Monster Paradise 1522-1523
ตอนที่ 1522
เวลาภายในแดนลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลินฮวงยืนหยัดมั่นคงที่อันดับหนึ่งบนกระดานทองตั้งแต่ต้น ไม่มีใครท้าทายตำแหน่งเขาได้เลย
เขาได้ฆ่านักโทษเทพสวรรค์ขั้นสองถึง 12-15 ต่อวัน แต้มของเขาเพิ่มขึ้นกว่าห้าพันต่อวัน มันแทบเป็นห้าเท่าของอันดับสอง
ในความเป็นจริง ไม่มีใครสามารถเอาชนะแต้มล่าเขาได้แม้กระทั่งก่อนเขาพบไคลี่และเจ้าแดง
ในขณะเดียวกัน อันดับสองไม่ใช่เวอชุโอโซจากเคียวแห่งความตาย แต่เป็นเทพแท้จริงชั้นนำจากนครหลวงเทพ คุนถิง
ไคลี่และเจ้าแดงคืออันดับสามและสี่
ช่องว่างระหว่างแต้มของสองสาวไม่ถึงสามร้อย การคำนวณง่ายๆแสดงให้เห็นว่าเจ้าแดงสามารถไล่ทันได้ถ้านางฆ่าเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งกับขั้นสองอีกสักหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน ไคลี่กับคุนถิงก็ห่างกันแค่กว่าพันคะแนน
สำหรับเวอชุโอโซ เขาไม่ได้ล่าอย่างจริงจังเลย เขามีอันดับ 10 และมีแต้มเหนือกว่าอันดับ 11 แค่ร้อยกว่า
นอกจากสามอันดับแรก อันดับ 4-10 จะได้รับรางวัลคล้ายกัน
ผู้นำเทพสวรรค์หลายคนสงสัยว่าเวอชุโอโซคงรู้สึกว่าการแข่งกับซิวมู่ยากเกินไป เขาจึงยอมแพ้ตั้งแต่ต้น
แต่่ทว่า หลินฮวงรู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้สนใจรางวัลเลย เขาไม่คิดสู้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะรั้งอันดับสิบเพราะใต้สวรรค์สั่ง
เทียบกับกระดานทอง การแข่งขันในหมู่กระดานเงินรุนแรงกว่ามาก
คนที่ติดอันดับหนึ่งบนกระดานเงินคือคนที่หลินฮวงคุ้นเคยดีอย่างเทพนักรบไร้ผู้ต้านจากวิหารเทพนักรบ
เขายอมแพ้ที่จะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงตอยพบกับหลินฮวงและทาสดาบภายใต้การทดสอบในแดนจอมเทพกว่าปีก่อน เขามุ่งมั่นที่จะบ่มเพาะทักษะดาบ อันที่จริง ความสามารถของเขาพัฒนาขึ้นมากถ้าเทียบกับปีก่อน เขารั้งอันดับหนึ่งในบรรดาเทพเสมือนของแดนเทพ
เขายังเพ้อฝันว่าเขาอาจสามารถเอาชนะหลินฮวงได้ถ้าพบกันอีกครั้ง แต่ทว่า เขาไม่รู้ว่าหลินฮวงได้เลื่อนเป็นเทพแท้จริงแล้ว ถ้าความแตกต่างในความสามารถพวกเขาเหมือนแสงจากหลอดนีออนและแสงเทียนเมื่อตอนหนึ่งปีก่อน ตอนนี้มันก็เหมือนกับแสงนีออนและแสงแดด ไม่มีทางที่จะเทียบกันได้เลย
อันดับสองบนกระดานเงินคือผู้บ่มเพาะกระบี่จากนครหลวงเทพ เขาห่างจากเทพนักรบแค่ 120 แต้ม
ความแตกต่างแต้มระหว่างอันดับสามกับหกน้อย ห่างกันแค่ 200-300
ในขณะเดียวกัน ช่องว่างระหว่างอันดับ 7 -10 อยู่ในช่วง 300 -500
ความรุนแรงของการแข่งขันบนกระดานเงินรุนแรงกว่ากระดานทองมาก
ทันทีที่การทดสอบหนึ่งเดือนของแดนลับจบ คนของนครหลวงเทพก็ส่งผู้เข้าร่วมทั้งหมดออกมา
หลินฮวงสัมผัสได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องเขาวินาทีที่ออกมา
เขาเหลือบไปเห็นเทพสวรรค์ทั้งหมดกำลังจ้องเขา พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมขององค์กรตัวเองเลย
ความคิดแรกที่แวบผ่านหัวพวกเขาคือ’ข้าได้เปิดเผยตัวตนข้าในฐานะมนุษย์ไปแล้วรึ?!’
