ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1439-1444
บทที่ 1439 : จางเย่กลายร่างเป็นพ่อบ้าน!
โดย
Ink Stone_Fantasy
วันต่อมา
สตูดิโอของจางเย่ประกาศ “เนื่องจากเหตุผลทางครอบครัว อาจารย์จางเย่จะหยุดกิจกรรมการทำงานทั้งหมดเป็นเวลาสามเดือน ยังผลในทันที ขอขอบทุกท่านที่เข้าใจ”
สัมภาษณ์? ปฏิเสธ!
โปรเจกต์? ปฏิเสธ!
โฆษณา? ปฏิเสธ!
ทุกกิจกรรมล้วนหยุดลงทันที!
จางเย่ทำงานเช่นนี้เอง ถ้าอยากทำก็ทำไปจนสุด ไม่งั้นก็คือไม่ทำเลย!
ข่าวนี้เป็นกระแสทันที
นักข่าวต่างได้รับข้อมูลถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
‘จางเย่หยุดรับงาน!’
‘ข่าวล่าสุด : ภรรยาของจางเย่ขาหัก!’
‘ภรรยาของจางเย่ประสบอุบัติเหตุ!’
‘จางเย่กลายเป็นพ่อบ้าน?’
บนเวยป๋อ
“กะทันหันแบบนี้เลยเหรอ?”
“หวังว่าจะไม่เป็นอะไรมากนะ!”
“คงไม่หรอก แค่หักธรรมดา”
“งั้นก็ดีแล้ว”
“หายไวๆ นะ”
“อาจารย์จาง ดีเลย คุณจะได้อยู่ดูแลภรรยาที่บ้าน”
“ใช่ อย่าไปกังวลกับงาน (หาเรื่องชาวบ้าน) เลย อยู่บ้านดูแลเมียดีๆ เถอะ”
“ใช่ งาน (ต่อยตี) น่ะทำตอนไหนก็ได้”
“วงเล็บของเมนต์บนขำเป็นบ้า”
“จางจอมตอกหน้าลางานทีไร ชื่อเสียงพุ่งเมื่อนั้น แต่คนอื่นเวลาหยุดงานมีแต่ชื่อเสียงร่วงเอาๆ สำหรับดาราแล้ว การปรากฏตัวคือที่มาของการงาน แต่ว่าการเพิ่มชื่อเสียงแบบนี้กลับทำให้อาจารย์จางเป็นตัวประหลาดของวงการ พอเห็นเขาบอกจะหยุดงานทีไรฉันได้แต่หัวเราะทุกที”
ที่บ้าน
เพื่อนของเขาโทรหา แม้ว่าอาการหักจะไม่หนักหนาแต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
จางเสียเป็นกังวล “เธอสบายดีไหม?”
จางเย่หัวเราะ “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
จางเสีย “อยากให้ช่วยอะไรรีบบอกนะ”
จางเย่ “ครับย่าจาง ผมกำลังหัดทำกับข้าวอยู่”
จางเสีย “เหอะๆ ดีแล้ว เธอจะได้ใช้หลายเดือนนี้ฝีกฝนจิตตัวเองสักหน่อย ให้ความอารมณ์ร้อนนั่นสงบลงบ้าง”
จางเย่ยิ้ม “ช่างเรื่องอารมณ์ผมเถอะน่า ตอนนี้ผมต้องดูแลภรรยาผมก่อนนี่สิ ไม่เคยรู้เลยว่าจะยากขนาดนี้ ตอนไปซื้อของที่ตลาดเมื่อเช้านี่งงไปหมด ปลาตะเพียนหน้าตาแบบไหนผมยังไม่รู้ ขนาดซื้อตามรายการแล้วผมยังซื้อผิด เพิ่งรู้ว่าภรรยาผมต้องทำอย่างยากลำบากขนาดไหน ผมที่เป็นสามีกลับไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย”
จางเสียหัวเราะ “โลกนี้คงมีแต่ภรรยาเธอละนะที่สามารถสะกดเธอได้ะ”
ใกล้เที่ยงแล้ว
อู๋เจ๋อชิงยังยุ่งกับการทำงานในห้องนอน แม้จะขอลาพักผ่อนที่บ้านหลายเดือนแล้ว แต่งานหลายอย่างใน SARFT ยังคงต้องการให้เธอดูแลอยู่ อย่างไรก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อยากเทก็เทแบบจางเย่คงไม่ได้ ได้แต่ทำงานทั้งหลายจากที่บ้าน
จางเย่ทำอาหารเที่ยงอยู่ชั้นล่าง
นี่ซอสถั่วเหลือง
งั้นนี่ล่ะ?
เขาชิม อ้อ เกลือ
จางเย่เปิดดูสูตรอาหารขณะทำกับข้าว
ขณะนั้นเองก็มีสายเข้ามาจากเหยาเจี้ยนไฉ
เหยาเจี้ยนไฉถาม “ฉันได้ข่าวเรื่องเมียนายแล้ว เป็นไงบ้าง? โอเคไหม?”
จางเย่ว่า “ก็ไม่ได้แย่นัก แค่เวลาไปไหนมาไหนต้องลำบากสักหน่อย”
เหยาเจี้ยนไฉ “นายทิ้งงานหมดเลย?”
จางเย่หัวเราะ “ไม่พูดเรื่องงาน พูดเรื่องทำกับข้าวเถอะ”
“หวา” เหยาเจี้ยนไฉประหลาดใจ “เอาจริงเรอะไอ้หนู? ทำกับข้าวเรอะ?”
จางเย่หัวเราะ “ยังไงก็เถอะ พี่สะใภ้อยู่รึเปล่าน่ะ? ขอสายหน่อยสิ ฉันอยากรู้วิธีทำน้ำแกงปลาตะเพียน ในเน็ตมีหลายสูตรเกินไป น้ำแกงง่ายๆ มีเป็นสิบกว่าสูตร ทุกคนก็มีสูตรของตัวเอง ฉันก็ไม่รู้จะทำสูตรไหนดี จำได้แค่ครั้งก่อนกินของพี่สะใภ้แล้วอร่อยจริงๆ”
เหยาเจี้ยนไฉยิ่งประหลาดใจ “ได้ๆ ฉันจะส่งให้”
ปลายสายเปลี่ยนคนพูด “ฮัลโหล จางน้อย?”
“สวัสดีครับพี่สะใภ้ ผมอยากรู้สูตรของคุณ”
เขาจัดการทำน้ำแกงออกมาจนได้
ต่อไปคือขาหมู
ใครทำขาหมูเป็นบ้างนะ?
จางเย่คิดก่อนโทรหาหลี่เสี่ยวเสียนแห่งสปริงการ์เด้น
“เสี่ยวเสียน ขาหมูทำยังไงน่ะ?”
“อะไรนะ?”
“ขาหมูน่ะ เจ๊ตงกับเอมี่บอกว่าขาหมูตุ๋นของเธออร่อยมากนี่?”
“เอ๋ ทำกับข้าวเหรอ?”
“ใช่”
“พรืด ฉันกำลังอัดรายการอยู่นี่นา”
“อัดอะไรกันเล่า? สอนฉันก่อนสิ”
“โอเคๆๆๆ ขอโทษนะคะผู้กำกับ ขอเวลาห้านาทีนะคะ”
หลังวุ่นวายเป็นชั่วโมง
กับข้าวก็เสร็จแล้ว
น้ำแกงก็ตุ๋นเสร็จแล้ว
จางเย่ตะโกน “อู๋ ได้เวลากินข้าวแล้ว” ก่อนขึ้นไปช่วยพาภรรยาลงมา “ช้าๆ นะ เดินระวังหน่อย”
อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “ทำอะไรน่ะ? หอมจัง”
จางเย่ภูมิใจ “ของอร่อยแน่นอน”
อู๋เจ๋อชิง “ทำฉันหิวแล้วจริงๆ”
เขาดูแลคนไม่เก่งนัก แค่พาลงบันไดก็ใช้เวลามากแล้ว บันไดเองก็แคบเกินจะให้เขาพยุงเธอลง แต่ถ้าให้ขี่หลังก็กลัวจะเผลอโดนข้อเท้าเธอเข้า ด้วยความใจร้อนของเขาจึงตัดสินใจโอบที่เอวเธอแล้วก้าวลงมาชั้นล่างไวๆ
คุณอู๋รีบพูด “ฉันเดินเองได้”
จางเย่ยืนยัน “ไม่ต้องหรอก”
แม่เปิดประตูเข้ามาพอดีเห็นฉากอันน่าหวาดเสียว เธอรีบวิ่งเข้ามาร้องโวยวาย “หยุดเลย! ไอ้หยา หยุดเลยนะ!”
จางเย่ปล่อยคุณอู๋ลง “เรียบร้อย!”
แม่พูดไม่ออก “ใครลงบันไดแบบแกกัน?”
จางเย่พูดอย่างมั่นใจ “ผมแข็งแรงนะ ไม่ร่วงหรอก แม่มาทำไมน่ะ? มาตามกลิ่นเหรอ? กับข้าวมีเหลือเฟือแล้ว กินด้วยกันสิ?”
“ฉันกลัวแกดูแลเจ๋อชิงคนเดียวไม่ได้นี่แหละเลยต้องมาดู ถ้าสะใภ้ฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจัดการแกแน่!” แม่ขู่ ก่อนหันมองบนโต๊ะอาหาร “นี่อะไรน่ะ?”
