Monster Paradise 1463-1465
ตอนที่ 1463
ด้านบนมหาสมุทรสันติ จิตเทวะของหลินฮวงกระจายไปอย่างรวดเร็ว ใช้พลังของเจตจำนงโลก ตรวจทั้งมหาสมุทร
จิตเทวะของเขากระจายไปเหมือนระลอกบนผิวน้ำ ค้นหาความผิดปกติทีละนิ้ว
ไม่เหมือนเทพเสมือนของโลกนี้ แม้ระดับพลังเขาจะเป็นแค่เทพเสมือนขั้น 6 พลังของจิตเทวะเขาก็เทียบได้กับเทพแท้จริงขั้น 9
ด้วยการเสริมพลังจากเจตจำนงโลก แม้แต่ความผิดปกติในระดับโมเลกุลเขาก็สามารถตรวจพบได้ง่ายๆ
ด้วยการสแกนระดับนี้ ไม่มีอะไรจะเล็ดลอดสายตาเขาไปได้
มอนสเตอร์ระดับเทพเสมือนทั้งหมดต่างหลบซ่อนเมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตเทวะอันทรงพลังนี้ พวกมันอยากหดตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนใหญ่เริ่มสั่นสะท้านเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นเหยื่อของหลินฮวง
หลังผ่านไปไม่กี่วินาที หลินฮวงผู้ลอยเหนือมหาสมุทรสันติก็พลันเลิกคิ้วขึ้น
วินาทีต่อมา เงาร่างเขาก็หายไปจากที่ที่อยู่ เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็มาถึงร่องลึกใต้สมุทรแล้ว
หลินฮวงพูดขณะจ้องแนวปะการังใกล้ๆ
“ออกมา ไม่ต้องซ่อนตัวอีกแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าจะหลบซ่อนสายตาข้าได้ด้วยการใช้กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหรือ?”
เงาดำเคลื่อนผ่านแนวปะการังช้าๆ และออกมารวมกันเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์
มันไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นมอนสเตอร์
มันมีดวงตาแดงหนึ่งดวงภายใต้ปีกหมวกไม้ไผ่ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งตัวมันปกคลุมด้วยชุดคลุมสีดำตัวยาว
“เจ้าไม่ใช่คนของมหาสมุทรสันติสินะ?” หลินฮวงถามพลางสังเกตอีกฝ่าย เขาค้นพบว่ากลิ่นอายของอีกฝ่ายดูคุ้นเคยแปลกๆ
“ความคุ้นเคยแปลกๆ นี่มาจากไหน?” หลินฮวงสับสน
“มันเป็นเจ้า!” อีกด้าน มอนสเตอร์ตาเดียวระเบิดจิตสังหารออกมาอย่างบ้าคลั่งหลังเห็นหลินฮวง
ก่อนหลินฮวงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อีกฝ่ายก็พุ่งมาหาเขาแล้ว จากด้านใต้ชุดดำ ดาบโผล่ออกมา ฟันลงใส่เขาด้วยแสงระยิบระยับเหมือนม่านสีดำ
หลินฮวงชี้นิ้ว และเต๋าดาบเขาก็เปลี่ยนเป็นคลื่นดาบสีแดงเลือด คลื่นดาบของมอนสเตอร์ตาเดียวถูกทำลายทันที เหมือนกับเศษผ้า
เมื่อเห็นว่าคลื่นดาบมันสลายหายไปทันที มอนสเตอร์ตาเดียวก็รีบถอย
แต่ทว่า จิตสังหารที่แผ่ออกจากตัวมันไม่ลดเลย เห็นได้ชัดว่ามันไม่คิดยอมแพ้
แม้หลินฮวงจะสับสน เขาก็ไม่คิดแลกเปลี่ยนคำพูดไร้สาระกับศัตรู ไม่ว่าอีกฝ่ายะจเป็นคนร้ายที่ทำให้คนของรัฐบาลกลางหายตัวหรือไม่ เขาก็ต้องกระทืบมันก่อนค่อยคุย!
