I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง 876-887
ตอนที่ 876
ของในเตา
หลิวหยุนมองผู้วิเศษจิงเต้าพยายามสู้กับทั้งดาบหินและชายแก่ เขาไม่มีเวลามาสนใจพวกเขาทั้ง2เลยซักนิด เขาเลยไม่ลังเลแล้วประกายแสงที่นิ้วมือของเขาก็เจิดจรัสขึ้น เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น นิ้วทั้ง5ก็หายวับเหมือนกับเข้าหลุมดำไป
“อ๊า!!”หลิวหยุนกระชากมือกลับมาทันทีพร้อมกับร้องออกมา ที่ปลายนิ้วของเขานั้นถูกเผาด้วยเปลวไฟสีขาว เนื้อของเขาโดนเผาจนเกรียมเห็นกระดูก แถมไฟนั้นยังลามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นไฟก็ลามมายันทั้งมือของหลิวหยุนแล้ว
หลิวหยุนตัดสินใจทันทีทันใด ใช้มืออีกข้างเป็นเหมือนดาบก่อนจะฟันนิ้วทั้ง5ของเขาเองขาดทันที
นิ้วทั้ง5นั้นโดนฟันขาดแล้วโดนเผาจนเหลือแต่ขี้เถ้า ถ้าเขาตัดสินใจช้ากว่านี้นิดเดียว บางทีมือของเขาก็ต้องโดนตัดไปด้วยแน่ๆ
ผู้วิเศษจิงเต้าพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ไฟในเตานั้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตธาตุไฟระดับเร้นลับที่แกร่งที่สุดยังไม่กล้าแตะเลย นายยังคิดจะใจกล้าหน้าด้านล้วงเข้าไปอีกงั้นเหรอ”
นิ้วทั้ง5ของหลิวหยุนนั้นขาดสะบั้น พอได้ยินคำสบประมาทของผู้วิเศษจิงเต้าแล้ว เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าผู้วิเศษจิงเต้านั้นรู้ทุกอย่างที่พวกเขาทำ และเหตุผลที่เขาไม่หยุดมันไว้ก็เพราะว่าเขาแน่ใจว่าพวกเขาไม่มีทางเอาของออกมาจากเตาได้แน่นอน
หลิวหยุนเองก็ไม่ได้โกรธเขาแค่กระซิบกับโจวเหวิน “ฉันแตะของด้านในด้านแล้ว มันไม่ใช่ยาแน่ๆ”
“แล้วมันคืออะไรละ”โจวเหวินถาม
“ฉันไม่รู้ ฉันจับแค่ส่วนเดียวเท่านั้นละ แต่มันดูเหมือนเป็นด้ามจับของอะไรซักอย่างนะ แต่ฉันไม่แน่ใจ พอฉันแตะปึ๊บไฟก็ลวกมือฉันปั๊บเลย ฉันไม่กล้าที่จะคว้ามันไว้”หลิวหยุนพูด
“หรือว่ามันจะเป็นดาบกันละ”โจวเหวินถาม
“ก็เป็นไปได้นะ”หลิวหยุนพยักหน้า
ตอนแรกเขาคิดว่าจะเอาของที่อยู่ข้างในนั้นออกมา แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าถึงเขาจะเอามันออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีข้อมูลมากพอจะข่มขู่ผู้วิเศษจิงเต้าให้ปล่อยวิญญาณของพวกเขาไปได้”
แต่ตอนนี้นอกจากจะเอาออกมาไม่ได้แล้ว นิ้วยังด้วนไปด้วยอีก เรียกได้ว่าหมดความหวังแล้วก็ได้
“งั้นเดี๋ยวฉันลองดูเอง”โจวเหวินอัญเชิงมารพยัคฆ์เกราะวิญญาณออกมา(เรียกสั้นๆว่ามารพยัคฆ์) แต่เขาไม่ได้ให้มันพุ่งเขาไปในเตาเลยในทีเดียวโจวเหวินให้มารพยัคฆ์นั้นกระโดดขึ้นไปที่พายุไฟที่โหมอยู่รอบนอกก่อน ให้มันได้อาบไฟอย่างเต็มที่
เปลวไฟรุนแรงของพายุไฟนั้นทำให้ชุดเกราะของมารพยัคฆ์ติดไฟ ไฟสีม่วงแผนเผารุนแรงมากขึ้นเละมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไฟนั้นไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บ แต่มันกลับทำให้แข็งแกร่งขึ้น
เขาให้มันอาบไฟอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งตัวของมันทั้งตัวถูกห่อหุ้มไว้ด้วยไฟสีม่วง ก่อนที่โจวเหวินจะให้มันพุ่งเข้าไปในเตา
ผู้วิเศษจิงเต้าเองก็มองอย่างเยือกเย็นแต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งอะไร ตอนนี้เขาหยุดยั้งชายแก่กับดาบหินไว้ได้แต่เขาเองก็ต้องปล่อยให้มารพยัคฆ์เข้าไปในนั้นด้วย
มารพยัคฆ์แตะโดนไฟแล้วร่างของมันก็ส่องสว่างทันที ไฟสีม่วงบอกกับไฟสีขาวนั้นทำให้อุณหภูมิความร้อนพุ่งขึ้นสูงจนชุดเกราะของมันแทบจะหลอมละลาย ด้วยพลังทั้งหมดที่มี มารพยัคฆ์ยังคงอดทนต้านไฟในเตาด้วยไฟของตัวเอง โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่ามารพยัคฆ์กำลังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ถึงจะไม่ได้มอดไหม้เป็นจุล แต่ที่แน่ๆคือเจ็บปวดมากแหงๆ
ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ ร่างกายของมารพยัคฆ์คงละลายแน่ๆ โจวเหวินเลยสั่งให้มันออกจากเตาแต่เขาก็ไม่ได้เรียกมันกลับเข้าร่างในทันที เขาเอามันออกมายืนข้างๆตัวเขา แต่เปลวไฟที่แผนเผานั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
“ถึงจะเป็นราชาธาตุไฟมาเองก็โดนเตาไฟนี้หลอมละลายได้เหมือนกัน ถ้านายคิดอยากจะพึ่งสัตว์อสูรระดับเร้นลับละก็ คงได้แต่ฝันกลางวันละนะ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด “ของที่อยู่ข้างในนั้นน่ะ ไม่ใช่ของที่นายจะเอาออกมาได้หรอก”
ผู้วิเศษจิงเต้าพูดและเหมือนกับว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดจะไปเอาเหมือนกัน เหมือนกับเขารออะไรบางอย่าง ชายแก่กับดาบหินตอนนี้อยากจะฆ่าผู้วิเศษจิงเต้าเต็มที่แต่ตอนนี้พวกมันทำได้แค่เต้นไปมาบนฝ่ามือของผู้วิเศษจิงเต้า
ทันใดนั้นเอง ภายในเตาก็มีเสียงดังออกมา
“แงงงงง แงงงง”โจวเหวินเงี่ยหูฟังดีๆแล้วหน้าเปลี่ยนสี เขามองหลิวหยุนแล้วถาม “ไหนบอกว่ามันเหมือนจะเป็นอาวุธไงแล้วทำไมมีเสียงเด็กร้องละ”
หลิวหยุนที่ได้ยินเสียงเหมือนกันก็ตกใจมาก “ไม่ฉันมั่นใจว่าฉันจับด้ามจับของอะไรบางอย่างจริงๆ มันจะไปมีเสียงเด็กร้องได้ไงกัน หรือว่าอาวุธนั้นจะมีชีวิตเหรอ”
“เป็นไปไม่ได้หน่ะ มันไม่ใช่สัตว์อสูรซักหน่อย”โจวเหวินพูด
ในตอนนั้นเองที่ผู้วิเศษจิงเต้าเริ่มเคลื่อนไหว เขาถือกระจกหยินหยางในมือหนึ่งเพื่อป้องกันดาบหินกับชายแก่ ส่วนอีกมือล้วงเข้าไปในเตาหิน
ชายแก่กับดาบหินนั้นรู้ดีว่าช่วงเวลานี้คือเวลาวิกฤติ อักษรอาคมปรากฏขึ้นมาบนดาบหินทันที ก่อนที่จะแทงผ่านห้วงมิติตรงเข้าไปยังหัวใจของผู้วิเศษจิงเต้า
ชายแก่เองก็โจมตีเข้ามาด้วยพลังทั้งหมดที่มีเข้าหาผู้วิเศษจิงเต้าเหมือนกัน แถมพลังของกระจกหยินหยางนั้นควบคุมชายแก่ไม่ได้ด้วย
ผู้วิเศษจิงเต้าขมวดคิ้ว ตอนนี้เขาไม่สามารถไปเอาของในเตาได้จริงๆ เขาเลยใช้กระจกหยินหยางรับการโจมตีของดาบหิน ก่อนที่จะใช้แรงผลักของดาบหินนั้นหลบการโจมตีของชายแก่อีกที
พอเห็นว่าผู้วิเศษจิงเต้ากำลังจะหลบ ชายแก่จึงพุ่งเข้ามาที่เตาปรุงยาเพื่อเอาของที่อยู่ข้างใน
ดาบหินพอเห็นแบบนั้นก็จ่อหัวของชายแก่ทันที แล้วบังคับให้เขาถอยออกไป
แต่เป็นผู้วิเศษจิงเต้าที่พุ่งเข้ามาหาเตาแทน แต่เขาก็โดนชายแก่กับดาบหินขัดเอาไว้อีกครั้ง
ทั้ง3คนสู้กันไปกันมาจนทำให้โจวเหวินกับหลิวหยุนงงงวย แม้แต่สายตาของโจวเหวินก็ยังจับการเคลื่อนไหวของทุกคนไว้แทบจะไม่ได้เลย มันมีรายละเอียดหลายๆอย่างที่มันไม่ชัดเจนเอาซะเลย
ดาบหินนั้นใช้เพลงดาบที่แม่นยำมาก ทุกๆดาบนั้นชัดเจน ว่องไว ไม่มีคำว่าหลอก ทุกดาบที่ฟันนั้นทุกๆคนเห็นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะรับไม่ได้
ชายแก่เองก็มีพลังที่แปลกประหลาด เขาพริ้วไหวหลบไปหลบมาและใช้ร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ผู้วิเศษจิงเต้าเองก็ควบคุมพลังได้อย่างดีเยี่ยม พลังของเขาเองนั้นห่างไกลจากทั้งดาบหินและชายแก่มากจึงยากในการควบคุมกระแสการต่อสู้ระหว่างชายแก่กับดาบหินแต่ด้วยพลังของกระจกหยินหยาง ทำให้เขายืมพลังของดาบหินกับชายแก่มาแก้ขัดทางซึ่งกันละกันทำให้ตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ถึงเตาทองแดงได้เลย
ตู้ม!!!
ทั้ง3ฝ่ายซัดพลังเข้าใส่กัน แรงระเบิดมหาศาลทำให้ทั้ง3คนนั้นกระเด็นเข้าไปในพายุไฟ
“ตอนนี้ละ”โจวเหวินสั่งมารพยัคฆ์ให้เขาไปในเตาทองแดงอีกรอบ ก่อนที่เขาจะบินเข้าไปใกล้ๆปากเตา
มารพยัคฆ์นั้นพุ่งเข้าไปตามคำสั่งของโจวเหวินร่างของมันสัมผัสกับไฟแล้วหลอมละลายอย่างไว มันไม่สามารถทนความร้อนที่เหมือนอยู่บนดวงอาทิตย์ได้ มันไม่สามารถแตะอะไรได้เลยไม่งั้นมันจะละลายแน่ๆ
ผู้วิเศษจิงเต้ากับชายแก่รู้ดีว่าโจวเหวินไม่มีทางเอาของออกมาได้แน่ พวกเขาเลยเมินไปเลย
ในตอนนั้นเอง โจวเหวินรู้ดีเลยว่ามารพยัคฆ์นั้นทำหน้าที่ตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าต้องทรมาร และเขาอยากจะหยุดมันแค่ไหนแต่ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขาแล้ว ตอนที่เห็นมารรพยัคฆ์กำลังจะละลายนั้นเอง โจวเหวินที่พึ่งมาถึงที่ปากเตา ทันใดนั้นก็อัญเชิญต้นกล้วยเซียนออกมมาแล้วพัดสายลมเข้าใส่ปากเตาอย่างแรง
ตอนที่ 877
คำนวณผิดพลาด
สายลมแรกแห่งสามภพนั้นโหมกระหน่ำเข้าใส่เตาทองแดง เพียงแปปเดียว ไฟในเตาทองแดงที่เคยรุนแรงก็ได้สงบลงในทันที ทำให้ลมที่พัดเป็นพายุนั้นช้าลงและเงียบลงมาก และในจุดที่พายุไฟหายไปนั้น อะไรบางอย่างได้ปรากฏขึ้นมาในเตา โจวเหวินเห็นมันได้อย่างชัดเจนแล้วตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะให้มารพยัคฆ์พุ่งเข้าไปแล้วหยิบสิ่งนั้นออกมาก่อนจะพุ่งออกจากเตา
ที่มารพยัคฆ์คว้ามาได้นั้นคือพัดโหมไฟสีทองเหมือนดวงอาทิตย์ รูปร่างของพัดนั้น เหมือนๆกับพัดแบบเดียวกับต้นกล้วยเซียนเลย แต่มันเป็นคนละอันกัน เพราะพลังของพัดโหมไฟนั้นคือการพัดพายุไฟความแรงสูงต่างจากต้นกล้วยเซียนที่เป็นลมเยือกแข็ง
ทั้งผู้วิเศษจิงเต้าทั้งชายแก่และดาบหินต่างไม่คิดว่าโจวเหวินจะเอาของจากในเตาออกมาได้ หลังจากที่ตกใจกันแล้ว ทั้งดาบหินกับชายแก่ก็พุ่งตัวเข้าใส่มารพยัคฆ์ที่ถือพัดทันที โจวเหวินคิดก่อนจะเรียกมารพยัคฆ์ให้กลับมาหาเขา พัดโหมไฟก็ตกอยู่ตรงหน้าของเขา โจวเหวินถือพัดนั้น แล้วพบว่าความร้อนของพัดนั้นถูกส่งต่อเข้ามาในเกราะเกล็ดมังกรได้อย่างง่ายดาย
พอเห็นชายแก่กับดาบหินพุ่งเข้ามา โจวเหวินก็ใช้พัดโหมไฟนั้น ปลดปล่อยพายุไฟที่ทรงอานุภาพเข้าใส่ทันที
พายุไฟทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ใต้ดินแห่งนี้ ถูกควบคุมโดยพัดโหมไฟ แล้วรวมร่างจนกลายเป็นมังกรไฟขนาดยักฆ์ที่ซัดเข้าใส่ชายแก่และดาบหิน
ทั้งดาบหินและชายแก่ต่างก็ใช้ร่างความกลัวรับมังกรไฟตัวนั้น
ตู้มมม!!
พื้นที่ใต้ดินทั้งหมดสั่นสะท้าน ถึงแม้ว่ามังกรไฟจะฆ่าชายแก่กับดาบหินไม่ได้แต่แรงปะทะมันก็เพียงพอที่จะส่งพวกเขาให้กระเด็นไปพร้อมกับพายุไฟได้
ผู้วิเศษจิงเต้าเข้าหาโจวเหวินเงียบๆก่อนที่กระจกหยินหยางจะสว่างวาปขึ้นมา ปรากฏเป็นเงาวิญญาณของโจวเหวินอยู่ในนั้น เขาต้องการจะควบคุมร่างกายของโจวเหวิน
แต่ก่อนที่ผู้วิเศษจิงเต้าจะควบคุมร่างกายของโจวเหวินได้สำเร็จ โจวเหวินก็เขวี้ยงพัดโหมไฟในมือขึ้นไปบนอากาศ แล้วโยนพัดกล้วยเซียนตามขึ้นไป พัดกล้วยเซียนกลับร่างเดิมแล้วรับพัดโหมไฟเอาไว้กลางอากาศ
“ผู้วิเศษจิงเต้า ฉันรู้นะว่านายสามารถควบคุมวิญญาณของฉันได้ก็จริง แต่นายควบคุมสัตว์อสูรของฉันไม่ได้ เอาซิ ถึงฉันจะสู้นายไม่ได้แต่ฉันทำลายพัดนั้นทิ้งได้นะ”โจวเหวินพูด
ตอนแรกนั้นโจวเหวินคิดว่าจะใช้พัดโหมไฟนี้ในการต่อรองแต่สิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น
หลังจากที่ต้นกล้วยเซียนถือพัดโหมไฟมาได้ซักพัก พัดโหมไฟนั้นก็เปลี่ยนเป็นพายุไฟสีทองแล้วผสานเข้ากับใบกล้วยที่อยู่ด้านใต้ของต้นกล้วยเซียน ทำให้ใบกล้วยสีเขียวมรกต กลายเป็นสีทองเพลิง
ก่อนที่โจวเหวินจะรู้ตัว สายลมรุนแรงก็ระเบิดออกมาจากร่างของต้นกล้วยเซียนก่อนจะห่อหุ้มตัวของเธอเอาไว้แล้วทำให้ต้นกล้วยเซียนกลับร่างของโจวเหวินทันที
“มัน…พัฒนาร่าง ตอนนี้เหรอ…”โจวเหวินหน้าโง่ขึ้นมาทันที
ตอนแรกเขาคิดว่าจะใช้พลังของพัดโหมไฟในการต่อรองและสู้กับผู้วิเศษจิงเต้าชายแก่ และดาบหิน เพราะเดิมทีแล้วด้วยพายุไฟที่มีอยู่ทำให้พัดโหมไฟนั้นได้เปรียบมากๆ เหมือนกับเล่นเป็นทีมเหย้ายังไงอย่างงั้น
แต่ตอนนี้พัดโหมไฟโดนต้นกล้วยเซียนดูดซับไปแล้วตอนนี้มันก็กลับไปเป็นไข่กำลังพัฒนาร่างเอาออกมาใช้ไม่ได้ด้วย ทำการคำนวณและแผนการทุกอย่างของโจวเหวินนั้นสูญเปล่าทันที
โจวเหวินหน้าเสียนิดหน่อยตอนที่สายตาของผู้วิเศษจิงเต้าชายแก่และดาบหินมองเข้ามา
เขาไม่เคยคิดว่าต้นกล้วยเซียนจะเป็นปัญหาเลย เขาใช้ต้นกล้วยเซียนมาแก้ไขในยามวิกฤติแทบจะตลอด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ มันไม่ควรเอาซะเลย ถึงเขาจะรู้ว่าต้นกล้วยเซียนไม่ได้ตั้งใจแต่ก็อดกำหมัดแน่นไม่ได้อยู่ดี
ตอนที่พัดโหมไฟหายไปปนั้นเอง ดาบหินดูจะโกรธจัดๆเอามากๆ อักษรอาคมปรากฏขึ้นมาที่ตัวดาบก่อนจะพุ่งเข้าหาโจวเหวินทันที โจวเหวินไม่กล้ารับพลังระดับความกลัวจึงใช้แหวนอารยมิติวาปตัวเองไปอีกข้างแต่ตอนที่เขาออกมาจากวาปนั้นเอง มือของชายแก่ก็คว้าตรงมาที่คอของเขาแล้ว
อารยมิตินั้นแกร่งกว่ามิติสูญหายมากๆ แต่มันก็ยังวาปได้แค่10ครั้งอยู่ดี มันเป็นไม่ได้เลยที่จะรอดจากทั้งชายแก่และดาบหินในการวาปแค่10ครั้ง แถมยังมีผู้วิเศษจิงเต้าอยู่ข้างๆอีกด้วย ทำให้โอกาสของโจวเหวินนั้นน้อยนิดเข้าไปใหญ่
“เอาสัตว์อสูรนั้นมาให้ฉันซิ แล้วฉันจะช่วยชีวิตนายเอง”ผู้วิเศษจิงเต้าพูดพร้อมรอยยิ้ม
โจวเหวินไม่เชื่อผู้วิเศษจิงเต้าเลยซักนิด ตอนที่ชายแก่กับดาบหินพุ่งตรงเข้ามาอีกรอบ เขาก็ตัดสินใจใช้ไผ่ตายหนีของอารยมิติ ใช้การวาประยะไกลทันที
วงแหวนเรืองแสงโจวเหวินอุ้มหยาเอ๋อแล้ววาปออกไปจากที่นี้ทันที
ตู้ม!!
