Monster Paradise 1445-1446
ตอนที่ 1445
เถิงหรานงอตัว ทำให้ตัวเองเล็กลง ปีกเขายังกระพือ หลบสายฟ้าสีแดงเลือดที่เข้าหาจากทุกทิศทาง
ร่างเดิมเขาใช้พลังกฏเทพได้ราบรื่นขึ้น
ถ้าถูกบังคับ เขาสามารถผสมการตรัสรู้ธาตุและส่งผลต่อวิถีของมีดบินพลังจิตได้ แต่ผลกระทบก็น้อยมาก
ถึงกระนั้น ความแตกต่างระหว่างความสามารถเขากับหลินฮวงก็ยังสูงเกิน เหมือนเดิม เขาถูกครอบงำ
หลินฮวงไม่ตื่นตระหนกเลยและรักษาจังหวะการต่อสู้เดิม จำนวนกฏที่รวมอยู่ในมีดบินยังไม่เปลี่ยน แต่ลำแสงสีแดงที่พุ่งจากแขนเสื้อเขายังเพิ่มขึ้น
เดิมที มันแค่มีดบินสี่พันเล้ม แต่ก็เพิ่มขึ้นเป็นห้าพัน หกพันอย่างรวดเร็ว…
มีดบินแต่ละเล่มเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือด ยิงออกไปเหมือนเลเซอร์ ลากเส้นริ้วจำนวนนับไม่ถ้วนข้ามอากาศ พุ่งเข้าหาเถิงหรานเหมือนตาข่าย
ตรงกันข้าม เถิงหรานเหมือนแมลงวันตัวน้อยที่บินผ่านอาณาจักรที่ปกคลุมด้วยหยากไย่
เมื่อจำนวนมีดบินเพิ่มเป็นหมื่นเล่ม ลำแสงสีแดงเลือดที่ทิ้งไว้ในอากาศทุกเส้นไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าที่ฟาดใส่เถิงหราน
ในเวลาเดียวกัน ตาข่ายลากที่หลินฮวงทอก็เป็นรูปร่าง ผนึกทางหนีของเถิงหรานจนหมด กักเขาไว้ในพื้นที่ทรงกลม
ฉากนี้ทำให้ทั้งนิกายพันงูกังวลอย่างมาก เมื่อเห็นเถิงหรานถูกปิดล้อม ทุกคนก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
ครั้งนี้ มันคือร่างเดิมของเถิงหรานที่ถูกขัง เขาไม่สามารถใช้ความสามารถเทวะเพื่อลอกคราบได้เป็นครั้งที่สอง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าร่างเดิมเขาตาย คงไม่มีความเป็นไปได้ที่จะคืนชีพอีก
ในอากาศ พื้นที่ทรงกลมสีเลือดก่อตัวโดยมีดบินพลังจิต มันยิ่งหดเล็กลงเรื่อยๆ
เถิงหรานบินไปตามขอบทรงกลมด้วยความเร็วสูง เขาพยายามหาจุดที่อาจใช้เป็นช่องโหว่ได้ แต่ไม่พบเลย
เมื่อเขาเห็นว่าพื้นที่ทรงกลมที่เกดิจากมีดบินยิ่งหดเล็กลง เถิงหรานก็เร้งความเร็ว พุ่งใส่จุดสุ่มๆ เพียงเมื่อหลินฮวงรู้สึกสับสน ร่างของเถิงหรานก็พลันหดเล็กลง กลายเป็นขนาดเท่ายุง ด้วยหอกทองที่ลอยอยู่ตรงหน้า เขาพุ่งหาช่องว่างระหว่างมีดบินสองเล่ม
หอกที่ประกอบไปด้วยพลังกฏเทพระดับควบคุม 11 ชนิดแทงไปข้างหน้า ปลายหอกเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองพราว พุ่งใส่จุดเชื่อมต่อพลังงานระหว่างมีดสองเล่ม
