Monster Paradise 1436-1439

 ตอนที่ 1436

 

มหาพิภพ มิติอันเดธ


 


เถิงหรานเอนพิงเก้าอี้และนั่งไขว่ห้างอีกครั้ง


 


มันผ่านไปกว่าหนึ่งนาทีแล้วตั้งแต่เทพแท้จริงจากมิติอันเดธถูกส่งไปโลกกรวด  ในอุโมงค์มิติทั้ง 30 แห่ง ไม่มีสักอันที่เทพแท้จริงถูกกำจัด นี่ทำให้เขามั่นใจมากว่าอุโมงค์เหล่านี้ไม่มีปัญหา


 


“สถานการณ์บาดเจ็บล้มตายของเทพแท้จริงเป็นอย่างไรบ้าง?”เถิงหรานถามขณะกวาดตามองเหล่าเทพแท้จริงกว่า 30


 


ก่อนการข้ามมิติ เทพแท้จริงทั้ง 37 รวมถึงเถิงหรานได้ทำตราประทับชีวิตไว้กับเทพแท้จริงที่พวกเขาจับ เมื่อใดก็ตามที่มอนสเตอร์ตาย ตราประทับชีวิตจะสลายหายไป


 


ชายหัวงูที่ยืนอยู่อีกด้านทำการคำนวณและแบ่งปันผลลัพธ์เขาอย่างรวดเร็ว


 


“มีเทพแท้จริงขั้นต่ำทั้งหมด 2518 และตายไป 57 เทพแท้จริงขั้นกลาง 1819 ตายไป 81 สำหรับขั้นสูง จำนวนคือ 347 ตาย 0 “


 


“เทพแท้จริงขั้นสูงไม่ตายเลย?!”เถิงหรานเลิกคิ้ว มองชายหัวงูด้วยความประหลาดใจ


 


“ขอรับ ตามข้อมูลที่ส่งกลับมา ไม่มีตราประทับชีวิตของขั้นสูงที่หายไปเลย”ชายหัวงูพยักหน้า


 


“งั้นก็มีอยู่สองความเป็นไปได้”เถิงหรานไตร่ตรองสักพักก่อนสรุป”โลกกรวดอาจมีเทพแท้จริงขั้นสูงอยู่น้อยมาก หรือพวกมันจงใจแสร้งทำเป็นอ่อนแอโดยไม่ฆ่าเทพแท้จริงขั้นสูง”


 


“ข้าไม่คิดว่าอย่างหลังจะเป็นไปได้”หญิงสาวขายาวอดแสดงความคิดไม่ได้”หากพวกมันกำลังแสร้งทำเป็นอ่อนแอ พวกมันก็สามารถทำได้แนบเนียนกว่านี้ ป้องกันเราจากการพบกลอุบายพวกมัน หากพวกมันไม่ฆ่าเลย ข้าคิดว่ามันเป็นไปได้มากกว่าพวกมันไม่มีความสามารถพอจะจัดการกับเทพแท้จริงขั้นสูง”


“อาจเป็นไปได้ว่าเวลานั้นสั้นเกินไป เหนือสิ่งอื่นใด มันยังไม่ถึงสองนาทีเลย”ชายหัวงูกล่าวเสริม


 


“งั้นเราควรไปโลกกรวดตอนไหน?”หญิงสาวขายาวเหลือบมองชายหัวงูและถาม


 


“เราจะรออีกเล็กน้อยและดูว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปไหม”เถิงหรานคิดสักพักและให้คำตอบ



โลกกรวด ขอบเหวนรก


 


หลินฮวงใช้จิตเทวะเพื่อควบคุมมีดบิน บังคับเทพแท้จริงขั้นสูงให้รวมกันที่เดียวเพื่อป้องกันพวกมันจากการแทรกแซงส่วนอื่นของสนามรบ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เฝ้าติดตามสถานการณ์ทั้งสนามรบ


 


โดยปราศจากการแทรกแซงของเทพแท้จริงขั้นสูง ทาสดาบที่มีพลังระดับเทพแท้จริงขั้น6จึงถือได้ว่าไร้เทียมทาน


 


หากหลินฮวงไม่แจ้งพวกเขาล่วงหน้าให้ชะลอความเร็วการสังหารเพื่อหลีกเลี่ยงให้มหาพิภพตรวจพบความผิดปกติ เวลาสองนาทีคงมากพอจะฆ่าเทพแท้จริงหลักพัน


 


ปัจจุบัน ทาสดาบสบายมาก แม้จะมีจำนวนน้อยกว่ามาก พวกเขาก็ล้วนมีทักษะดาบสูงส่ง หากไม่ใช่ว่าตอนแรกพวกเขาใช้พลังเยอะไป จำนวนเทพแท้จริงที่พวกเขาฆ่าคงไม่มากขนาดนั้น


ทางฝั่งสนามรบเทพแท้จริงขั้นต่ำ กู่หรงและไป่ครองอุโมงค์มิติแห่งหนึ่งด้วยพลังระดับเทพแท้จริงขั้น4


แม้จำนวนพวกมันจะน้อยกว่าศัตรู มอนสเตอร์อัญเชิญก็ล้วนเป็นขั้น3และ4กัน ดังนั้นจึงไม่มีแรงกดดันมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้คำสั่งของหลินฮวง ภารกิจหลักของพวกมันไม่ใช่ฆ่าศัตรูแต่เป็นการควบคุมสนามรบ ป้องกันไม่ให้เทพแท้จริงเหล่านี้เข้าสู่สนามรบเทพเสมือน


 


บนสนามรบเทพเสมือน มีอสูรแมลงนับล้านที่ร่วมสู้ นี่ช่วยลดแรงกดดันของเหล่าเทพเสมือนจากโลกกรวดได้มาก


