Monster Paradise 1451-1452

ตอนที่ 1451

 

“นายข้าเป็นนักเดินทางเหมือนเจ้า แต่ไม่ได้มาจากที่เดียวกันกับเจ้า โลกของพวกเขามีเทคโนโลยีก้าวหน้าและถึงขั้นมีปัญญาประดิษฐ์ได้ใกล้เคียงกับระดับของนิ้วทองคำ”


 


“นอกจากนี้ โลกที่นายข้าถูกส่งไปไม่ใช่มหาพิภพนี้ของเจ้า โลกนั้นกว้างใหญ่และแข็งแกร่งกว่ามหาพิภพของเจ้าเสียอีก ถึงขั้นมีตัวตนที่มีพลังเกินกว่าจ้าวเทวะ”


 


“ตัวตนที่เกินกว่าจ้าวเทวะ…โลกที่ทรงพลังขนาดนี้จะถูกรุกรานโดยหุบเหวได้อย่างไร?”หลินฮวงอดถามไม่ได้


 


“ทั้งหมดที่ข้าพูดได้คือพลังขอบหุวเหวนั้นเกินกว่าที่เจ้าคิด”หัวใจจักรพรรดิอธิบายอย่างจริงจัง


 


“สิ่งมีชีวิตหุบเหวที่เจ้าเห็นในโลกกรวดมาจากชั้นตื้นๆของหุบเหวทั้งสิ้น หน้าที่หลักวพกมนในหุบเหวนรกก็เหมือนกับแพลงก์ตอนในทะเล ในชั้นกลางของหุบเหว แม้กระทั่งเทพแท้จริงกับเทพสวรรค์ก็เป็นเพียงปลาและกุ้งตัวน้อย”


 


“ส่วนที่น่ากลัวของหุบเหวอยู่ที่ส่วนลึก!มีมอนสเตอร์โบราณนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ที่นั่น บางตัวเกิดมาเป็นจ้าวเทวะ บางตัวมีลมหายใจที่สามารถเปลี่ยนเป็นหลุมดำและกลืนกินดวงดาวได้แม้ตะนอนอยู่ สำหรับพวกที่อยู่ในส่วนลึกสุด ถ้าพวกมันตื่นขึ้นแม้แต่ตนเดียว มันก็มากพอจะปลดปล่อยฉากการสังหารนองเลือดไปทั่วทั้งจักรวาล!”


 


“ถ้าหุบเหวทรงพลังอย่างที่เจ้าพูด ทำไมพวกมันถึงไม่พิชิตทั้งจักรวาล?”หลินฮวงอดสงสัยไม่ได้ แต่เขารู้สึกว่าตามคำอธิบายที่ได้ยิน เผ่าหุบเหวนั้นมีพลังมากพอจะพิชิตทั้งจักรวาลจริงๆ


 


“ข้าไม่แน่ใจในเหตุผลทั้งหมด แต่ข้าเคยได้ยินตำนานที่ว่าผู้ครองหุบเหวมักอยู่ในสภาพเฉยเมย และการหลับใหลอันลึกล้ำของพวกมันจะสร้างดินแดนฝันขึ้นมาทีละแห่ง ยิ่งสิ่งมีชีวิตหุบเหวเข้าใกล้ผู้ปกครองพวกมัน พวกมันก็ยิ่งแข็งแกร่ง มันหมายความว่ายิ่งพวกมันดำดิ่งลึกในดินแดนแห่งฝัน พวกมันก็ยิ่งยากจะออกจากหุบเหวนรกมาได้”


“มอนสเตอร์หุบเหวที่เป็นศัตรูกับนายข้าคือหนึ่งในมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งสุดที่ยังสามารถออกจากหุบเหวมาได้”


เมื่อได้ยิน หลินฮวงก็อดถามต่อไม่ได้”แล้วพลังที่แท้จริงของมันละ?เจ้าช่วยบอกข้าได้หรือไม่?’


