I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง 888-891
ตอนที่ 888
อ่อนเกินไป
“ตอนที่ฉันกลับมาเขาแวะไปที่มหาลัยก่อนหน่ะ”โจวเหวินกับเฟิงชิวเยี่ยนยืนอยู่หน้าลูกบาศก์
“โค้ช สัตว์อสูร2ตัวนั้นคิดว่าตัวไหนจะชนะเหรอ”กรีฟที่ได้ยินเฟิงชิวเยี่ยนเรียกโค้ชบ่อยๆตอนนี้เขาก็ติดเรียกว่าโค้ชตามแล้ว
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อนเลย”โจวเหวินส่ายหัว
“เดาเอาก็ได้ ถึงจะไม่เคยเห็นก็เถอะ ระดับโค้ชแล้ว แค่สายตาก็เฉียบคมมากพอที่แค่เดาก็ถูกแล้วละ”กรีฟพูดพร้อมรอยยิ้ม
ที่กรีฟพูดมานั้นมันเกินความจริงไปมากทำให้หลายๆคนเริ่มหันมามอง
ชูไอที่อยู่ไม่ไกลแถวๆนั้นเองก็ได้ยินที่กรีฟพูดพอดีเลยหันหน้ามามอง “เด็กจากรัฐบาลกลางมันปากดีอย่างนี้ทุกคนเลยงั้นรึ”ชูไอคิดในใจ แล้วมองพวกโจวเหวินแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เธอคิดว่าเป็นแค่กลุ่มนักเรียนโม้กันไปมา
เธอเคยเห็นหน้าตาของโจวเหวินมาก่อนหน้าที่เธอจะมา แต่ตอนนั้นโจวเหวินนั้นใส่ชุดนักศึกษามหาลัยแล้วก็ดูสะอาดสะอ้านมากแต่ตอนนี้โจวเหวินออกเดินทางไปนานหลายวันมาก เขาไม่มีเวลามาดูแลตัวเองอะไรทั้งนั้น ทำให้ผมของเขายังไมได้ตัด สภาพของเขาดูโตกว่าวัยจริงๆ พร้อมด้วยหยาเอ๋อที่อุ้มมาในแขนซึ่งคนส่วนมากไม่รู้เรื่องนี้ก็มักจะคิดว่าเป็นลูกแท้ๆ
ดังนั้น ชูไอเลยไมได้คิดว่านั้นคือโจวเหวิน แล้วคิดว่าโจวเหวินนั้นเป็นแค่อาจารย์ของเฟิงชิวเยี่ยนเท่านั้น
“โจวเหวินมองดูคู่ต่อสู้ในการประลองครั้งนี้ คู่ต่อสู้คืออินทรีสายฟ้ากับอีกาพายุ ซึ่งทั้งคู่เป็นธาตุสายฟ้าทั้งคู่ มันเป็นสัตว์อสูรระดับเร้นลับที่มีความเหมือนกันมาก
“พวกมันมีพลังสายฟ้าเหมือนกัน มีพลังธาตุลมเหมือนกันอีก ผมว่าอีกาพายุน่าจะชนะ เพราะมันเร็วกว่าอินทรีสายฟ้าซะอีก แล้วโค้ชละคิดว่าไง”กรีฟพูด
“ฉันว่าอินทรีสายฟ้าชนะ”โจวเหวินพูด
“ทำไมละครับ”กรีฟถาม
ในความจริงแล้ว ไม่ใช่แค่กรีฟหรอกที่สงสัย แต่ชูไอที่ยืนฟังอยู่นั้นก็แอบๆตะขิดตะขวงใจเหมือนกัน ส่วนตัวเธอเองคิดว่าอีกาพายุน่าจะชนะมากกว่า
เพราะเดิมทีอีกาพายุนั้นเป็นสัตว์อสูรจากต่างแดน ชูไอนั้นคุ้นเคยกับพลังของอีกาพายุดี มันไม่ใช่พลังสายฟ้าแท้ๆ แต่มันมีพลังของธาตุลมด้วยทำให้มันน่าจะแก้ทางสายฟ้าล้วนได้ เธอนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอินทรีสายฟ้ามากนักแต่เธอก็ยังเชื่อสุดใจว่าอีกาพายุนั้นจะชนะแน่ๆ
การที่โจวเหวินนั้นมั่นใจจัดๆว่าอินทรีสายฟ้าจะชนะนั้นทำให้ชูไอไม่เห็นด้วยอย่างแรง
โจวเหวินมองอินทรีสายฟ้าในรูปก่อนจะพูด “เพราะว่าอินทรีสายฟ้ามันมีทีท่าว่าจะชนะมากกว่า กำลังใจของมันมากกว่า ความต่างระหว่างธาตุสายฟ้ากับธาตุลมมันไม่ได้เยอะขนาดนั้น ยังไงอินทรีสายฟ้าก็ชนะแน่ๆ”
“พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับเรื่องความมั่นใจซินะครับ”เฟิงชิวเยี่ยนพูดแล้วทำท่าเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างทันที
“น่าเสียดายนะที่มันไม่มีลงพนันแถวๆนี้ ไม่งั้นผมคงลงข้างอินทรีสายฟ้าหมอหน้าตักแน่นอนเลย”กรีฟพูด
“คนแบบนั้นมาเป็นอาจารย์ของมหาลัยซีหยางก็ได้เหรอ เป็นมหาลัยชื่อดังได้ยังไงกันเนี่ย”ชูไอได้ยินคำพูดนั้นแล้วเลิกสนใจพวกเขา เธอคิดว่าโจวเหวินนั้นพูดมั่วๆ การตัดสินชัยชนะจากแค่กำลังใจอย่างเดียวนั้นมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
หลายๆคนเองก็พูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน การต่อสู้ระหว่างอินทรีสายฟ้ากับอีกาพายุก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว อีกาพายุพุ่งเข้าโจมตีทันทีด้วยความเร็วที่สูงมาก ความเร็วจากการเสริมพลังธาตุสายฟ้ากับลมนั้นทำให้ความเร็วของมันเหนือกว่าอินทรีสายฟ้ามาก
หลังจากที่ใช้ความเร็วเลี่ยงสายตาของอินทรีสายฟ้าแล้ว อีกาพายุก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างรุนแรง มันสยาบยปีก่อนจะเปลี่ยนปีกเป็นดาบสายฟ้าหมุนโจมตีด้วยความเร็วสูงจากด้านหลังทันที
อินทรีสายฟ้าเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลบ มันรับดาบสายฟ้าเต็มๆ
ตู้ม!
