ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1428-1432

 บทที่ 1428 : โรงแรมอาซาคุสะถูกล้อมแล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


บ่ายวันนั้น


ที่โตเกียว


นอกโรงแรมอาซาคุสะ


ฝูงชนรุมล้อมเข้ามาทุกทิศทาง บ้างก่นด่าด้วยความโกรธ บ้างขุ่นเคือง บ้างก็มีสีหน้าตึงเครียด มีทั้งหญิงชาย มีทั้งเด็กและคนชรา


“เรามาแล้ว!”


“โรงแรมอาซาคุสะ!”


“ที่นี่เอง!”


“บัดซบ!”


“จางเย่อยู่ที่นี่!”


สิบคน!


ห้าสิบคน!


หนึ่งร้อยคน!


คนมากันมากขึ้นเรื่อยๆ แค่ครู่เดียวก็เกินพันเข้าไปแล้ว!


ทั้งประตูหน้า ข้าง และหลังโรงแรม ต่างเต็มไปด้วยฝูงชนผู้โกรธแค้น!


ชั้นบน ที่ออฟฟิศของประธาน


เหล่าผู้บริหารกำลังคุยเล่นหัวเราะกัน


ขณะนั้นผู้จัดการส่วนต้อนรับของโรงแรมก็วิ่งเข้ามาอย่างแตกตื่น


“แย่แล้วครับ! ท่านประธาน! เกิดเรื่องแล้ว!”


“อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?”


“มีคนมาล้อมโรงแรมครับ!”


“อะไรนะ? ใครกัน?”


“ไม่ทราบครับ!”


“คนมากแค่ไหน?”


“นับไม่ถ้วนครับ! นับไม่ไหวจริงๆ!”


“ได้ยังไง!”


“เร็วๆ ไปดูเร็ว!”


เหล่าผู้บริหารโรงแรมต่างก็ตกตะลึง ทั้งยังเริ่มตระหนก ถึงกับต้องวิ่งออกไปดูข้างนอกด้วยตนเอง แต่เมื่อพบว่าบริเวณรอบๆ โรงแรมมีแต่ผู้คนก็แทบฉี่ราด! ทำไมกัน? ทำไม? จางเย่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเหรอ? เป็นไปไม่ได้สิ! นี่มันญี่ปุ่นนะไม่ใช่ประเทศจีน! ทำไมจางเย่มันถึงมีอิทธิพลขนาดนี้! เหล่าผู้บริหารที่เมื่อครู่หยันว่าจางเย่ไม่มีทางระดมใครมาที่โรงแรมได้ พอเห็นฝูงชนตรงหน้าแล้วก็ต้องตะลึงไป แม่งโคตรดุร้ายจริงๆ!


ฝูงชนยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!


ฝูงชนยังคงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ!


แค่พริบตาก็มีคนเพิ่มอีกร้อยกว่าคน!


ทันใดก็มีคนตะโกนขึ้น “มอบตัวจางเย่ออกมา!”


“มอบตัวจางเย่ออกมา!”


“มอบตัวจางเย่ออกมา!”


ผู้คนนับไม่ถ้วนร้องเป็นเสียงเดียว


แกนนำนั้นคำรามขึ้นอีก “ไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”


“ไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”


“ไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”


“ไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”


“กำจัดมะเร็งร้าย!”


“กำจัดมะเร็งร้าย!”


ปิดถนนแล้ว!


คนที่เดินผ่านไปมาตะลึง!


สีหน้าของประธานโรงแรมอึ้งไป ในที่สุดเขาก็ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น!


เหล่าผู้บริหารโรงแรมพอได้ยินต่างก็รู้แน่ชัด แต่ละคนล้วนด่าแม่กันในใจ!


พนักงานโรงแรมทั้งหลายหวาดหวั่นจนไม่กล้าปรากฏตัวออกไป!


เชี่ย!


ซวยแล้ว!


ไอ้คนแซ่จาง! แกแม่งชั่วร้ายฉิบหาย!


……


ที่โรงแรมฝั่งตรงข้าม


ฮาฉีฉี เสี่ยวหวังและคนอื่นๆ กำลังประชุมกันอยู่ในห้อง ทุกคนต่างก็คุยกันเรื่องการ์ตูนที่จางเย่มอบหมายมาให้ ขณะนั้นเองเสียงร้องตะโกนโวยวายดังลั่นมาจากด้านนอก ทุกคนสะดุ้งโหยง ต่างก็คิดว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น พอวิ่งไปริมหน้าต่าง ฮาฉีฉีและพวกต่างสูดลมหายใจเฮือกด้วยความตะลึง!


เสี่ยวหวัง “เชี่ย!”


เสี่ยวโจว “เชี่ย!”


เสี่ยวซุน “เชี่ย!”


ฮาฉีฉีตระหนก “พวกนั้นตะโกนชื่อจางเย่เหรอ?”


เสี่ยวซุนที่พอรู้ภาษาญี่ปุ่นเล็กน้อยตอบ “ครับ!”


ฮาฉีฉี “แย่แล้ว! เกิดเรื่องแล้ว!”


เธอรีบโทรหาจางเย่ที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามทันที


ตู้ดๆๆ สายต่อติดแล้ว


“ผู้กำกับจาง!”


จางเย่ตอบ “เหล่าฮา? มีอะไรเหรอ?”


“ทางนั้นเกิดอะไรขึ้นคะ?”


“ไม่มีอะไรนี่?”


ฮาฉีฉีแทบกระอักเลือด “คุณยังจะบอกว่าไม่มีอะไรอีกเหรอคะ?”


จางเย่หัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอก ทำอะไรอยู่ก็ทำต่อไปเถอะ ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องมาหาผมช่วงนี้? ผมมีเรื่องต้องทำ ไว้เสร็จแล้วจะไปหานะ”


พอวางสาย ฮาฉีฉีกับคนอื่นๆ ได้แต่สั่นเทิ้มด้วยความกลัวเกรง!


พวกเธอเพิ่งเข้าใจว่าผู้กำกับจางวางแผนอะไรไว้!


พวกเธอเพิ่งเข้าใจว่าทำไมผู้กำกับจางยืนยันจะพักที่อาซาคุสะ!


เสี่ยวหวังตบหน้าผากฉาด “ว่าแล้ว! ว่าแล้วว่าผู้กำกับจางออกนอกประเทศแล้วต้องก่อเรื่องแน่! ดูสิ! เห็นรึยังล่ะ!”


เสี่ยวซุนแทบร้องไห้ “จะทำไงดีน่ะ!”


เสี่ยวซุนเพิ่งเข้าทำงานที่จางเย่สตูดิโอได้ไม่นาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาทำงานกับจางเย่ แม้จะเคยได้ยินเรื่องของจางเย่มามาก ตอนนี้กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เผชิญด้วยตนเอง ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมเพื่อนร่วมงานของเขาถึงต้องสะพรึงเมื่อได้ยินว่าจางเย่จะไปต่างประเทศ ในที่สุดเขาก็ได้รับประสบการณ์ความรู้สึกนั้นแล้ว คนธรรมดาไม่มีทางรับได้ ใจของพวกเขาไม่มีทางรับความเครียดเหล่านี้ได้แน่นอน!


……


ที่โรงแรม


ห้องของจางเย่


เสียงตะโกนด้านนอกดังยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่จางเย่กลับไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว กลับนั่งขัดสมาธิบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย ดูการ์ตูนและอนิเมะในโลกนี้ด้วยมือถือของเขา


หนึ่งหน้า


ห้าหน้า


สิบหน้า


การ์ตูนเรื่องนี้ไม่เลว


จางเย่อ่านอย่างมีรสชาติ


……


ชั้นล่าง


ฝูงชนโวยวาย


“ไสหัวไปจากญี่ปุ่น!”


“มอบตัวจางเย่มา!”


มีคนเริ่มบุกเข้าโรงแรม!


ทีมพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมอาซาคุสะตรงเข้ามาหยุดพวกเขา ขณะที่เหล่าพนักงานโรงแรมต่างก็พยายามต่อต้าน จับมือกันเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อป้องกันฝูงชนบุกเข้ามา


“อย่าเบียด!”


“ห้ามเข้าครับ!”


“ผู้จัดการรีบเรียกตำรวจเร็ว!”


“ฉันเรียกแล้ว!”


