ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1479-1484
บทที่ 1479 : สิบสามสาขาของล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตปั่นป่วนโกลาหล!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ช่วงบ่าย
ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาซวนอู่เหมิน
จางเย่ปรากฏตัวขึ้น
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็มีเสียงระเบิดและเสียงกรีดร้อง ในซูเปอร์มาร์เก็ตวุ่นวายไปทั้งแถบ!
……
ที่หน่วยดับเพลิงแห่งหนึ่ง
เหล่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพิ่งกลับจากภารกิจ
“หัวหน้าหวัง กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม”
“ช่วยออกมาได้แล้วใช่ไหม?”
“ช่วยเสร็จแล้ว เฮ้อ วันนี้เหนื่อยมาก”
“ใช่ วันนี้งานหนักจริงๆ”
“นักข่าวมาที่นี่หลายรอบแล้ว”
“โชคดีที่จางเย่ไม่ได้เป็นอะไรไปในเขตรับผิดชอบของเรา”
ทุกคนถอดชุดผจญเพลิงออก ขณะที่นั่งคุยกันอยู่ก็มีสายโทรเข้ามา
เป็นสายจากศูนย์บัญชาการ
หัวหน้าหวังรีบไปรับสาย “ฮัลโหล ศูนย์บัญชาการเชิญพูดมาได้เลยครับ”
โอเปอร์เรเตอร์ด้านนั้นพูดขึ้น “เพิ่งได้รับสายขอให้ช่วยมาค่ะ อาจารย์จางเย่ถูกขังอีกแล้ว เขาติดอยู่ที่ประตูหมุนของล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ต ระบบจ่ายไฟของซูเปอร์มาร์เก็ตมีปัญหา ไฟดับทั้งร้านเลยค่ะ พวกคุณรีบไปช่วยเถอะ”
หัวหน้าหวังอึ้ง “อะไรนะ? จางเย่อีกแล้วเหรอ?”
โอเปอร์เรเตอร์ “อืม”
หัวหน้าหวัง “แต่ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตปิดร้านแล้วนี่? เขาก็ออกไปแล้วด้วยนะครับ?”
โอเปอร์เรเตอร์ “ไม่ใช่สาขาซีหม่าฉ่าง แต่เป็นล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาซวนอู่เหมินค่ะ”
หัวหน้าหวัง “หา? แต่ที่นั่นไม่ได้อยู่ในเขตรับผิดชอบของพวกผมนี่ครับ?”
โอเปอร์เรเตอร์ “จางเย่เจาะจงเป็นพวกคุณน่ะค่ะ บอกว่าพวกคุณมีประสบการณ์”
หัวหน้าหวังเป็นลม!
เจ้าหน้าที่คนอื่นกระอักเลือด!
พวกเรามีประสบการณ์?
ใช่สิ! แม่งจะไม่มีประสบการณ์ได้ยังไง!
วันนี้พวกเราไปช่วยนายสามครั้งแล้ว!
เกิดอะไรขึ้นกัน! ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงเกิดเรื่องบ่อยขนาดนี้! อีกอย่าง ทำไมต้องเป็นล็อตเต้ด้วย? เขามีความแค้นกับซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้มาก่อนเหรอ? ทำไมถึงเล็งแต่ล็อตเต้ล่ะ!
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
จางเย่ได้รับการช่วยเหลือสำเร็จ
ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น
จางเย่ที่เพิ่งได้รับการช่วยชีวิตก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูของล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตบนถนนฉางชุนอีกครั้ง เขากำลังมองไปรอบๆ
“กรี๊ด!”
“วิ่งเร็ว!”
“ท่อน้ำระเบิด!”
“น้ำท่วมซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว!”
“ไอ้หยา!”
“ท่วมแล้ว! น้ำท่วมแล้ว!”
……
บ่ายสองครึ่ง
ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาฝู่ซิงเหมิน
“ไฟไหม้!”
“ไฟไหม้ห้องน้ำชาย!”
“เชี่ย! ดับไฟเร็ว!”
“มีคนอยู่ข้างในไหม?”
“เหมือนว่าจางเย่จะติดอยู่ในนั้นนะ!”
“เชี่ย เขาอีกแล้วเหรอ? ข่าวเพิ่งบอกว่าโดนน้ำท่วมอยู่ที่ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ถนนฉางชุนนี่!”
“รีบโทรหนึ่งหนึ่งเก้าสิ!”
……
เวลาบ่ายสามโมง
ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาซีจื๋อเหมิน
“ดูคนนั้นสิ!”
“นั่นมันจางเย่ใช่ไหม?”
“เชี่ย! ทำไมเขาถึงมาที่ซีจื๋อเหมินได้ล่ะ?”
“นายดูข่าวเมื่อกี้หรือยัง?”
“ดูแล้ว ไอ้ตัวภัยพิบัติ!”
“รีบหลบเขาให้ไกลเลย ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตเดือดร้อนกันไปสี่ห้าที่แล้ว!
“หนีกันเถอะ ตอนนี้เขาโชคร้ายมาก ใครอยู่ใกล้ก็ซวยไปด้วย!”
“กรี๊ด! ตู้แช่แข็งระเบิดแล้ว!”
“ฉันว่าแล้ว! ฉันคิดไว้แล้วเชียว!”
……
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งปักกิ่งต่างเป็นบ้าไปแล้ว!
มีสายโทรเข้าไม่หยุด!
“อะไรนะ? เขาอีกแล้ว?”
“รอบนี้ที่ไหนล่ะ?”
“ไปโผล่ตงจื๋อเหมินเหรอ?”
“ที่ล็อตเต้ ซูดปอร์มาร์เก็ตอีกแล้ว?”
“เชี่ย เขาเหยียบขี้หมามาหรือไง!”
“ไอ้ดาวดวงซวย!”
“เดี๋ยวก็ไปซวนอู่เหมิน เดี๋ยวก็ไปถนนฉางชุน อีกแป๊บเดียวก็ไปโผล่ที่ซีจื๋อเหมิน ตอนนี้ไปอยู่ตงจื๋อเหมินแล้ว เชี่ยแม่ง! เขาเดินตามเส้นรถไฟใต้ดินสายสองใช่ไหมเนี่ย!”
“รีบเอารถออกเถอะ! หมอนั่นติดอยู่ในลิฟต์อีกแล้ว!”
……
ในเวลาเดียวกัน
ฝั่งล็อตเต้ประเทศจีน
ผู้จัดการหลายคนเกือบจะล้มพับลงไป!
“จบแล้ว! สาขาตงจื๋อเหมินก็เกิดเรื่องแล้ว!”
“ไอ้คนแซ่จางมันต้องการอะไร!”
“สมควรตาย เขาจงใจหรือเปล่า!”
“ไม่ได้เกิดจากคนจริงๆ ตำรวจสืบสวนแล้ว ทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ ปัญหาทั้งหมดเกิดจากอุปกรณ์ของเรา อุปกรณ์หลายอย่างต่ำกว่ามาตรฐาน ฝ่ายสำนักงานที่เกี่ยวข้องเริ่มตรวจสอบเราแล้ว!”
“แย่แน่ ครั้งนี้แย่จริงๆ แล้ว!”
“ดาวดวงซวยตัวนี้จะไปสาขาอื่นด้วยไหม?”
“ไม่รู้ ตอนนี้เขาเดินไปตามสายสถานีรถไฟใต้ดิน เห็นล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ไหนก็เดินเข้าไปที่นั่น!”
“เชี่ย!”
“เขาไม่ตายๆ ไปเสียเลยล่ะ!”
คนของล็อตเต้กรุ๊ปจากเกาหลีต่างด่าจางเย่อย่างบ้าคลั่ง!
……
ช่วงเวลาหนึ่งวันนี้
ตั้งแต่เที่ยงวันถึงช่วงกลางคืน
ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วกรุงปักกิ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตสิบสามแห่งที่เปิดกิจการในเมืองหลวงปักกิ่งล้วนปั่นป่วนโกลาหลตลอดทั้งวัน!
หยุดทำการ!
หยุดทำการ!
หยุดทำการ!
ไม่เหลือแม้แต่ที่เดียว!
ร้านค้าล็อตเต้ทั้งสิบสามแห่งถูกบังคับให้ปิด!
เนื่องจากอุปกรณ์หลักเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเข้ามาแทรกแซงการสอบสวนอย่างรวดเร็ว พวกเขาตรวจสอบเจอปัญหาเยอะมาก หน่วยงานยังได้ออกคำเตือนเรื่องความปลอดภัยซึ่งมีความคลอบคลุมถึงล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งหมดในประเทศจีน ตอนนี้คนทั่วประเทศต่างเรียกล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตว่า ‘ตูดแน่น’! (ประมาณว่าอึไม่ออก เปิดไม่ได้ ขายไม่ได้)
อันตรายมาก!
เกิดเรื่องเยอะขนาดนี้ภายในวันเดียวได้ยังไง?
นี่มันคือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ไหนกัน!
แม่งเป็นสนามรบชัดๆ!
บนเวยป๋อ
“ฉันจะไม่เข้าล็อตเต้อีกแล้ว!”
“ใช่ ใครแม่งจะกล้าไป!”
“อาจารย์จางไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร สบายดีอยู่”
“หมอนี่เดินไปตามสายสถานีรถไฟใต้ดินสายสองด้วยพลังเต็มเปี่ยมเลยล่ะ!”
“ฉันล่ะยอมเขาเลย จางเย่ก็โชคร้ายเกินไปไหม? เรื่องทุกอย่างลงที่เขาหมดเลยเหรอ?”
“แค่โชคร้ายที่ไหน นี่มันผิดปกติแล้ว!”
“ผู้ชายคนนี้สมควรเป็นตำนาน ตัวเขาสามารถทำเรื่องที่คนอื่นหมดคำพูดได้เสมอ ตอนนี้ฉันเห็นจนไม่แปลกใจอะไรแล้ว!”
“ฉันไม่เคยเห็นใครดวงซวยเท่าเขาเลย!”