อินทรีสายฟ้าคำราม ดาบสายฟ้าแตกพร้อมสะเก็ดไฟที่แตกกระจายออกมา อินทรีสายฟ้าตอบโต้สวนกลับโจมตีพุ่งตัวเข้าใส่อีกา แต่อีกาใช้ความเร็วหลบได้แล้วโจมตีสวน แต่อินทรีสายฟ้านั้นไม่หลบการโจมตีใดๆทั้งสิ้นมันพุ่งเข้าไปรับดาบสายฟ้าอย่างไม่ลังเล มันเลือกที่จะยอมเจ็บเพื่อไล่เข้าประชิดตัว
ถึงแม้ว่าอีกาจะเร็วกว่าแต่ภายใต้การโจมตีที่กดดันขนาดนี้ อีกาก็ทำได้แค่หลบและหลบเท่านั้น แต่มันก็ยิ่งทำให้อินทรีสายฟ้าได้ใจแล้วพุ่งเข้าไปต่อเรื่อยๆ อินทรีสายฟ้าเริ่มเก็บประจุสายฟ้าในร่างกายจนกระทั้งระเบิดพลังออกมาตอนที่พุ่งผ่านอีกาที่รุนแรงพอที่จะระเบิดเหล็กให้เป็นจุลได้
อีกานั้นใช้ประโยชน์จากคตวามเร็วของตัวเองในการหลบ แต่พลังสายฟ้านั้นแรงมากขึ้นและมากขึ้นทุกที ความเร็วก็เร็วขึ้นเรื่อยๆด้วย ยิ่งผ่านไปนาน มันยิ่งหลบการโจมตีได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าของอีกาก็เห็นแล้วว่าไม่มีโอกาสชนะจึงประกาศยอมแพ้ไปแล้วเรียกอีกาพายุกลับ
“โค้ชนี้สมกับเป็นโค้ชจริงๆ สายตาหลักแหลมมากเลยครับ”กรีฟยกนิ้วให้
ชูไอยังคงไม่จริงจังกับมัน เธอไม่เชื่อว่าโจวเหวินจะคาดเดาได้ขนาดนั้น เธอคิด “ก็แค่ดวงละนะ ไม่ได้เกี่ยวกับที่ว่าเขารู้ความสามารถของสัตว์อสูรพวกนั้นซักหน่อย เขาก็เดาสุ่มๆไปเท่านั้นละ”
หลังจากดูการประลองจบ ชูไอกำลังจะกลับ แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเชดีถามโจวเหวิน “โค้ชคะ แล้วมารสวรรค์ที่อยู่บนตารางจัดอันดับตอนนี้คืออะไรกันแน่คะ”
พอได้ยินที่เชดี้พูดแบบชูไอก็สะดุดแล้วหูพึ่งทันที เธอยิ้มมุมปากด้วยความเย่อหยิ่ง “หึ เจ้าพวกรัฐบาลกลางทั้งหลายจงหวาดกลัวในพลังอันยิ่งใหญ่ของมารสวรรค์ซะซิ”
“เอาในแง่ไหนละ”โจวเหวินถามกลับ
เชดี้คิดซักพักแล้วพูด “โค้ชคิดว่ามารสวรรค์จะอยู่อันดับ1จนจบการประลองไหมคะ”
“ไม่หรอก”โจวเหวินตอบทันที
“ทำไมละคะ”เชดี้ถามด้วยความตกใจกับคำตอบของโจวเหวิน
“เพราะมันอ่อนเกินไปไงละ”โจวเหวินตอบความจริง
เขาเคยเห็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งมามากมายแล้ว ถ้ามารสวรรค์ยังไม่เป็นระดับความกลัว สำหรับโจวเหวิน เขาก็ว่ามันอ่อนอยู่ดีมันไม่มีทางชนะที่1ได้แน่ๆ เพราะมารสวรรค์ยังไม่ถึงระดับความกลัวเลยด้วยซ้ำ
“อ่อน เกินไป งั้นเหรอ…..”คำพูดของโจวเหวินเข้าหูชูไอทำเอาหัวร้อนฉ่าทันที ถ้าเป็นที่ต่างแดนละก็เธอคงอัญเชิญมารสวรรค์มาฆ่าโจวเหวินไปแล้ว ให้โจวเหวินได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของสิ่งที่โจวเหวินพึ่งบอกว่าอ่อนไป แต่โชคดีที่นี้คือรัฐบาลกลาง ชูไอจึงได้แต่อดทนไว้แล้วคิดในใจ “ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พวกรัฐบาลกลางเอ้ย”
กรีฟฟังแล้วยกนิ้วให้ “พี่ไม่น่าต้องถามอะไรแบบนั้นเลย ต่อหน้าโค้ชแล้ว มารสวรรค์ก็ต้องกระจอกอยู่แล้ววิ น่าเสียดายนะที่มนุษย์ปรกติเข้าร่วมการประลองไม่ได้ ไม่งั้นถ้าโค้ชเข้าไปละก็ ยัยนาโอะอะไรนั้นต้องโดนซัดหน้าหงายร้องไห้หาพ่อแน่นอนเลย”
ตอนที่ 889
ดาบ3เทพ
“อดทนไว้ อดทน…”ชูไอตาขวางพยายามข่มจิตสังหารที่เกิดขึ้นในใจ ที่นี้คือที่รัฐบาลกลาง ชูไอกำลังปฏิบัติภารกิจลับอยู่ เธอห้ามเผยตัวตนออกมาเด็ดขาด เพราะงั้นเธอเลยพยามยามข่มตัวเองอย่างสุดแรง
“จะกลับม.กันเลยไหม”โจวเหวินถามกรีฟกับคนอื่นๆ
“กลับซิ ไปพร้อมกันเลย”หลายๆคนกลับมหาลัยไปพร้อมๆกัน
หน่วยข่าวกรองของอันหลานหยางก็ทำงานกันดีมากทันทีที่โจวเหวินกลับมาถึงมหาลัย เธอก็โทรมาหาโจวเหวินทันทีแล้วถามโจวเหวินนัดมากินข้าวเย็นกันคืนนี้
