หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 847-848

 บทที่ 847 ม้ามืดปะทะเจ้าบันทึก

เมฆขาวลอยอยู่บนท้องฟ้า


ทว่าขณะที่ร่างสองร่างเผชิญหน้ากัน คลื่นหลิงไร้ขอบเขตที่เจาะทะลุไปถึงชั้นฟ้า ก็ทำให้หมู่เมฆเกิดการเปลี่ยนแปลง กลุ่มเมฆบนท้องฟ้าถูกฉีกออกจากกันจนหมด


สายตามากมายพุ่งตรงไปที่จอมยุทธ์ทั้งสองบนท้องฟ้า


ไกลออกไปยังมีร่างแสงทะยานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชัดว่าต่างได้รับข่าวการประลองกันระหว่างเจ้าบันทึกและม้ามืดของบันทึกมังกรหงส์


นี่เป็นการดวลที่หลายคนให้ความสนใจอย่างยิ่ง


ฟังยี่สวมชุดขาวสะอาดยืนสง่างามอยู่บนท้องฟ้า ผมสีดำพลิ้วไหว ดูเต็มไปด้วยความมั่นมาก ปฏิกิริยาแรกเขากวาดสายตามองผู้คนที่เข้ามา ก่อนจะมองไปที่มู่เฉิน “ดูเหมือนเจ้าก็มีชื่อเสียงในภูมิภาคทางเหนือไม่น้อยเหมือนกันนี่”


“ต้องขอบคุณพวกเจ้า” มู่เฉินยิ้ม


ฟังยี่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับคำพูดที่แฝงความหมายของมู่เฉิน เขาเพียงแค่ยิ้ม “ไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อเจ้ารู้ว่าต้องขอบคุณพวกข้า งั้นข้าก็จะเอาคืน”


“ในเมื่อข้าให้ชื่อกับเจ้าได้ ข้าก็ลบชื่อเจ้าออกไปอีกครั้งได้เช่นกัน”


“งั้นเหรอ?” มู่เฉินยักไหล่พลางมองฟังยี่และยิ้ม “ข้าหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ แต่ข้าก็มีคำแนะนำสำหรับเจ้า อย่ากัดคำใหญ่เกินกว่าที่จะเคี้ยว ไม่งั้นถ้าเสียตำแหน่งเจ้าบันทึกมังกรหงส์ขึ้นมา ก็สายไปที่จะเสียใจ”


“งั้นเจ้าก็ต้องมีความสามารถถึงจะทำได้”


สีหน้าของฟังยี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ไอเย็นเยือกกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในดวงตา คลื่นหลิงไร้ขอบเขตกวาดออกไปทั่วร่าง ราวกับพายุที่สร้างความวินาศสันตะโร


เมื่อรับรู้ถึงแรงกดดันคลื่นหลิงที่ปล่อยออกมาจากฟังยี่ สายตาของมู่เฉินก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด แม้ในคำพูดจะไม่ยอมถอย แต่ในใจเขาก็รู้ดีว่าฟังยี่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง


พิจารณาจากแรงกดดันคลื่นหลิงที่กำจายออกมา เห็นชัดว่าเขามีเสถียรภาพมั่นคงในขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า แค่จุดนี้ก็ชี้ได้ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าชิวไท่ยิงไม่รู้กี่เท่า


การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องสาหัสแน่!


ขณะที่คลื่นหลิงรวมตัวกันรอบๆ ร่างทั้งสอง ผู้คนที่ถูกดึงดูดก็มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขามองทั้งคู่ที่อยู่บนท้องฟ้าจากระยะไกล ปากก็กระซิบกระซาบกัน


“ฮ่าๆ การเผชิญหน้าครั้งนี้น่าสนใจจริงๆ การต่อสู้ระหว่างเจ้าบันทึกกับม้ามืด ไม่รู้ว่าใครจะหัวเราะเป็นคนสุดท้ายกัน”


“ข้าคิดว่าฟังยี่มีโอกาสชนะมากกว่า ยังไงเขาก็อยู่ในขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ขณะที่มู่เฉินอยู่ในขั้นสี่เท่านั้น”


“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ พลังแท้จริงของมู่เฉินแข็งแกร่งกว่าที่เห็นภายนอก ว่ากันว่าในพิธีมอบยศราชันของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ชิวไท่ยิงที่มีขุมพลังขั้นห้าก็ยังพ่ายแพ้ให้กับมู่เฉิน”


“ชิวไท่ยิงเพิ่งจะบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าจะเทียบกับฟังยี่ได้ยังไง?”


