Monster Paradise 1515-1516

ตอนที่ 1515

 

“ผู้กลับชาติมาเกิดใหม่…:”


บุคคลเหล่านี้ที่กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นส่วนหนึ่งของบุคคลพิเศษที่ได้รับเลือกโดยบางสิ่งที่เรียกว่าระบบพระเจ้า พวกเขาเดินทางไปมาระหว่างระนาบเวลาและจักรวาลต่างๆเพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบโดยเหล่าพระเจ้า รวมถึงแลกเปลี่ยนทรัพยากรต่างๆ


 


ในฐานะนักเดินทาง หลินฮวงย่อมตระหนักถึงแนวคิดของผู้กลับชาติมาเกิดใหม่


 


ตอนเขาอยู่ในวิทยาลัย มีช่วงหนึ่งตอนเขาอ่านวรรณกรรมออนไลน์ ยุคนั้นเป็นยุคทองของนิยายออนไลน์จริงๆ และเขาก็อ่านนิยายทุกประเภท เขาอ่านมากกว่าร้อยผลงานจากนิยายหนึ่งประเภท ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกกับกลไกของสิ่งมีชีวิตกลับชาติมาเกิดใหม่จากนิยายเหล่านี้


 


“มันเหมือนในนิยายไหม?”หลินฮวงอดถามไม่ได้ขณะมองหน้าตัวตนสโมสรที่เวอชุโอโซแสดง


 


“ไม่มากก็น้อย”เขาตอบอย่างคลุมเครือ ราวกับไม่อยากคุยหัวข้อนี้


 


“อืม…”หลินฮวงไม่พอใจกับคำตอบนี้”ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าเป็นสมาชิกสโมสร แต่กลับจงใจมาสร้างปัญหาแบบนี้?”


“ข้าแค่อยากทดสอบความสามารถเจ้า ถ้าความสามารถเจ้าไม่ดี งั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้าบอกตัวตน”เวอชุโอโซพูดตรงๆ เขาหยุดสักพักก่อนตอบ”ข้าได้แนะนำตัวเองไปแล้ว เจ้าจะไม่แนะนำตัวเองบ้างหรือ?”


 


“ขอโทษด้วย มันเป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบกับผู้กลับชาติมาเกิดใหม่”หลินฮวงยิ้ม”สโมสร นักเดินทาง หลินฮวง”


 


เขาเลียนแบบอีกฝ่ายและฉายหน้าประจำตัวสโมสรของเขา


 


“อย่างที่ข้าคิด มันเป็นเจ้าจริงๆ”เวอชุโอโวดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย


 


“เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใคร?”หลินฮวงสับสนเล็กน้อย


 


“ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้ามาก่อน”เวอชุโอโซพยักหน้า”จำนวนสมาชิกทั้งหมดในสโมสรค่อนข้างน้อยและก็ไม่ค่อยมีสมาชิกใหม่นัก เจ้าเป็นสมาชิกใหม่คนเดียวในรอบสามหมื่นปี ดังนั้น เจ้าจึงดึงดูดความสนใจของทุกคน”


 


“แค่คนเดียวในรอบสามหมื่นปี?”หลินฮวงจ้องด้วยตาเบิกกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังอยากรู้เช่นกัน”แล้วเจ้าละ?”


 


เหตุผลที่เขาถามคำถามนี้เพราะตามข้อมูลที่เขาได้รับจากเคียวแห่งความตาย เวอชุโอโซไม่ได้แก่ขนาดนั้น แค่อายุน้อยกว่าปี


 


“ฮ่าๆๆ…ตัวตนนี้ก็แค่ร่างโคลนเกิดใหม่ของข้าในมหาพิภพนี้”เวอชุโอโซตอบด้วยรอยยิ้ม”ร่างจริงของข้าเข้าร่วมสโมสรมากว่าสองแสนปีแล้ว”


 


“ข้ากำลังคิดว่าในเมื่อข้าอยู่มหาพิภพเดียวกับเจ้า เราก็สามารถใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกันได้ เมื่อเจ้าเข้าร่วมเคียวแห่งความตายในฐานะเซี่ยหลิน ข้าก็สงสัยอยู่แล้วว่ามันอาจเป็นเจ้า แต่ก่อนข้าจะได้ยืนยัน เจ้าก็หายไป”


 


“โชคดี เจ้าปรากฏตัวใหม่และเข้าร่วมเคียวแห่งความตายอีกครั้งในฐานะซิวมู่ นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเรามีชะตากรรมต้องกัน…”


