Monster Paradise 1482-1483
ตอนที่ 1482
เนื่องจากเหตุผลที่ไม่อาจทราบได้ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเปลี่ยนแผนการเดินทาง ทำการออกล่าต่อในชั้นกลาง
ชั้นกลางเป็นสถานที่ที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย เทพแท้จริงขั้น 9 มีอยู่ทั่ว
หลินฮวงต้องใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อล่ามอนสเตอร์ขั้นเก้าเพิ่ม
หลังฆ่าไปสี่ กงล้องชีวิตของเขาก็หยุด
“อิ่มแล้ว?!”หลินฮวงรู้สึกงุนงงขณะดำลงไปในกงล้อชีวิตของเขาเพื่อตรวจสอบ
ท่ามกลางกงล้อชีวิตทั้งสิบ มีห้าอันที่มีไฟเทวะสองดวงซ้อนกัน และอีกห้าที่มีแค่ไฟเดียว
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมห้ากงล้อเหล่านี้ถึงไม่ดูดซับเพิ่ม?”หลินฮวงดูสงสัยถึคงาวมแตกต่างระหว่างไฟเทวะในกงล้อชีวิตทั้งห้า หลังจากนั้น เขาก็พบว่าปัญหาอยู่ไหน
กงล้อชีวิตห้าอันที่บรรจุไฟเทวะขั้น9สองดวง คือไฟเทวะระดับสี่กับไฟเทวะระดับห้า ไฟเทวะระดับห้านั้นมาจากมอนสเตอร์ห้าตัว บุตรแห่งมารพุทธ สายพันธุ์ผิดปกติ ลิงเก้าหัว ปีศาจทารก และสิ่งมีชีวิตผสานแห่งน้ำพุหุบเหว(พวกมอนสเตอร์ชั้น 5 เทพสูงสุด)
กงล้อชีวิตที่เหลืออีกห้ามีไฟเทวะขั้น 9 แค่ดวงเดียวเพราะมันมีแค่ไฟเทวะระดับ 4 ไม่มีไฟเทวะระดับ 5 เลย
“งั้นไฟเทวะระดับ 4 ก็อิ่มตัวแล้ว และมันจะดูดซับแค่ไฟเทวะระดับ 5?!”
ด้วยการคาดการณ์นี้ในหัว หลินฮวงจึงรู้ทันทีว่าเขาควรล่าไปในทิศทางไหน
เขารีบใช้จิตเทวะเพื่อตรวจสอบและเริ่มจับตำแหน่งของกลิ่นอายที่แข็งแกร่งสุด
“เจอแล้ว!”ไม่นาน เขาก็พุ่งทะยานไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า เขาบินไปได้ไม่ไกลนักก่อนร่างนั้นดูเหมือนจะสังเกตเห็นการไล่ล่าของหลินฮวงและเริ่มหนีไป
“ดูเหมือนมันจะเห็นข้า…”มุมปากของหลินฮวงยกขึ้น เขาไล่ตามเหยื่อไปอย่างบ้าคลั่ง
ทั้งสองเล่นเกมแมวจับหนูกันอยู่ประมาณสิบนาทีก่อนหลินฮวงจะจับอีกฝ่ายได้
มันคือมอนสเตอร์ที่มีปีกสีดำหลายสิบคู่ สวมชุดขาวและหน้ากากเงิน ถ้าไม่สนใจปีกบนหลังมัน มันคงดูเหมือนมนุษย์
ก่อนหลินฮวงจะได้เคลื่อนไหว ปีกก็หยุดกระพือเอง มันโยนไม้เท้าในมือทิ้ง พูดกับหลินฮวง”ข้ายอมแพ้!อย่าฆ่าข้าเลย!”