จางเย่ยิ้ม “น้ำแกงปลาตะเพียน ขาหมูตุ๋น ผัดผัก”
แม่ “หน้าตาไม่เลว แต่รสชาติเนี่ยสิ”
จางเย่เชื้อเชิญ “ลองชิมดูสิ”
ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นี่ควรถือเป็นครั้งแรกที่จางเย่ทำกับข้าวอื่นนอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ทั้งสามนั่งลงกินข้าว
อู๋เจ๋อชิงชิมน้ำแกงอย่างมีมารยาท นัยน์ตางดงามนั้นหลับลงก่อนพูดเบาๆ “ใช้ได้เลยนะ”
แม่ชิมแล้วก็เบ้ปาก “ใช้ได้ แต่ไม่อร่อยเท่าฉันทำหรอกนะ ด้วยฝีมือระดับแก นี่เกินที่ฉันคิดไปมากแล้ว”
จางเย่กลอกตา
หึ! แค่เพราะผมไม่ได้หนังสือทักษะทำอาหารหรอก ถ้าผมได้ทักษะนี้เต็มล่ะก็ ตำรับจักรพรรดิชิงร้อยแปดประการผมก็เนรมิตให้ได้!
กินข้าว
ล้างจาน
เก็บครัว
แม่อาจจะพูดจารุนแรงกับเขาบ้าง แต่ก็ยังรักเขามาก จึงเอ่ยว่า “เอาล่ะๆ วางจานไว้อย่างนั้นแหละ ฉันไม่เคยให้แกทำงานบ้านเลยนะเนี่ย”
จางเย่กลับห้ามไว้ “หยุดเลยแม่ ผมไม่ให้ใครทำแทนหรอกนะ – เอ๊ะอู๋ นั่งลงเถอะ ใครใช้ให้ยืนน่ะ? อยากได้น้ำ? เดี๋ยวจัดให้ ฉันเอาให้ – ตรงนี้เรียบร้อยแล้ว ยังต้องซักผ้าไหมนะ? – เอ๋ ไหนน้ำยาปรับผ้านุ่มน่ะ? อ้อ นี่เอง!”
จางเย่เดินไปเดินมาทำงานบ้านทั่วทั้งบ้าน แม้อาหารที่ทำจะไม่ยอดเยี่ยม แม้จะล้างจานเปลืองน้ำ แม้จะซักรีดได้ไม่ดีนัก แต่ทุกอย่างนั้นจางเย่ทำอย่างตั้งใจเต็มที
พอแม่เห็นดังนั้นจึงค่อยวางใจ
หลังแม่กลับไปแล้วอู๋เจ๋อชิงก็พูดว่า “เย่น้อย พอเถอะ”
จางเย่เข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม “ว่ายังไง?”
คุณอู๋เช็ดฟองน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ข้อมือ “เธอไปทำงานของตัวเองเธอเถอะ แค่ขาหักเท่านั้นเอง คิดว่าฉันดูแลตัวเองไม่ได้เหรอ? ฉันไม่ได้บอบบางอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
จางเย่ “งานผมตอนนี้คือการดูแลคุณนะ”
“ไม่ต้องหรอก”
จางเย่ยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ไม่กระทบกับงานผมเองแน่”
“ทำไมล่ะ?”
“ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ฮ่าๆ ลูกพี่น่ะลอบเข้าไปค่ายของศัตรูได้แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ก็เถอะ การ์ตูนเป็นงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่นนะ อยากวาดตอนไหนก็วาด สบายจนผมทำงานจากบ้านได้สักสองสามเดือนเลยล่ะ ตอนเปิดเผยความจริงผมต้องได้ชื่อเสียงในระดับทวีปจำนวนมาก ไม่ถ่วงงานผมแน่นอน เพราะงั้นพักรักษาตัวให้สบายเถอะ ระหว่างเราไม่ต้องเกรงใจอะไรกันนักหรอก”
คุณอู๋ “เอาล่ะ งั้นฉันคงต้องให้สามีฉันดูแลสักหลายเดือนแล้วละนะ”
บทที่ 1440 : การ์ตูนโคตรฮอต!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ซักผ้า
ทำกับข้าว
วาดการ์ตูน
วันเวลาผ่านไปเช่นนี้
คนส่วนใหญ่เวลาหยุดพักก็ไม่ทำอะไร แต่จางเย่กลับยิ่งวุ่นวาย ชายหนุ่มไม่อาจอยู่นิ่งได้นานนัก ต่อให้เขาไม่มีอะไรทำก็ยังต้องหาเรื่องทำอยู่ดี ดูจากที่เขามีความสุขกับการทำกับข้าว คิดเมนูใหม่ทุกวันเพื่อเซอร์ไพรส์ภรรยาก็มองออกแล้ว
ขณะเดียวกัน เพื่อนและครอบครัวของจางเย่ก็กลับต้องแบกรับผลกรรมของเรื่องนี้
ที่กองถ่าย
ผู้กำกับ “เอาล่ะ เตรียมเปิดกล้องนะครับ”
ผู้ช่วยผู้กำกับ “ทุกคนปิดมือถือนะครับ”
ทุกคนปิดมือถือ แต่เหยาเจี้ยนไฉกลับแย้ง “เดี๋ยวๆๆๆ ฉันขอรับสายก่อน” ก่อนเขารับสายด้วยท่าทีจนปัญญา “อะไรอีก?”
ที่ปลายสาย จางเย่ว่า “ผัดมะเขือยาวทำยังไงอ่ะ?”
“แกโทรหาฉันมาสามรอบแล้วนะวันนี้!”
“ก็ไม่รู้จะทำไงนี่”
“ใส่น้ำมันแล้วก็ผัดๆ ไปสิโว้ย!”
“ไม่ไหวอ่ะ ใส่ไปปุ๊บหายปั๊บ มะเขือแห้งมากเลย”
“ไอ้หยา ทำไมงี่เง่าแบบนี้เล่า? มะเขือดูดน้ำมันเยอะแกก็ใส่เพิ่มสิวะ”
“เชี่ย ก็บอกแต่แรกสิ วางละ!”
พอวางสาย ทุกคนก็หันมองเขา เหยาเจี้ยนไฉได้แต่โบกมือถือจนปัญญา “จางเย่น่ะ หมอนั่นพยายามหัดทำกับข้าวอยู่”
ทุกคนหัวเราะร่วน
ที่เซี่ยงไฮ้
หลังเวทีคอนเสิร์ต
“อาจารย์ เตรียมขึ้นเวทีได้แล้วนะครับ”
เสี่ยวตงกับเอมี่พร้อมแล้ว
มีแต่หลี่เสี่ยวเสียนยังอยู่ในสาย “อาจารย์จาง ฉันต้องขึ้นเวทีแล้วนะคะ”
จางเย่กระวนกระวาย “บอกผมก่อนสิ กระทะร้อนแล้ว เร็วๆๆๆ!”
หลี่เสี่ยวเสียนได้แต่ว่า “ยังไงคุณก็ต้องลวกล้างเลือดมันก่อนนะคะ”
“ผมยังต้องลวกด้วยเหรอ?”
“แน่นอน ไม่งั้นก็ไม่อร่อยสิคะ”
เสี่ยวตงกลอกตา
เอมี่เร่ง “เสี่ยวเสียน เร็วๆ สิ เราต้องขึ้นเวทีนะ ช่างอาจารย์จางเถอะน่า สองสามวันนี้โทรมาแปดรอบแล้ว เขาไม่ใช่คนที่จะทำกับข้าวได้หรอก!”
ปักกิ่ง
บนเวทีโชว์ตัว
ฟ่านเหวินลี่เพิ่งร้องเพลงจบ ยังไม่ทันจิบน้ำก็มีสายเข้า
“เหล่าฟ่าน ปลากระรอกเปรี้ยวหวานทำยังไงน่ะ?”
“หือ?”
“เร็วๆ สิ ผมฆ่าปลาแล้วเนี่ย!”
“พอเลย ขนาดมะเขือเทศผัดไข่ยังทำไม่ได้ เธอจะทำปลากระรอกเปรี้ยวหวานอีก? เดินยังไม่มั่นคงก็คิดจะวิ่งแล้วงั้นรึ?”
“หึ อย่าดูถูกลูกพี่นะ!”
หลี่เสี่ยวเสียน
จางเสีย
ฟ่านเหวินลี่
และคนอื่นๆ
ขอแค่เป็นเพื่อนเขาและทำกับข้าวเป็น ในช่วงหลายวันนี้ล้วนเป็นถูกจางเย่คุกคาม มือถือดังกันทุกครั้งที่ใกล้เวลาอาหารจนทุกคนรำคาญ แต่ว่ากลับสวนว่าจางเย่กลับไม่ได้ ยิ่งพูดเขายิ่งอยากพิสูจน์ว่าคุณคิดผิด แล้วพวกเขาจะรับมือได้อย่างไร
ขณะที่จางเย่นั้นกลับสนุกมากๆ
แต่ละวันเขาทำกับข้าวหลายอย่าง รอให้คุณอู๋ชมเวลากิน พอเธอชมเข้า จางเย่ก็รู้สึกได้ถึงความสำเร็จและยินดีเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอน เขายังไม่ลืมงานหรอกนะ
จางเย่กำลังไล่ตามระดับ S ของทำเนียบเอเชียอยู่
แต่ละคืน หลังอู๋เจ๋อชิงเข้านอนแล้ว เขาก็จะเข้าไปในสตูดิโอ ดื่มกาแฟหรือชาแก่ๆ สักแก้วก่อนเริ่มวาดรูปจนดึกดื่น ถ้าไม่ค่อยอยากทำหรือรู้สึกเหนื่อยมากก็วาดแค่วันละตอน ถ้าดีกว่านั้นก็วันละสองสามตอน ต้นฉบับตุนไว้ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเร็วในการตีพิมพ์ของทางญี่ปุ่นสัปดาห์ละตอนนั้นช้าเกินไป ในที่สุด เมื่อจางเย่รู้สึกว่าตัวเองมีต้นฉบับตุนไว้มากเกินไปแล้ว เขาก็เร่งให้ทางสตูดิโอติดต่อขอเพิ่มเป็นสัปดาห์ละสองสามตอน
อีกด้านหนึ่ง
ที่ญี่ปุ่น
นิตยสารโชเน็นเล่มใหม่ออกวางจำหน่ายแล้ว
ตอนที่สองของวันพีซก็ออกตีพิมพ์
ถ้าตอนแรกถือเป็นการแนะนำพื้นหลังของเรื่องเพื่อปูทางนำผู้อ่านสู่พล็อตหลัก อย่างนั้นแล้วตอนที่สองก็นับเป็นการเริ่มต้นเรื่องจริงๆ
“ว้าว”
“พวกนั้นสู้กันแล้ว!”
