I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง 892-897
ตอนที่ 892
การกลับมาของหลี่ซวน
ปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นดวงตาเปร่งแสงออกมาพร้อมหางทั้ง9ที่โบกสะบัดไปมาอย่างบ้าคลั่ง พลังงานลมปราณของมันระเบิดออกมาเหมือนภูเขาไฟ โจวเหวินรีบอัญเชิญเบม่อนออกมาแล้วใช้เบม่อนเพื่อรับมือแต่ผลที่ออกมาคือทันทีที่เบม่อนต้องสายตาของจิ้งจอก9หาง มันก็โดนตรึงเสน่ห์ใส่ในทันที
โจเหวินรีบหนีออกมาทันทีแต่ก็มีเบม่อนที่โดนควบคุมวิ่งไล่ตามมา
“แม้แต่ระดับเร้นลับก็ไม่รอดเหรอเนี่ย”โจวเหวินหันกลับไป โชคยังดีที่จิ้งจอก9หางนั้นโดนล๊อกอยู่ในแท่นทำให้ตามมาไม่ได้ เบม่อนนั้นวิ่งไล่ตามโจวเหวินมาได้ซักพัก มนตร์เสน่ห์ที่โดนสาปไว้ก็ค่อยๆหายไป จนโจวเหวินสามารถกลับมาควบคุมมันได้อีกครั้ง ก่อนจะเก็บเบม่อนกลับไป
“ฉันทนเสน่ห์ได้ แต่สัตว์อสูรทนไม่ไหวซินะ ดูเหมือนว่าจะต้องฆ่ามันทิ้งก่อนซินะ”โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นไม่น่าใช่จักรพรรดินีแน่ๆ
เพราะถึงแม้ว่าจักรพรรดินีจะไม่ได้ฉลาดเหมือนในความเป็นจริงแต่อย่างงน้อยมันก็ไม่ได้โง่ แต่จากที่ดูปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นต่างจากจักรพรรดินีอย่างชัดเจน อย่างน้อยปีศาจจิ้งจอก9หางเองก็ไม่มีพลังในการสาปคนนั้นละ
ยิ่งกว่านั้นโจวเหวินยังไม่เห็นปีศาจจิ้งจอก9หางใช้ร่างความกลัวเลยด้วย ถ้าปีศาจจิ้งจอก9หางใช้ร่างความกลัวละก็ ดาบของโจวเหวินคงฟันไม่เข้าแน่ๆ
โจวเหวินกลับมาที่จุดที่เขาเจอปีศาจจิ้งจอก9หางอีกครั้ง รอบนี้โจวเหวินใช้พลังของผ้าคลุมล่องหนด้วยการใช้ล่องหนสมบูรณ์ทำให้ปีศาจจิ้งจอก9หางมองไม่เห็นเขาก่อนที่โจวเหวินจะค่อยๆแอบย่องมา โจวเหวินใช้ดาบแสงกับเทพสังหารในการตัดหัวของปีศาจจิ้งจอก9หางจนขาดโดยที่ปีศาจจิ้งจอก9หางไม่ได้มีทางจะตอบโต้
“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่จักรพรรดินีจริงๆซินะ”โจวเหวินผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาแค่รู้สึกอะไรแปลกๆไปหน่อยน่ะ
ปีศาจจิ้งจอก9หางก็ตายแล้วเกมส์ควรจะแจ้งเตือนแต่มันกลับไม่แจ้งเตือนว่าปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นตาย
กริ๊ก กริ๊ก
โซ่ที่เคยผนึกปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นจู่ๆก็แตกออกมาเพราะว่าปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นตายไปแล้ว
แต่หลังจากที่โซ่นั้นถูกทำลาย ร่างของปีศาจจิ้งจอก9หางก็เริ่มงอกกลับมาใหม่อีกครั้ง หางทั้ง9ของมันโบกสะบัด หัวของมันงอกกลับมาเหมือนเดิม ลมปราณของมันมอดไหม้เหมือนกับไฟ ร่างของมันนั้นแปลเปลี่ยนกลายเป็นสาวงามในชุดนอนไม่ได้นอนของจริง
ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นลืมตาขึ้นมา ร่างของนางก็ปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาทันที
“คำเตือน คำเตือน ปีศาจจิ้งจอก9หางเข้าสู่ร่างความกลัว ปีศาจจิ้งจอก9หางเข้าสู่ร่างความกลัว”โจวเหวินอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมา
“ระดับความกลัวเหรอ”โจวเหวินพูดแล้วกระโดดถอยออกมาทันทีโดยไม่หันหลังกลับ จิ้งจอก9หางที่โจวเหวินเห็นเมื่อกี้แท้จริงแล้วมันมีร่างความกลัวด้วย
โชคดีที่ตอนนี้โจวเหวินนั้นใช้พลังของผ้าคลุมล่องหนอยู่ทำให้ปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นมองไม่เห็นเขาทำให้เขารอดออกมาได้นั้นเอง
“ถึงจะยังไม่แน่ใจว่าปีศาจจิ้งจอก9หางเป็นจักรพรรดินีรึเปล่า แต่ที่แน่ๆคือถ้าเกิดชายแก่นั้นตามฉันมาได้จริงๆอย่างน้อย ฉันก็พามาหาปีศาจจิ้งจอก9หางก็ได้”โจวเหวินเห็นความสามารถของปีศาจจิ้งจอก9หางแล้วทำให้เขามั่นใจขึ้นมา
ความสามารถที่แกร่งที่สุดของปีศาจจิ้งจอก9หางคือเสน่ห์ ซึ่งเสน่ห์ที่ว่านั้นใช้กับโจวเหวินไม่ได้แม้แต่น้อย ทำให้สำหรับโจวเหวินแล้ว ปีศาจจิ้งจอก9หางนั้นเป็นร่างความกลัวที่โจวเหวินคิดว่าอ่อนที่สุดตอนนี้
โจวเหวินถอนตัวออกจากจุดที่จิ้งจอก9หางอยู่แล้วไปที่อื่นในหลูไท่เพื่อสำรวจ และผลที่ออกมาก็คือ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน แต่สุดท้ายมิติก็จะพาโจวเหวินกลับมาหาปีศาจจิ้งจอก9หางเสมอ
“ดูเหมือนว่าจะต้องจัดการก่อนซินะถึงจะเปิดทางอื่นให้ไปได้น่ะ”โจวเหวินตอนนี้ล้มเลิกความคิดตัวเองก่อน แล้วคิดว่าจะไปฟาร์มเกมส์อื่น
โจวเหวินฟาร์มทุกเกมส์ที่มีแล้ว ส่วนมากไม่ค่อยจะได้ของอะไรเท่าไร แต่ตอนที่เขาไปฟาร์มที่สุสานดาบโบราณ โจวเหวินก็ได้เจอกับดาบระดับเร้นลับอีกครั้ง
มันเป็นดาบโบราณขนาดใหญ่ที่มีพลังทำลายมหาศาล หลังจากที่สังหารมันลงได้ จึงได้รู้ชื่อของมันว่าเป็นดาบกรีดนภา ซึ่งเป็นดาบระดับเร้นลับ แต่โชคร้ายที่ไม่ดรอปไข่ออกมา
หลังจากที่อยู่ในลั่วหยางหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของชายแก่ มันทำให้โจวเหวินรู้สึกไม่ค่อยจะดีเท่าไร
อาเซิงนั้นทำการจับตาดูอย่างใกล้ชิดด้วยเหมือนกัน เขาฟังจากที่โจวเหวินเล่ามาแล้ว และหวังว่าจะหาตัวของชายแก่ให้เจอก่อนที่เขาจะเข้ามาถึงลั่วหยาง แต่กลับไม่มีข่าวอะไรกลับมาเลย ไม่รู้ว่าเขามาถึงที่ลั่วหยางแล้วสามารถหลบการตรวจตาได้ทั้งหมด หรือว่ายังมาไม่ถึงกันแน่
ที่สนามฝึกซ้อมของกลุ่มซวนเหวิน
“ประธานชมรมสุดแกร่งของพวกนายกลับมาแล้ว มีใครดีใจกันบ้างไหม?”หลี่ซวนกลับมาก่อนที่เขาจะบอกไว้ซะอีก
ตามที่หลี่ซวนเล่าเขาได้ไปเรียนวิชาแมลงส่วนมากมายจากตระกูลตู่กู๋แต่เพราะว่าที่เหลือของคอร์สเรียนมันคือการฝึกอย่างหนัก ทำให้หลี่ซวนเบื่อแล้วหนีออกมาก่อน และเพราะว่าตอนนี้เขามีหนอนไหมน้ำแข็งตั้ง2ตัว ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของหลี่ซวนนั้นแร่งขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ตอนที่อยู่กับตระกูลตู่กู๋ ตู่กู๋จงได้บอกให้หลี่ซวนห้ามใช้หนอนไหมน้ำแข็งเด็ดขาดเพื่อที่จะให้เขาได้สู้กับแมลงทุกชนิดด้วยตัวเองจริงๆ ซึ่งมันหนักมากๆ
แต่ก็เพราะแบบนั้นทำให้เขามีความรู้และเข้าใจในแมลงที่ลึกมากๆ มันช่วยทำให้เขาแกร่งขึ้นมากทีเดียว
“หล่อขึ้นกว่าเดิมอีกนะเนี่ย”โจวเหวินมองหลี่ซวนตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เหรอวะ”หลี่ซวนเอามือแตะคางแล้วเก๊กหล่อ “ไม่ใช่ว่าหล่ออยู่ตลอดแต่นายไม่เห็นความหล่อของฉันหรอกเหรอ”
“ไม่ๆ นายหล่อขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อนจริงๆนะ เห้ย มาใกล้หน่อยดิขอฉันดูใกล้ๆหน่อย”โจวเหวินมองหลี่ซวนไปมาก่อนจะพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “อ้อรู้ละ”