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ตรงหน้าเขาถือเป็นเทพเสมือนขั้นสูงสุดแล้ว แถมยังใช้แก่นแท้เต๋าดาบได้รวมถึงการตรัสรู้ธาตุน้ำสองประเภท มันมีความสามารถพอจะโค่นกองทัพของรัฐบาลกลางจริงๆ
เมื่อหลินฮวงสแกนพื้นที่ด้วยจิตเทวะ มอนสเตอร์ตาเดียวตัวนี้มีพลังสูงสุดในมหาสมุทรสันติ นั่นทำให้เขาสามารถหามันเจอได้ทันที
หลังโจมตีสวน มอนสเตอร์ตาเดียวก็รีบถอย หลังหลบคลื่นดาบของหลินฮวงไปได้แบบฉิวเฉียด มันก็พบที่ให้ยืนบนปะการังใกล้ๆ ชุดคลุมดำมันพองตัวเหมือนแมงกะพรุน จากนั้นก็ค่อยๆ หดลง
มันหยุดบนปะการังสักพัก วินาทีต่อมา มันก็ระเบิดพลังงานจากขามัน ร่างของมันเปลี่ยนเป็นสายฟ้า
แทบจะในเวลาเดียวกัน มันก็แยกออกเป็นหลายสิบร่าง ล้อมหลินฮวงไว้จากทุกทิศทาง
หลินฮวงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น
มอนสเตอร์ตาเดียวถือดาบดำกว่าสามสิบร่างโอบล้อมหลินฮวงทันที
หลินฮวงกลับยื่นนิ่ง ไม่ขยับแม้แต่กล้ามเนื้อ
เขาไม่ได้ว้าวุ่นใจเลยตอนมอนสเตอร์ตาเดียวทั้งหมดสะบัดดาบ และคลื่นดาบสีดำมันก็ถาโถมใส่เขาด้วยพลังอันท่วมท้น เพียงเมื่อหลินฮวงกำลังจะถูกกลืนกินด้วยคลื่นสีดำ เขาก็พลันยกมือขึ้นอีกครั้ง
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมากจนดูเหมือนช้า ถึงขั้นสร้างภาพติดตาภายในทะเลลึก แต่วินาทีต่อมา แค่เขายกมือขึ้นและชี้นิ้ว รังสีสีแดงเลือดก็ยิงออกไปด้วยความเร็วสูง มันเจาะผ่านคลื่นดาบและกลืนเงาที่อยู่ห่างไป
คลื่นดาบดำทั้งหลายแตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยทันที
“ภาพลวงตาที่เจ้าสร้างโดยใช้การตรัสรู้ธาตุน้ำระดับหนึ่งอาจหลอกคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่กับข้า” หลินฮวงยิ้มหยันให้เงาดำ
ภายในเงาดำ เลือดไหลทะลักออกจากด้านหน้าของมอนสเตอร์ตาเดียว
การโจมตีของมันถูกหลินฮวงมองออกง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงยังใช้แค่การโจมตีสบายๆ แต่มอนสเตอร์ตัวนี้กลับไม่สามารถหลบได้
แม้จะใช้การโจมตีสบายๆ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของมอนสเตอร์ตัวนี้ก็ลดลงเหลือไม่ถึง 70%
ความโกรธในดวงตาของมอนสเตอร์ตาเดียวสลายหายไป ถูกแทนด้วยความเกลียด ความกลัว
ตอนนี้ความคิดของมันไม่ถูกควบคุมโดยความโกรธอีกและมันก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
ในความเป็นจริง ตั้งแต่หลินฮวงปล่อยจิตเทวะก่อนหน้านี้ มันก็รู้แล้วว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกมัน แต่ทว่า มันก็ยังเลือกทดสอบหลินฮวงและผลของการพยายามสองครั้งก้ยิ่งทำให้มันรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น อีกฝ่ายทรงพลังกว่าที่มันคิด
เดิมที มันมีความคิดว่าพลังของมันสูงมากพอ แต่ทว่า หลังความพยายาม มันก็ตระหนักว่ามันคิดผิด เต๋าดาบและพลังกฏเทพของหลินฮวงนั้นเหนือกว่ามัน
ความคิดทุกประเภทแวบผ่านหัวใจของมัน จากนั้นมันก็บินหนีไปโดยไม่ลังเล ร่างของมันเปลี่ยนเป็นเงาดำ จากนั้นก็หลบหนีไปในทิศตรงข้ามกับหลินฮวง
แต่ทว่า ทันทีที่มันขยับ เสียงคุ้นหูก็ดังจากด้านหลังมัน
“เห้ย ข้าจำไม่ได้ว่าข้าบอกให้เจ้าไปได้?”
