Elixir Supplier 647-648
647 หาเรื่องใส่ตัว
ให้พวกเขาเข้ามารักษาตามหมายเลขคิวน่าจะง่ายและมีประสิทธิภาพดี
แล้วเขาก็ลงมือทันทีที่ได้ความคิดนี้มา เขาหาไม้มาท่อนหนึ่ง แล้วจากนั้นก็ตัดให้มีขนาดพอๆกับกล่องไม้ขีดไฟ นำไปขัดเพื่อกำจัดเสี้ยน และใช้มีดแกะสลักตัวอักษรไว้ด้านหน้า พร้อมกับสลักตัวเลขเอาไว้ด้านหลัง
หวังเย้าทำออกมาทั้งหมด 20 อัน เขาสามารถรักษาคนไข้ได้ทีละคนเท่านั้น และพวกเขาก็สามารถใช้แผ่นป้ายนี้ในการต่อคิว
แผ่นไม้สามารถหยิบจับได้สะดวกมือ คนไข้หนึ่งคนถือแผ่นไม้ไว้หนึ่งแผ่น และเข้าพบหมอตามหมายเลขที่กำกับเอาไว้ และคนไข้ก็ดูเหมือนคุ้นเคยกับวิธีการนี้ได้อย่างรวดเร็ว
หลายวันที่ผ่านมา อากาศค่อนข้างเย็น อุณหภูมิสูงสุดแค่ 25 องศาเท่านั้น ทำให้รู้สึกเย็นสบายได้ตลอดทั้งวันและเหมาะที่จะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก
ชายสามคนขับรถคันหนึ่งเข้ามาในหมู่บ้าน พวกเขาดูมีอายุ 20 ต้นๆ ป้ายทะเบียนรถแสดงว่าพวกเขาเป็นคนต่างถิ่น
“ที่นี่ใช่รึเปล่า?” ชายหนุ่มคนหนึ่งถาม
“อืม น่าจะใช่นะ” ชายหนุ่มอีกคนพูด
“แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ?” ชายหนุ่มคนแรกถาม
“เนินเขาซีชานน่าจะอยู่ทางทิศตะวันตกนะ” ชายหนุ่มอีกคนพูด “เราลองถามคนแถวนี้ดีไหม เผื่อว่าเราจะหลงทางกัน?”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวคนก็รู้หมดว่าพวกเรามาทำไม” ชายหนุ่มคนที่สามพูด “ไป ลองไปดูกันก่อนเถอะ”
คนจำนวนมากมาที่หมู่บ้านเพื่อมารักษากับหวังเย้า ดังนั้น การมาถึงของทั้งสามจึงไม่ได้เป็นที่สะดุดตามากนัก ชายหนุ่มทั้งสามเดินไปตามถนนของหมู่บ้านและมุ่งไปยังเส้นทางขึ้นเขาเพื่อขึ้นไปบนเนินเขาซีชาน
“นี่ พวกเธอกำลังจะไปที่ไหนกันน่ะ?” ที่ตีนเขาซีชาน พวกเขาได้เจอเข้ากับชายชราที่กำลังต้อนแกะอยู่
“เอ่อ เรามาเดินเล่นแถวนี้เฉยๆน่ะครับ” หนึ่งในสามคนพูด
“อย่าขึ้นไปบนนั้นล่ะ มันอันตราย” ชายชราชี้ไปทางเนินเขาซีชาน
ชาวบ้านต่างก็รู้ว่าบนนั้นมีไวรัสที่อันตรายมากอยู่ ตอนนี้ จึงไม่มีใครขึ้นไปบนเนินเขาซีชานเลย แม้แต่ที่ดินทำเกษตรก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไป
“ได้ครับ เราไปก่อนนะครับ” ชายหนุ่มพูด
“เด็กพวกนี้จะมาเที่ยวเล่นในหมู่บ้านแบบนี้ให้ได้อะไรกัน?” ชายชราเดินจากไปพร้อมกับแกะของเขา
ชายหนุ่มทั้งสามรีบใช้โอกาสที่ชายชราเลิกให้ความสนใจมุ่งหน้าเข้าไปในป่า และเดินขึ้นไปบนเนินเขาซีชาน
“นี่ พวกนายคิดว่า สถานที่แห่งความตายจะเป็นแบบไหนเหรอ?” หนึ่งในสามคนถามขึ้นมา
“ก็ต้องลองไปดูกัน” ชายหนุ่มอีกคนพูด
