I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง 840-843

ตอนที่ 840

 

แมลงหัวใจทับทิม


ภายในทับทิมขนาดใหญ่นั้นดูด้วยตาเปล่าจะไม่เห็นอะไรแต่ถ้าโจวเหวินเปิดใช้วิญญาณชีวิตราชานรกเขาก็พบได้ทันทีว่าภายในทับทิมนั้นตรงกลางมีอะไรบางอย่างเหมือนแมงมุมฝังอยู่ในนั้น


“อะไรหน่ะ วิญญาณเหรอ”โจวเหวินถามหยาเอ๋อ


“แมลง”หยาเอ๋อตอบ


“ในนี้มีแมลงด้วยเหรอโจวเหวินตกใจนิดหน่อย เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะมีแมลงแฝงตัวอยู่ในอัญมณีแบบนี้ด้วย”


แต่พอลองคิดดูดีๆแล้วแมลงภายในนั้นอาจจะไม่มีวิญญาณแล้ว อาจจะเป็นแค่ซากแมลงเฉยๆ


“ก็ว่าอยู่ว่าทำไมหยาเอ๋อถึงเอาสร้อยนี้มา กลายเป็นว่ามีแมลงแปลกๆอยู่ในนี้ด้วย แต่ไม่รู้ว่ามันระดับไหนเนี่ยซิ”โจวเหวินหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วลองถ่ายรูปมันดูแต่โจวเหวินก็ต้องตกใจเพราะมันมีข้อมูลปรากฏขึ้นมา มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตต่างมิติแต่เป็นสัตว์อสูร


แมลงหัวใจทับทิม ระดับเร้นลับ


พลังชีวิต แม่หม้าย


วิญญาณชีวิต ราชินีหัวใจ


กรงล้อแห่งโชคชะตา แมลงความรัก


พลัง 72


ความเร็ว 80


ร่างกาย 71


พลังงานลมปราณ 80


สกิล พิษทำลายประสาท


สถานะสวมใส่ สร้อย


“มันเป็นสัตว์อสูรที่ฟักออกมาแล้วนี้ ทำไมมาอยู่ที่นี้ได้ละ แล้วเจ้าของมันไปไหน”โจวเหวินสงสัย ตามปรกติแล้ว ถ้าเกิดเจ้าของสัตว์อสูรตาย สัตว์อสูรก็จะหายไปพร้อมๆกับเจ้าของด้วย


แต่แมลงหัวใจทับทิมนี้ถ้าจะให้พูด มันถูกฟักออกมาแล้ว และถูกกักขังอยู่ในสร้อยคอ ส่วนเจ้าของก็ไม่รู้หายไปไหนซึ่งมันแปลกเอามากๆ โจวเหวินอยากจะตามหาตัวหลิวหยุนเพื่อถามเรื่องสร้อยคอนี้เพิ่มเติม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหาตัวหลิวหยุนไม่เจออีกแล้ว เขาเลยเข้าไปหาในเน็ตเพื่อดูข้อมูลด้วยตัวเอง หลังจากที่หามาได้วักพัก โจวเหวินก็เจอ “นี้มันสร้อยคอที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณก่อนหน้าที่จะมีพายุต่างมิตินี่ แปลกแหะ สัตว์อสูรมีตั้งแต่สมัยนั้นเลยเหรอ”


โจวเหวินคิดแล้วถาม หยาเอ๋อ “เธอควบคุมแมลงข้างในนี้ได้ไหม”โจวเหวินถถามหยาเอ๋อ


หยาเอ๋อพยักหน้า เอาจริงๆแล้ว ที่หลิวหยุนดวงซวยมาตลอดทั้งวันนั้นจริงๆแล้วเป็นเพราะสร้อยคอนี้มากกว่า


“ถ้างั้นเธอเก็บไว้เองเถอะ เผื่อว่าถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาในอนาคตจะได้ปกป้องตัวเองได้ไง”โจวเหวินคืนสร้อยให้หยาเอ๋อ


แต่หยาเอ๋อส่ายหัว แล้วพูด “ให้นาย เลี้ยงฉัน อย่า ทิ้งฉัน…ไปไหนอีก…”


พอโจวเหวินได้ยินแบบนั้น เขาก็คิดขึ้นมาได้ทันทีว่าจริงๆแล้วหยาเอ๋อเป็นคนๆหนึ่ง เธอไม่ใช่สิ่งของหรือสัตว์อสูร เธอมีความคิดและความรู้สึก การที่เขาทิ้งหยาเอ๋อไว้แบบนั้นมันทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นคง


โจวเหวินหยิบสร้อยคอขึ้นมาแล้วสวมให้หยาเอ๋อ เขาแตะหัวของหยาเอ๋อก่อนจะพูด “ฉันเป็นคนตั้งชื่อให้กับเธอนะ รู้ไหมว่าคนที่ตั้งชื่อให้ใครซักคนนึงได้ คนนั้นต้องเป็นอะไร”


หยาเอ๋อส่ายหัว เธอยังไม่เข้าใจเรื่องนี้


โจวเหวินพูด “มีแค่ญาติเท่านั้นแหล่ะที่จะตั้งชื่อเด็กในครอบครัวได้ ชื่อของเธอ ฉันเป็นคนตั้งใจให้เอง เธอเป็นเหมือนญาติ เหมือนน้องสาวของฉันมากกว่า เพราะงั้น ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทิ้งเธอไปไหนอีกนะ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนเข้าใจไหม”