“รู้ว่าอะไร”หลี่ซวนถาม
“รู้แล้วว่าทำไมนายถึงหล่อขึ้นไง”โจวเหวินพูด
“ทำไมอะ”หลี่ซวนถามทันที
“ก็เพราะว่านาย…”โจวเหวินเบาเสียงลงก่อนจะเดินเข้าไปหาหลี่ซวนใกล้เพื่อให้ได้ยินชัดๆ ก่อนจะซัดหน้าหลี่ซวนเข้าเบ้าตาเปรี้ยงใหญ่ๆ “ก็เพราะว่านายไม่ได้โดนอัดมาหลายวันเกินไปไง”
หลี่ซวนที่โดนต่อตาเขียวนั้นก็โกรธ “โฮโฮ่ เดี๋ยวนี้กล้าจู่โจมฉันก่อนเลยเหรอ แกไม่ตายดีแน่”
หลี่ซวนพุ่งเข้าโจมตี แล้วเปิดวิญญาณชีวิตของตัวเองออกมาเป็นชุดเกราะแล้วเหวี่ยงหมัดเต็มสุดแรงแขน
โจวเหวินหลบได้ก่อนจะใช้ดาบฟันคอของหลี่ซวน
ด้วยพลังของหลี่ซวนทำให้เขาไม่จำเป็นต้องหลบดาบของโจวเหวินอีกต่อไป กลับกัน เขาใช้ฝ่ามือแทงเข้าไปที่เอวของโจวเหวินเหมือนคมมีดแหลม
“กระบวนท่าของนายมันอะไรกันน่ะ”โจวเหวินตกใจ
หลี่ซวนนั้นสามารถเรียนรู้และก๊อปความสามารถกระบวนท่าและวิชาต่างๆได้จากการแค่เอาตัวเองไปบาดเจ็บ แต่ไม่เคยเห็นว่าเขาจะเคยมีวิชากระบวนท่ามาก่อนเลย
วิชากระบวนท่านั้นเป็นจุดอ่อนของเขามาโดยตลอด เพราะยังไงการโจมตีทางกายภาพนั้นมันก็ทำอะไรหลี่ซวนไม่ได้อยู่แล้ว
แต่มันก็เห็นได้ชัดๆเลยว่าหลี่ซวนนั้นพัฒนาไปไกลมากแล้วจริงๆ
“เห้ย วิชานี้มันเป็นวิชาลับของตระกูลตู่กู๋เลยนะ มันเข้ากับพรสวรรค์ของฉันได้ดีมากเลยละ ฉันเลยจิ๊กมันมาจากตระกูลตู่กู๋ซะเลย”หลี่ซวนพูดอย่างภูมิใจ
“ถ้างั้นก็ขอฉันดูหน่อยละกันว่ามันทำอะไรได้”โจวเหวินจริงจังก่อนจะดันพลังของวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณจนไปถึงจุดขีดสุด
ตอนที่ 893
ดุเดือดเลือดพล่าน
กู๋เตียน เฟิงชิวเยี่ยน เชดี้ กรีฟ ฟางหลัวซี และสมาชิกคนอื่นๆของกลุ่มซวนเหวินต่างดูการประลองครั้งนี้อยู่ข้างๆสนาม
เฟิงชิวเยี่ยนนั้นดูมาซักพักแล้วดวงตาก็ลุกโชน “การกลับมาของประธานครั้งนี้เขาแกร่งขึ้นเยอะมากเลย ความสามารถในการใช้สกิลอย่างต่อเนื่องนั้นมันหลุดออกจากระดับของมนุษย์ไปแล้ว อีกอย่าง ความสามารถในการฮีลตัวเองตลอดเวลาที่สู้นั้นทำให้เขาแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก รอบนี้ดูเหมือนว่าโค้ชจะมีปัญหาแล้วละครับ”
เชดี้พยักหน้า “สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดสำหรับหลี่ซวนคือเขามีความสามารถในการพลาดกี่ครั้งก็ได้ เพราะถ้าเป็นคนอื่นพลาดละก็ ครั้งเดียวก็หมายความถึงชีวิตได้ แต่ด้วยพลังของเขาทำให้คำว่าผิดพลาดนั้นไม่มีอยู่จริง
กรีฟพูดด้วยความอิจฉา “ทำไมฉันถึงไม่ได้มีวิญญาณชีวิตเก่งๆแบบนั้นบ้างนะ”
โจวเหวินกับหลี่ซวนกำลังเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด โจวเหวินใช้จ้าวมังกรบินผสานกับวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ แต่แรงกดดันของการต่อสู้ก็ยังคงมากขึ้นได้อีก
วิชากระบวนท่าของหลี่ซวนในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น ดูเหมือนว่าการที่เขาไปเรียนรู้ที่ตระกูลตู่กู๋จะทำให้เขาพัฒนาไปเยอะมากจริงๆ
แต่ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ไม่ว่าโจวเหวินจะโจมตีเกราะของหลี่ซวนยังไง อย่างมากที่สุดเกราะก็แค่ร้าวแต่มันไม่ได้ทำให้การโจมตีสวนกลับของหลี่ซวนช้าลงเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เกราะร้าวแล้ว มันก็ซ่อมตัวเองแล้วแกร่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้การที่โจวเหวินจะทำลายมันได้นั้นมันยากยิ่งกว่าเดิม
ไม่ใช่แค่เกราะแมลงจะแข็งขึ้นแล้ว หลี่ซวนเองก็แกร่งขึ้นแบบจริงๆอีกด้วย เขาใช้กระบวนท่ามากมายแปลกๆในการต่อสู้ การที่มันแปลกทำให้มันยากต่อการคาดเดาได้ หลายๆท่าแม้แต่มนุษย์ปรกติก็ยังทำไม่ได้เลย
โจวเหวินรู้ดีแล้ว ว่าจริงๆทุกกระบวนท่าที่หลี่ซวนใช้นั้นมันคือกระบวนท่าที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตต่างมิติล้วนๆ
โจวเหวินใส่พลังเข้าไปในวิญญาณชีวิตถึงขั้นขีดสุดตอนนี้วิชาจ้าวมังกรบินเร็วกว่านี้ไปไม่ได้แล้ว แต่หลี่ซวนก็ยังยากที่จะโค่นได้
ชาดี้คิดก่อนจะพูด “บางทีความสามาถของคนบางคนนั้นจะขึ้นอยู่กับโค้ชในช่วงเวลานั้นๆด้วย แต่มีน้อยคนมากเลยนะที่จะประลองกับโค้ชแล้วได้เปรียบแบบนี้ถือว่าหายากมากเลยนะ”
“พี่ พี่คิดว่าประธานจะมีโอกาสชนะโค้ชได้ไหม”กรีฟถามด้วยความสงสัย
“บอกยากนะ จากที่ดูตอนนี้หลี่ซวนกำลังได้เปรียบอยู่มากๆก็จริง แต่ก็ยังไม่แน่นะ”เชดี้พูดด้วยเสียงต่ำ
เฟิงชิวเยี่ยนเองก็พูด “สกิลความสามารถ และจังหวะนั้น โค้ชถือได้ว่าเป็นที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเกิดแทนที่หลี่ซวนด้วยคนธรรมดา พวกเขาคงแพ้ไปนานมากๆแล้ว แต่ประธานเองก็มีความสามารถที่เรียกได้ว่าฆ่าไม่ตาย พลังของโค้ชนั้นจะค่อยๆหดหายลงเพราะการกินพลังงานร่างกายและลมปราณ แต่ในขณะเดียวกัน ของฝั่งประธานกลับจะแกร่งขึ้นแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่เขายังไม่ตาย ถ้าเทียบตามเวลาแล้ว นานๆไปประธานอาจจะชนะก็ได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะด้วย บางทีโค้ชอาจจะเอาชนะประธานได้ในเวลาสั้นๆนี้ก็ได้”
“คิดถึงสภาพโค้ชตอนแพ้ซิ มันต้องตื่นเต้นมากๆแน่ๆเลย”กรีฟพูดอย่างตื่นเต้น
เอาเข้าจริงหลายๆคนนั้นก็กำลังรอดูอยู่เหมือนกัน โจวเหวินนั้นไม่ใช่ว่าความนิยมน้อยกว่าหลี่ซวนหรอก แต่มันเป็นธรรมชาติของคนที่มักจะเชียร์มวยรองมากกว่าตัวเต็ง
โจวเหวินนั้นเรียกได้ว่าไร้เทียมทานมาก จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยแพ้เลย(ยกเว้นตั้งแต่ตอนอยู่ที่กุ๋ยเต๋อ) และหลี่ซวนอาจจะเป็นคนที่ปิดตำนานนั้นลงก็ได้
หลี่ซวนเองก็จริงจังกับการสู้มากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนชิวๆ สบายๆมาตลอดแต่เขาก็เป็นคนที่เกลียดและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นโจวเหวินเพื่อนซี้ของเขา เขาก็ไม่อยากแพ้เหมือนเดิม
พวกเขาต่อสู้กันต่อไปอย่างบ้าคลั่ง วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณส่งพลังมหาศาลเข้าหาโจวเหวิน ทำให้โจวเหวินเหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย แต่โจวเหวินนั้นก็ยังสู้หลี่ซวนได้ยากอยู่ดี
หลี่ซวนนั้นคุ้นชินกลับกระบวนท่าและเทคนิคต่างๆของโจวเหวินเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะเริ่มคุ้นชินของเขาแล้วเหมือนกัน แต่โจวเหวินนั้นไม่ได้มีการฮีลขี้โกงและยิ่งเจ็บยิ่งแกร่งขึ้นเหมือนหลี่ซวน
ตู้ม!!