ทันทีที่สิ้นเสียง หัวใจของมอนสเตอร์ตาเดียวก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพียงเมื่อมันกำลังเตรียมเพิกเฉยต่อเสียงและเร่งความเร็ว มันก็พลันรู้สึกเย็นที่คอ มันหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดทันทีและยืนนิ่งเหมือนหิน ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย มันรู้ว่าถ้ามันขยับ หัวของมันคงหลุดออกจากคอ
หลังบังคับตัวเองให้สงบลงแล้ว มอนสเตอร์ก็ตระหนักว่าไม่เพียงแต่คอมัน แขนขามันยังถูกรัดด้วยด้ายที่มองไม่เห็น มันไม่รู้ว่าตอนไหน แต่มันไม่สามารถขยับตัวได้เลยเหมือนหุ่นเชิด
ในที่สุดมนุษย์ชายแสนทรงพลังก็ก้าวเดินมาช้าๆ จากด้านหลังมอนสเตอร์ หยุดตรงหน้ามัน
เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคย มอนสเตอร์ตาเดียวก็ไม่สามารถหยุดยั้งจิตสังหารมันได้ แม้นี่จะถูกระงับด้วยเหตุผลทันที ชายตรงหน้ามันก็ยังจับจิตสังหารนั้นได้
ตอนที่ 1464
“เจ้าแสดงจิตสังหารต่อข้าอย่างชัดเจน ทำไมละ?” หลินฮวงพิจินพิจารณาอีกฝ่ายด้วยความอยากรู้” ไม่ใช่แค่นั้น กลิ่นอายเจ้ายังคุ้นๆ …”
หลินฮวงรีบค้นผ่านความทรงจำเขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็นึกถึงมอนสเตอร์ที่คล้ายกันได้ในความทรงจำจากสี่ปีก่อน
“ตาเดียว สวมหมวกไม้ไผ่ทรงกรวย ใช้ดาบ..” ภาพของมอนสเตอร์ในหัวเขาค่อยๆ ซ้อนทับกับมอนสเตอร์ตาเดียวตรงหน้า
“ข้าพอจำได้แล้ว” หลินฮวงพูดช้าๆ จ้องมอนสเตอร์ตาเดียวตรงหน้า” เจ้าคือมอนสเตอร์ไฟชีวิตตัวแรกตอนข้าเลื่อนเป็นผู้หลุดพ้น จอมสังหารดาบราชันย์ที่ข้าฆ่าไปสี่ปีก่อน!”
เหตุผลที่หลินฮวงจำมันไม่ได้แต่แรกเพราะเขาฆ่ามันไปนานแล้ว และเขาก็ไม่เคยสนใจมอนสเตอร์ที่เขาฆ่า ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายและโครงสร้างของอีกฝ่ายผ่านการเปลี่ยนแปลงไปมาก เขาจึงจำไม่ได้ทันที
แต่ตอนนี้ ความทรงจำเขาค่อยๆ ชัดเจน
หลินฮวงเปรียบเทียบกลิ่นอายของมันจากความทรงจำของเขากับกลิ่นอายของมอนสเตอร์ตาเดียวตรงหน้า แม้กลิ่นอายมันจะเปลี่ยนไปมาก เขาก็ยังสามารถค้นหาความคล้ายคลึงได้อย่างรวดเร็ว เขาเริ่มมั่นใจถึงตัวตนของอีกฝ่าย
ไม่ใช่แค่มอนสเตอร์ตรงหน้าจะกลายเป็นมอนสเตอร์ไฟชีวิตตัวแรกจากตอนเขาเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์ เขายังได้รับการ์ดมอนสเตอร์ของมันมาด้วย
แต่ทว่า หลินฮวงกลับจ้องมอนสเตอร์ตาเดียวตรงหน้าเขาด้วยความประหลาดใจที่เพิ่มขึ้น
“ข้าสับสน ข้ามั่นใจว่าข้าฆ่าเจ้าไปแล้ว เจ้ารอดมาได้ยังไง?”
