หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1317-1318

 บทที่ 1317 ยาเซิ่งหวา

ในถ้ำ


ทั้งสองฝ่ายยืนประจันหน้ากัน ทว่าตอนนี้ทุกคนกลับมองไปที่ทางเข้าพร้อมกับความกลัวฉายบนใบหน้า


เมื่อครู่พวกเขาเห็นเงาร่างสองร่างโผล่ออกมาจากมิติที่มู่เฉินและหวู่ทงเข้าไป พวกมันเปล่งความผันผวนอันรุนแรง แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มจากทั้งสองฝ่ายยังรู้สึกได้ถึงรัศมีความตาย


เห็นได้ชัดว่าเงาทั้งสองนี้แข็งแกร่งกว่าผู้คนที่นี่!


ทว่าเงาทั้งสองนั้นเหมือนจะวิ่งหนีบางอย่างออกมา ดังนั้นจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับทั้งสองกลุ่มที่ยืนอยู่ เลย พวกมันหนีไปด้วยความเร็วสูงสุด


“นั่นเผ่าปีศาจต่างมิติ!”


หลิงซีมองเงาร่างที่หายไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


เมื่อได้ยินดังกล่าว ใบหน้าของลั่วหลีและเวินชิงเฉวียนก็เปลี่ยนไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ความกังวลพล่านในดวงตาเมื่อมองไปที่มิติมังกรดำ


พวกปีศาจหนีออกมาจากมิติมังกรดำ นั่นก็หมายความว่าพวกมันจะต้องพบกับมู่เฉินและหวู่ทงในนั้น ไม่รู้ว่ามู่เฉินตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว


เวินชิงเฉวียนและคนอื่นๆ ก็คิดไม่ต่างกัน ดังนั้นแต่ละคนจึงแลกเปลี่ยนสายตาที่วูบไหวด้วยความกังวล


ตระกูลหวู่ก็แสดงสีหน้ากังวลเช่นกัน พวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมู่เฉิน พวกเขากลัวเผ่าปีศาจ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหวู่ทงการเดินทางครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าแน่


ฟิ้ว!


ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเป็นกังวล ทางที่เข้าสู่มิติมังกรดำก็สั่นไหว อึดใจต่อมาร่างเงาหนึ่งก็พุ่งออกมา


ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองมาของทุกคน สุดท้ายก็ปรากฏร่างมู่เฉินให้เห็น


“มู่เฉิน!”


เมื่อพวกเวินชิงเฉวียนเห็นมู่เฉินออกมา พวกนางก็รู้สึกโล่งใจมาก ท่าทางคลายลงหลายส่วน


มู่เฉินพยักหน้าให้พรรคพวกด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นความกลัวลอยอ้อยอิ่งบนใบหน้าของพวกเขา หัวใจของมู่เฉินก็กระตุกขณะถามว่า “พวกเจ้าเห็นเผ่าปีศาจหนีออกมาทางนี้เหรอ?”


ทุกคนพยักหน้าก่อนที่ลั่วหลีจะถามด้วยงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเผ่าปีศาจถึงไปอยู่ในมิตินั้น?”


“นั่นคือองค์ชายของเผ่าซือหมัวชื่อซือเทียนโยว มันแอบตามพวกข้าเข้าไปในมิติมังกรดำ” สีหน้ามู่เฉินเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขณะที่พูดต่อ “มันขโมยศพราชันปีศาจไป”


เมื่อได้ยินคำพูดของเขาหัวใจของทุกคนก็สั่นไหว ‘ขโมยศพราชันปีศาจไป?’


“มู่เฉิน นายน้อยพวกข้าอยู่ที่ไหน?!”


จอมยุทธ์ตระกูลหวู่ตะโกนถามและเริ่มแตกตื่นเมื่อมองไปที่มู่เฉิน


มู่เฉินเหลือบมองมาอย่างเฉยเมย “หวู่ทง? ตายด้วยน้ำมือศพราชันปีศาจไปแล้ว”


เฮือก


ใบหน้าของกลุ่มตระกูลหวู่ซีดเผือด ส่วนใบหน้าของต่งซันตกใจสุดขีด เขาทราบชัดเกี่ยวกับพลังของหวู่ทง แต่คนที่มีทรงพลังอย่างหวู่ทงยังต้องจบชีวิตในมิติมังกรดำหรือ?


ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แน่ชัดว่าเขาตายด้วยน้ำมือของศพราชันปีศาจหรือมู่เฉิน


ดังนั้นแต่ละคนจึงมองไปที่มู่เฉินด้วยความตกใจและหวาดกลัว


“ไป!”


สายตาของต่งซันไหวระริก จากนั้นก็กระชากเสียง ร่างเขาทะยานออกไปพร้อมกับกลุ่มมือสังหารปีศาจ


ในเมื่อหวู่ทงตายแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ยืนอยู่ในระดับเดียวกันอีก ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อก็เป็นการให้โอกาสอีกฝ่ายในการสังหารพวกเขาทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย


จอมยุทธ์จากตระกูลหวู่เห็นก็ขบฟัน จากนั้นถอยหนีอย่างรวดเร็ว พวกเขาแพ้ในการแข่งขันครั้งนี้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่ต่อไป


เมื่อเห็นพวกเขาตัดสินใจออกไปอย่างเด็ดขาด สายตาของมู่เฉินก็วูบไหว แต่สุดท้ายก็ระงับความคิดที่จะฆ่าพวกเขาไว้ นั่นเป็นเพราะหากจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มต้องการที่จะไปก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะหยุดอีกฝ่าย


หากตกอยู่ในหายนะที่น่ากลัวระหว่างการตามล่ากลับต้องรับหายนะไปเอง


นอกจากนี้มู่เฉินก็ไม่ได้กังวลว่าตระกูลหวู่มองเขาเป็นศัตรูหรือไม่เมื่อพวกเขารู้ว่าหวู่ทงตาย ตระกูลหวู่มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนคนเดียวเท่านั้นที่จะต้องดูแลเขตแดนของตน คงไม่สามารถออกมาอย่างง่ายดาย สำหรับจอมยุทธ์ที่ขุมพลังต่ำกว่านั้น พวกเขาไม่ได้เป็นภัยคุกคามมากนัก


ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการเก็บเกี่ยวสมบัติในมรดกนี้


“อื้อหือ เปิดหนีเร็วมาก”


เมื่อเห็นศัตรูจากไปอย่างรวดเร็ว เวินชิงเฉวียนก็เค้นเสียงเย็นชา นางไม่มีความคิดที่จะไล่ตามพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นนางจึงหันมาหามู่เฉินแทน “ต่อจากนี้ตระกูลเวินของข้าจะทำสงครามกับตระกูลหวู่ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการล้างแค้นของพวกมัน”


ถึงยังไงนางก็เป็นคนชวนมู่เฉินมาช่วย แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าใครฆ่าหวู่ทง แต่ตระกูลหวู่ต้องโยนความแค้นลงที่มู่เฉินแน่ ดังนั้นตระกูลเวินมีหน้าที่ต้องปกป้องมู่เฉิน


มู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้า เขาไม่ได้ปฏิเสธความปรารถนาดีของเวินชิงเฉวียน ก่อนที่จะหันไปทางกระแสมิติ มือของเขาประสานกันวาดทักษะลับ


ฮึ่ม ฮึ่ม!


ขณะที่มู่เฉินวาดกระบวนท่าทักษะลับ มิติมังกรดำก็เปล่งเสียง กระแสมิติลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกลายเป็นแสงสีม่วงตกลงในมือของมู่เฉิน


นี่คือแหวนมังกรดำที่กำจายคลื่นมิติอันผันผวน


มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะอุทานกับภาพนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เนื่องจากมีมิติเปิดอยู่ในวงแหวน มิหนำซ้ำยังสามารถให้สิ่งมีชีวิตเข้าไปอยู่ได้ด้วย


เมื่อคนอื่นๆ เห็นอุโมงค์มิติกลายเป็นวงแหวน พวกเขาก็เบิกตาค้าง


“เจ้าได้รับกองทัพมังกรดำเหรอ?” เวินชิงเฉวียนอดถามออกมาไม่ได้


มู่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องซ่อนเพราะใครๆ ก็เดาได้


เมื่อเห็นมู่เฉินพยักหน้าพรรคพวกก็หายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็มองมู่เฉินราวกับว่ากำลังมองสัตว์ประหลาด นั่นเป็นเพราะพวกเขาทราบชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกองทัพมังกรดำ


หากมีวันหนึ่งที่มู่เฉินสามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ เขาก็ไม่ต้องกลัวแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน


เมื่อเห็นการเก็บเกี่ยวของมู่เฉิน แม้แต่เวินจื่อหยู่และคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้ที่ดวงตาจะลุกโชน


“ดูเหมือนเจ้าจะเป็นผู้ชนะยิ่งใหญ่ในมรดกนี้สินะ” เวินชิงเฉวียนแกล้งเหน็บ ทว่าในคำพูดของนางไม่มีความอิจฉาริษยาเลย ในฐานะคนที่มีความภาคภูมิใจ นางจะไม่อิจฉาคนอื่นในเรื่องเก็บเกี่ยวได้มากกว่า เพราะนางรู้ว่านี่เป็นความสามารถของบุคคลล้วนๆ


ทว่ามู่เฉินกลับรู้สึกลุแก่โทษเล็กน้อย เนื่องจากข้อมูลมรดกนี้มาจากเวินชิงเฉวียน หากไม่ใช่คำเชิญของนาง มู่เฉินก็ไม่มีทางค้นพบมรดกนี้ได้


“เราแบ่งเม็ดยากันครึ่ง-ครึ่งเหมือนเดิมเถอะ” มู่เฉินกล่าวว่า ก่อนหน้าตอนที่เวินชิงเฉวียนได้รับมรดก นางเสนอที่จะทำการเปลี่ยนแปลงในการแบ่งเป็นแปดต่อสอง


เวินชิงเฉวียนส่ายหน้าขณะเชิดใบหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ “ในเมื่อข้าบอกว่าแปดต่อสองก็เป็นไปตามนั้น นี่เป็นความสามารถของเจ้าเองที่ได้รับกองทัพมังกรดำ พวกข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร”


เมื่อเห็นท่าทางมุ่งมั่นของเวินชิงเฉวียน มู่เฉินก็อดยิ้มจนใจไม่ได้ แต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้า เพราะนึกได้ว่าตอนนี้เขาต้องการกำลังสนับสนุนสำหรับกองทัพจอมเขมือบ


หากเขาไม่มีของเหลวจื้อจุนเพียงพอ กองทัพมังกรดำจะไม่มีทรัพยากรในอีกครึ่งปี


“มาแบ่งเม็ดยาในมรดกกันก่อนเถอะ” ลั่วหลียิ้มบาง


เวินชิงเฉวียนพยักหน้า ทุกคนก็เงยหัวขึ้นมองบนถ้ำ พวกเขาเห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวเบื้องบน โดยที่ดาวทุกดวงก็คือเม็ดยาล้ำค่า


เมื่อเวินชิงเฉวียนโบกมือหม้อกลั่นผีเสื้อโอสถก็ทะยานออก คลื่นแสงเปล่งประกายพุ่งออกมา กวาดเม็ดยาลงหม้อ


กระบวนการนี้กินเวลานานสิบกว่านาที ก่อนที่ดวงดาวจะค่อยๆ ลดปริมาณลง


จากนั้นเวินชิงเฉวียนก็หลับตาครู่หนึ่ง เพื่อนับจำนวนเม็ดยาในหม้อ ก่อนที่ความตะลึงใจจะปรากฏบนใบหน้า “มีเม็ดยาทั้งหมดแปดร้อยเม็ด!”


เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินคำพูดนี่ พวกเขาก็อดอุทานไม่ได้


เพราะทุกคนตระหนักดีว่าเม็ดยาเหล่านี้ล้วนเป็นของล้ำค่าที่เหลืออยู่ของภูตผีเสื้อโอสถ ถ้านำออกไปประมูลในมหาพันภพละก็ เพียงเม็ดเดียวราคาก็สามารถไปถึงของเหลวจื้อจุนหลายล้านหยดเลยทีเดียว


มู่เฉินรู้สึกโล่งใจ ด้วยเม็ดยาเหล่านี้เขาไม่ต้องกังวลกับของจื้อจุนสำหรับกองทัพมังกรดำอีกพักใหญ่


เวินชิงเฉวียนพลิกนิ้วเบาๆ ลำแสงห้าสายก็ยิงออกมาจากหม้อกลั่นขนาดใหญ่ พวกมันลอยคว้างที่เบื้องหน้านาง กระจายความบริสุทธิ์และน่าอัศจรรย์ของคลื่นหลิง


เมื่อแสงเหล่านั้นค่อยๆ จางหาย ยาผลึกอัญมณีห้าเม็ดก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของทุกคน พื้นผิวของเม็ดยาเหล่านั้นปกคลุมด้วยลวดลายธรรมชาติ ซึ่งพิสูจน์ถึงคุณภาพที่เหนือล้ำของเม็ดยาทั้งห้า


เมื่อเม็ดยาทั้งห้าปรากฏขึ้น มู่เฉินก็จ้องเขม็งก่อนจะเลื่อนสายตาที่ลุกโชนไปทางเวินชิงเฉวียน


เวินชิงเฉวียนยิ้มตอบว่า “นี่คือเม็ดเซิ่งหวา”


“พวกข้าจะรับไปเม็ดเดียว อีกสี่เม็ดเป็นของพวกเจ้า” เวินชิงเฉวียนคว้าเม็ดยาไว้หนึ่งเม็ด ก่อนที่จะโบกมือ เม็ดยาสี่เม็ดก็บินไปที่มู่เฉิน


มู่เฉินรับเม็ดยาอย่างระมัดระวัง จ้องมองเม็ดยากลมเกลี้ยงสมบูรณ์ในมือก็ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นรอยยิ้มก็เพิ่มขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่สามารถควบคุมได้


เขารู้ว่าด้วยยาเซิ่งหวานี้ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสในการพัฒนาทักษะเทห์สวรรค์ของร่างเทพสุริยะนิรันดร์แล้ว


บทที่ 1318 บรรลุ

ราตรีกาลล้อมรอบสวรรค์และโลกราวกับฉากฝัน


เกล็ดหิมะโปรยปรายลงสู่พื้นดินซึ่งบรรจุความเย็นที่ไม่อาจจินตนาการได้ แม้แต่พื้นดินก็ยังมีชั้นน้ำแข็งปกคลุมอยู่


กระทั่งคลื่นหลิงในบริเวณนี้ยังแสดงสัญญาณการถูกแช่แข็งโดยเกล็ดหิมะ


เงาร่างกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ในถ้ำโดยมีไข่มุกสีแดงเข้มลอยอยู่ระหว่างพวกเขาดูเหมือนภูเขาไฟ ทำให้อุณหภูมิที่นี่สูงขึ้น ขับไล่ความเย็นที่อยู่ในถ้ำออกไป


นอกจากนี้บริเวณปากถ้ำยังมีค่ายกลปรากฏให้เห็นเลือนราง ช่วยต่อต้านการรุกรานจากความเย็นเช่นกัน


“หิมะที่นี่ครอบงำมาก”


มู่เฉินมองเกล็ดหิมะที่อยู่ด้านนอกถ้ำก็อดพูดออกมาไม่ได้ ตอนที่พวกเขาออกจากขุมทรัพย์ภูตผีเสื้อโอสถเมื่อวันก่อน พวกเขาโชคร้ายพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเข้า ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหาที่พักพิงชั่วคราว


“นี่คือหิมะสะท้านวิญญาณว่ากันว่าสามารถตรึงได้กระทั่งวิญญาณของผู้คนไว้ได้” เวินชิงเฉวียนยิ้มจากนั้นก็ชี้ไปที่ไข่มุกสีแดงเข้ม “โชคดีที่ข้าเตรียมมุกไฟวิญญาณมา ไม่งั้นต่อให้เข้ามาหลบในถ้ำ เราก็ต้องใช้คลื่นหลิงอย่างต่อเนื่องเพื่อขับไล่ความหนาวเย็น”


มู่เฉินพยักหน้า หากเวินชิงเฉวียนไม่ได้เตรียมตัวมาละก็ พวกเขาก็ต้องใช้วิธีที่เสียแรงมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อพลังอย่างไม่ต้องสงสัย


