Monster Paradise 1447-1448

ตอนที่ 1447

 

ด้วยการเพิ่มเข้ามาของเทพแท้จริงอย่าง ทาสดาบกับมอนสเตอร์อัญเชิญ  สนามรบเทพเสมือนจึงกลายเป็นการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว


 


ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ผู้รุกรานระดับเทพเสมือนทั้งหมดก็ถูกฆ่า ไม่เหลือรอดสักคน


 


หลินฮวงได้เก็บศพมอนสเตอร์จากสนามรบเทพแท้จริงไปก่อนหน้าแล้ว


 


บนสนามรบเทพเสมือน สมาคมนักล่า ขัตติยะกับองค์กรอื่นรวมถึงเผ่าแมลงพากันเก็บสินสงคราม


 


ตงฟางไป่ หัวหน้าฝ่ายรัฐบาลกลางเดินมาหาหลินฮวง


 


สายตาเขาที่มองหลินฮวงแตกต่างออกไป


 


ก่อนหน้านี้ เขามองหลินฮวงเป็นคู่แข่งอาจเพราะหลินฮวงคือจักรพรรดิแห่งขัตติยะ หลังเห็นความสามารถแท้จริงของหลินฮวงในการต่อสู้สุดท้าย ตงฟางไป่เปลี่ยนมุมมอง


 


ทุกคนในขอบเหวนรกชั้นสามรู้ว่าถ้าหลินฮวงไม่มาพร้อมกำลังเสริมกับมอนสเตอร์อัญเชิญที่เขานำมา ผู้รุกรานอาจทำลายโลกกรวดไปแล้ว


 


“จักรพรรดิหลิน ในนามของรัฐบาลกลาง ข้าขอขอบคุณท่าน!”คำพูดแรกที่หลุดจากปากตงฟางไป่คือการขอบคุณจากใจจริง


 


“หัวหน้าตงฟาง โลกกรวดเองก็คือบ้านเกิดข้าเช่นกัน”หลินฮวงรู้สึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของตงฟางไป่


 


“พวกผู้รุกรานมาจากโลกไหนกัน?”ตงฟางไป่ถามเพราะเขาสังเกตเห็นว่าหลินฮวงจับหัวเถิงหรานไว้เพื่ออ่านความทรงจำหลังฆ่าอีกฝ่าย


 


“พวกมันมาจากแดนเทพ องค์กรชั้น 4 โดยมีชื่อว่านิกายพันงู”หลินฮวงอธิบาย


 


“เราได้ฆ่าคนของพวกมันไปมาก จะมีปัญหาตามมาไหมในอนาคต?”ตงฟางไป่ถามด้วยคิ้วขมวด


 


“มีแน่”หลินฮวงพยักหน้า”สำหรับสถานการณ์เจาะจง ข้าจะไปเยือนรัฐบาลกลางทีหลังและจะอธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง หัวหน้าตงฟาง ถ้าท่านสามารถ โปรดช่วยข้านัดหมายกับประธานเจียงด้วย มันจะดีสุดถ้าพวกระดับสูงทั้งหมดของรัฐบาลกลางมารวมกันครบได้”


 


“แน่นอน!ถ้ามีอะไรที่รัฐบาลกลางสามารถช่วยเหลือได้ ก็โปรดบอกให้ข้ารู้”ตงฟางไป่รีบพยักหน้า


 


ทั้งสองคุยกันสักพัก สุดท้ายสนามรบเทพเสมือนก็ถูกเก็บกวาดจนเกลี้ยง


 


พวกระดับสูงขององค์กรใหญ่ต่างๆมากล่าวอำลาหลินฮวงทีละคน เหนือสิ่งอื่นใด หลินฮวงถือเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจสุดในโลกกรวดไปแล้ว แถมยังมีขัตติยะ หนึ่งในองค์กรใหญ่ภายใต้บัญชา


 


ในยุคสงครามนี้ ขัตติยะนับว่าได้บดบังรัฐบาลกลางจนมิด


 


หลังซุนโจว หัวหน้าตุลาการของพวกนอกรีตมาทักทายหลินฮวง เขาก็เรียกรวมลูกน้องทั้งหมด ออกจากขอบเหวนรกชั้นสามไป


 


เมื่อพวกเขากลับไปขอบเหวนรกชั้นสอง เกาหยาก็อดพูดไม่ได้


 


“ข้ารู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่าเซี่ยหยูทำผิดพลาดมากที่ดึงหลินฮวงมาเข้าร่วมกับเราไม่ได้ในตอนนั้น!