พลังของโจวเหวินปะทะเข้ากับหลี่ซวนอย่างแรง แต่รอบนี้แรงปะทะส่งโจวเหวินให้กระเด็นถอยไป2ก้าว แต่หลี่ซวนยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ประธานได้เปรียบแล้ว”กรีฟพูด
“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปแล้วซินะ”เชดี้มองหลี่ซวน ประสบการณ์แรกพบกับหลี่ซวนสำหรับเชดี้นั้นไม่ค่อยจะดีซักเท่าไร เธอรู้สึกว่าหลี่ซวนนั้นเป็นแค่ไอ้หนุ่มขี้อวดธรรมดา แต่พอได้รู้จักกันจริงๆ เชดี้ก็มองหลี่ซวนเปลี่ยนไปมาก
ตอนนี้เชดี้ยอมรับแล้วว่าหลี่ซวนนั้นนับว่าเป็น1ในคนรุ่นนี้ที่เก่งที่สุดคนนึง แม้แต่คนอย่างหลานฉียังอาจจะแพ้เขาก็ได้
“นอกเหนือจากคนจาก6ตระกูลแล้ว ก็มีอัจฉริยะต่างๆนานาปรากฏขึ้นมามากมายเลย ทั้งโจวเหวิน ทั้งหลี่ซวน เฟิงชิวเยี่ยน ในอนาคตพวกเขาอาจจะเป็นคนที่กำหนดชะตากรรมอนาคตของรัฐบาลกลางก็ได้ ใครมันจะไปรู้… ฉันเองก็ต้องพยายามมากกว่านี้แล้ว”เชดี้ดูการต่อสู้นั้นแล้วคิด
และในทันใดนั้นเอง หลี่ซวนก็เปลี่ยนจากเป็นฝ่ายตั้งรับเป็นฝ่ายเริ่มบุกโจมตีเหมือนพายุทันที
หลี่ซวนก่อนหน้านี้เน้นการโจมตีสวนเน้นป้องกัน แต่ตอนนี้หลี่ซวนไม่ป้องกันอีกแล้ว เขาทุ่มทุกอย่างสุดตัวไปที่การโจมตี
ร่างกายทุกส่วนของเขาเปลี่ยนกลายเป็นอาวุธร้ายแรงถึงตาย การโจมตีในบางจุดนั้นยากที่คนอื่นๆจะคาดคิด แต่สำหรับหลี่ซวนแล้ว ทุกอย่างมันเป็นไปได้อย่างลื่นไหล
โจวเหวินเองก็โดนกดดันอย่างหนัก ตอนนี้เขาเริ่มอ่อนล้าลงในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องพลัง ความเร็ว ร่างกาย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ชัดเจนมาก แต่ถ้าเทียบแล้ว หลี่ซวนยังคงแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
โจวเหวินนั้นมีวิธีการพลิกสถานการณ์อยู่มากมายแต่นั้นจำเป็นที่เขาจะต้องเปลี่ยนวิญญาณชีวิตเป็นดวงอื่น ซึ่งโจวเหวินไม่มีแผนที่จะทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกเขาจึงใช้จักรพรรดิโบราณในการสู้กับหลี่ซวนต่อไป
ตู้ม ตู้ม
ร่างของโจวเหวินโดนหมัดต่อยเข้าไปเต็มๆ2หมัด นี้เป็นครั้งแรกเลยที่เขาโดนหมัดเข้าไปตั้งแต่เริ่มการต่อสู้
หมัดแรกกับหมัด2ไม่เท่าไร แต่หมัด3นั้นมันเข้าเต็มๆจนความเจ็บปวดมันแล่นขึ้นมา แต่มันกลับทำให้ประสาทของเขาตื่นตัวมากกว่าเดิม
“นั้นละ….เอามาให้แรงกว่านี้อีก….”โจวเหวินเริ่มรู้สึกได้เลยว่าพลังของเขานั้นมันกำลังเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ โจวเหวินพยายามที่จะควบคุมพลังนั้นแล้วใช้มันในการขับเคลื่อนวิญญาณชีวิต
ตู้ม ตู้ม
ใจของโจวเหวินเต้นระรัวเหมือนกับลูกสูบรถที่ทำงานเต็มแรงม้า
แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ โจวเหวินใช้ความสามารถของจักรพรรดิโบราณในการเติมพลังชีวิตมาให้โจวเหวินเรื่อยๆ เพื่อรับแรงโจมตี
แต่ลมปราณที่เกิดมาจากการรับหมัดนั้น มันไม่มีทางออก วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณนั้นผลิตลมปราณจำนวนมหาศาลออกมาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เอาพลังงานกลับมาใช้ใหม่ เพราะงั้นตอนนี้ที่โจวเหวินอยากจะทำ คือการหมุนเวียนพลังงานแบบเดียวกับที่มารพยัคฆ์ทำ เพื่อให้วิญญาณชีวิตของเขานั้น ได้สูบฉีดและเผาผลาญอยู่ในร่างกายที่จะระบายออกมา
ตู้ม!!
โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าหัวใจของเขาตอนนี้มันกำลังร้อนเป็นไฟ เหมือนกับว่ามันกำลังเผาไหม้ รู้สึกได้เลยว่าวิญญาณชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนไป
“มาซิวะ ให้มันหนักกว่านี้อีก”โจวเหวินตอนนี้เลิกป้องกันเลิกหลบเขาหันไปใช้วิธีต่อหมัดสวนแบบแลกหมัดใส่หลี่ซวนอย่างบ้าคลั่งแทน
ตอนที่ 894
พัฒนาวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ
ตู้มตู้ม!!
