หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 943-944

 บทที่ 943 หัตถ์ใต้

ท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ


มู่เฉินยืนกลางอากาศ ขณะมองไปที่สามเหลี่ยมสีดำด้วยแววตาอัศจรรย์ใจ อุณหภูมิโลหะก็กำลังเพิ่มขึ้น


ตั้งแต่มู่เฉินได้วัตถุชิ้นนี้มา นี่เป็นครั้งแรกที่สิ่งนี้มีการตอบสนอง


วัตถุนี้ลึกลับมาก เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนเอาไปซ่อนในรอยแตกมิติเหลื่อมซ้อน ถ้าไม่ใช่เข็มทิศค้นวิญญาณมู่เฉินก็คงหาไม่เจอแน่นอน


ตามการคาดเดาของมู่เฉินวัตถุชิ้นนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน แต่จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษในการใช้งาน นั่นเป็นเพราะมู่เฉินไม่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าจะพยายามเทคลื่นหลิงลงไปก็ตาม


แต่โชคดีที่ตอนนี้มันตอบสนองแล้ว…


“เพราะก้อนแสงเหล่านั้นเหรอ?” ดวงตาของมู่เฉินเปล่งประกายขณะจ้องมองไปที่ก้อนแสงทั้งห้าที่ใจกลางทะเลสาบ จอมยุทธ์จำนวนมากกำลังวิ่งดักไปทุกทิศทางอยู่ในขณะนี้ แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ราวกับว่าก้อนแสงทั้งห้าก้อนมีสติปัญญารู้วิธีหลบหนีดี


โลหะสามเหลี่ยมสีดำมีปฏิกิริยาตอบสนอง ตั้งแต่มู่เฉินเข้าสู่ศูนย์กลางของทะเลสาบแห่งนี้ ดังนั้นเขามีความมั่นใจถึงเก้าส่วนว่านี่เกิดจากก้อนแสงเหล่านั้น


เพื่อพิสูจน์การคาดเดาของตน มู่เฉินก็เพิ่มความเร็วทะยานเข้าไปหาก้อนแสงเหล่านั้นอย่างรวดเร็วทันที เมื่อเข้าไปใกล้เขาก็ตระหนักว่าวัตถุสามเหลี่ยมร้อนขึ้นมากกว่าเดิม


“ใช่จริงๆ…”


ดวงตามู่เฉินสว่างวาบ นอกจากนี้เขายังไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เมื่อเขาเริ่มเข้าใกล้ก้อนแสงเหล่านั้นก้อนแสงก็ดูเหมือนจะชะลอตัวลงเล็กน้อย ราวกับสัมผัสถึงบางอย่างที่คุ้นเคย


“วัตถุนี้มีประโยชน์เหมือนกันแฮะ!”


มู่เฉินยินดีในใจเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ จากนั้นก็เร่งความเร็วให้ถึงขีดสุด โดยไม่ลังเลเขาพุ่งเข้าหาก้อนแสงที่พร่างพราวที่สุดในหมู่ทั้งห้าก้อน


เขาสังเกตเห็นก้อนแสงนั้นเปล่งประกายเป็นพิเศษ ซึ่งขนาดก็ใหญ่กว่าก้อนอื่นเป็นเท่าตัว มองก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ของธรรมดา ก่อนหน้านี้มีเหล่าจอมยุทธ์หลายคนพยายามดักจับ แต่สุดท้ายก้อนแสงก็ลดเลี้ยวหลบหลีกหนีไปจากมือพวกเขาได้


ก้อนแสงเหล่านั้นราวกับสามารถพุ่งผ่านมิติ การเคลื่อนไหวนี้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกยังเทียบไม่ได้ แต่ชัดว่าก้อนแสงเหล่านั้นไม่สามารถหลุดออกจากทะเลสาบได้ ไม่อย่างนั้นกระทั่งจอมยุทธ์ระดับซุยนอนก็คงตามไม่ทัน