“หากมู่เฉินพ่ายแพ้ ก็ลดประกายแสงของเขาลงได้มั่ง ไอ้หนุ่มคนนี้ชื่อเสียงพุ่งทะยานอย่างบ้าระห่ำมากเกินไปในช่วงนี้ ซึ่งควรจะได้รับการปรามลงบ้าง ให้เขารู้ว่าควรจะมีพฤติกรรมที่เหมาะสมและอ่อนน้อมถ่อมตนในภูมิภาคทางเหนือ”


“…”


เสียงกระซิบกระซาบหลากหลายดังขึ้นทั่วบริเวณ แต่สำหรับการเผชิญหน้าของพวกเขา หลายคนโอนเอียงไปทางฟังยี่ เพราะไม่ว่ามู่เฉินจะผุดขึ้นรวดเร็วปานใด เขาก็ยังขาดไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเจ้าบันทึกมังกรหงส์ที่มีประสบการณ์สูง


นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือมู่เฉินมีขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่เท่านั้น ขณะที่ฟังยี่บรรลุขั้นห้ามานานแล้ว


แม้หลายคนทราบดีถึงความสำเร็จของมู่เฉิน และรู้ว่าพลังแท้จริงของชายหนุ่มแข็งแกร่งกว่าที่มองเห็นบนพื้นผิว แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าแบบสามัญก็มีปัญหาที่จะต่อกรกับเขา แต่…ฟังยี่ไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดา


ในฐานะผู้ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในหมู่ตึกเทวะ ไพ่ตายของเขาเป็นสิ่งที่ทุกคนยากจะคาดเดาได้


ในหุบเขาเสี่ยยิง หวูเทียนและพรรคพวกที่ถูกปิดทางเข้าออกก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่จอมยุทธ์ทั้งสองบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดลงหลายส่วน แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นพลังแท้จริงของมู่เฉินระหว่างการทำพิธีมอบยศราชัน แต่พวกเขาก็รู้ชัดเจนว่าฟังยี่ทรงพลังขนาดไหน


จอมยุทธ์ที่สามารถครอบครองตำแหน่งเจ้าบันทึกมังกรหงส์มาหลายปีต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน


“หากมู่เฉินรักษาชีวิตในการดวลนี้ไปได้ ชื่อเสียงของเขาในกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่แห่งภูมิภาคทางเหนือก็จะไม่มีใครสั่นคลอนได้” เสี่ยยิงกล่าวช้าๆ ช่วงนี้มู่เฉินก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็วทั่วดินแดนแถบนี้ ซึ่งดึงดูดความสงสัยมากมาย เช่นหลายคนรู้สึกว่าความสำเร็จของมู่เฉินในศึกมังกรหงส์เกิดจากความช่วยเหลือของธิดาเทพจักรพรรดิอัคคี ดังนั้นจึงมีข้อกังขาเกี่ยวกับอันดับสามที่เขาได้รับในบันทึกมังกรหงส์


แต่การต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้ชื่อเสียงเขามีเสถียรภาพมากขึ้น


แน่นอนว่านี่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นั่นเพราะหากเขาพ่ายแพ้ให้กับฟังยี่ ชื่อเสียงของยอดม้ามืดก็อาจจะถูกทำลายลง การก้าวเดินในอนาคตของเขาก็จะลดฮวบลงอย่างมาก


ในภูมิภาคทางเหนือที่โหดร้าย ไม่มีใครไปจดจำผู้แพ้หรอก


ตู้ม!