“เราจะทำอย่างไรต่อไปดี?” ลั่วหลีมองไปที่มู่เฉิน ศีรษะเอียงลงเล็กน้อย เรือนผมพาดลงมาราวกับน้ำตกพร้อมกับรอยยิ้มระบายบนใบหน้า ความงามไร้ที่ตินี้เหมือนทำให้แม้แต่แสงสว่างทั่วถ้ำยังเพิ่มขึ้นเลยทีเดียว


“ลั่วหลี เจ้าสวยขึ้นอีกแล้ว!”


มู่เฉินไม่อาจละสายตาจากนางไปได้ พวกเวินจื่อหยู่ถึงกับไม่กล้ามองลั่วหลีตรงๆ ส่วนเวินชิงเฉวียนกลับโน้มตัวไปข้างหน้าเงียบๆ แอบคว้าเอวของลั่วหลีไว้ ดวงตายิ้มหยี


สัมผัสได้ถึงการกระทำนี่ ลั่วหลีก็กลอกตามองเวินชิงเฉวียน ก่อนที่จะสะบัดนิ้วอย่างเบามือแกะมือเวินชิงเฉวียนออก


“ทำไมเขาโชคดีแบบนี้” เวินชิงเฉวียนถอนมือออกก่อนที่จะพูดอย่างเฉื่อยเนือย “เป้าหมายต่อไปของเราคือเมืองหนึ่งในแดนเซิ่งยวนโบราณ ตามแหล่งข่าวที่นั่นเป็นจุดรวมตัว ดังนั้นจะต้องมีหลายกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่นั่นแน่นอน”


“โอ้?” มู่เฉินหดตาลงถามว่า “เราสามารถซื้อข้อมูลที่ต้องการได้ไหม?”


ข้อมูลที่เขากำลังมองหาชัดว่าเกี่ยวข้องกับเผ่าฝูถูและเผ่าไท่หลิง


เวินชิงเฉวียนพยักหน้า “ย้อนกลับไปในแดนเซิ่งยวนโบราณ มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งสี่คนสละชีพที่นี่ นอกจากนี้มรดกของพวกเขายังเป็นสิ่งหายากที่สุด แม้ว่าจะมีข้อมูลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครสามารถได้รับมรดกของพวกเขาไปได้”


“จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ มรดกของจอมยุทธ์ทั้งสี่นั้นไม่มีที่ตั้งแน่นอน พวกมันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา”


“เคลื่อนไหว?” มู่เฉินขมวดคิ้ว หากนั่นเป็นเรื่องจริงความยากลำบากในการค้นหาจะยิ่งยากกว่าเดิม


“ดังนั้นเราต้องไปที่จุดรวมตัวก่อน เนื่องจากที่นั่นเป็นจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วย ทุกกลุ่มจะมุ่งหน้าไปหลังจากผ่านการผจญภัยสั้นๆ เราน่าจะได้รับข้อมูลบางอย่าง” เวินชิงเฉวียนกล่าว


มู่เฉินพยักหน้า หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ควรไปยังจุดรวมตัว มิฉะนั้นคงยากจะได้ผลลัพธ์จากการคลำทางทั่วมั่วไปเอง


แต่ถ้าเป็นไปตามที่เวินชิงเฉวียนพูด จุดรวมตัวจะต้องเป็นสถานที่วุ่นวายแน่ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสามกลุ่มของเผ่าฝูถูจะไปที่นั่นเช่นกัน


ในบรรดาสามกลุ่มนั้นเฉวียนหลัวและมั่วซินไม่ได้เป็นมิตรกับเขา ดังนั้นหากพบกันอาจเกิดการต่อสู้ก็เป็นได้


ทว่ามู่เฉินก็ไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ หากเฉวียนหลัวและมั่วซินมองเขาเหมือนพวกขี้แพ้ เขาก็ไม่รังเกียจอะไรที่จะสั่งสอนบทเรียนให้อีกฝ่าย


“ตอนนี้สามารถลองยาเซิ่งหวาสักหน่อย”


