ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1390-1394

 ภาค 10

 

ตอนที่ 1390

 

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเพียงคนเดียวเท่านั้น!

 


เป็นเวลาดึกมากแล้ว


 


คนในสตูดิโอต่างกำลังทำงานล่วงเวลา


 


โฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ของจางเย่ยังคงเผยแพร่ไปทั่วเอเชียอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากภูมิภาคมีความคล้ายคลึงกัน โรคภัยก็คล้ายคลึงกัน ดังนั้นโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์เหล่านี้จึงสามารถใช้ได้กับทุกประเทศในเอเชีย นอกจากเปลี่ยนแปลงภาษาแล้วอย่างอื่นไม่จำเป็นต้องแก้ไข ความเป็นสากลนี้จึงยิ่งทำให้โฆษณาแผ่เป็นวงกว้างขึ้นอีก


 


“ชาวเน็ตอินเดียยังคงยกย่องไม่หยุด!”


 


“ญี่ปุ่นก็ด้วย!”


 


“สื่อเกาหลีก็รายงานข่าวแล้ว!”


 


“ในประเทศร้อนแรงที่สุด!”


 


“ทั่วเอเชียมีแต่ข่าวโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ของพวกเรา!”


 


“สภากาชาดเอเชียแข็งแกร่งจริงๆ ลงโฆษณาอย่างหนักเลย!”


 


“เพราะผู้กำกับจางของเราสุดยอดมากยังไงล่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชื่อเสียงของโฆษณาเจ็ดแปดตัวของเรา ไม่มีการผลิตซับซ้อน แต่มีความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ ปกติไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์จมากนัก เลยไม่ค่อยมีประเทศไหนตอบรับขนาดนี้ โฆษณาของเราแต่ละตัวถือเป็นระดับสูงสุดของวงการโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์เลย โยนออกมารัวๆ! ให้ตกตะลึงกันทั้งเอเชีย!”


 


“โฆษณาสุดยอดมาก!”


 


“ฉันยังร้องไห้ทั้งที่ดูไปแล้วตั้งหลายรอบ!”


 


ตื่นเต้น!


 


ยินดี!


 


เป็นข่าวดีจากทั่วเอเชีย!


 


ทุกคนในสตูดิโอต่างกำลังดูข่าวและผลตอบรับจากประเทศต่างๆ พวกเขามีความสุขอย่างยิ่ง


 


ฮาฉีฉีมองจางเย่ที่กำลังยิ้มอยู่ และแสดงความยินดี “คุณยอดเยี่ยมมากค่ะ ผู้กำกับจางลงมือเองเมื่อไรก็มั่นใจได้เลย ครั้งนี้คะแนนนิยมของเราคงพุ่งเป็นจรวด…”


 


จางเย่จุ๊ปาก โบกมืออย่างเสแสร้งก่อนพูดว่า “ไอ้หยา คะแนนนิยมอะไรกันล่ะ การกุศลน่า นี่ก็ทำเพื่อสาธารณประโยชน์ทั้งนั้นนะ!”


 


ฮาฉีฉีหัวเราะและรีบเปลี่ยนคำพูดทันใด “ใช่ค่ะใช่ เพื่อการกุศลทั้งนั้น” แล้วเอามือทุบหัวตัวเองเบาๆ “ดูอุดมการณ์ฉันสิ มันต่ำไปหน่อยแล้ว”


 


จางเย่ให้คำชี้แนะ “ทำกุศล อย่าสนใจเรื่องคะแนนนิยมจะเพิ่มหรือจะลดสิ”


 


ฮาฉีฉี “ค่ะ ฉันจิตใจคับแคบเอง”


 


จางจั่ว “ยังคงเป็นผู้กำกับจางที่มีอุดมการณ์สูงส่ง”


 


อู่อี้ “แน่นอนสิ ผู้กำกับจางจะเป็นเหมือนพวกเราเหรอ?”


 


เสี่ยวหวัง “ผู้กำกับจาง คุณคือไอดอลของฉัน!”


 


ทุกคนผลัดกันประจบประแจง


 


จางเย่หัวเราะ และโบกไม้โบกมือ “ไม่หรอก ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า”


 


ตอนนี้หมอนี่เคลื่อนไหวราวกับตนเองเป็น ‘นักบุญ’ อย่างเป็นธรรมชาติ


 


แต่อย่างไรก็ตาม โฆษณาเจ็ดแปดตัวครั้งนี้ทำให้ทุกคนพูดไม่ออกจริงๆ ทั้งความคลาสสิกในความคลาสสิกอีกที และล้วนกระตุ้นจิตใจผู้คน จางเย่เองก็ทุ่มเทเต็มที่ วันนี้สถานะของเขาเปลี่ยนไปไม่หยุด เดี๋ยวก็เป็นพ่อของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เดี๋ยวก็เป็นลูกชายของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์  เดี๋ยวก็เป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ สักพักก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว หลังจากนั้นก็กลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ในหน้าจอโทรทัศน์จางเย่ไม่อยู่ว่างเลย เขาทุ่มแรงกายแรงใจลงไปบนโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ทุกตัว


 


แน่นอนว่าผลที่ได้ก็น่าทึ่งอย่างยิ่ง!


 


……


 


 


ณ สภากาชาดแห่งเอเชีย


 


เจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็ตื่นเต้นกันมาก


 


“มีคนโทรเข้าเยอะจนสายจะไหม้อยู่แล้ว!”


 


“มีหลายคนเข้ามาพูดคุยเรื่องการบริจาคด้วยครับ!”


 


“หัวหน้าคะ เจ้าหน้าที่ไม่พอ! รับสายกันไม่ไหวแล้วค่ะ!”


 


“อา ฝั่งฉันมีนักธุรกิจจีนคนหนึ่งต้องการบริจาคเงินห้าล้านหยวน!”


 


“หัวหน้าครับ หลังจากโฆษณาออกอากาศ สมาคมกาชาดของทุกประเทศในเอเชียก็ได้รับสายโทรศัพท์มากมายนับไม่ถ้วน จำนวนอาสาสมัครที่มาลงทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าเลยครับ!”


 


“เยี่ยมมาก! ยอดเยี่ยมมาก!”


 


“นี่คือพลังของโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์!”


 


“สามารถกระตุ้นความสนใจและความรักของผู้คนจากทุกเพศทุกวัย นี่คือการทำบุญไร้ขอบเขตจริงๆ ความสามารถของอาจารย์จาง พวกเราเพิ่งเข้าใจแจ่มแจ้งก็วันนี้เอง!”


 


“ใช่แล้ว นี่มันน่าทึ่งจริงๆ ฉันไม่เคยคิดว่าโฆษณาสองสามตัวจะสามารถทำให้คนพูดถึงได้อย่างดุเดือดขนาดนี้ อาจารย์จางเก่งกาจมาก สมญานามมือหนึ่งด้านการโฆษณา สมคำร่ำลือจริงๆ ยิ่งอาจารย์จางดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีแห่งเอเชีย โฆษณาของพวกเราจะยิ่งต้องยอดเยี่ยมแน่นอน ทั้งเอเชียมีความหวังแล้ว! ยอดบริจาคเพิ่มขึ้นขนาดนี้ อาสาสมัครก็มากขึ้น อีกหน่อยพอเราดำเนินกิจกรรมการกุศล ต้องราบรื่นอย่างมากแน่นอน!”


 


……


 


 


สื่อมวลชนในประเทศจีน


 


“เชี่ยแม่ง!”


 


“เกิดคลื่นสะเทือนเลือนลั่นแล้ว!”


 


“ผู้ชายคนนี้จะขึ้นเวทีระดับเอเชียด้วยเส้นทางการกุศลจริงๆ?”


 


“ไม่อยากจะเชื่อเลย!”


 


“ใช่ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน!”


 


“อาจารย์จางคนนี้ เดิมทีก็ไม่เคยใช้เส้นทางปกติธรรมดาอยู่แล้ว!”


 


“เขาคิดจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียในรวดเดียวเลยเหรอ?”


 


“พูดไปก็ใช่นะ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหน้าข่าวสารทั่วเอเชียถูกเขากวาดเรียบ ทั้งเทศกาลดนตรีเฮฟวี่เมทัล ทั้งผลงานการเขียนอักษร ‘หลานถิงซวี่’ และยังได้รับแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรี ทั้งยังมีโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ที่ดังไปทั่วอีก? บรรดาสตาร์คิงสตาร์ควีนแถวหน้าของเอเชียทั้งหลาย ช่วงหลายวันนี้ยังออกสื่อไม่มากเท่าเขาเลย!”


 


……


 


 


วงการโฆษณา


 


“ทำไมถึงมีโฆษณาจำนวนมากพร้อมกันได้?”


 


“ผมได้ข่าวมาว่าจางเย่ผลิตออกมาในเวลาแค่สองวันครับ”


 


“อะไรนะ?”


 


“แค่สองวันเหรอ?”


 


“เขาทำได้จริงๆ”


 


“ฉันล่ะยอมแพ้หัวสมองของเขาเลย เขาคิดไอเดียพวกนี้ออกมาได้ยังไงกัน!”


 


“ไม่ต้องพูดแล้ว มาเรียนรู้จากโฆษณาพวกนี้กันก่อนเถอะ”


 


“ผมดูไปยี่สิบรอบได้แล้ว เข้าถึงอารมณ์ได้ดีจริงๆ!”


 


……


 


 


ช่วงดึก


 


ใกล้จะถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว


 


จางเย่กล่าวกับทุกคน “พอแล้วล่ะ เลิกงานกันเถอะ รีบกลับบ้านได้แล้ว”


 


เสี่ยวหวังกลับพูดว่า “รอมาถึงขั้นนี้แล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นไรไปคะ ทำเนียบดาราของเอเชียใกล้จะอัปเตดแล้วนะคะผู้กำกับจาง”


 


ถงฟู่หัวเราะ “ใช่ รออีกห้านาทีเองครับ”


 


ฮาฉีฉี “ฉันเองก็ไม่ได้รีบกลับบ้านค่ะ”


 


จางจั่วหัวเราะฮาๆ “ผมกลับบ้านไปก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี”


 


จางเย่กะพริบตา “เอ้ะ หรือว่าพวกคุณอยากได้ค่าล่วงเวลาเพิ่ม?”