 


ความคิดเห็นสุดท้ายนี้ทำให้หลินฮวงตัวสั่น


 


“เนื่องจากท่านเข้าร่วมสโมสรมากว่าสองแสนปีแล้ว ท่านก็ถือเป็นผู้อาวุโส”หลินฮวงประสานมือไว้ด้านหน้าและพูดอย่างสุภาพ”ผู้เยาว์ขออภัยกับการกระทำที่ไร้ความเคารพก่อนหน้านี้ด้วย”


 


มันยากสำหรับเขาที่จะจินตนาการว่าคนที่ครอบครองระบบพระเจ้า และมีชีวิตอยู่มานานกว่าสองแสนปีจะแข็งแกร่งขนาดไหน แม้อีกฝ่ายจะไม่พูด หลินฮวงก็เดาว่าร่างจริงอีกฝ่ายน่าจะเป็นยอดฝีมือระดับจ้าวเทวะหรือแข็งแกร่งกว่านั้น


 


“อย่าเรียกข้าว่า’ผู้อาวุโส’ ข้าคือข้า และร่างจริงก็คือร่างจริง จิตสำนึกของเราสองแยกกัน ยิ่งไปกว่านั้น ระดับพลังข้าไม่ได้มากไปกว่าเจ้า”เวอชุโอโซยิ้มและส่ายหัว”ถ้าเจ้าอยากเรียกคนว่าผู้อาวุโส เจ้าสามารถเรียกแบบนั้นได้ตอนพบร่างจริงข้าในอนาคต เจ้าไม่ต้องทำแบบนั้นกับข้า”


 


“ทุกอย่างที่ข้าบอกเจ้าเป็นความลับ ใต้สวรรค์รวมถึงเบื้องบนเคียวแห่งความตายไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนข้าในฐานะผู้กลับชาติมาเกิด ทั้งหมดรู้แค่ว่าข้าทรงพลัง”


 


ตอนนี้ เวอชุโอโซพูดขึ้น”เราควรเปลี่ยนเรื่องคุยกันได้แล้ว กลับไปเข้าเรื่องจริงจังกันเถอะ”


“จริงๆแล้วข้ามีเหตุผลที่มาทดสอบพลังเจ้านอกจากการอยากรู้จักกับเจ้า”


 


หลินฮวงเลิกคิ้วเล็กน้อย พูดตามตรง เขางงงวยเล็กน้อยกับเรื่องนี้ ถ้าอีกฝ่ายแค่อยากรู้จักเขา ก็ไม่จำเป็นต้องโจมตี


 


“ข้าอยากเชิญเจ้าเข้าร่วมกลุ่มของข้าเพื่อเดินทางไปหุบเหว”หลังพูดแบบนั้น เวอชุโอโซก็กล่าวเสริม”หุบเหวของจริง”


 


หลินฮวงตกตะลึง


มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตหุบเหวมาก่อน และเขาก็ยังเข้าเขตลับมากมายที่เกี่ยวกับหุบเหว แต่เขาไม่เคยไปหุบเหวของจริง


เขายังตระหนักว่าหุบเหวของจริงน่ากลัวแค่ไหน ไม่เพียงจะมีมอนสเตอร์ระดับจ้าวเทวะนับไม่ถ้วนในส่วนลึกของมัน แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตหลับใหลที่แข็งแกร่งกว่าจ้าวเทะ


 


เขาไม่คิดว่าเขาทรงพลังพอจะไปที่นั่น


 


“ข้าสามารถปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้ไหม?”หลินฮวงปฏิเสธคำเชิญของอีกฝ่ายทันทีโดยไม่ลังเล


 


“เจ้าช่วยปล่อยให้คนพูดจบก่อนไม่ได้หรือไง?”ภายใต้หน้ากาก สีหน้าของเวอชุโอโซดูโกรธเคือง


 


“เอาล่ะ เชิญ”สีหน้าของหลินฮวงชัดเจนว่า’พูดต่อไปเรื่อยๆจนจบ เพราะสุดท้ายข้าก็จะปฏิเสธอยู่ดี’


 


“ข้าต้องการบางสิ่งบางอย่างจากหุบเหวเพื่อเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ ของชิ้นนั้นอยู่ภายใต้ตัวเทพสวรรค์ขั้นสูง และข้าต้องไปรับมันด้วยตัวเอง ข้าเตรียมการมาหลายปีเพื่อจะได้ตั้งกลุ่ม ช่วยให้ข้าทำเรื่องนี้สำเร็จ”