“หมอนั่นเป็นมนุษย์ยางนี่!”
“สนุก สนุกมาก!”
“ลูฟี่โคตรน่ารักเลย!”
“ตัวละครใหม่ล่ะ”
“สนุกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”
“การ์ตูนเรื่องนี้ไม่เลวเลย อ่านคุ้มนะ”
“เรื่องใหม่นี่แปลกใหม่จริงๆ ฉันแนะนำเพื่อนแล้ว”
“เฮ้อ แต่ดีไซน์ตัวละครมันน่าเกลียดนี่สิ”
……
สัปดาห์ต่อมา
วันพีซตอนที่สามออกแล้ว
“สนุกมาก!”
“ฉันเริ่มติดแล้วสิ!”
“แย่แล้ว! จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวละครออกแบบมาได้ดีมาก!”
“ฉันด้วย กลายเป็นเคยชินไปแล้วเนี่ย!”
“ออกแบบได้เป็นเอกลักษณ์มาก”
“ฉันยังจะโหวตให้เรื่องนี้ต่อนะ”
……
สำนักพิมพ์โชเน็น ฝ่ายกองบรรณาธิการ
ผลโหวตเล่มใหม่ออกมาแล้ว
บรรณาธิการทุกคนรวมทั้งเซโต้ เคียวโกะเองก็มารุมดูด้วยความอยากรู้ พอเห็นเข้าทุกคนก็ตาค้าง
“วันพีซอีกแล้ว!”
“อันดับหนึ่งอีกแล้ว?”
“ได้อันดับหนึ่งมาสามเล่มติดแล้วนะ”
“นี่คือม้ามืดที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้เลย”
“เคียวโกะเลี้ยงข้าวเลยนะ”
เคียวโกะยิ้มร่า แต่กลับพูดว่า “เลี้ยงอะไรเล่า? ฉันกังวลจะตายแล้ว อาจารย์อาโออิให้เลขาโทรมาเร่งฉันหลายรอบแล้วเนี่ย บอกว่าสัปดาห์ละตอนมันช้าไป อยากได้หน้าเพิ่มให้ลงได้สักสัปดาห์ละสองสามตอนน่ะ ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำ”
เหล่าบรรณาธิการแทบกระอักเลือด!
“ว่าไงนะ?”
“รู้สึกว่าไม่พอ?”
“สัปดาห์ละสามตอน?”
“เคียวโกะเธอแจ๊กพ็อตแล้ว!”
“เฮ้อ ทำไมนักเขียนของฉันไม่ทุ่มเทขนาดนี้บ้างนะ!”
“ฉันอิจฉาเธอมากเลยเคียวโกะ นักเขียนของฉันน่ะเก่งแต่ลากถ่วงจนถึงเดดไลน์ ไม่ถึงเดดไลน์งานไม่เดิน ฉันต้องไปตามจิกทุกคนเลยเนี่ย บางทีฉันก็โมโหเหมือนกัน ทำไมไม่เจอนักเขียนที่ทุ่มเทอย่างของเธอบ้างนะ!”
“เฮ้อ เปรียบคนเปรียบจนตายจริงๆ!”
“เคียวโกะ ปีนี้เธอสร้างกระแสใหญ่แล้ว!”
“วันพีซกลายเป็นการ์ตูนสุดฮิตไปแล้ว แทบจะแน่นอนแล้วว่าได้รวมเล่มแน่ ถ้ายอดขายดียังอาจจะได้ทำเป็นอนิเมะด้วย”
ขณะนั้นเอง หัวหน้าบรรณาธิการก็เดินเข้ามา
เคียวโกะกระวนกระวาย “หัวหน้าบรรณาธิการคะ”
หัวหน้าเห็นเธอแล้วก็พูดว่า “อันดับหนึ่งอีกแล้วเหรอ?”
เคียวโกะยิ้ม “ค่ะ”
หัวหน้าบรรณาธิการครุ่นคิด “วันพีซส่งเข้ามากี่ตอนแล้วนะ?”
เคียวโกะ “ตอนนี้มีสามสิบตอนแล้วค่ะ ไม่ทราบอาจารย์อาโออิจ้างผู้ช่วยไว้มากแค่ไหน แต่ผลงานเขาผลิตเร็วมาก ยิ่งไปกว่านั้น อ่านกี่รอบก็ยังรู้สึกว่าทุกตอนนี้ต่างก็ยอดเยี่ยมจริงๆ”
หัวหน้าบรรณาธิการพยักหน้า “เรื่องที่เธอบอกมาก่อนหน้านี้ เอาเข้าที่ประชุมคุยกันเถอะ ถึงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ไม่ได้แปลว่าเราจะทำไม่ได้”
เคียวโกะประหลาดใจ “หมายความว่า?”
“เราจะลองดู” หัวหน้าบรรณาธิการว่า “สัปดาห์นี้มีการ์ตูนกำลังจะจบพอดี เราเลือกให้วันพีซลงต่อได้ ลองดูก่อนว่าสองตอนต่อสัปดาห์จะเป็นยังไง ถ้าไม่ไหว เราก็ยังตัดเหลือหนึ่งตอนเท่าเดิมได้”
ดังนั้นเอง วันพีซก็เริ่มตีพิมพ์สัปดาห์ละสองตอน
ชื่อเสียงของวันพีซโด่งดัง ม้วนกวาดทั่วญี่ปุ่นด้วยความเร็วดุจฟ้าร้องแบบอุดหูไม่ทัน!
บทที่ 1441 : ยอดขายฉบับรวมเล่มอันน่าตื่นตะลึง!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ญี่ปุ่น
บนอินเทอร์เน็ต หัวมุมถนน บนรถ ที่โรงเรียน
ได้ยินคนพูดถึงวันพีซไปทั่วทุกที่
“วันนี้ลงสองล่ะ!”
“อ่านแล้วมีความสุขสุดๆ ไปเลย”
“ลูฟี่ของฉัน! น่ารักเป็นบ้าเลย!”
“สู้กันได้ดุเดือดมาก!”
“นี่เป็นการ์ตูนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยอ่านในหลายปีนี้เลย!”
“ฉันอยากซื้อฉบับรวมเล่มแล้ว!”
“ฉันด้วย จะออกเมื่อไหร่นะ?”
“ฉันอ่านไปสี่รอบแล้ว!”
ตอนที่สี่
ตอนที่ห้า
ตอนที่หก
‘วันพีซ’ ยังคงตีพิมพ์ต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น เพราะอัปตอนเพิ่มเป็นสองตอนในหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นจำนวนหน้าของวันพีซก็ใกล้จะสามารถรวมเล่มแล้ว ไซส์หนังสือขนาดสามสิบสองทั่วๆ ไปนั้นที่ญี่ปุ่นเรียกว่าชินโชปัน[1] จำนวนหน้าประมาณ 180 หน้าก็เพียงพอแล้ว โชเน็นแม็กกาซีนจำต้องร่นแผนการรวมเล่มเข้ามา
โฆษณา
ตีพิมพ์
จัดทำหน้าปก
พูดคุยเกี่ยวกับจำนวนตีพิมพ์ครั้งแรก
ในการประชุมของโชเน็นแม็กกาซีนครั้งที่หนึ่ง ทุกคนมีความเห็นแตกต่างกัน
“มาพูดกันเลยว่าตีพิมพ์ครั้งแรกควรจะกี่เล่ม?”
“ลองสักแสนเล่มก่อนดีไหม?”
“แสนเล่มจะน้อยไปหน่อยหรือเปล่า? ตอนนี้วันพีซดังมากเลยนะ ฉันรู้สึกว่าอย่างน้อยขั้นต่ำน่าจะเป็นสองแสนเล่ม อาจจะมากกว่านี้ได้อีก”
“สองแสน? ไม่มีทาง”
“ยังเป็นแค่เล่มหนึ่งอยู่ด้วย สองแสนจะเยอะไปหน่อย นี่เป็นเป็นเรตของนักวาดการ์ตูนระดับแนวหน้าเลยนะ”
“แต่ตอนนี้วันพีซเป็นการ์ตูนที่ดังที่สุดในญี่ปุ่นแล้วนะ!”
“ฉบับรวมเล่มยังไม่ได้ตีพิมพ์ ยอดขายจะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ จะบอกว่าเป็นการ์ตูนที่ดังที่สุดตอนนี้ก็ยังเร็วไปหน่อย”
“เจอกันตรงกลางแล้วกัน ฉันแนะนำว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นเล่ม”
บางคนก็มองว่าดี
แน่นอนว่าบางคนก็ไม่เห็นด้วย
จากการสำรวจความนิยม วันพีซได้รับความนิยมสูงมาก เป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ชื่อเสียงก็คือชื่อเสียง ยอดขายก็คือยอดขาย ต้องพิจารณาแยกกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีการ์ตูนประเภทที่ได้รับคำชื่นชมและชื่อเสียงมากมาย แต่พอตีพิมพ์รวมเล่มออกมาก็ล้มเหลว ดังนั้นชื่อเสียงเป็นแค่ด้านหนึ่ง สุดท้ายยังต้องว่ากันด้วยเรื่องยอดขาย
อีกด้านหนึ่ง
สตูดิโอจางเย่เองก็มีคนรีบร้อนเดินทางไปที่ญี่ปุ่น
……
วันนี้
ตอนเช้า
เวลาที่ปักกิ่งคือตอนหกโมงเช้า
เวลาที่โตเกียวคือเจ็ดโมง ช้ากว่ากันหนึ่งชั่วโมง
จางเย่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ส่วนอีกมือหนึ่งก็ถือโทรศัพท์ไว้ขณะวีดิโอคอลคุยกับฮาฉีฉี ในวีดิโอคอล เสี่ยวซุนกำลังคุยกับพี่สาวของเขาอยู่ ฮาฉีฉีเองก็กระฉับกระเฉงมาก
จางเย่เอ่ยยิ้มๆ “ถึงแล้วเหรอ?”
