ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1449-1454

 บทที่ 1449 : กฎตายตัวของจางเย่!

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


ณ สตูดิโอจางเย่


ทุกคนกำลังประชุมทางวิดีโอ


แต่ทั่วทั้งห้องประชุมกลับเงียบกริบ ฮาฉีฉี จางจั่ว อู่อี้ เสี่ยวหวัง เสี่ยวโจว เสี่ยวซุน ทุกคนต่างเบิกตาโตเป็นไข่ห่าน จ้องมองจางเย่ที่กำลังหัวเราะอย่างมีเลศนัยในจออย่างตกตะลึง


“อะไรนะ?”


“คุณว่าอะไรนะคะ?”


“เขียนการ์ตูนเรื่องใหม่เพิ่มอีกสี่เรื่องเหรอ?”


“เชี่ย สี่เรื่อง?”


“คุณไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอ!”


“เรามีสามเรื่องที่ลงต่อเนื่องอยู่นะครับ!”


“ผู้กำกับจาง แค่นี้ก็พอแล้ว! แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ!”


พอตื่นนอน การ์ตูนใหม่ทั้งสี่เรื่องก็ถูกส่งเข้าเมลพวกเขาแล้ว คุณนึกภาพความตกใจของพวกเขาออกไหม? พี่ชายทั้งหลายเกือบจะเป็นลมล้มพับแล้ว!


ก่อนหน้านี้สามเรื่อง!


นี่ยังจะเพิ่มอีกสี่เรื่อง?


แม่งรวมเป็นเจ็ดเรื่องเลยนะ?


คุณจะเล่นใหญ่อะไรขนาดนี้!


ทั้งกีฬา การต่อสู้ แนววิทยาศาสตร์ ทั้งสำหรับเด็กผู้ชาย เด็กผู้หญิง เด็กเล็ก รวมทั้งเยาวชนคุณก็ทำออกมาจนหมดแล้ว นี่มันระเบิดปิดตายทุกมุมเลยนะ!


จางเย่กลับหัวเราะ “ยังยึดกฎตามเดิมนะ”


ฮาฉีฉียิ้มขื่น “โอเคค่ะ”


จางเย่มองเสี่ยวซุน “เสี่ยวซุน ลุงของนาย อ้อใช่ลุงของนายใช้ไปแล้วนี่นะ โอเค แล้วป้านายว่างหรือเปล่า?”


เสี่ยวซุนร้องไห้แล้ว “ว่างอยู่ครับ”


จางเย่กะพริบตา “น้องชายกับน้องสาวของพี่เขยนายก็ตั้งถิ่นฐานอยู่ในญี่ปุ่นด้วยใช่ไหม?”


เสี่ยวซุนรู้ว่าคนครอบครัวของพวกเขาคงไม่สามารถหนีพ้นแล้ว จึงได้แต่ตอบว่า “พวกเขายังว่างอยู่ครับ”


ว่างซะที่ไหนเล่า!


ใครมันจะไม่มีงานมีการ วันวันเอาแต่นั่งอยู่ที่บ้านเฉยๆ กัน!


จางเย่พยักหน้า เขาหัวเราะแล้วพูดต่อ “เยี่ยม งั้นก็รบกวนพวกเขาแล้ว เสี่ยวซุนเอ๋ย ขอบคุณมากนะ สำหรับทุกสิ่งที่ครอบครัวของนายทำเพื่อสนับสนุนวงการการ์ตูน ประชาชนเอเชียทุกคนจะจดจำครอบครัวของนายไว้”


พนักงานทุกคนต่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้


เวลาแบบนี้คุณอย่ามาพูดเยินยอคนอื่นเขาได้ไหม!


คนในครอบครัวเขาทุกคนถูกคุณหลอกต้มไปหมดแล้ว!


ถ้าคุณวาดอีกสองเรื่อง เสี่ยวซุนก็ต้องขุดหลุมบรรพบุรุษขึ้นมาแล้วว้อย!


……


ที่ญี่ปุ่น


บริษัทนิตยสารการ์ตูนขนาดเล็กแห่งหนึ่ง


กองบรรณาธิการส่งเสียงกรีดร้องดังก้อง!


“กรี้ดดดดด!”


“มาแล้ว! มาแล้ว!”


“วนมาถึงตาพวกเราแล้ว!”


“สวรรค์มีตาจริงๆ!”


……


สตูดิโอการ์ตูนขนาดกลางอีกแห่ง


“เชี่ย!”


“นี่แหละ! อันนี้แหละ!”


“พวกเราจะเติบโตขึ้นแล้ว!”


“เร็ว รีบให้มันลงพิมพ์ต่อเนื่องเลย!”


……


ไม่กี่วันให้หลัง


ร้านอาหารแห่งหนึ่ง


นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมาพบปะสังสรรค์กัน จำนวนคนไม่น้อย รวมแล้วประมาณสามสิบกว่าคน ล้วนเป็นอาจารย์ที่มีหน้ามีตาในวงการ


ผู้เขียน ‘ราชันย์เทพประยุทธ์’ ก็อยู่ที่นี่ด้วย


นอกจากนี้ยังมีนักเขียนจากบริษัทการ์ตูนเล็กๆ อีกหลายแห่ง


“มา กินข้าวกัน”


“ในที่สุดฉันก็โล่งใจไปหนึ่งเปราะ”


“ใช่แล้ว  อาโออิ โซระกับฮาตาโนะมันแหกกฎเกินไป เล่นซะทั้งวงการปั่นป่วน ทำให้ผู้อ่านคิดว่าการวาดการ์ตูนเป็นเรื่องง่าย ฟังแล้วฉันโคตรโมโห มันง่ายที่ไหนเล่า ลองให้พวกเขามาวาดดูเองสิ ยังจะพูดว่าง่ายอยู่ไหม!”


“ถูกต้อง เรื่องนี้ไม่ดีเลย”


“ในที่สุดก็อธิบายให้เข้าใจจนได้”


“อืม ต้องขอบคุณบรรณาธิการของบริษัทการ์ตูนทั้งหลายที่ช่วยเหลือ”


“ใช่ ไม่งั้นเราหาทางลงเองไม่ได้แน่”


“ฮึ ไอ้หน้าใหม่ที่ไม่รู้กฎในวงการทั้งสามคนนี่มันโผล่มาจากไหนกัน ไม่มีมารยาทเลย ไม่เห็นรุ่นพี่อย่างพวกเราอยู่ในสายตาสักนิด ผลตอบรับดีแล้วทำไม? ประสบความสำเร็จแค่ไหนก็ต้องเคารพกฎ มากวนน้ำให้ขุ่นแบบนี้แล้วทุกคนจะสร้างผลงานกันยังไง? เหอะ แค่คิดก็ไม่สบายใจแล้ว คนอื่นเขาอัปแค่สัปดาห์ละหนึ่งตอน พวกเขาล่ะ? ต้องสองตอนสามตอน? ทำยังกับทำได้จริงงั้นแหละ! ฉันเดาว่าพวกนั้นแค่สะสมต้นฉบับไว้มากกว่า ลองให้พวกเขาวาดสามตอนต่อสัปดาห์จริงๆ ดูสิ! ขี้โม้ทั้งนั้น! ไม่มีใครทำได้หรอก!”


“ใช่แล้ว ถูกต้อง!”


แต่ในเวลานี้มีนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์


ทุกคนที่กินดื่มอย่างสนุกสนานต่างเห็นชายคนนั้นทำสีหน้าตกตะลึง!


หลังจากวางสาย เขาก็ตะโกนอย่างโมโห “บ้าเอ้ย!”


ทุกคนรีบร้อนถาม “เกิดอะไรขึ้น?”


ชายคนนั้นตะโกนด่า “เชี่ยแม่ง!”


คนอื่น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”


เขาจนหน้าเขียว “มีตัวประหลาดที่วาดสัปดาห์ละสามตอนเพิ่มมาอีกสี่คนแล้ว!”


“อะไรนะ?”


“นายพูดว่าอะไรนะ?”


“สามตอนต่อสัปดาห์?”


“เพิ่มมาอีกสี่คน?”


“เชรด!”


“พวกเขาอยากตายหรือไง!”


“เชี่ย! พวกแม่งโผล่มาจากที่ไหนกัน!”


เหล่านักเขียนการ์ตูนทั้งหลายตกใจจนกระอักเลือดแล้ว!


ทุกคนในร้านอาหารต่างได้ยินเสียงพวกเขาตะโกนด่าอย่างดุเดือด!


อะไรเรียกว่าตอกหน้า?


นี่แหละคือการตอกหน้า!


เหล่านักเขียนการ์ตูนเพิ่งรวมกลุ่มกัน บรรณาธิการที่มีชื่อเสียงในวงการก็เข้าร่วมการโต้แย้งเพื่อช่วยอธิบายความยากของการสร้างสรรงาน ลงหมึกกับผู้อ่านตลอดสัปดาห์เต็ม ถกเถียงกันมาทั้งสัปดาห์ ไม่ง่ายกว่าจะให้ผู้อ่านเข้าใจว่า โซระ อาโออิและฮาตาโนะสามคนถือเป็นตัวประหลาดจริงๆ ทั้งยังบอกว่าต่อไปจะไม่มีตัวประหลาดคนที่สี่โผล่มาอีกแน่นอน แต่ผลสุดท้ายล่ะ?


ไม่ใช่แค่คนที่สี่โผล่มาเท่านั้น!


คนที่ห้า หก เจ็ดก็โผล่ออกมาด้วย!


สี่คนโผล่พรวดในพริบตาจ!


วงการการ์ตูนญี่ปุ่นพังทลายแล้ว!


เวลานี้แม้แต่พวกเขาก็ยังอดสงสัยตัวเองไม่ได้ หรือเป็นเพราะพวกเราวาดช้าเกินไป? ในใจพวกเขาต่างว้าวุ่น!


เหล่าผู้อ่านชาวญี่ปุ่นก็ระเบิดเช่นกัน!


“เชี่ย!”


“ไอ้พวกหลอกลวง!”


“ใครพูดว่าไม่มีคนที่สี่อีกแล้วนะ?”


