Monster Paradise 1519-1520
ตอนที่ 1519
ในชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปห้าวัน
เจ้าแดงกับไคลี่สามารถพบกันได้สำเร็จ
ปัจจุบัน เจ้าแดงผ่านการล่าไปแล้วครึ่งเดือนและเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้า จำนวนเทพสวรรค์ขั้นเก้าที่นางสามารถควบคุมได้ยังเพิ่มจากสองเป็นสาม
ตามกฏการล่าได้ระบุว่าห้ามมีการล่าแบบกลุ่ม ทั้งคู่จึงต้องล่ากันแบบผลัดกัน
ทุกครั้งที่พวกนางพบเป้าหมาย คนหนึ่งจะรับผิดชอบการโจมตี อีกคนจะคอยดูข้างๆ
แต่ทว่า เมื่อเหยื่อเผยจุดอ่อน อีกคนจะเข้าไปโจมตี
บนผิวเผิน มันดูเหมือนทั้งคู่กำลังแย่งเป้าหมายกัน แต่ในความเป็นจริง ทั้งคู่กำลังช่วยกัน ทำลายจังหวะต่อสู้ของเป้าหมาย
เทคนิคการต่อสู้นี้ของสองสาวได้กลายเป็นประเด็นสนทนาระหว่างเหล่าเทพสวรรค์ด้านนอก
“เทคนิคผลัดกันสู้นี้…น่าทึ่งมาก!’
“เด็กสาวผมม่วงหาจังหวะได้แม่นยำมาก!ทุกครั้งที่นางควบคุมหุ่นเชิดให้โจมตี มันมักเป็นจุดอ่อนของศัตรู”
“สิ่งสำคัญสุดคือดูเหมือนว่านางกำลังแข่งขันเพื่อเป้าหมายทุกครั้งที่นางโจมตี ถ้าข้าไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ข้าคงเชื่อว่านางกำลังต่อสู้เพื่อแย่งเหยื่อ!”
“ข้าคิดว่าเราสามารถปล่อยให้ผู้เข้าร่วมทำแบบนี้ได้เหมือนกันในอนาคต”
ขณะที่กลุ่มเทพสวรรค์กำลังคุยกัน สีหน้าของผู้นำเทพสวรรค์ของนครหลวงเทพกลับดูไม่พอใจ
กฏที่ตั้งโดยนครหลวงเทพโดนทำลายต่อหน้าคนจำนวนมาก สำหรับนครหลวงเทพ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าภาคภูมิใจเลย
พูดตามตรง พวกเขาไม่สามารถระบุได้ว่าวิธีที่เจ้าแดงกับไคลี่ใช้เป็นการร่วมมือกัน มันกลับดูเหมือนสองสาวกำลังสู้กันเพื่อแย่งเหยื่อ
แต่ทว่า ประสิทธิภาพการล่าของทั้งคู่กลับเพิ่มขึ้นหลายเท่าด้วยการทำเช่นนี้ ไม่ใช่แค่นั้น พวกนางยังไร้เทียมทานในหมู่เทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง
อัตราการเพิ่มแต้มของพวกนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดึงดูดผู้เข้าร่วมสามอันดับแรก
ผลงานของสองสาวทำให้เกิดการพูดคุยมากมายในหมู่เทพสวรรค์ด้านนอกแดนลับ
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เด็กสาวผมม่วงต้องใช้ขบวนรบเรียบง่าย ที่สามหุ่นเชิดเทียบเท่ากับคนคนเดียว ความสามารถของหุ่นเชิดทั้งสามไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผสมผสานกัน”
“เจ้าหญิงน้อยไคลี่ก็ทำได้ดี นางต้องรู้จักเด็กสาวผมม่วงมานาน ความเข้าใจโดยปริยายแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น”
หลังการต่อสู้ครั้งใหญ่หนึ่งวันเต็ม สองสาวก็ตรงไปอาณาเขตของเทพสวรรค์ขั้นสองเช้าวันต่อมาและเริ่มการล่ารอบใหม่
เป้าหมายแรกที่ทั้งคู่เลือกคือลิงปีศาจแปดตา
