


วินาทีที่กลุ่มหนอนเท้าดาบปรากฏตรงหน้ามัน แมงมุมกินศพพ่นใยแมงมุมมาควบคุมหนอนเท้าดาบทันที


 


หลินฮวงคิดว่าเทคนิคปรสิตของเขาถูกพบ ดังนั้นเขาจึงสลายเมล็ดกาฝาก แต่ทว่า หลังจากนั้น เขาก็เห็นแมงมุมกินศพควบคุมหนอนเท้าดาบให้เดินไปหามัน จากนั้นมันกัดตัวหนอนเท้าดาบ


 


ภายในสองนาที แมงมุมกินศพก็กลืนหนอนเท้าดาบทั้งหมดไป


 


หลังจากนั้น มันก็หายไปจากมุมมอง


 


เวอชุโอโซกับคนอื่นสังเกตเห็นว่าหลินฮวงเงียบและไม่กดดันเขา พวกเขากลับรออย่างอดทน


 


หลินฮวงถอนหายใจโล่งอกหลังยืนยันว่าเมล็ดกาฝากไม่ถูกค้นพบ จากนั้นเขาก็บอกคนอื่นถึงสิ่งที่เขาเห็น


 


“ผู้พิทักษ์ทางออกคือแมงมุมกินศพขั้นเก้า ข้าไม่แน่ใจว่ามันระมัดระวังหรือมันเผอิญหิว มันโจมตีกลุ่มหนอนเท้าดาบข้าและกินทั้งหกไป”


 


“มันไม่ได้ระมัดระวัง หรือหิว”เวอชุโอโซอธิบาย”แมงมุมกินศพมีนิสัยโหดร้าย พวกมันจะโจมตีทุกสิ่งมีชีวิตที่เข้าอาณาเขตพวกมัน แมงมุมกินศพที่ปนเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหวจะยิ่งโหดเหี้ยม มันเป็นปกติ”


 


“แล้วเราจะทำไงกันดี?เราจะไปทางออกต่อไปไหม?”หลานหลิงควบคุมหนอนงูเหลือมให้หยุด


 


“ทางออกนี้โดนเฝ้าด้วยอสูรแมลงขั้นเก้า เราสามารถยืนยันได้ว่าการคาดเดาก่อนหน้าเราถูก ทางออกที่เหลือควรเฝ้าโดยแมลงขั้นเก้าเช่นกัน”เวอชุโอโซพูดอย่างสงบ”ทางออกต่อไปคงเหมือนกับทางออกนี้”


“เรากำลังจะบุก?”ถูทงเข้าสู่สถานะต่อสู้ทันที


 


“ไม่ต้องรีบ มาลองกันก่อน.”เวอชุโอโซประสานมือสองข้างทันทีที่พูด


 


วินาทีต่อมา ร่างที่ดูเหมือนเขาก็แยกออกจากตัวเขา มันดูเหมือนจะไม่สนใจการดำรงอยู่ของหนอนงูเหลือมและผนัง ค่อย ๆ โผล่ออกจากพื้นและปรากฏในทางเดินวงกต


 


เวอชุโอโซหมายเลข2กระโจนไปอย่างรวดเร็วทันทีที่เท้ามันแตะพื้น ร่างของเขากระโจนไปข้างหน้า วิ่งตรงใส่แมงมุมกินศพที่เฝ้าทางออก


 


แมงมุมกินศพล่องหนโจมตีแทบทันทีที่เวอชุโอโซหมายเลข 2 ปรากฏ


 


เวอชุโอโซหมายเลข 2 ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการโจมตี ก่อนแมงมุมกินศพจะมาถึงตัว เขาก็ถอยและหนีไป


 


แมงมุมกินศพไล่ตามอยู่สองจังหวะ แต่ในไม่ช้าก็นึกอะไรได้ มันหมุนตัว ถอยกลับไปทางออก มันเฝ้าดูเวอชุโอโซหมายเลข 2 วิ่งไปไกลและค่อยๆ เปลี่ยนเป็นล่องหนอีกครั้ง


 


ทุกคนเห็นฉากนี้ชัดผ่านภาพฉายของหลานหลิง


 


“มันล้มเหลว”จิ่วเจี้ยนผิดหวัง


 


หลังเห็น พวกหลินฮวงก็เข้าใจว่าเวอชุโอโซกำลังพยายามล่อเสือออกจากถ้ำ ใช้เงาเพื่อลากแมงมุมกินศพ น่าเสียดาย มันไม่โดนหลอก


 


“ด้วยนิสัยของแมงมุมกินศพ มันจะไล่ล่าภายใต้สถานการณ์ปกติ แต่มันกลับตัดสินใจถอย”แต่ทว่า เวอชุโอโซดูเหมือนจะคาดไว้แล้ว”มันพิสูจน์ว่ามันได้รับคำสั่งมา”


 


“ถ้าพวกเจ้าคนใดมีเทคนิคอื่น ก็รีบใช้ซะ แมงมุมกินศพจะต้องรายงานเรื่องที่เราทำไปแน่”หลินฮวงเหลือบมองกลุ่ม”ตามคาด จะมีกลุ่มค้นหาออกมาทางนี้เพิ่มมากขึ้น เราเหลือเวลาไม่มาก”


“ให้ข้าลองอีกครั้ง”มันยังเป็นเวอชุโอโซที่พูด เขาหันไปมองหลานหลิงทันทีที่เขาพูดจบ”เมื่อเจ้าได้ยินคำสั่งข้า จงส่งหนอนงูเหลือมบุกเข้าไปตรงนั้น”


 


หลานหลิงพยักหน้า


 


เวอชุโอโซเริ่มประสานมือกันอย่างซับซ้อน หน้ากากบนหน้าเขายังเริ่มเปล่งแสงด้วยอักขระสีทอง


 


วินาทีต่อมา หลินฮวงกับคนอื่นก็เห็นแมงมุมกินศพเผยตัว มันห้อยหัวเหนือทางออก แต่ทว่า มันก็พลันตัวแข็ง


 


สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือต่อหน้าแมงมุมกินศพ แต่หนอนงูเหลือมได้โผล่ออกจากใต้ดินทันทีและรีบตรงไปทางออก


 


แมงมุมกินศพกระโดดลงจากเหนือทางออก และกรงเล็บแหลมก็เจาะผ่านตัวหนอนงูเหลือม


 


แต่ทว่า หลายร่างก็พลันโผล่ออกจากตัวหนอนงูเหลือมและโจมตีมัน..