ตรงข้ามกับสิ่งมีชีวิตหุบเหว สายพันธุ์อันเดทและวิญญาณที่แยกกันสู้ นักสู้เผ่าแมลงนั้นแสดงการร่วมมือที่ดี ระดับความเข้าใจกันของพวกมันเหนือกว่าการฝึกระยะยาวของพวกองค์กรใหญ่ในโลกกรวดซะอีก


 


ภายใต้การสั่งการของราชินีทั้งหก นักสู้เผ่าแมลงแปลงเป็นกองทหารขนาดเล็ก เอาชนะกลุ่มผู้รุกรานทีละกลุ่ม


 


องค์กรใหญ่ของโลกกรวดก็พากันเผยไพ่ตาย


 


สิ่งที่หลินฮวงแปลกใจสุดก็คือไพ่ตายของรัฐบาลกลางที่กลายเป็นร่างโคลนของเทพเสมือนกว่า3พัน


 


ท่ามกลางคนพันคนมีคนหน้าเหมือนหลินซวน และกว่าพันเหล่านี้ก็ล้วนเป็นเทพเสมือนขั้น9


 


อีกสองพันคือร่างโคลนของชายและหญิงอย่างละพัน ระดับพลังคือเทพเสมือนขั้น3และขั้น6


 


วินาทีที่หลินฮวงเห็น เขาก็รู้ว่ารัฐบาลกลางคือองค์กรที่สร้างหลินซวนขึ้นมา


 


แม้เขาจะมีความสงสัยในใจ เขาก็ระงับมันไว้ชั่วคราว


 


ต้องขอบคุณเผ่าแมลงและองค์กรใหญ่ที่ใช้ไพ่ตาย จำนวนผู้รุกรานจึงลดลงอย่างมาแทบทุกนาที พวกมันตายไปกว่าหมื่นแล้ว


ตรงข้าม จำนวนผู้เสียชีวิตในโลกกรวดน้อยกว่ามาก เพราะนักสู้เกือบทั้งหมดได้จับกลุ่มกัน บางครั้ง ถ้ามีบางคนล้ม คนอื่นจะมาอุด คุณฟู่ หลินซวนและเทพเสมือนขั้น9หลายคนก็ทำกันอย่างเต็มที่ คอยจับตาดูทั้งสนามรบ



ขณะที่การต่อสู้ยังดำเนิน ทาสดาบบนหลังคาลานกว้างในศูนย์ใหญ่ขัตติยะพลันลืมตาขึ้นและก้มมอง


 


เขาสัมผัสได้ว่าผู้หญิงที่เขาเฝ้าดูแลมานานกว่าครึ่งปีตื่นขึ้นแล้ว


ในห้อง หลินซินค่อยๆลืมตาขึ้น


 


นางไม่รู้ว่านางปิดประตูบ่มเพาะไปนานแค่ไหน ทุกครั้งที่นางกินแก่นเทวะเสร็จ นางจะเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะเอง เมื่อนางตื่น ระดับพลังนางจะเพิ่มขึ้น จากนั้นนางก็กินแก่นเทวะอีก เข้าสู่สภาวะบ่มเพาะอีกครั้ง เป็นอย่างนี้เรื่อยไป



นี่ดำเนินต่อไปจนกระทั่งรอบสุดท้ายที่นางกลืนแก่นเทวะเทพเสมือนขั้น9ไป9อัน


 


“ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น9?”หลินซินตรวจสอบร่างตัวเอง รู้สึกถึงพลังเทวะในตัว ยังมีแก่นเทวะในตัวนางที่ดูเหมือนหลุมดำ จากนั้นนางจึงสามารถยืนยันได้ว่าพลังนางเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น9แล้ว


“ข้าไม่รู้ว่าข้าปิดประตูบ่มเพาะไปนานแค่ไหน แต่พี่ต้องแปลกใจแน่ตอนเห็นระดับพลังข้า!เมื่อคุณฟู่รู้ เขาจะต้องตกใจเหมือนกัน…ข้ามั่นใจว่าข้าทรงพลังกว่าพี่ชายเสี่ยวโม่แล้ว!”


หลินซินเปิดประตูและเดินออกไปอย่างมีความสุข


“ท่านหลินซิน”เงาร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้าหลินซินและโค้งคำนับ


“เจ้าคือ…?”หลินซินตกใจที่นางไม่พบถึงการดำรงอยู่ของอีกฝ่าย


“ข้าคือทาสดาบภายใต้บัญชาองค์จักรพรรดิ และข้าก็มีหน้าที่ดูแลท่าน”ดาบ106ตอบ


“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณเจ้ามาก!”หลินซินรีบขอบคุณ”แล้วข้าปิดประตูบ่มเพาะไปนานแค่ไหน?”

“198วัน”ดาบ106จำได้แม่น


“198วัน?กว่าครึ่งปี?!”หลินซินอุทาน นางไม่คิดว่านางจะปิดประตูบ่มเพาะไปนานขนาดนี้ การปิดประตูบ่มเพาะก่อนหน้าของนางไม่เคยกินเวลากว่าเดือน


 


ด้วยความไม่เชื่อ หลินซินกดดูปฏิทินบนแหวนหัวใจจักรพรรดิและอุทานอีกครั้ง


“วันนี้เป็นวันที่ 23 ตุลาคม?!”