“มีใครนับบ้างไหม? วันนี้เขาโชคร้ายไปกี่ครั้งแล้ว?”
“สื่อบางแห่งนับเป็นสถิติแล้ว”
ตกลงไปในบ่อสองครั้ง
โดนรถชนสามครั้ง
ถูกโคมระย้าตกใส่หนึ่งครั้ง
จมอยู่ใต้น้ำสองครั้ง
ติดแหงกห้าครั้ง
ตกบันไดเลื่อนหนึ่งครั้ง
ลื่นล้มเจ็ดครั้ง
เขายังเป็นดาราอยู่อีกเหรอ?
นี่แม่งเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายชัดๆ!
ข่าวในวันนี้ถูกจางเย่ยึดครองทั้งหมด วันนี้วงการบันเทิงไม่มีข่าวอื่นอีก ทั้งหมดเป็นข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุของจางเย่ เดี๋ยวเกิดเรื่องที่นี่ ครู่เดียวก็เกิดเรื่องอีกที่ วันนี้ทั้งวันไม่มีหยุด!
คนญี่ปุ่นเองยังตกใจ!
คนเกาหลีก็ตะลึงเช่นกัน!
“พระเจ้าจะเอาเขาไปแล้วใช่ไหม?”
“แม้แต่เทพเซียนก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”
“ฉันเคยซวยเหมือนกันนะ แต่แม่งไม่เคยเห็นใครซวยขนาดนี้มาก่อนเลย!”
“ทำไมต้องเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเครือล็อตเต้กรุ๊ปของเราด้วย?”
“เขาโชคร้ายคนเดียว ทำไมต้องลากธุรกิจของพวกเราเข้าไปด้วยล่ะ!”
“มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะขนาดนี้ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยเหรอ?”
“เชี่ย จำนวนชีวิตหมอนี่แม่งเยอะเกินไปไหม!”
“รีบเอาเขาออกไป! อย่าปล่อยให้เขาทำร้ายผู้คนอีกเลย!”
“เชรด! นายรู้ว่าจะซวยขนาดนี้ ทำไมไม่หลบอยู่ในบ้านดีๆ ล่ะ? จะออกมาทำไม? นายจะมาที่ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตของเราทำไม? นายออกไปนะ! รีบออกไปเลย!”
“พวกนายคิดว่าเขาทำเรื่องชั่วมามากมายเค่ไหนกัน”
“ชาติก่อนเขาต้องเคยทำลายล้างโลกแน่ๆ!”
ในเวลานี้ คนทั้งเอเชียต่างพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น!
ล็อตเต้
จางเย่
เทพเจ้าแห่งความโชคร้าย ฯลฯ
คีย์เวิร์ดพวกนี้ขึ้นฮอตเสิร์ชอันดับต้นๆ ของเอเชีย!
จากนั้นฉากที่น่าทึ่งที่สุดก็ได้เผยโฉมอีกครั้ง พอพ้นเที่ยงคืน ทำเนียบดาราเอเชียก็อัปเดตแล้ว คะแนนนิยมของจางเย่พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง!
ยังอยู่อันดับสามของระดับ A!
แต่ตัวเลขความนิยมกลับพุ่งสูงขึ้นมาก!
หลายคนเห็นแล้วก็ต่างพูดไม่ออกกันเป็นแถบ!
บทที่ 1480 : จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นอีกแล้ว!
โดย
Ink Stone_Fantasy
วันต่อมา
รุ่งเช้า
ชาวเน็ตยังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่
“ดูทำเนียบยัง?”
“เพิ่มขึ้นอีกแล้ว”
“ยอมใจท่านปู่จางเลยจริงๆ”
“ใช่ ไม่ยอมไม่ได้แล้ว!”
“ไม่รู้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นอีก”
“ถ้าปล่อยให้เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ บางทีก่อนจะไปเป็นพ่อคน เขาอาจจะขึ้นถึงยอดอันดับทำเนียบเอเชียได้จริงๆ”
“เหลวไหล ยังห่างอยู่ไม่น้อยเลยนะ”
“ดูเขาโชคร้ายขนาดนี้ จะรอดไปถึงจุดสูงสุดของเอเชียได้หรือเปล่า?”
“พรูด ก็จริง”
เทพเจ้าแห่งความโชคร้าย นี่คือชื่อเล่นใหม่ของจางเย่
ผู้ชายคนนี้สามารถหาคะแนนนิยมด้วยวิธีประหลาดๆ เสมอ ทุกคนเคยชินแล้ว
……
สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
ภายในเต็นท์หลังหนึ่ง
จางเย่นอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างใน เมื่อคืนนี้เขาอาศัยอยู่ในสวนสาธารณะ ไม่กล้ากลับบ้าน และไม่กล้าไปพักที่โรงแรม เขาไปซื้อเต็นท์และตั้งไว้บนสนามว่างๆ อของสวนสาธารณะ แม้ว่าจะมีลมกระโชกแรงห้าหรือหกครั้งตอนกลางคืน แม้ว่าต้นไม้ใหญ่สองต้นด้านข้างจะล้มมาทับเต็นท์ แม้ว่าหมาโคตรดุจะบุกเข้าเต็นท์กลางดึก แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาโดยมีงูตัวหนึ่งขดตัวแลบลิ้นขู่ฟ่ออยู่ข้างหัว แต่ก็นั่นแหละ ยังโชคดีที่เขารอดชีวิตมาได้
เขาอ่านข่าว
และดูทำเนียบดารา
คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอีกแล้วเรอะ?
แต่จางเย่จะคิดทางไหนก็ไม่ยินดีไม่ออก ที่จริงเขาผ่านเมื่อวานมาได้อย่างยากลำบากมาก แถมแม่งยังไม่จบด้วย ยังมีวันนี้อีกวัน!
วันนี้จะทำยังไงดี?
วันนี้จะไปหลบซ่อนตัวที่ไหนดี?
ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขาในปักกิ่งถูกเขาทำลายไปหมดแล้ว!
หรือจะลองไปล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เทียนจินดี?
‘โชคร้ายห้าเท่า’
‘ระยะเวลาที่เหลือ : ยี่สิบหกชั่วโมงห้านาทีสิบห้าวินาที’
เมื่อเห็นตัวเลขนับถอยหลังของลูกเต๋าแห่งความโชคร้าย จางเย่ก็เจ็บปวดนัก
เขาต้องการพลิกสถานการณ์เลยนึกถึงวงแหวนเกมอีกครั้ง เปิดใช้งานรัศมีแห่งโชค (อัปเกรด) แล้วกดเปิดการสุ่มลอตเตอรี่ประเภทที่สองขึ้นมา ไม่ได้เพิ่มเดิมพัน แค่ลองสุ่มดูครั้งหนึ่ง เขาอยากลองดูว่าจะสามารถสุ่มสิ่งที่เอามาใช้แก้สถานการณ์ตอนนี้ได้หรือไม่ ถ้าได้อุปกรณ์ที่สามารถจบการทำงานของลูกเต๋าแห่งความโชคร้ายล่วงหน้าได้ก็เยี่ยมไปเลย
การสุ่มเริ่มต้นขึ้น
สล็อตแมชชีนเริ่มหมุน
ป๊าด่า
ว่างเปล่า’!
ไม่มีอะไรสักอย่าง!
จางเย่ยังไม่เชื่อ จึงสุ่มอีกครั้ง
แล้วก็ ‘ว่างเปล่า’!
ในที่สุดเขาก็เลิกพยายาม สิ่งนี้ทำให้จางเย่ได้ข้อสรุปในใจแล้ว ผลของรัศมีแห่งโชค (อัปเกรด) มีน้อยกว่าลูกเต๋าแห่งความโชคร้ายห้าเท่า มาทีหลังย่อมมีประสิทธิภาพกว่ามาก่อน ตราบใดที่สถานะโชคร้ายห้าเท่ายังคงอยู่ จางเย่ก็ไม่สามารถสุ่มอะไรออกมาได้
มีเสียงฝีเท้าด้านนอก
“หืม? มีคนอยู่ไหม?”
“มี”
“ตรงนี้ตั้งเต็นท์ไม่ได้นะ!”
“ได้เลย จะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ซิปเต็นท์เปิดออก และจางเย่ก็เดินออกมา
ด้านนอกคือคนงานสุขาภิบาล เพียงเห็นจางเย่ พี่สาวคนนั้นก็ตกใจถอยหลังไปสี่ก้าวอย่างลนลาน แม้น้ำเสียงยังเปลี่ยนไป “จาง จางเย่!”
จางเย่รื้อเต็นท์ จัดเก็บ และจากไป
คนงานสุขาภิบาลหลบเลี่ยงเขาอยู่ไกลๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
มีทั้งรายงานข่าว ชาวเน็ตเองก็สนทนาอย่างเผ็ดร้อน ตอนนี้ผู้คนทั่วเอเชียต่างรู้แล้วว่าจางเย่เป็นตัวซวย เมื่อก่อนจางเย่จะไปเดินบนถนน เขาต้องปกปิดตัวตนอย่างมิดชิด กลัวจะถูกแฟนคลับรุมล้อม ตอนนี้ไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้แล้ว ต่อให้หมอนี่เดินถนนโต้งๆ ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ในระยะสามเมตร
ในวันนี้จางเย่สามารถ ‘เดินเล่น’ บนท้องถนนได้อีกครั้งแล้ว
ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทุกคนต่างหลบหลีกอย่างหวาดกลัว!
“กรี๊ด!”
“จอมตอกหน้าจางโผล่มาแล้ว!”
“รีบเดินเร็ว!”
“อยู่ห่างจากเขาหน่อย!”
“หนีเร็ว!”
ทุกคนทำเหมือนมีปีศาจร้ายบุกเข้ามาในหมู่บ้าน
จางเย่เตรียมใจมาอย่างดี เขาพร้อมรับมือกับสถานการณ์วันนี้ด้วยความตื่นตัวและตึงเครียด แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติ ตั้งแต่จางเย่ออกจากสวนสาธารณะจนถึงตอนนี้ ก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้างถนนไม่มีบ่อน้ำ ไม่มีรถบนท้องถนนที่หลุดจากการควบคุมและวิ่งมาชนเขาแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
นี่มันไม่ปกตินี่!