หมัดและกล้ามเนื้อปะทะกัน เลือดและไฟพุ่งสวนกัน
ทั้งโจวเหวินและหลี่ซวนเหมือนตัวยึดติดอยู่กับพื้น ขาของพวกเขาไม่ขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียวแต่หมัดของพวกเขาทั้งคู่นั้นพุ่งสวนกันอย่างรุนแรงแลกหมัดกันต่อยหน้าต่อยหัวต่อสีข้าง
เฟิงชิวเยี่ยนกับเชดี้และคนอื่นๆขนลุก นี้มันไม่ใช่การประลองแล้ว มันคือการแลกหมัดชัดๆ ถ้าใครไม่รู้อีโหน่อีเหน่เดินมาเห็นละก็คงคิดว่าโจวเหวินกับหลี่ซวนกะจะเอากันให้ตายไปข้างเลยด้วยซ้ำ
“โค้ชสู้แบบนี้ดูไม่ใช่ทางของโค้ชเท่าไรเลย ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นกัน”เฟิงชิวเยี่ยนขมวดคิ้วแล้วคิด
เชดี้พูด “อาจจะอยากแลกหมัดครั้งสุดท้ายรึเปล่า ตอนนี้ทั้งพลังกายและความเร็วของเขากำลังจะตกลงแล้ว ถ้าสู้แบบปรกติต่อไปละก็ พลังกายของเขาจะตกลงอย่างมากและเขาอาจจะแพ้ได้ เพราะงั้นก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เขาจึงตัดสินใจยืนแลกหมัดสวนเผื่อว่าจะพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้นน่ะ”
เฟิงชิวเยี่ยนส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก โค้ชรู้ดีว่าการทำแบบนั้นมันไม่ได้ทำให้สถานการณ์มันกลับมาดีขึ้น โค้ชเองก็คงไม่เลือกอะไรโง่ๆแบบนั้นแน่ๆ เขาต้องมีเหตุผลอะไรซักอย่าง”
“อาการบาดเจ็บในร่างของโค้ชหนักขึ้นทุกที แต่แผลของหลี่ซวนนั้นหายเองอัตโนมัติ การแลกหมัดมีแต่จะทำให้หลี่ซวนเก่งขึ้นและเก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันเองก็ยังไม่เห็นเลยนะว่าโค้ชจะมีหนทางอื่นให้เลือก ยกเว้นแต่ว่าจะใช้แรงจากภายนอกอย่างเช่นสัตว์อสูร บางทีถ้าใช้เขาอาจจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ก็ได้” เชดี้ใช้ดวงตาโอดินมองดูสถานการณ์ตอนนี้อย่างละเอียด
ถึงแม้ว่าร่างกายของโจวเหวินจะแกร่งขนาดไหน แต่เขาเองตอนนี้ก็รับหมัดของหลี่ซวนที่หนัดขนาดหินแตกได้มาหลายดอกแล้ว กระดูกของเขาก็อาจจะมีร้าวบ้างแหล่ะ แต่เขากลับไม่คิดจะหนีแล้วยืนแลกหมัดกับหลี่ซวน(เหมือนแสตน2ตัวต่อยกัน)อย่างบ้าคลั่ง
“เกือบแล้ว อีกนิดเดียว ทำไมยังไม่พัฒนาซักทีวะ อีกนิดเดียวเท่านั้น…”โจวเหวินยืนแลกหมัดอยู่นั้นเอง เขารู้สึกได้เลยว่าจักรพรรดิโบราณนั้นตอบสนองกับเขาทุกครั้งที่หมัดต่อยโดนและโดนต่อย เหมือนกับภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลา แต่พลังงานเหล่านั้นกลับระเบิดออกมาไม่ได้ ทำให้มันยังพัฒนาวิญญาณชีวิตไม่ได้ซักที
“ทำไมกันละ ฉันทำอะไรผิดไปเหรอ มารพยัคฆ์เองก็สู้ไปเรื่อยๆเพื่อสะสมพลังของตัวเองนี้ ของฉันก็น่าจะเหมือนๆกันไม่ใช่เหรอ มันต่างกันตรงไหนละ”โจวเหวินสู้ไปคิดไป
กร๊อบ!!
หมัดฮุคสีข้างขวาของหลี่ซวนกระแทกเข้าชายโครงอย่างแรงจนกระดูกซี่โครงแตก เลือดพุ่งออกมาจากมุมปากของโจวเหวิน อวัยวะภายในของเขาเสียหายอย่างหนัก เริ่มที่จะปริแตกแล้วมีเลือดไหลออกมา
“ต้องหยุดพวกเขาแล้ว ร่างกายของโจวเหวินจะไม่ไหวแล้ว”เชดี้เห็นอาการของโจวเหวินชัดเจนจนเริ่มรู้ดี ตอนนี้อวัยวะภายในของโจวเหวินเสียหายหนักมากแล้ว
“ทำไมพวกเขาไม่หยุดละ หมัดที่ต่อยลงไปยังแรงเท่าเดิมเลยนะ เอาจริงๆประธานน่าจะพอแล้วยั้งมือได้แล้วนะ หรือว่าประธานโกรธที่โดนต่อยจริงๆหน่ะ”กรีฟพูด
เฟิงชิวเยี่ยนส่ายหัว “ไม่ใช่หรอก ประธานไม่ใช่คนแบบนั้น ที่เขาไม่หยุดมันต้องมีเหตุผลอะไรซักอย่างอยู่แน่ๆ”
“บาดเจ็บขนาดนั้นแล้วเนี่ยนะ มันจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่หยุดอีกละ”กรีฟพูด
“แรงกดดัน”กู๋เตียนพูดออกมา
“หะ”เชดี้ได้ยินที่กู๋เตียนพูดไม่ทัน
“แรงกดดัน”กู๋เตียนย้ำอีกครั้ง แต่ไม่อธิบายต่อ
รอบนี้เชดี้กับกรีฟได้ยินชัดเจนแล้วแต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจที่กู๋เตียนพูด
อย่างนี้นี่เอง เข้าใจละ แรงกดดันนี้เอง”เฟิงชิวเยี่ยนพูดขึ้นมาเหมือนบรรลุ
“หมายความว่าไงหน่ะ”กรีฟถามแล้วมองเฟิงชิวเยี่ยน
เฟิงชิวเยี่ยนมองการประลองแล้วพูด “โค้ชหน่ะต้องการจะพัฒนาความสามารถของตัวเอง เขาเลยต้องสู้กับประธานในแบบที่ตัวเองไม่ถนัด นั้นก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะท้าทายกับข้อจำกัดของตัวเอง เขาอยากที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลัง เขาอยากที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเอง ผ่านทางความตึงเครียดและกดดันของการต่อสู้ ประธานเองก็ดูจะเข้าใจเรื่องนี้ดีมาก เขาจึงต่อโค้ชไม่ยั้งสร้างแรงกดดันให้มากที่สุดที่ทำได้…”
“จริงเหรอ แต่ถ้าเป็นงี้ต่อไป ฉันว่าโค้ชอาจจะโดนฆ่าตายก็ได้นะ…”กรีฟพูดแล้วมองโจวเหวิน
เชดี้เองส่วนนึงก็ยอมรับในสิ่งที่เฟิงชิวเยี่ยนพูด เพราะทุกๆคนนั้นต่างก็มีจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างและไม่มีใครจะสู้ได้ในทุกสถานการณ์ ถ้าเกิดเธอโดนจับให้ไปสู้ในสถานการณ์ที่ตัวเองไม่ถนัดมากๆ เธอเองก็สงสัยเหมือนกันว่าจะรอดออกมาได้ไหม
“โค้ชทำได้อยู่แล้ว”เฟิงชิวเยี่ยนพูดด้วยความเชื่อ แล้วคิดในใจ “แล้วอะไรกันละคือจุดอ่อนของฉัน หรือว่าฉันควรจะลองฝึกแบบนั้นดูบ้างกัน”
ซึ่งเอาจริง ถ้าโจวเหวินได้ยินสิ่งที่เฟิงชิวเยี่ยนคิดอยู่ตอนนี้เขาคงงจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาแน่ๆ
ที่เขาอยากได้ก็แค่การพัฒนาวิญญาณชีวิตให้เป็นขั้นสมบูรณ์เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกเพื่อพัฒนาความสามารถในแบบที่ตัวเองไม่ถนัดหรืออะไรหรอก เขาแค่อยากโดนตีนให้เยอะๆเฉยๆ แต่เดิมทีแล้วโจวเหวินก็ไม่ใช่พวกคลั่งความสมบูรณ์แบบด้วย เขาไม่ได้คิดที่จะทำตัวเองให้สมบูรณ์แบบแม้แต่น้อย
“ทำไมกันละ ฉันยังขาดอะไรไปกัน”โจวเหวินรู้สึกได้ว่าวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณนั้นพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อแต่ก็ยังไม่ระเบิดออกมาซักที โจเวหวินลองคิดย้อนถึงความเหมือนและต่างของวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณกับมารพยัคฆ์ เขาลองเปรียบเทียบมันไปมา
ทันใดนั้นก็มีความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัว “แล้วมันต่างตรงนี้นี่เอง จุดกำเนิดพลังมันต่างกัน มารพยัคฆ์มันมีจุดกำเนิดมาจากไฟแค้น ยิ่งความเคียดแค้นมากเท่าไร พลังของมารพยัคฆ์ก็ระเบิดออกมาได้มากเท่านั้น แต่กลับกัน วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณนั้นมีต้นกำเนิดมาจากไฟแห่งชีวิต เราไม่สามารถเอาจุดกำเนิดแบบเดียวกันมาใช้พัฒนาวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณได้แน่ๆ ตัวกำเนิดไฟแห่งชีวิตงั้นเหรอ เอาอะไรมาใช้เป็นตัวจุดกำเนิดดีละ แล้วมันจะใช้ได้จริงไหมนะ”
ถึงแม้ว่าวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณจะเป็นวิญญาณชีวิตธาตุไฟ แต่ความสามารถของมันนั้นไม่มีเกี่ยวกับธาตุไฟเลยซักนิดมันมีแต่ไฟแห่งชีวิตที่ต่างจากธาตุไฟล้วนๆอยู่
ถ้าจะให้พูดให้ถูก ตอนนี้ไฟแห่งชีวิตของโจวเหวินนั้นมันยังไม่มากพอ ความร้อนแรงมันยังไม่มากพอที่จะระเบิดออกมา
“วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ จักรพรรดิโบราณ จักรพรรดิโบราณ คืนชีพจักรพรรดิโบราณเหรอ”โจวเหวินนึกอะไรขึ้นมาได้ทันที เขานึกขึ้นมาได้ว่าจักรพรรดินีเคยบอกเขาว่าวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณนั้นมันยากที่จะกลายเป็นระดับเร้นลับได้ ก็เพราะวิญญาณของมนุษย์นั้นอ่อนแอเกินกว่าจะกลายเป็นระดับเร้นลับได้ ยังไงมนุษย์ก็ไม่อาจผ่าบัญชาของสวรรค์เพื่อกลายไปเป็นระดับเร้นลับได้
“ย้อนชีวิตงั้นเหรอ ถ้าเกิดว่ามันไม่มีทางฝ่าฝืนสวรรค์ได้ แล้วเราจะต่อต้านสวรรค์ได้ยังไงกัน….”วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณในตัวของโจวเหวินจู่ๆก็ส่องสว่างขึ้นมาเหมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องประกายแสงแวววาวขึ้นมา
ตู้ม!!