“ใช่ ใครพูด?”


“ดูสิ! พวกนายแหกตาดู! นากจากอาจารย์อาโออิ โซระและฮาตาโนะตอนนี้ยังมีอาจารย์มูโตะ อิจิมะ นิชิโนะ ทากาคิตามหลังมาอีก! พวกนายบอกว่าหนึ่งคนสองคนไม่มีอะไรมาก พวกเราก็เชื่อ แต่ตอนนี้ล่ะ? เจ็ดคน! แบบอย่างทั้งเจ็ดคนอยู่ที่นี่แล้วไง! ทุกคนทำเหมือนสัปดาห์ละสามตอนมันสบายๆ ทั้งนั้น! ฉันจะดูว่าพวกนายจะพูดอะไรอีก! พวกนายก็แค่หาข้ออ้างกลบเกลื่อนความขี้เกียจของตัวเองเท่านั้นแหละ!”


“ไอ้พวกขี้เกียจ!”


“ใช่แล้ว บรรณาธิการและนักเขียนการ์ตูนรวมหัวกันหลอกพวกเรา!”


“รีบออกตอนใหม่ให้พวกเราเดี๋ยวนี้!”


“ไอพวกขี้เกียจ! ออกตอนใหม่เลย!”


เหล่าผู้อ่านลุกฮือแล้ว!


ท้ายที่สุดแม้แต่นิตยสารการ์ตูนก็ทนไม่ได้ นี่คือเสียงของประชาชน มีความกดดันอย่างยิ่ง ไม่ช้านิตยสารการ์ตูนก็เริ่มเปลี่ยนวิธีการลงการ์ตูนต่อเนื่องใหม่ พวกเขากระตุ้นบรรดานักเขียนการ์ตูนให้ทำตามอาจารย์ทั้งเจ็ดคน หลายคนก็ทำได้เพียงเพิ่มหน้าเพิ่มตอนเข้าไป


เป็นผลให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น!


มีคนที่โหมวาดจนทรุดในสัปดาห์แรก!


บางคนตั้งคำถามเกี่ยวเรื่องความสามารถขอวตนเอง และคิดไตร่ตรองว่าทำอย่างไรถึงจะสามารถวาดได้เร็วขึ้น ผลสุดท้ายพวกเขาก็เลือกเดินเส้นทางอื่นแทน!


ทั่วทั้งวงการการ์ตูนของญี่ปุ่นในขณะนี้น่าเวทนาเกินกว่าจะดูได้ การ์ตูนรายสัปดาห์ที่เคยลงต่อเนื่องแทบจะไม่มีให้อ่านแล้ว!


มีเสียงร่ำไห้ทุกหนแห่ง!


มีซากศพเกลื่อนไปทุกที่!


วงการการ์ตูนดีๆ สุดท้ายก็ใกล้จะพังทลายลงแล้ว!


……


ประเทศจีน


ผู้คนในสตูดิโอของจางเย่เห็นฉากนี้ต่างตบหน้าผากและหมดคำพูด พวกเขาล้วนนึกถึงชื่อเล่นอีกชื่อของจางเย่ขึ้นมา!


ไม้กวนอึ!


ตัวป่วนหมื่นปีมีสักคน!


ของมันแน่อยู่แล้ว ผู้กำกับจางเดินไปวงการไหน วงการนั้นก็ต้องประสบเคราะห์!


ด้วยเหตุนี้ชาวจีนจึงตั้งชื่อปรากฏการณ์นี้ไว้แล้วว่า กฎตายตัวของจางเย่!


ดูท่าคราวนี้ก็บรรลุตามกฎอีกครั้งแล้ว!


บทที่ 1450 : นายแม่งวาดสี่ตอนได้จริงดิ?

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


ที่ญี่ปุ่น


สถานการณ์ยังคงวุ่นวาย


นักเขียนการ์ตูนต่างอยู่ในสภาวะผิดปกติ


การ์ตูนที่ออกล้วนเต็มไปด้วยช่องโหว่


ทั้งที่ตอนนี้วงการมังงะควรจะรุ่งโรจน์ดั่งตะวันกลางฟ้า แต่ความเป็นจริงกลับกลายเป็นวิกฤตอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในอดีตแม้จะไม่มีการ์ตูนแห่งชาติมานานหลายปี แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยพบกับภัยพิบัติเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้มีการ์ตูนแห่งชาติถึงสามเรื่อง? แต่ทำไมมันกลับแย่ลงล่ะ? จะล้มพังกันอยู่แล้ว? การ์ตูนเป็นอุตสาหกรรมหลักของญี่ปุ่นนะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน! จะไปหาเหตุผลจากที่ไหน!


ในตอนท้ายแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่นก็ยังตื่นตระหนกและเข้ามาแทรกแซงอย่างรวดเร็ว


นิตยสารการ์ตูนหลายฉบับรีบปรับกลยุทธ์ ไม่กล้าขอให้นักเขียนเพิ่มจำนวนหน้าแล้ว


ทางด้านนี้มีแต่ความสับสนวุ่นวาย แต่น่าเสียดายที่นักเขียนการ์ตูน ‘เจ็ดคน’ ที่ก่อคลื่นลมกลับสงบกว่าคนอื่น ราวกับว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรอย่างนั้น


สามตอน!


สามตอน!


ต่อเนื่องทุกสัปดาห์!


ทั้งปริมาณมาก ทั้งคุณภาพสูง!


ผลสุดท้ายเมื่อเกิดการเปรียบที่เห็นได้ชัด ทำให้การ์ตูนใหม่ทั้งสี่เรื่องโด่งดังขึ้น!


……


เรื่องแรกที่โด่งดังขึ้นมาก็คือ ‘ดราก้อนบอล’!


เมื่อยอดขายหนังสือการ์ตูนเล่มแรกของ ‘ดราก้อนบอล’ ถูกเปิดเผย ทั้งวงการก็ต้องช็อก!


หนึ่งล้านสามแสนเล่ม! มากกว่ายอดขายเล่มแรก ‘วันพีช’ และ ‘นารูโตะ’ เสียอีก!


“ว้าว!”


“ร้ายกาจ!”


“นี่มันสุดยอดไปเลย!”


“สวรรค์ ไม่อยากจะเชื่อ!”


“ฉันชอบโกคู น่ารักมากเลย!”


“ใช่ๆๆ การ์ตูนเรื่องนี้สนุกมาก!”


“คนอ่านก็เยอะด้วย!”


เรื่องนี้จัดทำโดยนิตยสารการ์ตูนขนาดเล็ก เป็นบริษัทที่ไม่มีชื่อเสียงมาก่อน ผลคืออาศัยการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้โด่งดัง ยอดขายพุ่งกระฉูด เพียงผลงานเดียวก็สามารถผลักดันยอดขายของนิตยสารการ์ตูนให้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากการ์ตูนแห่งชาติก็ไม่มีอย่างอื่นเทียบเทียมได้แล้ว!


เกิดการ์ตูนแห่งชาติขึ้นอีกเรื่องแล้ว!


……


เรื่องที่ดังต่อมาคือ ‘โดราเอมอน’!


เสน่ห์ของโดราเอมอนก็ยังคงสามารถพิชิตใจผู้อ่านในโลกใบนี้ได้!


แตกต่างจากการ์ตูนแห่งชาติหลายเรื่องที่ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อสู้ แต่ ‘โดราเอมอน’ มีสไตล์ที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เนื้อเรื่องเบาสบาย แนวครอบครัว สันทนาการ บางคนอาจไม่ชอบสไตล์ ‘วันพีช’ บางคนอาจไม่ชอบแนวอารมณ์ของ ‘นารูโตะ’ และบางคนอาจไม่ค่อยชอบเนื้อเรื่องแบบ ‘โคนัน’ แต่สำหรับ ‘โดราเอมอน’ ทุกคนต่างชื่นชอบ และรักการ์ตูนเรื่องนี้!


“สนุกมากเลย!”


“เหมาะไปดูกับครอบครัวนะ!”


“ไอ้แมวอ้วนนั่นตลกมากเลย!”


“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นการ์ตูนแบบนี้เลย!”


“ดูแล้วมีความสุขสุดๆ!”


หกแสนเล่ม!


ยอดขายหนังสือรวมเล่มแรกระเบิดแล้ว!


ทว่าเวอร์ชันอนิเมกลับทำให้ ‘โดราเอมอน’ ถูกยกขึ้นแท่นบูชาจริงๆ!


เมื่ออนิเมออกอากาศ วงการต้องตะลึงอีกครั้ง เรตติ้งทีวีของ ‘โดราเอมอน’ ทำให้ ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน’ ตกอันดับไป แม้ว่าเรตติ้งจะมากกว่าโคนันเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถโค่นโคนันจากตำแหน่งเรตติ้งสูงสุดในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สำเร็จ!


การ์ตูนแห่งชาติอีกเรื่อง!


เพิ่มมาอีกเรื่องหนึ่งแล้ว!


……


ในขณะเดียวกัน


เรื่องที่โด่งดังไปทั่วเอเชียเทียบเท่าโดราเอมอนยังมี ‘สแลมดังก์’!


“สุดยอด!”


“เรื่องนี้ฉันชอบมาก!”


“รุคาว่า คาเอเดะ!”


“สุดยอดการ์ตูนกีฬา!”


“ฉันดูแล้ว มันเจ๋งมาก!”


“ตัวละครก็หล่อมาก!”


“อื้ม ฉันรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นการ์ตูนเรื่องนี้เลยว่าฉันต้องเสียเงินอีกแล้ว!”


“ช่วงนี้มีการ์ตูนดีๆ หลายเรื่องเลย ไม่มีเงินแล้วเนี่ย!”


“จนแค่ไหนก็ต้องซื้อ!”


“ซื้อ! ซื้อ! ซื้อ!”


ทั้งมังงะ


ทั้งอนิเม


‘สแลมดังก์’ ล้วนเป็นที่นิยม!


การ์ตูนแห่งชาติโผล่มาอีกแล้ว!