“จริง ถ้าหลินฮวงคือหัวหน้าตุลากรของนอกรีต มันคงไม่ใช่ขัตติยะที่เฉิดฉาย แต่เป็นเรา!”โจวตงพูดขณะยังแคะขี้มูก


 


“เห้ย พอแค่นั้นแหละ กล้ามาพูดแบบนี้ต่อหน้าข้าได้ยังไง?”ใบหน้าของโจวตงบิดเบีเยว


 


“ถ้าหลินฮวงเป็นหัวหน้าเรา ข้าคิดว่าเราคงสามารถย้ายศูนย์ใหญ่เข้ารังนั่นได้ คิดดูสิว่ามันจะสุดยอดแค่ไหนถ้ามีองครักษ์แมลงระดับเทพเสมือนเป็นล้าน!ไม่ใช่แค่นั้น ไม่ว่าเจ้าจะอยากไปไหน เจ้าก็สามารถไปได้ด้วยรังนั่น ทุกคนต้องอิจฉาเรา”โจวตงไม่สนใจซุนโจว


 


“ข้าคิดว่ามอนสเตอร์อัญเชิญผมขาวนั่นหล่อมาก ข้าจะย้ายโต๊ะทำงานไปข้างเขา ต่อให้ข้าต้องนั่งในห้องทำงานทุกวัน ข้าก็เต็มใจ”หลังแสดงความคิดเห็นนี้ เกาหยาก็หันไปมองซุนโจว”ข้าคิดว่าเจ้าควรไปศัลยกรรมหน้า แต่งงานกับคนจากขัตติยะ…”


“เงียบบบบ!”ซุนโจวคำราม



บนขอบเหวนรกชั้นสาม องค์กรใหญ่ทั้งหมดต่างมาอำลาหลินฮวงก่อนจากไป


 


หลินฮวงเรียกรังและมอนสเตอร์อัญเชิญกลับ หลังคนจากผู้ปลดปล่อยกลับไป เขาก็กลับไปเมืองจักรพรรดิรวมถึงคนจากขัตติยะ


 


อู่โม่กลับไปเกาะลอยฟ้าชั่วคราว


 


หลินซวนตามหลินฮวงกลับไปเมืองจักรพรรดิ


 


หลังขอให้หวงเทียนฟู่ช่วยหลินซวนหาที่พัก หลินฮวง คุณฟู่และพวกเบื้องบนของทั้งขัตติยะกับผู้ปลดปล่อยก็ทำการประชุมผ่านวิดิโอ


 


หลินฮวงอธิบายถึงนิกายพันงูและวังเผ่าหมื่นคณนานับ เขายังแจ้งทุกคนถึงวิกฤต


 


หลังพบข้อมูลเกี่ยวกับวังเผ่าหมื่นคณนานับ ทุกคนที่รู้สึกโล่งใจได้ไม่ถึงชั่วโมงก็พลันรู้สึกกดดันยิ่งกว่าเดิม


 


หลังการประชุม หลินฮวงไปหาหลินซวนก่อน


 


เพราะสงครามในขอบเหวนรก มันจึงมีคำถามมากมายที่เขาไม่สามารถถามหลินซวนได้ แต่ตอนนี้เขามีเวลาแล้ว


 


“ข้ามักสันนิษฐานว่ามันคือองค์กรอื่นที่โคลนเจ้า ไม่คิดเลยว่าจะเป็นรัฐบาลกลาง”


“รัฐบาลกลางได้รับเทคโนโลยีพันธุกรรมจากมิติบรรพกาลกว่าสามร้อยปีก่อน สองปีหลังพวกเขาสำรวจเสร็จ พวกเขาสร้างห้องทดลองพันธุกรรมขึ้น ต่อมา พวกเขาได้รับเทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวข้องจากมิติต่างๆ และฝึกฝนนักวิจัยด้านนี้ จนกระทั่งร้อยกว่าปีก่อน พวกเขาได้รับเทคโนโลยีโคลนนิ่งอีกครั้งจากมิติโบราณใกล้ๆ หลังจากนั้น ทั้งห้องวิจัยก็มุ่งเน้นไปที่ด้านนี้”


