หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1141-1142

 บทที่ 1141 ทะเลสาบสวรรค์เปิด

ฟู่! ฟู่!


เพลิงโหมกระหน่ำกวาดออกมาระหว่างฟ้าดิน ราวกับท้องฟ้าถูกแผดเผาในเวลานี้โดยมีจู้เยี่ยนยืนตระหง่านราวกับเทพเซียน ปลดปล่อยแรงกดดันน่ากลัวยิ่งยวดออกมา


จู้เยี่ยนเปิดเผยพลังเต็มที่ขณะเคลื่อนไหวและแรงกดดันก็เหนือชั้นกว่าจาโหลหลัวอยู่เล็กน้อย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาเป็นอันดับหนึ่งในทำเนียบจอมยุทธ์รุ่นใหม่แห่งทวีปเทียนหลัว


แต่เมื่อประจันหน้ากับจู้เยี่ยน ใบหน้าของเซียวเซียวก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตรงกันข้ามนางกลับจ้องมองจู้เยี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้าพูดอย่างสบายๆ “เจ้าแน่ใจว่าถ้าพ่อข้าไปเยี่ยมที่เผ่าเทพอัคคีจริงๆ พวกเขาจะต้อนรับเขาไหว?”


ย้อนกลับไปตอนที่เทพจักรพรรดิอัคคีท่องยุทธภพ เขาได้ก่อให้เกิดจลาจลใหญ่ในเผ่าเทพอัคคีจนต้องเชิญผู้อาวุโสเฒ่าที่เข้าสมาธิออกมา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถจับอีกฝ่ายไว้ได้และทำได้เพียงเฝ้ามองชายคนนั้นคว้าเพลิงจักรพรรดิไปเท่านั้น ในเวลานั้นพลังของเทพจักรพรรดิอัคคีก็น่าสะพรึงกลัวอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย…


หากเทพจักรพรรดิอัคคีไปหาอีกครั้งแม้แต่ผู้อาวุโสเฒ่าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา


ยิ่งไปกว่านั้นเทพจักรพรรดิอัคคีก็ไม่ได้มีอำนาจใดๆ ในเวลานั้น แต่ตอนนี้เขาก่อตั้งแค้วนหวู่จิ้งฮั่วจนมั่นคงแล้ว แม้ว่าเผ่าเทพอัคคีจะเป็นหนึ่งในขั้วอำนาจสูงสุดในมหาพันภพ ซึ่งถ้าดูจากประวัติอันยาวนานก็สามารถข่มแคว้นหวู่จิ้งฮั่วได้ แต่หากพวกเขาประกาศสงครามก็มีโอกาสอย่างน้อยแปดส่วนที่เผ่าเทพอัคคีจะถูกทำลาย


จู้เยี่ยนรู้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ทำให้เปลวไฟบนท้องฟ้าหยุดลงชั่วครู่ แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับ แต่เขารู้ดีว่าหากเทพจักรพรรดิอัคคีโกรธขึ้นมาละก็ เผ่าเทพอัคคีของพวกเขาคงทนรับไม่ไหว


ทว่าแม้เทพจักรพรรดิอัคคีจะน่ากลัว แต่จู้เยี่ยนก็ไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดาทั่วไป เขาหายใจเข้าลึกพูดว่า “ข้าแค่ขอเชิญเจ้าไปเป็นแขกของเผ่า ไม่คิดทำอันตรายอะไร”


จู้เยี่ยนรู้ว่าไม่สามารถทำอะไรเซียวเซียวได้ แต่ถ้าเขาสามารถเอาชนะนางและพานางกลับไปที่เผ่า ความสำเร็จนี้จะทำให้เขาคว้าตำแหน่งประมุขน้อยได้อย่างแน่นอน


เซียวเซียวยิ้มอ่อนเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “กลัวว่าเจ้าจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพาข้าไปที่เผ่าได้นะสิ”


เผชิญหน้ากับอันดับหนึ่งของจอมยุทธ์รุ่นใหม่แห่งทวีปเทียนหลัว เซียวเซียวก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย ในเมื่อบิดาของนางสามารถปราบเผ่าเทพอัคคีได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นในฐานะบุตรสาวแม้ว่านางจะไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถจัดการพวกคนรุ่นใหม่ของเผ่าเทพอัคคีได้