บริเวณนี้เต็มไปด้วยต้นไม้มีหนาม เช่น ต้นเกาลัด หรือเป็นพืชผลทางการเกษตรที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้บนเขา พื้นที่แถบนี้มีความเขียวชอุ่มและให้ความรู้สึกเย็นสบาย
จิ๊บ! จิ๊บ! จิ๊บ! มีนกบินผ่านไปบนท้องฟ้า
“อยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย?” ชายหนุ่มคนหนึ่งถาม
ภูเขาดูไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย แต่เมื่อต้องค้นหาบางอย่างที่มีขนาดเล็กโดยที่ไม่มีสัญลักษณ์นำทางใดๆ มันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
“หืม ดูนั่นสิ ตรงนั้นมีปูนขาวกองอยู่เต็มเลย” หนึ่งในพวกเขาพูดขึ้นมา เขาสังเกตเห็นหินที่ถูกเจาะเป็นรูและถูกปกคลุมไปด้วยปูนขาว แล้วยังมีหลุมอยู่ในบริเวณนั้นด้วย “เข้าไปดูกันเถอะ”
ทั้งสามเดินไปยังจุดที่มีดอกแดนดิไลและหญ้าหางกระรอกขึ้นอยู่
“ไม่น่าจะเป็นที่นี่หรอก” ชายหนุ่มคนที่เห็นหลุมเป็นคนแรกพูดขึ้นมา “มันเล็กเกินไป แล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกตรงไหนเลย”
“งั้นเดินลงไปอีกหน่อยกันเถอะ” ชายหนุ่มคนที่สองพูด
มีร่องรอยการถูกสำรวจอยู่ภายในหลุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนเกิดจากฝีมือของหวังเย้าทั้งนั้น และในวันนั้น เขาก็ไม่ได้ถมดินกลับไปที่เดิม
“ทำไมถึงมีรูเยอะขนาดนี้ล่ะ?” ชายหนุ่มคนที่สามถาม
“มันอาจจะมีรูหนูอยู่ตรงนี้ก็ได้” ชายหนุ่มคนที่สองพูด
“สถานที่แห่งความตาย? ความตายแบบไหนกันล่ะเนี่ย?” ชายหนุ่มคนแรกไม่เข้าใจ
ชายหนุ่มทั้งสามเดินทางมาจากเว่ย พวกเขาเห็นข่าวออนไลน์เกี่ยวกับ “สถานที่แห่งความตาย” ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตเหลียนชาน เมืองห่ายชิว และได้สร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ ตอนนี้ ปัญหาทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว และสถานที่แห่งนี้ก็ได้ผนึกอันตรายบางอย่างเอาไว้
ชายหนุ่มที่ขี้สงสัยและเลือดร้อนเหล่านี้ จึงได้คุยกันและตัดสินใจเดินทางมาสำรวจสถานที่แห่งนี้ แต่แล้ว พวกเขาก็ต้องผิดหวัง
“เฮ้ย มันมีแค่นี่จริงเหรอเนี่ย?” ชายหนุ่มคนแรกพูด “เป็นไปไม่ได้น่า!”
“หรือข่าวที่ออกมาจะเป็นเรื่องโกหก?” ชายหนุ่มคนที่สองพูด
“ไม่น่าจะใช่นะ ฉันลองโทรถามเพื่อนที่อยู่เหลียนชานดูแล้ว เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแน่นอน” ชายหนุ่มคนที่สามพูด
“แล้วมันมีแค่นี่น่ะเหรอ?” ชายหนุ่มคนแรกพูด
โดยที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัว อยู่ๆก็มีสุนัขตัวหนึ่งโผล่ออกมาและจ้องมองพวกเขาที่ยืนอยู่บริเวณหลุม
“พระเจ้า!” ทั้งสามมีอาการตื่นกลัว “ไปเร็ว!”
