ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1425-1427
บทที่ 1425 : ข่าวใหญ่!
โดย
Ink Stone_Fantasy
วันต่อมา
เช้าวันออกเดินทาง
อู๋เจ๋อชิงทำอาหารเช้า ส่วนแม่ช่วยแพ็กกระเป๋า
“เอาแปรงสีฟันไปรึยัง?”
“ที่โน่นมีน่า ไม่ต้องเอาไปหรอก”
“เอาผ้าเช็ดตัวไปด้วยนะ ของโรงแรมไม่สะอาด”
“ไอ้หยา ไม่ต้องหรอก”
“ทำไมต้องไปหลายวันขนาดนั้น?”
“เฮ้อ แค่อยากไปเที่ยวเอง”
“ไปที่โน่นระวังๆ ด้วยล่ะ”
“รู้แล้วครับแม่ ไม่รู้เหรอว่าผมน่ะเป็นมวยนะ?”
“ใครพูดถึงแกกัน ฉันหมายถึงว่าให้แกคอยระวังให้คนอื่นด้วย อย่าก่อเรื่องอีกเลยนะ ไม่งั้นโดนตำรวจจับแล้วจะกลับมายังไง?”
“ไม่หรอกครับ วางใจเถอะแม่”
“ยังกับว่านิสัยแกมันน่าไว้ใจนักน่ะ!”
“ช่วยดูแลคุณอู๋แทนผมก็พอ”
“ต้องให้แกถามเรอะ? ไปทำเรื่องของแกเถอะ”
กระเป๋าเก็บแล้ว
อาหารเช้าก็ทานแล้ว
จากนั้นจางเย่ลากกระเป๋าออกจากบ้านไป
ตรงทางเข้าบ้าน หยางซูขับรถพาฮาฉีฉี เสี่ยวหวังและคนอื่นๆ มารอข้างนอกแล้ว เสี่ยวซุนกุลีกุจอลงจากรถมาช่วยเขายกกระเป๋า ก่อนจางเย่จะเปิดประตูขึ้นรถ
รถขยับ
ฮาฉีฉียิ้มเจื่อน “คุณไม่ได้บอกที่บ้านใช่ไหมคะว่าพักที่ไหน?”
จางเย่ยักไหล่ “ไม่บอกหรอก”
เสี่ยวหวัง “ทำไมคุณถึงยืนยันจะพักที่อาซาคุสะกันละคะ?”
เสี่ยวโจว “นั่นสิคะ ทุกคนกำลังรุมด่าที่นั่นอยู่ มีแต่คนหลบเลี่ยง”
จางเย่หัวเราะ “โรงแรมนั่นฉันว่าก็ดีอยู่นะ”
เสี่ยวหวัง “พรืด “ดีตรงไหนกันคะเนี่ย?”
ทว่าจางเย่กลับไม่อธิบายสักคำ
พวกเขาขับมาถึงสนามบิน ลงจากรถ เช็กอิน ผ่านระบบตรวจรักษาความปลอดภัย และขึ้นเครื่องบินไป
……
บนเครื่องบิน
ทุกคนคุยกันเรื่องมังงะ
จะส่งต้นฉบับอย่างไร
จะทำงานอย่างไร
จะปกปิดตัวตนอย่างไร
เพราะนี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของทริปนี้
……
เครื่องบินลงจดแล้ว
ที่สนามบินโตเกียว
เสี่ยวหวังกับเสี่ยวโจวเพิ่งเคยมาประเทศนี้ครั้งแรก พวกเธอมองสนามบินด้วยความประหลาดใจ
ทันใดเสี่ยวหวังก็ชี้ “เขามารับพวกเราใช่ไหม?”
ทุกคนมองไป ใช่แล้ว เป็นป้ายต้อนรับที่มีชื่อพวกเขาอยู่บนนั้น
คนจากกาชาดเอเชียที่มารับจางเย่และทีมงานที่สนามบิน นกลับเป็นฉีหัวหัวที่จางเย่เคยได้พบแล้วครั้งหนึ่ง ฉีหัวหัวเป็นสตรีวัยเลขสาม รูปร่างท้วมเล็กน้อย หน้าตาดูเป็นมิตรอย่างยิ่ง ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้ทำงานการกุศล ต้องไม่มีใครอยากเชื่อแน่นอน
ฉีหัวหัวยื่นมือออกมา “อาจารย์จาง เป็นยังไงบ้างคะ?”
จางเย่จับมือกับเธอ “เจ๊ฉี ไม่ต้องมารับผมด้วยตนเองแบบนี้ก็ได้มั้งครับ”
ฉีหัวหัวยิ้ม “มีคนรู้กำหนดการเดินทางของคุณหลายคน ฉันมารับคุณก็เพราะเป็นห่วงเรื่องนี้แหละค่ะ”
ฮาฉีฉีชะงักไป เธอไม่เข้าใจว่ามีอะไรน่าเป็นกังวลถ้ามีคนรู้เรื่องหมายกำหนดการของจางเย่ ทว่าชั่วขณะเองทุกคนก็เข้าใจแล้ว
ไม่ห่างไปนัก
มีชาวญี่ปุ่นหลายสิบคนตะโกนขึ้นกะทันหัน
“จางเย่!”
“ตรงนั้น!”
“หมอนั่นไง!”
“ไอ้นักเลงนั่น!”
“ออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”
“ออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”
“ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”
“ถุย ใครอนุญาตให้แกมาที่นี่!”