คลื่นหลิงกว้างใหญ่ครางกระหึ่มราวกับมหาสมุทรรอบตัวฟังยี่ ริ้วคลื่นคล้ายกับสายฟ้า ขณะที่ส่งเสียงคำรามลึกกังวานไปทั่ว ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบสั่นคลอนอย่างรุนแรง


มู่เฉินที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็มีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงไปจริงจัง ในศึกมังกรหงส์ เขาเห็นแค่ฟังยี่ถูกบีบให้อยู่ในสภาพน่าอนาถจากฝีมือไฉ่เซียว แต่การมายืนเบื้องหน้าฟังยี่ด้วยตัวเองก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มาจากอีกฝ่ายเต็มๆ


จอมยุทธ์คนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวมาก


“หากกำลังคิดเสียใจตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว คนเราจะต้องจ่ายอะไรบ้างสำหรับความจองหองที่มี” ฟังยี่จ้องมองมู่เฉินขณะที่พูดอย่างเย็นชา


มู่เฉินเบ้ปาก ไม่คิดจะสนใจฟังยี่ เขากำมือเสาปีศาจก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับรัศมีร้ายกาจเชี่ยวกราก ฝ่าเท้ากระแทกลงไปบนท้องฟ้า ร่างก็กลายเป็นลำแสงพุ่งตัวออกไป


ตู้ม!


พริบตาเดียว เสาปีศาจก็นำพาเงามหึมาและพลังอันน่าสะพรึงกลัว ทุบลงที่อีกฝ่ายโดยไม่ปรานีใดๆ


ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ บนสีหน้าของฟังยี่ มีเพียงแสงสีทองพวยพุ่งบนฝ่ามือ ก่อนที่จะกระแทกเต็มแรงกับเสาปีศาจ


เคร้ง!


เสียงชนกันของโลหะดังสะท้อนไปทั่วขอบฟ้า คลื่นกระแทกที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่ากระจายออกไป ภายใต้ผลกระทบของพลัง มู่เฉินก็ถลากลับไปด้านหลัง เสาปีศาจในมือก็พุ่งขึ้นสูง


“แกซึ้งแน่ถ้าทำกับข้าเหมือนจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าธรรมดาที่แกเคยปะทะมาก่อน” ฟังยี่มองภาพเบื้องหน้าอย่างไม่แยแส จากนั้นก็ก้าวออกมาปรากฏตัวเหนือเสาปีศาจ ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไป


“คืนให้แก!”


คลื่นหลิงยิ่งใหญ่ระเบิดออก เสาปีศาจกลายเป็นเงาดำพร้อมกับเสียงเสียดแก้วหูลั่นดังไปทั่ว ขณะที่พุ่งเข้าใส่มู่เฉิน คลื่นพลังที่ส่งมาเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าธรรมดายังไม่กล้าเผชิญ


“หึ!”


เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้ามู่เฉินก็เค้นเสียงเย็นในใจ ฟังยี่หลักแหลมนัก มันใช้เสาปีศาจย้อนกลับมาโจมตีเขา เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ ถ้าเขาล่าถอยไปก็เท่ากับยอมรับว่าตนเองอ่อนด้อยกว่า จนเป็นการปล่อยให้ฟังยี่คว้าโอกาสชี้ชะตา แต่ถ้าเขารับสิ่งนี้ก็จะเป็นภาพที่ฟังยี่ต้องการเห็น เพราะด้วยวิธีนี้อีกฝ่ายก็จะสามารถปราบมู่เฉินได้ด้วยคลื่นทรงพลังที่มี


สายตานับไม่ถ้วนจ้องไปที่มู่เฉินในตอนนี้


“อาวุธของข้า แกยังไม่มีสิทธ์ใช้!”


