I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง 923-926
ตอนที่ 923
ยาดาบ
หลังจากผ่านไปหลายวัน โจวเหวินที่ฝึกดาบกับเชดี้เรื่อยๆ เขาอยากจะฝึกวิชาทั้ง3000กระบวนท่าดาบให้หมดเพื่อที่ว่าจะได้ดูว่าวิชาดาบไหนที่เหมาะกับการพัฒนายาลมปราณที่สุด และบางทีวิญญาณชีวิตยาลมปราณอาจจะพัฒนาไปเลยก็ได้
เฟิงชิวเยี่นเองที่ไม่ได้ฝึกดาบในช่วงพักฟื้น2-3วันนี้ก็มาดูการฝึกซ้อมของโจวเหวินกับเชดี้ทุกวัน
จากตกใจในตอนแรก สู่ความเฉยชาในตอนสุดท้าย ตอนนี้เชดี้ไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว เธอแค่รู้สึกว่าต้องสู้กับโจวเหวินแบบทุ่มสุดใจ ใช้พลังของดวงตาโอดินเก็บข้อมูลการต่อสู้ของโจวเหวินมาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
เธอไม่ได้คิดอยากจะฝึกวิชาดาบมากมายแบบที่โจวเหวินทำหรอก แต่ถ้าเธอสามารถนำไปปรับใช้กับวิชาดาบของเธอได้ละก็เธอก็จะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน
เอาจริงๆ เชดี้เองก็พัฒนาไประหว่างที่ฝึกด้วย ในตอนที่สู้กับโจวเหวินอยู่นั้น เธอเองก็พยายามปรับวิชาดาบของเธออยู่เรื่อยๆ
บางทีเธออาจจะยังไม่รู้ตัวแต่เพราะว่าเธอมาฝึกกับโจวเหวินทำให้วิชาดาบที่เธอกำลังฝึกอยู่ก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน
โจวเหวินใช้วิชาดาบ13กระบวนท่าในการลองพัฒนาวิญญาณชีวิตแล้ว แต่ดูว่าความเข้าใจในจิตแห่งดาบของโจวเหวินนั้นยังไม่พอทำให้ยาลมปราณนั้นไม่มีทีท่าจะพัฒนาเลย
โจวเหวินเองก็ไม่ได้รีบ ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดโจวเหวินก็ได้สำเร็จจิตดาบ(เจตจำนงแห่งดาบ)ทั้ง3000 ในตอนที่เขาใช้จิตดาบสุดท้ายสำเร็จนั้น โจวเหวินยืนถือดาบแล้วนิ่งไป
เชดี้พอเห็นโจวเหวินเป็นแบบนั้นจึงพุ่งเข้ามาแทงโจวเหวินด้วยดาบในมือ แต่ก่อนที่ดาบจะแทงเข้าร่างไปนั้น เชดี้กลับพบว่าดาบนั้นแทงไม่เข้า โจวเหวินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่ทั้งร่างกายของเขานั้นปลดปล่อยปราญดาบจำนวนมหาศาลออกมา
จิตแห่งดาบรอบนี้มันต่างจากจิตดาบก่อนหน้านี้ ปรกติที่โจวเหวินใช้นั้นส่วนมากจะเป็นวิชาดาบที่มีเจตจำนงที่ชัดเจน แข็ง อ่อน บุก รับ ช้า เร็ว ด้อย สูง แต่ละจิตดาบนั้นจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
แต่จิตดาบที่โจวเหวินปลดปล่อยออกมาตอนนี้มันต่างออกไปอย่างชัดเจน เชดี้เองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าจิตดาบของโจวเหวินในตอนนี้มันคืออะไร แต่เธอรู้สึกได้ว่า ตอนนี้มีจิตดาบนับไม่ถ้วนไหลเวียนอยู่ในร่างของโจวเหวิน ไม่ว่าเธอจะฟันจะแทงยังไงเธอก็เหมือนกับว่าจะโดนสวนดอกเดียวตายไปซะทั้งหมด ถึงเธอจะถอยหลัง เธอก็จะโดนรุกเข้าใส่อยู่ดี จะเดินหน้าก็ไม่ได้ถอยก็ไม่ได้ ถ้าขยับแม้แต่นิดเดียวโจวเหวินจะโจมตีทันที
ฮรุ้ม!!