“ไสหัวกลับประเทศจีนไปซะ!”
ทั้งกลุ่มก่อความวุ่นวาย
บางคนถึงขั้นถือป้ายคำด่าเป็นภาษาจีน
เมื่อมีความวุ่นวายเช่นนี้ คนที่ผ่านไปผ่านมาไม่น้อยต่างหยุดยืนมอง
“นั่นจางเย่จริงรึ?”
“นั่นเขา?”
“แม่ง ยังกล้ามานี่อีก?”
“ไอ้ลูกเต่านั่น!”
สุดท้าย คนญี่ปุ่นคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาเพราะจางเย่ ต่างก็ร่วมขบวนออกมาด่าเขาไปด้วย
แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในเอเชีย คนญี่ปุ่นกลับไม่สนใจเรื่องโรงแรมอาซาคุสะมากนัก หลายคนไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำเพราะทางนี้ไม่ได้มีกระแสอะไร ยังคงเล่นเรื่องบอยคอตจางเย่ ไม่ว่าจะเป็นการด่าของจางเย่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เหตุการณ์ ‘แดงทั่วธาร’ หรือเรื่องของคิมูระ คาสึยะถูกส่งกลับญี่ปุ่นทำให้ทุกคนเก็บความโกรธไว้เต็มอก เดือนนี้ทั้งเดือน มีวันไหนบ้างที่พวกเขาไม่ได้ด่าจางเย่? แต่ไอ้หมอนี่กลับมีชื่อเสียงในระดับทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนยิ่งโมโหแทบตาย มาบัดนี้จางเย่มาญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นทั้งหลายจึงตรงเข้ามาด่าเขา!
ฮาฉีฉีกันคนอื่นๆ ระมัดระวังตัว
เสี่ยวหวังเสี่ยวโจวเข้าไปยืนใกล้หยางซู รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
ฉีหัวหัวจนปัญญา “ดูเหมือนว่า ‘ชื่อเสียง’ ของคุณจะดังไม่น้อยนะคะ”
จางเย่หัวเราะ พูดอย่างเยือกเย็น “ตอนอยู่ที่จีนก็ไม่เคยมีคนมาต้อนรับขนาดนี้ ผมไม่คิดเลยว่ามาญี่ปุ่นจะมีคนมาคอยรอรับผมด้วย”
ทีมงานขององค์กรฯ ได้ยินดังนั้น ก็เหลือบมองจางเย่อีกแวบหนึ่ง นี่คือทูตสันถวไมตรีคนใหม่ของพวกเขา? หลายคนเพิ่งเคยพบหน้าจางเย่เป็นครั้งแรก
สมเป็นชื่อในตำนาน!
อาจารย์จางเย่คนนี้ใจกว้างจริงๆ!
โดนคนด่าขนาดนี้ยังมีอารมณ์ขันได้อีก?
ฉีหัวหัว “งั้นไปกันเลยไหมคะ”
จางเย่ “ได้ครับ”
ทางสนามบินเองก็จัดตำรวจมาคุ้มกันพวกเขา
ไม่ใช่เพราะทางตำรวจญี่ปุ่นยินดีกระทำ เพียงแต่นี่เป็นหน้าที่ของพวกเขาเท่านั้น
บนรถ
ฉีหัวหัวกล่าว “เปลี่ยนโรงแรมตอนนี้ยังไม่สายนะคะ”
จางเย่หัวเราะ “ไม่ต้องหรอกครับ”
ฉีหัวหัวผายมือ “เอาเถอะค่ะ แต่ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคุณคิดอะไร”
ระหว่างทาง ทุกคนต่างได้ชมภาพวิวทิวทัศน์ที่เรียบง่ายของญี่ปุ่น
รถมาถึงโรงแรมก็บ่ายแล้ว หลังรถจอด ฉีหัวหัวก็ว่า “ฉันจะจอดให้พวกคุณลงที่นี่นะคะ ที่เหลือเสี่ยวเหยียนจะช่วยคุณจัดการเช็กอิน”
แต่จางเย่ว่า “ไม่ต้องครับ ผมจัดการเองได้”
ฉีหัวหัวครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ได้ค่ะ แต่มีนักข่าวเยอะหน่อยนะคะ ความขัดแย้งก็ไม่น้อย ระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้เลยค่ะ”
จางเย่ยิ้ม “ลำบากเจ๊ฉีหน่อยนะครับ”
ฉีหัวหัว “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ”
จางเย่และพวกลงจากรถ มองพวกเขาขับจากไป
ฮาฉีฉีมองโรงแรมอาซาคุสะฝั่งตรงข้าม “ที่นี่เองเหรอ?”
เสี่ยวหวังแค่นเสียง “ดูใหญ่โตไม่น้อยนะ”
เสี่ยวซุน “ผู้กำกับจาง งั้นพวกเราล่ะครับ?”
จางเย่ยิ้ม “พวกนายเข้าไปเช็กอินก่อนได้เลย”
เสี่ยวโจว “อย่าสิคะ พวกเราจะไปกับคุณก่อน”
จางเย่ “ไม่ต้องหรอก ฉันจะพักที่นี่หลายวัน อยากไปทำอะไรก็ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องคอยมาดูแลฉันด้วย เราจะติดต่อกันทางมือถือเท่านั้น”
ฮาฉีฉี “หา?”