“เจ้าก็ไม่ได้อ่อนแอ ทำไมถึงไม่อยากสู้?”หลินฮวงเลิกคิ้ว
เขาไม่โจมตีทันทีเพราะไม่เหมือนกับลิงเก้าหัวที่อ้อนมืออ้อนเท้าเอง อีกฝ่ายไม่ได้ยั่วยุเขาเลย และไม่มีเจตนาจะทำอะไรด้วย
“ข้าเห็นการต่อสู้ของท่าน ข้าไม่ใช่คู่มือท่าน”มันพูดอย่างตรงไปตรงมา”มันเปล่าประโยชน์ที่จะสู้กับท่าน”
มันเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้นที่หลินฮวงจับมันได้ ต้องรู้ว่าจนถึงวันนี้ ไม่เคยมีใครแข่งขันด้านความเร็วกับมันได้มาก่อนในพื้นที่ชั้นกลาง ถ้าความสามารถที่มันเก่งกาจสุดยังโดนข่มด้วยหลินฮวง มันก็เป็นตัวบ่งชี้ว่าความสามารถของมันกับหลินฮวงห่างกันแค่ไหน
“งั้นก็ขอเหตุผลที่ข้าไม่ควรฆ่าเจ้า”หลินฮวงยิ้ม
“ข้าคือปีกเงา ข้าคุ้นเคยกับชั้นกลางดีและสามารถนำทางให้ท่านได้”ปีกเงาโค้งตัวให้หลินฮวงและเริ่มแนะนำตัวเอง
“เจ้าไม่รู้สึกแย่ที่ทรยศต่อพวกตัวเองหรือ?”หลินฮวงหัวเราะเยาะกับพฤติกรรมแบบนี้
“ท่านไม่ต้องกังวล”ปีกเงาไม่รู้สึกรำคาญ มันแค่ยิ้ม”หุบเหวมีสิ่งมีชีวิตนับร้อยล้านประเภท เหมือนกับโลกมนุษย์ที่มีนก สัตว์สี่เท้าและแมลง หุบเหวก็เหมือนกัน ยกเว้นญาติของข้า มีเผ่าพันธมิตรน้อยมาก เผ่าอื่นไม่เหมือนกับเรา และบางเผ่ายังเป็นศัตรูกับข้า ดังนั้น มันจึงไม่ใช่การทรยศ
หลินฮวงไม่ปฏิเสธคำพูดมัน แม้เขาจะไม่เคยไปหุบเหว เขาก็รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตหุบเหวหลายประเภท และการแข่งขันย่อมรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ว่าไม่มีความสนิทสนมอะไรระหว่างเผ่าต่างๆ
นอกจากนั้น ปีกเงายังไม่มองว่าเผ่าอื่นในหุบเหวถือเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับตัวมัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
หลังครุ่นคิดสักพัก หลินฮวงก็พูดคำขอของเขา”ข้าไม่ต้องการคนนำทาง ข้าต้องการแค่เหยื่อ”
“ตราบเท่าที่เจ้าช่วยข้าหาเหยื่อห้าตัวที่แข็งแกร่งเท่าเจ้าได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไป!’ตามแผนที่จากศาลาสมบัติ ชั้นกลางนั้นกว้างใหญ่เท่ากับโลกสี่ดวงมารวมกัน ด้วยจิตเทวะที่โดนยับยั้ง หลินฮวงจึงต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อหาเป้าหมายทั้งห้า
ถ้าปีกเงาสามารถช่วยเขาหาเป้าหมายได้เร็ว เขาก็ไม่ว่าอะไรที่จะปล่อยมันไป
หลังเงาปีกได้ยินคำขอของหลินฮวง ดวงตาด้านหลังหน้ากากเงินของมันก็กะพริบสองครั้ง”ง่ายขนาดนั้นเชียว?”