 


เขาอยากทำความเข้าใจให้ชัดถึงระดับของศัตรูที่เขาอาจต้องเผชิญในอนาคต


 


“มันคือระดับจ้าวเทวะ หรือที่เรียกว่า’ระดับจอมเทพ’ในจักรวาล ยอดฝีมือที่บรรลุระดับจอมเทพจะพัฒนาเต๋าภายในตัวจนรวมกันเป็นผนึกเต๋า ระดับจ้าวเทวะแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตามความซับซ้อนของผนึกเต๋า”

“ผนึกเต๋าที่สร้างโดยเต๋าสิบเต๋าหรือน้อยกว่าจะเรียกว่าขั้นอี้ ผนึกเต๋าที่สร้างโดยเต๋าสิบถึงร้อยจะเป็นขั้นฉื่อ ผนึกเต๋าที่เกิดจากเต๋าร้อยเต๋าถึงพันเต๋าจะเรียกว่าขั้นป่าย และสุดท้าย ผนึกเต๋าที่สร้างจากเต๋าพันเต๋าขึ้นไปจะเรียกว่าขั้นเฉียน


 


หรือจำแนกง่ายๆว่าจ้าวเทวะขั้นต่ำ กลาง สูงและสูงสุด


 


“นายข้า รวมถึงคนคนนั้นจากหุบเหวคือจ้าวเทวะขั้นสูงสุด”

“ล้านปีก่อน นายข้าและข้าเดินทางมามหาพิภพเจ้า ข้าจำได้ว่ายังไม่มีจ้าวเทวะขั้นสูงุสดในมหาพิภพนี้ตอนช่วงเวลานั้น”หัวใจจักรพรรดิกล่าวขึ้น


 


หลินฮวงพูดไม่ออก การดำรงอยู่ของหุบเหวน่ากลัวเกินไป ชั่วขณะหนึ่ง เขาคิดที่จะถอยกลับและค้นหาทางเพื่อเอาชนะวิกฤตวังเผ่าหมื่นคณนานับ


เขาไม่สามารถโกรธวังเผ่าหมื่นคณนานับได้ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับมอนสเตอร์หุบเหวที่อยู่เหนือวังเผ่าหมื่นคณนานับ


หัวใจจักรพรรดิดูเหมือนจะสังเกตเห็นความสงสัยของหลินฮวง”แต่ทว่า เจ้าไม่ต้องกังวล ต่อให้เจ้ากลั่นเศษเสี้ยวแก่นเทวะ(เขตแดนเทพก็คือแก่นเทวะ) คนคนนั้นก็ไม่มีทางมาสร้างปัญหาให้เจ้าที่นี่ มีเศษแก่นเทวะนับล้าน มันต้องมีมากกว่าหนึ่งที่ถูกกลั่นโดยคนอื่น เขาจะไม่ออกจากหุบเหวตราบเท่าที่พิกัดของนายข้าและข้าไม่ถูกพบ ทัง้หมดที่เจ้าต้องทำคือคิดหาทางรับมือกับวังเผ่าหมื่นคณนานับเท่านั้น”


”เจ้าพูดอย่างนั้น แต่มันจะก่อให้เกิดผลที่ตามมา ๆไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่”หลินฮวงพูดอย่างโผงผางในสิ่งที่เขาหวาดกลัว


 


หัวใจจักรพรรดิตกตะลึงไปชั่วขณะหลังได้ยิน เห็นได้ชัดว่ามันไม่คิดว่าหลินฮวงจะมีความเข้าใจลึกซึ้งขนาดนี้ นี่คือสิ่งที่มันอยากปกปิดถ้าเป็นไปได้


 


หัวใจจักรพรรดิหัวเราะเสียงแห้งแต่ก็ยังพูดต่อ”ผลที่ตามมานี้เป็นแค่แนวคิดลวงตา ต่อให้การกระทำเจ้าจะส่งผลต่ออนาคตในทางอ้อม มันก็ไม่ร้ายแรงอย่างที่เจ้าคิด”


 


หลินฮวงไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง


 


“ข้าอยากรู้ เมื่อไรที่นายเจ้าแพ้?”