จางเย่งงเล็กน้อย ยิ่งเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งตื่นตัวกว่าเดิม
เชี่ย แม่งเป็นลมสงบก่อนพายุจะมาแน่ๆ ไอ้ลูกเต๋านั่นคงไม่ใช่ว่ากลั้นไว้ก่อนจะจัดชุดใหญ่ใส่เขาหรอกนะ?
ครึ่งชั่วโมง
หนึ่งชั่วโมง
สองชั่วโมง
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนน่ากลัว
หากในเวลาปกติ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป ความโชคร้ายห้าเท่าของลูกเต๋ายังคงนับถอยหลัง มันยังไม่จบลง เมื่อวานปะทะศึกใหญ่ขนาดนั้น แต่วันนี้กลับไม่มีเลย? จะคิดทางไหนก็เป็นไปไม่ได้!
อย่างเชื่องช้า ท้องฟ้ามืดลงแล้ว
จางเย่เริ่มไม่มั่นใจหนักขึ้น
พอตกกลางคืน เขาก็เริ่มโทรหาคนอื่นๆ
……
โทรหาคนในครอบครัว
“แม่ ผมเอง”
“แกอยู่ไหน?”
“ผมอยู่ข้างนอก ที่บ้านไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”
“ไม่มีนี่”
“พ่อล่ะ?”
“ดูทีวีอยู่”
“อู๋ล่ะ?”
“เพิ่งวางสายไป เธออยู่บ้านพ่อแม่”
“คุณตาคุณยายล่ะ?”
“ทุกคนสบายดี”
“อืม ไม่น่าใช่แบบนี้สิ”
“แกหมายความว่ายังไงหา? แกอยากให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเรารึไง?”
“เอ่อ เปล่า ไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่ถามเฉยๆ เป็นห่วงไง”
……
จากนั้นก็โทรไปที่สตูดิโอ
“เหล่าฮา”
“ผู้กำกับจาง คุณจะกลับมาเมื่อไรคะ? ทุกคนเป็นห่วงมากเลยนะคะ”
“ผมไม่เป็นไร สบายดีอยู่ พวกคุณเป็นยังไงบ้าง?”
“พวกเรา? พวกเราสบายดีค่ะ”
“แล้วทางคอนเสิร์ตล่ะ?”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
“เวทีไม่ยุบเหรอ?”
“หา? เวทียุบอะไรคะ?”
“มีอุปกรณ์ระเบิดไหม?”
“หา? ไม่ระเบิดค่ะ!”
“มีพนักงานตกบ่อน้ำไหม?”
“หา? ไม่มีค่ะ!”
“อ้อ งั้นไม่มีอะไรแล้ว”
……
เขาโทรออกไปอีกหลายสาย เพื่อนและครอบครัวต่างสอบถามมาหมดแล้ว สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนล้วนสบายดี แต่นี่ก็ยิ่งทำให้จางเย่กังวลหนัก
เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่!
มันต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นชัวร์ๆ!
จางเย่ตั้งหน้าตั้งตารอให้มีบางอย่างเกิดขึ้นเร็วๆ ยิ่งเงียบสงบ เขาก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น ความโชคร้ายห้าเท่าไม่ง่ายดายแบบนี้แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่ผลกระทบจะมีแค่หนึ่งวันและล้มเหลวไป เขารู้ว่าต้องเกิดสิ่งที่ส่งผลกระทบกับเขาที่ไหนสักแห่ง เพียงแต่มันไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าเขาเลยไม่ เขาเชื่อจนสุดใจ ไม่ใช่ว่าเขาระแวง แต่การคาดเดาเหล่านี้เกิดจากความเข้าใจที่เขามีต่อวงแหวนเกม เขารู้กฎการทำงานของมันเป็นอย่างดี
หนึ่งชั่วโมง
สองชั่วโมง
กลางคืนแล้ว ยังคงปลอดภัยดี
สื่อมวลชนและประชาชนไม่มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว
“ไอ้หยา ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย?”
“วันนี้ไม่มีข่าวของจางเย่เลยเหรอ?”
“ฉันรอมาทั้งวันแล้วเนี่ย”
“พรูด พวกนายไม่มีอะไรทำแล้วรึไง!”
“พวกนายก็พอได้แล้ว วันวันเอาแต่จ้องให้จอมตอกหน้าจางเกิดเรื่องอยู่นั่นแหละ!”
“ปล่อยไปเถอะน่า”
ตอนนี้จางเย่เองก็สงบลงแล้ว ลูกพี่ไม่กลัวเกิดเรื่องแม่งแล้ว ส่งอะไรมาฉันก็รับได้ทั้งนั้น นอนเถอะ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ พรุ่งนี้ก็ได้รู้แล้ว
บทที่ 1481 : ตัวจริงของแฮกเกอร์ในตำนาน!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ช่วงเช้า
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
นกกำลังส่งเสียงร้องอย่างมีความสุข
จางเย่ที่อยู่ในเต็นท์ตื่นแล้ว เขารูดเปิดซิปแล้วปีนออกมาก่อนจะเงยมองท้องฟ้าสีครามที่หาได้ยากเบื้องบน เขาหาวและยืดเส้นยืดสาย รู้สึกสดชื่นแจ่มใส จางเย่ดูแหวนเกม การนับถอยหลังเหลือเวลาอีกสามชั่วโมง ช่วงเวลาโชคร้ายห้าเท่ากำลังจะผ่านพ้นไป เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก
มาเถอะ
รอดูว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไร
จางเย่หยิบมือถือออกมาและเข้าอินเทอร์เน็ต
แต่ว่าเมื่อเลื่อนดูอย่างไม่รีบร้อน จางเย่ก็ต้องตกตะลึงทันที!
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ในขณะนี้จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ทุกคนต่างตกตะลึง!
เมื่อกี้เกาหลีปล่อยข่าวที่สร้างความตกใจให้แก่ทั่วเอเชีย ช่างเทคนิคด้านความปลอดภัยของพวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดก็จับร่องรอยของแฮกเกอร์ในตำนาน ‘2’ ที่ได้รับจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลกได้ และคอนเฟิร์มเป้าหมายแล้วเรียบร้อย!
แฮกเกอร์จีน 2?
ไวรัสแพนด้าจุดธูปอันโด่งดัง?
สงครามแฮกเกอร์จีนเกาหลี?
ภัยพิบัติของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในเกาหลีใต้?
แน่นอนว่าชาวเอเชียไม่มีวันลืมเรื่องเหล่านี้ ทุกคนเคยผ่านประสบการณ์ในปีนั้นมา จนถึงตอนนี้ก๋ยังรู้สึกช็อกไม่หาย แฮกเกอร์ 2 เป็นปริศนาคาใจใครหลายคน พวกเขาคิดว่าความลับนี้คงไม่มีทางไขได้ เพราะหลังจบสงครามแฮกเกอร์จีนเกาหลี แฮกเกอร์ 2 ก็หายตัวไป ไม่แสดงตัวอีกเลย แต่ตอนนี้เกาหลีกลับพบร่องรอยแล้ว? ทำไมคนจะตกใจและอยากรู้อยากเห็นล่ะ? เมื่อเทียบกัน เรื่องความโชคร้ายของจางเย่ไม่นับเป็นอะไรเลย ขณะนี้สายตาของประชาชนทั่วเอเชียถูกเรื่องนี้ดึงไปแล้ว!
……
ประเทศจีน
“ใครอ่ะ?”
“เขาเป็นใครกันแน่?”
“เทพเจ้า 2 ไอดอลของฉัน!”
“ใช่ ฉากที่ 2 พาแฮกเกอร์จีนกวาดเกาหลีจนราบคาบ พอนึกถึงทีไรฉันก็ยังตื่นเต้นไม่หายเลย”
“หาเจอแล้วจริงๆ เหรอ?”
“ฉันอยากรู้มาก แต่ก็ไม่อยากรู้เหมือนกัน”
“การเปิดเผยตัวตนของแฮกเกอร์ มันคือหายนะเลยนะ!”
“เทพเจ้า 2 เป็นถึงฮีโร่ของชาติเชียวนะ ประเทศเราต้องปกป้องเขาอยู่แล้ว”
“อืม ด้วยเทคนิคของแฮกเกอร์ 2 ทั่วประเทศต้องรวมตัวกันเพื่อคิดหาวิธีฟอกตัวเขาให้สะอาด ไม่มีทางส่งเขาให้เกาหลีแน่”
……
ที่ญี่ปุ่น
“ในที่สุดก็จับเขาได้แล้วเหรอ?”
“แฮกเกอร์คนนี้ร้ายกาจมาก”
“แพนด้าจุดธูป มันเป็นไวรัสที่คนหวาดกลัวที่สุด”
“เกาหลีในปีนั้นโดนกันทั่วหน้าจริงๆ”
“ผ่านมาหลายปีแล้ว คนไม่น้อยก็กำลังตามหาเขาอยู่ แต่ทำไมเกาหลีถึงหาเจอก่อนล่ะ?”
“พอพูดขึ้นมา แฮกเกอร์ 2 เนี่ยเป็นผู้ชี้ทางให้ฉันเลยนะ เป็นเพราะชื่นชมเขา ฉันถึงได้ไปเรียนสาขาเทคโนโลยีเครือข่าย ในบรรดาคนจีนทั้งหมด ฉันชื่นชมเขามากที่สุด”
“สมกับเป็นแฮกเกอร์ในตำนาน”
……
เกาหลีเป็นฝ่ายช็อกมากที่สุด
“จับมัน!”
“ไอ้บ้านั่น!”
“ตอนนี้แค่เห็นหมีแพนด้า ตัวฉันก็สั่นไปหมดแล้ว!”
“ใช่ เพราะสิ่งที่แม่งทำในปีนั้นนั่นแหละ!”