หยาเอ๋อมองโจวเหวินแล้วส่ายหัวเธอดูจะไม่เข้าใจคำพูดพวกนั้นเท่าไร


“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวต่อไปเธอก็จะเข้าใจเอง ฉันไม่ต้องการอะไรจากเธอหรอก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็จะเลี้ยงดูเธอ ฉันจะอยู่กับเธอ สุขกับเธอและเศร้าไปพร้อมเธอนะ…”โจวเหวินพยายามจะคิดหาทางให้หยาเอ๋อเข้าใจ แต่เขาเองก็เป็นคนที่EQต่ำทำให้เขาเองก็ลำบากเหมือนกันในการรีดประโยคออกมาพูดได้


และเพราะสร้อยคอนี้มันดูดึงดูดสายตาเกินไป โจวเหวินเองก็ไม่ใช่คนชอบของเก่าด้วยเขาเลยแยกชิ้นส่วนของสร้อยออกมา ภายนอกของสร้อยนั้นเป็นของประดับตกแต่งมากมาย มีเพียงแค่ทับทิมขนาดใหญ่และใจกลางของมันเท่านั้นที่เป็นแมลงหัวใจทับทิม โจวเหวินเอาทับทิมนั้นติดกับสร้อยแล้วห้อยคอของหยาเอ๋อไว้ ส่วนเครื่องประดับอย่างอื่นไม่จำเป็นก็เก็บไว้แยกกันเพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่จำเป็น


ด้วยความที่ว่าโจวเหวินสังเกตได้ถึงสภาพทางจิตใจของหยาเอ๋อที่ผิดปรกติไป โจวเหวินเลยงุ่นง่านพยายามอยากจะทำให้หยาเอ๋อรู้สึกดีขึ้นแต่เขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี


เดิมทีโจวเหวินเป็นคนที่เลี้ยงดูตัวเองมาตั้งแต่เด็กเขาเลยไม่รู้ว่าความรักจากพ่อแม่มันเป็นยังไงหรือการขาดความรักมันเป็นยังไง เขายิ่งไม่รู้เลยด้วยว่าจะดูแลคนอื่นให้ดีได้ยังไง


โจวเหวินเลยพยายามใช้เวลาอยู่กับหยาเอ๋อให้ได้มากที่สุด พาหยาเอ๋อไปเดินเล่น ไปซื้อของกินอร่อยๆ ไปซื้อของเล่น แต่โจวเหวินเองก็ไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงเขาเล่นอะไรกัน เอาจริงๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กผู้ชายเล่นอะไรกัน เพราะเขาเองก็ไม่เคยเล่นของเล่นเหมือนกันตอนเขายังเด็ก


หลังจากที่คิดแบบนั้นแล้ว โจวเหวินเลยซื้อมือถือให้หยาเอ๋อเครื่องนึงแล้วสอนเธอใช้งานมัน สมัครอีเมลและแอคเค้าทุกอย่างให้ เผื่อว่าในอนาคตต้องห่างกันไกล หยาเอ๋อจะได้โทรหรือส่งข้อความมาหาเขาได้


หยาเอ๋อเองก็ดีใจมาก เธอนั่งจิ้มโทรศัพท์อยู่นานสองนานเลย


แต่ถึงอย่างนั้น เธอกลับไม่ได้สนใจพวกเกมส์หนังหรือรายการทีวีเลยแม้แต่น้อย แต่เธอกลับเรียนรู้วิธีการใช้เพื่อส่งข้อความหาโจวเหวินล้วนๆ เธอยังไม่สามารถพิมหรือเขียนได้ จะใช้ส่งข้อความเสียงเธอก็พูดมากไม่ค่อยได้อีกมันจึงเป็นปัญหามาก


แต่ถึงอย่างนั้นหยาเอ๋อยังพยายามเต็มที่เพื่อเรียนรู้วิธีการพิมพ์


โจวเหวินเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาฟาร์มในระหว่างนั้น วันนี้เขาดวงดีมากจริงๆ หลังจากที่เขารีเกมส์ทะเลใต้ดินแล้ว เขาก็ฆ่ามังกรเลือดอสูรและดรอปไข่ออกมาอีกครั้ง


มังกรเลือดอสูร (เฉิน) ระดับเร้นลับ


วิญญาณชีวิต เลือดมังกรอสูร (ไม่สมบูรณ์


วิญญาณชีวิต มังกรเฉิน (ไม่สมบูรณ์)


กรงล้อแห่งโชคชะตา เชื่อมมังกร(ไม่สมบูรณ์)


พลัง 80


ความเร็ว 80


ร่างกาย80


พลังงานลมปราณ 80


สกิล ไฟมังกร กายมังกร ร่างมังกรแท้จริง มังกรเกรี้ยวกราด


สถานะเกราะเกล็ดมังกร(ไม่สมบูรณ์)


ถ้าไม่นับคำว่าเฉินข้างหลัง มังกรดำตัวนี้แทบจะเป็นตัวเดียวกับตัวที่แล้วเลย ทั้งสกิลทั้งค่าความสามารถเหมือนกันเป๊ะ


“ไม่รู้ว่ามันรวมร่างกันได้ไหมนะ”โจวเหวินลองกดรวมร่างมันดูแล้วพบว่ามันเข้ากันได้มากถึง99% หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาด


โจวเหวินลองรวมร่างมันดู ยังไงเขาก็ใส่ชุดเกราะเกล็ดมังกรได้แค่อันเดียวอยู่แล้ว เขาเลยอยากลองรวมร่างมันก่อน


แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ขึ้นในเกมส์”การรวมร่างไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถรวมร่างได้”


“หมายความว่าไงหน่ะ”โจวเหวินไม่เข้าใจคำว่ารวมร่างไม่สมบูรณ์เท่าไร แต่เขาเดาว่าเขาต้องเก็บมังกรให้ครบ9ตัวก่อนถึงจะรวมร่างได้