ภายใต้สายตาเปล่งประกายนับไม่ถ้วน ใบหน้าของมู่เฉินก็กลายเป็นเย็นชา มือเคลื่อนไหวสร้างตราประทับเร็วรี่ แสงสีทองระเบิดออกจากหน้าอกพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรโบราณที่อัดแน่นไปด้วยเกียรติภูมิยิ่งใหญ่ดังก้อง


เมื่อแสงสีทองพวยพุ่ง วิญญาณมังกรแท้จริงก็ปรากฏวงโคจรที่ท่อนแขนขวาของมู่เฉิน ช่างดูเหมือนลวดลายมังกร โดยมีกรงเล็บของวิญญาณมังกรแท้จริงปกคลุมฝ่ามือของมู่เฉินและสอดรับกับนิ้วเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ


แสงสีทองพล่านเข้ามาในนัยน์ตา แขนก็ดูเหมือนจะขยายขนาดเพิ่มอีกเท่าตัว สามารถมองเห็นเส้นเลือดบิดเกลียวอยู่ภายใต้ผิวหนัง ราวกับมีมังกรซ่อนเร้นอยู่ในแขนขวาของเขา!


พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นของมู่เฉิน เขาก็ค่อยๆ เผยพลังกายามังกรหงส์ออกมา!


“ตู้ม!”


เสาปีศาจบีบกดลงมาราวกับภูเขา บนเสาโอบล้อมด้วยคลื่นหลิงที่ทรงพลังและรุนแรง นี่คือคลื่นหลิงของฟังยี่ เขาใช้ห่อหุ้มเสาปีศาจเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งทำให้มู่เฉินไม่สามารถควบคุมมันได้


ตอนนี้ชัดว่าเสาปีศาจจำผู้ครอบครองแบบมู่เฉินไม่ได้แล้ว


ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน ร่างมู่เฉินไม่ได้ขยับเขยื้อน เขาเงยหน้าขึ้นมองเสาปีศาจที่สะท้อนในนัยน์ตาและขยายขนาดอย่างรวดเร็ว ก็สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด ก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นออกไปซัดเสาปีศาจท่ามกลางสายตาตะลึงใจนับไม่ถ้วนของฝูงชน


ตึง!


ไม่มีกลยุทธ์ใดในกำปั้นนี้ แต่พลังที่บรรจุในนั้นกลับทำให้เกิดรอยแตกปรากฏบนมิติโดยรอบ


เคร้ง!


เสียงโลหะระเบิดออกราวกับฟ้าคำรน สั่นสะเทือนกระแสเลือดของจอมยุทธ์หลายคนจนพลิกคว่ำพลิกหงาย แต่สายตาของพวกเขายังคงจับจ้องไปบนท้องฟ้า


ที่จุดนั้นมู่เฉินยังค้างอยู่ในท่าเดิม เหนือร่างเขาขึ้นไปเสาปีศาจขนาดใหญ่หยุดเคลื่อนไหวแล้ว คลื่นพลังทรงประสิทธิภาพที่ห่อหุ้มถูกต้านไว้ทั้งหมด


เหล่าจอมยุทธ์เห็นคลื่นหลิงสีทองของฟังยี่ที่ใช้ห่อหุ้มเสาปีศาจถูกทำลายโดยกำปั้นหลุนๆ ของมู่เฉินจนแตกออกเป็นเสี่ยง


ผู้คนอึ้งไป ชัดว่าตื่นตะลึงกับพลังที่มากับกำปั้นของมู่เฉิน


ภายใต้สายตาเหล่านั้น ร่างของมู่เฉินเคลื่อนไหวพลิ้วตัวลงบนเสาปีศาจ ในม่านตาสีดำราวกับมีมังกรคำรามอยู่นำพาแรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้กวาดไปยังฟังยี่


“คราวหน้าอย่าแตะต้องอาวุธของคนอื่น ไม่งั้นอาจทำให้อับอายเอง” มู่เฉินยืนผ่าเผยบนเสาปีศาจ จากนั้นดวงตาคมชัดก็จับจ้องไปที่ฟังยี่พร้อมกับเค้นเสียงในลำคอ


ฟังยี่หรี่ตาพลางพยักหน้าช้าๆ


“งั้นมาดูกับว่าใครกันที่จะได้อาย!”



บทที่ 848 คัมภีร์เทพโจวเทียน

เหนือเส้นขอบฟ้าหมู่เมฆดำทะมึนพวยพุ่ง


ร่างสองร่างยืนอยู่บนท้องฟ้า สายตาคมกริบของพวกเขาฟาดฟันกันไม่ยั้งพร้อมกับประกายไฟบินว่อน มีไอสังหารเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาเลือนราง


นี่คือศึกมังกรปะทะพยัคฆ์ที่แท้จริง!