เป้าหมายของมู่เฉินชัดเจนมาก แต่เมื่อคนอื่นเห็นเขาเข้าหาก้อนแสง พวกเขาก็อดยิ้มเยาะไม่ได้


นั่นเป็นเพราะก่อนหน้าพวกเขาได้เห็นความเร็วของก้อนแสงนี้แล้ว จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกเกือบสิบคนร่วมมือกันล้อมดักจับ แต่กลับบินว่อนเป็นแมลงวันหัวขาดเลยทีเดียว


แม้ว่าทุกคนจะกลัวความแข็งแกร่งของมู่เฉินที่ได้แสดงเป็นที่ประจักษ์ในการต่อสู้กับโยวหมิงและฟังยี่ แต่ความแข็งแกร่งก็ไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดในขณะนี้


ดังนั้นคนที่แต่เดิมอยู่ด้านหน้ามู่เฉินก็เปิดทางให้ ปล่อยให้มู่เฉินไล่ตามก้อนแสงไปจนหนำใจ ชัดว่าพวกเขาตั้งใจจะดูชายหนุ่มคนนี้ทรมานบ้าง


ทว่ามู่เฉินไม่ได้ใส่ใจกับความคิดของผู้อื่น เมื่อไม่มีคนกีดขวาง ร่างเขาก็วูบไหวและอยู่ห่างจากก้อนแสงไม่เกินหนึ่งร้อยจั้ง


เมื่อทุกคนเห็นว่ามู่เฉินเข้าไปภายในรัศมีร้อยจั้งได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่กังวล ซ้ำยังชะลอความเร็วด้วยความสนใจและยิ้มพรายพร้อมกับหรี่ตามองภาพตรงหน้า


มู่เฉินเห็นคนเหล่านั้นที่หยุดดูราวกับเขาเป็นคนโง่ ทันใดนั้นมุมปากของเขาก็ยกเป็นมุมโค้งที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เนื่องจากเขาค้นพบว่าโลหะสามเหลี่ยมสีดำในมือมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนคล้ายกับลาวาแล้ว…


มู่เฉินยกมือขึ้นพร้อมกับวัตถุสีดำหันหน้าไปทางก้อนแสงที่กำลังจะหลบหนี


ทันใดนั้นมู่เฉินก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าวัตถุในมือของเขาสั่นรุนแรง ราวกับเสียงหึ่งที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้กระเพื่อมออกไปในชั้นบรรยากาศ


ขณะที่บรรยากาศครื้นเครง ก้อนแสงที่อยู่ห่างออกไปร้อยจั้งที่กำลังจะหลบหนีก็หยุดชะงักลงทันที


ฟิ้ว!


ขณะนั้นเองแสงก็พวยพุ่งในดวงตาของมู่เฉิน ประกายแสงเบ่งบานที่แผ่นหลัง ปีกหงส์ฟ้ากางออก ความเร็วของเขาไปถึงขีดสุดทันที


วาบ!


เพียงวูบเดียวเขาก็พุ่งออกมาร้อยจั้งแล้ว เมื่อมู่เฉินปรากฏตัวเหนือก้อนแสง มือก็ราวกับสายฟ้าฟาดคว้าก้อนแสงเข้ามาไว้ในมือ ก่อนที่จะมีใครมีปฏิกิริยาตอบสนอง


ทันทีที่มู่เฉินจับก้อนแสงได้ทั้งทะเลสาบก็เงียบกริบ แต่ละคนที่ตั้งใจจะดูมู่เฉินเป็นตัวตลกก็ตัวแข็งทื่อ กรามที่ค้างกว้างดูตลกมาก


“ขะ…เข…เขา…เขาคว้าแสงก้อนนั้นมาได้เรอะ?!” พักใหญ่ในที่สุดก็เกิดเสียงอุทานดังขึ้น น้ำเสียงตะกุกตะกักสะท้อนรุนแรงในหัวใจ