หลินฮวงมั่นใจว่าเขาฆ่ามันสำเร็จเพราะเสี่ยวเฮยได้ส่งการแจ้งเตือนมาแล้ว แถมเขายังได้รับการ์ดมอนสเตอร์ของมันมาอีกด้วย
ต่อให้อีกฝ่ายจะครอบครองความสามารถประเภทคืนชีพ ตราบเท่าที่เขาฆ่าไม่สำเร็จ เสี่ยวเฮยก็จะไม่มีทางส่งการแจ้งเตือน
อย่างไรก็ตาม ความจริงคือเขาได้รับการ์ดมอนสเตอร์จอมสังหารดาบราชันย์ ซึ่งใช้เพื่อพิสูจน์ว่าเขาฆ่าอีกฝ่ายไปแล้วจริงๆ
เมื่อความขัดแย้งนี้วนเวียนในหัวหลินฮวง เขาก็พลันคิดถึงความเป็นไปได้อื่น
บางทีมันอาจตายไปแล้วจริงๆ แต่หลังเสี่ยวเฮยยืนยันการตาย บางสิ่งอาจชุบชีวิตมันขึ้นมาใหม่
ตอนนี้ หลินฮวงมองมอนสเตอร์ตาเดียวตรงหน้าเขาด้วยตาเป็นประกาย เขาอยากรู้มากว่าอีกฝ่ายคืนชีพมาได้ยังไง
มอนสเตอร์ตาเดียวเองก็สังเกตเห็นสายตาที่เปลี่ยนแปลงของหลินฮวง เดิมที มันดูสับสน แต่ตอนนี้ หลินฮวงกลับมองมันราวกับเขาค้นพบสิ่งที่น่าสนใจ กระตือรือร้นที่จะชำแหละมันและค้นหาความลับของมัน
มอนสเตอร์ตาเดียวกลืนน้ำลาย มันไม่ชอบสายตาของหลินฮวงเลย ดวงตาอยากรู้ทำให้มันรู้สึกเหมือนชิ้นเนื้อบนเขียง ซึ่งทำให้มันตัวสั่น มันพยายามดิ้นรน แต่แขนขากับคอยังถูกรัดไว้แน่น
มันเห็นมุมปากของหลินฮวงค่อยๆ ยกขึ้น เปล่งคำพูดออกมา” เงยหน้าขึ้น มองตาข้า”
ราวกับมันไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ มอนสเตอร์ตาเดียวเงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในตาของหลินฮวง
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มดูลึกและไม่สามารถหยั่งรู้ได้
วินาทีต่อมา ดวงตาสีแดงเข้มขนาดใหญ่ของมอนสเตอร์ตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว ราวกับมันถูกแช่แข็ง
กฏเทพระดับควบคุม ‘อ่านสมอง’
แถบความคืบหน้าของการอ่านสมองเพิ่มขึ้นช้าๆ และหลินฮวงก็รออย่างอดทน
ประมาณหนึ่งนาที ความทรงจำของมอนสเตอร์ตาเดียวก็ถูกอ่านอย่างสมบูรณ์
หลินฮวงตรวจผ่านความทรงจำที่เพิ่งได้รับใหม่นี้ ค้นหาความลับที่เขาอยากรู้ ว่าอีกฝ่ายคืนชีพมาได้อย่างไร
ก่อนพบคำตอบของคำถามนี้ หลินฮวงสามารถเห็นกระบวนการล่ามอนสเตอร์ล่าคนของรัฐบาลกลางได้
มันสร้างภาพลวงตาด้วยการตรัสรู้ธาตุน้ำและทำให้สมาชิกทุกคนสับสน จากนั้นก็ไล่ตามหลังพวกเขาเหมือนเล่นเกมแมวจับหนู ฆ่าพวกเขาทีละคน
แม้กระทั่งการรายงานสั้นๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขาก็เป็นผลมาจากการถูกหลอกโดยภาพลวงตาของมอนสเตอร์ตาเดียว ซึ่งทำให้พวกเขาตัดสัญญาณสื่อสารของแหวนหัวใจจักรพรรดิทันทีที่ส่งข้อความ
จุดประสงค์หลักของมันนั้นเรียบง่าย มันอยากสร้างความลึกลับที่ดึงดูดนักสำรวจให้เข้ามาตรวจสอบมากขึ้น จัดหาเหยื่อให้มัน
เหตุผลที่มันล่ามนุษย์ไม่ได้เกิดจากความเป็นศัตรูกับหลินฮวง มันดันว่ามันสามารถเรียนทักษะดาบมนุษย์ได้ และเผอิญ คนที่รัฐบาลกลางส่งมาดันเป็นผู้บ่มเพาะดาบแทบทั้งหมด
สำหรับคนอื่น พวกเขากลายเป็นผู้โดนลูกหลง
ความลับของกองทัพรัฐบาลกลางที่หายไปถูกแก้ไขแล้ว และหลินฮวงก็ไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้เลย วินาทีที่เขาเห็นมันใช้การตรัสรู้ธาตุน้ำเพื่อสร้างร่างแยก เขาก็เดาได้แล้วว่ามันคือฆาตกร