 


เสี่ยวโจว “พรูด!”


 


ทุกคนพูดคุยกันสนุกสนาน ไม่นานเที่ยงคืนก็มาถึง


 


ตอนนั้นทุกคนเปิดคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถืออย่างตื่นเต้น และกดรีเฟรชรายการทำเนียบดาราของเอเชีย สำหรับทุกคนการได้คะแนนนิยมเพิ่มเป็นเรื่องดี พวกเขาใช้ทั้งเงิน ทั้งแรงกายและแรงใจ ใช้พลังงานและความพยายามไปมากเพื่อผลิตโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ออกมา ทุ่มเทอย่างเต็มกำลังที่สุด ตอนนี้ก็มาดูว่าตลาดเอเชียจะแสดงผลตอบรับยังไงต่อพวกเขา


 


จางเย่แอบชำเลืองมอง ก่อนจะมีสีหน้าประหลาดใจ


 


“ดังแล้ว!”


 


“ดังอีกแล้ว!”


 


“อันดับขยับขึ้นแล้ว!”


 


“ขยับขึ้นไปสามอันดับเลย!”


 


“สวรรค์ นี่มันก็เร็วเกินไปแล้ว เพิ่งจะกี่วันเอง!”


 


“ต้องมีโบนัสคะแนนนิยมของทูตสันถวไมตรีแห่งเอเชียอยู่ด้วยแน่! จดหมายแต่งตั้งก็ออกมาแล้ว! พรุ่งนี้ก็จะถึงเวลาแถลงข่าวแล้วด้วย โบนัสคะแนนนิยมน่าจะถูกเพิ่มเข้าไปวันนี้!”


 


“สุดยอดเลยค่ะ ผู้กำกับจาง! สุดยอดไปเลย!”


 


“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะไม่ใช่ดาราระดับเอปลายแถวของเอเชียอีกต่อไป  พวกเราคือบุคคลที่เข้าใกล้ดาราระดับเอกลางแถวแล้ว!”


 


“ใช่ ใกล้จะอยู่กลางแถวของระดับเอแล้ว!”


 


“ความเร็วระดับนี้จะมีใครอีก! ถามหน่อยจะมีใครทำได้อีก!”


 


“ช่วงสามสี่วันมานี้ความนิยมในเอเชียของผู้กำกับจางเพิ่มขึ้นเร็วมาก ใครจะหยุดได้? ใครมาก็ต้องแพ้กลับไปทั้งนั้น!”


 


ทุกคนตื่นเต้นอย่างยิ่ง!


 


ผลเช่นนี้ทำให้พวกเขามีความสุขมาก!


 


แม้ว่าพวกเขาจะมีลางสังหรณ์ จากความเร็วในการเผยแพร่ของโฆษณาและการถูกพูดถึงอย่างร้อนแรง แต่เมื่อเห็นอันดับคะแนนนิยมที่เลื่อนขึ้นจริงๆ พวกเขาก็ทั้งพอใจและภาคภูมิใจพลุ่งพล่านไปทั้งร่างอย่างไม่อาจต้านทาน นี่คือทำเนียบระดับเอเชียเชียวนะ การแข่งขันในระดับเอเชียรุนแรงและโหดร้ายกว่าในประเทศแค่ไหน โดยเฉพาะดาราของจีนที่ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้ติดอันดับเอเชีย มีดาราระดับเอและบีในจีนจำนวนเท่าไรกันที่ไม่ได้ติดในทำเนียบระดับเอเชีย? แต่พวกเขาล่ะ? พวกเขาตัดผ่านเส้นทางที่เปื้อนเลือดอย่างดื้อรั้น และสามารถเพิ่มคะแนนนิยมขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น!


 


บางคนอาศัยภาพยนตร์ครอบครองเอเชีย


 


บางคนอาศัยละครซีรีส์ลุกไหม้ทั่วเอเชีย


 


บางคนอาศัยดนตรีเดินสายทั่วเอเชีย


 


แต่คนที่ใช้โฆษณาเพื่อการกุศลบุกตลาดเอเชีย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเพียงคนเดียวเท่านั้น นอกจากจางเย่ก็ไม่มีใครคนอื่นอีกแล้ว!

 

 

 


ภาค 10

 

ตอนที่ 1391

 

 เรื่องสกปรกของจางเย่!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ชั่วพริบตา


วันแถลงข่าวทูตสันถวไมตรีประจำองค์กรการกุศลของเอเชียมาถึงแล้ว


งานแถลงข่าวจัดขึ้นตอนเย็น ช่วงเช้าจางเย่นั่งอยู่กับคนจากองค์กรการกุศลและกาชาดแห่งเอเชียเพื่อพูดคุยเรื่องกระบวนการถ่ายทอดสดในตอนค่ำ


“อาจารย์จาง การถ่ายทอดสดเป็นแบบทั้งงานนะครับ”


“โอเค ไม่มีปัญหาครับ”


“พวกเรานัดหมายสถานีโทรทัศน์ของเอเชียแต่ละที่ไว้เรียบร้อยแล้ว”


“โอเค ต้องการให้ผมทำอะไรบ้าง?”


“เรื่องนี้ คุณสะดวกเขียนพู่กันอีกรอบไหม”


“หา? ยังต้องเขียนอีกเหรอ เขียนอะไรอีก?”


“แค่กๆ เขียนอะไรก็ได้ครับ”


“งั้นเขียนพวกกลอนอะไรแบบนั้น?”


“ใช่ๆๆ แบบนี้ก็ได้ คุณดูหน่อยว่ากลอนนี้ใช้ได้ไหม?”


จางเย่รับมาดู


เอ๋? ‘แดงทั่วธาร?’


เขาคุ้นเคยกับชื่อกลอนนี้มาก ทว่าตัวบทกลอนเขากลับไม่เคยเห็นมาก่อน


‘แดงทั่วธาร’เป็นชื่อกลอนที่มีในประวัติศาสตร์ทั้งโลกเดิมของจางเย่และในโลกนี้ รูปแบบเหมือนกัน คาดว่าเป็นบทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกใบนี้ เพียงกวาดตามองเนื้อหาคร่าวๆ จางเย่ก็จำได้แล้ว ความจริงแล้วเนื้อหาของกลอนที่เขียนถึงความรักอันยิ่งใหญ่นั้นเข้ากับสถานการณ์มาก ถ้าเขียนกลอนนี้ตอนถ่ายทอดสดก็ถือเป็นการแสดงฐานะของตนต่อองค์กรการกุศล และที่สำคัญที่สุดก็คือผลงานนี้สามารถทำเงินได้ ในเมื่อองค์กรการกุศลของเอเชียได้กำไรจากครั้งก่อนแล้ว ก็ต้องพิจารณาจัดการประมูลการกุศลอีกครั้งแน่นอน และสิ่งที่เป็นไฮไลต์ของงานครั้งนี้ย่อมเป็นงานเขียนอักษรของจางเย่ในค่ำนี้นั่นเอง


จางเย่ทรายเรื่องนี้ดี แต่ก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร


การกุศลเหรอ


คนจะทำการกุศลน่ะวางแผนอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก


“คุณตกลงทำไหมครับ?”


“ได้ครับ ตกลง”


“เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นก็ลำบากคุณแล้ว”


“ทั้งหมดก็เพื่อการกุศล ไม่มีอะไรให้ลำบากเลย”


“อาจารย์จางช่างจิตใจดีมีคุณธรรมนัก เป็นแบบอย่างให้พวกเราได้จริงๆ!”


“ไอ้หยา ทำงานรับใช้ประชาชนน่ะ ทำงานเพื่อประชาชน”


ทุกสิ่งถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างตั้งใจ


สื่อมากมายก็กำลังจับตาดูงานแถลงข่าวในค่ำวันนี้


โฆษณาถูกปล่อยออกไปแล้ว จางเย่เองก็เริ่มโพสต์บนเวยป๋อ


บนอินเทอร์เน็ต


“อะไรนะ?”


“จางเย่จะเขียนพู่กันอีกแล้วเหรอ?”


“ฮ่าๆ ต้องคอยดูแล้ว”


“ตัวอักษรบรรจงกึ่งหวัดของเขาสวยมากจริงๆ!”[1]


“พรืด ดูเวยป๋อเขาสิ เริ่มโพสต์ข่าวการกุศลอีกแล้ว!”


“เจ้าหมอนี่เอาอีกแล้วสินะ!”


“ช่วงนี้ฉันชินแล้วล่ะ”


“ฉันด้วย ให้เขาโพสต์ต่อไปเถอะ”


“จางเย่กลายเป็นคนใจบุญไปแล้ว!”


“จอมตอกหน้าจางตายแล้ว เชิญจุดธูปได้”


“เอ๋  หลังจากนี้จะไม่ได้เห็นจอมตอกหน้าจางไล่สังหารทั่วสารทิศอีกแล้วเหรอ!”


“ใช่ ตอนนี้เจ้าหมอนี่ทุ่มทั้งกายใจให้กับการกุศลแล้ว!”


ทว่าในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องขึ้น!


ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างกะทันหันเช่นนี้ หรือจริงๆ แล้วนี่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย แค่ทุกคนกลับคาดไม่ถึงว่าจะมาเร็วงขนาดนี้!


……


ที่ญี่ปุ่น


คลิปวิดีโอที่จางเย่นำนักศึกษาด่าคนในปีนั้นแพร่กระจายไปทั่ว


“เชี่ย!”


“เขาเคยด่าพวกเราด้วย?”


“ฉันเคยบอกไปแล้ว พวกคุณยังไม่รู้อีกเหรอ?”


“ไม่รู้!”


“ฉันเองก็เพิ่งรู้!”


“ไอ้เชี่ยนี่!”


“แม่ง คนประเภทนี้เป็นทูตสันถวไมตรีได้ด้วยเหรอ?”


“องค์กรการกุศลของเอเชียคิดอะไรอยู่!”