“จะทำยังไงดีครับ!”


“ขวางไว้! ขวางคนไว้!”


“ไปปิดประตูหลัง เร็วๆๆๆ!”


โรงแรมมีแขกพักเต็ม ย่อมไม่มีทางปล่อยผู้ประท้วงเข้าไป ถ้าทางแขกยื่นร้องเรียนขึ้นมาทางโรงแรมย่อมรับไว้ไม่ได้ อีกทั้งคนเหล่านี้ต่างก็โกรธเคือง เข้าไปแล้วจะไปทำอะไรบ้างใครจะไปรู้? ถ้าเข้าไปถล่มที่นี่ล่ะก็ ไม่มีใครยอมรับความเสียหายนี้ได้แน่!


ไม่กี่นาที!


แค่ไม่กี่นาที!


โรงแรมอาซาคุสะก็วุ่นวายใหญ่โตแล้ว!


ประธานโรงแรมก้าวออกมาพูด “ทุกท่านสงบลงก่อนครับ! ทุกท่านฟังผมก่อน!”


ฝูงชนโกรธแค้นย่อมไม่ฟังอะไร “ส่งจางเย่มา! พวกเรารู้ว่าเขาอยู่ในนี้!”


ประธานโรงแรมนั้นพูดดังลั่น “ผมไม่ทราบว่าพวกคุณได้ข้อมูลมาจากไหน แต่เราไม่รู้เรื่องที่จางเย่พักอยู่กับเรา ไม่ได้รับข่าวแม้แต่น้อย ดังนั้นทุกท่านขอเชิญกลับไปก่อนครับ! รีบกลับไปก่อน! จางเย่ไม่ได้อยู่ที่นี่! พวกคุณไปหาเขาที่อื่นเถอะ!”


ฝูงชนร้อง “เป็นไปไม่ได้!”


ประธานโรงแรม “เขาไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ!”


ผู้บริหารของโรงแรม “ใช่ครับ คนคนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่!”


ฝูงชนพลันเงียบลง ลังเลเล็กน้อย


แต่ตอนนั้นเอง หน้าต่างโรงแรมก็ถูกผลักเปิดออก ชายหนุ่มปรากฏตัวหลังหน้าต่าง ข้อศอกเท้าขอบหน้าต่าง ถือมือถือไว้ในมือ อ่านการ์ตูนพร้อมรอยยิ้มขณะที่อาบอยู่ใต้ความอบอุ่นของแสงอาทิตย์


มีคนมองขึ้นไป!


มีคนชี้ไปข้างบน!


“เร็ว ดูบนนั้น!”


“จางเย่นี่!”


“เชี่ย! หมอนั่นจริงๆ!”


“หมอนั่นอยู่นี่จริงๆ!”


“หมอนั่นอยู่ข้างในนั้น!”


“โรงแรมร่วมมือกับเขานี่เอง!”


“เชี่ย! ร่วมมือกันหลอกพวกเรานี่!”


ดังนั้นฝูงชนจึงยิ่งโกรธเคือง!


เจ้าของโรงแรมและเหล่าพนักงานเองก็มองขึ้นไปหน้าต่างชั้นบน แล้วพวกเขาก็ต้องโมโหจนแทบร้องไห้ ไม่เคยเจอใครไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนจริงๆ!


ไอ้ลูกเต่านี่แม่งจงใจ!


จางเย่!


เช็ดปู่เอ็งสิวะ!


แกแม่งจะลากพวกเราไปตายด้วยเรอะ!



บทที่ 1429 : เชิญเทพมาง่ายส่งเทพกลับยาก!

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


ผู้คนที่ชั้นล่างก่นด่าสาปแช่งอย่างบ้าคลั่ง


ทั้งในทั้งนอกโรงแรมวุ่นวายไม่สิ้นสุด


ตำรวจรีบตรงเข้ามาทันที


“จางเย่ ไสหัวกลับจีนไปซะ!”


“โรงแรมนี่ร่วมมือกับไอ้สวะนี่นี่เอง!”


“กลับไปทุกคนเลย! ตำรวจมาแล้วนะ!”


“ใครก่อความวุ่นวายที่นี่? จับเลย!”


“ใครเป็นผู้จัดการโรงแรม? เกิดอะไรขึ้น?”


“ผมครับ ผมเป็นผู้จัดการ!”


“กลับไปทุกคนเลยนะ! อย่ามาออกันที่นี่!”


เมื่อมีคนปนเปกันทั้งสามกลุ่ม สถานการณ์ก็มีแต่จะยิ่งวุ่นวายใหญ่โตแล้ว!


ขณะเดียวกัน จางเย่ยังคงยืนนิ่งที่หน้าต่าง ถึงกับมีรอยยิ้มขณะดูมือถือ คล้ายดังเขาไม่ใช่เป้าของการก่นด่าของผู้คนชั้นล่าง และเรื่องราวพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังร้องเพลงอย่างมีความสุข “เธอคือเมฆงามที่สุดในท้องฟ้าของฉัน! ให้ฉันรินเหล้าเปี่ยมแก้วรั้งเธอไว้! รั้งเธอไว้!”


ด้านล่างนั้น ตำรวจญี่ปุ่นที่รู้ภาษาจีน พอได้ยินเข้าขาก็แทบทรุด หน้าแทบทิ่มลงกับพื้น!


รั้งเธอไว้?


รั้งเธอไว้น้องสาวนายสิ!


นายตำรวจตะโกนใส่ฝูงชน “สลายตัวเดี๋ยวนี้!”


ประชาชนสามกลุ่ม!


เจ้าหน้าที่สามชุด!


ทุกคนต่างกัดฟันกรอดด้วยความชิงชัง!


แต่จางเย่กลับร้องเพลงฮึมฮัมสบายอารมณ์อยู่ชั้นบนงั้นเรอะ?


นี่มันสถานการณ์แบบไหนกันแน่?


เมื่อฮาฉีฉี เสี่ยวซุนและคนอื่นๆ เห็นท่าทีอันองอาจของผู้กำกับจางจากกระจก ทุกคนก็ได้แต่ประทับใจ


ฮาฉีฉีถอนหายใจ


เสี่ยวหวังยิ้มเจื่อน


เสี่ยวโจวตาโตเป็นประกาย


เสี่ยวซุนชะงัก ก่อนจะเกิดอารมณ์ครึกครื้นตามไปด้วย


นี่คือจางเย่!


นี่ล่ะคือนายของพวกเขา!


เหนือฟ้าใต้หล้านี้ ไม่มีใครอื่นเทียบเท่าเขาอีกแล้ว!


……


หนึ่งชั่วโมงให้หลัง


หลังนายตำรวจสามชุดลงพื้นที่ประจำการ ความวุ่นวายก็สงบลง สถานการณ์ถือว่าควบคุมได้แล้ว


เสียงตำหนิโรงแรมที่หน้าฟรอนท์และล็อบบี้ดังขึ้นทันที แขกทั้งโรงแรมต่างมารุมล้อม!


“ยกเลิกการจอง! คืนเงินมา!”


“คุณเพิ่งจะเช็กอินเองนะคะ?”


“เรายังจะพักต่อได้ยังไง?”


“ต้องขออภัยค่ะท่าน”


“เมื่อกี้ฉันนั่งคุยเรื่องสัญญากับเพื่อน แต่เสียงโวยวายชั้นล่างกลบเสียงเราไปหมด บอกฉันหน่อยว่ายังจะพักต่อได้ยังไง? ยกเลิกๆ!”


“เอ่อ ดิฉันต้องขอปรึกษาทางผู้จัดการก่อนนะคะ”


“อยากปรึกษาใครก็เชิญ แต่ยังไงฉันก็จะยกเลิกการเข้าพัก!”


“ฉันก็จะยกเลิก!”


“ฉันด้วย!”


“นี่มันโรงแรมอะไรของพวกคุณกันน่ะ?”


“จะมีสงครามงั้นเรอะ?”


“กว่าจะหลับได้ ฉันกลับโดนเสียงพวกนี้ปลุกขึ้นมาเนี่ยนะ?”


“ไม่มีทางพักต่อที่นี่ได้แล้ว ฉันจองไว้สามคืน แต่วันที่เหลือนั่นยกเลิกไปให้หมด!”


“ใช่ คืนเงินเรามา!”