เสียงระเบิดพลังออกมาจากร่างกายของโจวเหวินแต่ดาบซ้อมในมือของเขานั้นมันแตกไปแล้ว
พลังของดาบที่ไหลเวียนอยู่นั้นยังคงอยู่ ถึงแม้จะไม่มีดาบก็ตาม เหมือนกับว่าดาบทั้งหมดนั้นอยู่ในร่างกายของโจวเหวิน และตัวของโจวเหวินกลายเป็นคลังแสงที่หลอมรวมดาบทั้งหมดในโลกนี้เอาไว้
โจวเหวินดีใจมาก เพราะในที่สุดยาลมปราณของเขาก็เลื่อนขั้นไปเป็นขั้นพัฒนาแล้ว ลมปราณของเขาบริสุทธ์ขึ้น ดูโล่งมากขึ้น แต่ยาลมปราณกลับยังไม่กลายเป็นดาบ มันยังคงเป็นรูปแบบยาเม็ดเหมือนเดิม
แต่ภายในยาเม็ดนั้น มีดาบอยู่เต็มไปหมด
หลังงจากที่วิญญาณชีวิตพัฒนาสมบูรณ์แล้ว พลังปราณดาบที่อยู่รอบตัวของโจวเหวินก็หายไปพร้อมๆกับจิตดาบนับไม่ถ้วน
เชดี้เหงื่อท่วมตัว ตอนที่ปราณดาบหายไปขาของเธออ่อนลงแล้วนั่งลงกับพื้นทันทีพร้อมหอบหายใจอย่างหนัก
เฟิงชิวเยี่ยนที่ดูการฝึกอยู่นั้นเองก็ปาดเหงื่อบนหัวเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปะทะเข้ากับปราณดาบตรงๆแบบเดียวกับที่เชดี้เจอ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของจิตดาบโจวเหวินเหมือนกัน
“โทษทีนะ ไหวไหม”โจวเหวินถามแล้วมองเชดี้ที่นั่งทรุดอยู่กับพื้น
เชดี้ส่ายหัวเล็กน้อย แต่สีหน้าของเธอยังคงยิ้ม “โค้ช อย่าขอโทษเลยค่ะ ฉันตั่งหากที่ต้องขอบคุณโค้ช ถ้าไม่ได้การฝึก ฉันเองก็คงหาวิถีดาบของตัวเองไม่ได้แน่ๆ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”โจวเหวินหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วมองไปที่วิญญาณชีวิต
ยาดาบ ขั้นพัฒนา สวรรค์และโลกาต่างเป็นเตาหลอม ลมปราณคือดาบ เม็ดยาคือศูนย์รวมดาบทั้ง3000
“ทีนี้ละขั้นสุดท้าย”โจวเหวินคิด
ยาดาบสำเร็จแล้ว โจวเหวินไม่จำเป็นต้องฝึกดาบอีกต่อไปแล้ว เขายังไม่ได้คิดเลยว่าจะพัฒนายาดาบต่อยังไงดี โจวเหวินเลยทำได้แค่ดูดซับผลึกกลมปราณต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยาลมปราณค่อยๆพัฒนา ให้มันได้สกัดพลังงานลมปราณรอโอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นขั้นสมบูรณ์
วิญญาณชีวิตเนตรกระจกก็เช่นกัน หลังจากที่พัฒนามันอยู่นาน มันก็ได้เลื่อนขั้นเป็นขั้นพัฒนาเช่นกัน
หลังจากเลื่อนขั้นแล้ว เนตรกระจกก็แข็งแกร่งขึ้นแถมชื่อยังเปลี่ยนอีกด้วย
เนตรมรดก (ขั้นพัฒนา) ดวงตามรดกจากเทพปีศาจ
เนตรมรดกนั้นสืบทอดพลังของเนตรกระจกมาทั้งหมด ในขณะเดียวกันมันก็มีความสามารถเพิ่มขึ้นมาด้วย คือโจวเหวินสามารถสแกนร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่างมิติ จากนั้นเขาก็สามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติตัวนั้นได้
การแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตตัวนั้น ไม่ใช่แค่ภาพลวงตา แต่มันคือการก๊อปปี้ไปเลยมากกว่า ยกตัวอย่างเช่นถ้าโจวเหวินสแกนมังกรเทียน หลังจากแปลงร่างแล้ว โจวเหวินจะมีร่างกายเหมือนมังกรเทียน และสามารถใช้สกิลได้แบบมังกรเทียนทุกอย่าง ทั้งความสามารถและดวงตากระจกของมังกรเทียน
มันเป็นความสามารถที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมาก แต่มันมีปัญหาตรงที่การใช้ความสามารถของเนตรมรดกนี้ มันกินเวลาและพลังงานอย่างมหาศาล แค่การแสกนร่างกายของมังกรเทียนก็กินเวลาสุดๆแล้ว การแปลงร่างยิ่งต้องใช้ลมปราณมากเข้าไปใหญ่ และต้องใช้ลมปราณอีกมหาศาลในการคงร่างมังกรเทียนนั้นไว้ด้วย
ถ้านับแค่พลังลมปราณของโจวเหวินในตอนนี้ แค่สแกนกับแปลงร่างเป็นมังกรเทียนยังทำไม่ได้เลย ตอนนี้มากสุดเขาก็ทำได้แค่แปลงร่างเป็นระดับมหากาพย์ไม่ก็ระดับที่ต่ำกว่าได้พักเดียวเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการแสกนนานมากด้วย
“ถ้าเกิดใช้วิญญาณชีวิตฆาตกรกับเนตรมรดกได้นะ ถ้ามีลมปราณไร้ขีดจำกัดละก็ จะแสกนสิ่งมีชีวิตต่างมิติเก่งๆ แล้วก็จะไม่มีใครต้านทานได้”โจวเหวินคิด
แต่น่าเสียดาบที่มันไม่มีทางทำได้ วิญญาณชีวิตนั้นจะใช้ได้ต่อเมื่อใช้วิชาลมปราณแบบเดียวกันอยู่เท่านั้น การแปลงร่างจะหายไปทันทีที่เปลี่ยนวิญญาณชีวิต