ซึ่งโจวเหวินก็ตกลง เขาไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เลี้ยงของตัวเองมานานมากๆแล้ว การได้มาเจอมากินข้าวพูดคุยกันก็ดี
เขาเลยสวมเสื้อผ้าใหม่ๆให้หยาเอ๋อก่อนจะพาหยาเอ๋อไปที่คฤหาสต์ตระกูลอัน
หลังจากที่มาถึงแล้วโจวเหวินก็พบว่าโจวหลิวเฟิงพ่อของเขานั้นไม่อยู่ แต่คนที่อยู่กับอันหลานหยางนั้น คือหญิงสาวที่อายุอยู่ประมาณ 17-20ปี
หญิงสาวคนนั้นแท้จริงแล้วคืออุเอะซึกินาโอะทที่ปลอมตัวเป็นชูไอ พอเธอเห็นหน้าของโจวเหวินกับหยาเอ๋อแล้วเธอก็ตะลึงเล็กน้อยทันที เธอจำได้ว่าโจวเหวินนี้ละคือชายที่บอกว่ามารสวรรค์อ่อนวันนี้
“เข้ามาซิโจวเหวิน ฉันจะแนะนำให้รู้จัก เธอคนนี้คือชูไอ”อันหลานหยางพาโจวเหวินมานั่งลงข้างๆ
อันหลานหยางนั้นไม่ได้ให้โจวเหวินนั่งข้างๆชูไอเพราะว่าเธอรู้จักโจวเหวินดี เธอรู้ว่าโจวเหวินนั้นไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องคุยกับผู้หญิง ไม่ซิ จะไม่คุยกับผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ถึงจะเอาเขาไปนั่งข้างๆ ชูไอ เขาก็จะไม่คุยอะไรอีกเลย
“หนูไอ เด็กคนนี้คือหยาเอ๋อ เป็นเด็กกำพร้าที่โจวเหวินรับมาเลี้ยงไว้ ถึงหน้าตาโจวเหวินจะดูเย็นชาแต่เขาก็เป็นคนเอาใจใส่มากๆนะ”อันหลายหยางอธิบายความเป็นมาของหยาเอ๋อแล้วก็อวยโจวเหวิน
“ในโลกที่คนส่วนมากเห็นแก่ตัวกัน คนที่ใจดีแบบนี้หายากนะคะ”ชูไอพูดด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“ใช่แล้วละ โจวเหวินน่ะไม่ใช่เป็นคนที่ใจดีอย่างเดียวนะ ยังมีพรสวรรค์อีกด้วย เรียนรู้อะไรแปปเดียวก็เป็นแล้วละ…”อันหลานหยางพยายามโม้โจวเหวินจนโจวเหวินแค่ฟังก็แอบเขิน
“โจวเหวิน ฉันได้ยินมาว่าพรสวรรค์ของเธอมันสูงมากจนสามารถปะทะได้กับ6ตระกูลเลย ช่วยสอนฉันบ้างหน่อยจะได้ไหม”ชูไอหันไปหาโจวเหวินแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่…”โจวเหวินยังพูดไม่จบแต่เขาโดนอันหลานหยางขัดก่อนที่เขาจะพูดจบซะอีก
แค่ฟังจากประโยคแรกของโจวเหวิน อันหลานหยางก็รู้ได้ทันทีเลยว่าโจวเหวินจะตอบว่าไม่มีเวลาแน่นอน เธอรู้ดีมากๆ เพราะงั้นเธอเลยตอบแทน “โจวเหวินเขาได้อยู่แล้วละ แต่ยังไงก็เถอะ หลังจากกินเสร็จแล้วพวกเธอไปเดินเล่นกันเองก็ได้นะ ถ้าหนูไอมีอะไรสงสัยละก็ ถามโจวเหวินได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
อันหลานหยางคิดว่าในที่สุดก็มีผู้หญิงที่ไม่กลัวโจวเหวินแถมยังคิดจะเข้าหาโจวเหวินด้วย อันหลานหยางคิดว่านี้เป็นโอกาสที่ไม่ควรจะปล่อยให้หลุดมือ เพราะเธอเองก็กลัวว่าคนอย่างโจวเหวินนั้นจะขึ้นคานหาแฟนไม่ได้ในอนาคต
“หยาเอ๋อ เดี๋ยวฉันพาไปเล่นด้วยนะโอเคไหม” หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้วอันหลานหยางอยากจะพาหยาเอ๋อไปเล่นด้วยก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนหนุ่มสาวคุยกันเป็นก้างขวางคอ
แต่หยาเอ๋อกลับเบี่ยงหน้าแล้วเอาหน้าเล็กๆของะเธออิงแอบลงบนไหล่ของโจวเหวินไม่สนใจอันหลานหยางแม้แต่น้อย
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมดูแลเธอเอง ดูเหมือนเธอจะกลัวๆน่ะครับ”โจวเหวินพูด
“ตามใจเด็กแบบนี้มันไม่ดีนะ”อันหลานหยางไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ถึงเธอจะไม่เห็นด้วย แต่เธอก็ไม่ใจร้ายพอจะแย่งหยาเอ๋อไปจากโจวเหวินหรอก
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูชอบเด็กค่ะ เดี๋ยวหนูดูแลเธอให้เองนะคะ”ชูไอพูด