พอจู้เยี่ยนเห็นท่าทางสบายๆ ของเซียวเซียว สายตาก็ค่อยๆ เคร่งเครียดลง ด้วยตัวตนของเซียวเซียว ขนาดเป็นคนโง่ยังรู้ว่านางรับมือได้ไม่ง่ายเลย


เผชิญหน้ากับนางแม้แต่จอมยุทธ์ที่ทรงพลังอย่างจู้เยี่ยนยังรู้สึกหวาดกลัวในใจ


“ข้าจะสู้กับเจ้าในวังสวรรค์บรรพกาล” จู้เยี่ยนลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะพูด ในเมื่อเขาพบกับเซียวเซียว ก็ต้องระเบิดการต่อสู้ขึ้นอย่างแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะทำ เพราะทะเลสาบสวรรค์อยู่ตรงหน้า ไม่ว่ายังไงก็ควรทำหลังจากได้โอกาสในทะเลสาบสวรรค์ก่อน


“ตามสบาย” เซียวเซียวยังคงมีท่าทางเกียจคร้าน ราวกับว่าไม่มีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับการท้าทายของจู้เยี่ยน


จู้เยี่ยนมองไปที่เซียวเซียวอย่างลึกซึ้งและไม่พูดอีกต่อไปก่อนที่เขาจะถอยออกไปบนยอดเขาไม่ไกลแห่งหนึ่ง


“มีปัญหาอะไรไหม?” มู่เฉินพูดขึ้นเมื่อจู้เยี่ยนไปแล้ว พลังของอีกฝ่ายไม่ธรรมดาอย่างแท้จริงและไม่สามารถมองข้ามไปได้


เซียวเซียวเล่นกับเสี่ยวไฉ่ขณะยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ปล่อยเจ้านั่นเป็นหน้าที่ข้า ข้ารับรองว่าเขาจะไม่มีเวลามาสร้างปัญหากับพวกเจ้า”


นางมองออกว่าพวกมู่เฉินเป็นศัตรูกับจู้เยี่ยนมาก่อนแล้ว ในเมื่อเขากระโดดออกมาปะทะเอง นางก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกเพื่อที่จู้เยี่ยนจะได้ไม่มีเวลาไปรบกวนมู่เฉินและคนอื่นๆ


ทั้งสามสามารถบอกถึงความมั่นใจที่ไม่เปลี่ยนแปลงของนางได้จากน้ำเสียง ในฐานะธิดาเทพจักรพรรดิอัคคีนางมีความภาคภูมิใจของตนเอง เผ่าเทพอัคคีรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเรียกความอัปยศอดสูคืนจากเทพจักรพรรดิอัคคี ดังนั้นพวกเขาจึงวางความคิดไว้ที่นางเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาบ้าง ส่วนนางก็ไม่ปฏิเสธที่จะสอนบทเรียนให้พวกเขาอีกครั้ง


คนอื่นๆ ยิ้มและพยักหน้า แม้ว่าจู้เยี่ยนจะทรงพลัง แต่พวกเขาก็เชื่อในตัวเซียวเซียวที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้


จากนั้นทุกคนก็รอคอยอย่างเงียบๆ ต่อ พักใหญ่ก็มีเสียงเหาะเหินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา เพราะนั่นคือซูชิงหยิงที่มู่เฉินพบที่หน้าประตูมังกรทะยานสวรรค์


ซูชิงหยิงยืนอยู่บนแมลงหุ้มเกราะสี่ปีกที่ดูน่ากลัวเดินทางด้วยความเร็วที่น่าทึ่งมากก่อนจะมาหยุดที่นอกทะเลสาบสวรรค์ เมื่อนางเห็นพวกมู่เฉินที่มาถึงก่อนก็อดประหลาดใจไม่ได้


“ฮิๆ ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะเร็วขนาดนี้” ซู่ชิงหยิงมองไปที่มู่เฉินพร้อมกับดวงตาหรี่ลงก่อนจะเหลือบมองหลินจิ้งและเซียวเซียว


โดยเฉพาะเซียวเซียวที่ทำให้หัวใจนางสั่นสะท้าน ซูชิงหยิงสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยอันตรายที่มาจากอีกฝ่าย


“เจ้านั่นไปพบจอมยุทธ์ลึกลับแบบนี้จากที่ไหนอีก?” ซูชิงหยิงพึมพำในใจ เซียวเซียวและหลินจิ้งไม่ใช่คนทวีปเทียนหลัวแน่นอน มิฉะนั้นไม่มีทางที่จะไม่คุ้นหน้าพวกนาง