ตำแหน่งที่อารยะมิติจะใช้ในการวาปนั้นจำเป็นจะต้องระบุอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน อารยะมิติก็จะสามารถวาปไปตรงนั้นได้
แต่เพราะว่าตอนนั้นมีเวลาให้โจวเหวินคิดน้อยมากเขาเลยตั้งเป้าไว้ที่บริเวณนอกภูเขาหลงหู
ตอนแรกเขาคิดแค่ว่าขอแค่หลุดออกมาจากสุสานได้ก็พอ แล้วหลังจากนั้นเขาค่อยไปหาทางเอาวิญญาณของตัวเองคืนมาจากกระจกหยินหยางก็ได้ แต่ใครมันจะไปคิดละว่าทันทีที่วาปออกไปนั้น โจวเหวินกลับวาปไปติดอยู่ที่หน้าประตูของสุสานซะอย่างงั้น
“บ้าเอ้ย ขนาดวาปแล้วยังไม่ทะลุอีกเหรอ”โจวเหวินไม่มีเวลลาจะมาบ่นแล้ว ถ้าเขาไม่รีบออกไปตอนนี้ยังไงผู้วิเศษจิงเต้าก็ต้องตามมาเจอตัวเขาแน่ๆ
โจวเหวินสวมผ้าคลุมล่องหนทันทีแล้วเปลี่ยนไปใช้วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังลำแสงที่ชายแก่นั้นโผล่มาในตอนแรก
โจวเหวินวิ่งต่อไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีพลังอะไรบางอย่างกำลังเรียกเขาอยู่ เหมือนกับว่าจะบังคับให้โจวเหวินเดินกลับไปที่ปราสาท แต่โจวเหวินก็ใช้วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ๊ในการควบคุมมร่างของตัวเอง แล้วเดินหน้าต่อไปโดยไม่ฟังคำสั่งของกระจกหยินหยาง
ลำแสงที่ชายแก่นั้นมาหายไปแล้วแต่โจวเหวินก็ยังตรงไปที่จุดนั้นอยู่ดี ตรงจุดนั้นบ้านหินขนาดไม่ใหญ่มาก หน้าตาดูธรรมดา ไม่มีเตียง ไม่มีเก้าอี้ มีแต่โต๊ะหิน แล้วก็ชั้นวางตำราไม้ไผ่มากมาย
โจวเหวินเข้าไปในบ้านนั้นแล้วพบว่า ภายในห้องนั้น เป็นห้องเล่นแร่แปรธาตุ มันมีของใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุทุกอย่างเช่นเตาปรุงยา ขวดยา และอื่นๆอีกมากมาย
โจวเหวินคว้าทุกอย่างลงลูกแก้วห้วงมิติ เผื่อไว้ว่าจะได้ใช้ รวมไปถึงตำราทั้งหมดด้วย เพราะยังไงเขาก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าอนาคตมันอาจจะจำเป็นก็ได้
ทันทีที่เก็บเสร็จ เขาก็ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากปราสาท มันเป็นเสียงของดาบหินที่พุ่งขึ้นมาทะลุหลังคาอย่างบ้าคลั่ง ดาบหินนั้นไม่เจอตัวโจวเหวินและพยายามหาตัวโจวเหวินให้ควัก มันรู้ดีว่ายังไงโจวเหวินก็ออกไปจากที่นี้ไม่ได้
ตอนที่ 878
เงื่อนไขของผู้วิเศษจิงเต้า
หลังจากนั้นไม่นานชายแก่ก็พุ่งตามมา แต่หลังจากที่เขาออกมาแล้ว เขาก็พุ่งตรงมาที่ห้องของตัวเองทันที แต่เขาก็พบว่าในบ้านหินของเขานั้นมันเละเทะไปแล้ว ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย แม้แต่อุปกรณ์อย่างเตาปรุงยาเองก็หายไปด้วย ทำให้เขาแทบกระอักเลือด
“ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายให้ได้ ถ้าเลือดเจ้ายังไม่มาล้างเท้าข้า ความแค้นของข้าก็จะยังไม่จบสิ้น”ชายแก่ตะโกนขึ้นฟ้าแล้วออกมาตามหาโจวเหวินอย่างบ้าคลั่ง
ผู้วิเศษจิงเต้ากับหลิวหยุนเองก็ออกกันตามมา พวกเขามองหาล่องรอยของโจวเหวิน แต่โจวเหวินเหมือนกับว่าหายวับไปยังไงอย่างงั้น ไม่มีร่องรอยอะไรเหลือเลย
“หรือว่าโจวเหวินหนีไปได้แล้วกันนะ”หลิวหยุนถาม
“เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีดาบจักรพรรดิฉิน เขาก็ไม่มีทางออกไปได้แน่ เขาต้องยังอยู่ที่นี้แน่นอน”ผู้วิเศษจิงเต้าถือดาบจักรพรรดิฉินในมือ
ดาบหินกับชายแก่เองก็รู้ดีว่าโจวเหวินยังไม่ได้ออกไปไหน พวกเขาจึงออกตามหาไปทั่วเมืองโบราณ สาบานกับตัวเองว่าจะต้องตามหาโจวเหวินให้ได้
ตอนที่ชายแก่ตรงเข้ามาที่บ้านของเขา เขาก็ได้ใช้ความสามารถในการลบตัวตนสมบูรณ์3นาทีของผู้คลุมล่องหนจากนั้นก็เดินสวนกลับไปที่ปราสาทก่อนจะลงไปยังบ่อน้ำเดาแล้วกลับไปที่ยอดเขาในพื้นที่ใต้ดินนั้น
ในตอนนี้สายลมรุนแรงมันได้หยุดนิ่งลงแล้ว ไฟในเตาก็ดับไปแล้วดัวย
“ดูเหมือนว่าไฟในเตานั้นจะเกิดมาจากพัดโหมไฟนั้นซินะ เพราะงั้นตอนนี้เตานี้จึงไม่มีไฟอยู่”โจวเหวินมองไปที่เตาทองแดงแล้วลองดูว่าเขาจะเอาอะไรออกไปได้อีก แต่โจวเหวินก็ใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ดวงตาของเขาจ้องมองเข้าไปภายในเตาทองแดงนั้น
เขาเห็นผู้วิเศษจิงเต้า ที่จู่ๆก็อยู่ในเตานั้นตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มองเขาอยู่แล้วยิ้ม
“ไม่ใช่ว่านายออกไปแล้วเหรอ”โจวเหวินพูดแล้วมองผู้วิเศษจิงเต้า
“นั้นมันเป็นแค่ตัวปลอมหน่ะ ในเมื่อนายยังออกไปจากสุสานไม่ได้ นายเองก็คงทำได้แค่หลบซ่อนนั้นละ แล้วที่หลบซ่อนที่ดีที่สุดก็คือที่ๆอันตรายที่สุด นั้นก็คือที่เดิมยังไงละ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด
“นายใช้กระจกหยินหยางตรวจจับตำแหน่งของวิญญาณฉันได้งั้นเหรอ”โจวเหวินพูด
“ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรแบบนั้นหรอก แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเจ้านักเล่นแร่กับดาบเวทมนตร์นั้นจะฆ่านายให้ได้ เพราะงั้น คนที่จะสามารถช่วยนายออกไปจากที่นี้ได้ มีแค่คนเดียวเท่านั้น ก็คือฉันคนนี้”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด
“แล้วเงื่อนไขละ”โจวเหวินรู้ดี
“สัตว์อสูรนั้น”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด
“ไม่มีทาง”โจวเหวินรู้ดีว่าถึงเขาจะโอนต้นกล้วยเซียนให้กับผู้วิเศษจิงเต้า เขาก็อาจจะไม่รอดอยู่ดี เพราะงั้นเขาเลยไม่คิดจะทำแบบนั้น
“ฉันไม่ได้บอกให้นายโอนสัตว์อสูรมาให้ฉันแต่ฉันจะให้นายรับปากฉันว่าจะใช้สัตว์อสูรนั้นช่วยอะไรฉันบางอย่างทีหลัง”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด
“ทำอะไร”โจวเหวินถาม
“ตามปรกติแล้วในหลักการเล่นแร่แปรธาตุ มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่ายาเทพอมตะหรือยาอมฤทธิ์อะไรนั้นอยู่แล้วละ แต่มันก็ยังมียาบางตัวที่ช่วยให้ฉันรอดชีวิตได้ การทำยานั้นไม่เพียงแต่จะต้องการวัตถุดิบพิเศษ แต่มันยังต้องการเตาปรุงยากับไฟพิเศษด้วย ในเมื่อพัดโหมไฟโดนสัตว์อสูรของนายดูดซับไปแล้วเพราะงั้นสัตว์อสูรของนายตอนนี้ก็น่าจะมีพลังแบบเดียวกับพัดโหมไฟซินะ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูดแล้วอัญเชิญสัตว์อสูรถุงกระสอบออกมาก่อนจะเอามันมาคลุมเตาทองแดงขนาดใหญ่ ก่อนที่เตานั้นจะโดนสูบเข้าไปในกระสอบแล้วหิ้วได้
โจวเหวินลังเล แต่ผู้วิเศษจิงเต้าก็พูดขึ้นมา “ไม่มีเวลาเหลือแล้วนะ ดาบหินน่ะมันหลอกง่ายก็จริง แต่อีกคนนึงมันไม่ได้โง่เลยนะ เราต้องตัดสินใจให้ไว ถ้ามันกลับที่นี้แล้วเจอนายเข้าละก็ นายจะไม่มีโอกาสที่2ละนะ”
“โอเค ได้ ฉันตกลง แต่นอกเหนือจะช่วยฉันออกไปจากที่นี้แล้ว นายต้องคืนวิญญาณให้กับฉันกับหลิวหยุนด้วยนะ”โจวเหวินพูด
ผู้วิเศษจิงเต้าไม่พูดอะไร เขาโยนดาบจักรพรรดิฉินในมือตรงมาให้โจวเหวินก่อนที่จะพลิกกระจกหยินหยางทำให้ภาพของโจวเหวินในกระจกหายไป โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าวิญญาณของเขากลับเข้าร่างทำให้เขารู้สึกโล่งใจอย่างบอกกไม่ถูก
“ถ้ามีดาบจักรพรรดิฉินนั้น นายก็จะออกไปจากสุสานได้แล้วละ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด
“แล้วนายละ”โจวเหวินพูด
“เดี๋ยวฉันหนีออกไปเองแหล่ะ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด “เขามาแล้ว เราไม่มีเวลาแล้ว”
“โจวเหวินเองก้รู้สึกได้ว่าอันตรายถึงชีวิตกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาเลยรีบถาม “แล้วจะเริ่มทำยาเมื่อไรละ”
“ถึงตอนนั้นนายจะรู้เอง”ผู้วิเศษจิงเต้ายิ้ม “นายพัฒนาไปได้เร็วกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะมากเลยจะบอกว่าวิชาเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันให้นายไป มันไปได้ไกลกว่าที่ฉันคิดมากๆฉันจะคอยจับตาดูจนกระทั้งถึงตอนนั้น เพราะงั้นนายห้ามตายเด็ดขาด”
กระจกหยินหยางในมือของผู้วิเศษจิงเต้าพลิกหมุนไป ก่อนจะยิงลำแสงเข้าใส่ชายแก่ ที่กำลังพุ่งเข้าใส่โจวเหวิน “ไปซะ ไว้เจอกันใหม่ รอบหน้าที่เราเจอกันให้ฉันได้ประหลาดใจมากกว่านี้อีกนะ”
โจวเหวินมองผู้วิเศษจิงเต้าก่อนจะใช้วาปออกจากพื้นที่ใต้ดินในขณะที่ชายแก่ที่โกรธจัดนั้นกำลังโดนขัดขวางโดยผู้วิเศษจิงเต้า ทำให้ตามมาไม่ได้
โจวเหวินพุ่งออกมาจากประสาทอย่างเงียบๆก่อนจะตรงไปที่ประตูของสุสาน ทันทีที่เขาออกมาจากปราสาทได้ เขาก็เห็นดาบหินพุ่งกลับเข้าไปที่พื้นที่ใต้ดินอีกรอบ เหมือนกับว่ามันพึ่งรู้สึกได้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ตอนที่โจเวหวินพุ่งออกมาที่ประตูสุสาน เขาก็พบหลิวหยุนที่ยืนอยู่หน้าประตู
พอหลิวหยุนเห็นโจวเหวินลางๆเขาก็ยิ้มแล้วพูด “รู้อยู่แล้วเชียวว่านายต้องมาทางนี้แน่ๆ”
โจวเหวินตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาคุยอะไรทั้งนั้น เขาเสียบดาบจักรพรรดิฉินเข้าไปในรูก่อนที่ประตูสุสานจะเปิดออก พวกเขาออกมาจากสุสานทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย หลังจากข้ามทะเลปรอทมาได้แล้ว โจวเหวินก็ใช้อสูรปฐพีมุดดินพาหลิวหยุนออกไปจากสุสานปฐมกษัตริย์ทันที
“เห้อ—– ในที่สุดก็รอดออกมาจนได้”หลิวหยุนถอนหายใจยกใหญ่ ตอนที่เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยผืนดาวข้างนอก
“ไปก่อนละ หวังว่าจะไม่เจอนายอีกนะในอนาคต”โจวเหวินขี่อสูรปฐพีเตรียมจะมุดดินจากไป
“เออ แล้วผู้วิเศษจิงเต้าละ จะออกมาได้ไหม”หลิวหยุนพูด
“นั้นมันผู้วิเศษจิงเต้าเลยนะ”โจวเหวินพูด
หลิวหยุนไม่พูดอะไรต่อ เขาหยิบอะไรบางอย่างออกมาก่อนจะโยนให้โจวเหวิน” ไอ้นี้ฉันได้มาจากเตาทองแดง มันมี2อัน ฉันให้นายอันนึงตามที่สัญญากันไว้”
“ไปหยิบมาตอนไหนวะเนี่ย”โจวเหวินรับมาแล้วพูด
โจวเหวินมอง มันคือลูกบอลทองแดงที่ดูเหมือนวัสดุเดียวกับที่ทำเตาทองแดง ขนาดของมันเท่ากับลูกบิลเลียดแต่มีลวดลายประหลาดสลักไว้บนผิวด้วย
“ขโมยที่แท้จริง ไม่เคยกลับไปมือเปล่าอยู่แล้ว ฉันไม่เคยไปที่ไหนแบบสูญเปล่าเลยซักครั้งเลยนะ ถึงฉันจะเอาพัดออกมาไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะคว้าอย่างอื่นมาไม่ได้สักหน่อย”หลิวหยุนโบกมือแล้วเดินจากไป
“หลิวหยุนมันเอาของพวกนี้ออกมาตอนไหนกัน…. แม้แต่ผู้วิเศษจิงเต้ายังจับไม่ได้เนี่ยนะ ลูกบอลนี้เป็นของจากในเตาจริงๆเหรอ แล้วเอามาทำอะไรได้ละ”โจวเหวินมองมันซักพัก เขาไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้ เขาเลยเก็บมันไว้ก่อน
ตอนที่ 879
จัดอันดับอีกครั้ง
โจวเหวินขี่อสูรปฐพีกลับมาแล้วออกจากสุสานมาพร้อมกับหยาเอ๋อ
ระหว่างทางนั้น โจวเหวินลองถ่ายรูปของดาบจักรพรรดิฉินเข้าไปในโทรศัพท์ ลองดูว่าจะเอาเข้าไปในเกมส์ได้ไหม ไม่งั้น เกมส์สุสานปฐมกษัตร์ยมีไปก็ไร้ความหมาย
หลังจากที่โทรศัพท์เข้าโหมดกล้องแล้ว ดาบจักรพรรดิฉินก็โดนถ่ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นดาบจักรพรรดิฉินก็หายวับไปในอากาศ กลับกลายเป็นดาบจักรพรรดิฉินในเกมส์แทน
เพียวแต่ว่าดาบจักรพรรดิฉินในเกมส์นั้นถูกเรียกว่ากุญแจสุสานแทน
หลังจากที่โจวเหวินเสียงกุญแจนั้นเข้าประตูสุสานไปแล้ว กุญแจนั้นก็หายไปอัตโนมัติแล้วประตูก็เปิดออกแล้วไม่ปิดกลับมาอีกเลย ไม่ว่าโจวเหวินจะรีเกมส์แค่ไหน เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจเปิดอีกแล้ว
โจวเหวินลองสำรวจเข้าไปข้างในสุสานดู เพราะสัตว์ประหลาดในบ่อปรอทนั้นมันฆ่ายากเกินไป การโจมตีปรกติใช้กับมันไม่ได้เลย ร่างกายของมันเหลวเหมือนกับน้ำ ถึงจะฟันตัวมันขาดได้แต่มันก็จะรวมตัวกลับมาใหม่เหมือนเดิม