โจวเหวินกับชูไอออกจากห้องอาหารไปพร้อมๆกัน จากนั้นชูไอก็เห็นโจวเหวินไม่พูดอะไร เธอเลยพูด “โจวเหวิน ฉันอยากจะให้นายช่วยฉันฝึกหน่อยหน่ะ ถ้าสะดวกเราไปที่สนามซ้อมกันดีไหม”
“ได้ซิ”โจวเหวินตอบกลับมาง่ายๆ ต่อหน้าอันหลานหยาง เขาปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เขาเลยได้แต่ตกลง
ชูไอพอเห็นว่าโจวเหวินรับปากแล้วสายตาของเธอก็เจ้าเล่ห์ขึ้นมาแล้วคิด “วันนี้ละที่นายจะได้รู้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงมันเป็นยังไง กล้าดียังไงมาบอกว่ามารสวรรค์อ่อน คอยดูละกันว่าใครจะอ่อนกันแน่”
เหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงบอกให้โจวเหวินไปฝึกด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะเธออยากจะสานสัมพันธ์ของเธอกับโจวเหวินแม้แต่น้อย
เป้าหมายของนาโอะในการมาครั้งนี้ไม่ใช่โจวเหวินแต่เป็นงานวิจัยและอาวุธลมปราณรูปแบบใหม่ที่ตระกูลอันกำลังพัฒนาอยู่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับโจวเหวินเลย เธอไม่จำเป็นต้องเข้าหาโจวเหวินเลยด้วย
ถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่ลูกบาศก์ เรื่องที่โจวเหวินพูดวิจารย์มารสวรรค์ว่ากากกระจอกนั้นทำให้เธอหัวร้อนมาก ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้นนาโอะจริงๆแล้วก็จะนั่งกินข้างกับอันหลานหยางอย่างสุภาพแล้วคุยกับโจวเหวินอย่างเป็นมิตรล้วนๆ เธอจะไม่ชวนโจวเหวินออกมาเลยแม้แต่น้อย
ส่วนในความคิดของโจวเหวินนั่นมันง่ายกว่ามากๆ เขาไม่สนใจอะไรในตัวของชูไอเลยแม้แต่น้อย ที่เขาทำทั้งหมดนั้นก็เพื่อรักษาหน้าของอันหลานหยางเอาไว้ ในหัวของเขานั้นเขายังกำลังหาทางรับมือกับชายแก่ที่กำลังไล่ตามหลังเขามาติดๆอยู่เลย ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นแน่ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะอันหลานหยางป่านนี้เขาคงกลับหอไปเล่นเกมส์แล้ว
ในเมื่อความคิดของทั้งคู่ไม่ตรงกัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็มาถึงสนามซ้อมจนได้
ชูไอไม่ได้อยากให้คนอื่นเห็นเธอจึงเช่าห้องซ้อมส่วนตัวมาใช้
“มีอะไรอยากจะให้ฉันช่วยสอนเหรอ”โจวเหวินมองชูไอแล้วถาม
คำพูดนั้นดังเข้าหูชูไอแล้วทำให้เธอหงุดหงิดกว่าเดิม “คิดว่าตัวเองเก่งมากนักซินะถึงจะมาสอนฉันได้ เดี๋ยวนายนั่นละจะได้รู้ว่าใครสอนใครกันแน่”
ชูไอหน้าตายังคงยิ้มแย้มแจ่มใสถึงจะคิดแบบนั้น แล้วเธอก็พูดออกมา “นายรู้เรื่องวิชาดาบรึเปล่า ช่วงนี้ฉันฝึกวิชาดาบอยู่น่ะ แล้วฉันมีปัญหานิดหน่อย นายพอจะช่วยฉันบ้างได้ไหมอะ ช่วยดูให้หน่อยว่าฉันพลาดอะไรตรงไหนไหม”
“เข้าใจละ งั้นลองสาธิตวิชาดาบให้ดูหน่อย แล้วเดี๋ยวฉันจะลองหาให้”โจวเหวินพูดจริงจัง
เขาไม่รู้เลยว่าชูไอนั้นวางแผนมาดีมากๆแล้ว เขาคิดแค่ว่าชูไอคงมาขอให้เขาช่วยจริงๆ ซึ่งที่เขาช่วยนั้นก็เพราะว่าอันหลานหยางล้วนๆเช่นกัน
“ได้เลยงั้นฉันเริ่มละนะ ช่วยฉันดูด้วยละว่าพลาดตรงไหน มีอะไรบอกกันได้เลยไม่ต้องคิดมากนะ”ชูไอพูดแล้วดึงดาบซ้อมออกมา จากนั้นก็มายืนกลางสนามซ้อม
แน่นอนว่าเธอไม่ได้อยากให้โจวเหวินสอนเธอจริงๆหรอก วิชาดาบที่เธอกำลังจะใช้นั้น มันเป็นวิชาดาบที่ไร้ซึ่งจุดบกพร่องไม่พอ มันยังหายากมากๆด้วย
มันเป็นวิชาเพลงดาบที่ชื่อว่าดาบ3เทพ เป็นวิชาดาบที่นาโอะได้มาจากพื้นที่ต่างมิติลึกลับในต่างแดน เธอเป็นคนเดียวที่ล่วงรู้วิชานี้ และเธอไม่เคยแสดงให้คนภายนอกเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
