Monster Paradise 1441-1442

ตอนที่ 1441

 

มองใจ

ในความมืดมิดไม่รู้จักจบสิ้น ใบหน้าขนาดมหึมาที่บดบังแสงแดดโผล่ขึ้นมาช้าๆ หญิงสาวขายาวระงับกลิ่นอายนางให้มากที่สุด และขดตัวแน่น หวังว่าใบหน้านั้นจะไม่สังเกตเห็นนาง


 


แต่ทว่า พริบตาต่อมา ดวงตาของใบหน้านั้นก็จับจ้องาที่นาง


 


ตอนนั้น นางรู้สึกราวกับเวลาถูกหยุดนิ่ง นางไม่สามารถขยับร่างกายได้ ไม่แม้แต่นิ้ว


 


“ข้าจะถามคำตอบเจ้า จงตอบมา”


 


เมื่อใบหน้าใหญ่พูด หญิงสาวขายาวก็ตระหนักว่านางสามารถขยับตัวได้บ้างแล้ว และรีบพยักหน้า ตอนนี้ จิตใจนางถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัว ไม่มีความคิดอื่นใดผสมปน


 


“เจ้าเป็นใคร?”

“ข้า…เถิงฉิง ข้าคือรองผู้นำนิกายพันงู เรามาจากนิกายพันงู”


 


‘นิกายพันงู…’หลินฮวงไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ เขารู้สึกว่ามันอาจไม่ใช่องค์กรใหญ่’ข้าควรให้พวกเจ้าแดงตรวจสอบทีหลัง’


 


“ทำไมเจ้าถึงรุกรานโลกกรวด”ใบหน้าใหญ่ถามต่อ


 


วังเผ่าหมื่นคณนานับสั่งมา ข้าไม่รู้รายละเอียดเจาะจง มีเพียงผู้นำนิกายถึงบอกได้”

“วังเผ่าหมื่นคณนานับ?!”หลินฮวงคุ้นชื่อนี้ วังเผ่าหมื่นคณนานับคือหนึ่งในองค์กรชั้น 6 ในแดนเทพพลังโดยรวมนั้นไม่ได้เป็นรองเคียวแห่งความตายเลย


 


“ใครคือผู้นำนิกายเจ้า?”

“พี่ชายข้า เขาชื่อเถิงหราน”ก่อนจะตอบคำถามนี้ เถิงฉิงพยายามอย่างหนักเพื่อเลี่ยงการตอบ แต่ทว่า นางก็พบว่านางไม่มีวิธีต่อต้านเลย ไม่ว่าคำถามใดที่ใบหน้าใหญ่ถาม นางจะตอบมันตรงๆ ราวกับนางเป็นหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์


 


สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือหลินฮวงได้ใช้กฏเทพที่เรียกว่ามองใจที่ช่วยให้เขาอ่านข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการได้จากวิญญาณเป้าหมาย


 


สถานการณ์นี้เป็นแค่ภาพลวงตา ในความเป็นจริง หลินฮวงไม่ต้องการให้นางเปิดปากตอบ วิญญาณนางจะตอบคำถามทั้งหมด


 


แต่ทว่า กฏเทพนี้สามารถใช้ได้แค่กับคนที่อ่อนแอกว่า


 


เถิงเฉิงตรงตามเกณฑ์อย่างสมบูรณ์แบบ แม้นางจะมีกฏเทพากกว่าสามสิบประเภท นางก็ไม่ได้เชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์  เมื่อเผชิญหน้ากับผลกระทบจากกฏเทพสะกดจิตร่วมกับกฏเทพมองใจระดับควบคุม นางจึงทำอะไรไม่ได้ลย


 


หลินฮวงเลือกเถิงฉิงเพราะเขาสามารถสัมผัสได้ว่าในหมู่เทพแท้จริงขั้น 9 ความผันผวนกฏจากนางอ่อนแอสุด


 


“นิกายพันงูเองก็รับผิดชอบการรุกรานครั้งก่อนด้วยหรือเปล่า?”


 


นี่คือหนึ่งในคำถามที่หลินฮวงอยากรู้


 


“ใช่ การกวาดล้างโลกกรวดส่วนนี้มักเป็นงานของนิกายพันงู”เถิงฉิงบอกความจริง”ครั้งก่อน มันคือปู่ของเรา ก่อนหน้านั้น มันคือปู่ของปู่เรา…”


“พวกเขายังมีชีวิตอยู่กันไหม?”หลินฮวงหรี่ตาลง


“พวกเขาตยาขณะที่กำลังเลื่อนเป็นเทพสวรรค์”


 


หลินฮวงแปลกใจที่ได้ยินคำตอบแต่ในไม่ช้าก็โล่งใจ


 


“คราวนี้มีคนจากนิกายพันงูกี่คน?”