ตราบใดที่มันยังอยู่ในทะเลปรอทแบบนั้น มันก็มีพลังไร้ขีดจำกัด โจวเหวินเลยยังหาจัดการกับมันไม่ได้
โจวเหวินฆ่าทหารทองแดงกับรูปปั้นทองคำในเมืองจนหมดแล้ว แต่รอบนี้โจวเหวินไม่ได้ใช้พลังของมารพยัคฆ์ แต่เขาอัญเชิญสัตว์อสูรอย่างมังกรเทียนเบม่อนหรือตัวอื่นๆออกมารุมจัดการภายในชุดเดียวทำให้ง่ายกว่ากันมาก
ตอนที่ฆ่ารูปปั้นทองคำตัวที่7ได้ ผลึกสกิลก็ดรอปออกมมาอีกครั้งแต่ผลึกนั้นเป็นสกิลแบบเดียวกับที่โจวเหวินได้มาเลย นอกจากนั้น รูปปั้นทองคำก็ไม่ได้ดรอปอะไรออกมาอีก
ผลึกสกิลนั้นต้องการค่าลมปราณกับค่าร่างกาย 41 ค่าร่างกายของโจวเหวินยังไม่ถึงทำให้เขาทำได้แค่ปล่อยมันไป
โจวเหวินเดินวนไปรอบๆมืองโบราณ เขาเดินเข้าไปในบ้านหินของชายแก่ แล้วพบว่าในนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย เห็นได้ชัดว่าชายแก่คนนั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตต่างมิติแต่เป็นมนุษย์จริงๆ
“งั้นก็คงจริงซินะที่ผู้วิเศษจิงเต้าว่าไว้ ว่าชายแก่คนนั้นคือนักเล่นแร่แปรธาตุชาวมนุษย์ที่มีอายุมาตั้งแต่สมัยยุคปฐมกษัตริย์จริง แล้วเขามีชีวิตรอดมาถึงยุคนี้ได้ยังไงกันเนี่ย แล้วเขาไปทำสัญญากับผู้พิทักษ์ได้ยังไง”โจวเหวินตอนนี้เริ่มกังวลเล็กน้อย ว่าถ้าชายแก่คนนั้นมันหลุดออกมาจากสุสานขึ้นมาจริงๆละก็ ความชิบหายจะมาเยือนเขาแน่ๆ
“หวังว่าต้นกล้วยเซียนจะกลายเป็นระดับความกลัวเร็วๆนะ ถ้าไม่มีพลังระดับความกลัวละก็ ฉันไม่มีทางสู้กับมันได้เลย”โจวเหวินมองรอยสักของต้นกล้วยเซียนบนตัวของเขา
ประตูของปราสาทนั้นสามารถเปิดได้ด้วยการเปิดประตูแรงๆ แต่ดาบหินที่อยู่ข้างในนั้นแกร่งมากๆ แกร่งขนาดที่ว่าเบม่อนยังสู้ไม่ได้ สุดยอดพลังเองก็มีผลน้อยมากต่อหน้าพลังของดาบหิน
“จักรพรรดินีไม่ได้โกหกจริงๆด้วย พลังระดับความกลัวนั้น มีแค่ระดับความกลัวด้วยกันเท่านั้นถึงจะสู้ได้ มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพลังอีกแล้วละ”โจวเหวินตอนนี้ยังไงก็ยังสู้ดาบหินไม่ได้ เขาเลยทำได้แค่รอผ้าคลุมล่องหนรีคูลดาวน์ความสามารถของตัวเองกลับมาอีกครั้ง แล้วค่อยลองดูว่ามันจะใช้ได้มากน้อยแค่ไหน
โจวเหวินรอจนกระทั้งกรงล้อแห่งโชคชะตาของผ้าคลุมล่องหนรีกลับมา ก่อนที่โจวเหวินจะใช้มันเข้าปราสาทไปโดยที่ดาบหินไม่โจมตี
หลังจากที่ผ่านโถงที่เต็มไปด้วยตำรามาได้แล้ว โจวเหวินก็พบว่า มันต่างออกไปจากความเป็นจริงอยู่ ตรงจุดที่มีมันควรจะมีบ่อน้ำดำ มันกลับมีเป็นภาชนะทองแดงตั้งอยู่ ภาชนะที่ว่านั้นสูงมากกว่า2เมตร เหมือนไหใบขนาดใหญ่ที่อยู่แทนที่บ่อน้ำดำ ไม่รู้ว่าข้างใต้นั้นยังมีบ่อน้ำดำอยู่อีกไหม
ตรงปากของไหนั้น มีเหมือนหัวของตัวอะไรบางอย่างสีแดงปรากฏออกมาเหมือนกับดอกไม้ที่ปลูกในกระถาง
โจวเหวินมองหัวนั้นไปได้ซักพักก่อนที่หัวนั้นจะลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วมองตัวละครของโจวเหวิน จากนั้นตัวละครของโจวเหวินก็ตายในทันที
“ถ้าเป็นในความเป็นจริง ไหนั้นคงจะแตกตอนที่ผู้วิเศษจิงเต้าบุกเข้าไปซินะ แต่ว่าเขาทำได้ยังไงเนี่ยซิ”โจวเหวินไม่ได้มีกระจกหยินหยางด้วย ทำให้เขาไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง
โจวเหวินลองดูหลายรอบแล้ว แต่เขาก็ตายเพราะตัวในไหตลอด เขารู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตในไหนั้นเป็นระดับความกลัว เขาเลยล้มเลิกแผนของตัวเองก่อน แล้วไปฟาร์มทหารทองแดงกับรูปปั้นทองคำข้างนอกแทน
มังกรดำ9ตัวในทะเลใต้ดินก็รีกลับขึ้นมาทุกๆ9วัน รูปปั้นทองคำในสุสานนี้ก็รีกลับขึ้นมาทุก12วัน กฎมันตายตัวมากๆ มันเป็นมาตรฐานของสิ่งมีชีวิตระดับเร้นลับที่จะรีกลับขึ้นมาทุกๆ1วัน ยิ่งจำนวนมันเยอะมากเท่าไร มันก็ยิ่งรีช้าเท่านั้น
“แมลงกลืนดาว ดาบหิน แล้วก็ไอ้ตัวที่อยู่ในไห ถ้าฉันอยากจะฆ่าไอ้พวกนี้จริงละก็ คงต้องรอให้ต้นกล้วยเซียนพัฒนาร่างให้เสร็จก่อนซินะ แต่ไม่รู้ด้วยซิว่าระดับความกลัวของต้นกล้วยเซียนจะเป็นแบบไหน”โจวเหวินจินตนาการไม่ออก
ร่างความกลัวนั้นปรกติแล้วจะคงรูปร่างเด่นๆเดิมเอาไว้แต่จะเปลี่ยนไปไม่ให้เหมือนเดิม
วันนี้โจวเหวินพาหยาเอ๋อมาที่เมืองที่พวกเขาไม่รู้จัก ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะหาอะไรอร่อยๆให้หยาเอ๋อกินแล้วก็ซื้อเสื้อผ้าซักหน่อย แต่แล้วตอนที่เขาเดินไปตามถนนนั้นเอง เขาก็พบเขากับ ลูกบาศก์สีดำที่ลอยขึ้นมากลางถนนส่องสว่างขั้นมา
การประลองจัดอันดับกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่รอบนี้โจวเหวินไม่ได้เห็นหวังหมิงหยวนปรากฏตัวขึ้นมาบนหน้าจอลูกบาศแล้วรอบนี้ผู้ที่คอยรักษาต้นไม้เทพนั้น คือสัตว์ประหลาดที่รูปร่างหน้าตาเหมือนงู
“อาจารย์ไปไหนกันนะ หรือว่าอาจจะเป็นเพราะที่ฉันเอาผลไม้เทพไปคราวที่แล้วกัน”โจวเหวินรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย
หลังจากที่คิดมาได้ซักพัก ทันใดนั้นแสงสว่างบนหน้าจอก็ปรากฏเป็นภาพของสิ่งมีชีวิตออกมา
“นั้นมัน”โจวเหวินมองดูลูกบาศก์นั้นเพื่อดูรูปร่างหน้าตาสิ่งมีชิวิตตัวนั้น
ถ้ามันเป็นมังกรหรือนกฟีนิกส์โจวเหวินก็คงไม่แปลกใจเท่าไร แต่บนรายชื่อนั้นเป็นมนุษย์จริงๆเลย
ไม่ซิ ถ้าจะให้พูดให้ถูก ถือมนุษย์ที่ทำสัญญากับผู้พิทักษ์แล้วสวมชุดเกราะผู้พิทักษ์เข้าไปอยู่บนหน้าจอนั้น รายชื่อของเขานั้นอยู่บนสุดของตาราง
“มารสวรรค์งั้นเหรอ”โจวเหวินพูดออกมาแล้วมองมนุษย์คนนั้นอีกครั้ง
น่าเสียดายที่ร่างของคนๆนั้นห่อหุ้มไปด้วยชุดเกราะสีดำทำให้ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาเป็นไงกันแน่
“ไม่ยักรู้มาก่อนเลยแหะว่ามนุษย์เข้าร่วมการประลองจัดอันดับได้ด้วย”โจวเหวินอยากจะรู้อีกด้วยว่าทำไมรอบนี้หวังหมิงหยวนไม่ได้อยู่ที่ต้นไม้เทพแล้ว
เพราะถ้าเกิดเอาคนเข้าไปในนั้น มันจะไม่ได้มีแค่สัตว์อสูรตัวเดียวที่สู้ได้ คนๆเดียวอาจจะเรียกสัตว์อสูรมาเป็นกองทัพก็ยังได้ ถ้าเป็นแบบนั้น แม้แต่เทพดาบโบราณก็คงอาจจะไม่ใช่ที่1อีกต่อไป
“อาจารย์ เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย”โจวเหวินมองมารสวรรค์บนหน้าจอ แต่ใจของเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น เขาจำได้ว่าตอนที่เขาไปที่ต้นไม้เทพครั้งล่าสุดนั้น หวังหมิงหยวนเป็นคนเตือนเขาด้วยตัวเอง ว่าเขาไม่ควรจะไปที่นี้อีก
ตอนที่ 880
โอนเสือโชคดี
ความต่างระหว่างการประลองรุ่นเเรกกับการประลองรุ่นนี้ คือการประลองนั้นจะจัดในเวลาที่สั้นลงมาก เพียงเเค่1ชั่วโมงเท่านั้น รายชื่อสัตว์อสูรก็เต็มหมดเรียบร้อยเเล้ว สัตว์อสูรหลายๆตัวเป็นตัวเดิมกับที่เคยเจอในการประลองครั้งที่ผ่านมาเเต่ถึงอย่างนั้นสัตว์อสูรที่เป็นดาวเด่นในรอบที่เเล้วอย่างเทพเเห่งความตายกับเทพดาบโบราณนั้นไม่ได้มาด้วย เเน่นอนว่าเบม่อนของโจวเหวินก็ด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ไม่ว่าสัตว์อสูรจะเเกร่งเเค่ไหน ก็ไม่มีทางสู้มารสวรรค์ได้อยู่ดี
ซึ่งก็เป็นไปตามที่โจวเหวินคิดไว้ มารสวรรค์นั้นไม่ใช่แค่ผู้พิทักษ์อย่างเดียว แต่รวมไปถึงคนที่รวมร่างไปด้วย คนที่ว่านั้นมีสัตว์อสูรอยู่ในการควบคุมอีกมากมาย ซึ่งความสามารถในการต่อสู้ของมันนั้นห่างจากสัตว์อสูรตัวเดียวมากๆ
นอกจากว่าจะมีคนที่ทำสัญญาผู้พิทักษ์ปรากฏตัวขึ้นมาอีกในรายชื่อ มันก็ไม่มีทางที่สัตว์อสูรปรกติจะล้มมารสวรรค์ได้ในแง่ของการต่อสู้ซึ่งๆหน้า
ตอนนี้ทั่วทั้งรัฐบาลกลางต่างพูดคุยกันเรื่องที่ว่ามารสวรรค์คนนั้นคือใครกัน คนส่วนมากนั้นไม่ได้รู้ถึงการมีอยู่ของผู้พิทักษ์แต่คนธรรมดาที่ไหนมองก็รู้ได้เลยว่ามารสวรรค์นั้นไม่ใช่สัตว์อสูรแน่ๆ
โจวเหวินเองก็ยังไม่กล้าอยู่ฝังตัวที่ๆเดียวนานๆ เขาจึงพักแค่คืนเดียวแล้วออกเดินทางต่อ
“นี้ก็วันที่4แล้วนะ ถึงตาแก่นั้นจะออกมาได้ เขาก็คงไม่มีทางหาฉันเจอหรอกมั่ง”โจวเหวินเดินทางไปเรื่อยๆตามถนนแล้วคิดไปคิดมาจู่ๆเขาก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ “ทำไมฉันถึงไปกังวลเรื่องตาแก่นั้นวะ ฉันต้องกังวลเรื่องผู้วิเศษจิงเต้านั้นมากกว่าซิ หมอนั้นอันตรายกว่าตั้งเยอะ” ตอนนี้โจวเหวินเข้าใจแล้วว่าทำไมปรมาจารย์เหล้าไวน์กับเสี่ยจิวหวงถึงได้เชื่อผู้วิเศษจิงเต้าสุดใจอะไรขนาดนั้น ทั้งๆที่มีชื่อของจอมมารแปะอยู่แบบนั้น
ชายคนนั้นมีความสามารถในการพูดและแสดงที่สุดยอดในตัวคนเดียว เขาอาจจะฆ่าคน อาจจะทำลายคนๆนึงได้ง่ายๆ แต่ในทางกลับกัน เขาก็สามารถพูดทำให้คนๆนึงคิดว่าเขาเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวได้ทั้งๆที่เขาเป็นจอมมารไปด้วยกัน
โจวเหวินเตือนตัวเองในใจ เขารู้ดีว่าผู้วิเศษจิงเต้าอันตรายแค่ไหน เขาจึงไม่ประมาท เพราะผู้วิเศษจิงเต้านั้นอันตรายยิ่งซะว่าชายแก่คนนั้นซะอีก
“ติ้ง”
ตอนที่โจวเหวินกำลังคิดอยู่นั้นเอง เสียงสวรรค์จากในเกมส์ก็ดังขึ้นมา โจวเหวินก้มลงไปมองดูแล้วก็ดีใจมากๆ เสือโชคดีในเกมส์ดรอปออกมาอีกครั้ง
“ในที่สุด เสือโชคดี”โจวเหวินดูค่าความสามารถ มันไม่ได้ต่างอะไรจากเสือโชคดีตัวที่ผ่านมาเท่าไร
ถ้าเอาเสือโชคดี2ตัวมาผสมกันจะได้อะไรนะ”เพราะว่าค่าดวงของเสือโชคดีนั้นมันซ้อนทับกัน ทำให้ทางเดียวที่จะทำให้มีประโยชน์ได้คือการรวมร่างเท่านั้น แต่บทเรียนที่โจวเหวินได้จากสิงโตเกราะเวทเมื่อครั้งนั้น ทำให้โจวเหวินไม่กล้าที่จะผสมมั่วๆสุ่มสี่สุ่มห้า เขาใช้เสือโชคดีลองกดรวมร่างกับสัตว์อสูรหลายๆตัวดูลองดูว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง
มีสัตว์อสูรหลายตัวที่เข้ากันได้กับเสือโชคดี แต่โจวเหวินก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเอาไปผสมกับตัวอะไรดี
“เก็บไว้ก่อนละกัน”โจวเหวินตัดสินใจว่าจะเก็บเสือโชคดีไว้ก่อนเพรายังไงเสือโชคดีก็เป็นอะไรที่หายากมากๆ
โชคดีที่โจวเหวินนั้นเรียนรู้วิธีการโอนสัตว์อสูรมาจากหลิวหยุนแล้ว ก่อนที่เขาจะคิด “ถ้าฉันใช้เสือโชคดีไม่ได้ คงต้องลองโอนมันดูซินะ แต่จะโอนให้ใครดีละ”
โจวเหวินตอนนี้มีเพียงแค่หยาเอ๋อข้างกาย แต่หยาเอ๋อนั้นไม่ได้นับเป็นคนปรกติทำให้ยากที่จะบอกได้ว่าเธอจะสามารถมีสัตว์อสูรแบบเดียวกับที่คนปรกติทั่วไปมีจะได้ไหม
“หยาเอ๋อ เธอใช้สัตว์อสูรได้ไหม”โจวเหวินคิดก่อนจะถาม
หยาเอ๋อมองอย่างว่างเปล่า แสดงว่าเธอไม่รู้เรื่อง
“โอเคงั้นเดี๋ยวลองดูก่อนละกัน”โจวเหวินตัดสินใจไปที่เมืองใกล้ๆแล้วซื้อสัตว์อสูรระดับตัวอ่อนมาแล้วลองให้หยาเอ๋อฟัก
ถ้าเกิดเธอฟักไข่สัตว์อสูรได้ โจวเหวินก็จะมองสัตว์อสูรให้เธอได้เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองมากขึ้น แถมบางทีเธออาจจะควบคุมสัตว์อสูรพวกนั้นมาช่วยเขาได้ก็ได้
หลังจากมาถึงเมืองแล้วโจวเหวินก็เข้าไปในร้านขายไข่สัตว์อสูร ซื้อไข่สัตว์อสูรของระดับตัวอ่อนที่กระจอกที่สุดในร้านมาแต่ราคาของมันก็ยังแพงกว่าระดับตำนานปรกติมากๆอยู่ดี
เหตุผลที่เลือกที่กระจกที่สุดมานั้นเป็นเพราะโจวเหวินกลัวว่าพลังงานลมปราณที่หยาเอ๋อมีนั้นอาจจะไม่พอได้ ถ้าร่างกายของหยาเอ๋อรับไม่ไหวขึ้นมาละก็ชิบหายแน่นอน
ถึงแม้ว่าเธอจะมีพลังของกีฏเทพแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพลังงานลมปราณของเธอจะมีมากไปด้วย ยิ่งร่างกายของเธอเป็นแค่เด็กทารกแบบนี้ด้วย
“ลองดูซิ ลองฉีดลมปราณของตัวเองเข้าไปในไข่นี้”โจวเหวินส่งไข่ให้กับหยาเอ๋อ
“รู้จักใช่ไหมว่าลมปราณคืออะไรหน่ะ”โจวเหวินคิดซักพักก่อนจะถามหยาเอ๋อ เพราะว่าก่อนหน้านี้หยาเอ๋อเป็นกุมารี ทำให้เขาไม่รู้ว่ากุมารีนั้นจำเป็นต้องฝึกวิชาลมปราณไหม