วินาทีต่อมา ลำแสงสีทองก็เจาะผ่านบอลสายฟ้าสีแดงเลือด ทำให้เกิดรอยแยกในทรงกลมสีแดงที่สร้างขึ้นด้วยมีดบิน
“หือ?!”เมื่อเขาเห็น หลินฮวงก็อดอุทานด้วยความประหลาดใจไม่ได้ การโจมตีของศัตรูเป็นกลเม็ดของหมาจนตรอก ทำให้เขามีโอกาสสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ทว่า ความแปลกใจของหลินฮวงนั้นเกิดขึ้นชั่วขระ และมุมปากเขาก็ยกยิ้มขึ้น
เถิงหรานไม่ลีลา และออกแรงมากขึ้น เร่งความเร็วขึ้น พุ่งผ่านรอยแยกในทรงกลม
ขณะที่เขากำลังจะหลบหนีต่อ เขาก็พบว่ามีร่างหนึ่งได้ปรากฏตรงหน้าเขาแล้ว
เขาจับจ้องร่างนี้ รู้สึกถึงความหนาวสั่นที่วิ่งผ่านร่าง มันคือหลินฮวงที่ขวางทางเขา
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าหลินฮวงปรากฏตัวตอนไหน
ความตกใจของเถิงหรานปรากฏแค่ชั่วขณะก่อนกลายเป็นตระหนัก
‘เขาคือผู้ใช้พลังจิต เขาต้องเชี่ยวชาญการโจมตีระยะกลางถึงไกลเท่านั้น เขามั่นใจว่าเขาอ่อนแอในการต่อสู้ระยะประชิด แต่การต่อสู้ระยะประชิดคือความถนัดของข้า ตราบเท่าที่ภัยคุกคามของมีดบินเหล่านี้ถูกกำจัด เขาก็ไม่มีอะไรน่ากลัว!’
ด้วยความคิดนี้ ความกล้าของเถิงหรานจึงกลับคืนมา
ร่างของเขาพลันกลับเป็นขนาดปกติ หอกทองลอยตรงหน้าเขา เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อโจมตีหลินฮวง
ในชั่วพริบตา หอกก็เต็มไปด้วยพลังกฏเทพ
ด้วยการโจมตีนี้ เถิงหรานไม่ได้รวมแค่พลังกฏเทพระดับควบคุม แต่ยังใส่กฏเทพทั้งหมด 67 ประเภทที่เขาใช้ได้
ในชั่วพริบตา เขาโยนตัวเองเข้าหาศัตรู หอกเขาพุ่งผ่านอากาศจากระยะห่างตัวหลินฮวงไม่ถึงเมตร ทุกที่ที่ปลายหอกเจาะผ่าน มันดูเหมือนมิติเวลาจะแหลกสลาย
เมื่อเถิงหรานเห็นหลินฮวงยังสวมสีหน้าเฉยชาตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็คิดว่ามันเพราะระยะห่างนั้นใกล้เกินไป และความเร็วของการโจมตีเขาคงเร็วจนหลินฮวงไม่สามารถควบคุมมีดบินได้ทัน
แต่ทว่า วินาทีที่หอกเขาแทงไปข้างหน้า เถิงหรานก็สังเกตเห็นฝักดาบสีเลือดปรากฏในมือหลินฮวง
‘คมดาบละ?’ความสงสัยผุดขึ้น เขาพลันรู้สึกถึงความเย็นจากคอ
เมื่อเขามองหลินฮวงอีกครั้ง เขาก็ตระหนักว่าคมดาบเป็นดาบสีเงินแคบ และมันก็ย้อมด้วยเลือดสีแดงทอง
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหน”ดาบในมือหลินฮวงค่อยๆสลายหายไป เขามองเถิงหรานด้วยสายตาสงสาร
