ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1436-1437

 บทที่ 1436 : ‘วันพีซ’ ได้ตีพิมพ์แล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

วันต่อมา


ที่โตเกียว สำนักพิมพ์โชเน็น


ผู้ตีพิมพ์การ์ตูนในญี่ปุ่นมีมากเหมือนขนวัว แต่ว่าในบรรดานิตยสารการ์ตูนทั้งหลาย มีสามสำนักพิมพ์ที่คอยนำวงการด้วยนิตยสารรายสัปดาห์ที่เน้นไปที่กลุ่มเด็กชายวัยรุ่น


สำนักพิมพ์โชเน็น


ชูคันฉะ


POO สตูดิโอ


สำนักพิมพ์โชเน็นคือเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ในวงการ


อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น อันดับหนึ่งของเอเชีย อันดับหนึ่งของวงการ


ที่แผนกบรรณาธิการ


เซโต้ เคียวโกะมองต้นฉบับการ์ตูนด้วยสีหน้าซับซ้อน เธอครุ่นคิดมาหลายวันแล้ว อาหารเช้าบนโต๊ะนั้นเย็นหมดแล้ว แต่เธอยังไม่ได้กินสักคำ


บรรณาธิการเข้ามายืนข้างเธอ “เกิดอะไรขึ้นรึเคียวโกะ?”


เคียวโกะฝืนยิ้ม “ฉันไม่รู้ว่าจะส่งต้นฉบับที่ฉันมีไปขออนุมัติดีไหมน่ะค่ะ”


บรรณาธิการ “ถ้าคิดว่าดีก็ส่งสิ ไม่งั้นก็ปฏิเสธไป”


เคียวโกะเกาหัว “พล็อตเรื่องน่ะดีนะคะ แต่ว่าสไตล์ภาพกับการดีไซน์ตัวละครมันแปลกๆ ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลยน่ะค่ะ”


“เหรอ? ไหนดูหน่อยซิ”


“นี่ค่ะ”


“พรืด”


“ใช่ไหมละคะ?”


“ประหลาดหน่อยๆ จริงๆ นั่นแหละ”


“ช่างเถอะค่ะ ฉันจะลองส่งเข้าไปก่อนแล้วกัน”


ในห้อง มีคนร้องตะโกน “ประชุมกับหัวหน้าบรรณาธิการ”


ทุกคนในแผนกยืนขึ้นเงียบๆ ตรงเข้าห้องประชุมด้านในสุด


คนทั้งสิบสามนั่งล้อมโต๊ะยาว พวกเขาคือกุญแจสำคัญของแผนกบรรณาธิการสำนักพิมพ์โชเน็น


หัวหน้าบรรณาธิการ “วันนี้พวกเราจะคุยกันเรื่องการ์ตูนที่จะลงในฉบับต่อไป”


รองบรรณาธิการดันแว่นขึ้น “เรามีช่องอีกสองช่องหลังจาก ‘ชีวิตประจำวันของโอนี่จัง’ จบลงและ ‘อสูรทวงแค้น’ ได้อันดับสุดท้ายในการโหวตมาสามสัปดาห์ติด เราก็ตัดสินใจจะตัดจบเรื่องนี้เช่นกัน ต้องเลือกแล้วว่าเรื่องไหนจะมาแทนบ้าง”


หัวหน้าบรรณาธิการ “งั้นก็มาลองดูกันวันนี้”


ผลงานที่ได้รับการแนะนำต่างวางอยู่บนโต๊ะหน้าบรรณาธิการ


ทุกคนก้มหน้าลงอ่านผ่านๆ ขณะที่ผู้แนะนำบรรยายผลงาน


“เรื่องนี้ไม่ไหว”


“ใช่ ไม่ไหวแน่”


“พล็อตช้าไป”


“ต่อไป”


“เรื่องนี้ไม่เลว”


“แต่ยังต้องแก้ไข พื้นเรื่องเซ็ตมาไม่ดี”


“ต่อ”


พวกเขาอ่านต้นฉบับไปทีละเรื่อง


ในที่สุดก็มาถึงต้นฉบับที่เซโต้ เคียวโกะแนะนำ


เคียวโกะ “นี่เป็นผลงานของหน้าใหม่นะคะ นามปากกาอาโออิ ฉันว่าเรื่องกับพล็อตดีมากๆ เลยส่งเรื่องเข้ามาครั้งนี้ค่ะ”


บรรณาธิการขมวดคิ้ว “หน้าใหม่ไม่เคยมีงานเปิดตัว?”