“ไสหัวออกไปจากญี่ปุ่น!”


“ใช่ ต่อต้านจางเย่!”


“ต่อต้านจางเย่!”


“ต่อต้านจางเย่!”


สื่อจำนวนมากเร่งประโคมข่าวกว่าเดิม!


บ้างก็เป็นเรื่องจริง แล้วก็มีข่าวปลอมที่บิดเบือนขึ้นมาเช่นกัน!


ทั้งเหตุการณ์และการกระทำของจางเย่ กระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในชั่วพริบตา!


……


ที่เกาหลี


เรื่องสกปรกของจางเย่ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งจริงทั้งปลอม วิธีการก็ชาญฉลาดมาก เรื่องจำนวนมากที่เดิมทีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ล้วนตกใส่หัวจางเย่!


สัมภาษณ์ของลีอันซู “ปีนั้นที่ประเทศจีน ไม่มีใครเชิญจางเย่ขึ้นรายการคืนส่งปี ดังนั้นผมจึงคิดว่าเขาน่าจะกล้ำกลืนความโกรธไว้เต็มท้อง ถึงมาลงมือกับผม! ผมกอดความคิดว่าสันติสุขนั้นมีค่ามากเอาไว้ สุดท้ายก็พยายามข่มกลั้นไว้สุดแรง คิดไม่ถึงเลยว่าจางเย่จะยังยั่วโมโห ทำให้ผมผิดหวังกับประเทศจีนอย่างถึงที่สุด!”


สัมภาษณ์ของปาร์คแจซัง “จางเย่คนนี้นิสัยแย่เกินไปแล้ว กรณีของลีอันซูไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะตอนอยู่ที่จีนจางเย่ก็เคยลงมือกับผม”


สัมภาษณ์ของคิมจีชาน “คนแบบนี้ไม่คู่ควรกับการเป็นศิลปิน!”


“อะไรนะ?”


“ลีอันซูก็เคยถูกเขาตีเหรอ?”


“กล้าตีพี่อันซูของฉันเหรอ?”


“ปาร์คแจซังก็เคยถูกเขาตีเหมือนกัน?”


“คิมจีชานเองก็เคยถูกเขาด่า?”


“คนสารเลว!”


“ทำไมถึงยังมีคนหน้าไม่อายแบบนี้อยู่อีก!”


“ไล่เขาออกไปเลย!”


“ไม่อนุญาตให้เขามาเกาหลีอีก!”


“ใช่ ต่อต้าน”


“ต่อต้านจางเย่!”


ประเทศเกาหลีเองก็เดือดดาลแล้ว!


ผู้คนค่อยๆ ออกมาถกเถียงกันอย่างดุเดือด!


……


ประเทศอื่นๆ ไม่มีปฏิกิริยาอะไร


แต่ว่าที่ประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น เพียงพริบตาจางเย่ก็ตกอยู่ท่ามกลางมรสุม!


ประชาชนชาวญี่ปุ่นและเกาหลีพากันร่ำร้อง แต่ละคนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล คลื่นของการต่อต้านจางเย่ซัดมาเป็นระลอก แล้วก็ปั่นป่วนขึ้นมาในเวลาสั้นๆ!


ความจริงแล้วเรื่องพวกนี้แต่ไหนแต่ไรจางเย่ก็ไม่เคยปกปิด และไม่เคยหลีกเลี่ยง จะเรื่องด่าคนที่จิงต้าก็ดี หลังจบรายการคืนส่งปีที่เตะลีอันซูจนปลิวในปีนั้นก็ดี ใครถามเขาก็กล้าพูดอย่างโปร่งใส เพราะเขาตระหนักดีว่าในทุกๆ เรื่องล้วนมีสาเหตุ พวกคุณแขกต่างชาติชาวญี่ปุ่นมาที่จิงต้าของพวกเรา พูดจายั่วโมโหอวดดีกับนักเรียนของพวกเรา แล้วยังไม่ยอมให้ฉันพานักเรียนไปด่าพวกคุณอีก? โอ้ ดาราดังลีอันซูที่ยอดเยี่ยมคนนั้น ตอนอยู่ที่ประเทศเราก็ตีคนของเรา แล้วยังไม่ให้ฉันตีคุณอีกเหรอ? มีสิทธิ์อะไร!


จางเย่ไม่แก้ตัว!


เขาเดินอย่างสง่างามไปทุกที่!


แต่ปาร์คแจซังคือใคร?


คิมจีชานคือใคร?


ยังเรื่องพวกนั้นกับคนพวกนั้นอีก? ฉันแม่งไม่เคยแม้แต่จะได้ยิน!


ทำไมถึงกลายเป็นเรื่องของฉันไปเสียแล้ว? ทำไมกลายเป็นฉันตีทุกคนเลย?


หลังคนจากสตูดิโอของจางเย่รู้เรื่องก็โกรธจนไฟลุก!


ฮาฉีฉีเอ่ยอย่างเดือดดาล “อะไรกับอะไรนะ!”


เสี่ยวหวังรีบพูดว่า “ทำไมจู่ๆ ก็เกิดเรื่องล่ะ? ทำไมจู่ๆ ถึงมีข่าวเสียๆ ของอาจารย์จางเยอะแบบนี้?”


อู่อี้ชี้ไปที่รายงานของสื่อหลักทางฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลีบนอินเทอร์เน็ต “พวกคุณดูนี่ เดิมทีเป็นแค่ข่าวปลอม เป็นเรื่องไม่จริง! ทำไมพูดโกหกกันขนาดนี้! แล้วคนพวกนี้แม่งเป็นใคร? ยังมีดาราเกาหลีที่พูดซ้ำไปซ้ำมาหาว่าผู้กำกับจางวางโตด่าคนอีก ยังบอกว่าเห็นกับตาอีก? ตั้งแต่ต้นผู้กำกับจางยังไม่เคยเจอหน้าเขาเลยด้วยเหอะ!”


จางจั่วเอ่ยด้วยสีหน้าดำทะมึนว่า “ความเห็นสาธารณะของทางฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลีต่างเป็นไปในทางนี้หมด!”


ฮาฉีฉีเอ่ย “ถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีคนชักใยอยู่เบื้องหลังล่ะก็ ตีให้ตายฉันก็ไม่เชื่อ!”


เสี่ยวหวังพูดว่า “หรือเพราะเห็นว่าความนิยมของผู้กำกับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บนทำเนียบของเอเชีย ยิ่งนานวันยิ่งดัง ก็เลยเริ่มลงมือ?”


ข่าวแพร่กระจายไปไวมาก!


ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการบีบคั้นจากสื่อส่วนใหญ่ของฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นด้วย!


เสริมด้วยการกระพือไฟจากดาราดังส่วนใหญ่ในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นและเกาหลี!


สื่อทางการเสริมด้วยดาราระดมเข้าใส่มากมาย เรื่องราวก็ยิ่งเลวร้ายลงในชั่วพริบตา ไม่มีทางหยุดยั้งได้อีก!


มีเพียงสื่อในประเทศจีนเท่านั้นที่ช่วยพูดให้จางเย่


‘ญี่ปุ่นเกาหลีเริ่มกระแสต่อต้านจางเย่!’


‘จางเย่ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะ!’


‘ตกลงแล้วจางเย่ล่วงเกินใครกันแน่?’


‘จากการสืบหาความจริง ปาร์คแจซังกับจางเย่เดิมก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน คนสองคนไม่เคยพบหน้ากัน ทำไมตอนปาร์คแจซังให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีถึงพูดว่าจางเย่เคยลงไม้ลงมือกับเขา?’


‘ข่าวปลอมมักปรากฏออกมาบ่อยๆ!’


‘จางเย่ไปแตะผลประโยชน์ของใครเข้า?’


‘จางเย่มีเหตุผลให้ต้องลงมือกับลีอันซู!’


‘ทำไมสื่อและดาราของประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นถึงพยายามคุกคามอย่างกะทันหัน?’


‘การประพฤติผิดเพราะความโกรธเมื่อก่อนของจางเย่ สุดท้ายก็เกิดความปั่นป่วนแล้ว!’


……


ตอนเที่ยง


โทรศัพท์ของจางเย่ดังติดๆ กัน


หนิงหลันโทรมา


“นายเคยตีปาร์คแจซังเหรอ?”


“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร!”


“คนพวกนี้คงอยากลากนายลงมาจากทำเนียบของเอเชีย”


“ฉันมองออกแล้ว”


อู๋เจ๋อชิงโทรมา


“จางน้อย ทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นมีปฏิกิริยาแล้ว”


“อืม เรื่องที่ต้องมาก็มาได้ไม่ดีเลย”


“เตรียมใจไว้แล้วหรือ?”


“เมื่อสองวันก่อนคุณยังเตือนผมอยู่เลย แต่จริงๆ ผมเตรียมไว้แล้ว หรือให้พูดก็คือตั้งแต่ผมด่าพวกเขาตอนนั้นก็เตรียมการไว้แล้ว”


“ดูว่าหลังจากนี้จะเรื่องจะเป็นยังไงต่อเถอะ”


“ผมยังยืนยันคำเดิม ทหารมาตั้งทัพสู้ น้ำหลากมาก่อทำนบกั้น!” [2]


“ดีแล้ว”


เรื่องนี้จางเย่ไม่ได้แปลกใจเลยจริงๆ เขาทราบอย่างกระจ่างชัดมาก ไม่ช้าเร็วก็ต้องมีวันนี้ แค่คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะช่วยกันจุดไฟสาดโคลนมาใส่เขา จางเย่ก็มองดูพลางคลี่ยิ้มเย็นชา!


