ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1411-1414

บทที่ 1411 : จะเป็นพ่อคนแล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ชั้นบน


ห้องทำงานของคุณอู๋


จางเย่ผลักประตูเข้าไป เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ก็หยิบกาชาขึ้นมา โรยใบชาลงไปแล้วชงชาให้ตนเองหนึ่งแก้ว จากนั้นก็นั่งลงจิบชา


ก๊อก ก๊อก


เสียงเคาะประตู


จางเย่ตะโกนตอบ “เข้ามาได้”


ไป๋ลี่เดินเข้ามา “คุณจาง ได้ยินว่าคุณอยู่ที่นี่”


“พอดีเลย” จางเย่หยิบเอกสารออกมา “ที่อู๋ต้องการ”


ไป๋ลี่หัวเราะคิกคักก่อนรับไป “ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันเอาให้รองบังคับการอู๋เองค่ะ ตอนนี้เธอกำลังประชุมอยู่ คาดว่าคงใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมง คุณก็รออีกสักครู่นะคะ”


จางเย่เบ้ปาก “คุณอู๋ก็เถอะ ทำไมช่วงนี้ถึงลืมนั่นลืมนี่บ่อยนักก็ไม่รู้”


ไป๋ลี่คิดแล้วคิดอีก ก่อนจะพูดอย่างกังวลว่า “ดูเหมือนว่าช่วงนี้ร่างกายรองบังคับการอู๋จะไม่ค่อยดีค่ะ”


จางเย่ตกใจ “จริงเหรอ?”


ไป๋ลี่ “หลายวันนี้ไม่สบายบ่อยๆ ค่ะ”


จางเย่ส่งเสียงอืมตอบ “ทำไมผมถึงไม่รู้ล่ะ?”


ไป๋ลี่ “รองบังคับการอู๋คงกลัวคุณจะเป็นห่วงเลยไม่ได้บอก”


จางเย่โมโห “เฮ้อ อู๋นี่นะ!”


ไป๋ลี่ “ถ้างั้นฉันขอเอาเอกสารไปให้เธอก่อนนะคะ”


เลขานุการไป๋เดินออกไปและปิดประตู จางเย่อดตำหนิตัวเองไม่ได้ วันๆ เขาสนใจแต่เรื่องทะเลาะกับคนอื่น สนใจแต่เรื่องจะขึ้นสู่ระดับ S ของเอเชีย แม้แต่เรื่องที่คุณอู๋ไม่สบายก็ดูไม่ออก เขานี่มันเป็นสามีที่ไร้ความสามารถจริงๆ ทบทวน เขาต้องทบทวนตัวเองแล้ว!


เป็นหวัดเหรอ?


หรือเป็นโรคอื่น?


แต่จางเย่กลับไม่กังวลแม้แต่น้อย ในมือเขายังมี ‘น้ำแร่เพื่อสุขภาพ’ ที่สุ่มได้จากลอตเตอรี่ครั้งที่แล้วอยู่ ไม่ต้องพูดถึงอาการไม่สบายเป็นไข้หรือโรคร้ายแรงอย่างอื่น แม้ว่าคุณจะเหลือแค่ลมหายใจสุดท้าย เขาก็สามารถช่วยชีวิตกลับมาได้ อย่างมากก็แค่เอา ‘น้ำแร่เพื่อสุขภาพ’ นี้ให้คุณอู๋กินต่างยาแก้หวัดไปแล้วกัน!


สำหรับภรรยาสุดที่รักของตนเอง จางเย่ไม่เคยขี้เหนียว


กรี๊งกรี๊งกรี๊ง


เสียงมือถือดัง มีสายโทรเข้า


จางเย่หยิบมือถือขึ้นมามอง เมื่อเห็นเบอร์โทรก็หัวเราะออกมา เป็นสายจากสตาร์ควีนฉีเหม่ยหลัน


จางเย่ “ฮัลโหล? พี่สาวหลัน”


ฉีเหม่ยหลัน “ขอบคุณนะ”


จางเย่ “สำเร็จแล้วเหรอ?”


ฉีเหม่ยหลัน “เหอะๆ มีคุณออกหน้าให้ เรื่องไหนในสมาคมสื่อฯ จะไม่สำเร็จบ้างล่ะ? จัดการเรียบร้อยแล้ว อนุมัติในตอนนั้นเลย คุณช่วยพวกเราครั้งใหญ่ ถ้าไม่ได้คุณ กำหนดการสำคัญในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้คงทำไม่ได้แล้ว ถ้าหนังถูกตีกลับ บ็อกซ์ออฟฟิศและชื่อเสียงของเราคงโดนถล่มเละ สูญเสียกันทุกฝ่ายแน่นอน”


จางเย่ “โอเค จัดการเรียบร้อยดีก็ดีแล้ว คุณก็ด้วย สายก่อนหน้านี้ก็คือเรื่องนี้ใช่ไหม?”


ฉีเหม่ยหลัน “ใช่แล้ว แต่พอมาคิดดู ก็เกรงใจเกินไปที่ไปขอให้คุณช่วย”


จางเย่ “เฮ้อ เรื่องแค่นี้เอง มีอะไรต้องเกรงใจ”


ฉีเหม่ยหลันหัวเราะ “ฉันเพิ่งรู้จากเสี่ยวหยาง คุณเท่มากตอนอยู่ที่ SARFT เสี่ยวหยางบอกว่าเธอเข้าไปถึงก็เบลอไปแล้ว ไม่กล้าพูดสักประโยค แล้วยังบอกอีกว่าเพราะคุณมีสถานะสูงส่ง ขอให้ฉันมาขอบคุณคุณให้ดีๆ ด้วย”


จางเย่ “ฮ่า เป็นเพราะสถานะของภรรยาผมทั้งนั้น คนในครอบครัวอย่างผมก็เลยพลอยได้รับเกียรติไปด้วย”


ฉีเหม่ยหลัน “ยังไงฉันก็ติดหนี้บุญคุณคุณครั้งใหญ่ คุณหาเวลาว่าง ฉันจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงข้าวคุณเอง”


จางเย่ “เรื่องเล็กน้อยน่า ไม่ต้องเกรงใจ”


ฉีเหม่ยหลัน “ไม่ได้หรอก ตกลงตามนี้นะ”


จางเย่ “โอเค เอางั้นก็ได้ครับ”


หลังจากวางสาย เขาก็นั่งรออยู่ตรงนั้น


ครึ่งชั่วโมงผ่านไป


หนึ่งชั่วโมงผ่านไป


ในที่สุดเสียงก้าวเดินของรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นด้านนอกประตู


อู๋เจ๋อชิงเปิดประตูเดินเข้ามา มองเห็นสามีที่นั่งบนโซฟาก็ยิ้มออกมา “มาแล้วเหรอ?”


จางเย่กลอกตา “ผมมาได้หนึ่งชั่วโมงแล้ว”


อู๋เจ๋อชิงปิดประตู “ฉันนึกว่าเธอกลับไปนานแล้วเสียอีก”


“ผมกลับไปเมื่อไรกันล่ะ” จางเย่ลุกขึ้น “เลขาฯ ไป๋บอกผมว่าหลายวันมานี้คุณไม่ค่อยสบาย เป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายตรงไหน?”


อู๋เจ๋อชิงอึกอัก “ไม่เป็นไร”


จางเย่หรี่ตา “ไม่เป็นไรยังไง”


คุณอู๋หัวเราะ “ก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ปวดหัวนิดหน่อย”


“ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีกเหรอ?” จางเย่ฟังจบก็ร้อนรน “ไปๆๆ ไปตรวจที่โรงพยาบาลกัน!”


คุณอู๋โบกมือ “ไม่ต้องหรอก เรื่องเล็กน้อยจะไปโรงพยาบาลทำไมกัน”


จางเย่ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น “ไม่ได้ ต้องไป คุณไปกับผมเลย!”