พวกเขาไม่คิดเลยว่าก้อนแสงที่พวกเขาพยายามจับจะเข้าไปอยู่ในมือของมู่เฉินอย่างง่ายดาย…


“เป็นไปได้อย่างไร…”


ทุกคนอึ้งไปขณะที่รู้สึกเจ็บปวดในใจ แสงก้อนนั้นเป็นก้อนแสงที่ส่องสว่างที่สุด ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน อาจจะเป็นของเหลวหลิงเสินที่พวกเขาตามหา แต่ตอนนี้กลับถูกมู่เฉินคว้าไปครอบครองได้อย่างง่ายดาย


ผลกระทบของฉากนี้ยิ่งใหญ่กว่าตอนที่มู่เฉินเอาชนะโยวหมิงและฟังยี่เสียอีก


“เอ่อ…”


ภายใต้สายตาตกตะลึงที่จ้องมานับไม่ถ้วน มู่เฉินก็อึ้งไปเช่นกัน ผลลัพธ์นี้เกินความคาดหมายของเขาไปไกล เขาเพียงต้องการลอง แต่ไม่คิดว่าก้อนแสงจะหยุดเคลื่อนไหว ปล่อยให้เขาจับมาได้จริงๆ


เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะโลหะลึกลับสีดำชิ้นนี้


หลังจากอึ้งไปชั่วครู่ ความสุขก็สะท้อนอย่างรวดเร็วในดวงตาของมู่เฉิน จากนั้นเขาถอยเร็วจี๋ ในเวลาเดียวกันจอมยุทธ์จากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ทะยานออกมาโดยตั้งใจที่จะเข้าปกป้อง ในเวลานี้เขาตกเป็นเป้าหมายของทุกกองทัพแล้ว


มู่เฉินตอบสนองอย่างรวดเร็ว บวกกับการขู่ขวัญที่เขาแสดงออกไปตอนที่เอาชนะโยวหมิงและฟังยี่ ทำให้แม้จอมยุทธ์เหล่านั้นต้องการจะเคลื่อนไหว แต่ช่วงเวลาลังเลสั้นๆ ก็ทำให้มู่เฉินสามารถหลบหนีจากตรงส่วนที่วุ่นวายนี้ได้


แต่เมื่อมู่เฉินรู้สึกโล่งใจ เสียงคำรามก็ดังกึกก้องที่ขอบฟ้า “ไอ้เด็กเหลือส่งของมา!”


ตู้ม!


เมื่อเสียงแผดออกมาเพลงดัชนีที่หาตัวจับยากก็ซัดลงมา แยกมิติออกจากกัน พุ่งไปที่หัวของมู่เฉิน


การจู่โจมฉับพลันทำให้มู่เฉินตกใจ แต่โชคดีที่เขาระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ปีกหงส์ฟ้าที่ด้านหลังกระพือขึ้นลงช่วยเขาหลบกระบวนท่านั้นไปได้


ฟิ้ว!


การโจมตีคมชัดพุ่งไปทางด้านหลังของมู่เฉิน เขารู้สึกเจ็บปวดรุนแรง แต่ก็ไม่มีเวลามาใส่ใจกับอาการดังกล่าว ใบหน้ามืดมนเงยขึ้น ที่ด้านบนชายสูงวัยสวมชุดสีแดงเคลื่อนลงมาอย่างช้าๆ สายตาที่คมชัดราวกับงูพิษจับจ้องอยู่ที่มู่เฉิน คลื่นหลิงทรงพลังพันรอบตัว


“หัตถ์ใต้… ”


เมื่อมู่เฉินเห็นอีกฝ่าย หัวใจก็ดิ่งลง นั่นเป็นเพราะจอมยุทธ์ผู้นี้เป็นหนึ่งในสี่หัตถ์ของหมู่ตึกเทวะ ซึ่งชายคนนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวในการขัดขวางจอมพลทั้งสาม กลับยืนนิ่งอยู่ในมุมมืดเพื่อรอโอกาส