นี่ยังเป็นคำพูดสุดท้ายที่เถิงหรานได้ยินก่อนสติเขาจะเลือนหยาไป
หัวของงูยักษ์ค่อยๆเลื่อนหลุด และศพไร้หัวก็ล้มลง
ด้ายพลังจิตของหลินฮวงพุ่งผ่านอากาศและศพไร้หัวก็ถูกเก็บไว้ในมิติเก็บของเขา แต่ทว่า ด้ายอีกเส้นกลับแขวนหัวของเถิงหรานไว้ตรงหน้าหลินฮวง ขนานกับหัวเขาเอง
เมื่อหลินฮวงจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าคล้ายเพชรในหัวงู รูม่านตาเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
กฏเทพระดับควบคุม การอ่านสมองถูกใช้ทันที
การอ่านสมองคือกฏเทพประเภทที่ดีสุดในการอ่านความทรงจำของสมองที่ยังไม่ตายอย่างสมบูรณ์ แต่ได้เสียพลังปกป้องตัวเองไปแล้ว
นี่ทำให้หลินฮวงไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตเถิงหราน
ไม่เหมือนมองใจ ซึ่งตรวจสอบระดับของวิญญาณในช่วงเวลาของอาณาจักรวัตถุ การอ่านสมองต้องใช้เวลาเฉพาะเจาะจง
หลินฮวงรอให้แถบความคืบหน้าการอ่านสมองค่อยๆเพิ่มขึ้นขณะมองการแจ้งเตือนที่เสี่ยวเฮยเพิ่งส่งมา
“ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ ท่านได้รับการ์ดมอนสเตอร์สมบูรณ์ เถิงหราน(กึ่งเทพสูงสุด)
‘ได้รับการ์ดมอนสเตอร์?!’หลินฮวงแปลกใจเล็กน้อยและรีบตรวจสอบการ์ด
“การ์ดมอนสเตอร์ : เถิงหราน”
“ความหายาก : เทพสูงสุด(เทียม)”
“ชื่อมอนสเตอร์ : เถิงหราน”
“ประเภทมอนสเตอร์ : เผ่างูกลายพันธ์/เผ่างูมีปีก”
“สายเลือด : งูปีศาจ(ยังไม่ตื่น)”
“ระดับพลัง : เทพแท้จริงขั้น 6 (เทพแท้จริงขั้น 9 )
“วิชาหลัก : เต๋าหอก การตรัสรู้ธาตุลม การตรัสรู้ธาตุน้ำ”
“ทักษะหลัก : หอกสังหารเทพ พายุถล่มเทพ..”
“ทักษะรอง : ทะเลลวงตา..”
“เต๋าหอก : ระดับแก่นราก”
“กฏเทพ : แหลม…”
“การตรัสรู้ธาตุ : ลมพายุ ทะเลความพิโรธ..”
“สิทธิ์การอัญเชิญ : ทำงาน”
“หมายเหตุการ์ด : ฝึกได้!”
“หมายเหตุ : แนะนำให้เริ่มการฝึกด้วยการทำให้สายเลือดสัตว์อสูรบริสุทธิ์”
เมื่อเขาเห็นว่ามีทักษะนับร้อยในช่องทักษะของเถิงหราน แม้กระทั่งช่องพลังกฏเทพก็ยังแน่นหนา หลินฮวงก็รู้สึกเหมือนได้รับโชค
เสี่ยวเฮยยังให้หมายเหตุถึงทิศทางการฝึกอบรน เห็นได้ชัดว่าการ์ดเถิงหรานนั้นดี
‘ถ้าสัตว์อสูรมีศักยภาพบรรลุชั้น 6จริงอย่างที่แผ่นหินพูด งั้นเถิงหรานก็ต้องได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม!’