การมีความสามารถสร้างภาพลวงตาหมายความว่ามันมีความสามารถกำจัดกองกำลังของรัฐบาลกลาง
ด้วยการที่ไขความลับเรื่องนี้ได้แล้ว หลินฮวงจึงล่าหาคำตอบของเขาต่อ
ไม่นาน เขาก็พบฉากที่เขาอยากเห็นสุด
สายลมพัดผ่านเกาะที่เงียบงัน
ยามดึก แสงจันทร์สาดส่องลงมา ดวงจันทร์ทั้งสองดวงเผยโฉมเต็มที่ หนึ่งแดงหนึ่งม่วง
ในเวลาเที่ยงคืน ภายใต้ดินดำ ที่ตำแหน่งของศพจอมสังหารดาบราชันย์ แสงสีทองจางๆ ปรากฏขึ้น
พลังงานความตายสีดำของทั้งเกาะเริ่มไหลย้อนกลับอย่างรวดเร็ว ไหลเข้าไปในแผลบนหน้าอกของจอมสังหารดาบราชันย์ ไม่นาน หัวใจของมันก็เปล่งแสงสีทองออกมา
ระหว่างนี้ ร่างของมันก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงรุนแรงเช่นกัน
เมื่อถึงเวลาตีสี่หรือตีห้า ความมืดที่ปกคลุมทั้งเกาะก็สลายหายไปอย่างสมบูรณ์
เมื่อแสงแรกของวันส่องบนเกาะ ศพของจอมสังหารดาบราชันย์ที่ฝังอยู่ใต้โคลนก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น…
“แสงสีทองในหัวใจของมันคืออะไร?” สีน้ำเงินในรูม่านตาหลินฮวงจางลง และสายตาเขาก็เลื่อนลง หยุดบนหน้าอกของมัน
เขาไตร่ตรองสักพัก จากนั้นก็เรียกอาวุธเซียนเขาออกมา
ระหว่างนี้ มอนสเตอร์ตาเดียวก็ได้สติแล้ว
“เจ้าเองก็เป็นผู้บ่มเพาะดาบ ดังนั้นข้าจะแสดงความเคารพเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย!” ทันทีที่หลินฮวงพูดจบ เขาก็แทงดาบออกไป ดาบยาวเจาะผ่านหน้าอกของมอนสเตอร์ตาเดียว ทำให้หัวใจมันแหลกสลายอีกครั้ง
เพียงเมื่อหลินฮวงกำลังจะกดดาบลงเพื่อเฉือนเปิดหน้าอกและขุดเอาหัวใจมันออกมา มอนสเตอร์ตาเดียวก็สลายตัว มันสลายไปในอากาศ เปลี่ยนเป็นจุดแสงดาวสีดำที่ไหลเข้าตัวหลินฮวง
เมื่อแสงดาวสีดำแตะตัวหลินฮวง เขาก็ครุ่นคิดว่าควรหลบไหม แต่เขาสัมผัสไม่ได้ถึงภัยคุกคามใด เขาจึงไม่หลบ
เขาจมจิตสำนึกส่วนหนึ่งเข้าตัวและตรวจสอบที่อยู่ของแสงดาว เขาเห็นว่าแสงดาวตรงไปยังช่องการ์ดหลังเข้าตัวเขา และเข้าไปในการ์ดใบหน้า
หลินฮวงเพ่งมอง ด้วยความแปลกใจ เขาพบว่ามันคือการ์ดจอมสังหารดาบราชันย์
เพียงเมื่อแสงดาวสีดำสุดท้ายกำลังจะเจาะตัวเขา ลำแสงสีทองก็พุ่งออกจากภายในแสงสีดำ เปลี่ยนเป็นประกายไฟฟ้าที่เจาะผ่านระหว่างคิ้วของหลินฮวง
มันเกิดขึ้นเร็วจนหลินฮวงไม่มีเวลาตอบสนอง เขาตรวจสอบทันทีเพื่อดูว่าแสงสีทองหายไปไหน
เขาเห็นแสงสีทองพุ่งเข้ามิติจิตวิญญาณของเขาเหมือนอุกกาบาต พุ่งตรงไปทางวิญญาณดาบและในที่สุดก็พุ่งชนกับหัวใจดาบในมือวิญญาณดาบของเขา
หลังจากนั้น ผนึกสีทองบนตัวดาบก็สว่างขึ้น สร้างเป็นลวดลายเทวะสีทองที่คล้ายกับสิ่งมีชีวิต
หลินฮวงรู้สึกเวียนหัวเพียงแค่มองผนึกนั้น
หลังรูปแบบผนึกก่อตัว แสงสีทองบนผิวดาบก็ค่อยๆ หายไป จากนั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้ามดาบทั้งสองฝั่งเหมือนการแกะสลัก
ตอนนั้น หลินฮวงสัมผัสได้ว่าแก่นแท้เต๋าดาบของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้น ในชั่วพริบตา เขาก็ทำลายคอขวดของระดับแก่นรากทันที เข้าถึงระดับใหม่!