“4 ล้าน 8 แสน 3หมื่นปีก่อน”หัวใจจักรพรรดิตอบ”เศษเสี้ยวแก่นเทวะนี้มาถึงในมหาพิภพแห่งนี้สามวันหลังนายข้าแพ้”


 


“หลังจากนั้น เศษเสี้ยวดวงวิญญาณของนายข้าก็เข้าสู่ห้วงนิทรา ข้าใช้เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ขั้นบันไดเป็นตัวช่วยให้ร่างกายของนายข้าเริ่มฟื้นฟู”


 


“ตอนนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ของเศษเสี้ยวเขตแดนเทพยังเป็นป่าเก่าๆที่มีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย ข้าให้ความรู้เรื่องการบ่มเพาะกับเด็กๆกลุ่มนั้นที่ต้องตาข้า และบางคนก็เดินบนเส้นทางได้ดี ยุคนี้เรียกว่ายุคดึกดำบรรพ์โดยลูกหลานของโลกนี้”


“ยุคดึกดำบรรพ์ของโลกกรวดเริ่มต้นโดยเจ้า?!”หลินฮวงอุทาน


 


“ใช่ มันน่าเสียดายที่ไม่ถึงล้านปีหลังเริ่มยุคดึกดำบรรพ์ เศษเสี้ยวเขตแดนเทพชิ้นนี้ก็ถูกพบโดยลูกสมุนของคนคนนั้น ผู้เริ่มการรุกรานทันที”


“หลังสิ้นสุดยุคดึกดำบรรพ์ ข้าได้ถ่ายทอดวามรู้ด้านการบ่มเพาะให้คนกลุ่มใหม่ แต่ล้านกว่าปีก่อน การกวาดล้างครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง นั่นคือจุดสิ้นสุดของยุคโบราณ”


‘หลังจากนั้น ข้าก็แทรกแซงความก้าวหน้าของโลกกรวดซ้ำแล้วซ้ำอีก นำมาซึ่งระบบบ่มเพาะต่างๆในแต่ละยุคสมัย ถึงกระนั้น ผู้บ่มเพาะก็ล้วนถูกสังหารหมู่ทุกครั้ง..”


 


หลังได้ยินคำอธิบายของหัวใจจักรพรรดิถึงประวัติศาสตร์ หลินฮวงก็เต็มไปด้วยคำถาม


 


“เจ้าณู้เกี่ยวกับการเปิดของตาเสมือนในยุคใหม่มากแค่ไหน?นี่เกี่ยวข้องกับคนคนนั้นไหม?”


เมื่อได้ยินคำถามนี้ หัวใจจักรพรรดิก็ตกอยู่ในความเงียบไป


 


“ยุคใหม่..เริ่มต้นโดยข้า ตาเสมือนเหล่านั้น ก็เป็นฝีมือข้า”


หัวใจจักรพรรดิไม่รู้ว่าจะตอบสนองต่อสีหน้าเหลือเชื่อของหลินฮวงยังไง มันจึงพูดต่อ


 


“เนื่องจากยุคบ่มเพาะก่อนหน้าถูกกำจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้าจึงเริ่มใช้วิธีนอกรีต ข้าจำได้ว่านายข้าบอกกับข้าว่าในโลกของพวกเขา มีหลายเกมที่คนสามารถเพิ่มระดับได้โดยการสู้กับมอนสเตอร์ ข้าจึงใช้มันเป็นแรงบันดาลใจ ข้าใช้พลังงานเกือบทั้งหมดที่ข้าสะสมมาตลอดหลายล้านปีเพื่อปฏิรูปเศษเสี้ยวเขตแดนเทพทั้งหมด”


 


“พวกเกิดใหม่ทั้งหมดในโลกกรวดจะกลายเป็น’ผู้เล่นเกม’ที่สามารถเพิ่มระดับได้ผ่านการสู้กับมอนสเตอร์ ตาเสมือนยังเปิดขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ให้กับผู้บ่มเพาะทุกคน”


 


“งั้นเจ้ากำลังบอกว่าการเปิดของตาเสมือนสามพันกว่าแห่งเมื่อแปดร้อยกว่าปีก่อนเป็นฝีมือเจ้า?!”หลินฮวงรู้สึกว่าเรื่องต่างๆยิ่งเกินเลยไปมากขึ้น


 


“ใช่ เพราะวิธีการแบบเดิมไม่สามารถช่วยให้ผู้บ่มเพาะในโลกกรวดนี้วิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว นับประสาอะไรกับการทำลายวงจรอุบาทว์ที่ทำลายยุคบ่มเพาะ!”