“เราสามารถใช้วิญญาณชีวิต2แบบพร้อมๆกันได้ไหมนะ”โจวเหวินคิด แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
ถ้าเกิดอยากจะใช้วิญญาณอื่นปรกติแล้ว โจวเหวินจะต้องเปลี่ยนวิชาลมปราณ ซึ่งปรกติแล้วมันไม่มีทางเปิดใช้วิชาลมปราณที่ต่างกันพร้อมๆกันได้
“จะว่าไปแล้ว มันเป็นไปได้ไหมนะที่จะใช้วิชาลมปราณ2อย่างที่คล้ายๆกันพร้อมกัน”โจวเหวินลองดูในเกมส์แต่ก็ล้มเหลว
การบังคับเปิดใช้วิชาลมปราณ2อย่างพร้อมๆกันนั้นก็เหมือนกับคนธรรมดา มันจะทำให้เกิดความขัดแย่งภายในและทำลายร่างกายของโจวเหวินทั้งหมดทันที
“ดูเหมือนว่าจะต้องรอให้เป็นระดับเร้นลับก่อนซินะถึงจะลองดูได้ว่ามันทำได้ไหม”โจวเหวินยอมแพ้กับความคิดที่จะใช้วิชาลมปราณหลายวิชาพร้อมกัน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆตั้งแต่ที่โจวเหวินฝึก และมันก็ถึงเวลาที่เขาตกลงไว้กับจักรพรรดินี
ตอนที่ 924
ขโมยของ
“ถึงเวลาตามที่จักรพรรดินีนัดไว้แล้วซินะ อีกแค่ไม่กี่วันเอง ต้องไปเตรียมตัวละ”โจวเหวินคิดก่อนถึงเรื่องที่จะเข้าไปยังโลกต่างมิติเพื่อไปขโมยของบางอย่าง
เหตุผลจริงๆที่เขาตกลงสัญญากับจักรพรรดินีไปนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่เพราะว่าเขาอยากได้เลือดของจักรพรรดินีอย่างเดียวหรอก แต่โจวเหวินเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าโลกต่างมิติที่ๆหวังหมิงหยวนไปนั้น แท้จริงๆแล้วมันเป็นแบบไหนกันแน่
ถึงแม้ว่าจักรพรรดินีจะเป็นคนบอกว่าจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ขอแค่ทำตามแผนของเธอทุกอย่างก็จะปลอดภัยดี แต่โจวเหวินเองก็ยังไม่เชื่อในความว่าปลอดภัยซักเท่าไรเขาเลยอยากจะเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า
อันดับแรกเพราะว่าที่นั้นมันอันตรายมากๆ เขาเลยพาหยาเอ๋อไปด้วยไม่ได้รอบนี้ เพราะยังไงร่างกายของเธอก็ยังแป็นเด็กทารก ถึงเธอจะมีความใจแข็งเกินคน และเป็นระดับเทพจุติระดับเร้นลับหรืออะไรก็ตาม แต่ระดับเร้นลับระดับเทพที่ว่านั้นมันก็ยังอยู่แค่ขั้นร่างสุดของโลกต่างมิติ เพราะงั้นมันอันตรายเกินไป
โจวเหวินอธิบายกับหยาเอ๋อว่าเขากำลังจะไปที่โลกต่างมิติ และขอให้เธออยู่กับอันหลานหยางเป็นเวลา2-3วันแล้วโจวเหวินจะมารับเธอกลับ
หยาเอ๋อพยักหน้าตกลง ดูจากที่ตั้งแต่เธอล้างแค้นเสร็จแล้ว เธอก็ไม่มีท่าทีจะไปทำอันตรายใครที่ไหนเลย เพราะงั้นโจวเหวินเลยค่อนข้างโล่งใจที่จะปล่อยให้เธออยู่คนเดียว
โจวเหวินเลยโทรหาอันหลานหยางเพื่อนัดแนะ ซึ่งนางเองก็ยินดีมากๆ แถมยังเร่งให้โจวเหวินรีบส่งหยาเอ๋อมาให้เร็วที่สุดด้วย
ในวันออกเดินทางโจวเหวินส่งหยาเอ๋อให้กับอันหลานหยางก่อนจะออกเดินทางไปยังภูเขาฉีซือคนเดียว
ตอนที่เขาไปถึงกำแพงภูเขาฉีซืออีกครั้ง เขาก็มองดอกไม้บนกำแพงแล้วพูด “ท่านจักรพรรดินี ฉันมาตามที่นัดไว้แล้ว บอกมาได้เลยว่าฉันต้องทำยังไงบ้าง”
ดอกไม้นั้นค่อยๆกลายกลีบออกแล้วพูด “การที่มนุษย์จะผ่านข้ามกำแพงโลกต่างมิติได้นั้นมันยากมากๆ นายต้องเตรียมตัวเยอะเลยละ”
“เข้าผ่านลูกบาศก์ไปไม่ง่ายกว่าเหรอ”โจวเหวินพูด
“มันต่างกันหน่ะ ลูกบาศก์พวกนั้นเป็นเหมือนประตูหน้า การจะเข้าประตูหน้าถ้าได้รับเชิญมันก็ง่ายจริงๆนั้นแหล่ะ แต่ถ้านายอยากจะเข้าไปขโมยของในนั้นละก็ จะเดินดุ่มๆเข้าประตูหน้ามันก็คงไม่ได้หรอก นายต้องปีนกำแพงไม่ก็ขุดรูผ่านเข้าไป ความยากมันต่างกันเลยนะ แบบเดียวกันที่หวังหมิงหยวนทำก่อนหน้านี้ละ เขาสามารถทำลายกำแพงมิติได้ด้วยพลังของ6อาราม ถ้านายอยากจะเข้าไปในนั้นแบบไม่มีใครจับได้ มันก็ยุ่งยากหน่อย” จักรพรรดินีหยุดแล้วพูดต่อ “แต่สำหรับฉันแล้ว มันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก อย่างมากสุดก็แค่เสียเวลา แต่หลังจากที่นายเข้าไปในโลกต่างมิติได้แล้วนายต้องระวังตัวเองสุดๆเลยนะ นอกเหนือจากที่นายต้องทำตามแผนแล้ว ถ้านายไปเจอเข้ากับอะไรที่ไม่คาดคิดละก็ จำไว้ว่า ให้นายตัดสินใจแก้ปัญหาคับขันนั้นได้เลย แล้วก็จำไว้อีกว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ห้ามใช้กำลังเด็ดขาด ภายในนั้นนายเองเป็น แค่มดปลวกเท่านั้นละ