สุนัขไม่ได้ไล่ตามไป มันเพียงแค่ยืนจับจ้องพวกเขาอยู่ที่เดิมเท่านั้น
“เชี่ย!” ชายหนุ่มคนแรกหยิบหินขึ้นมาจากพื้นและปาไปที่สุนัขตัวนั้น
“ไปกันเถอะ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย” ชายหนุ่มคนที่สองพูด
“ใช่ ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มคนที่สามพูด
ชายหนุ่มทั้งสามจากไปด้วยความผิดหวัง แต่แล้วอยู่ๆชายหนุ่มคนแรกก็ร้องขึ้นมา “โอ้ย!”
“เป็นอะไรไปน่ะ?” ชายหนุ่มคนที่สองถาม
“เปล่า ฉันรู้สึกเหมือนโดยอะไรต่อยเข้าน่ะ” ชายหนุ่มคนแรกพูด อยู่ๆเขาก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นที่บริเวณข้อเท้าของเขา คล้ายกับถูกเข็มทิ่มลงไป
“ถ้านายไม่เป็นไร เราก็ไปกันเถอะ มาคราวนี้เสียเวลาเปล่าจริงๆ” ชายหนุ่มคนที่สองพูด
“งั้นเราเดินดูแถวๆนี้ดีกันเถอะ เผื่อจะเจออะไรที่น่าสนใจเข้า” ชายหนุ่มคนที่สามพูด
ทั้งสามเดินลงจากเนินเขาซีชานและมุ่งหน้าไปทางใต้ ทั้งหมดที่พวกเขาเห็นก็มีเพียงเนินเขา, พืชไร่, และพืชพรรณต่างๆ ไม่มีอะไรน่าสนเลยสักอย่าง
โอ๊ย!
ชายหนุ่มคนแรกค่อยๆถูกทิ้งเอาไว้ด้านหลัง อยู่ๆเขาก็เกิดปวดศีรษะขึ้นมา เขารู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงหายไป หัวใจของเขาบีบรัดแน่น ทำให้ยากต่อการหายใจ
“ไม่ ฉันขอพักหน่อยนะ” เขาพูดกับเพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยกัน แต่น้ำเสียงของเขาฟังดูอ่อนแอมาก
เขาเจอหินก้อนหนึ่งที่ข้างทางและเดินเข้าไปนั่งพักตรงนั้น เขาหยิบเอาขวดน้ำออกมาและต้องการที่จะดื่มมัน แต่ภาพตรงหน้าของเขาก็ตัดไป ตุบ!
ไม่นาน ชายหนุ่มอีกสองคนก็พบว่าเพื่อนอีกคนไม่ได้อยู่กับพวกเขา พวกเขารีบเดินกลับไปเพื่อตามหาเขา และพบว่า เขานอนหมดสติอยู่ที่พื้น
“เป็นอะไรไปน่ะ?” พวกเขาต่างตกใจ และช่วยกันยกตัวเขาขึ้นมา หนึ่งในนั้นแบกเขาเอาไว้ที่หลัง พวกเขาโทรเรียกรถพยาบาล พร้อมกับวิ่งตรงไปที่หมู่บ้าน
พวกเขาวิ่งกันจนเหนื่อยหอบ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ชาวบ้านที่เป็นมิตรเข้าไปไถ่ถามพวกเขา
“อยู่ๆเพื่อนของเราก็หมดสติไปครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูด
“ในหมู่บ้านของเรามีคลินิกอยู่ที่หนึ่ง แล้วหมอก็เก่งมากด้วย เธอลองพาเพื่อนไปที่นั่นดูสิ” ชาวบ้านพูด
“ได้ครับ ขอบคุณมาก!” พวกเขารีบไปที่คลินิกทันที
มีรถจอดอยู่ด้านนอกหลายคัน คนไข้ที่อยู่ด้านใน บางคนก็ยืน ส่วนบางคนก็นั่งรอ ในขณะที่หวังเย้าก็กำลังฝังเข็มให้คนไข้ที่มีอาการขาชาและบางครั้งก็รู้สึกเหมือนไม่มีขาติดกับตัว หลังจากได้รับการฝังเข็มเสร็จแล้ว เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาในทันที
ปัง! ประตูถูกผลักอย่างแรง ชายหนุ่มสองคนวิ่งเข้ามาด้านใน “หมอ ได้โปรดช่วยเขาด้วย”