หยาเอ๋อพยักหน้าก่อนจะรับไข่สัตว์อสูรไป ทันทีที่ไข่สัตว์อสูรอยู่ในมือของเธอ มันก็ถูกฟักแล้วเปลี่ยนเป็นไอแล้วซึมเข้ามาในร่างกายของหยาเอ๋อ
“ใช้สัตว์อสูรได้จริงๆด้วยแหะ”โจวเหวินคิดซักพักก่อนจะลองเริ่มโอนเสือโชคดีไปให้กับหยาเอ๋อเพื่อจะทำให้หยาเอ๋อนั้นโชคดีขึ้น
เสือโชคดีนั้นถูกโอนไปให้หยาเอ๋อเสร็จสมบูรณ์โดยที่โจวเหวินต้องแลกไปนั้นก็แค่ดวงดาวในจักรวาลน้อยๆของเขาแค่นั้นเอง แต่ด้วยวิญญาณชีวิตของเขานั้นทำให้ดวงดาวที่หายไปนั้นสามารถกลับมาใหม่ได้อย่างง่ายดาย
“วิชาขโมยดวงดาวนี้มันยอดไปเลยแหะ ถึงจะขโมยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็สามารถแลกเปลี่ยนสัตว์อสูรหรือขายสัตว์อสูรได้โดยไม่ต้องเป็นไข่ได้ด้วย”โจวเหวินคิดในใจแล้วยิ่งรักวิชานี้
โจวเหวินโอนสัตว์อสูรหลายตัวไปให้หยาเอ๋อก่อนจะสอนให้หยาเอ๋อเข้าใจความสามารถของสัตว์อสูรแต่ละตัว
หยาเอ๋อเองก็ฉลาดมาก ทุกคนที่โจวเหวินพูดออกมา เธอสามารถนำไปใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีตกบกพร่องเลย
“เก่งมากหยาเอ๋อ”โจวเหวินลูบหัวหยาเอ๋อ
โจวเหวินนั้นตอนนี้เดินวนกลับมาที่เดิม ตอนที่เขากลับมาที่เมืองอีกครั้ง อันดับ1ก็ยังคงเป็นมารสวรรค์อยู่ดี นอกจากมารสวรรค์แล้วก็ไม่เห็นจะมีผู้พิทักษ์ตัวอื่นอยู่ในรายชื่อเลย
“มันน่าจะมีคนอื่นที่มีผู้พิทักษ์ซิน่า อย่างน้อยๆ เจียงหยานเองก็มี ทำไมเขาถึงไม่ลองเข้าการประลองนี้ละ”โจวเหวินสงสัย แต่ตอนที่เขาคิดอยู่นั้นเอง เขาก็คิดได้ว่าจริงๆแล้ว ผู้พิทักษ์บางตัวก็อาจจะไม่อยากเปิดเผยพลังตัวเองออกมาให้เห็นในตอนนี้ เลยเลือกที่จะไม่เอามาลงสนาม
“สงครามผู้พิทักษ์ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไรด้วยซินะ”โจวเหวินอุ้มหยาเอ๋อแล้วออกเดินทางต่อ เขาไปในหลายๆเส้นทาง ไปหลายๆที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่วิญญาณชีวิตประกายดาวก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเลย ถึงแม้ว่าจะพัฒนาขึ้นมาบ้าง แต่ก็พัฒนาขึ้นมาด้วยความเร็วที่ช้าสุดๆ
โจวเหวินเดินทางขึ้นเหนือไปเรื่อยๆเขาวางแผนที่จะออกเดินทางยังเขตแดนเหนือ ที่ๆตระกูลของหลานฉีอยู่ ที่นั้นมีสิ่งมีชีวิตต่างมิติแปลกๆเหมือนกับว่าหลุดออกมาจากเทพนิยายอยู่มากมาย การที่จะได้ดาวโหลดเกมส์พวกนั้นก็นับว่าเป้นเรื่องที่ดี
แต่แผนการของโจวเหวินก็ถูกทำลายลงทันที ตอนนี้เขายังไม่หลุดออกจากเขตตะวันออกด้วยซ้ำ แต่บนถนนนั้นเอง โจวเหวินเห็นชายคนหนึ่ง กำลังเดินตรงมาหาเขาอย่างช้าๆ
ถึงจะมองจากไกลๆ เขาก็เห็นได้ทันที ว่าชายคนนั้น คือนักเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่ในสุสานปฐมจักรพรรดิ โจวเหวินหนีออกมาได้เป็นอาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหนีเขาพ้นได้อยู่ดี
ตอนที่ 881
หนีตาย
โจวเหวินยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็ขึ้นขี่อสูรปฐพีเตรียมจะมุดดินหนี
แต่หลังจากที่ใช้สกิลมุดดินแล้ว เขาก็พบว่าชายแก่คนนั้นก็มุดดินมาข้างๆเขาด้วยเหมือนกัน โจวเหวินแทบร้อง เขาใช้อสูรปฐพีหลบหนีอีกครั้งแต่รอบนี้โจวเหวินเลือกที่จะให้อสูรปฐพีใช้ลมปราณทั้งหมดที่มีในรวดเดียว พาเขาออกห่างจากจุดเดิมไปไกลหลาย100ไมล์ในพริบตา
แต่ตอนที่เขาออกมาจากดิน เขาก็เห็นชายแก่คนนั้น โผล่ออกมาที่ต้นไม้ใหญ่ข้างๆกับเขาเหมือนกับผีสิงต้นไม้
“วิชาแทรกซึมต้นไม้เหรอ”โจวเหวินรู้สึกขนลุกขึ้นมาทั่วทั้งตัว
ชายแก่คนนั้นไม่เพียงแต่จะมีวิชามุดดินแต่ยังมีวิชาแทรกซึมต้นไม้อีกด้วย ก็ไม่แปลกใจเลยที่ว่าเขาจะสามารถออกมาจากสุสานปฐมกษัตริย์ได้
“เจ้า หนี ข้าไม่พ้นหรอก”ชายแก่จ้องมองโจวเหวินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาดูไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย ตอนนี้เขาเหมือนกับแมวที่จับหนู ค่อยๆไล่ต้อนโจวเหวินให้จนมุมอย่างช้าๆ
โจวเหวินเองก็ไม่ลังเล รีบใช้สกิลวาปของอารยมิติพอออกจากวาปมาเขาก็ใช้กรงล้อแห่งโชคชะตาของผ้าคลุมเพื่อหายตัวสมบูรณ์ หลังจากที่หายตัวสมบูรณ์แล้วเขาก็วาปซ้ำอีกหลายรอบแล้วเปลี่ยนทิศทางหลอกเพื่อหลบหนี
แต่หลังจากนั้นไม่นาน โจวเหวินก็พบว่าชายแก่คนนั้นตามมาทันอีกครั้ง ตรงหน้าของชายแก่นั้นมันเหมือนมีปิ่นปักผมอยู่ ไม่ว่าโจวเหวินจะหายตัวไปทิศทางไหน ปิ่นปักผมก็จะหมุนชี้มาทางเขาทั้งหมด
ชายแก่นั้นเห็นได้ชัดว่ามองไม่เห็นตัวโจวเหวิน แต่ใช้การนำทางของปิ่นปักผม ทำให้โจวเหวินหนีไม่รอดเลย
ตอนนี้โจวเหวินเริ่มกระวนกระวายขึ้นไปทุกที การหายตัวสมบูรณ์นั้นมีเวลาอยู่แค่3นาทีเท่านั้น ถ้าสลัดชายแก่นั้นใน3นาทีไม่ได้ละก็ การพลางตัวปรกติก็ไม่มีทางหลอกเขาได้แน่ๆ
“การหายตัวเหลืออีกไม่ถึง2นาทีแล้ว หนีไม่ได้เลยถ้าไม่ทำลายปิ่นนั้นซะก่อน”โจวเหวินตัดสินใจเลิกหนีแล้วเปลี่ยนทิศทางฉับพลัน ด้วยความสามารถในการล่องหน เขาใช้พลังดาบทั้งหมดรีดพลังเทพสังหารเตรียมฟันปิ่นปักผมนั้นให้แตกในฉับเดียว
เพราะชายแก่คนนั้นไล่ตามโจวเหวินตามทิศทาง ที่ปิ่นปักผมบอกเท่านั้น ไม่ได้รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของโจวเหวิน เขาเลยไม่ได้รู้ว่าโจวเหวินจะเปลี่ยนทิศทางกระทันหันเพื่อโจมตีเขา
กว่าจะรู้ตัวโจวเหวินก็ถึงระยะของโจมตีพอดี เขาใช้พลังทั้งหมด ฟันเทพสังหารใส่ทั้งปิ่นปักผมและตัวของชายแก่ทันที
ในตอนเดียวกันนั้นเอง ชายแก่เปลี่ยนมือของตัวเองให้เป็นแก้วผลึกก่อนจะใช้ฝ่ามืออัดกระแทกตัวของโจวเหวินเข้าไปที่หน้าอก ความเร็วของมันนั้นยากที่จะหลบได้
โจวเหวินเองก็ไม่ได้คิดจะหลบ เขาใช้ดาบแสงฟันปิ่นปักผมจนหักออกเป็นสองท่อน แต่หน้าอกของโจวเหวินก็โดนอัดกระแทกเต็มๆจนเกิดแรงกระแทกมหาศาลพุ่งทะลุไปด้านหลัง พร้อมควันสีขาวที่ระเบิดออกมา พอควันสีขาวหายไป ตัวของโจวเหวินหายตัวไปแล้ว พร้อมกับกระดาษใบสีเหลืองที่ตกลงมาอยู่กับพื้น
“ร่างจำแลงอย่างงั้นรึ”ชายแก่ขมวดคิ้วก่อนจะตามหาโจวเหวินแต่ก็ไม่พบอะไร ตอนนี้เขาเสียปิ่นปักผมไปแล้ว ชายแก่เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วโจวเหวินอยู่ที่ไหน
“เจ้า หนีข้าไม่พ้นหรอก”ชายแก่หยิบเหรียญทองแดงออกมาแล้วอัดลมปราณเข้าไป ก่อนจะปักมันลงกับพื้นเหมือนกับว่าจะตรวจจับว่าโจวเหวินอยู่ที่ไหน แต่หลังจากนั้นซักพัก เขาก็ทำหน้าสงสัยขึ้นมา “แปลกแหะ วิชา6วิถีของข้ามันหาตัวของเขาไม่เจอ”
โจวเหวินหนีออกมาสุดชีวิต
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าบางอย่างกำลังสั่นไหว พอลองมองดูดีๆ เขาก็พบว่าอะไรบางอย่างบนตัวของหยาเอ๋อกำลังสั่นไหวอยู่ มันคือเหรียญทองแดง3เหรียญที่เชื่อมติดกันด้วยด้ายสีแดงที่โจวเหวินได้มาจากท้องของปี่เซี๊ยะก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงสั่นไหวออกมาตลอดเวลา
โจวเหวินไม่กล้าที่จะหยุดหนี เขาพาหยาเอ๋อหนีออกไปให้ไกล แต่โชคดีที่รอบนี้ชายแก่ไม่ได้ตามมาแล้ว เวลาในการหายตัวของเขาหมดไปพอดี ทำให้โจวเหวินโล่งใจขึ้นมาแปปนึง
ก่อนหน้านี้เขาร่ายสกิลร่างจำแลงขึ้นมาเรื่อยๆตอนที่เขาว่างๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานี้เขาร่ายสำเร็จแค่2ใบเท่านั้น ซึ่งเมื่อกี้เขาก็ใช้ไปแล้วอันนึง เหลืออีกแค่อันเดียวเท่านั้น
โจวเหวินไม่กล้าหยุดเขาอัญเชิญวัวยักษ์ต้าเหว่ยออกมาแล้ววิ่งไปตามภูเขาด้วยความเร็วสูงสุด โจวเหวินนั้นมีพลังชีวิตจักรวาลน้อยอยู่ทำให้เขาไม่กลัวที่จะหลง แต่ที่เขากลัวคือกลัวไปเจอพื้นที่ต่างมิติที่เขาไม่รู้จักซะมากกว่า แต่เอาเข้าจริง สิ่งที่ตามเขามานั้นมันน่ากลัวกว่ามากๆเลย
โจวเหวินข้ามเขาแล้วเขาเล่า ไม่รู้ว่าเขาไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่เขาไม่เคยหยุดเลย เขาข้ามเขาจนกระทั้งมาถึงลำธารเล็กๆแห่งหนึ่ง
โจวเหวินเดินทางตามแม่น้ำไป จนกระทั้งเจอกับป่าต้นซากุระตลอดข้างทาง กรีบดอกซากุระนั้นปลิวกระจายรอบๆข้างลำธารแล้วลอยไปตามแม่น้ำส่งกลิ่นหอมรัญจวน
หลังจากเดินทางต่อไปอีกหลายไมล์แม่น้ำก็ถึงจุดสิ้นสุด มันถูกภูเขาห้อมล้อมเอาไว้เบื้องหน้า โจวเหวินพยายามจะข้ามภูเขาแต่พอเขาข้ามไปเขาก็เห็นช่องวว่างระหว่างภูเขา ที่ถ้าตกลงไปไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง
แต่โจวเหวินก็ไม่ลังเลที่จะข้ามตรงไปอยู่ดี
เริ่มแรกเดิมทีภูเขานั้นมันแคบมากๆ แต่พอผ่านไปไม่ไกลภูเขานั้นก็ค่อยๆกว้างขึ้น ไม่นานหลังจากนั้นโจวเหวินก็ผ่านภูเขามาได้แล้วเขาก็เห็นภาพของหุบเขาที่สวยสดงดงามตรงหน้าของเขา
หุบเขานี้มีหมู่บ้านเล็กๆตั้งอาศัยอยู่ มีทั้งบ้านไม้และบ้านไผ่ ห้อมล้อมไปด้วยป่าไม้ไผ่ ดอกไม้และป่าต้นซากุระขนาดใหญ่ เหมือนกับแดนสวรรค์ในเทพนิยายยังไงอย่างงั้น
“เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย”โจวเหวินรู้สึกแปลกๆ เพราะว่าหลังจากที่เขาเดินทางผ่านภูเขานั้นมาได้แล้ว จักรวาลน้อยของเขาไม่สามารถตรวจจับได้เลยว่าที่เขาอยู่นั้นมันคือที่ไหนกัน
“ที่นี้มัน…หรือว่าจะเป็นสถานที่ในตำนานอะไรนั่นหนะ”โจวเหวินมองไปรอบๆหุบเขานั้น แล้วเขาก็นึกถถึงบทเรียนที่เขาเคยเรียนที่โรงเรียน
มันเป็นเรื่องเล่าที่ชื่อว่า “เรื่องเล่าแห่งผลิดอกท้อ”เล่ากันว่ามีชาวประมงค์ คนหนึ่งได้หลงทางเข้ามายังสวนดอกท้อแล้วพบเข้ากับหมู่บ้านที่สวยงามห่างไกลจากโลกอันวุ่นวาย แต่หลังจากที่เขาออกไปได้แล้ว เขาก็กลับหาหมู่บ้านแห่งนี้ไม่เจออีกเลย
ไม่ว่าจะมองมุมไหนหมู่บ้านแห่งนี้ก็ดูเหมือนกับในเรื่องเล่านั้นไม่มีผิด ต่างกันแค่เรื่องเล่านั้น จะมีกลุ่มชาวบ้านที่อพยพมาจากสงครามอยู่ด้วย แต่ที่โจวเหวินเห็นนั้นมันไม่มีคน หมา หรือแม้กระทั้งไก่อยู่เลย
โจวเหวินใช้สดับวานรฟังไปรอบๆแล้ว แต่เขารู้สึกได้ว่ามันมีหมอกอะไรบางอย่างปิดบังเขาอยู่ เขามองเห็นด้วยตาเปล่าได้แต่เขาไม่สามารถใช้พลังของสดับวานรฟังเสียงอะไรได้เลย
“ไม่ว่ามันจะเป็นหมู่บ้านดอกท้อตามตำนานหรืออะไรก็ตามแต่ ที่แน่ๆมันคือพื้นที่ต่างมิติแน่ๆ”โจวเหวินสงสัยในใจก่อนจะอัญเชิญฝูงค้างคาวออกมาแล้วให้พวกมันบินสำรวจเข้าไปในหมู่บ้าน
แต่หลังจากที่ค้างคาวเงาพิษออกจากวิสัยทัศน์ของโจวเหวินแล้ว พวกมันก็หายไปจากการติดต่อของโจวเหวินทันที ทำให้โจวเหวินเริ่มหน้าเสีย
“มีใครอยู่ที่นี่ไหม!!!”โจวเหวินตะโกนเข้าไปในหุบเขา แต่ไม่มีใครตอบกลับ มีเพียงเสียงสะท้อนกลับ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“มีใครอยู่ที่นี่ไหมมีใครอยู่ที่นี่ไหมมีใครอยู่ที่นี่ไหม……”
ตอนที่ 882
ชายชุดขาว
ที่นี้มันประหลาดเกินไป โจวเหวินอยากจะย้อนกลับทางเดิม แต่แล้วเขาก็พบว่าช่องว่างของภูเขาที่เขาเคยเดินผ่านเข้ามานั้นมันหายไป ด้านหลังของเขานั้นกลายเป็นภูเขาสูงชันที่ไม่มีทางออก
โจวเหวินเดินไปแตะภูเขานั้น มันคือภูเขาหินจริงๆไม่ใช่ภาพลวงตา โจวเหวินรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ เขาเลยอัญเชิญค้างคาวเงาพิษออกมาแล้วให้มันบินออกไป แต่พอค้างคาวพวกนั้นบินออกจากหุบเขาไปไปปึ๊บ พวกมันก็เหมือนกับชนอะไรบางอย่างแล้วร่วงตกลงมาจากฟ้า ซึ่งผลที่ออกมาก็ไม่ได้ทำให้โจวเหวินประหลาดใจอะไร เพราะถ้ามันเป็นพื้นที่ต่างมิติจริง การจะบินออกไปนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เลย
“แล้วฉันจะออกไปจากที่นี้ยังไงละเนี่ย”โจวเหวินไม่มีทางออกแล้วก็ตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว หวังว่าเขาจะได้เจอทางออกจากพื้นที่ต่างมิติแห่งนี้