หลังจากพูดจบ จักรพรรดินีก็เปิดกำแพงภูเขาแล้วให้โจวเหวินเข้าไปในภูเขาฉีซือก่อน
นี้เป็นครั้งที่2ที่โจวเหวินเข้ามาภายในภูเขาฉีซือในโลกความเป็นจริง เขาคุ้นเคยกับทุกอย่างที่นี้แล้ว แต่ที่เขาเห็นส่วนมากนั้นมันเป็นในเกมส์ที่เป็นกราฟฟิกน่ารัก แต่ในความเป็นจริงมันน่ากลัวกว่ามากๆ ตอนที่โจวเหวินกำลังเดินเข้าไปในภูเขาฉีซือนั้นเอง จักรพรรดินีก็อธิบายแผนให้โจวเหวินฟังเรื่อยๆว่าต้องทำอะไร
ขั้นตอนนั้นไม่ยุ่งยากมาก แต่การเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ภายในนั้นแหล่ะคือปัญหา โจวเหวินนั้นเข้าไปในโลกต่างมิติ เพื่อขโมยของ มันไม่ต่างอะไรจากเด็กคนนึงที่ไปวิ่งเล่นเข้าไปในฝูงของหมาป่าเพื่อไปขโมยลูกหมาป่าออกมา ถ้าเขาโดนเจอตัวเข้าหรือโดนจับได้ละก็ โอกาสรอดของเขามันน้อยสุดๆไปเลย
ตอนที่จักรพรรดินีอธิบายแผนให้เขาฟังนั้น โจวเหวินก็คิดขึ้นมาได้เลยว่าจักรพรรดินีนั้นไม่มีทางเป็นปีศาจจิ้งจอกแน่ๆ เพราะว่าถ้าเกิดเขาอยากจะไปยังโลกต่างมิติ เขาต้องใช้พลังของแท่นทองแดงที่กักขังปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเอาไว้
จักรพรรดินีบอกให้โจวเหวินใช้อุบายในการหลอกล่อจิ้งจอก เพื่อที่โจวเหวินจะสามารถใช้พลังของแท่นทองแดงได้ ถ้าจักรพรรดินีเป็นปีศาจจิ้งจอกจริงๆ จะไปลำบากหลอกตัวเองเพื่ออะไรละ
และดูจากที่เขาเข้ามายังหลูไท่ครั้งล่าสุด การแสดงออกของจักรพรรดินีในรอบนี้ นางเองก็ดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมอะไรในหลูไท่ได้เลย เหมือนกับว่านางไม่ใช่สิ่งมีชีวิตต่างมิติของหลูไท่
“แล้วนางมาจากไหนละ ในบรรดาคนที่เกี่ยวกับหลูไท่ นอกจากปีศาจ3ตนที่แปลงกายมาแล้ว ใครอีกละ”โจวเหวินคิดแต่ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้อยู่ดี
ตามแผนที่จักรพรรดินีวางเอาไว้ โจวเหวินนั้นเข้าไปในโบราณสถานชั้นบนของหลูไท่ ฆ่าพวกเทพปลอมในชั้นแรกทั้งหมด แล้วเอาเหยือกไวน์มา เอาไวน์เทให้เต็ม จากนั้นทางเข้าลับไปยังชั้นล่างของหลูไท่จะเปิดออก
“มีทางเข้าลับอยู่ตรงนี้นี่เอง”โจวเหวินในที่สุดก็รู้ว่าเข้าไปในหลูไท่ได้ยังไง ก่อนหน้านี้เขาใช้อสูรปฐพีเข้าไปตลอด
จักรพรรดินีนำทางโจวเหวินไปเรื่อยๆ เพื่อให้โจวเหวินหลบเลี่ยงอันตรายได้ สิ่งมีชีวิต่างมิติบางตัวที่อยู่ระหว่างทางก็โดนโจวเหวินฆ่าตายหมด จนกระทั้งโจวเหวินไปถึงจุดที่ไม่ได้อยู่ในเกมส์ของโจวเหวิน โจวเหวินวางแท่นบูชาและเหยือกไวน์ไว้หน้าประตู จากนั้นก็ดันประตูหินออกมาก่อนจะออกไปซ่อนตัวทันที
หลังจากรอไปได้ซักพัก โจวเหวินก็เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวสีขาวค่อยๆโผล่ออกมาจากซอกของประตู มันดูเหมือนตัวมิ้ง หันซ้ายขวาดูอย่างระวังตัวก่อนจะพบเหยือกไวน์ที่เปิดฝาไว้ ดวงตาของมันลุกวาวพุ่งเข้าใส่เหยือกนั้นทันที
หลังจากนั้นซักพัก เจ้ามิ้งตัวนั้นพอกินไวน์ไปได้หลายเหยือกหลังจากเหยือกสุดท้ายมันก็เมาได้ที่แล้วหลับลงไปคาเหยือกนั้น
พอเห็นได้จังหวะ โจวเหวินเลยค่อยๆเดินเข้าไปย่องอ้อมตัวของตัวมิ้งก่อนจะค่อยๆดันประตูออกแล้วหันกลับไปมองดูตัวมิ้ง พอเห็นว่ามันยังหลับสนิท โจวเหวินเลยรีบเดินเข้าไปข้างในประตูนั้น
ด้านหลังประตูนั้นมีโถงขนาดใหญ่พร้อมด้วยเทพทั้ง4ประดิษสถานเอาไว้ เทพทั้ง4นั้นดูต่างจากเพทปรกติ ดูเป็นแม่ทัพบนโลกมากกว่าเทพบนสวรรค์ แถมยังใส่เกราะดูมุ่งร้ายมากๆด้วย
โจวเหวินจำที่จักรพรรดินีพูดได้ แล้วมองไปที่รูปปั้นที่3
รูปปั้นเทพนั้นตอบรับเขาทันที มันโน้มตัวลงมาหาโจวเหวินถือเหมือนกระถางอะไรบางอย่างที่ด้านในมีลูกแก้วล้ำค่ามากมายเต็มไปหมด พร้อมคำที่เขียนบนกระถางว่า “ทั้งหมดของจักรวาล”
โจวเหวินเดินเข้าหารูปปั้น ก่อนจะบินขึ้นไปบนกระถาง ยื่นมือออกมาจับที่ลูกแก้วลูกนึง แล้วแตะ3ครั้ง
ลูกแก้วนั้นร่วงหล่นลงมาอัตโนมัติ โจวเหวินรีบคว้าลูกแก้วแล้วเดินออกไปจากประตูอย่างไว มองดูตัวมิ้งที่ยังคงหลับอยู่แล้วออกจากที่นี้ไปทันที
โจวเหวินถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นเสียงของจักรพรรดินีก็ดังขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง “ทำดีมาก ตอนนี้ให้นายเอาลูกแก้วนี้ไปที่แท่นทองแดง เอาลูกแก้วให้กับจิ้งจอกเก้าหางมันจะไม่ทำอะไรนายตอนที่นายใช้แท่นทองแดง จำไว้ว่าหลังจากที่นายเข้าไปในโลกนั้นแล้ว นายมีเวลาแค่36ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าเกิดเลยจากนั้นประตูจะปิดเองอัตโนมัติ โอกาสที่นายจะรอดออกมานั้นจะหมดลงทันที นายต้องขโมยกระดิ่งออกมาให้ทัน”
“เข้าใจละ แน่ใจนะว่าจะไม่มีปัญหาอะไรกับประตูมิติที่เปิดค้างไว้แบบนั้น”โจวเหวินถาม
“ไม่มีปัญหาหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง”จักรพรรดินีตอบทันที
ตอนที่ 925
ข้ามมิติ
โจวเหวินมาถึงใกล้ๆกับแท่นทองแดง ตามขั้นตอนที่จักรพรรดินีว่าไว้ ปีศาจจิ้งจอกตื่นขั้นมาจากการหลับใหลทันที แล้วมองโจวเหวินเหมือนกับว่าจะเข้าตะครุบตลอดเวลา
โจวเหวินรีบหยิบลูกแก้วที่เข้าได้มาจากกระถางมาไว้บนมือ ปีศาจจิ้งจอกทันทีที่มองเห็นลูกแก้วนั้น จากท่าทีที่ดุร้าย ตอนนี้สายตาของนางจับจ้องมาที่ลูกแก้ว
พอเห็นว่าปีศาจจิ้งจอกยื่นหัวออกมาแล้ว โจวเหวินก็โยนลูกแก้วนั้นให้กับปีศาจจิ้งจอก
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางกินลูกแก้วนั้นเข้าไปทันที จากนั้นก็มองโจวเหวินแล้วถาม “มนุษย์ ไยเล่าเจ้าถึงทำเช่นนี้”
“ฉันอยากจะใช้แท่นทองแดงเพื่อไปยังโลกต่างมิติหน่ะ”พอเห็นว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั้นเป็นแบบที่จักรพรรดินีพูดจริง เขาก็โล่งใจไป
“เจ้านำลูกแก้ววิญญาณมาให้ข้า ข้าจะให้เจ้าใช้แท่นทองแดงก็ย่อมได้ แต่เจ้าเป็นเพียงแค่มนุษย์ตัวจ้อย จะไปทำอันใดในโลกต่างมิติเล่า ชีวิตเจ้าจะหาไม่เอานะ” ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางพูดด้วยน้ำเสียงน่าหลงใหล
“ฉันอยากจะไปตามหาใครบางคนน่ะ”โจวเหวินพูด
“ใครกัน”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางถาม
“ตี้ฉิน” โจวเหวินตอบตามที่จักรพรรดินีเตี้ยมให้ตอบ
พอได้ยินชื่อนั้นจากโจวเหวิน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางก็ดวงตาเป็นประกายทันทีแล้วพูดกับโจวเหวิน “เจ้าตามหาเขาคนนั้นทำไมกัน”
“ตี้ฉินน่ะเป็นประมุขของมวลมนุษย์ เขาเป็นคนนำมาซึ่งเกียรติยศสูงสุดแก่มนุษย์ และเขาก็เป็นคนที่ฉันเคารพมากกที่สุด ฉันอยากจะไปพบเขาแล้วเรียนรู้วิชาจากเขา หวังว่าจะได้เป็นแสงนำทางมนุษย์….”โจวเหวินพยายามรีดเค้นคำพูดอวยที่เขาซ้อมมาเป็นอย่างดี
พอคิดประโยคพวกนี้ออกมาแล้วเขาก็แอบๆขนลุกเหมือนกัน
จักรพรรดินีนั้นบอกเพียงแค่วิธีการคุยกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง แล้วบอกเขาว่าให้อวยตี้ฉินให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ตัวของโจวเหวินนั้นต้องเป็นคนลงรายละเอียดเอาเอง
เดิมทีโจวเหวินเองก็เป็นคนชมคนอื่นไม่เก่งอยู่แล้ว หลังจากที่คิดคำพวกนี้ออกมาสมองของเขาตายด้านไปกี่เซลแล้วก็ไม่รู้
หลังจากที่ฟังเรื่องโม้ของโจวเหวินจบ สีหน้าของจิ้งจอก9หางก็ดูผ่อนคลายขึ้นมากๆ มันมองโจวเหวินและพูด “เจ้าเป็นมนุษย์จะเข้าไปในโลกต่างมิติ ข้าเกรงว่าเจ้าอาจจะได้ตายก่อนที่จะไปถึงที่คาดหมาย การจะไปถึงตี้ฉินนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว เจ้านำลูกแก้ววิญญาณของรักมาให้ข้า ถ้างั้นข้าจะให้เจ้ายืมบางสิ่ง จงนำติดตัวไปใช้ตามทางของเจ้า หากเจ้ามีโอกาสได้กลับมาค่อยนำมาคืนข้าแล้วกัน”
“ได้เหรอวะ แบบนี้ก็ได้เหรอ”โจวเหวินดีใจมากๆ
ตอนแรกเขาคิดหนักมากว่าสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังแบบปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั้นจะหลงกลเรื่องแบบนี้ง่ายๆจริงๆตามที่จักรพรรดินีบอกจริงๆเหรอ แต่กลับกลายเป็นว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางดูหลอกง่ายกว่าที่เขาคิดเยอะเลย
“อีกอย่าง หากเจ้าได้พบกับตี้ฉินแล้ว ฝากข้อความของข้าไปให้ถึงเขาได้ไหม”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางพูด
“ได้ซิ ถ้าฉันได้เจอเขาเดี๋ยวฉันฝากข้อความให้ แต่ถ้าฉันไม่เจอก็ตามนั้นนะ”โจวเหวินหยุดแล้วพูดต่อ “จะฝากข้อความว่ายังไงละ”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเงียบไปซักพักก่อนจะพูดช้าๆ “อย่าอ่าน”
“อะไรนะ”โจวเหวินไม่เข้าใจที่ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเลยซักนิด
“ต้องให้ข้าสลักมันในสมองของเจ้าเลยไหม”ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางพูดแล้วมองโจวเหวินอยากเยือกเย็น
โจวเหวินสะดุ้งแล้วตอบทันที “ไม่ละ โอเค เข้าใจแล้ว อย่าอ่านนะ ได้เลยได้”
จากนั้นปีศาจจิ้งจอกเก้าหางก็คายอะไรบางอย่างออกมาจากปาก มันเป็นลูกแก้วที่เป็นผลึกใสประกายแสงเหมือนดวงจันทร์
“จงนำสิ่งนี้ไป มันจะช่วยกลบกลิ่นอายมนุษย์ของเจ้าได้ มันจะช่วยให้เจ้ารอดจากการโดนตามล่าจากสิ่งมีชีวิตต่างมิติได้ แต่ถ้าเจ้าไปเจอกับระดับความกลัว ก็จงหลบซ่อนตัวไปให้ไกลเถิด ถ้าเจ้าต้องไปเจอกับระดับที่สูงกว่านั้น จงฆ่าตัวตายซะ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องทรมาน” จิ้งจอก9หางพูด
โจวเหวินยื่นมือออกมารับลูกแก้ว มันมีกลิ่นหอมจางๆเหมือนน้ำหอม เขาเลยเก็บไว้ใกล้ตัวทันที
“มาซิ ข้าจะพาเจ้าไปส่งเอง จดจำที่ข้าขอไว้ด้วย ถ้าเจ้าลืมเจ้าจะไม่ได้กลับไปอีกเลย”จิ้งจอก9หางพูด
“ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าฉันไม่ตาย ฉันจะบอกให้ถึงที่แน่นอน”โจวเหวินพูดแล้วกระโดดเข้าแท่นประตูมิติไป
โจวเหวินนั้นเห็นแท่นทองแดงในเกมส์หลายรอบมากๆแล้ว แต่ตอนแรกเขาคิดแค่ว่ามันเป็นเครื่องมือพันธนาการจิ้งจอก9หางเอาไว้ แต่ที่ไหนได้มันกลับเป็นประตูมิติที่ข้ามไปอีกภพนึงได้ด้วย
หลังจากที่โจวเหวินเข้าไปในนัน้นแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีน้ำวนขนาดใหญ่ดูดตัวเขาเข้าไป
โจวเหวินรีบเปลี่ยนวิญญาณชีวิตเป็นอารยมิติทันที โชคยังดีที่ที่การวาปแบบนี้มันก็จะช่วยพัฒนาวิญญาณชีวิตของเขาด้วยเหมือนกัน
กระแสมิติไหลวนจนโจวเหวินรู้สึกเหมือนกับว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนไปอยู่ในโถส้วมยังไงอย่างงั้น ความรู้สึกมึนหัวชวนคลื่นไส้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขากำลังจะข้ามมิติ แต่การข้ามมิติที่ว่านั้นมันกินระยะเวลานานเกินไป
เพราะแบบนั้นทำให้วิญญาณชีวิตอารยสูญหายพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นในความเร็วเกินกว่าที่โจวเหวินจะจินตนาการได้
โจวเหวินนั้นดูถูกความยากในการเดินทางข้ามมิติไปอย่างจังเลย เขาเคยเดินทางข้ามมิติในลูกบาศก์แล้ว มันดูง่ายดาย
แต่เอาจริงๆ การเข้ามิติในลูกบาศก์นั้นก็เหมือนกับการเข้าประตูหน้า มันต่างจากการแอบลอดลวดหนามปีนรั้วข้ามมายังอีกมิตินึงมากๆ ความยากมันเทียบกันไม่ได้เลย
พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายข้ามมิตินั้นต้องใช้มากกว่าในลูกบาศก์ถึงหมื่นเท่า
หวังหมิงหยวนที่ทำลายกำแพงมิติได้ด้วยพลังของ6อารามนั้น พลังมันต้องเยอะขนาดไหนกันนะ
ถึงแม้ว่าแท่นทองแดงนั้นจะไม่ได้ทำลายกำแพงมิติจริงๆ แต่พลังงานที่มันใช้ไปนั้นมันเยอะมาก มากกว่าการเคลื่อนย้ายด้วยสกิลไปมาอย่างเทียบไม่ได้เลย
หลังจากที่มึนหัวมานานมากๆ เพราะว่ามิติและเวลามันบิดเบือนทำให้โจวเหวินไม่รู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ที่ข้ามมิติมา แต่มันรู้สึกว่านานมากๆ
ตุ๋ม
จู่ๆโจวเหวินก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองตกลงมาในน้ำ ร่างกายของเขาเริ่มกลับมาเป็นปรกติ
เขาตกใจมาก วิญญาณชีวิตอารยสูญหายนั้นพัฒนาขึ้นอย่างมาก การข้ามมิตินั้นทำให้เกิดพลังงานมหาศาลขนาดที่ว่าวิญญาณชีวิตอารยสูญหายนั้นเกือบจะพัฒนาไปอีกขั้นเลยทีเดียว
“ได้เยอะกว่าที่คิดเลยแหะ วาปอีกไม่กี่รอบก็พัฒนาเป็นขั้นสมบูรณ์ได้ละมั่ง”โจเวหวินดีใจ
เขาลอยขึ้นผิวน้ำ ก่อนจะมองไปรอบๆว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ภาพที่เขาเห็นนั้นต้องทำให้เขาผงะทันที
ตอนที่ 926
เคลื่อนย้ายผิดพลาด?