——————


[1] ตัวอักษรบรรจงกึ่งหวัด หรือ ตัวอักษรสิงซู เป็นรูปแบบตัวอักษรอย่างหนึ่งของจีน มีต้นกำเนิดราวปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก


[2] เปรียบว่า ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหนก็รับมือได้เสมอ

 

 

 


ภาค 10

 

ตอนที่ 1392

 

‘แดงทั่วธาร’ ของโลกนี้!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ตอนกลางคืน


ใกล้ได้เวลาแถลงข่าวแล้ว คลื่นลมก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สื่อของญี่ปุ่นและเกาหลีกับประชาชนของพวกเขาต่างกำลังด่าจางเย่อยู่ ต่อมาถึงขึ้นว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐของเกาหลีและญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่เริ่มออกมาส่งเสียงด้วย ต่างประเมินค่าจางเย่ไว้ต่ำสุด เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอย่างต่อเนื่อง


สุดท้ายก็ทำให้ชาวเน็ตจีนที่ดูอยู่โกรธจนทยอยลุกขึ้นมาสนับสนุนจางเย่


“ทำอะไรน่ะ!”


“ดูไม่ออกหรือไงว่าข่าวปลอม?”


“เจ้าหน้าที่รัฐของเกาหลีกับญี่ปุ่นมาก่อปัญหาเพิ่มทำไมอีก?”


“ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของทางฝั่งนั้นที่สร้างเรื่องก็ได้!”


“ใช่ เป็นไปได้!”


“เรื่องนี้ฉันยืนอยู่ฝั่งจางเย่!”


“ฉันด้วย คนพวกนั้นไม่มีเหตุผลเลย!”


“จะมาด่าจางเย่ได้ยังไง?”


“จางเย่หาเงินบริจาคมาให้พวกคุณ แล้วยังถ่ายทำโฆษณาการกุศลให้อีก นี่เป็นเรื่องดีที่ทั้งเอเชียได้ประโยชน์ ลงแรงไปกับพวกคุณไม่น้อย พวกคุณกลับตอบแทนเขาแบบนี้ แค่พริบตาเดียวก็ไม่รู้จักกันเสียแล้ว? แทงข้างหลังกันแล้ว? พวกคุณยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างไหมหา? หมาแม่งกินไปหมดแล้วหรือไง?”


“ดูแล้วโกรธจริงๆ!”


“แถมดาราเกาหลีพวกนั้นยังช่วยโหมไฟเข้าไปอีก!”


“พวกสื่อเกาหลีญี่ปุ่นเองก็ด้วย เห็นได้ชัดว่าพุ่งไปที่จางเย่!”


“สนับสนุนจางเย่!”


“วุ่นวายแบบนี้ต่อไปจางเย่จะไม่ถูกฝั่งญี่ปุ่นเกาหลีแบนเอาเหรอ?”


“เชี่ย พวกเขากล้าเหรอ!”


“ดูว่าจางเย่จะพูดยังไงเถอะ!”


ชาวเน็ตล้วนติดตาม


ในวงการก็จดจ้อง


คนในวงการบันเทิงเองก็กำลังดูอยู่


การถกเถียงเล็กน้อยกับทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นในสมัยก่อนไม่เห็นจะเคยมีใครหยิบมาพูดเป็นประเด็นใหญ่โตมาก่อน ข่าวในปีนั้นก็มีลง แต่ความยาวของข่าวไม่มาก ผลกระทบเองก็นิดเดียว แต่นั่นเป็นเพราะตอนนั้นจางเย่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไร เป็นแค่ศิลปินธรรมดาๆ คนหนึ่งในประเทศจีน ทว่าตอนนี้กลับไม่เหมือนกันแล้ว ช่วงนี้จางเย่ก้าวหน้าเกินไป โผล่มาที่เวทีระดับเอเชียหลายต่อหลายครั้ง เส้นกราฟการปรากฏตัวพุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง ความนิยมในเอเชียเองนับวันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เรื่องราวมากมายในสมัยก่อนจึงถูกคนขุดกลับมาใหม่อีกครั้ง เพื่อใช้ตอบโต้และเป็นอาวุธที่จะดึงจางเย่ลงจากตำแหน่ง


คนมาเจตนาไม่ดี


คนเจตนาดีไม่มา


ในตอนนั้นเอง การถ่ายทอดสดงานแถลงข่าวก็เริ่มขึ้น!


……


ที่ญี่ปุ่น


“เชี่ย!”


“มาแล้ว!”


“จางเย่ออกมาแล้ว!”


“ด่าเขาเลย!”


“ให้เขาขอโทษ!”


“ใช่ ต้องขอโทษพวกเรา!”


……


ที่ประเทศเกาหลี


“เขายังมีหน้ามาถ่ายทอดสดอีก?”


“จางเย่! นายต้องขอโทษพี่อันซู!”


“ยังมีปาร์คแจซังด้วย!”


“นายต้องชดใช้ให้พวกอปป้าด้วย!”


“ใช่ ขอโทษเลยนะ!”


“ขอเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวทูตสันถวไมตรีขององค์กรการกุศล!”


“ใช่! เปลี่ยนทูตสันถวไมตรีองค์กรการกุศล!”


“ให้อันธพาลประเภทนี้ไสหัวออกไปจากวงการบันเทิงของเอเชีย!”


……


สถานที่จัดงาน


ระหว่างการถ่ายทอดสด


นักข่าวและสื่อจากแต่ละประเทศในเอเชียมาถึงแล้ว ที่หน้างานชุลมุนมาก


ขณะนี้เอง จางเย่ก็เดินเข้ามา


ที่ด้านข้าง ตัวแทนจากกาชาดแห่งเอเชียเอ่ยเสียงต่ำว่า “อาจารย์จางครับ วันนี้สื่อของญี่ปุ่นกับเกาหลีจะต้องพุ่งปลายหอกมาที่คุณแน่ คุณพยายามตอบคำถามให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพวกเขามากเกินไป เรื่องข่าวผมเองก็ได้ยินมาแล้ว ส่วนมากเป็นข่าวปลอม จุดนี้ทุกคนล้วนเข้าใจ คุณวางใจเถอะ พวกเรายืนอยู่ข้างคุณ ข่าวลือยังไงก็เป็นแค่ข่าวลือ มันจะทำลายตัวมันเองแน่ๆ พวกเราทำการกุศล จะมากลัวสิ่เหล่านี้ไม่ได้”


จางเย่ยิ้ม “ครับ”


ตัวแทนเอ่ยว่า “อีกเดี๋ยวพวกเราพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนักข่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือลดเวลาการตอบคำถามลง รอจนคุณเขียน ‘แดงทั่วธาร’ เสร็จพวกเราก็หมดธุระแล้ว”


จางเย่ตอบ “ครับ ไม่มีปัญหา”


แชะ แชะ เสียงกล้องถ่ายรูปดังระรัวไม่หยุด!


สายตาของเหล่านักข่าวเอเชียล้วนจับจ้องมายู่ที่เขา!


จางเย่เดินขึ้นไปบนเวที ยิ้มให้ทุกคนเล็กน้อย แล้วก็นั่งลง


ที่ด้านข้างมีคนขององค์กรทยอยเดินขึ้นมานั่งลงข้างจางเย่


สตาฟของกาชาดเอเชียจำนวนไม่น้อยและเหล่าอาสาสมัครที่อยู่รอบๆ ล้วนพากันกังวล


มีบางคนล้อมวงพูดคุยกันเสียงเบา


“ทำยังไงดี?”


“จริงๆ ก็รังแกกันเกินไปแล้ว!”


“อาจารย์จางเป็นคนดีมากนะ”


“ใช่ ฉันคิดไม่ออกเลยว่าคนทำการกุศลแบบนี้เองก็จะถูกคนเกลียดด้วย!”


“คนเขาบริจาคร้อยล้านดอลลาร์แล้ว ออกเงินออกแรงออกอุปกรณ์ของตัวเองช่วยพวกเราถ่ายโฆษณาการกุศลก็แล้ว ขอถามหน่อย มีสักกี่คนบ้างที่ทำได้ถึงขั้นนี้?”


“ยิ่งไปกว่านั้นคนของอาจารย์จางก็เยี่ยมมาก นิสัยดีสุดๆ”


“ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาฉุนเฉียวมาก่อนเลย”


“อาจารย์จางเย่ทำงานการกุศลด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ”


“พวกคุณดูสิ ขนาดตอนนี้อาจารย์จางยังยิ้มอยู่เลย มีความอดทนมากเลย”


“ใช่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่ยังไม่โกรธ เขาจิตใจดีมากจริงๆ”


อาสาสมัครหนุ่มสาวของกาชาดเอเชียได้รู้จักกับจางเย่ไม่กี่วันก็รู้สึกเคารพนับถือเขา ต่างสนับสนุนเขาเป็นเสียงเดียวกัน ดังนั้นสายตาที่มองพวกนักข่าวเกาหลีญี่ปุ่นเหล่านั้นจึงไม่ค่อยดีนัก ใครบอกว่าอาสาสมัครที่ทำงานการกุศลจะโกรธไม่เป็นกัน?


ในที่สุดงานก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ


ตัวแทนจากองค์กรการกุศลหยิบไมโครโฟนบนโต๊ะ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้คืองานแถลงข่าวเปิดตัวทูตสันถวไมตรีขององค์กรการกุศลแห่งเอเชีย พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เชิญอาจารย์จางเย่มารับหน้าที่เป็นตัวแทนของพวกเรา และรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันข่าวดีนี้แก่สื่อในเอเชีย อาจารย์จางเย่เองก็คงไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับพวกคุณแล้ว ก่อนหน้านี้ อาจารย์จางเองก็เป็นคนทำงานแนวหน้าในงานการกุศลมาตลอด อย่างเช่น โฆษณาการประหยัดไฟฟ้าที่ออกอากาศในประเทศจีนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ทั้งโฆษณาเลิกบุหรี่ ไม่รู้ว่าทุกคนจะยังจำกันได้ไหม?”


อีกฝ่ายพูดอยู่นาน


ในที่สุดก็วนมาถึงคราวจางเย่พูดแล้ว


จางเย่ยิ้มเล็กน้อย เอ่ยว่า “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ แล้วก็ขอบคุณองค์กรการกุศลแห่งเอเชียด้วยที่เชื่อมั่นในตัวผม ให้รับหน้าที่นี้ พูดตามตรงผมเองก็มีความกดดันอยู่ แต่ก็รู้สึกมีแรงขับเคลื่อนด้วย ผมจะทำสุดความสามารถ ทำให้เต็มที่ ช่วยเหลือคนที่ผมสามารถช่วยได้”


อาสาสมัครจำนวนไม่น้อยมองมาที่เขาด้วยความเคารพ


พอจางเย่พูดจบพวกเขาก็ปรบมือให้แบบเอาเป็นเอาตาย!