 


“ตอนนี้แหละ!”ทันทีที่เวอชุโอโซออกคำสั่ง หลานหลิงก็ควบคุมหนอนงูเหลือมให้ขุดดินตรงไปทางออก


 


มันได้ผลจนถึงตอนหนอนงูเหลือมไปอยู่ใต้แมงมุมกินศพ ทางด้านหน้าตัน หลานหลิงทำได้แค่ควบคุมมันให้โผล่จากใต้ดินและรีบตรงไปทางออก


 


แต่ทว่า ตอนนั้นเอง ความผันผวนมิติกลับปรากฏขึ้นไม่ไกล


 


ร่างหลายร่างก้าวออกจากวังวนมิติ และดันเห็นหนอนงูเหลือมที่กำลังจะพุ่งออกไป


 


กรงเล็บพุ่งผ่านแต่ไกล เปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองหลายสายที่เจาะผ่านตัวหนอนงูเหลือม เฉือนมันเป็นหลายชิ้น


 


ทุกคนตกใจ ไม่คิดว่าแมลงกรงเล็บทองขั้นเก้าจะโผล่ออกมาวินาทีสุดท้ายและทำลายแผนของเวอชุโอโซ


 


อสูรกรงเล็บทองเป็นแมลงที่มีพลังโจมตีสูงมาก


 


ขาพวกมันไม่เหมือนมอนสเตอร์แมลงมากมาย พวกมันแหลม กรงเล็บคล้ายอสูร และมักมีพลังลำดับเทพเฉือน ความรุนแรงของการโจมตีไม่ต่ำกว่าผู้บ่มเพาะดาบมนุษย์และผู้บ่มเพาะกระบี่เลย


 


แมลงกรงเล็บทองที่แปดเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหวจะมีร่างกายแข็งมาก  พลังงานหุบเหวภายในพวกมันสามารถดูดซับพลังกฏเทพและพลังลำดับจากการโจมตี นี่หมายความว่าความสามารถฟื้นฟูพวกมันจะส่งผลเมื่อพวกมันโจมตีด้วยพลังกฏเทพกับพลังลำดับเทพ ซึ่งทำให้ความสามารถต่อสู้ประชิดพวกมันลอบเร้นกว่าเดิม


 


หลังปลุกคลื่นพลังงานรุนแรงจากการโจมตีของแมลงกรงเล็บทอง ดวงตาทั้ง 16 ของแมงมุมกินศพเหนือกลุ่มเวอชุโอโซริ่มเปล่งแสงสีแดง


 


แมงมุมกินศพตื่นแล้ว!


 


แผนเดิมคือการดึงแมงมุมกินศพเข้าภาพลวงตาได้เกินขีดความสามารถของเวอชุโอโซ ในความเป็นจริง แม้จะไม่มีการแทรกแซงจากโลกภายนอก ภาพลวงตาพวกเขากลับไม่คงอยู่เลยตอนร่ายใส่มัน ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเร่งหลานหลิงให้ควบคุมหนอนงูเหลือมเพื่อออกไปทันที


 


แต่ทว่า คลื่นพลังงานที่เกิดจากการโจมตีของแมลงกรงเล็บทองทำให้แมงมุมกินศพตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันแค่ต้องดิ้นรนสักเล็กน้อยและสลัดภาพลวงตาออกไป จากนั้นมันก็เห็นศพแมลงกรงเล็บทองที่โดนเฉือนเป็นหลายชิ้นและเงาหลายร่างก็โผล่ออกจากศพ

 

 

 


ตอนที่ 1540

 

การปรากฏตัสของแมลงกรงเล็บทองเป็นสิ่งที่คนไม่คาดคิดเลย


 


แม้หลินฮวงกับคนอื่นจะรู้ตั้งแต่ต้นว่ามีกลุ่มค้นหาอื่นกำลังเร่งมา พวกเขาก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้


 


พวกเขารู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติตอนแมลงกรงเล็บทองปรากฏ


 


ตามคาด แมลงกรงเล็บทองบุกและโจมตีหนอนงูเหลือมทันทีที่มันก้าวออกประตูมิติ เฉือนมันเป็นชิ้นๆ


 


แม้พวกหลินฮวงจะไม่บาดเจ็บ การกระทำของแมลงกรงเล็บทองก็ทำให้แมงมุมกินศพเหนือหัวพวกมันตกใจจนตื่น


 


ดังนั้น สถานการณ์จึงเลวร้ายมาก


 


สถานการณ์เลวร้ายที่พวกเขาคาดคิดไว้ก่อนหน้าคือแมงมุมกินศพจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งผิดปกติก่อนพวกเขาหลบหนีและสลัดภาพลวงตา


 


แต่ทว่า ตอนนี้ ไม่เพียงพวกมันจะได้สติ ทำให้แมงมุมกินศพโกรธ แต่แมลงกรงเล็บทองยังจ้องพวกเขาจากด้านข้างด้วย


 


แมลงทั้งสองชนิดเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้า


 


แม้กระทั่งโปรตอสระดับเทพสวรรค์ขั้นเก้าก็ต้องปวดหัวถ้าเจอกับสถานการณ์เช่นนี้


 


แต่ทว่า ในกลุ่มหลินฮวง คนที่มีพลังสูงสุดคือเทพแท้จริงขั้นเก้า


 


“พยายามหาโอกาสและหนีกัน มันดีกว่าถ้าพวกเราสักคนสามารถหลบหนีไปได้แทนที่ทุกคนจะติดอยู่ที่นี่กันหมด!”จิ่วเจี้ยนพูดกับพวกหลินฮวงผ่านคลื่นเสียงและโผล่ออกจากศพหนอนงูเหลือมไปเป็นคนแรก


 


เขายกหัวขึ้นมองแมงมุมกินศพเหนือเขา ด้วยรูม่านตาสีแดงเลือด


 


คลื่นกระบี่สีทองนับไม่ถ้วนเริ่มก่อตัวตรงหน้าเขา


 


เวอชุโอโซไม่หนีเช่นกัน เขากลับยืนอยู่ข้างจิ่วเจี้ยนและเริ่มประสานมืออย่างรวดเร็ว


 


เขาพูดผ่านคลื่นเสียงให้พวกหลินฮวง”พวกเจ้ามาด้วยร่างจริง ถ้าโดนฆ่า พวกเจ้าจะตายจริง เราสองคนจะถ่วงเวลาให้ ถ้าหนีได้ ก็หนีซะ!”


 


ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ประสานมือเสร็จ ตัวของเขาเริ่มแยกอย่างรวดเร็ว ร่างหลายร่างที่ดูเหมือนกับเวอชุโอโวเริ่มพุ่งใส่แมลงกรงเล็บทอง


 


อีกด้าน คลื่นกระบี่สีทองนับไม่ถ้วนด้านหน้าจิ่วเจี้ยนยังเทลงมาเหมือนพายุ ตรงใส่แมงมุมกินศพเหนือหัวเขา


 


หลินฮวงสังเกตเห็นว่าถูทงกับหลานหลิงยังลังเลว่าควรช่วยเหลือเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนไหม เขาคว้าข้อมือทั้งคู่ และลากพวกเขาไปขณะพุ่งตรงไปทางออก


 


“พวกเขาสองคนไม่สามารถซื้อเวลาให้เราได้มากนัก ถ้าพุ่งเข้าไปช่วย ไม่เพียงจะไม่เพิ่มโอกาสสำเร็จ แต่ยังทำให้วุ่นวาย!พวกเขาจะมีโอกาสหนีก็ต่อเมื่อพวกเจ้าออกไปแล้ว!”หลินฮวงพูดกับทั้งคู่ จากนั้นถูทงกับหลานหลิงจึงหยุดดิ้น แต่ทว่า พวกเขาไม่ทันสังเกตว่าคำพูดของหลินฮวงแค่พูดถึงทั้งคู่ แต่ไม่รวมเขา


 


ในเวลเดียวกับที่ทั้งสามหลบหนี แมงมุมกินศพเหนือพวกเขาก็ถูกคลื่นสีทองกลืนกินไปจนหมด ในเวลาเดียวกันนั้น แมลงกรงเล็บทองอีกด้านก็โดนล้อมด้วยร่างแยกนับหมื่นของเวอชุโอโซ


 