ตอนนี้เธอเริ่มร่ายรำและเริ่มใช้ดาบในมือตวัดฟันไปมาเกิดเป็นพลังงานประหลาด มันดูเหมือนเป็นการฟันดาบมั่วๆก็จริงแต่มันก็มีพลังมากๆ
ตอนที่นาโอะได้วิชานี้มา เธอฝึกหนักมาก ฝึกหนักมานานกว่า1ปีเต็มจนกระทั้งเธอได้สำเร็จวิชาดาบ3เทพแล้วเข้าใจถึงแก่นแท้เจตจำนงของดาบ3เทพในที่สุด
ตอนที่ 890
ดาบมีข้อเสีย
สิ่งที่ยากที่สุดของวิชาดาบ3เทพนั้น คือการที่วิชาดาบนี้ต้องใช้3แรง นั้นคือต้องใช้ทั้งแรงแข็งแรงอ่อนและแรงผสาน มันเป็นการใช้วิชาที่ต่างกันมากๆ3แบบ และต้องรวมเอาความแข็งแรง ความอ่อนนุ่ม และความเข้ากันมารวมกันให้ได้
การจะเอาสามแรงนั้นมารวมกันเป็นหนึ่งให้ได้นั้นจะต้องอาศัยทั้งทักษะและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถ้าผสานมันไม่ได้อย่างลงตัวละก็ วิชาดาบนี้จะใช้กำจัดศัตรูไม่ได้เลย มันจะเปลี่ยนจากเสือกลายเป็นหมาน้อยแทน
นาโอะนั้นซ้อมวิชาดาบ3เทพต่อหน้าของโจวเหวินคนที่ไม่รู้ว่าวิชาดาบนั้นคืออะไรจะมาวิจารย์หรือแนะนำอะไรได้กัน
นาโอะนั้นสาธิตท่าดาบให้โจวเหวินเสียหน้าเล่นให้เขาได้รู้ว่าใครกันแน่ที่อ่อนแอ
และเพราะว่าไม่มีใครอื่นที่เห็นวิชาดาบนี้ทำให้นาโอะไม่กลัวคนอื่นจะจำได้
โจวเหวินเองก็ไม่รู้จักนาโอะ และไม่รู้ด้วยว่านาโอะมีแผนการอะไร เขาคิดแค่ว่านาโอะนั้นขอให้เขาช่วยเขาเลยช่วยแบบจริงจังมากๆ เพื่อตามหาข้อบกพร่องในวิชาดาบ3เทพนั้น
และเมื่อนาโอะแสดงวิชาดาบเสร็จ เธอก็หันมายิ้มแล้วถามโจวเหวิน “เอาอีกรอบไหมคะ?”
“เอาซิ”โจวเหวินพยักหน้า
นาโอะยิ้มในใจ แล้วเริ่มสาธิตให้ดูอีกรอบ แต่ก็คิด “อย่าว่าแต่จะอีกรอบเลย ต่อให้อีก10รอบนายก็ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นละ” วิชาดาบ3เทพนั้นไม่เหมือนวิชาดาบที่ตรงไปตรงมาหรือวิชาดาบที่ปล่อยพลังอลังการณ์ วิชานี้มันเกี่ยวกับพลังและศิลปะการใช้พลัง มันเป็นเรื่องภายในที่ไม่ใช่แค่ดูแล้วจะรู้ได้
นาโอะนั้นตัดสินใจแล้ว ว่าหลังจากผ่านรอบนี้ไป เธอจะให้โอกาสโจวเหวินได้ดูดอีกรอบ เพื่อให้โจวเหวินนั้นรู้ว่าตัวเองไร้ความสามารถ แล้วพอผ่านรอบที่3ไป เธอจะถามอีกรอบว่าเห็นข้อบกพร่องอะไรไหม เพื่อให้เขาเสียหน้าเล่นที่ตัวเองตอบไม่ได้เลย
“จริงๆแล้วถ้านายยอมรับมาเลยว่านายมองไม่เห็นอะไรจะเสียหน้าน้อยกว่านะเนี่ย”นาโอะคิด
และไม่นานหลังจากนั้น นาโอะก็สาธิตเสร็จ หลังจากหยุด เธอก็มองโจวเหวินด้วยรอยยิ้มแล้วถาม “อีกรอบดีไหมคะ”
“พอแล้วละ”โจวเหวินส่ายหัว
นาโอะคิด “รู้ตัวเร็วได้ก็ดีนี้ ถ้านายให้ฉันสาธิตอีกรอบมันก็มีแต่จะแย่ลงซินะถ้าหาอะไรไม่เจอเลยหน่ะ” เธอยิ้มก่อนจะรอให้โจวเหวินมาโค้งขอโทษที่หาอะไรไมได้เลย
“ปัญหาของวิชาดาบของเธอมาใหญ่มากๆเลยละ”แต่โจวเหวินกลับพูดออกมาแบบนั้น
“อ้องั้นเหรอ ปัญหาที่ว่านั้นมันคืออะไรแล้วอยู่ที่ไหนกันละ”นาโอะมองโจวเหวินด้วยรอยยิ้ม เธอคิดว่ายังไงโจวเหวินก็ไปไม่รอดแล้วถ้ามั่ว
ในสายตาของนาโอะ การมั่วเท่ากับการฆ่าตัวตายชัดๆ
“ใช่ปัญหาของวิชาดาบมันใหญ่มากจริงๆ วิชาดาบที่เธอฝึกแล้วสาธิตมาหน่ะมันยังไม่สมบูรณ์”โจวเหวินพูด
“วิชาดาบของฉันมันยังไม่สมบูรณ์เหรอ”นาโอะพยายามทำตกใจแต่ก็คิดในใจ “คนที่ไม่สมบูรณ์หน่ะคือนายตั่งหาก วิชาดาบ3เทพหน่ะฉันฝึกจนเข้าเลือดแล้ว กล้ามาบอกว่าวิชามันไม่สมบูรณ์ได้ไงกัน มั่วแล้วเอามาแถชัดๆ”