และตอนนี้เขาเล็งเป้ามาที่มู่เฉินอย่างชัดเจน


ที่ด้านหลังเมื่อจิ่วโยวและคนอื่นๆ เห็นว่ามู่เฉินตกเป็นเป้าของหัตถ์ใต้ ใบหน้าแต่ละคนก็เปลี่ยนไปรุนแรงและเร่งความเร็วขึ้นไปอีก แต่มิติเบื้องหน้าพวกเขากลับบิดเบี้ยว ร่างคนหลายคนปรากฏขึ้นซึ่งนี่ก็คือจอมยุทธ์จากหมู่ตึกเทวะ


“ฮี่ๆ ข้าว่าพวกแกรออยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะ!” หัวหน้ากลุ่มนี้ก็คือเทียนหลงจู่ เขาหัวเราะพลางโบกมือลง จอมยุทธ์ที่ด้านหลังก็พุ่งออกมาราวกับพยัคฆ์ร้าย เข้าขัดขวางสมาชิกอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือมู่เฉิน


มู่เฉินสังเกตเห็นสถานการณ์วุ่นวายที่ด้านหลัง เมื่อตระหนักได้ว่าพรรคพวกถูกขัดขวาง หัวใจเขาก็จมลง…


“ไอ้เด็กเหลือขอ ส่งของนั่นมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า มิฉะนั้นวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเจ้า!” หัตถ์ใต้กล่าวอย่างช้าๆ ขณะที่จ้องมองมู่เฉิน


เขารู้ว่านี่จะดึงดูดความเย้ยหยันเข้าหาตัวเองแน่นอน หากเขาปะทะกับมู่เฉิน แต่เขาก็ไม่ใส่ใจอะไรตอนนี้แล้ว หากของเหลวหลิงเสินตกอยู่ในมือของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ละก็ ท่านประมุขของพวกเขาคลั่งแน่นอน


“หมู่ตึกเทวะไร้ยางอายจริงๆ ให้หนึ่งในหัตถ์ผู้ยิ่งใหญ่มาจัดการกับเด็กอย่างข้าเนี่ยนะ?” ใบหน้าของมู่เฉินมืดครึ้มขณะที่เอ่ยเย้ยหยัน


“อย่าคิดถ่วงเวลา ในเมื่อเจ้าไม่อยากส่งมาดีๆ งั้นข้าก็ไปเอาเองละกัน!”


ทว่าหัตถ์ใต้ไม่ได้รับผลกระทบจากคำเยาะเย้ยของมู่เฉิน เขายิ้มน่าขนลุกก่อนจะโบกมือ จากนั้นก็กระโจนเข้าหามู่เฉินพร้อมกับเสื้อคลุมพลิ้วไหวในสายลม คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระเบิดด้วยแรงกดดันที่ทำให้มู่เฉินรู้สึกหายใจลำบาก


แม้ว่าเกาะหินจะระงับคลื่นพลังไว้ได้ แต่หัตถ์ใต้ก็สามารถบดขยี้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งที่มี


มู่เฉินมองไปที่หัตถ์ใต้ซึ่งดูราวกับเหยี่ยว แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นหลายส่วน ในเมื่อไอ้แก่ตัวนี้ บีบบังคับผู้อื่นจริง ดูท่าเขาต้องเผยไพ่ตายออกมาบ้างแล้ว


เมื่อคิดถึงจุดนี้ กระดานหินเก่าแก่ก็ปรากฏขึ้นในมือของมู่เฉินในพริบตา


บทที่ 944 กระดานเทพปฏิยุทธ์

กระดานหมากโบราณหนึ่งฉื่อปรากฏในมือมู่เฉิน


โดยมีอักขระซับซ้อนและลึกลับสลักอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมองให้ละเอียดก็จะเห็นรูปปั้นประณีตบนกระดานหมากซึ่งดูเหมือนมีชีวิต แปลกตามาก