หลินฮวงคว้าหลานหลิงกับถูทง ไปถึงทางออกแทบจะทันที


 


เขาหยุดชะงักทันทีที่มาถึงทางออก แทนที่จะวิ่งออกไป เขากลับใช้สองมือผลักถูทงกับหลานหลิงออกไป


 


ตอนนั้นเอง แมงมุมกินศพที่ไร้บาดเจ็บก็พลันพุ่งออกจากคลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนของจิ่วเจี้ยน ในเวลาเดียวกัน แมลงกรงเล็บทองในอีกด้านก็เป็นอิสระจากวงล้อมของร่างแยกนับไม่ถ้วน


 


แม้จะใช้พลังเต็มที่ ทเคนิคของทั้งคู่ก็ไม่สามารถสะกดอสูรแมลงทั้งสองได้เลย


 


ตอนนั้นเอง คลื่นแสงสีแดงเลือดนับไม่ถ้วนพลันยิงออกจากแขนเสื้อของหลินฮวงเหมือนสายฟ้าฟาด แบ่งแยกระหว่างแมลงเทพสวรรค์ขั้นเก้าทั้งสองกับพวกเขา


 


แม้จิตเทวะของหลินฮวงจะลดลงมากแม้ไม่แตะต้องกำแพงวงกต มันก็ยังได้ผลภายในระยะสิบเมตร


 


การโจมตีนี้ของหลินฮวงได้ผสานพลังลำดับเทพขั้นแปดกับกฏสวรรค์เต๋าดาบ


 


แม้กระทั่งแมลงทั้งสองก็ยังสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามและพลันเบี่ยงความสนใจไปยังสายฟ้าสีแดงเลือด


 


ท่ามกลางความสับสนของเวอชุโอโซและจิ่วเจี้ยน พวกเขาสัมผัสได้ถึงเส้นด้ายที่รัดรอบเอวพวกเขา แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงของหลินฮวงก็ดังในหูพวกเขาผ่านคลื่นเสียง”มันถึงเวลาต้องไปแล้ว!”


 


จากนั้นทั้งคู่ถึงเข้าใจว่ามันคือด้ายพลังจิตของหลินฮวง วินาทีที่พวกเขาหยุดต่อต้าน พวกเขาก็รู้สึกถึงแรงดึงมหาศาลและร่างพวกเขาก็บินไปทางออก


 


ท่ามกลางการถอยกลับนี้ พวกเขาเห็นสายฟ้าสีแดงเลือดที่ก่อตัวเป็นทรงกลมยักษ์สองลูก ห่อหุ้มอสูรแมลงทั้งสองไว้โดยสิ้นเชิง


 


หลังดึงทั้งคู่มาหาเขา หลินฮวงก็ลากทั้งคู่ไปทางออก โดยไม่เหลียวมองหลัง


 


ด้านนอกทางออกของวงกตแมลงปีศาจคือดินแดนรกร้างกว้างใหญ่


 


ถูทงกับหลานหลิงผู้รออย่างกระวนกระวายเห็นทั้งสามออกมาพร้อมกัน


 


“ไป!”หลินฮวงยังวิ่ง หลังตะโกน เขาก็วิ่งออกไปไกล


 


ในวงกต มีดบินพลังจิตตกลงพื้นทีละเล่มเมื่อหลินฮวงออกไป


 


เมื่อแมลงทั้งสองโผล่ออกมาใหม่ ตัวพวกมันก็เต็มไปด้วยรอยเลือด แต่ทว่า นี่เป็นแค่แผลตื้น ซึ่งฟื้นกลับคืนด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า


 


แมลงทั้งสองแค่เหลือบมองทางออก แทนที่จะไล่ล่าหลินฮวง พวกมันเลือกรายงานเหตุการณ์


 


หลินฮวงกับคนอื่นหนีออกไปไกล เมื่อพวกเขาตระหนักว่ามอนสเตอร์เผ่าแมลงไม่ไล่ตามมาแล้ว พวกเขาถึงถอนหายใจโล่งอก


 


“พวกเจ้าทั้งคู่เป็นหนี้อาวุธพลังจิตข้า”หลินฮวงพูดกับจิ่วเจี้ยนและเวอชุโอโซอย่างจริงจัง


 


ทั้งสองพูดไม่ออกตอนได้ยิน


 


แต่ทว่า ทั้งสองยังตระหนักว่าหลินฮวงได้ทิ้งชุดมีดบินพลังจิตไว้ในวงกตแมลงปีศาจจริง


 


“เราจะชดใช้ตอนเราออกหุบเหว ตกลงไหม?”เวอชุโอโซพูดอย่างรำคาญ


 


“ได้”หลินฮวงตกลงอย่างเริงร่า แต่ในไม่ช้าก็คิดอะไรได้”หรือเจ้าจะให้วัตถุดิบระดับเดียวเป็นการแลกเปลี่ยนก็ได้”


 


เขาถามเพื่อป้องกันไม่ให้ขาดของหายากเพื่อยกระดับมอนสเตอร์เขา


 


“ได้สิ”จิ่วเจี้ยนตกลง


 


ในขณะเดียวกัน อีกด้าน เวอชุโอโซกลอกตาใส่หลินฮวง


 


แต่ทว่า พวกเขารู้ดีว่าถ้าหลินฮวงไม่เสียสละมีดบินพลังจิตเพื่อช่วยพวกเขากับจิ่วเจี้ยน ทั้งคู่อาจต้องสังเวยชีวิตในวงกตแมลงปีศาจ


 


ถูทงกับหลานหลิงไม่เข้าใจว่าทั้งสามพูดเรื่องอะไร พวกเขาไม่กล้าถาม พวกเขาทำได้แค่ตามหลังและวิ่ง


 


“เนื่องจากแมลงเหล่านี้ไม่ไล่ล่าเราทันที เราก็ควรพิจารณาว่าเราหลบหนีสำเร็จไหม?”หลินฮวงถามเวอชุโอโซ


 


“ข้าคิดว่างั้น”เวอชุโอโซพยักหน้า”หุบเหวใหญ่มาก เนื่องจากพวกมันไม่ล่าเราทันที มันก็ยากที่จะตามจับเราได้”


 


“มันเป็นปกติมากสำหรับพวกมันที่จะไม่ล่าเรา เพราะพวกมันไม่มีทางรู้ว่าเรามีพรรคพวกคนอื่นในวงกตอีกไหม พวกมันต้องตรวจสอบวงกตให้ละเอียดเพื่อป้องกันราชินีหรือนางพญาจากการโดนลอบสังหาร สำหรับเรา เราออกวงกตมาแล้ว เราจึงไม่เป็นภัยคุกคามพวกมันอีก โดยธรรมชาติ การไล่ตามเราจึงไม่สำคัญเท่าการตรวจสอบภายในวงกต”จิ่วเจี้ยนมีความชัดเจนถึงกลไกการทำงานของวงกตแมลงปีศาจ


 


“ยอดฝีมือเผ่าแมลงที่เฝ้าทางออกต้องได้รับคำสั่งล่วงหน้าไม่ให้ไล่ตามผู้รุกรานเมื่อออกวงกต ไม่งั้น ด้วยนิสัยของแมงมุมกินศพ มีโอกาสสูงที่พวกมันจะไล่ล่าเรา”เวอชุโอโซพูดเสริม


 


“เราสามารถพิจารณาว่าวงกตแมลงปีศาจไม่ใช่ภัยคุกคามต่อเราแล้ว”เวอชุโอโซพูดเสริม”สิ่งที่เราต้องหาให้เร็วที่สุดคือ..เราอยู่ไหนกันแน่?”