แสงสว่างจ้าระเบิดออกมารวดเดียวทำให้ทั้งสนามฝึกนั้นขาววาบกันไปหมดทำให้ทุกคนตาบอดไปชั่วขณะ
ตอนที่ 895
จักรพรรดิโบราณ
“คนๆเดียวที่จุดไฟวิญญาณในตัวของเราได้ก็คือตัวของเราเอง”โจวเหวินเข้าใจความหมายที่แท้จริงของวิชานี้ขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะใช้วิชาจักรพรรดิโบราณนั้นเป็นเหมือนไฟนำทางก่อนจะระเบิดออกมาเป็นพลังชีวิตมหาศาล ในการระเบิดนั้นวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณก็ได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นขั้นสมบูรณ์ วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณในขั้นสมบูรณ์นั้นมันเหมือนกับเป็นการผสานเข้ากับร่างกายของโจวเหวินโดยตรงมากกว่าการแยกเป็นตัวด้วยซ้ำ
“นี้นะเหรอวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ”โจวเหวินรับรู้ได้ถึงข้อมูลพื้นฐานของการเปลี่ยนไปทันทีที่มันพัฒนาแล้ว ชื่อของมันก็เปลี่ยนไปด้วย (ชื่อจีนนั้นมันเปลี่ยนชื่อเป็น太古人皇 ซึ่งมันแปลเป็นไทยยังไงก็จักรพรรดิโบราณอยู่ดี)
ตู้มตู้ม!!
เสียงของหัวใจเต้นผสานกับพลังของจักรพรรดิโบราณ ทำให้หัวใจของเขานั้นมันร้อนระอุเหมือนดวงอาทิตย์ สามารถปลดปล่อยพลังงานความร้อนและแสงสว่างออกมาได้อย่างไม่สิ้นสุด ความร้อนนั้นได้แผ่ขยายไปยังทุกอณูเซลของตัวโจวเหวิน ทำให้เซลพวกนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต เหมือนกับได้รับพลังจากดวงอาทิตย์ยังไงอย่างงั้น
แม้แต่เฟิงฉิวเยี่ยนที่อยู่ข้างสนามยังสัมผัสได้ถึงลมปราณมหาศาลที่ไหลเวียนออกมาจากร่างของโจวเหวิน ลมปราณนั้นมันมากพอจะลุกโชนเป็นไฟ เกิดเป็นแสงสว่างส่องเจิดจรัส ความรู้สึกไม่สบายตัวทั้งหมดบนตัวของพวกเขาเหมือนกับจะหายวับไปกับตา พวกเขารู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างดี หายปลิดทิ้งจากความเหนื่อยล้าเต็มเปี่ยวไปด้วยพลังชีวิต
แม้แต่แผลของหลี่ซวนเองที่ยังรักษาไม่สนิทดียังเริ่มรักษาหายจนปิดสนิทเมื่อโดนแสงอันเจิดจรัสของโจวเหวิน
มีเพียงบาดแผลเดียวที่ยังไม่ได้รับการรักษาคือบาดแผลบนตัวของโจวเหวินเอง ว่ากันว่าวิชาจักรพรรดิโบราณนั้นเล่าถึงการเสียสละตัวของจักรพรรดิโบราณเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ต่อต้านสวรรค์ เผาผลาญชีวิตตัวเองเพื่อช่วยคนอื่น
ซุยเหลินเฝ้าดูดินฟ้าอากาศ เฉินหนงเก็บสมุนไพรและยา ฟูซือผลักดันการทำงานของโลก
แต่ลมปราณทั้งหมดนั้น เขาไม่ได้มีไว้เพื่อตัวเองเลย
พอมองดูโจวเหวินที่ส่องสว่างเหมือนแสงอาทิตย์แล้วหลี่ซวนก็มองโจวเหวินแล้วพูด “ตอนนี้แฟร์เท่ากันละนะ ทุกคนแม่งเป็นขั้นสมบูรณ์กันหมดแล้ว ไม่มีใครเสียเปรียบใครแล้วเพราะงั้นขอลองของหน่อยละกันว่ามันจะแกร่งแค่ไหน”
“เอาซิ”โจวเหวินที่ตัวส่องสว่างร่างกายของเขาเหมือนกับว่าเผาไหม้พลังงานลมปราณตลอด หมัดของเขาพุ่งตรงใส่หน้าหลี่ซวนด้วยความเร็วเหนือเสียง
“แบบนี้ซิดี!!”หลี่ซวนไม่ยอมแพ้ เขาปลดปล่อยปราณมารสีดำออกมาจากชุดเกราะแมลงของเขาก่อนจะรับหมัดของโจวเหวินด้วยหมัดของเขาเอง
ตู้ม!!
จังหวะที่หมัดผสานหมัดกันนั้นเอง ร่างของหลี่ซวนก็ต้องกระเด็นออกไปด้วยแรงกระแทกมหาศาลของหมัดโจวเหวิน แม้แต่เกราะแมลงตรงส่วนมือของเขายังแตกออก ตอนที่ร่างของหลี่ซวนกระเด้นอยู่กลางอากาศนั้นเองโจวเหวินก็วาปตามไปซ้ำด้วยหมัดรัวต่อเป็นชุดซึ่งหลี่ซวนเองก็ใช้หมัดรับหมัดพวกนั้น
ตู้ม ตู้ม!! แกร๊ก
เกราะส่วนลำตัวของหลี่ซวนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ยังไม่ทันที่เกราะจะได้ฟื้นคืนตัวโจวเหวินก็ซัดหมัดตรงเข้าใส่ร่างของเขาโดนตรงแล้ว
หมัดที่อัดพลังของวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณสุดแรงนั้น มันทำให้ทุกๆหมัดที่ปล่อยออกไปนั้นทะลุขีดจำกัดเดิมๆที่เคยมี ถึงเกราะของหลี่ซวนจะหนาแค่ไหนก็ยากที่จะต้านทาน
“แรงดีนี้ แต่แรงแค่นี้มันยังไม่พอฆ่าฉันหรอกนะบาดแผลแบบนี้แหล่ะจะทำให้ฉันแกร่งขึ้นเร็วกว่านี้อีก”หลี่ซวนทนรับหมัดต่อเนื่องของโจวเหวินจนตัวของเขาตกลงมากับพื้นแล้วโดนโจวเหวินระดมหมัดใส่
“งั้นเหรอ”โจวเหวินพูดก่อนจะระเบิดพลังออกมามหาศาลแล้วต่อยหักชายโครงของหลี่ซวน
“เปล่าประโยชน์ เปล่าประโยชน์เปล่าประโยชน์เปล่าประโยชน์เปล่าประโยชน์เปล่าประโยชน์ แรงแค่ไหนตราบใดที่ฆ่าฉันไม่ตายในหมัดเดียว มันก็เปล่าประโยชน์ มีแต่จะทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นละ เพราะงั้น ต่อยมาอีกเซ่!!”หลี่ซวนเจ็บตัวไปมีความสุขไป
โจวเหวินไม่ได้พูดอะไร กำปั้นทั้ง2ข้างของโจวเหวินนั้นระดงหมัดเข้าใส่หลี่ซวนไม่ยั้งแต่ถึงอย่างนั้น ความเร็วในการรักษาตัวของพลังชีวิตและวิญญาณชีวิตของเขานั้นมันสูงมากๆ เพียงแค่ช่วงวินาทีเดียวเท่านั้น แผลทั้งร่างกายของเขาก็หายวับไป กระดูกกลับมาต่อ และชุดเกราะก็กลับมาเต็มตัวตามเดิม
“5555 บอกแล้วไงว่าเปล่าประโยชน์ต่อให้นายจะต่อยหนักแค่ไหน แต่สุดท้าย ฉันก็จะแกร่งกว่าอยู่ดี หื้ม รู้สึกได้เลยว่าฟื้นตัวเร็วขึ้นเยอะเลย ต้องขอบใจนายจริงๆนะที่นา… เอ๊ะ ทำไม…มันรู้สึกมึนๆหัวแปลกๆแหะ…”หลี่ซวนพยายามจะใช้มือขยี้ตาแต่แล้วเขายื่นมือซ้ายออกมา แต่เขากลับแตะหน้าของเขาไม่ได้ พร้อมความรู้สึกแปลกๆเต็มไปหมด “นี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรวะ”
“ประธาน ร่างของรุ่นพี่มัน…”กรีฟชี้ไปที่ร่างของหลี่ซวนด้วยความหวาดกลัว
คนอื่นๆก็มองเขาแบบกลัวๆเหมือนกัน เหมือนกับเห็นผียังไงอย่างงั้นเลย
“เกิดอะไรขึ้นกับตัวฉันวะ”หลี่ซวนพยายามก้มลงไปมองแต่แล้วเขาก็ร้องออกมาดังลั่นสนาม