 


“เทพแท้จริงกับเทพเสมือนมากันหมด”เถิงหรานพยายามที่จะหุบปาก แต่ก็ไม่อาจทำได้”มีโลกขนาดเล็กทั้งหมด 23 แห่งที่เรากำลังจับตา เรารวมกำลังเทพแท้จริงกับเทพเสมือนทั้งหมดด้วยกันทุกครั้งที่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ไม่มีใครเต็มใจจะพลาดโอกาสเก็บทรัพยากร”


 


“เจ้ากำลังบอกว่าผู้บ่มเพาะทั้งหมดที่ต่ำกว่าเทพเสมือนในนิกายพันงูรู้ก็ว่าพวกเจ้าจะมาเก็บเกี่ยวโลกขนาดเล็ก?”


“บางพวกรู้ แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ การเก็บเกี่ยวทรัพยากรนี้เป็นเรื่องของพวกระดับสูง พวกระดับต่ำไม่มีสิทธิ์รู้ แต่ทว่า มิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างนิกายก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ข่าวจึงรั่วไหลออกไปบ้าง ถึงกระนั้น ทุกคนก็รู้จุดยืนตัวเองและเป็นไปไม่ได้ที่จะเผยรายชื่อโลกขนาดเล็กหรือพิกัด ความรู้นั้นควรมีจำกัด”


 


“วังเผ่าหมื่นคณนานับควรรู้ใช่ไหม?เกี่ยวกับรายชื่อโลกขนาดเล็กที่พวกเจ้าจับตาดู พิกัดและอื่นๆ..”หลินฮวงอดขมวดคิ้วไม่ได้ตอนถาม


 


เขาพอรู้คำตอบ แต่เขาอยากได้ยินคำยืนยันจากปากเถิงฉิง


 


“พวกเขารู้ นอกจากโลกขนาดเล็กที่จัดสรรให้เรา เรายังต้องรายงานต่อพวกเขาและลงทะเบียนโลกขนาดเล็กที่เราค้นพบ”


 


ความหวังเกิดขึ้นในใจเถิงฉิงขณะที่ตอบคำถามนี้


 


ไม่ว่าคนตรงหน้านางจะทรงพลังแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางแข็งแกร่งพอต่อกรกับวังเผ่าหมื่นคณนานับ ถ้านิกายพันงูไม่ถูกกำจัดในรอบนี้ มันก็เป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนข่าวจะไปถึงหูวังเผ่าหมื่นคณนานับ


 


เมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้น คนเหล่านี้จะตกเป็นเป้าความพิโรธของวังหมื่นคณนานับ


 


เถิงฉิงรวบรวมความกล้าทั้งหมด อยากพูดสิ่งนี้ออกไปเพื่อทำให้ชายตรงหน้านางกลัว แต่นางก็ตระหนักว่านางไม่สามารถพูดได้สักคำถ้าไม่ถูกถาม


 


“วังเผ่าหมื่นคณนานับต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวของพวกเจ้า?”


 


หลินฮวงเข้าใจว่าเขาไม่สามารถป้องกันเรื่องนี้ได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้แค่คือค้นหาว่าเขามีเวลาเตรียมการมากแค่ไหน


 


“ภายใต้สถานการณ์ปกติ ก็ประกาศหนึ่งปีกว่าเราจะทำการกวาดล้างโลกขนาดเล็กทั้งหมดจนเสร็จ เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเดินทาง ถ้าเราใช้เวลามากกว่าปีสามเดือน จะมีคนในนิกายพันงูไปแจ้งเรื่องนี้ต่อวังเผ่าหมื่นคณนานับ เมื่อรายงานถูกส่ง ภายในสามวัน คนจากวังหมื่นคณนานับจะถูกส่งมาตรวจสอบ…ตอนนี้เราดำเนินการมาสองเดือนแล้ว”


 


‘หมายความว่าเรายังมีเวลาหนึ่งปีหนึ่งเดือน’หลินฮวงคำนวณในหัว คิ้วเขาขมวดกันแน่นยิ่งกว่าเดิม ในช่วงเวลาสั้นๆแค่นั้น เขาไม่มีความมั่นใจว่าจะพัฒนาความสามารถเขาจนถึงจุดที่สามารถโค่นองค์กรอย่างวังเผ่าหมื่นคณนานับได้


 


เหนือสิ่งอื่นใด วังเผ่าหมื่นคณนานับคือองค์กรชั้น 6 ที่นำโดยมอนสเตอร์กึ่งจ้าวเทวะ แถมยังมียอดฝีมือระดับเทพสวรรค์มากมายที่ติดตามเขา


 


หลินฮวงถามต่อ”ระดับพลังของเถิงหราน ผู้นำนิกายเจ้าคืออะไร?เขาใช้พลังกฏเทพได้มากแค่ไหน และระดับอะไร?”