 


“เจ้าแค่ขอความช่วยเหลือจากเทพสวรรค์บางคนก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลินฮวงถาม


 


ในความคิดเขา เพื่อแก้ปัญหาแบบนี้ พวกเขาต้องนำกลุ่มเทพสวรรค์ขั้นสูงไปช่วยว ไม่งั้นก็ต้องขอใต้สวรรค์ให้ไป เพราะย่อมไม่มีเทพสวรรค์หุบเหวคนใดที่พวกเขาสามารถรับมือได้


 


“เนื่องจากข้อจำกัดบางประการ ข้าทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากเทพแท้จริง”เวอชุโอโซส่ายหัว


 


“นี่นับเป็นภารกิจเปลี่ยนงานที่มอบให้เจ้าโดยพระเจ้าหรือ?”หลินฮวงอดยิ้มไม่ได้ขณะถาม


 


เวอชุโอโซจ้องเขานิ่งๆ จากนั้นก็พยักหน้า”เจ้าจะพูดแบบนัั้นก็ได้”


 


“เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการตั้งกลุ่ม แล้วนอกจากข้า มีใครบ้าง?”หลินฮวงถาม


 


“หนึ่งในนั้นเป็นร่างโคลนของเพื่อนข้า ผู้บ่มเพาะกระบี่ขั้นเก้าที่เป็นสมาชิกของสโมสรเช่นกัน อีกสองเป็นศิษย์ที่ได้รับการฝึกด้วยร่างจริงของข้า หนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะต่อสู้ขณะอีกคนเป็นจอมเวทย์ พวกเขาเป็นขั้นเก้าเช่นกัน รวมถึงเจ้ากับข้า จะมีห้าคน”เวอชุโอโซอธิบาย


 


“งั้นขอข้าพูดบ้าง ถ้าเราตกเป็นเป้าโดยจ้าวเทวะหรือสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่านั้น เจ้าจะมีทางพาเราออกมาไหม?”ถ้านี่เป็นคนอื่น หลินฮวงคงไม่ถามคำถามแบบนี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เทพแท้จริงจะมีความสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของจ้าวเทวะ แต่ทว่า ร่างจริงของเวอชุโอโซมีพลังสูงส่งและยังมีประสบการณ์สูงมาก เขาอาจครอบครองวิธีหลบหนีจากจ้าวเทวะ


เมื่อได้ยินคำถามนี้ เวอชุโอโซโก็เงียบไปแต่สุดท้ายก็พยักหน้า”เดิมที ข้าไม่วางแผนเปิดเผยความกล้าไพ่ตายเช่นนี้ แต่เนื่องจากเจ้าถาม ข้าคิดว่ามันดีกว่าที่ข้าจะพูดตามตรง ข้ามีกระสวยอวกาศข้ามมิติในการครอบครอง มันได้รับการปรับแต่งโดยร่างจริงข้าเอง และมันก็สามารถช่ยวให้เราหลบหนีจากอาณาจักรของจ้าวเทวะได้”


 


“เจ้าอาจไม่เข้าใจเรื่องราวในหุบเหวดี แม้พรมแดนจะไม่ชัดเจนนัก การกระจายตัวของมอนสเตอรืก็ต่างกันที่ระดับความลึกต่างกัน จ้าวเทวะกับเทพสวรรค์ไม่ได้อยู่ในความลึกเดียวกัน”


 


“แถม ในหุบเหว เมื่อพลังประเภทต่างๆปลดปล่อยจากตัว พวกมันจะลดลง เว้นแต่ยอดฝีมือระดับจ้าวเทวะหรือบางคนที่แข็งแกร่งกว่าจะโจมตี ความผันผวนพลังงานจะไม่ส่งไปไกลนัก แม้กระทั่งตอนเทพสวรรค์ขั้นสูงปะทะกัน ความผันผวนจากการต่อสู้มักรับรู้ได้ในระยะร้อยกิโลเมตรเท่านั้น ไกลกว่านั้น จะไม่มีใครรู้”


 


“แล้วข้าจะได้อะไรถ้าเข้าร่วม?”หลินฮวงไตร่ตรองสักพัก จากนั้นก้ถาม


 