แม้ว่าเขาจะไม่กลัวอีกฝ่าย แต่มู่เฉินไม่ใช่คนประมาท แม้แต่สิงโตยังต้องใช้กำลังเต็มที่ในการตะครุบกระต่าย ไม่ต้องพูดถึงเฉวียนหลัวและมั่วซินที่ไม่ใช่พวกจัดการง่ายๆ ดังนั้นเป็นการดีที่สุดที่เขาจะใช้ยาเซิ่งหวาเพื่อบรรลุอีกขั้นของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ก่อนจะไปยังจุดรวมตัว


เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มู่เฉินก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาบอกคนอื่นสั้นๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปยังโถงอีกฝั่งของถ้ำซึ่งถูกสร้างขึ้น


“เราก็ต้องพัฒนาเช่นกัน”


มองร่างเงามู่เฉิน เวินจื่อหยู่และหลงเซี่ยงก็ลุกขึ้นยืน พูดอย่างเร่งร้อน


พวกเขาได้รับเม็ดยาเซิ่งหลิงมา ตราบใดที่กลืนเม็ดยาแล้วชำระ ด้วยการสั่งสมพลังมานานของพวกเขา คงไม่เป็นเรื่องยากที่จะเข้าสู่ระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มแท้จริง


การปะทะกันที่เกิดขึ้นในขุมทรัพย์ ทำให้พวกเขาตระหนักว่าขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มปกป้องตนเองในแดนเซิ่งยวนโบราณก็เต็มกลืนแล้ว หากพวกเขาต้องการที่จะช่วยพรรคพวกก็ต้องบรรลุระดับที่สูงยิ่งขึ้น


“ต้องรบกวนพวกเจ้าคุ้มกันด้วย”


ลั่วหลียิ้มให้เวินชิงเฉวียนและหลิงซีก่อนปลีกตัวเข้าโถงถ้ำอีกแห่ง นางได้รับยาเซิ่งหวามาจากมู่เฉิน ซึ่งนี่ก็มีความสำคัญกับนางเช่นกัน


เนื่องจากร่างเทพวารีที่นางฝึกฝนเป็นร่างเทห์สวรรค์ลำดับสูงในทำเนียบการจัดอันดับ!


ขณะที่แต่ละคนแยกย้ายกันไป ถ้ำก็เงียบลง เวินชิงเฉวียนและหลิงซีแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนจะยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งสองปิดตาลงเข้าสู่สมาธิเช่นกัน


ในโถงถ้ำขนาดใหญ่


มู่เฉินนั่งลงเงียบๆ พร้อมกับยาผลึกอัญมณีลอยอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมเล็ดลอดออกมา ทำให้พลังงานหลิงภายในโถงถึงกับกระเพื่อมไหว


มู่เฉินมองยาเซิ่งหวาก็สูดหายใจลึกๆ ทันใดนั้นมือของเขาก็ประสานกันวาดตราประทับขึ้น ริ้วแสงหลิงพวยพุ่งออกมาจากร่างกาย ร่างสีม่วงทองขนาดหลายร้อยจั้งก็ควบแน่นอย่างรวดเร็วที่ข้างหลัง


เม็ดยาเซิ่งหวาสามารถเพิ่มศักยภาพของวิชาต่างๆ เข้าสู่อีกระดับหนึ่ง ถ้าเร้าวิชาที่ฝึกฝนก่อนกลืนเม็ดลงไปก็จะเพิ่มโอกาสในวิชาเกินครึ่ง ดังนั้นมู่เฉินจึงไม่กลัวว่าการพัฒนาจะตกไปที่วิชาอื่นๆ


ถ้าเกิดสิ่งนั้นขึ้นก็ถือว่าโชคไม่เข้าข้างแล้วกัน


เมื่อร่างสีม่วงทองปรากฏขึ้น มู่เฉินก็ไม่ลังเลอีกต่อไป กลืนเม็ดยาเซิ่งหวาทันที


ปัง!