“จากสิ่งที่ข้ารู้ เถิงหรานใช้ได้ทั้งหมด 67 ประเภท ในบรรดานั้น 36อยู่ในระดับเชี่ยวชาญ และอีก 11 ที่ระดับควบคุม”ไม่ว่านางจะลังเลแค่ไหน นางก็จำต้องพูดทุกอย่างออกมา


 


หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อย ความสามารถของเถิงหรานถือว่าโดดเด่นในหมู่เทพแท้จริง


 


หลังได้รับข้อมูลมา หลินฮวงก็สอบปากคำต่อ


 


เถิงฉิงตอบทุกอย่างโดยไม่ผิดพลาด


 


ฐานะของเถิงฉิงค่อนข้างพิเศษ เหนือสิ่งอื่นใด นางคือน้องสาวของผู้นำนิกาย ความรู้นางเป็นรองแค่เถิงหราน หลังการสอบปากคำนี้ หลินฮวงพอใจกับข้อมูลที่เขาได้มาก


 


เมื่อเขาแน่ใจว่าไม่มีอะไรให้ถามอีก หลินฮวงก็ไม่คิดเก็บเถิงหรานไว้


 


ในความมืด ใบหน้าขนาดมหึมาถอยไปอย่างรวดเร็ว


 


เมื่อเถิงฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น


 


วินาทีต่อมา ฝ่ามือก็ตบลงมาราวกับท้องฟ้าถล่ม


 


เถิงฉิงถูกบดขยี้ ใบหน้านางยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว….


 

 

 


ตอนที่ 1442

 

หลินฮวง ปะทะ เถิงหราน

เถิงหรานสะบัดหอกในมือเพื่อตอบโต้มีดบินสีแดงเลือดตามวิถี รวมถึงสายพันธุ์อันเดทและวิญญาณที่กระโจนหาเขาทุกทิศทาง


 


แม้กลุ่มอันเดทและวิญญาณจะมีสติปัญญาไม่สูง พวกมันก็ยังรับรู้ได้ว่าโปรตอสผู้นี้คือคนร้ายที่ส่งพวกมันมาโลกกรวด


 


มอนสเตอร์เหล่านี้ไม่สามารถหาที่ระบายความโกรธได้ตอนถูกยับยั้งด้วยมีดบินของหลิฯฮวง แต่ตอนนี้ การปรากฏของเถิงหรานก็ทำให้พวกมันมีทางออกร่วมกันเพื่อระบายความโกรธ


 


ท่ามกลางการคุกคามจากเทพแท้จริงขั้นสูงนับร้อย รวมถึงมีดบินของหลินฮวง เถิงหรานสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของเถิงฉิงที่กำลังหายลับไป เขาตัวแข็งอย่างไม่อยากจะเชื่อก่อนตอบสนองทันที ปล่อยเสียงร้องโหยหวนอย่างเศร้าโศกออกมา


 


“เถิงฉิง!!!”


 


ก่อนเถิงหรานจะพูดจบประโยค เขาก็รู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของเถิงฉิงสลายหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว


 


น้องสาวเขาตายแล้ว…


 


เด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปี แต่มักทำตัวอ่อนเยาว์และแต่งตัวเหมือนเด็กนักเรียน


 


เด็กสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก ด้วยนิสัยที่ยังไร้เดียงสาเหมือนเด็ก


 


เด็กสาวที่มักแข่งขันกับเขามาตลอด แต่มักยืนข้างเขาในช่วงเวลาสำคัญ


 


เด็กสาวที่มักท้าทายด้วยวาจา แม้ในความเป็นจริงมักเดินตามรอยเท้าเขาเงียบๆ…


 


เถิงหรานไม่ใช่คนอ่อนไหวง่ายๆ และก็ไม่ใกล้ชิดกับพ่อแม่หรือผู้อาวุโสตั้งแต่ยังเด็ก


 


สำหรับเถิงฉิง เขากับนางก็ไม่ได้สนิทกันเป็นพิเศษ สิ่งที่เขาพูดได้มากสุดคือเขาคอยดูแลนางห่างๆ