……


สุดท้ายคือ ‘กันดั้ม’


แอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายที่โด่งดังเป็นพลุแตก


ในแรกเริ่ม ‘กันดั้ม’ ไม่ได้รับความสนใจมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ถูกครอบครองโดยวันพีช นารูโตะ และโคนัน ‘กันดั้ม’ เป็นการ์ตูนแนววิทยาศาสตร์เครื่องยนต์ที่ไม่โดดเด่นอะไร เพราะวงการการ์ตูนญี่ปุ่นของโลกใบนี้ยังไม่มีผลงานการ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ระดับประเทศ เรื่องนี้จึงไม่อยู่ในกระแสหลัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป จากการสะสมของผู้อ่าน ‘กันดั้ม’ ก็โด่งดังขึ้นมา!


เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด!


แต่กลับสมเหตุสมผล!


“แนะนำให้ไปดู!”


“ผลงานชิ้นเอกที่พลาดไม่ได้!”


“ยอดเยี่ยม! การ์ตูนเรื่องนี้เยี่ยมมาก!”


“ในที่สุดแนววิทยาศาสตร์ก็มีผลงานที่สุดยอดมาปักธงแล้ว!”


“ออกแบบหุ่นยนต์ได้เท่มาก คุณจะเสียใจไปชั่วชีวิตถ้าพลาดอนิเมเรื่องนี้!”


“นี่คืออนิเมที่ฉันแนะนำมากที่สุดในปีนี้!”


มีแต่เสียงชื่นชม!


ได้รับการยกย่องอย่างเป็นเอกฉันท์!


ชื่อเสียงจากการบอกต่อของ ‘กันดั้ม’ เกินกว่าผลงานการ์ตูนของญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด ไม่เคยมีอนิเมที่โด่งดังขนาดนี้ มีคนเคยทำแบบสำรวจออกมา ชื่อเสียงและแฟนพันธุ์แท้ของ ‘กันดั้ม’ มีมากกว่าของ ‘วันพีช’ และ ‘นารูโตะ’ รวมกันเสียอีก!


นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน?


คนในวงการอนิเมต่างโห่ร้องอย่างเหลือเชื่อ!


ยอดขายการ์ตูนระเบิด!


เรตติ้งอนิเมก็ทะลุปรอท!


บวกกับแฟนพันธุ์แท้จำนวนมาก ทำให้ ‘กันดั้ม’ ถูกยกขึ้นสู่จุดสูงสุดของแท่นบูชา!


อีกเรื่องหนึ่งแล้ว!


การ์ตูนแห่งชาติมาอีกแล้ว!


……


อุตสาหกรรมการ์ตูนสะท้านสะเทือนจะไม่รู้จะตกตะลึงยังไงแล้ว!


ทุกคนรู้สึกคล้ายกำลังฝันอยู่อย่างไรอย่างนั้น!


“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”


“ผีเท่านั้นที่รู้!”


“การ์ตูนแห่งชาติกลายเป็นเรื่องง่ายไปแล้วเหรอ?”


“ใครแม่งไปแหย่รังแตนเข้าให้แล้วล่ะเนี่ย?”


“ขอฉันทำใจเย็นๆ ก่อน ฉันมึนมาก!”


“ใครจะไม่มึน นายไม่เห็นเหรอว่าวงการการ์ตูนโลกช็อกไปหมดแล้ว!”


“ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน! ฉันไม่เคยเห็นจำนวนการ์ตูนแห่งชาติมีเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย! นี่ นี่แม่งก็เยอะเกินไปแล้ว!”


“ไม่มีเหตุผลเลย! นี่แม่งเป็นไปไม่ได้!”


เหล่านักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นหมดคำพูดได้แต่ถามฟ้าแล้ว!


การ์ตูนระดับประเทศปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เหลือที่ว่างสำหรับการอยู่รอดให้เรื่องอื่นเลย ที่สำคัญคือสัตว์ประหลาดทั้งเจ็ดคนนี้ยังสามารถวาดสามตอนต่อสัปดาห์ได้อย่างไม่สะดุด ไม่รู้ว่ามีนักเขียนการ์ตูนที่ด่าบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเจ็ดคนนี้ไปแล้วเท่าไร!


ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้


“รังแกกันเกินไปแล้ว!”


“ไอ้คนพวกนั้นชั่วร้ายมาก!”


“ตัวประหลาด! กลุ่มตัวประหลาด!”


“แม่งเอ้ย เก่งนักก็วาดสี่ตอนไปเลยไหม? หา?”


“เอาสิ เก่งนักก็วาดสี่ตอนไปเลย!”


“ฮ่าๆๆ ถูกต้อง พวกนายเก่งมากไม่ใช่เหรอ? พวกนายหยิ่งผยองนักนี่? วาดสี่ตอนต่อสัปดาห์ให้ฉันดูหน่อย!”


นักเขียนการ์ตูนที่ถูกขับไล่ต่างส่งเสียงโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง จิตวิญญาณของทุกคนบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว!


สุดท้ายก็มีข่าวออกมาในวันเดียวกัน สำนักพิมพ์โชเน็นมีกิจกรรมงานฉลองครบรอบการก่อตั้ง เปิดตัวนิตยสารรายสัปดาห์เล่มหนาที่มี ‘วันพีช’ ลงต่อเนื่องสี่ตอนต่อสัปดาห์!


พรูด!!!!


วินาทีนั้นนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นทรุดลงกับพื้นอย่างไม่มีอะไรกั้น!


นายแม่งวาดสี่ตอนต่อสัปดาห์ได้จริงเหรอฟะ!


เชี่ยแม่ง ฉันยอมแล้ว ฉันยอมแล้วโอเคไหม?


……


เจ็ดเรื่อง!


ภายในเวลาไม่กี่เดือน การ์ตูนแห่งชาติทั้งเจ็ดเรื่องก็ถือกำเนิดขึ้น!


ผลงานทั้งเจ็ดเรื่องโด่งดังไปทั่วในญี่ปุ่น ประเทศจีน เกาหลีใต้ ตลอดจนทั้งเอเชีย ไปถึงทุกที่ไม่ว่าจะทุรกันดารแค่ไหน แม้แต่ไก่กับสุนัขก็ยังรู้จัก!


มีแฟนคลับนับไม่ถ้วน!


ผู้คนจำนวนมากคอยติดตาม!


และแฟนคลับไม่น้อยที่คลั่งไคล้!


บทที่ 1451 : จางเย่คืนสู่สังเวียน!

โดย

Ink Stone_Fantasy

หนึ่งวัน


สองวัน


สามวัน


ประเทศแถบเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ยังคงวิจารณ์อย่างล้นหลาม


โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ประชาชนเกือบทั้งหมดล้วนหลงไหลมึนเมา


“มันสนุกมาก!”


“เทศกาลอนิเมชัดๆ!”


“อนิเมดีๆ ขนกันออกมาหมดเลย!”


“ฉันก็ติดมาก!”


“อาจารย์ทั้งเจ็ดคนอย่างเทพเลย”


“รีบออกตอนใหม่เร็วเข้า!”


ในภูมิภาคเอเชียมีหลายคนที่ไม่เคยดูอนิเมมาก่อน ก็ถูกกระแสนี้ดึงเข้าไปอยู่ในกองทัพแฟนคลับอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว


อนิเมทั้งเจ็ดเรื่องต่างผลัดกันรุกไล่ และทำลายสถิติของการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง เดี๋ยวเรื่องนี้ขึ้นมา พักเดียวเรื่องนั้นก็ขึ้นมาแทน ไม่มีเรื่องอื่นอีก ตอนนี้ตลาดเอเชียทั้งหมดราวกับกลายเป็นสนามแข่งขันสำหรับอนิเมทั้งเจ็ดนี้เท่านั้น ไม่มีตัวเอกอื่นใดอีกแล้ว


ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น


ตลอดจนประวัติศาสตร์ของวงการอนิเม


งานเลี้ยงเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!


……


ที่สตูดิโอของจางเย่


เมื่อมาทำงานตอนเช้า ขวัญกำลังใจของทุกคนดีอย่างยิ่ง


“ผู้กำกับฮา อรุณสวัสดิ์”


“พี่จั่ว อรุณสวัสดิ์ค่ะ”


“ผลตอบรับเป็นยังไงบ้างแล้ว?”


“เล่มใหม่ของ ‘ดราก้อนบอล’ ทำลายสถิติอีกแล้ว”


“เยี่ยมเลย”


“เวอร์ชั่นอนิเมก็ด้วย เรตติ้งของ ‘โคนัน’ แซง ‘โดราเอมอน’ อีกครั้งแล้วค่ะ”


“ยังไงก็เป็นสถิติของพวกเราเองทั้งนั้น ฮ่าๆ”


“ใช่แล้ว สู้กันไปสู้กันมา ไม่มีใครรู้ว่าที่จริงแล้วเป็นผลงานของผู้กำกับจางทั้งหมด”


“ผู้กำกับจางวาดผลงานอะไรใหม่ไหม?


“ไม่รู้สิ หลายวันนี้ผู้กำกับจางไม่มีความเคลื่อนไหวเลย”


“เปิดประชุมทางวิดีโอเถอะ ถามเขาสักหน่อย”


“โอเค”


เมื่อทุกคนมาถึงพร้อมหน้าก็เข้าห้องประชุม


ฮาฉีฉีเปิดวิดีโอคอล และเชื่อมต่อกับผู้กำกับจาง


ตรู๊ดตรู๊ด การเชื่อมต่อวิดีโอสำเร็จแล้ว แต่เมื่อเห็นจางเย่ ทุกคนก็ต้องตกตะลึง อุทานออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า!


บนหน้าจอ จางเย่ดูเหมือนคนที่เพิ่งอพยพออกจากถ้ำผู้ลี้ภัย ผมไม่เป็นทรง หนวดเคราไม่โกน เสื้อผ้าก็เป็นชุดที่พวกเขาเห็นตั้งแต่ประชุมคอลกันครั้งก่อน สภาพเหมือนคนป่วย ตาปรือราวกับว่าจะล้มลงได้ทุกเมื่อ แค่ลมพัดมาเขาก็ปลิวได้แล้ว


เสี่ยวหวังร้องไอ้หยา


ฮาฉีฉีรีบร้อนถามเสียงดัง “ผู้กำกับจาง เกิดอะไรขึ้นคะ?”