มู่เฉินพยักหน้าอย่างใจเย็นตอบซูชิงหยิงไป แม้ว่านางจะได้รับเพียงป้ายมังกรเขียวจากประตูมังกร แต่มู่เฉินรู้ดีว่าถ้าต้องต่อสู้กันจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ต่อกรได้ยากลำบากแน่


ทว่าอารมณ์ของซูชิงหยิงวูบวาบเหมือนลมพัดมักจะเปลี่ยนไปมา ดังนั้นมู่เฉินก็ไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าใกล้นาง กลัวว่าจะมาซึ่งปัญหา


ซูชิงหยิงที่เห็นท่าทางไม่แยแสของมู่เฉินก็เบ้ปาก นางไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้พวกเขา สายตาจดจ่อไปที่ทะเลสาบสวรรค์พร้อมกับดวงตากะพริบวิบวับ


หลังจากซูชิงหยิงก็มีคนอีกกลุ่มมาถึงซึ่งก็ไม่ใช่ไม่คุ้นเคย นี่คือพวกแคว้นเซี่ยที่ปะทะกันนอกเกาะมังกร


ทว่ายามนี้ทั้งกลุ่มทุลักทุเลมาก นอกจากนี้ยังสูญเสียคนไปมาก มีเพียงสี่ห้าคนเท่านั้นที่มาถึงที่นี่ แต่ทุกคนก็มีรัศมีที่ทรงพลัง


เมื่อเซี่ยหยู่ปรากฏตัวก็กวาดมองไปที่มู่เฉินอย่างโหดเหี้ยม ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใส่ใจ ดวงตามู่เฉินยังคงปิดสนิท


เห็นดังนี้เซี่ยหยู่ก็เค้นเสียงขึ้นจมูกเย็นชาก่อนที่จะมองไปที่จาโหลหลัวและจู้เยี่ยน ดวงตาเปล่งประกายเล็กน้อย


หลังจากเซี่ยหยู่มาถึงก็มีเสียงลมแหวกอากาศดังเข้ามาต่อเนื่อง บ่งบอกการมาถึงของจำนวนคนมากขึ้น


คนทั้งหมดไม่ได้อ่อนแอ แม้แต่จอมยุทธ์ที่อ่อนแอที่สุดก็อยู่ในขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุด ซึ่งหลายคนได้รับการฟูมฟักจากขั้วอำนาจระดับสูงของเทียนหลัว ขณะเดียวกันก็มีใบหน้าไม่คุ้นเคยที่มาจากนอกทวีปอีกด้วย


ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมงสถานที่เงียบสงบก็เต็มไปด้วยผู้คน ความผันผวนนับไม่ถ้วนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่มีใครที่นี่เป็นมิตร


ซ่า-ซ่า!


เมื่อมีผู้คนมารวมตัวกันมากขึ้น ทะเลสาบสวรรค์ก็ตอบสนอง เสียงน้ำไหลไพเราะดังขึ้น


เสียงน้ำทำให้คลื่นหลิงในร่างกายทุกคนสั่นราวกับกระหายอยาก คลื่นพลังงานกระหายที่จะทำให้บริสุทธิ์และชำระล้างจากทะเลสาบสวรรค์


ฮึ่ม ฮึ่ม


เมื่อเสียงน้ำดังขึ้น มู่เฉินก็รู้สึกได้ว่าป้ายยินยอมบนหลังมือค่อยๆ ร้อนขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นริ้วแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า


วาบ! วาบ!


ริ้วแสงยังปรากฏบนร่างคนอื่นที่ได้รับป้ายยินยอมและรวมตัวกันที่นอกทะเลสาบสวรรค์ก่อนที่จะก่อตัวเป็นสัญลักษณ์ขนาดใหญ่


เมื่อมู่เฉินเห็นฉากนี้ความสุขก็กระจายบนใบหน้า ดูท่าป้ายตำหนักทั้งเก้าจะรวมตัวกันที่นี่แล้ว


สัญลักษณ์โบราณหมุนคว้าง จากนั้นเกลียวแสงก็ยิงไปที่ผนึกของทะเลสาบสวรรค์ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน พลังงานหลิงระหว่างสวรรค์และโลกกลิ้งไปมา รอยแตกก็ค่อยๆ เปิดขึ้นบนผนึก


ครืน!