โจวเหวินลองอัญเชิญสัตว์อสูรหลายๆตัวให้เข้าไปสำรวจด้านหน้าก่อน โจวเหวินลองทั้งเกราะเทพ มดบิน แล้วก็พวกหนอนเขียวตัวเล็กๆทั้งหลาย
ความสวยงามของที่นี้มันเหมือนกับแดนสวรรค์ แต่กลับไม่มีใครอยู่ที่นี้เลย ไม่มีแม้แต่กลิ่นอายของมนุษย์ทั่วๆไปอยู่ในบ้านพวกนั้นด้วย
ภายใต้คำสั่งของโจวเหวิน หนอนเขียวเข้าไปบ้านไม้ที่ใกล้ที่สุดแล้วพบว่ามีของตกแต่งบ้านของมนุษย์มากมายอยู่ในนั้น แต่ของพวกนั้นมันดูเก่ามากๆ เหมือนกับว่ามันไม่ได้ใช้โดยคนยุคปัจจุบัน แถมไม่มีใครอยู่ที่นี้อีกด้วย แล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตแปลกอยู่ที่นี้ด้วย
โจวเหวินออกสำรวจต่อ ที่แปลกเลยคือมันไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่แถวนี้เลย และค้างคาวเงาพิษที่ขาดการติดต่อกับเขานั้นก็หายไปด้วย หุบเขานี้อยู่ในรูปแบบทรงกลม ขนาดของมันก็ไม่ได้เล็กมาก มันถูกห้อมล้อมไว้ด้วยลำธารและป่าไผ่สีเขียวและทุ่งดอกไม้สีแดง ที่สุดปลายของลำธารนั้นมีต้นดอกท้อ(หรือซากุระ) ขนาดใหญ่อยู่ดูสวยงามมากๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมข้างๆต้นไม้นั้นถึงไม่มีต้นท้อต้นอื่นๆอยู่เลย ต้นท้อต้นอื่นๆนั้นอยู่แยกจากต้นท้อยักษ์มากทำให้ดูโดดเดี่ยวและเหงามากทีเดียว
โจวเหวินมองไปรอบๆหุบเขา ที่นี้มันเหมือนกับสวนสวรรค์จริงๆ นี้ถ้าไม่ติดว่าสัตว์อสูรของเขามันหายไปถ้าออกนอกระยะสายตาของเขาละก็ ที่นี้ก็เป็นที่ๆดีทีเดียว
“มันต้องมีอะไรอยู่ในหุบเขานี้แน่ๆ ว่าแต่มันไปซ่อนอยู่ที่ไหนมากกว่า”โจเวหวินมองไปเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่พบทางออก แล้วก็ไม่พบสัตว์อสูรที่หายไปของเขาด้วย
ในเมื่อมองหาไปก็ไม่ได้ความ โจวเหวินเลยนั่งพักลงแล้วคิดถึงความเป็นไปได้ในหลายๆทาง
โจวเหวินไม่รู้ว่าที่นี้จริงๆแล้วเป็นหมู่บ้านดอกท้อในตำนานจริงๆรึเปล่า ที่ทุกๆอย่างมันดูแตกต่างจากหมู่บ้านดอกท้อในตำนานนิดหน่อย
เวลาผ่านไปช้าๆ โจวเหวินยังคงคิดหาทางออกไปจากที่นี้ไม่ได้เลย จะใช้อสูรปฐพีมุดออกไป เขาก็มุดออกไปได้แค่เป็นวงกลมเท่านั้น ออกนอกหุบเขาไม่ได้ หรือจะขุดภูเขาให้เป็นรูโดยใช้เบม่อนก็ไม่ได้ผล เพราะภูเขาเหมือนจะมีชีวิต พอมันโดนขุดมันก็งอกขึ้นมาใหม่
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลง พระจันทร์ลอยเด่นขึ้นมา
ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยความเงียบงันนั้น จู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมา โจวเหวินฟังดูแล้วมันฟังดูเหมือนเสี่ยงขลุ่ย
โจวเหวินมองดูทิศทางของเสียงแล้วพบว่า เสียงขลุ่ยนั้นลอยมาจากทางลำธาร โจวเหวินเลยออกไปดู แต่เขาก็ไม่พบอะไรเลย ก่อนหน้านี้เขาก็เคยดูมาแล้ว เขาดูมาทั้งวันแล้วแต่ก็ยังไม่เจออะไรเลย
ถึงจะเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติก็เถอะ แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะมีเหตุผลบ้างไม่ใช่ทำอะไรตามใจแบบนี้
โจวเหวินค่อยๆออกไปที่ลำธารแล้วเขาก็เห็นชายสวมเสื้อสีขาวนั่งอยู่ที่ต้นไม้ต้นใหญ่ ในมือถือขลุ่ยที่กำลังเป่าเล่นอย่างไพเราะ จากมุมที่โจวเหวินอยู่นั้น เขาเห็นแค่ด้านข้างของชายคนนั้น เขาใส่ชุดสีขาวผมกร้าวขึ้นด้านบน ภาพที่เห็นมันช่างงดงามเหมือนเทวดามากกว่าคน
“มันไม่น่าจะมีคนจริงอยู่ที่นี้ได้นะ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่หน้าตาเหมือนคนซินะ ไม่รู้ว่ามันเก่งรึเปล่าด้วย”โจวเหวินยืนมองชายชุดขาวจากไกลๆ
หลังจากที่เสียงเพลงจบลง ชายชุดขาวนั้นก็วางขลุ่ยลงแล้วหันมามองโจวเหวินที่อยู่ข้างๆ “ไหนๆก็มาที่นี่แล้ว ไยเจ้าไม่มาดื่มกับข้าซักจอกเล่า”
โจวเหวินมองเห็นชัดขึ้นแล้ว ข้างๆของชายคนนั้นมีแก้วกับไหใบหนึ่งอยู่ด้วย
“นั้นมันคนจริงๆเหรอวะ”โจวเหวินมองดูรูปร่างกับพฤษติกรรมแล้วมันเหมือนกับคนมากๆทำให้เขาได้แต่สงสัย
พอเห็นโจวเหวินไม่ขยับเข้าหา ชายชุดขาวจึงหยิบแก้วกับไห แล้วรินของเหลวบางอย่างใส่แก้วตัวเอง มองพระจันทร์บนฟ้าพลางดื่มอย่างสบายอารมณ์แล้วพูด “ชีวิตคนเราหนอช่างสั้น ไยเล่าจะต้องหาเรื่องใส่ตัวเพิ่มด้วย”
ชายหนุ่มคนนั้นกำลังสำราญอารมณ์อยู่แต่ตอนนี้โจวเหวินเริ่มง่วงนิดหน่อยแล้วถาม “นายเป็นใครกัน”
“ข้าคือเซียนไง”ชายชุดขาวพูด
“เซียนไหน”โจวเหวินถาม
“เซียนก็คือเซียน อิสระ มีความสุขและสบายอารมณ์”เซียนพูด
โจวเหวินไม่เข้าใจแล้วถามซ้ำ “แล้วนายรู้วิธีออกไปจากที่นี่รึเปล่า”
“ไยเล่าต้องออกไปด้วยละ ที่นี้ไม่ดีอย่างนั้นรึ โลกนี้ไม่มีเรื่องอันตราย ไม่มีเรื่องกังวล ต่างกับโลกที่เจ้าจากมามากเลยนะ”ชายชุดขาวพูดแล้วดื่ม
“มันก็ดีแหล่ะ แต่ฉันไม่ชอบ”โจวเหวินพูด
“ออกไปไม่ได้หรอก ที่นี้คือภพเซียน เป็นสถานที่แบ่งแยกและตัดขาดจากโลก ไม่มีใครออกไปจากที่นี้ได้ ยกเว้นพวกเขาจะตาย”เซียนพูด
โจวเหวินไม่เชื่อแน่ๆ ตราบใดที่มันเป็นพื้นที่ต่างมิติ มันก็ต้องมีทางออก
โจวเหวินลังเลในใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขาควรจะทำยังไงกับชายชุดขาวตรงหน้าดี เขาดูเหมือนมนุษย์มากแต่ก็น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติ แต่ที่แน่ๆ เขามีสติปัญญาสูงขนาดนี้ พลังเองก็คงใช่เล่นเหมือนกัน โจวเหวินเองก็ลังเลอยู่ด้วย เพราะตอนนี้เขาไม่มีต้นกล้วยเซียนอยู่ เขาเลยไม่กล้าสู้กับอะไรที่เสี่ยงแบบนี้
หลังจากที่คิดมาซักพักใหญ่ โจวเหวินก็มองชายชุดขาวก่อนจะอยากพูดอะไรซักอย่าง แต่เขาก็ต้องตกใจที่ชายชุดขาวนั้นจู่ๆก็หายไปจากใต้ต้นท้อเลย
โจวเหวินเรียกเซียนอยู่ซักพักแต่ก็ไม่มีการขานกลับ โจวเหวินเสาะหาทั่วแล้วแต่ก็ไม่เจอเขาอีกเลย
เขารอจนถึงเช้าแต่เขาก็ไม่เจอสิ่งมีชีวิตซักตัว
“พื้นที่ต่างมิตินี้มันอะไรกันวะเนี่ย”โจวเหวินรู้สึกแปลกๆ
ถ้ามันมีสิ่งมีชีวิตต่างมิติจำนวนมากมารุมทึ้งเขา โจวเหวินเองก็รู้ดีว่าควรจะทำยังไง แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรซักอย่าง เขาเลยไม่รู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง
“ไม่ได้ละ รอบหน้าถ้าฉันเจอเขาอีก ฉันต้องหาทางรู้ให้ได้ว่าออกไปจากที่นี้ได้ยังไง”โจวเหวินคิดก่อนจะเตรียมการ อัญเชิญมารระเบิดออกมาแล้วให้มันวางระเบิดไว้รอบๆหุบเขา
การที่มันเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่ทรงปัญญาแบบนั้น มันหมายความว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการ แต่ถ้าโจวเหวินมีการเตรียมมาล่วงหน้าละก็เขาเชื่อว่าเขาทำได้แน่
ตอนที่ 883
วิชาดาบ13กระบวนท่า
แต่ในอีกหลายวันต่อมาโจวเหวินก็ไม่เห็นชายชุดขาวนั้นอีกเลย เหมือนกับว่ามันไม่มีใครคนอื่นอยู่ในหุบเขานี้แล้ว โจวเหวินเองก็สงสัยมากว่าพื้นที่ต่างมิตินี้ จริงๆแล้วมันอาจจะเป็นคุกที่เอาไว้ขังคนโดยเฉพาะก็ได้
แต่โชคดีที่มีหยาเอ๋ออยู่กับโจวเหวินด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะพูดแบบนับคำได้ แต่การมีคนอยู่ด้วยนั้นมันทำให้รู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ โจวเหวินนั้นตั้งแต่มาอยู่ในหุบเขานี้ก็ฟาร์มไปเรื่อยๆรอวันที่ชายชุดขาวจะปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง
และ7วัน7คืนผ่านไป โจวเหวินในที่สุดก็ได้ยินเสียงขลุ่ยที่คุ้นเคยอีกครั้ง เขาจึงรีบไปที่ต้นน้ำ แล้วเขาก็พบ ชายชุดขาวที่นั่งเป่าขลุ่ยอยู่ที่เดิม
ขลุ่ยของเขานั้นเป็นเสียงเบาๆที่เสนาะไปถึงดวงวิญญาณ ทำให้คนนั้นรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่ได้ยิน ให้ความรู้สึกอิสระหลงลืมเรื่องกังวลทั้งหมด โจวเหวินตั้งใจมั่น เขาไม่โดนผลกระทบจากขลุ่ยแน่ๆ เขาคิดหาวิธีการพูดกับชายชุดขาวให้ได้
“พบอีกคราละนะ”หลังจากจบบทเพลงชาบชุดขาวก็หันมาหาโจวเหวินอีกครั้งแล้วพูด “สนใจมาดื่มกับข้าซักจอกไหม”
“ฉันอยากจะรู้วิธีการออกไปจากที่นี้”โจวเหวินมองชายชุดขาวคนนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่หายไปไหนอีกแล้วรอบนี้
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะตัดสินใจแล้วซินะ”ชายชุดขาวร่ำสุรา แล้วพูด
“ใช่”โจวเหวินพยักหน้าก่อนจะจับดาบไม้ไผ่ในมือพร้อมสู้
“งั้นก็ย่อมได้ ข้าจะบอกวิธีการออกจากที่นี้ก็ได้ แต่ข้าเองก็มีเงื่อนไขเช่นกัน”เซียนพูดขึ้นมา
“เงื่อนไขอะไร”โจวเหวินมองชายชุดขาวอย่างประหลาดใจ
“วิชาดาบของเจ้าเป็นเช่นไรเล่า”ชายชุดขาวเล่นกับแก้วไปมา
“ก็ไม่เท่าไร พึ่งจะเริ่มฝึกวิชาดาบหน่ะ”โจวเหวินตอบ
“ไม่ แค่นั้นก็ดีแล้วละ ข้ามีวิชาดาบให้เจ้าเรียนรู้ หากเจ้าฝึกฝนวิชาดาบนี้ได้ ข้าจะบอกเจ้าถึงวิธีการออกไปจากภพนี้”ชายชุดขาวพูด
“ทำไมละ”โจวเหวินตกใจนิดหน่อย เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติแบบนี้มาก่อน
“ทำไมเหรอ เจ้าอยากจะออกจากที่นี่รึเปล่าละ”ชายชุดขาวไม่อธิบาย
“ก็ได้”โจวเหวินคิดซักพักก่อนจะตอบตกลง
“ข้ามีวิชาดาบทั้งหมด13กระบวนท่า มันไม่ยากหรอก ถึงเจ้าจะโง่เขลาแค่ไหนแต่เจ้าก็จะเรียนรู้มันได้โดยเชี่ยวชาญ ภายใน3-5วันนี้ละ”ชายชุดขาวพูดก่อนจะยืนขึ้น ก่อนจะหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาจากพื้นแล้วเริ่มร่ายรำ
เขาใช้กิ่งไม้นั้นแทนดาบแล้วแสดงวิชาดาบออกมา วิชาดาบที่ว่านั้นมันงดงามสง่าและชัดเจน เหมือนกับว่ามันไม่ได้มีไว้ฆ่าใคร
วิชาดาบส่วนมากบนโลกนั้นมีไว้เพื่อปริดชีพศัตรู แต่วิชาดาบนี้มันทำตรงกันข้ามแลย วิชาดาบนี้เหมือนรำดาบที่ไว้ใช้สร้างความบันเทิงมากกว่าฆ่าศัตรู
ทันทีที่ชายคนนั้นรำดาบถึง13กระบวนท่า เขาก็มองโจวเหวินแล้วถาม “จำได้ไหม”
“จำได้”ความจำของโจวเหวินมากๆอยู่แล้ว กับแค่13กระบวนท่าง่ายๆนั้นยังไงเขาก็จำได้อยู่แล้ว
ชายคนนั้นยิ้มเล็กน้อย “หลังจากนี้ เจ้าก็ฝึกเสีย แล้วค่อยมาตามหาข้าทีหลัง”
“อย่าเรื่องมากเลย เดี๋ยวฉันจะฝึกให้นายดูเดี๋ยวนี้ละ คืนนี้ก็เป็นแล้ว ถ้าฉันใช้วิชาดาบนี้ได้ชำนาญเมื่อไร ฉันก็ถือว่าสอบผ่านใช่ไหมละ”โจวเหวินพูดแล้วมองชายชุดขาว
“ถูกต้อง ตราบใดก็ตามที่เจ้าชำนาญวิชาดาบน่ะนะ”ขลุ่ยปรากฏขึ้นในมือของเขาอีกครั้งนึง
“โอเค ได้เดี๋ยวฉันจะฝึกเดี๋ยวนี้ละ”โจวเหวินอัญเชิญดาบยาวระดับตำนานที่เขาฟาร์มมาได้จากสุสานดาบโบราณมา มันใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้เท่าไรอยู่แล้ว แต่ด้วยตัวดาบที่เรียวยาวนั้นมันเหมาะกับการฝึกกระบวนท่าดาบที่สุดแล้ว
โจวเหวินถือดาบเล่มนั้นก่อนจะนึกถึงวิชาดาบที่ชายชุดขาวสอนมา หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด โจวเหวินเลยเริ่มฝึกซ้อม
ด้วยความสามารถพรสวรรค์และประสบการณ์การสู้รบนั้น การจะเลียนแบบกระบวนท่าง่ายๆนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก อย่าว่าแต่13ท่าเลย ต่อให้เป็นวิชาดาบของเทพดาบโบราณ 100ท่า โจวเหวินก็ทำได้อย่างแม่นยำ
แต่โจวเหวินนั้นปรกติแล้วจะแทงดาบและฝึกกับสิ่งมีชีวิตอะไรซักอย่างเขาเลยยังไม่ค่อยชินกับการฝึกกับแค่ดาบเปล่าๆเท่าไร
ท่านั้นมันไม่ได้ยากอะไรมาก ด้วยร่างกายของโจวเหวินแล้ว ต่อให้ท่าจะยากแค่ไหน ตราบใดที่มันยังเป็นท่าที่มนุษย์ทำได้ โจวเหวินก็ทำได้แน่ๆ
แต่โจวเหวินกลับฝึกดาบต่อไม่ได้ เพราะว่าเขาพบว่าวิชาดาบที่เขาจำอยู่ในความทรงจำนั้นมันดูต่างจากวิชาดาบที่ชายชุดขาวสาธิตมา
“แปลกแหะ ทำไมมันถึงต่างละ”โจวเหวินขมวดคิ้ว แล้วถอนดาบกลับมาแล้วนึกถึงวิชาดาบอีกครั้ง ความทรงจำที่ชัดเจนปรากฏขึ้นในหัวของโจวเหวินอีกครั้ง