เขารีบนึกถึงผลงานเขาในแดนลับ
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดหาทางออก เสียงของใต้สวรรค์ก็ดัง
“มาตรงนี้ อย่ายืนเฉยๆ”
แน่นอน ใต้สวรรค์บอกได้ว่าหลินฮวงกำลังกังวลเรื่องตัวตน
หลินฮวงโล่งใจเมื่อได้ยินคลื่นเสียง เขาไปข้างใต้สวรรค์ ถามเสียงเบา”ทำไมพวกเขาถึงจ้องข้า?’
“เจ้าเป็นอันดับหนึ่งบนกระดานทอง ใครจะไม่จ้องเจ้า?”ใต้สวรรค์ตอบ
“แค่นั้น?”หลินฮวงเลิกคิ้ว
ใต้สวรรค์เงียบไปและพูดเสริม”มีคนที่สามารถฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้ด้วยพลังระดับเทพแท้จริง แต่ทว่า นับรวมเจ้า มีไม่ถึงสิบที่ทำแบบนั้นได้”
“ข้านึกว่าตัวตนข้าโดนเปิดเผยแล้วซะอีก..”หลินฮวงไม่สนใจ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังได้ยินคำอธิบายของใต้สวรรค์
ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน ผู้เข้าร่วมจากองค์กรอื่นก็กลับไปกลุ่มตน
เวอชุโอโซเองก็กลับไปเคียวแห่งความตายเช่นกัน เขาแค่เหลือบมองหลินฮวง จากนั้นเขาก็ยืนข้างใต้สวรรค์ ทุกคนเชื่อว่าทั้งคู่เป็นศัตรูกัน
แม้กระทั่งใต้สวรรค์ก็คิดเหมือนกัน เขาลอบโล่งใจตอนตระหนักว่าพวกเขาไม่ได้สู้กัน
ดาวหางกับคนอื่นมีความอยากรู้อยากเห็นเต็มตาตอนมองหลินฮวง แแม้พวกเขาจะแข่งขันกันบนกระดานเงิน พวกเขาก็สามารถเห็นอันดับบนกระดานทองได้
ตอนแรก พวกเขาคิดว่าเด็กใหม่ที่ใต้สวรรค์พบต้องมีความสามารถไม่ธรรมดา เหนือสิ่งอื่นใด เซี่ยหลินคือตัวอย่างชั้นดี แต่พวกเขาไม่คิดว่าเด็กใหม่ที่ชื่อซิวมู่จะเป็นม้ามืดขนาดนี้
อสูรคลั่งที่เป็นอันดับสามบนกระดานเคียวขาวไม่พูดอะไร ก่อนเข้าแดนลับ เขาเยาะเย้ยหลินฮวงทางอ้อม ระบุว่าหลินฮวงจะถ่วงกลุ่ม
เขาไม่คิดเลยว่าความสามารถของเด็กใหม่จะเหนือล้ำขนาดนี้ ในทางกลับกัน เขาต่างหากที่มีแต้มต่ำสุดในบรรดาเทพแท้จริงของเคียวแห่งความตาย
เขาไม่กล้ามองหลินฮวงเลย กลัวว่าหลินฮวงจะเยาะเย้ยเขากลับ
แต่ทว่า หลินฮวงกลับไม่เหลือบแลเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
เขาไม่ได้จงใจเมิน แต่เขาลืมเรื่องเมื่อเดือนก่อนไปแล้ว ในความเป็นจริง เขาจำชื่ออีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ
ขณะที่ใต้สวรรค์กำลังนำผู้เข้าร่วมกลับ เทพสวรรค์ก็เดินมา
“ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ โปรดรอสักครู่”มันคือคนของศาลาสมบัติที่เรียกเขา
เขาค่อนข้างอวบ แก้มแดง ดูใจดี
ใต้สวรรค์ขมวดคิ้ว เขาเดาได้ว่าคนคนนี้มีเจตนาอะไร
“ข้าอยากพูดคุยสั้นๆกับน้องซิวมู่”เขายิ้มและมองหลินฮวง
“ข้า?”หลินฮวงงุนงง เขาจำไม่ได้ว่าเคยติดต่ออะไรกับสาลาสมบัติ
“ถูกต้อง”ผู้นำร่างท้วมจากศาลาสมบัติพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอบอุ่น”น้องชาย เจ้าสนใจเข้าร่วมศาลาสมบัติของข้าหรือไม่?”