หลินฮวงเริ่มวางแผนเงียบๆถึงวิธีการฝึกเถิงหราน…
ตอนที่ 1446
มันใช้เวลาเกือบห้าหรือหกนาทีเพื่ออ่านความทรงจำของเถิงหราน
หลินฮวงเก็บหัวงูลงไป จากนั้นก็เริ่มค้นหาคำตอบที่เขาต้องการภายในความทรงจำของเถิงหราน
เขาใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเพื่อหาข้อมูลเฉพาะของนิกายพันงู
นิกายพันงูคือชั้น 4 ในแดนเทพ
ผู้ก่อตั้งคือเถิงหุ่ย ปู่ทวดของเถิงหราน ตอนนั้น เถิงหุ่ยเพิ่งเลื่อนเป็นเทพแท้จริง และนิกายพันงูก็เป็นแค่องค์กรชั้น 2 เท่านั้น
หลังนิกายพันงูก่อตั้งขึ้น มันไม่เห็นการพัฒนาเป็นเวลาหลายปี และระดับพลังของเถิงหุ่ยก็เลื่อนช้ามากเช่นกัน
ตอนนี้ วังเผ่าหมื่นคณานับเพิ่งเลื่อนเป็นองค์กรชั้น 6 พวกเขาเริ่มรับสมัครคนและขยายตัว
องค์กรชั้น 2-5 เกือบทั้งหมดคือตัวเลือกที่ดี
ทันทีที่เถิงหุ่ยได้รับข่าว เขาก็สมัครเข้าร่วม และนิกายพันงูก็เป็นองค์กรในเครือภายใต้วังเผ่าหมื่นคณนานับได้สำเร็จ ผ่านผลประโยชน์ชุดแรกที่วังเผ่าหมื่นคณนานับออกให้ เขาสามารถเพิ่มระดับพลังเขาเป็นเทพแท้จริงขั้น 3ได้สำเร็จ
ไม่นานหลังเลื่อนระดับพลัง บุคลากรชั้นสูงของวังเผ่าหมื่นคณนานับก็มาหาเขาและมอบหมายภารกิจให้นิกายพันงู
งานนี้คือกำจัดโลกขนาดเล็กหมายเลข 4815162342!
โลกขนาดเล็กนี้ที่ถูกกำหนดให้เป็นเลข 4815162342คือโลกกรวดปัจจุบันที่หลินฮวงอยู่ แต่ในยุคสมัยนั้น กฏของโลกกรวดสมบูรณ์กว่าตอนนี้ มันถึงขั้นให้กำเนิดเทพแท้จริงได้
เพื่อรับรองว่านิกายพันงูจะทำภารกิจได้สำเร็จ สมาชิกลึกลับคนนั้นของนิกายพันงูยังส่งเทพแท้จริงขั้น 9 มาหนึ่งร้อยคนเพื่อช่วยเหลือเถิงหุ่ยในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้
แม้เถิงหุ่ยจะรู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับภารกิจนี้ เขาก็ยังยอมรับมัน
ภารกิจดำเนินต่อไปโดยไม่ติดขัด ด้วยความช่วยเหลือของเทพแท้จริงขั้น 9 ร้อยคน นิกายพันงูใช้เวลาไม่ถึงสิบวันในการบรรลุภารกิจกำจัดผู้บ่มเพาะทั้งหมดในโลกขนาดเล็ก
แต่ทว่า บางสิ่งกลับเกิดขึ้นภายหลัง
บุคลากรระดับสูงคนเดิมออกจากหาเถิงหุ่ยและบอกเขาว่าอย่าบอกใครเกี่ยวกับภารกิจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ดำเนินกับโลกขนาดเล็กหมายเลข 4815162342 ในไม่ช้าเถิงหุ่ยก็พบว่าทุกคนในนิกายพันงูจำจำนวนและพิกัดของโลกนี้ไม่ได้เลย
แม้เถิงหุ่ยจะรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องแปลกมาก เขาก็ไม่กล้าตรวจสอบเรื่องนี้
สำหรับวังเผ่าหมื่นคณนานับ ไม่มีใครแน่ใจว่ามันเพราะเถิงหุ่ยเชื่อฟังคำสั่งหรือด้วยเหตุผลอื่น แต่โลกขนาดเล็กหมายเลข 4815162342ถูกจัดให้เป็นอาณาเขตภายในนิกายพันงูไป โลกขนาดเล็กอื่นหลายแห่งและโลกกรวดยังถูกจัดมอบให้นิกายพันงูดูแล