อู๋เจ๋อชิงกลับพูดว่า “งั้นก็ได้ เธอรอวันพรุ่งนี้เถอะ รอฉันทำงานให้เสร็จก่อน”


จางเย่เสียงดัง “ต้องวันนี้ ตอนนี้เท่านั้น คุณรีบเลย!”


อู๋เจ๋อชิงอดหัวเราะไม่ได้ “เธอนี่นะ ตัวเองป่วยให้ตายยังไงก็ไม่ยอมไปหาหมอ คนอื่นปวดหัวตัวร้อนนิดหน่อย นายก็จะพาเขาไปให้ได้ โอเค ก็ได้ ไปกันเถอะ เชื่อฟังสามีของฉัน”


จางเย่ล้วงกุญแจรถออกมา “นั่นก็ถูกต้องแล้ว ไปกันเถอะ”


พวกเขาขับรถออกไป ทั้งสองคนก็มาถึงโรงพยาบาล


ระหว่างทางจางเย่โทรศัพท์ไปไหว้วานคนผู้หนึ่ง ญาติของเหยาเจี้ยนไฉคนหนึ่งเป็นหัวหน้าแผนกอยู่ที่โรงพยาบาล จึงไม่จำเป็นต้องรอคิว


ตรวจร่างกาย


วินิจฉัยโรค


ทำครบทุกกระบวนการเสร็จเรียบร้อย


เมื่อเห็นผลตรวจ ทั้งจางเย่และอู๋เจ๋อชิงต่างก็ตกตะลึง!


คุณอู๋ตั้งครรภ์!


จางเย่กะพริบตา “หา?”


อู๋เจ๋อชิงลูบท้องของเธออย่างระมัดระวัง “แน่ใจเหรอคะ?”


หมอหัวเราะ “แน่ใจสิครับ ยินดีด้วยครับ”


จางเย่ร้องตะโกนออกมา “วู้ฮู้ว!”


อู๋เจ๋อชิงก็ยิ้มออก “เบาเสียงลงหน่อย นี่โรงพยาบาลนะ”


จางเย่รีบหุบปากลงแต่กลับคุมความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่  เขาตบขาตัวเองไม่หยุด ไม่รู้จะดีใจยังไงแล้ว “งั้นภรรยาผมไม่มีอาการป่วยจากสาเหตุอื่นแล้วใช่ไหมครับ?”


หมอหัวเราะ “ไม่ได้ป่วยครับ ภรรยาคุณสุขภาพแข็งแรงมาก อาการอ่อนเพลียและเวียนศีรษะเป็นอาการปกติของการตั้งครรภ์ จากนี้ต้องพักผ่อนให้ดี แล้วก็ใส่ใจเรื่องอาหารการกินด้วยนะครับ”


จางเย่จับมือของหมอเอาไว้ “ขอบคุณมาก ขอบคุณมากครับคุณหมอ!”


หลังจากออกจากโรงพยาบาล


จางเย่ก็ขับรถพาคุณอู๋กลับบ้าน


ระหว่างทางเขาก็หัวเราะอย่างมีความสุข แล้วก็รีบโทรแจ้งข่าวดีกับพ่อแม่


ทางด้านอู๋เจ๋อชิงเองก็ยิ้มแย้ม ก่อนจะโทรไปหาพ่อแม่ของเธอเช่นกัน


……


ตอนกลางวัน


ที่คฤหาสน์


ทั้งสองคนเพิ่งก้าวเท้าเข้าประตูไป พ่อแม่ของทั้งคู่ก็มาถึงพร้อมกัน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความปีติยินดี!


อู๋ฉางเหอดีใจมาก “ท้องจริงเหรอ?”


จางเย่กลอกตา “พ่อครับ เรื่องแบบนี้พูดเล่นได้เหรอ?”


หลี่ฉินฉินรีบพูด “แม่ขอดูผลตรวจหน่อย ให้แม่ดูหน่อย!”


แม่ของจางเย่คว้าใบผลตรวจไปดูพร้อมหลี่ฉินฉิน


จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างเบิกบานใจ “จริงๆ ด้วย!”


พ่อของจางเย่ก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน “ดี! ดี! ดี!”


ดวงตาหลี่ฉินฉินแดงเรื่อ น้ำตาใกล้จะไหลออกมาอยู่รอมร่อ “เจ๋อชิงของฉันอายุมากกว่าเย่น้อยหลายปี นับปีกันแล้ว ฉันยังกลัวว่าเธอจะตั้งครรภ์ยาก ตอนนี้สบายใจแล้ว! ตอนนี้สบายใจแล้วจริงๆ!”


ข่าวนี้กะทันหันเกินไป จางเย่และอู๋เจ๋อชิงไม่ได้เตรียมตัว พ่อแม่ของทั้งสองก็ไม่ได้เตรียมใจเช่นกัน เรื่องน่ายินดีที่ส่งมาจากสวรรค์ ทำให้ทุกคนในครอบครัวทั้งตกใจทั้งดีใจ!


หลังจากนั้นคุณอู๋ก็ถูกห้อมล้อมแล้ว


“เจ๋อชิง ลูกต้องระวังเรื่องการกินให้ดีนะ!”


“ถูกต้อง อย่ากินอาหารรสจัด!”


“ลูกอายุมากแล้ว ช่วงสามเดือนแรกสำคัญมาก!”


“ตั้งแต่วันนี้ไปลูกไม่ต้องทำงานล่วงเวลาแล้ว!”


“ไม่ต้องอยู่หน้าคอมทั้งวันอีกแล้วนะ รังสีมันมากเกินไป!”


พ่อแม่สองครอบครัวต่างผลัดกันพูดอยู่รอบตัวอู๋เจ๋อชิง จางเย่ไม่สามารถแทรกได้เลย หมอนี่ไม่รู้อะไรสักอย่าง ได้แต่ฟังอยู่เงียบๆ และจดจำสิ่งที่พ่อแม่บอกไว้อย่างดี


อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “ค่ะ หนูเข้าใจแล้ว”


แม่ยังคงปลาบปลื้ม “เยี่ยมไปเลย นี่มันเยี่ยมที่สุด!”


หลี่ฉินฉินหัวเราะ “ยินดีด้วยนะคะพี่ พี่จะเป็นคุณย่าแล้ว”


แม่ตอบ “พี่ต้องยินดีกับเธอสิ จะได้เป็นคุณยายแล้ว”


อู่เจ๋อชิงนั่งลงตรงนั้นอย่างนุ่มนวล ดูออกว่าในใจของเธอเองก็มีความสุขมากเช่นกัน จากนั้นเมื่อดูเวลา เธอก็ลุกขึ้นยืน “เที่ยงแล้ว ต้องไปทำกับข้าวแล้วล่ะค่ะ”


จางเย่ตะโกนขึ้นมาทันที “คุณหยุดอยู่ตรงนั้นเลย!”


อู๋เจ๋อชิงหันกลับมา “หืม ทำไมเหรอ?”


จางเย่จ้องเขม็ง “นั่งลงเถอะ ไม่ต้องขยับแล้ว วันนี้เป็นต้นไปคุณไม่ต้องทำงานแล้ว เรื่องงานบ้านให้ผมจัดการเอง ถึงเวลาที่ลูกพี่คนนี้ต้องแสดงออกบ้างแล้ว!”


อู๋เจ๋อชิง “ฉันยังทำได้น่า เพิ่งจะกี่เดือนเอง”


จางเย่ “ไม่ได้ ผมทำกับข้าวเอง!”


อู๋เจ๋อชิง “ฉันทำเอง เธออยู่คุยกับพ่อแม่เถอะ”


จางเย่ “คุณไม่ต้องทำ ผมทำเอง!”


อู๋เจ๋อชิง “เธอพอได้แล้วน่า”


ทั้งสองยื้อแย่งกัน


แม่ร้องไอ้หยาคำหนึ่ง “พอแล้ว แม่ทำเอง”


ฟังดังนั้น จางเย่ก็พูดอย่างไม่ลังเลสักนิดว่า “โอเค ให้แม่ผมทำเถอะ”


แม่แทบจะเป็นลม “โอย ไอ้ลูกชายตัวดีมันหลอกขายฉันเหรอนี่?”