 


“แต่พวกมอนสเตอร์ที่ออกจากตาเสมือนเหล่านั้นไม่ได้อ้างว่าพวกมันมาจากแดนเทพหรอกหรือ?”หลินฮวงถามด้วยความสับสน


 


“นั่นแค่การแสดง…ไม่ใช่ว่าทุกเกมต่างก็มีฉากบรรยายเพื่อเปิดเกมหรือ?” 

 

 


ตอนที่ 1452

 

“ข้ามีอีกคำถาม หลังข้าผ่านด่าน 81 บนต้นไม้ขั้นบันได ข้าได้รับคำเชิญจากองค์กรที่เรียกว่าสโมสร เจ้าคือคนที่ส่งจดหมายให้ข้าใช่ไหม?”


“ใช่ แต่ก็ไม่ นายข้าคือสมาชิกสโมสร จดหมายเชิญนั่นคืออันเดียวกับที่นายข้ามี”


 


“พูดตรงๆ ด่านบนต้นไม้ขั้นบันไดไม่ได้ถูกกำหนดโดยข้า ทั้งหมดที่ข้าทำคือวางจดหมายไว้บนนั้น ด่าน 81 คือข้อกำหนดที่ตั้งไว้โดยจดหมายเชิญตามสภาพแวดล้อมมัน ใครก็ตามที่ผ่านด่านได้จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมสโมสร”


“การประเมินเหล่านั้นตั้งโดยจดหมายเชิญ?!”ใบหน้าของหลินฮวงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ”แต่มันแค่การ์ดทั่วๆไป ไม่มีความผันผวนของพลังงานเลย”

“มันเป็นวัตถุที่สร้างโดยยอดฝีมือที่เหนือกว่าจ้าวเทวะ มันคงแปลกถ้าเจ้าสามารถสัมผัสความผันผวนพลังงานจากมันได้”หัวใจจักรพรรดิตอบ


 


“ในเมื่อนายเจ้าเป็นสมาชิกสโมสร เจ้าก็ควรรู้เกี่ยวกับมันบ้างใช่ไหม?”หลินฮวงถามถึงข้อมูลของสโมสร


“ข้าไม่รู้อะไรมาก ทั้งหมดที่ข้ารู้คือหลังนายข้าเข้าร่วมสโมสร นอกจากได้รับภารกิจ นายข้าพบกับสมาชิกสโมสรแค่สามคนในเวลานับล้านปี องค์กรมีความยืดหยุ่นมากและสมาชิกก็เป็นอิสระ แต่ทว่า สิ่งหนึ่งที่ข้ามั่นใจคือความจริงที่รางวัลภารกิจพวกเขานั้นมหาศาลมาก!”


 


การสนทนาของเขากับหัวใจจักรพรรดิกินเวลาเกือบชั่วโมง


ข้อสงสัยหลายอย่างของหลินฮวงกระจ่างชัดและการสนทนาก็ค่อยๆจบลง


 


“ทำไมเจ้าไม่ถามว่านายข้าเกิดใหม่เป็นใครละ?”หัวใจจักรพรรดิเริ่มถามคำถามนี้กับหลินฮวง


 


“เจ้าจะบอกข้าหรือ?”หลินฮวงเลิกคิ้ว เขาไม่คิดว่าหัวใจจักรพรรดิจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับกับเขา เหนือสิ่งอื่นใด นายของมันที่กลับชาติมาเกิดใหม่ต้องยังไม่เติบโตเต็มที่ จากมุมมองของหัวใจจักรพรรดิ หลินฮวงอาจถือเป็นภัยคุกคามสำหรับนายมันได้


แม้หลินฮวงจะสอบถามความลับมากมาย เขาก็ยังเลือกเลี่ยงคำถามเช่นนี้ตามความเหมาะสม


 


เมื่อได้ยินมัน หัวใจจักรพรรดิก็ยิ้มและเปลี่ยนเรื่อง”เจ้าจะออกจากโลกกรวดตอนไหน?”