กระดานหินนี้เป็นวัตถุที่มู่เฉินได้รับจากซากอารยธรรมความตายซึ่งจักรพรรดิเทียนเจิ้นเป็นคนส่งมอบให้กับมือ กระดานนี้มีนักรบหนึ่งพันนายที่ทรงพลังสถิตอยู่


แต่วัตถุนี้เป็นประเภทอาวุธใช้ครั้งเดียวต้องทิ้ง เมื่อไรที่ใช้เสร็จสิ้นกองทัพก็จะสลายหายไป ดังนั้นมู่เฉินจึงไม่เคยตั้งใจจะใช้ แต่สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมาก เขาจึงไม่สามารถเก็บมันเอาไว้อีก มิเช่นนั้นถ้าตายไปแล้วจะมีสมบัติไว้เพื่ออะไร?


“หึ ไอ้เด็กเวร ยังคิดจะต่อต้านอีกเหรอ? ดื้อด้านจริง!” เมื่อหัตถ์ใต้เห็นการกระทำของมู่เฉินก็เค้นเสียงเย็นชา แม้ว่าจะมีคลื่นผันผวนแปลกประหลาดเล็ดลอดออกมาจากกระดานหิน แต่เขาก็ไม่ได้กลัว เพราะแม้ว่าคลื่นหลิงของเขาถูกระงับในเวลานี้ แต่ก็ไม่ยากนักที่จะฆ่ามู่เฉิน


พูดจบเขาก็กางฝ่ามือออก คลื่นหลิงป่าเถื่อนรวมตัวกัน ในเวลาไม่กี่อึดใจก็ก่อร่างเป็นขนนกเพลิงสีแดง เปลวไฟลุกโชนพลุ่งพล่านอยู่ด้านบน


อุณหภูมิในบริเวณนี้ร้อนระอุขึ้นทันที


“คัมภีร์เทพหั่วหวง ขนเพลิงเผาสวรรค์!”


ทว่าแม้เขาจะไม่กลัวมู่เฉิน แต่หัตถ์ใต้ก็เป็นจอมยุทธ์ชั้นยอดของภูมิภาคทางเหนือ เขามีความระมัดระวังตัวมาก ดังนั้นจึงไม่ได้ออมมือในการโจมตีเพราะเห็นมู่เฉินอ่อนแอ หากกระบวนท่าคัมภีร์เทพนี้ซัดใส่ กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ตายคาที่แน่นอน


“เจ้าแพะแก่ของหมู่ตึกเทวะไร้ความปรานีนัก เขาถึงขนาดใช้คัมภีร์เทพจัดการกับมู่เฉินเลย…”


เมื่อจอมยุทธ์สำนักอื่นเห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกบางคนก็มีสีเคร่งเครียดลงหลายส่วน ความเหี้ยมโหดและเด็ดขาดของหัตถ์ใต้เกินความคาดหมายแท้จริง มู่เฉินที่เผชิญกับการโจมตีทรงพลังนี้คงไม่รอดแล้ว


หัตถ์ใต้ยืนอยู่บนท้องฟ้า เขามองมู่เฉินด้วยสายตาเหี้ยมเกรียมก่อนที่จะชี้นิ้วลง


ฮึ่ม!


ทันทีที่นิ้วชี้ออกไป ขนนกเพลิงก็ยิงออกมา เปลวสีแดงครอบครอบไปทั่วเส้นขอบฟ้าราวกับจะกลืนกินฟ้าดิน เมื่อเปลวไฟส่งเสียงคราง ก็ก่อร่างเป็นหงส์ฟ้าลุกโชติพุ่งไปทางมู่เฉินพร้อมกับไฟล้างโลก


เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวของหัตถ์ใต้ แม้แต่มู่เฉินก็รู้สึกเย็นเยือกในหัวใจ หากเขาไม่มีกระดานเทพปฏิยุทธ์ การเผชิญกับการโจมตีครั้งนี้เขาอาจจะต้องจ่ายราคามหาโหดด้วยจริงๆ


“ไอ้แพะแก่ตัวนี้…”


มู่เฉินสถบด่าในใจขณะกัดฟันกรอด เขาไม่ลังเลอีกต่อไป คลื่นหลิงเทลงไปยังกระดานหินทันที


ฮึ่ม!