“เจ้าอาจไม่อยากพูดแบบนั้นเร็วเกินไป”แม้เงาปีกจะตอบรับ หลินฮวงก็ไม่เชื่อว่ามันจะพึ่งพาได้ขนาดนั้น
“ข้าอยุ่ในสนามรบโบราณมังกรหุบเหวมากว่าสิบปีแล้ว มันยังผ่านมากว่าสามปีตั้งแต่ข้าเข้าชั้นกลาง ข้าไม่กล้าพูดมาก แต่ข้ากล้าบอกว่ามีคนไม่มากที่รู้ดีไปกว่าข้า”
“ท่านอยากล่าสิ่งมีชีวิตชั้น 5 อืม ข้าดันรู้กลุ่มนักล่าที่ประกอบไปด้วยสมาชิกชั้น 5 แต่ทว่า ถ้าท่านมัดรวมทั้งหมด ก็คงมีมากกว่า 5 “เงาปีกหัวเราะ
“ที่อยู่ของพวกนักล่าไม่ตายตัว รู้ว่าสมาชิกมีใครบ้างแล้วยังไง?หรือมันเป็นไปได้ว่าเจ้ายังตรวจสอบตำแหน่งพวกเขาได้?”หลินฮวงถาม
“ตอนนี้ นี่เป็นสิ่งที่ท่านไม่รู้ ในชั้นกลางนี้ มีสถานที่ที่เรียกว่าแกนกลาง มันคือที่ที่พลังงานหุบเหวหนาแน่นสุด แม้กระทั่งยอดฝีมือรดับเทพแท้จริงขั้นสูงสุดก็ไม่กล้าเข้าใกล้มัน แกนกลางคือสานที่ที่ผลิตสิ่งมีชีวิตหุบเหวออกมาเรื่อยๆ กลุ่มที่แข็งแกร่งสุดในชั้นกลางจะกระจายตัวรอบแกนกลาง ยึดครองกันคนละอาณาเขต พวกเขมักอยู่ในเขตล่าตน ดังนั้น มันจึงไม่ยากต่อการหาเลย”
หลินฮวงฟังคำอธิบายของปีกเงาและจำได้ว่าแผนที่ที่เขาได้รับจากศาลาสมบัติมีพื้นที่สีแดงขนาดใหญ่ไร้ข้อความอธิบาย เขาเดาว่านี่น่าจะเป็นแกนกลางที่ปีกเงาพูดถึง
เขาอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้”แกนกลางสามารถสร้างมอนสเตอร์หุบเหวที่ทรงพลังได้จริงๆงั้นเหรอ?!”
“ใช่”ปีกเงาพยักหน้า”ไม่มีใครรู้หลักการเฉพาะของมัน บ้างก็บอกว่ามันมีอุโมงค์มิติที่อยู่ลึกลงไปในแกนกลางซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนลึกสุดของหุบเหว บ้างก็บอกว่าแกนกลางเชื่อมต่อกับอาณาจักรหุบเหว บ้างก็บอกว่าแดนกลางคือห้องทดลองสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในหุบเหว…”
“ในความเป็นจริง นอกจากการปล่อยสิ่งมีชีวิตหุบเหวออกมา การโยนสิ่งมีชีวิตหุบเหวทั้งเป็นหรือตายเข้าไปในส่วนลึกของแกนกลางยังส่งให้พลังงานหุบเหวแทรกซึมพวกมัน สร้างเป็นสายพันธุ์ผิดปกติ อันเดธหรือวิญญาณ…”
“สายพันธุ์ผิดปกติผู้บ่มเพาะดาบที่ท่านฆ่ากลายเป็นอย่างนั้นเพราะมันถูกบังคับให้เข้าไปส่วนลึกของแกนกลางโดยกลุ่มนักล่า.”มันดูเหมือนปีกเงาจะให้ความสนใจกับการต่อสู้ของหลินฮวงมาก
หลินฮวงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เมื่อปีกเงาสังเกตเห็นสีหน้าของหลินฮวง มันก็รีบเปลี่ยนเรื่อง”เนื่องจากพลังงานหุบเหวในแกนกลางหนาแน่นเกิน เทพแท้จริงจึงไม่มีทางเข้าไปใกล้ได้ สำหรับความลับที่แกนกลางปิดซ่อนไว้ ไม่มีใครรู้ยกเว้นจ้าวเทวะที่สร้างกำแพงกั้น”
“ข้าเข้าใจ”หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยและไม่พูดเรื่องเล็กน้อยนี้ต่อ”พาข้าไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”
ตอนที่ 1483
พื้นที่ล่าของชั้นกลางคือวงแหวนรอบแกนกลาง