คนจากสื่อประเทศจีนเองก็ค่อยๆ ปรบมือดังขึ้น!


มีเพียงสื่อจากเกาหลีและญี่ปุ่นเท่านั้นที่ไม่ได้กระตือรือร้นอะไร ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ


ตัวแทนลังเลเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ลำดับต่อไปเป็นช่วงเวลาถามคำถามของนักข่าว” เขามองนาฬิกาแล้วเอ่ยต่อ “เนื่องจากเวลาถ่ายทอดสดมีจำกัด ดังนั้นให้เพียงแค่สามคำถาม”


ยังไม่ทันเรียกคน นักข่าวญี่ปุ่นคนหนึ่งก็พลันลุกขึ้นยืน นักข่าวเกาหลีมองแวบหนึ่งแล้วก็ทยอยถามคำถามเช่นกัน ไม่ได้สนใจกฎเกณฑ์อะไรแล้ว


“ขอถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จางเย่จะขอโทษเรื่องที่เคยใช้ความรุนแรงในอดีต?”


“อาจารย์จางเย่ ทำไมคุณถึงลงมือโจมตีลีอันซู?”


“เรื่องที่คุณโจมตีปาร์คแจซัง คุณมีคำอธิบายอะไรไหม?”


“ฉันอยากถามคนของกาชาดว่าพวกคุณมีมาตรฐานอะไรในการคัดเลือกทูตสันถวไมตรี?”


“จางเย่ ขอให้คุณกล่าวคำขอโทษด้วย!”


“ตอนนี้เป็นการถ่ายทอดสดของเอเชีย คนทั้งเอเชียกำลังจับตาดูคุณอยู่ คุณรับหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรีของเอเชียแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี ควรมีมารยาทสักหน่อย นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด คุณควรขอโทษอย่างเป็นทางการที่คุณเคยทำร้ายประชาชนชาวญี่ปุ่นและเกาหลี แบบนี้ถึงจะได้รับความเคารพและการให้อภัยจากทุกคน!”


นักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่นล้วนลุกขึ้นต่อต้าน ภาพฉากนั้นประหนึ่งตกลงกันมาก่อนแล้วอย่างไรอย่างนั้น!


งานแถลงข่าวเหมือนจะกลายเป็นงานประณามไปเสียแล้ว!


……


ที่ญี่ปุ่น


“ใช่!”


“ขอโทษ!”


“ขอโทษ!”


……


ที่เกาหลี


“รีบขอโทษอย่างเป็นทางการเดี๋ยวนี้!”


“ขอโทษในงานถ่ายทอดสดเลย!”


“เร็วสิ!”


……


ที่จีน


“ขอโทษน้องสาวแกสิ!”


“เชี่ย!”


“ได้คืบจะเอาศอกเหรอ?”


“ทำไมจางเย่ไม่พูดอะไรเลยล่ะ!”


“เจ้าหมอนี่ยังมัวแต่วางท่าอยู่อีกเหรอ?”


“เฮ้อ อาจารย์จางทำงานการกุศลจนโง่งมไปแล้ว!”


……


ในงานแถลงข่าว


สถานการณ์ถูกควบคุมไว้อย่างรวดเร็ว


สื่อเกาหลีกับญี่ปุ่นชุลมุนวุ่นวาย อาสาสมัครและสตาฟจึงเข้าไปห้ามแต่ผลลัพธ์เองก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่


ตัวแทนตัดสินใจจบช่วงถามคำถามของนักข่าวอย่างรวดเร็ว “ลำดับต่อไปจะขอเชิญอาจารย์จางมาเขียนพู่กันให้พวกเราอีกครั้ง ผลงานการเขียนพู่กันนี้จะนำมาประมูลในงานประมูลภายในหนึ่งเดือน เงินที่ได้รับมาทั้งหมดจะนำมาใช้ในการทำการกุศลของเอเชีย พวกเราขอขอบคุณในความใจกว้างของอาจารย์จางเป็นอย่างมาก”


เสียงปรบมือดังขึ้นเปาะแปะ


ส่วนใหญ่เป็นเสียงปรบมือจากอาสาสมัคร


พู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนหมึกถูกยกขึ้นมาแล้ว ทั้งหมดถูกเตรียมไว้เรียบร้อยก่อนหน้านี้


ตัวแทนรีบเอ่ยว่า “อาจารย์จาง เชิญ”


จางเย่พยักหน้า “ครับ”


คนส่วนมากรู้ว่าผลงานเขียนพู่กันที่จางเย่จะแสดงในวันนี้คือ ‘แดงทั่วธาร-ไร้ขอบเขต’ นี่เป็นกลอนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในยุคใกล้[1] เนื้อหาแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต เข้ากับสถานการณ์มาก นำผลงานนี้มาแสดงเป็นอย่างสุดท้ายก็นับว่าเป็นการปิดฉากที่สวยงาม การกุศลไม่แบ่งแยกชนชาติแล้วก็มีเป้าหมายให้ทุกคนเปิดใจ ตัวแทนกาชาดเองก็หวังว่างานเขียนพู่กันของจางเย่จะสามารถทำให้เสียงด่าทอจากทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นสงบลงได้บ้าง


เหล่าอาสาสมัครเองก็เข้าใจ


คนอื่นๆ เองก็เข้าใจจุดประสงค์นี้


ทว่ากลับมีนักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่นอีกสองสามคนโวยวายขึ้นมา


“ขอโทษ!”


“ขอโทษ!”


“ขอโทษเดี๋ยวนี้เลย!”


จางเย่จับพู่กันขึ้นมาแล้ว เขามองนักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่นเหล่านั้นด้วยใบหน้าสงบนิ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ปลายพู่กันจรดลงไป!


‘แดงทั่วธาร’


เหล่าอาสาสมัคร


“อักษรที่ดี!”


“ว้าว!”


“งดงามมาก!”


สื่อจีน


“อักษรสิงซู!”


“อักษรตวัดกึ่งบรรจงสิงซูอีกแล้ว!”


“จริงๆ แล้วแดงทั่วธาร – ไร้ขอบเขตก็ไม่เลวเลย!”


“ฉันเองก็ชอบกลอนบทนี้”


ทว่าตอนที่จางเย่จรดปลายพู่กันลงไปอีกรอบ คนจำนวนมากก็พากันงุนงง


“เล็กๆ?”


“อักษรสองตัวแรกเป็นตัวนี้เหรอ?”


“ไม่ใช่นี่?”


“ใช่ ฉันจำได้ว่าไม่ใช่”


“เอ๋ เขาเขียนผิดเหรอ?”


“เฮ้อ อาจารย์จางที่ยอดเยี่ยมในด้านวรรณกรรมไม่น่าผิดพลาดร้ายแรงในจุดเล็กๆ แบบนี้นะ?”


“แต่เขาเขียนผิดจริงๆ นี่นา!”


“แย่แล้ว กำลังออกอากาศอยู่ด้วย!”


ตัวแทนงุนงง!


เหล่าอาสาสมัครงุนงง!


นักข่าวเกาหลีญี่ปุ่นพากันหัวเราะ ท่าทางเหมือนกำลังดูเรื่องสนุก!


เขียนผิดเหรอ?


สมน้ำหน้า!


สมน้ำหน้าแกแล้ว!


ฮ่าๆๆๆๆๆ!


ทว่าปลายพู่กันของจางเย่ยังพลิ้วไหวต่อไป ตอนที่แสดงพลังผ่านการเขียนอักษรแต่ละตัว เสียงหัวเราะของสื่อเกาหลีญี่ปุ่นก็หยุดลงทันที สื่อจีนปากอ้าตาค้าง เหล่าอาสาสมัครของกาชาดตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ประชาชนชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลีและประเทศอื่นๆ ที่กำลังดูอยู่หน้าจอโทรทัศน์เองก็ประหลาดใจจนผุดลุกขึ้น!


ทุกตัวอักษรล้วนทำให้ตกตะลึง!


ทุกตัวอักษรล้วนดุดัน!


“โลกใบเล็กจ้อย แมลงวันน้อยๆ พุ่งชนกำแพง”


“ร้องหึ่งๆ บ้างโศกเศร้า บ้างสะอื้นไห้”


“คนตัวเล็กจ้อยลำพองอวดโอ่ประเทศ คนยกตนสูงหรือจะพูดถึงความเปลี่ยนแปลง”


“ลมตะวันตกพัดใบไม้โปรยลงฉางอัน ลูกธนูนกหวีดลอยละล่อง”


“เรื่องมากมายเร่งเรื่อย ฟ้าดินหมุนเปลี่ยน เวลาผันแปร”


“หมื่นปีนานเกินไปไฉน เร่งคว้าไว้ทุกโมงยาม”


“สี่สมุทรป่วนเมฆน้ำกราดเกรี้ยว สั่นสะเทือนห้าแดนดิน”


“กวาดล้างคนชั่วให้สิ้น จึ่งไร้เทียมทาน”


จบแล้ว!


ปิดท้าย!


ทำสำเร็จลุล่วง!


ในปีนี้


ในวันนี้


ในนาทีนี้


‘แดงทั่วธาร – กับสหายกัวโม่รั่ว!’[2] ปรากฏบนเวทีอย่างสั่นสะเทือน!


—————————


[1] ยุคใกล้เป็นยุคตั้งแต่ 1849 – 1949 หลังสงครามฝิ่น เป็นยุคที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เริ่มเสื่อมอำนาจ


[2] นักประพันธ์ชาวจีน

 

 

 


ภาค 10

 

ตอนที่ 1393

 

จอมตอกหน้าจางกลับมาแล้ว!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ทั้งห้องเงียบเป็นเป่าสาก!


ผู้ชมที่อยู่หน้าทีวีล้วนทึ่มทื่อไปหมดแล้ว!