ร่างกายของหลี่ซวนตอนนี้ไม่ได้บาดเจ็บแล้ว แต่กระดูกข้อต่อของเขาไปอยู่ผิดที่ผิดทางหมดเลย กระดูขาของเขาชี้ขึ้น กระดูกแขนบิดเป็นเกรียว ตาอยู่ด้านหน้ากับด้านหลังด้านละข้าง คอตัน ตอนนี้ตาของเขามองเห็นทั้งหน้าและหลังพร้อมกันได้แล้ว
“โจวเหวินนี้นายทำบ้าอะไรของนายวะเพื่อน!”หลี่ซวนกลัวตัวเอง สภาพของหลี่ซวนตอนนี้เหมือนสัตว์ประหลาด เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรก็จริง แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
“ก็ไม่มีอะไรหรอกก็แค่หักกระดูกของนายแล้วจัดใหม่ จากนั้นก็เร่งความเร็วในการรักษาจนหายดีแค่นั้น”โจวเหวินพูดเล่าด้วยรอยยิ้ม
“ไอ้ เจ้า …. ทำให้ฉันกลับมาเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ความสามารถในการรักษาตัวเองของหลี่ซวนนั้นมันจะจดจำร่างเดิมของตัวเองก่อนบาดเจ็บเอาไว้ แล้วรักษาจนกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่พลังของวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณก็สามารถรักษาได้ด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นกระดูกของหลี่ซวนที่โดนหักดันนั้นจึงโดนรักษาจนหายและคาสภาพนั้นไว้ก่อนที่จะได้รักษาจริงๆ
“ถ้าจะเอางั้นก็ต้องหักกระดูกอีกรอบอะ”โจวเหวินพูดติดตลก
“เอาดิวะ เร็วๆ!”หลี่ซวนกัดฟันแน่น เขาอยากได้หน้าตาหล่อๆของตัวเองกลับมา
“ถ้าทำให้แล้วห้ามเอาคืนนะ”โจวเหวินพูด
“ไม่เอาคืนหรอกหน่า”หลี่ซวนกัดฟัน
โจวเหวินระเบิดพลังแล้วดัดกระดูกอีกรอบแต่รอบนี้ยากกว่าเดิมเพราะว่าเกราะแมลงของเขามันแกร่งขึ้นมาแล้ว ในที่สุดโจวเหวินก็ทำให้สภาพของกระดูกของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม
หลี่ซวนที่กลับมาเป้นปรกติแล้วอยากจะสวนหน้าโจวเหวินซักทีแต่โจวเหวินก็วาปหลบออกไปได้
“ถ้ายังจะไม่จบเดี๋ยวคราวหน้าไม่แก้ให้ละนะ”โจวเหวินมองหลี่ซวนด้วยรอยยิ้ม
หลี่ซวนคิดถึงสภาพหน้าตาตัวเองตอนนั้นแล้วรับไม่ได้ เขายอมเจ็บดีกว่าอยู่สภาพแบบนั้น
“ไอ้บ้าเอ้ย เจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรนักหนาวะ”หลี่ซวนเลยไม่กล้าไปมากกว่านี้
ตอนที่ 896
ยาลมปราณ
หลังจากที่โจวเหวินกลับมาแล้ว เขาก็ค่อยๆศึกษาความสามารถของวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณอย่างงละเอียดแล้วเขาก็พบว่าพลังของมันนั้นแกร่งมากๆ สมแล้วที่เป็นวิญญาณชีวิตสายเสริมพลังอย่างแท้จริง ขั้นสมบูรณ์ของวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณนั้นจะเป็นการหลอมรวมเข้ากับตัวของโจวเหวินทำให้เขาสามารถระเบิดพลังออกมาเทียบเท่าได้กับหรือใกล้ๆระดับเร้นลับน้อยกว่าเพียงนิดเดียวเท่านี้ ต้นกำเนิดของพลังนี้มันเกิดมาจากที่ว่าเรียกว่าการระเบิดพลังชีวิต หลังจากที่ระเบิดแล้ววิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณจะทำการสร้างแรงส่งมหาศาลทำให้คนๆนั้นสามารถซ่อมแซมร่างกายของตัวเองได้หรือจะทำลายคนซักคนก็ยังได้เลย
จะบอกว่าหลังจากที่โจวเหวินทำร้ายคนเขาก็จะรักษาคนๆนั้นให้โดยอัตโนมติ ยกเว้นแต่อีกฝ่ายจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะไม่มีผล
“ดีจริงๆเลย มีวิญญาณชีวิตดีๆแบบนี้”โจเวหวินไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือกังวลดี
ที่กังวลก็เพราะมันเป็นวิญญาณชีวิตสายเสริมพลัง แต่กลับมีความสามารถในการรักษา แต่รักษาได้ทุกแขนงยกเว้นรักษาตัวเอง”ดูเหมือนความหวังของฉันจะไปอยู่ที่วิชาลมปราณสายเสริมพลังอีกวิชานึงแล้วละ”โจวเหวินหวังว่าอีกวิชานึงจะเป็นวิชาที่ให้พลังทำลายกับเขาล้วนๆ
แต่ยังไงก็ตามตอนนี้วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณของเขาได้พัฒนาจนสมบูรณ์แล้วเขาเข้าใกล้ระดับเร้นลับเข้าไปอีกก้าวแล้ว
“ตอนนี้ขาดเค่ประกายดาว อารยสูญหายแล้วก็เลือดอสูรกับวิชาลมปราณสายพลังเท่านั้นที่ยังต้องฝึกต่อไปโจวเหวินคำนวณในใจว่าจะฝึกวิชาไหนก่อนดี
“ประกายดาวมันจำเป็นต้องออกเดินทางถึงจะฝึกได้ อารยสูญหายจำเป็นต้องวาป มันฝึกแบบอยู่นิ่งๆไม่ได้ วิชาเลือดอสูรก็ยังสกัดวิญญาณไม่ได้เพราะยังขาดเลือดผู้พิทักษ์อยู่ ดังนั้นที่โจวเหวินทำได้ตอนนี้คือฝึกวิชาลมปราณใหม่ที่พึ่งได้มา วิชาสกัดลมปราณนั้นเป็นวิชาลมปราณที่เขาพึ่งได้มาจากประตูสุสานปฐมกษัตริย์ แล้วตอนนี้โจวเหวินก็ยังไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นวิชาสายไหน ถ้ามันเป็นสายพลัง มันก็จะบังเอิญตรงกับที่โจวเหวินอยากได้พอดี จะได้มาคู่กับวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ
แต่ถึงอย่างนั้นโจวเหวินไม่มีทางรู้ได้เลยจนกว่าจะฝึกมัน แล้วสกัดพลังชีวิตออกมาได้ ตอนนั้นละถึงจะพอเดาออก
วิชาลมปราณนั้นมันแปลกมากๆ เนื้อหาหลักของมันคือการสกัดลมปราณของตัวเอง ทุกอาทิตย์ที่ลองฝึกดูลมปราณของเขาจะบริสุทธิ์และดูเสถียรมากขึ้น นอกจากนั้นก็ไม่เห็นมีผลอะไรอย่างอื่นเลย
“หรือเป็นไปได้ไหมที่วิชาลมปราณนี้จะได้พลังชีวิตกับวิญญาณชีวิตเองเลยถ้าสกัดวิญญาณถึงระดับที่ควร”โจวเหวินลองเริ่มฝึกศึกษาดู แล้วรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ โจเวหวินเลยเข้าไปในเกมส์เพื่อเอาผลึก แล้วใช้ผลึกพลังงานพวกนั้นในการชำระลมปราณ
ซึ่งวิธีนี้มันใช้ได้ผล ผลึกลมปราณหลายๆอันนั้นถูกชำระล้าง ลมปราณในร่างกายของโจวเหวินเองก็สะอาดและบริสุทธ์ขึ้นมากด้วย
“วิชาลมปราณที่ใช้สำหรับสกัดลมปราณโดยเฉพาะแบบนี้มันน่าจะเป็นสายเสริมพลังงานลมปราณละมั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ที่ขาดอยู่ก็คงเหลือแค่ค่าพลังกับร่างกายซินะ”โจวเหวินคิด
หลังจากผ่านไปหลายวัน วิชาสกัดลมปราณก็ได้พลังชีวิตมา
พลังชีวิต สกัดจิตใจ