ของเหลวที่ท่วมตัวของโจวเหวินอยู่นั้นประกายแสงสีฟ้าออกมา ด้านนอกของสระน้ำที่โจวเหวินอยู่นั้นเป็นภูเขารูปร่างคล้ายวงแหวนปากปล่องภูเขาไฟ
ที่ใต้สระน้ำนั้นมีผลึกคริสตอลมากมายจับตัวกันไปมา
ตู้ม!!!
ตอนที่โจวเหวินกำลังดูผลึกเหล่านั้นอยู่ จู่ๆโจวเหวินก็เห็นของเหลวสีน้ำเงินในสระนั้นระเบิดออกมาเหมือนภูเขาไฟ
โจวเหวินรีบถอยออกข้างเข้ากำแพงหินแล้วมองดูของเหลวสีฟ้าพ่นออกมาทันที ของเหลวสีฟ้าที่พ่นออกมานั้น ระเบิดเหล่าผลึกมากมายที่อยู่ใต้ของเหลวนั้นขึ้นฟ้าไปด้วย ทันทีที่ผลึกพวกนั้นหลุดออกจากของเหลวแล้วแตะเข้าสู่อากาศ มันก็เริ่มทำปฏิกิริยาอะไรบางอย่างจนผลึกพวกนั้นกลายเป็นจิ้งจอก ดวงตาของจิ้งจอกพวกนั้นเป็นสีฟ้าก่อนจะตกลงมาที่พื้นดินด้านล่าง
“จิ้งจอกพวกนั้น เหมือนกับปีศาจจิ้งจอกในชั้นบนของหลูไท่เลย”โจวเหวินรู้สึกแปลกๆจึงคลานออกไปใกล้ๆปากบ่อ แล้วมองออกไปด้านนอก
ภาพที่เห็นนั้นทำให้เขาตกใจทันที พื้นดินหินสีดำนั้นไม่มีต้นไม้ขึ้นแม้แต่ต้นเดียว มีเพียวท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยควันดำ และภูเขาไฟสีดำอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด
ภูเขาไฟเหล่านั้นพอผ่านไปซักพักนึง มันก็จะระเบิดออกมา แต่สิ่งที่ถูกพ่นออกมานั้นไม่ใช่ลาวาแต่เป็นของเหลวหลากสีแทน
บ้างก็เป็นสีฟ้า ไม่ก็สีแดง ไม่ก็สีเหลือง สีหลากหลายสีต่างกันออกไป ทุกๆครั้งที่ภูเขาไฟระเบิดมันจะพาเอาผลึกสีต่างๆที่อยู่ใต้ภูเขาไฟนั้นปะทุออกมาด้วย
ทันทีที่ผลึกพวกนั้นหลุดออกจากน้ำแล้วแตะโดนอากาศซ มันจะเริ่มกลายร่างและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติทันที
ตะขาบแดงมีปีกบินอยู่ทั่วฟ้า งูยักสีเขียวคำรามออกมา กลุ่มปีศาจเดินว่อนไปทั่วพื้น ส่วนมากนั้นโจวเหวินไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน แต่บางตัวโจวเหวินก็เคยเห็น
ยกตัวอย่างเช่นจิ้งจอกที่ปะทุออกมาจากภูขาไฟที่เขาอยู่นั้นคือปีศาจจิ้งจอกระดับมหากาพย์ในหลูไท่
หรือเม่นสีเทาที่พ่นออกมาจากภูเขาไฟข้างๆนั้น โจวเหวินก็เคยเห็นมันในหลูไท่เหมือนกัน มันเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติระดับมหากาพย์
“หรือว่าที่นี้ แท้จริงแล้วคือสถานที่ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตต่างมิติงั้นเหรอ”โจวเหวินมองดูภูเขาไฟที่ปะทุระเบิดออกมา จำนวนของภูเขาไฟนั้นมันมากมายมหาศาล และภาพของสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่เดินกันไปมานั้นเป็นภาพที่ยากจะอธิบายได้
จิ้งจอกที่พึ่งเกิดมานั้นเหมือนจะเห็นโจวเหวิน และจ้องเขม็งไปที่เขา ทำให้โจวเหวินเริ่มใจไม่ดี ถ้าเขาโดนจับได้ตอนนี้ เขาตายห่าแน่ๆ
แต่จิ้งจอกตัวนั้นกลับไม่ทำอะไรเขาเลย แถมยังทำเหมือนกับว่าโจวเหวินเป็นพวกเดียวกัน เห่าใส่เล็กน้อยแล้วเดินจากไป
“หรือว่า”โจวเหวินคิดถึงลูกแก้วที่จิ้งจอก9หางเคยให้เขาไว้
เขาปีนขึ้นจากหลุม ปีศาจจิ้งจอกเองก็เห็นเขาแต่ก็กลับไม่โจมตีเขาทำให้โจวเหวินผ่อนคลายขึ้นมาก
“ไม่คิดเลยว่าของแบบนี้จะมีประโยชน์สุดๆไปเลย แต่ร่างมนุษย์นี้ยังไงมันก็เตะตาเกินไปซินะ คงต้องหาทางปลอมตัวให้เนียนๆหน่อยละ”โจวเหวินลองมองไปรอบๆดู
จากนั้นเขาก็เจอเข้ากับฝูงแมวหิมะที่รวมตัวกันอยู่ใกล้ปากปล่อง มันเป็นแค่ระดับตำนานเท่านั้น โจวเหวินเลยเดินเข้าไป
แมวหิมะพพพวกนั้นไม่คิดจะโจมตีโจวเหวิน เขาเลยเปลี่ยนวิญญาณชีวิตเป็นเนตรมรดกแล้วสแกนตัวของแมวหิมะด้วยดวงตามรดก
