Monster Paradise 1456-1457
ตอนที่ 1456
หลังเสร็จสิ้นการกลั่นและผสานโลกกรวด รวมถึงกำจัดภัยคุกคามจากวังเผ่าหมื่นคณนานับไปชั่คราว หลินฮวงก็เริ่มคิดกลับไปมหาพิภพ
แต่ทว่า ก่อนหน้านั้น เขาต้องพาหลินซินไปเที่ยวเล่นก่อน เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยเวลาที่ใช้กับการปิดประตูบ่มเพาะ ทั้งคู่จึงไม่เห็นหน้ากันเลยถึงปีครึ่ง
ในความเป็นจริง มันเป็นข้ออ้างที่สะดวกในการมอบวันหยุดพักผ่อนให้ตัวเอง
ในช่วงเวลาปีครึ่งเหล่านี้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเดินทาง บ่มเพาะและเพิ่มความสามารถเขา เนื่องจากวิกฤตภายในโลกกรวด เขาจึงเครียดตลอดเวลา ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายได้บ้าง
แต่เช้าตรู่ หลินฮวงลากหลินซินไปร้านเกี๊ยวของลุง ป้า
มันเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคมแล้ว ฤดูใบ้ไม้ร่วงในเมืองจักรพรรดิใกล้หมดลง อากาศค่อยๆเย็นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิไม่ส่งผลต่อผู้บ่มเพาะมากนัก แต่คนทั่วไปถูกบังคับให้ต้องสวมเสื้อคลุมตัวหน้า
โต๊ะและเก้าอี้ร้านเกี๊ยวมักจะจัดไว้ด้านนอกทางเข้าร้าน เหลือโต๊ะว่างแค่สองตัวภายในร้าน เหนือสิ่งอื่นใด ร้านเกี๊ยวเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่ควรกินตอนร้อน
หลินฮวงและหลินซินเข้าร้านและนั่งลงที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง
“พี่ พี่ปลุกข้าแต่เช้าเพื่อให้มากินเกี๊ยวเนี่ยนะ?”แม้หลินซินจะชอบเกี๊ยว นางก็ไม่ชอบตื่นเช้า
โดยเฉพาะตั้งแต่หลังนางจบสถาบันนักล่ายุทธ์ นางจัดตารางตัวเองใหม่ นางนอนตอนเวลาจนถึงเก้าโมงเช้า แต่ตั้งแต่ย้ายมาเมืองจักรพรรดิ กิจวัตรนี้ก็กลายเป็นวิถีชีวิต และไม่มีใครในขัตติยะกล้ารบกวนนาง
“เราไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเกือบปีครึ่ง”หลินฮวงยิ้ม
“ใช่ มันปีครึ่งแล้ว”หลินซินคร่ำครวญ
นางยังจำได้ถึงตอนที่หลินฮวงเดินทางไปมหาพิภพ แม้ในอดีตหลินฮวงจะไม่ค่อยอยู่บ้าน อย่างน้อยนางก็สามารถใช้แหวนหัวใจจักรพรรดิเพื่อติดต่อหาเขาได้ มันเป็นปกติที่ทั้งคู่จะส่งข้อความหรือโทรคุยกัน แต่ทว่า ในช่วงปีหนึ่งที่หลินฮวงไปมหาพิภพ เขาหายไปเลย ความรู้สึกจังไม่เหมือนกัน
“น้องน่าจะเคยไปหลายสถานที่ในโลกกรวดมาแล้วสินะ ที่ไหนบ้างที่น้องอยากไปแต่ไม่เคยไป?”หลินฮวงยิ้ม
“พี่อยากไปเที่ยว?”หลินซินรู้สึกงุนงงเล็กน้อย มันเป็นภาพหายากที่หลินฮวงจะว่าง
“การหาเวลาว่างไม่ใช่ง่ายๆเลย แต่มันคงดีที่จะได้ท่องเที่ยวและรับเอาอากาศบริสุทธิ์”หลินฮวงพยักหน้า
เมื่อได้ยิน หลินซินก็อดยิ้มไม่ได้เลย”มันยากมากที่จะได้เห็นพี่แบบนี้’