 


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของเถิงฉิงกำลังสลายหายไป เถิงหรานค้นพบอารมณ์ส่วนลึกที่พรั่งพรูออกมา เศร้า โกรธ เกลียดชัง…


 


เขาไม่เคยคิดว่าความตายของเถิงฉิงจะทำให้อารมณ์เขาสับสนวุ่นวายขนาดนี้


หอกทองเขาพุ่งไปข้างหน้า ตัดผ่านวิญญาณสองตัวตรงหน้า ระเบิดพวกมันจนสลายหายไป  หลังกำจัดอุปสรรคที่ขวางทางทั้งหมด ในที่สุดเถิงหรานก็เห็นเถิงฉิงล้มลงกับพื้น ค่อยๆกลายเป็นรูปแกะสลักเทพ


 


หลังจ้องมองร่างไร้วิญญาณของน้องสาวเขา ในที่สุดเขาก็เลื่อนสายตาขึ้น เห็นหลินฮวงลอยอยู่เหนือพื้นไม่ไกลจากศพ ดวงตาเขาเผาไหม้ไปด้วยความโกรธ”ข้าจะฆ่าเจ้า!”


 


หลินฮวงหันไปมองเถิงหราน แสดงสีหน้าเฉยชา”ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าควรเป็นเถิงหราน ผู้นำนิกายพันงูสินะ?”


 


หลินฮวงอนุมานสิ่งนี้ตามปฏิกิริยาของอีกฝ่ายหลังการตายของเถิงฉิง ไม่เพียงแค่นั้น ความผันผวนพลังกฏเทพจากเถิงหรานยังแข็งแกร่งสุด


 


เมื่อเห็นสายตาไม่แยแสของหลินฮวงและการสอบถามตัวตนเขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความโกรธของเถิงหรานก็พุ่งถึงจุดสูงสุด


 


เขาไม่สงสัยถึงความสามารถของหลินฮวงอีกต่อไป  ชายคนนี้ได้ฆ่าเถิงฉิงภายในไม่กี่วินาที ความสามารถเขาไม่สามารถประเมินได้


 


พลังเทวะสีทองภายในตัวเถิงหรานระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาประทับพลังกฏเทพหลายชั้นลงบนหอก


 


สายพันธุ์อันเดทกับวิญญาณจำนวนมากที่คอยรังควานเขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนพลังกฏเทพรุนแรงจากเขาและเริ่มถอยห่าง


 


เถิงหรานไม่สนใจพวกมัน ตอนนี้ ในสายตาเขามีแค่หลินฮวง


 


หลินฮวงยังจ้องเถิงหรานกลับด้วยความสนใจ เขาอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ไดตอนเห็นเถิงหรานใช้พลังกฏเทพ


 


“น่าสนใจ ข้าจะเล่นกับเจ้า”


 


หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าพลังกฏเทพทั้งห้าที่เกาหลานใช้กับหอกนั้นถึงระดับควบคุมแล้ว หลินฮวงเริ่มมองเถิงหราน

อย่างจริงจัง คนที่ใช้พลังกฏเทพในระดับนี้ได้ย่อมมีพลังมากพอจะทำร้ายหลินฮวง


 


แม้หลินฮวงจะเพิ่มเริ่มเอาจริง เถิงหรานก็ได้ถีบตัวออกจากพื้นแล้ว เขากวาดหอกและมีดบินที่พัวพันกับเถิงหรานอยู่ตลอดก็ถูกกวาดออกไป


 


จากนั้นปลายหอกก็เปลี่ยนเป็นดาวสีทองลุกโชน ร่นระยะห่างระหว่างเถินหรานกับหลินฮวงด้วยความเร็วสูง


 


เพียงเมื่อปลายหอกคล้ายดาวหางกำลังจะโดนตัวหลินฮวง สายฟ้าสีแดงเลือดก็พลันระเบิดจากปลายแขนเสื้อหลินฮวงทีละสาย


 


มีดบินอาวุธเซียนระดับ2ถือเป็นสมบัติกฏเทพขั้นสูงสุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้หลินฮวงยังใช้การตรัสรู้ธาตุไฟและสายฟ้าเป็นจำนวนมากกับพวกมัน ด้วยการตรัสรู้ทั้งหมดห้าชั้น มีดบินพลังจิตจึงยิ่งไวกว่าเดิม รุนแรงกว่าเดิม


 


ถ้าคู่ต่อสู้ของหลินฮวงไม่ใช่ยอดฝีมือที่ใช้พลังกฏเทพระดับควบคุมได้ อีกฝ่ายคงต้านรับการโจมตีเขาไม่ได้เลยสักครั้ง