“เราไม่สนใจหรอกนะว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรที่เจอที่โรงแรม แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา วันนี้เกือบเกิดเรื่องต่อยตี ตอนฉันลงไปดูข้างล่างก็ยังโดนผลักแทบล้ม อันตรายเกินไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ฉันก็ขอเรียกเงินคืน!”


แขกของโรงแรมเริ่มก่อเรื่องเช่นกัน แขกหลายคนที่ควรจะเข้าพักวันนี้พอเห็นว่าตรงหน้าทางเข้าเกิดเรื่องก็จากไป ขณะที่แขกกว่าครึ่งที่กำลังเข้าพักอยู่ก็ร้องขอเงินคืน แม้ก่อนหน้านี้หลายคนยังออกมาร้องชมเชยว่าประธานโรงแรมอาซาคุสะว่าเป็นวีรบุรุษแห่งชาติ ขอให้เขายืนยันจุดยืนนี้ แต่เมื่อเกิดเรื่องกับพวกเขา กลับไม่มีใครสนใจเรื่องที่เคยพูดไว้เลย!


พวกเราแค่อยากได้ที่พัก!


จะให้เราตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงได้ยังไง?


กลุ่มคนนับพันที่มาล้อมโรงแรมเอาไว้ทำให้ทุกคนต้องสะพรึงอย่างยิ่ง!


แค่ครู่เดียวก็เกิดวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง โรงแรมพยายามรับมือกับคำร้องทั้งหลายขณะที่เหล่าผู้บริหารและเจ้าของโรงแรมต้องออกมารับมือกับปัญหาด้วยตนเอง รับประกันและขออภัยกับแขกแต่ละคน นำทีมพนักงานไปขอโทษทีละห้อง และสัญญาว่าค่าห้องในวันนี้จะลดลงครึ่งหนึ่ง ถึงกับมอบของขวัญและผลไม้เล็กๆ น้อยๆ ทั้งยังเกลี้ยกล่อมให้ทุกคนพักกับเขาต่อ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแขกถึงหนึ่งในสามที่ยืนยันจะรับเงินคืนเต็มจำนวนเพราะไม่กล้าพักที่นี่ต่อแล้ว


ราวบ่ายสอง


ความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง


พนักงานโรงแรมแต่ละคนมองหน้ากันด้วยความหวาดหวั่น ก่อนหันไปมองเศษซากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในโรงแรม กำแพงด้านนอกนั่นโดนกลุ่มผู้ประท้วงขีดเขียนพ่นด้วยวัสดุที่ไม่ว่าอย่างไรก็ล้างไม่ออก


ทางโรงแรมเสียหายอย่างหนัก!


พอมองเห็นเช่นนี้ ประธานโรงแรมถึงกับต้องลอบหลั่งโลหิตในใจ ปวดใจเหลือเกิน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี่ เป็นค่าใช้จ่ายที่เขาต้องแบกรับ แต่เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น!


ทำไมมีคนมากันเยอะขนาดนี้?


ทำไมทุกคนรู้ว่าจางเย่อยู่ที่นี่?


ทำไมทุกคนถึงได้มาด้วยความโกรธแค้นแบบนี้?


ก่อนนี้พวกเขามัวแต่วุ่นวายกับการจัดการเหตุที่เกิดขึ้น จึงไม่มีเวลาไปตรวจสอบข่าว


พนักงานหญิงคนหนึ่งโมโห “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”


ประธาน “ใครบอกฉันหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”


มีคนตอบ “จางเย่ครับ! เขายิงคอมเมนต์ป่วนดาราระดับท็อปในประเทศเราในโลกออนไลน์มากกว่ายี่สิบคน ยิ่งไปกว่านั้นยังเปิดเผยตำแหน่งที่โพสต์ของตัวเองด้วย เขาด่าคนจากที่โรงแรมเรา!”


ประธานตะลึงไป “ว่าไงนะ?”


ผู้บริหารคนหนึ่งก็อึ้ง “ด่าดาราไปยี่สิบกว่าคน?”


ผู้บริหารอีกคน “เชี่ย! แม่งไม่กลัวตายเรอะ!”


ผู้บริหารคนหนึ่ง “ว่าแล้วว่าต้องเป็นมัน! ไอ้ลูกเต่าบัดซบนี่!”


ผู้จัดการ “คราวนี้เราโดนเล่นซะแล้ว!”


ผู้บริหารคนหนึ่ง “ท่านประธานครับ เราจะยอมให้คนแบบเขาพักที่นี่ต่อไม่ได้นะครับ! ถึงเขาจะไม่กลัวตาย แต่เรารับไม่ไหวนะครับ!”


ผู้บริหารอีกคนร้อง “หมอนี่แม่งบ้าชัดๆ!”


ประธานโรงแรมมีสีหน้าเครียด “มูลนิธิจองห้องเขาไว้สิบวัน? ยกเลิก! ยกเลิกเดี๋ยวนี้เลย!”


พนักงานนั้นตอบ “ครับ จะจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ!”


เมื่อเกิดเรื่องวุ่นวายในวันนี้ ท่านประธานเองก็หวั่นๆ อยู่เล็กน้อย


แกยอดเยี่ยม! แกร้ายกาจมาก!


ฉันไม่ให้แกอยู่นี่แล้วโอเคไหม?


รีบๆ ไสหัวไปเลย!


แต่สถานการณ์กลับแตกต่างกับที่พวกเขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง


เมื่อโรงแรมอาซาคุสะยกเลิกการจองห้องของกาชาด เรื่องก็ร้อนไปถึงคนใหญ่คนโตขององค์กรกาชาดแห่งเอเชียแล้ว


เป็นผู้อำนวยการเฉิน!


สายต่อตรงหาโรงแรม!


พนักงานโรงแรมนั้นงุนงง “เอ่อ ผู้อำนวยการเฉินครับ”


ผู้อำนวยการเฉิน “ใครยกเลิกการจองของเรา?”


พนักงาน “พอดีทางฝั่งเราเกิดปัญหาขึ้น ก็เลย…”


“เงินจ่ายไปแล้วใช่ไหม?”


“จ่ายแล้วครับ”


“พวกคุณรับการเข้าพักแล้ว?”


“พวกเรารับก็จริงครับ แต่ว่า…”


“เงินก็จ่ายแล้ว รับก็รับแล้ว แขกก็เช็กอินแล้ว สัญญาถือว่าครบองค์ประกอบ แล้วจู่ๆ อยากไล่แขกก็ไล่ได้งั้นเหรอ? จู่ๆ ก็จะยกเลิก? อยากทำอะไรก็ทำ? ถอนสัญญากันดื้อๆ? อยากตายงั้นรึ?!”


พนักงานโรงแรมอึ้งไป!


เธอไม่คิดเลยว่าคนใหญ่คนโตจากองค์กรฯ จะพูดจาแบบนี้!


เชี่ย! นี่คือวิธีปฏิบัติตัวขององค์กรฯ เหรอ?


ผู้อำนวยการเฉินเดือดดาล “ถ้าอาจารย์จางบอกว่าเขาไม่ต้องการพักที่โรงแรมแล้ว อย่างนั้นก็เช็กเอาต์ แต่ถ้าเขาอยากพักที่นั่น ผมอยากรู้นักว่าใครจะกล้าให้เขาออก! จองไว้สิบวัน! ถ้าขาดไปแม้แต่วันเดียว ฉันจะพาคนของฉันเข้าไปพบพวกคุณด้วยตัวเอง! ได้ยินไหม?” พอพูดจบ ก็มีเสียงแกร๊กก่อนตัดสายไป!


พนักงานนั้นคิดอะไรไม่ออก ได้แต่หันมองประธานโรงแรม!


ประธานหน้าขาวซีด!


พนักงานโรงแรมเองก็ตาค้างไป!


พวกเขาเพิ่งนึกออก จางเย่เป็นทูตสันถวไมตรีหนึ่งเดียวของทวีปเอเชีย!


พวกเขาเพิ่งนึกออก ว่าองค์กรการกุศลทั้งหลายต่างหนุนหลังจางเย่!


ในทวีปเอเชียนี้ ล่วงเกินประชาชน ล่วงเกินนักธุรกิจ หรือแม้แต่ดาราก็ยังได้ แต่ว่าไม่มีใครกล้าล่วงเกินคนขององค์กรกาชาดฯ


ไม่มีจริงๆ!