“รอเดี๋ยวนะครับ” หวังเย้าพูดกับคนไข้ที่กำลังรับการฝังเข็มอยู่
“ครับ ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า” คนไข้พูด
“วางเขาลง เกิดอะไรขึ้น?” หวังเย้าเข้าไปดูอาการของชายหนุ่มที่ไม่ได้สติ
“เมื่อกี้ เราขึ้นไปบนเนินเขาซีชานมา แล้วหลังจากนั้นไม่นาน พอเรากำลังจะลงมาเขาก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว” หนึ่งในพวกเขาพูด
“เนินเขาซีชาน? พวกนายไปที่นั่นกันทำไม?” หวังเย้าถาม
“เราสงสัย ก็เลยอยากเข้าไปดูสักครั้งน่ะ” ชายหนุ่มพูด
“แล้วพวกนายไปตรงไหน?” หวังเย้าถาม
“ตรงหลุมที่มีปูนขาวอยู่” ในตอนนี้ พวกเขาไม่คิดจะปิดบังอะไรทั้งนั้น และบอกทุกอย่างเท่าที่พวกเขารู้ออกไปจนหมด
หวังเย้ารู้ได้ในทันที ว่าคนไข้รายนี้จะต้องถูกแมลงหรือหนูที่มีพิษกัดอย่างแน่นอน
“แล้วตอนที่เราอยู่บนเขา เขาก็บอกว่า เขาถูกตัวอะไรกัดก็ไม่รู้ด้วย” ชายหนุ่มพูด
หวังเย้าเปิดดูขาของเขา เขาพบรอยแผลอยู่ที่ข้อเท้าซ้ายของเขา มันได้เปลี่ยนกลายเป็นสีเขียวเข้มแล้ว
“พิษรุนแรงมาก” เขาพูด “รอเดี๋ยวนะ”
หวังเย้าเดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง และเทยาแก้พิษที่ทำขึ้นมาจากสมุนไพรแก้พิษครึ่งใบใส่ลงไปในถ้วยใบหนึ่ง
“เอาเขานอนลง” หวังเย้าพูด
หวังเย้าจับดูชีพจรของเขา เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร ก่อนที่จะกลับไปรักษาคนไข้ของเขาต่อ
หลังจากผ่านไป 30 นาที ชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่ ก็ตื่นขึ้นมา
“ห่ายโป นายเป็นยังไงบ้าง?” เพื่อนของเขาถาม
“ฉันอยู่ที่ไหนเหรอ?” ชายหนุ่มถาม
“อยู่ในคลินิกที่หมู่บ้านนี้น่ะสิ” เพื่อนของเขาพูด “นายถูกพิษเข้าไปน่ะ”
“หมอ เพื่อของผมหายรึยังครับ?” เพื่อนอีกคนของเขาถาม
“มันไม่ร้ายแรงถึงชีวิตแล้วล่ะ แต่เธอก็ต้องพักรักษาตัวสักระยะจะดีที่สุด” หวังเย้าพูด “แล้วจะขึ้นไปบนเนินเขาซีชานกันทำไม?”
“เรารู้ว่า ที่นั่นมีอันตรายอยู่ เราก็เลยอยากจะไปดูน่ะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูด “แล้วค่ารักษาเท่าไหร่ครับ?”
“1,000 หยวน” หวังเย้าตอบ
“หา?!” ชายหนุ่มีอกสองคนตกใจ “นั่นมันแพงมากเลยนะ!”
“แพงงั้นเหรอ?” หวังเย้าถาม
“ไม่ ไม่แพงเลยครับ” ชายหนุ่มพูด “เราจะจ่ายๆ”
ชายหนุ่มสองคนจ่ายเงิน และจากไปพร้อมกับแบกเพื่อของพวกเขาไว้ที่หลัง
“นายคิดว่ายังไง? เขาเป็นพวกต้มตุ๋นรึเปล่า? ยาบ้าอะไรแพงขนาดนี้?” หนึ่งชายพวกเขาพูดขึ้นมา
“ขอแค่ห่ายโปไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว” ชายหนุ่มอีกคนพูด
“อืม แล้วฉันจะจ่ายคืนให้นะ” ชายหนุ่มที่ถูกพิษพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
วี้ว๊อ! วี้ว๊อ! วีว๊อ! รถพยาบาลเดินทางมาถึงในเวลานี้เอง
“คนป่วยอยู่ไหน?”