ทุกคนต่างหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆๆ!”




บทที่ 1412 : ข้อความแสดงความยินดีจากทั่วทั้งวงการบันเทิง!

โดย

Ink Stone_Fantasy

วันเสาร์


จู่ๆ ก็มีโฆษณาเผยแพร่ในสถานีโทรทัศน์หลักของประเทศ


แบรนด์ดังจากเกาหลี


โฆษณารถยนต์


พรีเซนเตอร์ : ลีอันซู


ชาวเน็ตในประเทศวิพากษ์วิจารณ์


“ลีอันซูกลับมาแล้วเหรอ?”


“ไม่ใช่ว่าเขายอมแพ้ในจีนไปแล้วเหรอ?”


“เขาโดนเตะโด่งออกไป ปีนั้นชนแฟนคลับล้มทำให้เขาเข็นตัวเองไม่ขึ้นเลย”


“ตอนนี้พายุผ่านพ้นไปแล้ว ก็เลยกลับมาอีกครั้ง?”


“ดูเขาช่างเลือกช่วงเวลาจริงๆ เขาไม่กลัวจางเย่จัดการเขาเหรอ?”


“ฮ่าๆๆ อาจารย์จางมีงานให้ต้องทำอีกแล้ว!”


“การแสดงทั้งหมดของดาราญี่ปุ่นและเกาหลีในประเทศจีนช่วงครึ่งปีนี้ถูกเขาทำให้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว เพิ่งจัดการดาราจากญี่ปุ่นเกาหลีออกไปสามคน ลีอันซูยังกล้าเข้ามาร่วมวง? ไม่รู้ความร้ายกาจของท่านปู่จางซะแล้ว!”


“รอดูความคึกคักได้เลย”


“ใช่ รอบนี้มีละครดีๆ ให้ดูอีกแล้ว”


ตั้งแต่ต้นปีนับตั้งแต่ญี่ปุ่นและเกาหลีเริ่ม ‘แบนจางเย่’ เป็นต้นมา หลังจากที่จางเย่แก้แค้น ทุกวันนี้กิจกรรมคอนเสิร์ตทั้งหลายที่ดาราจากญี่ปุ่นเกาหลีจะมาจัดที่ประเทศจีนได้หายไป มีบางอันถูกยกเลิก มีบางอันก็ยังไม่ได้เริ่ม ดังนั้นเมื่อมีดาราดังจากเกาหลีมาปรากฏตัวบนโฆษณาในจีนอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังเป็นลีอันซูที่มีความขัดแย้งกับจางเย่เมื่อปีนั้น จึงดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ตในประเทศอย่างมาก


ทุกคนกำลังเฝ้ารอให้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น


……


แม้แต่แบรนด์รถยนต์ของเกาหลีก็กังวลอยู่เล็กน้อยเช่นกัน


ทางด้านแบรนด์สินค้า


ในที่ประชุม


“เชิญลีอันซูมาถ่ายโฆษณา ไม่มีปัญหาจริงๆ ใช่ไหม?”


“จะมีปัญหาอะไรได้?”


“จางเย่มีอิทธิพลในประเทศจีนมากเลยนะ”


“ใช่แล้ว ตอนนี้เขามีความขัดแย้งต่อญี่ปุ่นและเกาหลี ทำไมเราไม่จ้างดาราจีนมาเป็นพรีเซนเตอร์แทนล่ะ?”


“กลัวเขาหรือไง? ตลกมาก ฉันยังหวังให้เขามาร่วมด้วยด้วยซ้ำ ที่พวกเราต้องกังวลตอนนี้คือตีตลาดในจีนไม่ได้ ถ้าเขามาสู้กับพวกเรา ระดับความสนใจต่อสินค้าของเราก็มีมากขึ้น ฉันแทบจะรอไม่ไหวเลยล่ะ”


“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”


“ถูกต้อง กลัวแต่เขาจะไม่มานี่ล่ะ!”


“อีกอย่างเขาจะทำอะไรได้? คนอื่นเขาจัดคอนเสิร์ต เขาสามารถไปก่อกวนได้ ยังสามารถจัดงานชนกับคนอื่นเขาได้ แต่พวกเราเผยแพร่โฆษณา เขาจะมาก่อกวนอะไรได้?”


“ก็จริง!”


“อย่าคิดว่าเขาเก่งขนาดนั้นเลย!”


……


ที่บ้าน


คฤหาสน์


อู๋เจ๋อชิงนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา


จางเย่เดินไปเดินมาคอยบริการ


“เมียจ๋า น้ำสักหน่อยไหม?”


“ไม่ดื่ม”


“ดื่มน้ำร้อนสักแก้วสิ”


“ไม่ดื่มแล้ว”


“ดื่มเยอะๆ มันดีต่อร่างกายนะ”


“ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ฉันดื่มไปหกแก้วแล้วนะ”


“อา งั้นหิวหรือเปล่า?”


“พอแล้ว เธอนั่งลงสักพักเถอะ”


“ผมไม่เหนื่อย ตอนนี้ลูกพี่แข็งแรงมากนะ!”


กรี๊งกรี๊งกรี๊ง มีคนโทรมา เป็นสายของฮาฉีฉีจากสตูดิโอ


จางเย่รับสาย “ฮัลโหล”


ฮาฉีฉีพูดทันที “ผู้กำกับจางคะ ลีอันซูมีโฆษณาในประเทศจีนแล้ว เป็นแบรนด์รถยนต์ของเกาหลี ฉันไปสอบถามมานิดหน่อย ลีอันซูต้องการกลับมาเติบโตที่จีนอีกครั้ง ที่นี่มีแฟนคลับของเขาอยู่ไม่น้อย มีแฟนคลับวัยรุ่นหลายคนหลงใหลเขา ดังนั้นเขาเลยมาลองเชิงดู รับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาก่อน ค่าตัวของเขาถูกมาก ดังนั้นบริษัทรถยนต์ของเกาหลีจึงใช้งานเขาอย่างไม่ลังเลเลยค่ะ”


จางเย่ “อ้อ”


ฮาฉีฉีถาม “งั้นพวกเราจะ?”


จางเย่ “หา?”


ฮาฉีฉีชะงัก “เอ่อ พวกเราจะ?”


จางเย่ “พวกเราทำไมเหรอ?”


ฮาฉีฉี “อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่ส่งข่าวให้คุณเฉยๆ”


จางเย่ “ได้เลย ผมรู้แล้ว”


หลังจากวางสาย จางเย่ยังคงหยอกล้อภรรยาของเขาต่อ ไม่ใส่ใจเรื่องนั้นเลยสักนิด


……


โฆษณาของลีอันซูมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ


จากสถานีโทรทัศน์หนึ่งสถานี กลายเป็นสามสถานี


สุดท้ายก็มีการซื้อป้ายโฆษณาที่ป้ายรถเมล์และสถานีรถไฟใต้ดินจำนวนมาก


หนึ่งชั่วโมงผ่านไป


ห้าชั่วโมงผ่านไป


ผู้คนกำลังรอคอย แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ทุกคนแปลกใจ เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้นกันนะ? ทำไมจอมตอกหน้าจางถึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย?


ไม่น่าจะเป็นแบบนี้สิ!


นี่ไม่ใช่สไตล์ของเขา!


ชาวเน็ตหลายคนร้อนรนแล้ว


“แย่ล่ะสิ หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก?”


“จางเย่ต้องล้มป่วยแน่นอน!”


“ไม่ใช่ เขาจะต้องถูกลักพาตัวแน่ๆ!”


“รีบแจ้งความเร็ว!”


“ใช่ๆ แจ้งตำรวจ!”


เวลานั้นมีข่าวลือบินว่อนไปหมด!


……


ในบ้าน


เมื่อจางเย่ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ เขาเกือบจะเป็นลม


จางเย่ “เอ่อ? ลักพาตัว?”