ทั้งวงแหวนรอบแกนกลางถูกยึดครองโดยกลุ่มนักล่าที่แข็งแกร่งสุด
แกนกลางจะสร้างสิ่งมีชีวิตต่างๆออกมาทุกวัน บางครั้งก็เป็นสิ่งมีชีวิตหุบเหว สายพันธุ์ผิดปกติ บางทีก็ประเภทวิญญาณร้ายหรือปีศาจ..บางครั้ง มันยังปล่อยอาวุธมารที่มีความสามารถแปลกๆออกมา
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแกนกลางที่ผลิตอาวุธมาร ปีกเงาจงใจเก็บมันไว้เป็นความลับจากหลินฮวง
อาวุธมารเหล่านี้คืออาวุธประเภทเติบโตเหมือนกับอาวุธเซียน สำหรับสิ่งมีชีวิตหุบเหว คุณค่าของพวกมันไม่ต่ำไปกว่าสมบัติระดับจ้าวเทวะ
ยอดฝีมือเหล่านี้อยู่ที่นี่ในแกนกลางเป็นระยะเวลายาวนานก็เพื่อแย่งชิงอาวุธเซียน การล่าเป็นแค่เรื่องรอง
หลินฮวงติดตามปีกเงา เคลื่อนที่เข้าหาพื้นที่ล่าด้วยความเร็วสูง
“เป้าหมายแรกที่ข้าเลือกให้ท่านคือกลุ่มสามคน สมาชิกทั้งสามเป็นชั้นห้ากันหมด และสองคนก็แกร่งพอๆกับข้า คนหนึ่งแกร่งกว่าข้าและใช้พลังกฏเทพระดับควบคุมได้ 30 ประเภท..”หลังปีกเงาช่วยหลินฮวงเลอืกเป้าหมาย มันยังเผยข้อมูลออกมา
ไม่เพียงปีกเงาจะเผยระดับพลังทั่วไป แต่ยังให้คำอธิบายถึงความเชี่ยวชาญและจุดอ่อน
“พวกมันทั้งสามมีความแค้นอะไรกับเจ้าหรือเปล่า?”หลินฮวงจ้องปีกเงาหลังได้ยิน
“มันไม่ใช่ความแค้น แค่ความขัดแย้งเล็กน้อยระหว่างเรา”ปีกเงายิ้มและพูด ต่อหน้าหลินฮวง มันไม่กล้าโกหกอย่าเงปิดเผย มันตัดสินใจพูดตามตรง โดยเฉพาะเรื่องที่ชัดเจน เหนือสิ่งอื่นใด ชีวิตมันยังอยู่ในมือหลินฮวง
เมื่อมันเห็นหลินฮวงกำลังมองมัน และยิ้ม ในที่สุดปีกเงาก็เผยความอับอายเล็กน้อย”พวกมันขโมยเหยื่อข้าและพยายามไล่ฆ่าข้า”
เมื่อพวกเขาใกล้ถึงจุดหมาย หลินฮวงก็ละสายตาจากปีกเงา มองไปทางเป้าหมายทั้งสาม มอนสเตอร์ทั้งสามได้เข้าสู่ระยะสัมผัสของจิตเทวะเขาแล้ว
ตามความหนาแน่นของกลิ่นอาย พวกมันคือชั้น 5 จริงๆ
แต่ทว่า หลินฮวงสามารถรู้สึกได้ชัดว่ากลิ่นอายของมอนสเตอร์ทั้งสามแกร่งกว่าปีกเงา สองตัวแกร่งกว่าเล็กน้อยและอีกตัวทรงพลังกว่ามาก ในแง่ของความหนาแน่นกลิ่นอาย พวกมันเหนือกว่ากลุ่มของปีศาจทารกซะอีก
ปีกเงาพูดอวดพลังตัวเองเกินจริงไปตอนบอกพลังของมอนสเตอร์ทั้งสาม
เพียงเมื่อจิตเทวะของหลินฮวงสัมผัสได้ถึงมอนสเตอร์ทั้งสาม พวกมันเองก็ตรวจจับได้ถึงจิตเทวะของหลินฮวงเช่นกัน
“ดูเหมือนเหยื่อจะเดินมาหาเราถึงที่!”สิ่งมีชีวิตตัวโตที่ร่างกายคล้ายหนูพูดขึ้น แต่หัวมันเป็นของมนุษย์ ใบหน้ามันหยาบกร้าน หัวล้าน เต็มไปด้วยหนวดเครา ส่วนเดียวที่มันไม่เหมือนมนุษย์คือดวงตาที่เปล่งแสงสีแดง
“มันดูเหมือนปีกเงานั่นจะอยู่กับเขาด้วย”ตัวที่พูดคือมอนสเตอร์หัวปลา มันดูเหมือนอึ่งอ่างยักษ์ที่ยืนสองขา ลูกตาโตทั้งสองมันปูดโปนออกมาและมันก็มีอวัยวะที่คล้ายกับเหงือกปลาบนคอสองข้าง
“ครั้งนี้อย่าปล่อยมันให้หลุดมือละ!”