สายตาอัศจรรย์ใจจำนวนมากพุ่งไปที่มู่เฉินที่ยืนอยู่บนเสาปีศาจ พลังกำปั้นก่อนหน้าของเขายังติดอยู่ในหัวสมองผู้คน หลายคนมีสีหน้าเคร่งเครียดลงหลายส่วน เนื่องจากพวกเขาเข้าใจว่าพลังน่าสะพรึงที่อยู่เบื้องหลังหมัดเป็นพลังที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็ไม่สามารถเผชิญหน้าได้


มู่เฉินมีความสามารถบางอย่างจริงที่กล้ารับคำท้าประลองจากฟังยี่ ยอดม้ามืดคนนี้สมกับชื่อเสียงที่ได้รับ ตอนนี้ผลของดวลคงยังยากที่จะคาดเดา


ภายใต้สายตามากมาย ใบหน้าของฟังยี่ยังคงสงบนิ่ง เขากวาดตามองไปที่มู่เฉิน หมัดเมื่อครู่ของมู่เฉินทำให้เขารู้สึกถึงระลอกคลื่นคุ้นเคยบางเบา ซึ่งน่าจะเป็นพลังของกายามังกรหงส์ที่มู่เฉินได้รับมาจากเขตหลงเฟิ่ง


กายามังกรหงส์ในตำนานมีความลึกซึ้งอย่างแท้จริง สามารถทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่มีความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งเช่นนี้


แต่ถ้ามู่เฉินคิดว่าสามารถเผชิญหน้ากับตนตัวต่อตัวได้ด้วยสิ่งนี้ คงต้องบอกว่ามู่เฉินไร้เดียงสาเกินไปแล้ว


ประกายแสงวาบในดวงตาของฟังยี่ จากนั้นเขาก็กระทืบเท้าลงไป เสียงแสบแก้วหูระเบิดออกมาจากใต้ฝ่าเท้า คลื่นเสียงที่มองเห็นได้กระเพื่อมออกมา


ตู้ม!


เมื่อฟังยี่กระทืบเท้า ทุกคนก็เห็นคลื่นหลิงน่าสะพรึงกวาดออกมาจากมิติด้านหลัง ดูราวกับคลื่นหมื่นชั้นและความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นทำให้มิติบริเวณนี้สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น


ฟังยี่ยืนอยู่ใต้ระลอกคลื่นมหาศาล แม้จะดูบอบบาง แต่เขาก็ราวกับจอมมารที่อยู่เหนือผู้คนในดินแดนนี้ แรงกดดันจากคลื่นหลิงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อจอมยุทธ์ธรรมดาเท่านั้น แม้แต่จิ่วโยว เสี่ยยิงและสูป้าดวงตายังต้องหดเกร็ง


มู่เฉินรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กระจายไปทั่วเช่นกัน หัวใจก็สั่นไหว ฟังยี่ตอนนี้แข็งแกร่งกว่าที่อยู่ในเขตหลงเฟิ่งอย่างชัดเจน ตามการคาดการณ์ของมู่เฉิน ก่อนหน้าฟังยี่น่าจะเพิ่งมีขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ทว่าตอนนี้คงมาถึงระยะปลายสุดแล้ว


ช่วงเวลาที่ผ่านมาพลังของฟังยี่พัฒนาอย่างมีนัย


“แกเป็นคนน่าเกรงขามจริงๆ ที่สามารถสู้กับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าได้ด้วยพลังของขั้นสี่ แต่…ยังไม่มีไอ้หน้าไหนในขั้นห้าสามารถต่อกรกับข้าคนนี้ได้!” ประกายแสงวาวโรจน์จากนัยน์ตาของฟังยี่ขณะที่จ้องเขม็งไปที่มู่เฉิน ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองสุดๆ มู่เฉินประสบความสำเร็จที่ทำให้ตัวเขาภาคภูมิใจ ฟังยี่ก็ไม่ต่างกัน เพราะหลังจากที่เขาบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็ไม่มีจอมยุทธ์หน้าไหนในระดับเดียวกันสู้เขาได้


ครืน!