นี่ไม่ใช่องค์กรธรรมดา องค์กรประเภทนี้แม้ดูไปไม่มีอะไร แต่ความจริงกลับมีอิทธิพลและชื่อเสียงในหมู่ประชาชนอย่างมาก ทั่วโลกนี้ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ เป็นองค์กรที่ไม่มีใครต้องการและกล้าล่วงเกิน องค์กรนี้และเหล่าคนในองค์กร ต่างก็มักทำการกุศล น้อยครั้งจะยุ่งเรื่องอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะขุ่นเคืองไม่เป็น หลายวันก่อนที่ญี่ปุ่นเกาหลีร่วมมือกันควบคุมและแบนการเข้าประเทศของจางเย่ คนใหญ่คนโตในองค์กรหลายคนต่างก็ร่วมกันประท้วงการกระทำนี้ ต่อสายตรงหาผู้มีอำนาจสูงสุด เขียนจดหมายไปถึงโต๊ะของผู้บริหารระดับสูง! ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็นตอนนี้ ทางรัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีต่างก็ต้องแก้ไข ‘คำสั่งควบคุม ’ เพื่อให้จางเย่เข้าประเทศเวลามีงานการกุศลได้ตามสะดวก ทั้งยังแบนโฆษณาเพื่อสังคมของจางเย่และการเข้าร่วมงานการกุศลของเขาไม่ได้


แม้แต่รัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลียังต้องยอม!


องค์กรอื่นๆ ล่ะ?


โรงแรมอาซาคุสะล่ะ?


โรงแรมเล็กๆ น่ะหรือ?


ใครจะกล้ารองรับการตำหนิจากคนใหญ่คนโตในมูลนิธิฯ ด้วยตนเอง? พวกเขาไม่กล้าหรอก เว้นแต่จะบ้าไปแล้วเท่านั้น!


“ท่านประธาน!”


“นี่ นี่…”


“จางเย่นั่น เขา…”


ยกเลิกการจองไม่ได้


พวกเขาเองก็ไล่อีกฝ่ายไปไม่ได้


ประธานโรงแรมนั้นสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนกัดฟันเอ่ย “ได้! ก็แค่สิบวัน? ไม่สิ อีกแค่เก้าวัน ครั้งนี้ฉันจะยอมในเอง ยังไงเขาก็อยู่นี่ไม่ได้ตลอดชีวิต ถ้าอยากอยู่ก็อยู่! ตำรวจก็เข้ามาจัดการแล้ว เราเสียแขกไปก็แค่ไม่กี่คน เรายังยอมรับความเสียหายนี้ได้! พรุ่งนี้กับมะรืนนี้ยังมีทัวร์อีกกลุ่ม ทุกคนตั้งใจบริการกลุ่มนี้ให้ดีเพื่อชดเชยที่เราขาดทุนไป อย่าสนใจกับเรื่องในวันนี้! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะกลับไปทำงานกันเหมือนเดิม เรื่องแค่เล็กน้อยนี้ไม่ใช่ปัญหา”


“ครับ”


“รับทราบครับ”


“ได้ค่ะท่านประธาน”


ทุกคนตอบก่อนกลับไปทำงาน


แต่ทว่าทุกครั้งที่พวกเขาเดินผ่านห้องของจางเย่ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะเดินเลี่ยงให้ห่างออกไป!



บทที่ 1430 : โรงแรมอาซาคุสะโดนล้อมอีกแล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


คืนเดียวกันนั้น


ที่ประเทศจีน


ข่าวแพร่ไปทั่วประเทศแล้ว หลายคนเจอข่าวจากทางสื่อญี่ปุ่น ล้วนแต่ตะลึงจนพูดไม่ออก อ้าปากค้างจนฟันแทบร่วง!


ในเน็ต


บนเวยป๋อ


โมเมนต์วีแชต


แค่พริบตาก็ระเบิดไปทั่ว!


“ว่าไงนะ?”


“จางเย่ไปก่อกวนดาราญี่ปุ่นยี่สิบกว่าคนเลยเหรอ?”


“แถมยังเปิดเผยตำแหน่งตัวเอง?”


“โรงแรมอาซาคุสะโดนคนญี่ปุ่นล้อม?”


“มีตำรวจลงที่เกิดเหตุกว่าสามสิบกว่านายแล้ว?”


“เชี่ย จางเอ้อร์ของเรานี่โคตรร้ายกาจเลย!”


“นี่…นี่…”


“เหอะๆๆๆๆ สวย!”


“จางแหยสุดยอดมาก! ไอดอลเลย! เฟียร์ซมาก!”


“เช็ด! ว่าแล้ว! ว่าแล้วว่าไอ้คนคลั่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญการตอกหน้าอย่างจางเย่ไม่มีทางไปเช็กอินโรงแรมอาซาคุสะที่ทุกคนกำลังด่าโดยไม่มีเหตุผล! ฉันว่าแล้ว! หมอนี่ตั้งใจจะไปก่อเรื่องชัดๆ! ฮ่าๆๆๆ!”


“น่าสนุกใหญ่แล้ว!”


“ทุกคนแชร์ข่าวนี้ออกไป! มีเรื่องน่าสนุกแล้ว!”


“จางแหยเคลื่อนไหวแล้ว!”


“ไม่มีสัญญาณอะไรสักนิด จางจอมตอกหน้าไม่พูดอะไรสักคำ หักมุมสุด! ตอนเห็นข่าวเขาเช็กอินที่อาซาคุสะฉันยังด่าเขาไม่รักชาติอยู่เลย!”


“นี่แหละจางเย่ ถ้าการกระทำพิสูจน์ได้ เขาไม่ต้องใช้ปากหรอก!”


“ทางนั้นเป็นไงบ้าง?”


“ไม่รู้สิ รอข่าวอยู่เหมือนกัน!”


……


ที่บ้าน


แม่แทบเป็นลม


พ่อพูดไม่ออก


อู๋เจ๋อชิงเห็นข่าวแล้วก็ต้องหัวเราะ


……


บ้านเหล่าเหยา


เหยาเจี้ยนไฉอ้าปากค้าง


เหยามี่จนคำพูด


ภรรยาของเหยาเจี้ยนไฉยกมือกุมขมับ ไม่ทราบว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี


……


ที่จางเย่สตูดิโอ


จางจั่วเหงื่อแตกพลั่ก


อู่อี้รีบโทรถามฮาฉีฉี


คนอื่นๆ ที่ยังอยู่ที่ออฟฟิศเองก็มือไม้ปั่นป่วน


มีคนคุ้นเคยแล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนไม่เคยชินนัก จางเย่เดินทางไปทำงานทีไรต้องมีเรื่องเสมอ ถ้าไปทริปสั้นก็เรื่องเล็กๆ ทริปยิ่งยาว เรื่องยิ่งใหญ่โต ไปยิ่งไกล เรื่องยิ่งขยายใหญ่จนกลายเป็นยักษ์ นี่เป็นธรรมเนียมของที่นี่ ไม่เคยมีข้อยกเว้น ไม่เคยเลยสักครั้งเดียว!


……


วันต่อมา


ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


หนึ่งคืนผ่านไปไร้เรื่องราว ลมฝนสงบเงียบ


เช้านี้จางเย่ตื่นก่อนแปดโมง ยืดเหยียดตัว มองนาฬิกาก่อนลุกขึ้นไปล้างหน้าแล้วลงไปที่ห้องอาหารโรงแรมเพื่ออาหารเช้า


ห้องอาหารมีคนน้อยลงอย่างชัดเจนเพราะเมื่อวานมีหลายคนเช็กเอาท์ออกไป


จางเย่หาโต๊ะแล้วก็นั่งกินอยู่คนเดียว


ทว่าแขกที่กำลังรับประทานอาหารเช้าและพนักงานโรงแรมต่างจดจำเขาได้


“จางเย่!”


“มันนี่เอง!”


“คนที่มาก่อเรื่องเมื่อวานนั่นมาเพราะเขาทั้งนั้น!”


“ไอ้หมอนี่ ช่างน่าชังซะจริง!”


“นั่นสิ ฉันเองก็เห็นที่เขาพูดในโซเชียลแล้ว! คนดุน่ะเคยเห็น แต่ดุดันเท่านี้ฉันไม่เคยเจอจริงๆ!”