ลิงปีศาจแปดตาตัวนี้ใช้ห่วงโซ่ลำดับเทพได้สองอย่าง พละกำลังเหนือมนุษย์ และวัชรปาณี มันมีพละกำลังและการป้องกันที่ไม่มีใครเทียบได้ มันยังถนัดการต่อสู้ระยะประชิด
ความสามารถโดยรวมมันถือเป็นจุดสูงสุดของเทพสวรรค์ขั้นสอง
ในความเป็นจริง สองสาวเลือกเป้าหมายล่านี้ไม่ใช่เพื่อฆ่าแต่เพื่อทดสอบน่านน้ำ
ประการแรก เจ้าแดงอยากรู้ขีดจำกัดของขบวนรบนางซึ่งประกอบไปด้วยสามเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง อีกประการ ไคลี่อยากรู้ว่านางจะโจมตีได้รุนแรงสุดแค่ไหน
ด้วยเป้าหมายเหล่านี้ในหัว สองสาวจึงรุกรานอาณาเขตของลิงปีศาจแปดตา
ลิงไม่อ้อมค้อมเช่นกัน การต่อสู้เริ่มขึ้นทันที
เจ้าแดงควบคุมขบวนรบซึ่งประกอบไปด้วยสามนักโทษและริเริ่มโจมตีลิงปีศาจแปดตา ในขณะเดียวกัน ไคลี่ได้เฝ้าดูการต่อสู้จากด้านข้างเหมือนเดิม
เงายักษ์ของลิงสีแดงเลือดรวมกันในอากาศและปะทะกับลิงปีศาจแปดตา
การปะทะของสองร่าง หนึ่งดำ หนึ่งแดงทำให้พลังเทวะพุ่งออกไปทุกทิศทาง
มันดูเหมือนจะสูสีกัน แต่ทันทีที่การปะทะเกิดขึ้น เจ้าแดงก็รู้ว่าการโจมตีตรงๆไม่อาจเอาชนะได้
ตัดสินจากแรงกดดันที่มาจากขบวนรบ คู่ต่อสู้เหนือกว่าในแง่ของการยับยั้ง
ในความคิดที่สอง เจ้าแดงได้ควบคุมขบวนรบทันทีและเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ของนาง
นางถอยห่างออกไปไกลทันทีจากพลังงานมหาศาลที่พุ่งพล่านจากคู่ต่อสู้ ทำให้พลังส่วนใหญ่ของการโจมตีลดลง
เมื่อเห็นว่าเงาลิงยักษ์ยังไม่สงบ ลิงปีศาจก็อยากฉวยโอกาสไล่ตาม ไคลี่จึงอดเคลื่อนไหวไม่ได้
นางแทงออกใส่อากาศ ซึ่งเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีม่วงแดงนับร้อยที่ขวางทางลิงปีศาจไว้
ทันทีที่เงาลิงยักษ์สลายแรงปะทะได้หมด เจ้าแดงก็ควบคุมมันให้พุ่งใส่ลิงปีศาจเพื่อป้องกันมันจากการเปลี่ยนเป้าหมายต่อสู้
การโจมตีก่อนหน้าของไคลี่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่การแย่งศัตรู แต่เป็นช่วยเหลือไคลี่
ครั้งนี้ มันชัดเจนว่าไม่มีใครยอมหลับตาได้
โชคดี เจ้าแดงสามารถดึงความสนใจของลิงปีศาจกลับมาได้ ขณะที่ไคลี่เองก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง นางจึงหยุด ไม่เข้าร่วมการต่อสู้
กลุ่มเทพสวรรค์ด้านนอกไม่พูดอะไร
ผู้นำจากนครหลวงเทพแค่ขมวดคิ้ว แต่ไม่พูดอะไรเช่นกัน
การต่อสู้ในแดนลับไม่ทำให้ใครแปลกใจ
เงาลิงยักษ์ถูกข่มโดยลิงปีศาจตลอดการต่อสู้
เจ้าแดงควบคุมเงาลิงยักษ์ให้หลบการปะทะซึ่งๆหน้า นางทำลายการโจมตีด้วยความว่องไวและโต้กลับ แต่ทว่า การโจมตีของนางไม่อาจทำร้ายลิงปีศาจได้
การต่อสู้กินเวลาเกือบสามชั่วโมง แต่สุดท้ายนางก็ตัดสินใจยอมแพ้
ในขณะเดียวกัน ไคลี่ที่เฝ้าดูอยู่ข้างสนามเริ่มต่อสู้ต่อ
นางแสดงความเหนือกว่าทันทีที่เริ่มสู้
นางข่มศัตรูด้วยความเร็วกับความว่องไวขณะหลบการโจมตีทั้งหมดสบายๆ ไม่ใช่แค่นั้น เนื่องจากการโจมตีที่รวดเร็วและลอบเร้นของนาง การนโจมตีส่วนใหญ่ของนางจึงโดนลิงปีศาจ