เมื่อรอยแตกฉีกออก เสียงกัมปนาทก็ดังกึกก้องก่อนที่พลังหลิงน่าทึ่งจะพัดออกมา ทำให้คลื่นหลิงในฟ้าดินเดือดพล่าน


“ช่างเป็นคลื่นหลิงที่บริสุทธิ์นัก” สัมผัสได้ถึงพลังงานไร้ขอบเขต ใบหน้าของพวกเซียวเซียวก็เปลี่ยนไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้


ทะเลสาบสวรรค์ไม่เพียงแต่มีคลื่นหลิงทรงพลัง แต่ยังมีพลังมหัศจรรย์อื่นๆ อีกด้วย ขณะนี้พวกเขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงคลื่นหลิงในร่างกาย แม้แต่ทักษะพลังกาย กระทั่งร่างเทห์สวรรค์ก็คำรามด้วยความหิวกระหาย


หากพวกเขาสามารถรับการชำระล้าง แน่นอนว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แบบแม้แต่ร่างเทห์สวรรค์ก็จะบริสุทธิ์หมดจด


มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากขณะไฟลุกโชนในดวงตา แม้ว่าพวกเขาจะมีบ่อทองข่ายฟ้าในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ซึ่งเขาเคยใช้ในอดีตเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างเทห์สวรรค์ แต่หากเปรียบเทียบกับทะเลสาบสวรรค์นี้ก็อย่าให้พูดเลย


“ถ้าข้าชำระล้างสำเร็จก็จะสามารถวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับระดับตี้จื้อจุนได้”


มู่เฉินสบตากับพรรคพวก อึดใจทั้งหมดก็พุ่งตัวไปที่รอยแตก ทะเลสาบสวรรค์อยู่ต่อหน้าแล้ว ไม่มีใครอยากยอมแพ้ตอนนี้หรอก


ตู้ม!


การเคลื่อนไหวของพวกเขาไปกระตุ้นจอมยุทธ์คนอื่นๆ ที่หิวกระหาย ทันใดนั้นเสียงลมแหวกอากาศก็ดังลั่น ทุกคนพุ่งไปหารอยแตกของผนึก


บรรยากาศทั่วบริเวณปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์


บทที่ 1142 จิตทะเลสาบสวรรค์

วาบ! วาบ!


ขณะที่เสียงลมสั่นคลอน ร่างแสงนับไม่ถ้วนก็ลอยตัวขึ้นรอบทะเลสาบสวรรค์ แล้วพุ่งเข้ารอยแตกด้วยดวงตาแดงก่ำ


เมื่อผนึกถูกฉีกออก ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลในทะเลสาบสวรรค์ นอกจากนี้คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็ไม่ธรรมดา พวกเขารู้ดีว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความสำคัญต่อวังสวรรค์บรรพกาลเพียงใด มากจนแม้แต่ในสมัยโบราณก็มีเพียงศิษย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์เข้าสู่ทะเลสาบแห่งนี้


ทว่าตอนนี้วังสวรรค์บรรพกาลล่มสลายแล้ว มีเพียงทะเลสาบสวรรค์ที่เหลืออยู่ หากพวกเขาสามารถคว้าโอกาสนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาลในการเพาะบ่มพลังในอนาคต อาจทะยานผ่านประตูสวรรค์ในก้าวเดียว กลายเป็นจอมยุทธ์รุ่นใหม่ที่โดดเด่นของทวีปเทียนหลัว


ดังนั้นในขณะนี้จึงไม่มีใครสามารถคงสติไว้ได้ ทุกคนพุ่งไปที่ทะเลสาบสวรรค์เหมือนเอาชีวิตเป็นเดิมพัน…


หากเป็นไปตามกฎเฉพาะคนที่ได้รับคำป้ายยินยอมตำหนักทั้งเก้าเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ทว่า ณ เวลานี้ไม่มีผู้พิทักษ์สายน้ำแห่งนี้อีกต่อไป ดังนั้นเมื่อผนึกถูกทำลายลงคนที่มามือเปล่าก็แอบเข้าไปโดยใช้รอยต่อของช่วงจังหวะนี้


เมื่อทุกคนพุ่งเข้าไป มู่เฉินก็ไม่ลังเลเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลสาบสวรรค์มากที่สุด พวกมู่เฉินจึงเป็นกลุ่มแรกที่มาถึงตรงรอยแตก ก่อนที่ทั้งหมดจะแลกเปลี่ยนสายตากันแล้วทะยานเข้าไป


ฮา!