“ไอ้คนนี้ทำให้ระบบเครือข่ายและวงการคอมพิวเตอร์ทั้งประเทศของเราถูกทำลาย ปล่อยเขาไปไม่ได้นะ เสียหายมามากแล้ว!”
“ส่งมอบแฮกเกอร์ 2!”
“ใช่ ส่งให้ศาลโลกเลย!”
“คนนี้แม่งน่าโกรธแค้นยิ่งกว่าจางเย่อีก!”
“แม่งเอ้ย คอมฉันก็เคยโดนแพนด้าจุดธูปครั้งนึง”
“นายโดนแค่นั้นเอง ฉันนี่โดนไปแปดครั้งเลยนะ! ไอ้เชี่ยเอ๊ย!”
สำหรับประเทศเกาหลี พวกเขามีศัตรูสาธารณะเพียงสองคน
คนแรก : แฮกเกอร์2
คนที่สอง : จางเย่
สองคนนี้เท่านั้น!
ทั้งสองคนได้ก่อเหตุทำร้ายจิตใจชาวเกาหลีอย่างรุนแรง!
ชัดเจนว่าแฮกเกอร์ยังร้ายกาจนำหน้าจางเย่ไปอีก!
แต่แน่นอน คนเกาหลีไม่มีทางรู้ว่าศัตรูสาธารณะของพวกเขา แท้จริงแล้วก็คือคนคนเดียวกัน
……
2?
ชื่อนี้อยู่ห่างไกลไปหน่อย จางเย่เองก็เกือบลืมไปแล้ว เมื่อวานนี้เขาเดาได้ว่ามีเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ตามที่คาดไว้ แค่ตื่นขึ้นมาก็เกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ เป็นคดีเก่าเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้จางเย่ก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน อะไรจะมาก็ต้องมาอยู่ดี
หาฉันเจอแล้ว?
หาเจอได้ยังไง?
เสียงมือถือดัง มีสายโทรเข้ามา
จางเย่มอง เหมือนจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของผู้อำนวยการต่งจากสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จางเย่ก็ยอมรับสาย “ฮัลโหล เหล่าตง”
ผู้อำนวยการต่งถอนหายใจ “ดูข่าวหรือยัง?”
จางเย่หัวเราะแห้ง “ดูแล้วครับ”
ผู้อำนวยการต่งพูด “ฉันคิดว่าเธอต้องกังวล ก็เลยมาบอกเธอสักหน่อย ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเกาหลี ตอนกำลังสอบสวนคดีอื่นอยู่ก็เจอคอมเครื่องหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นเครื่องที่ถูก 2 แฮกในครั้งนั้น และยังเป็นอุปกรณ์ที่แฮกเกอร์คนหนึ่งเคยใช้ เขาแอบติดตั้ง ‘ฮันนีพอร์ต[1]’ เอาไว้ ตอนที่ 2 โจมตีและเข้าควบคุมโฮสต์หลัก ถึงจะลบประวัติข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่กลับยังเหลือร่องรอยเอาไว้ และเกาหลีบังเอิญหาเจอพอดี หลังจากสืบสวนแล้วเอาที่อยู่ไอพีตรวจสอบมาจนถึงเครือข่ายในพื้นที่สำนักงานของเรา ไอ้เวรพวกนั้นก็ดวงดีจริง ความน่าจะเป็นครั้งนี้เกือบหนึ่งในล้านเลยนะ เฮ้อ ครั้งนี้เสี่ยวฟ่านต้องลำบากแล้ว”
จางเย่ตะลึง “ใครนะครับ?”
ผู้อำนวยการต่ง “เสี่ยวฟ่านไง”
จางเย่เบิกตาโต “ฟ่านอิงอวิ๋น?”
ผู้อำนวยการต่ง “อืม แฮกเกอร์ 2 ก็คือเธอ”
จางเย่ “…”
ผู้อำนวยการต่ง “หน่วยงานเรามีมือดีอยู่หลายคน แต่ทักษะระดับแฮกเกอร์ 2 ก็มีแต่เสี่ยวฟ่านคนเดียวแล้ว เธอเคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อนด้วย”
จางเย่ถาม “พี่ฟ่านยอมรับแล้วเหรอ?”
ผู้อำนวยการต่ง “เธอบอกว่าไม่ใช่เธอ เบื้องบนส่งคนมาตรวจสอบแล้ว เกาหลีก็เร่งมา แต่ยังไงก็คงไม่ส่งเธอให้พวกเขาแน่นอน”
จางเย่พูดอย่างรีบร้อน “ไม่ใช่พี่ฟ่าน”
ผู้อำนวยการต่งตกใจ “ทำไมถึงพูดแบบนั้น?”
จางเย่พูดต่อ “นิสัยของพี่ฟ่านเป็นยังไงคุณไม่รู้เหรอครับ? ก่อนหน้านี้เธอแฮกเข้าบริษัทในสหรัฐอเมริกา เธอไม่ได้ซ่อนที่อยู่ไอพีตัวเองด้วยซ้ำ ไม่เคยปิดบังเลย ไม่งั้นทางนั้นจะจับเธอได้ยังไง? จากนิสัยนี้ของเจ๊ฟ่าน ถ้าเธอเป็นคนทำจริงๆ เธอต้องยอมรับแล้ว เชื่อผมสิ”
ผู้อำนวยการต่ง “เรื่องนี้ ต้องตรวจสอบอีกที”
จางเย่พูดย้ำ “ไม่ใช่เธอแน่นอน!”
มีเสียงดังออกมาจากในสาย
ฟางเสียวสุ่ย “หัวหน้าตง ฉันก็เชื่อพี่ฟ่านเหมือนกันค่ะ!”
เหมิงอี้ก็พูด “ไม่ใช่เธอแน่นอน!”
ทั้งสองคนเคยทำงานกับจางเย่มาก่อน เป็นคนในสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์เหมือนกัน
ผู้อำนวยการต่งหน้าบึ้ง “พวกเธออย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน ทุกอย่างต้องรอผลการตรวจสอบก่อน”
จางเย่ถาม “ถ้าหาคนนั้นเจอแล้ว จะเป็นยังไงเหรอครับ?”
ผู้อำนวยการต่งคิดว่าเขากำลังถามแทนฟ่านอิงอวิ๋นจึงตอบว่า “ตอนนี้หลักฐานสาวมาถึงพวกเราแล้ว แรงกดดันเยอะมาก และเบื้องบนก็ให้ความสำคัญมาก ยังไงก็ต้องส่งคนไปสักคน แพนด้าจุดธูปในปีนั้นส่งผลกระทบอย่างหนัก ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากเกินไป ถ้าเกิดเป็นเสี่ยวฟ่านจริง จะต้องติดคุกแน่นอน เธอไม่เหมือนกับคนอื่น เธอไม่เพียงมีประวัติอาชญากรรม แต่เธอยังเป็นคนในหน่วยเราด้วย รู้กฎแต่ก็ยังแหกกฎ เพิ่มมาอีกหนึ่งข้อหา จึงร้ายแรงกว่าเดิมมาก แต่ถึงยังไงผมต้องหาทางรักษาคนของเราไว้ให้ได้!”
ฟังจบจางเย่ก็พยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว”
สาม
สอง
หนึ่ง
ระยะเวลาความโชคร้ายห้าเท่าสิ้นสุดลงแล้ว
————————
[1]ฮันนีพอร์ต Honeypot คือการเซ็ตอัพระบบจำลองที่คล้ายกับระบบหรือเครื่องเซิร์ฟเวอร์จริง เพื่อหลอกล่อให้ผู้บุกรุกเข้าใจว่าระบบจำลองนี้คือเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรือเครื่องผู้ใช้ตัวจริงและพยายามเจาะระบบเข้ามา พฤติกรรมต่างๆ และข้อมูลที่เข้าออกระบบจำลองนี้จะถูกเก็บรวบรวมไว้ให้เราตรวจสอบ ทั้งเพื่อเรียนรู้พฤติกรรม มีการแจ้งเตือน และป้องกันไม่ให้ทรัพยากรอันมีค่าของเราถูกขโมยออกไปได้
บทที่ 1482 : ทางเลือกของจางเย่!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ช่วงสาย
ที่สตูดิโอ
“ผู้กำกับจาง!”
“ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว!”
“ไอ้หยา สองวันนี้คุณไปอยู่ไหนมาคะ?”
“พวกเราตกใจแทบตาย”
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
“บาดเจ็บไหมคะ?”
เมื่อจางเย่เดินเข้ามา ทุกคนก็รีบล้อมวงมาหาเขา
จางเย่หัวเราะฝืนๆ “ไม่เป็นไร ด้านนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ฮาฉีฉี “ทุกอย่างปกติดีค่ะ อ้อใช่แล้ว คุณดูข่าวหรือยัง? ดูเหมือนตัวตนของแฮกเกอร์ 2 จะถูกเปิดเผยแล้วนะคะ ทุกคนกำลังคุยเรื่องนี้กันอยู่”
จางเย่อืมตอบ “ดูแล้ว”
“แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครอยู่ดีนะ” เสี่ยวหวังอยากรู้อยากเห็นมาก
ถงฟู่ “ปีนั้นเทพเจ้า 2 เท่มากเลยล่ะ”
เสี่ยวโจวรำลึก “ใช่แล้ว คนเดียวกวาดเรียบทั้งเครือข่ายของเกาหลี สงครามแฮกเกอร์จีนเกาหลีจบลงด้วยชัยชนะท่วมท้น เป็นสงครามแฮกเกอร์ที่ถูกคนพูดถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์เลย ฉันไม่เคยมีความสุขมากขนาดนี้มาก่อน อยากรู้จริงๆ ว่าแฮกเกอร์ 2 เป็นเทพเจ้ามาจากที่ไหน ไอดอลของฉัน”
พวกเขากำลังคุยกันอยู่ ตอนนี้ทั่วเอเชียต่างก็กำลังพูดถึงเรื่องนี้
มีเพียงจางเย่ที่ดูเหมือนจะไม่อยากคุยเท่าไร เขาขึ้นไปชั้นบนและกลับไปที่ห้องทำงาน
เรื่องราวตกตะกอนแล้ว
สื่อแย่งกันรายงานข่าว
‘แฮกเกอร์ 2 โดนล็อกเป้า!’