จางเย่ “เอาตามนี้ล่ะ”
เสี่ยวหวัง “แต่ว่า…”
จางเย่ “เสี่ยวหยาง ดูแลทุกคนด้วยนะ”
หยางซูพยักหน้า “วางใจเถอะค่ะศิษย์พี่!”
พูดจบ จางเย่ก็ลากกระเป๋าตนเองข้ามทางม้าลายไปคนเดียว
เสี่ยวโจวยังคงตะลึงไม่หาย “ผู้กำกับจางคนเดียวจะจัดการไหวเหรอคะ?”
ฮาฉีฉียิ้มขื่น “ยังไงก็เถอะ ไม่ต้องห่วงเขาหรอก ฉันแน่ใจว่าเขามีแผนอยู่แล้วล่ะ”
พวกเธอไม่ได้จองโรงแรมอาซาคุสะ แต่พักที่โรงแรมฝั่งตรงข้าม พอหมุนตัวก็เจอกับโรงแรมให้เข้าไปเช็กอินแล้ว ส่วนจางเย่วางแผนจะทำอะไร พวกเธอไม่ทราบ ทั้งยังเดาอะไรไม่ออกด้วย
……
ที่ล็อบบี้หลัก โรงแรมอาซาคุสะ
จางเย่เดินเข้ามาช้าๆ ก่อนจะพบว่าหน้าเคาน์เตอร์คิวยาวไม่น้อย ดูเหมือนการค้าของที่นี่จะคึกคัก ไม่ได้รับผลกระทบจากการก่นด่าของชาวจีนเลยสักนิด เขาเข้าไปต่อแถว สองสามนาทีให้หลังก็ถึงคิวตนเอง เขาวางเอกสารและพาสปอร์ตที่เคาน์เตอร์
รีเซปชันหญิงต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ”
“เช็กอินเข้าพักนะคะ?”
“ครับ”
“รอสักครู่นะคะ”
เมื่อรีเซปชันหญิงพูดจบ เธอก็มองเขาอีกหลายแวบ ก่อนพบว่าดูคุ้นตาไม่น้อย ทว่าเธอก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งเปิดพาสปอร์ตของจางเย่ เธอก็ต้องตะลึง!
อะไรนะ?
จางเย่?
สตาร์คิงของจีนคนนั้น?
รีเซปชันหญิงคนนั้นเงยหน้าถึง ถามเป็นภาษาอังกฤษ “คุณจะเช็กอินจริงๆ เหรอคะ?”
จางเย่ยิ้มตอบ “เยส”
พนักงานหญิงตาค้าง “แน่ใจนะคะว่าไม่ได้มาผิดโรงแรม? ที่นี่คือโรงแรมอาซาคุสะนะคะ”
จางเย่ “ผมทราบครับ พักที่นี่นี่แหละ”
พนักงานคนนั้นเช็กรายชื่อที่จองไว้ ก่อนจะตะลึงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ชื่อที่น่าสะพรึงของจางเย่จองไว้ที่นี่จริงๆ นี่หมายความว่าอย่างไร? ทำไมมาพักกับเราล่ะ? ไม่เห็นข่าวเหรอ? ทว่าเธอก็ไม่ได้หยุดมือ รีบดำเนินการเช็กอินให้จางเย่ ทั้งยังแจ้งประธานบริษัทในเวลาเดียวกัน
……
ชั้นบน
ในห้องทำงาน
เจ้าของโรงแรมได้รับข่าวแล้ว
“จางเย่เช็กอินที่โรงแรมเราเหรอ?”
“ครับท่านประธาน”
“เขามาที่นี่ทำไมกัน?”
“ทางองค์กรกาชาดแห่งเอเชียจองมาครับ”
“ยกเลิกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ยกเลิกแล้วครับ แต่ยกเว้นจางเย่คนเดียว”
“มีแต่เขาที่เข้าพัก?”
“ครับ”
“กี่วัน?”
“จองไว้สิบวันครับ”
“หมอนั่นบ้ารึเปล่า?”
“ท่านประธาน ชื่อเสียงเขาในญี่ปุ่นเราย่ำแย่มาก ทุกคนกำลังก่นด่าเขา เราควรปฏิเสธการจองของเขารึเปล่าครับ?”
“ฮ่าๆ งั้นก็ปล่อยเขาพักไปเถอะ ฉันกังวลอยู่เลยว่าจะโฆษณาต่อไปได้ยังไง มีเรื่องนี้แล้วเขายังจะพักที่อาซาคุสะเราอีก? นั่นหมายความว่าเขามีความเชื่อมั่นต่อเราอย่างยิ่ง! เรื่องนี้ยิ่งแสดงให้คนจีนกับเกาหลีได้เห็น! จะบอยคอตไม่ใช่เหรอ? จะยกเลิกการเข้าพักงั้นรึ? ดูสิ! ขนาดตอนนี้ก็ยังมีคนมา! แถมยังเป็นคนใหญ่คนโตในทวีปเอเชียด้วย! นี่เป็นโฆษณาฟรีๆ เห็นๆ!”
“จริงด้วยครับ!”
……
การเข้าพักของจางเย่ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว
แต่ความจริงแล้วตั้งแต่เขาเดินเข้ามาก็มีชาวต่างชาติไม่น้อยที่จำเขาได้
“หือ!”
“นั่น นั่นจางเย่นี่?”
“เขามาทำไมน่ะ?”
“งานประกาศรางวัลสื่อเพื่อสังคมรึเปล่า?”
“แต่ทำไมเขาเข้าพักที่นี่ล่ะ?”