“แผนเดิมคือแก้วิกฤตในโลกกรวด อยู่สักสองสามเดือน จากนั้นก็ไป”หลินฮวงไม่คิดปิดบังแผนการเขา”ตอนนี้มีเรื่องของวังเผ่าหมื่นคณนานับเข้ามา มันจึงไม่แน่นอน”


“อืม อย่างแรก ข้าจะลองดูว่าสามารถกลั่นเศษเสี้ยวเขตแดนเทพนี้ได้ไหม”หลังพูดแบบนั้น หลินฮวงก็ถาม”ถ้าข้าสามารถกลั่นมันได้สำเร็จ จะมีผลกระทบกับเขตแดนเทพข้าไหม?”

“ถ้าการกลั่นสำเร็จ เศษเสี้ยวเขตแดนเทพจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขตแดนเทพเจ้า เมื่อเจ้ากลายเป็นเทพแท้จริง เจ้าสามารถเก็บมันไว้ในเขตแดนเทพภายในตัวเจ้าและตัดการเชื่อมต่อระหว่างโลกกรวดกับโลกภายนอกได้โดยสิ้นเชิง ถ้านั่นเกิดขึ้น ต่อให้วังเผ่าหมื่นคณนานับเชื่อมต่อกับอุโมงค์มิติใหม่ พวกมันก็จะพบเจอแต่ความว่างเปล่า”


 


“งั้นก็ไม่มีผลข้างเคียง?”หลินฮวงถามต่อ


“ไม่มี โดยพื้นฐานแล้วมันเหมือนกับการยอมรับมรดกที่ไม่สมบูรณ์ ยกเว้นมรดกจะไม่ใช่ทั้งเคล็ดบ่มเพาะหรือความทรงจำ “หัวใจจักรพรรดิพูดแทบไม่ออก ไม่คิดว่าหลินฮวงจะระวังตัวขนาดนี้



เมื่อถึงเวลาที่หลินฮวงถูกส่งกลับไปศูนย์ใหญ่รัฐบาลกลางโดยหัวใจจักรพรรดิ เวลาก็ผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้ว


ในห้องประชุม กลุ่มคนยังไม่แยกย้าย เนื่องจากหลินฮวงไม่อยู่ พวกเขาจึงไม่สามารถคุยเรื่องหลักกันได้และทำได้แค่คุยประเด็นเล็กน้อย รอการกลับมาของหลินฮวงอย่างอดทน


ยกเว้นเจียงฉานที่หมกมุ่นอยู่กับความคิดเขา เนื่องจากความจริงที่หัวใจจักรพรรดิและรัฐบาลกลางแค่ร่วมมือกันแต่ไม่ได้จำกัดด้วยสัญญา ความกังวลเขาเขาจึงเป็นว่าหลินฮวงกับหัวใจจักรพรรดิอาจสร้างความสัมพันธ์กันและเตะรัฐบาลกลางออก


ถ้านั่นเกิดขึ้นจริง งั้นขัตติยะก็จะไม่ได้มีแค่หลินฮวง แต่ยังรวมถึงกำลังเสริมเทพแท้จริงและการควบคุมทั้งเครือข่ายหัวใจ


ด้วยเหตุนี้ ขัตติยะจะเข้ามาแทนตำแหน่งของรัฐบาลกลาง


หลังถูกส่งกลับ หลินฮวงก็ตรงไปห้องประชุม


เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป ทุกคนก็หันมามองเขา


เมื่อสังเกตเห็นคำถามในดวงตาคุณฟู่และสองทาสดาบ หลินอวงก็พยักหน้าให้เล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าเขาปกติดี จากนั้นก็กลับไปที่นั่งเขา


 


“ขออภัยด้วย มาต่อกันเลยไหม?”