‘ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว!’
‘เกาหลีใต้แถลงหลักฐานจากการสืบสวน!’
‘เกาหลีใต้เรียกร้องให้มอบตัวผู้ต้องสงสัยมา!’
‘จุดเริ่มต้นและจุดจบของสงครามแฮกเกอร์จีนเกาหลีเมื่อปีนั้น!’
‘ผู้สร้างแพนด้าจุดธูปแสดงตัว?’
‘หลักฐานชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์?’
หลักฐานถูกเปิดเผยทีละอย่าง
ขอบเขตแคบลงทีละนิด
ในที่สุดประมาณเที่ยงวัน เมื่อฝั่งจีนไม่ยอมประกาศผลการสอบสวนออกมาเสียที ฝั่งเกาหลีรอไม่ไหวจึงประกาศชื่อผู้ต้องสงสัยออกมาโดยตรง!
ฟ่านอิงอวิ๋น!
ชื่อแฮ็กเกอร์ที่ใช้ : FAN
ดำรงตำแหน่ง : ฝ่ายความมั่นคงไซเบอร์
และอื่นๆ
ฝ่ายเกาหลีใต้ประกาศข้อมูลของฟ่านอิงอวิ๋นเพียงฝ่ายเดียว พวกเขาเป็นคนแรกที่สงสัยฟ่านอิงอวิ๋น และมั่นใจมากว่าคือเธอ ในแวดวงแฮกเกอร์ ชื่อ FAN เป็นที่รู้จักกันดี ทั้งยังเป็นแฮกเกอร์ในตำนานเมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย หากบอกว่าเธอกับแฮกเกอร์ 2 คือคนเดียวกัน หลายคนก็เชื่อข้อเท็จจริงนี้ไปแล้วอย่างเต็มหัวใจ
……
ในแวดวงแฮกเกอร์
“FAN เหรอ?”
“ใช่เธอเหรอ?”
“เธอกับ 2 เป็นคนเดียวกัน?”
“นี่มัน…”
“ไม่ใช่มั้ง?”
“ฉันรู้สึกว่าสไตล์กับเทคนิคไม่ค่อยเหมือนกันนะ?”
“คอนเฟิร์มหรือยัง?”
……
ประเทศจีน
“ฟ่านอิงอวิ๋น?”
“แฮกเกอร์ 2 เป็นผู้หญิงเหรอ?”
“กรี๊ด ฉันรู้จักเธอ FAN เป็นแฮกเกอร์ระดับตำนานเลยนะ!”
“เชี่ย ที่แท้ FAN กับ 2 ก็คือเธอเหรอ?”
“เธอเป็นหัวหน้าแฟนคลับของจางเย่ไม่ใช่เหรอ?”
“เรื่องจริงป่ะเนี่ย?”
“จริงสิ เธอเคยไปงานแต่งของจางเย่ด้วย!”
“ใช่ เป็นหัวหน้าแฟนคลับจางเย่ ชื่อในเน็ตน่าจะเป็นพี่ชายดาบยักษ์!”
“เชี่ย หัวหน้าแฟนคลับของจางเย่คือแฮกเกอร์ระดับตำนานของโลก?”
“เท่โคตร มีแฮกเกอร์สาวสวยแบบนี้อยู่ด้วย?”
……
เกาหลีใต้
“อะไรนะ?”
“ผู้หญิงเหรอ?”
“อย่าพูดไป เธอสวยอยู่นะ”
“เธอเป็นคนสร้างแพนด้าจุดธูปขึ้นมาเหรอ?”
“ร้ายกาจมาก”
“แล้วทำไมมันถึงมีความเกี่ยวข้องกับจางเย่อีกล่ะเนี่ย?”
“จางเย่ ทำไมชื่อนี้ถึงมีแต่เรื่องไม่ดีตลอดเลย!”
“ที่แท้ผู้ชายคนนี้กับหัวหน้าแฟนคลับของเขา ทั้งสองคนก็เป็นศัตรูตัวเอ้ที่สุดของเกาหลีเรานี่เอง!”
……
ณ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์
“ทำไมพวกเขาถึงประกาศออกมาแล้วล่ะ?”
“ยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนเลยนะ!”
“ฝั่งเกาหลีกลัวเราจะปกปิด เลยชิงเปิดเผยก่อน!”
“ไอ้พวกบ้านี่!”
“ฉันคิดว่าไม่ใช่เจ๊ฟ่านแน่นอน!”
“ใช่แล้ว ตอนนั้นเจ๊ฟ่านอยู่กับพวกเราตลอด ทุกคนก็เห็น เจ๊ฟ่านจะเอาเวลาที่ไหนไปส่งไวรัสล่ะ?”
“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร? เธอเหรอเสี่ยวฟาง?”
“ฉัน? ฉันจะมีเทคนิคระดับนั้นได้ยังไง”
“งั้นก็พอเถอะ ในปีนั้นหน่วยเรามีแค่ฟ่านอิงอวิ๋นคนเดียวที่มีเทคนิคถึงระดับนั้น”
……
ที่สตูดิโอ
มีสายโทรเข้ามานับไม่ถ้วน
จางเย่ดูหมายเลขโทรศัพท์ แต่กลับไม่รับสักสาย เขารู้ว่าทุกคนอยากถามเรื่องอะไร
ชั้นล่าง พวกฮาฉีฉีจางจั่วพากันวิ่งขึ้นมา
ฮาฉีฉี “ผู้กำกับจาง เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
จางจั่วตื่นตกใจ “พี่ชายดาบยักษ์คือแฮกเกอร์ 2!”
เสี่ยวหวังตะโกน “สวรรค์! นี่มันเหลือเชื่อมาก!”
ถงฟู่ช็อก “ที่แท้เทพเจ้า 2 ก็อยู่ใกล้เราแค่นี้เอง!”
“ฉันเคยเจอเธอที่งานแต่งด้วยค่ะ!” เสี่ยวโจวพูด “ไอดอลของฉัน!”
ฮาฉีฉีมองเสี่ยวโจว “ตอนนี้คนอื่นเขาโดนกักตัวแล้ว ทั่วเอเชียก็เพ่งเล็งอยู่ เธอจะดีใจทำไมกัน พูดไม่คิดระวังจะติดคุกไปด้วยนะ”
เสี่ยวโจว “กรี๊ด!”
จางจั่วถาม “ผู้กำกับจาง พวกเราจะทำอะไรสักหน่อยไหมครับ?”
ฮาฉีฉีถอนหายใจ “เรื่องนี้พวกเราน่าจะช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องมันใหญ่เกินไป”
จางเย่นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่อสถานการณ์เลยเถิดมาถึงขั้นนี้ หลายเรื่องก็ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป ช่วงเวลาโชคร้ายห้าเท่าของลูกเต๋าแห่งความโชคร้ายสิ้นสุดลงแล้ว แต่ความยุ่งเหยิงที่มันทิ้งไว้กลับใหญ่มาก แน่นอน เขารู้ว่าแฮกเกอร์ 2 ไม่ใช่ฟ่านอิงอวิ๋น ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฟ่านอิงอวิ๋นแม้แต่นิด แต่ลูกเต๋าแห่งความโชคร้ายทำให้ความเป็นไปได้หนึ่งในร้อยนี้เป็นจริงขึ้นมา ทำให้ฝั่งเกาหลีใต้ตามเบาะแสมาจนเจอหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ ในปีนั้นผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์มีแค่สิบกว่าคน ทุกคนก็รู้ว่า แฮกเกอร์ 2 ต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
หัวหน้าตง
ฟ่านอิงอวิ๋น
ฟางเสียวสุ่ย
เหมิงยี่ เป็นต้น
อืม ยังมีจางเย่
มีแค่พวกเขาเ ขอบเขตจึงจำกัดอยู่ในนี้ ดังนั้นคนแรกที่ถูกล็อกเป้าก็คือฟ่านอิงอวิ๋น ส่วนจางเย่ไม่ได้ในกลุ่มคนที่ถูกติดตาม หลายคนถึงกับลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนั้นจางเย่เองก็อยู่ในหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์เช่นกัน
แน่นอนว่าจางเย่ไม่สามารถปล่อยให้เจ๊ฟ่านรับผิดแทนได้ เขาคิดหาวิธีรับมือมากมายในใจ กำลังคิดว่าจะช่วยฟ่านอิงอวิ๋นออกมาได้ยังไง แต่ที่เขาคิดออกมีเพียงสองวิธีเท่านั้น
หนึ่ง : ในช่วงที่เจ๊ฟ่านถูกกักตัว จางเย่ปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะแฮกเกอร์ 2 จากนั้นผลลัพธ์จะมีสองอย่าง คือพวกเขาไม่เชื่อและดำเนินการสอบสวนฟ่านอิงอวิ๋นต่อไป หรือพวกเขาเชื่อ และปล่อยตัวฟ่านอิงอวิ๋น จากนั้นตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์ในปีนั้นต่อไปทีละคน สุดท้ายพวกเขาก็จะล็อกเป้ามาที่จางเย่ ยังไงก็ต้องค้นเจออยู่ดี ขอบเขตแค่สิบกว่าคน เป้าหมายมีน้อยมาก แต่ละคนก็ใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน เพียงแต่ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้นึกถึงจางเย่ก็เท่านั้น
สอง : จางเย่แสดงตัวออกมาด้วยตนเอง จากนั้นก็ยอมรับทุกอย่าง นี่คือทางออกที่ใสสะอาดที่สุด
ทั้งสองวิธีหมายถึงการเปิดเผยตัวของจางเย่ และไม่มีวิธีที่สามอีกแล้ว
จางเย่ก็อยากให้มีวิธีที่ดีกว่านี้ ให้เขาหลบหนีได้อย่างมีความสุข แต่มันไม่มีแล้วจริงๆ
นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่จางเย่เคยเจอมาตั้งแต่เข้าวงการ และยังเป็นการตัดสินใจและทางเลือกที่สำคัญที่สุดที่เขาจะต้องเผชิญในชีวิตนี้ ทางเลือกนี้จะเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิตของเขาตลอดกาล
หน้าที่การงาน?