สามระดับของแก่นแท้เต๋าดาบคือระดับยุทธ์แท้ แก่นราก และจิตแท้
หลินฮวงติดอยู่ที่ระดับแก่นรากมาสักพักแล้ว เขายังใช้การ์ดห้องแห่งกาลเวลาแต่ก็ยังไม่ผ่านคอขวด
เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะทะลวงผ่านได้ทั้งอย่างนี้
ท่ามกลางความประหลาดใจ การแจ้งเตือนดังจากเสี่ยวเฮย
“ขอแสดงความยินดีด้วย การ์ดมอนสเตอร์ระดับบรรพกาล จอมสังหารดาบราชันย์ได้วิวัฒนาการเป็นระดับเทพสูงสุด!” า
ตอนที่ 1465
หลินฮวงไม่คิดว่าจะได้รับผลประโยชน์มากขนาดนี้จากการฆ่ามอนสเตอร์ระดับเทพเสมือนขั้น 9
ไม่เพียงเต๋าดาบเขาจะเลื่อนเป็นระดับจิตแท้และความสามารถเขาจะเพิ่มอีกรั้ง แต่จอมสังหารยังเลื่อนเป็นชั้น 5 และกลายเป็นการ์ดมอนสเตอร์ระดับเทพสูงสุดใบที่สอง
“การ์ดมอนสเตอร์ : จอมสังหาร”
“ความหายาก : ระดับเทพสูงสุด”
“ชื่อมอนสเตอร์ : จอมสังหารดาบจักรพรรดิ”
“ประเภทมอนสเตอร์ : โปรตอส”
“ระดับพลัง : เทพแท้จริงขั้น 6”
“วิชาหลัก : เต๋าดาบ”
“ทักษะหลัก : ทักษะดาบอื่นๆ อาณาจักรดาบ..”
“ทักษะรอง : ภาพลวงตาแท้จริง…”
“แก่นแท้เต๋าดาบ : แก่นราก’ขั้นแรก’
“กฏเทพ : สายน้ำ..”
“การตรัสรู้ธาตุ : ทะเลลวงตา…”
“สิทธิ์การอัญเชิญ : เปิดใช้งาน”
“หมายเหตุการ์ด : ฝึกสุดความสามารถ!”