ทางฝั่งภูเขาต้าหลูโจวเหวินก็ไปฟาร์มอีกครั้งแต่เขาไม่เจอสัตว์อสูรอะไรเลย


ยาชุบชีวิตเองก็สุ่มดรอปมากๆ โจวเหวินจนถึงตอนนี้ก็ยังฟาร์มไข่สัตว์อสูรไม่ได้เลย

 

 

 


ตอนที่ 841

 

กลับไปที่สุสานมารอีกครั้ง


และอีกครั้งตอนที่เขารีเกมส์ภูเขาต้านหลู โจวเหวินก็ได้ฟาร์มอยู่ดีๆ เขาใช้ดาบทองคำฟาดฟันยาไปทีละลูกทีละลูก ทันใดนั้นโจวเหวินก็เห็นขวดยาประหลาดถูกพ่นออกมาจากภูเขาต้านหลู


ยานั้นไม่ใช่สีแดงหรือสีทองไม่ใช่สีขาวล้วนลายมังกร และไม่ใช่สีดำล้วนลายเสือด้วย มันเป็นสีขาวครึ่งดำครึ่ง ลายมังกรครึ่งนึงลายเสือครึ่งนึง มันดูแปลกและเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีเสียงมังกรและเสียงเสือคำรามใส่กันดังออกมาเบาๆจากขวดยานั้น


เพล้ง


ดาบทองคำฟันขวดยาจนแตก ตัวยาปราณมังกรถูกทำลายแต่ปราณพยักฆ์ยังคงพุ่งผ่านดาบทองคำพุ่งเข้าใส่โจวเหวินต่อ ดาบทองคำนั้นพึ่งฟันไปทำให้ไม่สามารถชักกลับมาฟันได้ทัน โจวเหวินเลยอันเชิญเบม่อนออกมาแล้วใช้มือตบปราณพยัคฆ์ลงพื้นอย่างแรง


ปราณพยักฆ์นั้นถึงจะจมดินไปแล้วแต่มันก็เหมือนจะเรียกปราณมังกรขึ้นมาใหม่แล้วพุ่งตรงเข้าหาเบม่อน แต่เบม่อนก็ตบซ้ำลงไปอีกหลายรอบจนต้องเปิดใช้สุดยอดพลังแล้วต่อยรัวๆเข้าใส่ขวดยานั้นจนกระทั้งแตกสลายออกไปในที่สุดความเร็วในการฟื้นฟูของยามันไม่เพียงพอ


“ทำการสังหารสิ่งมีชีวิตระดับเร้นลับ ยาทิพย์พยัคฆ์มังกร และได้รับไข่สัตว์อสูร


ทันทีที่ข้อความในเกมส์แจ้งเตือนขึ้นมา เขาก็พบว่ามีไข่สัตว์อสูรดรอปอยู่ ด้วยความดีใจเขาจึงรีบเข้าไปฟักทันที


ยาทิพย์พยักฆ์มังกร ระดับเร้นลับ


พลังชีวิต วิญญาณมังกรเกรี้ยว


วิญญาณชีวิต พยัคฆ์มังกรผสาน


กรงล้อแห่งโชคชะตา ชุบชีวิต


พลัง 80


ความเร็ว 80


ร่างกาย 80


พลังงานลมปราณ 81


สกิล ไม่มี


สถานะสวมใส่ ยาทิพย์ (ครั้งเดียว)


“นี้มันยาชุบชีวิตที่ฉางหยูฉีเคยบอกไว้นี้ มันสามารถทำให้คนที่ตายแล้วกลับมามีชีวิตได้จริงๆเหรอ”โจวเหวินมองคุณสมบัติของขวดยาแล้วอดดีใจไม่ได้


ค่าความสามารถอื่นๆก็ธรรมดาแหล่ะ แต่กรงล้อแห่งดวงชะตาของมันนั้นค่อนข้างแข็งแกร่งมาก ความสามารถในการชุบชีวิตนั้นเป็นอะไรที่โกงมาก แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงแค่นั้นเอง


แต่ถึงจะจริงไม่จริง แต่มันก็น่าจะเป็นตัวช่วยชีวิตชั้นยอด ถึงจะชุบชีวิตจริงๆไม่ได้ แต่มันก็น่าจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสได้แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว การได้ยาแบบนี้มาทำให้โจวเหวินมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่โชคร้ายที่ตอนนี้ยาที่ฟาร์มไปนั้นมันหมด81ลูกแล้ว


ในช่วงนี้มันมีข่าวเกี่ยวกับตระกูลฉางน้อยมาก และฉางหยูฉีเองก็ยังไม่กลับมาเลย ถึงแม้ว่าวันประมูลจะใกล้เข้ามาแล้วก็ตาม เช้าวันต่อมา โจวเหวินก็พาหยาเอ๋อไปเดินเล่นตามปรกติ แต่ตอนที่เขาเดินไปข้างแม่น้ำนั้นเอง เขาก็เห็น ฉางชุนชิวนั่งอยู่ริมแม่น้ำ


“บังเอิญจังเลยนะ”โจวเหวินเดินเข้าไปหาพร้อมหยาเอ๋อ


“ไม่บังเอิญละ ฉันมารอนายอยู่เลย”ฉางชุนชิวพูด


โจวเหวินพูด “แล้วทำไมไม่ไปหาฉันที่โรงแรมละ


ฉางชุนชิวพูดด้วยสีหน้าอ่อนแรงล้ามาก แต่เขายังคงฝืนยิ้มแล้วพูด “ช่วงนี้หนักมากเลยละ ฉันเองก็อยากจะมาสูดอากาศแถวๆนี้ด้วยเหมือนกัน”