คลื่นที่อยู่เบื้องหลังฟังยี่คำรามรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ทำให้เขาดูราวกับเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงกดดัน


ตึง!


ทันใดนั้นเขาก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ฝ่ามือวาดตราประทับวูบไหว จากนั้นมือขวาก็กดลงบนท้องฟ้า อักขระโบราณแผ่ออกอย่างรวดเร็วที่ใต้ฝ่ามือ


ที่เบื้องหลังคลื่นระเบิดออกพร้อมกับลำแสงนับไม่ถ้วนรวมตัวกันอย่างรวดเร็วใต้ฝ่ามือ ราวกับสายฟ้าฟาดก็มิปาน


แรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้กระจายไปทั่วพื้นที่


เหล่าจอมยุทธ์มีสายตาเคร่งเครียดรุนแรง กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็ยังมีทีท่าตกตะลึง นั่นเพราะภายใต้กระบวนท่าของฟังยี่ แม้แต่พวกเขายังรู้สึกถึงอันตรายถึงชีวิต


เห็นได้ชัดว่านี่เป็นท่าไม้ตายของฟังยี่ เขาเตรียมจะยุติการดวลนี้อย่างรวดเร็ว เขาต้องการจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่า ต่อหน้าเขาที่เป็นเจ้าบันทึกมังกรหงส์ พวกม้ามืดก็แค่ตัวตลกคั่นเวลาเท่านั้น


ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับผู้ท้าทายก็คือสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน!


สีหน้าของมู่เฉินเคร่งขรึมลงขีดสุด เนื่องจากเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มาจากฟังยี่ คู่ต่อสู้คนนี้ทรงพลังจนน่าตกใจจริงๆ


ฮา


มู่เฉินสูดหายใจลึกสุดปอด จากนั้นม่านตาก็เปลี่ยนเป็นดำสนิทอย่างรวดเร็ว เส้นผมเริ่มงอกยาวขึ้น


ผมยาวดำและม่านตาสีดำบนใบหน้ามู่เฉินที่ดูมีชีวิตชีวาในตอนแรกก็สงบลง ไม่มีแรงกระเพื่อมสักริ้ว ราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบแม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาก็ตาม


คัมภีร์หวูซังซินหมัว สภาวะฤทัยปีศาจขั้นต้น!


แม้แต่สิงโตยังต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อล่ากระต่าย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฟังยี่ไม่ใช่กระต่าย แต่เป็นพยัคฆ์ที่ทรงพลัง ดังนั้นมู่เฉินจะต้องงัดไพ่ตายทั้งหมดที่มี


ครืน!


คลื่นหลิงพวยพุ่ง ขณะที่คลื่นหลิงกับมิติเสียดทานกันก็ทำให้เกิดเสียงดังลั่น สายตาของฟังยี่เย็นชาลงในตอนนี้ สายตาจับจ้องมู่เฉินจากเบื้องบน อึดใจต่อมาฝ่ามือที่ปกคลุมด้วยอักขระโบราณก็กดลงอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงไม่แยแสดังกึกก้อง


“คัมภีร์เทพโจวเทียน ตราประทับเคลื่อนฟ้า!”


ตึง!


อักขระโบราณซับซ้อนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นแผนภาพดวงดาว ขณะที่แรงกดดันของคลื่นหลิงไร้ขอบเขตล้อมรอบพื้นที่เบื้องล่างไปทุกทิศทาง ก่อนที่จะก่อตัวเป็นตราประทับที่สลักด้วยภาพดวงดาวแล้วกดลงไป


เส้นทางที่ตราประทับเคลื่อนผ่าน รอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนมิติ แรงกดดันนั้นทำให้สีหน้าจอมยุทธ์มากมายเปลี่ยนไปรุนแรง


“นี่เป็นหนึ่งในคัมภีร์เทพชั้นสูงของหมู่ตึกเทวะ กระบวนท่าเสินซู่ขั้นเกือบเต็ม ฟังยี่น่าสะพรึงแท้จริงที่สามารถฝึกฝนได้!”