เคียวโกะ “ใช่ค่ะ หน้าใหม่แท้ๆ เลย”


บรรณาธิการอีกคน “ตามหลักแล้ว เราจะไม่ตีพิมพ์ยาวให้งานของมือใหม่นะ”


เคียวโกะ “ฉันทราบค่ะ แต่อีกฝ่ายส่งเข้ามาสิบตอนแล้วในรวดเดียว ฉันอ่านงานทั้งหมดแล้วพบว่ามีความต่อเนื่องกันดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมาะกับสไตล์ของสำนักพิมพ์เราด้วย”


ทุกคนจึงก้มลงอ่าน ก่อนต้องตะลึงไป


อะไรกัน?


นี่มันสไตล์แบบไหนกัน?


รองบรรณาธิการมองเธอ “การออกแบบตัวละครนี่?”


บรรณาธิการอีกคน “ออกแบบตามใจเกินไปแล้ว!”


บรรณาธิการชาย “ไม่ได้แน่ๆ? เรื่องของโจรสลัดเนี่ยนะ?”


บรรณาธิการหญิง “ฉันว่าไม่เลวนะคะ พล็อตเรื่องน่าสนใจเลยทีเดียว ถึงการออกแบบตัวละครจะน่าเกลียดจริงๆ ก็เถอะ ทำไมวาดตาแบบนี้กันเนี่ย?”


ทุกคนคุยกันใหญ่โต


เคียวโกะ “ถ้าไม่ดีพองั้นก็ปล่อยผ่านนะคะ”


หัวหน้าบรรณาธิการพูดอย่างเยือกเย็น “ไปเรื่องต่อไปเถอะ”


สุดท้าย หลังดูต้นฉบับไปสิบกว่าเรื่อง ก็มีแค่เรื่องเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากทุกคน ยังมีสล็อตเหลืออีกหนึ่งเพราะยังหาข้อตกลงกันไม่ได้


“มีต้นฉบับอื่นไหม?”


“ไม่มีแล้วค่ะ เล่มต่อไปเรามีแค่นี้”


“เรายังมีขาดอีกเรื่องหนึ่งนะ”


“มีงานชิ้นอื่นที่บรรณาธิการอยากแนะนำเข้ามาอีกไหม?”


“ไม่มีแล้วค่ะ อยู่นี่หมดแล้ว”


“งั้นก็ลองทบทวนซ้ำเถอะ”


ต้นฉบับทั้งสิบกว่าเรื่องนั้นวางบนโต๊ะอีกครั้ง


ครึ่งชั่วโมง


หนึ่งชั่วโมง


หลังคุยกันอย่างเข้มข้น ทั้งไม่มีงานดีๆ ชิ้นอื่นเหลือให้เลือก หัวหน้าบรรณาธิการก็หยิบต้นฉบับวันพีซขึ้นมาอีกครั้ง อ่านโดยละเอียดสองรอบซ้ำก่อนว่า “เอ้า เลือกนี่แหละ”


“แล้วเรื่องดีไซน์?”


“ต่อให้ตีพิมพ์ เรื่องนี้ก็น่าจะโดนตัดจบนะครับ”


“แต่เรื่องอื่นก็ไม่มีงานไหนเข้าตาเราอีกแล้วนี่”


“ก็จริง”


“ก่อนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องที่เด็กใหม่จะได้ตีพิมพ์ยาวตรงๆ เลยด้วยนะ”


“ได้แต่ทดลองแล้วล่ะ”


……


อีกด้านหนึ่ง


ตอนเช้า จางเย่กับเพื่อนร่วมงานก็ทานอาหารเช้าด้วยกัน


ที่โต๊ะทานอาหาร ฮาฉีฉีถาม “พวกนั้นยังไม่ตอบมาอีกเหรอ?”


เสี่ยวซุนเป็นกังวล “ยังครับ”


จางเย่ “ใครส่งเข้าไป?”