ตำรวจ “คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”


จางเย่ “อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น?”


ตำรวจ “เฮ้อ มีคนไม่น้อยแจ้งความมา บอกว่าคุณโดนลักพาตัวไปแล้ว พวกเรามีจริงจังและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เลยรีบโทรหาคุณเพื่อยืนยันให้แน่ใจ”


จางเย่ “ผมไม่เป็นอะไรครับ ทำให้พวกคุณต้องลำบากแล้ว”


ตำรวจ “ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้วครับ”


……


บนเวยป๋อ


ตำรวจได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือแล้ว


ชาวเน็ตเห็นดังนั้นก็ขำแทบตาย


“แจ้งตำรวจจริงเหรอ?”


“พรูด! พวกนายพอได้แล้วไหม!”


“ขำจนฉี่จะเล็ด สำหรับพวกนายแล้วอาจารย์จางมีภาพลักษณ์แบบไหนกันแน่เนี่ย! โฆษณาของลีอันซูเพิ่งฉายได้ไม่กี่ชั่วโมง อาจารย์จางไม่มีความเคลื่อนไหวพวกนายก็ไปแจ้งตำรวจกันแล้วเหรอ?”


“ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไง จากนิสัยจางเย่ต้องออกมาจัดการเขาตั้งนานแล้ว!”


“ใช่แล้ว ข่าวซุบซิบวงในบอกว่าจางเย่พูดออกมาเองนะ เรื่องที่ดาราจากญี่ปุ่นและเกาหลีอย่าคิดจะมาเติบโตที่ประเทศจีนน่ะ?”


ข่าวลือ


เรื่องล้อเล่น


การคาดเดา


ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยออกมา


ทันใดนั้นสื่อหลายสำนักก็เปิดเผยข่าวสำคัญ!


‘ภรรยาของจางเย่ตั้งครรภ์!’


‘จางเย่กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว!’


ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นทันที!


“เชี่ย!”


“เรื่องจริงเหรอ?”


“จริงสิ คอนเฟิร์มแล้ว!”


“มีคนเห็นจางเย่กับเมียของเขาที่โรงพยาบาลเมื่อวันก่อน!”


“จอมตอกหน้าจางจะเป็นพ่อคนแล้วเหรอ?”


“เรื่องน่ายินดีครั้งใหญ่เลย!”


“ฉันเคยบอกแล้ว! ฉันบอกแล้วว่าสักวันจางเย่จะมาถึงจุดนี้!”


“ก็จริง ช่วงเวลานี้ใครจะไปสนใจพวกศิลปินญี่ปุ่นเกาหลีกันล่ะ!”


“จากนี้ไปจอมตอกหน้าจางคงไม่เปลี่ยนไปหรอกใช่ไหม?”


“อย่าพูดไป แต่มันก็เป็นไปได้นะ เป็นพ่อคนแล้ว ต่อไปก็ต้องหนักแน่นมั่นคงมากขึ้น ต้องเป็นตัวอย่างให้เด็ก ถ้ายังทะเลาะกับคนอื่นไปวันวันแบบนี้ มันก็เกินไป”


“มันก็ไม่แน่นะ”


“รอดูอีกสักสองวันเถอะ”


“ดูท่าลีอันซูจะมาได้ถูกเวลา”


“แบรนด์รถยนต์นั่นก็เหมือนกัน รู้จักเลือกวันจริงๆ!”


……


หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป


ทางด้านจางเย่ก็ครึกครื้นแล้ว


ครอบครัวและเพื่อนต่างทยอยมาหาเขา ครอบครัวคุณอู๋ก็เช่นกัน


โทรศัพท์ของจางเย่มีสายเข้าไม่หยุด มีหลายคนโทรมาแสดงความยินดีกับเขา


เหยาเจี้ยนไฉ


“นายใช้ได้นี่! ยินดีด้วยนะ!”


“ฮ่าๆ ขอบคุณ”


“กี่เดือนแล้วล่ะ?”


“เพิ่งท้องน่ะ”


“ดูแลให้ดีๆ อย่าไปทะเลาะกับคนอื่นอีกนะ”


“รู้แล้ว ต้องดูแลอย่างดีแน่นอน!”


หนิงหลัน:


“ทำไมไม่บอกกันเลย? ฉันเพิ่งรู้จากข่าวเนี่ย!”


“ฮ่า มัวแต่ดีใจไง เลยลืมบอกพวกคุณ”


“บอกไว้ก่อนนะ ถ้าเด็กคลอดออกมาแล้ว ฉันต้องได้เป็นญาติบุญธรรม”


“ได้สิ งั้นคุณเป็นพี่สาวบุญธรรมของลูกผม?”


“…เชี่ย!”


“ฮ่าๆๆๆ”


บนเวยป๋อมีข้อความแสดงความยินดีอย่างล้นหลาม


เรื่องน่ายินดีของจางเย่และอู๋เจ๋อชิง ทำให้ทั่วทั้งวงการบันเทิงต่างถูกพลิกไปพลิกมาแล้ว!



บทที่ 1413 : จางเย่ทุบรถ! (ต้น)

โดย

Ink Stone_Fantasy

วันต่อมา


วันอาทิตย์


แบรนด์รถยนต์ที่ลีอันซูเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ได้อัปเกรดโปรโมชั่น ด้วยรถยนต์กันกระสุนระดับไฮเอนด์ พวกเขาต้องการใช้โมเดลนี้เปิดตลาดของจีน โฆษณาที่ฉายทั้งวันของลีอันซูเมื่อวานก็พยายามเสนอรุ่นนี้ ตอนนี้ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอย่างทุบรถได้รถออกมาอย่างโอหัง ใครสามารถทุบกระจกรถกันกระสุนใหม่ของพวกเขาในงานให้แตกได้ ก็จะแจกรถยนต์กันกระสุนใหม่เอี่ยมให้ฟรี


การประชาสัมพันธ์


ลุกลามอย่างรวดเร็ว


ราวกับไฟที่โหมไหม้


……


เหล่าชาวเน็ตจับตาดูอย่างเงียบๆ


“เล่นใหญ่อะไรขนาดนี้?”


“แจกรถให้ฟรีๆ จริงอ่ะ?”


“รถกันกระสุน? รถยนต์ของลีอันซู?”


“อาจารย์จางจะไม่ออกโรงแล้วจริงๆ เหรอ?”


“เฮ้อ รอบนี้ไม่ได้เห็นความคึกคักแล้วสิ”


“ใช่ จิตใจจอมตอกหน้าจางไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว!”


“ต้องเป็นพ่อคนแล้วนี่ ยังไงก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน”


“ฉันขอประกาศว่า จอมตอกหน้าจางได้ถอนตัวจากเวทีตอกหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว!”


“พรูด นี่มันเป็นสิ่งที่พวกนายสร้างขึ้นเองทั้งนั้น เมื่อวานจางเย่เขาอยู่กับครอบครัวดูแลเมียอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกมาวิวาทด้วย พวกนายก็ถึงกับไปแจ้งตำรวจ แค่เรื่องนี้ก็พอให้ฉันหัวเราะไปได้ทั้งปีแล้ว!”


“ฮ่าๆๆๆๆ”


“สาเหตุหลักก็เพราะอารมณ์รุนแรงของหมอนี่มันฮอตเกินไปนั่นแหละ!”


……


อีกด้านหนึ่ง


ทีมของลีอันซู


“อันซูฮยอง ผลตอบรับจากโฆษณาดีมากเลยนะครับ”


“ใช่แล้ว คนจีนส่วนใหญ่ไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อต้านอะไรด้วย”


“พายุของปีนั้นดูท่าจะพัดผ่านไปแล้ว”


“ตอนนี้เราสามารถสงบสติอารมณ์ และกลับมาเติบโตในประเทศจีนได้อีกครั้ง”


“ถูกต้อง คนแซ่จางก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรแล้ว!”