“กระบวนท่านี้สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าได้ทุกคน ฟังยี่คู่ควรกับชื่อเสียงจริงๆ!”


“สมกับเป็นหมู่ตึกเทวะ กระบวนท่าเสินซู่ระดับนี้ คนทั่วไปไม่แม้แต่จะเห็นด้วยซ้ำ มีเพียงพวกจอมยุทธ์ชั้นสูงของหมู่ตึกเทวะเท่านั้นที่จะฝึกฝนได้”


“…”


เสียงกระซิบมากมายกระจายออกไปเนื่องจากการโจมตีนั้น ทำเอาเหล่าจอมยุทธ์ถึงกับต้องทอดถอนหายใจเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งอิจฉาและตกตะลึงในใจกับกระบวนท่าเสินซู่ขั้นเกือบเต็มของฟังยี่


“กระบวนท่าเสินซู่ขั้นเกือบเต็มเรอะ?”


มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองตราประทับที่เคลื่อนลงมาด้วยสายตาลึกล้ำ เนื่องจากเขาอยู่ในสภาวะฤทัยปีศาจจึงไม่มีริ้วคลื่นใดบนใบหน้า แม้จะเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว


“ฮึ่ม!”


ฝ่ามือของมู่เฉินวาดตราประทับเร็วรี่ มิติก็บิดเบี้ยวที่เบื้องหลัง สามารถมองเห็นทะเลพลังจื้อจุนได้อย่างคลุมเครือ ขณะที่คลื่นหลิงพลิกคว่ำพลิกหงาย ลำแสงขนาดมหึมาสี่สายก็พุ่งออกมา


โฮก!


เมื่อเสียงคำรามของมังกรและคชสารดังขึ้น สัตว์อสูรอย่างละสองตัวก็เผยตัวออกมาอย่างรวดเร็วเหนือร่างมู่เฉิน มิติถึงกับผันผวนขณะที่พวกมันยืนตระหง่านบนท้องฟ้า


ทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันของมังกรและคชสารทั้งสี่ได้ ทว่าหากมู่เฉินต้องการใช้กระบวนท่านี้เพื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าสะพรึงของฟังยี่ คงยังไม่พอมากเลยทีเดียว


“ในเมื่อมังกรและคชสารอย่างละสองตัวไม่พอ…งั้นก็เพิ่มอีกละกัน”


มู่เฉินพึมพำกับตัวเอง เขาฝึกฝนวิชาเก้ามังกรคชสารมาเกือบหนึ่งปีแล้ว แม้ยังไม่ได้เรียกว่าสมบูรณ์แบบ แต่ก็เริ่มบรรลุระดับที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับในตอนแรก


นอกจากนี้ด้วยขุมพลังของมู่เฉินในปัจจุบัน ชัดว่ามังกรคชสารอย่างละสองตัวยังไม่ใช่ขีดสุดของเขา


ม่านตาลึกซึ้งของมู่เฉินกระเพื่อมไหวเล็กน้อย ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน เขาก็เปลี่ยนแปลงตราประทับอีกครั้ง เสียงร้องแฝงของสัตว์อสูรทั้งสองชนิดก็ดังก้องมาจากจุดจื้อจุนไห่เบื้องหลังอีกครั้ง ทุกคนเห็นลำแสงสองสายโผทะยานออกมา


นี่คือมังกรและคชสารอีกอย่างละตัว!


บนท้องฟ้ามังกรและคชสารอย่างละสามตัวยืนตระหง่านพร้อมกับใบหน้าของเหล่าจอมยุทธ์เปลี่ยนจากความตกตะลึงเป็นความเคร่งเครียด ตอนนี้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้ายังรู้สึกกดดันเล็กน้อย


แต่ขณะที่พวกเขาตกใจกับกระบวนท่าของมู่เฉิน ม่านตาก็ต้องหดแคบลง นั่นเพราะพวกเขาเห็นว่าหลังจากเรียกมังกรและคชสารออกมาอย่างละสามตัวแล้ว มู่เฉินก็ยังเปลี่ยนตราประทับอยู่!