“ใช่วิชาดาบมันไม่สมบูรณ์จริง บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าความเข้าใจของเธอที่มีต่อวิชาดาบนี้มันไปผิดทางมั่ง ทำให้ไม่เข้าใจแก่นแท้ของวิชานี้ได้อย่างเต็มที่”โจวเหวินพูด
“ของดั้งเดิมมันมาแบบนี้เลยค่ะ ช่วยชี้แนะหน่อยได้ไหมคะ”
ช่วย ชี้ แนะ หน่อย ได้ไหม คะ นาโอะเน้นย้ำคำนี้ชัดๆ
เธอฝึกวิชาดาบ3เทพแล้วใช้มันพลิกแพลงได้อย่างหลากหลาย แต่โจวเหวินกลับมาพูดว่าวิชาดาบของเธอนั้นยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ นาโอะเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแก่นแท้ที่โจวเหวินพูดถึงนั้นมันคืออะไรกันแน่ แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้โจวเหวินกำลังแถมันขึ้นมาแล้ว
“เอาดาบมา”โจวเหวินหยิบดาบจากมือของนาโอะ ก่อนที่นาโอะจะถอยออกไปข้างๆ เพื่อรอดูว่าโจวเหวินจะแถออกมาได้มั่วขนาดไหน
โจวเหวินให้หยาเอ๋อรออยู่ข้างๆสนามแล้วถือดาบมั่นเดินไปตรงกลางของสนามซ้อม “วิชาดาบของเธอนั้นมันคือการรวมความแข็ง ความอ่อนและความผสานเข้าด้วยกัน เธอสามารถผสานทั้ง3แรงเข้าด้วยกันได้ดี แต่วิธีที่เธอใช้นั้นมันไม่ถูกต้อง เพราะที่เธอทำนั้นมันทำให้วิชาดาบของเธอมันไปไกลมากกว่านี้ไม่ได้ มันจะติดอยู่แค่นี้ไม่สามารถฝึกจนสมบูรณ์ได้”
“มองเห็นด้วยเหรอว่าวิชาดาบ3เทพมันเป็นแบบไหน โจวเหวินคนนี้ไม่ได้แถแบบไร้เหตุผลแหะ”นาโอะคิด
แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยการแสดงออกของโจวเหวินมันก็ทำให้เธอหงุดหงิดกว่าเดิม เธอเลยถามด้วยรอยยิ้ม “แล้วฉันจะต้องทำยังไงต่อหรือแก้ตรงไหนละคะถึงมันจะสมบูรณ์ได้”
“มันไม่ยากหรอก”โจวเหวินเริ่มแกว่งไกวดาบในมือวิชาดาบที่เขาเริ่มฟาดฟันนั้นคือวิชาดาบ3เทพของนาโอะชัดๆ
นาโอะเห็นโจวเหวินสามารถใช้วิชาดาบ3เทพได้ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่แรงแข็งอย่างเดียวก็ตาม แต่เขาก็สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้แบบเดียวกันเลย
“นี้คือแรงแบบแรกที่ชื่อว่าแรงแข็ง”โจวเหวินพูดแล้วแสดงอีกท่วงท่านึงของวิชาดาบที่นาโอะใช้ รอบนี้ ดาบนั้นมันมีทั้งแรงแข็งและแรงอ่อนไปด้วยกัน
รอบนี้นาโอะตกใจเล็กน้อยที่เขาสามารถแสดงได้ทั้งความแข็งแรงและความอ่อนนุ่มมาพร้อมๆกัน ตอนที่เธอฝึก ฝึกเกือบเดือนยังไมได้เท่านี้เลย
“ตามหลักเต๋ากล่าวไว้ว่า สิ่งที่เรียกว่า รวม2กลายเป็น1 นั้น คือจุดเริ่มต้นของหยินหยาง มีขาวก็ต้องมีดำ มีแข็งก็ต้องมีอ่อน แต่รอบนี้ เราจะมีแรงที่3เกิดขึ้นมา
นาโอะมองโจวเหวินด้วยสายตาเบิกกว้าง เธอรู้สึกไม่น่าเชื่อแล้วเริ่มคิดในใจ “โจวเหวินคนนี้มันเคยฝึกวิชาดาบ3เทพมาก่อนเหรอ เป็นไปไม่ได้ซิ มันเป็นวิชาที่สลักเอาไว้ในถ้ำ3เทพเลยนะ หลังจากอ่านไปแล้วกำแพงนั้นจะถูกทำลายทันที แล้วโจวเหวินไปเรียนรู้วิชานี้มาจากไหนกัน”
“2รวมเป็น1 2รวมเป็น1 3รวมเป็น1 3รวมเป็น1 วิชาดาบของเธอนั้นมันจำกัดอยู่แค่3แรงเท่านั้น มันเลยไปต่อไม่ได้ ก็เหมือนแม่สีหลัก แดง เขียวน้ำเงินนั้นละ เธออาจจะใช้สามสีหลักนี้เป็นแม่สีแต่เอาจริงแล้ว เธอก็สามารถเอา3สีนี้มาผสมกันไปมาจนกระทั้งเกิดสีที่งดงามบนโลกใบนี้ได้ทุกสีวิชาดาบของเธอที่บอกว่ายังไม่สมบูรณ์นั้นคือมันยังขาดตรงนี้ มันหยุดที่จุดแม่สีทั้ง3 แต่มันไม่ได้จินตนาการและไปต่อ…”โจวเหวินพูดระหว่างสาธิตในขณะที่นาโอะที่ยืนดูข้างๆนั้นตะลึงมากๆ
4แบบ 5แบบ 6แบบ นาโอะเห็นวิชาดาบ3เทพเปลี่ยนแปลงรูปแบบแรงไปเรื่อยๆได้หลากหลายรูปแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนแต่มันยังดูผสานกันและเข้ากันได้ดีมากๆ เหมือนกับว่าวิชาดาบ3เทพนั้นมันควรจะเป็นแบบนี้จริงๆ