“กว่าร้อยปีก่อน พวกเขาทำการทดลองลับๆ มันไม่สำเร็จจนกระทั่ง 11 ปีก่อนที่เทคโนโลยีก้าวหน้าพอจนสร้างผู้บ่มเพาะได้สำเร็จ แปดปีก่อน พวกเขาเริ่มใช้ศพของกึ่งเทพมาเป็นตัวทดลองโคลนนิ่ง ท่ามกลางตัวอย่างเหล่านั้นคือโม่ขุ่ย…”


 


“ระดับความปลอดภัยของห้องวิจัยประเภทนี้สูงมาก มันต้องไม่ด้อยไปกว่าศูนย์ใหญ่รัฐบาลกลาง แล้วเจ้าหนีมาได้อย่างไร?”นี่คือคำถามที่ทำให้หลินฮวงสับสน


 


“ก่อนหน้านี้ ข้ามักคิดว่าข้าหลบหนีมาได้เหมือนกัน จากนั้นข้าจึงกลับไปสถานที่นั้น แค่พบว่าข้าถูกส่งออกมา”


 


“เหตุผลคือห้องวิจัยพบว่าโคลนทั้งหมดไม่มีความสามารถสู้กับมอนสเตอร์ขั้นสูงกว่า ร่างกายเราไม่สามารถผสานกับเมล็ดพันธ์ุชีวิตเพื่อหลุดพ้นได้ นับประสาอะไรกับประกายไฟชีวิต เจ้าหน้าที่วิจัยนับร้อยใช้เวลาหลายปีแก้ปัญหานี้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้”


“ดังนั้น บางคนในห้องวิจัยจึงเสนอการส่งโคลนไปในโลกเพื่อสังเกตการเข้าสังคม พวกเขาอนุญาตให้โคลนใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ดูว่าเป็นไปได้ไหมที่จะวิวัฒนาการ”


“สี่ปีก่อน พวกเขาเลือกโคลนร้อยคนอย่างข้า ปล่อยพวกข้าออกมาสู่โลก”


 


“ร่างโคลนเหล่านี้ปรับตัวได้ แต่่วนใหญ่ปรับตัวเข้ากับตระกูลธรรมดา ไม่ได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะ มีเพียงไม่กี่คน รวมถึงข้าที่ดันเผยพลังชีวิตของผู้บ่มเพาะ แต่นอกจากข้า พลังชีวิตในตัวคนอื่นสลายหายไปอย่างรวดเร็ว และก็ไม่สามารถรวบรวมพลังชีวิตได้เป็นครั้งที่สอง”


 


“มันเป็นหลังข้าพบว่าถ้ามันไม่ใช่เพราะท่านสอนวิชาโจมตีพยุหะให้ข้า ข้าคงไม่สามารถเดินบนเส้นทางผู้บ่มเพาะได้ มีทางเดียวที่ร่างโคลนจะบ่มเพาะได้ก็คือ ท่านต้องเรียนเคล็ดบ่มเพาะที่ร่างกายเดิมคุ้นชิน


 


“เส้นทางบ่มเพาะของร่างกายเดิมข้า โม่ขุ่ยคือวิชาโจมตีพยุหะ และสิ่งที่ท่านสอนข้าดันกลายเป็นวิชาโจมตีพยุหะ ดังนั้น ข้าจึงกลายเป็นผู้บ่มเพาะคนเดียวท่ามกลางโคลนนับร้อย”


 


“แต่ทว่า รัฐบาลกลางคอยสังเกตข้าอยู่ตลอด พวกเขายังรู้ว่าท่านผสานพลังชีวิตให้ข้า ซึ่งช่วยให้ข้าเป็นผู้บ่มเพาะระดับเงินได้ แต่ทว่า เนื่องจากระยะเวลาที่ข้าบ่มเพาะวิชาโจมตีพยุหะนั้นสั้นไป ระดับพลังข้าจึงไม่เลื่อนเป็นระดับทอง ซึ่งทำให้พวกเขาคือว่าเคล็ดบ่มเพาะโบราณไม่ได้ผล นั่นทำให้พวกเขาทิ้งข้าไว้”


 


“ต่อมา หยดเลือดเทพของโม่ขุ่ยที่คุณฟู่ทิ้งไว้ก็เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายของโม่ขุ่ย ตอนนั้น ข้าไม่รู้ว่าข้าคือโคลน ข้าคิดว่าข้าคือโม่ขุ่ย ผู้สามารถคืนชีพได้ด้วยวิธีการบางอย่าง”


“เพราะความทรงจำไม่สมบูรณ์ รวมถึงคำถามมากมาย ข้าจึงอยากออกไปค้นหาความจริง..”