เขาไม่อ้อมค้อมเลย เขาเชิญหลินฮวงให้เข้าร่วมต่อหน้าใต้สวรรค์
หลินฮวงตกตะลึง เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะมาชิงตัวเขา แต่ทว่า ในไม่ช้าเขาก็ได้เหตุผลชัดเจนที่จะปฏิเสธ
“ขอโทษด้วย ข้าเชื่อว่าเคียวแห่งความตายดีพอสำหรับข้าแล้ว”
“ไม่ว่าเคียวแห่งความตายจะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็แค่องค์กรระดับหก ข้าคิดว่าน้องซิวมู่ควรพิจารณาเข้าร่วมองค์กรระดับเจ็ด”ตอนนัั้น ผู้นำวิหารเทพนักรบเดินมาเช่นกัน”ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงเคยได้ยินถึงเรา วิหารเทพนักรบ”
“ไม่มีองค์กรใดในแดนเทพที่ให้ผลประโยชน์มากไปกว่าเรา ศาลาสมบัติ”ผู้นำร่างท้วมรีบพูด
“แล้วไง?!เรา ตาข่ายคลุมสวรรค์มีคลังข้อมูลที่ใหญ่สุดในแดนเทพ”
แม้กระทั่งคนของตาข่ายคลุมสวรรค์ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแทรก”เรายังรู้ความลับมากมายของจักรวาลที่องค์กรอื่นไม่รู้…”
“ข้าคิดว่ามันเป็นการดีสุดที่ซิวมู่จะเข้าร่วมกับซีโน่ ทุกคนรู้ว่าเรามีความอดทนสูงสุดในบรรดาองค์กรระดับเจ็ดทั้งหมด มีหลายเผ่าที่เข้าร่วมกับเรา บางทีอาจมีคนจากเผ่าที่ซิวมู่อยู่ในหมู่สมาชิกเราก็ได้..”
นอกจากนครหลวงเทพ สี่ในห้าองค์กรระดับเจ็ดต่างมาชิงตัวหลินฮวง ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขากำลังทำมันต่อหน้าใต้สวรรค์
ใต้สวรรค์โกรธ แต่ไม่แสดงออกมา เขายังทำหน้าสงบราวกับกำลังดูการแสดง เหตุผลเพราะเขารู้ว่าหลินฮวงย่อมปฏิเสธ
ตามคาด หลินฮวงพูดอย่างสงบหลังพวกเขายื่นคำเชิญ
‘ผู้อาวุโส บางทีทข้าคงพูดไม่ชัด ข้าชอบสถานการณ์ปัจจุบันของเคียวแห่งความตาย ดังนั้น ข้าจะไม่ย้ายไปองค์กรใด ขอบคุณสำหรับความมีเมตตา!”
คนอื่นอาจย้ายไปองค์กรอื่นโดยไม่ลังเล อย่างไรก็ตาม หลินฮวงรู้ดีว่าเคียวแห่งความตายเป็นองค์กรเดียวที่เหมาะกับเขา
ไม่ว่าองค์กรอื่นจะยื่นข้อเสนออะไร พวกเขาก็ต้องฆ่าเขาแน่เมื่อพบว่าเขาเป็นมนุษย์
เหล่าเทพสวรรค์ดูเหมือนจะตกใจกับการปฏิเสธของหลินฮวง แต่พวกเขาไม่แสดงมันออกมา
พวกเขาพยายามโน้มน้าวเขาอีกครั้ง เมื่อพวกเขารู้ว่าหลินฮวงแน่วแน่ที่จะอยู่กับเคียวแห่งความตาย พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้
แต่ทว่าพวกเขายังยืนกรานจะขอหมายเลขติดต่อ พวกเขาอยากโน้มน้าวเขาอีกในอนาคต
หลังหลินฮวงปฏิเสธ เหล่าเทพสวรรค์ก็จากไป ผู้นำร่างท้วมจากศาลาสมบัติหน้าหนาสุด เขายื่นขอเสนอต่อเวอชุโอโซอีก
เวอชุโอโซยิ่งตรงไปตรงมากว่า แค่พูดว่า”ไม่สนใจ!”