ในแวบแรกนั้นเอง ที่โจวเหวินพูดมามันดูมีเหตุผลมากๆ แต่นาโอะลึกๆในใจแล้ว ถึงจะเข้าใจความจริงทั้งหมด แต่เธอก็ไม่ได้มีวิชาดาบที่มากมายในการผสมได้อย่างใจนึกแบบนั้น
ตอนที่ 891
ปีศาจจิ้งจอก9หาง
“9แบบ 10แบบ 11แบบ ไอ้นี้มันเป็นปีสาจรึไงกัน”นาโอะมองโจวเหวินแล้วยังคงตกใจไม่หาย
โจวเหวินนั้นสะบัดดาบไปมาเปลี่ยนแปลงวิถีดาบไปเป็น10แล้ว อายุแค่นี้ทำไมถึงได้มีวิชาดาบมากมายขนาดนี้
แน่นอนละว่าเอาจริงๆแล้ววิชาดาบของโจวเหวินไม่ได้มาจากการฝึกด้วยตัวเอง ไม่ซิ โจวเหวินแทบไม่เคยฝึกดาบเลยตั่งหาก สิ่งที่เขาถนัดคือวิชากระบวนท่าร่างกาย ส่วนวิชาดาบทั้งหลายที่เขาเคยฝึกมานั้น ทั้งหมดได้มาจากการที่นั่งอดหลับอดนอนหลายคืนฝึกวิชาดาบที่มิติหมู่บ้านดอกท้อ กับวิชาดาบ3000กระบวนท่าของชายชุดขาว ซึ่งที่โจวเหวินได้แสดงออกมานั้นออกมาแค่9แบบเท่านั้น โจวเหวินยังมีเหลืออีกเยอะ
ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของวิชาดาบ3เทพดี แต่เขาเองก็เรียนรู้และลองนำมาปรับใช้ดูจนกระทั้งได้แบบที่เห็น
“ปัญหามันอยู่ตรงนี้ละ ที่อื่นไม่มีอะไรละ กลับไปค่อยๆฝึกเดี๋ยวก่อนได้เอง เดี๋ยวฉันมีอะไรให้ทำต่อ เพราะงั้นฉันไปก่อนนะ”โจวเหวินเสร็จจากการช่วยนาโอะแล้วก็เข้าไปอุ้มหยาเอ๋อแล้วออกจากห้องไป
นาโอะที่อยู่ในชื่อชูไอนั้นมองโจวเหวินเดินจากไปแล้วไม่ทำอะไรเลย เธอเหมือนสติหลุดจนกระทั้งประตูห้องฝึกปิดสนิทลงแล้วเธอก็ได้สติกลับขึ้นมา “ฝึกเหรอ จะให้ฉันฝึกอะไรกันละ นั้นมันไม่ใช่วิชาดาบ3เทพแล้ว มันเกินกว่าวิชาดาบ3เทพไปไกลมากแล้วให้ฉันฝึกอะไรอีกละ” ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ นาโอะก็ยังทึ้งกับวิชาดาบของโจวเหวินไม่หาย โจวเหวินนั้นผสมวิชาดาบทั้ง10เข้าด้วยกันแล้วใช้มันกับวิชาดาบ3เทพได้อย่างง่ายดาย ขนาดยอดนักดาบจากต่างแดนยังทำไม่ได้ขนาดนี้เลย
“คุณหญิง เป็นอะไรรึเปล่าคะ”บอดี้การ์ดเข้ามาในห้อง เธอแอบมาสอดแนมและปกป้องนาโอะ แต่เพราะมีโจวเหวินอยู่ทำให้เธอยังไม่กล้าเข้ามา เธอเลยเข้ามาตอนที่โจวเหวินออก
“ฉันไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่ประมาทคนรุ่นใหม่ของรัฐบาลกลางมากเกินไปหน่อย โจวเหวินคนนั้นสมแล้วที่เป็นคนที่ทำให้ทั้งรัฐบาลกลางปั่นป่วนมาแล้ว ไม่แปลกใจเลย”นาโอะพูด
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”บอดี้การ์ดถาม
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันได้เห็นวิชาดาบของโจวเหวินแล้วละ มันแกร่งมากๆเลย แต่น่าเสียดายที่วิชาดาบของเขานั้นใช้ประโยชน์ไม่ได้ถึงจะแกร่งแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังไม่มีผู้พิทักษ์ เขาเองก็ยังเป็นได้แค่มนุษย์คนนึงเท่านั้น ไม่มีทางที่มนุษย์จะไปถึงระดับเร้นลับได้ ถึงดาบเขาจะแกร่งแค่ไหนสุดท้ายเขาก็เป็นได้แค่มนุษย์”นาโอะพูดแล้วพยายามเรียกคืนความมั่นใจของตัวเองกลับ
ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะแกร่งแค่ไหน แต่ยังไงเขาก็คงไม่มีทางสู้ระดับเร้นลับได้อยู่ดี ตัวเธอมีผู้พิทักษ์มารสวรรค์อยู่ทั้งที เธอเองก็ยังมั่นใจในพลังของเธออย่างเต็มเปี่ยม
“ถ้าในโลกแห่งดาบ โจวเหวินนั้นเรียกได้ว่าน่านับถือคนนึงเลย”นาโอะคิด
“ฉันเคยบอกเตือนเรื่องของโจวเหวินไปแล้วนะคะ”บอดี้การ์ดพูด
นาโอะไม่พูดอะไรต่อ ก่อนที่เธอจะถาม “มีข่าวอะไรมาบ้างรึยัง รู้เจ้าของตัวเบม่อนรึเปล่า?”