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากๆ เหมือนกับเขาจำได้ว่าชายที่อยู่ในความทรงจำของเขานั้นใส่ชุดแดง แต่พอมานึกดูอีกทีชุดของชายในความทรงจำนั้นก็จะค่อยๆหายไปกลายเป็นชุดสีขาวตามเดิม
ความทรงจำกับความเป็นจริงขัดแย้งกัน โจวเหวินไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน
โจวเหวินหันไปมองชายชุดขาว อยากจะถามอะไรบางอย่างแต่ชายคนนั้นก็ได้หายตัวไปแล้ว
โจวเหวินขมวดคิ้วอีกครั้ง แล้วเขาก็นึกถึงวิชาดาบนั้นอีกครั้ง แต่รอบนี้ มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะวิชาดาบที่เขาเห็นนั้น จู่ๆเขาก็นึกได้ถึง2ความทรงจำ ตอนที่โจเวหวินกำลังนึกถึงวิชาดาบอยู่นั้นเอง ถึงแม้ว่ามันจะมีแค่13ท่า แต่ แต่ละท่านั้นมันดูต่างไปจากที่เขารู้อย่างสิ้นเชิง
วิชาดาบที่ชายชุดขาวนั้นแสดงออกมานั้นมันสง่ามากแต่ที่โจวเหวินจำได้กลับเป็นอะไรที่รุนแรง แถมโจวเหวินยังมีอีกความทรงจำนึงที่เพลงดาบนั้นมันนุ่มนวลซะอีก ทำให้โจวเหวินเริ่มสงสัยในความจำของตัวเอง
จากนั้นโจวเหวินก็ค่อยๆนึกย้อนกลับไปแล้วเขาก็พบว่าวิชาดาบที่เขาจำได้นั้นมันเปลี่ยนไปอีกรอบแล้ว ทุกๆครั้งที่เขานึกถึงมันมันจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง
“นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย”โจวเหวินเริ่มไม่มั่นใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ๆเขามั่นใจว่าสติกับความจำของเขามันไม่มีปัญหาแต่ทำไมความจำของเขาถึงเปลี่ยนไปเรื่อยแบบนี้ละ โจวเหวินเองก็ยังไม่เข้าใจ
“ภาพลวงตางั้นเหรอ” โจวเหวินคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ยังไม่มั่นใจ เขาตั้งสมาธิแน่วแน่มาก ถึงมันจะเป็นภาพลวงตาแต่โจวเหวินก็น่าจะสลัดมันทิ้งไปได้แน่ๆ ไม่มีทางที่มันจะมาส่งผลต่อสมองของเขา
“ถ้ามันไม่ใช่ภาพหลอนอะไร ถ้างั้นปัญหามันก็ต้องอยู่ที่วิชาดาบแล้วละ”โจวเหวินพยายามนึกถึงวิชาดาบ13ท่า แล้วพยายามปะติดประต่อเรื่องราวให้ได้มากที่สุด เขาอยากจะลองดูว่าความจำของเขานั้นมันมีกี่รูปแบบกันแน่
คืนนั้นผ่านไป จนตะวันขึ้นแล้วตกดินอีกรอบ ในค่ำคืนถัดไปนั้น โจวเหวินนึกถึงวิชาดาบออกมาได้มากกว่า100รูปแบบ แต่ละรูปแบบที่ออกมานั้นไม่เคยเหมือนกันเลยซักครั้ง
“จำได้รึยังเล่า”ชายชุดขาวปรากฏขึ้นมาใต้ต้นท้ออีกครั้ง พร้อมแก้วสุราในมือ
ตอนที่ 884
3000กระบวนท่า
“วิชาดาบนี้มันอะไรกันเนี่ย”โจวเหวินถามชายชุดขาว
ก่อนหน้านี้เขาดูไม่ความสนใจในวิชาดาบของชายชุดขาวเลยแม้แต่น้อย เขาแค่อยากจะจำเพื่อให้ชายชุดขาวนั้นบอกวิธีการออกไปจากที่นี้ เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของเพลงดาบด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้โจวเหวินเพ่งสมาธิกับวิชาดาบนี้ยิ่งกว่าข้อสอบซะอีก เพราะว่าตอนแรกเขาบอกไปอย่างมั่นใจแล้วว่าตัวเขาเองนั้นทำได้แล้วเขาก็จำวิชาดาบได้แม่นด้วย
“มันไม่มีชื่อหรอกนะ ถ้าเป็นเจ้า เจ้าจะตั้งชื่อว่ายังไงละ”ชายคนนั้นพูด
โจวเหวินขมวดคิ้วเขาไม่พูดไปซักพัก ถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าชายชุดขาวคงจะไม่ยอมบอกวิธีการออกไปจากที่นี้ให้ง่ายๆแต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าวิชาดาบนี้มันจะแปลกเกินจินตนาการของเขาไปไกลขนาดนี้
“อยากให้ข้าสาธิตให้ดูใหม่ไหมเล่า”ชายชุดขาวพูด
“พอแล้ว” โจวเหวินส่ายหัว เขาถือดาบแล้วนึกถึงวิชาดาบ13กระบวนท่าของชายชุดขาวอีกรอบ
วิชาดาบที่ชายชุดขาวได้แสดงออกมานั้นมันดูเหมือนจะเปลี่ยนไปไม่รู้จักจบสิ้น ความจำของโจวเหวินก็เปลี่ยนไปทุกรอบ ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ โจวเหวินนั้นนึกทบทวนแล้วลองใช้ดาบฝึกซ้อมแต่มันก็ยังไม่ใช้ทั้งหมด จนกระทั้งตอนนี้ดวงตาของโจวเหวินั้นเต็มไปด้วยสีแดงแห่งความอดนอน
ภายใต้แสงจันทร์นวลผ่องชายชุดขาวนั่งอยู่ใต้ต้นท้อ แล้วมองโจวเหวินที่กำลังซ้อมดาบก่อนจะพึมพัมกับตัวเอง “โลกนี้ไม่มีอะไรจีรังอยู่แล้ว ไยเล่าเจ้าจึงสนใจกัน”
ชายชุดขาวพูดจบก็ซดเหล้าเข้าปาก สายลำธารไหลเย็นตกกระทบด้วยแสงจันทราส่องให้เห็นร่างของชายชุดขาว แต่ภาพของชายชุดขาวที่สะท้อนบนผืนน้ำนั้นกลับไม่ใช่ชายหนุ่มรูปงามแต่เป็นกโครงกระดูกโทรมๆ
2วันต่อมาสติของโจวเหวินเริ่มพล่ามัว เขานั่งอยู่ใต้ต้นท้อ ดวงตาของเขาแดงก่ำสภาพดูย่ำแย่เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที
แต่หยาเอ๋อก็ยังคงติดตามโจวเหวินอย่างไม่ลดละ เธอไม่ได้พูดรบกวนโจวเหวินด้วย
ตกกลางคืนอีกครั้ง ชายในชุดขาวปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งใต้ต้นท้อ แล้วมองโจวเหวินด้วยสายตายิ้มแย้มเช่นเดิม จากนั้นก็มองหยาเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆโจวเหวิน “แม่หนู อยากจะฝึกวิชาดาบด้วยไหม”
หยาเอ๋อมองนิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ เหมือนกับว่าเธอไม่เข้าใจ
“เขาเป็นพ่อของเจ้าเหรอ ดูเหมือนว่าพ่อของเจ้าจะความจำไม่ค่อยดีเท่าไรนะ กับอีแค่วิชาดาบง่ายๆ ตั้งนานขนาดนี้ยังจำไม่ได้อีก ใช้ไม่ได้จริงๆ แต่ข้าว่าเจ้าฉลาดกว่าเขานะ ถ้าเจ้าเริ่มเรียนรู้ละก็ บางทีอาจจะสำเร็จก่อนพ่อเจ้าก็ได้นะ”ชายชุดขาวพูด
แต่หยาเอ๋อก็ยังคงนิ่งเงียบ
“ไม่เป็นไรหรอกข้าเข้าใจดีว่าเจ้ายังเด็ก เจ้าคงยังไม่รู้จักดาบซินะ ถ้าเจ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ข้าจะส่งเจ้าไปปรโลกตามพ่อของเจ้าไปเดี๋ยวนี้ละ แล้วข้าก็จะได้อยู่อย่างสงบที่นี่ไปตลอดกาล”
ชายคนนั้นยืนขึ้นแล้วถือขลุ่ยไม้ไผ่ในมือก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาหยาเอ๋อทีละก้าว ทีละก้าว และตอนนั้นเองที่เขาเงื้อขลุ่ยเป็นเหมือนดาบในมือเตรียมแทงทะลุหัวใจของหยาเอ๋อ
ชริ้ง!!
วิถีดาบฟันตวัดขึ้นทันทีทำให้ขลุ่ยของชายชุดขาวนั้นขาดสบั้น โจวเหวินถือดาบไม้ไผ่ในมือมองชายชุดขาวด้วยสายตาที่แดงก่ำ
“เป็นไปได้ไงกัน”ชายชุดขาวแอบตะลึงเหมือนกับว่าเขาเห็นผี
“วิชาดาบ..ของนาย ฉันจำได้…หมดแล้ว”โจวเหวินพูดพร้อมดาบไม้ไผ่ในมือมองเขม่นไปที่ชายชุดขาว
“เป็นไปไม่ได้หน่า เจ้าหน่ะจำไมได้หรอก”ชายชุดขาวไม่เชื่อที่โจวเหวินพูด
“ทำไมจะไม่ได้ละ”ดวงตาของโจวเหวินค่อยๆหลับลงก่อนที่ดาบไม้ไผ่ในมือของโจวเหวินจะชี้ไปที่ชายชุดขาว
“เพราะว่า…”ชายชุดขาวยังพูดไม่จบ
“ก็เพราะว่าวิชาดาบของนายไม่ได้มีแค่13กระบวนท่าแต่มันมีทั้งหมด 3000กระบวนท่าตั้งหากละ ทุกๆครั้งที่ฉันนึกถึงมัน ฉันจะรู้สึกได้ถึงกระบวนท่าที่เปลี่ยนไปไม่ซ้ำจากเดิมเสมอ ถึงฉันจะความจำดียังไงก็ไม่มีทางจำกระบวนท่าทั้งหมด3000ท่าไว้ในครั้งเดียวได้หรอกถูกไหม”โจวเหวินพูด
“ถูกต้องแล้วละ มันไม่ใช่วิชาดาบที่มนุษย์เช่นเจ้าจะเรียนรู้ได้ มันเป็นวิชาดาบที่สืบทอดมาจากเจตจำนงแห่งดาบจากรุ่นสู่รุ่น เจ้าเองก็มีความสามารถนะแต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีทางเรียนรู้วิชาดาบของเข้าได้แน่ๆ เพราะงั้นเจ้าจะไม่มีวันที่จะได้ออกไปจากที่นี่ยังไงเจ้าก็ต้องตายอยู่แล้ว มันก็แค่ต่างกันที่ว่าตายช้าตายเร็วเท่านั้นละ”ชายชุดขาวพูด
“ใครบอกละว่าฉันจำไม่ได้”โจวเหวินพูดขี้นมา
“จะพูดอะไรไปก็ไร้ค่าทั้งนั้นละ เจ้าทำไมได้หรอก”ชายชุดขาวพูด
“ถ้างั้นก็แหกตาดูให้ดีละกัน”โจวเหวินเปลี่ยนกระบวนท่าดาบก่อนจะใช้ดาบนั้นแทงตรงไปที่ชายชุดขาว นี้คือกระบวรท่าแรกที่ชายชุดขาวสาธิตให้ดู
ชายชุดขาวนั้นตกใจมากๆ เขากระโดดหลบในทันทีแต่วิชาดาบของโจวเหวินนั้นมันใช้อย่างต่อเนื่อง ในเพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นเขาก็ใช้วิชาดาบที่เขาเคยเห็นจากชายชุดขาวได้แบบเดียวกับที่เขาใช้เลยเป๊ะๆ
“แค่นั้นเองหรอกเหรอ งั้นข้าก็เสียใจนะที่จะบอกว่าเจ้าไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหน่ะ”ชายชุดขาวพูดแล้วยิ้ม
โจวเหวินไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาแสดงวิชาดาบออกมาเรื่อยๆ กระบวนท่าแล้วกระบวนท่าเล่า ดาบนั้นลื่นไหลเหมือนแม่น้ำบางครั้งก็แกร่ง บางครั้งก็เฉียบคม ทุกๆ13กระบวนท่า ปราณของดาบจะเปลี่ยนไปครั้งนึง
“ไม่นะ เป็นไปไม่ได้”ชายชุดขาวเริ่มคิดขึ้นมาทีละนิดแล้วเริ่มไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเขาผสมปนเปความกังวลกับความไม่เชื่อและลนลานไว้ด้วยกัน
แต่โจวเหวินนั้นกำลังแสดงวิชาดาบต่อไป เขาใช้วิชาดาบจากที่เขานึกได้ ทีละอย่างไล่เรียงติดกัน
“เป็นไปได้ยังไง เจ้าทำได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ นั้นมัน 3000กระบวนท่าเชียวนะ เจ้าจำมันทั้งหมดได้ยังไงกัน” ชายชุดขาวเริ่มเหวอ ความสง่าผ่าเผยหล่อเหลาที่เคยมีหายไปหมดแล้ส
“ฉันก็แค่ตั้งใจมากพอที่จะจำทั้งหมดให้ได้ ฉันตั้งใจมากพอที่จะจำในสิ่งที่คนอื่นจำไม่ได้ วิชาดาบ3000กระบวนท่านี้มันจำยากก็จริงแต่ฉันก็ยังจำได้”โจวเหวินนึกต่อไปแล้วเคลื่อนที่ต่อ
ตอนที่กระบวนท่าของเขาเปลี่ยนไปนั้นเอง มิติรอบข้างก็เริ่มบิดเบือน มันถูกเปลี่ยนแปลง หุบเขาที่เคยสวยงามสุดๆตอนนี้เต็มไปด้วยกิ่งไม้แห้งตายกลายเป็นซากและไม้ไหม้ไฟเต็มไปหมด
ชายหนุ่มรูปงามชุดขาวที่สง่างามคนนั้นก็กลายเป็นโครงกระดูก
หลังจากที่โจวเหวินลองสาธิตท่าทั้งหมดแล้ว โครงงกระดูกก็ล้มลงกับพื้นเหมือนกับโดนฟ้าผ่า ต้นท้อที่เคยมีใบมีดอกตอนนี้กลายเป็นแค่ต้นไม้สีดำโง่ๆ
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้” โครงกระดูกพึมพำบังอย่างก่อนที่ไฟในตาของมันจะดับสูญไป
โจวเหวินมองไปรอบๆหุบเขาแล้วพพบว่ามันเป็นคนละที่กับที่เขาเคยเห็นเลย ที่นี้ทุกๆอย่างมันดูแย่ไปหมด ไม่มีวี่แววของต้นดอกท้อแต่อย่างไร
ภายในลำธาร น้ำใสๆก็หายไปด้วย ตอนนี้เหลือเพียงกระดูกเต็มไปหมดเหมือนกับแม่น้ำกระดูกในนรกยังไงอย่างงั้น
ตอนที่ 885
คำท้าประลองเบม่อน
ไม่รู้ว่าจู่ๆมันเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนกับว่าโลกทั้งหมดมันกำลังถูกผ่าสั่นไหวด้วยพายุสายฟ้ารุนแรง ทุกอย่างเริ่มพังทลายทั้งบ้านเรือนต้นไม้ ทุกอย่าง
โครงกระดูกที่อยู่ใต้ต้นไม้นั้นไม่ได้มีชีวิตอีกแล้ว เสื้อผ้าของมันหลุดลุ่ยขาดวิ่น มีรอยดำในหลายๆจุดของกระดูเหมือนกับว่าโดนฟ้าผ่ามา ช่องว่างในกำแพงภูเขาที่โจวเหวินเข้ามาก็เริ่มแหวกอีกครั้ง
โจวเหวินมองโครงกระดูกนั้นแล้วหันหลังเดินออกจากหุบเขาไป หลังจากที่เดินออกมาได้แล้ว จักรวาลน้อยของเขาก็เริ่มทำงานอีกครั้ง
“เป็นพื้นที่ต่างมิติจริงๆด้วยแหะ”โจวเหวินมองกำแพงภูเขาด้านหลังที่ตอนนี้รอยแยกมันหายไปแล้ว เหมือนกับว่ามันไม่มีอยู่จริง
โจวเหวินเองก็เคยเผชิญพื้นที่ต่างมิติมากมาย แต่รอบนี้มันแปลกของจริง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตตต่างมิติซักตัวแต่เขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรกลับมา วิชาดาบ3000กระบวนท่านั้นเป็นของจริงและมันเป็นเรื่องที่ดีกับการฝึกวิชาดาบของโจวเหวินมากๆ
หลังจากที่โดนของอยู่ในหุบเขานั้นเป็นเวลาหลายวัน โจวเหวินก็เริ่มกังวลเรื่องที่ชายแก่จะไล่ตามเขาทัน เพราะงั้นหลังจากที่ออกมากจากหุบเขาได้แล้ว เขาจึงรีบออกเดินทางไปพร้อมกับหยาเอ๋ออย่างสุดกำลัง
รอบนี้โจวเหวินเลือกเส้นทางที่มนุษย์ใช้สัญจร เพื่อไม่ให้หลงเข้าไปอยู่ในพื้นที่ต่างมิติอีก
พอมาถึงเมือง เขาก็พบว่าตอนนี้คนในเมืองนั้นต่างก็กำลังพูดถึงมารสวรรค์อยู่ เขาเสริชเน็ตแล้วพบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
มี1ในสัตว์อสูรระดับเร้นลับเข้าท้าทายมารสวรรค์ แต่ก็กลับโดนฆ่าตายในวินาทีเดียว ไม่มีโอกาสได้หนีหรือยอมแพ้เลย