จางจั่วก้ตกใจเช่นกัน “คุณเป็นอะไร? หรือว่าวาดการ์ตูนเรื่องใหม่อีกแล้ว?”


เสี่ยวหวังถาม “คุณวาดเพิ่มอีกกี่เรื่องคะ?”


ผลงานใหม่?


เพิ่มอีกกี่เรื่อง?


ฟังจบจางเย่ก็แทบจะกระอักเลือด!


จางเย่โมโห “ฉันจะวาดเรื่องใหม่ทำไมอีก ตอนนี้ก็ปาไปเจ็ดเรื่องแล้ว สัปดาห์นึงมีเจ็ดวัน เรื่องนึงต้องมีตอนใหม่สามตอน เฉลี่ยแล้วฉันต้องวาดวันละสามตอนเลยนะ ปกติลูกพี่ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ถึงจะวาดได้เยอะขนาดนี้ ตอนนี้วันนึงต้องวาดตอนใหม่สามตอน ฉันไม่ได้หลับมาสองวันแล้ว พวกเธอคิดว่าฉันเป็นไอรอนแมนหรือไง!”


หา?


คุณไม่ใช่ไอรอนแมนหรอกเหรอ?


แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าถามออกไปจริงๆ


ฮาฉีฉีร้อนใจ “ไอ้หยา งั้นคุณรีบพักผ่อนเถอะค่ะ รีบไปพักผ่อนเลย”


จางจั่ว “ใช่ๆ ไม่ต้องวาดแล้ว”


จางเย่พูดอย่างไร้ชีวิตชีวา “ฉันโต้รุ่งจนวาดเสร็จหมดแล้ว ส่งไปให้ในอีเมลแล้ว พวกเธอไปดูเองนะ ไม่ไหวแล้ว ฉันต้องไปนอนสักหน่อย”


ฮาฉีฉี “ไปเถอะค่ะ คุณรีบไปเลย!”


หลังจากวางสาย


จางเย่กลับไปที่ห้องและล้มตัวนอนลง เขาไม่อยากขยับแม้แต่ปลายนิ้ว เจ้าหมอนี่กระตือรือร้นเกินไป เขาคิดจะสลับไปสลับมาระหว่างการ์ตูนทั้งเจ็ดเรื่องภายในครั้งเดียว สุดท้ายก็จบลงด้วยการเอาตัวเองเข้าแลก วันละสามตอนทุกวัน บางครั้งก็ต้องทำสี่ตอน ถึงจะเป็นจางเย่ก็รับไม่ไหว! ก่อนหน้านี้ตอนมองเห็นความสำเร็จที่สูงขึ้นๆ  เขารู้สึกมีความสุขมาก ยังคุยโม้โอ้อวดกับคุณอู๋อยู่ทุกวัน แต่ตอนนี้เพียงแค่เห็นคำว่าการ์ตูนหมอนี่ก็ตัวสั่นแล้ว!


อดทนไปก่อน!


อดทนอีกนิดเดียว!


ชัยชนะอยู่ตรงหน้าแล้ว!


หนึ่งชั่วโมง


สามชั่วโมง


เขาผล็อยหลับไป ลืมตาตื่นอีกทีก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว


จางเย่สะลึมสะลือมองไปที่นาฬิกา จากนั้นก็กระเด้งตัวลุกนั่งบนเตียง “ไอ้หยา ยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” พูดจบก็รีบลุกจากเตียงลงไปชั้นล่าง


กลิ่นอาหารโชยมา


และยังมีกลิ่นหอมของข้าวที่หุงสุกแล้วลอยปะปนอยู่


จางเย่ตกใจ และรีบเร่งฝีเท้าลงไปชั้นล่างเร็วขึ้นกว่าเดิม


ชั้นล่าง สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดต่างมากันครบ พ่อ แม่ หลี่ฉินฉิน อู๋ฉางเหอ ทางด้านห้องครัวกลับกลายเป็นว่าอู๋เจ๋อชิงกำลังทำอาหารอยู่


“พ่อ แม่”


“อ้าว เย่น้อยตื่นแล้ว”


“พวกแม่มาได้ยังไงครับ?”


“เจ๋อชิงโทรไปน่ะสิ”


จางเย่หันหน้าไป และพูดอย่างโมโห “อู๋ คุณทำอะไรเนี่ย”


อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “ทำอาหารไง”


จางเย่บ่น “ใครให้คุณทำกัน! บอกแล้วนี่ว่าผมจะทำเอง!”


แม่พูด “แม่ก็พูดแล้ว แต่เธอจะทำเองให้ได้”


“อาหารมื้อนี้ต้องให้ฉันทำแล้วล่ะ” อู๋เจ๋อชิงหัวเราะ จากนั้นก็ขยับเท้าก่อนพูดว่า “ดูสิ เท้าฉันหายดีแล้ว หลายเดือนมานี้ฉันอยู่ว่างเกินไป ถ้ายังไม่ขยับอีกฉันคงจะเดินไม่ได้แล้วละ เย่น้อย รีบไปล้างมือเถอะ จะกินข้าวแล้วนะ”


จางเย่เดินเข้าไป และคุกเข่าลงจับเท้าเธอ “หายดีแล้วจริงเหรอ?”


อู๋เจ๋อชิงตอบกลับอย่างอ่อนโยน “อืม ดีขึ้นมากแล้วตั้งแต่สองวันก่อน”


อาหารพร้อมแล้ว


ทุกคนต่างนั่งล้อมวงกัน


ทันใดนั้นอู๋เจ๋อชิงก็ชูแก้วขึ้นมา เธอยิ้มและพูดว่า “ก่อนจะกินข้าว ฉันขอดื่มเพื่อขอบคุณสามีฉันก่อนหนึ่งแก้ว”


จางเย่หัวเราะ “ไอ้หยา ไม่ต้อง ไม่ต้องหรอก”


อู๋ฉางเหอกลับพูดว่า “ต้องขอบคุณ”


หลี่ฉินฉินก็ซาบซึ้ง “ช่วงหลายเดือนมานี้เย่น้อยลำบากมากจริงๆ งานก็โยนทิ้ง ที่ทำงานก็ไม่ไป คอยดูแลเจ๋อชิงอยู่ที่บ้านทุกวัน ไม่ง่ายเลยจริงๆ”


แม่หัวเราะ “ก็เมียของเขานี่ เขาต้องดูแลอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”


พ่อ “แต่ก่อนมีแต่เจ๋อชิงที่ต้องคอยดูแลเขา ตอนนี้ก็สมควรให้เขาได้ทำบ้างแล้วล่ะ”


จางเย่หัวเราะฮาฮา “พ่อแม่ผมพูดถูก มันเป็นเรื่องที่ผมต้องทำอยู่แล้ว”


อาการบาดเจ็บกระดูกเส้นเอ็นจะไม่หายขาดหากไม่พักรักษาเป็นเวลาร้อยวัน แต่คุณอู๋กำลังตั้งครรภ์อยู่จึงไม่กล้ากินยา อาการบาดเจ็บจึงหายช้ากว่าปกติมาก ช่วงเวลาหลายเดือนมานี้วงการบันเทิงข้างนอกเปลี่ยนแปลงไปมาก มีหน้าใหม่ได้รับความนิยมในชั่วข้ามคืน และก็มีคนเก่าแก่ที่เรตติ้งตกฮวบฮาบ มีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เป็นกระแส แล้วก็มีดาราหนังชื่อดังที่พบกับความล้มเหลว เกิดเรื่องขึ้นมากมาย แต่จางเย่ไม่ได้สนใจ เขาตั้งอกตั้งใจอยู่บ้านดูแลภรรยาอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากการออกไปซื้อของแล้ว เขาไม่เคยก้าวเท้าออกจากบ้านเลย คนอย่างจางเย่ที่เคยมีนิสัยอยู่ว่างไม่ได้สามารถทำถึงขนาดนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ


เรียนรู้การทำอาหาร


การซักผ้า


งานบ้านมากมาย


หลายเดือนมานี้จางเย่เองก็เติบโตขึ้นไม่น้อย


อู๋เจ๋อชิงพูดขึ้น “วันพรุ่งนี้เธอกลับไปทำงานได้แล้วนะ”


จางเย่กะพริบตา “คุณดีขึ้นแล้วจริงๆ เหรอ?”


แม่กลอกตา “แกหวังว่าเจ๋อชิงจะไม่ดีขึ้นหรือไง?”


“เปล่า ผมแค่ถามเฉยๆ” จางเย่หมดคำพูด


ทุกคนต่างหัวเราะขำ


อู๋เจ๋อชิง “กินข้าวแล้วก็ไปนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงาน ยังมีหลายเรื่องให้เธอจต้องไปจัดการนะ”


จางเย่ยิ้มออกมา “ได้เลย เชื่อฟังเมียจ๋าอยู่แล้ว”


หลังกินข้าวเสร็จ จางเย่ก็ขึ้นไปนอนต่อที่ชั้นบนเพื่อเติมพลัง


บอกลาวงการบันเทิงไปหลายเดือน ไม่รู้ว่าทุกคนคิดถึงฉันหรือเปล่า?


ฮ่าๆ ข้าหูฮั่นซานกลับมาอีกครั้งแล้ว!