“วิกฤตในโลกกรวดคลี่คลายแล้ว และพี่ก็ไม่มีทางเลื่อนระดับพลังได้ที่นี่ ระหว่างนี้ก่อนพี่จะกลับไปมหาพิภพ พี่จะถือซะว่ามันเป็นวันหยุด”หลินฮวงอธิบาย และเอนหลังพิงเก้าอี้
“ยิ่งไปกว่านั้น น้องเองก็เป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่น้องจะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงเลย น้องควรทำความคุ้นเคยกับการใช้พลังเทวะในฐานะเทพเสมือนก่อน”หลินฮวงกล่าวเสริม
“อืม..แทนที่จะใช้นี่เป็นข้ออ้างหยุดพัก ข้าคิดว่าคงมีคนกลัวว่าระดับพลังข้าอาจสูงเกินไปและจะทิ้งเขาไว้ซะมากกว่า”
“การคุยโวนั่นมันอะไรกัน?ถ้าพี่มีร่างกายของน้อง พี่คงเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ไปแล้ว หรืออาจถึงขั้นจ้าวเทวะด้วยซ้ำ”หลินฮวงหน้ามุ่ย”นอกจากนี้ ระดับพลังก็แค่เปลือกนอก ความสามารถสิคือของจริง ในฐานะเทพเสมือนขั้น 9 น้องไม่มีทางเอาชนะพี่ที่เป็นเทพเสมือนขั้น 6 ได้ด้วยซ้ำ ไม่มีอะไรให้ต้องคุยโว”
“ใครอยากแข่งกับพี่?!”หลินซินได้เห็นความสามารถของหลินฮวงกับตาบนสนามรบ นางรู้สึกว่าพี่ชายนางหลุดออกจากกรอบของคนธรรมดาไปแล้ว
“เปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะ ขอรายชื่อสถานที่ที่น้องอยากไปในสองวันนี้ พี่ต้องใช้เวลาหารายละเอียด”หลินฮวงกลับเข้าเรื่อง
“ไม่ต้องทำให้ลำบากหรอก ข้ามีสถานที่ที่อยากไปอยู่แล้ว และข้าก็ทำรายละเอียดไว้หมดแล้ว”หลินซินแสดงไฟล์ตรงหน้า
หลินฮวงจ้องมัน แน่นอน มีสถานที่มากกว่า 30 แห่งถูกระบุไว้ชัด
“เลือกสถานที่ที่น้องอยากไปมากสุดก่อน เราจะใช้เวลาอีกสองเดือนกับการเดินทางรอบสถานที่เหล่านี้ สำหรับที่เหลือ ค่อยรอครั้งหน้า”
ถ้าเขาเห็นสถานที่น่าสนใจ เขาก็ไม่ว่าอะไรถ้าต้องอยู่สักเดือน เพื่อตอบสนองความต้องการ การเชื่อมชมสถานที่ท่องเที่ยว 30 แห่งในเวลาสองเดือนเป็นไปไม่ได้
“ก็ได้..”หลินวินดูไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่นางก็รู้ว่าเวลาสองเดือนนั้นมากพอแล้ว
“มันควรเป็นฤดูหนาวในเมืองหิมะ..”หลินซินยกหัวมองท้องฟ้าไร้เมฆด้านบน”จุดเที่ยวแรกน่าจะเป็นเมืองหิมะ แต่เสี่ยวซวนกำลังปิดประตูบ่มเพาะ”
“การปิดประตูบ่มเพาะเขาไม่ควรใช้เวลานานเกินไป สองเดือนควรพอ เราสามารถกำหนดเมืองหิมะเป็นเมืองสุดท้ายได้”หลินฮวงรู้ว่าหลินซินอยากย้อนอดีตตอนที่ทั้งสามอยู่ด้วยกันสี่ปีก่อน
“งั้นไปเมืองหวู่หลินกันก่อน”หลินซินเสนอ
“ได้”เมื่อได้ยิน หลินฮวงก็กะพริบตาด้วยความประหลาดใจ แต่ก็พยักหน้า
เมืองหวู่หลินคือสถานที่แรกที่เขามาถึงหลังข้ามมาโลกนี้ มันเป็นสถานที่ที่ตัวหลินฮวงคนก่อนกับหลินซินโตมาด้วยกัน
แม้มันจะเป็นเมืองเกรด D แสนชนบทไร้สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ มันก็มีความทรงจำในวัยเด็กของหลินฮวงและหลินซิน
หลินฮวงสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมหลินซินถึงอยากกลับไป
“ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองหวู่หลินเป็นอย่างไรแล้ว..”หลินซินพึมพำ
“เมื่อเรากินอาหารเช้าเรียบร้อย เราจะเดินทางกัน!”หลินฮวงประกาศ ขณะที่ลุงอ้วนมาเสิร์ฟเกี๊ยวสองถาดให้พวกเขาอย่างเริงร่า
หลังจากนั้นสิบนาที สองพี่น้องก็กินอาหารเช้าเสร็จ
ขณะที่กำลังออกร้านหลังจ่ายเงิน หลินฮวงก็เหลือบมองเวลา มันยังไม่7 โมงครึ่งดี เขาจึงโน้มคอไปหาหลินซิน”น้องมีอะไรต้องเตรียมอีกไหม หรือเราควรออกเดินทางทันที?”
“เริ่มเดินทางเลย!”หลินซินก้มมองเวลาเหมือนกัน”สมัยก่อน ข้าเองก็ไปเรียนเวลานี้”
หลินฮวงโบกมือ และประตูมิติคล้ายวังวนสีดำก็ปรากฏตรงหน้า
“นี่คออะไร?”หลินซินกะพริบตาปริบๆ แน่นอน นางรู้ว่านี่ไม่ใช่ประตูมิติ
“พี่จะอธิบายทีหลัง”หลินฮวงพูด ดึงหลินซินก้าวเข้าไปในนั้น
ในชั่วพริบตา ทั้งคู่ก็มาถึงตรงหน้าบ้านในเมืองหวู่หลินที่สองพี่น้องเคยอยู่อาศัย
ประตูมีหมายเลข 23 รวมถึงผนังด้านข้างของวิลล่าสามชั้นที่มีเถาวัลย์เกาะ สวนบนดาดฟ้าร่มเงามาก เต็มไปด้วยพืชพรรณ
“อยากเข้าไปดูไหม?”หลินฮวงพูด ก้าวเข้าไปที่บ้านก่อน
หลังใส่รหัสผ่านประตู เขาก็ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียง’ปี้บ’’’ ส่งสัญญาณว่าประตูถูกปลดล็อกแล้ว
ตอนแรก เขาคิดว่ารหัสผ่านคงหมดการใช้งานไปนานแล้วและเตรียมใช้กำลัง
เมื่อผลักเปิดประตู สองพี่น้องก็ก้าวเข้าไป
“ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนไปมาก”หลินซินฟังดูพอใจ
รูปแบบภายในบ้านเหมือนเดิม แม้กระทั่งโซฟา พรม รวมถึงโต๊ะกับเก้าอี้ในห้องกินข้าว
สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือมีเห็ดจำนวนมากผุดขึ้นจากใต้พื้น นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านยังเคลือบด้วยฝุ่นหนาและมีกลิ่นเหม็นราจางๆในอากาศ
ตอนที่ 1457
หลังเดินเล่นรอบๆบ้าน หลินซินก็เลือกอยู่ในห้องนอนบนชั้นสอง ส่วนหลินฮวงกลับไปชั้นแรก
ทันใดนั้น เงาร่างคล้ายมนุษย์หมอกก็ปรากฏตรงหน้าเขา
‘เจตจำนงโลก?’หลินฮวงกำลังจะสอบถามว่าทำไมมันถึงปรากฏ
แต่ก่อนเขาจะได้ถาม เจตจำนงโลกก็ยกแขนหมอกมันขึ้น แตะไปที่ระหว่างคิ้วเขา
ทันใดนั้น ฉากที่ไม่คุ้นตามากมายก็ผุดในหัวของหลินฮวง
เดิม ทุกอย่างเป็นสีดำสนิท และทั้งหมดที่เขาได้ยินก็คือใครบางคนกำลังคุยในห้อง
“เด็กคนนี้เกิดมาพร้อมกงล้อชีวิตที่พัง เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”เสียงนี้ฟังดูคุ้นหู หลังใช้สมอง ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าเสียงนี้เป็นของ หัวใจจักรพรรดิ!
“นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าสามารถรักษาได้”เสียงนี้ฟังดูคล้ายหลินซินเล็กน้อย แต่ความรู้สึกที่ปล่อยออกมาไม่เหมือนกัน
“หรือบางที..เราสามารถใช้เขาเป็น…ไม่สิ เป็นผู้พิทักษ์การกลับชาติมาเกิดใหม่ของท่าน”หัวใจจักรพรรดิพูดต่อ”ท่านได้รับค่ายกลอัญเชิญนักเดินทางจากสโมสรมาไม่ใช่หรือ?ร่างของเพื่อนตัวน้อยนี้ดันเหมาะมาก…”
“แต่เขาเป็นพี่ชายของหลินซิน”เสียงที่ฟังดูเหมือนหลินซินฟังดูลังเล”ยิ่งไปกว่านั้น ค่ายกลอัญเชิญยังมีอัตราสำเร็จไม่ถึง 10% ถ้ามันล้มเหลว มีโอกาสสูงมากที่เขาจะตาย”
“ด้วยความเร็วปัจจุบันที่แสงแห่งชีวิตเขากำลังเลือนหาย เขาจะอยู่ได้อีกแค่สามเดือน แถม ในฐานะพี่ชายของท่าน ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเขาที่จะเป็นผู้พิทักษ์ท่าน”
ทันทีที่เสียงของหัวใจจักรพรรดิพูดจบ ความเงียบก็เข้าปกคลุม
“อย่าลังเลอีก ท่านมีเวลาตื่นจำกัดสำหรับจิตสำนึกที่หลงเหลืออยู่ เมื่อหลินซินตื่นขึ้น ท่านจะเสียโอกาสนี้ไป แถม ท่านจะไม่รู้อะไรเมื่อท่านตื่นขึ้นครั้งหน้า ใครจะไปรู้ แสงแห่งชีวิตของเด็กนี่อาจสลายหายไปแล้วก็ได้ตอนนั้น”
“งั้นก็ได้…”เสียงของหลินซินเห็นด้วยแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
หลังจากนั้นไม่นาน หลินฮวงก็รู้สึกเหมือนร่างเขาขยับ จากนั้นก็วางลงบนพื้น
เสียงแผ่วเบาลอยเข้าหูเขา แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่นานนัก หลินฮวงพลันรู้สึกว่าร่างเขากำลังลอย
ตอนนี้ เขาพลันได้สติกลับคืน แต่ทว่า ตอนนี้ เขาอยู่มุมสูงที่มองเห็นได้ทั้งห้อง
ตัวของหลินฮวงถูกวางไว้ตรงกลางของค่ายกลสีแดงเลือดบนพื้นห้องนั่งเล่น ร่างที่หมดสติเขาค่อยๆลอยขึ้น
ไม่ไกลจากค่ายกลเป็นผู้หญิงผมม่วงตาทอง ผู้มีหน้าตาคล้ายกับหลินซินถึง 90%
ข้างๆหญิงสาวคือหัวโปร่งแสงที่ลอยอยู่ในอากาศ นี่คือหัวใจจักรพรรดิที่หลินฮวงเพิ่งพบไม่นานมานี้
แต่ทว่า เขาเห็นแค่แวบเดียวก่อนผู้หญิงผมม่วงตาทองจะสัมผัสถึงบางสิ่งและแหงนมองเขา ต่อมา ทุกอย่างตรงหน้าเขาก็สลายไปในความมืดมิด จิตสำนึกเขาถอยออกมาทันที
เมื่อจิตสำนึกเขากลับเข้าตัว หลินฮวงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกถึงฉากก่อนหน้า
“งั้น..การกลับชาติเกิดใหม่ของเจ้านายหัวใจจักรพรรดิก็คือหลินซิน?มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ข้าถูกส่งมาโลกนี้ มันเพราะข้าถูกอัญเชิญมาโดยหญิงสาวผมม่วง?!”หลินฮวงสรุปได้คร่าวๆ
หลังจากเงียบไป หลินฮวงก็ค้นหาหมายเลขติดต่อของหัวใจจักรพรรดิและส่งข้อความ
“หลินซินคือนายของเจ้าที่กลับชาติมาเกิดใหม่สินะ?”