นั้นไม่เท่าไร ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ มารสวรรค์นั้นหลังจากชนะก็ประกาศตัวเองว่าเขา(เธอ) คืออุเอะซึกิ นาโอะ และเป็นสมาชิกสหพันธ์แห่งต่างแดน
มนุษย์ที่สามารถเข้ามาแข่งขันในตารางจัดอันดับได้ ตอนนี้อยู่ฝั่งต่างแดน แถมเธอยังเป็นที่1ของตารางอีกด้วย ข่าวนี้มันเป็นข่าวใหญ่เบิ้มที่ทั้งรัฐบาลกลางให้ความสนใจ พวกระดับสูงควบคุมอะไรไม่ได้เลย
เพราะว่ายังไงลูกบาศก์มันก็กระจายตัวไปในทุกพื้นที่ หลายๆคนเห็นการประกาศของนาโอะไปแล้ว จะปิดข่าวอะไรก็คงไม่ได้แล้ว
แถมนาโอะยังบอกอีกด้วยว่านางเป็นเจ้าของงูบาฉี ต่อหน้าสาธารณะชนและเธอก็ได้ท้าทายเจ้าของเบม่อนอย่างเป็นทางการ
คนส่วนมากของรัฐบากลางนั้นหวังว่าจะให้เจ้าของงเบม่อนออกมากอบกู้ชื่อเสียงของรัฐบาลกลางแล้วเอาชนะอุเอะซึกินาโอะจากต่างแดนให้ได้
แต่ถึงอย่างนั้น คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้กันอยู่ดีว่าเจ้าของเบม่อนนั้นเป็นใคร แต่พวกเขาเองก็เดาๆกันไว้ว่าน่าจะเป็นคนของ6ตระกูล สื่อต่างๆเองก็กำลังกดดันอย่างหนักหวังว่าจะให้6ตระกูลออกมาตอบโต้แล้วให้เบม่อนออกมาสู้
แต่ผลก็อย่างที่เห็น 4วันผ่านไป 6ตระกูลใหญ่ก็ยังไม่ตอบโต้อะไร ทำให้คนในรัฐบาลกลางไม่พอใจอย่างมาก โจวเหวินเองก็พึ่งรู้ข่าวเรื่องนี้ เดิมทีมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรับคำท้าของนาโอะ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องแล้วเขาก็ไม่คิดจะไปตามคำท้าอยู่ดี
เพราะว่าเขาไม่มีผู้พิทักษ์ หมายความว่าเขาไม่มีทางเข้าไปในลูกบาศได้ในสงคราม ร่างกายเนื้อเปล่าๆนั้นไม่ได้นับเป็นระดับเร้นลับ และไม่สามารถเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในการจัดอันดับได้ด้วย
“โจวเหวิน เห็นข่าวรึยัง อยากไปร่วมการประลองรึเปล่า ยัยหน้าโอะอะไรนั่นมันชักจะปากดีเกินไปละนะ ไปตบสั่งสอนนางซักทีซิ”โจวเหวินเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วพบว่าการที่เขาหายไปหลายวันนั้น มีหลายๆคนทิ้งข้อความไว้เยอะมาก ข้อความนี้เป็นของหลี่ซวน
“คิดจะไปตามคำท้ารึเปล่า? ถ้าคิดจะไปละก็ อยากให้ช่วยอะไรบอกได้เลยนะ ตระกูลฉางของเราพร้อมสนับสนุนทุกอย่างเลย พี่ชายของฉันบอกมาแบบนี้”ฉางหยูฉีเองก็ส่งข้อความมา
มีข้อความอื่นๆอีก แต่ส่วนมากก็เกี่ยวกับเรื่องของนาโอะนี้ละ
“ไม่คิดจะทำตามคำท้า”โจวเหวินส่งข้อความตอบกลับไปหาทุกคน
“น่าเสียดายนะ ถ้านายโค่นยัยนั้นได้ นายจะกลายเป็นวีรบุรุษของรัฐบาลกลางคนใหม่เลยนะ เป็นฮีโร่ไง”หลี่ซวนตอบกลับ
“ฉันไม่เหมาะจะเป็นฮีโร่หรอก”โจวเหวินถามต่อ “จะว่าไปแล้ว ทางนั้นเป็นไงบ้างละ จะกลับมาเมื่อไร”
“เรียนรู้ใกล้จะจบแล้วละ เดี๋ยวอีก10วันถึงครึ่งเดือนก็จะกลับละ ทำไมอะ คิดถึงเพื่อนสุดหล่อเท่คนนี้รึไง”หลี่ซวนล้อ
“เออ คิดถึงดิวะ ถ้ากลับมาแล้วรีบบอกฉันเลยนะ”โจวเหวินตอนนี้รู้วิธีการพัฒนาวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณแล้ว ที่เขาต้องการต่อไปคือคู่ปรับที่แกร่งพอจะช่วยเขาให้มันกลายเป็นขั้นสมบูรณ์ได้ ซึ่งคิดไปคิดมาหลี่ซวนน่าจะเหมาะที่สุดแล้ว
“5555ได้เลย”หลี่ซวนดูอารมณ์ดี เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมาจะต้องเจอกับอะไร
หลังจากนั้นซักพัก อาเซิงก็ส่งข้อความมาเหมือนกัน “นายน้อยเหวินครับ เรื่องเซี่ยหยูคุนที่พูดถึง ทางคุณนายได้ไปตามสืบแล้วนะครับ เราได้พบหลักฐานการมีอยู่ของแผนกนั้น ทั้งหมด6คน รวมไปถึงเซี่ยหยูคุนด้วยครับ พวกเขาหายตัวไปในเวลาเดียวกัน คือตอนที่คุณชายออกเดินทางไปกับทีมสำรวจที่จงลู่ครับ”
“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับคนในกลุ่มนั้นจริงๆซินะ”โจวเหวินพูด
“ตอนนี้ตอบยากครับ เพราะว่าคนพวกนั้นให้เหตุผลกันมาต่างๆนานา ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดครับว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ไหม คงต้องรอสืบต่อไปครับ”อาเซิงพูด
“มันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่า คน6คนในแผนกออกพร้อมกันกับตอนที่ทีมสำรวจไปจงลู่ มันต้องเกี่ยวข้องกันแน่ๆ”โจวเหวินเชื่อปักใจว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ
“รอจนกว่าทีมสืบจะกลับมาครับ ถ้าไม่มีหลักฐานการจะสันนิฐานผิดทางนั้นเกิดขึ้นง่ายมาก”อาเซิงพิมพ์ต่อ “น้อยน้อยเหวินครับ คุณนายอยากให้คุณกลับมาที่คฤหาสต์หน่อยครับ”
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”โจวเหวินถามอย่างระแวง
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณนายแค่อยากจะให้นายน้อยไปดูงานดูตัวแค่นั้นเองครับ”อาเซิงพูด
โจวเหวินผงะทันที “นี้ฉันยังอยู่มหาลัยอยู่เลยนะ นางคิดอะไรเนี่ยถึงให้ฉันไปดูตัวหน่ะ”
อาซิงพิมพ์แบบอารมณ์ดี “ก็เป็นไปได้แหล่ะครับ เพราะคุณนายเคยจัดงานนัดบอดดให้กับท่านผู้การก่อนหน้านี้แล้ว แต่ผลที่ออกมาก็พังยับไม่เป็นท่า จนคุณนายล้มเลิกความคิดกับผู้การแล้วหันมาตั้งความหวังกับนายน้อยแทนที่จะมีลูกชายลูกสาวสืบสกุลตระกูลอัน”
โจวเหวินเหงื่อแตก “ช่วยบอกกับเธอทีได้ไหมว่าฉันคงกลับไปตอนนี้ไม่ได้”
อาเซิงพูด “เอาจริงๆ ผมคิดว่าผู้หญิงที่จะมาดูตัวกับนายน้อยก็ดูดีนะครับ เธอฉลาดมีเหตุผลมาก แล้วก็มีชาติตระกูลด้วย ที่สำคัญ เธอสวยมากเลยนะครับ..”
“ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันลอง…ลองคิดดูนะ”โจวเหวินพูด
“ผมคิดว่ายังไงนายน้อยก็ควรจะกลับมาครับ”อาเซิงพูด
“ฉันกลับไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ฉันมีเรื่องด่วนที่ต้องทำ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะ” โจวเหวินจะกลับไปได้ยังไงกัน ในเมื่อตอนนี้เขายังรู้สึกได้อยู่เลยว่าชายแก่คนนั้นกำลังพลิกแผ่นดินหาโจวเหวิน บางทีเขาอาจจะตามมาทันในวันเดียวกันได้ ถ้าโจวเหวินกลับไปตอนนี้เมืองลั่วหยางทั้งเมืองต้องชิบหายเพราะเขาแน่
“จะจัดการกับระดับความกลัวนั้นยังไงดีละ”โจวเหวินคิด แล้วไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
“ถึงฉันจะมีสัตว์อสูรตั้งหลายตัว แต่มันไม่ใช่ระดับความกลัวซักตัว มันไม่มีทางสู้ชายแก่นั้นได้เลย มีแค่ระดับความกลัวเท่านั้นที่สู้กับระดับความกลัวได้ …เดี๋ยวก่อนนะ ถึงฉันจะไม่มีระดับความกลัว แต่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีระดับความกลัวเองก็ได้นี้”โจวเหวินคิดอะไรได้บางอย่าง
ตอนที่ 886
ใต้ดินหลูไท่
ตอนที่โจวเหวินกำลังคิดหาวิธีการรับมือกับชายแก่คนนั้นอยู่นั้นเอง จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นสายของอันหลานหยาง
เพราะว่าตอนนี้มันเช้าแล้ว หลังจากรู้เรื่องจากอาเซิง อันหลานหยางเองก็คงโทรมาทันที โจวเหวินก็มีแต่ต้องรับเท่านั้น
“โจวเหวิน ไปไหนมาเนี่ย ทำไมหายหน้าหายตากันไปนานเลย”อันหลานหยางพูด
“ก่อนหน้านี้ผมไปงานประมูลกับตระกูลฉางมาครับ ตอนนี้กำลังกลับ”โจวเหวินพูด
“นี้เธอหายไปหลายวันมากๆแล้วนะ อย่าว่าแต่ไปหาตระกูลฉางเลย ต่อให้ไปต่างแดนป่านนี้ก็คงกลับมาถึงแล้วมั้ง”อันหลานหยางพูด
“ผมไปแวะบ้านเพื่อนมาด้วยหน่ะครับ”โจวเหวินแถ
“เพื่อนเหรอ ผู้ชายผู้หญิงละ”
“ชายครับ”โจวเหวินตอบ
“ผู้ชายมันจะไปดีอะไรละ รีบๆกลับมาได้แล้ว ฉันจะพาเธอไปดูตัว สาวคนนี้ดีมากๆเลยนะ ถ้าได้แต่งงานกันไปละก็เธอคงจะมีความสุขแน่ๆ”อันหลานหยางชมสาวเจ้าคนนั้นอีกรอบเหมือนกับว่าจะบอกเป็นนัยๆว่าถ้าโจวเหวินไม่แต่งงานกับเธอละก็ อันหลานหยางคงเสียหน้าแน่ๆ
“ตอนนี้ผมยังกลับไปไม่ได้หน่ะครับ”โจวเหวินพยายามหาข้ออ้าง
“ฉันไม่สนละ วันที่16เดือนนี้นะ เธอต้องกลับมาให้ได้ ฉันนัดดูตัวเธอไว้แล้ว กลับมาเจอหน้าคนในครอบครัวบ้างเถอะ มาก่อน ถ้าไม่ชอบยังไง ฉันก็จะไม่บังคับเธอแล้ว”อันหลานหยางดึงตัวโจวเหวินมาเข้างานนัดบอดให้ได้
“งั้นผมจะพยายามไปนะครับ”โจวเหวินไม่มีทางเลือก
“ไม่ใช่จะพยายาม แต่ต้องมาให้ได้นะ”อันหลานหยางพูดย้ำ “อ้อ แล้วก็เรื่องที่นาโอะท้าทายน่ะ เธอห้ามไปสู้กับนางนะ เรายังไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงของนางเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาละก็ ฉันอยากให้เธอสืบต่อวงตระกูลดีกว่า ฉันอยากเลี้ยงหลานนะ”
โจวเหวินพูด “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไม่ไปแน่”
สุดท้ายอันหลานหยางก็วางสายไป แล้วโจวเหวินก็ถอนหายใจยาวๆ เขาดูปฏิทิน แล้วดูวันที่16 โจวเหวินคิดแล้วตัดสินใจที่จะกลับ
1 เลยคือเขาไม่อยากให้อันหลานหยางผิดหวัง เขาต้องให้เกียรติเธอ อีกอย่าง โจวเหวินจำเป็นต้องกลับจริงๆด้วย
เพราะด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ เขาไม่พร้อมที่จะสู้กับชายแก่เลยซักนิด ต้นกล้วยเซียนก็ยังพัฒนาไม่เสร็จ เขาเลยต้องหาทางอื่นเพื่อจัดการกับชายแก่นั้นให้ได้
ไม่งั้น มันก็เหมือนกับว่าเขามีระเบิดเวลาห้อยติดตัวตลอดเวลา มันทำให้โจวเหวินจิตใจอยู่ไม่สุขเพราะชายแก่นั้นจะตามมาเจอโจวเหวินตอนไหนก็ไม่รู้
โจวเหวินเลยตั้งใจจะล่อชายแก่คนนั้นไปที่ภูเขาฉีซือ เขาตั้งใจที่จะล่อชายแก่คนนั้นไปหาจักรพรรดินี
แน่นอนว่านี้มันเป็นแค่ความคิดฝันหวานของโจวเหวินเอง ในการปฏิบัติจริงนั้นคงจะยากกว่านี้มาก จักรพรรดินีเองอาจจะไม่ยอมช่วยเขาเลยก็ได้
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ก็คงต้องหาทางอื่น แต่ตอนนี้ฉันมีอสูรปฐพีแล้ว ฉันสามารถมุดเข้าไปด้านในภูเขาฉีซือได้เลย เพราะงั้นถึงจักรพรรดินีจะไม่อยากช่วยแต่นางเองก็คงยอมให้ผู้พิทักษ์ตัวอื่นมาวุ่นวายทำลายภูเขาฉีซือก็คงไม่ได้” โจวเหวินคิดก่อนจะเดินทางกลับแล้วเข้าเกมส์ภูเขาฉีซือไป
รอบนี้เขามีอสูรปฐพีแล้ว เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าใช้พลังของอสูรปฐพีในการเข้าไปในภูเขาฉีซือกับหลูไท่ชั้นล่างจะได้ไหม
หลังจากที่เข้าเกมส์มา โจวเหวินก็ไม่รอให้ดอกไม้เปิดทางภูเขา เข้าใช้อสูรปฐพีมุดดินเข้าไปทันที หลังจากเข้ามาถึงหลูไท่แล้วโจวเหวินก็เก็บกวาดสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่อยู่ด้านใน ก่อนที่จะใช้อสูรปฐพีมุดลงไปยังพื้นที่สมบัติของหลูไท่
อสูรปฐพีนั้นใช้งานง่ายมากๆ มันพาโจวเหวินลงมาถึงชั้นใต้ดินของหลูไท่ ที่ๆมีแก้วแหวนเงินทองมากมายกองรวมกันอยู่ในห้องนี้ทับทมกันไปมาเหมือนภูเขา
แก้วแหวนเงินทองพวกนั้นโจวเหวินไม่สน ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่เอาออกไปจากเกมส์ไม่ได้อยู่แล้ว โจวเหวินเลยดูมันเฉยๆแล้วเปิดประตูต่อไปอีกห้องนึง เขาสำรวจรอบๆ
แต่ตอนที่เขาเปิดประตูออกไปนั้นเอง จู่ๆเขาก็เหมือนปลุกหมูป่าขนาดยักษ์ให้ตื่นขึ้นมาแล้วชนเข้าหาโจวเหวินอย่างแรง
โจวเหวินอัญเชิญเบม่อนออกมาแล้วให้มันไปจัดการกับหมูป่า
ถึงแม้ว่าหมูป่าจะแกร่งมากแต่ก็ยังอ่อนกว่าเบม่อนมาก สุดท้ายเบม่อนก็ทุบกะโหลกหมูแตกในที่สุด
“ทำการสังหารระดับเร้นลับ ปีศาจหมู”
ไม่มีอะไรดรอปออกมา ทำให้โจวเหวินเสียดายเล้กน้อย
ภายในชั้นใต้ดินของหลูไท่นั้นเป็นเหมือนกับเขาวงกตขนาดยักษ์ มีห้องมากมายในเขาวงกตและบางห้องก็จะมีสิ่งมีชีวิตต่างมิตติไม่ก็แก้วแหวนเงินทอง แต่ส่วนมากก็จะเป็นห้องเปล่าๆ
“ตอนที่เข้ามาในความเป็นจริงก่อนหน้านี้บรรยากาศรอบๆมันดูไม่เหมือนตอนนี้เลย คงจะอยู่ใต้จากนี้ไปอีกซิน””โจวเหวินเลยอัญเชิญอสูรปฐพีออกมาแล้วให้มันมุดดินลงไปอีกที
ซู่!