ไม่ได้เขียนผิด! ความจริงแล้วเขาไม่ได้เขียนผิด! กลอนบทนี้เป็น ‘แดงทั่วธาร’ จริงๆ รูปประโยคและจังหวะล้วนเป็น ‘แดงทั่วธาร’ แต่กลอนบทนี้กลับไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน นี่ไม่ใช่ ‘แดงทั่วธาร’ ในโลกของพวกเขา ไม่ใช่กลอนบทนั้นที่พวกเขาคิดไว้ รักอันยิ่งใหญ่? ไร้ขอบเขต?ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ? ไม่ใช่แม้แต่ตัวเดียว แม่งไม่ใกล้เคียงเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว!


นี่มันด่าคนแล้ว!


นี่แม่งคือกลอนด่าคนชัดๆ!


แมลงวันพุ่งชนกำแพง?


ร้องหึ่งๆ?


ร้องไห้?


ไอ้คนแซ่จาง! นายด่าใครเนี่ย!


กลุ่มนักข่าวเกาหลีญี่ปุ่นในงานล้วนเป็นนักข่าวที่อยู่ในปักกิ่งมาเป็นเวลานาน แทบทุกคนล้วนอ่านภาษาจีนออก หลังเห็นงานเขียนพู่กันชิ้นนี้แล้ว พวกเขาก็โมโหจนแทบเป็นลม!


“จางเย่!”


“คุณ! คุณ!”


“รังแกกันมากเกินไปแล้ว!”


“คุณด่าคน!”


“ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้!”


“นี่งานถ่ายทอดสดนะ! ขวัญกล้าเทียมฟ้าจริงๆ!”


“โกรธจะตายแล้ว! ฉันโกรธจะตายแล้ว!”


นักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่นรับไม่ได้ แต่ละคนโกรธจนหน้าเขียวแล้ว!


……


บริษัทบันเทิงจีนบางแห่ง


“สวรรค์! เกิดเรื่องแล้ว!”


“อะไรเหรอ?”


“การถ่ายทอดสดของจางเย่เกิดเรื่องแล้ว!”


“ว่าไงนะ?”


“ให้ฉันดูหน่อย!”


เหล่าศิลปินดาราล้วนวางงานในมือลงแล้วรีบวิ่งมาดู!


……


บ้านเหยาเจี้ยนไฉ


“คุณลุงจางลงมือแล้ว!”


“ลงมืออะไร?”


“พ่อ รีบมาดูถ่ายทอดสดเร็วเข้า!”


……


บ้านพ่อแม่


“จางน้อยทำไมไปด่าคนอีกแล้ว!”


“เด็กคนนี้นี่!”


“ช่างเถอะ ชินแล้วละนะ”


……


ที่ญี่ปุ่น


“เชี่ย!”


“ไอ้หมอนี่มันหยาบคายจริงๆ!”


“นี่มันคนแบบไหนกัน!”


“ทำไมถึงมีคนแบบนี้ได้? เขียนพู่กันด่าคนกลางงานถ่ายทอดสด?”


“นี่ไม่ใช่ว่าด่าพวกเราเหรอ?”


“อ๊าๆๆๆๆ ฉันโกรธจนจะบ้าแล้ว!”


“สตาร์คิงของจีนคนนี้มันเป็นหมาบ้า!”


……


ประเทศจีน


“สวรรค์!”


“นี่เขาด่าคนจริงๆ เหรอ?”


“ฉันจะถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา!”


“ยั่วยุ นี่มันเป็นการยั่วยุ!”


“นี่มันชี้หน้าด่าคนแล้ว!”


“ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย!”


“ผู้ใจบุญ?”


“นี่แม่งคนใจบุญตรงไหน เชี่ย!”


“นี่คือทูตสันถวไมตรีของเอเชียเหรอ? คุณเคยเห็นคนใจบุญคนไหนเป็นแบบเขาบ้าง!”


……


วุ่นวายแล้ว!


การถ่ายทอดสดนี้ทำให้ทั้งเอเชียเดือดพล่านไปหมดว!


ใครก็คิดไม่ถึงว่าระหว่างการถ่ายทอดสดเอเชีย ในงานแถลงข่าวที่องค์กรการกุศลจัดขึ้นจะได้เห็นทูตสันถวไมตรีด่าคน ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็น หลังจากนี้ก็คงไม่มีอีกแล้วคนจำนวนมากพากันตะลึงค้างไปหมดว!


บางคนโกรธจนด่าออกมา!


บางคนกระอักเลือด!


บางคนขบขันจนทนไม่ไหว!


บางคนก็ดูเรื่องสนุกอยู่เฉยๆ!


ในงาน


ตัวแทนกาชาดเหงื่อตก ทำเป็นไม่เห็นสีหน้าเกรี้ยวกราดของพวกนักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่น กระแอมออกมาครั้งหนึ่งแล้วพูดว่า “ขอบคุณงานเขียนพู่กันของอาจารย์จางนะครับ ผมขอประกาศว่า งานแถลงข่าวสิ้นสุดลงแล้ว” งานแถลงข่าวก็ถูกเร่งให้จบลงด้วยประการฉะนี้ การถ่ายทอดสดก็ถูกตัดอย่างรีบร้อน ไม่เร่งให้จบได้เหรอ? ถ้ายังไม่จบอีกงั้นพวกเขาแม่งก็คงตีกันแล้วล่ะ! ตัวแทนพากันร้องไห้แล้ว เขารับผิดชอบงานแถลงข่าวประกาศทูตสันถวไมตรีประจำเอเชียมาสองสามครั้ง ทุกครั้งล้วนราบรื่น งานแถลงข่าวประเภทนี้มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้? ต่อให้เกิดเรื่องจริงแล้วจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นได้? เขาคิดแบบนี้ สตาฟในงานเองก็คิดแบบนี้ แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว! แถมยังเป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้าด้วย!


เหล่าอาสาสมัครที่อยู่ด้านล่างเองก็นิ่งงันเป็นไก่ไม้กันไปหมด


“เอ้อ”


“นี่…”


“งานเขียนพู่กันนี่…”


“แค่กๆ”


“อาจารย์จางหนนี้สร้างเรื่องยุ่งแล้ว!”


“ใช่ เขาล่วงเกินคนแบบร้ายแรงเลยนะ!”


งานแถลงข่าวสิ้นสุดลง


ทว่าตัวจางเย่เองยังคงมีสีหน้าเยือกเย็น ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร ราวกับว่าเรื่องพวกนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เจ้าหมอนี่เดินลงเวทีอย่างเอ้อระเหยประหนึ่งไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น


ตัวแทนกลอกตาอย่างแรง “อาจารย์จางครับ ตกลงกันแล้วนี่นาว่าเขียนแดงทั่วธาร!”


จางเย่กะพริบตา “ก็แดงทั่วธารไง”


ตัวแทนโมโหจนมึน “ไม่ใช่แดงทั่วธารอันนั้น”


จางเย่ตอบ “เฮ้อ ก็ไม่ต่างกันมาก  แดงทั่วธารไหนที่ไม่ใช่แดงทั่วธารกันล่ะ”


ไม่ต่างกันมาก?


คุณแม่งไม่ได้ใกล้เคียงเลยต่างหากเข้าใจไหม!


นักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่นยังไม่ไปไหน ยังปักหลักประท้วงกันเสียงดัง


ทว่าในตอนนั้นเอง คนของทางองค์กรการกุศลก็ปรากฏตัว เหล่านักข่าวจากสื่อจีนเองก็สงบเยือกเย็นเช่นเดียวกับจางเย่ มีบางคนที่หลังอัดงานแถลงข่าวเสร็จก็รีบยกอุปกรณ์กลับไป บางคนหลังจากเขียนงานเสร็จก็กลับไปส่งต้นฉบับ บางคนยังจับกลุ่มเดินเคียงกันออกไปด้านนอก คุยไปพลางหัวเราะไปพลาง


ตัวแทน “….”


นักข่าวเกาหลีและญี่ปุ่น “…”


สตาฟจากกาชาด “…”


พวกคุณต้องสงบนิ่งขนาดนี้เลยเหรอ?


เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้พวกคุณไม่รู้เรื่องเลยหรือไง?


แน่นอนว่าคนจากสื่อจีนย่อมรู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ทว่าไม่มีใครประหลาดใจเพราะพวกเขาล้วนเป็นคนคุ้นเคยกัน ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว คนอื่นไม่เข้าใจจางเย่ แต่พวกเขาเหรอจะไม่เข้าใจ? ด่าคนออกอากาศ? พวกคุณไม่เคยเห็นเหรอ? พวกเราเห็นมาเยอะแล้ว นับๆ ดูแล้วในช่วงหลายปีมานี้ มีครั้งไหนบ้างที่จางเย่ไม่ด่าคนออกอากาศ? เขาออกอากาศสดสิบครั้งต้องเกิดเรื่องไปแล้วแม่งแปดครั้ง นี่เป็นครั้งแรกของพวกคุณเหรอ? ความจริงแล้วนักข่าวจีนก็ประหลาดใจมาก พวกเขาประหลาดใจที่ในสถานการณ์แบบนี้ยังมีคนกล้าเผชิญหน้ากับจางเย่อีก พวกคุณไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นใคร? พวกคุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าเขาอารมณ์ร้ายขนาดนี้? โอ้ เขาทำงานการกุศลแค่ไม่กี่วันพวกคุณก็วางใจแล้วเหรอ? คุณคิดว่าเขารังแกได้ง่ายเหรอ? พวกคุณคิดว่าเขาสุภาพเรียบร้อยเหรอ?


เหอเหอ!


ไร้เดียงสา!


ถ้าหากเขานิสัยดีขนาดนั้น วงการบันเทิงคงสงบสุขตั้งนานแล้ว!


ถ้าหากเจ้าหมอนี่เป็นคนพูดจาง่ายขนาดนั้นล่ะก็ งั้นก็ไม่ใช่จางเย่แล้ว!


อันธพาลที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในวงการบันเทิงจีน!


พวกคุณคิดว่าฉายานี้ของเขามีไว้เรียกเปล่าๆ เหรอ?