เขาอยากยืนยันจากปากของหัวใจจักรพรรดิ
แน่นอน ไม่ถึงหนึ่งวินาทีหลังเขาส่งข้อความ เขาก็ได้รับคำขอสื่อสารจากหัวใจจักรพรรดิ
หลังเชื่อมต่อ หัวใจจักพรรดิก็ถาม
“เจ้ารู้อะไรบ้าง?”
“ข้าอยู่ในเมืองหวู่หลิน ข้าเพิ่งฟื้นคืนความทรงจำส่วนหนึ่ง”หลินฮวงพูด เหลือบมองจุดที่เจตจำนงโลกหายไป”ข้ารู้ว่า
หลินซินคือการกลับชาติมาเกิดใหม่ของนายเจ้าและข้ายังรู้ว่าที่ข้าเดินทางมาโลกนี้เพราะพวกเจ้าสองคน มีอะไรที่ข้าต้องรู้อีกไหม?”
อีกด้าน หัวใจจักรพรรดิเงียบไป”ข้ารู้ว่าความทรงจำเจ้าจะกลับมาไม่ช้าก็เร็ว แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ จริงๆแล้ว ข้าไม่เคยตั้งใจปิดบังเรื่องนี้ ถ้าเจ้าถามข้าถึงเรื่องนี้ครั้งก่อนที่เราพบกัน ข้าคงบอกเจ้า แต่เจ้าไม่ถาม ข้าจึงเก็บมันไว้ต่อ”
“หลินฮวงเป็นร่างที่ดี เขาเป็นพี่ชายของหลินซิน ดังนั้นในฐานะนักเดินทาง ข้าจึงต้องปกป้องน้องสาวข้าจากโลกนี้ พวกเจ้าทั้งสองวางแผนได้ดี”มันยากสำหรับหลินฮวงที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป มันดันเป็นว่าการเดินทางของเขาเป็นฝีมือของใครบางคน
“หลินฮวง เราไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้า”หัวใจจักรพรรดิอธิบาย”การเดินทางของเจ้ามายังโลกกรวดนี้เป็นเพราะอิทธิพลของเราก็จริง แต่ ถ้าเราไม่เรียกเจ้ามาตอนนั้น เจ้าที่อยู่ใน(เอิร์ธ)คงเดินทางไปโลกอื่นแทน นี่เป็นโชคชะตา เส้นชะตากรรมของเจ้าในโลกก่อนหน้าของเจ้าขาดไปนานแล้ว”
“ถ้าเจ้าอยากพูดถึงารเป็นหนี้อะไรกับใคร งั้นเราก็เป็นหนี้หลินฮวงคนก่อน เหนือสิ่งอื่นใด เขามีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงสามเดือน ข้ายอมรับว่าข้ามันเห็นแก่ตัว และข้าก็เต็มใจรับผลที่ตามมา ข้ายังยอมรับว่าข้าละเลยชีวิตคนอื่น แต่ความจริงสำหรับนิ้วทองคำคือ ทุกชีวิตไม่มีค่า มีแค่นายเราถึงมีความหมาย”
“ข้าไม่คิดว่าข้าทำอะไรผิด ในสถานการณ์นั้น การตัดสินใจที่ข้าทำคือสิ่งที่ดีสุดสำหรับนายข้า”
คำอธิบายของหัวใจจักรพรรดิทำให้หลินฮวงเงียบไป
เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงพฤติกรรมของหัวใจจักรพรรดิที่ต้องการปกป้องนายมัน แม้วิธีการจะไม่น่าพึงพอใจนัก แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ดีสุด หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามคำถามที่เขารู้สึกกดดันกว่า
“หมายความว่าไงที่บอกว่าเส้นชะตากรรมของข้าในโลกเดิมถูกตัดขาดไปแล้ว?”