บทที่ 1452 : ดาวไม้กวาดกลับมาแล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ช่วงเช้า


เป็นวันที่มีเมฆมาก


ทุกที่เต็มไปด้วยหมอกควัน


และไม่รู้ว่าสวรรค์ ‘ให้เกียรติ’ หรืออย่างไรไม่ทราบ ตลอดอาทิตย์ท้องฟ้าแจ่มใส แต่กลับมืดครึ้มเอาวันนี้ ตลอดทั้งอาทิตย์ไร้ซึ่งหมอกควัน แต่วันนี้กลับขมุกขมัว คล้ายสวรรค์รู้ว่าจางเย่กำลังจะกลับมาแล้ว แต่นี่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อจางเย่ที่ตื่นเต้นยินดีจนแทบคุมไม่อยู่เลย เขาอาบน้ำ เปลี่ยนชุดที่สะอาดสะอ้าน สวมใส่รองเท้าหนัง แต่งตัวอยู่หน้ากระจกนานสองนาน ก่อนจะขับรถออกจากบ้านอย่างคึกคัก


ณ ลานจัตุรัส


ภายในชุมชน


เมื่อรถขับเข้ามาเพื่อนบ้านที่ตื่นเช้าหลายคนต่างมองเห็นแล้ว


พอจางเย่เดินลงมาจากรถ ลุงป้าสองสามคนก็รวมตัวกันทันที


“ไอ้หยา จางน้อยกลับมาแล้ว!”


“ป้าโจว”


“เมียเธออาการดีขึ้นหรือยัง?”


“ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณมากครับ”


“เอ้ะ จางน้อยจะไปทำงานแล้วเหรอ?”


“ลุงหู อรุณสวัสดิ์ครับ”


“ฉันไม่ได้เจอเธอมาหลายเดือนแล้วนะเนี่ย”


“ใช่ครับ วันนี้จะเริ่มกลับไปทำงานแล้ว”


“ฉันเพิ่งจะพูดไปตะกี้เองว่าทำไมวันนี้ถึงมีเมฆเยอะจัง”


“หา? เป็นเพราะผมเหรอ?”


“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่า”


เหล่าเพื่อนบ้านในชุมชนต่างคิดถึงเขา ดึงเขาไว้พูดคุยสัพเพเหระอยู่นาน ไม่ยอมให้จากไป ทางด้านนี้ความนิยมของจางเย่ยังคงดีอยู่มาก


ชั้นบน


เขามาถึงสตูดิโอแล้ว


ทุกคนต่างประหลาดใจ


ฮาฉีฉี “อ้าว ผู้กำกับจาง!”


เสี่ยวหวังตะโกน “ทำไมคุณออกมาข้างนอกได้ละคะ?”


เสี่ยวโจว “พี่สะใภ้หายดีแล้วเหรอคะ?”


“หายแล้ว” จางเย่หัวเราะ “วันนี้ฉันจะเริ่มทำงานแล้วนะ”


ทุกคนตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก็ปรบมืออย่างยินดี


จางจั่ว “แบบนี้ต้องฉลอง!”


อู่อี้หัวเราะ “ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว”


จางเย่ “หลายเดือนมานี้ลำบากทุกคนแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรมาก กลางวันนี้ไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง เราไปจัดชุดใหญ่กัน”


เสี่ยวหวังยกมือพร้อมหัวเราะคิกคัก “ฉันอยากกินลอบสเตอร์ค่ะ!”


จางเย่อารมณ์ดี “กินแต่ลอบสเตอร์อยู่นั่นแหละ เธอจะเหมือนลอบสเตอร์ไปทุกทีแล้วนะ”


เสี่ยวหวังประท้วง


ทุกคนต่างหัวเราะ


ผู้กำกับจางกลับมา พวกเขาก็รู้สึกมั่นคงยิ่งขึ้น


ยังไงก็ผ่านมาหลายเดือนเลยนะ วงการบันเทิงในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปมาก ทำเนียบดาราของเอเชีย และทำเนียบดาราในประเทศต่างมีการเปลี่ยนแปลง หากจางเย่ยังไม่กลับมาอีก แฟนคลับก็คงลืมเขาไปแล้ว โชคดีที่จางเย่มีรากฐานมั่นคง หรือก็คือมีคนด่าเขาเยอะมาก โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ที่โรงแรมอาซากุสะที่ญี่ปุ่นครั้งนั้น เสียงด่าทอก็ยิ่งโหมแรง เมื่อมี ‘รากฐาน’ นี้รองรับ อันดับความนิยมของจางเย่จึงยังมั่นคงอยู่


สื่อมวลชนมีพลังอันยิ่งใหญ่


ทันทีที่จางเย่ก้าวเท้าเข้าสตูดิโอ ก็มีข่าวออกมาแล้ว


‘จางเย่คืนสังเวียน!’


‘มีคนเห็นจางเย่กับตา!’


‘หลังจากผ่านไปหลายเดือน จางเย่ก็กลับเข้าสู่วงการบันเทิงแล้ว!’


‘ยุทธภพจะเกิดพายุอีกครั้งหรือไม่?’


‘จางเย่กลับมาแล้ว!’


บรรดาเพื่อนๆ ของเขาต่างก็โทรมา


……


เหยาเจี้ยนไฉ


“มาแล้วเหรอ?”


“ใช่”


“อย่าบอกนะว่านายไม่อยู่หลายเดือนแล้วยังไม่ชินอีก”


“ฮ่าๆ ช่วงนี้มีใครทะเลาะกับใครบ้างไหม?”


“นายไม่อยู่ ใครจะว่างไปตีกับคนอื่นเล่นๆ ล่ะ”


“ลูกพี่กลับมาแล้ว งั้นพวกเขาต้องตีกันแล้วแหละ”


“ใช่ นายไปปั่นอีกครั้งสิ”


……


จางเสีย


“เมียเธอหายดีแล้วใช่ไหม?”


“ใช่ครับ ไปทำงานได้แล้ว”


“ลูกในท้องล่ะ?”


“ห้าหกเดือนแล้ว แข็งแรงดีครับ”


“งั้นก็ดีแล้ว ตั้งใจทำงานล่ะ คะแนนในทำเนียบเอเชียของเธอใกล้จะตกแล้วนะ”


“ได้เลย ผมจะดึงมันขึ้นไปอยู่”


……


ฉีเหม่ยหลัน


“พักไปหลายเดือน รีบกลับไปทำงานชดเชยเถอะ”


“ได้ ผมจะค่อยเป็นค่อยไป”


“หายหน้าไม่มีข่าวคราวไปหลายเดือนแต่คะแนนนิยมในประเทศและในเอเชียกลับยังไม่ตก ก็คงมีแต่นายคนเดียวแล้วล่ะ”


“ผมยังเทียบกับพวกคุณไม่ได้เลย ตอนพวกคุณขึ้นจุดสูงสุดของประเทศ คะแนนนิยมในเอเชียเองก็ใกล้จะอยู่จุดสูงสุดอยู่แล้ว แต่ผมไม่ไหว ก็เลยต้องหาลู่ทางอื่นที่ไม่เหมือนพวกคุณ เส้นทางนี้ของผมน่ะ อยากจะให้คะแนนนิยมสูงขึ้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อยากให้มันลดลง คาดว่าคงจะยากกว่า”


“เพิ่งกลับมาก็โม้แล้วเหรอ?”


“ฮ่าๆ”


……


วันนี้


ลมพายุเปลี่ยนทิศ ฟ้าดินสะท้านสะเทือน


วงการบันเทิงทั่วทั้งเอเชียกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยชื่อชื่อเดียว เพราะดาวไม้กวาดคนนั้นหวนคืนสังเวียนแล้ว วงการบันเทิงจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง


ชาวเน็ตในประเทศแสดงออกชัดเจนที่สุด


มีคนเฉลิมฉลอง


มีคนปวดหัว


และมีคนที่ยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น


“จอมตอกหน้าจางกลับมาประตำแหน่ง!”


“ยินดีต้อนรับ!”


“หมอนี่ข่าวคราวเงียบหายไปนาน ในที่สุดก็โผล่หน้ามาแล้ว”


“พอวงการบันเทิงไม่มีเขา มันก็น่าเบื่อจริงๆ”


“ฮ่าๆ ดาวไม้กวาดกลับมาแล้ว วงการบันเทิงเกิดเรื่องอีกแน่!”


ชาวเน็ตเกาหลี


“ไอ้ดาวมรณะนี่ครอบครองหน้าข่าวอีกแล้ว!”


“ทำไมเขาถึงได้รับความสนใจในเอเชียมากขนาดนี้?”


“ใครจะไปรู้ฟะ!”


“เรื่องเมื่อตอนอยู่ญี่ปุ่นหมอนี่ทำได้เจ๋งมาก แต่ยังไงก็น่าด่าอยู่ดี”


“ใช่ เราก็ด่าต่อเเถอะ”


ชาวเน็ตญี่ปุ่นมีท่าทีดุเดือดที่สุด


“ไอ้นี่มันยังไม่ตายอีกเหรอ?”


“เขายังจะกล้ากลับมา?”


“ให้หมอนี่หายไปตลอดกาลเลยถึงจะดี!”


“ใช่ แค่เห็นเขาก็โมโหแล้ว!”


“ไม่รู้ว่าเขากลับมาแล้วจะไปก่อเรื่องอะไรอีก”


มีคนยินดี


และมีคนด่าทอ


ในเอเชียมักจะมีความคิดเห็นหลากหลายต่อจางเย่


แต่ผู้ที่พูดถึงเขามากที่สุดย่อมเป็นเหล่านักข่าวจากสื่อทั้งหลาย เมื่อได้ยินว่าจางเย่กลับมาแล้ว สื่อมวลชนทุกแขนงก็คึกคักราวกับช่วงตรุษจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดานักข่าวบันเทิงที่ดีอกดีใจเป็นพิเศษ ทุกคนต่างน้ำตาไหลอาบหน้า อีกนิดเดียวก็จะไปจุดประทัดฉลองแล้ว


สื่อหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง


“ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”


“ในที่สุดสหายเก่าก็กลับมาจนได้!”


“ถ้ายังไม่กลับมาอีก พวกเราคงใกล้จะตกงานกันแน่!”


“ฉันคิดว่าน่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว!”


“ฮ่าๆๆๆ เยี่ยมไปเลย!”


มีนักข่าวหลายคนที่พึ่งพาข่าวบันเทิงเพื่อดำรงชีวิต


ไม่มีจางเย่ ไม่มีเรื่องราวทะเลาะเบาะแว้ง พวกเขาจะเอาอะไรหากินล่ะ?