ชายหนุ่มไม่แน่ใจ “เราไปตรวจที่โรงพยาบาลสักหน่อยดีไหม?”
648 ยอดฝีมือ ฝีมือสูงส่ง
“ยังจำเป็นอยู่เหรอ?” ชายหนุ่มอีกคนถาม
“ไปตรวจดูเถอะ” เพื่อนของเขาพูด
สุดท้าย พวกเขาก็พาเพื่อนของพวกเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลเหลียนชาน ทางโรงพยาบาลได้แนะนำให้ชายหนุ่มนอนดูอาการก่อน แต่พวกเขาได้ปฏิเสธไป เพราะต้องการไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านของพวกเขามากกว่า
“ฉันบอกแล้ว ว่ามันไร้ประโยชน์” หนึ่งในชายหนุ่มพูดขึ้นมา
“ไปกันเถอะ” เพื่อนของเขาพูด “มาคราวนี้เสียเที่ยวจริงๆ!”
ในหมู่บ้าน หวังเย้ายังคงคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นถูกแมลงที่อยู่บนเนินเขาซีชานกัด แต่อาการของเขากลับต่างออกไป หรือมันจะเป็นแมลงคนละแบบกัน?
ราตรีเริ่มโรยตัวลงมา ทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยความมืด
…
เมืองเต๋า ชายสองคนซ่อนตัวอยู่ในความมืด
“พี่ ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกตินะ” หนึ่งในนั้นพูด
“ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็รับมือได้สบายอยู่แล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบน้ำเต้าออกมา “มาดูสมบัติของฉันสิ”
“อะไรเหรอ?” ชายหนุ่มคนแรกถาม
เขาดึงจุกที่อยู่บนน้ำเต้าออก ซูม! แมลงมีปีกนับไม่ถ้วนบินออกมา
ในวิลล่าที่อยู่ไม่ไกล อาจารย์กู่ยังคงเล่าเรื่องอยู่ “หุบเขาพันโอสถ…ถึงแม้ว่ามันจะมีคำว่า ‘โอสถ’อยู่ แต่พวกเขากลับมีชื่อเสียงในด้านแมลงพิษ ทักษะในการใช้พิษร้ายที่เหนือธรรมชาติและยากต่อการป้องกัน ทุกอย่างล้วนอยู่เหนือการคาดการณ์ของคนทั่วไป”
“อาจารย์สามารถจัดการกับมันได้ไหมครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม
“ฉันมีของที่เมื่อถูกเผาแล้ว มันก็จะสามารถใช้ต้านทานแมลงมีพิษได้ทุกชนิดอยู่” อาจารย์กู่พูด
ซูม! แมลงที่มีขนาดตัวพอๆกับยุงบินเข้ามาในบริเวณด้านนอกวิลล่า ตุบ! ตุบ! เหล่าชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ด้านนอก รวมถึงคนที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็พากันล้มหมดสติไป
“พวกมันมาแล้ว” ลุงหลินพูด
“คงต้องรบกวนอาจารย์แล้ว” ซุนเจิ้งหรงพูด
“ไม่มีปัญหา” อาจารย์กู่พูด
“ไปกันเถอะ” ซุนเจิ้งหรงพูด
ในความมืด ชายสองคนกระโดดเข้ามาในบริเวณวิลล่า
“วิลล่าใหญ่จังเลยนะ” หนึ่งในพวกเขาทอดถอนใจ
พวกเขาใช่เวลาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหุบเขา ถึงแม้ว่า มันจะเป็นอาคารสองชั้นที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไม้ไผ่ มันก็เทียบกับวิลล่าสุดหรูแบบนี้ไม่ได้อยู่ดี
“ความจริง บางครั้งฉันก็รู้สึกอิจฉาคนพวกนี้นะ” ชายคนนั้นพูดกลั้วหัวเราะ
“พี่ระวังตัวด้วย เขามันเป็นพวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์” ชายอีกคนพูด
“อืม ฉันรู้” ชายคนแรกพูด แอ๊ด! ประตูถูกเปิด “ไป”
ซูม! แมลงมีปีกเพิ่มจำนวนขึ้น หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน แมลงเหล่านั้นก็เริ่มบินอย่างไร้ทิศทาง
“โอ้ ธูปไล่แมลงสินะ” ชายคนแรกพูดขึ้นมา เมื่อเขาได้กลิ่นที่ผิดปกติภายในห้อง “ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะได้มันมา บางทีเขาอาจจะรู้จักกับอาจารย์ที่มีฝีมือสักคนก็ได้นะ”
“อาจารย์ที่มีฝีมือเหรอ? จะมีความสามารถสักแค่ไหนกัน?” ชายอีกคนพูด “เราแยกกันลงมือดีไหม?”