แม้เขาจะเตรียมปฏิเสธข้อเสนอในตอนแรก แต่คำอธิบายของเวอชุโอโซก็ช่วยขจัดความกังวลของเขาได้มาก นอกจากนี้ เขายังคิดเกี่ยวกับความจริงหลังออกแดนลับนี้ เขายังต้องล่าเทพสวรรค์เพิ่มเพื่อเพิ่มระดับพลังเขา และเขตลับส่วนใหญ่ก็ไม่มีเทพสวรรค์ให้เขาล่ามากนัก


 


ตามคำอธิบายของอีกฝ่าย หุบเหวฟังดูเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการเก็บเกี่ยว


 


“การบ่มเพาะเจ้าคือเต๋าดาบและจิตเทวะ ข้าสามารถมอบชิ้นส่วนผนึกวิญยาณให้ได้ นอกจากนี้เจ้ายังถือว่ามันเป็นคำขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ หลังเราออกหุบเหว ข้าจะให้ชิ้นส่วนผนึกดาบกับเจ้าด้วย”เวอชุโอโซระบุเงื่อนไข


 


“ผนึกวิญญาณ?ผนึกดาบ?”หลินฮวงสับสน เขาไม่รู้ว่าทั้งสองสิ่งนั้นคืออะไร


 


เมื่อเห็นสีหน้าของหลินฮวง เวอชุโอโซก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไรและอธิบาย”เจ้าอาจได้ยินมาว่าเทพสวรรค์ต้องวิวัฒนาการเป็นจ้าวเทวะ พวกเขาต้องรวมผนึกเต๋าก่อนสินะ?ผนึกวิญญาณที่ว่าก็คือผนึกเต๋าที่ควบแน่นและสร้างโดยจ้าวเทวะที่บ่มเพาะวิญญาณ ส่วนผนึกดาบก็คือผนึกเต๋าดาบที่ควบแน่นโดยจ้าวเทวะผู้ใช้ดาบ”


 


“ชิ้นส่วนผนึกเต๋าก็คือส่วนที่หลงเหลือหลังจ้าวเทวะตายและผนึกเต๋าพวกเขาก็ตกหล่น แม้เต๋าในชิ้นส่วนเหล่านี้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังตีความได้และมีพลังเต๋าจำนวนมากหลงเหลือภายใน”


 


“ชิ้นส่วนผนึกเต๋าทุกชิ้นเป็นสมบัติล้ำค่าต่อเทพสวรรค์และกึ่งจ้าวเทวะ เทพสวรรค์สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญห่วงโซ่ลำดับเทพได้ผ่านการตีความชิ้นส่วนผนึกเต๋าและอาจได้รับมรดกสมบูรณ์ ขณะที่ยอดฝีมือกึ่งจ้าวเทวะสามารถดูดซับพลังเต๋าจากภายในและเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ”


 


เมื่อได้ยิน หลินฮวงก็รู้สึกทึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้


 


เต๋าดาบของเขาเป็นแค่ขั้นต้นของกฏสวรรค์เต๋าดาบ เขาจึงเดาว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเขาที่จะก้าวไปไกลกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ ถ้าเขาได้รับชิ้นส่วนผนึกดาบ เขาอาจสามารถเร่งความก้าวหน้าของการบ่มเพาะดาบได้มาก


 


“เราสามารถเปลี่ยนมันเป็นชิ้นส่วนผนึกดาบสองชิ้นแทนได้ไหม?”หลินฮวงอดถามไม่ได้


 


“เจ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร-กะหล่ำปลีที่ขายข้างถนนให้เจ้าหยิบเลือกได้?ข้ามีชิ้นส่วนผนึกดาบแค่ชิ้นเดียว ถ้าข้ามีสอง ข้าย่อมมอบให้เจ้าแน่ ข้าไม่ใช่ผู้บ่มเพาะดาบ จึงไม่มีประโยชน์ให้เก็บไว้ แม้เจ้าจะไม่ได้รับผลประโยชน์จากชิ้นส่วนผนึกวิญญาณมากเท่าผนึกดาบ มันก็ยังเพิ่มพลังของจิตเทวะเจ้าได้และถ้าเจ้าโชคดี มันไม่ใช่เป้นไปไม่ได้ที่เจ้าจะได้รับมรดกประเภทพลังจิต”เวอชุโอโซรู้สึกโกรธเล็กน้อย


 


“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว”น้ำเสียงของหลินฮวงเจือปนไปด้วยความผิดหวัง”เจ้าสามารถให้ชิ้นส่วนผนึกดาบเป็นของมัดจำได้ไหม?ค่อยให้ผนึกวิญญาณกับข้าหลังเราออกมา”


“ได้”เวอชุโอโซตอบรับและนำชิ้นส่วนผนึกดาบออกมา


 


หลินฮวงมองของที่อีกฝ่ายหยิบออกมาด้วยความอยากรู้ แต่วินาทีที่เขาเห็นมัน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง “อย่าบอกนะว่าของแบบนี้คือชิ้นส่วนผนึกดาบ?!”