รังสีของสายฟ้ายิงไปในมุมต่างกันและหลายรูปแบบ แต่ทว่า พวกมันสร้างได้แค่บาดแผลภายนอกเล็กน้อยทุกครั้งที่โดนตัวลิงปีศาจ บาดแผลเหล่านี้จะหายแทบทันที
แม้ไคลี่จะได้เปรียบในด้านความเร็ว นางก็แพ้ในด้านการป้องกัน พลังโจมตีของนางอ่อนเสียยิ่งกว่าเงาลิงของเจ้าแดงและนางไม่สามารถทำร้ายลิงปีศาจได้เลย
อย่างไรก็ตาม ไคลี่ไม่เต็มใจยอมแพ้และพยายามอยู่เกือบสองชั่วโมง แม้กระทั่งนางจะรู้ว่าไม่สามารถฝ่าการป้องกันมันได้ สุดท้าย นางก็ไม่มีทางเลือกนอกจากล้มเลิกความพยายาม
แต่ทว่า ลิงปีศาจกลับโกรธและไม่วางแผนปล่อยทั้งคู่ไป ต้องรู้ว่ามันโดนรบกวนมากว่าห้าชั่วโมงโดยไม่มีเหตุผล
แม้มันจะได้เปรียบเหนือเจ้าแดงกับไคลี่ในแง่ของพละกำลังและพลังป้องกัน มันก็ยังด้อยกว่าไคลี่ด้านความเร็ว
ไคลี่กระพือปีกและบินหนีทันทีหลังเก็บเจ้าแดงกับหุ่นเชิดนางไว้ในเขตแดนเทพของนาง นางใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีเพื่อสลัดลิงปีศาจจากการไล่ล่า
แม้ทั้งสองจะไม่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้นี้ พวกนางก็ยังดึงดูดความสนใจของเทพสวรรค์หลายคนด้านนอกได้
บางคนเห็นใจพวกนางด้วยซ้ำเพราะคิดว่าพวกนางเลือกคู่ต่อสู้ผิด
แต่ทว่า เทพสวรรค์บางคนสามารถบอกได้ว่าสองสาวจงใจยั่วยุลิงปีศาจ
บนกล้อง ไคลี่ปล่อยเจ้าแดงออกจากเขตแดนเทพนางหลังสลัดลิงปีศาจหลุด
แม้การต่อสู้นี้จะล้มเหลวแต่พวกนางก็ไม่ย่อท้อ พวกนางยังมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายต่อไปขณะเริ่มทบทวนการต่อสู้ก่อนหน้า…
ตอนที่ 1520
หลินฮวงรู้สึกว่าเวลาที่ใช้กับการล่าในแดนลับผ่านไปเร็วมาก
พอเขาเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นหก มันก็เป็นสามวันสุดท้ายก่อนแดนลับจะปิดตัวแล้ว
เขาไม่ลืมเหตุผลหลักที่เข้าแดนลับครั้งนี้ มันแค่ว่าเขาไม่สามารถหาโอกาสไปพบไคลี่กับเจ้าแดงได้
เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสพิกัดของมอนสเตอร์อัญเชิญของเขาได้ตลอดเวลา การเลือกเป้าหมายล่าตลอดครึ่งเดือนนั้นอาจดูเหมือนสุ่ม แต่จริงๆแล้ว เขากำลังมุ่งหน้าไปใกล้สองสาว
เจ้าแดงกับไคลี่สามารถสัมผัสได้เช่นกันว่าหลินฮวงอยู่ไหน พวกนางจึงล่ามาทางเขาเรื่อยๆ
วันที่สองหลังหลินฮวงเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นหก ซึ่งเป็นสามวันก่อนแดนลับปิดตัว เขาพลันเลือกนักโทษตำแหน่งใกล้ชายแดนของอาณาเขตเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งและสอง
ไคลี่กับเจ้าแดงเลือกนักโทษเทพสวรรค์ขั้นสองใกล้กับชายแดนเช่นเดียวกัน
ไม่ช้า เหล่าเทพสวรรค์ด้านนอกแดนลับก็สังเกตเห็นสถานการณ์ผิดปกตินี้
“เป้าหมายที่เจ้าหญิงน้อยจากเผ่าเนฟิลิกเลือกใกล้กับที่ซิวมู่เลือกมาก!”
“สองสาวคงไม่เผชิญหน้ากับซิวมู่หรอกใช่ไหม?”