ตอนที่แสกนอยู่นั้นเอง โจวเหวินรู้สึกแปลกๆเหมือนพลังงานจากแมวหิมะนั้นไหลเข้ามาในดวงตาของเขา พลังงานพวกนั้นไหลเข้ามาในเส้นลมปราณทำให้ร่างกายของเขาค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
และพอผ่านไปหลังจากนั้นไม่นาน ร่างของโจวเหวินก็กลายเป็นแมวหิมะ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากแมวหิมะตัวข้างๆเลย แมวหิมะพวกนั้นทำเหมือนกับว่าโจวเหวินเป็นพวกเดียวกันและไม่สนใจโจวเหวินเลยแม้แต่น้อย
ตู้ม
บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมอกควัน สายฟ้าฟาดลงมาเป็นชุด สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่โดนเข้ากับสายฟ้านั้นหายวับไปทันที
ในตอนนั้น สายฟ้าก็ผ่าลงมาข้างๆกับโจวเหวิน แมวหิมะฝูงใหญ่หายวับไปกับตาพร้อมๆกับสายฟ้า
โจวเหวินรีบวิ่งหลบห่าสายฟ้าที่ฟาดลงมาอย่างไม่พัก โจวเหวินรู้สึกได้ว่าสายฟ้าที่ผ่าลงมานั้นมันเป็นสายฟ้าที่มีพลังมิติอยู่ในนั้นด้วย มันไม่ใช่แค่สายฟ้าที่ฟาดลงมาตามธรรมชาติ
“นี้มันต่างจากที่จักรพรรดินีเล่าไว้นี้หว่า”โจวเหวินเริ่มคิดก่อนที่เขาจะหนีออกมาจากรัศมีสายฟ้า ไม่ว่าสายฟ้าจะซัดลากผ่านไปทางใด สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่อยู่ระแวกนั้นก็จะหายไปจนหมด
โจวเหวินจำได้แม่นเลยว่าจักรพรรดินีบอกมาว่า หลังจากที่เขาข้ามมิติไปแล้ว ให้เดินตามหาหอคอยสูง
แต่จากที่โจวเหวินมองด้วยตารอบๆ มันมีแค่ภูเขาไฟเท่านั้นไม่เห็นมีหอคอยอะไรเลย
และสายฟ้าที่ฟาดลงมานั้นโจวเหวินก็ไม่เคยได้ยินจักรพรรดินีพูดถึงเลยซักนิด
“หรือว่าจิ้งจอก9หางนั้นจะพาวาปมาผิดที่กัน… ไม่มีทางหน่ะ จักรพรรดินีก็เคยบอกมาแล้วนี้ ว่าทางวาปจากแท่นทองแดงนั้นวาปมาได้แค่ที่เดียวนี้”โจวเหวินมองไปปรอบๆแล้วเห็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ เขาจึงปีนขึ้นไปบนนั้นเพื่อมองทัศนียภาพโดยรอบๆ เผื่อว่าจะเห็นหอคอยจากบนนั้น
เขาไม่กล้าบินขึ้นฟ้าไปพร้อมว่าตอนนี้อันตรายอาจจะอยู่ได้ทุกที่
แต่ไม่ว่าเขาจะมองยังไง เขาก็ไม่เห็นสิ่งใดๆแบบเดียวกับที่จักรพรรดินีว่าไว้เลยแม้แต่น้อย
ตู้ม!!
ในตอนที่โจวเหวินปีลงมาได้ครึ่งทางนั้น ภูเขาไฟขนาดใหญ่นั้นก็ระเบิดออกมาพ่นของเหลวสีแดงออกมากมาย
ผลึกสีแดงนั้นมันใหญ่กว่าผลึกที่โจวเหวินเคยเจอมากๆ ขนาดของมันใหญ่พอๆกับครึ่งสนามบอล
ทันทีที่ของเหลวพวกนั้นละเหยไปจนเหลือแต่ผลึก มันก็เริ่มการกลายร่างอย่างรวดเร็วทันทีจนกลายเป็นม้าสีแดงเพลิงขนาดใหญ่
ขนาดของแมวหิมะนั้นเป็นได้แค่มดของม้ายักษ์ตัวนั้น
“ให้ตายเหอะ ที่นี่มันพ่นระดับเร้นลับออกมาได้ด้วยเหรอเนี่ย”โจวเหวินค่อยๆถอยออกมาทีละก้าว ตอนนี้เขาเข้าใกล้เจ้าม้านี้มากเกินไปแล้วเขากลัวเจ้าม้าไฟจะจับได้ว่าเขาเป็นคน ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะไม่กลัวระดับเร้นลับปรกติแล้วตอนนี้ แต่ถ้าเขาสู้กับม้าไฟตรงนี้ละก็ ความซวยจะตามมาถึงที่แน่ๆ
โชคยังดีที่ม้าไฟเองก็ดูจะไม่สนใจโจวเหวิน อาจจะเป็นเพราะในสายตาของมันโจวเหวินเป็นแค่แมวหิมะหน้าโง่ที่ไม่ต้องสนใจก็ได้
ตู้ม!!! ตู้ม!!
ม้าไฟเดินตรงเข้าไปกลางพายุสายฟ้าก่อนที่มันจะหายวับไปกลางสายฟ้านั้น
“ที่นี้มันที่ไหนกันวะเนี่ย ทำไมไม่เห็นเหมือนที่จักรพรรดินีเล่าเอาไว้เลยวะ”โจวเหวินเดินขึ้นไปยังจุดสูงสุดของภูเขาแล้วเขาอยากจะเห็นจริงๆว่าหอคอยสูงที่จักรพรรดินีพูดถึงนั้นมันอยู่ตรงไหนกันแน่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น