“หลังข้าได้รับเลือดเทพของโม่ขุ่ยและทิ้งท่านไป ในที่สุดข้าก็หลุดพ้นการสังเกตของรัฐบาลกลาง ระดับพลังข้าเพิ่มขึ้นทุกวันและความสามารถข้าก็ยิ่งทรงพลังขึ้น ข้ายังตรวจสอบต้นกำเนิดข้า”


“ในเวลาแค่ครึ่งปี ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือน หลังผ่านไปอีกหกเดือน ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้นสามและในที่สุดก็พบตำแหน่งห้องวิจัยพันธุกรรมของรัฐบาลกลาง”


“ที่นั่น ข้าสู้กับเทพเสมือนที่รับผิดชอบการคุ้มกัน หลังข้าชนะ ข้าก็ได้รู้ความจริงจากปากพวกนักวิจัย”


“หลังจากนั้น รัฐบาลกลางก็ติดต่อข้าหลายครั้งเพื่อเจรจา สุดท้าย เจียงฉานก็มาแจ้งข้าเองถึงวิฤตในโลกกรวดและเสนอเงื่อนไข โน้มน้าวให้ข้าช่วยร่วมมือกับการทดลองต่อๆไป”


“ร่างโคลนเทพเสมือนหลายกลุ่มบนสนามรบถูกสร้างขึ้นด้วยข้อมูลที่ข้ามอบให้…”


หลังได้ยินประสบการณ์ของหลินซวนตลอดหลายปี หลินฮวงก็เงียบไปนานก่อนยื่นมือออกไปวางบนไหล่หลินซวน”เจ้าคงลำบากมามากสินะ”

“เจ้าคิดทำอะไรต่อ?!”หลินฮวงถามอีกครั้ง


 


“ข้าไม่รู้ ตอนนี้ความลับของต้นกำเนิดข้าคลี่คลายแล้ว ข้าไม่มึจุดหมายในชีวิตอีก”หลินซวนส่ายหัวและยิ้มขมขื่น”ถ้าข้ามีเป้าหมาย งั้นมันอาจเป็นการเลื่อนเป็นเทพแท้จริง”


“ทำไมเจ้าไม่ไปมหาพิภพกับเราละ?”หลินฮวงเสนอ”ด้วยระดับพลังเจ้าตอนนี้ มีเพียงแต่การไปมหาพิภพเจ้าถึงเลื่อนพลังได้”


“ซินเอ๋อร์เองก็เป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโลกกรวดอีกต่อไป ครอบครัวเราจะกลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้งในมหาพิภพ”หลินฮวงพูดต่อ”อาจารย์เองก็จะไปมหาพิภพกับเราด้วย เจ้าควรมีความทรงจำเกี่ยวกับเขาในหัวสินะ?”


“อาจารย์..”หลินซวนเงียบไปหลังได้ยิน แน่นอน เขามีความทรงจำของคุณฟู่ คุณฟู่รับเลี้ยงโม่ขุ่ยและเลี้ยงเขามา สำหรับโม่ขุ่ย คุณฟู่เป็นทั้งอาจารย์และพ่อ


 


หลินซวนนึกย้อนตอนเขาพบกับคุณฟู่ในขอบเหวนรก อาจเพราะเขาไม่รู้จักหน้าตาของคุณฟู่ เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ใช่โม่ขุ่ย แต่ ความทรงจำของโม่ขุ่ยก็เหมือนประสบการณ์ชีวิตของหลินซวน ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าคุณฟู่เป็นทั้งอาจารย์และพ่อเหมือนกัน


 


“อย่าคิดมาก แค่ปล่อยให้เป็นไปตามใจต้องการ”หลินฮวงสังเกตเห็นท่าที แต่ทว่า เขายังรู้ว่าคุณฟู่ไม่มีลูก และมันคงไม่พูดเกินจริงที่เขาจะมองโม่ขุ่ยเป็นเหมือนเดิมเพราะเขาเลี้ยงโม่ขุ่ยมาตั้งแต่ยังเป็นทารก เขาย่อมต้องคิดถึงโมขุ่ยตอนเห็นหลินซวน ผู้เหมือนกันทั้งหน้าตาและนิสัย


 


ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองน่าอึดอัดมาก


 