จำไว้ หลังจากนี้หากต้องการด่าจางเย่ก็จงแอบๆ ด่า อย่าไปต่อกรกับเขาซึ่งหน้าเด็ดขาด ไม่งั้นคุณก็จะพบว่าสุดท้ายแล้วคนที่โดนด่าสาดเสียเทเสียก็คือคุณ เพราะความบัดซบของฝีปากจางเย่นั้น ต่อให้เอาคนร้อยคนมามัดรวมกันแล้วด่าเขา พวกคุณก็สู้ไม่ได้!


……


บนอินเทอร์เน็ต


ชาวเน็ตจีนขำกันจนแทบบ้าแล้ว!


คนจำนวนเริงร่ากันสุดขีด!


“มาแล้ว มาแล้ว!”


“ด่าคนแล้ว! จางเย่ด่าคนแล้ว!”


“น้ำตานองหน้า!”


“ฉันรู้อยู่แล้ว!”


“จอมตอกหน้าจางของฉันกลับมาแล้ว!”


“สวรรค์ จอมตอกหน้าจางสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นจอมตอกหน้าจาง!”


“ฮ่าๆๆๆ ‘แดงทั่วธาร’ บทนั้นด่าได้ตรงไปตรงมาดี!”


“ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว วิเศษมากเลย ที่สำคัญคือไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบกลอนไป เดิมทีต้องเขียน ‘แดงทั่วธาร’ เห็นได้ชัดว่าจางเย่ยังใช้ชื่อและรูปแบบกลอนของ ‘แดงทั่วธาร’ อยู่ แต่กลับเปลี่ยนเนื้อหาไป แถมยังเปลี่ยนสดๆ กลางงานด้วย ความสามารถแบบนี้ ความสามารถด้านวรรณกรรมแบบนี้ ความสามารถในการต่อสู้นี้ กวาดตาหาทั่วโลกก็ไม่มีคนที่สองแล้ว! นี่น่ะป้ายเกียรติคุณของจอมตอกหน้าจางเลยนะ! คือนี่ไง ใครก็อวดอ้างไม่ได้! ใครก็เทียบไม่ได้!”


“เป็นการกำจัดศัตรูที่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนี้!”


“จางเย่แสดงอำนาจแล้ว!”


“อำนาจของจอมตอกหน้าจางเย่! คนดีอะไรแบบนี้!”


“ตื่นเต้นจัง! ช่วงนี้ที่จางเย่ทำงานการกุศลทำฉันตกใจแทบตายแล้วจริงๆ ทุกวันต้องเห็นเขาแชร์ข่าวการกุศลในเวยป๋อ ฉันกระวนกระวายใจจริงๆ สงบจิตสงบใจไม่ได้เลย เฮ้อ ครั้งนี้ในที่สุดก็ทำให้ฉันหายใจหายคอได้สักที ความสง่างามของจอมตอกหน้าจางยังคงเหมือนเดิม!”


“นี่สิถึงจะเป็นจางเย่! ไม่ยินยอมก็ลุกขึ้นต่อต้าน ใครสนกัน!”


“ทำตามที่ใจต้องการ! ระบายความโกรธออกมา!”


“จางเย่แบบนี้สิถึงค่อยสบายตาหน่อย!”


“ใช่ ชอบเวลาหมอนี่ด่าคนจริงๆ!”


“คนอื่นด่าคนล้วนใช้คำหยาบ ไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด ไม่มีพลังอะไรเลยสักนิด ยังเป็นจางเย่ที่ด่าคนได้รุนแรง! ทำให้คนเจริญตาเจริญใจ! ทุกครั้งล้วนเปลี่ยนรูปแบบหลากหลาย!”


“ฮ่าๆๆ ฉันบอกแล้วว่าเขาทนได้ไม่กี่วันหรอก หนก่อนใครบอกว่าเขาสามารถอดทนได้ครึ่งเดือนก็ไม่เลวแล้ว? คิดเยอะไปแล้ว! เจ้าหมอนี่สามวันก็ทนไม่ไหวแล้ว! นี่คืออะไร? เหอๆ คนเราเปลี่ยนนิสัยไม่ได้หรอก เรื่องอารมณ์ร้ายของเขานี่ตลอดชีวิตคงแก้ไม่ได้แล้ว!”


“เห็นจอมตอกหน้าจางด่าคนฉันก็วางใจแล้ว”


……


ในประเทศ


พวกคนในวงการที่เป็นศัตรูกับจางเย่ล้วนไร้คำพูด!


“พวกคุณยอมให้หมอนี่เป็นคนทำงานการกุศลอยู่เฉยๆ ก็ดีอยู่แล้ว!”


“ใช่ อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำแล้วไปยั่วหมอนั่นทำไมกัน!”


“เฮ้อ หนนี้เจ้าอันธพาลนี่สงบได้สองวันก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีกแล้ว!”

 

 

 


ภาค 10

 

ตอนที่ 1394

 

 เขาเพียงไขว่คว้าไว้ทุกนาที!

โดย

Ink Stone_Fantasy

คืนนั้น


ทั้งเอเชียปั่นป่วน


เสียงด่า!


ประณาม!


วิจารณ์!


ต่อต้าน!


ชมเชย!


ยกย่อง!


ทุกเสียงปะทะเข้าด้วยกัน ทุกกองทัพร่วมสังหาร ทั่วทั้งเอเชียต้องสั่นสะเทือนเพราะการถ่ายทอดสดหนึ่งครั้ง งานเขียนพู่กันหนึ่งชิ้นและชื่อหนึ่งชื่อ ‘แดงทั่วธาร’ อันยิ่งใหญ่ในโลกเดิมของจางเย่ทิ่มแทงฟ้าของเอเชียให้เป็นรูแล้วจริงๆ!


บนรถ MPV


พวกฮาฉีฉีมารับเขา


เสี่ยวหวังยิ้มไม่ได้หัวเราะไม่ออก “ผู้กำกับจาง ทำไมคุณถึงจุดไฟอีกแล้วละคะ?”


จางเย่ยิ้มเย็น “จุดไฟ? ผมบอกคุณเลยนะว่าถ้าผมยังไม่ได้ต่อยตี อะไรก็ถือว่ายังเบาทั้งนั้น”


ถงฟู่เหงื่อตก “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอครับว่าหลังจากนี้พวกเราจะเดินบนเส้นทางสายการกุศล? จะเดินบนเส้นทางแห่งความรักอันยิ่งใหญ่? พวกเราเพิ่งแสดงออกถึงภาพลักษณ์สูงส่งก็…”


จางเย่ที่อยู่บนรถเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อวันก่อน เขาตอบว่า “เส้นทางสายการกุศลอะไรกัน! ผมดูออกแล้ว คุณทำการกุศลไป คุณสุภาพไป คนอื่นก็จะคิดว่าคุณจัดการง่าย คนอื่นแม่งก็จะขึ้นมาปีนจมูกเหยียบหน้า” เขาเว้นช่วง ก่อนปลดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตออกแล้วยกขาไขว่ห้าง เอ่ยว่า “ทางสายนี้ดูแล้วไม่เหมาะกันผม สองสามวันมานี้กดดันจนผมแทบพังแล้ว พวกคุณว่าทีมของเราที่คุ้นชินกับอะไรเรื่อยเปื่อย ทีมของเราที่ทะเลาะกับชาวบ้านทุกวี่วัน ไม่มีอะไรทำจนแม่งต้องมาเสแสร้งทำอะไรแบบนี้ด้วยหรือไง”


ฮาฉีฉีเอ่ยยิ้มๆ “คุณคิดตกแล้ว?”


เสี่ยวหวังร้องเอ้อ “งั้นหลังจากนี้จะไม่ทำการกุศลแล้วเหรอคะ?”


จางเย่เหลือกตา “ผมเพิ่งคว้าตำแหน่งทูตสันถวไมตรีมาได้ แน่นอนว่าต้องทำต่ออยู่แล้ว”


ถงฟู่เอ่ย “แต่งานเขียนพู่กันของคุณเมื่อครู่…”


“งานการกุศลก็ต้องทำ คนก็ต้องด่า!” จางเย่สรุปมา “ครั้งนี้พวกเราหุนหันไปหน่อย เจอกับชื่อเสียนิดหน่อย เสียประโยชน์เล็กน้อยก็ลืมตัว ไม่รู้ว่าตัวเองแซ่อะไรแล้ว ไม่ได้ เป็นคนต้องไม่ลืมความตั้งใจแรก พวกเราเติบโตขึ้นท่ามกลางสงครามน้ำลาย พวกเราเดินมาถึงวันนี้ท่ามกลางการทะเลาะต่อยตี ทำไมแค่เพราะตำแหน่งทูตสันถวไมตรีครั้งเดียวถึงกับลืมเรื่องนี้ไปได้เล่า ความตั้งใจแรก ความตั้งใจแรกน่ะเหล่าสหาย! จากนี้ทุกคนต้องจดจำบทเรียนนี้ไว้ เอาไว้เตือนใจ!”


หา?


พวกเราเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกนะ!


ทำไมการด่าคนถึงเป็นความตั้งใจแรกไปได้?


ความตั้งใจแรกของคุณจะสกปรกเกินไปแล้ว!


เสี่ยวหวังยิ้มขื่นแล้วเอ่ยว่า “ผู้กำกับจางคะ ถือว่าฉันเข้าใจแล้ว ถูกก็คือคุณ ผิดก็คือคุณ จะถูกผิดทำไมถึงได้กลายเป็นเหตุผลของคุณไปทั้งหมด พวกเราเถียงไม่ชนะคุณเลย”


ฮาฉีฉีเอ่ยว่า “เรื่องนี้จนถึงตอนนี้ ความจริงจบไม่สวยเท่าไหร่ ทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นเป็นไปได้มากว่าจะลงมือ อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นก็ได้!”