 


หลังยืนยันว่ามันผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วจริงๆ หลินซินก็พบว่ามันยากจะเชื่อ แต่ในไม่ช้านางก็ยอมรับได้


นางใช้จิตเทวะตรวจดูร่องรอยของหลินฮวง แต่ก็ไม่พบอะไร สิ่งที่แปลกใจคือทั้งขัตติยะ มีเพียงหวงเทียนฟู่และเสี่ยวโม่ที่ยังอยู่


ไม่ใช่แค่หลินฮวงกับคุณฟู่จะไม่อยู่ แต่แม้กระทั่งหวงไป่ยู่และคนอื่นที่คอยคุ้มกันศูนย์ใหญ่ขัตติยะอยู่ตลอดก็หายไปด้วย


“พี่ชายข้าและคุณฟู่หายไปไหน?”หลินซินถาม แต่ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว


“พวกเขาไปขอบเหวนรก”ดาบ106อธิบาย”การรุกรานจากมหาพิภพเริ่มไป9วันแล้ว”


“สงครามเริ่มขึ้นแล้ว?!สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”หลินซินรีบถาม


“นั่น ข้าไม่รู้ ท่านต้องถามหวงเทียนฟู่”ทันทีที่ดาบ106พูด หวงเทียนฟู่ก็ได้ปรากฏที่ประตูลานโดยมีเสี่ยวโม่ข้างๆ


 


ใบหน้าของเสี่ยวโม่เต็มไปด้วยความแปลกใจตอนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหลินซิน


หวงเทียนฟู่ตกใจเช่นกัน แต่ก็รีบตั้งสติ”ข้าจะเล่าสถานการณ์ในขอบเหวนรกให้ท่านฟังทีหลัง แต่ก่อนหน้านั้น มีเรื่องที่ฝ่าบาทขอให้ข้าอธิบายให้ท่านฟัง…”

“งั้นก็ไปคุยข้างในกัน”หลินซินพยักหน้า…

 

 

 


ตอนที่ 1437

 

พี่ ข้าเองก็อยากร่วมสู้ด้วย!

บนชั้นสามขอบเหวนรก พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นสมรภูมิรบ แต่ก็มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างสนามรบแต่ละแห่ง


 


สนามรบเทพเสมือนนำโดยเทพเสมือนขั้น 9 เช่นคุณฟู่กับหลินซวน และนักสู้เผ่าแมลงก็คือทัพหลัก ด้วยจำนวนที่เหลื่อมล้ำกันน้อยสุด การต่อสู้ส่วนนี้จึงดูรุนแรงสุด


 


สนามรบของเทพแท้จริงแบ่งออกเป็นสามส่วน


 


เทพแท้จริงขั้นต่ำนำดดยมอนสเตอร์อัญเชิญและวิญญาณต่อสู้ของหลินฮวง จำนวนสนามรบนี้มีความเหลื่อมล้ำมาก แต่นี่เป็นส่วนที่หลินฮวงกังวลน้อยสุด


 


เขตแดนเทพเขาลอบกระจายออกไปเงียบๆ และภายในรัศมีของสวรรค์แห่งมอนสเตอร์ มอนสเตอร์เขาจะคืนชีพได้


 


สำหรับวิญญาณต่อสู้รูปแกะสลักเทพ  พวกมันคือศพแต่แรกแล้ว ตราบเท่าที่พลังวิญญาณที่ขับเคลื่อนพวกมันไม่หาย พวกมันก็จะไม่ตาย ต่อให้ร่างกายพวกมันจะเสียหายรุนแรงและสู้ต่อไม่ได้ พวกมันก็จะฟื้นคืนภายใน 24 ชั่วโมงหลังถูกโยนเข้าหลุมฟื้นฟูของเผ่าแมลงสักพัก


 


ส่วนสนามรบเทพแท้จริงขั้นกลาง หลินฮวงไม่กังวลเลย


 


แม้จำนวนทาสดาบจะเป็นแค่หนึ่งในเจ็ดของผู้รุกราน ทาสดาบก็ล้วนเป็นเทพแท้จริงขั้น 6 และความสามารถก็เกือบถึงเทพแท้จริงขั้น 7 การจัดการกับกลุ่มมอนสเตอร์ที่ไร้ระเบียบไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย


 


หากหลินฮวงไม่ออกคำสั่งล่วงหน้า ผู้รุกรานของสนามรบนี้คงตายกันไปแล้ว


 


สำหรับสนามรบเทพแท้จริงขั้นสูง หลินฮวงแค่ควบคุมมันด้วยมือเดียว


 


จากมีดบินพลังจิตหลายร้อยที่วิวัฒนาการจากอาวุธเซียน แต่ละเล่มได้รับมอบหมายให้จัดการผู้รุกรานแต่ละตัว ตั้งแต่ที่พวกมันข้ามมิติมา พวกมันก็ถูกมีดบินพัวพันไม่หยุด


 


หากพวกมันประมาท ร่างของพวกมันจะถูกแทงจนพรุน


 


เหมือนเกมแมวจับหนู มีดบินพลังจิตล้อมกลุ่มเทพแท้จริงขั้นสูงไว้จนไม่สามารถหลบหนีได้ต่อให้อยาก นับประสาอะไรกับการยุ่งสนามรบอื่น


ขณะที่หลินฮวงกำลังเพลิดเพลินกับการควบคุมที่เขามีเหนือสนามรบ เขาพลันสัมผัสได้ถึงกำลังเสริมที่มาจากขอบเหวนรกชั้นสาม


 


หลังกวาดจิตเทะวออกไป เขาก็พบว่ามันคือหลินซินกับเสี่ยวโม่ ยังมีอีกคนที่คุ้นหน้า หลินฮวงจำได้ว่ามันคือทาสดาบ แต่ไม่รู้เลข


 


แต่ทว่า หลังจิตเทวะเขากวาดออกไป หลินฮวงก็ถึงกับผงะ


 


นี่เพราะเขาตระหนักว่าหลินซินเป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว ซึ่งสูงกว่าเขาถึงสามขั้น


 


‘ร่างกายของนางน่าอิจฉาจริงๆ’หลินฮวงพูดไม่ออก เขาต้องตามล่าหาทรัพยากรอย่างสิ้นหวังและเป็นแค่เทพเสมือนขั้น 6 ในโลกกรวด ไม่มีทางที่เขาจะก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้


 


แต่ทว่า หลินซินกลับแค่ต้องกินแก่นเทวะ และในเวลาเพียงหกเดือน นางกลับเลื่อนถึง 9 ขั้นจากจักรพรรดิทองม่วงเป็นเทพเสมือนขั้น 9 มันดูง่ายเกินไป!