“แล้วมีเรื่องอะไรละ”โจวเหวินถาม


“เรื่องที่สุสานมารมันวุ่นวายยิ่งกว่าเดิมซะอีก มีคนตายเป็น10แล้ว พวกเขาต่างกระโดดลงไปบนพื้นของสุสานแล้วก็กลายเป็นรูปปั้นหินเวทมนตร์กันหมด


“ไม่มีคนคอยเฝ้าระวังเลยเหรอ”โจวเหวินตกใจ


“เปล่าประโยชน์หน่ะ ไม่มีใครรู้ว่าใครจะกระโดดเป็นคนต่อไป บางทีคนที่เฝ้าระวังนั้นละจะเป็นคนกระโดดซะเอง เราพยายามคิดหาวิธีการทุกอย่างแล้ว แม้แต่อพยพคนจากสุสานมารก็แล้ว  แต่ก็ยังมีคนแอบไปที่สุสานมารเพื่อกระโดดเองอยู่ดี”ฉางชุนชิวพูดแล้วถอนหายใจ


“แล้วมีอะไรให้ฉันช่วยได้บ้างไหม”โจวเหวินเริ่มรู้สึกสงสารทั้งฉางหยูฉีและฉางชุนชิว ถ้าเขาช่วยอะไรได้ เขาก็จะช่วย


ฉางชุนชิวส่ายหัวแล้วพูด “ตอนนี้มันยังไม่มีวิธีไหนที่ใช้ได้เลย แต่ที่ฉันมานี้ไม่ใช่เพราะสุสานมารหรอก”


“แล้วทำไมถึงมาตามหาฉันละ”โจวเหวินถามด้วยความสงสัย


ตระกูลฉางตอนนี้กำลังเจอปัญหาใหญ่อยู่ เพราะงั้น การที่ฉางชุนชิวที่เป็นคนสำคัญของตระกูลมาหาเขาได้มันต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆแน่ๆ


“ฉันมาที่นี้เพื่อขออะไรนายบางอย่าง ทางตระกูลฉางได้ติดต่อกับมหาลัยซีหยางไว้แล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไร หยูฉีจะย้ายเข้าไปอยู่ในมหาลัยซีหยางในฐานะครูพิเศษ ฉันอยากจะให้นายดูแลเธอให้ที เพื่อนของเธอมีน้อย ฉันไม่กล้าขอเรื่องนี้กับคนอื่นเลย”ฉางชุนชิวพูด


“สุสานมารมันอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ”โจวเหวินรู้ดีเลยว่าถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆตระกูลฉางคงไม่มีทางส่งฉางหยูฉีออกจากภูเขาหลงหูเพื่อไปที่มหาลัยซีหยางหรอก


แต่การตัดสินใจแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อตระกูลฉางหมดหนทางของจริงแล้ว


“ถ้าเกิดจบงานประมูลเมื่อไร ฉันจะให้หยูฉีกลับลั่วหยางไปพร้อมนายเลย ถ้าตระกูลฉางผ่านสถานการณ์นี้ไปได้เมื่อไร ฉันจะไปรับเธอกลับเอง”ฉางชุนชิวพูด


โจวเหวินรู้สึกได้ว่าโอกาสเข้ามาถึงแล้วเขาเลยมองหน้าฉางชุนชิวแล้วพูด “ถึงฉันจะไม่ได้รู้เรื่องสุสานมารเยอะ แต่ฉันมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่พอจะช่วยเรื่องนี้ได้นะ เพราะงั้น ให้ฉันลองเข้าไปสำรวจข้างในหน่อยได้ไหม”


“การที่นายมาช่วยตระกูลฉางของเราก็ดีใจมากแล้ว แต่สุสานนั้นเป็นพื้นที่ที่อันตรายมากๆนะ คนที่เข้าไปในนั้นอาจจะกระโดดลงไปในสุสานได้โดยไม่รู้ตัว ฉันเกรงว่า…”ฉางชุนชิวไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ความหมายของเขาชัดเจน


“ฉันเคยไปที่สุสานมารมาก่อนแล้ว ถ้ามันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแล้วฉันหนีไม่ได้ ก็ขอให้รู้ไว้ว่าฉันทำตัวเอง พวกนายไม่ผิดอะไรหรอก”โจวเหวินพูดความจริง


เพราะเอาจริงๆแล้วการสำรวจที่โจวเหวินว่านั้นเป็นแค่ข้ออ้าง เขาแค่อยากถ่ายรูปสลักรูปมือแล้วโหลดเกมส์มาเท่านั้น แต่หลังจากที่โจวเหวินโหลดเกมส์เสร็จแล้ว เขาก็สามารถเข้าสุสานมารในเกมส์ได้ แล้วก็อาจจะแก้ปัญหาของตระกูลฉางได้อีกด้วย


“แล้วจะไปเมื่อไรละ”ฉางชุนชิวถาม


“เร็วเท่าไรยิ่งดี เรื่องนี้รอไม่ได้”โจวเหวินพูด


“ถ้าเป็นงั้นเราไปกันเลยเถอะ”ฉางชุนชิวพาโจวเหวินขึ้นนกกระเรียนอีกครั้ง


โจวเหวินแอบดีใจ รอบนี้เขาจะได้เข้าใกล้สุสานมารแล้วถ่ายรูปสลักรูปมือซักที ตอนที่เขาไปถึงสุสานมารอีกครั้ง มีคนของตระกูลฉางคอยเฝ้าระวังมากกว่าเดิมมากๆ ในแต่ละแท่นหิน มีคนอย่างน้อย4คนนั่งจ้องหน้ากันเองคอยมองซึ่งกันและกันไม่ให้เกิดอันตรายอะไรขึ้น

 

 

 


ตอนที่ 842

 

ขุดสุสานมาร


“ชุนชิว ทำไมถึงพาเขามานี้ละ” ชายชราคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นฉางชุนชิวมาพร้อมโจวเหวิน