 

 

 


ตอนที่ 1541

 

พื้นผิวของหุบเหวกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ แม้มันจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของจักรวาล มันก็กินพื้นที่กว่าหนึ่งในสี่


 


นอกจากจักรวาลกับมหาพิภพที่หลินฮวงอยู่แล้ว หุบเหวเชื่อมต่อกับมหาพิภพ โลกขนาดเล็กและมิติมากมาย


 


ดังนั้น พวกหลินฮวงจึงไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเขาอยู่ไหนตอนหลบหนีจากวงกตแมลงปีศาจ


 


“หลานหลิง ตรวจสอบว่ามอนสเตอร์อยู่แถวไหน’


 


เหตุผลว่าทำไมเวอชุโอโซถึงบอกหลานหลิงให้ตรวจสอบไม่ใช่เพราะจิตเทวะไม่มีผลที่นี่ แต่เพราะไม่มีใครใช้จิตเทวะในหุบเหวได้ตามใจชอบ


 


มันไม่ใช่กับแค่คนนอกที่รุกรานหุบเหว แม้กระทั่งคนท้องถิ่นของหุบเหวก็มักไม่ใช้จิตเทวะเช่นกัน


 


นี่เพราะทันทีที่ใช้จิตเทวะ มันเทียบเท่ากับการเปิดเผยตำแหน่ง


 


ถ้าสิ่งมีชีวิตภายในระยะตรวจจับของผู้ใช้จิตเทวะอ่อนแอกว่าผู้ใช้ นั่นยังไม่เป็นไร แต่ทว่า ถ้าสิ่งมีชีวิตนั้นทรงพลังกว่า ผู้ใช้อาจตกเป็นเป้าโดยจิตเทวะของสิ่งมีชีวิตนั้นและกลายเป็นเหยื่อ


 


นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่หุบเหวไม่ขาดคือผู้ทรงอำนาจ


 


แม้กระทั่งจ้าวเทวะก็ไม่คิดใช้จิตเทวะตอนอยู่ที่นี่ พวกเขาจะใช้แค่เทคนิคตรวจจับ


 


คาถาของหลานหลิงเป็นประเภทที่หายากและหลายคนไม่รู้ มันเมหาะสมสุดตอนใช้ตรวจสอบ นี่พิสูน์แล้วในวงกตแมลงปีศาจก่อนหน้า


 


แต่ทว่า ข้อได้เปรียบหลักของคาถาตรวจสอบนางคือมันมีวิธีปกปิด มันไม่ได้เหนือกว่าในแง่ระยะ


 


ตอนนี้ โดยปราศจากการแทรกแซงของวงกต ระยะตรวจจับและความแม่นยำของคาถานางจึงกลับเป็นปกติ แต่ทว่า นางสามารถใช้ได้แค่ภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตร


 


แม้ระยะตรวจจับจะยังไม่กว้างมาก มันก็ดีกว่าการใช้จิตเทวะและโดนพบด้วยสิ่งมีชีวิตหุบเหว


 


หลานหลินรีบปลดปล่อยคาถานางและเริ่มตรวจสอบ


 


เมื่อปากของนางขยับ อักษรบนแขนสองข้างนางก็จมลงพื้นอย่างรวดเร็ว


 


ในไม่ช้านางก็ลืมตาขึ้นประมาณสองถึงสามนาทีต่อมา


 


“สถานการณ์เป็นไง?”ถูทงคือคนแรกที่ถาม ไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้


 


“มีอสูรพิโรธอยู่ทั่วไปหมดภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตร ข้าไม่พบมอนสเตอร์ตัวอื่นเลย”หลานหลิงยืนขึ้นมองเวอชุโอโซ


 


“อสูรพิโรธภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตร”เวอชุโอโซขมวดคิ้ว


 


“หรือนี่จะเป็นดินแดนหุบเหววิบัติ?”จิ่วเจี้ยนหันไปถามเวอชุโอโซ


 


“เป็นไปได้ แต่เรายังยืนยันไม่ได้”เวอชุโอโซพยักหน้าเล็กน้อย”เหนือสิ่งอื่นใด มีหลายที่ที่เป็นแบบนี้ หุบเหวได้สะสมอารมณ์ด้านลบมากมาย ทั้งมากและน้อย แม้จะมีสถานที่ไม่มากที่พวกอสูรพิโรธรวมกันมากขนาดนี้ แต่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องใช่ดินแดนหุบเหววิบัติ”


 


“ไปเดินดูกัน ถ้ามีการกระจายตัวของพวกวิบัติเป็นจำนวนมาก เราก็น่าจะอยู่ในดินแดนหุบเหววิบัติ”จิ่วเจี้ยนยังคงแน่ใจในการคาดเดาของเขา


 


หลินฮวงเข้าใจบทสนทนาของทั้งคู่ดี


 


แม้มันจะเป็นครั้งแรกของเขาในหุบเหว เขาก็ได้ทำการค้นคว้าก่อนมาและรู้ว่าดินแดนหุบเหววิบัติเป็นสถานที่แบบไหน


 


ดินแดนหุบเหววิบัติคือพื้นที่ในหุบเหวที่มีอารมณ์ด้านลบรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก


 


ในพื้นที่เช่นนี้ มีการกระจายอารมณ์ด้านลบอย่างมากและสิ่งมีชีวิตที่ปนเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหว มันจึงโดนเรียกว่าพวกวิบัติ


 


อสูรพิโรธคือหนึ่งในวิบัติเช่นนั้น


 


มอนสเตอร์เช่นนี้มักเป็นสิ่งมีชีวิตหุบเหวที่โดนอารมณ์โกรธเกรี้ยวครอบงำจึงเปลี่ยนร่าง


 


พวกมันมีร่างกายใหญ่โตที่เป็นสีแดงตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกคลุมด้วยไฟโหม ไฟสามารถแพร่กระจายใส่สิ่งมีชีวิตอื่น ทำให้พวกมันตกเป็นเหยื่อของความบ้าคลั่งที่เกิดจากความโกรธ


 


นอกจากนั้น จุดเด่นของพวกมันคือการต่อสู้ประชิด พวกมันแข็งแกร่งมาก ถ้าพวกมันไม่โดนฆ่าตายทันที ทุกการโจมตีที่พวกมันเจอจะทำให้พวกมันยิ่งคลั่งและทำให้พวกมันทรงพลังขึ้น


 


แต่ทว่า พวกหลินฮวงไม่ตื่นตระหนก


 


นี่เพราะมอนสเตอร์เช่นนี้ไม่ชอบอยู่รวมกัน แม้จะมีหลายตัวภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตร พวกมันก็จะไม่ล่ากันเป็นกลุ่ม


 


การอยู่ตัวเดียวทำให้พวกมันเป็นภัยคุกคามน้อยกว่าแมลงในวงกตแมลงปีศาจ


 


ภายใต้การนำของหลานหลิง พวกหลินฮวงรีบเดินทางและในไม่ช้าก็พบอสูรพิโรธตัวแรก


 


มันเป็นครั้งแรกที่เห็นหลินฮวงได้เห็นสิ่งมีชีวิตเช่นนี้


 