“ข้าอาจยังต้องอยู่ในโลกกรวดสักเดือนหรือสองเดือน หลังจากนั้น ข้าจะพาซินเอ๋อร์กับคนอื่นไปมหาพิภพ”หลินฮวงพูดต่อ”อย่าให้ปมทั้งหมดมัดเจ้าไว้ แค่ปล่อยมันไป”

“งั้นก็ได้”ในที่สุดหลินซวนก็ยอมตกลง


 


เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ได้มีครอบครัวในโลกกรวด อย่างเดียวที่ผูกมัดเขาที่นี่คือหลินฮวงกับหลินซิน


 

 

 


ตอนที่ 1448

 

ในวันเดียวกับที่ทุกคนในขอบเหวนรกกลับไปองค์กรตน ข่าวชัยชนะก็กระจายไปทั่วโลกบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว


 


มีเทพเสมือนจำนวนหนึ่งที่อัปโหลดวิดิโอลงเครือข่ายหัวใจ แม้วิดิโอจะถูกลบโดยหัวใจจักรพรรดิภายในไม่กี่วินาที บางคนก็ยังสามารถดูได้ มีน้อยคนที่จับภาพไว้และแบ่งปันกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลาที่หัวใจจักรพรรดิสามารถกำจัดภาพหน้าจอทั้งหมดออกจากสื่อเหล่านี้ได้ ผู้บ่มเพาะเกือบครึ่งโลกก็เห็นภาพบางส่วนแล้ว


 


ในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน เรื่องเล่าต่างๆนับร้อยก็ถูกสร้างขึ้นตามภาพเหล่านี้ แต่ทว่า จุดสนใจหลักของทุกเรื่องคือจักรพรรดิแห่งขัตติยะที่กลับมาเมื่อหกเดือนก่อน


 


นี่เพราะวิดิโอส่วนใหญ่ที่เผยแพร่บนเครือข่ายหัวใจเป็นของหลินฮวงและสนามรบเทพแท้จริง


นั่นทำให้ภาพหน้าจอหลายส่วนมีหลินฮวงติดอยู่ด้วย


หนึ่งในภาพที่ชัดเจนสุดแสดงให้เห็นฉากที่หลินฮวงเพิ่มตัดหัวงูของเถิงหราน ถือมันไว้เพื่ออ่านความทรงจำ


 


ฉากนี้ถูกตีความในหลายๆเรื่องว่าเป็นการกระทำของหลินฮวงเพื่อประกาศชัยชนะหลังสังหารคู่ต่อสู้


โชคดี มีหลายเรื่องราวและรายละเอียดส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากข้อเท็จจริงนัก ภายใต้การนำของจักรพรรดิแห่งขัตติยะ คนในโลกกรวดได้เอาชนะผู้รุกรานและแก้วิกฤตได้


หลายคนที่ไม่ชอบขัตติยะและหลินฮวงวิจารณ์เรื่องราวเหล่านี้ทันทีว่าไม่เป็นความจริง พวกเขาคาดว่าเรื่องราวคนถูกรวบรวมโดยคนของขัตติยะหรือแฟนๆขัตติยะ เพื่อส่งเสริมขัตติยะและหลินฮวง บางคนยังจงใจตั้งข้อกล่าวหา พยายามกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งระหว่างขัตติยะกับรัฐบาลกลาง ปลุกระดมให้ทุกคนโจมตีขัตติยะกับหลินฮวง


 


แฟนๆของขัตติยะเริ่มตอบโต้ทางออนไลน์ ใส่ไฟคนที่กระจายข่าวลือแบบนี้


ในเวลาไม่นาน สงครามคำพูดออนไลน์ก็โหมกระหน่ำ ในระยะเวลาไม่ถึงวัน มันก็กลืนกินแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมดที่ผู้บ่มเพาะใช้กัน


แม้กระทั่งรัฐบาลกลางกับฟอรั่มภายในของสมาคมนักล่าก็ยังถูกสแปมจากไฟสงคราม


 


แต่ทว่า ถึงแม้สงครามออนไลน์จะดำเนินไปหนึ่งวันเต็ม ยกเว้นหัวใจจักรพรรดิที่ทำการลบไม่หยุด ไม่มีบัญชีอย่างเป็นทางการขององค์กรใดเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย


 


รัฐบาลกลางยังไม่ออกมาชี้แจงสถานการณ์ตลอดทั้งวัน ซึ่งทำให้ทุกคนคาดเดาอย่างคลุมเครือว่าข่าวลือนั้นเป็นจริงหรือไม่


กองกำลังที่โดดเด่นในการต่อสู้ไม่ใช่รัฐบาลกลางหรือสมาคมนักล่า แต่เป็นขัตติยะ?!