“ค่ายกลอัญเชิญจะสุ่มเลือกนักเดินทาง เราไม่ใช่คนที่เลือกเจ้า ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่านักเดินทางจะเป็นคนแบบไหน ความจริงที่เจ้าถูกส่งมาหมายความว่าในเวลานั้น เจ้าได้ถูกเลือกโดยชะตากรรมให้เป็นนักเดินทาง โดยปราศจากการอัญเชิญของเรา เจ้าคงเดินทางไปโลกอื่น”
“ข้าบอกว่าเส้นชะตากรรมเจ้าขาดเพราะนักเดินทางมีได้แค่หนึ่งจิตสำนึก ถ้าเจ้าเดินทางไปโลกอื่น จิตสำนึกในโลกเดิมจะถูกลบ เจ้าสามารถดำรงอยู่ได้แค่โลกเดียว เช่นนั้น เมื่อถูกเลือกให้เป็นนักเดินทาง ชะตากรรมของเจ้าในโลกเดิมก็หมดลงแล้ว”
“สำหรับคนธรรมดา ชะตากรรมเป็นเส้นชีวิตที่ต่อเนื่อง ต่อให้มีขึ้นมีลง มันก็มขาด ในทางกลับกัน เส้นชะตากรรมของนักเดินทางกลับไม่เป็นอย่างนั้น”
หลินฮวงมีความเข้าใจเรื่องนี้ดี และเขารู้สึกสบายใจขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเดินทางก่อนถูกส่งมาโลกกรวด โดยปราศจากการอัญเชิญของหัวใจจักพรรรดิ เขาก็ยังต้องเดินทางไปโลกอื่น
อย่างน้อย ตอนนี้ การเดินทางไปโลกกรวดก็เป็นเรื่องดีสุด เหนือสิ่งอื่นใด เขากำลังเป็นไปได้ดี
“ข้ามีอีกคำถาม จะเป็นอะไรไหมถ้าข้าคิดพาหลินซินไปมหาพิภพกับข้า?”
“ข้าจะไปพร้อมกับการกลับชาติเกิดใหม่ของนายข้า”หัวใจจักรพรรดิให้คำตอบมันโดยไม่ลังเล”สำหรับโลกกรวด ข้าจะทิ้งร่างแยกไว้ที่นี่เพื่อจัดการเรื่องประจำวัน”
“แล้วเจ้าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้กับหลินซินอย่างไร?”หลินฮวงถามอีกครั้ง
“ข้าไม่คิดอธิบายอะไรตอนนี้”หัวใจจักรพรรดิคิดหาวิธีจัดการเรื่องนี้ไว้แล้ว”การบอกนางถึงชาติที่แล้วจะไม่ก่อให้เกิดผลดีอะไร มันอาจทำให้คนจากหุบเหวปรารถนาตัวนางแทน”
“ตามสถานการณ์ข้า..เจ้าไม่ต้องบอกนางและข้าก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้”หลินฮวงตัดสินใจเช่นนี้เพราะเขาไม่อยากให้หลินซินต้องรับภาระทางจิตใจในอนาคต เหนือสิ่งอื่นใด เขาถูกเรียกมาโดยชาติที่แล้วของนาง และด้วยนิสัยใจคอของหลินซิน นางย่อมอดรู้สึกผิดไม่ได้
“ดีมาก”หัวใจจักรพรรดิเห็นด้วยทันที
ขณะที่ทั้งสองคุยกันจบ หลินฮวงก็สัมผัสได้ว่าหลินซินกำลังเดินลงมาและรีบตัดการสื่อสาร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น