พร้อมกับการอัดคลื่นหลิงลงไป กระดานหินโบราณก็ปะทุขึ้นโชติช่วง ร่างเงาจำนวนมากทะยานออกมา ทันใดนั้นคลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา ก่อตัวเป็นผนึกรัศมีจั้นยี่ปะทะกับขนนกเพลิง


ปัง!


คลื่นกระแทกน่าขนพองสยองเกล้ากระจายออก มิติในระยะหนึ่งพันจั้งกระเพื่อมด้วยวงคลื่น ทำให้จอมยุทธ์บริเวณใกล้เคียงกระอักเลือดและลมปราณผันผวนในร่าง พวกเขารีบถอยหนีกันจ้าละหวั่น


หลังจากทรงตัวได้ พวกเขาก็พุ่งสายตาไปตรงจุดปะทะ จากนั้นใบหน้าถูกแทนที่ด้วยความตกใจสุดขีด


นั่นเป็นเพราะที่ตรงนั้นมู่เฉินยังคงยืนอยู่ได้โดยไม่มีบาดแผลใดๆ การจู่โจมที่น่ากลัวจากหัตถ์ใต้ก่อนหน้าไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บอะไรเลย?!


“นั่นอะไร?!”


พวกเขาอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่อุทานดังขึ้น เมื่อตระหนักได้ว่ามีแสงสีเทากำลังกระจายอยู่ด้านหลังมู่เฉิน ในแสงสีเทานั่นมีกองทัพทหารหนึ่งพันนายในชุดเกราะสีเทา…


และรัศมีจั้นยี่น่าขนพองสยองเกล้าก็พลุ่งพล่านออกมาจากกองทหารหุ้มเกราะสีเทาเหล่านั้น


“ดูเหมือนข้าดูถูกแกไปหน่อย ไอ้เด็กเหลือขอ!”


บนท้องฟ้า หัตถ์ใต้ตื่นตะลึงไปวูบหนึ่ง เมื่อเห็นกองทหารหุ้มเกราะสีเทาที่ปรากฏขึ้นกะทันหันด้านหลังมู่เฉิน ใบหน้าเขามืดครึ้มลง เขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะสะกัดกระบวนท่าสังหารของเขาได้อย่างง่ายดาย


“นั่นกระดานเทพปฏิยุทธ์ แกมีสมบัติแบบนี้ด้วยรึ!”


ใบหน้าหัตถ์ใต้ดิ่งลงขณะที่พูดด้วยฟันที่กัดแน่น ตัวเขาเป็นจอมยุทธ์ชั้นสูงของภูมิภาคทางเหนือ ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์พิเศษเช่นกัน เขารู้ทันทีว่ากระดานหินในมือมู่เฉินคืออะไร


มู่เฉินอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหัตถ์ใต้รู้จักกระดานเทพปฏิยุทธ์ วัตถุชิ้นนี้เป็นของหายากแท้จริง ไม่คิดว่าแพะแก่ตัวนี้จะมีความรู้เรื่องนี้


“ในเมื่อรู้จัก งั้นข้าขอให้ท่านหัตถ์ใต้ช่วยทดสอบพลังของมันหน่อยนะ” มู่เฉินฉีกปากยิ้ม เนื่องจากกระดานเทพปฏิยุทธ์ใช้งานได้เพียงครั้งเดียว ในเมื่อนำออกมาใช้แล้วก็ต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์สูงสุด


พูดจบนิ้วของมู่เฉินก็พลิกวูบไหวบนกระดานเบาๆ


ฮึ่ม!