เสี่ยวซุน “พี่สาวผมเองครับ”


จางเย่ยิ้ม “เอาล่ะ ถึงเวลานั้นเราคงต้องขอบคุณพี่สาวนายละนะ”


เสี่ยวซุนรีบพูด “ไม่ต้องหรอกครับผู้กำกับจาง พี่สาวผมเป็นแฟนเดนตายของคุณ พอได้ยินว่าเธอจะได้ส่งต้นฉบับแทนคุณ เธอก็คึกคักยังกับโดนฉีดเลือดไก่เลย” เขาหยุดครู่หนึ่งก็ว่า “ส่งไปสามวันแล้ว แต่พี่สาวผมยังไม่ส่งข่าวอะไรมาเลยครับ คงเป็นเพราะไม่มีการแจ้งข่าวมาจากทางสำนักพิมพ์โชเน็น”


จางเย่ “รอเถอะ ไม่ต้องรีบหรอก”


เสี่ยวหวังเป็นกังวล “วงการการ์ตูนที่นี่ไปไกลเกินไปมาก ตามท้องถนน แทบทุกคนเดินถือการ์ตูนกันทั้งนั้น ฉันกับพี่ฮาเดินสำรวจเมื่อวานยังพบว่าลุงๆ ป้าๆ จำนวนหนึ่งยังอ่านการ์ตูนอยู่เลย เราไม่รู้และไม่เข้าใจวงการนี้ วันพีซจะไหวจริงเหรอคะ?”


พวกเธอต่างรู้สึกว่าจางเย่ด่วนตัดสินใจเกินไป ใช้วงการการ์ตูนมาแก้ปัญหาการแบน? ใช้การ์ตูนกับอนิเมะมาเจาะตลาดญี่ปุ่น? ก่อนขยายไปในเอเชีย? ฟังดูเป็นแผนที่ดี ถ้าสำเร็จ ชื่อเสียงย่อมต้องก้าวกระโดดไปไกล แต่ว่าพวกเธอเป็นแค่มือสมัครเล่นในวงการนี้ นอกจากนั้นยังไม่มีประสบการณ์แม้แต่น้อย ยังจะสู้กับนักเขียนที่เติบโตมาในญี่ปุ่นได้อย่างไร? อาศัยการออกแบบตัวละครแบบแปลกๆ ของจางเย่? งานศิลปะที่แปลกประหลาด? จะไหวจริงหรือ? ที่จางเย่สตูดิโอ พวกเขาเคยแต่ตอกหน้าคนมาตลอด แต่ถ้าครั้งนี้โดนตอกกลับละก็คงน่าอับอายมากแล้ว!


แต่จางเย่ยังคงมั่นคงดุจขุนเขา ก่อนนี้ที่โรงแรมอาซาคุสะ เขากวาดสายตาอ่านการ์ตูนยอดนิยมของญี่ปุ่นในช่วงสิบปีและทำการวิเคราะห์ออกมาก็พบว่าสไตล์ของโลกนี้คล้ายกับโลกของเขาอย่างยิ่ง หัวเรื่อง ประเภท สไตล์ภาพและอื่นๆ อาจจะแตกต่างบ้าง แต่หัวใจหลักนั้นแทบจะเหมือนกันทั้งหมด ทั้งยังมีจุดขายร่วมกันอีก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าแผนงานของตนเองจะเป็นปัญหา


ชั่วขณะหนึ่งก็มีสายเข้ามา


เสี่ยวซุนตะลึง “พี่สาวผมเอง”


เสี่ยวหวังกระตุ้นเตือน “เร็วๆ รับสาย”


พอรับสาย พี่สาวของเสี่ยวซุนก็ส่งเสียงตะโกนดังลั่นจนรัศมีสามเมตรจากมือถือยังได้ยินชัดเจน


เธอร้องลั่น “ผ่านแล้ว! ผ่านแล้ว!”


เสี่ยวซุนชะงัก “พี่ อะไรผ่านแล้ว?”


พี่สาวเขาตะโกนลั่น “บรรณาธิการของสำนักพิมพ์โชเน็นเพิ่งโทรมา! ต้นฉบับผ่านแล้ว! วันพีซกำลังจะได้ตีพิมพ์ในนิตยสารรายสัปดาห์เล่มหน้าแล้ว!”


เสี่ยวซุนยินดียิ่ง “เยี่ยมเลย!”


เสี่ยวหวังเองก็กระเด้งขึ้นจากที่นั่ง “เชี่ย ผ่านแล้วจริงเหรอ?”


จางเย่ขำ “หมายความว่าไง? คิดว่าจะไม่ผ่านเหรอ?”


เสี่ยวหวังพูดตะกุกตะกัก “ไม่ๆๆๆๆ ฉันแค่คิดไม่ถึงเอง!”