ท่ามกลางทั้งสาม มอนสเตอร์ที่มีกลิ่นอายสุดคือมอนสเตอร์ปีกค้างคาว
มันดูเหมือนปีศาจ มีทั้งปีกและเขา แต่นอกจากเขาแกะคู่บนหัวแล้ว มันไม่มีอวัยวะอื่นบนหน้าเลย เหมือนมนุษย์ไร้หน้า กระดูกสันหลังของมันยาวจนถึงหางที่เป็นเหมือนหางแมงป่องพิษ
มอนสเตอร์ทั้งสามลงมือทันทีโดยไม่รอให้หลินฮวงกับปีกเงาเข้าใกล้
จิตเทวะของหลินฮวงสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมัน เดิม เขากังวลเล็กน้อยว่าพวกมันจะหนี แต่ท่ว่า วินาทีต่อมา เขาก็เห็นมอนสเตอร์ทั้งสามพุ่งเข้าหาตัวเขากับปีกเงา
มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก่อนทั้งสองฝ่ายจะเผชิญหน้ากัน
มอนสเตอร์ปีกค้างคาวนำกลุ่ม ทั้งสามล้อมหลินฮวงกับปีกเงาไว้เป็นรูปสามเหลี่ยม
“จิ๊ จิ๊ จิ๊..งั้นเจ้าก็กำลังร่วมมือกับมนุษย์นี่เอง ปีกเงา เจ้าตกต่ำถึงขนาดนี้เชียว?”มอนสเตอร์หัวปลาเห็นทั้งสองและเยาะเย้ยปีกเงิน
เมื่อปีกเงินเห็นมอนสเตอร์ทั้งสาม เขาก็ดูกังวลเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อเขาเหลือบมองหลินฮวงข้างเขา เขาก็ได้รับความกล้าหาญคืนมาทันที”บอกว่าข้าต่ำต้อย?แล้วการที่เจ้าร่วมมือกับเจ้าค้างคาวบัดซบนั่นละ?!”
หลินฮวงรู้ว่าเผ่ามอนสเตอร์ทั้งสองต้องไม่ลงรอยกัน
มอนสเตอร์ค้างคาวเป็นของเผ่าปีศาจรัตติกาลในหุบเหว ส่วนมอนสเตอร์หัวปลาเป็นเผ่าน้ำ เผ่าน้ำคืหนึ่งในอาหารหลักของปีศาจรัตติกาล ซึ่งทำให้เผ่าน้ำเป็นศัตรูกับปีศาจรัตติกาล ทั้งสองเผ่าถือได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต
มอนสเตอร์หัวปลากับมอนสเตอร์ปีกค้างคาวด้านหน้าพวกเขาที่ร่วมมือกันนั้นเป็นการกระทำที่ต่ำช้ายิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตหุบเหวร่วมมือกับมนุษย์ซะอีก
“ปีกเงา เจ้าอยากตายหรือยังไง?!”มอนสเตอร์หัวปลาไม่คิดว่าปีกเงาจะพูดสวนกลับ และความอัปยศก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ
เพียงเมื่อมอนสเตอร์หัวปลากำลังจะเริ่มโต้เถียงกับปีกเงา มอนสเตอร์ปีกค้างคาวก็ลอบสังเกตหลินฮวง
แต่ทว่า หลังสังเกต มันก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
ภายใต้การอำพรางของพันหน้า หลินฮวงถือเป็นเทพแท้จริงขั้น 9 ทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ
การอำพรางของพันหน้าดีพอจะหลอกเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด มอนสเตอร์ปีกค้างคาวที่เป็นแค่เทพแท้จริงจึงไม่สามารถมองทะลุได้
แต่ทว่า นี่ก็ยังทำให้งงงวยเล็กน้อยเพราะปีกเงารู้ถึงความสามารถพวกมัน มันเป็นเรื่องไร้เหตุผลสำหรับปีกเงาที่จะนำคนอ่อนแอกว่าตัวเองมา