“ดารายี่สิบคนเชียวนะ!”


“หมอนี่แย่เป็นบ้า!”


“ทำไมยังอยู่อีก? ทำไมโรงแรมไม่ไล่เขาไป?”


ชั่วขณะนั้นประธานของโรงแรมและผู้ติดตามก็มาถึง เมื่อเห็นจางเย่แล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป มองจางเย่หน้าเครียด แล้วหันไปหาแขกคนอื่นโดยไม่พูดอะไร


“ท่านประธาน ยังไงกันครับ?”


“ทำไมเขายังไม่ออกไปอีก?”


“เขายังจะอยู่ที่นี่อีกกี่วัน? ไล่เขาออกไปสิ!”


“ใช่ ความวุ่นวายก็เกิดจากเขานี่แหละ!”


ทุกคนออกความเห็น


ท่านประธานก็คิดจะไล่เขาออกไปเช่นกัน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะทำได้ หมอนี่มีเบื้องหลังใหญ่โตไม่น้อย เขาจึงได้แต่บอกว่า “เราให้บริการแขกทุกคนอย่างดีที่สุดครับ นี่คือสโลแกนของโรงแรมเรา”


ไม่นานหลังจากนั้น


ประธานก็นำผู้ติดตามออกจากห้องอาหารไป


ขณะที่เดินผ่านจางเย่ซึ่งก้มหน้ากินข้าวอยู่นั้น จางเย่ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ข้อเรียกร้องสองข้อ คุณคิดดีหรือยัง?”


ใบหน้าของทั้งกลุ่มเครียดขึง


จางเย่กินไปพลางกล่าว “ถ้ายังไม่ตัดสินใจก็ลองทบทวนอีกครั้งดูนะ”


ท่านประธานนั้นแค่นเสียง “คิดว่าลูกไม้แค่นี้ก็ทำให้พวกเรากลัวงั้นเหรอ? จะดูถูกพวกเราเกินไปแล้ว! อย่าว่าแต่คนกลุ่มเล็กๆ อย่างเมื่อวานเลย ต่อให้ใหญ่กว่าเดิมอีกห้าเท่าสิบเท่าผมก็รับได้ อย่างมากก็เสียลูกค้าไปอีกนิดหน่อยเท่านั้น เรื่องแค่นี้น่ะไม่ถือเป็นอะไรสักนิด! เหอะ! ถ้าเราสนใจกับเงินหยุมหยิมแค่นี้ก็น่าขำแล้ว!”


พนักงานโรงแรมลอบมองท่านประธาน


เฮ้!


เมื่อวานคุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่!


เมื่อวานตอนแพ้เขาน่ะคุณด่าแม่ไปไม่ใช่หรือไง!


แต่พวกเขาเข้าใจ ท่านประธานพูดแบบนี้เพียงเพื่อให้ยังมีมาดข่มขวัญคนได้เท่านั้น


จางเย่พยักหน้า “ดี” ก่อนจะกินอาหารเช้าต่อ


ท่านประธานแค่นเสียง ก่อนนำคนเดินจากไป


หลังอาหาร จางเย่ก็เดินส่ายอาดๆ เข้าลิฟต์ขึ้นไปข้างบน กลับห้อง เติมน้ำร้อนก่อนลงแช่


ห้านาที


สิบนาที


จางเย่เช็ดตัว ชงชาแก้วหนึ่ง จากนั้นก็นั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์


……


ในห้องทำงานของประธาน


“กรุ๊ปทัวร์นั่นมากันรึยัง?”


“ใกล้แล้วครับ”


“ดี ดูแลให้ดีเป็นพิเศษนะ”


“รับทราบครับ”


“ไม่ต้องกังวลเรื่องจางเย่ ต่อให้ก่อเรื่องไปเมื่อวานก็ไม่มีผลอะไรกับเรานัก อีกหลายวันนี้เขาคงเก็บเนื้อเก็บตัวบ้าง”


พอมองออกไปนอกหน้าต่าง ท่านประธานก็ยิ้ม อากาศดีแดดจัดจ้าเช่นนี้มีไม่มาก วันนี้การค้าคงสดใสเป็นแน่


ทันใดก็มีคนผลักประตูเข้ามา!


“ท่านประธานครับ! มาแล้ว!”


“ตะโกนอะไรกัน! ก็แค่กรุ๊ปทัวร์นี่? มาถึงแล้ว?”


“ไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์ครับ! คุณมาดูก่อนเถอะ!”


ทุกคนในห้องตะลึงไป!


ประธานและเหล่าผู้บริหารใจเต้นรัว วิ่งไปที่หน้าต่าง เปิดออกมองลงไปด้านล่าง พอเห็นก็แทบร่วงไปกองกับพื้น!


ร้อยคน!


พันคน!


สองพันคน!


ฝูงชนผู้กราดเกรี้ยวรายล้อมเข้ามาทั่วทุกสารทิศ!


ประธานท่านนั้นชะงัก “เมื่อวานตำรวจจัดการแล้วนี่?”


ผู้บริหารคนหนึ่งตะลึงไปแล้ว “เชี่ย! มาทำไมอีกเนี่ย?”


จากนั้นมีคนชี้ไปที่จอคอมฯ ร้อง “พระเจ้า! ดูนี่สิ! อยู่ในเน็ต!”


ท่านประธานและคนอื่นๆ รุมล้อมเข้ามาดู ต่างก็แทบจะกระอักเลือดแล้ว!


……


เพจของยามาดะ อากิระ


จางเย่คอมเมนต์ “คุณบ้ารึเปล่าน่ะ?”


ส่งจาก : โตเกียว โรงแรมอาซาคุสะ


……


เพจของฟูจิวาระ


จางเย่คอมเมนต์ “คุณบ้ารึเปล่าน่ะ?”


ส่งจาก : โตเกียว โรงแรมอาซาคุสะ


……


ล้วนเป็นฝีมือจางเย่!


โลกออนไลน์ของญี่ปุ่นแปดเปื้อนด้วยฝีมือจางเย่อีกแล้ว!


คราวนี้ไม่ใช่แค่สิบยี่สิบคน


วันนี้ เวลานี้ จางเย่ถึงกับไปก่อกวนดารามาร้อยคนแล้ว!


เสียงก่นด่าสาปแช่งระเบิดออกมาจากห้องทำงานของประธานโรงแรมในทันที!


“ปู่เอ็งสิ!”


“ไอ้คนแซ่จาง! ไอ้ตัวบัดซบ!”


“บ้าไปแล้ว! ไอ้คนแซ่จางแม่งบ้าไปแล้ว!”


“สวรรค์!”


“ปิดประตูเร็วเข้า!”


“ตำรวจล่ะ! เรียกตำรวจก่อน!”


“จางเย่น้องสาวเอ็งสิวะ!”


“อยากตายก็ไปคนเดียว! ไม่ต้องมาลากเราไปด้วย!”


ฝูงชนด้านนอกยิ่งมายิ่งเยอะ!


มีคนยืนด่าเขาอยู่หน้าโรงแรมเป็นจำนวนมาก


สุดท้ายฝูงชนมีจำนวนหลายพัน ใหญ่โตเป็นห้าเท่าสิบเท่าของเมื่อวาน!


เหล่าผู้บริหารมองที่ท่านประธานนั้นด้วยความสำนึกเสียใจ ทำไมต้องไปหาเรื่องจางเย่อีกด้วยนะ! มาอีกห้าเท่าบอกไม่กลัว? มาอีกสิบเท่าบอกไม่เป็นไร?


เชี่ย!


หมอนั่นแม่งลากคนมาได้จริงๆ!



บทที่ 1431 : โรงแรมถูกทุบ!

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


เสียงก่นด่าดังลั่น


เสียงตะโกนดังจนโรงแรมฝั่งตรงข้ามยังได้ยิน


พอเสี่ยวหวังยื่นหน้าออกไปดู เธอก็หน้าซีด “แย่แล้ว! พวกนั้นมาอีกแล้ว! สวรรค์! ทำไมวันนี้มีคนมากมายขนาดนี้กัน!”


“อะไรนะ?”


“ไม่ดีแล้ว!”


“แบบนี้จะทำยังไงดี?”


“ผู้กำกับจางจะทำอะไรอีกน่ะ?”