การประชุมดำเนินต่อไปหลังหลินฮวงกลับมา


มันจนกระทั่งสี่โมงเย็นการประชุมถึงใกล้จบ


แต่ข้อเสนอต่างๆที่นำเสนอระหว่างการประชุมก็ยังไม่พอจะบรรุเทาวิกฤตของโลกกรวดได้


หลังคิดถึงเรื่องนี้ หลินฮวงก็รู้สึกว่าทางออกเดียวยังเป็นของหัวใจจักรพรรดิ


แต่ทว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะนำเรื่องการกลั่นโลกกรวดมาแสดงต่อหน้าทุกคน มันเป็นไปได้น้อยว่าทุกคนจะเห็นด้วย โดยเฉพาะกับรัฐบาลกลาง


ดังนั้น หลินฮวงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากดำเนินการแผนนี้ลับๆ หลังกลั่นเสร็จและแก้วิกฤต มันก็ไม่สำคัญว่าจะมีใครรู้ การคัดค้านพวกเขาคงไม่มีความหมายในตอนนั้


ตอนท้ายของการประชุม หลินฮวงลุกขึ้น


 


“ประธานเจียง ข้ามีคำขอที่หวังว่ารัฐบาลกลางจะเห็นด้วย”


“เชิญว่ามาเลย ฝ่าบาท”เจียงฉานตื่นตัวทันที คิดว่าหลินฮวงคงกำลังพูดบางสิ่งที่เกี่ยวกับหัวใจจักรพรรดิ


“ข้าหวังว่าแผนกโคลนนิ่งของรัฐบาลกลางจะทำลายร่างโคลนทั้งหมดของน้องข้า รวมถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”หลินฮวงพูดและมองหลินซวนข้างๆ


เจียงฉานสับสนไปครู่หนึ่ง”น้องชายท่าน หมายถึงหลินซวน?”


“ถูกต้อง”หลินฮวงพยักหน้าอย่างจริงจัง”ข้าไม่สนใจร่างโคลนอื่น แต่สำหรับหลินซวน ข้าหวังให้ทั้งหมดถูกทำลาย!’


 


เจียงฉานสบตากับตงฟางไป่ข้างเขา ราวกับพวกเขากำลังคุยกันผ่านพลังจิตก่อนพยักหน้า”ตกลง.


 


เช่นนั้น การประชุมจึงจบลง


หลินฮวงกำลังจะอัญเชิญประตูมิติเพื่อออกไป แต่เจียงฉานก็เรียกเขาจากด้านหลัง”ฝ่าบาท โปรดรอก่อน”


 


หลินฮวงหยุดและหันกลับมา”มีอะไรงั้นหรือ ประธานเจียง?”


 


ด้วยการส่งสายตาจากเจียงฉาน ตงฟางไป่และคนอื่นรีบออกไป หลินฮวงยังขอให้คุณฟู่ออกไป ในไม่ช้า มันก็เหลือแค่หลินฮวงกับเจียงฉานในห้องประชุม


 


“จักรพรรดิหลิน การคุยกับหัวใจจักรพรรดิเป็นไปด้วยดีไหม?”


“มันไปได้สวย”หลินฮวงยิ้มและพยักหน้า เขาพอรู้ว่าเจียงฉานกังวลอะไร”เราคุยกันหลายเรื่องและข้าก็ได้รู้ความลับมากมาย”


 


“นั่นดี งั้น…”เจียงฉานอยากถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้


 


“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่คิดชิงหัวใจจักรพรรดิไป”หลินฮวงรู้ว่าเจียงฉานอยากถามอะไรและไม่อยากเห็นสีหน้าอึดอัดของชยาตรงหน้าเขา เขาจึงบอกความจริง”นายของมันกลับชาติมาเกิดใหม่สำเร็จแล้ว มันจะไม่เลือกนายคนที่สอง”


 


“นายมันกลับชาติมาเกิดใหม่แล้ว?”เจียงฉานผงะ”มันคือใคร?!”


“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?ข้าไม่ได้ถาม ถ้าพวกท่านอยากรู้ ก็ไปถามเอาเอง”


 


หลังตระหนักว่าเขาใช้น้ำเสียงรุนแรงไป เจียงฉานก็กระแอมก่อนเปลี่ยนเรื่อง”งั้น มันได้เสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อเราไหม?”

“มันเสนอ”หลินฮวงพยักหน้า แต่ไม่คิดอธิบาย


 


“ท่านช่วยระบุรายละเอียดได้หรือไม่?”เจียงฉานกดดัน


 


“ท่านคงไม่อยากรู้”หลินฮวงพูด ส่ายหัวอย่างหนักแน่น


 


ปล.รัฐบาลกลางน่ารำคาญแหะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)