“เร็ว รีบเขียนข่าวเถอะ!”
“ข่าวใหญ่แล้ว!”
บทที่ 1426 : ข้อเรียกร้องสองประการของจางเย่!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ที่โรงแรม
ชั้นบน
ลิฟต์หยุดลงพร้อมเสียงสัญญาณ
มีเสียงคุยจากแขกชาวญี่ปุ่นใกล้ๆ ดังเป็นระยะๆ
“อ่านนิตยสารนั่นรึยัง?”
“อ่านแล้ว”
“ฮ่าๆ ประธานโรงแรมช่างกล้าพูดออกมาจริงๆ”
“ฉันชอบเขานะ”
“ฉันด้วย ถึงได้เลือกมาพักที่นี่ไง”
“ใช่ คนอื่นๆ ก็คิดเหมือนกัน”
“ช่างกล้าพูดอะไรแบบนี้ หวังว่าประธานโรงแรมนั่นจะกล้ายืนหยัดต่อนะ”
“ใช่ คนในประเทศรวมถึงองค์กรหลายแห่งก็สนับสนุนเหมือนกัน”
“โรงแรมอาซาคุสะกำลังจะดังใหญ่แล้ว”
เมื่อก่อนจางเย่ไม่มีทางเข้าใจคำพูดเหล่านี้แน่ แต่ว่าหลังจาก ‘กิน’ หนังสือทักษะภาษาญี่ปุ่นเข้าไป เขายังถึงกับเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นด้วย จางเย่ยิ้มน้อยๆ ขณะลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปที่ห้องก่อนไขกุญแจ
พอกวาดตามอง โรงแรมนี้ก็คล้ายๆ กับโรงแรมติดดาวทั่วๆ ไปในประเทศ การตกแต่งเองก็แตกต่างกันน้อยมาก แม้ว่าเขาจะจองห้องใหญ่แล้ว พื้นที่ภายในก็ยังค่อนข้างแคบ แต่เรื่องนี้เขาไม่คิดมาก จางเย่ปิดประตู วางกระเป๋าเดินทางก่อนเดินสำรวจห้อง
ห้องน้ำ
ห้องนอน
และที่ใต้โคมไฟที่ชัดเจนที่สุด จางเย่เห็นหนังสือเล่มหนึ่ง เขาก้มตัวลงหยิบขึ้นมา พลิกอ่านคร่าวๆ…นี่เอง
เนื้อหาช่างน่าชังจริงๆ
ผายลมทั้งนั้น
พอจางเย่ยืนยันได้แล้วเขาก็จัดกระเป๋า
ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า รองเท้า เขาเอาออกมาทั้งหมด
ดูจากท่าที เขาก็เป็นเหมือนแขกคนอื่นๆ ที่มาพักในโรงแรม ความจริงแล้วยังปกติยิ่งกว่าแขกทั่วๆ ไปเสียอีก!
……
อีกด้านหนึ่ง
ที่เมืองจีน
ชั่วขณะนั้น กระแสใหญ่โตก็พัดฮือขึ้น!
‘ประธานโรงแรมอาซาคุสะออกความเห็นที่น่าชังอีกครั้ง!’
‘เจ้าหน้าที่รัฐแสดงการสนับสนุน!’
‘ประชาชนญี่ปุ่นส่งจดหมายสนับสนุนนับพันฉบับ!’
‘อัปเดตล่าสุด! จางเย่เข้าพักที่โรงแรมอาซาคุสะ!’
‘จางเย่เดินทางไปญี่ปุ่น เข้าพักโรงแรมตัวปัญหา!’
‘นักข่าวในพื้นที่รายงาน ยืนยันว่าเป็นจางเย่!’
‘ทำไมจางเย่เลือกพักที่นั่น?’
ทันทีที่ข่าวออกมาก็เป็นกระแสที่จีนอย่างรวดเร็ว!
มือถือของจางเย่มีคนกระหน่ำโทรหาทันที!
……
แม่โทรมาแล้ว!
“แม่ ผมถึงแล้ว ลงจากเครื่องแล้วก็เช็กอินแล้ว แหะๆ ลืมบอกแม่เลย”
“แกพักที่ไหน?”
“ทำไมเหรอ?”
“พักที่โรงแรมอาซาคุสะเรอะ?”
“เอ๋ ทำไมข่าวแม่ไวจัง?”
“ไวกะผีน่ะสิ! เป็นข่าวดังทั่วประเทศแล้ว!”
“จริงเหรอ?”
“ไปพักที่นั่นทำไม! ไม่กี่ชั่วโมงก่อนฉันยังบอกแกว่าอย่าไปหาเรื่อง แล้วดูตอนนี้สิ! เพิ่งไปถึงก็สร้างเรื่องแล้วงั้นเรอะ?”
……
จางเสียโทรมา!
“ย่าจางครับ”
“เธอทำอะไรของเธอน่ะ?”
“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ไม่มีอะไรแต่เธอพักที่อาซาคุสะ? นั่นน่ะต้นตอของความวุ่นวายเลยนะ จงใจให้คนนินทาใช่ไหม?”
“เปล่านะครับ”
“เธอนี่นะ กล้าเกินคนแล้วจริงๆ”
……
แม้แต่หนิงหลันก็โทรมา!
“เหล่าหนิง มีอะไร?”
“เช็กเอาท์เดี๋ยวนี้นะ!”
“ผมเพิ่งเช็กอินเอง ทำไมต้องเช็กเอาท์ล่ะ?”