ชื่อเสียง?
ครอบครัว?
เขาต้องละทิ้งไปทั้งหมด
ทำได้หรือ?
จะยอมรับได้หรือไม่?
จางเย่เงียบงัน
บทที่ 1483 : อย่างมากก็แค่เริ่มต้นใหม่!
โดย
Ink Stone_Fantasy
เขามองย้อนกลับไปยังเส้นทางที่ผ่านของตนเอง
สี่ปีในวงการบันเทิงหรืออาจมากกว่านั้นนิดหน่อย?
ในสี่ปีที่ผ่านมา เขาได้รับชื่อเสียงอย่างมหาศาล คว้ารางวัลมามากมาย ตั้งแต่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการสื่อสารกระจายเสียงนครหลวง ก้าวสู่จุดสูงสุดของวงการบันเทิงในประเทศทีละก้าว และก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเอเชีย จนเกือบขึ้นไปถึงยอดพิระมิดของเอเชีย อีกเพียงก้าวเดียวก็สามารถหัวเราะเย้ยแผ่นดินเอเชียได้แล้ว นี่คือจุดสูงสุดในอาชีพของเขาในปัจจุบัน ทั้งเขายังได้รับความรัก มีครอบครัว มีลูกน้อยที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่เดือน เขาจะได้เป็นพ่อคนในไม่ช้า นี่คือช่วงเวลาที่เขาเจริญรุ่งเรืองที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และเป็นช่วงเวลาอันงดงามที่สุด
แต่ตอนนี้จะให้เขาละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไป?
การงาน?
ภรรยา?
ลูกน้อย?
ยากเหลือเกินจริงๆ
ตลอดหลายปีนี้ชีวิตจางเย่ไม่เคยราบรื่น เขารบราฆ่าฟันมาตลอดทาง ทั้งยังเผชิญกับการตัดสินใจอย่างยากลำบากมากมาย ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ครั้งนี้เขาตัดสินได้ยากมากจริงๆ และยังกระชั้นชิดมาก จางเย่ไม่มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนด้วยซ้ำ
แต่อย่างไรก็ตาม ในใจเขามีคำตอบอันชัดเจนแล้ว
แต่เขารู้สึกว่าตนเองไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวคนเดียว แบบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับใครอีกหลายๆ คน
……
ช่วงบ่าย
ที่เรือนสี่ประสานของคุณอู๋
ทันทีที่จางเย่ขับรถเข้ามาในลานบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงพ่อแม่ของเขา เป็นเสียงหัวเราะที่ดังมาจากห้องทางทิศเหนือ ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร
เขาผลักประตูเข้าไปในห้อง
แม่หันมองมา “มาแล้วเหรอ?”
จางเย่ยิ้ม “พ่อกับแม่มาถึงตั้งแต่เมื่อไร?”
พ่อหัวเราะ “พวกเราเพิ่งมาถึง มาดูเจ๋อชิงน่ะ”
“เย่น้อย รีบนั่งเถอะ ดื่มชาอะไรดี?” หลี่ฉินฉินทักทาย
แม่กลับฮึดฮัด “ไม่ต้องสนใจเขา ให้เขาไปชงเอง เด็กคนนี้แย่มาก ไม่กลับมาตั้งสองวัน ไร้ประโยชน์จริงๆ”
หลี่ฉินฉินพูดอย่างอ่อนโยน “เย่น้อยงานยุ่งมากนะ พวกเราเข้าใจดี”
แม่พูด “ฉันไม่เห็นเขาจะยุ่งตรงไหน เห็นแต่ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ยุ่งจะตายแล้ว”
อู๋ฉางเหอเบ้ปาก “เย่น้อย ทำไมช่วงนี้แกถึงซวยขนาดนั้น? ตกบ่อน้ำก็ยังตกตั้งสองรอบ เดินบนถนนก็ดูหน่อยสิ อ้อใช่ กลุ่มแฟนคลับของแกเกิดเรื่องแล้ว แกรู้ไหม? หัวหน้ากลุ่มแฟนคลับแกเป็นแฮกเกอร์ชื่อดังของโลก นี่คงไม่กระทบมาถึงแกหรอกนะ?”
จางเย่หัวเราะ “ไม่หรอกครับ”
หลี่ฉินฉิน “งั้นก็ดี”
ทุกคนต่างนั่งสนทนาอยู่ด้วยกัน
จางเย่ก็นั่งลง พูดแทรกเป็นระยะ
แต่อู๋เจ๋อชิงกลับไม่ได้พูดอะไร ตั้งแต่ตอนที่จางเย่เข้าประตูมา เธอก็เหลือบมองเพียงแวบเดียว จากนั้นก็นิ่งเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ มีเพียงรอยยิ้มที่ยังคงประดับอยู่บนใบหน้า
เวลาผ่านไปไม่นาน
หลี่ฉินฉินลุกขึ้น “ได้เวลาไปทำกับข้าวแล้ว ทุกคนอยู่กินด้วยกันนะ”
แม่ “ฉันไปช่วย”
เวลานี้อู๋เจ๋อชิงจึงหัวเราะและพูดออกมา “งั้นหนูกับเย่น้อยกลับไปคุยกันที่ห้องหน่อยนะคะ”
อู๋ฉางเหอ “พวกเธอตามสบายเลย”
จางเย่รีบช่วยพยุงเธอ “ช้าหน่อย”
อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “ระวังอยู่ ไม่เป็นไรหรอก”
พอก้าวข้ามธรณีประตู ทั้งสองคนก็กลับมาถึงห้องตะวันตก
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้อง อู๋เจ๋อชิงก็เก็บรอยยิ้มและจ้องมองจางเย่ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
จางเย่สะดุ้ง เขาคิดว่าวันนี้ทำตัวไม่แตกต่างจากปกติแล้ว ทั้งพ่อแม่เขาและพ่อแม่ของคุณอู๋ไม่มีใครมองออก แต่คุณอู๋ฉลาดเกินไป ไม่ว่าจะเป็นด้าน IQ หรือ EQ เอาจางเย่ร้อยคนมัดรวมกันก็ยังเทียบเธอไม่ได้ จางเย่ไม่จำเป็นต้องพูด เธอก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
จางเย่ยิ้มอย่างขมขื่น “มีปัญหาจริงๆ”
อู๋เจ๋อชิงถาม “ร้ายแรงมากหรือ?”
จางเย่ส่งเสียงอืม “ร้ายแรงมาก”
เขาเล่าให้คุณอู๋ฟังอย่างละเอียดตั้งแต่ต้น เริ่มจากสาเหตุที่เขาต่อยลีอันซูหลังคืนส่งปี ถึงตอนที่เขาเข้าหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ จนถึงวันนี้ที่เรื่องเกิดแดงขึ้นมา จางเย่รู้ดีว่าเขายังมีทางเลือกอีกหนึ่งทาง นั่นก็คือปิดปากเงียบ ตอนนี้เวลาความโชคร้ายห้าเท่าสิ้นสุดลงแล้ว แม้ว่าหลักฐานจะชี้ไปที่สำนักงานของหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ แต่เป้าหมายที่ทุกคนสงสัยคือฟ่านอิงอวิ๋น ทั้งฝั่งเกาหลีและฝั่งจีน ไม่มีใครนึกถึงจางเย่ ถ้าจางเย่ไม่พูด สุดท้ายฟ่านอิ่งอวิ๋นก็ต้องรับผิดชอบแทน
ทางเลือกนี้ดีที่สุดสำหรับเขา
แต่ทางเลือกนี้ ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของจางเย่ตั้งแต่แรก
แต่จางเย่ยังคงบอกแก่คุณอู๋ เขานึกว่าคุณอู๋จะลังเล แต่อู๋เจ๋อชิงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ประโยคแรกที่เธอพูดหลังจากฟังจบก็คือ “ปัญหาของตัวเราเอง ไม่มีเหตุผลที่ให้คนอื่นมาแบกรับแทน” จากนั้นเธอก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “ฉันเข้าใจแล้ว”
จางเย่อยากจะพูดอะไรต่อแต่ก็ชะงัก “แต่ว่า…”
อู๋เจ๋อชิง “เธอตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องถามฉันหรอก”
จางเย่ “จะได้ยังไงกัน นี่มันเรื่องใหญ่นะ”
อู๋เจ๋อชิงพูด “คนยังอยู่ไหม?”
จางเย่ตะลึง “ยังอยู่ ไม่ถึงชีวิต”
คุณอู๋ยิ้ม “ขอเพียงคนยังอยู่ ทุกอย่างก็ไม่นับเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ทำสิ่งที่เธอคิดว่าถูกต้องเถอะ ฉันจะสนับสนุนเธอเสมอ”
“แต่ว่าจะตั้งกี่ปีก็…” จางเย่ไม่รู้จะพูดอะไรดี
คุณอู๋กุมมือเขาอย่างอ่อนโยน “เรื่องอื่นเธอไม่ต้องกังวล ที่บ้านยังมีฉันอยู่”
จางเย่ลังเล “อู๋ ขอ…”
เขาพูดยังไม่ทันจบก็ถูกอู๋เจ๋อชิงขัดขึ้น “ไม่ต้องขอโทษ สามีฉันเป็นคนจิตใจเด็ดเดี่ยว ไม่ทำเรื่องชั่วร้าย และไม่จำเป็นต้องขอโทษใครทั้งนั้น”
แต่ยิ่งเธอพูดแบบนี้จางเย่ก็ยิ่งรู้สึกผิด ถ้าจางเย่อยู่ตัวคนเดียว เขาสามารถตามใจตนเอง อยากทำอะไรก็ทำ เรื่องใหญ่แค่ไหนก็กล้ารับ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป แต่มีเมีย มีลูก เขาเป็นหนี้ครอบครัวมาก ทั้งในฐานะสามี ลูกชาย หรือในฐานะพ่อ เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถจริงๆ
อู๋เจ๋อชิงถาม “จะไปเมื่อไรเหรอ?”