มอนสเตอร์ตรงหน้าสูงกว่ายี่สิบเมตรและมีร่างมนุษย์ มันยืนด้วยสองขา คล้ายกับยักษ์สีแดง สีตัวมันเป็นสีแดงเหมือนกุ้งนึ่ง ยังมีชั้นเปลวไฟสีแดงเข้มเผาผลาญอยู่บนตัวมัน


 


ไม่เหมือนยักษ์ มันไม่มีหัวมนุษย์ แต่เป็นหัวกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ บวมเป็นฝีไปทั่ว ไม่เพียงแค่นั้น มันยังมีแขนสามขนาด


 


นี่คืออสูรพิโรธที่เปลี่ยนจากสิ่งมีชีวิตร่างมนุษย์ มันคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้ 70-80%


 


ขณะที่หลินฮวงกำลังสังเกตมอนสเตอร์ตัวนี้ อสูรพิโรธก็สังเกตเห็นกลุ่มพวกเขาเช่นกัน


 


มันปล่อยเสียงคำรามเกรี้ยวกราดและพุ่งใส่พวกหลินฮวง ด้วยการระเบิดพลังงานจากขาอย่างฉับพลัน


 


เพียงเมื่อหลินฮวงกำลังจะโจมตี จิ่วเจี้ยนด้านข้างของเขาก็ตอบสนองก่อน


 


เขาแสดงวิชากระบี่  ชี้นิ้วสองนิ้วใส่อสูรพิโรธ คลื่นกระบี่ตรงหน้าเขาพลันเปลี่ยนเป็นลำแสงสีแดงและยิงออกไป


 


แสงนั้นเหมือนดาวหางที่พุ่งผ่านอากาศ พุ่งใส่หัวของมันในหนึ่งลมหายใจ


 


อสูรพิโรธหยุดชะงัก จากนั้นก็ล้มลง


 


ขณะที่มันล้ม หลินฮวงก็สามารถสัมผัสได้ว่าพื้นใต้เท้าเขาสั่น


 


จิ่วเจี้ยนใช้แค่การโจมตีเดียวก็ฆ่าอสูรพิโรธระดับเทพสวรรค์ขั้นสองได้แล้ว เขาเก็บกระบี่ลงฝักและเหลือบมองหลินฮวงอย่างสงบเสงี่ยม


 


ในขณะเดียวกัน ไฟรอบศพอสูรพิโรธก็มอดดับอย่างรวดเร็ว ตัวมันเริ่มสลายด้วยความเร็วสูง เปลี่ยนเป็นหมอกสีแดงเข้ม


 


สายตาหลินฮวงเต็มไปด้วยความสงสัยขณะเฝ้าดู”หมอกนั่นคืออะไร?”


 


“มันคือรูปธรรมของความโกรธ”เวอชุโอโซอธิบาย


 


ในโลกวัตถุ ของอย่างอารมณ์ไม่สามารถสัมผัสหรือเห็นได้ แต่ทว่า ในหุบเหว พวกมันสามารถปรากฏเป็นรูปธรรมได้


 


มันคือครั้งแรกที่หลินฮวงได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้ เขาจึงแปลกใจ


 


“มันดีสุดถ้าพวกเจ้าไม่สัมผัสกับอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ ถ้าเจ้าแตะ เจ้าอาจเสียการควบคุมอารมณ์ ถ้ามันเป็นกรณีเล็กน้อยละนะ ถ้ากรณีร้ายแรงเจ้าอาจถูกแทรกซึมและเปลี่ยนเป็นพวกวิบัติ”เวอชุโอโซพูดเสริม


 


“มันใช้ได้ไหม?”หลินฮวงยังสงสัยอารมณ์ด้านลบเหล่านี้


 


“ไม่ พลังงานทางอารมณ์เหล่านี้ได้รวมเข้ากับพลังงานหุบเหว แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตหุบเหวก็ยังระมัดระวังเป็นพิเศษ นับประสาอะไรกับสิ่งมีชีวิตนอกหุบเหว”จิ่วเจี้ยนอธิบาย.”มีพวกวิบัติชนิดเดียวกันถึงดูดซับพลังงานได้ พวกมันเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตอื่น”


 


“อืม”หลินฮวงผิดหวังเล็กน้อย


 


เวอชุโอโซสังเกตเห็นความผิดหวัง”ถ้าเจ้ามีภาชนะ เจ้าสามารถเก็บหมอกได้ แต่ทว่า อย่าปล่อยมันในสภาพแวดล้อมเปิดโล่ง เพราะมันจะปนเปื้อนสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ตอนนี้มันควบแน่นเป็นบอลเพราะมันกลับสู่รูปแบบเดิมหลังเสียร่าง มันจึงอยู่ในสภาพเฉื่อย”


 


“มันอันตรายขนาดนั้นเลย?!”หลินฮวงคิดว่าสิ่งนี้เป็นแค่หมอก


 


“หมอกนี้พอจะปนเปื้อนทั้งดาว”จิ่วเจี้ยนพูดเสริม


 


หลินฮวงหมดคำพูด


 


แต่ทว่า เขาไม่สามารถยับยั้งความอยากรู้อยากเห็นได้ เขาได้แต่เก็บภาชนะและรวบรวมละอองหมอก

 

 

 


ตอนที่ 1542

 

ภายใต้การนำของหลานหลิง หลินฮวงและคนอื่นรีบตามมา มันใช้เวลาครึ่งวันเพื่อออกพื้นที่รวมตัวของอสูรพิโรธ และพวกเขาก็ฆ่าพวกมันไป 27 ตัวระหว่างทาง


 


“เราออกจากพื้นที่รวมตัวของพวกพิโรธล้ว ด้านหน้า มีพวกริษยาอยู่ภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตร”หลานหลิงหยุด แจ้งคนอื่นถึงผลการตรวจสอบ


 


“สถานที่นี้คือดินแดนหุบเหววิบัติจริงๆ”จิ่วเจี้ยนพูดกับเวอชุโอโซ


 


เวอชุโอโซพยักหน้า”เราสามารถยืนยันได้แล้ว’


 


พวกหลินฮวงใช้เวลาเดินทางกว่าครึ่งวันก่อนจะออกจากอาณาเขตพวกพิโรธได้ ความกว้างที่พวกพิโรธกระจายตัวบ่งบอกชัดว่านี่ไม่ใช่จุดรวมตัวธรรมดาสำหรับอารมณ์ด้านลบ ตอนนี้พวกเขาพบวิบัติอีกประเภท มันพิสูจน์ว่ามีอารมณ์ด้านหลบมากมายที่นี่ โดยพื้นฐานพวกเขาสามารถกำจัดความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่อื่น


 


มีแค่ดินแดนหุบเหววิบัติถึงสามารถมีอารมณ์ด้านลบหลายประเภทได้มากขนาดนี้


 


“เราต้องทำไงเพื่อโต้ตอบพวกริษยา?”หลินฮวงอดถามไม่ได้


 


เขารู้แน่นอนว่าพวกริษยาคือสิ่งมีชีวิตหุบเหวที่เกิดจากอารมณ์ริษยารุนแรง แต่ทว่า ในข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ มีคำอธิบายถึงมอนสเตอร์ชนิดนี้ไม่มากนัก


 


“พวกริษยาเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ ขอให้ข้าอธิบาย”เวอชุโอโซพูดอย่างใจเย็น


 