รอบนี้เขามุดดินแล้วโผล่ออกมาอีกทีเขาว่ายอยู่ในคูน้ำ
“ตอนที่ฉันเข้ามาในความเป็นจริง ฉันก็เข้ามาจากคูน้ำนี้ว่า คงไม่ไกลแล้วมั่ง”โจวเหวินมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติ และไม่มีสิ่งสำคัญอะไรโจวเหวินเลยว่ายน้ำทวนกระแสตามคูน้ำขึ้นไปหวังว่าจะเจอพื้นที่ ที่เหมือนความเป็นจริง
โจวเหวินจำได้ว่าที่ตรงนั้นมันมีผลึกจำนวนมหาศาล กองเป็นภูเขา และพอว่ายตรงไปตามคูน้ำเรื่อยๆ โจวเหวินก็เจอมันจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่ๆเขาไม่เคยมาก่อน แต่บนแทนหินในห้องนั้นมันมีผลึกกองเป็นภูเขาจริงๆ และเพราะว่าตอนนี้อยู่ในเกมส์ทำให้เขาสามารถมองค่อความสามารถของผลึกได้อย่างง่ายดาย ส่วนมากเป็นระดับมหากาพย์ แต่ระดับเร้นลับก็มีหลายลูก ผลึกระดับ70-80ก็ยังมีนอกเหนือจากนั้น โจวเหวินยังเห็นผลึกสกิลระดับเร้นลับอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น โจวเหวินก็สังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่หน้าตาดูเหมือนเสือ นอนอยู่ข้างกองผลึก ดวงตามองจ้องไปที่ตัวละครของโจวเหวิน
โจวเหวินเปิดก่อนได้เปรียบ เขาเรียกเบม่อนออกมาต่อยหัวของตัวนั้นทันที และด้วยความที่เบม่อนเป็นระดับเร้นลับขั้นสูง ทำให้เพียงแค่ดอกเดียวเท่านั้น เสือตัวนั้นก็ตายทันที
“พวกนี้เป็นของฉันแล้ว”โจวเหวินมองผลึกที่กองอยู่แล้วอยากจะหัวเราะ
แต่เขาก็เริ่มคิดขึ้นมา สิ่งที่เขาทำได้มีแต่ต้องดูดซับมันให้หมดเท่านั้น เพราะเขาเอามันออกไปไหนไม่ได้ โจวเหวินเองก็เหมือนจะดีใจเก้อไปทันที
ตอนที่ 887
ชูไอ
ที่คฤหาสต์ในลั่วหยาง อันหลานหยางจับมือของหญิงสาวคนหนึ่งแล้วพูด “นี่ หนูไอ อยู่ที่บ้านนี้อีกซัก2 3 วันก่อนซิ อย่าพึ่งรีบกลับ”
“มันจะดีเหรอคะ”ชูไอลังเล
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ แม่ของเธอกับฉันน่ะโตมาด้วยกันเลยนะ รักกันเหมือนพี่น้อง แล้วฉันก็เห็นเธอเหมือนลูกสาวคนนึงเลยด้วย เธอกับตระกูลของเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้เต็มที่เลยนะ เพราะถ้าฉันปล่อยให้เธอไปอยู่ข้างนอกละก็ ฉันคงไม่มีหน้าไปพบแม่ของเธอแน่ๆเลย”อันหลานหยางยิ้ม
“ถ้าเช่นนั้นก็ยินดีค่ะ ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ”ชูไอพูด
“เด็กคนนี้มารยาทงามจริงๆเลย อยู่ที่นี้ก่อนเถอะแล้วรอโจวเหวินกลับมา ฉันจะแนะนำเขาให้รู้จัก เขาอายุใกล้ๆกับเธอน่ะ บางทีอาจจะมีเรื่องให้คุยกันเยอะเลยนะ”อันหลานหยางหัวเราะ
“โจวเหวินนี้คือลูกชายของลุงหลิวเฟิงเหรอคะ”ชูไอถาม
อันหลานหยางพยักหน้า “ถึงเขาจะเป็นลูกของหลิงเฟิงก็จริงแต่นิสัยของเขาต่างจากพ่อเขาไปเลยนะ เขาจะแอบๆ ขี้อาย…นิดหน่อยน่ะ”
หลังจากที่ชูไอออกไปแล้ว อันหลานหยางก็ถามอาเซิงที่ยืนอยู่ข้างๆ “อาเซิง คิดว่าหนูไอคนั้นกับโจวเหวินจะเข้ากันได้ไหม ฉันคิดว่าหนูไอเป็นเด็กดีมากๆเลยนะ แล้วก็เหมาะสมกับโจวเหวินมากด้วย”
อาเซิงคิดซักแปปก่อนจะพูด “คุณหนูไอเป็นลูกสาวของจ้าวตระกูลชู ตระกูลชูไม่มีลูกชายมีแต่ลูกสาว2คนแล้วก็ได้ข่าวว่าคุณหนูไอเองก็เป็นลูกรักของจ้าวตระกูลชูด้วย คิดว่าเขาจะยอมให้คุณหนูไอแต่งงานเหรอครับ”
“แม่ของหนูไอกับฉันน่ะโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก ฉันไม่เป็นห่วงเรื่องการแต่งงานหรอกเพราะพวกเขาเองก็คงชอบอยู่แล้ว พูดมาเถอะ นายคิดว่าหนูไอเขาไม่เหมาะกับโจวเหวินงั้นเหรอ”อันหลานหยางพูด
“คุณหนูไอมีความรู้กว้างขวาง เป็นคนเรียบร้อย อ่อนโยน และมีมารยาทแถมเธอยังฉลาดมากด้วย เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมครับ”อาเซิงพูด
อันหลานหยางมองอาเซิง “ก็ยังบอกฉันอ้อมๆอยู่ดีนะ นายติดอะไรกับนิสัยของชูไองั้นเหรอ”
อาเซิงส่ายหัว “เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าคุณหนูไออาจจะฉลาดหลักแหลมเกินไปหน่อย นายน้อยเหวินเป็นคนตรงไปตรงมาอาจจะเข้ากันได้ยากหน่ะครับ”
อันหลานหยางยิ้ม “นายไม่เข้าใจหรอก เธออาจจะดูเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมุ่งมั่น และดูจะเป็นไปไม่ได้ที่คนตรงๆอย่างโจวเหวินจะเข้าหาได้ก็จริง แต่ฉันว่าถ้าให้เทียบกับผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยน่ะ พวกนั้นยากที่จะเข้าถึงโจวเหวินมากกว่าอีกนะ แต่คนที่ฉลาดอย่างชูไอหน่ะ ถ้าเธอตั้งใจจริงๆแล้วละก็ ฉันเชื่อว่ายังไงเธอก็ต้องหาทางเอาชนะใจโจวเหวินได้อยู่แล้วละ”
“คุณนายก็พูดถูกครับ”อาเซิงรับ
“รอให้โจวเหวินกลับมาแล้วให้พวกเขาได้เจอกันก่อน ฉันคิดว่าหนูไอเป็นเด็กที่ดีมากคนนึงเลยละ”อันหลานหยางคิดซักพักก่อนจะพูด “เรามีคนคอยจับตาดูฝั่งโน้นอยู่ด้วยใช่ไหม”
“มีอยู่ครับ”อาเซิงพูด
“ให้พวกเขาตรวจสอบมาหน่อย ว่าหนูไอชอบทำอะไรมีงานอดิเรกอะไร เพื่อโจวเหวินจะได้รู้จักเธอมากขึ้น”อันหลานหยางพูด
“รับทราบครับ”อาเซิงเข้าใจที่อันหลานหยางขอมา แต่เขาเชื่อว่าที่ให้เขาตรวจสอบนั้นคงไม่ใช่แค่งานอดิเรกแน่ๆ
…
เช้าวันต่อมา ชูไอไปที่พื้นที่ต่างมิติในลั่วหยาง พร้อมกับบอดี้การ์ดหญิงคนสนิทของเธอ
“คุณหญิงคะ ตอนนี้เราแทรกซึมเข้ามาในคฤหาสต์ได้แล้ว เราจะทำตามแผนต่อเลยดีไหมคะ?” ในพื้นที่ต่างมิติส่วนลึก บอดี้การ์ดพูดขึ้นมา
“อย่าพึ่งดีกว่า อย่าไปโดนหน้าตาใสซื่อของอันหลานหยางหลอกเด็ดขาดเลย เธอไม่ได้เชื่อเราง่ายๆขนาดนั้นหรอก เรื่องนี้ไม่ต้องรีบหรอก อยู่ในบ้านตระกูลอันต่ออีกหน่อยเถอะ”ชูไอพูด
“แต่อันหลานหยางดูเหมือนจะตั้งใจจับคู่คุณหญิงกับโจวเหวินนะคะ ถึงตอนนั้นแล้ว มันจะดีเหรอคะ”บอดี้การ์ดพูด
“ไม่มีอะไรแย่ซักหน่อย ถ้าฉันไม่อยากอันหลานหยางก็บังคับฉันไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่าง ฉันเองก็อยากจะรู้จักโจวเหวินคนนั้นเหมือนกัน ว่ากันว่าเขาคนเดียวก็สร้างปัญหาให้กับรัฐบาลกลางได้มากมายแล้ว ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหนเหมือนกัน”ชูไอพูด
“ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ จากข้อมูลที่เราได้รับมา ตระกูลเสี่ยก็เสียหายยับเยินเพราะเขา ตระกูลเคปกับตระกูลก๊อตก็ด้วย พยายามอย่าให้ความแตกนะคะ”บอดี้การ์ดพูด
“ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนี้ไม่มีทางจับได้แน่ๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่า ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลชู ชูไอคนนี้ แท้จริงแล้วคือเจ้าของมารสวรรค์ อุเอะซึกิ นาโอะน่ะ”ชูไอพูด
“ยังไงก็เถอะ ระวังไว้ก่อนจะดีกว่าเจ้าค่ะ ที่นี้ไม่ใช่ต่างแดน เราอยู่ในเขตแดนศัตรู และตอนนี้คุณหญิงคือ ชูไอ ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลชู อย่าได้เอ่ยชื่ออื่นระหว่างที่อยู่ที่นี่เด็ดขาดนะคะ”บอดี้การ์ดเตือน
“รู้แล้วละ”ชูไอพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรต่อ
….
โจวเหวินเร่งสำรวจหลูไท่ในโทรศัพท์ พื้นที่ด้านใต้ของหลูไท่นั้นมันใหญ่กว่าด้านบนมากเลย เขาเจอผลึกมากมายแต่เขาใช้การไม่ได้ซักอัน สถานการณ์ของโจวเหวินตอนนี้มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผลึกระดับเร้นลับอยู่ตรงหน้า แต่จะดูดซับมาก็ดูดซับไม่ได้
ผลึกระดับมหากาพย์สำหรับเขาก็เปล่าประโยชน์แล้วเช่นกันเพราะค่าความสามารถของเขามันตันไปแล้ว
“ในเมื่อฉันใช้เองไม่ได้งั้นฝากนายจัดการด้วยนะ”โจวเหวินอัญเชิญสัตว์อสูรหลักๆทั้งหลายออกมาแล้วให้มันเลือกกินผลึกเอาเอง โจวเหวินตั้งใจว่าจะรอตอนที่เขามารอบหน้า แล้วดูว่าผลึกมันรีไปด้วยไหม ถ้ามีรีไปด้วย เขาก็จะได้มีที่ปั้มผลึก
มารระเบิดกับแพทย์ปีศาจนั้นสนใจในผลึกพลังงานเป็นพิเศษ แต่สำหรับธิดาปีศาจแล้วก็ยังเหมือนเดิม แม้แต่ผลึกระดับเร้นลับก็ไม่ได้ทำให้เธอสนใจได้ เธอจะกินแต่แค่ผลไม้แห่งความเยาว์วัยเท่านั้น ซึ่งจำนวนก็เหลือน้อยลงเต็มที
ส่วนเบม่อนกับสดับวานรนั้นไม่ได้เป็นพวกเลือกกินเลย มันกินอะไรก็ได้มที่มีให้กัน มันจึงเขมือบผลึกลงท้องอย่างรวดเร็ว
โจวเหวินสำรวจหลูไท่ต่อนอกจากที่เขาจะตามหาขุมทรัพย์ในหลูไท่แล้ว เขายังอยากจะเจอร่างของจักรพรรดินีอีกด้วย
เขาไม่เชื่อหรอกว่าจักรพรรดินีจริงๆแล้วจะเป็นแค่ดอกไม้นั้น
แต่จนเขากลับถึงลั่วหยางจนป่านนี้เขาก็ยังหาตัวของจักรพรรดินีไม่เจอ ภายในหลูไท่นั้นมันซับซ้อนเกินไป ที่ๆโจวเหวินสำรวจไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น
ตามที่เขาสำรวจ โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่ามันต้องมีสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวอยู่ที่นี้แน่ๆ เพราะแค่ระดับเร้นลับธรรมดาที่เขาเจอในหลูไท่ ตอนนี้ก็ปาเข้าไป6ตัวแล้ว
โดยปรกตแล้วพื้นที่ต่างมิติปรกติอย่างวิหารแห่งเหล็กหลอมนั้นจะมีระดับเร้นลับแค่ตัวเดียว แต่ตอนนี้แค่หลูไท่ที่เดียวก็มีสัตว์อสูรระดับเร้นลับมากกว่า10ตัวแล้ว หมายความว่ามันไม่น่าใช่พื้นที่ต่างมิติปรกติแต่เป็นเหมือนดันเจี้ยนลับที่มีบอสโหดจัดอยู่ด้านใน
หลังจากกลับมาที่ลั่วหยางแล้วโจวเหวินคิดจะกลับไปที่มหาลัยก่อน แต่ตอนที่เขาเดินอยู่ที่ถนนนั้นเอง เขาก็พบว่าลูกบาศก์บนถนนนั้นส่องสว่างขึ้น พร้อมกับสัตว์อสูรที่โผล่ขึ้นมาท้าชิง เขาเลยเอาหยาเอ๋อไปดู
“โค้ชครับ กลับมาตั้งแต่เมื่อไรครับเนี่ย” โจวเหวินเดินอยู่ใกล้ๆลูกบาศก์นั้นเอง เฟิงชิวเยี่ยน เชดี้แล้วก็เกรฟก็เดินโบกมือมาทักทายเขาแต่ไกล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น