จางเย่ “ผมคิดว่าหลังงานคอนเสิร์ต เรื่องนี้กระทบหลายคนเกินไป ต้องให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน”
อู๋เจ๋อชิงพยักหน้า “โอเค”
“ช่วงหลายวันนี้จะไม่ออกไปไหนแล้ว ผมจะอยู่บ้านกับคุณ” จางเย่พูด
อู๋เจ๋อชิงกลับหัวเราะ “ไม่ต้องหรอก คอนเสิร์ตยังมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ การเตรียมการอื่นๆ ก่อนจากไปอีก จัดการธุระของเธอให้เรียบร้อยเถอะ”
จางเย่ “ทางด้านพ่อแม่เรา ผมต้องบอกพวกท่านไหม?”
อู๋เจ๋อชิงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “อย่าบอกพวกท่านเลย ถึงเวลานั้นฉันจะบอกเอง”
จางเย่ร้องอืมตอบ แต่การแสดงออกกลับยังลังเล
“ทิ้งไม่ลงเหรอ?” คุณอู๋ถาม
จางเย่ยิ้มขื่น เขานั่งยองๆ บนพื้น และกอดช่วงท้องของคุณอู๋ไว้หลวมๆ “อะไรผมก็ทิ้งได้หมด แต่ทิ้งพ่อแม่ผมไม่ได้ และปล่อยวางจากพวกคุณสองคนไม่ได้”
อู๋เจ๋อชิงหัวเราะ “พวกเราสองคนก็หนีไม่ได้อยู่ดี”
จางเย่ “ช่างเป็นภรรยาที่แสนดีอะไรเช่นนี้ ผมไม่ได้กลัวพวกคุณจะหนีสักหน่อย”
อู๋เจ๋อชิงรู้สึกโล่งอก “เดิมทีเธอก็ตัดสินใจออกจากวงการบันเทิงไปสักพักในสองเดือนนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ก็แค่เปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นเท่านั้น มันก็เหมือนกันนั่นแหละ เธอน่ะ ช่วงหลายปีนี้เหนื่อยมามากแล้ว ใช้โอกาสนี้พักผ่อนไม่กี่ปี หลังจากกลับมา ก็แค่เริ่มใหม่อีกครั้งเท่านั้นเอง”
จางเย่พูด “โอเค”
เขาตัดสินใจได้แล้ว
แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาทั้งคู่ก็ตาม
ทันใดนั้นอู๋เจ๋อชิงก็พูดขึ้นมา “เย่น้อย ร้องเพลงสักเพลงสิ”
จางเย่ “ร้องเพลงเหรอ?”
อู๋เจ๋อชิงหัวเราะ “อยากฟังขึ้นมากะทันหันน่ะ”
จางเย่ก็หัวเราะเช่นกัน “ได้เลย”
กีตาร์ตัวหนึ่งวางอยู่บนเตียง
จางเย่หยิบมันขึ้นมาและปรับโทนเสียง ดีดสายกีตาร์หลายครั้งแต่กลับไม่ได้เล่นเป็นเพลง เขาหลับตาลง อารมณ์ของเขาซับซ้อนมาก ภาพนับไม่ถ้วนฉายผ่านความคิดของเขา
อาชีพการงาน
ถ้วยรางวัล
ภรรยา
ลูก
ทุกสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง วันนี้เขาต้องสละทิ้งทั้งหมดแล้ว
นี่มันเป็นความรู้สึกแบบไหน?
น่ากลัวว่าตัวจางเย่เองก็อธิบายไม่ได้
ทว่าตรงนั้น มีฝ่ามือของผู้หญิงคนหนึ่งจับมือเขาไว้อย่างแนบแน่น
จางเย่มองไปข้างๆ และยิ้มออกมา ในรอยยิ้มนั้นมีความสง่างามเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน
สายกีตาร์ขยับ
ในห้องครัว
แม่และหลี่ฉินฉินเอียงหูฟังเสียง
“ใครดีดกีตาร์อยู่?”
“เย่น้อยมั้ง”
“ทำไมจู่ๆ ถึงอยากร้องเพลงขึ้นมาได้ล่ะ?”
“เหอะๆ น่าจะซ้อมก่อนขึ้นคอนเสิร์ตน่ะ”
ที่เรือนตะวันตก
เสียงร้องเพลงดังขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
“เกียรติยศทั้งมวลในเมื่อวาน”
“จะแปรผันเป็นความทรงจำที่ห่างไกล”
“กรำงานหนักมาถึงครึ่งชีวิตได้”
“คืนนี้ต้องเดินเข้าไปในพายุอีกครา”
“ฉันไม่อาจลอยถลาไปกับเกลียวคลื่น”
“เพื่อครอบครัวอันเป็นที่รัก”
“ไม่ว่ายากลำบากแค่ไหนจักแข็งขืน”
“เพื่อวันคืนข้างหน้าที่รอคอยคาดหวัง”
“หากหัวใจยังอยู่ความฝันก็ยังคงอยู่!”
“ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ยังมีรักแท้!”
“มองดูชีวิตที่แพ้ชนะอย่างกล้าหาญ”
“ก็แค่เริ่มใหม่อีกครั้งเท่านั้นเอง!”
บทที่ 1484 : ‘คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย’ (ต้น)
โดย
Ink Stone_Fantasy
วันต่อมา
ช่วงเช้า
ครอบครัวของคุณอู๋ตื่นขึ้นมาก็พบว่าจางเย่ไม่รู้ออกไปที่ไหนแล้ว
หลี่ฉินฉินแปลกใจ “เย่น้อยกลับไปเมื่อคืนเหรอ?”
อู๋เจ๋อชิงพูด “เปล่าค่ะ พักที่ห้องตะวันตกกับหนู”
อู๋ฉางเหอ “แล้วเขาไปไหน? ข้าวเช้าก็ทำเสร็จแล้ว”
“เมื่อวานพวกลูกสองคนคุยอะไรกันเหรอ?” หลี่ฉินฉินถาม “แม่เห็นว่าคุยกันตั้งค่อนคืนเลย”
อู๋เจ๋อชิงหัวเราะเล็กน้อย “ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่คุยเรื่องลูกกันเท่านั้น”
ขณะนี้เองก็มีเสียงจอดรถดังมาจากด้านนอก
จากนั้นจางเย่ก็เดินเข้ามา และเริ่มลากถุงใบใหญ่และเล็กมาด้วย
หนึ่งใบ
สามใบ
ห้าใบ
และยังมีกล่องใบใหญ่อีกหลายกล่อง
หลี่ฉินฉินตกใจจนแทบกระโดด “ไอ้หยา ทำอะไรน่ะ?”
จางเย่หัวเราะฮาๆ “แม่ครับ ผมซื้อผ้าอ้อมมาให้ลูก แล้วยังมีเสื้อผ้า ช่วงอายุไม่กี่เดือน หนึ่งขวบ สองขวบ ผมเห็นว่าอันไหนดีก็ซื้อมาหมดเลย” จากนั้นเขาก็เปิดถุงใบหนึ่ง “ดูผ้าอ้อมตัวนี้สิว่าดีแค่ไหน อย่าไปเชื่อสินค้าจากต่างประเทศเลย ซื้อของประเทศเราดีที่สุด อ้อใช่แล้ว แม่ครับ อย่าไปซื้อของที่ล็อตเต้ ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกนะครับ นั่นมันพวกเกาหลีมาเปิด มันไม่ปลอดภัย”
อู๋ฉางเหอพูดขึ้น “ร้านล็อตเต้ทั่วปักกิ่งถูกแกทำจนโดนสั่งปิดไปแล้วไม่ใช่เหรอ อยากไปก็ไปไม่ได้แล้ว เฮ้ย แล้วซื้อมาทำไมเยอะแยะ?”
จางเย่ตื่นเต้น “ซื้อเตรียมไว้เยอะๆ ไง”
หลีฉินฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “เร็วเกินไปแล้ว ยังไม่คลอดเลย”
“ไม่เร็วนะครับ” จางเย่ “ต้องเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ”
อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “ให้เขาซื้อเถอะค่ะ เตรียมไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน”
หลี่ฉินฉินรีบมากำกับ “ก็ได้ เอามาวางในห้องนี้ ห้องนี้”
ของในรถคันใหญ่ถูกขนลงมาหมดแล้ว ทันใดนั้นจางเย่ก็ตบหน้าผากตัวเอง “ไอ้หยา ดูสมองผมสิ ลืมซื้อเปลเด็กรถเข็นเด็กไปได้ไง เอาแบบนี้แล้วกัน คืนนี้ผมไปดูที่ร้าน ถ้ามีอันไหนคุณภาพดี ผมจะซื้อกลับมา”
หลี่ฉินฉินฝืนยิ้ม “ค่อยซื้อทีหลังก็ได้”
อู๋เจ๋อชิงกลับพูดว่า “รถเข็นเด็กซื้อที่มันเบาหน่อยนะ เอาที่เข็นขึ้นลงได้สะดวก”
“ได้เลย เข้าใจแล้ว” จางเย่พูด “งั้นผมไปทำงานก่อนนะ นัดคนไว้แล้ว”
หลี่ฉินฉินรั้งเขาไว้ “อย่าเพิ่งสิ กินข้าวก่อนค่อยไป”
อู๋เจ๋อชิง “ให้เขาไปเถอะค่ะ ช่วงนี้งานเขายุ่งมาก”
จางเย่หัวเราะ “ใช่ครับ ตอนเย็นผมจะกลับมากินนะ”
หลี่ฉินฉิน “เฮ้อ งั้นขับรถดีๆ นะ”
“เข้าใจแล้วครับแม่” จางเย่ว่าแล้วรีบออกไป
……
เวลาสิบโมงครึ่ง
ที่สตูดิโอ
เมื่อจางเย่มาถึง คนที่เขานัดไว้ก็มาถึงก่อนแล้ว
เขาคือหูเฟยจากสถานี BTV และเป็นหัวหน้าเก่าของจางเย่
จางเย่ยิ้ม “พี่หูมาแล้วเหรอ?”