เมื่อพวกเขาก้าวข้ามรอยแตก รัศมีโบราณก็กวาดเข้ามา ราวกับว่าคงอยู่มานับหมื่นปีพัดผ่านพวกเขา ทำให้ทั้งสี่คนเหม่อลอยไปเล็กน้อย หมอกควบแน่นก่อร่างเป็นทิวทัศน์โบราณ…


ฉากเคลื่อนไหวพร้อมกับร่างทรงพลังเข้าสู่ทะเลสาบ ร่างกายของพวกเขาเอิบอาบไปด้วยรัศมีปกป้องตนเอง ขณะไล่ตามดวงดาวในทะเลสาบ


ฉากนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสี่คนก็ตื่นจากภวังค์ พวกเขาก้มหน้าลงก็สามารถมองเห็นทะเลสาบสวรรค์ระยิบระยับเป็นประกาย ราวกับว่าบรรจุด้วยพลังงานไร้ขอบเขตซึ่งทำให้มิติถึงกับบิดเบี้ยวเมื่อมหาสุมทรกลิ้งตัว น้ำทุกหยดเหมือนจะมีน้ำหนักสักพันชั่ง


ที่ด้านหลังก็มีคนพุ่งเข้ามามากขึ้น เมื่อเห็นทะเลสาบเบื้องหน้า ดวงตาก็ขึ้นริ้วแดงฉานความโลภกระจายเต็มใบหน้า


วาบ!


มีบางคนต่อต้านการล่อลวงไม่ได้ กระโดดตูมลงไปไม่ยั้งคิด


อ้าก!


แต่ทันทีที่คนคนนั้นเข้าไป เสียงกรีดร้องคร่ำครวญก็ดังโหยหวน คลื่นกวาดขึ้นจากทะเลสาบ บดขยี้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุดให้กลายเป็นแอ่งเลือด


เสียงร้องดังกึกก้อง ทำให้ใบหน้าทุกคนเปลี่ยนไปก่อนที่จะถอยกันจ้าละหวั่นมองไปที่ทะเลสาบด้วยอาการขนพองสยองเกล้า


ไม่มีใครคิดว่าทะเลสาบสวรรค์จะอันตรายขนาดนี้!


“เกิดอะไรขึ้น?” แม้แต่หลินจิ้งยังสะดุ้ง ถ้านางพุ่งไปไม่ยั้งคิดก็คงได้อยู่ในสภาพน่าสมเพชไปแล้ว


“ทะเลสาบสวรรค์บรรจุไปด้วยพลังน่าสะพรึง ถ้าการกระโดดลงโดยไม่คิดหน้าคิดหลังก็เท่ากับฆ่าตัวตาย” มู่เฉินยังคงนิ่งสงบ ราวกับภาพเบื้องหน้าถูกคาดการณ์เอาไว้แล้ว


“แล้วเราควรทำยังไงดี?” เซียวเซียวมองไปที่มู่เฉิน


มู่เฉินยิ้ม จากนั้นกำมือป้ายมังกรทองคำก็ปรากฏขึ้นในมือ


เขาโยนป้ายลงไปในทะเลสาบ ประกายสีทองก็เบ่งบาน ป้ายขยายขนาดอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเรือที่ห่อหุ้มไปม่านแสงสีทอง


มู่เฉินเหยียบลงบนเรือ เคลื่อนไหวอย่างอิสระบนผิวน้ำ


“อา ป้ายนี่ใช้แบบนี้ได้ด้วย” เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ดวงตาก็สว่างวาบ แต่ละคนเลียนแบบมู่เฉินทันที ป้ายขยายอย่างรวดเร็วปกคลุมไปด้วยม่านแสงกลายเป็นเรือลำน้อย


แต่เนื่องจากความแตกต่างในระดับชั้น เรือแต่ละลำจึงมีสีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ระดับการป้องกันก็เห็นได้ชัดต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเรือมังกรทองคำของมู่เฉิน


ทะเลสาบบรรจุไปด้วยพลังที่น่ากลัว หากร่างกายสัมผัสโดยตรงก็ตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีเพียงการป้องกันจากป้ายทำให้พวกเขาสามารถอยู่ในทะเลสาบได้ แต่เนื่องจากความแตกต่างในระดับความแข็งแกร่ง ยิ่งระดับสูงเท่าไรก็ยิ่งสามารถเข้าไปในจุดลึกได้