“เอ๊ะ พวกเธอดูในเน็ตเร็ว! ผู้กำกับจางด่าดาราไปร้อยกว่าคนแล้ว!”


“ว่าไงนะ?”


“ร้อยกว่าเลยเหรอ?”


“เชี่ย!”


“ผู้กำกับจางจะทำอะไรน่ะ!”


ฮาฉีฉีหน้าเครียด แม้ผู้กำกับจางจะสั่งให้พวกเธอไม่ต้องกังวล แล้วตั้งใจทำงานไปโดยไม่ต้องไปหาเขาก็ตามที แต่ในฐานะผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสตูดิโอ เธอยังจะนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรได้ยังไง? ในเวลาแบบนี้อะไรอย่างอื่นๆ ล้วนเป็นเรื่องรองทั้งนั้น ที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของผู้กำกับจาง ใครจะรับรองได้ว่าเขาจะปลอดภัยดี?


ดังนั้นฮาฉีฉีรีบบอกกับหยางซูทันที “เสี่ยวหยาง รีบๆ ไปหาผู้กำกับจางเร็ว!”


แต่หยางซูว่า “ศิษย์พี่บอกให้ฉันดูแลพวกคุณทุกคน ไม่ให้ผละไปไหน”


เสี่ยวหวังร้อง “ไอ้หยา ดูสถานการณ์ตอนนี้ก่อนสิ ยังจะมาดูแลพวกเราอะไรกัน!”


เสี่ยวซุนเสริมอย่างเป็นกังวล “นั่นสิ ความปลอดภัยของผู้กำกับจางเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าพวกนั้นเข้าไปข้างในได้แล้ว ใครจะรับรองความปลอดภัยของผู้กำกับจางได้? พี่หยางรีบไปเถอะ!”


ความปลอดภัยของศิษย์พี่รึ?


หยางซูมองไปนอกหน้าต่าง เผยอยิ้มก่อนปฏิเสธ “คนพวกนี้น่ะ ไม่มีทางเข้าใกล้ศิษย์พี่ฉันได้หรอก”


ทุกคนกลอกตา ยังจะโม้แทนผู้กำกับจางอีก? มีคนอยู่หลายพันเชียวนะ พวกนั้นจะไม่มีทางเข้าใกล้ผู้กำกับจางได้ยังไง? คิดว่าเขาเป็นจอมเวทมีสกิลหมู่เรอะ?


ทว่ามีแต่หยางซูที่รู้ระดับฝีมือของจางเย่กับเหราอ้ายหมิ่น นี่ไม่ใช่เรื่องของคนมากกว่าแล้ว เพราะไม่ว่าจะมีคนแค่ไหน ศิษย์พี่ของเธอนั้นฟาดแค่ฝ่ามือเดียวก็จัดการคนธรรมได้สองสามคนแล้ว พอจัดการได้สักยี่สิบสามสิบคนก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปลุยกับเขาอีก ใช้จำนวนเข้ามาถมศิษย์พี่ของเธอนั้นเป็นแค่ทฤษฎี แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นแค่การโม้เหม็นเท่านั้น


……


ที่โรงแรมอาซาคุสะ


ชั้นบน


จางเย่เปิดหน้าต่าง นั่งลงริมหน้าต่างด้วยความสงบผ่อนคลาย


เขาเอามือถือออกมา


เริ่มอ่านการ์ตูนต่อ


พลางจิบชาไปด้วย


ขณะเดียวกัน ชั้นล่างยิ่งเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ!


“จางเย่!”


“ข้างบนนั่น!”


“หมอนั่นเอง!”


“เชี่ย ในที่สุดก็เจอมันแล้ว!”


“หมอนั่นยังไม่ออกไป!”


“ไอ้ลูกเต่านั่น!”


“ลงมาเลยนะ แกว่าใครบ้ากัน?”


“แกนั่นแหละบ้า! แกนั่นแหละงี่เง่า!”


“น่าโมโหจริงๆ! โมโหแทบตายแล้ว!”


“แกไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปเลยนะ!”


ประสบการณ์ถูกคนนับพันด่าว่านี้ มีคนเคยได้รับแค่ไม่กี่คน ภาพนี้ยากจะอธิบายออกมาจริงๆ ทั้งหน้าทั้งหลังโรงแรม รวมถึงสามช่วงถนนที่ห่างไป ต่างก็มีผู้คนอยู่แน่นขนัด ตำรวจมาอย่างรวดเร็ว รถตำรวจห้าคันเข้ามาติดๆ แต่ว่านายตำรวจไม่กี่สิบคนนั่นพอเดินลงจากรถก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น ทุกคนต่างสูดลมหายใจลึกเมื่อยืนท่ามกลางฝูงชนที่ก่อเหตุ ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงตะโกนของตนเองขณะที่ฝูงชนผู้เกรี้ยวกราดตะโกนกลบเสียงไปหมด อีกฝ่ายมีคนมากเกินไปแล้ว!


พวกเขาเรียกกำลังเสริมทันที!


แม้แต่ตำรวจยังตื่นตระหนก!


อย่าว่าแต่ในโรงแรม!


นักท่องเที่ยวทั้งสองกลุ่มที่เพิ่งมาถึงก็ต้องชะงักไปกับภาพที่เห็น รถทัวร์ของพวกเขาติดห่างออกไปสามช่วงถนน ไปยังปากทางเข้าโรงแรมยังไม่ได้ด้วยซ้ำ


ไกด์ทัวร์ฉี่แทบราดแล้ว


คนขับก็กลัวจนจะเป็นลม


“นี่มัน…”


“เกิดอะไรขึ้น?”


“มีการชุมนุมอะไรกัน?”


“จะให้เราพักที่นี่ได้ยังไง!”


“ยกเลิกการจอง!”


“ใช่ๆๆ พวกเราพักที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”


“พวกเรามาเที่ยวนะ ไม่ได้มาล้อเล่นกับชีวิต!”


รถบัสทั้งหลายเลี้ยวหัวกลับทันที!


ในโรงแรม


สายโทรศัพท์แทบแตกแล้ว!


“ท่านประธาน กรุ๊ปทัวร์ยกเลิกห้องพักเราครับ!”


“ท่านประธาน กรุ๊ปจากอังกฤษก็ยกเลิกมาครับ!”


“ท่านประธาน มีสายโทรเข้ามาร้องเรียนเราเยอะมากครับ!”


“ทำยังไงดีครับ? ทำยังไงดี?”


ประธานโรงแรมร้องตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “สงบลง ทุกคนสงบลงก่อน! ไม่ต้องกังวล ตำรวจมาแล้ว สถานการณ์ควบคุมได้แล้ว รีบๆ ไปปิดประตู พนักงานหนุ่มๆ แข็งแรงๆ ลงมากั้นประตูไว้ เราจะให้ใครเข้ามาไม่ได้ คนพวกนี้แค่มาโวยวายระบายความโกรธเท่านั้น ไม่กล้าทำอะไรวุ่นวายนักหรอก!”


สถานการณ์ชะงักไป


หนึ่งนาที


ห้านาที


แต่ฝูงชนยังคงมากันอย่างคับคั่ง!


บ้างมาด้วยตนเอง บ้างพาคนออกมาด่าจางเย่ทั้งบ้าน!


มีทั้งรถของสื่อและรถของสถานีโทรทัศน์จอดอยู่ทั่วไปทั้งหมด พอนักข่าวลงมาจากรถก็ต้องตะลึงไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทำงานเป็นนักข่าวมาก็นาน มีชีวิตอยู่มายิ่งนาน นี่ยังเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอภาพแบบนี้ นักข่าวบางส่วนหันมองไปยังจางเย่แล้วก็ต้องเริ่มด่าออกมาเช่นกัน!


ในญี่ปุ่น จางเย่กลายเป็นเป้าการวิจารณ์ของทุกคน!


สื่อญี่ปุ่น


ดาราญี่ปุ่น


ประชาชนญี่ปุ่น


ทุกคนต่างกัดฟันอย่างขุ่นเคือง!


มาอยู่ประเทศเรายังกล้าด่าดาราของเราอีก? ไล่ด่าไปทุกคน? ด่าทั้งวันแล้วยังไม่ยอมจบ? ยังจะต่อวันที่สองอีก? ถึงขั้นด่าเมื่อวานแล้ววันนี้ยังกลับไปด่าซ้ำ?