ผู้นำร่างท้วมจากไปด้วยรอยยิ้มหลังได้ยินคำตอบ
ตอนที่ 1523
ในห้องประชุมที่ศูนย์ใหญ่เคียวแห่งความตาย ใต้สวรรค์กับผู้เข้าร่วมหลายคนที่ไปแดนลับรวมตัวกัน
นอกจากดาวหางและคนอื่น หลินฮวงกับเวอชุโอโซยังอยู่
“สำหรับการเดินทางไปแดนลับ อันดับของทุกคนไม่เลวเลย ตามธรรมเนียมปกติ ผู้ที่ได้สิบอันดับแรกบนกระดานทองและเงินจะได้รับรางวัล รางวัลเหล่านี้รวบรวมจากนครหลวงเทพและองค์กรอื่นที่เข้าร่วมทั้งหมด”
“นอกจากนั้น ข้ายังได้คุยกับสมาชิกเคียวโลหิตแล้ว เพื่อกระตุ้นให้พวกเจ้าทุกคนเข้าร่วมการทดสอบนี้ เคียวแห่งความตายจะมอบรางวัลให้ผู้เข้าร่วมแยกอีกต่างหาก”
“เนื่องจากซิวมู่ยังได้ส่วนแบ่งจากการเดิมพันเป็นรางวัล ข้าจะมอบรางวัลให้พวกเจ้าที่เหลือก่อน”
“คนแรกคือดาวหาง ผู้เป็นอันดับสี่บนกระดานเงิน รางวัลจากนครหลวงเทพคือสมบัติดาบกฏเทพระดับสูง ในขณะเดียวกัน รางวัลจากเคียวแห่งความตายก็เป็นของระดับเดียวกัน สมบัติเกราะกฏเทพระดับสูง!”
“เจ้าจะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงในไม่ช้า ดังนั้น เจ้าจะสามารถใช้พวกมันได้”
“นอกจากนั้น แต้มล่าเจ้าในแดนลับยังมากถึง 27186 แต้มและแต้มรางวัลสำหรับอันดับสี่ก็คือ 3000 แต้ม ดังนั้นเจ้าจึงมี 30186 แต้ม นครหลวงเทพได้แปลงคะแนนเหล่านี้เป็นเหรียญเงินเพื่อใช้ที่ร้านค้าแดนลับไว้แลกของรางวัลที่นั่น แต่ทว่า สิทธิ์การซื้อของเหรียญเงินต่ำกว่าเหรียญทอง เจ้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้เอง”
“นอกจากดาวหาง โชคชะตาก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน ได้อันดับเก้าบนกระดานเงิน เจ้ามีแต้มล่า 25418 แต้มและแต้มรางวัลสำหรับอันดับ 9 ก็คือ 300 เจ้าจึงมีทั้งหมด 25718 แต้ม แต้มยังโดนแปลงเป็นเหรียญเงิน เจ้าสามารถตรวจสอบเองได้ว่าเจ้าแลกอะไรได้บ้าง”
โชคชะตาอดพึมพำไม่ได้เมื่อได้ยินว่าแต้มรางวัลแค่ 300 “อะไรกัน แต้มห่างกันถึงสิบเท่า?!”