ทีมงานทุกคนตื่นเต้นมาก


หลังถอนตัวออกจากตลาดจีน ชีวิตของพวกเขาก็ผ่านไปอย่างยากลำบาก คะแนนนิยมลดลงอย่างฮวบฮาบ สุดท้ายก็รอดชีวิตมาได้อย่างทุลักทุเล จางเย่แค่คนเดียวเกือบทำลายอาชีพศิลปินของลีอันซู หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งจุดสูงสุดในเอเชียแล้ว แม้กระทั่งตำแหน่งปัจจุบันลีอันซูก็อาจรักษาเอาไว้ไม่ได้ ดังนั้นคราวนี้ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ต้องตั้งหลักในประเทศจีนให้ได้


ปืนนัดนี้ยิงออกไปแล้ว สถานการณ์เป็นไปด้วยดี ลีอันซูก็ยิ้มออกมา


จางเย่แล้วยังไงล่ะ?


เคยมีชื่อเสียในจีนแล้วมันยังไง?


ตอนนี้เขากลับมาอีกครั้งแล้วไม่ใช่รึ?


……


ทางด้านญี่ปุ่นและเกาหลี


ศิลปินหลายคนที่มุ่งเน้นไปที่ตลาดจีนก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของลีอันซูเช่นกัน


มองเห็นตลาดในจีนคลื่นลมสงบเงียบ


มองเห็นตลาดในจีนดำเนินไปได้อย่างเป็นปกติ


ดาราญี่ปุ่นและเกาหลีหลายคนที่เคยกลัวจางเย่ก็พร้อมจะเคลื่อนไหวแล้ว!


……


ตอนเที่ยง


ในเขตที่เจริญรุ่งเรืองแห่งหนึ่ง


ห้องวีไอพีชั้นบนของร้านอาหาร จางเย่เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงพนักงานในสตูดิโอ ผู้จัดการครึ่งตัวอย่างเหราอ้ายหมิ่นก็พาเจ้าตัวเล็กเฉินเฉินมาร่วมทานอาหารด้วย


เสี่ยวหวังหัวเราะคิกคัก “ผู้กำกับจางคะ ยินดีด้วยค่ะ!”


ถงฟู่ถาม “พี่สะใภ้ล่ะครับ?”


จางเย่หัวเราะฮาๆ “วันนี้เธอกลับไปหาพ่อแม่ ทานอาหารเย็นกับญาติๆ”


เฉินเฉินเงยหน้าขึ้น “จางเย่ เบบี๋ของนายจะคลอดเมื่อไรเหรอ?”


จางเย่ยิ้ม “อีกประมาณเก้าเดือนน่ะ”


เฉินเฉิน “อ๋อ”


จางเย่ “ทำไมเหรอ?”


เฉินเฉิน “รอเบบี๋เกิดมา ฉันจะพาเขาไปเล่น”


จางเย่ “เธอจะดูแลเด็กให้อาเหรอ? ดีเลย”


เหราอ้ายหมิ่นพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ใครสนใจลูกของนายกัน รีบสั่งอาหารสิ หิวจะตายแล้ว”


“สั่งอาหารสั่งอาหาร วันนี้ผมเลี้ยงเองทุกคนไม่ต้องเกรงใจ”จางเย่พูดเสียงดัง


หอยเป๋าฮื้อ!


ล็อบสเตอร์!


หูฉลาม!


เหราอ้ายหมิ่นเองก็ไม่เกรงใจจริงๆ


จางเย่พอได้ยินก็มีเหงื่อท่วมทั่วตัว เขาสะกิดเธอ ก่อนจะกระซิบเสียงเบา “พอประมาณก็พอแล้ว พอแล้ว กินไม่หมดนะครับ เดี๋ยวกินไม่หมด”


ทุกคนต่างหัวเราะออกมา


เหราอ้ายหมิ่นพูดด้วยท่าทีนิ่งสงบไม่เปลี่ยนแปลง “เฉินเฉินกับฉันไม่ได้กินเนื้อมาหลายวันแล้ว รอกินอาหารที่นายเลี้ยงอยู่เนี่ย” เธอสั่งอาหารในรวดเดียว จากนั้นก็พูดกับพนักงานว่า “โอเค เอาแค่นี้แหละ”


เฉินเฉินปรบมือ “ป้าใหญ่ สุดยอดเลยค่ะ!”


จางเย่กลอกตา


คนอื่นๆ ในสตูดิโอไม่กล้าหายใจ


จะอยู่ในสตูดิโอหรือที่ไหนๆ คนที่กล้าพูดกับจางเย่เช่นนี้ก็มีแต่เหราอ้ายหมิ่น เพราะถึงแม้จะเป็นการหยอกล้อกันเล่น ฝีปากของพวกเขาก็เอาชนะจางเย่ไม่ได้ เป็นต้องถูกจางเย่เหยียบย่ำทุกครั้งไป มีเพียงเหราอ้ายหมิ่นที่ไม่เหมือนคนอื่น ทุกครั้งล้วนเป็นเธอที่เหยียบย่ำจางเย่ และจางเย่ก็มักจะไม่ตอบโต้ ใครที่รู้จักนิสัยเขาคิดว่านี่มันเป็นไปไม่ได้ แต่คนที่คุ้นเคยกับเขาจริงๆ จะรู้ดีว่าในช่วงเวลาอันยากลำบากที่จางเย่เพิ่งเข้าสู่วงการแรกๆ นั้น ทุกอย่างล้วนได้รับการช่วยเหลือจากเหราอ้ายหมิ่น ไม่อย่างนั้นจางเย่คงหิวตายไปนานแล้ว และคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ แน่นอนว่าถ้าคนที่รู้รายละเอียดที่แท้จริงจะบอกว่าเรื่องเหล่านั้นไร้สาระ เหตุผลแท้จริงที่จางเย่ไม่โต้ตอบเหราอ้ายหมิ่นก็เพราะว่า สู้! ไม่! ชนะ! ต่างหาก!


อาหารทุกอย่างถูกนำมาเสิร์ฟแล้ว


หรูหรามาก จางเย่เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด


จางเย่พูดว่า “มื้อนี้ถือเป็นโบนัสเดือนนี้ของทุกคนแล้วกันนะ ทุกคนกินเยอะๆ ล่ะ”


ทุกคนได้ฟังก็โอดครวญ


“ฮือ!”


“ฮือ!”


“ผู้กำกับจางขี้เหนียว!”


“ฮ่าๆๆ!”


จางเย่พูดอย่างหดหู่ “ล้อเล่น โบนัสจ่ายตามเดิมนั่นแหละ มาๆ กินเถอะ!”


ในขณะที่ทานข้าว ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดผ่านไมโครโฟนดังขึ้นมา


“กิจกรรมเริ่มอย่างเป็นทางการ!”


“ทุบรถได้รถ!”


“ร่วมสนุกได้ทุกคนเลยนะครับ ใครจะลองก่อน?”


“โอเค คุณผู้ชายท่านนั้นเชิญครับ”


ปัง!


ปัง!


จากนั้นก็มีเสียงทุบรถตามมา!


จางจั่วมองออกไปนอกหน้าต่าง “ทำอะไรกันน่ะ?”


ฮาฉีฉี “ที่ลานจัตุรัสตรงนั้นใช่ไหม?”


“ผมรู้” อู่อี้พูด “เป็นกิจกรรมของแบรนด์รถยนต์จากเกาหลี จัดอยู่ตรงด้านนั้นแหละครับ ประชาสัมพันธ์มาทั้งวันแล้ว เกี่ยวกับรถกันกระสุนอะไรสักอย่าง”


เสี่ยวหวังเบ้ปาก “โฆษณาของลีอันซูนั่นน่ะเหรอคะ?”