“ลุงครับ  โจวเหวินเขาบอกว่ามีสกิลที่สามารถทำการสำรวจแบบพิเศษได้ เขาอาจจะช่วยเราหาปัญหาในสุสานมารได้ครับ ผมเลยพาเขามาลองดู”ฉางชุนชิวไม่ได้พูดว่าโจวเหวินเป็นคนขอมาเอง


“งั้นก็รีบเลย อย่าเสียเวลา”ชายแก่ไม่พูดอะไรต่อ


ฉางชุนชิวพาโจวเหวินไปที่บริเวณหน้าสุสานมาร โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าปราณมารที่นี้มันเข้มข้นมาก ตอนที่เขามาครั้งล่าสุดนั้นปราณมารมันยังไม่เยอะขนาดนี้เลย


แถมยังมีหินเวทมนตร์ตามพื้นเต็มไปหมดเลยด้วย รูปปั้นหินทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าและท่าทางที่ต่างกันออกไป นี้น่าจะเป็นคนของตระกูลฉางที่เผลอกระโดดลงไปแน่ๆ


“แล้วจะสำรวจยังไงละ ต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม”ฉางชุนชิวถามโจวเหวิน


“ฉันต้องเข้าไปสำรวจใกล้ๆหน่ะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะขอถ่ายรูปด้วย”โจวเหวินพูด


“ถ่ายรูปอะได้แต่เร็วหน่อยก็ดี ตอนที่นายเข้าไปใกล้สุสานมารนั้น ห้ามนายเกินเส้นหรือแตะกับหินเวทมนตร์โดยเด็ดขาดนะ ไม่งั้นนายจะเป็นเหมือนพวกเขาแน่นอน”ฉางชุนชิวชี้ไปที่เส้นสีแดงที่ชี้อยู่กลางอากาศ เส้นสีแดงนั้นอยู่เหนือจากสุสานมารประมาณ 10เมตร


“โอเค ไปได้รึยัง”โจวเหวินคิดและลองคำนวณดูแล้ว ระยะ10เมตรมันก็ไกล้มากพอที่จะเข้าไปถ่ายรูปได้แล้ว”


“ไปได้เลย ขอให้เจออะไรนะ”ฉางชุนชิวพูด


โจวเหวินเดินขึ้นไปบนฟ้าด้วยวิชาจ้าวปีศาจ ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้แพทย์ปีศาจผสานวิญญาณกับตัวเองแล้วใช้สกิลลำแสงส่องทะลุสาดส่องไปทั่วสุสานมาร


เอาจริงๆดวงตาส่องทะลุนั้นทำอะไรไม่ได้เลย มันไม่สามารถมองทะลุหินหรือโลหะได้ ที่โจวเหวินทำก็แค่แสดงให้ตระกูลฉางเห็นและเข้าใจว่า เขากำลังสำรวจและตรวจสอบอยู่จริงๆ ไม่ได้แค่มาเล่นๆ


ตระกูลฉางพอเห็นลำแสงส่องทะลุสาดส่องไปทั่วๆสุสานแล้วพวกเขาก็มองกันไปมาอย่างสงสัย


โจวเหวินนั้นแสร้งทำเป็นแบบนั้น จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป เอาจริงๆลำแสงส่องทะลุนั้นมองไม่เห็นอะไรซักอย่าง ที่โจวเหวินทำคือแค่ต้องการเอาโทรศัพท์ไปถ่ายรูปสลักเท่านั้น


พอเกมส์เริ่มโหลดแล้ว โจวเหวินก็คลายเครียดลง หลังจากทำหน้าตาเคร่งเครียดมองดูด้านหลังสุสานมารเรียบร้อยแล้ว โจวเหวินก็เดินกลับมาที่แท่นหิน


“เป็นไง เจออะไรไหม”ฉางชุนชิวพูด ตระกูลฉางคนอื่นๆก็มองโจวเหวินด้วยสายตาคาดหวัง


“ตอนนี้ยังไม่เห็นปัญหาอะไร แต่เดี๋ยวฉันขอกลับไปคิดก่อน บางทีอาจจะคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง”โจวเหวินพูด


“โอเค”ฉางชุนชิวส่งโจวเหวินกลับโดยที่ไม่พูดอะไรมาก


หลังจากที่โจวเหวินกลับไปที่ห้องพักแล้ว เขาก็เปิดเกมส์ขึ้นมาทันที เหตุผลที่เขาโหลดมานั้นก็เพราะ 1 เขาอยากรู้เกี่ยวกับสุสานนี้จริงๆ 2คือเขาอยากจะช่วยตระกูลฉาง เขาไม่อยากจะเห็นครอบครัวของฉางหยูฉีต้องตายแล้วส่งเธอมาลี้ภัยที่มหาลัยซีหยาง


เกมส์นั้นดาวโหลดเสร็จแล้วชื่อในเกมส์ของมันคือสุสานมารตามเดิม


โจวเหวินเปิดเข้าเกมส์ไปสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา คือภูเขาที่โอบล้อม นี้คือจุดที่สุสานมารตั้งอยู่ พร้อมกับหินเวทมนตร์ที่แพร่กระจายไปทั่ว


โจวเหวินพอเห็นหินเวทมนตร์บนพื้นแล้ว พวกมันมีหน้าตาแปลกประหลาดกันออกไปเพราะมีคนจำนวนมากโดดลงไปตายกันแล้ว แต่โจวเหวินอยู่ในเกมส์มันไม่มีหน้าใดๆทั้งนั้น


ตามที่ฉางชุนชิวบอก หลังจากที่มนุษย์แตะหินเวทมนตร์แล้ว ใบหน้าของคนๆนั้นจะโดนสูบไปที่หินเวทมนตร์ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะกลายเป็นหินเวทมนตร์ซะเอง