“ยังไม่ได้ข่าวเลยค่ะ ตอนนี้คนของเรากำลังเร่งสืบข่าวกันอยู่”บอดี้การ์ดพูด
“หาตัวเขาให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ฉันจะแก้แค้นมันที่ทำกับบาฉีไว้”นาโอะพูด
โจวเหวินกลับมาที่หอแล้วเริ่มฟาร์มเกมส์อีกครั้ง ตอนนี้เขาตั้งใจที่จะเคลียร์เกมส์ภูเขาฉีซือให้ได้ก่อน เพราะถ้าชายแก่ตามเขามาถึงนี้จริง เขาก็ต้องล่อชายแก่ไปที่ภูเขาฉีซือแห่งนั้น
ภายในของหลูไท่จริงๆแล้วนั้นใหญ่กว่าที่โจวเหวินคิดไว้มากๆ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้โจวเหวินเดินผ่านทุกอย่างไม่ได้สำรวจจริงๆทำให้ไม่รู้ว่าเขาพลาดอะไรไปบ้าง
พอโจวเหวินมาบุกหลูไท่อีกรอบ เขาจึงตั้งใจจะสำรวจให้ทั่ว
หลังจากที่สำรวจได้ไม่นาน โจวเหวินก็พบเข้ากับประตูโค้งขนาดใหญ่ หลังจากที่ผ่านประตูโค้งเข้าไปแล้วภายในนั้นมีพื้นที่ว่างเปิดโล่งอยู่ภายใน
ตรงจุดนี้มันดูเป็นจุดกึ่งกลางของหลูไท่ ซึ่งล้อมรอบด้วยประตูทรงโค้งซึ่งบางประตูก็มีน้ำไหลเข้ามาข้างในด้วย
ใต้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่น้ำไหลที่เป็นเหมือนสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางของมันมีแท่นบางอย่างที่เหมือนกับแท่นทองแดงขนาดยักษ์ตั้งอยู่
แท่นที่ว่านี้ มีจิ้งจอกสีขาวนอนหลับใหลอยู่ มันดูไม่เหมือนหมาจิ้งจอกปรกติเพราะหางของมันนั้นมี9หางสีขาวหิมะอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของมันกลับถูกผูกมัดไว้ด้วยโซ่ที่ล่ามไปยันแท่นทองแดง เหมือนกับว่ามันกำลังถูกคุมขังเอาไว้
“นี้มัน….ปีศาจจิ้งจอก9หางในตำนานงั้นเหรอ”โจวเหวินคิดถึงตำนานของหลูไท่ ตำนานของปีศาจที่ปลอมตัวเป็นเทพเพื่อมาฆ่าและสูบชีวิตของผู้คน ถึงแม้ว่านกกระเรียน9หัวกับผีผาหยกนั้นจะเป็น2ใน3ปีศาจด้วย แต่ถ้าพูดถึงปีศาจจริงๆ ภาพจำแรกที่คนนึกถึงกัน ก็คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเนี่ยละ
เจ้านี้มัน หรือว่าจะเป็นจักรพรรดินีหน่ะ”โจวเหวินคิดแล้วสงสัยดวงตาของเขาจ้องมองไปที่จิ้งจอกเก้าหาง
แต่ทันใดนั้นดวงตาของจิ้งจอกก้าวหางก็เบิกโพรงขึ้นดวงตาเรียวยาวดูมีเสน่ห์มองตรงมาทางโจวเหวิน
ดวงตาที่มองมานั้นมองมาที่ตัวละครของเขาก็จริง แต่มันเหมือนกับกระแทกเข้าไปในวิญญาณของเขาเอง มันกลับดูมีเสน่ห์งดงามเกินจะห้ามใจ จนอยากจะไปปล่อยจิ้งจอกออกจากแทนนั้นแต่เขาก็เตือนสติตัวเองแล้วสงบใจลง
เดิมทีเขามีความสามารถพิเศษในการตั้งสมาธิอยู่แล้ว รอบนี้จิตใจของเขาหวั่นไหวแต่ไม่นานเขาก็กลับมาสู่สภาพเดิมได้ ตอนนี้เขามองจิ้งจอกเก้าหางยังไงก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว
แต่ในดวงตาของจิ้งจอกนั้นเสน่ห์ของนางกลับเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ในสายตาของโจวเหวิน จิ้งจอก9หางที่อยู่ตรงหน้านั้นกลับกลายเป็นสาวงามในชุดนอนไม่ได้นอนสีขาว โจเวหวินไม่เคยเห็นใครงดงามเช่นนี้มาก่อน แต่เธอไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ทรงเสน่ห์แต่รวมไปถึงสายตาที่จับผู้ชายได้อย่างอยู่หมัดเหมือนกับว่าผู้ชายพร้อมยอมตายเพื่อเธอ
ตัวละครของโจวเหวินเดินตรงเข้าไปยังแท่นนั้นที่ๆหญิงสาวอยู่ก่อนจะกระโดดขึ้นไปโดยไม่ลังเลหมายจะเชยชม
แต่บนแท่นนั้นเห็นชัดๆเลยว่าหญิงสาวคนนั้นคือจิ้งจอก9หางที่กำลังอ้าปากเตรียมขย้ำหัวของตัวละครโจวเหวินที่กระโดดขึ้นไป
พอเห็นว่ามันกำลังอ้าปากเตรียมกัดอยู่นั้นเอง ตัวละครของโจวเหวินก็เหมือนได้สติขึ้นมาก่อนจะหลบคมเขี้ยวของจิ้งจอกไปได้เพียงไม่กี่เซนแล้วใช้ดาบล่องหนฟันตวัดเข้าที่คอของจิ้งจอก9หางเต็มๆจนเลือดที่คอนั้นกระเซ็นเต็มขนสีขาวไปหมด
โจวเหวินแอบๆเสียดายที่เขาดันไปหลงกลของจิ้งจอก9หางไม่งั้นถ้าเขาได้รวบรวมลมปราณมาก่อนหน้านี้ละก็ เขาคงจะสามารถใช้วิชาเทพสังหารจัดการมันได้ในดอกเดียวแน่ๆ แต่ตอนนี้จิ้งจอกเก้าหางโกรธจัดมาก มันไม่เชื่อว่าเสน่ห์ของมันจะใช้กับโจวเหวินไม่ได้ผล
เอาจริงๆโจวเหวินนั้นเป็นมนุษย์ธรรมดาที่แพ้ทางหลายอย่างมากๆ แต่พลังยั่วยวนเสน่ห์ทั้งหลายนั้นเป็นมนตร์แค่อย่างเดียวที่ใช้กับเขาไม่ได้ผล ต่อให้เป็นนางสวรรค์เขาก็ไม่สนอย่าว่าแต่จะเป็นปีศาจจิ้งจอก9หางเลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น