ถงฟู่เข้าใจเรื่องรถยนต์เป็นอย่างดี “แบรนด์นี้ชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดี มีโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่อยู่ในเกาหลี เข้าสู่ตลาดจีนเมื่อหลายปีก่อน เมื่อก่อนไม่ได้ใช้ชื่อนี้ ตอนนั้นมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับกระปุกเกียร์ของรถบางรุ่น ในเกาหลี ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาเรียกคืนสินค้าให้โดยไม่มีเงื่อนไข แต่ที่จีนไม่ใช่อย่างนั้น ผู้ซื้อรถชาวจีนต้องซ่อมเอง การเลือกปฏิบัตินี้ถูกประชาชนด่ากราด สุดท้ายยอดขายไม่ดีเลยถอนตัวออกจากตลาดจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตรายเดิมได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์แล้วกลับมาอีกครั้ง น่าจะคิดชุบตัว ไม่แปลกใจที่เชิญลีอันซูมาเป็นพรีเซนเตอร์ เขาเรียกปลาเหม็นมองหากุ้งเน่า พวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกันนี่เอง ต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในจีน!”


ปัง!


ปัง!


เสียงทุบรถยนต์ยังดังอย่างต่อเนื่อง!


“ฮ่าๆๆ”


“ยังมีใครอยากลองอีกไหมครับ?”


“พวกเรามีอุปกรณ์ให้ด้วยนะครับ ขอเพียงทุบกระจกให้แตกได้ ก็รับรถหนึ่งคันไปได้เลย!”


จางเย่เริ่มอารมณ์ไม่ดี “ปิดหน้าต่างเถอะ เสียงดังเกินไปแล้ว”


เสี่ยวหวังรีบปิดหน้าต่างทันที


ฮาฉีฉี “มา พวกเรากินข้าวต่อกันเถอะ”


จางจั่ว “ใช่ อย่าหมดสนุกเพราะคนพวกนั้นเลย”


ถงฟู่ชูแก้วขึ้น “ผู้กำกับจาง ผมดื่มให้คุณแก้วหนึ่ง”


หัวข้อคุยล้วนเป็นเรื่องการทำงานของผู้ใหญ่


เฉินเฉินไม่ชอบฟัง เธอยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ป้าใหญ่ หนูอยากออกไปเดินเล่นที่ห้าง”


เหราอ้ายหมิ่น “ป้ายังกินไม่เสร็จเลย”


เฉินเฉินมองไปทางจางเย่ “จางเย่ นายพาฉันไป”


จางเย่โบกมือ “ไอ้หยา กำลังคุยกันสนุกเลย”


เฉินเฉินโมโหแล้ว


เสี่ยวหวังหัวเราะ “ผู้กำกับน้อย พี่สาวจะพาหนูไปเองนะ พี่กินอิ่มพอดี”


เสี่ยวโจวก็ยืนขึ้นเช่นกัน “ฉันไปด้วย”


เฉินเฉินส่งเสียงอืมตอบคำหนึ่ง


เหราอ้ายหมิ่นเตือน “อย่าปล่อยไปเธอวิ่งไปเรื่อยล่ะ”


จางเย่ก็พูดว่า “เดินเล่นแป๊บเดียวก็กลับมาได้แล้วนะ เธออยากซื้ออะไรก็ให้เธอซื้อไป พวกเธอรูดบัตรให้ก่อน กลับมาค่อยมาเก็บที่ป้าใหญ่ของเธอ”


เสี่ยวหวังและเสี่ยวโจวหัวเราะขำ “เข้าใจแล้วค่ะ”


ทั้งสามคนออกไปเดินเล่นกันแล้ว


คนที่เหลือก็ทานอาหาร และพูดคุยกันต่อ


สิบนาที


ครึ่งชั่วโมง


พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นประตูห้องวีไอพีก็ถูกเปิดเข้ามา


เห็นเพียงเสี่ยวโจวที่วิ่งกลับมาอย่างรีบร้อน พอเข้ามาได้ก็ตะโกน “เกิดเรื่อง! เกิดเรื่องแล้ว! เฉินเฉินทุบรถคนอื่น! ตอนนี้เขาไม่ยอมปล่อยเธอออกมา!”


คนทั้งโต๊ะได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันที!


“อะไรนะ?”


“ทุบรถของคนอื่น?”


“อยู่ที่ไหน?”


“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”


“ไป! ไปดูกัน!”


“ทำไมเพิ่งออกไปได้แป๊บเดียวก็เกิดเรื่องแล้ว!”


เวลานั้นคนทั้งกลุ่มก็กรูกันออกไปอย่างรีบร้อน!



บทที่ 1414 : จางเย่ทุบรถ! (กลาง)

โดย

Ink Stone_Fantasy

งานจัตุรัสอยู่ไม่ไกล เดินผ่านถนนเส้นหนึ่งก็เจอแล้ว


“อยู่ตรงไหน?”


“ข้างหน้านั่นไง!”


“งานของรถยนต์จากเกาหลีนั่นน่ะเหรอ?”


“ใช่ค่ะ พวกเขานั่นแหละ!”


“ทำไมเฉินเฉินถึงไปอยู่ตรงนั้นได้? ไปเดินห้างกันไม่ใช่เหรอ?”


“เธออยากไปดูความคึกคักน่ะค่ะ”


เหราอ้ายหมิ่นใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล


จางเย่เองก็ร้อนรนไม่น้อย


อย่ามองว่าทั้งคู่มักจะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อเฉินเฉินมากนัก แท้จริงแล้วในใจพวกเขาต่างรักและถนอมเธอมาก


คนทั้งกลุ่มเดินไปที่ลานจัตุรัสอย่างรวดเร็ว ไกลออกไป พวกเขามองเห็นแผ่นป้ายโฆษณาและเวทีของแบรนด์รถยนต์เกาหลี ที่พื้นปูด้วยพรมแดง และมีรถกันกระสุนสีดำเจ็ดถึงแปดคันจอดอยู่ ด้านข้างมีไม้กอล์ฟ ไม้เบสบอล และอุปกรณ์ต่างๆ เช่นคีมและไขควง เห็นได้ชัดว่าคืออุปกรณ์ที่ใช้ทุบรถ ผู้ชมทั้งหลายยืนล้อมรอบมองสถานการณ์ ตรงกลางเป็นเวที เฉินเฉินและเสี่ยวหวังยืนอยู่ด้านบน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จัดกิจกรรมและผู้จัดการยืนอยู่ด้วย


ตอนนั้นด้านบนเวทีกำลังมีปากเสียงกันอยู่


เสี่ยวหวังเท้าสะเอว “ทำไมถึงทุบแตกได้ล่ะ?”


พนักงานชายชี้ไปที่ประตูรถ “คุณดูสิ คุณลองดูเองสิ!”


เสี่ยวหวังพูดเสียงดัง “พวกคุณให้เด็กทุบเองนะ! พวกคุณให้เด็กขึ้นมาบนเวทีเอง! คนตั้งเยอะมาทุบไม่เห็นเป็นไร ทำไมถึงตอนพวกเราทุบมันถึงมีปัญหา?”


พนักงานชายโมโห “คนอื่นเขาทุบกระจก! ใครให้พวกคุณทุบประตูรถกัน!”


เสี่ยวหวัง “พวกคุณก็ไม่บอกให้ละเอียดเองนี่!”


พนักงานหญิงที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมา “สิ่งที่เราพูดยังไม่ชัดเจนพออีกงั้นเหรอ รถของเรายังต้องเอาไปขายต่อ สีตรงประตูก็หลุดออกมาแล้ว จะขายได้ยังไง?”


เสี่ยวหวังสั่ง “คุณจะตะโกนทำไม ทำให้เด็กน้อยของเราตกใจกลัวไปหมดแล้ว!”


เฉินเฉินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์


ผู้จัดการและพนักงานบางคนแทบจะเป็นลม!


เธอตกใจกลัวที่ไหนกัน!


เธอยังใจเย็นกว่าพวกเราอีก!