บางสิ่งจะรู้ว่ามีค่าก็ต่อเมื่อสูญเสียไป เมื่อก่อนเห็นจางเย่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร บางครั้งยังอดด่าจางเย่ไปสองสามประโยคไม่ได้ แต่เมื่อจางเย่หายตัวไป พวกเขาถึงรู้ว่าใครคือคนที่น่ารักที่สุดในโลก วิวาททุกวัน ด่าคนทุกวัน สร้างข่าวใหม่ให้ทุกวัน จะไปหาคนดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหน! จะไปหาที่ไหนได้อีก!


และเนื่องจากตื่นเต้นยินดีมากเกินไป เพียงครู่เดียวหน้าข่าวบันเทิงก็ถูกจางเย่ครอบครองทั้งหมด นักข่าวบันเทิงต่างรัวรายงานข่าวราวกับทำให้ฟรีอย่างไรอย่างนั้น


หลายคนกำลังเดาว่าจางเย่จะทำอะไรเป็นอย่างแรกเมื่อกลับมา?


วิวาท?


ด่าคน?


หรือจะทำงานตามปกติ?


เนื่องจากจางเย่หายหน้าไปนานจึงไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานะแบบไหน อยู่บ้านหลายเดือนกลายเป็นพ่อบ้านใจกล้าที่ซักผ้าทำกับข้าวทุกวัน หรือว่าอารมณ์ของหมอนี่จะถูกปรับให้ราบเรียบมั่นคงขึ้นแล้ว? จะกลายเป็นคนสุขุม? จะไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป?


จางเย่อยู่ในอารมณ์ไหน?


อาจมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้


ณ ตอนนี้ จางเย่อยู่ในอารมณ์ที่แทบจะทนไม่ไหว งานบ้านทั้งหลายไม่ได้สะกดนิสัยของเขาลงเลย แต่กลับทำให้เขาเก็บกด คันไม้คันมือ คันยุบยิบในหัวใจ คันไปทั่วทั้งร่างกาย จางเย่ยังคงเป็นจางเย่ จอมตอกหน้าจางก็ยังคงเป็นจอมตอกหน้าจางคนเดิม!


หัวใจแห่งการตอกหน้า!


ยังคงโบยบินตลอดกาล!


บทที่ 1453 : ไอ้! ขัน! ที!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ที่เซี่ยงไฮ้


ทีมบอยแบนด์ญี่ปุ่นทีมหนึ่ง


“จางเย่กลับมาแล้วเหรอ?”


“เชี่ย ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยฟะ!”


“งั้นคอนเสิร์ตพวกเราเอาไงดี?”


“ถ้าอย่างนั้น…รออีกหน่อยไหม?”


……


ที่กวางโจว


ทีมบอยแบนด์เกาหลีทีมหนึ่ง


“นี่…”


“ทุกคนระวังตัวไว้หน่อยนะ”


“อืม ช่วงนี้ก็เก็บตัวกันหน่อย”


“ใช่ อยู่ให้ห่างจากไอ้นักเลงคนนั้นเลย”


……


บนเวยป๋อ


ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างพูดคุยและวิเคราะห์


“คำสั่งแบนจางเย่ยังไม่ได้ยกเลิกนี่?”


“ยังนะ ญี่ปุ่นกับเกาหลีไม่มีทีท่าจะยกเลิกเลย”


“ฉันก็นึกว่าอาจารย์จางจะรอให้ยกเลิกคำสั่งแบนก่อนค่อยกลับมานะเนี่ย”


“นั่นสิ ตอนนี้เขายังอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดอยู่เลย”


“ทะเลาะวิวาทเพิ่มคะแนนนิยมได้ก็จริง แต่จะขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียก็ยังอีกไกล”


“ใครใช้ให้เขาพักงานไปนานขนาดนั้นล่ะ แค่ไม่กี่เดือนก็สายไปมากแล้ว มีข่าวว่าจางเย่วางแผนจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียภายในปีนี้ไม่ใช่เหรอ? นี่เดือนไหนเข้าไปแล้ว แถมยังหายไปนานอีก อย่าพูดถึงปีนี้เลย ปีหน้าก็อาจไม่มีงานด้วยซ้ำ”


“ทุกครั้งที่จอมตอกหน้าจางพักผ่อนก็มักจะก่อเรื่องอยู่ตลอด ใครจะรู้ว่าครั้งนี้กลับไม่มี หมอนี่ไปพักผ่อนจริงไหม? ไม่น่าจะเป็นไปได้!”


“ฉันก็รู้สึกว่าผิดปกติ”


“ท่านปู่จางจะแสดงพลังแล้ว!”


“ใช่ นายขึ้นไปอยู่ระดับเอสของเอเชียเพิ่มที่นั่งให้กับประเทศจีนสักที่สิ ตอนนี้นายอยู่ใกล้ตำแหน่งนั้นมากที่สุดเลยนะ”


“ถ้ายังไม่เพิกถอนคำสั่งแบนก็ไม่ต้องไปคิดหวังเรื่องที่จางเย่ขึ้นสู่จุดสูงสุดเลย ตอนนี้เขาเจาะเข้าไปในตลาดญี่ปุ่นกับเกาหลีไม่ได้ด้วยซ้ำ”


“พรูด พวกนายก็คิดเป็นจริงเป็นจังอะไรขนาดนั้น?”


“ครั้งนี้คะแนนนิยมของอาจารย์จางไม่ตกลงมาก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว”


“รอดูความเคลื่อนไหวของอาจารย์จางกันก่อนเถอะ”


“ฮ่าๆ ฉันก็รออยู่เนี่ย”


“พวกนายรอไปเถอะ ฉันขอไปดูอนิเมก่อนแล้วกัน”


“‘วันพีช’ ออกตอนใหม่หรือยัง?”


“อนิเมเพิ่งออกนี่แหละ”


“ว้าว ฉันก็จะไปดูด้วย!”


“ไปด้วย มังงะ ‘โคนัน’ ออกตอนใหม่ยัง?”


“ยังนะ”


ประชาชนกำลังรอ


สื่อมวลชนกำลังรอ


วงการบันเทิงก็กำลังรออยู่


หลายพันคนในเอเชียต่างติดตามความเคลื่อนไหวของจางเย่และสตูดิโอ


และจางเย่ก็ทำตัวสมกับฉายา เขาไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังจริงๆ กลับมาจากการพักผ่อนวันแรกก็ทำเรื่องใหญ่ที่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน เรื่องนี้ประชาชนทุกคนต่างนึกไม่ถึง อย่าว่าแต่สื่อมวลชนและวงการบันเทิงที่นึกไม่ถึง แม้แต่คนของสตูดิโอจางเย่เองก็ยังไม่ได้เตรียมใจเลย!


……


ตอนกลางวัน


ณ ห้องวีไอพีในร้านอาหารแห่งหนึ่ง


จางเย่เลี้ยงอาหารพนักงานในสตูดิโอทุกคน


“มา”


“หมดแก้ว”


“ทุกคนชนแก้วอีกรอบ”


“หมดแก้ว”


มีทั้งกินข้าวและดื่มเหล้า


ทันได้นั้นฮาฉีฉีก็ยิ้มและพูดเรื่อยเปื่อยว่า “อ้อใช่ ผู้กำกับจางคะ พรุ่งนี้ ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน’ ต้องลงพิมพ์ต่อแล้วนะคะ คุณส่งต้นฉบับมาให้หรือยัง?”


จางเย่ชะงัก “ส่งต้นฉบับอะไรเหรอ?”


ฮาฉีฉีตะลึง “ต้นฉบับมังงะของ ‘โคนัน’ ไงคะ?”


เสี่ยวหวังร้องอ๊ะออกมาคำหนึ่ง “คงไม่ใช่ว่าคุณยังไม่ได้วาดหรอกนะคะ?”


เสี่ยวโจวร้อนรน “ไอ้หยา จะทำยังไงดีละเนี่ย พรุ่งนี้ต้องส่งต้นฉบับแล้วนะคะ ผู้กำกับจาง ถ้างั้นคุณไม่ต้องกินแล้วค่ะ รีบกลับบ้านไปวาดก่อนเถอะ อย่าทำให้งานล่าช้าสิคะ”


จางเย่ตกใจ “ทำไมฉันต้องวาดด้วย?”


จางจั่วมึนงง “งั้นจะส่งต้นฉบับยังไงล่ะครับ? ทางนั้นเขาทวงมาแล้วนะ”


จางเย่ “ส่งต้นฉบับ? ส่งต้นฉบับอะไร?”


เขาตอบแบบนี้สามรอบจนทุกคนสับสนไปหมดแล้ว


เสี่ยวซุนหวาดผวา “คุณ คุณหมายความว่ายังไงครับ?”


จางเย่มองทุกคน “เฮ้ย ฉันก็นึกว่าทุกคนเข้าใจความหมายของฉันแต่แรกแล้วซะอีก จุดประสงค์ของเราในครั้งนี้คืออะไร? ก็คือการรุกฆาต! ตลบหลังศัตรูยังไงล่ะ!”


ฮาฉีฉีตะลึง “ใช่ไงคะ พวกเราเข้าใจ ตอนนี้เราเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว และกระจายไปทั่วเอเชียแล้วด้วย จากนี้ก็แค่วาดการ์ตูนให้ดี สะสมความนิยมไปเรื่อยๆ แล้วก็รอวันที่คำสั่งแบนถูกยกเลิกเพื่อประกาศว่าผู้เขียนคือคุณ หรือหากคุณกลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้นมากลางคัน เรารอการ์ตูนจบไปสองสามเรื่องแล้วค่อยประกาศก็ได้ ไม่ใช่แบบนี้เหรอคะ?”


จางเย่ถามกลับ “วันวันฉันวาดการ์ตูนสามตอน ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย ตอนนี้ฉันกลับมาทำงานแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปวาดการ์ตูนได้ทุกวันกันล่ะ ‘วันพีช’ ก็ดี ‘ยารูโตะ’ ก็ดี ‘โคนัน’ ก็ด้วย ถ้าไม่ใช้เวลาสิบกว่าปีจะจบได้ยังไง?”