กลับกัน เสี่ยวโม่ที่อยู่ข้างนางกลับเผยให้เห็นว่าแม้เขาจะปิดประตูบ่มเพาะไปหลายเดือน ระดับพลังเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก


อย่างไรก็ตาม หลินฮวงสังเกตเห็นว่าเสี่ยวโม่ได้ปล่อยความผันผวนพลังกฏเทพ และรับรู้ได้อย่างคลุมเครือว่ามันคือการตรัสรู้ธาตุลม


 


เห็นได้ชัดว่าแม้ระดับพลังของเสี่ยวโม่จะไม่พัฒนา แต่ความสามารถเขานั้นไม่เหมือนเดิม ตอนนี้ ต่อให้เขาเจอกับเทพเสมือนขั้นสูง เขาก็ควรมีพลังสู้ได้ แน่นอน นี่เป็นไปตามสมมติฐานที่คู่ต่อสู้เขาไม่มีพลังกฏเทพ


 


ศักยภาพของเสี่ยวโม่เกินความคาดหมายของหลินฮวงเพราะเสี่ยวโม่ใช้พลังกฏเทพได้ขณะที่ยังเป็นเทพเสมือนขั้น 3


 


หลินฮวงถอนจิตเทวะเขาและในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที หลินซินกับคนอื่นก็เข้าสู่สนามรบ


 


“พี่!”


จากระยะไกล หลินซินสังเกตเห็นหลินฮวง


 


หลินฮวงถอนจิตเทวะเขาและไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมา หลินซินและคนอื่นก็เข้าสู่สนามรบ


 


“พี่!’


จากระยะไกล หลินซินสังเกตเห็นหลินฮวง


นางปิดประตูบ่มเพาะมากว่าครึ่งปี ซึ่งหมายความว่านางไม่เห็นหลินฮวงมานานถึงหกเดือน


 


“เจ้ามาแล้ว”หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อย


แม้จะควบคุมสนามรบด้วยมีดบินพลังจิตนับร้อย นี่ก็ไม่ส่งผลต่อเขาในการคุยกับผู้คนเลย


หลินซินวางแผนจะอวดผลการบ่มเพาะนางทันทีที่เห็นหลินฮวง แต่ทว่า นางก็สังเกตเห็นว่าหลินฮวงกำลังสู้และไม่กล้าขัดจังหวะเขา


 


นางอยากพูดว่า’พี่ ข้าเป็นเทพเสมือนขั้น9แล้ว!” แต่นางก็ต้องกลั้นมันเอาไว้


 


หลินฮวงกลับเป็นฝ่ายเริ่มคุยแทน


 


“ผลการบ่มเพาะเจ้าตลอดหกเดือนน่าทึ่งมาก เจ้าเป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว!”


เมื่อได้ยินหลินฮวงเผยระดับพลังนาง หลินซินก็รู้สึกอิ่มเอมใจและโพล่งสิ่งที่อยู่ในใจออกมา’พี่ ข้าเองก็อยากร่วมสู้ด้วย!”


หลินฮวงพยักหน้า”ได้เลย งั้นเจ้าไปสนามรบเทพเสมือนละกัน”


 


หลินฮวงอนุญาตเพราะตอนนี้หลินซินมีความสามารถพอปกป้องตัวเองแล้ว ตราบเท่าที่นางไม่พบเทพแท้จริง ด้วยระดับพลังปัจจุบันนาง มีคนไม่มากที่สามารถต่อสู้กับนางได้


 


นอกจากนี้ คุณฟู่ยังอยู่ทางนั้นด้วย ร่วมกับหลินซวนและคนอื่น พวกเขาต้องคอยจับตาดูหลินซินแน่ ดังนั้น หลินฮวงจึงวางใจ สุดท้าย น้องสาวเขาต้องการโอกาสในการต่อสู้จริง


 


หลินซินไม่คิดว่าหลินฮวงจะตอบรับคำขอนางง่ายๆ


 


ก่อนนางจะมาขอบเหวนรก นางเตรียมวาทศิลป์หลายชุดเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อมพี่ชายนาง


 


แต่ทว่า หลินฮวงกลับตอบรับทันทีโดยที่นางไม่ต้องอ้อนวอนเลย


 


“ข้ารักพี่ที่สุด!”


 


จากนั้นนางก็ทิ้งเสี่ยวโม่ตรงไปสนามรบที่คุณฟู่กับหลินซวนอยู่


 


“ฝ่าบาท ข้าเองก็จะไปสนามรบเทพเสมือนเหมือนกัน”เสี่ยวโม่รีบพูด


“ตามสบาย ด้วยความสามารถเจ้า เจ้าจะดูแลตัวเองได้”หลินฮวงพยักหน้า


 


เสี่ยวโม่สับนสนเล็กน้อย แม้เขาจะรู้ว่าความสามารถเขาพัฒนา แต่เขาไม่รู้ว่ามันพัฒนามากขึ้นแค่ไหน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความสามารถใหม่ที่เขาใช้ได้คือพลังกฏเทพ


 


ขณะมองทั้งสองเข้าร่วมสนามรบเทพเสมือน หลินฮวงถึงละสายตาไปมองทาสดาบที่เพิ่งมาถึง


 


“ขอบคุณสำหรับความพยายามตลอดครึ่งปีของเจ้ามาก”


“นี่เป็นหน้าที่ของบ่าว”ดาบ106ก้มหัว


“เลขประจำตัวเจ้าคือ..”