หลังจากที่พลังชีวิตออกมาแล้ว โจวเหวินก็ดูค่าสถานะซึ่งปรากฏว่ามันคือค่าพลังงานลมปราณจริงๆอย่างที่โจวเหวินคิดไว้
“แบบนี้ฉันก็จะมีวิญญาณชีวิตที่เสริมค่าพลังงาน3วิชาลมปราณเลยเหรอ”โจวเหวินคิดซักพัก ตอนนี้เขาได้พลังชีวิตมาแล้วถ้าได้วิญญาณชีวิตมาเลยก็จะมีประโยชน์มาก เลือดของผู้พิทักษ์ที่เกี่ยวกับลมปราณนั้นหาไม่ยากโจวเหวินเลยคิดก่อนที่จะเข้าไปในเมืองมดเพื่อไปเอาเลือดของสัตว์อสูร
แต่วิชานี้กลับไม่ตอบรับกับเลือดของผู้พิทักษ์เมืองมดซะอย่างงั้น
“ไม่ใช่ว่ามันเป็นสายลมปราณหรอกเหรอ”โจวเหวินคิดหนักอยู่ซักพัก เขายังมีความหวังในใจอยู่
โจวเหวินลงไปยังทะเลใต้ดินแล้วไปยังรถของผู้พิทักษ์เพื่อไปเอาเลือดมา
ทันทีที่ได้เลือด วิชาสกัดลมปราณก็ดูดเลือดนั้นเข้าไปทันที โจเวหวินรู้สึกได้เลยว่าลมปราณในร่างกายกำลังจะดูดซับเลือดของผู้พิทักษ์ที่ดูดเข้าไป ลมปราณของเขาไหลเวียนดีมากๆ ก่อนที่วิญญาณของเขาจะเริ่มแยกตัวออกมาอีกครั้ง
“ผู้พิทักษ์ในทะเลใต้ดินมันไม่ใช่ว่าเป็นสายมิติหรอกเหรอ แล้วถ้ามันเป็นตัวแทนของค่าความสามารถปรกติมันจะเป็นค่าอะไรละ พลังเหรอ”โจวเหวินคิดหนัก
เพราะว่ามันเห็นชัดๆแล้วว่าวิชาสกัดลมปราณนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่สายลมปราณ และผู้พิทักษ์ในทะเลใต้ดินก็ไม่น่าใช่สายความเร็วด้วย ดังนั้นมันก็น่าจะเป็นไม่ร่างกายก็พลัง
เพราะว่าวิชาเลือดอสูรนั้นใช้เลือดของผู้พิทักษ์ในทะเลใต้ดินไม่ได้ เขาเลยเหมารวมไปว่ามันน่าจะเป็นสายร่างกาย แล้ววิชาสกัดลมปราณก็เป็นสายพลังสุดท้าย
วิญญาณชีวิตของเขาก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งกำเนิดเป็นวิญญาณชีวิตในที่สุด
รูปร่างของมันนั้นดูเหมือนเป็นเม็ดยามีปลายแหลมคมดูใสแต่แข็งแรง ภายในตัวเม็ดยามีของแข็งบางอย่างอยู่ด้วย
“วิญญาณชีวิตนี้มันคุ้นๆเหมือนกับของวิชาเต๋าเลยแหะ มันไม่ใช่ของสายลมปราณจริงๆเหรอ”โจวเหวินเริ่มคิด
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังมีความต่างของทั้ง2อันอยู่ วิญญาณชีวิตเต๋านั้นเกิดขึ้นมาในทะเลแห่งจิตนึกคิดของโจวเหวินแต่วิญญาณชีวิตของวิชาสกัดลมปราณนั้นเกิดขึ้นในทะเลลมปราณซึ่งมันคนละที่กันเลย
ในที่สุด เม็ดยานั้นก็ใสเป็นผลึกปราศจากมลทิน โจวเหวินรับข้อมูลมาบางส่วนแล้วแต่ก็ยังคิดเป็นนิสัยกดโทรศัพท์เข้าไปดูอยู่ดี
วิญญาณชีวิต เม็ดยาลมปราณ (ขั้นเริ่มต้น)
“เป็นแบบนี้จริงๆเหรอ”โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่ามีลมปราณมหาศาลอยู่ในยานี้ แต่ลมปราณที่ว่านั้นมันบริสุทธิ์มากไม่เหมือนกับลมปราณอื่นๆ โจวเหวินยื่นมือออกไป แล้วเม็ดยาลมปราณขนาดเท่าเพรชก็ปรากฏขึ้นมา โจวเหวินใช้นิ้วจับเบาๆ แล้วเขาก็เริ่มเปลี่ยนใจ ลมปราณจากยานั้นไหลผ่านอากาศเข้ามาในความคิดของเขา แถมมันยังเคลื่อนที่ได้เร็วมากๆ แต่มันก็ไม่น่าจะมีความสามารถพิเศษะไร
“อย่าบอกนะว่ายาลมปราณนี้มีไว้ใช้ฆ่าคนหน่ะ”โจเหวินเข้าเกมส์ตามปรกติเข้าเกมส์วิหารเหล็กหลอม แล้วเห็นทหารเหล็กถือค้อนเดินมาพอดีโจวเหวินเลยสั่งการให้ยาลมปราณนั้นพุ่งเข้าไป ยาลมปราณพุ่งด้วยความเร็วสูงก่อนจะเจาะกระบาลของมัน ตายทันทีพร้อมข้อความแจ้งเตือน
“มีไว้ฆ่าคนจริงๆด้วย”โจวเหวินตกใจมากเพราะปรกติยาต้องมีไว้ช่วยคนไม่ใช่ฆ่า
โจวเหวินลองเอายานั้นไปใช้กับสิ่งมีชีวิตระดับมหากาพย์ดู แล้วเขาก็พบว่าระดับมหากาพย์นั้นโดนฆ่าตายได้ง่าย แม้กระทั้งเกราะเทพเองก็ป้องกันไม่ได้แม้แต่น้อย เจาะทะลุตายได้อยู่ดี
ตอนที่ 897
ความเป็นไปได้
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพลังทำลายของยาลมปราณเม็ดแค่นี้มันจะรุนแรงได้ถึงขนาดนี้ ถ้ามันกลายเป็นขั้นสมบูรณ์มันจะขนาดไหนกันนะ มันอาจจะเทียบเท่ากับพลังทำลายของดาบระดับเร้นลับดีๆเลยมั่งเนี่ย”โจวเหวินคิดฝัน
ในบรรดาวิญญาณชีวิตของเขา เขาไม่เคยมีวิญญาณชีวิตสายทำลายล้างจริงๆเลยซักอัน แต่ละอันที่มีนั้นเป็นแค่วิญญาณชีวิตสายเสริมพลังบ้างป้องกันตัวบ้าง แต่ไม่มีอะไรที่เป็นอาวุธเลย
“จะว่าไปแล้ว จะทำยังไงให้มันกลายเป็นขั้นสมบูรณ์ได้ละเนี่ย สกัดลมปราณไปเรื่อยๆเหรอ”โจวเหวินพยายามลองสกัดลมปราณดู ซึ่งมันก็ใช้ได้ผลจริงๆ
“ยาลมปราณมันต้องค่อยๆสกัดลมปราณไปส่วนประกายดาวต้องออกเดินทางเรื่อยๆ 2วิญญาณชีวิตนี้ต้องใช้เวลา แต่อารยสูญหายกกับวิชาเลือดอสูรนี้ซิที่เป็นปัญหา เพราะอารยสูญหายนนั้นต้องวาปอีกเยอะมาก โจวเหวินต้องหาสัตว์อสูรที่วาปได้มาทดแทน ส่วนวิชาเลือดอสูรต้องเอาเลือดที่เหมาะสม หมายความว่าทางเดียวที่จะได้มานั้นคือเอามาจากจักรพรรดินี”โจวเหวินคิดถึงวิธีการเอาเลือดมาจากจักรพรรดินี
“จักรพรรดินีบอกให้ฉันไปเจอนางที่ภูเขาฉีซือ บางทีฉันอาจจะใช้โอกาสนั้นล่อชายแก่นั้นระหว่างทางไปหาจักรพรรดินีเลยก็ได้”โจวเหวินลองคำนวณความเป็นไปได้ดู แต่โชคไม่ดีที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ข่าวอะไรของชายแก่เลยแม้แต่น้อย บางทีมันอาจจะล้มเลิกความคิดที่จะตามหาเขาไปแล้วก็ได้
“นายน้อยเหวินครับ ยังตามหาสัตว์อสูรที่วาปได้อยู่รึเปล่าครับ”อาเซิงโทรมาเหมือนจะบอกข่าวดี
“มีข่าวอะไรเหรอ”โจวเหวินดีใจ
“สัตว์อสูรประเภทนั้นมันหายากมากเลยครั้บ แต่แถบชายฝั่งเขตตะวันออกช่วงนี้มีข่าวสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำออกมาอยู่ เห็นข่าวแจ้งมาว่าเป็นสายมิติด้วย ถ้านายน้อยสนใจจะไปลองดูก็ได้นะครับ แถมมันยังเป็นการช่วยเราไปได้ในตัวด้วย”อาเซิงพูด
“หมายความว่าไง”โจวเหวินถาม
อาเซิงเล่าเรื่องให้ฟัง ด้วยเหตุที่ว่ามีสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำออกมาทำให้เมืองรอบข้างชายฝั่งนั้นเสียหายหนักมาก และตระกูลใหญ่ในแถบนั้นเองก็มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับตระกูลอันด้วย