แต่ทว่า เถิงหรานนั้นไม่ใช่เทพแท้จริงทั่วไป


 


หอกที่เขาถือเองก็เป็นสมบัติกฏเทพขั้นสูง ด้วยพลังกฏเทพระดับควบคุม พลังมันจึงไร้ผู้ต้านเช่นกัน


 


เมื่อเห็นสายฟ้าสีเลือดระเบิดออกมา เถิงหรานก็สะบัดข้อมือเล็กน้อย และปลายหอกก็เปลี่ยนเป็นจุดแสงดาว ซึ่งพุ่งเข้าหาลำแสงสีแดงเลือด


 


เดิมเขาคิดว่ามันคงง่ายเหมือนกับการปัดมีดบินก่อนหน้านี้


 


แต่ทว่า ความประมาทนี้ก็ทำให้หอกเกือบหลุดออกจากมือเขา


 


ปลายหอกเขารู้สึกราวกับแทงใส่ภูเขาที่ไม่อาจสั่นคลอน คลื่นพลังน่าสะพรึงกลัวส่งผ่านไปทั้งอาวุธ ในเวลาเดียวกัน แรงผลักของพลังกฏเทพจากมีดบินก็ได้จู่โจมเขา ทำให้พลังกฏเทพภายในตัวเขาลดลงอย่างรวดเร็ว


 


“นี่คือ…การตรัสรู้ธาตุระดับควบคุม?!”แค่การโจมตีเดียว เถิงหรานก็มั่นใจแล้วว่าความสามารถของอีกฝ่ายเหนือกว่าที่เขาคิดไว้


 


ด้วยการใช้พลังกฏระดับควบคุมกับอาวุธพลังจิต คู่ต่อสู้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าการใช้พลังกฏเทพของเขาเหนือกว่า


 


หลังตรวจสอบความสามารถแท้จริงของศัตรู เถิงหรานก็ค่อยๆสงบลง


 


พลังกฏบนหอกยังเริ่มเพิ่มขึ้นทีละชั้นจากแต่เดิมห้าชั้น การเพิ่มขึ้นแต่ละชั้นนั้นคือภาระที่เขาต้องแบกรับเพิ่มเติม


แต่ทว่า เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเมื่อเขาผสานพลังกฏเทพเขาจนถึงหกชั้น คู่ต่อสู้เขาก็ทำเหมือนกัน เมื่อเขาเพิ่มมันเป็นเจ็ด อีกฝ่ายก็ยังเพิ่มเป็นเจ็ด…


 


เมื่อเทียบกับมีดบิน ปลายหอกจะไม่ได้เปรียบเลย


 


เถิงหรานเลือดขึ้นหน้า เขาทุ่มสุดตัว เพิ่มพลังกฏเทพทีละชั้นราวกับกำลังแข่งขันกับหลินฮวง


 


หกชั้น!


เจ็ดชั้น!


แปดชั้น!



สิบเอ็ดชั้น!


 


การแข่งขันนี้กินเวลาไม่เกินสิบนาที แต่เถิงหรานก็ได้เผยไพ่ตายเขาแล้ว เขารวมพลังกฏเทพระดับควบคุม 11 ชั้นไว้ที่หอก โดยไม่พิจารณาความเข้ากันได้ และความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างพลังกฏเทพประเภทต่างๆ


 


อีกด้าน หลินฮวงสงบเหมือนเดิม พลังกฏเทพระดับควบคุมเขาบนมีดบินเองก็เพิ่มขึ้นทีละชั้น จนถึง 11 ชั้น


 


แม้ทั้งสองฝ่ายจะรวมพลังกฏเทพระดับควบคุมไว้จนถึง 11 ชั้น แต่มีดบินของหลินฮวงกลับดูทรงพลังกว่า สายฟ้าสีแดงเลือดยิ่งเร็วขึ้น แข็งแกร่งขึ้น บดขยี้เถิงหรานอย่างสิ้นเชิง


 


เหตุผลนั้นก็เพราะหลินฮวงได้พิจารณาถึงการผสานพลังกฏเทพต่างๆก่อนรวมพวกมันเข้าด้วยกัน นี่จึงทำให้พลังของเขาเหนือกว่าอีกฝ่าย


 


ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินฮวงไม่ได้ขยับจากจุดที่เขายืนแม้แต่นิ้วเดียว แต่มีดบินสีแดงเลือดเขากลับบังคับให้เถิงหรานถอยไปไกลขึ้นเรื่อยๆ…

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)