 


ขณะที่พายุลูกใหญ่กำลังโหมกระหน่ำบนเครือข่าย หลินฮวงก็ได้นำบุคลากรระดับสูงของขัตติยะไปเมือง1A1ในเขต1-เมืองแรก


นี่คือที่ตั้งศูนย์ใหญ่ของรัฐบาลกลาง


ในห้องประชุม หลินฮวง คุณฟู่ หลินซวน หวงเทียนฟู่และหวงตู้ฟู่ล้วนอยู่กันหมด ทาสดาบสองคนนั่งสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังเก้าอี้ของหลินฮวง พวกเขาคือดาบ101และดาบ102 ระดับพลังจริงของพวกเขาปลดออกมา ซึ่งแสดงพลังของเทพเสมือนขั้น 9


 


ไม่มีใครในห้องกล้าดูถูกพวกเขา


 


ทางฝั่งของรัฐบาลกลาง ประธานาธิบดีแห่งรัฐบาลกลางเจียงฉาน รองประธานาธิบดีตงฟางไป่ หัวหน้าหน่วยลับกวนจง ประธานคณะกรรมการรัฐบาลกลาง จ้าวหลิงหมอง รองประธานคณะกรรมการหรานหนิงและฉิวซู ตัวแทนสื่อมวลชนหานเหยา และบุคลากรระดับสูงเกือบทั้งหมดต่างอยู่กันครบ


 


นอกจากรัฐบาลกลางและขัตติยะ สมาคมนักล่า นำโดยรองประธานอู๋จิงยังพาผู้อาวุโสสามคนมาด้วย


หลินฮวงไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของสมาคมนักล่า


 


กลุ่มคนทักทายกันสั้นๆก่อนเจียงฉานจะเข้าประเด็น


 


“จักรพรรดิหลิน ทุกคนมากันครบแล้ว มาเริ่มจากสิ่งที่ท่านสามารถแบ่งปันได้ก่อน”

หลินฮวงพยักหน้า”ขอข้าคิดก่อนว่าข้าควรเริ่มตรงไหน…”


 


หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้น


 


“นิกายพันงูคือองค์กรชั้น 4 ในแดนเทพของมหาพิภพ สำหรับที่ว่าองค์กรชั้น 4 คืออะไร มันคือองค์กรที่ได้รับการปกป้องโดยเทพแท้จริงขั้นสูงสุด ไม่ใช่แค่นั้น จำนวนเทพแท้จริงจะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยคน และจำนวนเทพเสมือนในองค์กรจะต้องไม่น้อยกว่าหมื่น นิกายพันงูถือเป็นองค์กรที่ค่อนข้างมีอำนาจในหมู่องค์กรชั้น 4”


“ที่นี่ในโลกกรวด ถ้าไม่นับข้า ระดับสูงสุดขององค์กรจะเป็นแค่ชั้น 2 นิกายพันงูสามารถทำลายองค์กรชั้น 2 นับพันได้ง่ายๆภายใต้สถานการณ์ปกติ”


“แต่ทว่า เบื้องหลังนิกายพันงูยังมีองค์กรที่ทรงอำนาจยิ่งกว่านั้น มันคือวังเผ่าหมื่นคณนานับ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรชั้น 6 ระดับสูงของแดนเทพ”


เมื่อได้ยิน สีหน้าของทุกคนก็สลดลง พวกเขาไม่รู้ชัดว่าองค์กรชั้น 6 คืออะไร แต่พวกเขาก็ตระหนักแล้วว่ามันคือยักษ์ใหญ่


 


“จักรพรรดิหลิน ด้วยความสามารถของท่าน มีโอกาสที่จะรับมือกับวังเผ่าหมื่นคณนานับไหม?”ตงฟางไป่อดถามไม่ได้


 


หลินฮวงเหลือบมองตงฟางไป่ ส่ายหัวและยิ้มขมขื่น”ไม่ต้องพูดถึงข้าในปัจจุบัน ต่อให้มอบเวลาให้ข้าอีกปี ข้าก็ไม่มีโอกาสชนะ”