มู่เฉินยืนบนเรือ พรรคพวกสามคนก็ทำตามแบบเดียวกัน พวกนางสงสัยชัดเจนเกี่ยวกับเรือที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า โดยเฉพาะหลินจิ้งที่จับโน้นจับนี่พลางเอานิ้วจิ้มม่านแสงเบาๆ


“เราจะทำอะไรต่อ?” หลินจิ้งถามด้วยความตื่นเต้น


“ที่จริงตราบใดที่เราอยู่ในทะเลสาบสวรรค์ก็ไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่การฝึกฝนที่นี่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว” มู่เฉินยิ้ม ด้วยคลื่นหลิงไร้ขอบเขตของทะเลสาบ ประสิทธิภาพการฝึกฝนในหนึ่งวันจะมีค่าเท่ากับหนึ่งเดือนที่ด้านนอก


แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พอใจแค่นี้ ดังนั้นหลังจากหยุดไปชั่วครู่ มู่เฉินก็พูดต่อ “ถ้าต้องการได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ก็ต้องเข้าไปในจุดลึกของทะเลสาบ”


“แล้วการชำระล้างล่ะ?” เซียวเซียวถาม จากมุมมองของนางเป็นธรรมดาที่จะไม่สนใจกับผลประโยชน์ทั่วไปที่มู่เฉินบอก มีเพียงวิธีชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ที่ทำให้นางสนใจได้


“ตามกฎเราต้องค้นหาจิตทะเลสาบสวรรค์เพื่อรับการชำระล้าง ต้องรวบรวมให้ได้เพียงพอถึงจะได้รับการชำระล้างที่สมบูรณ์แบบ” มู่เฉินยิ้ม


“จิตทะเลสาบสวรรค์? คืออะไร?” หลินจิ้งรู้สึกเซ็ง ไม่คิดว่าพิธีชำระล้างทะเลสาบสวรรค์จะยุ่งยากขนาดนี้


มู่เฉินยื่นนิ้วชี้ไปที่ส่วนลึกของทะเลสาบ บางครั้งจะมีแสงตะคุ่มราวกับดาวหางพาดผ่าน แม้จะอยู่ในระยะไกลก็ยังสามารถสัมผัสถึงพลังน่ากลัวที่เปล่งออกมาดาวหางเหล่านั้น


“นั่นคือจิตทะเลสาบสวรรค์ แต่ละดวงบรรจุด้วยพลังงานบริสุทธิ์และเป็นแหล่งที่มาของพลังงานในพิธีการชำระล้าง ซึ่งกระบวนการก็แบ่งเป็นสามขั้นคือ ต่ำ-สูง-สมบูรณ์ การชำระล้างขั้นสมบูรณ์ต้องการใช้พลังของจิตทะเลสาบสวรรค์ร้อยดวงน่ะ”


พูดถึงตรงนี้มู่เฉินก็ยักไหล่ “แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับการชำระล้างขั้นสมบูรณ์ ว่ากันว่าแม้ในสมัยโบราณศิษย์ที่ได้รับการชำระล้างขั้นสมบูรณ์ก็ยังมีน้อยมาก”


“ถ้างั้นข้าจะลองดู” เมื่อได้ยินคำอธิบายของมู่เฉิน เซียวเซียวกลับรู้สึกสนใจพลางแย้มยิ้ม ด้วยความมั่นใจในตัวเอง นางต้องการผลที่ดีที่สุด


“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ลุยกันเลย” มู่เฉินยิ้มกระแทกฝ่าเท้า เรือมังกรทองคำใต้เท้าก็เปล่งแสงระยับ เคลื่อนไปข้างหน้าเข้าไปในส่วนลึกอย่างรวดเร็ว


จิตทะเลสาบสวรรค์อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแบ่งกันได้ง่ายๆ หากทำงานร่วมกัน ดังนั้นทั้งสี่คนจึงแยกกันไปชั่วคราว


เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหว เสียงสาดกระเซ็นก็ดังก้องไปทั่วทะเลสาบอย่างต่อเนื่อง มีจอมยุทธ์จำนวนมากพลิ้วตัวลงบนเรือ แล้วมุ่งหน้าไปหาจิตทะเลสาบสวรรค์ที่ราวกับดวงดาว


ฟิ้ว!