เดิม เขามีแต้มห่างจากดาวหางไม่ถึงสองพัน แต่ตอนนี้ด้วยแต้มรางวัลที่เพิ่มเข้ามา พวกเขาจึงห่างกันถึงห้าพัน
ใต้สวรรค์ได้ยินสิ่งที่เขาพูดชัดเจน เขาเหลือบมองโชคชะตา”ใครที่มีคำถามถึงแต้มรางวัลสามารถดูเอกสารบนแดนลับที่ข้าส่งไปให้แต่แรกได้ บนหน้ารางวัล มันมีระบุไว้ชัด”
โชคชะตาหุบปากทันทีและไม่พูดอะไรอีก
“รางวัลจากนครหลวงเทพคือสมบัติดาบกฏเทพระดับต้นสำหรับอันดับ 9 ในขณะเดียวกัน เคียวแห่งความตายก็จะให้ของระดับเดียวกัน สมบัติเกราะกฏเทพระดับต้น”
อันดับห่างกันแค่ห้า แต่ความแตกต่างกลับมหาศาล
ดาวหางมีสมบัติกฏเทพระดับสูงสองชิ้นซึ่งนางสามารถใช้ได้ตอนกลายเป็นเทพแท้จริง นางยังใช้พวกมันได้ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นสูง แต่ทว่า สมบัติกฏเทพระดับต้นที่โชคชะตาได้รับกลับใช้ได้มากสุดแค่ตอนเป็นเทพแท้จริงขั้นต่ำ
ถ้าคนเราไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น มันก็จะไม่มีอะไร
แม้โชคชะตาจะได้รับรางวัลเช่นกัน แต่เขาก็แทบร้องไห้เมื่อเทียบสิ่งที่เขาได้รับกับดาวหาง ผู้ได้รับรางวัลก่อน
“มันน่าเสียดายที่เจ้าเป็นอันดับ 11 แฝด เจ้าห่างจากอันดับ 10 ไม่ถึงสี่ร้อยแต้มเลย พยายามฝึกเข้าล่ะ!”
แม้จะไม่มีรางวัลจากนครหลวงเทพสำหรับอันดับ 11 และในทางทฤษฏีเคียวแห่งความตายก็จะไม่ให้อะไร แต่ข้าคิดว่าเจ้าควรได้รับรางวัล ข้าดันมีชุดสมบัติเกราะกฏเทพระดับกลางอยู่ ข้าจะให้เจ้าเป็นรางวัล’
โชคชะตายิ่งหงุดหงิด”ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ นี่ไม่ยุติธรรม!”
“เจ้าเคยได้ยินคำว่า’ลูกชายควรได้รับการเลี้ยงดูอย่างประหยัด และลูกสาวควรได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีไหม?”แม้มันจะค่อนข้างตลกที่ใต้สวรรค์พูดอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครค้าน
หลังมอบรางวัลให้ทั้งสาม ใต้สวรรค์ก็มองเวอชุโอโซ
“เวอชุโอโซ เจ้าเป็นอันดับสิบบนกระดานทอง รางวัลจากนครหลวงเทพคือชุดเกราะเทพสวรรค์ระดับต่ำ ในขณะเดียวกัน เคียวแห่งความตายจะมอบเศษเสี้ยวเขตแดนเทพของเทพสวรรค์ให้เจ้า!’