“พวกอยู่ใกล้กันเกินไป มีวคมาเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองฝ่ายจะสัมผัสได้ถึงอีกฝ่ายทันทีที่คลื่นพลังจากการต่อสู้ขยายตัว ข้างสัยว่าซิวมู่จะไปตรวจสอบไหม”
“มันไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะพบกันไหม ผู้เข้าร่วมทั้งหมดรู้กฏการล่าในแดนลับ ความเป็นไปได้ที่ซิวมู่จะโจมตีสองสาวต่ำมาก”
แม้คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่าหลินฮวงต้องไม่โจมตีทั้งคู่ คนของเผ่าเนฟิลิกก็มีสีหน้าไม่สู้ดี
เขาคงไม่กังวลถ้าไคลี่พบเจอกับยอดฝีมือเทพแท้จริงชั้นนำคนอื่นนอกจากซิวมู่กับเวอชุโอโซ
แต่ทว่า นางกลับโชคร้ายพอมาเจอกับซิวมู่ อัจฉริยะไไร้เทียมทานที่มีความสามารถบดขยี้เทพสวรรค์ขั้นสามอย่างสมบูรณ์
แม้กฏจะบอกว่าการโจมตีผู้เข้าร่วมไม่ได้รับอนุญาตในแดนลับ แต่เส้นแบ่งก็เลือนราง
องค์กรจะทำเป็นหลับหูหลับตาตราบเท่าที่ไม่มีใครถูกฆ่าหรือพิการ
ยิ่งไไปกว่านั้น ซิวมู่ยังสู้กับเวอชุโอโซมาแล้ว มันไม่น่าแปลกถ้าเขาจะโจมตีคนอื่น
กลุ่มเทพสวรรค์ยังคุยถึงประเด็นนี้กันนอกแดนลับ
ในขณะเดียวกัน ไคลี่กับเจ้าแดงก็ได้มาถึงอาณาเขตที่เป้าหมายอยู่และเริ่มโจมตี
การต่อสู้ระหว่างสองสาวกับนักโทษเทพสวรรค์ขั้นสองเพิ่งเริ่มได้ไม่ถึง 20 นาทีก่อนหลินฮวงจะมาถึงที่ที่เป้าหมายของเขาอยู่ด้วย เขาเริ่มการล่านักโทษเทพสวรรค์ขั้นสามทันที
ในความเป็นจริง ทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาอยู่ใกล้กัน
ทั้งสามไม่ทำอะไรผิดปกติ แค่ทำตัวตามปกติ
ในภาพเฝ้าระวัง มันดูราวกับพวกเขาไม่ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของกันและกันเลย
ตามปกติ หลินฮวงเหนือกว่าศัตรูอย่างมาก ใช้เวลาแค่ 20 นาทีเพื่อฆ่าเหยื่อ
แต่ทว่า หลังฆ่าคู่ต่อสู้และเก็บศพไป เขากลับแหงนหน้าขึ้น จ้องไกลออกไป
มีประกายไฟฟ้าสีม่วงแดงส่องสว่างในเมฆ
การมองนี้ทำให้เทพสวรรค์เผ่าเนฟิลิกที่ดูอยู่ด้านนอกแดนลับตึงเครียด
เทพสวรรค์คนอื่นที่ดูการต่อสู้ต่างจ้องหน้าจอ ไม่อยากพลาดอะไรไป
ไม่กี่วินาทีต่อมา หลินฮวงก็ขยับตัว พุ่งไปทางสายฟ้าสีม่วงแดงอย่างรวดเร็ว
“ตามคาด พวกเขาพบกันแล้ว..”
บางคนในหมู่เทพสวรรค์อดถอนหายใจไม่ได้
หลินฮวงใช้เวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจเพื่อข้ามระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร
เมื่อไคลี่ยังต่อสู้กับนักโทษเทพสวรรค์ขั้นสอง เขาก็ได้เผยตัวเอง ยืนในอากาศห่างจากสนามรบไม่ถึงร้อยเมตร
เจ้าแดงพลันแหงนมองเขา สีหน้าของนางดูระแวดระวัง ทักษะการแสดงของนางสมบูรณ์แบบ
หลินฮวงเหลือบมองนางโดยไม่พูดอะไร
แต่ทว่า ไคลี่ที่กำลังสู้กลับเสียสมาธิอย่างเห็นได้ชัด
นางไม่ได้แสดงเลย นางเสียสมาธิจริงๆหลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหลินฮวง
“การเสียสมาธิระหว่างต่อสู้ถือเป็นเรื่องผิดมหัน”หลินฮวงเตือนนาง”ไม่ต้องสนใจข้า ข้าสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานและคิดว่าจะมาหยุดตรวจสอบดู”
แม้เขาจะพูดแบบนี้ หลินฮวงก็ไม่แสดงเจตนาจะไปเลย เขากลับกอดอก ดูการต่อสู้ นั่งในอากาศ
ไคลี่รีบเพ่งสมาธิหลังได้ยินคำเตือนของหลินฮวง
ด้านนอกสนามรบ เจ้าแดงดูการต่อสู้ของไคลี่ขณะคอยคุ้มกันนาง
“เจ้าเป็นใคร?”