“พวกริษยาคือมอนสเตอร์ที่มีความริษยารุนแรงและมักดำรงในรูปแบบวิญญาณเท่านั้น พวกมันมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพส่วนใหญ่ รวมถึงพวกที่ใช้พลังกฏเทพและพลังลำดับเทพ มีเพียงการโจมตีประเภทวิญญาณถึงสามารถทำร้ายพวกมันได้โดยตรง’


 


“แต่ทว่า ถ้าพวกริษยาเกิดอารมณ์ริษยาต่อบุคคลนั้น การโจมตีทั้งหมดจากเป้าหมายของริษยาจะได้ผล กล่าวนัยหนึ่ง ถ้าหนึ่งในพวกเราตกเป็นเป้าโดยพวกมันและไม่มีใครรอบเป้าหมายมีเทคนิคการโจมตีประเภทวิญญาณ เราก็ช่วยเหลือไม่ได้ เป้าหมายทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง”


 


“สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือถ้าบุคคลภายในระยะสัมผัสของพวกริษยา แต่ไม่มีอะไรให้พวกริษยาหึงหวงได้ พวกริษยาจะเมินคนคนนั้น ต่อให้บุคคลนั้นจะเดินผ่านตอนพวกริษยามอง บุคคลนั้นก็จะไม่โจมตี”


 


“แต่ทว่า พวกริษยาก็มีจุดอิจฉาแปลกๆ ไม่เพียงแค่นั้น ทุกตัวยังต่างกัน พวกมันอาจอิจฉาสิ่งที่เราไม่สนใจเลย เช่น ผมเจ้ายาวกว่าข้า ข้าจึงอยากฆ่าเจ้า ทำไมสีลิปสติกของเจ้าสวยจัง?ข้าอยากฆ่าเจ้า”


 


หลานหลิงยกมือขึ้นเพื่อลดลิปสติกบนปากนางหลังได้ยิน


 


“เป้าหมายต้องฆ่าพวกริษยาทันทีที่พวกเขาตกเป็นเป้า นี่เพราะยิ่งยื้อนาน ความอิจฉาจะยิ่งมาก มันอาจคลุ้มคลั่ง ซึ่งทำให้ความสามารถมันพุ่งสูง”


 


“มีอีกเรื่องที่ต้องจำ ก่อนพวกอิจฉาจะจับเป้าหมาย พวกมันจะมีการต้านทานการโจมตีประเภทวิญญาณระดับหนึ่ง แถม ถ้าพวกมันโดนโจมตีภายใต้สภาพเช่นนั้น พวกมันจะคลุ้มคลั่งทันที”


 


แม้กระทั่งถูทงกับหลานหลิงก็ไม่สามารถหยุดพยักหน้าได้หลังได้ยินคำอธิบายของเวอชุโอโซ ไม่ใช่แค่หลินฮวง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเรื่องแบบนี้เช่นกัน


 


“อย่าตื่นตระหนกถ้าเจ้ากลายเป็นเป้า เต๋ากระบี่ของข้ามีสถานะการโจมตีประเภทวิญญาณอยู่”จิ่วเจี้ยนปลอบหลานหลิง จากนั้นก็เหลือบมองหลินฮวง


 


กฏสวรรค์เต๋าดาบกับกระบี่เป็นสายโจมตีกายภาพขั้นสุดที่เกินขีดจำกัดของกายภาพไปจนถึงจิตวิญญาณ การโจมตีเหล่านี้จึงมีผลทำร้ายวิญญาณโดยตรง


 


ความคิดเห็นของจิ่วเจี้ยนไม่ได้อ้างว้ากฏสวรรค์เต๋ากระบี่สามารถทำได้ แต่อ้างว่าเทคนิคเต๋ากระบี่ประเภทวิญญาณคือสิ่งที่จิ่วเจี้ยนเชี่ยวชาญ


 


หลินฮวงเข้าใจความหมายของจิ่วเจี้ยนและสังเกตเห็นการท้าทายเล็กน้อยในสายตาจิ่วเจี้ยน แต่ทว่า เขาไม่สนใจ


 


สำหรับกฏสวรรค์เต๋าดาบ หลินฮวงเพิ่งเลื่อนเป็นระดับสอง ใจสวรรค์ บางทีจิ่วเจี้ยนคงอยู่ระดับสองมานานแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตาม ทาสดาบทั้งหมดภายใต้หลินฮวงได้ฟื้นคืนพลังของเทพสวรรค์ขั้นเจ็ดแล้ว เขาจึงหยิบยืมกฏสวรรค์เต๋าดาบกว่าสามร้อยประเภทได้ ในหมู่พวกเขา มีบางคนที่ไปถึงระดับสามแล้วด้วย


 


เขามั่นใจว่าเขาจะไม่แพ้จิ่วเจี้ยนถ้าพวกเขาประลองกันด้วยดาบหรือกระบี่ ต่อให้ร่างต้นของจิ่วเจี้ยนจะทรงพลังอย่างมาก รวมถึงเป็นสมาชิกสโมสรก็ตาม


 


แต่ทว่า จิ่วเจี้ยนเองก็เป็นแค่ร่างแยก ไม่เพียงแค่นั้น ระดับพลังของเขายังเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นเก้า


 


หลินฮวงจึงไม่มีความตั้งใจที่จะท้าทายจิ่วเจี้ยนนัก


 


ในความเป็นจริง เขาสนใจร่างต้นของจิ่วเจี้ยนมากกว่า


 


ก่อนหน้านี้ หลินฮวงอยากรู้ว่าร่างต้นของจิ่วเจี้ยนทรงพลังแค่ไหนถ้าเทียบกับร่างแยกของเขาด้วยระดับพลังแบบเดียวกัน


 


ขณะที่พวกเขาเดินทางต่อ ไม่ช้า พวกเขาก็พบพวกริษยากลุ่มแรก


 


มันคือครั้งแรกที่หลินฮวงเห็นพวกริษยา


 


ริษยาตัวนี้ดูคล้ายกับผีสาวในชุดแดง นางลอยในอากาศ นางมีผมสีดำยาวถึงเอว


 


ตอนแรก นางหันหลังให้พวกเขา


 


แต่ทว่า หลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพวกหลินฮวง นางก็หันหัว 180 องศา เผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียว


 


สิ่งที่พิเศษสุดคือแม้ใบหน้าจะไร้เลือด แต่ริมฝีปากนางกลับมีสีแดงสด


 


แม้หลินฮวงจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับเทพแท้จริง เขาก็อดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้ตอนเห็นริษยาต่อหน้า เขาพลันนึกถึงภาพยนตร์สยองขวัญที่เคยดูบนโลก


 


หลังริษยาหันหัวมา นางก็เริ่มสังเกตหลินฮวงและคนอื่น


 


หลังตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ในที่สุดนางก็จับจ้องหลานหลิง


 


หัวใจของหลานหลิงเต้นกระหน่ำทันทีตอนเห็นริษยาเมินคนอื่นและจ้องนางตาไม่กะพริบ นางรู้ว่านางกลายเป็นเป้าหมายแล้ว


 


หลังกำหนดเป้าหลานหลิง ตัวของริษยาก็หันมาทางนาง


 


วินาทีต่อมา นางก็ปรากฏต่อหน้าหลานหลิงโดยตรงราวกับหายตัว


 


ถูทงอยากโจมตี แต่เวอชุโอโซจับไหล่เขาไว้


 


พวกเขาส่าหยัวและพูดกับถูทงผ่านคลื่นเสียง”นางยังจับเป้าไม่เสร็จ”


ริษยาผมยาวลอยอยู่ตรงหน้าหลานหลิงและเริ่มกลั่นกรองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า


 


ครู่ต่อมา นางก็จ้องหน้าอกของหลานหลิง ถามราวกับว่ากำลังพูดกับตัวเอง


 


“ทำไมหน้าอกเจ้าใหญ่จัง?!”