งานดูแลโลกขนาดเล็ก 4815162342 ตกเป็นของเถิงหุ่ยเช่นกัน
เถิงหุ่ยตั้งระบบแจ้งเตือน ตราบเท่าที่จำนวนเทพแท้จริงในโลกขนาดเล็กเกินสิบคน หรือจำนวนของเทพเสมือนเกินสามร้อย เขาจะนำกลุ่มลงไปกวาดล้าง
หลังผ่านการกำจัดหลายครั้ง ทรัพยากรมากมายก็ถูกปล้นชิง
โลกขนาดเล็ก 4815162342 เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นโลกกรวดที่กฏไม่สมบูรณ์
…
“วังเผ่าหมื่นคณนานับ-โซส…”
ตามความทรงจำของเถิงหราน ความประทับใจที่เถิงหุ่ยมีต่อบุคคลลึกลับในวังเผ่าหมื่นคณนานับมีแค่ชื่อ’โซส’ ไม่มีอะไรอื่นที่เขารู้อีก
นี่เพราะบุคคลนั้นมักสวมเสื้อคลุมสีดำตัวหลวม ซึ่งซ่อนทุกอย่างไว้ภายใต้
แต่ทว่า เถิงหุ่ยมีการคาดเดาคลุมเครือเกี่ยวกับตัวตนของบุคคลนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาอาจเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งวังเผ่าหมื่นคณนานับ
“ทำไมองค์กรชั้น 6 ถึงสนใจโลกกรวดของเราเป็นพิเศษ-โดยเฉพาะกับคนที่อาจจะเป็นครึ่งก้าวจ้าวเทวะอย่างเขา?”
ด้วยความสงสัยนี้ หลินฮวงจึงขุดลึกในความทรงจำของเถิงหราน
หลังค้นหาอยู่กว่าสิบนที เขาก็พบคำตอบสำหรับคำถาม
แม้เถิงหุ่ยจะไม่กล้าพอตรวจสอบความจริงเพิ่มเติม แต่ปู่ของเถิงหรานก็ยังอยากรู้ถึงปัญหานี้และทำการสืบสวนลับๆอยู่หลายปี
สุดท้าย ตามข้อสรุปของการสืบสวนต่างๆ ปู่ของเถิงหรานเดาว่าโลกขนาดเล็ก 4815162342น่าจะเป็นแก่นโลกที่เทพสวรรค์ทิ้งไว้หลังตาย หรืออาจจะเป็นครึ่งก้าวจ้าวเทวะ ยิ่งไปกว่านั้น เทพสวรรค์หรือครึ่งก้าวจ้าวเทวะผู้นี้อาจมีความสัมพันธ์เป็นปฏิปักษ์กับวังเผ่าหมื่นคณนานับ บุคคลชุดดำจึงมีความไม่พอใจส่วนตัวกับโลกขนาดเล็ก
เขาเลือกกำจัดผู้บ่มเพาะในโลกขนาดเล็กนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ไม่ทำลายทั้งโลกหรือเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมด จุดประสงค์นี้เพื่อให้ลูกหลานของศัตรูสร้างความหวังขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ถูกทำลายทุกครั้ง
เถิงหรานยังทำการสืบสวนตามเบาะแสที่ปู่เขาทิ้งไว้ แต่ทว่า เขาก็ไม่คืบหน้ามากนัก เขาจึงล้มเลิกความพยายาม แต่ทว่า การคาดการณ์ของเขาคล้ายกับปู่เขา
ด้วยความสามารถที่วังเผ่าหมื่นคณนานับครอบครอง-หรือแม้แต่ความสามารถของบุคคลชุดดำ การทำลายโลกขนาดเล็กหรือแม้แต่โลกกรวดนั้นง่ายเหมือนกับการดีดนิ้ว ไม่จำเป็นต้องมาเล่นฉากทรมานแบบนี้เลย
หลินฮวงไม่คิดมาก่อนว่าคำตอบสุดท้ายจะเป็นเช่นนี้
จากนั้น บางทีมันอาจแค่ความคับแค้นใจส่วนตัว ที่ฉุดยุคบ่มเพาะของโลกกรวดไปสู่ความทุกข์ทรมานจากการสูญพันธุ์หลายครั้ง เป็นเวลานับล้านปี
จากมุมมองทางจิตวิทยา หลินฮวงพบว่ามันยากที่จะยอมรับข้อสรุปนี้