ทักษะการแสดงของเจ้าแดงสมบูรณ์แบบ ด้วยความที่ซิวมู่เพิ่งมีชื่อเสียงตอนเข้าร่วมแดนลับ ตามตรรกะทั่วไป นางย่อมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ทว่า ในฐานะเพื่อนคนสนิทของเจ้าหญิงน้อยเผ่าเนฟิลิก มันสมเหตุสมผลที่นอกจะไม่รู้จักใครอื่นนอกจากเทพแท้จริงชั้นนำ
“ซิวมู่จากเคียวแห่งความตาย”หลินฮวงเปิดเผยตัวตนเขาและมองเจ้าแดงด้วยรอยยิ้ม”ข้าเห็นพวกเจ้าสองด้านนอกแดนลับ เจ้าหญิงน้อยแห่งเผ่าเนฟิลิกกับเพื่อนคนสนิท”
ใบหน้าของเจ้าแดงซีดลงเมื่อได้ยินตัวตนของหลินฮวง มันดูเหมือนว่านางตกใจกับชื่อเขา อย่างไรก็ตาม นางยังรักษาสีหน้าขณะพูด”ดีที่เจ้ารู้ มันจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่ได้วางแผนทำอะไรเรา!”
หลินฮวงผายมือสองข้างขณะยิ้ม แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีเจตนาโจมตี
แต่ทว่า เจ้าแดงก็ไม่ยอมลดความระมัดระวังลง
“สาวน้อย ข้าได้ยินว่าเจ้าหญิงน้อยกำลังจะแต่งงาน?”หลินฮวงถาม ทดสอบน่านน้ำ
“ไม่ นั่นเป็นข่าวปลอม!”เจ้าแดงปฏิเสธ ในความเป็นจริง การที่นางพูดแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของหลายองค์กรที่กำลังดู”พี่สาวไคลี่ไม่ประทับใจผู้ชายโง่ๆอย่างเจ้าหรอก!นางกำลังจะเลื่อนเป็นเทพสูงสุด สิ่งมีชีวิตชั้น 6 และครองตำแหน่งอัจฉริยะสูงสุด!”
“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว..”หลินฮวงลูบคาง ดูเหมือนกำลังคิดลึก
ด้านนอกแดนลับ หลังได้ยินคำพูดของเจ้าแดง เทพสวรรค์ก็ตระหนักว่าไคลี่ไม่ตั้งใจจะแต่งงานด้วยตัวนางเอง
เทพสวรรค์เผ่าเนฟิลิกดูอับอาย โดยปกติ เขารู้ถึงแรงบันดาลใจของไคลี่ อย่างไรก็ตาม เขาก็เหมือนกับชนชั้นสูงของเผ่าเนฟิลิกและคิดว่านางไม่มีความสามาราถเช่นนั้น มีแค่การจับนางแต่งงานถึงเป็นประโยชน์ต่อเผ่ามากสุด
เหล่าเทพสวรรค์เห็นสีหน้าอึดอัดของเทพสวรรค์เผ่าเนฟิลิกและรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าการเตรียมงานแต่งนั้นขัดต่อเจตนาของไคลี่
แม้บางองค์กรจะไม่สนใจและรู้สึกว่าสิ่งที่นางต้องการไม่สำคัญตราบเท่าที่การแต่งงานเกิดขึ้น แต่องค์กรอื่นรู้สึกว่าการแต่งงานแบบโดนบังคับจะนำความโชคร้ายมาให้ พวกเขาเริ่มพิจารณาว่าควรละทิ้งแผนการขอแต่งงานหรือไม่
สิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือภายใต้กล้อง หลินฮวงได้ลอบบดขยี้การ์ดเลื่อนขั้น 5 ใบและฝังในตัวไคลี่ นี่จะช่วยให้นางทะลวงผ่านได้และประสบความสำเร็จในการเลื่อนเป็นเทพสูงสุด…
ปล.ฝากติดตามเพจแอดกันด้วยน้า จะได้ตามตอนใหม่กันทัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น