โจวเหวินเชื่อว่าเบม่อนนั้นสามารถกินหินเวทมนตร์ได้อย่างไม่มีปัญหา โจวเหวินเลยลองอัญเชิญสัตว์อสูรมาหลายหลายชนิดแล้วให้แต่ละตัวเหยียบลงพื้นของหินเวทมนตรซึ่งผลของมันก็ทำให้รู้ว่าสัตว์อสูรทุกตัวกลายเป็นหินไปหมด โจวเหวินลองอัญเชิญเบม่อนออกมาด้วย แล้วให้เบม่อนลงไปที่หินเวทมนตร์ เบม่อนนั้นทำท่าทีเหมือนกำลังจะเป็นแต่อัตราความเร็วในการเปลี่ยนเป็นหินนั้นช้ามาก


“มันจะกลายเป็นหินไหมนะ”หลังจากนั้นโจวเหวินก็สั่งเบม่อนให้ใช้สุดยอดพลัง ทำให้ตัวของมันไม่กลายเป็นหินอีกต่อไป โจวเหวินถอนหายใจ โชคยังดีที่เบม่อนนั้นแกร่งมากพอไม่งั้นก็ไม่มีทางเข้ามาในนี้ได้แน่ๆ


เพราะว่าเดิมทีสุสานมารนั้นมันไม่มีทางเข้าอยู่แล้ว ไม่มีปากหลุมด้วย เพราะงั้นเวลาขุดต้องขุดทั้งหลุมขึ้นมาเลยซึ่ง งานนี้ตกอยู่กับเบม่อนเต็มๆ ตระกูลฉางนั้นมีการฝึกวิชาอาคมโบราณ แต่ถึงอย่างนั้น สุสานมารก็ยังขุดออกมาไม่ได้ ไม่งั้น อมรณาจะตื่นขึ้นมา แล้วถ้าถึงตอนนั้น โลกทั้งโลกจะมอดไหม้และไม่เหลืออะไรอีกเลย


ในความเป็นจริง โจวเหวินก็ไม่กล้าขุดหรอก แต่ในเกมส์ เขาพร้อมรับได้ทุกอย่าง


ภายใต้คำสั่งของโจวเหวิน เบม่อนก็เปิดใช้สุดยอดพลัง แล้วต่อยลงไปในสุสานมารด้วยความแรงสูงก่อนที่จะใช้เขาที่หัวหมุนเป็นสว่านเจาะเข้าไปในหินจนเศษหินเวทมนตร์แตกกระจายไปหมด เบม่อนแค่เริ่มขุดเท่านั้น แต่เหมือนกับว่าจู่ๆใบหน้าบนหินเวทย์มนตร์ก็เหมือนมีชีวิต พวกมันลุกขึ้นมาบนพื้นแล้วกลายเป็นรูปปั้นหิน


รูปปั้นหินนั้นพุ่งตัวเข้าใส่เบม่อน โจวเหวินเลยรีบส่งสัตว์อสูรหลายตัวเข้าไปสู้ เพื่อขัดขวางพวกมัน ให้เบม่อนได้ทำงาน


และเพราะว่าพวกมันเป็นหินเวทมนตร์สัตว์อสูรที่โจวเหวินส่งไปนั้นจึงไม่ใช่สัตว์อสูรที่เขาใช้ต่อสู้หลักๆ พวกมันเป็นแค่ระดับมหากาพย์ทั้งหลาย มีระดับเร้นลับแค่ตัวเดียวคือตรีสูญเทพทองคำ


ความเร็วของรูปปั้นพวกนั้นเหมือนจะเป็นแค่ระดับมหากาพย์ แต่พอพวกมันระเบิดตัวแตกไปนั้น พวกมันก็ฟื้นกลับขึ้นมาไม่รู้จักจบจักสิ้น


และถ้าเกิดแตะโดนตัวของรูปปั้นหินพวกนั้นเมื่อไรสัตว์อสูรของโจวเหวินจะกลายเป็นหินเวทมนตร์ทันทีซึ่งมันน่ารำคาญพอสมควรเลย


ยิ่งสถสานโดนขุดมากเท่าไร พวกรูปปั้นหินก็โผล่ขึ้นมามากขึ้นและมากขึ้นเท่านั้น รูปปั้นจากที่เคยเป็นแค่รูปปั้นหินรูปคน ตอนนี้มันกลายเป็นรูปปั้นหินเทพและรูปปั้นหินมารพุ่งเข้าใส่เบม่อนแล้ว


ตอนนี้เบม่อนเปิดใช้สุดยอดพลังอยู่ทำให้มันไร้เทียมทาน ถึงแม้ว่าหินเวทมนตร์พวกนั้นจะโดนตัวยังไงแต่เบม่อนก็ไม่แข็งเป็นหิน พวกมันแค่มารุมล้อมเบม่อนเหมือนเป็นกลุ่มมดรุมตอมเท่านั้น


“ไม่มีทางกำจัดมันเลยเหรอ”โจวเหวินสงสัย เขาลองใช้พลังหลายๆอย่างดูแล้วแต่ผลที่ออกมาก็เปล่าประโยชน์เขาทำลายรูปปั้นได้แต่สุดท้าย มันก็ฟื้นคืนชีพกลับมาอยู่ดี แถมในเกมส์ก็ไม่ได้มีการแจ้งเตือนอะไรเลยด้วย เหมือนกับการทุบหินให้แตก ไม่ได้ฆ่ามันจริงๆ

 

 

 


ตอนที่ 843

 