“ไม่ เราควรลงมือด้วยกัน เวลาเกิดปัญหาอะไร เราก็จะสามารถช่วยเหลือกันได้” ชายคนแรกพูด “มีคนมา!”
ฟึบ! มีบางอย่างถูกจุดขึ้นในความมืด มันเป็นแสงสว่างวาบ
“ระเบิดแสง!” เพราะแสงที่สว่างจ้า ทำให้ทั้งสองไม่สามารถลืมตาได้
ฟุบ ฟุบ! มันเป็นเสียงของกระสุนดังลอดผ่านที่เก็บเสียง ชายทั้งสองถอยหลังพร้อมกับป้องกันศีรษะของตัวเองเอาไว้ พวกเขาถูกยิงด้วยลูกกระสุน
พวกเขาถอยออกไปจากห้องอย่างไม่ลังแล และหมุนตัวเพื่อจะหนีออกไป
มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “คิดจะหนีอย่างงั้นเหรอ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”
ซุนเจิ้งหรงเตรียมการมาอย่างยาวนาน และเตรีนมทุกอย่างให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้ได้
ในเมืองเต๋า เขาไม่ใช่แค่ชายที่ร่ำรวยที่สุดเท่านั้น แต่เขายังสามารถได้ของหลายๆอย่างมาและจัดการหลายๆเรื่องได้ แม้ว่ามันอาจจะผิดกฎหมายหรืออยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวดก็ตามที
แหขนาดใหญ่ร่วงลงมาและปกคลุมตัวชายทั้งสอง กระสุนถูกยิงออกมาจากทุกทิศทางอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีหน้าไม้ยิงออกมาด้วยเช่นกัน อาวุธแทบทุกชนิดถูกนำออกมาใช้ เหลือก็แต่ระเบิดมือเท่านั้น ซุนเจิ้งหรงมีมันอยู่ แต่เขาก็ไม่คิดจะเอามันออกมาใช้ นอกจากว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริงๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมการมาอย่างดีแล้ว แต่การจับพวกเขาเอาไว้ในแห่ก็ยังคงมีเรื่องเหนือความคาดหมายของเขาอยู่ดี ทั้งสองสามารถหลุดรอดจากแห่ที่เขาเตรียมเอาไว้ได้
เปรี๊ยะ! มีกระกายไฟสีฟ้าลั่นเปรี๊ยะ มันคือปืนไฟฟ้ากำลังสูง
“พี่ไปก่อนเลย” หนึ่งในพวกเขาพูด
บูม! อยู่ๆก็มีแสงสีเขียวส่องวาบพร้อมกับรสชาติพิศดารกระจายอยู่ในความมืด
“กลั้นลมหายใจเอาไว้ อย่าหายใจ มันเป็นควันพิษ!” มีคนตะโกนขึ้นมา
ผู้บุกรุกทั้งสองหนีออกไปด้านนอก
“กู่ชุนฉือ!” หนึ่งในชายสองคนตะโกนขึ้นมา เขารู้จักชายที่ให้ความช่วยเหลือซุนเจิ้งหรงอยู่ “รนหาที่ตาย!”