“ไม่เห็นข่าวรึยังไง?”
“เห็นแล้ว”
“เห็นแล้วยังกล้าเข้าพักอีกเนี่ยนะ?”
“ฮ่าๆ แล้วทำไมผมต้องไม่กล้าด้วยล่ะ?”
……
ฉีเหม่ยหลันก็ยังโทรมา!
“จางเอ้อร์ จะทำอะไรน่ะ?”
“ไม่ได้ทำอะไรนะ”
“ทุกคนเรียกร้องให้บอยคอตโรงแรมนั้น เธอกลับจะพักที่นั่นงั้นเหรอ? หรือเป็นทางกาชาดฯ จองไว้? แล้วเธอยกเลิกไม่ได้รึไง? ไปจองที่อื่นเองสิ!”
“ก็มันยุ่งยากนี่นา”
“เธอ…”
……
ทางเกาหลีเองก็เริ่มด่าแล้วเหมือนกัน
มีแต่เสียงวิจารณ์จางเย่ว่อนเน็ต
“ไอ้โง่นั่น!”
“ทำไมยังจะไปพักที่นั่นอีก?”
“น่าโมโหจริงๆ!”
“หมอนั่นจะทำอะไรของมันน่ะ?”
“ทางจีนวุ่นวายแล้ว ดาราเองก็ก้าวออกมาบอยคอตแสดงจุดยืนแล้ว แต่เขาเป็นคนเดียวที่ไม่ก้าวออกมา? แถมยังจะไปพักที่นั่นอีก?”
“จะเป็นลม! ไอ้หมาโง่นั่น!”
……
ชาวเน็ตจีนเองก็พูดไม่ออกเช่นกัน
“น้องสาวเอ็งสิอาจารย์จาง!”
“จางแหยเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? ไอ้หมอนั่นเดี๋ยวๆ ก็เป็นบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้!”
“ฉันขอคารวะจางเย่จริงๆ ทำไมถึงหาเรื่องขนาดนี้ได้เนี่ย?”
“อย่าคารวะได้ไหม? เวลาแบบนี้มีดาราจีนคนไหนไม่เลี่ยงที่นั่นบ้าง? หมอนั่นไม่เพียงแต่ไม่หลบ ยังเดินเข้าไปถึงหน้าบ้านอีกฝ่าย? แถมยังพักที่บ้านเขาอีก?”
“จางเย่ไม่เคยทำอะไรตามเหตุผลอยู่แล้ว”
“แต่นี่มันจะไม่มีเหตุผลเกินไปแล้วไหม หมอนั่นไปพักที่นั่นทำอะไรกัน?”
“เรื่องก่อความวุ่นวายน่ะ ถ้าจางเย่บอกว่าตัวเองเป็นเบอร์สอง งั้นแม่งก็ไม่มีใครกล้าเป็นเบอร์หนึ่งแล้ว หมอนั่นเพิ่งก่อเรื่องที่เกาหลีมาหมาดๆ ก็ไปสร้างข่าวที่ญี่ปุ่นอีก? ไปที่ไหนไม่เคยสงบสักที่! ตัวก่อเรื่องโดยกำเนิดจริงๆ ใต้หล้าวุ่นวายเพราะเขานั่นแหละ!”
“อาจารย์จาง รีบๆ หยุดก่อเรื่องเถอะน่า!”
“ปู่เอ็งสิอาจารย์จาง!”
“รีบๆ เช็กเอาท์ออกมาเร็ว พวกเรายังร่วมมือกันได้นะ!”
ไม่มีใครรู้ว่าจางเย่จะทำอะไร!
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเล่นอะไรอยู่!
แม้แต่เพื่อนและญาติๆ ของจางเย่ยังต้องตะลึงเมื่อได้ยินข่าวนี้ พวกเขาต่างรู้ว่านี่ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่คือจางเย่ นี่คือคนคลั่งชาติที่ต่อยตีกับคนอื่นไม่ว่างเว้น ทั้งยังก่อความวุ่นวายโดยไม่มีมูลได้ด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องในคราวนี้ยังค่อนข้างใหญ่โต แต่จางเย่กลับไม่ออกมาพูดหรือก่นด่าใครในเน็ต ทั้งยังไม่ออกมาเรียกหาอีกฝ่าย ถึงขั้นไปพักโรงแรมนั้นด้วยซ้ำ เรื่องนี้ผิดปกติเกินไป ไร้เหตุผลเกินไป หมอนี่คงไม่คิดจะทำอะไรที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินอีกหรอกนะ?
……
โตเกียว
โรงแรมอาซาคุสะ
ที่ห้องอาหารชั้นสอง
คนญี่ปุ่นจำนวนมากมากินข้าว ประธานโรงแรมก็แวะเข้ามา ทำให้หลายคนหันมองเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมทักทาย
“ท่านประธาน พวกเราหนุนหลังคุณนะ!”
“ทำดีมาก!”
“ใช่ คุณต้องยืนหยัดในเรื่องนี้!”
“พวกเราจะเชียร์คุณ”
“คุณเป็นวีรบุรุษแห่งชาติ!”
พวกเขาถึงขั้นเรียกเป็นวีรบุรุษแห่งชาติแล้ว
ประธานโรงแรมเองก็เดินอย่างตัวลอย
แล้วทันใดนั้นเองก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งโต๋เต๋เข้ามาที่ร้าน หาที่นั่งแล้วสั่งอาหาร
ทุกคนจำเขาได้
“หมอนั่นดูคุ้นๆ นะ?”