“ดาบ106ครับ”


“เอาละ ข้าจำไว้แล้ว”หลินฮวงพยักหน้า”งั้นเจ้าก็ไปร่วมสนามรบด้วยเถอะ”


“ขอรับ ฝ่าบาท!”ดาบ106ก้มหัวอีกครั้ง หลังลุกขึ้น ร่างเขาก็บินขึ้นฟ้า ทะยานเข้าหาสนามรบเทพแท้จริงขั้นกลาง


 


หลังทาสดาบจากไป หลินฮวงก็หันไปมองบริเวณที่พวกเทพเสมือนกำลังสู้


 


เมื่ออยู่บนสนามรบ หลินซินกับเสี่ยวโม่ก็ตั้งท่าสู้อย่างรวดเร็ว


 


หลินซินสวมเกราะเงินและปืนพกคู่ สาดกระสุนออกไปอย่างดุเดือด กระสุนแต่ละนัดทะลุหัวมอนสเตอร์ด้วยความแม่นยำ จากนั้นหัวมอนสเตอร์ก็จะระเบิด


 


อุปกรณ์ของนางวิวัฒนาการจากอาวุธเซียนที่หลินฮวงมอบให้ และทั้งหมดก็มีสามชิ้น


หนึ่งชิ้นได้พัฒนาเป็นชุดเกราะ อีกชิ้นเป็นอาวุธปืน สุดท้ายแปลงเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่คอยปกป้องในตัวนาง


 


ไม่ไกลจากหลินซิน เสี่ยวโม่ได้แปลงเป็นเงาดำและแหวกผ่านสนามรบ เขาไม่มีความเข้าใจดีถึงควาสามารถตัวเองและเลือกคู่ต่อสู้เป็นเทพเสมือนขั้นต้นทั้งหมด ระหว่างการโจมตี มอนสเตอร์เทพเสมือนขั้นต้นแต่ละตัวถูกฆ่าง่ายๆ ไม่มีตัวใดสามารถแตะชายเสื้อเขาได้เลย…

 

 

 


ตอนที่ 1438

 

เทพธิดาแห่งการต่อสู้

โดย

carnet00


 –

ตุลาคม 5, 2020


ตอนที่แล้วตอนที่ 1437 พี่ ข้าเองก็อยากร่วมสู้ด้วย!

ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนถัดไปตอนที่ 1439 ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรา

บนสนามรบเทพเสมือน คุณฟู่ยังสังเกตเห็นหลินซินกับเสี่ยวโม่


 


แม้หลินฮวงจะบอกกับเขาแล้วว่าร่างกายของหลินซินนั้นพิเศษ คุณฟู่ก็ยังตกใจตอนเห็นว่าระดับพลังของหลินซินคือเทพเสมือนขั้น9


 


ต้องรู้ว่าคุณฟู่ติดอยู่ในขั้นตอนการควบแน่นแก่นเทวะกว่า 300 ปี มันต้องใช้เวลานานกว่า 700 ปีสำหรับเขาเพื่อเลื่อนจากเทพเสมือนขั้น 1 เป็นเทพเสมือนขั้น 8 แต่ทว่า หลินซินกลับใช้เวลาแค่ครึ่งปีจากจักรพรรดิทองม่วงเป็นเทพเสมือนขั้น9 ซึ่งทำให้ความพยายามบ่มเพาะนับพันปีของเขาดูไร้ค่าไป


 


แทบไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดสามารถเข้าใกล้หลินซินได้ภายในรัศมี 20 เมตรรอบตัวนาง


 


ความคิดของคุณฟู่หันไปหาพี่ชายของเด็กสาวคนนี้โดยไม่ตั้งใจและอดหันไปมองสนามรบเทพแท้จริงขั้นสูงไม่ได้


 


ชายหนุ่มคนนั้นยังลอยอยู่ในอากาศ ก้มมองทั้งสนามรบด้วยตัวเอง ด้านล่างเขา ลำแสงสีแดงยังคงไหววูบและมอนสเตอร์เทพแท้จริงขั้นสูงนับร้อยก็ถูกบังคับให้อยู่ในพื้นที่หนึ่ง ไม่สามารถขยับออกไปไหนได้


 


“ช่างพิศดารนัก”


 


คุณฟู่อดพึมพำเสียงต่ำไม่ได้ เขารู้ว่าหลินฮวงนั้นเป็นแค่เทพเสมือนขั้น 6 ซึ่งไม่ดีเท่าหลินซิน แต่พลังต่อสู้จริงของหลินฮวงกลับเหนือกว่าระดับเขาไปมาก


 


พรสวรรค์และศักยภาพของสองพี่น้องคู่นี้ทำให้คุณฟู่อิจฉา


 


คุณฟู่ละสายตาจากหลินฮวง หันไปมองเสี่ยวโม่ ผู้บุกเข้าสนามรบพร้อมหลินซิน


 


เขารู้ว่าเสี่ยวโม่เองก็ปิดประตูบ่มเพาะมาหลายเดือน แต่จากสิ่งที่เขาเห็น มันดูเหมือนระดับพลังของเสี่ยวโม่จะไม่พัฒนาขึ้นเลย ยังเป็นแค่เทพเสมือนขั้น 3


 


ด้วยความสับสน คุณฟู่สังเกตเสี่ยวโม่สักพักและในไม่ช้าก็พบความผิดปกติ


 


“เจ้าหนูนี่สามารถใช้พลังกฏเทพได้?”


คุณฟู่รู้ถึงการดำรงอยู่ของพลังกฏเทพ ในความเป็นจริง เขาพยายามควบคุมพลังนี้มานานกว่าครึ่งปีแล้วตั้งแต่เป็นเทพเสมือนขั้น9 แต่เขาก็ยังไปได้ไม่ถึงไหน


 


หลังเฝ้าดูเสี่ยวโม่บินไปมาอย่างง่ายดายบนสนามรบจนถึงจุดที่แม้แต่เทพเสมือนขั้นสูงบางคนก็ยังไม่สามารถไล่ทัน คุณฟู่ก็ตระหนักว่าเสี่ยวโม่อาจใช้พลังกฏเทพได้แล้ว


 


แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้คุณฟู่โกรธและขบขันพร้อมกันคือเสี่ยวโม่ยังไม่รู้ว่าความสามารถเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด การโจมตีทั้งหมดของเขามุ่งเป้าไปที่เทพเสมือนขั้นต้น เขาจะหลบเทพเสมือนขั้นกลางและสูง