ผู้ชมหลายคนที่อยู่ด้านล่างเวทีพูดขึ้นมา


“พวกนายไม่พูดให้ชัดเจน”


“อีกอย่างจะไปโทษเด็กได้ยังไง”


“เด็กตัวเล็กนิดเดียว แขนก็ไม่มีแรงอะไรมาก ทุบพลาดไปก็เป็นเรื่องปกติ”


“เด็กเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ถึงกับให้อภัยไม่ได้หรอกมั้ง”


“ใช่ ช่างมันเถอะน่า”


“บริษัทพวกนายก็ออกจะใหญ่โต เสียเงินเล็กน้อยแค่นี้เอง?”


ผู้จัดการที่อยู่บนเวทีกล่าว “ไม่ใช่เรื่องเสียเงินหรือไม่เสียเงิน แต่พวกเราพูดชัดเจนแล้ว เด็กจะมาทำมั่วๆ ไม่ได้!”


เฉินเฉินตอบเสียงหนักแน่น “รถของพวกคุณไม่มีคุณภาพ”


ผู้จัดการเริ่มรำคาญ เขาชี้หน้าเฉินเฉิน “เธอทุบรถพวกเราเสียหายแล้วยังจะพูดแบบไร้ความรับผิดชอบอีกเหรอ?”


เสี่ยวหวังขู่เหมือนลูกเสือตัวเล็กและปัดมือของเขาออก “คุณชี้อะไร!”


พนักงานชายสองสามคนเข้ามาล้อมเธอไว้ “คุณยังกล้าลงมือเองเหรอ!”


ฟังจนถึงตรงนี้ เรื่องทั้งหมดก็กระจ่างแล้ว


ปรากฏว่าเฉินเฉินพาเสี่ยวหวังเสี่ยวโจวไปดูความคึกคัก ด้านบนกำลังทุบรถกันอยู่ เฉินเฉินก็ไปเข้าแถวอย่างกระตือรือร้น ด้านผู้จัดการเห็นว่าเป็นเด็กคนหนึ่งก็ไม่ได้จริงจังมากนัก เขาจึงพาเธอขึ้นไปพร้อมรอยยิ้ม ผลคือไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหญิงอายุแปดเก้าขวบจะมีแรงเยอะขนาดนี้ เธอเลือกหยิบก้อนอิฐขึ้นมาก้อนหนึ่ง สูดหายใจหนึ่งครั้งจากนั้นก็ขว้างมันออกไป แต่มันกลับไม่ตรงจุดที่ตั้งใจไว้ ก้อนอิฐกระแทกเข้ากับบานประตูที่อยู่ด้านล่างกระจกไปนิดเดียว สีที่ประตูหลุดออกมา แผ่นเหล็กที่ประตูก็จมลงไปเล็กน้อย ผู้ชมที่อยู่โดยรอบเกิดความสงสัย ต่างคิดในใจว่านี่มันรถกันกระสุนไม่ใช่เหรอ กระจกแข็งแรงดีก็จริง แต่ทำไมประตูถึงทนแรงกระแทกไม่ได้เลยล่ะ? สุดท้ายเมื่อเฉินเฉินพูดออกมาหนึ่งประโยคว่า “รถคันนี้ไม่มีคุณภาพ” ผู้จัดการในงานก็ยกเลิกกิจกรรมทันที และดึงพวกเธอเอาไว้ไม่ให้ไปไหน


ผู้จัดการตะโกน “ผู้ปกครองของเด็กอยู่ที่ไหน? ให้ผู้ปกครองมารับผิดชอบ!”


เสี่ยวหวังโกรธ “คุณมีสิทธิ์อะไร?”


ผู้จัดการ “รถเสียหายแล้ว! ผมมีสิทธิ์! ให้ผู้ปกครองของเธอมา!”


ด้านนั้น กลุ่มของจางเย่ก็วิ่งมาถึงพอดี


จางเย่พูดอย่างไม่แยแส “ผมคือผู้ปกครองของเธอเอง”


ในขณะนี้สายตาของผู้คนต่างก็จับจ้องไปที่เขา หลังจากนั้นก็บรรยากาศก็คึกคักขึ้นมาทันที!


“สวรรค์!”


“จางเย่!”


“จางเย่นี่!”


“ทำไมถึงกลายเป็นลูกของจางเย่ได้ล่ะ?”


“พรูด คราวนี้มีเรื่องสนุกครั้งใหญ่แล้ว!”


“จอมตอกหน้าจางมาแล้ว!”


มีคนส่งเสียงเชียร์


มีคนถ่ายรูป


และมีคนบันทึกวิดีโอ


คนจากแบรนด์รถยนต์ก็อึ้งเช่นกัน!


ผู้จัดการมีสีหน้ามืดครึ้ม “จางเย่?”


เสี่ยวหวังเจอคนที่พึ่งพาได้แล้ว “ผู้กำกับจาง!”


จางเย่เดินขึ้นไปบนเวที


เฉินเฉินก็รีบเดินเข้ามาเพื่อประท้วงทันที “จางเย่ รถของพวกเขาไม่มีคุณภาพ”


จางเย่มองไปที่พนักงานเหล่านั้น “ยังไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น พวกคุณเป็นผู้ใหญ่ตัวโตตะโกนเสียงดังใส่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งและยังหน้าเธอ เรื่องนี้พวกเราต้องคุยกันหน่อยแล้ว คุณบอกว่าประตูรถคุณเสียหาย ได้สิ ค่าซ่อมเท่าไร ได้หมด พวกผมเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักเหตุผล แต่คุณจะตะโกนใส่เด็กทำไม?”


พนักงานชายคนหนึ่งส่งเสียงดัง “เธอทุบรถของพวกเรา แล้วยังสาดโคลนป้ายสีเราอีก ถึงจะเป็นเด็กแต่ก็ไม่สามารถพูดจาไร้สาระได้นะ!”


จางเย่มองเขา “ยังจะตะโกนอีกใช่ไหม?”


ผู้จัดการพูดเสียงเย็น “อาจารย์จาง คุณตั้งใจจะมาสร้างปัญหาให้พวกเราหรือเปล่า?”


จางเย่หัวเราะ “ผมสร้างปัญหาเหรอ?”


คนจากสตูดิโอของจางเย่ที่อยู่ด้านต่างก็โมโหขึ้นมาแล้ว!


ผู้ชมที่อยู่โดยรอบยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่เข้าท่าแล้ว พวกเขาคิดว่าผู้จัดการทำแบบนี้กับเด็กหญิงตัวเล็กๆ ออกจะมากเกินไป จะจับลูกของคนอื่นเขาเอาไว้ทำไม กิจกรรมทุบรถได้รถเดิมทีก็เป็นพวกคุณที่จัดมันขึ้นมา พอจางเย่มาถึงก็พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าควรจะชดใช้เท่าไรก็ชดใช้กันตามนั้น พูดกันอย่างมีเหตุผล แต่ทำไมพวกคุณกัดเด็กเสร็จแล้วก็แว้งมาจิกกัดจางเย่อีก?


“อะไรเนี่ย!”


“อาจารย์จาง อย่าไปสนใจพวกเขาเลย!”


“พวกเขากำลังยั่วนิสัยอารมณ์ร้อนของคุณอยู่!”


มีผู้ชมตะโกนออกมา


ยั่วยุฉัน?


เหอะๆ อารมณ์ของฉันไม่ได้ยุได้ง่ายๆ!


จางเย่พูด “เฉินเฉิน เธอลงไปก่อน”


เฉินเฉิน “อื้ม”


แต่ผู้จัดการคนนั้นก็กัดไม่ปล่อยจริงๆ “ไปไม่ได้! เรื่องนี้ต้องจัดการให้เรียบร้อย!” ในคำพูดนี้มีความหมายว่าจะไม่ผ่อนปรนให้อย่างชัดเจน


จางเย่จ้องเขาเขม็ง “ให้เด็กลงไป ผมจะคุยกับคุณเอง”


ผู้จัดการลังเลเล็กน้อย “ก็ได้!”


จางเย่หมุนตัวเดินไปที่หน้ารถคันดังกล่าว เขาก้มหน้ามองและชี้จุดที่สีหลุดออกมา “นี่คือจุดที่เด็กทุบเหรอ?”


พนักงานชายคนหนึ่ง “ใช่!”