เสียงดังกึกก้อง กองทัพทหารหินพันนายก็เปิดตาขึ้น ในสายตาไม่มีจิตใต้สำนึกใดๆ มีแต่เพียงเปลวไฟลุกโชติช่วง


ครืน!


รัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตระเบิดราวกับภูเขาไฟออกจากร่างเหล่าทหารรวมตัวกันบนท้องฟ้า ชั้นเมฆดำปกคลุมขอบฟ้าอย่างรวดเร็ว ขณะที่แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวกระจายออก ทำให้สีหน้าทุกคนในบริเวณนี้เปลี่ยนไป


เมื่อสัมผัสได้ถึงรัศมีจั้นยี่ที่น่ากลัว ใบหน้าของหัตถ์ใต้ก็กลายเป็นน่าเกลียด ถ้าพลังเขาอยู่ในจุดสูงสุด เขาก็จะไม่กลัวกองทัพกิ๊กก๊อกแบบนี้ แต่ตอนนี้คลื่นหลิงของเขาถูกระงับไปเกินครึ่ง ดังนั้นถ้าเขาต่อสู้ผลลัพธ์ไม่สามารถคาดเดาได้


“กระดานเทพปฏิยุทธ์ต้องการคลื่นหลิงในการทำงาน ตราบใดที่ข้าสามารถฆ่าไอ้เด็กเวรนั่นได้อย่างรวดเร็ว พวกทหารหินก็จะสลายหายไป!”


สายตาของหัตถ์ใต้เปลี่ยนเป็นดุร้าย จากนั้นเขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ทันใดนั้นร่างเขาก็หายวับไปกับตา


ทว่าแม้หัตถ์ใต้จะเคลื่อนไหวแปลกพิลึก แต่มู่เฉินตั้งตัวระวังอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายหายตัวไป ปีกหงส์ที่แผ่นหลังก็กระพือ เขาพุ่งเข้าไปในกองทัพหินทันที


วาบ!


จุดที่มู่เฉินยืนอยู่ก่อนหน้าเกิดระลอกคลื่น ร่างของหัตถ์ใต้ปรากฏขึ้น ทว่าใบหน้าของเขากลับเขียวคล้ำ เขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะว่องไวปานนี้


มู่เฉินที่เข้าสู่ค่ายกลกองทัพทหารหินเค้นเสียงเยือกเย็นขึ้นจมูกให้หัตถ์ใต้ ก่อนที่เขาจะเทพลังงานเข้าสู่กระดาน


โฮก!


ดวงตาลึกกลวงของทหารหินพันนายสว่างไสวยิงใส่หัตถ์ใต้ขณะที่ชั้นเมฆกวนตัวไปมา อึดใจถัดมาก็ก่อร่างเป็นหอกหินหลายร้อยจั้งซึ่งเต็มไปด้วยลวดลายจั้นเหวินหนาแน่น ดูไม่น่าจะน้อยไปกว่าหลายหมื่นลาย


ฟิ้ว!


หอกหินแทงทะลุมิติปรากฏที่เบื้องหน้าหัตถ์ใต้


ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากกองทหารหิน ร่างถอยร่นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝ่ามือวาดกระบวนท่า ก่อนจะตะโกนลั่น “ฝ่ามือหงส์เพลิง!”


เขาเหวี่ยงฝ่ามือออกไป คลื่นหลิงไร้ขอบเขตพวยพุ่ง เปลวไฟสีแดงจ้ากวาดออก ก่อร่างเป็นหงส์ฟ้าเพลิงขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับหอกหิน


ตึง!


พลังงานสองสายชนกัน คลื่นกระแทกรุนแรงก็ระเบิดออก ทำให้มิติโดยรอบบิดเบี้ยว คลื่นจำนวนมหาศาลยกตัวขึ้นจากทะเลสาบเบื้องล่าง


หึ!