ข่าวนี้ฟังแล้วช่างน่าตื่นตกใจยิ่งนัก ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าวันพีซจะทำผลงานได้แค่ไหน แต่ก้าวแรกก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!


บทที่ 1437 : วันพีซที่ต้องตะลึง!

โดย

Ink Stone_Fantasy

วันศุกร์


นิตยสารรายสัปดาห์ฉบับล่าสุดของสำนักพิมพ์โชเน็นวางจำหน่าย


เช้านั้น แม่ของจางเย่โทรมาอีกครั้ง เป็นการโทรมาดุด่าเขาเป็นวันที่สองแล้ว


“ยังคิดจะกลับบ้านอีกไหม?”


“เดี๋ยวก็กลับแล้ว”


“เมื่อไหร่?”


“ไอ้หยา พรุ่งนี้ครับ”


“อยู่ญี่ปุ่นสบายจนไม่อยากกลับบ้านแล้วสินะ?”


“ผมมีเรื่องต้องทำที่นี่จริงๆ”


“แกจะไปตีกับใครอีกน่ะ?”


“เอ๋ ทำไมผมถึงต้องไปตีกับเขาด้วยล่ะ?”


“ก็การตีกับชาวบ้านเป็นงานหลักของแกไม่ใช่เรอะ?”


“พรืด! พอแล้วแม่ แค่นี้นะ”


พอวางสาย กินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย จางเย่ก็นำฮาฉีฉี เสี่ยวหวังและคนอื่นๆ ออกไปตามถนน เข้าร้านหนังสือใหญ่


ร้านหนังสือเช่นนี้ถือว่าปกติมากในญี่ปุ่น ขนาดของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ใช่สิ่งที่ประเทศอื่นๆ จะเปรียบได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือใหญ่หรือร้านเล็ก แม้แต่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเองก็ยังมีการ์ตูนขาย ยิ่งไปกว่านั้นยังวางอย่างชัดเจนในพื้นที่ขนาดใหญ่ เลี้ยวไปทางไหนก็เห็นแต่การ์ตูนและแม็กกาซีนเต็มไปหมด


นี่คือประเทศของการ์ตูนและอนิเมะ


จุดศูนย์กลางแห่งการ์ตูนและแอนิเมชันในเอเชีย


เสี่ยวหวังมองเธอ “ที่นี่มีการ์ตูนมากขนาดนี้เชียว?”


เสี่ยวโจว “เล่มไหนคือของสำนักพิมพ์โชเน็นน่ะ?”


เสี่ยวซุนเห็นแล้ว “นั่นไง!”


ทุกคนตรงเข้าไปหยิบขึ้นมาคนละเล่ม


จางเย่เปิดหนังสือก่อนพบว่าวันพีซนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไม่น่าสนใจอย่างยิ่ง วางไว้แทบจะท้ายฉบับ ต้องพลิกไปหลายหน้าถึงจะพบ หนังสือเล่มค่อนข้างหนา มีการ์ตูนอยู่เกือบสิบเรื่อง ความจริงแล้วในฐานะชาวจีน จางเย่เห็นว่าวิธีการตีพิมพ์เช่นนี้ค่อนข้างรับไม่ได้ อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะไล่ซื้อนิตยสารรายสัปดาห์แน่ โดยเฉพาะถ้าเขาพลาดไปสักฉบับแล้วก็อ่านต่อไม่ติดแน่นอน แต่ในญี่ปุ่นนั้น นิสัยรักการอ่านของผู้คนหยั่งรากลึก นี่คือผลของการบ่มเพาะมาหลายสิบปีทำให้บรรยากาศในประเทศนี้ต่างออกไป


หนึ่งหน้า


สองหน้า


สามหน้า


ทุกคนคุยกันขณะที่กำลังอ่าน


รอบๆ ก็มีคนเข้ามาซื้อนิตยสารอย่างต่อเนื่อง แค่พริบตาการ์ตูนหลายสิบเล่มก็ขายหมด ถือว่ามียอดขายน่าตกใจจริงๆ


เสี่ยวหวังถามขึ้น “เราจะรู้ได้ยังไงกันว่าการ์ตูนเรื่องนี้ดังหรือเปล่า?”


ฮาฉีฉี “ยอดขายเหรอ?”


เสี่ยวโจว “แต่ในเล่มหนึ่งก็มีหลายเรื่องนะ?”