ตระกูลพวกเขาเป็นผู้ส่งออกวัสดุอุปกรณ์สำคัญในการทำเครื่องเร่งประจุที่ตระกูลอันกำลังเร่งวิจัยกันอยู่นั้นเอง
ตอนนี้พวกเขามาขอความช่วยเหลือจากตระกูลอัน ถ้าตระกูลอันสามารถจัดการกับ สิ่งมีชิวิตหลุดจองจำได้ ไม่เพียงแต่เราจะได้ลดราคาต้นทุนแล้ว ในอนาคต เราอาจจะได้ผูกขาดวัตถุดิบบางอย่างแต่เพียงผู้เดียวอีกด้วย
วัตถุดิบที่ว่านั้นเป็นวัตถุดิบหายากที่มีน้อยมากๆในแถบรัฐบาลกลาง ทำให้มีหลายๆฝ่ายในรัฐบาลอาสายื่นมือมาช่วยจัดการกับสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำให้ เพื่อเป็นการสร้างบุญคุณ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทำสำเร็จเลยซักคน
เหตุผลหลักๆเลยก็เพราะว่าสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำที่ว่านั้นมีพลังสายมิติที่แกร่งมากๆ ยากที่จะจับมันได้เพราะมันสามารถวาปได้อย่างต่อเนื่อง การจะฆ่ามันยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
อาเซิงส่งข้อมูลของสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำไปให้กับโจวเหวิน โจวเหวินเห็นวีดีโอภาพแล้วพบว่าสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำที่ว่านั้นมีหน้าตาเหมือนม้า ทั้งตัวนั้นเป็นแก้วผลึกใสจือสีเล็กน้อยวิ่งเร็วมากและหายวับฉับพลันได้ เหมือนเป็นการเคลื่อนย้ายพริบตา โจวเหวินศึกษาดูรูปดีๆ เพราะว่าความเร็วของสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำตัวนี้มันเร็วมากแม้แต่กล้องจับความเร็วยังถ่ายภาพได้ไม่สมบูรณ์ ถึงจะถ่ายตอนที่มันช้าลงแล้วก็ยังถ่ายมาได้ไม่สวยอยู่ดี
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังมาสามารถเห็นได้จากวีดีโออยู่ดี ว่าสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำนั้นมันแกร่งขนาดไหน นอกจากความสามารถในการวาปข้ามมิติแล้ว มันยังมีร่างกายที่ทรงพลัง แถมยังมีสกิลโจมตีเดี่ยวและหมู่ได้อีกด้วย มันน่าจะเป็นระดับเร้นลับสายพันธ์หายากที่ตอนนี้ยังหาจุดอ่อนที่ชัดเจนไม่เจอแม้แต่น้อย”
“ในด้านของพลังการต่อสู้ เบม่อนไม่น่าจะสู้ได้เพราะว่าสกิลในการวาปข้ามมิติได้มันขี้โกงเกินไป คงไม่ได้ฆ่ามันง่ายๆแน่ๆ”โจวเหวินเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว ถ้ามันไม่ใช่เพราะสกิลวาปที่ดีจริงๆละก็ เขาเองก็คงไม่มาเสี่ยงแบบนี้แน่ๆ
แต่ถึงยังไงตอนนี้ปัญหาเรื่องชายแก่ก็ยังไม่จบไม่สิ้น โจวเหวินก็ยังกลัวอยู่ว่าถ้าออกจากลั่วหยางไปแล้ว ชายแก่จะตามหาเขาเจอ แล้วถึงตอนนั้นเขาจะไปที่ภูเขาฉีซือไม่ทัน
“ฉันสนใจมากๆเลย แต่ตอนนี้ฉันคงยังไปไม่ได้ก่อนหน่ะ ฉันต้องจัดการกับชายแก่คนนั้นให้ได้ก่อน”โจวเหวินพูดกับอาเซิง
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ตอนนี้ไม่น่าจะมีใครแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้แน่ๆ เราไว้ค่อยไปทีหลังก็ได้ครับ”อาเซิงหยุดก่อนจะพูดต่อ “เราจะรอให้ชายแก่คนนั้นเดินมาเคาะประตูไม่ได้นะครับ เราคงต้องล่อเขาให้เข้ามาเองแล้วละครับ”
“ล่อเหรอ ยังไงละ อย่าบอกนะว่าจะใช้ฉันเป็นเหยื่อล้อหน่ะ”โจวเหวินเดา
แต่อาเซิงพูด “ตามที่นายน้อยพูดไว้ ต้นกล้วยเซียนได้รวมร่างกับพัดโหมไฟที่อยู่ในเตาเผา ทำให้ชายแก่ที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุคนนั้นฆ่านายน้อยไม่ได้เด็ดขาด แต่การที่มันยังไล่นายน้อยอยู่แสดงว่ามันยังมีเหตุผลอย่างอื่นถ้านายน้อยลองคิดดูดีๆบางทีเราอาจจะใช้สิ่งนั้นมาเป็นตัวล่อให้เขามาลิ้มรสเครื่องเร่งอานุภาพลมปราณของผมหน่อยก็ได้นะครับ”
“ไม่เอาอะเครื่องนั้นมันเตรียมยิงนานเกินไป พลังงานก็ไม่เสถียรด้วย”โจวเหวินปฏิเสธ
แต่ถึงอย่างนั้น คำพูดของอาเซิงนั้นทำให้โจวเหวินนึกอะไรขึ้นมาได้
การจะทำลายชายแก่ด้วยเครื่องเร่งอานุภาพของตระกูลอันนั้นมันเชื่อถือไม่ได้เกินไป แต่การจะล่อชายแก่ไปที่ภูเขาฉีซือนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน
“ถ้าไม่ใช่พัดโหมไฟ แล้วอะไรกันละที่ทำให้มันไล่ตามฉันมา”โจวเหวินคิดก่อนจะนึกถึงลูกบอลทองแดงที่หลิวหยุนเคยให้เขามาก่อนจะจากกัน
“หรือว่าจะเป็นเจ้านี้กันนะ”โจวเหวินคิด ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้จะมีแค่อย่างเดียว เพราะเขาก็ไม่ได้เอาของอะไรอย่างอื่นออกมาอีกเลย
“คงต้องลองดูละวะ”โจวเหวินไม่รู้ว่าเจ้านี้มันจะล่อชายแก่ไปได้ไหม แต่เขาก็ยังอยากจะลองดู อย่างน้อยมันก็ดีกว่านั่งรอเฉยๆแน่ๆ
โจวเหวินเลยตัดสินใจไปที่ภูเขาฉีซือพร้อมกับลูกบอลทองแดงเพื่อดูว่ามันจะตามเขามาไหม
…
ชูไอช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร เธอมาที่คฤหาสต์ตระกูลอันเพราะเธอมาสืบเรื่องอาวุธลมปราณที่ตระกูลอันกำลังวิจัยอยู่ แต่หลังจากมี่มาถึงตระกูลอัน อย่าว่าแต่เธอจะได้เจอกับคลังอาวุธตระกูลอันเลย แม้แต่ตัวของอันเทียนโจเองก็หายไปไหนก็ยังไม่รู้เลย
คุณหญิงคะ เราได้รับข่าวเกี่ยวกับวัตถุดิบสำคัญที่ตระกูลอันต้องใช้ในการทำการวิจัยแล้วค่ะ นั้นก็คือผงเวทมนตร์ที่ตระกูลหลูเป็นผู้ผลิตรายหลักอยู่ แต่ช่วงนี้ตระกูลหลูกำลังประสบปัญหาสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำทำให้ประสบปัญหาหนักมาก พวกเขาตั้งค่าหัวสิ่งมีชิวิตหลุดจองจำตัวนั้นเป็นผงเวทมนตร์จำนวนมหาศาล และยินดีผูกขาดการค้ากับใครก็ตามที่ช่วยเหลือ ถ้าเราได้รับการยินยอม ตระกูลอันอาจจะยินดีให้เราช่วยเหลือก็ได้นะคะ”บอดี้การ์ดบอกข่าวกับชูไอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น