หลินฮวงเรียกการ์ดจอมสังหารมาตรวจสอบ ความหายากมันเปลี่ยนระดับ และชื่อก็ยังเปลี่ยนจากจอมสังหารดาบราชันย์เป็นจอมสังหารดาบจักรพรรดิ
นอกจากนี้ แก่นแท้เต๋าดาบของจอมสังหารที่เคยเป็นระดับยุทธ์แท้กลับเลื่อนเป็นแก่นราก กฏเทพกับการตรัสรู้ธาตุก็ยังเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่ามันสืบทอดพลังกฏเทพของมอนสเตอร์ตาเดียวมา
หลังตรวจสอบข้อมูลการ์ดของจอมสังหาร หลินฮวงก็รีบเก็บการ์ดไป
อีกครั้ง เขาแช่จิตสำนึกส่วนหนึ่งเข้าตัวเพื่อดูรายละเอียดของการสังหารหมู่กลุ่มคนรัฐบาลกลาง ผู้ร้ายเผยโฉมแล้ว แต่เนื่องจากเขาสัญญากับเจียงเฉินชานไว้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างเต็มที่ เขาก็ยังต้องหาศพเหยื่อ
จากฉากที่เขาเห็นในความทรงจำ หลินฮวงพบตำแหน่งที่มอนสเตอร์ตาเดียวซ่อนศพอยู่
มีแสงแฟลชสว่างจ้าและวินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ซ่อนศพ ที่ระดับความลึกใกล้กับความลึกร่องสมุทร ศพจำนวนมากถุกมัดด้วยสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่ง
หลังเดินเข้าใกล้ หลินฮวงก็สังเกตเห็นว่าสาหร่ายที่มีลักษณะคล้ายหวายพันอยู่รอบคอของศพ
สาหร่ายทะเลไม่มีอะไรผิดปกติ เห็นได้ชัดว่ามอนสเตอร์ตาเดียวแค่ต้องการใช้มันเป็นเชือก
หลินฮวงตรวจสอบศพ มีทั้งหมด 99 คน สามกองกำลังและสี่ทีมเล็ก ไม่มีสักคนที่รอด แต่ทว่า แก่นเทวะทั้งหมดในศพถูกเอาออกไป มันต้องเป็นฝีมือมอนสเตอร์ตาเดียวแน่ โชคดี แหวนหัวใจจักรพรรดิและของอื่นๆทั้งหมดไม่ถูกแตะต้อง
หลังตรวจสอบสถานะศพ หลินฮวงก็รีบเก็บศพไป
หลังใช้จิตเทวะตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่พลาดอะไร หลินฮวงก็จากไป
วินาทีที่เขาออกจากมหาสมุทรสันติ หลินฮวงก็เรียกวังวนมิติ ไปปรากฏอีกครั้งศูนย์ใหญ่รัฐบาลกลาง
วินาทีต่อมา เมื่อเจียงฉานเห็นหลินฮวงในโถงนั่งเล่น เขาก็ค่อนข้างประหลาดใจ
“จักรพรรดิหลิน ทำไมท่านไม่บอกให้ข้ารู้ล่วงหน้าว่าท่านจะมา?”เจียงฉานรีบลบความสงสัย ทักทายหลินฮวงอย่ายินดีขณะพยายามลอบเดาเจตนาเขา
“ข้าจัดการปัญหาแล้ว ข้าจึงตรงมาที่นี่”หลินฮวงวางแหวนเก็บศพทั้งหมดวางไว้บนโต๊ะกาแฟ
“เสร็จแล้ว?”เจียงเฉินชานดูอ่อนปวดเปียกเมื่อเห็นหลินฮวงนำแหวนออกมา เขาจ้องมันอย่างว่างเปล่าสักพัก
“ทีมเล็กทั้งสามของท่านถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์ ระดับพลังของมันคือเทพเสมือนขั้น9 และยังใช้การตรัสรู้ธาตุประเภทลวงตาได้ ความสามารถมันเทียบได้กับเทพแท้จริงขั้น 1 ทั่วไป..”
“ศพของเหยื่อทั้งหมดควรอยู่ในแหวนนี้ ถ้าจำนวนคนที่ท่านแจ้งให้ข้ารู้ก่อนหน้าถูกต้อง งั้นก็ไม่พลาดอะไร ศพไม่ได้ถูกชำแหละ ทรัพย์สินส่วนตัวยังคงอยู่ไม่มากก็น้อย สิ่งเดียวที่หายไปคือแก่นเทวะ ซึ่งน่าจะโดนกลั่นไปแล้ว..”