“เมี่ยวชิงเฟิง แกกล้าดียังไงถึงออกมาจากหมู่บ้าน!” อาจารย์กู่พูด
“เฮ้ย ซุนเจิ้งหรง อย่าคิดว่าแกมีมันช่วยแล้วจะปลอดภัยล่ะ แล้วเราจะกลับมาใหม่” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
ชายทั้งสองหายไปในความมืด
หลังจากนั้นไม่นาน รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคันก็ขับกระจายออกไปพร้อมกับเปิดเสียงไซเรนดังลั่น พวกเขาทำการค้นหาไปทั่วเมืองเต๋า รวมไปถึงคนต่างชาติและรถที่ขับข้ามเขตแดนด้วย
“อาจารย์รู้จักเขาด้วยเหรอครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม
“มันยิ่งกว่ารู้จักซะอีก” กู่ชุนฉือพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เขามีชื่อว่า เมี่ยวชิงเฟิง เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของหุบเขาพันโอสถ เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาออกมาจากหมู่บ้าน เขาได้ฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก ตอนนั้น ฉันก็ได้ประมือกับเขาด้วย”
คำพูดฟังดูธรรมดาสามัญ แต่ซุนเจิ้งหรงรู้สึกได้ว่า คำพูดของเขาที่บอกเล่าว่ามีการต่อสู้นั้น ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พูดเลย เงื่อนผูกรัดแน่นขึ้น “อาจารย์เป็นกังฟูไหมครับ?”
“ไม่” กู่ชุนฉือขมวดคิ้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญเรื่องยา และเข้าใจในเรื่องของการแก้พิษและกำจัดแมลงพิษ แต่เขาก็ไม่ได้เก่งเรื่อง และทำให้เขาต้องกลายเป็นภาระ จนทำให้เพื่อนสองคนที่ปกป้องเขาต้องตายไป และคนที่ฆ่าพวกเขาก็คือ เมี่ยวชิงเฟิง คนนี้นี่เอง
กู่ชุนฉือต้องการมอบความตายให้กับชายคนนี้มานานแล้ว หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้นขึ้น เขาก็เดินทางไปที่หุบเขาพันโอสถและคอยสังเกตการณ์อยู่ในที่ไกลๆ เขายังไปสอบถามเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นด้วย ถึงแม้ว่าภายนอกมันจะดูธรรมดา แต่สิ่งที่เขาได้ยินมากลับเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกอย่างมาก เคยมียอดฝีมือพยายามเข้าไปท้าทายพวกเขา แต่แล้ว คนเหล่านั้นก็สิ้นลมโดยที่ยังไม่ทันได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
“ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว เราจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปไม่ได้เด็ดขาด” กู่ชุนฉือพูด “ถ้าเขากลับไปที่หมู่บ้าน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการกับเขา”
“ครับ” ซุนเจิ้งหรงพยักหน้า ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้ามีเรื่องกับเขา จะไม่มีทางอยู่ดีมีสุขอย่างเด็ดขาด “เพิ่มรางวัลให้พวกใต้ดินอีกเท่าหนึ่ง”
นั่นก็หมายความว่า รางวัลได้เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านหยวน มันมากพอที่จะทำให้ใครหลายๆคนสามารถมีชีวิตที่ดีได้เลย 99% ของประชากรในประเทศนี้ไม่สามารถหาเงินจำนวนนี้ได้ในตลอดทั้งชีวิตของพวกเขา
เมื่อข่าวกระจายออกไป กองกำลังใต้ดินของเมืองเต๋าก็เกิดบ้าคลั่งขึ้น มันได้กลายเป็นพายุรุนแรงอย่างรวดเร็ว
“ประธานซุน ช่วงนี้ เมืองเต๋าไม่ค่อยจะสงบสักเท่าไหร่เลยนะ” อธิบดีซวีพูด
“ครับ มีการลอบสังหารผมถึงสองครั้งแล้ว” ซุนเจิ้งหรงพูด “ผมสงสัยว่า ท่านพอจะมีความคิดดีดีบ้างไหมครับ”
อธิบดีไม่ได้พูดอะไร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น