ฮาฉีฉีตอบ “ฉันกับเสี่ยวซุนถึงญี่ปุ่นแล้วค่ะ วันนี้เป็นวันที่วันพีซเล่มหนึ่งจะวางขายเป็นวันแรก อีกเดี๋ยวก็จะเริ่มขายแล้ว คุณไม่รู้อะไร ถ้าไม่มาที่นี่ก็สัมผัสความโด่งดังของวันพีชไม่ได้หรอก พูดแบบนี้ก็แล้วกัน ภาษาญี่ปุ่นคำว่าวันพีซสองคำนี้ฉันยังฟังออก คุณรู้ไหมว่าฉันกับเสี่ยวซุนตอนที่นั่งรถไปตามทางได้ยินคนพูดว่าวันพีซสี่ห้าครั้งแล้ว?”
จางเย่ “ฮ่าๆ งั้นก็เยี่ยมเลย”
ฮาฉีฉียิ้ม “ฉันกับเสี่ยวซุนจะรีบไปร้านหนังสือ ไว้จะมาบอกยอดขายนะคะ”
จางเย่ตอบ “โอเค ลำบากพวกคุณแล้ว”
ฮาฉีฉีตอบว่า “ไม่ลำบากเลย ควรทำอยู่แล้ว คุณก็วาดให้เยอะขึ้นหน่อย แล้วก็อยู่ที่บ้านคอยดูแลหัวหน้าอู๋ให้ดีๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังมีพวกเราอยู่ค่ะ”
จางเย่ “ตกลง”
วางสายวีดิโอคอลแล้ว ฮาฉีฉีกับเสี่ยวซุนก็รีบออกไปทันที
แต่ว่าตอนที่ไปถึงด้านนอกร้านหนังสือขนาดใหญ่ในละแวกนั้น ทั้งสองคนก็ทึ่มทื่อไปแล้ว เห็นแต่เพียงแถวยาวมากๆ ที่ต่อกันอยู่ข้างนอกร้าน
วันพีซ!
วันพีซ!
ข้างหูล้วนเป็นเสียงนี้!
เสี่ยวซุนงุนงง “ทุกคนมาซื้อวันพีซเหรอ?”
ฮาฉีฉีตะลึงค้างไปเล็กน้อย “เป็นไปไม่ได้?”
พวกเขาเองก็ไม่เข้าใจ ไม่กล้าคิดไปเองฝ่ายเดียว จากนั้นรีบหมุนตัวเปลี่ยนไปเป็นร้านหนังสือที่ขนาดเล็กลงแห่งหนึ่ง ผลคือสิ่งที่ปรากฏก็ยังเป็นแถวยาวเหยียดเช่นเดิม!
นี่คืออะไร?
มาซื้ออะไรกัน?
ตอนนี้เองก็ถึงเวลาขายเแล้ว!
ตอนที่ร้านหนังสือแห่งนั้นพลันเปิดประตู ฝูงชนในแถวก็พลันหลั่งไหลเข้าในไปในชั่วพริบตา ถึงแม้จะต่อคิวเป็นระเบียบ ไม่สับสนวุ่นวายเหมือนทางฝั่งจีน แต่ทุกคนก็เดินไวราวติดปีก พุ่งไปทิศทางเดียว โซนขายการ์ตูน!
“วันพีซ!”
“ฉันเอาเล่มนึง!”
“ให้ฉันเล่มนึง!”
“วันพีซมาหรือยัง?”
เสี่ยวซุนตกตะลึง!
ฮาฉีฉีปลื้มปีติ!
ไม่ได้คิดไปเอง ทุกคนล้วนมาซื้อวันพีซจริงๆ!
……
ที่โอซาก้า
ร้านค้าปลีกแห่งหนึ่ง
“มีวันพีซไหม?”
“ขอวันพีซฉบับรวมเล่มเล่มนึง ขอบคุณ”
“ราชานักสู้เล่มแปดออกหรือยัง? ยังไม่ออกเหรอ? โอ้ งั้นฉันขอวันพีซเล่มนึง”
……
ฮอกไกโด
ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง
“อะไรนะ?”
“ไม่มีแล้ว?”
“ทำไมไม่มีแล้วล่ะ?”
“ฉันต่อแถวมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
……
เกียวโต
ห้างแห่งหนึ่ง
“วันพีซล่ะ?”
“ไม่ใช่ว่าฉบับรวมเล่มจะออกวันนี้เหรอ?”
“ขายหมดแล้ว?”
“ไวขนาดนี้เชียว?”
“ไม่เหลือเลยสักเล่ม?”
“อ๊าๆๆๆ! มาช้าเกินไปสินะ!”
……
ในขณะเดียวกัน
แผนกบรรณาธิการโชเน็นแม็กกาซีน
คนจากแผนกการตลาดคนหนึ่งพลันวิ่งเข้ามา เอ่ยเสียงดังพลางหอบหายใจว่า “วันพีซขายได้แบบบ้าคลั่งเลย! ใครเป็นบรรณาธิการที่รับผิดชอบวันพีซ?”
เซโตะ เคียวโกะยืนขึ้นอย่างงุนงง “ฉันค่ะ”
คนจากแผนกการตลาดเอ่ยว่า “รีบเตรียมตัวให้พร้อมเร็ว ต้องพิมพ์เพิ่มแล้ว!”
บรรณาธิการคนอื่นเองก็ปากอ้าตาค้าง
“พิมพ์เพิ่ม?”
“นี่เพิ่งเริ่มขายเองนะ”
“ทำไมตอนนี้ถึงพิมพ์เพิ่ม?”
“ตกลงแล้วยอดขายเป็นยังไงกัน?”
พวกเขาไม่มีทางเข้าใจได้เลย
การพิมพ์เพิ่มพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปกติแล้วมักจะรอเล่มที่พิมพ์ครั้งแรกขายหมดก่อนจึงจะพิจารณาพิมพ์เพิ่ม แต่นี่เพิ่มเริ่มขายไปได้สองชั่วโมง ทำไมถึงเสนอเรื่องพิมพ์เพิ่มออกมาแล้ว?
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน
เห็นแต่คนจากฝ่ายการตลาดเอ่ยว่า “พวกคุณรู้อะไรไหม วันพีซขายไปได้สองชั่วโมง ฉบับพิมพ์ครั้งแรกขายหมดทั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นเล่มแล้ว!”
เซโตะ เคียวโกะตะลึงงัน!
คนทั้งแผนกบรรณาธิการตะลึงงัน!
ขายหมดแล้ว?
ทั้งหมด?
หนึ่งแสนห้าหมื่นเล่ม??
รองหัวหน้าบรรณาธิการ “เชี่ย!”
บรรณาธิการชายคนหนึ่งเป็นลม “ต้องร้ายกาจขนาดนี้ไหม?”
คนหนึ่งตะโกนออกมาว่า “เร็วเข้าๆๆๆ รีบติดต่อหัวหน้าบรรณาธิการ!”
ทุกคนเข้าใจเรื่องใหญ่แล้ว!
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องใหญ่ของสำนักพิมพ์โชเน็นของพวกเขา นี่เป็นเรื่องใหญ่ของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น!
กี่ปีแล้วนะ?
ญี่ปุ่นไม่มีการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้มากี่ปีแล้ว?
……
สองวันหลังจากนั้น
วันพีซพิมพ์เพิ่มอีกหนึ่งแสนห้าหมื่นเล่ม
ขายหมดเกลี้ยงในสามชั่วโมง!
……
ไม่กี่วันหลังจากนั้น
วันพีซพิมพ์เพิ่มอีกสองแสนเล่ม
สองแสนเล่มถูกแย่งซื้อจนหมดเกลี้ยงอีกครั้ง!
……
พิมพ์เพิ่ม!
ขายหมด!
พิมพ์เพิ่ม!
ขายหมด!
สุดท้าย ยอดขายวันพีซฉบับเล่มหนึ่งก็สูงจนทำให้ผู้คนตกตะลึงถึงหนึ่งล้านหนึ่งหมื่นเล่ม ทำลายสถิติยอดขายการ์ตูนฉบับรวมเล่มครั้งแรกในประวัติศาสตร์!
สำนักพิมพ์โชเน็นเป็นบ้าไปแล้ว!
สำนักพิมพ์นิตยสารการ์ตูนรายอื่นๆ ก็เป็นบ้าไปแล้ว!
ทั่วทั้งญี่ปุ่นล้วนบ้าคลั่ง!
นึกถึงช่วงหกเจ็ดปีก่อนตอนที่การ์ตูน ‘The Awakening of the Races’ จบลง วงการการ์ตูนญี่ปุ่นก็ไม่ปรากฏภาพที่บ้าคลั่งเช่นนี้อีกเลย ความโด่งดังเป็นพลุแตกของวันพีซมาอย่างกะทันหันเกินไป เร็วเสียจนไม่มีใครทันได้เตรียมตัว คนญี่ปุ่นมากมายล้วนรับมือไม่ทัน!
หกปีแล้ว!
หกปีแล้วนะ!
มีการ์ตูนแห่งชาติอีกครั้งแล้ว ในที่สุดสิ่งที่พวกเขารอคอยก็มาถึงแล้ว!
———————
[1]Shinshoban เป็นหนังสือปกอ่อนขนาดประมาณ 17×11 cm
บทที่ 1442 : ฉายอนิเมชั่น!
โดย
Ink Stone_Fantasy
สื่อญี่ปุ่นลุกเป็นไฟทันที
‘การ์ตูนแห่งชาติถือกำเนิดอีกครั้งแล้ว!’
‘วันพีซทำลายสถิติยอดขาย!’
‘อาจารย์อาโออิกลายเป็นนักวาดการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น!’
‘ตัวตนของอาจารย์อาโออิเป็นปริศนา?’