 

 

 


ตอนที่ 1516

 

ชิ้นส่วนผนึกดาบในมือเวอชุโอโซค่อนข้างคุ้นเคยสำหรับหลินฮวง


 


นี่คือแผ่นกระดาษสีทองเข้มขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์ และยังมีอักขระสีดำส่องแสงบนนั้น แต่ทว่า แผ่นกระดาษนี้กลับดูเหมือนไม่สมบูรณ์ ราวกับมีใครบางคนฉีกมันไป


 


ดวงตาของหลินฮวงเบิกกว้าง ของชิ้นนี้แทบเหมือนคัมภีร์ดาบใหญ่หน้าหนึ่งภายในตัวเขา ยกเว้นแค่ว่ารูปทรงที่ฉีกขาดต่างกัน


 


“ทำไม เจ้าเคยเห็นมาก่อน?”เวอชุโอโซแปลกใจกับท่าที ตามสิ่งที่หลินฮวงพูด เขาดูเหมือนจะเคยเห็นมาก่อน


 


“ข้าคิดว่าข้าเคยเห็น”หลินฮวงตอบอย่างคลุมเครือ เขาปกปิดความจริงที่เขามีชิ้นส่วนผนึกดาบอยู่แล้วในตัวไว้


 


เมื่อเห็นว่าหลินฮวงไม่อยากอธิบาย เวอชุโอโซก็ไม่เจาะลึกลงหัวข้อนี้


 


“ข้ามีคำถาม ถ้ามันเป็นผู้บ่มเพาะดาบเหมือนกันและการยกระดับไปสู่จ้าวเทวะคือผ่านเต๋าดาบ ผนึกดาบจะเกิดความแตกต่างในแง่พลังไหม?”หลินฮวงอยากรู้เกี่ยวกับผนึกเต๋าและอดถามไม่ได้


 


“แน่นอน”เวอชุโอโซยิ้มและพยักหน้า


 


“ยิ่งรากฐานของผู้บ่มเพาะแข็งแกร่ง ผนึกดาบก็จะยิ่งแข็งแกร่ง


 


“มันเป็นตรรกะที่ง่ายมาก ผนึกดาบที่ควบแน่นจากห่วงโซ่ลำดับเทพเก้าสายจะไม่มีวันแข็งแกร่งกว่าอันที่ควบแน่นจากห่วงโซ่ลำดับเทพร้อยสาย”


 


“เต๋าดาบคือพลังกฏเทพประเภทหนึ่ง ในความเป็นจริง ไม่มีความแตกต่างพื้นฐานใดระหว่างกฏสวรรค์เต๋าดาบกับห่วงโซ่ลำดับเทพ”


“แน่นอน ความแตกต่างอยู๋กับความจริงที่ว่ากฏสวรรค์เต๋าดาบของคนนั้นเป็นเอกลักษณ์เพราะมันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนสองคนที่จะฝึกทักษะดาบเหมือนกันหมด ต่อให้เจ้ากลับไปตั้งแต่ต้นและย้ำผู้บ่มเพาะสองคนให้ฝึกทักษะดาบเหมือนกัน พรสวรรค์แต่กำเนิดและความเข้าใจของพวกเขาก็ไม่ตรงกัน ยิ่งไปกว่านั้น ความเข้าใจของพวกเขาที่มีต่อทักษะดาบแต่ละชนิดจะไม่มีวันเหมือนกันด้วย”


“มันเป็นปัจจัยเหล่านี้ที่สร้างกฏสวรรค์เต๋าดาบให้พิเศษและกำหนดความแข็งแกร่งของกฏสวรรค์เต๋าดาบ รวมถึงพลังของผนึกดาบที่ตามมา”


 


“ในระยะสั้น ถ้าเจ้าไม่อยากโดนจ้าวเทวะคนอื่นบดขยี้หลังกลายเป็นจ้าวเทวะ ก็จงทำรากฐานให้มั่นคง”หลังเขาอธิบายจบ เขาก็เพิ่มข้อสรุป


 


“ข้ามีคำถามอื่น”หลินฮวงอดถามไม่ได้”หลังระดับจ้าวเทวะ..ยังมีระดับที่สูงกว่านั้นจริงหรือ?”