“จางเย่รึเปล่า?”
“เชี่ย หมอนั่นจริงๆ!”
“อะไรนะ? กล้าพักที่นี่จริงเรอะ?”
“เกิดบ้าอะไรขึ้น? ทำไมเขากล้าอยู่นี่ล่ะ?”
ทุกคนตกตะลึง!
ประธานคนนั้นมองจางเย่ แล้วเมินอีกฝ่าย เขาพูดคุยกับคนอื่นๆ ต่อขณะแวะทักทายทีละโต๊ะ แต่ขณะที่เขาเดินผ่านโต๊ะของจางเย่ ภาษาญี่ปุ่นประโยคหนึ่งก็ทำให้เขาต้องชะงักเท้า
จางเย่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น “มีสองเรื่อง”
ประธานโรงแรมนั้นอ้าปากค้าง “คุณรู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยหรือ?”
จางเย่กินอาหารคำหนึ่ง เคี้ยวไปก็พูดไปด้วย “หนึ่ง ทำลายหนังสือที่เป็นปัญหาซะ”
ประธานบริษัทคนนั้นหน้าเครียด
จางเย่กินอีกคำหนึ่ง “สอง กล่าวขอโทษต่อสาธารณชน”
ประธานคนนั้นยิ่งมองเขาอย่างเคร่งเครียดขึ้น
ก่อนจางเย่จะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ง่ายๆ ใช่ไหม?”
ประธานคนนั้นแค่นเสียง “เป็นไปไม่ได้!”
แต่จางเย่พูดอย่างเยือกเย็น “ลองคิดดูเถอะ ผมให้เวลาคุณหนึ่งวัน ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอะไร คุณก็เตรียมรับผลการกระทำเถอะ”
ผลการกระทำ?
ยังจะมีผลอะไรได้?
ให้เวลาฉันหนึ่งวัน?
แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?
ประธานโรงแรมไม่ได้สนใจ พวกดาราญี่ปุ่นสนใจจางเย่เพราะพวกเขาก็เป็นศิลปิน เพราะพวกเขาสนใจที่จะขยับขยายไปเติบโตในตลาดจีน แต่โรงแรมนี้ไม่คิดจะรุกเข้าตลาดจีนอยู่แล้ว ดังนั้นข่มขู่ไปจะได้อะไร? คิดว่าพวกเขาจะกลัว? คิดว่าตัวเองสำคัญนักหรือ? อีกอย่าง ไม่รู้เหรอว่าที่นี่เป็นที่ไหนกัน? นี่ไม่ใช่ประเทศจีน! ไม่ใช่พื้นที่ของแก! แต่คือญี่ปุ่น! นี่คือโรงแรมอาซาคุสะ!
ประธานคนนั้นมองจางเย่ด้วยสายตาเย็นชา “ได้ ผมจะคอยดู!”
จางเย่จ้องเขาเขม็ง “ผมแนะนำคุณอย่างจริงจังนะ ลองคิดทบทวนให้ดี”
ประธานคนนั้นกลับรู้สึกขำ “ไม่จำเป็น!”
จางเย่ยิ้มแล้วกินต่อ “งั้นก็ช่างเถอะ”
ไม่มีใครได้ยินการสนทนาของทั้งสอง ทุกคนเห็นเพียงพวกเขาคุยอะไรกันบางอย่าง
พอกินเสร็จ จางเย่ก็เช็ดปาก เดินออกจากห้องอาหารขึ้นลิฟต์กลับชั้นบน
เขามาที่โรงแรมอาซาคุสะทำไม?
แน่นอนว่าไม่ได้มาเที่ยวอยู่แล้ว
ไม่ด่าคน?
ไม่ส่งเสียง?
ไม่แสดงท่าที?
เพราะจางเย่ไม่จำเป็นต้องทำ!
เพราะแต่ไหนแต่ไร เขาก็ปล่อยให้การกระทำส่งเสียงด้วยตนเอง!
บทที่ 1427 : แผนร้ายของจางเย่!
โดย
Ink Stone_Fantasy
เช้าวันต่อมา
รถของกาชาดฯ มารับเขาที่โรงแรม
จางเย่เก็บกระเป๋า เดินทางไปยังสถานที่จัดงานมอบรางวัล
ครั้งนี้เป็นการมอบรางวัลภายใน ไม่มีสื่อแม้แต่ที่เดียว หลังจากนั้นเป็นพิธีแสดงความขอบคุณก่อนเป็นการร่วมรับประทานอาหารเที่ยง
สองชั่วโมงให้หลังก็จบงาน
เมื่อเสร็จจากงานแล้ว จางเย่ก็กลับไปทางเดิม
……
ตอนบ่ายวันนั้น
ที่โรงแรมอาซาคุสะ
จางเย่เพิ่งกลับมาถึงก็มีสายโทรเข้ามาจากฮาฉีฉี
“ผู้กำกับจาง”
“ครับ?”
“งานเสร็จแล้วเหรอคะ?”
“เรียบร้อยแล้ว”
“ราบรื่นดีไหมคะ?”
“ฮ่าๆ แน่นอนสิ”
“เห็นข่าวในประเทศเรารึยังคะ?”
“เห็นแล้ว”
“ทุกคนรู้หมดแล้วว่าคุณพักที่อาซาคุสะ คราวนี้จะทำยังไงดีคะ?”