จางเย่ตอบว่า “มาเลย กลัวที่ไหนกัน ผมบอกคุณแล้วเหล่าฮา ยังไงก็ไม่กลัวเรื่อง สตูดิโอของพวกเราทั้งเมื่อก่อนหรือหลังจากนี้ พวกเราอาจไม่มีเงิน พวกเราอาจไม่มีงานให้รับ บางทีแม้แต่ที่ทำงานก็อาจจะไม่มี อาจจะถูกคนอื่นแบนจนต้องแยกย้าย แต่ว่ามีเพียงความซื่อสัตย์เท่านั้นที่จะสูญเสียไปไม่ได้ ใครแทงพวกเรา พวกเราก็ทำแบบนั้นกับมัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเกาหลีหรือญี่ปุ่น อย่างเลวร้ายที่สุดผมแม่งก็ไม่สามารถก้าวหน้าที่เกาหลีหรือญี่ปุ่นได้แล้ว งั้นผมก็จะชี้หน้าด่ามันให้เปรมไปเลย”


ฮาฉีฉีพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ เดิมทีเรื่องนี้ก็เป็นทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นพุ่งเป้ามาที่คุณ ความจริงต่อให้ไม่มีงานเขียนอักษรนั่น ต่อให้คุณไม่ด่าพวกเขา พวกเขาก็จะกดดันแล้วลากคุณลงมาจากทำเนียบฝั่งเอเชียอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ จะไม่ด่าได้ยังไง?”


จางเย่ถาม “คุณคิดว่าใครแม่งทำ?”


ฮาฉีฉีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันรู้สึกว่าทุกคนในวงการบันเทิงทางฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลีล้วนมีส่วน”


จางเย่ไร้คำพูด “ทุกคน? ลูกพี่ไม่เป็นที่ชื่นชอบขนาดนี้เชียว?”


ฮาฉีฉีตอบยิ้มๆ “คุณคิดว่ามนุษยสัมพันธ์คุณดีมากเหรอคะ?”


จางเย่เงียบไปพักหนึ่ง “อืม ก็จริง”


ตอนแรกไม่มีใครใส่ใจจางเย่ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ชื่อเสียงของจางเย่ที่เอเชียยิ่งโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทำเนียบอันดับเองก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนยังเพิ่งแตะอันดับสุดท้ายของระดับ A ในเอเชียอยู่เลย ตอนนี้ตำแหน่งขึ้นมาอยู่กลางๆ ของระดับ A ในเอเชียแล้ว ความนิยมพุ่งขึ้น ชื่อเสียงก็ยิ่งเพื่องฟู ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้แล้วจริงๆ ดังนั้นครั้งนี้ที่มีการรวบรวมข่าวปลอมของจางเย่มาโจมตีต้องเป็นฝีมือของวงการบันเทิงญี่ปุ่นกับเกาหลีร่วมมือกันต่อต้านแน่ๆ ถึงขั้นว่าในนั้นยังมีเงาของนักข่าวญี่ปุ่นกับเกาหลีเข้ามาเกี่ยวข้อง เป้าหมายมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือการดึงจางเย่ลงมา!


จางหย่วนฉีขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียได้!


ฉีเหม่ยหลันขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียได้!


คนอื่นๆ ในวงการบันเทิงจีนล้วนได้!


แต่มีเพียงจางเย่เท่านั้นที่ไม่ได้!


มีแค่จางเย่ที่เคยต่อยตีกับเกาหลีและญี่ปุ่นมาก่อน วงการบันเทิงญี่ปุ่นและเกาหลีรวมไปถึงพนักงานล้วนไม่สามารถดูเขาขึ้นสู่ระดับ S ของเอเชียเฉยๆ ได้


เรื่องที่เคยทำไว้ในอดีต


ในที่สุดวันนี้ก็สร้างความปั่นป่วน!


……


ที่บ้าน


จางเย่เพิ่งกลับมาก็พบว่าในบ้านมีแขก


เพื่อนสนิทของอู๋เจ๋อชิงนั่นเอง ซินหย่า นักคณิตศาสตร์สาวจากซินหัว


จางเย่ยิ้มๆ “โย่ ศาสตราจารย์ซินมาเยี่ยมเหรอครับ?”


ซินหย่ากลอกตา ลุกขึ้นแล้วเอ่ยเจื้อยแจ้วขณะเดินมาหา “ฉันกับเจ๊อู๋เพิ่งดูถ่ายทอดสดเสร็จ คุณนี่มันจริงๆ เลย ทำไมด่าคนอีกแล้วล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นยังกางแผนที่จุดระเบิดอีกด้วย? ด่าหนเดียวก็ด่ารวบเลย? คุณบ้าไปแล้วเหรอ? นี่เป็นการถ่ายทอดสดของเอเชียนะ ก่อนหน้านี้ฉันยังได้ยินเจ๊อู๋บอกว่าคุณอยากพุ่งไปที่ระดับเอสของเอเชีย แล้วหนนี้ทำไมทำแบบนี้? คุณไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาเหรอ? ถ้าหากคนทั้งเกาหลีญี่ปุ่นต่อต้านคุณ คุณจะขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ยังไง? คุณจะทำให้ทุกคนทางฝั่งจีนเป็นแฟนคลับหมดได้หรือไง ต่อให้ได้ประเทศอื่นในเอเชียที่ไม่ใช่เกาหลีแล้วก็ญี่ปุ่นมา คุณก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดไม่ไหวหรอก!”


จางเย่ฟังแล้วก็หัวเราะ “ศาสตราจารย์ซิน ผมยังไม่กังวลเลย คุณจะกังวลทำไมกัน”


ซินหย่าตอบ “เหลวไหล ฉันโกรธแทนเจ๊อู๋ต่างหาก!”


ผลคืออู๋เจ๋อชิงกลับขัดขึ้น


เจ๊อู๋เอ่ยอย่างสงบว่า “เหนื่อยไหม?”


จางเย่ตอบยิ้มๆ “ยังไหวอยู่”


เจ๊อู๋ตอบ “ชงชาเสร็จแล้ว ดื่มน้ำก่อนสักหน่อย”


จางเย่ตอบ “โอเค”


เจ๊อู๋ “เสื้อเชิ้ตนี่ใส่มากี่วันแล้ว? ไม่ใช่ว่าให้ถอดตั้งแต่เมื่อเช้าเหรอ?”


จางเย่ “เฮ้อ ผมลืมน่ะ หยิบมาใส่ๆ ไป”


เจ๊อู๋ “ถอดมาให้ฉัน ฉันมีเสื้อที่ต้องซักพอดี”


จางเย่ “ได้”


ตอบโต้กันไปรอบหนึ่ง ล้วนแต่เป็นเรื่องธรรมดาๆ ในครอบครัว


ประเด็นเรื่องการถ่ายทอดสดและงานเขียนอักษรด่าคนเมื่อครู่ เจ๊อู๋ไม่ได้เอ่ยถึงแม้แต่คำเดียว จางเย่เองก็ไม่ได้อธิบายออกมาเช่นกัน


ไม่นาน จางเย่ก็ขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำ


ทิ้งไว้แต่ซินหย่าที่ปากอ้าตาค้าง “เจ๊อู๋ คุณไม่สนใจเขาเลยเหรอ?”


อู๋เจ๋อชิงตอบอย่างสงบว่า “ฉันมีแนวทางในการทำงานของฉัน เขาเองก็มีสไตล์ในการทำงานของเขา เรื่องที่เขาตัดสินใจไปแล้วฉันล้วนสนับสนุนทั้งนั้น ครอบครัวของพวกเราเป็นแบบนี้มาตลอด”


ซินหย่าแทบเป็นลม “เธอก็ปล่อยปละไปหน่อยหรือเปล่า แบบนี้ได้ที่ไหนกัน ฉันไม่ได้บอกว่าศาสตราจารย์จางไม่ควรด่าคน ความจริงแล้วคนพวกนั้นน่าโมโหมาก ข่าวปลอมพวกนั้นเห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่เขา ต้องการให้เขาจนมุม นี่เป็นวิธีการที่วงการบันเทิงทำบ่อยๆ แต่ก็ต้องดูโอกาสด้วยสิ วันนี้เป็นสถานการณ์อะไร? งานแถลงข่าวขององค์กรการกุศลนะ ถ่ายทอดสดทั่วทั้งเอเชีย ทำไมไม่รอโอกาสที่ดีกว่านี้แล้วค่อยพูดล่ะ? ทำไมไม่รอโอกาสที่เหมาะกว่านี้ค่อยระบายความโกรธออกมาล่ะ? หลังจากนี้ก็ยังมีโอกาสนะ หลังจากนี้ก็ยังมีเวลา รอจนเขาได้เป็นสตาร์คิงของเอเชียแล้ว เขาอยากด่าใครก็ด่าคนนั้น ใครยังจะสนเขาอีก? เขาเขียนพู่กันบทนั้นตอนนี้ นี่เป็นช่วงโอกาสที่แย่ที่สุด เธอเข้าใจไหม?”


อู๋เจ๋อชิงยิ้มๆ “จังหวะไม่ดีจริงๆ”


ซินหย่าตอบ “งั้นทำไมเธอถึงไม่สนใจล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่รอก่อน?”


เจ๊อู๋กลับยิ้ม เอ่ยว่า “นั่นคือจุดที่เขาแตกต่างกับคนอื่น การเขียนอักษรของเขาก็บอกไว้ชัดเจนมากแล้ว เธอบอกให้รอ ต้องรอไปอีกนานแค่ไหน? หนึ่งปี? สิบปี? ร้อยปี? หนึ่งหมื่นปี?” เธอสั่นศีรษะ มองขึ้นไปยังตำแหน่งห้องนอนชั้นบน “สำหรับเขาแล้ว หมื่นปีนานเกินไป เขาจึงไขว่คว้าไว้ทุกนาที”


ซินหย่าเงียบไป พริบตานั้นพลันไม่รู้จะพูดอะไร


……


ตอนกลางคืน


ทำเนียบดาราของเอเชียอัปเดตแล้ว


สิ่งที่ทำให้คนขบขันก็คือ ท่ามกลางเสียงด่าทอของคนในวงการบันเทิงเกาหลีและญี่ปุ่นมากมาย ความนิยมของจางเย่ในเอเชียกลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)