 


หลังไตร่ตรองสักพัก เวอชุโอโซก็ตอบ”ให้ข้าพูดแบบนี้ การเป็นจ้าวเทวะนั้นคือก้าวแรกสู่การเป็นผู้มีอำนาจ.”


 


“แน่นอน สำหรับคนส่วนใหญ่ จ้าวเทวะคือจุดสนท้าย รวมถึงจุดสูงสุดในชีวิต แต่สำหรับบางคน ทางเดินนั้นยังอีกยาวไกล…”เมื่อเวอชุโอโซพูดประโยคสุดท้าย เขาก็จงใจมองหลินฮวง


 


“ข้าขอถามระดับพลังของร่างจริงเจ้าได้ไหม?”หลินฮวงถามอีกครั้ง


 


“นี่เป็นความลับ”เวอชุโอโซส่ายหัวและปฏิเสธที่จะให้คำตอบ”เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกเจ้า”


 


หลินฮวงยิ้มเขินอายและไม่ซักถามต่อ


 


หลังรับชิ้นส่วนผนึกดาบจากเวอชุโอโซและตกลงกันว่าจะเข้าหุบเหวตอนไหน หลินฮวงก็คุยกับอีกฝ่ายสักพัก โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นฝ่ายถาม เวอชุโอโซเป็นฝ่ายตอบ เพียงเมื่อเวอชุโอโซบอกว่าผลการปกปิดภาพจะคลายตัวในไม่ช้า หลินฮวงถึงหยุดถาม


 


หลังทั้งสองแลกเปลี่ยนหมายเลขติดต่อกัน เวอชุโอโซก็จากไปเงียบๆ


 


หลังเวอชุโอโซจากไป มังกรหินดำก็ได้สติ


 


หลินฮวงรีบเข้าสู่โหมดล่าใหม่อย่างรวดเร็ว


 


ด้านนอกแดนลับ ตอนจอภาพกลับเป็นปกติ กลุ่มเทพสวรรค์กลับเห็นแค่หลินฮวงกำลังสู้กับมังกรหินดำ


 


“เวอชุโอโซไปไหน?”


“ทั้งคู่สู้กันไม่ใช่เหรอ?!”


 


“ข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่…”


 


เหล่าเทพสวรรค์รีบเปิดกระดานทองเพื่อตรวจสอบ เห็นว่าชื่อของเวอชุโอโซยังอยู่ จากนั้นวกเขาก็ขับไล่ความคิดที่ว่า’เวอชุโอโซโดนซิวมู่ฆ่า’ออกไป


 


แม้ใต้สวรรค์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อเห็นว่าหลินฮวงยังอยู่ในสภาพเดิมและเวอชุโอโซก็ยังปกติดี เขาจึงถอนหายใจโล่งอก


 


หนึ่งคือสิ่งมีชีวิตกลับชาติเกิดใหม่(ใต้สวรรค์คิดว่าเวอชุโอโซคือผู้กลับชาติเกิดใหม่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นแค่ร่างโคลนของผู้กลับชาติมาเกิดใหม่) และอีกหนึ่งคืออัจฉริยะไร้เทียมทาน


 


ไม่ว่าใครเขาก็ไม่อยากเสียไปทั้งนั้น


 


ภายในแดนลับ หลินฮวงฆ่ามังกรหินดำอย่างรวดเร็ว หลังเก็บศพมันไป เขาก็รีบไปหาเป้าหมายต่อไป


 


แม้การพบกับเวอชุโอโซจะผ่านไปแค่สิบกว่านาที แต่ตอนนี้ หลินฮวงก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้ลึกซึ้งขึ้น


 


บางทีจ้าวเทวะอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังสุดในมหาพิภพนี้ แต่ก็มีมหาพิภพนับไม่ถ้วนในจักรวาล ส่วนใหญ่แข็งแกร่งกว่ามหาพิภพที่เขาอยู่


 


ในจักรวาล จ้าวเทวะก็แค่งั้นๆ ยังมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าจ้าวเทวะ


 


ในจักรวาล เหล่าผู้ปกครองเหล่านั้นอาจมีจ้าวเทวะนับร้อยหรือนับพันทำงานให้


 


เดิมเขาคิดว่าตัวเองทรงพลังแล้ว จนถึงขั้นฆ่าเทพสวรรค์ได้ แต่ทว่า หลังได้คุยกับเวอชุโอโว หลินฮวงก็รู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก!