‘วันพีซทำให้เกิดการถกเถียงอย่างร้อนแรง!’
บนอินเทอร์เน็ตประเทศญี่ปุ่น
“สุดยอดไปเลย!”
“ยอดขายหนึ่งล้านหนึ่งหมื่นเล่ม! สวรรค์!”
“นี่มันนักวาดการ์ตูนใจกล้าจากที่ไหนเนี่ย?”
“ใช่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นมือใหม่!”
“จินตนาการได้เลยว่าสองสามปีหลังจากนั้น วันพีซจะกลายเป็นผู้นำในวงการการ์ตูนแน่นอน!”
“ดูจากยอดขายกับความนิยมนี้ ตอนนี้วงการการ์ตูนไม่มีงานของใครสามารถเทียบได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ดูไปแล้ววาดไปอีกสามปีห้าปีก็ไม่มีปัญหา!”
อะไรคือการ์ตูนแห่งชาติ?
นั่นก็คือการ์ตูนที่คนทุกช่วงวัยไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ล้วนชื่นชอบ ตอนนี้ถึงพีซจะยัง ‘เด็ก’ อยู่มาก แต่กลับสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคนที่เคยอ่านวันพีซล้วนรู้ว่าความจริงนี่เป็นการ์ตูนประเภทสโลว์เบิร์น ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นแม้จะยังไม่ผ่านการตกตะกอนจากวันเวลา ทว่ากลับถูกทั่วทั้งวงการสวมหมวกประจำตำแหน่งการ์ตูนแห่งชาติให้ตั้งนานแล้ว ทั้งยังไร้ข้อกังขา คนจำนวนมากล้วนโอบกอดความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ต่อวันพีซ!
การถกเถียงระเบิดออกอย่างร้อนแรง!
ยอดขายระเบิดออกอย่างร้อนแรง!
ในตอนนี้เอง ข่าวที่กระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง!
สำนักพิมพ์โชเน็นจับมือกับบริษัทผลิตแอนิเมชันเริ่มทำโปรเจคท์!
แอนิเมชันวันพีซจะได้เผยแพร่แล้ว!
ชาวญี่ปุ่นล้วนเฝ้ารอคอย
“ในที่สุดก็จะมาแล้ว!”
“ยอดไปเลย!”
“อนิเม! อนิเม!”
“อยากดูสุดๆ เลย!”
……
วันนี้
ในประเทศ
ตอนเช้าตรู่ จางเย่เดินออกไปซื้ออาหารแบบสบายอารมณ์
เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของร้านเอ่ยยิ้มๆ “อาจารย์จาง มาอีกแล้วเหรอ?”
จางเย่ยิ้ม “ครับ”
เถ้าแก่เนี้ย “วันนี้จะซื้ออะไรล่ะ?”
จางเย่ตอบ “มีหมูสับไหมครับ? ผมจะห่อเกี๊ยวสักหน่อย”
เถ้าแก่เนี้ย “มีๆ ฉันสับให้คุณเดี๋ยวนี้เลย ไม่ใช้เครื่องบด รับประกันความสดใหม่”
หลังซื้ออาหารเสร็จแล้วเพิ่งออกจากร้าน ก็เห็นว่าด้านนอกมีนักเรียนที่สวมเครื่องแบบมัธยมต้นสองสามคนกำลังพูดพลางหัวเราะเดินมาทางเขา
“ซีซี ฉันจะแนะนำการ์ตูนให้เรื่องหนึ่ง”
“การ์ตูนอะไร?”
“วันพีซ”
“อ๊า ฉันเคยได้ยิน เหมือนว่าจะดังมาก สนุกไหม?”
“สนุกสุดๆ รีบกลับไปอ่านเถอะ อนิเมก็ใกล้จะออกมาแล้ว”
“งั้นฉันรออนิเมออกดีกว่า อ่านการ์ตูนแล้วเหนื่อยเกินไป”
“เธอจะไปรู้อะไร การ์ตูนต่างหากที่ดีที่สุด”
“จริงหรือหลอกเนี่ย?”
“เธอกลับไปอ่านก็รู้แล้ว นี่ฉันก็แนะนำไปให้หลายคนมากเลยนะ ทุกคนบอกสนุกทั้งนั้น”
“ได้ ฉันจะไปอ่าน”
จางเย่ประหลาดใจเล็กน้อย เคลื่อนสายตามองตามพวกเขาพลางยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนพูดถึงวันพีซในประเทศ
เมื่อกลับมาถึงบ้าน
เขาโยนอาหารในมือไว้ในห้องครัว แล้วก็หอบเอาโน้ตบุ๊กเข้าไปในสวน นั่งอาบแดดบนม้านั่งยาวพลางไล่ดูในอินเทอร์เน็ต แต่พอเห็นจางเย่ก็ตกใจจนตัวลอย แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ตอนนี้วันพีซมีเว็บบอร์ดแล้ว แถมยังยิ่งใหญ่มากด้วย!
เมื่อลองค้นหาอย่างละเอียด
ข้อมูลการ์ตูน
ดาวน์โหลดฉบับแปล
พูดคุยเกี่ยวกับพล๊อตเรื่อง
มีทุกด้านเลย อะไรที่ควรมีก็มีครบทั้งหมด
การค้นหาบนอินเทอร์เน็ตก็เยอะมาก
“ตอนใหม่ล่าสุดออกมาหรือยัง?”
“ออกมาแล้ว”
“ขอลิงก์อ่านหน่อย!”
“ขอคนแปลได้หน่อย!”
“การ์ตูนเรื่องนี้มียาพิษ ตอนที่เริ่มดูก็รู้สึกว่าดีไซน์ตัวละครน่าเกลียดมาก แต่ยิ่งดูยิ่งสนใจ!”
“ใช่ ทางญี่ปุ่นช่วงหลายปีมานี้มีการ์ตูนระดับนี้น้อยมาก”
“สนุกจริงๆ เริ่มตามตั้งแต่ตอนที่ห้า ตามถึงตอนปัจจุบันแล้ว”
“ที่สำคัญคืออาโออิอัปเดตตอนใหม่ไวมาก นักเขียนคนอื่นๆ เขาลงหนึ่งตอนต่ออาทิตย์ เจ้าหมอนี่ลงสองตอน ต่อให้ฟ้าผ่าลงมาก็ไม่หวั่นไหว สมแล้วที่ถูกเรียกว่าต้นแบบของวงการการ์ตูน!”
“อนิเมเองก็ใกล้ฉายแล้ว”
“อาทิตย์หน้าก็ออกอากาศแล้ว ตั้งตารอเลย!”
“อาจารย์อาโออิสุดยอด! ยอดเยี่ยมมาก!”
อาจารย์อาโออิ?
จางเย่กลอกตา แต่ริมฝีปากกลับประดับด้วยรอยยิ้ม ดีมากเลย เรื่องนี้ส่งอิทธิพลมาถึงในประเทศด้วย? ใช่แล้ว ประเทศอื่นๆ ในเอเชียล่ะ?
เกาหลีเองก็เป็นเช่นนี้
หัวข้อที่เกี่ยวกับ ‘วันพีซ’ บนอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นการ์ตูนที่ดีมากจริงๆ”
“ยากนะที่จะมีอะไรแปลกใหม่ขนาดนี้”
“ใช่ ไม่แปลกที่ดังถึงขนาดนี้”
“ตอนนี้การ์ตูนเรื่องนี้ทางฝั่งญี่ปุ่นให้ฉายาว่าการ์ตูนแห่งชาติยุคใหม่”
“ชอบอ่านจัง”
“หวังว่าอนิเมจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”
……
ภายใต้ความคาดหวังของคนนับหมื่น
วันนี้ อนิเมวันพีซตอนแรกออกอากาศแล้ว
ญี่ปุ่น คนจำนวนมากปักหลักอยู่หน้าจอโทรทัศน์ตั้งนานแล้ว
แผนกบรรณาธิการของสำนักพิมพ์โชเน็นราวกับกำลังฉลองปีใหม่กันอยู่ บรรณาธิการทุกคนล้วนกำลังจับจ้องโทรทัศน์ เฝ้ารอเป็นพยานในช่วงเวลาสำคัญนี้
บนอินเทอร์เน็ต
“เริ่มแล้ว!”
“ว้าว ไม่เลวเลย”
“เหมือนที่จินตนาการไว้เลย!”
“ดีมาก ไม่ได้แปลกจากมังงะเลย!”
“รู้สึกว่าลูฟี่น่ารักขึ้นนะ!”
“นักพากย์ระดับแนวหน้ามาพากย์เลยนะ!”
“เป็นเสียงของไอโกะ! คนพากย์ลูฟี่เป็นผู้หญิง!”
“บทที่ยอดเยี่ยม คุ้มค่าการรอคอย!”
ผลตอบรับจากผู้ชมญี่ปุ่นดีมาก
อีกด้านหนึ่ง ชาวเน็ตจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียก็กำลังตั้งตาคอยเช่นกัน
“ฉายหรือยัง?”
“ขอเว็บ!”
“ขอเว็บ ขอซับด้วย!”
“เร็วๆๆ รอไม่ไหวแล้ว”
“มีให้ดาวน์โหลดได้ที่ไหนน่ะ?”
“ทีมทำซับล่ะ?”
ผลของวันพีซตอนแรกออกมาอย่างรวดเร็ว!
ตอนที่สถานีโทรทัศน์ประกาศเรตติ้งออกมา ในวงการก็ลุกเป็นไฟอีกครั้ง!
ระเบิดออกมาแล้ว!
ทำลายสถิติอีกแล้ว!
เรตติ้งอนิเมวันพีซตอนแรกทำลายสถิติของละครญี่ปุ่นชื่อดังกับรายการวาไรตี้ที่ฉายในช่วงเวลาเดียวกัน ยืนอยู่บนบัลลังก์เรตติ้งอันดับหนึ่งของรายการที่ฉายในเวลาเดียวกันในวันนั้น! ที่ประเทศจีน เรตติ้งการ์ตูนเรื่องหนึ่งจะก้าวข้ามรายการอื่นๆ? จินตนาการไม่ออกโดยสิ้นเชิง แต่ในประเทศที่ญี่ปุ่นที่วงการการ์ตูนและแอนิเมชันพัฒนาอย่างมาก เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ อย่างน้อย ‘วันพีซ’ ก็ทำได้!