เม็ดยาเซิ่งหวาที่ถูกกลืนแตกออกจากกันทันที ความรู้สึกเย็นฉ่ำที่ไม่สามารถอธิบายได้แพร่กระจายไปทั่วแขนขาของเขา ในช่วงเวลาต่อไปความรู้สึกแปลกประหลาดก็ลุกขึ้นจากส่วนลึกของหัวใจ


ในช่วงเวลานั้นก็ราวกับมีสติปัญญาไม่รู้จบ ความสงสัยที่เกิดระหว่างการฝึกฝนก็หายไปทั้งหมด


มู่เฉินหลับตาด้วยสีหน้านิ่งเงียบและดำดิ่งในความรู้แจ้ง ร่างเทพที่อยู่ข้างหลังก็เข้าสู่สมาธิด้วย พร้อมกับพื้นผิวของร่างกายวูบไหวด้วยความมันวาวสีม่วงทอง ราวกับว่ากำลังเลี้ยงดูบางสิ่งบางอย่าง


โถงถ้ำกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง


วันรุ่งขึ้น


หิมะหายไปหมดแล้ว ที่น่าตกใจก็คือแผ่นดินที่ถูกแช่แข็งในรัศมีหมื่นลี้ก็ละลายอย่างรวดเร็วเช่นกัน


ตู้ม!


คลื่นหลิงไร้ขอบเขตสองสายพลุ่งพล่านภายในถ้ำ ไม่ไกลร่างเงาสองร่างก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า


พวกเขาแผดเสียงดังกึกก้องราวกับฟ้าร้อง ดึงดูดคลื่นหลิงที่ถั่งโถมบนท้องฟ้า


“หนวกหู!”


นอกถ้ำเวินชิงเฉวียนจ้องทั้งสองที่กำลังคำรามก็ตะโกนด่า


เวินจื่อหยู่กับหลงเซี่ยงแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนที่จะปิดปากฉับ ทว่าความสุขในแววตาของพวกเขากลับไม่สามารถปกปิดได้ เพราะในที่สุดด้วยความช่วยเหลือของยาเซิ่งหลิง พวกเขาก็บรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มอย่างเป็นทางการแล้ว!


ในเวลานี้โถงถ้ำแห่งหนึ่งก็เปิดขึ้น ลั่วหลีเดินออกมา


“ลั่วหลีเป็นอย่างไรบ้าง?” เวินชิงเฉวียนถามอย่างสงสัยเพราะนางอยากรู้ว่าเม็ดยาเซิ่งหวาน่าอัศจรรย์เพียงใด


แต่เผชิญหน้ากับความอยากรู้ ลั่วหลีก็ยิ้มบาง “ยาเซิ่งหวาสมกับเป็นผลงานยิ่งใหญ่ที่สุดของภูตผีเสื้อโอสถ”


เมื่อได้ยินคำพูดนี่ เวินชิงเฉวียนยิ่งอยากรู้มากขึ้น นางอยากถามเพิ่มเติม แต่ลั่วหลีก็ทำเพียงยิ้มลึกลับ ทำเอานางหงอยลงทันที


ตู้ม!


อึดใจโถงถ้ำอีกแห่งก็เปิดออก ร่างของมู่เฉินปรากฏต่อหน้าทุกคน


“มู่เฉิน เจ้าทำสำเร็จไหม?” เวินชิงเฉวียนมองไปที่มู่เฉิน


มู่เฉินแลกเปลี่ยนสายตากับลั่วหลี จากนั้นก็ยิ้มตาหยี “ภูตผีเสื้อโอสถสมชื่อเสียงจริงๆ”


เมื่อเห็นสำบัดสำนวนของทั้งสอง เวินชิงเฉวียนก็อดกัดฟันกรอดไม่ได้ ‘พวกเขาสมกับเป็นคู่รักกันจริงๆ!’


ทว่าจากท่าทางการแสดงออก อย่างน้อยเวินชิงเฉวียนก็รู้ว่าพวกเขาพอใจกับผลของเม็ดยาเซิ่งหวามาก


“ไปที่จุดรวมตัวกันเถอะ!”


มู่เฉินไม่พูดมากความ โบกมือให้ทุกคน


จบคำพูด เขาก็แตะเท้าส่งแรงกลายเป็นแนวแสงพุ่งไปทางจุดลึกของแดนเซิ่งยวนโบราณโดยมีเงาร่างหลายร่างติดตามอยู่ข้างหลัง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)