 


เขาสะบัดไล่ความคิดดื้อด้านออกไป และยิ่งมุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้น


 


นี่เพราะยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาถึงมองเห็นโลกได้กว้างขึ้น!


 


ด้านนอกแดนลับ บุคคลหลายคนจากกลุ่มเทพสวรรค์พบการเปลี่ยนแปลงในตัวหลินฮวง


 


“เจ้าสังเกตเห็นไหมว่ารูปแบบการต่อสู้ของซิวมู่ดูเหมือนจะมั่นคงขึ้น?”


“ใช่ ข้าเองก็รู้สึกแบบนั้น ระหว่างการล่าก่อนหน้า เขาดูเหมือนจะบังคับให้อีกฝ่ายออกแรงเต็มที่ เพียงเมื่อคู่ต่อสู้ของเขาแสดงพลังเต็มที่ เขาถึงจัดการพวกมัน แต่ตอนนี้การต่อสู้กระชับและมีประสิทธิภาพขึ้น และมันดูเหมือนว่าเขาจะพยายามใช้มีดบินให้น้อยสุดเพื่อฆ่าศัตรู”


 


“ข้าเองก็สังเกตเห็นว่าเขาเลือกโจมตีจุดบอดทั้งหมดของศัตรูและจะทำทุกอย่างเพื่อสร้างความเสียหายสูงสุด!”


 


“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้น่าจะมีสาเหตุมาจากเวอชุโอโซ!”


 


ใต้สวรรค์เองก็สังเกตเห็นเช่นกัน ตอนแรก เขากังวลเล็กน้อย กังวลว่าเวอชุโอโวอาจทำอะไรบางอย่างกับหลินฮวง แต่ทว่า สุดท้ายเขาก็เริ่มรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงประเภทนี้ไม่ช่เรื่องแย่ มันอาจดีสำหรับหลินฮวงด้วยซ้ำไป


 


มีเพียงตัวหลินฮวงถึงรู้ว่าเหตุผลเบื้องหลังมันนั้นเป็นเพราะตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการแข็งแกร่งขึ้นนั้นไม่ได้มีแค่การยกระดับพลัง


 


การทุ่มเทหัวใจและวิญญาณกับทุกการต่อสู้ คว้าทุกรายละเอียดในการต่อสู้ เรียนรู้จากคู่ต่อสู้ นั่นคืออีกหนึ่งหนทางเพื่อแข็งแกร่งขึ้น


 


ตราบเท่าที่เขาฝึกหนักพอ ต่อให้คู่ต่อสู้จะอ่อนแอกว่าเขา เขาก็สามารถได้รับบางสิ่งบางอย่างจากการต่อสู้


 


เขายังรู้สึกว่าเขาเกิดความรู้สึกกระตือรือร้นเหมือนตอนครั้งแรกที่เขาเริ่มเดินบนเส้นทางผู้บ่มเพาะ


 


เวลาในแดนลับผ่านไปอีกสองวันอย่างรวดเร็ว


 


ผ่านการล่าแต่ละครั้ง หลินฮวงปล้นกฏจากโลกภายในตัวของเทพสวรรค์ได้ และในไม่ช้าก็เพิ่มจำนวนกฏจาก 4 แสน เป็น 8.1 แสน เลื่อนเป็นขั้นสี่ได้สำเร็จ


 


แต่ทว่า เขาไม่วางแผนเปลี่ยนเป้าหมายการล่าของเขา และยังหมายตาไปยังเทพสวรรค์ขั้นสาม


 


เหนือสิ่งอื่นใด ระดับพลังของเขาที่แสดงต่อโลกภายนอกคือเทพแท้จริงขั้นเก้า โดยปกติแล้ว การสามารถล่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้ถือเป็นการท้าทายสวรรค์แล้ว


 


แม้การล่าเทพสวรรค์ขั้นสี่จะช่วยให้เขาปล้นกฏได้มากกว่าเดิม แต่เพื่อเลี่ยงสายตา เขาจึงเลือกยอมแพ้กับความคิดนั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)