หน้ากากศิลา


แกร๊ง


ตอนที่เบม่อนขุดเจาะลงไปในสุสานนั้นเอง เขาของมันก็เหมือนจะเจาะโดนเข้ากับอะไรบางอย่างเสียงเหมือนโลหะ เบม่อนจึงเลิกขุดโดยอัตโนมัติก่อนจะมองเข้าไปในหลุมสุสานมาร


ภายในสถสานมารนั้นมีใบหน้าของคนขนาดยักษ์แบบเดียวกับที่ปรากฎบนหินเวทมนตร์ แต่ใบหน้านั้นใหญ่กว่ามากและปล่อยกลิ่นอายแปลกๆสีขาวๆออกมา


โจวเหวินมองที่หน้านั้นแต่จู่ๆ ใบหน้ามันก็ลอยขึ้นมาด้วยตัวเอง ตอนนั้นเองที่เขาพบว่ามันไม่ใช่ใบหน้าแต่เป็นหน้ากากศิลา


“ดูเหมือนว่าเรื่องใบหน้าบนหินเวทมนตร์จะเกิดจากหน้ากากนี้ซิน””โจวเหวินสั่งให้เบม่อนต่อยหน้ากากนั้นทันทีเขาอยากจะรู้ว่าหน้ากากนั้นทำอะไรได้บ้าง


หมัดสุดยอดพลังของเบม่อนต่อยเข้าเป้าเต็มๆ ทำให้โจวเหวินผงะไปเล็กน้อย เขารู้ว่ามีสัตว์อสูรแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถรับหมัดตรงๆของเบม่อนแบบนั้นได้ การโดนเข้าไปจังๆแบบนั้นอย่างน้อยก็ต้องมีบาดเจ็บสาหัสบ้างละ


แต่ในตอนที่โจวเหวินกำลังสงสัยนั้นเอง ภายใต้ฝุ่นควันที่ตลบอบอวนอยู่นั้น จู่ๆหน้ากากศิลาก็พุ่งเข้าใส่หน้าของเบม่อน ก่อนจะรัดตัวเองเข้าสวมใบหน้าของเบม่อนโดยไม่ทันให้โจวเหวินได้ตั้งตัว


ขนาดของหน้ากากนั้นมันปรับให้พอดีกับขนาดหน้าของเบม่อนเป๊ะๆ โจวเหวินเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมา ถึงแม้ว่าเบม่อนจะพยายามดิ้นฉีกกระชากเอาหน้ากากออกจากหน้า ร้องคำรามยังไง แต่มันก็ดึงไม่ออก แรงที่พยายามดิ้นนั้น น้อยลง และน้อยลงทุกที จนกระทั้งโจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าเขาไม่สามารถควบคุมเบม่อนได้อีกต่อไปแล้ว


ตู้ม!!!


หมัดตรงของเบม่อนพุ่งเข้าใส่ตัวละครของโจวเหวินทันที แต่โจวเหวินสามารถหลบได้ทำให้หมัดพุ่งเข้าใส่กำแพงหินจนเป็นรูขนาดใหญ่ พลังมหาศาลของเบม่อนนั้นไม่ได้ลดไปเลย มันต่อยซ้ายขวา โจมตีโจวเหวินอย่างไม่ลดละ เดิมทีพลังของโจวเหวินนั้นไม่มีทางสู้ตรงๆกับเบม่อนได้เขาจึงทำได้แค่หลบไปมา


ระหว่างที่หลบนั้นโจวเหวินก็คอยสังเกตหน้ากากไปพร้อมๆกับพยายามเชื่อมต่อวิญญาณกับเบม่อนด้วย การเชื่อมต่อวิญญาณตอนนี้ไร้ผล หน้ากากศิลานั้นควบคุมเบม่อนได้เต็มรูปแบบแล้ว ความสามาถของมันทำให้โจวเหวินตกใจได้มากทีเดียว


“ดูเหมือนว่ามีแต่ต้องลองแล้วซินะ ถ้าฉันทำลายหน้ากากนั้นได้ ฉันจะทำให้เบม่อนเป็นอิสระได้ไหมนะ”โจวเหวินสวมผ้าคลุมล่องหนแล้วหายตัววับไปทันที


เบม่อนนั้นเป็นสัตว์อสูรสายพลังล้วน ในการต่อสู้แบบปะทะหน้า มันไม่เคยกลัวใคร แต่ตอนนี้โจวเหวินหายตัวไปแล้ว มันจึงมองซ้ายขวาพยายามหาตัวโจวเหวินไปพร้อมๆกับหน้ากากศิลาแต่ก็ไม่เห็นตัวโจวเหวินแม้แต่น้อย


ทันใดนั้นเองแสงดาบล่องหนของดาบแสงก็ฟาดใส่หน้ากากศิลาบนหน้าของเบม่อนเต็มๆ ผ่ากลางครึ่งจนหลุดออกจากหน้าของเบม่อน แต่เบม่อนก็ยังไม่เป็นอิสระ หน้ากากที่แตกออกไปนั้นจู่ๆก็งอกออกมาจากหน้าของเบม่อนอีกครั้ง กลายเป็นหน้ากากอันใหม่และเบม่อนก็ยังตกอยู่ใต้การควบคุมของมัน


โจวเหวินล่องหนต่อไปแล้วพยายามใช้ดาบแสงฟันเข้าใส่เรื่อยๆ ไม่ว่าเขาจะฟันเข้าไปซักกี่ครั้ง หน้ากากก็จะงอกขึ้นมาใหม่เสมอ วิธีการนี้ใช้ไม่ได้ผลเลย หน้ากากยังคงติดแน่นอยู่กับหน้าเบม่อนอยู๋ดี