 


“เขาเป็นแค่เทพเสมือนขั้น 3 และก็ใช้พลังกฏเทพได้ นี่ช่างน่าอิจฉาจริงๆ”คุณฟู่ผู้มักรู้สึกว่าเขามีพรสวรรค์กลับถูกทำลายความมั่นใจอีกครั้ง


 


เขายังเริ่มสงสัยว่ายุคใหม่นี้มีอัจฉริยะมากกว่ายุคเก่าหรือเปล่า


 


เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็ใช้จิตเทวะเขากวาดไปรอบๆ หยุดที่หลินซวน


โม่ขุ่ย ศิษย์เขาก็คือหนึ่งในอัจฉริยะที่น่าทึ่งสุดากยุคเก่าและต้องใช้เวลา 200 กว่าปีเพื่อเลื่อนจากมนุษย์เป็นเทพเสมือน ความเร็วการบ่มเพาะประเภทนี้ถูกบดบังไปโดยพวกหลินฮวงเลย


 


แต่ทว่า หลังสังเกตหลินซวนอยู่สักพัก คุณฟู่ก็อ้าปากค้าง โม่ขุ่ยที่เป็นแค่ผู้บ่มเพาะดาบกลับกลายเป็นทั้งผู้ใช้ดาบและกระบี่


 


หลินซวนถือกระบี่ในมือซ้าย ดาบในมือขวา ขณะเหวี่ยงอาวุธ ภาพติดตาของทั้งดาบและกระบี่เขาจะแบ่งเทพเสมือนเป็นชิ้นๆ


 


สิ่งที่คุณฟู่ไม่รู้คือหลินซวนไม่ได้ใช้แค่ดาบกับกระบี่ได้ แต่ยังเป็นผู้บ่มเพาะปืนด้วย ในแง่ของความสามารถปืนอย่างเดียว ทักษะเขายังเหนือกว่าหลินซินซะอีก


 


นอกจากนี้ แม้หลินซวนจะไม่ใช่เทพแท้จริง เขาก็ใช้พลังกฏเทพได้หกประเภทแล้ว และความสามารถโดยรวมเขาก็เพียงพอจะสู้กับเทพแท้จริงขั้นต่ำ


 


ในความเป็นจริง หลินซวนกับคุณฟู่สังเกตเห็นหลินซินกับเสี่ยวโม่ตั้งแต่ทั้งคู่เข้าขอบเหวนรกชั้นสามมาแล้ว


 


เมื่อเห็นหลินซิน อารมณ์ของหลินซวนก็มีความผันผวนอย่างเห็นได้ชัด


 


ช่วงแรกที่เขาเป็นสมาชิกครอบครัวหลินฮวงภายใต้ตัวตนของหลินซวน เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับหลินซินเพราะหลินฮวงไม่ค่อยอยู่บ้าน


 


ก่อนเขาจะได้รู้จักกับหลินฮวงและหลินซิน เขาก็แค่มนุษย์ทดลอง ไม่มีใครสอนเขาว่าจะเข้ากับคนอื่นยังไง ความรู้และประสบการณ์ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาก็มาจากหลินฮวงและหลินซิน


 


ดังนั้น เขาจึงมีความผูกพันกับหลินฮวงและหลินซิน


 


นอกจากนี้ หลินฮวงมักเป็นคนที่เป็นอิสระมาตลอด และหลินซินก็มักอยู่ในสถานะที่ได้รับการปกป้องมาโดยตลอด ความผูกพันที่เขามีต่อหลินซินนั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าหลินฮวง


 


เมื่อเห็นหลินซินใกล้ๆอีกครั้ง หลินซวนก็มีความรู้สึกว่าเขายังเป็ฯส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้


 


แต่ทว่า เขาก็รับรู้อย่างรวดเร็วว่าหลินซินจำเขาไม่ได้


 


มันไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไม


 


เหนือสิ่งอื่นใด ตลอดสี่ปี เขาเปลี่ยนไปมาก ตามสามัญสำนึก เขาควรดูเหมือนเด็กอายุ 13หรือ14 แต่ตอนนี้ เขามีอายุอย่างน้อย 25 แม้จะดูเหมือนอดีตอยู่บ้าง หลินซินก็ไม่น่าจะจำเขาได้ในแวบแรก


 


หลังจากลอบสังเกตลับๆ หลินซวนก็พบว่าหลินซินไม่ใช่เด็กสาวที่เขารู้สึกเมื่อสี่ปีก่อนอีก


 


เขางงงวยเล็กน้อยกับความจริงที่ว่าระดับพลังของนางมาถึงเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว เขาตัดสินใจรอจนกระทั่งสงครามจบก่อนถามหลินฮวงว่าเกิดอะไรขึ้น


 


ในแง่ของความสามารถ หลินซินนับเป็นยอดฝีมือในโลกกรวดแล้ว


 


ความสามารถด้านปืนของนางไม่ได้อ่อนกว่าความสามารถของหลินซวนนัก


 


หลินซวนรู้สึกพอใจกับสิ่งนี้


 


เขายังจำได้ชัดว่าหลินซินมักมาขอให้เขาแนะนำเกี่ยวกับการฝึกปืนสี่ปีก่อน นางบอกว่านางอยากฝึกฝนการใช้ปืนให้ดีและเข้าเรียนที่สถาบันนักล่ายุทธ์


 


หลินซินในวันนี้ได้ทำทุกอย่างที่นางตั้งเป้าไว้


….