เมื่อคลื่นกระแทกกวาดออกไป หัตถ์ใต้ก็เค้นเสียงเย็นพลางถอยห่างออกไปหลายสิบจั้ง ส่วนมู่เฉินที่อยู่ในกองทหารหินไม่ได้รับอันตรายใดๆ


เห็นได้ชัดว่าหัตถ์ใต้เสียเปรียบในการเผชิญหน้ากระบวนท่านี้


เมื่อผู้คนเห็นฉากนี้ หัวใจก็สั่นสะท้าน หัตถ์ใต้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดที่มีสถานะสูงส่งในภูมิภาคทางเหนือ แต่ตอนนี้เขากลับแพ้คามือมู่เฉิน ดังนั้นความตกใจที่เกิดขึ้นจึงไม่เล็กเลย


หัตถ์ใต้มีท่าทางน่าสมเพชเล็กน้อยขณะที่ทรงตัว ใบหน้าเขียวคล้ำเมื่อมองมู่เฉิน สายตาราวกับว่าต้องการจะฉีกเนื้อเถือหนังอีกฝ่ายออกจากกัน เขารู้ว่าครั้งนี้ได้สร้างความอับอายให้ตัวเองแล้ว


ตอนแรกเขาคิดว่าการรับมือกับมู่เฉินซึ่งเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าจะเป็นเรื่องง่าย แต่ความจริงทำให้เขาเข้าใจว่าไม่เพียงแต่เขาจะจัดการมู่เฉินไม่ได้ แต่เขายังอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเพราะอีกฝ่ายด้วย


“ไอ้เวรนี่!”


หัตถ์ใต้โกรธแค้นในใจ แต่ก็ไม่ได้พุ่งโจมตีอีก จากการเผชิญหน้าเมื่อครู่ทำให้เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะกองทหารหินด้วยสภาพปัจจุบันของตนเอง


“ถ้าข้าอยู่ในจุดสูงสุด การฆ่าแกก็เหมือนเชือดไก่เชือดหมาเลย! บ้าเอ้ย!” หัตถ์ใต้กัดฟันแน่น แต่ทำได้เพียงมองมู่เฉินอย่างเกรี้ยวกราด เขาไม่กล้าเข้าไปในระยะการโจมตีของกองทหารหินอีก


การดวลระหว่างทั้งสองถูกจับตามองโดยจอมยุทธ์ชั้นสูงหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมพลทั้งสามซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับเหล่าหัตถ์ที่เหลือของหมู่ตึกเทวะ พวกเขาตกใจกับผลลัพธ์อย่างยิ่ง


ตอนแรกเมื่อเหล่าจอมพลเห็นหัตถ์ใต้เล็งเป้าไปที่มู่เฉิน พวกเขาก็รู้สึกเป็นห่วงในใจ ทว่าใครจะไปคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้เกินความคาดหมาย มู่เฉินไม่เพียงไม่ถูกจับกุมยังสามารถบีบให้หัตถ์อยู่ในสภาพน่าสมเพช


“เจ้าหนูนี่มีไพ่ตายเป็นสำรับคาดการณ์ไม่ได้เลย…” จอมพลทั้งสามแลกเปลี่ยนสายตากันก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก แม้จะเป็นพวกเขาก็ยังอดชื่นชมในใจไม่ได้


ทว่าเห็นได้ชัดว่ามู่เฉินไม่รู้เกี่ยวกับกับชื่นชมของพวกเขา เมื่อเห็นว่าตนเองบังคับให้หัตถ์ใต้ถอยออกไปได้ด้วยพลังของกองทหารหิน เขาก็รู้สึกโล่งใจก่อนที่จะกำมือ ก้อนแสงที่เขาได้มาก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นในมือ


ภายใต้การปกป้องของทหารหิน ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการตรวจสอบสมบัติที่ได้


ก้อนแสงหม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว สมบัติที่อยู่ภายในก็ชัดเจนขึ้น มู่เฉินมองไป เมื่อเห็นวัตถุที่อยู่ภายในอย่างชัดเจนก็อดอึ้งไปไม่ได้


“นี่มัน…”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)