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก อ้อ เหล่าฮา ใบยืนยันตัวตนที่ผมให้คุณจัดการ เสร็จรึยัง?”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ได้มาแล้ว”
“โอเค”
“คุณจะทำอะไรรึคะ?”
“ฮ่าๆ ผมก็ต้องมีแผนจะใช้งานน่ะสิ”
พอวางสาย จางเย่ก็มองไปรอบห้อง เมื่อเดินกลับไปในห้องนอนก็พบว่าผ้าปูถูกปูใหม่เรียบร้อย วารสารฉบับนั้นก็กลับไปยังตำแหน่งเดิม ไม่คิดจะเอาออก จางเย่ยิ้ม ไม่เกินความคาดหมายนัก เขามองอยู่แวบหนึ่งก็ตรงเข้าห้องน้ำ เติมอ่างน้ำก่อนถอดเสื้อผ้าลงแช่ หลับตาลง ฮัมเพลงเบาๆ ขณะแช่น้ำอุ่น
ขณะเดียวกัน
ที่ชั้นบนของโรงแรม
เหล่าผู้บริหารต่างประชุมกัน
“ท่านประธาน เขาพูดแบบนั้นจริงเหรอ?”
“ไอ้ดาราจีนนี่จะผยองเกินไปแล้ว!”
“ฮ่าๆๆ พวกเรายังจะกลัวเขาอีกเหรอ?”
“ฉันอยากเห็นนักว่าผลแบบไหนที่เขาหมายถึง!”
“จะครบวันแล้ว? เขายังไม่ลงมืออะไรเลย!”
“เหอะๆ หมอนั่นยังจะทำอะไรได้? คิดว่าเขาจะพังโรงแรมเรางั้นเรอะ? โม้ทั้งนั้น! ถ้ากล้าทำตำรวจก็ซิวเขาไปแล้ว!”
“วงการบันเทิงเอเชียว่าไอ้หมอนี่อย่างนั้นอย่างนี้ ยังจะร้ายกาจแค่ไหนกันเชียว ดูเหมือนจะยกยอเขาเป็นเทพเซียนไปแล้ว โม้จนเขาดัง ก็แค่ศิลปินคนเดียว ตอนนี้ยังอยู่ในญี่ปุ่นของเรา หมอนั่นยังจะวางแผนอะไรได้อีก? ฝันไปเถอะ! ถ้าเป็นที่จีน เขาอาจจะสามารถระดมคนมาล้อมโรงแรมเรา หรือเรียกร้องให้บอยคอตเราได้ ถ้าอย่างนั้นละก็ฉันเชื่อว่าเขามีอิทธิพลจริง ฉันจะขอโทษเขาทันทีเลยด้วยซ้ำ! แต่นี่มันญี่ปุ่นนะ! จะระดมคนก็ระดมไปสิ! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนตอบสนอง! ฮ่าๆๆ! ถ้ามีสักสิบคนฉันจะยอมคุกเข่าคารวะเลย!”
“ไม่ต้องสิบหรอก ห้าคนก็ยอมแล้ว!”
“ฮ่าๆๆๆ แค่สามฉันก็ยอมแล้ว!”
“มาสามมาห้าอะไรกัน? แค่คนเดียวยังต้องนับว่าเขามีความสามารถแล้วเลย!”
เหล่าผู้บริหารคุยกันไปก็หัวเราะไป
แต่ขณะนั้นเอง
ในห้องด้านล่าง จางเย่อาบน้ำเสร็จแล้ว เขาเดินไปนั่งบนโซฟา เอาโน้ตบุ๊กออกมา นั่งขัดสมาธิ ทำสิ่งที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง เขาไม่ได้ทำลายโรงแรม ไม่ได้หาเรื่องพนักงาน เขาเพียงแต่ล็อกอินลงในเว็บไซต์ที่เขามีไอดียืนยันตัวตน ปรากฏตัวบนโซเชียลเน็ตเวิร์กของญี่ปุ่นที่ไม่ต่างไปจากเวยป๋อของจีน ดาราและภาครัฐต่างก็อัปเดตข้อมูลลงที่นี่
บนนั้นยังมีคนญี่ปุ่นหลายคนมาด่าเขา
การประณามจางเย่เช่นนี้เกิดขึ้นมาหลายวันแล้ว
“เห็นว่าเขามาที่ญี่ปุ่นแล้ว!”
“ใช่ ได้รางวัลด้วย!”
“แค่เห็นมันฉันก็โกรธแล้ว!”
“ใครให้ไอ้ศิลปินฉาวโฉ่นี่ข้ามฝั่งมาบ้านเรากัน? แล้วยังจะได้รางวัลอีก?”
“อย่าให้รู้นะว่ามันพักที่ไหน! ฉันต้องแก้แค้นให้อาจารย์คิมูระ คาสึยะแน่!”
“ใช่ เราจะไม่ยอมอยู่เฉยหรอกนะ!”
“หมอนั่นมันมะเร็งในวงการบันเทิงเอเชียชัดๆ!”
“แย่หน่อยที่เราหาที่อยู่มันไม่เจอ ไม่งั้นแค่ทุกคนถ่มน้ำลายใส่มันก็ต้องจมน้ำตายแล้ว!”