ยังไม่จบเท่านี้!
ยังไม่หยุดแค่ที่ญี่ปุ่น!
ถ้าหากบอกว่าแค่การ์ตูนฉบับมังงะก็ทำให้วันพีซก็มีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อย่างนั้นตัวอนิเมก็ทำให้วันพีซก้าวขึ้นหิ้งบูชาได้แล้วจริงๆ ในพื้นที่อื่นๆ ของเอเชียนอกจากญี่ปุ่น อิทธิพลของฉบับอนิเมแพร่กระจายได้ไวและกว้างกว่ามาก
จีน
เกาหลี
อินเดีย
ยอดการดาวน์โหลดวันพีซพุ่งขึ้นไม่หยุด!
สิบล้าน!
สามสิบล้าน!
ห้าสิบล้าน!
ร้อยล้าน!
คนจำนวนมากล้วนถูกดึงดูดเข้ามา!
คนมากขึ้นเรื่อยๆ เข้ามาไล่หาตอนใหม่!
พลังที่สร้างความตื่นตะลึงของวันพีซแพร่กระจายไปทั่วเอเชียแล้ว!
หลังผ่านฉบับมังงะมาแล้ว วันพีซก็แทบจะดังระเบิดขึ้นมาในชั่วข้ามคืน ไม่มีใครคิดว่าวันพีซจะโด่งดังถึงขั้นนี้ ต้องรู้ว่าตอนแรกการ์ตูนเรื่องนี้เกือบถูกทางสำนักพิมพ์โชเน็น ‘โยนทิ้ง’ ไปแล้ว!
สำนักพิมพ์โชเน็นไม่คาดคิด!
สตูดิโอของจางเย่ไม่คาดคิด!
ตัวจางเย่ก็คิดไม่ถึง!
คนมากมายล้วนถูกความดังระเบิดของวันพีซทำให้ตกใจแล้ว!
บทที่ 1443 : ออกมาเถอะ! ‘นารูโตะ’!
โดย
Ink Stone_Fantasy
วันพีซยังคงดังระเบิดต่อไป
การ์ตูน
อนิเม
รอบด้าน
ดังจนทำให้คนตกตะลึง!
แผนการแทรกซึมเข้าไปในแดนศัตรูของจางเย่ดำเนินไปอย่างราบรื่น ยิ่งกว่านั้นยังทำได้แบบเงียบเชียบด้วย แต่ว่าน่าจะเงียบเกินไปสักหน่อย ประชาชนกับสื่อในประเทศจึงปรับตัวไม่ได้เลยสักนิดเดียว
……
บนเวยป๋อ
“อาจารย์จางพักผ่อนแล้วจริงๆ เหรอ?”
“ใช่ ครั้งนี้ไม่ได้ลงมือเลยจริงๆ”
“ไม่ชินเลย”
“ปู่จาง ออกมาแสดงตัวสักหน่อยสิ!”
“จอมตอกหน้าจางไม่ได้ตอกหน้ามาหลายวันขนาดนี้ ฉันไม่มีอะไรให้ดูเลย”
“ถึงในวงการบันเทิงจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นบ่อยๆ แต่พอเทียบกับตอนที่จางเย่อยู่แล้วก็ไม่นับเป็นอะไรเลย”
“ไม่ใช่วาอาจารย์จางอยากพุ่งไปที่ระดับเอสของเอเชียเหรอ? ลาพักหลายวันขนาดนี้ไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ? ถึงความนิยมในเอเชียของเขาจะไม่ได้ตกลงมา แต่ก็ไม่ได้ขยับมาหลายวันแล้วนะ? ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป จุดสูงสุดของเอเชียก็เป็นไปไม่ได้แล้ว อย่างน้อยในปีนี้ก็เป็นไปไม่ได้แน่ๆ”
“เรื่องจางเย่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียนี่คิดดีไม่ได้เลยจริงๆ ถึงจะชอบจางเย่มากแต่พอเทียบกับดาราระดับสูงสุดพวกนั้น อาจารย์จางพิสดารเกินไป ยังไงจะพึ่งแต่เสียงด่าก็ไม่ได้จริงไหม? ถึงจะฟังแล้วน่าสนใจนะ แต่ก็ดูไม่น่าจะทำได้เลย บนทำเนียบเอเชียยิ่งสูงก็ยิ่งยากลำบาก อาศัยการต่อยตีจนมาถึงตรงนี้ได้ก็มหัศจรรย์โคตรๆ แล้ว ตอนนี้ชื่อเสียงของจางแหยในเอเชียน้อยมาก ถึงจะต่อยตีจนดังได้ แต่แม่งก็เป็นวิธีทำลายศัตรูหนึ่งพันแต่ตนเองสูญเสียสองพันจริงๆ!”
“ฉันรู้สึกว่าจางแหยมาถึงขีดจำกัดแล้ว”
“จางเย่ ไม่ต้องทำกับข้าวแล้ว รีบเคลื่อนไหวเร็วเข้า!”
“อยากขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียไหม? รีบกลับมาสิ!”
ประชาชนถกเถียง
ผู้เชี่ยวชาญก็เข้าร่วม
ทุกคนถกเถียงหัวข้อนี้กันอย่างออกรสชาติ
ระดับเอสของเอเชีย ทั้งหมดมีสิบห้าตำแหน่ง
ดาราจีนยึดครองไปแล้วห้าที่ ดาราญี่ปุ่นยึดไปแล้วหนึ่งที่ อีกเก้าที่ที่เหลือเป็นของดาราเกาหลี
นี่คือเพดานสูงสุดของวงการบันเทิงเอเชีย คนที่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ ไม่มีสักคนที่ไม่มีชื่อเสียงขาวสะอาด ผลงานมีอิทธิพลมหาศาล แฟนคลับกว้างขวาง สามสิ่งนี้จะขาดไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว แต่จางเย่ล่ะ? ในประเทศจีนยังดี แต่หมอนี่ในเอเชียไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือผลงานหรือแฟนคลับ ไม่มีอันไหนที่ใช้ได้เลย สามด้านนี้เขายึดครองไม่ได้เลยสักด้านเดียว ไม่เลยสักกระผีก!
ถ้าขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ทั้งแบบนี้จริงๆ?
ในเอเชียไม่รู้จะมีคนกระอักเลือดอีกมากแค่ไหน!
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ประชาชนชาวจีนอีกมากมายกลับมีความคาดหวังที่อธิบายไม่ได้อยู่ลึกๆ พวกเขากลับหวังจริงๆ ว่าจางเย่จะสามารถจะทำให้ทุกคนประหลาดใจได้ พวกเขาอยากดูเรื่องคึกคักแบบไม่กลัวเรื่องใหญ่!
สื่อก็ฉวยโอกาสจากความคึกคัก
‘จางเย่จะเคลื่อนไหวอีกเมื่อไหร่?’
‘ประชาชนในประเทศตั้งตารอให้จางเย่กลับมา!’
‘หรือระดับเอสของเอเชียปีนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง!’
‘ใครจะเป็นสตาร์คิง (สตาร์ควีน) ของจีนคนต่อไปที่จะได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชีย?’
……
ตอนบ่าย
ที่บ้าน
คุณอู๋หลับกลางวันไปแล้ว
จางเย่กำลังประชุมวีดิโอคอลกับคนของสตูดิโออยู่ในห้องหนังสือ
ฮาฉีฉีที่อยู่อีกฝั่งของคอมพิวเตอร์ “ผู้กำกับจางคะ เงินเข้าแล้วค่ะ ทั้งของการ์ตูนฉบับมังงะและอนิเม แล้วก็มีรายได้จากรูปภาพ ฟิกเกอร์ ด้านอื่นๆ อีก ฉันไม่กล้าให้พวกเขารู้บัญชีของเรา ดังนั้นเลยไปหาทางฝั่งพี่สาวของเสี่ยวซุน ให้โอนเงินเข้าบัญชีแล้วถอนเงิน ส่งกลับเข้าบัญชีในประเทศ”
จางเย่ยิ้มๆ “เงินเยอะไหม?”
ฮาฉีฉีหัวเราะ “ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่น้อยเลยจริงๆ”
จางจั่วหยอกว่า “ต้องเพิ่มโบนัสแล้วไหมครับผู้กำกับจาง”
“ต้องทำอยู่แล้ว”จางเย่ปรบมือ
เสี่ยวหวังพลันพูดขึ้นว่า “ผู้กำกับจาง คุณเข้าไปดูในอินเทอร์เน็ตหรือยังคะ? วันนี้คนจำนวนไม่น้อยถกกันถึงเรื่องว่าคุณจะมีโอกาสขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียหรือเปล่า คพวกเขาล้วนมองว่าคุณทำไม่ได้”
เสี่ยวโจวหัวเราะคิกๆ “นั่นเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าผู้กำกับจางยอดเยี่ยมมากน่ะสิ ใครจะไปคิดว่าผู้กำกับจางลาพักไม่กี่วันก็ยึดครองญี่ปุ่นไปอย่างเงียบๆ แล้ว”
จางเย่ยิ้ม “อะไรเรียกเงียบๆ นี่เรียกว่าโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวต่างหาก”
ฮาฉีฉีครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “แต่ปัญหาก็คือตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าวันพีซเป็นผลงานของคุณ เมื่อครู่พวกเราดูคร่าวๆ ตอนนี้ความนิยมในเอเชียของพวกเราไม่ขยับแล้ว หยุดอยู่ที่ตำแหน่งค่อนกลางขึ้นไปเล็กน้อย ตอนนี้วันพีซดังแล้ว ฉันว่าควรประกาศได้แล้วมั้งคะ? รีบรับความนิยมในส่วนนี้กลับมา? อีกนิดก็บรรลุเป้าหมายแล้ว”
จางจั่วเอ่ย “แต่คำสั่งแบนยังไม่ยกเลิกเลยนะ”
ฮาฉีฉีจนใจ “นั่นสินะ”
จางจั่วเอ่ย “คำสั่งแบนยังมีอยู่ ถ้าประกาศว่าผลงานเป็นของอาจารย์จาง ใครจะรู้ว่าทางฝั่งญี่ปุ่นจะลงมืออะไรอีก? คงไม่ตัดจบผลงานของพวกเราหรอกนะ?”