หูเฟยชี้เขา “โทรหาฉันดึกดื่นให้ฉันมาหา แต่เธอกลับดีนัก ยังจะให้ฉันมารอเธออีกเรอะ?”
“ฮ่า ตอนเช้าไปซื้อของมานิดหน่อยน่ะครับ ก็เลยมาช้า” จางเย่เชิญให้เขานั่งลง “พวกผ้าอ้อม รถเข็นเด็ก ผมเลือกซื้อเองหมดเลย”
หูเฟยมองเขาด้วยรอยยิ้ม “ก็ได้ พอจะเป็นพ่อคนก็ไม่เหมือนคนเดิมแล้ว รู้จักเธอมาหลายปี ไม่เคยเห็นเธอไปห้างเพื่อซื้อของด้วยตัวเองเลย” หยุดครู่หนึ่งเขาจึงถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ตอนโทรไปก็ไม่ยอมบอก มีลับลมคมในอะไรกัน”
จางเย่ยิ้ม “มีข้อตกลงครับ”
หูเฟยตกใจ “ข้อตกลง?”
จางเย่มองเสี่ยวหวังที่อยู่ไม่ไกล “เสี่ยวหวัง เอกสารล่ะ?”
“ปริ๊นแล้วค่ะ” เสี่ยวหวังรีบหยิบมา
จางเย่รับมา และยื่นให้หูเฟย “คุณลองดู”
หูเฟยสวมแว่นตาและมองดูสัญญาอย่างสงสัย จากนั้นเขาก็อึ้งไป เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จางเอ้อร์ เธอหมายความว่ายังไง?”
จางเย่ยิ้ม “หนังสือมอบอำนาจ ‘เดอะแมสก์ซิงเกอร์’ และ ‘ไอแอมอะซิงเกอร์’ ผมจะไม่ถือลิขสิทธิ์ไว้อีกแล้ว หลังจากคำนวณดูนี่ก็ใกล้ถึงเวลาถึงซีซั่นสองของรายการ ‘เดอะแมสก์ซิงเกอร์’ แล้ว ‘ไอแอมอะซิงเกอร์’ ซีซั่นสองถึงซีซั่นสามเองก็เหมือนกัน ผมขอมอบให้สถานีบีทีวีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้ว ในอนาคตถ้าเกิดอยากทำซีซั่นต่อไป ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผมแล้ว พวกคุณทำเองได้โดยตรงได้เลย”
หูเฟยคืนสัญญามาทันที “ไม่จำเป็นหรอก”
จางเย่กลับพูดว่า “จำเป็นสิครับ ผมต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน”
หูเฟยหมดคำพูด “เธอไม่ได้จะไม่อยู่สักหน่อย แค่อำลาวงการบันเทิงเฉยๆ อยู่บ้านเลี้ยงลูก ฉันยังจะหาเธอไม่เจอเหรอ? ถึงเวลานั้นค่อยพูดเถอะ”
จางเย่ “ต้องทำเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน ผมถึงจะสบายใจ”
หูเฟยรู้สึกว่าไม่เหมาะสม “แต่ว่า…”
“ไม่มีคำว่าแต่แล้ว” จางเย่พูดจบก็หยิบเอกสารออกมาอีกปึกหนึ่ง กองค่อนข้างหนา มีประมาณยี่สิบกว่าแผ่น “นี่คือเค้าโครงและแบบร่างซีซั่นต่อไปของ ‘เดอะแมสก์ซิงเกอร์’ และ ‘ไอแอมอะซิงเกอร์’ ที่ผมเรียบเรียงไว้ คุณลองดู ถ้าเหมาะสมก็ใช้ ไม่เหมาะก็ไม่เป็นไร”
หลังอ่านแต่ละหน้าเสร็จหูเฟยถอนหายใจ “ที่จริงแล้วเธอมาเป็นหัวหน้าผู้กำกับเองก็ย่อมเหมาะสมกว่าใครทั้งนั้น”
จางเย่ไม่ได้ตอบ และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
ใจจริงเขาเองก็อยากร่วมทำรายการเหล่านี้ด้วย แต่ว่าเขาไม่มีเวลาแล้ว
จางเย่พูด “พี่หู ผมมีเรื่องจะขอร้อง”
หูเฟย “เธอพูดมาได้เลย”
จางเย่ “ถ้าต่งซานซานยินยอม เรื่องพิธีกรก็ให้เธอเป็นนะครับ”
หูเฟยมองเขา และพูดอย่างจริงจัง “ฉันสัญญากับเธอ ขอเพียงฉันยังอยู่ ‘เดอะแมสก์ซิงเกอร์’ กับ ‘ไอแอมอะซิงเกอร์’ นอกจากใช้ต่งซานซานมาเป็นพิธีกรแล้ว จะไม่เลือกคนอื่นอีก โครงร่างที่เธอให้มา ฉันจะบังคับใช้อย่างเคร่งครัด รายการวาไรตี้ที่ยิ่งใหญ่สองรายการนี้ จะไม่ถูกทำลายในมือพวกเราแน่นอน”
จางเย่หัวเราะแล้ว “อย่างนั้นก็เยี่ยมไปเลยครับ”
……
เที่ยงวัน
มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมา
รองผู้อำนวยการของ CCTV เป็นผู้นำทีมมาด้วยตัวเอง
จางเย่ก็ประหลาดใจเช่นกัน “หัวหน้าโจวทำไมถึงมาด้วยตัวเองล่ะครับ?”
รองผู้อำนวยการโจวแสดงท่าทีจริงจัง “แน่นอนสิ เรื่องนี้ฉันต้องมาด้วยตัวเอง”
“เชิญนั่งครับ” จางเย่เชื้อเชิญ
รองผู้อำนวยการโจวและผู้ใต้บังคับบัญชามีสีหน้าเคร่งขรึมมาก
ความสัมพันธ์ของจางเย่และ CCTV ซับซ้อนมาก มีช่วงเวลาสวยงามตอนทำงานอยู่ที่นั่น หลังจากนั้นก็ทะเลาะกันแล้วถูกบีบออก ท้ายที่สุด CCTV เปลี่ยนผู้บริหาร จางเย่กำกับคืนส่งปี ความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายจึงคลี่คลายลง ในความซับซ้อนล้วนไม่อาจแจกแจงให้ชัดเจนได้จริงๆ
จางเย่เรียก “เหล่าฮา”
ฮาฉีฉีเดินเข้ามา “ฉันอยู่นี่ค่ะ”
“สัญญาล่ะ” จางเย่พูด
ฮาฉีฉียิ้มอย่างขมขื่นเล็กน้อย แต่ก็ยื่นไปให้
จางเย่ส่งต่อให้รองผู้อำนวยการโจว “พวกคุณลองดูก่อน”
รองผู้อำนวยการโจวและเจ้าหน้าที่กฎหมายอีกหลายคนแบ่งกันดู สัญญาเขียนได้ชัดเจนมาก หลายคนกันมองหน้ากันและพยักหน้าเล็กน้อย
ลิขสิทธิ์ในการผลิต ‘เดอะว็อยซ์’
ลิขสิทธิ์ในการผลิต ‘จีนบนปลายลิ้น’
ลิขสิทธิ์ที่พวกเขาตั้งตารอคอยมานาน ใครจะคาดคิดว่าจางเย่จะมอบให้พวกเขาอย่างกะทันหันอย่างนี้!
รองผู้อำนวยการโจวจ้องมองเขา “เธอมีข้อเรียกร้องอะไรไหม?”
จางเย่พูดด้วยรอยยิ้ม “ผมขอร้องอย่างเดียว”
“ว่ามาเลย” รองผู้อำนวยการโจวถาม
จางเย่ “อย่าทำเละ”
รองผู้อำนวยการโจวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ได้ ฉันรับปาก”
จางเย่ยิ้มและยื่นมือออกไป “งั้นก็เซ็นกันเถอะ”
ลงนามโดยทั้งสองฝ่าย
สัญญามีผลสมบูรณ์
รองผู้อำนวยการโจวอารมณ์ดีมาก แล้วก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน เขารู้คุณค่าของสัญญาที่อยู่ในมือฉบับนี้ดี ลิขสิทธิ์ของทั้งสองรายการนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ‘นิววอยซ์’ นับเป็นอะไรได้ ก็แค่ทีมผู้กำกับของ CCTV ที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องทำรายการนี้ขึ้นมาเท่านั้น คุณค่าของ ‘นิววอยซ์’ หนึ่งร้อยรายการ ก็ยังเทียบไม่ได้กับชื่อ ‘เดอะว็อยซ์’ ชื่อเดียว ตอนนี้พวกเขาสามารถผลิตรายการ ‘เดอะว็อยซ์’ ซีซั่นที่สองได้แล้ว!
รองผู้อำนวยการโจวจับมือจางเย่ “ไม่พูดมากแล้ว อาจารย์จาง ในอนาคตถ้าต้องการพวกเราซีซีทีวี ขอแค่เธอบอกมาก็พอ ฉันขอเป็นตัวแทนของซีซีทีวี ขอบคุณความใจกว้างของเธอ”
ใจกว้างเหรอ?
จางเย่ส่ายหัวเล็กน้อย เขาไม่ใช่คนใจกว้างจริงๆ
รายการสุดคลาสสิกในโลกเดิมของเขาเหล่านี้ จางเย่เป็นคนหยิบมันออกมาใช้ เขาเป็นคนริเริ่ม แต่เขาไม่สามารถทำให้รายการเหล่านี้จบลงในมือของเขา ไม่ว่าจะเป็นความคับข้องใจหรือความขัดแย้งก่อนหน้านี้ สำหรับจางเย่ล้วนไม่สำคัญอีกต่อไป ตัวเขาจะจากไปแล้ว แต่ไม่อาจเอารายการเหล่านี้ไปด้วยได้ ต้องฝากบางสิ่งไว้ให้กับโลกใบนี้บ้าง
นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่จางเย่สามารถกระทำได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น