รับไม่ได้!


ไม่มีใครรับได้!


แต่ว่าคนภายนอกเข้าโรงแรมไม่ได้ ตำรวจขวางอยู่ตรงประตูทางเข้า พนักงานโรงแรมเองก็ขวางเอาไว้ แม้จะมีคนมากทำให้ทุกอย่างวุ่นวาย แต่เรื่องก็ดูเหมือนว่าจะจบลงอย่างเมื่อวาน ทว่าในขณะนั้นเอง จางเย่ซึ่งนั่งที่ริมหน้าต่างก็วางมือถือลง แล้วหันมองพวกเขาเป็นครั้งแรก


จากนั้นก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง


พูดด้วยภาษาญี่ปุ่น


“มีปัญหาก็มาลงที่ผม อย่าไปลงกับโรงแรมเขา!”


พอพูดจบ ประธานโรงแรมก็แทบหัวทิ่ม!


จางเย่!


ถล่มบรรพบุรุษเอ็งสิวะ!


คำพูดนี้ไม่มีที่ติ ทุกคนมาที่นี่ก็เพราะจางเย่ ไม่มีความต้องการจะทำลายโรงแรม แต่พอความตั้งใจดีนี้ออกมาจากปากจางเย่ ก็คล้ายจุดประกายให้กับฝูงชนที่อยู่หน้าโรงแรม ทุกคนร่ำร้องด้วยความขุ่นเคือง!


ปัง!


เสียงดังลั่น!


หินก้อนหนึ่งปาทะลุหน้าต่างโรงแรม เล็งไปที่หน้าต่างที่จางเย่อยู่ แต่เพราะหน้าต่างนั้นสูงเกินไปจนปาไม่ถึง สุดท้ายกลายเป็นหน้าต่างที่ชั้นสามที่แตกลงแทน ห้องนั้นมีคนอยู่ เกิดเสียงกรีดร้องของแขกที่ตกใจดังขึ้นทันที!


ตำรวจยืนงง “หยุด! หยุดนะ!”


เมื่อมีคนนำ คนที่สองที่สามก็ตามมา!


“ปามัน!”


“ปา!”


“ทุกคนจัดการมัน!”


ปัง!


เสียงแตกเป็นครั้งที่สอง!


ครั้งที่สาม!


ครั้งที่สี่!


ทุกคนต่างหยิบของรอบๆ ตัวปาขึ้นไป!


มีคนปาไข่!


มีคนปาอิฐ!


มีคนปาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!


คำพูดของจางเย่ชั่วร้ายมาก เรียกได้ว่าชั่วร้ายเกินไป ทำให้หลายคนที่ไม่คิดจะทำอะไรโรงแรม พอได้ยินเข้าก็ต้องลงมือทันที!


ตูม!


ปัง!


เพล้ง!


โรงแรมกลายเป็นสมรภูมิ


คนนอกต่างร่ำร้องจะกรูกันเข้ามา


แขกในโรงแรมก็ยิ่งแตกตื่นเข้าไปอีก!


“เชี่ย!”


“ใครปารองเท้าเข้ามา!”


“ผายลม! ใครปาผ้าอนามัยมาที่นี่!”


“บัดซบ โยนมาใส่พวกเราทำอะไรน่ะ!”


วุ่นวายใหญ่แล้ว!


วุ่นวายกันไปหมดแล้ว!


พนักงานโรงแรมมีสีหน้าหมดเรี่ยวแรง!


ประธานโรงแรมส่งเสียงร้องก่อนร่วงทรุดลงกับพื้น สีหน้าพรั่นพรึง!


จบแล้ว!


จบเห่แล้ว!



บทที่ 1432 : นักรบแห่งลัทธิจักรวรรดินิยม!

โดย

Ink Stone_Fantasy

 


สองชั่วโมงต่อมา


ในห้องของโรงแรมฝั่งตรงข้าม


เสี่ยวหวังปาดเหงื่อ “พวกเขาไปแล้ว”


เสี่ยวโจวยังอกสั่นขวัญแขวน “ใจเต้นตุบๆ เลย”


เสี่ยวซุนแทบฉี่ราดแล้ว “ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันไม่มาหรอก!”


ฮาฉีฉียิ้มเจื่อน “กลับไปแล้วคงต้องคุยกับฝ่ายบุคคลเรื่องการรับพนักงานใหม่แล้วล่ะ เงื่อนไขแรกคือจิตต้องแข็ง ไม่งั้นถ้าเจอแบบนี้ต่อไปในอนาคต คงไม่ใช่ทุกคนที่จะรับมือกับความเครียดระดับนี้ได้หรอกนะ!”


เสี่ยวหวังเองก็ไม่ทราบจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ปากของผู้กำกับจางนี่ ไม่มีใครเกินแล้วจริงๆ!”


……


ที่โรงแรมอาซาคุสะ


ตอนนี้ฝูงชนพากันไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ความเสียหาย


หลังผ่านความวุ่นวายมาแล้วสภาพของโรงแรมอาซาคุสะก็แทบจำไม่ได้ กำแพงด้านนอกเต็มไปด้วยเพนต์คำด่า ถึงกับยังเหลือเปลือกไข่เน่า หน้าต่างส่วนใหญ่ตั้งแต่ชั้นห้าลงมาก็แตกกระจาย หลายห้องไม่เหลือสิ่งป้องกันจากภายนอก กระจกและประตูหมุนของล็อบบี้เองก็ถูกผู้ประท้วงบุกพังทำลาย ขณะที่พื้นยังย่ำแย่ยิ่งกว่า หิน ถุงพลาสติก เศษกระจก ผ้าอนามัย ไม้เท้า ฝาแก้วเก็บอุณหภูมิ และทุกสิ่งที่จะหาได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตต่างกองเกลื่อนกลาดเต็มพื้น


ประธานร้องไห้แล้ว!


พนักงานของโรงแรมก็ร้องไห้แล้ว!


ขาดทุนไปเท่าไหร่กัน?


อาจจะหลายล้าน!


ถ้ารู้อย่างนี้ ตอนแรกคงไม่ยอมให้หมอนั่นเข้าพักหรอก!


ถ้ารู้อย่างนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้จางเย่เช็กอินเข้าพักเด็ดขาด!


พวกเขาได้ยินชื่อเสียของจางเย่มานาน แต่ก่อนจะได้พบกับตนเองก็คิดว่าข่าวลือเหล่านี้พูดจาเกินเลยไป แต่สุดท้ายกลับพบว่าชื่อเสียของจางเย่ยังเน่าเหม็นยิ่งกว่าที่เห็นในข่าวเสียอีก เจ้าหมอนี่พูดแค่ไม่กี่คำ ก็ทำให้โรงแรมตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว!


นี่มันคนแบบไหนกัน!


นี่มันนักเลงแบบไหนกัน!


ในที่สุดทุกคนก็เกรงกลัวเขาขึ้นมา คราวนี้พวกเขาเกรงกลัวจริงๆ แล้ว!


ถ้าเมื่อก่อนมีคนบอกว่าจางเย่เรียกลมเรียกฝนได้ด้วยฝีปากอย่างเดียวโดยไม่ต้องลงมือ ตีให้ตายก็ไม่มีใครเชื่อ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาได้พบเห็นด้วยตัวเองแล้ว ต่างก็ยอมรับนับถือ ฝีปากอันชั่วร้ายของจางเย่สามารถฆ่าคนตายได้จริงๆ!


ประธานโรงแรมคำรามลั่น “ฉันจะไปต่อยมัน!”


ทุกคนตรงเข้าไปห้ามเขา


“ท่านประธาน!”


“ใจเย็นๆ ครับ!”


“อย่าทำอะไรโง่ๆ!”


ประธานยิ่งร้อง “โรงแรมของฉัน! โรงแรมของฉันนะ!”


ผู้บริหารคร่ำครวญ “ทำไมตำรวจไม่จับมัน!”


มีคนพูดขึ้น “มันนั่นแหละคนบอกให้ผู้ชุมนุมทำลายโรงแรมเรา!”


มีคนลังเลอยู่ครู่ก่อนว่า “ฉันว่าเขาบอกว่าอย่าทำลายโรงแรมเราไม่ใช่เหรอ?”