เสี่ยวหวังพูดอย่างเเด๋อด๋า “จริงด้วย งั้นทำยังไงดีคะ?”


จางเย่กลอกตา “ฉันพูดเมื่อไรว่าจะวาดจนจบ?”


พรูด เสี่ยวโจวพ่นข้าวในปาก!


จางเย่หัวเราะ “รู้ไหมอะไรที่เรียกว่าคลื่นลูกเดียว?”


ทุกคนต่างตกใจจนทิ้งตะเกียบและลุกขึ้นยืน!


“อ๊า!”


“ผู้กำกับจาง!”


“เชี่ย ไม่เอา!”


“ไม่ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ได้ไหมล่ะ!”


“สวรรค์ หัวใจฉันรับไม่ไหวแล้วนะคะผู้กำกับจาง!”


“คุณ คุณคงจะไม่?”


พวกเขารู้สึกเหมือนตนเองกำลังจะเป็นบ้า!


พวกเขาต่างรู้ว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!


อะไรถึงเรียกว่าคลื่นลูกเดียว?


พวกเขาเคยได้ยินจางเย่พูดคำนี้ การตลบหลังศัตรูและบุกเข้าไปในสนามการ์ตูน เป็นเพียงการสร้าง ‘คลื่นหนึ่งลูก’ เพื่อรวบรวมความนิยม ตอนแรกที่ได้ยินคำนี้พวกเขาไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ แต่มาตอนนี้เองที่พวกเขาเพิ่งเข้าใจว่า ‘คลื่นหนึ่งลูก’ ของจางเย่แท้จริงแล้วหมายถึงอะไร!


คลื่นหนึ่งลูกก็คือคลื่นหนึ่งลูก!


ไม่มีลูกที่สอง!


ไม่มีลูกที่สาม!


จากนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว!


……


ที่ญี่ปุ่น


สำนักพิมพ์โชเน็น


กองบรรณาธิการกำลังปลาบปลื้มยินดี


“ยอดขาย ‘วันพีช’ ทำลายสถิติใหม่อีกแล้ว!”


“ทำดีมาก เบียด ‘นารูโตะ’ ตกลงไปเลย!”


“สมควรแล้ว!”


“พวก ‘นารูโตะ’ ‘ดราก้อนบอล’ เป็นตัวอะไร? ยังจะกล้ามาสู้กับเรา?”


ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่


ทันใดนั้นเซโตะ เคียวโกะก็วิ่งเข้ามา “แย่เล้ว! แย่แล้วค่ะ!”


เหล่าบรรณาธิการทุกคนต่างมองเธอ พลางหัวเราะถาม “อะไรแย่แล้ว? ฉบับรวมเล่มของ ‘ดราก้อนบอล’ แซงเราไปอีกแล้วเหรอ?”


ใบหน้าของเซโตะ เคียวโกะเต็มไปด้วยความหวาดผวา “‘วันพีช’ ค่ะ! ‘วันพีช’ หยุดพักอย่างไม่มีกำหนดค่ะ!”


กองบรรณาธิการระเบิดทันที!


“อะไรนะ?”


“เชี่ย!”


……


ที่ POO สตูดิโอ


ณ สำนักงานกองบรรณาธิการ


ทันใดนั้นก็มีเสียงคนกรีดร้อง


“ฉันเพิ่งได้ข่าวมา โชเน็นจบเห่แล้ว!”


“เกิดอะไรขึ้น?”


“‘วันพีช’ หยุดตีพิมพ์ต่อเนื่องแล้ว!”


“นายว่าอะไรนะ?”


“ฮ่าๆๆๆๆ!”


“ทำได้เยี่ยมมาก!”


“สุดยอด! เจ๋งไปเลย! ตัวประหลาดอาโออิ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้ว!”


“ฉันขำจะตายแล้ว! สี่ตอนเหรอ? ทำไมเขาไม่ตายไปซะเลยล่ะ!”


จากนั้นฟูจิวาระ ฮิโรชิก็ได้รับโทรศัพท์ เขาลุกขึ้นยืนอย่างคนไร้วิญญาน จากนั้นก็พูดกับเหล่าบรรณาธิการว่า “‘นารูโตะ’ ก็หยุดอัปตอนใหม่เหมือนกัน!”


กองบรรณาธิการที่เพิ่งเฉลิมฉลองพลันเป็นลมล้มลงไปทันที!


……


ที่ชูคันฉะ


“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”


“เรื่องอะไร?”


“พรูด ฮ่าๆๆๆๆ ฉันเพิ่งได้ยินมาว่า ‘นารูโตะ’ กับ ‘วันพีช’ หยุดอัปตอนใหม่แล้ว!”


“จริงเหรอ?”


“ข่าวดีมากเลยนี่!”


“ทำได้เยี่ยมมาก! สุดยอดไปเลย!”


“พวกเราจะขึ้นนำแล้ว! ต่อไปนี้ใครจะแข่งกับ ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน’ ของเราได้อีก!”


แต่ที่ด้านนอกจู่ๆ บรรณาธิการที่รับผิดชอบ ‘โคนัน’ ก็วิ่งเข้ามา เพราะรีบร้อนเกินไป จึงสะดุดล้มเสียงดังโครม แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บและไม่ได้ลุกขึ้น ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นและเงยหน้าพูดอย่างโมโหว่า “เชี่ยแม่งเอ๊ย! อาจารย์ฮาตาโนะบอกว่าเขาจะไม่เขียน ‘โคนัน’ ต่อแล้ว! หยุดพักแบบไม่มีกำหนดตั้งแต่วันนี้!”


ทุกคนต่างมีรอยยิ้มค้างบนใบหน้า หลังจากสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง ก็เปลี่ยนเป็นกระอักเลือด!


……


เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นในนิตยสารการ์ตูนนับไม่ถ้วน!


นิตยสารการ์ตูนของ ‘ดราก้อนบอล’


สตูดิโอของ ‘กันดั้ม’


สำนักพิมพ์ของ ‘สแลมดังก์’


บริษัทผลิตอนิเมของ ‘โดราเอมอน’


เหล่าบรรณาธิการนับไม่ถ้วนต่างด่าทออย่างดุเดือด!


“อาโออิ ไอ้เชี่ยแม่ง!”


“โอซาว่า ทวดเอ็งสิ!”


“ไป! รีบไป! ต่อให้ขุดดินลึกสามฟุตก็ต้องลากมูโตะออกมาให้ได้!”


“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? นี่เกิดบ้าอะไรขึ้นฟะ?”


“เพราะอะไร? ทำไมทั้งเจ็ดคนถึงหยุดวาดพร้อมกัน!”


บริษัทการ์ตูนสับสนวุ่นวาย!


วงการการ์ตูนอลหม่าน!


หยุดอย่างไม่มีกำหนด!


นี่หมายความว่ายังไง?


ที่ญี่ปุ่นอาจหมายความตามตัวว่าหยุดการลงพิมพ์!


ที่ประเทศจีน เหล่าชาวเน็ตจะใช้คำเรียกว่า ไอ้! ขัน! ที![1]


——————–


[1] 太监了 ขันที เป็นคำเปรียบเปรยผู้เขียนที่ล้มเลิกการเขียนหนังสือกลางคันก่อนที่จะเขียนเสร็จ และไม่มีการเขียนต่อไปอีกแล้ว ที่มาของความหมายก็คือ “ไม่มีอะไรด้านล่าง” เหมือนกัน


บทที่ 1454 : ครั้งนี้แหย่รังแตนเข้าให้แล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

วงการการ์ตูนญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหว!


เป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน!


นับตั้งแต่กำเนิดการ์ตูนก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ที่น่าตกใจและสั่นสะเทือนฟ้าดินเช่นนี้ การ์ตูนหนึ่งเรื่องหยุดเขียนกลางคันก็น่าตกใจอยู่แล้ว แม้การสูญเสียการ์ตูนแห่งชาติหนึ่งเรื่องจะส่งผลกระทบมาก แต่ก็ยังพออดทนยอมรับได้ แต่ถ้าเป็นสองเรื่องก็ไม่ใช่แล้ว พวกเขาทนไม่ได้ แล้วถ้าเป็นสามเรื่องล่ะ พวกเขาแทบไม่อาจจินตนาการได้เลย!


แต่นี่เจ็ดเรื่อง!


เจ็ดเรื่องเต็ม!


เจ็ดเรื่องเต็มๆ!


วันเดียวกัน เวลาเดียวกัน และหยุดวาดกลางคันเหมือนกัน!


ในขณะนี้วงการการ์ตูนของญี่ปุ่นรู้สึกเพียงว่ามีม้าหญ้าโคลนนับแสนตัวกระหน่ำวิ่งผ่านไป แล้วก็วกกลับมาวิ่งย่ำไปมาอีกครั้ง เป็นความรู้สึกเช่นนั้น!


“ไอ้พวกหลอกลวง!”


“เงียบไว้ เราต้องปกปิดเอาไว้!”


“ใช่ เปิดเผยออกไปไม่ได้เด็ดขาด!”


“ถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป จะทำลายล้างวงการการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างแน่นอน!”


“รีบไปตามหาเลย! ไปหานักเขียนให้ได้!”


“เชี่ย โทรไม่ติดแล้ว!”


“ครั้งนี้จบเห่แน่!”


“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ!”


ทั่วทั้งวงการต่างร่ำไห้!


บรรณาธิการหลายคนกระทืบเท้าด้วยความโมโห!


ทำแบบนี้ไม่ได้นะ จะทำกับพวกเราแบบนี้ไม่ได้!


ท้ายที่สุดกระดาษก็ไม่สามารถห่อไฟได้ เรื่องใหญ่เช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีข่าวรั่วไหล ไม่นานสื่อมวลชนญี่ปุ่นก็รู้เรื่อง จากนั้นประชาชนญี่ปุ่นก็รับรู้ หลังจากนั้นไม่นานทั้งชาวเกาหลี ชาวจีน ประชาชนทั้งเอเชียก็ต่างรู้เรื่องนี้!