ม่านตาเหล่าจอมยุทธ์หดเกร็งลงอย่างรวดเร็ว มู่เฉินเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่เท่านั้น เขาบรรลุผลสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร? นั่นเพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าทักษะเทพที่มู่เฉินใช้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคัมภีร์เทพโจวเทียนของฟังยี่เลย!


ตู้ม!


ภายใต้สายตาตะลึงงันนับไม่ถ้วน ตราประทับในมือมู่เฉินก็หยุดลง ทะเลพลังจื้อจุนที่เบื้องหลังก็พลิกคว่ำอย่างรุนแรง สุดท้ายลำแสงสองสายก็ยิงออกมาท่ามกลางสายตาอัศจรรย์ใจ


มังกรและคชสารอย่างละสี่ตัว!


เมื่อสัตว์อสรูมหึมาทั้งแปดปรากฏขึ้น กระทั่งฟังยี่และเสี่ยยิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงรุนแรง


สีหน้าของฟังยี่เคร่งเครียด พลางตบฝ่ามือลงไป เงาขนาดใหญ่ที่เกิดจากตราประทับก็ปกคลุมมู่เฉิน เขาไม่เชื่อว่าด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระยะปลายสุดของตน มู่เฉินจะสามารถต้านทานคัมภีร์เทพโจวเทียนที่เขาเค้นพลังทุกอณูใส่ไว้ได้!


“คัมภีร์เทพโจวเทียน ครอบครองเคลื่อนฟ้า!”


มือมู่เฉินประสานเข้าด้วยกันหนึ่งอยู่บนอีกหนึ่งอยู่ล่าง ราวกับว่ามีสุริยันจันทราอยู่ในฝ่ามือ เสียงลึกต่ำกึกก้องขึ้นในใจ


“วิชาเก้ามังกรคชสาร สี่มังกรคชสารเขย่าสวรรค์!”


สัตว์อสูรทั้งแปดคำรามสนั่นหวั่นไหว คลื่นเสียงที่มองเห็นด้วยตาเปล่ากระจายออกไป มิติสั่นสะเทือนรุนแรงไม่หยุด มังกรและคชสารทั้งหมดกลายเป็นลำแสงแปดสายพุ่งเข้าปะทะกัน ทันใดนั้นแสงหลิงก็พุ่งทะยานขณะที่ง้าวโบราณที่มีขนาดหนึ่งพันจั้งก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว


บนง้าวมีมังกรคชสารแปดตัวหมอบอยู่ ราวกับว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเขย่าสวรรค์ได้เลยทีเดียว


“ง้าวเทพมังกรคชสาร!”


แสงพวยพุ่งในนัยน์ตาของมู่เฉิน จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น เสียงเขาแผดลั่นราวกับฟ้าคำรน!


ฮึ่ม!


ง้าวโบราณเปล่งเสียงอื้ออึงน่าทึ่ง วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเกลียวแสงฉีกผ่านมิติด้วยความเร็วที่ไม่สามารถอธิบายได้ ปรากฏขึ้นที่ใต้ตราประทับในพริบตา


จากนั้นก็กรีดแทงอย่างไม่ลังเล!


เหล่าจอมยุทธ์จ้องมองไปที่จุดปะทะ ง้าวมังกรคชสารและตราประทับเคลื่อนฟ้าปะทะกันจังใหญ่ ราวกับอุกกาบาตสองลูกที่ร่วงหล่น ชนกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน คลื่นทำลายล้างก็ผันผวนออกมา


ผู้คนจดจ้องอย่างสนใจในตรงจุดปะทะ พวกเขาอยากรู้ว่าใครกันจะได้เปรียบในการเผชิญหน้าระหว่างคัมภีร์เทพทั้งสองนี้?!


สุดยอดคัมภีร์เทพของหมู่ตึกเทวะหรือว่าคัมภีร์ลึกลับของมู่เฉินวิชาไหนที่จะทรงพลังกว่ากัน?

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)