“องค์กรชั้น 5 ที่เหนือกว่าองค์กรชั้น 4 มักได้รับการปกป้องโดยเทพสวรรค์ สำหรับองค์กรชั้น 6 พวกเขาจะได้รับการปกป้องโดยเทพสวรรค์ขั้นสูง และผู้พิทักษ์ก็ย่อมเป็นยอดฝีมือเทพสวรรค์ขั้น 9 ไม่ใช่แค่นั้น จำนวนเทพสวรรค์ยังเกินกว่าร้อย”


 


“ในฐานะองค์กรชั้น 6 ระดับสูง ความสามารถโดยรวมของวังเผ่าหมื่นคณนานับเป็นรองแค่องค์กรชั้น 7 ทั้งห้าเท่านั้น ลือกันว่าในแดนเทพ จ้าววังกับผู้พิทักษ์วังคือยอดฝีมือครึ่งก้าวจ้าวเทวะ เทพยังมีเทพสวรรค์นับพันใต้บัญชา ส่วนเทพแท้จริงก็…”


 


เมื่อพวกเขาได้ยิน สีหน้าของเจียงฉานกับคนอื่น รวมถึงคุณฟู่และหลินซวนจึงบิดเบี้ยว ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลิน

ฮวงถึงบอกว่าความสามารถเขาไม่พอจะสู้กับวังเผ่าหมื่นคณนานับ


 


เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลินฮวงถึงพลังของวังเผ่าหมื่นคณนานับ เจียงฉานก็อดพูดไม่ได้


 


“องค์กรที่สูงส่งอย่างนั้นจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องระหว่างเรากับนิกายพันงูหรือ?”

สีหน้าหลินฮวงเผยให้เห็นถึงความหน่ายใจ”นี่คือสิ่งที่เราต้องพูดกันต่อ”


“เหตุผลว่าทำไมนิกายพันงูถึงโจมตีโลกกรวดเราเพราะพวกเขาทำตามคำสั่งของวังเผ่าหมื่นคณนานับ!’


 


ทันทีที่คำพูดหลุดออกจากปากหลินฮวง บรรยากาศในที่ประชุมก็ลดลงถึงจุดเยือกแข็ง


 


“ทำไม?เราก็แค่โลกกรวดที่กฏไม่สมบูรณ์ ทำไมเราถึงตกเป็นเป้าขององค์กรชั้น 6 ในแดนเทพไปได้?”มันคือคุณฟู่ที่ตั้งคำถาม


 


“ข้าไม่รู้เหตุผลเจาะจง ไม่มีอะไรเลยในความทรงจำของเถิงหราน”หลินฮวงส่ายหัว” แต่ทว่า จากความทรงจำของเถิงหราน ข้ารู้ว่าทุกครั้งที่ยุคการบ่มเพาะของโลกกรวดถูกทำลาย มันจะถูกสั่งการโดยวังเผ่าหมื่นคณนานับ โดยมีนิกายพันงูเป็นเครื่องมือ”

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตั้งแต่ต้น ความขัดแย้งระหว่างเรากับนิกายพันงูเป็นความขัดแย้งระหว่างเรากับวังเผ่าหมื่นคณนานับ!”


 


ในห้องประชุม หัวใจของทุกคนค่อยๆดำดิ่ง


 


“เนื่องจากการรุกรานของนิกายพันงูล้มเหลว นั่นหมายความว่าวังเผ่าหมื่นคณนานับจะต้องส่งคนมาเองสินะ?”หลินซวนถาม


“ถูกต้อง’หลินฮวงพยักหน้า”ทุกครั้งที่นิกายพันงูกำจัดโลกขนาดเล็กสำเร็จ มันจะใช้เวลาประมาณหนึ่งปี ไม่เกินไปกว่าหนึ่งปีสามเดือน ตอนนี้มันก็สองเดือนแล้วตั้งแต่ที่พวกเถิงหรานได้รับคำสั่ง กล่าวอีกทางก็คือ ในหนึ่งปีหนึ่งเดือน วังเผ่าหมื่นคณนานับจะได้รับข่าวว่าเถิงหรานล้มเหลว”


 


คำพูดของหลินฮวงทำให้ทุกคนตกอยู่ในความสิ้นหวัง


สิ่งนี้แตกต่างจากการรุกรานของนิกายพันงู ถ้าวังเผ่าหมื่นคณนานับลงมือเองจริงๆ แม้กระทั่งหลินฮวงก็คงไม่สามารถเปลี่ยนกระแสได้ ชะตากรรมของโลกกรวดคงถูกกำหนด