เสี่ยวซุน “เป็นจากการวัดตามผลสำรวจความนิยมน่ะครับ เป็นการใช้สถิติแบบเรียบง่ายที่สุด แน่นอนว่ายอดขายของหนังสือก็มีส่วน อย่างเช่นการ์ตูนที่ดังไปทั่วประเทศจะเพิ่มยอดขายของหนังสือขึ้นมาหลายเท่าโดยไม่ต้องสงสัยเลย แต่ว่าจะให้พึ่งการ์ตูนแค่เรื่องเดียวมาแบกสำนักพิมพ์ก็เป็นไปไม่ได้ ยอดขายของฉบับรวมเล่มก็สำคัญ แต่ว่าเพราะเรื่องของเรานั้นเพิ่งมีแค่ตอนแรก ไม่มีทางได้ประกาศการรวมเล่มแน่นอน”


เสี่ยวหวัง “เอ๋ ทำไมเราไม่ได้ปล่อยรวมเล่มเลยล่ะ?”


เสี่ยวโจวปรบมือ “นั่นสิ แบบนั้นเราก็จะได้ปล่อยทีละสิบยี่สิบตอนไง!”


ฮาฉีฉี “ด้วยฝีมือผู้กำกับจาง ให้วาดวันละสองตอนไม่ใช่ปัญหา ความเร็วในการปล่อยตอนใหม่ของผู้กำกับจางไม่มีใครเทียม!”


จางเย่โม้ “สองตอน? ฉันทำได้วันละสามตอนต่างหาก!”


เสี่ยวหวัง “ใช่ มีนิตยสารรายวันรึเปล่า? รายสัปดาห์มันช้าไปน่ะ พวกนี้ทำธุรกิจกันไม่เป็นรึเปล่า ไร้เดียงสาจริงๆ”


รายวัน?


วันละสามตอน?


เธอคิดว่าทุกคนเป็นตัวประหลาดอย่างผู้กำกับจางเรอะ?


พอเสี่ยวซุนฟังเหล่าคนนอกคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังก็เหนื่อยใจขึ้นมา


……


ที่โรงเรียน


“เฮ้ อ่านรึยัง?”


“โชเน็นแม็กสัปดาห์นี้?”


“เพิ่งอ่านจบนี่แหละ ราชันย์เทพประยุทธ์ยังปูเรื่องอยู่เลย”


“ดาร์กโซลตอนนี้สะใจเป็นบ้า”


“ฉันชอบวันพีซ”


“อ๊ะ ฉันรู้จัก! เรื่องใหม่นี่!”


“ใช่ ตอนแรกไม่เลวเลย ฉันอยากอ่านต่อ”


“เยี่ยมเลย แต่ออกแบบตัวละครแปลกๆ ไปหน่อยนะ”


……


บนรถไฟฟ้า


“เอ๋? วันพีซ? เรื่องใหม่เหรอ?”


“ตัวละครออกแบบมาแปลกๆ นะ”


“ทำไมตาเล็กขนาดนี้นะ?”


“สนุกนะ ลองอ่านสิ”


“ใช่ ตอนแรกก็ไม่ค่อยอินหรอก แต่พอข้ามเรื่องตัวละครแปลกๆ ไปได้ พล็อตเรื่องกับเนื้อหาก็สนุกไม่เบา”


“ฉันก็ชอบการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนกัน”


……


บริษัทแห่งหนึ่ง


“อาโออิ?”


“นักวาดใหม่? ไม่เคยได้ยินชื่อเลย”


“ตัวละครแบบนี้ยังได้ลงฉบับยาวอีก? เชี่ย! ทำไมฉันถึงค้างนักวะ?”


“ลูฟี่น่ารักจัง!”


“ใช่ๆ ฉันก็ชอบ!”


“ชอบลูฟี่เหมือนกัน ถึงจะตาเล็กไปหน่อยก็เถอะ”


“เล็กไปหน่อยที่ไหนกัน? เรียกว่าเป็นจุดไปเลยเถอะ!”


……


ตอนเที่ยง


ในแผนกบรรณาธิการของสำนักพิมพ์โชเน็น


เซโต้ เคียวโกะและเพื่อนร่วมงานเพิ่งกินข้าวเสร็จ


“เคียวโกะ การ์ตูนที่เธอดูแลได้ลงฉบับยาวแล้วเหรอ?”


“ใช่ วันพีซไง”


“ไอ้เรื่องที่ตัวละครน่าเกลียดๆ น่ะนะ?”