จางเย่ถาม “ใช้ก้อนอิฐทุบ?”


ผู้จัดการ “ใช่!”


จางเย่พยักหน้า ก่อนจะพูดว่า “งั้นเด็กน้อยของผมก็พูดไว้ไม่ผิด รถของพวกคุณไม่มีคุณภาพ!”


ผู้จัดการสายตาเย็นชา “คนชั่วร้ายถือโอกาสฟ้องก่อนเหรอ?”


พนักงานชาย “คุณอย่าพูดเหลวไหลนะ!”


จางเย่ “ทุกคนที่มีสามัญสำนึกต่างรู้ดี เด็กอายุแปดถึงเก้าขวบ ทั้งยังเป็นเด็กผู้หญิง แม้ว่าเธอจะแข็งแรงกว่านี้ หรือเกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ เธอก็คงไม่แข็งแกร่งขนาดนั้นหรอกมั้ง?”


ผู้ชมด้านล่างเวทีต่างหัวเราะออกมา


จางเย่ชี้ตรงจุดนั้น “แค่อิฐก้อนหนึ่งก็สามารถทุบประตูรถที่เรียกว่ากันกระสุนของคุณได้ขนาดนี้ ด้านในก็ยุบเข้าไปด้วย? งั้นความสามารถที่คุณบอกว่ากันกระสุนมันอยู่ตรงไหนกัน?” ในขณะที่พูดอยู่ เขาก็เอื้อมมือไปเคาะ “สีที่ทาภายนอกไม่กันกระสุนนั่นผมเชื่อ แต่แผ่นเหล็กนี่ก็เป็นเหมือนกันเหรอ?”


ผู้รับผิดชอบงานโต้กลับทันที “คุณจะรู้อะไร นี่คือชั้นนอก ความสามารถป้องกันที่แท้จริงอยู่ชั้นใน ถ้ามีกระสุนปืนมาก็เจาะได้เฉพาะประตูด้านนอก ฝ่าไปด้านในไม่ได้แม้แต่นิด ประตูรถของพวกเรามีการป้องกันห้าชั้น ทั้งหมดต่างผ่านการทดสอบจากทหารมืออาชีพแล้ว!”


จางเย่พูด “ห้าชั้นไม่ห้าชั้นผมดูไม่ออก ฉันรู้แค่ว่าการป้องกันชั้นแรก ถูกเด็กหญิงอายุเก้าขวบพังด้วยก้อนอิฐเท่านั้น”


ทุกคนส่งเสียงโห่


“ใช่แล้ว!”


“อาจารย์จางพูดถูกทุกอย่าง!”


“ฉันเองก็เพิ่งสงสัยอยู่คนเดียวเมื่อกี้ว่าทำไมทุบแค่ครั้งเดียวก็เละแล้ว?”


“รถคันนี้กันกระสุนได้จริงเหรอ?”


“แต่กระจกค่อนข้างแข็งแรงเลยนะ”


“อืม เมื่อกี้คนยี่สิบกว่าคนทุบยังไม่แตกเลย”


ผู้จัดการได้ยินก็เริ่มโกรธ “อาจารย์จาง ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่าคุณตั้งใจมาสร้างปัญหาจริงๆ! เราไม่สามารถเห็นการป้องกันชั้นในของประตูได้โดยไม่ถอดชิ้นส่วน คุณจงใจกัดเรื่องนี้ไม่ปล่อย คุณหมายความว่ายังไง? คุณมีเจตนาอะไรกันแน่? คุณตั้งใจให้แบรนด์ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง! ระบบกันกระสุนของรถเราเป็นยังไง ผู้ชมด้านล่างเวทีก็ได้เห็นอย่างชัดเจนไปแล้วเมื่อกี้! ตรงนี้มีอุปกรณ์มากมาย ไม่มีใครทุบกระจกรถกันกระสุนของเราได้! รถของพวกเราไม่มีคุณภาพ? เราเป็นผู้ผลิตรถยนต์สามอันดับแรกของเกาหลีนะ! พวกเรามีความมุ่งมั่น คุณภาพรถทุกคันของพวกเราผ่านการทดสอบมาหมดแล้ว!”


พนักงานชาย “คุณกำลังสาดน้ำโคลนใส่พวกเราอยู่นะ!”


พนักงานชายอีกคนหนึ่งก็พูดเสียงดัง “คุณมีเจตนาอะไร!”


คนกลุ่มนั้นพูดจาไม่สุภาพ


ผู้ชมที่อยู่รอบด้านต่างมองด้วยความรังเกียจ


ทำอะไรกันฟะ?


จางเย่เขาเป็นใคร?


ศาสตราจารย์ของเป่ยต้า!


นักคณิตศาสตร์ระดับโลก!


แม้ว่าคุณจะไม่เคารพ แต่อย่างน้อยก็ควรจะสุภาพสักหน่อยไหม? คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง? ทั้งยังจงใจทำให้สับสนอีก? คนอื่นเขาจงใจสร้างปัญหาตรงไหน? ไม่ใช่พวกคุณจับตัวเด็กผู้หญิงเอาไว้แล้วถามหาผู้ปกครองของเธอก่อนเหรอ? ตอนนี้ผู้ปกครองเขาก็มาแล้ว พวกคุณยังพูดนั่นทีพูดนี่ที! คนอะไรกัน!


พนักงานในสตูดิโอของจางเย่เองก็โมโหมากเช่นกัน!


แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจคือ จางเย่กลับหนักแน่นมั่นคงดุจภูเขาไท่ซาน และยังคงเฝ้าดูพวกเขาอย่างเรียบเฉย ไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด


จางเย่หันกลับมา และเอื้อมมือเคาะกระจกรถเบาๆ “กันกระสุนจริงเหรอ?”


ผู้รับผิดชอบงานพูดเสียงเย็น “คุณลองดูได้!”


จางเย่หัวเราะ “ทำไมผมไม่เชื่อล่ะ?”


พนักงานด้านข้างพูดขึ้นมา “พวกเรามีอุปกรณ์! คุณเลือกหยิบ เลือกใช้ได้เลย!”


ผู้จัดการหัวเราะอย่างเย็นชา “คุณบอกว่ารถพวกเราไม่มีคุณภาพไม่ใช่เหรอ? ก็ได้ คุณทุบ ทุบดู ทุบคันนี้ได้เราจะแจกรถให้หนึ่งคัน!”


พวกเขาทุกคนต่างรอดูเรื่องตลก!


จางเย่ก็ยิ้มออกมา “งั้นผมลองดูนะ?”


ผู้จัดการโบกมืออนุญาต “คุณลองเลย ลองได้ตามสบาย!”


ทุบกระจกกันกระสุน?


ล้อเล่นอะไรกัน!


เฮอร์คิวลิสมาเองก็ยังทุบไม่ได้เลย!


จากนั้นจางเย่ก็ยกมือข้างขวาขึ้น!


ไม่ใช้ไม้เบสบอล!


ไม่ใช้ก้อนอิฐ!


เขาโคจรพลังภายในไว้ในฝ่ามือ จากนั้นเขาเพียงตบลงบนกระจกกันกระสุนเบาๆ มีเสียงปังดังขึ้น รถก็สั่นสะเทือนไปทั้งคัน!


กระจกก็มีรอยร้าวเป็นรูปดอกไม้สีขาว!


ผู้จัดการตกตะลึง!


เหล่าพนักงานช็อกค้าง!


ผู้ชมด้านล่างกลายเป็นโง่งม!


พนักงานจากสตูดิโอจางเย่ก็อึ้งไป!


ในเวลาต่อมา จางเย่ยกมือขึ้นอีกครั้ง และฟาดฝ่ามือลงไป!


ปัง!


รถสั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไหว!


กระจกทั้งบานแตกละเอียด!


วินาทีนี้ ผู้คนที่อยู่ในงานไม่มีใครพูดออกมาสักคน!


ทั่วทั้งลานจัตุรัสขนาดใหญ่เงียบกริบ!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)