ทางนี้นั้น จางเย่เป็นเหมือนบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด มีเสียงก่นด่าทั่วไป คนญี่ปุ่นยังคงโกรธแค้นจางเย่อย่างลึกล้ำ ‘ชื่อเสียง’ ของเขานั้นสูงส่งยิ่ง
จางเย่เริ่มพิมพ์
……
ยามาชิตะ ทาเคนาโอะ
ดาราระดับ A ของญี่ปุ่น
ขณะนั้นเขากำลังโพสต์กิจกรรมสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เขาแสดง ผู้คนต่างรอคอยใจจดใจจ่อ อวยพรให้เขาได้ขึ้นบ็อกซ์ออฟฟิศ บรรยากาศช่างครึกครื้นอย่างยิ่ง
ทันใดก็มีเสียงขัด
จางเย่คอมเมนต์ “คุณบ้ารึเปล่าน่ะ?”
ส่งจาก : โตเกียว โรงแรมอาซาคุสะ
“เชี่ย!”
“ด่าใครบ้าน่ะ?”
“หมอนี่ใครน่ะ?”
“หือ จางเย่?”
“ตัวปลอมรึเปล่า?”
“ดูการยืนยันตัวตนเขาสิ! เป็นจางเย่ตัวจริง!”
“เชี่ย จริงด้วย!”
“บัดซบ!นี่มันหมายความว่ายังไง!”
ยามาชิตะ ทาเคนาโอะได้แต่ดิ้นพราด!
……
โคอิซูมิ มาสุมิ
ดาราหญิงระดับ S ของญี่ปุ่น
เธอเพิ่งออกเพลงใหม่ ขณะนี้กำลังคุยกับเหล่าชาวเน็ตอย่างมีความสุข
และแล้วคอมเมนต์นั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
จางเย่คอมเมนต์ “คุณบ้ารึเปล่าน่ะ?”
ส่งจาก : โตเกียว โรงแรมอาซาคุสะ
“เชี่ย!”
“จางเย่!”
“จางเย่นี่!”
“แกสิบ้า!”
“ตระกูลแกสิบ้า!”
“เชี่ย ไอ้นี่จะผยองไปแล้ว!”
โคอิสุมิ มาสุมิเองก็เดือดเช่นกัน!
……
โคมัตสุ ริว
ดาราดังระดับ A ของญี่ปุ่น
ซีรีส์ญี่ปุ่นที่เขาแสดงล่าสุดได้รางวัลใหญ่ในประเทศ โคมัตสุ ริวเพิ่งโพสต์ข้อความขอบคุณ
จางเย่คอมเมนต์ “คุณบ้ารึเปล่าน่ะ?”
ส่งจาก : โตเกียว โรงแรมอาซาคุสะ
“จางเย่!”
“หมอนี่อีกแล้ว!”
“ฉันสุดทนแล้วนะ!”
“อ๊ากก!”
“คนหน้าด้านแบบนี้มาได้ไงวะเนี่ย!”
“ทำไมมาหาเรื่องที่นี่?”
“หมอนี่จะทำอะไรน่ะ!”
พอโคมัตสุ ริวเห็นเข้าก็แทบเป็นลมด้วยความโมโห
……
ระดับ B!
ระดับ A!
ระดับ S!
ดาราญี่ปุ่นกว่าสามสิบคนถูกจางเย่ทักทายด้วยประโยคเดียวกัน คนพวกนี้ต่างก็มีส่วนร่วมในการออกมาประณามจางเย่เมื่อตอนนั้น ต่างก็มีส่วนในการออกมาด่าเขาทางออนไลน์เพื่อแสดงท่าทีต่อสาธารณะ แต่สุดท้าย จางเย่ก็แวะมาเยี่ยมพวกเขาทีละคน ซึ่งทำให้หลายคนต้องตะลึง!
ไม่มีใครคิดว่าจางเย่จะกล้าเพียงนี้!
แต่นี่ที่ญี่ปุ่นนะ!
แกอยู่ในญี่ปุ่นนะ!
แต่กลับออกมาหาเรื่องพวกเขา?
อยากตายงั้นเรอะ!
ชั่วขณะนั้น วงการบันเทิงญี่ปุ่นก็เดือดแล้ว!
ชั่วขณะนั้น สื่อญี่ปุ่นต่างโมโห!
ชั่วขณะนั้น คนญี่ปุ่นก็ลมออกหู!
“น่าโมโหนัก!”
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”
“พี่น้อง จัดการมัน!”
“ไป จัดการมัน!”
“พวกนายดูสิ เขาไม่ได้ปกปิดที่อยู่!”
“ไอ้โง่นี่เปิดเผยตำแหน่งตัวเอง?”
“อยู่ไหน?”
“โตเกียวนี่เอง! โรงแรมอาซาคุสะ!”
“ลุย! ไปจัดการมัน! คราวนี้มันหนีไม่รอดแน่!”
“ทุกคนไป! ให้มันไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปซะ! ให้มันรับรู้ความร้ายกาจซะบ้าง!”
“ใครไปบ้าง?”
“ฉันแล้วหนึ่ง!”
“ฉันด้วย!”
“แม่ง! ฉันไปด้วย!”
“ทุกคนใจเย็นๆ อีกฝ่ายเป็นทูตสันถวไมตรีแห่งเอเชีย ภาครัฐกับทางกาชาดฯ ปกป้องเขาอยู่นะ!”
“ทูตสันถวไมตรีผายลมสิวะ! นายเคยเห็นคนที่มีแนวคิดแบบนี้เป็นทูตสันถวไมตรีด้วยเรอะ?”
“หมอนั่นมันบ้าไปแล้ว! ทุกคนลุยเลย!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น