“อย่าว่าแบบนั้นสิ การวาดทุกคนก็มีสไตล์ของตัวเองน่า สไตล์นี้แค่ออกจะ…ออกจะมีเอกลักษณ์สักหน่อย คนดูก็เลยจำได้เท่านั้นล่ะ”


“เอ้า ก็ตามใจล่ะนะ ว่าแต่อันดับความนิยมน่าจะออกมาแล้วสิใช่ไหม?”


“ชุดแรกคงใกล้ออกแล้วล่ะ มาดูกันว่าเล่มนี้จะได้เท่าไหร่ คิดว่าใครจะได้อันดับหนึ่งเหรอ?”


“ฉันคงไม่มีโอกาส วันพีซได้ลงก็เพราะเป็นตัวอุดช่องว่างเท่านั้น ถ้ามีการ์ตูนเรื่องอื่นให้เลือกฉันคงไม่ได้รับเลือกหรอก รองบรรณาธิการบอกไปแล้วว่าถ้าวันพีซทำผลงานได้ไม่ดีภายในสิบตอนก็จะโดนตัดจบ เฮ้อ สวรรค์ ทำไมไม่ให้ฉันมีการ์ตูนดีๆ ดูแลสักเรื่องนะ?”


“ฮ่าๆๆ เคียวโกะโชคร้ายหน่อยนะ”


“นั่นสิ เคียวโกะ เธอเป็นบรรณาธิการมีประสบการณ์นะ แต่กลับไม่เคยมีการ์ตูนเรื่องไหนได้อันดับหนึ่งเลย”


“เฮ้ๆ พวกเธออย่าพูดแบบนั้นได้ไหม?”


ทั้งกลุ่มหยอกล้อเธอ


เซโต้ เคียวโกะเองก็ผิดหวัง


บนกระดานที่แขวนบนกำแพงนั้นแสดงผลการจัดอันดับ


เหล่าบรรณาธิการเข้ามารุมล้อม กังวลถึงการ์ตูนที่ตนเองดูแล ถ้าเรื่องที่ตนดูแลได้อันดับท้ายนานเกินไป ก็อาจถูกตัดจบได้


เคียวโกะเองก็อยากดู แต่เธอใจไม่กล้าพอ


พระเจ้าเจ้าข้า!


อย่าให้ฉันเป็นอันดับสุดท้ายอีกเลย!


แต่ทว่าคนทั้งหลายกลับเริ่มฮือฮา


“หา!”


“เร็วเข้า ดูนี่สิ!”


“นี่มัน…หือ?”


“เคียวโกะ! มาเร็ว!”


ทุกคนเรียกหาเธอ


เคียวโกะชะงัก “เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”


เธอลุกขึ้น เดินเข้าไปมองบนกระดานไวต์บอร์ดอันนั้น


อันดับหนึ่ง วันพีซ 1023 คะแนน


อันดับสอง ราชันย์เทพประยุทธ์ 986 คะแนน


อันดับสาม ดาร์กโซล 922 คะแนน


เคียวโกะตะลึง!


คนทั้งแผนกเองก็อึ้งค้าง!


ไม่รู้ว่าหัวหน้าบรรณาธิการกับรองหัวหน้าบรรณาธิการอีกสองคนมาตั้งแต่ตอนไหน พวกเขายืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคน มองกระดานพร้อมอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!


ว่าไงนะ?


วันพีซได้อันดับหนึ่ง?


ไอ้การ์ตูนประหลาดที่พวกเขาจะใช้แค่ถมจำนวนในหนังสือ?กลับได้อันดับหนึ่งตั้งแต่วันแรกของการตีพิมพ์? มีอะไรผิดพลาดรึเปล่าน่ะ?


ชั่ววินาที เหล่าบรรณาธิการก็มองเคียวโกะอย่างอิจฉา


“ยินดีด้วยนะเคียวโกะ”


“การ์ตูนเรื่องนี้ถือเป็นม้ามืดจริงๆ!”


“แจ๊กพ็อตแตกแล้วคราวนี้!”


“ยินดีด้วยที่ได้อันดับหนึ่งน่ะ!”


เซโต้ เคียวโกะยินดีจนแทบร้องไห้!


การ์ตูนดีๆ?


เรื่องดีๆ?


ในที่สุดหลังจากรอคอยมาแสนนานเธอก็ได้มาแล้วเรื่องหนึ่ง!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)