……


ญี่ปุ่นเดือดแล้ว!


ชาวญี่ปุ่นตกใจจนแทบกระอักเลือด!


“อะไรนะ?”


“ไม่วาดต่อแล้ว?”


“วันพีชนารูโตะโคนันกันดั้ม ไม่วาดต่อกันหมดเลยเหรอ?”


“เชรดดดด!”


“นายแม่งกำลังอำฉันอยู่ป่าวฟะ?”


“เชี่ย! พวกนายเป็นไอรอนแมนไม่ใช่เหรอ? พวกนายบอกว่าสามตอนเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ใช่เหรอ?”


“ออกตอนใหม่! รีบออกตอนใหม่เลยนะ!”


……


แฟนการ์ตูนเกาหลีก็บ้าไปแล้ว!


“พวกเขาล่ะ? หายไปไหน?”


“นะ!”


“เชี่ย พวกนายอย่าทำแบบนี้ได้ไหม!”


“พระเจ้า ฉันติดอนิเมเจ็ดเรื่องนี้มาก!”


“นี่ไม่จริง เป็นภาพหลอนแน่นอน!”


“ไร้ยางอาย! กำลังถึงช่วงสำคัญแต่พวกนายกลับไม่วาดต่อแล้วเนี่ยนะ?”


……


ประชาชนชาวจีนก็ช็อกเหมือนกัน!


“ไอ้กลุ่มนี้อาทิตย์ก่อนยังบอกสามตอนสี่ตอนอยู่เลย!”


“ไม่ต้องกระตุ้นกันขนาดนี้ก็ได้ไหม เชี่ย!”


“ไอ้ชั่ว! แม่งชั่วร้ายเกินไปแล้ว!”


“นี่ นี่หลอกลวงคนอื่นชัดๆ!”


“ฉันกำลังติดหนักมาก แต่พวกนายกลับไม่วาดต่อแล้วเรอะ?”


“นายเป็นใคร? อย่าให้ฉันรู้ที่อยู่พวกนายนะ!”


“กรี้ดดดดด ฉันจะบ้าตาย ไม่เคยเจอนักเขียนที่ชั่วช้าขนาดนี้มาก่อนเลย!”


……


ประชาชนทั่วเอเชียต่างทนไม่ไหวแล้ว!


นี่หาเรื่องกันชัดๆ!


ครั้งนี้กระตุ้นความโกรธของประชาชนอย่างสุดขีด!


ไอ้คนไม่มีคุณธรรมทั้งเจ็ดนี่!


ถ้าการ์ตูนของนายผลตอบรับไม่ดีก็ช่างเถอะ ถ้าพล็อตของนายพังก็ไม่เป็นไร  ถ้านายวาดช้าหรือระบายสีไม่ได้ก็แล้วไป แต่นี่ไม่ใช่เลย ผลตอบรับไม่ดี? การ์ตูนพวกนายแม่งเป็นการ์ตูนแห่งชาติเลยนะ! พล็อตเรื่องพัง? พล็อตทั้งเจ็ดเรื่องต่างกำลังอยู่ในช่วงสำคัญ! วาดช้าวาดไม่ได้? พวกนายเจ็ดคนคือสัตว์ประหลาดไม่ใช่เหรอ! สัปดาห์ละสี่ตอนพวกนายก็ทำมาแล้ว ถ้าพวกนายวาดช้า นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นทุกคนคงไม่ล้มหายตายจากไปหรอก! แต่ตอนนี้พวกนายกลับไม่วาดต่อแล้ว นี่ไร้มนุษยธรรมเกินไป!


ทันใดนั้นโทสะของผู้คนก็โหมกระหน่ำ และความเกลียดชังของชาวเอเชียที่มีต่อ ‘ไอ้ขันที’ ก็พุ่งถึงขีดสุด เกลียดจนต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กระทืบเท้าขยี้และด่าทอไปด้วย!


สื่อมวลชน!


อุตสาหกรรมการ์ตูน!


ประชาชน!


ทั้งหมดต่างโมโหจนน้ำตาไหลแล้ว!


ทันใดนั้นก็มีหลายเสียงพูด


“พวกนายว่า ทั้งหมดนี่จะเป็นคนคนเดียวหรือเปล่า?”


เมื่อมีการคาดเดาเช่นนี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างหวาดกลัวจนเหงื่อท่วมตัว!


หนึ่งคน?


หรือว่าเจ็ดคนนี้อาจจะเป็นคนเดียวกัน?


สื่อมวลชนช็อกค้าง!


บรรณาธิการนิตยสารการ์ตูนตกตะลึง!


ประชาชนก็สูดหายใจเข้าอย่างเยียบเย็น!


พอไม่คิดก็ไม่รู้ แต่พอมาคิดแล้วก็ต้องตกใจ!


ก่อนอื่นในแง่ของคุณภาพการ์ตูน สไตล์การ์ตูนทั้งเจ็ดเรื่องแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ละเรื่องเป็นคนละประเภทกันเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือการ์ตูนมีคุณภาพคับฟ้า ทุกเรื่องคือการ์ตูนแห่งชาติ ในช่วงห้าหรือหกปีที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมการ์ตูนของพวกเขาไม่เคยมีการ์ตูนแห่งชาติเรื่องยาวมาก่อน ตอนนี้ล่ะ? เพียงไม่กี่เดือนก็มีถึงเจ็ดเรื่อง? นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัย จะมีการ์ตูนแห่งชาติมากมายขนาดนี้ได้ยังไง!


ต่อมาคือเรื่องการอัปเดตตอน การอัปเดตการ์ตูนเจ็ดเรื่องเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีก่อนในประวัติศาสตร์ สัปดาห์ละสองตอนก็น่าตกใจพอแล้ว แต่นี่สามารถวาดสามตอนต่อสัปดาห์ มีบางครั้งที่สามารถวาดได้ถึงสี่ตอน และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ทั้งเจ็ดคนต่างทำได้เหมือนกันหมด นี่ก็บังเอิญเกินไป!


จากนั้นยังมีเรื่องของนักเขียนด้วย นักเขียนทุกคนไม่เคยปรากฏตัว บรรณาธิการนิตยสารทุกคนได้พบเพียงตัวแทนเท่านั้น ตอนแรกทุกคนยังไม่รู้ แต่พอเรื่องค่อยๆ เปิดเผย นิตยสารหลายฉบับถึงเพิ่งรู้ว่าคนที่มาลงนามในสัญญาคือตัวแทนของนักเขียน ดังนั้น แท้จริงแล้วทั้งเจ็ดคนนี้ชื่ออะไร เป็นใคร หรือแม้แต่ถือสัญชาติอะไร พวกเขาต่างไม่มีใครรู้เลย นี่ก็เป็นจุดที่น่าสงสัยอีกจุดหนึ่ง!


และสุดท้ายที่สำคัญ นักเขียนการ์ตูนทั้งเจ็ด กลับประกาศหยุดวาดโดยไม่คาดคิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ถ้อยคำและสำนวนยังเหมือนกันทุกประการ จะบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง นี่แม่งไม่สามารถใช้ความบังเอิญมาอธิบายได้อีกต่อไป!


ที่จริงแล้วใช่ว่าจะไม่มีใครกล้าคาดเดาเรื่องนี้ แต่เนื่องจากมีข้อสงสัยมากไป ความคิดนี้จึงถูกปัดตก สาเหตุหลักเพราะอะไร คือจำนวนตอนที่อัปเดตยังไงล่ะ! ปริมาณเขียนงานสัปดาห์ละสามตอน ในวงการถือเป็นหนึ่งไม่มีสอง ความเร็วในการวาดประหนึ่งปืนกล หนึ่งเรื่องก็ว่าพอตัวแล้ว แต่นี่เจ็ดเรื่อง? ถ้าเจ็ดคนนั้นคือคนเดียวกันจริง นั่นหมายความว่าคนคนนั้นต้องวาดอย่างน้อยสามตอนทุกวัน และอัปเดตตอนใหม่อย่างน้อยก็ยี่สิบกว่าตอนต่อสัปดาห์!


คนอื่นมากที่สุดได้หนึ่งตอน!


เขาสามารถวาดได้ยี่สิบตอน?


จะมีคนประเภทนี้จริงเหรอ!


จะมีสัตว์ประหลาดแบบนี้ได้ยังไง!


แต่มาบัดนี้ข้อเท็จจริงและความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนต่างถูกกางอยู่ตรงหน้า ทำให้พวกเขาไม่เชื่อก็ไม่ได้ พวกอาโออิ โอซาว่า มูโตะ ฮาตาโนะนักเขียนการ์ตูนทั้งเจ็ดคน อาจจะเป็นคนเดียวกันจริงๆ!


การค้นพบนี้ทำให้ทุกคนตกใจอย่างยิ่ง!


“คนเดียวกัน?”


“ไม่ผิดจแน่ ไม่งั้นก็อธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้!”


“ไม่มีความบังเอิญแบบนี้ในโลกหรอก!”


“เหลือเชื่อมาก!”


“เชี่ย ทั้งหมดนี่คือคนวาดคนเดียวเหรอ?”


“เขาแม่งเป็นเทพมาจากไหนฟะ?”


“ยี่สิบตอนต่อสัปดาห์? สัตว์ประหลาดที่ไหนจะวาดได้เร็วขนาดนี้!”


“เขาเป็นใครกันแน่!”


“เชี่ยเอ๊ย นายให้ฉันเห็นหน่อย!”


“ใช่ รีบโผล่หัวเลย!”


“นี่เจ้าเล่ห์มาก! หลอกต้มกันครั้งใหญ่เลย!”


“เชรด! ไอ้บ้าปัญญาอ่อนที่กำลังหลอกพวกเราอยู่เป็นใครกันแน่!”


“ตอนนี้ยังทันนะ พวกเราจะยอมรับการจำนนของนาย!”


วันนี้คนเอเชียมากมายต่างกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเกรี้ยวกราด และพยายามค้นหาร่องรอยของไอ้เจ้าหมอนั่น!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)