เจียงฉานรีบหยิบแหวนขึ้นมา ใช้จิตเทวะสำรวจภายใน และสีหน้าเขาก็สลดลง
“เทพเสมือน 99 คน ตายทั้งหมด…”
สถานการณ์เลวร้ายสุดเกิดขึ้นแล้ว
ความจริง ก่อนเขาจะเห็นศพ เขาก็เฝ้ารอด้วยความหวังที่ว่าจะมีผู้รอดชีวิต เขาไม่กล้าคิดแง่ดีว่าจะมีคนรอด
แม้ผลลัพธ์นี้จะมองเห็นได้ตั้งแต่ต้น แต่เมื่อเห็นกับตา สีหน้าของเจียงฉานก็ยังบิดเบี้ยว
“แล้วฆาตกรละ?มันยังมีชีวิตอยู่ไหม?”หังสงบสติอารมณ์ เจียงฉานก็เงยหน้าขึ้นถามหลินฮวง
“ข้าฆ่ามันไปแล้ว”หลินฮวงตอบ
“ท่านช่วยส่งศพให้เราจัดการได้ไหม?เราสามารถซื้อมันได้”เจียงฉานเสนอ
“มันไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากส่งมอบให้ท่าน แต่หลังข้าฆ่ามัน ศพมันกลับสลายไปเอง”น้ำเสียงของหลินฮวงดูหมดหนทาง ก่อนจะมุ่งหน้ามา เขาเดาไว้แล้วว่ารัฐบาลกลางคงอยากได้ตัวฆาตกร แต่เขาไม่สามารถสร้างร่างกายได้และไม่สามารถบอกความจริงได้ ทางเลือกเดียวของเขาคือโกหก”ข้าคิดว่ามอนสเตอร์ตัวนี้น่าจะเป็นแค่ร่างโคลน”
เจียงฉานไม่สอบสวนเพิ่มและพร้อมเชื่อคำอธิบายนี้
มันผิดปกติสำหรับมอนสเตอร์น่ากลัวแบบนั้นที่จะปรากฏในโลกกรวด ถ้ามันเป็นโคลนของสิ่งมีชีวิตน่ากลัวจากมหาพิภพ งั้นคำอธิบายก็สมบูรณ์แบบ
“ถ้ามันแค่โคลน มันเป็นไปได้ไหมที่ร่างหลักจะซ่อนตัวในโลกกรวด?”เจียงฉานถาม
“ไม่น่าเป็นไปได้หลินฮวงส่ายหัว”สำหรับร่างโคลนมันที่เติบโตจนถึงจุดนี้ มีเหตุผลไม่มากที่ร่างหลักมันยังอยู่ในโลกกรวด มันทำได้แค่ผนึกตัวมัน ความสามารถมันจะไม่ได้มากไปกว่าโคลนนัก”
“ก่อนข้าออกโลกกรวด ข้าจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบ ถ้าร่างหลักมันซ่อนในโลกกรวดจริง มันไม่มีทางรอดพ้นกรตรวจสอบของข้าได้”
“นอกจากนี้ ช่วยฝังศพในแหวน..”
“ข้าจะจัดการเอง”
เจียงฉานพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จริงๆแล้วหลินฮวงไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้เลย เทพเสมือนทุกคนของรัฐบาลกลางจะได้รับการทำพิธีอย่างสมศักดิ์ศรีอยู่แล้ว
ขณะที่หลินฮวงเตรียมออกไป เจียงฉานก็ถาม
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าการปรากฏตัวของมอนสเตอร์นั้นเกี่ยวกับอุโมงค์มิติที่ด้านล่างมหาสมุทรสันติ?”เขายังเชื่อคำพูดของ
หลินฮวงก่อนหน้านี้
หลินฮวงหยุดสักพักก่อนส่ายหัว”ข้าไม่แน่ใจ ข้าไม่พบอุโมงค์มิติตอนข้าไปมหาสมุทรครั้งนี้”
ในเมื่อมันโกหกตั้งแต่ต้น เขาก็ต้องเล่นไปตลอด
เขาได้ประกาศเองว่ามีอุโมงค์มิติที่ด้านล่างมหาสมุทรสันติ ดังนั้น แม้จะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมอนสเตอร์ตาเดียว แต่เขาก็ทำได้แสร้งเป็นโง่ต่อหน้าเจียงฉาน
“อย่าเสียเวลาหาอุโมงค์นั้นเลย ข้าจะหามันให้เจอก่อนไป ข้าจะส่งพิกัดให้พวกท่านทีหลัง”
เพื่อป้องกันรัฐบาลกลางจากการเสียเวลาและทรัพยากร หลินฮวงจึงบอกแบบนี้
เจียงฉานพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไร มองหลินฮวงจากไปเงียบๆ
หลังมั่นใจว่าหลินฮวงออกไปแล้ว เขาก็เปิดหน้าสื่อสารของแหวนหัวใจจักรพรรดิ
“ให้คนมาชันสูตรศพ…”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น