“มันไม่มีทางที่มันจะไม่มีจุดอ่อนเลยซิ ปัญหาคืออะไรกันละที่เป็นจุดอ่อนของมันกันแน่”โจวเหวินตอนนี้หายตัวอยู่ในเงามืด แล้วใช้วิญญาณชีวิตราชานรกกับสดับวานรมองดูและฟังเสียงพยายามหาจุดอ่อนของหน้ากากศิลาให้เจอ


รวมไปถึงใช้ลำแสงส่องทะลุของแพทย์ปีศาจด้วย ทำให้หน้ากากศิลาไม่สามารถซ่อนอะไรไว้จากสายตาโจวเหวินได้เลย


แต่ถึงอย่างนั้น ตัวหน้ากากศิลาเองไม่มีจุดอ่อนเลย มันทำมาจากหินสีเทาที่ไม่มีลักษณะเด่นอะไรซักอย่าง


ต่างจากพวกสิ่งมีชีวิตธาตุน้ำที่โจวเหวินเคยเจอ สิ่งมีชีวิตธาตุน้ำพวกนั้นถึงแม้ว่ามันจะสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้ใหม่เรื่อยๆ และแตกตัวเองได้ตลอด แต่ภายในร่างน้ำของมันนั้นจะมีแกนกลางอยู่ซึ่งถ้าทำลายแกนกลางของมันได้ มันก็จะตายทันที


แต่หน้ากากศิลานั้นไม่ใช่ มันไม่มีแกนกลาง แต่ไม่ว่ามันจะโดนฟันทำลายทิ้งซักเท่าไร มันก็จะงอกออกมาจากหน้าของเบม่อนใหม่ ถึงแม้ว่ามันจะถูกเป่ากระจุยเป็นผุยผงไปแล้วก็ตาม


“มันจะไม่มีจุดอ่อนอะไรเลยจริงๆเหรอ”โจวเหวินมองดูตั้งนาน2นานแต่เขาก็ยังไม่เห็นจุดอ่อนของหน้ากากศิลา


ธิดาปีศาจที่แอบซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุมล่องหนก็ยังไม่โจมตี แม้แต่นางเองก็หาจุดอ่อนของหน้ากากศิลาไม่ได้ นางเลยไม่คิดจะโจมตีออกไป


“แม้แต่ฉันกับธิดาปีศาจยังหาจุดอ่อนไม่ได้ ก็เป็นไปได้แล้วละว่ามันจะไม่มีจุดอ่อน…หรือไม่จุดอ่อนของมันก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวมันเอง”โจวเหวินเริ่มเปลี่ยนความคิด เขาย้ายความสนใจของตัวเองไปยังจุดที่เบม่อนเจอหน้ากากศิลาในหลุมศพ


สุสานมารนั้นเต็มไปด้วยหินเวทมนตร์สีขาวเทาหลังจากที่หน้ากากศิลาลอยออกมาจากหลุมแล้ว หินเวทมนตร์ก็ก่อตัวกันขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเกิดเป็นใบหน้าขึ้นมา


โจวเหวินตอนนี้ไม่สนใจอะไรแล้ว เขาต้องลองทุกอย่างที่ทำได้ เขาใช้ดาบแสงพุ่งเข้าแทงหน้าในหลุมนั้นทันที


จุดที่ดาบแทงลงไปนั้นจู่ๆเลือดสีดำก็พุ่งขึ้นมาอย่างกับเป็นน้ำพพุ หน้ากากบนใบหน้าของเบม่อนก็กระตุกและบิดเบี้ยวก่อนจะมีรอยแตกจุดเดียวกับที่โจวเหวินแทง


ตอนที่เลือดสีดำพุ่งออกมาจนหมด หน้ากากก็แตกออกแล้วล่วงลงมาอยู่ที่พื้น


“ทำการสังหารหน้ากากวิญญาณมารระดับเร้นลับ”ข้อความในเกมส์แจ้งเตือนขึ้นมา


“ไม่มีอะไรดรอปเลยเหรอ”โจวเหวินเสียใจนิดหน่อย ดูเหมือนว่ายาพยัคฆ์มังกรที่พึ่งดรอปไปนั้นทำให้ดวงของเขามันหมดไปแล้ววันนี้จึงไม่มีของอะไรดรอปเลย


หลังจากที่หน้ากากศิลาถูกทำลายไปแล้ว เบม่อนก็อยู่ในการควบคุมของโจวเหวินอีกครั้ง ใบหน้าบนหินเวทมนตร์ก็ถูกทำลายไปทั้งหมด


“ดูเหมือนปัญหามันจะกิดมาจากหน้ากากวิญญาณมารนั้นซินะ ไม่รู้ว่ามันเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดของตระกูลฉางรึเปล่า ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ปัญหาของตระกูลฉางก็แก้ได้แล้วละ”โจวเหวินคิด แล้วให้เบม่อนขุดต่อว่าข้างใต้นั้นมันมีอะไรกันแน่


เมื่อไม่มีรูปปั้นหินเวทมนตร์คอยขัดขวางแล้ว เบม่อนก็ขุดเร็วขึ้นมาก มันขุดแล้วกินหินเวทมนตร์ไประหว่างทางเพื่อเติมพลังงาน ขุดและขุดไปเรื่อยๆจนกระทั้งจู่ๆเบม่อนก็หยุดลงอีกครั้ง แต่หยุดรอบนี้หยุดแบบวิญญาณหลุดออกจากร่าง มันยืนนิ่งอยู่ในหลุมไม่ว่าโจวเหวินจะสั่งการยังไงมันก็ไม่ทำตามคำสั่ง”


“เกิดอะไรขึ้นหน่ะ”โจวเหวินขมวดคิ้วแล้วมองลงไปในหลุม ภายในหลุมนั้นลึก7-8เมตรได้แล้ว แต่ข้างใต้นั้นเหมือนกับว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเบม่อนอยู่ด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)