 


ต่อมา เสียงของนางก็เริ่มดังซ้ำเหมือนอุปกรณ์อัดเสียง นางจ้องหน้าอกของหลานหลิงและเริ่มพูดซ้ำไปซ้ำมา


 


นางเริ่มพูดเร็วขึ้น และระดับเสียงของนางก็สูงขึ้นจนทุกคนเจ็บหู


 


เมื่อสังเกตเห็นว่าเวอชุโอโซยังไม่ส่งสัญญาณให้นางโจมตี หลานหลิงจึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง


 


ริษยาพูดซ้ำ”ทำไมหน้าอกเจ้าใหญ่จัง?”และรูม่านตาของนางก็เริ่มแดงก่ำ วินาทีต่อมา ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงสนิท มองไม่เห็นรูม่านตาของนางอีก ผมสีดำของนางเริ่มเป็นลอนเหมือนงู


 


วินาทีต่อมา เส้นผมนับไม่ถ้วนก็พุ่งไปข้างหน้าเหมือนคลื่น พุ่งใส่หลานหลิงอย่างบ้าคลั่งราวกับอยากกลืนกินนาง


 


เพียงเมื่อหลานหลิงกำลังจะถอย นางก็เห็นคลื่นแสงสีทองสว่างตรงหน้านาง ฉีกผ่านคลื่นสีดำทั้งหมด


 


“หนวกหู!”จิ่วเจี้ยนเก็บกระบี่ทันทีที่พูดจบ


 


คลื่นดำสลายตัวทันที ผีสาวเหลือบมองทางจิ่วเจี้ยนด้วยแววตาตกตะลึง จากนั้น คลื่นแสงสีทองก็สว่างระหว่างคิ้วนาง และตัวนางก็เริ่มจางหายไป

 

 

 


ตอนที่ 1543

 

พื้นที่ที่พวกริษยากระจายตัวใหญ่กว่าพวกพิโรธมาก พวกหลินฮวงต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มก่อนจะสามารถออกจากพื้นที่ที่พวกริษยาอยู่ได้


 


ระหว่างทาง พวกเขาพบพวกอิจฉากว่า 40 พวกมันอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ พวกริษยาแปลประหลาดกว่าพวกอื่นมาก


 


ทุกคนในกลุ่มหลินฮวงตกเป็นเป้าของพวกริษยาด้วยเหตุผลแปลกๆ


 


ตัวอย่างเช่น หลินฮวงถูกกำหนดเป้าด้วยเหตุผลว่า’ทำไมเจ้าดูดีจัง?” ขณะที่เวอชุโอโซตกเป็นเป้าด้วย”ทำไมหน้ากากเจ้าสวยจัง?” “เจ้าอายุเยอะ แต่ทำไมยังดูดี?”นั่นเจาะจงกับจิ่วเจี้ยน  ขณะที่’ทำไมหนวดเจ้าหนาจัง’มุ่งเป้าใส่ถูทง


“ทำไมเจ้าหุ่นดีทั้งๆที่เตี้ยขนาดนี้?!”นั่นคือคำพูดที่หลานหลิงได้รับ


 


โชคดี พวกเขาสามารถเลี่ยงพวกริษยาระดับสูงได้ด้วยการเตือนล่วงหน้าของหลานหลิง พวกริษยาระดับต้นกับกลางไม่ทรงพลังพอจะคุกคามพวกเขา


 


หลังออกอาณาเขตพวกริษยา หลานหลิงก็ทำการตรวจสอบรอบใหม่


 


“ด้านหน้าคืออาณาเขตความโลภ”


 


“ในที่สุดเราก็มาถึงของดี”ถูทงพูดด้วยรอยยิ้ม


 


เขาพูดแบบนี้เพราะเมื่อมอนสเตอร์เหล่านี้ที่เรียกว่าความโลภโดนฆ่า พวกมันจะทิ้งของดี บางครั้ง ยังมีวัตถุดิบหายากตกจากศพพวกมัน


 


“อย่าประมาท มีพวกที่ทรงพลังอย่างมากในหมู่ความโลภด้วย”เวอชุโอโซเตือน”ความโลภส่วนใหญ่จะโลภกับสิ่งของ แต่ทว่า มีส่วนน้อยที่จะขโมยแก่นแท้ของเหยื่อหลังพบว่าแก่นแท้ของพลังเหยื่อ ความโลภเช่นนี้สามารถทรงพลังพอๆกับสิ่งมีชีวิตขั้นหก”


 


“ตามข้อมูลที่บันทึกภายในจักรวาล ท่ามกลางวิบัติทั่วไปเจ็ดชนิด ความโลภมีจำนวนมากสุดเป็นอันดับสองที่ยกระดับเป็นจ้าวเทวะได้สำเร็จ พวกมันยังเหนือกว่าความตะกละด้วยซ้ำ”จิ่วเจี้ยนพูดเสริม


 


“งั้นพวกไหนเป็นอันดับหนึ่ง?”หลินฮวงถาม


 


“ข้าเดาว่ามันควรเป็นอัตตา”หลานหลิงตอบ


 


“ถูกต้อง”จิ่วเจี้ยนพยักหน้า


 


“มีเพียงคนที่หยิ่งผยองถึงกลายเป็นพวกอัตตา หลายตัวเคยเป็นอัจฉริยะจากเผ่าต่างๆมาก่อน ดังนั้นรากฐานจึงเหนือกว่าวิบัติชนิดอื่น พวกมันมีพรสวรรค์และศักยภาพสูงสุดหลังเปลี่ยนเป็นอัตตา”เวอชุโอโซพูดเสริม สังเตกเห็นว่าจิ่วเจี้ยนไม่มีเจตนาอธิบายเพิ่มเติม


 


พวกเขาคุยกันสักพักเกี่ยวกับวิบัติต่างๆตลอดทางและในไม่ช้าก็พบความโลภตัวแรก


 


นี่คือครั้งแรกที่หลินฮวงพบมอนสเตอร์เช่นนี้


 


ความโลภตรงหน้าพวกเขาเป็นมอนสเตอร์ที่มีแขนขากับลูกตาหลายทรง


 


มันดูน่ากลัว แต่จริงๆแล้วมันอ่อนแอสุดในบรรดาความโลภ


 


เมื่อมองดูมอนสเตอร์ตัวนี้พุ่งใส่พวกเขา จิ่วเจี้ยนไม่เกิดความปรารถนาต่อสู้ด้วยซ้ำ


 


ในทางกลับกัน ถูทงรู้สึกว่านี่คือโอกาสให้เขาเฉิดฉาย เขากระโจนออกไป เหวี่ยงหมัดหนักใส่มัน


 


ภายในไม่ถึงสิบวินาที การโจมตีของเขาก็ทำให้ความโลภกลายเป็นแอ่งเนื้อ


 


สิ่งที่ทำให้ถูทงหดหู่คือความโลภตัวนี้อ่อนแอมาก ไม่มีของตกจากมันเลย


 