หลินซินไม่รู้เลยว่าตัวนางกำลังถูกจับตามอง


 


ระดับพลังปัจจุบันของนางเป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว แต่การต่อสู้นี้คือครั้งแรกที่นางเข้าร่วมตั้งแต่เลื่อนเป็นเทพเสมือน


 


นี่ยังเป็นครั้งแรกที่นางได้ใช้อาวุธเซียน


นางมีทัศนคติที่ดี นางไม่ได้มองว่านี่คือสงคราม แต่เป็นการฝึกต่อสู้


 


นางถือปืนทั้งสองมือ กระบอกหนึ่งเป็นสีดำอีกกระบอกเป็นสีเงิน อันหนึ่งเป็นประเภทความเร็ว อีกอันเป็นประเภทพลังทำลายล้าง กระสุนพ่นออกมาอย่างดุเดือดเหมือนลิ้นไฟ กระสุนเกือบทุกนัดจะสามารถระเบิดหัวเป้าหมายได้


 


หลังยิง อารมณ์ของนางก็ยิ่งเริงร่า นางคุ้นเคยกับร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นนี้แล้ว และมือนางก็ไม่รู้สึกถึงแรงถีบของปืนเลย การเคลื่อนไหวมากมายที่นางไม่สามารถทำได้กลับทำได้แล้ว


ไม่เพียงแค่นั้น เกือบทุกครั้งที่นางยิง นางจะก้าวหน้าขึ้นทีละเล็กน้อยในการใช้พลังเทวะระดับเทพเสมือน


 


นางรู้สึกสบายใจขึ้นและคุ้นเคยกับสนามรบขึ้น เหมือนเทพธิดาแห่งการต่อสู้….

 

 

 


ตอนที่ 1439

 

ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรา

เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่มอนสเตอร์จากมิติอันเดธถูกส่งมาโลกกรวด เถิงหราน ผู้นอนงีบบนเก้าอี้พลันลืมตาขึ้นและมองชายหัวงูข้างๆ


 


“สถานการณ์?”


“เทพแท้จริงขั้นตายไป 1524 แล้ว เหลือ 994 ตัว ส่วนเทพแท้จริงขั้นกลางตายไป 1151 เหลือเพียง 668ตัว ทางฝั่งเทพแท้จริงขั้นสูงนั้น พวกมันตายไปแค่7”ชายหัวงูรายงานข้อมูล”ศัตรูเราควรมีกำลังคนค่อนข้างมาก จำนวนเทพแท้จริงของเรานั้นลดลงทุกนาที”


“นี่เป็นข่าวดีไม่ใช่หรือ?มันหมายความว่าจำนวนเทพแท้จริงทางฝั่งศัตรูก็ลดลงเหมือนกัน”เถิงหรานแสดงความคิดเห็นพลางเลิกคิ้ว


 


ชายหัวงูลังเล”แต่ทว่า ความเร็วการตายของเทพเสมือนไม่ได้ช้าลงเลย ในความเป็นจริง มันยังเพิ่มขึ้น…”


“เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันจะได้รัผลจากการต่อสู้ของเทพแท้จริง เทพเสมือนจึงตาย?”หญิงสาวขายาวถาม


 


‘นี่เป็นไปได้”ชายหัวงูพยักหน้า”


 


หลังชายหัวงูพูดจบ เขาก็พูดต่อ”แต่นี่แค่การคาดเดา มีเพียงคนบนสนามรบถึงรู้ชัดถึงสถานการณ์”


 


“ไม่ว่ายังไง เจ้าก็มีคำอธิบายไปหมด”หญิงสาวขายาวบ่น


 


“พอแล้ว เลิกเถียงกันได้แล้ว”เถิงหรานโบกมือ”เตรียมตัวให้พร้อม!”


 


“ท่านผู้นำนิกาย ข้าคิดว่าเราควรรอก่อน”ชายหัวงูรีบหยุดเขา”แม้จำนวนการบาดเจ็บล้มตายของเทพแท้จริงจะช้า มันก็ไม่ได้หยุดลง นั่นหมายความว่าทางฝั่งโลกกรวดควรมีเทพแท้จริงคอยเฝ้าพิทักษ์อยู่”


 


“งั้น เราจะรอให้เผ่าอันเดทและเผ่าวิญญาณตายกันหมด จากนั้นก็ค่อยไปตามเก็บกวาดงั้นสินะ?”หญิงสาวขายาวเริ่มแขวะชายหัวงูอีกครั้ง”เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าพวกอันเดทและวิญญาณที่ควบคุมไม่ได้อยู่ในโลกกรวดนานกว่านี้ พวกมันจะทำให้คนธรรมดาตายนับร้อยล้าน!?ยิ่งประชากรพื้นฐานของโลกกรวดลด มันก็ยิ่งชะลอยุคบ่มเพาะถัดไป การเก็บเกี่ยวทรัพยากรของเราจะถูกเลื่อนออกไปด้วย!”


 


ชายหัวงูพูดไม่ออกและไม่สามารถปฏิเสธได้


 


เถิงหราน ผู้อยู่ข้างๆฟุ้งซ่านไปชั่วขณะ เมื่อเขาได้สติกลับ เขาก็พยักหน้า”ครั้งนี้นางพูดถูก เราไม่สามารถรอได้อีกแล้ว!”


 


“แต่ถ้านี่เป็นกับดักละ?จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกมันจงใจชะลอการสังหารเทพแท้จริงเพื่อล่อเรา?”ชายหัวงูหยิบยกปัญหาที่มันกังวลสุดขึ้นมา


 


“ถ้ามันเป็นกับดักอย่างงั้นรึ?!”


 


เถิงหรานลุกขึ้น มองชายหัวงูด้วยดวงตาลุกโชน


 


“มันเป็นไปไม่ได้ที่เทพสวรรค์จะลงไปยังโลกกรวด ไม่ใช่แค่นั้น แต่ข้ายังใช้พลังกฏเทพได้ถึง 36 ประเภท ท่ามกลางเทพแท้จริง นอกจากพวกชั้นนำแล้ว จะใครท้าทายข้าได้อีก?!”


“เจ้าคิดว่ายอดฝีมือเทพแท้จริงขั้นสูงสุดจะปรากฏตัวในโลกกรวดแห่งนี้หรือยังไง!?”