ทุกคนได้แต่พูดไม่ออก


“บัดซบ!”


“หมอนั่นจงใจหาเรื่องเรา!”


“เราจะทำการค้าต่อไปยังไงกัน?”


“การจองเข้าพักถูกยกเลิกหมดแล้ว!”


“ไม่เหลือการค้าให้เราทำแล้ว!”


“ท่านประธาน หรือเป็นเพราะวารสารพวกนั้น?”


“ท่านประธาน ทำไมเราไม่…วารสารนั่น…”


แค่มีคนเปิดประเด็น ท่านประธานก็ปฏิเสธด้วยความโกรธ “เป็นไปไม่ได้! วารสารพวกนั้นห้ามแตะต้อง! ไอ้คนแซ่จาง! ฉันจะสู้กับมันอย่างเต็มกำลัง!”


ที่โรงแรมอาซาคุสะตอนนี้เหลือแค่เหล่าพนักงานแล้ว พอฝูงชนจากไป แขกทั้งหมดในโรงแรมก็เก็บกระเป๋าเช็กเอาท์ออกไปด้วย บางคนเพิ่งเข้ามาเช็กอิน แต่ก็ขอเช็กเอาท์ไปโดยไม่ต้องการแม้แต่เงินคืน ทุกคนต่างหอบกระเป๋าออกจากโรงแรมอย่างลนลาน ไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว!


ใครจะไปรับได้?


สู้กันประท้วงกันแบบนี้ ถ้ายังอยู่ต่อก็ต้องเสี่ยงชีวิตแล้ว!


มีแขกคนไหนอยากให้ผ้าอนามัยหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปลิวเข้ามาในห้องตอนนอนอยู่บ้าง?


แขกทุกคนจากไปกันหมดแล้ว!


เหลืออยู่แค่ห้องเดียว!


จางเย่ยังไม่ยอมไป!


เขายังอยู่ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นแขกแค่คนเดียวของโรงแรมแห่งนี้!


……


ตอนเที่ยง


เป็นเวลาอาหาร


จางเย่เดินลงมาห้องอาหาร


ห้องอาหารร้างว่างเปล่า ไม่เพียงไม่มีแขก แม้แต่อาหารยังไม่มีเสิร์ฟ!


พนักงานต่างหันมองเขา คิดจะเข้ามากัดเขาให้จมเขี้ยว!


จางเย่ร้องโวย “อาหารล่ะ? บุฟเฟต์ล่ะ?”


ทุกคนแทบกระอักเลือด!


บุฟเฟต์?


แขกทั้งโรงแรมเหลือคุณคนเดียวนี่แหละ!


แม้แต่เชฟยังกลับบ้านไปแล้วเลย!


อีกอย่างเรื่องทั้งหมดนี่ก็ฝีมือคุณทั้งนั้น คนพวกนี้มาก็เพราะคุณ คุณนั่นแหละที่ทำให้โรงแรมเรามีสภาพแบบนี้ ยังกล้าจะลงมาถามหาของกินอีก! ไปตายซะเถอะ!


จางเย่ “รีบๆ เสิร์ฟอาหารสิ”


เหล่าบริกรต่างก็โมโหจนอยากร้องไห้!


พวกเขาต่างยอมอายุสั้นลงสิบปียังดีกว่าให้พูดกับจางเย่นั้น!


อีกด้านหนึ่ง


ประธานโรงแรมเดินมาด้วยโทสะแรงกล้า “ไอ้คนแซ่จาง!”


จางเย่ “อ้อ เถ้าแก่ไม่ใช่รึ?”


ประธานชี้หน้าเขา “อย่าคิดว่าฉันกลัวแก! ฉันกับแกยังไม่จบหรอกนะ! ฉันจะบอกอะไรแกให้นะจางเย่! หนังสือนั่นไม่มีทางเอาออกเด็ดขาด! ไม่แค่นั้น ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะวางหนังสือนั่นเอาไว้สองเล่มทุกห้อง! ไม่สิ สามเล่มเลย! อยู่ได้ก็อยู่ไป! ตามสบายเลย! ฉันอยากเห็นนักว่าแกจะอยู่ได้สักแค่ไหน! ฉันจะดูว่าแกจะยอมไม่กลับประเทศรึเปล่า!” เมื่อโรงแรมเขาโดนทำลาย ประธานก็ไม่เก็บกักความโกรธไว้อีก ต่างเอามาลงใส่จางเย่ทั้งหมด!


จางเย่หัวเราะ “แน่นอน ผมเองก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”


ประธานแค่นเสียง “ฉันจะดูว่าแกยังจะไม่ทำอะไรได้นานแค่ไหน! เก่งจริงก็อย่าไปล่ะ!”


เขาคิดว่าดาราใหญ่อย่างจางเย่คงมีกำหนดการยาวเป็นหางว่าว ยุ่งยิ่งกว่าคนอย่างเขา งานขององค์กรเรียบร้อยแล้ว จางเย่ก็ควรจะกลับบ้านไปในทันที เขายังจะอยู่ที่โรงแรมตลอดไปได้หรือ? ไม่มีเรื่องอื่นให้จัดการแล้วหรือไง?


แต่ว่าดูเหมือนประธานจะไม่รู้จักความดุร้ายของจางเย่


เก่งจริงก็อย่าไปงั้นหรือ?


จางเย่น่ะเก่งขนาดนั้นจริงๆ!


สำหรับเขาแล้ว งานเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เรื่องงานยกเลิกได้ แต่เรื่องต่อยตีไม่ทำไม่ได้!


มีเรื่องย่อมต้องเข้าร่วม!


เข้าร่วมแล้วต้องชนะ!


นี่คือหลักการของจางเย่


ทุกคนรู้ดีว่าท่านประธานโมโหจนแทบบ้าแล้ว จึงกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พนักงานสองคนจึงเข้ามายั้งเขาไว้ ไม่ใช่พวกเขากลัวว่าท่านประธานจะลงมือกับจางเย่ แต่เพราะกลัวจางเย่จะลงมือกับเขาต่างหาก ภาพที่จางเย่ฟาดกระจกรถกันกระสุนของเกาหลีเมื่อหลายวันก่อนเผยแพร่ไปทั่วญี่ปุ่นเช่นกัน พวกเขาจึงกลัวว่าประธานจะถูกฝ่ามือของจางเย่ฉีกเป็นชิ้นๆ!


ไม่นานนักจางเย่ก็เอามือไพล่หลัง เดินออกไปหาของกินนอกโรงแรม


ท่านประธานโมโหจนหอบหายใจ ตวาดลั่น “ไปทำห้องให้มัน วางหนังสือนั่นสักสาม ไม่สิ ห้าเล่มไปเลย! ที่ข้างเตียง ที่โต๊ะหนังสือ ที่ห้องน้ำ วางไว้ให้หมด! ตัดเน็ตมันด้วย ตัดไฟมันด้วย ตัดน้ำมันด้วย! ฉันอยากรู้นักว่ามันยังจะอยู่นี่ได้อีกนานแค่ไหน!”


“ครับ!”


“ได้!”


“รับทราบครับ!”


เหล่าพนักงานเองก็โมโหเช่นกัน!


……


ตอนบ่าย


เมื่อจางเย่กลับห้อง เขาก็ต้องหลุดขำ


หนังสือตัวปัญหาวางอยู่ทุกที่ ทั้งบนโต๊ะบนเตียง ห้องน้ำยังไม่ทำความสะอาด อีกหลายพื้นที่ก็ไม่เก็บกวาด พอพยายามต่อเน็ตก็พบว่าเน็ตถูกตัดไปแล้ว เปิดก๊อกก็ไม่มีน้ำแล้วเหมือนกัน


ได้!


ดีมาก!


นี่แหละถึงจะสนุก!


แบบนี้แหละถึงจะได้ตีกันอย่างมีรสชาติหน่อย!


ถ้าเป็นคนอื่นโดนตัดเน็ตตัดน้ำตัดไฟ? งั้นก็ยอมแพ้เถอะ แต่ว่าจางเย่กลับไม่เหมือนกัน หมอนี่กลับยิ่งสนุกขึ้นมา!


นี่แหละคือนักรบ!


นี่แหละคือสิ่งที่นักรบแห่งลัทธิจักรวรรดินิยมอย่างเขาชอบ!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)