หลังแก้ไขเรื่องของความโลภแล้ว พวกเขาก็เดินทางต่อ


 


ไม่เหมือนก่อนหน้าตอนพวกเขาเลี่ยงวิบัติให้ได้มากที่สุด เส้นทางของหลานหลิงครั้งนี้มุ่งตรงหน้าความโลภ นอกจากความโลภระดับเทพสวรรค์ขั้นสูง นางไม่ข้ามพวกระดับต้นหรือกลางเลยถ้าอยู่บนเส้นทาง ตลอดทาง นางนำกลุ่มไปหามอนสเตอร์ที่พวกเขาสามารถฆ่าได้


 


ตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากความโลภตัวแรกที่ไม่ตกของ ตัวอื่นทิ้งของไว้หมดหลังโดนฆ่า


 


หลินฮวงรู้สึกตื่นเต้นในตอนแรก แต่เมื่อเห้นว่าถูทงมีความสุขที่ได้ต่อสู้กับพวกมัน เขาก็ไม่คิดแทรกแซง


 


แต่ทว่า ในเวลาต่อมา เขาก็อดกระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ไม่ได้เมื่อพวกเขาพบความโลภขั้นกลาง เขาได้รับวัตถุดิบมากมายแม้กระทั่งของหายาก


 


ขณะที่พวกเขากำลังจะออกอาณาเขตของความโลภ ในที่สุดพวกเขาก็พบตัวที่ทรงพลัง


 


ความโลภตัวนี้คือมอนสเตอร์เกราะกระดูกในชุดคลุมดำ ก่อนหลินฮวงกับพรรคพวกจะมาถึง มันก็สัมผัสพวกเขาได้แต่ไกลแล้ว


 


มันไม่ใช่จิตเทวะ นี่คือการรับรู้ทางจิตวิญญาณล้วนๆ


 


มันเหยียดแขนไปในอากาศ ดึงเคียวดำขนาดยักษ์ออกมา


 


หลังจากนั้น มันก็สะบัดเคียว โจมตีจากจุดที่มันอยู่


 


เหมือนคลื่น คลื่นเคียวดำระเบิด พุ่งใส่กลุ่มหลินฮวง พอมันมาถึงตัวพวกเขา มันก็ก่อตัวเป็นคลื่นสึนามิขนาดใหญ่


 


แม้กระทั่งรูม่านตาของหลินฮวงก็ยังหดลง


 


การโจมตีนี้อย่างเดียวเทียบได้กับกฏสวรรค์เต๋าดาบระดับสอง


 


ก่อนหลินฮวงจะได้ขยับ เจตนาต่อสู้ของจิ่วเจี้ยนก็พุ่งถึงจุดสูงสุด คลื่นกระบี่ของเขายิงออกไปเหมือนประกายไฟฟ้าสีทอง และปะทะกับคลื่นเคียวเต็มกำลัง


 


ผู้บ่มเพาะดาบและผู้บ่มเพาะกระบี่มักเป็นคู่ปรับที่ไม่เต็มใจปะทะกัน จิ่วเจี้ยนกำลังหาโอกาสประลองกับหลินฮวงมาตลอด แต่หลินฮวงปฏิเสธมันซ้ำๆ


 


จิ่วเจี้ยนหงุดหงิดมาตลอดการเดินทาง ตอนนี้ที่กลุ่มพวกเขาเจอกับวิบัติชนิดผู้บ่มเพาะดาบ เขาจึงไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้อีก


 


ครั้งนี้เขาไม่ออมพลังเลย


 


ตอนแรก คลื่นกระบี่เป็นเหมือนอุกกาบาตทอง แต่มันขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว


 


ช่วงเวลาที่มันปะทะกับคลื่นดำ มันก็เหมือนกับดวงอาทิตย์เจิดจรัส


 


การปะทะของขุมพลังทั้งสองเหมือนคลื่นขนาดใหญ่ที่ปะทะกัน ไม่ต่างอะไรกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างบนสวรรค์


 


ขุมพลังทั้งสองหักล้างกันอยู่นาน สุดท้าย พวกมันก็ระเบิดพร้อมกัน…


 


พายุพลังงานน่ากลัวกวาดไปทุกทิศทาง


 


ถูทงกับหลานหลิงไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง จนกระทั่งเวอชุโอโซนำสมบัติป้องกันเทพสวรรค์ออกมาพวกเขาถึงต้านทานผลพวงได้


 


“ทรงพลังมาก!”ดวงตาของถูทงเป็นประกายขณะจ้องการระเบิด


 


เขากับจิ่วเจี้ยนต่างเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้า แต่ความสามารถของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับจิ่วเจี้ยนเลย


 


ร่องรอยความกลัวปรากฏในตาหลานหลิง


 


หลินฮวงกับเวอชุโอโซไม่สะทกสะท้าน แต่ทว่า ทั้งคู่รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติที่จิ่วเจี้ยนครอบครองพลังเช่นนี้


 


ในความเป็นจริง หลินฮวงเคยคิดท้าทายความโลภสายดาบตนนี้มาก่อน แต่ทว่า เนื่องจากจิ่วเจี้ยนลงมือก่อน เขาจึงไม่คิดพยายามแย่งชิงกับเขา


 


แต่ทว่า เนื่องจากพวกเขาเคยเห็นความโลภที่อ่อนแอมามากก่อนหน้า เขาจึงยังสนใจความโลภตัวนี้ที่มีความสามาถรเทียบเคียงจิ่วเจี้ยน


 


“นี่คือความโลภที่เชี่ยวชาญแก่นแท้พลังใช่ไหม?”หลินฮวงหันไปถามเวอชุโอโซ


 


“ใช่”เวอชุโอโซพยักหน้า”มันเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสาม แต่มันมีความสามารถใกล้เคียงกับขั้นเจ็ด มันต้องปล้นห่วงโซ่ลำดับเทพไปไม่น้อย”


 


“ความโลภสามารถปล้นห่วงโซ่ลำดับเทพของคนอื่นได้โดยตรงงั้นเหรอ?”หลินฮวงงุนงง เขาเองก็มีความสามารถปล้นห่วงโซ่ลำดับเทพเช่นกัน แต่เขามักคิดว่าความสามารถเช่นนี้เหลือเชื่อมาก มันควรหายาก


 


“มีความโลภน้อยมากที่จะมีความสามารถเช่นนี้”เวอชุโอโซพยักหน้า”ก่อนอื่น มันต้องตระหนักว่าห่วงโซ่ลำดับเทพเป็นแหล่งของพลังเทพสวรรค์ สอง มันต้องหาวิธีที่เหมาะสมในการปล้นและสกัดห่วงโซ่ลำดับเทพจากเหยื่อมัน สาม มันต้องหาวิธีที่ถูกต้องในการผสานห่วงโซ่ลำดับเทพที่ปล้นมา”


 


“มันยากมากที่จะบรรลุเงื่อนไขทั้งสามเพราะวิบัติมักมีจิตสำนึกขุ่นมัว ยิ่งไปกว่านั้น พฤติกรรมพวกมันยังโดนครอบงำด้วยอารมณ์ด้านลบ พวกมันไม่สามารถตัดสินใจเองได้’


“พวกที่สามารถสร้างจิตสำนึกในจิตใจอันขุ่นมัวและสลกัดจากการถูกครอบงำด้วยอารมณ์ด้านลบได้คือพวกผิดปกติในหมู่วิบัติ”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)