“บางทีความจริงอาจมีแค่โซสจากวังเผ่าหมื่นคณนานับถึงรู้”หลินฮวงได้ตัดสินใจแล้วว่าสักวัน เขาต้องหาเหตุผลที่แท้จริงจากโซสให้ได้
หลินฮวงไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอนสำหรับคำถามสำคัญสุด ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยมันไป เขากลับหาคำตอบสำหรับคำถามสำรองอื่นแทน
มันใช้เวลาอีกสิบนาทีเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่ได้รับจากเถิงฉิงก่อนหน้านี้ถูกต้อง มันคือความจริงที่เทพเสมือนและเทพแท้จริงทั้งหมดของนิกายพันงูได้ลงมาโลกกรวด และยังมีเวลาอีกกว่าหนึ่งปีก่อนรายงานใดๆจะถูกส่งกลับไปวังเผ่าหมื่นคณนานับ หลินฮวงรู้สึกโล่งใจขึ้น
‘ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็สามารถจัดการให้จบได้แล้ว’หลังยืนยันว่าไม่มีปลาตัวอื่นเล็ดลอดผ่านตาข่าย หลินฮวงก็รู้สึกว่ามันได้เวลาจบสงคราม
สิ่งนี้ทำให้จิตใจเขาผ่อนคลายเล็กน้อย สายตาเขากวาดไปทั่วสามพื้นที่ของสนามรบเทพแท้จริง
พริบตาต่อมา มีดบินพลังจิตหมื่นเล่มที่เคยล้อมเถิงหรานก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือด ยิงไปสามทิศทาง มุ่งตรงไปสนามรบเทพแท้จริงทั้งสาม
ต่อมา สายฟ้าสีแดงเลือดก็ปกคลุมท้องฟ้าครึ่งหนึ่ง
อึดใจต่อมา ผู้รุกรานระดับเทพแท้จริงทั้งหมดก็ถูกตรึงด้วยสายฟ้าสีแดงเลือด พลังชีวิตพวกเขาถูกเผาผลาญทันที
มันไม่สำคัญว่าจะเป็นขั้นหนึ่งหรือเก้า การโจมตีเดียวนี้มากพอจะฆ่าทั้งหมด
สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีดบินทุกเล่มของหลินฮวงมีพลังกฏเทพระดับควบคุมถึง 11 ชนิด พลังของแต่ละการโจมตีเกือบเทียบเท่ากับการโจมตีเต็มแรงของเถิงหราน หรืออาจเหนือกว่า
เมื่อถูกปิดล้อมด้วยพลังเช่นนั้น เทพแท้จริงของนิกายพันงู รวมถึงสายพันธุ์อันเดทและวิญญาณจากมิติอันเดทจึงไม่สามารถต่อต้านได้เลย
พวกเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย รวมถึงการหลบ
แม้กระทั่งสายตาของเทพแท้จริงขั้น 9ก็ยังตามความเร็วของมีดบินไม่ทัน รวมถึงยังเร็วจนจิตเทวะของพวกเขาไม่สามารถส่งข้อมูลกลับมาสมองได้ทัน
ในความว่างเปล่า ศพเทพแท้จริงล้มลงกับพื้นทีละคน
ทุกคนในโลกกรวดเฝ้าดูด้วยความตกตะลึง และผู้รุกรานต่างก็ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง
เมื่อทาสดาบและมอนสเตอร์ของหลินฮวงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกมันก็หันหลัง พุ่งใส่สนามรบเทพเสมือน
สนามรบที่ติดชะงักพลันถูกทำลาย
ผู้รุกรานระดับเทพเสมือนตายโดยไม่อาจต่อต้าน…
หลินฮวงไม่นิ่งเฉย เขาเรียกแมลงไททันออกมาห้าตัวที่กระทืบใส่สนามรบเทพเสมือน…
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น