หลินฮวงเองก็สังเกตมอนสเตอร์ทั้งสามด้านหน้าเช่นกัน
ปีศาจรัตติกาล เผ่าน้ำ และมนุษย์หน้าหนู มอนสเตอร์หุบเหวทั้งสามมีในสารานุกรมมอนสเตอร์ ตามบันทึกในสารานุกรม มอนสเตอร์ทั้งสามเหล่านี้ถือเป็นเผ่าใหญ่และเป็นเผ่าระดับต่ำสุดในหุบเหว แต่ทว่า มอนสเตอร์ทั้งสามด้านหน้าเขาดูเหมือนจะมีตำแหน่งสูงภายในเผ่าและความสามารถก็เป็นเทพแท้จริงขั้นสูงสุด
ท่ามกลางทั้งสาม กลิ่นอายของปีศาจรัตติกาลแกร่งสุด มันไม่พยายามปิดบังเลย
ริมฝีปากของหลินฮวงขยับขึ้นเพราะหลังเห็นทั้งสาม เขาก็มั่นใจแล้วว่าพวกมันคือเป้าหมายที่เขาอยากล่า
โดยไม่รอให้มอนสเตอร์หัวปลากับปีกเงาโต้เถียงกันจนจบ ดาบในมือหลินฮวงก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือดสามสาย เฉือนใส่ทั้งสาม
สายฟ้าสีแดงเลือดกวาดผ่านความว่างเปล่าในชั่วพริบตา ปรากฏด้านหน้ามอนสเตอร์ทั้งสามโดยตรง
ก่อนมอนสเตอร์หัวปลาจะได้ตอบสนอง ร่างกายของมันก็โดนตรึงไว้
มนุษย์หน้าหนูสังเกตเห็นการโจมตีของหลินฮวง แต่มันทำได้แค่มองคลื่นดาบแหวกผ่านอากาศ มันไม่มีเวลาหลบหนี
มีเพียงปีศาจรัตติกาลถึงหลบได้ทันตอนเห็นแสงของคลื่นดาบ แต่มันก็ยังช้าไป มันสามารถหลบการโจมตีที่อาจทำให้หัวมันขาดได้ แต่ก็แลกมาด้วยปีกซ้ายของมัน
“เร็วมาก!”ปีศาจรัตติกาลเพิ่งรอดตายมาอย่างฉิวเฉียด ทั่วตัวมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นจากความตกใจ
มันสันนิษฐานไว้แล้วว่ามนุษย์ที่ปีกเงานำมาด้วยต้องไม่อ่อนแอ แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้
เมื่อหลินฮวงเห็นปีศาจรัตติกาลหลบการโจมตีของเขาได้ เขาก็เลิกคิ้วแต่ไม่พูดอะไร เขากลับโจมตีต่อเป็นครั้งที่สอง
ปีศาจรัตติกาลยังไม่ฟื้นจากความตกใจแต่ก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่มากกว่าแล้ว มันเงยหน้าขึ้นมอง เห็นสายฟ้าสีแดงเลือดอีกสายปรากฏตรงหน้ามัน
“ข้ากำลังจะตาย…”ก่อนมันจะคิดจบ หัวมันก็ระเบิด
“ถ้าฟันครั้งหนึ่งไม่ตาย ก็แค่ฟันอีกครั้ง…”หลินฮวงพึมพำขณะเก็บดาบ
ข้างเขา ปีกเงาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ ผ่านไปสักพัก มันก็ยังไม่ฟื้นจากความตกใจ
มันรู้ว่าหลินฮวงทรงพลังมาก แต่แม้จะเห็นเหตุการณ์ด้วยตาของมันเอง มันก็ยังยากจะเชื่อว่าหลินฮวงสามารถฆ่ากลุ่มของปีศาจรัตติกาลได้ง่ายเหมือนกระดิกนิ้ว
“ไปกันเถอะ!”
หลังหลินฮวงเก็บของและตะโกนบอกปีกเงา มันถึงได้สติกลับและมองหลินฮวงด้วยแววตาขลาดกลัว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น