เวอชุโอโซอดเลิกคิ้วไม่ได้
คนอื่นไม่แสดงความคิดเห็นเช่นกัน
“นอกจากนี้ แต้มล่าเจ้าในแดนลับคือ 25198 แต้ม แต้มรางวัลสำหรับอันดับ 10 คือ 100 แต้ม เจ้าจึงมีทั้งหมด 25298 แต้ม นครหลวงเทพได้แปลงแต้มเหล่านี้เป็นเหรียญทองแล้ว เจ้าสามารถแลกของที่ต้องการได้ที่นั่น”
“ถือเป็นโอกาสให้ข้าพูดถึงเหรียญทองแดนลับ สิทธิ์ซื้อของเหรียญทองสูงกว่าเหรียญเงินในร้านค้าแดนลับของแดนเทพ นอกจากของหายากจำนวนหนึ่งที่เจ้าหาไม่ได้ เจ้าสามารถซื้อของส่วนใหญ่ที่มีในตลาดทั่วไปได้ นั่นรวมถึงอาวุธเซียนที่จ้าวเทวะใช้ แต่เงื่อนไขคือพวกเจ้าต้องมีเหรียญพอ”
เมื่อหลินฮวงได้ยิน เขาก็เริ่มเก็บงำความคาดหวังไว้
หลังอธิบายกำลังซื้อของเหรียญทอง ใต้สวรรค์ก็มองหลินฮวง
“ซิวมู่ อันดับหนึ่งบนกระดานทอง รางวัลจากนครหลวงเทพคือมีดบินพลังจิตเทพสวรรค์ชั้นนำ เจ้ายังได้รับรางวัลของการทำลายสถิติ ซึ่งเป็นมรดกพลังจิตของกึ่งจ้าวเทวะ”
“โดยปกติ รางวัลจากเคียวแห่งความตายต้องไม่ตระหนี่เช่นกัน หลังคุยกับเหล่าเคียวโลหิต เราได้ตัดสินใจจะมอบเศษเสี้ยวแดนเทพของกึ่งจ้าวเทวะให้เจ้า”
“ในเวลาเดียวกัน เราตัดสินใจเชิญซิวมู่เป็นเคียวทองกิตติมศักดิ์ เจ้าจะได้รับอำนาจทั้งหมดที่สมาชิกเคียวทองในเคียวแห่งความตายมี เจ้ายังได้รับการยกเว้นจากภารกิจทั้งหมด แน่นอน เราจะไม่หยุดเจ้าถ้าเจ้าอยากรับภารกิจ”
ดาวหางกับคนอื่นอ้าปากค้าง
แม้กระทั่งเวอชุโอโซก็อดเลิกคิ้วไม่ได้
หลินฮวงคิดถึงมันและไม่ปฏิเสธ
เพื่อเลี่ยงการบีบบังคับเขา เคียวแห่งความตายได้มอบสถานะแขกรับเชิญให้เขา และเขายังได้รับการเว้นจากภารกิจทั้งหมด แม้เขาจะไม่มีอำนาจจริง แต่สิทธิ์ที่เขามีก็เหมือนกับใต้สวรรค์ ซึ่งเทียบเท่ากับการได้รับการยอมรับในเหล่าเสาหลัก
“เจ้าได้รับแต้มล่า 154610 แต้ม แต้มรางวัลสำหรับอันดับหนึ่งคือหมื่นแต้ม สำหรับการฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสาม เจ้าได้รับ สามหมื่นแต้มสำหรับการทำลายสถิติ เจ้าจึงมีแต้มทั้งหมด 194610แต้ม ด้วยเหรียญทองแดนลับจำนวนนี้เจ้าสามารถแลกของดีได้มากมาย”
“มันน่าเสียดายที่เจ้าไม่ฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสี่ ถ้าเจ้าทำลายสถิติด้วยการฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสี่ เจ้าจะได้รับอีกสี่หมื่นแต้ม”
ดาวหางและคนอื่นอิจฉามากตอนได้ยินว่าหลินฮวงมีแต้มเกือบสองแสน
แม้จะไม่มีใครเห็นสีหน้าของเวอชุโอโซได้ ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายด้านลบที่แผ่จากเขา
หลังเหลือบมองทุกคน ใต้สวรรค์ก็พูดต่อ”นอกจากรางวัลเหล่านี้ ข้ายังได้ของมากมายจากการเดิมพันกับเจ้า เราจะแบ่งกันคนละครึ่ง”
“เจ้าจะได้รับสมบัติเทพสวรรค์ระดับสูง 13 ชิ้น สมบัติเทพสวรรค์ระดับกลาง 41 ชิ้นและสมบัติเทพสวรรค์ระดับต้น 87 ชิ้น..”
ดาวหางกับคนอื่นอยากร้องไห้
เดิมพวกเขาคิดว่ารางวัลที่พวกเขาได้รับไม่ได้ดูแย่ แต่ทว่า ตอนนี้ที่พวกเขามีบรรทัดฐานให้เปรียบ พวกเขาก็ตระหนักว่ามันห่างกันมาก
คนบางคนสามารถคว้าอันดับหนึ่งได้โดยไม่ต้องพยายามมาก ได้รับคำชมของทุกคนและแม้กระทั่งได้รับรางวัลทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน มันถือว่าดีเยี่ยมแล้วสำหรับบางคนที่ติดสิบอันดับแรก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น