ทุกคนแสดงความเห็นของตัวเอง
มีทั้งเห็นด้วยให้ประกาศ
ที่คัดค้านก็มี
จางเย่เดิมทีก็ไม่ได้เข้าร่วม รอให้พวกเขาพูดจบเขาถึงหัวเราะออกมา “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาประกาศ”
ทุกคนงุนงง “คุณหมายความว่ายังไง?”
จางเย่ยิ้ม “นี่เพิ่งเริ่มเท่านั้นเอง”
ทุกคนไม่เข้าใจ “เพิ่งเริ่ม?”
หลังวางสาย จางเย่ก็นั่งดื่มชาอยู่ในห้องหนังสือ คนของสตูดิโอล้วนคิดว่า ‘วันพีซ’ ดังไปทั่วเอเชียคือเป้าหมายสูงสุดแล้ว แต่ทุกคนล้วนไม่เข้าใจว่านี่เพิ่งเป็นก้าวแรกในแผนการของจางเย่เท่านั้น เขาคนนี้ถ้าจะทำอะไรสักอย่าง หากไม่ทำคือไม่ทำ แต่ถ้าทำก็ค้องทำให้ยิ่งใหญ่!
การ์ตูนเรื่องหนึ่งจะทำให้ได้รับความนิยมเท่าไร?
ขยับระดับเอของเอเชียขึ้นไปได้สองลำดับ? สามลำดับ?
ถึงจะไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ไกลพอ!
เป้าหมายของเขาเป็นการขึ้นสู่จุดสูงสุด เป็นหนึ่งในสิบห้าคนบนยอดพีระมิดของเอเชีย การลงมือแค่นี้จึงสร้างความพึงพอใจให้เขาไม่ได้ ทั้งยังมีคำสั่งแบนแขวนสกัดไว้อีก หากประกาศออกไปตอนนี้ แม้จะดึงความนิยมกลับมาได้ระลอกใหญ่ แต่หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้เล่นสนุกแล้ว!
เขาจะต้องก่อเรื่องให้ใหญ่กว่านี้!
ใหญ่จนสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน!
วันพีซเดินมาถูกทางแล้ว ต้นฉบับที่เตรียมไว้ก็เยอะมากแล้ว เรื่องอื่นๆ เดิมทีก็ไม่จำเป็นต้องให้เขากังวลใจ ตอนนี้น่าจะเริ่มแผนการก้าวที่สองได้แล้ว
หลังผ่านการสำรวจและทำความเข้าใจมา จางเย่ก็คุ้นเคยกับวงการการ์ตูนญี่ปุ่นค่อนข้างมากแล้ว เขาตั้งใจอ่านงานเขียนโด่งดังที่นี่จำนวนมาก ค้นพบหลายสิ่งหลายอย่าง ความจริง ‘วันพีซ’ ในโลกเดิมก็ไม่ใช่งานที่โด่งดังไปทั่วทุกสารทิศในคราวเดียว แต่เป็นงานที่ยิ่งเวลาผ่านไปความนิยมก็ยิ่งเพิ่ม แต่ในโลกนี้วันพีซกลับเป็นกระแสโด่งดังสร้างความตื่นตะลึงตั้งแต่ต้น จางเย่เองก็ประหลาดใจมาก แต่เมื่อทำความเข้าใจเขาถึงพบว่ามังงะและอนิเมในโลกนี้ค่อนข้างขาดแคลน ไม่ใช่ว่ามีน้อย แต่เป็นผลงานระดับสุดยอดนั้นมีน้อย การ์ตูนที่ได้รับการยอมรับเป็นการ์ตูนแห่งชาติล่าสุดก็คือเมื่อหกปีที่แล้ว จึงพูดได้ว่านี่เป็นตลาดที่มีความต้องการสูง ขอเพียงมีงานคุณภาพยอดเยี่ยมในมือก็สามารถเปล่งประกายออกมาได้โดยแทบไม่จำเป็นต้องหมักบ่มหรือสั่งสมอะไรเลย
ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม!
ตลาดที่ยอดเยี่ยม!
ไม่ทำเรื่องใหญ่สักรอบได้หรือ?
ความนิยมของวันพีซอย่างไรก็ไม่หนีไปไหน ยิ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะดึงความนิยมกลับมาตอนไหนก็เหมือนกัน ตอนนี้จางเย่ต้องการเขียนการ์ตูนออกมาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาความนิยมมารวมกัน รวมได้เท่าไรก็เท่านั้น ก่อเรื่องได้ใหญ่แค่ไหนก็แค่นั้น สุดท้ายก็คือรวมคลื่นทุกลูกเข้าด้วยกันกลายเป็นคลื่นลูกเดียว!
นั่นคือความคิดอะไรกัน?
นั่นคือภาพฉากแบบไหน?
แค่คิดจางเย่ก็อดทนไม่ไหวแล้ว!
ตอนนั้นจะวุ่นวายจนแค่ไหนจางเย่ไม่ไปสนใจ เจ้าหมอนี่กลัวแต่ว่าเรื่องจะไม่ใหญ่พอ ส่วนจะจบยังไงเขาไม่สน!
วาดอะไรดีนะ?
เรื่องต่อไปจะเอาอะไรออกมาดี?
การ์ตูนทั่วไปจางเย่ไม่สนใจอยู่แล้ว เขาจะต้องคัดเรื่องที่ดีที่สุดออกมา
ในห้อง
จางเย่เอามือไพล่หลังแล้วเดินกลับไปกลับมา
ห้านาที
สิบนาที
ดีล่ะ เป็นแกก็แล้วกัน!
ทันใดนั้นเขาก็บังเกิดความคิดแล้ว เดินไปนั่งลงที่หน้าคอมพิวเตอร์ หายใจเข้าลึกๆ หรี่ตาลง หยิบปากกาขึ้นมาแล้วค่อยๆ วาดลงบนหน้าจอ
ออกมาเถอะ!
‘นารูโตะ’!
บทที่ 1444 : เซอร์ไพรส์ของ POO สตูดิโอ!
โดย
Ink Stone_Fantasy
วาดภาพ
ทำกับข้าว
ล้างจาน
พอตอนค่ำก็วาดต่อ
หนึ่งวันจางเย่วาดออกมาได้สามตอน
นี่ก็คือเขา มีแรงกายเช่นนี้ มีความเร็วเช่นนี้ แล้วก็ยังมีนิสัยอดทนไม่บ่นว่า หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นสองวันวาดออกมาได้ตอนหนึ่งก็คงเหนื่อยจนเป็นบ้าแล้ว
ที่บ้าน
จางเย่เปิดวีดิโอคอล
ฮาฉีฉีกับคนอื่นๆ ล้วนอยู่ที่ปลายสายแล้ว
ทุกคนถาม “ผู้กำกับจาง เกิดอะไรขึ้น?”
จางเย่ตอบยิ้มๆ “ส่งไปให้พวกคุณเรียบร้อยแล้ว พวกคุณดูอีเมลสิ”
ฮาฉีฉีนิ่งงัน “อีเมลอะไรคะ?”
ฮาฉีฉีตอบ “การ์ตูนไง งานชิ้นใหม่ของผม รีบหาคนมาจัดการต้นฉบับเถอะ อย่าลืมว่าต้องปกปิดตัวตนด้วยนะ”
จางจั่วตกใจจนนิ่งค้าง “อะไรนะครับ? อีกชิ้น?”
เสี่ยวหวังเบิกตา “หา?”
เสี่ยวซุนปากอ้าตาค้าง “คุณยังมีแรงออกผลงานอีกเหรอ?”
จางเย่ยิ้ม “ก็ผมอยู่บ้านว่างๆ นี่นา”
ฮาฉีฉีฟังแล้วก็ตื่นเต้น เธอเพิ่งเข้าใจว่าคำพูดของผู้กำกับจางเมื่อวานหมายถึงอะไร นี่จะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว “ได้ค่ะ ฉันจะรีบไปจัดการให้ คุณวางใจได้เลยค่ะผู้กำกับจาง!”
จางเย่สั่งการ “พี่สาวของเสี่ยวซุนเคยเปิดเผยหน้าแล้ว ไม่ต้องให้เธอออกไปอีกรอบแล้ว ไม่อย่างนั้นความแตกแน่ ใช่แล้ว จริงสิ พี่เขยของเสี่ยวซุนล่ะ ว่างไหม?”
เสี่ยวซุน “หา ว่างครับ”
จางเย่ “ดี งั้นก็รบกวนพี่เขยคุณแล้ว”
ฮาฉีฉีถาม “ครั้งนี้จะใช้นามปากกาว่าอะไรดีคะ?”
จางเย่คิดเล็กน้อย “ชื่อโซระก็แล้วกัน”
ทุกคนสงสัย
โซระ?
อาโออิ?
นี่มันชื่ออะไรกัน?
……
วันต่อมา
ญี่ปุ่น โตเกียว
ที่ POO สตูดิโอ
หนึ่งในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น
ยามนี้บรรยากาศในแผนกบรรณาธิการล้วนไร้ชีวิตชีวา
หัวหน้าแผนกบรรณาธิการชี้จมูกด่าว่า “ทำไมถึงไม่มีการ์ตูนดีๆ เลย? หา? ฉันไม่เชื่อหรอก สำนักพิมพ์ใหญ่ขนาดนี้ นักวาดการ์ตูนมากมายขนาดนี้ ไม่มีการ์ตูนที่สามารถเทียบกับสำนักพิมพ์โชเน็นได้เลยหรือไง? ไปหามาให้ฉัน! ไปขุดมาให้ได้! ต้องหาเจอแน่นอน!”