เมื่อได้ยิน ชายหัวงูก็เงียบสนิท


 


มันไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ความสามารถของผู้นำนิกาย แต่นิสัยระมัดระวังทำให้เขามีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณา ความกังวลเขาก็ลดน้อยลง


 


ความสามารถของเถิงหรานถือเป็นจุดสูงสุดในหมู่เทพแท้จริงของแดนเทพ มีน้อยคนนักที่จะเอาชนะเขาได้


 


ในโลกกรวด ความเป็นไปได้ที่จะพบกับตัวตนเช่นนั้นแทบเป็นศูนย์


 


หลังคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดชายหัวงูก็ล้มเลิกความพยายามจะกีดกันเถิงหราน


 


“เตรียมตัวให้พร้อม หลังจากนี้เราจะใช้อุโมงค์มิติที่ยืนยันแล้วว่าปลอดภัย!”เมื่อเห็นชายหัวงูไม่ปฏิเสธ เถิงหรานก็ออกคำสั่งันที


 


ไม่นานนัก เถิงหรานก็พาเทพเสมือนกับเทพแท้จริงแบ่งเป็น 30 กลุ่ม ก้าวเข้าอุโมงค์มิติไป


….


ในขอบเหวนรก หลินฮวงได้สั่งให้ทาสดาบและมอนสเตอร์อัญเชิญเขาควบคุมความเร็วการสังหาร


 


ตัวเขาเองได้สังหารเทพแท้จริงขั้นสูงไป 7 แต่เขาไม่ได้ตั้งใจ นี่เกิดขึ้นเพราะมอนสเตอร์ทั้งเจ็ดนี้มีอารมณ์ฉุนเฉียวและอยากหลุดพ้นวงล้อมของมีดบิน ทำให้พวกมันถูกแทงจะตาย


 


หลินฮวงควบคุมจังหวะการต่อสู้บนสนามรบแห่งนี้มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว จากนั้นความผันผวนอีกระลอกก็ส่งมา


 


เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงความผันผวน ทุกคนก็อดเหลือบมองไม่ได้


 


สีหน้าของทุกคนในโลกกรวดดูไม่น่ามอง


 


แม้สนามรบจะดูเหมือนสูสี แต่จำนวนศัตรูนั้นมากกว่า สนามรบเทพแท้จริงที่หลินฮวงนำทัพยังถูกบังคับให้ต้องเป็นฝ่ายรับ


 


บนสนามรบเทพเสมือน แม้โลกกรวดจะได้เปรียบ มันก็เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น


 


หลังครึ่งชั่วโมงต่อมา ศัตรูก็กลับมาพร้อมกำลังเสริมและเห็นได้ชัดว่าเตรียมการมาดี


 


สถานการณ์เริ่มไม่ดี!


 


ตงฟางไป่อดถามหลินฮวงไม่ได้”ตอนนี้ศัตรูมาพร้อมกำลังเสริมอีกแล้ว เราควรทำยังไงกันดี?!”

“เราจะทำอะไรได้?เราไม่สามารถปิดกั้นอุโมงค์มิติได้อยู่แล้ว”หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม


“ข้าหมายความว่า ท่านมีไพ่ตายอะไรไว้จัดการกับกองกำลังชุดนี้หรือไม่?”ตงฟางไป่สังเกตเห็นท่าทีไร้กังวลของหลินฮวง


“มี”หลินฮวงตอบแค่คำเดียวและไม่ให้คำอธิบายเพิ่ม


 


ตงฟางไป่ยังอยากถามเพิ่ม แต่หลังพิจารณา เขาก็ล้มเลิกความตั้งใจนี้ คำตอบของหลินฮวงชัดเจนว่าเขาไม่อยากอธิบาย


 


ในความเป็นจริง ขณะที่ตงฟางไป่กำลังถามคำถามเหล่านี้ คุณฟู่ หลินซวน หลินซินและเสี่ยวโม่ก็กำลังถามหลินฮวงด้วยคำถามเดียวกัน นั่นคือสาเหตุที่เขาขี้เกียจเกินกว่าจะมานั่งอธิบายให้ฟังทีละคน


 


เมื่อเขาจัดการกับคำถามของคนเหล่านี้แล้ว หลินฮวงก็หันไปมองทางอุโมงค์มิติ เขาสัมผัสได้ว่าความผันผวนนั้นยิ่งรุนแรงขึ้น”ในที่สุดพวกมันก็มา!”


 


แน่นอน เขารู้ว่าคนที่มานั้นควรเป็นผู้บงการเบื้องหลังการรุกรานโลกกรวดแห่งนี้


 


ในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มันเป็นไปไม่ได้ที่คนกลุ่มนี้จะทำการจับมอนสเตอร์มาอีกครั้งเพราะมันมีเวลาไม่พอ ดังนั้น ผู้มาใหม่ชุดนี้จึงเป็นได้แค่ตัวผู้รุกรานเอง


 


หลินฮวงจ้องประตูมิติตาไม่กะพริบ รอให้ศัตรูมาถึงอย่างอดทน เขาจงใจสั่งให้ไป่ ทาสดาบและคนอื่นๆชะลอการสังหารเทพแท้จริงเพื่อล่อผู้รุกรานเหล่านี้ให้ออกมา


 


ในที่สุดเป้าหมายนี้ก็บรรลุแล้ว!


 


ไม่กี่อึดใจต่อมา ความผันผวนของอุโมงค์มิติทั้ง 30 แห่งก็พุ่งถึงจุดสูงสุด หลังจากนั้น เงาร่างนับหมื่นก็กระโจนออกมาพร้อมกัน!


 


หลินฮวงปล่อยจิตเทวะออกมา จับเข้ากับเทพแท้จริง 37 คน เมื่อเขาได้เห็นเถิงหรานและเทพแท้จริงขั้น 9 คนอื่น เขาก็แสยะยิ้ม


 


“ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรา!”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)