 


“หลินฮวง ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้จริงหรือ?”คุณฟู่ลืมการเรียกเขาว่าศิษย์รัก และใช้ชื่อเขาแทน


 


“สิ่งเดียวที่ข้าสามารถคิดได้คือการทำลายอุโมงค์มิติทั้ง 33 จุดในขอบเหวนรก ข้าไม่ได้พูดถึงการปิดผนึกพวกมัน แต่เป็นการทำลายพวกมันไม่ให้เหลือ!แม้นี่จะไม่ใช่ทางแก้ปัญหา อย่างน้อยก็ช่วยซื้อเวลาให้เราได้บ้าง”


 


“แต่ทว่า ข้อแม้ก็คือ วังเผ่าหมื่นคณนานับต้องไม่มีพิกัดเจาะจงของโลกกรวดเรา แบบนั้น มันจะเป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะสร้างอุโมงค์มิติขึ้นมาใหม่”


“แต่ถ้าพวกเขามีพิกัดมิติเรา มันก็ไม่สำคัญว่าเราจะทำลายอุโมงค์มิติ ประมาณคร่าวๆ มันอาจทำให้ล่าช้าออกไปได้แค่ไม่กี่เดือน และในไม่ช้าพวกเขาก็จะสร้างอุโมงค์ขึ้นใหม่ได้”


 


“เรามาตั้งคำถามกันก่อนว่าพวกเขามีพิกัดมิติเราหรือไม่ กฏมิติภายในสำหรับอุโมงค์มิติเหล่านี้เสถียรมานานแล้ว ถ้าสามารถทำลายได้จริงๆ บรรพบุรุษเราคงทำไปนานแล้ว”เจียงฉานถอนหายใจ


 


“เจ้าทำได้ไหม?”คุณฟู่ถามหลินฮวง


“ข้าลองแล้ว แต่มันไม่ได้ผล”หลินฮวงส่ายหัว”ถ้าข้าทำได้ ข้าคงทำลายพวกมันไปนานแล้วและตัดเส้นทางก่อนนิกายพันงูจะบุกรุก”


“ข้าขอให้พวกท่านเข้าร่วมการประชุมนี้เพื่อหารือว่ามีทางออกแก้ปัญหาวังเผ่าหมื่นคณนานับกันไหม มันไม่สำคัญว่าจะทำลายอุโมงค์มิติได้หรือไม่ ทุกคนต้องระดมความคิดและแบ่งปันสิ่งที่คิด ต่อให้จะมีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยก็ต้องแบ่งปัน!”


 


ในห้องประชุม ทุกคนเงียบไป ราวกับพวกเขากำลังคิดถึงทางออก


ทันใดนั้น แหวนหัวใจจักรพรรดิของเจียงฉานก็สั่น


 


เขาก้มมองด้วยความแปลกใจ ชัดเจนว่าเขาปิดสัญญาณสื่อสารไปก่อนเริ่มประชุม


แต่ทว่า เมื่อเขาเห็นหมายเลขที่ปรากฏ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป


 


“ขอโทษด้วย ข้ามีธุระ”


 


ทันทีที่เขาพูด เจียงฉานก็ลุกออกห้องประชุมไป


 


เขาปิดประตูห้องประชุม จากนั้นก็กดดูข้อความที่เพิ่งส่งมา


หลังอ่าน สีหน้าเขาก็ยิ่งสับสน


 


เจียงฉานปิดหน้าข้อความและยืนนิ่ง พิจารณาสักพัก จากนั้นก็เปิดประตูห้องประชุมอีกครั้ง


สายตาเขากวาดผ่านทุกคน หยุดที่หลินฮวง


 


“จักรพรรดิหลิน ข้ามีเรื่องที่ต้องการให้ท่านมากับข้า”


เมื่อเขาเห็นสองทาสดาบเตรียมลุกขึ้นยืน เจียงฉานก็กล่าวเสริม”คนอื่นสามารถรอที่นี่ได้ เราจะกลับมาในไม่ช้า”


 


หลินฮวงพยักหน้าให้ทาสดาบ ส่งสัญญาณให้พวกเขานั่งลง จากนั้นก็พยักหน้าให้คุณฟู่ ลุกขึ้นยืน เดินไปหาเจียงฉาน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)