มู่เฉินยืนบนเรือมังกรทองคำตัดผ่านสายน้ำ ม่านแสงสีทองน่าพิศวงนัก ไม่ว่าน้ำในทะเลสาบสวรรค์จะซัดเข้ามามากแค่ไหน ก็ไม่สามารถสั่นคลอนม่านแสงได้แม้แต่น้อย


แต่เมื่อเดินทางเข้าไปในจุดลึกมากขึ้นเรื่อยๆ มู่เฉินก็ค่อยๆ รู้สึกถึงแรงกดดันแม้จะมีม่านแสงปกป้องก็ตามซึ่งทำให้เขาแอบตกใจ หากไม่มีป้ายช่วยปกป้อง ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเข้าสู่ทะเลสาบสวรรค์ส่วนลึกด้วยพละกำลังที่มี


ขณะที่มู่เฉินอึ้งทึ่ง แสงแวววาวก็ผลิบานที่เบื้องหน้าสายตา เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นดวงดาวที่ล่องลอยอยู่พร้อมกับรัศมีพร่างพราวเล็ดลอดออกมา ความผันผวนของคลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตทำให้ผิวทะเลสาบกระเพื่อมไหว


นั่นคือจิตทะเลสาบสวรรค์ดวงหนึ่ง


มู่เฉินมองไปก็เคลื่อนเข้าหาด้วยความสนใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็ตื่นระวังขั้นสุดไว้ เขารู้สึกได้อย่างเลือนรางถึงภัยคุกคามที่มาจากดวงดาวดวงนี้


ฮึ่ม ฮึ่ม


เมื่อมู่เฉินเข้ามาใกล้ จิตทะเลสาบดวงนี้ก็เหมือนสัมผัสได้ถึงการเข้าใกล้ของเขา มันสั่นแล้วกระโจนใส่มู่เฉินอย่างแรง


มู่เฉินตกใจกับภาพเบื้องหน้า ไม่กล้ารอช้า ร่างกายพรั่งพรูด้วยแสงสีทอง คลื่นหลิงไร้ขอบเขตกลายเป็นกำปั้นพุ่งผ่านม่านแสงสีทองซัดใส่จิตทะเลสาบ


ภายในทะเลสาบคลื่นหลิงดูเหมือนเดินทางได้อย่างอิสระ ดังนั้นเมื่อการโจมตีของมู่เฉินทะลุผ่านม่านแสง มันก็ไม่ได้ถูกยับยั้งกลับพุ่งออกไปเร็วกว่าเดิม


ตู้ม!


กำปั้นปะทะกับจิตทะเลสาบ ทว่าการโจมตีที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ยับยั้งจิตทะเลสาบได้เพียงแวบหนึ่งก่อนจะระเบิดออก


วาบ!


จิตทะเลสาบครางกระหึ่มกวาดเข้ามา กระแทกเข้ากับม่านแสงพลัง


ปัง!


ทั่วทั้งม่านแสงสั่นสะเทือนรุนแรงส่งระลอกคลื่นเป็นวงกว้าง แรงการปะทะทำให้เรือถอยกลับไปหลายร้อยจั้ง


ซื้ด


มู่เฉินมองม่านแสงที่สั่นสะเทือนก็อัดอากาศเย็นเต็มปอด เนื่องจากเขารู้สึกได้ว่าเรือมังกรทองคำใต้ฝ่าเท้าสั่นไหวไปหมด เห็นได้ชัดว่าแม้จะใช้ป้ายมังกรทองคำก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีได้มาก ยิ่งกว่านั้นเมื่อไรที่เรือแตกการเดินทางในทะเลสาบสวรรค์ของมู่เฉินก็จะสิ้นสุดลง


การโจมตีของจิตทะเลสาบน่ากลัวมากจนสามารถเทียบเท่าจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มเลยทีเดียว!


ฟิ้ว!


ขณะที่มู่เฉินตกตะลึง จิตทะเลสาบที่ราวกับดวงดาวก็พุ่งโจมตีเข้ามาอีกครั้ง


“นรกล่ะ!”


เผชิญหน้ากับการจู่โจมของจิตทะเลสาบสวรรค์ กระทั่งมู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง ใบหน้าเขาขึงเกร็ง ขณะนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการได้รับพิธีชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ยากเข็ญเพียงใด


ซึ่งยากยิ่งกว่าถ้าเขาต้องการได้รับการชำระล้างสมบูรณ์แบบ จะทุกข์ทนยิ่งกว่าก้าวขึ้นสวรรค์ซะอีก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)