‘วันพีซ’ ดังเกินไปแล้ว!
ทุกวันนี้สำนักพิมพ์โชเน็นแข็งแกร่งมาก!
เดิมที POO สตูดิโอของพวกเขากับสำนักพิมพ์โชเน็นก็มีช่องว่างอยู่ ยอดขายก็ดี อิทธิพลก็ดี ทุกครั้งสำนักพิมพ์โชเน็นมักเป็นที่หนึ่ง พวกเขาเป็นที่สอง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้โชเน็นยังออกการ์ตูนแห่งชาติเรื่องวันพีซมาอีก ความสำเร็จยิ่งถูกดึงให้ห่างออกไป ส่วนพวกเขานับวันยิ่งก้าวตามอีกฝ่ายไม่ทัน วันพีซหนึ่งเล่มทำให้ยอดขายนิตยสารของสำนักพิมพ์โชเน็นพุ่งทะยานไปถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์!
นี่จะจัดการยังไง?
จะไล่ตามยังไง?
วิกฤตการเอาชีวิตรอดนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนสุดขีดของพวกเขาแล้ว!
หลังเลิกประชุม
เหล่าบรรณาธิการล้วนมีสีหน้าทุกข์ตรม
“ทำยังไงดี?”
“สำนักพิมพ์โชเน็นโชคดีจริงๆ”
“ใช่ การ์ตูนระดับชาติ กี่ปีถึงจะมีมาสักครั้ง ผลคือบังเอิญหรือไม่ก็ไม่รู้แต่ก็ถูกสำนักพิมพ์โชเน็นคว้าไว้ได้ ไม่สมเหตุสมผลเลย”
“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบหาต้นฉบับเถอะ”
“หาอะไรล่ะ การ์ตูนดีๆ น้อยเกินไปแล้ว”
“งานที่เทียบกับวันพีซได้ ในห้าปีก็ไม่มีสักชิ้นหรอก”
โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น
ฟูจิวาระ โคจิรับสายแบบไร้ชีวิตชีวา
“ฮัลโหล?”
“ฟูจิวาระ มีคนส่งต้นฉบับมา”
“หน้าใหม่เหรอครับ?”
“ใช่ อยู่ชั้นล่างแล้ว”
“ได้ ผมจะลงไปรับเอง”
วางสายแล้ว ฟูจิวาระ โคจิไม่ได้มีความคาดหวังอะไรขณะเดินลงไป
เขาอยู่ในแผนกบรรณาธิการก็เป็นมนุษย์ประเภทว่างงาน บรรณาธิการที่มีความสามารถจริงๆ ในมือล้วนถือต้นฉบับของนักเขียนใหญ่ไว้ แต่เขาทำงานมาสองสามปีแล้วยังได้แต่รับผิดชอบต้นฉบับของนักเขียนใหม่อยู่เลย ต้นฉบับของหน้าใหม่พวกนี้มีมาทุกวัน ล้วนไม่เคยมีผลงาน ถูกดึงดูดมาด้วยชื่อเสียงของสำนักพิมพ์ ไม่ใช่มืออาชีพอะไร คุณภาพต้นฉบับก็ไม่คงที่ ปกติแล้วไม่มีระดับเลยด้วยซ้ำ ความรู้ทั่วไปล้วนผิดพลาด เขาต้องค่อยๆ ชี้ทีละจุดๆ ทุกวันล้วนปวดหัวเจียนตาย
การ์ตูนดีๆ!
การ์ตูนดีๆ อยู่ที่ไหน!
ชั้นล่าง
ห้องพูดคุย
ในมุมส่วนตัวที่หนึ่ง ฟูจิวาระ โคจิมองเห็นคนแล้ว
“สวัสดีครับคุณบรรณาธิการ”
“ครับ เชิญนั่งเถอะ”
“นี่คือต้นฉบับครับ”
“ครับ ขอผมดูหน่อย”
ฟูจิวาระ โคจิไม่ได้ใส่ใจนัก พลิกต้นฉบับดูแบบผ่านๆ เหมือนที่ผ่านมา ทว่าตอนที่ดูถึงหน้าที่ห้า เขาพลันนิ่งงัน ร่างกายก็พลันเหยียดตรงขึ้น สูดหายใจแล้วรีบพลิกต้นฉบับกลับไปเริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่หน้าแรกอีกครั้ง!
หน้าที่หนึ่ง!
หน้าที่ห้า!
หน้าที่สิบ!
ฟูจิวาระ โคจิทึ่มทื่อแล้ว!
เขาตื่นเต้นเล็กน้อย ไม่กล้าเชื่อจนต้องพลิกกลับไปอ่านอีกรอบ!
สิบนาทีหลังจากนั้น
แผนกบรรณาธิการ
ฟูจิวาระ โคจิกลับมาอย่าวรวดเร็วราวติดปีก ตะโกนเสียงดังว่า “หาเจอแล้ว! หาเจอแล้ว!”
ทุกคนมองเขา
“ฟูจิวาระ มีอะไรเหรอ?”
“หาอะไรเจอ?”
“เห็นอะไรมาถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ฟูจิวาระ โคจิตะโกนเสียงดัง “ทุกคนรีบดูต้นฉบับเรื่องนี้เร็ว!”
บรรณาธิการคนหนึ่งเอ่ยว่า “ไม่ใช่ว่าคุณรับผิดชอบต้นฉบับของหน้าใหม่เหรอ? หน้าใหม่จะวาดผลงานดีๆ อะไรออกมาได้?”
“ไอ้หยา” ฟูจิวาระ โคจิรีบตอบ “คุณดูก่อนค่อยมาคุยกับผม!”
ตอนนั้นเองหัวหน้าบรรณาธิการเองก็เข้ามา “ให้ฉันดูหน่อย”
บรรณาธิการคนอื่นๆ เองก็ล้อมวงเข้ามา
โซระ?
‘นารูโตะ’?
“เป็นการ์ตูนแนวไหนล่ะ?”
“ที่แท้ก็เป็นหน้าใหม่”
“การดีไซน์ตัวประกอบยอดเยี่ยมมาก แต่ว่าตัวละครหลักนี่มันอะไร?”
“ใช่ อุซึมากิ นารูโตะ? ทำไมเขามีหนวดแล้วล่ะ?”
“หนวดนี่น่าเกลียดชะมัด”
“ฟูจิวาระ นี่คือการ์ตูนดีที่คุณบอกเหรอ?”
แค่เริ่มต้นทุกคนก็ถกเถียงกันไปดูกันไป แต่ว่ายิ่งอ่านไปถึงช่วงหลังๆ ทุกคนก็ยิ่งเงียบ เมื่อมาถึงหน้าสุดท้ายทั่วทั้งแผนกบรรณาธิการก็เงียบเป็นเป่าสาก!
อ่านจบแล้ว!
บรรณาธิการทุกคนล้วนตกตะลึง!
หัวหน้าแผนกบรรณาธิการนิ่งค้าง “นี่คือต้นฉบับของหน้าใหม่?”
ฟูจิวาระ โคจิรีบตอบว่า “จริงแท้แน่นอนครับ!”
หัวหน้าบรรณาธิการตอบว่า “คุณตอบเขาไปว่ายังไง?”
ฟูจิวาระ โคจิพูดว่า “ผมบอกว่าเขาว่าต้นฉบับนี้ไม่เลวเลย เขาอยากทำเป็นเรื่องยาว ผมบอกว่าต้องผ่านการพูดคุยกับหัวหน้าบรรณาธิการก่อนถึงตกลง ให้เขากลับไปรอข่าวก่อน ผมเอาช่องทางติดต่อมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่ตัวนักเขียนจริงๆ แต่เป็นตัวแทน นักเขียนคงไม่อยากเปิดเผยตัวตน แล้วก็อาจจะไม่ใช่หน้าใหม่ แต่อาจเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จนานแล้วสักคนที่อยากเปลี่ยนนามปากกา? เรื่องนี้ใครจะไปรู้”
หัวหน้าบรรณาธิการตบไหล่เขา สูดหายใจแล้วตอบว่า “ทำได้ดีมาก เรื่องนี้ทำได้ดีมาก นักวาดคนนี้ภายหลังก็ให้คุณรับผิดชอบ รีบติดต่อเขา คุยกับเขาเรื่องการทำสัญญาทำเป็นเรื่องยาว ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปลงเรื่อง ‘นารูโตะ’ เป็นเรื่องยาวของ POO สตูดิโอ บอกเขาว่าเราจะแนะนำเขาให้ดีที่สุด ปฏิบัติกับเขาให้ดีที่สุด ไม่ให้เขาไปที่สำนักพิมพ์อื่นแล้ว!”
ฟูจิวาระ โคจิเอ่ยอย่างกระตือรือร้นว่า “เข้าใจแล้วครับ!”
หัวหน้าบรรณาธิการบอกคนอื่นๆ “เรื่องยาวนี่คงไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ต้องแล้ว!”
“สนุกมากจริงๆ!”
“ถ้านี่ไม่ทำเป็นเรื่องยาวก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว”
“ต้องพึ่งพาเรื่องนี้มาสู้กับวันพีซแล้ว!”
“จะสู้ได้จริงๆ เหรอ?”
“แน่นอน! การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ด้อยไปกว่าวันพีซแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้นจากจังหวะการเดินเรื่อง ‘นารูโตะ’ ยังเข้มข้นกว่า ‘วันพีซ’ ซะอีก!”
“ในที่สุดผลงานระดับนี้ก็มาแล้ว!”
“ฮ่าๆๆ ครั้งนี้โชคดียืนอยู่ฝั่งพวกเรา!”
“อ๊าๆๆๆ พวกเราฟื้นตัวได้แล้ว!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น